The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ รู้คิด รู้ทำ สร้างสรรค์งานศิลป์กระถินและอินทนิลสู่พื้นฐานอาชีพ” ชุดที่ ๑๒ เรื่อง ช่อบูเก้สวยด้วยดอกไม้จากฝักกระถิน อินทนิลแห้ง และ ก้านกระถิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ โรงเรียนนารีนุกูล จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อในการประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ “รู้คิด รู้ทำ สร้างสรรค์งานศิลป์กระถินอินและนิลสู่พื้นฐานอาชีพ” เรื่อง ช่อบูเก้สวยด้วยดอกไม้จากฝักกระถิน อินทนิลแห้ง และจากก้านกระถิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ เป็นการให้ความสำคัญกับการ ประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษวัสดุธรรมชาติ และเพิ่มมูลค่าของเศษวัสดุ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยการนำฝักกระถินแห้ง อินทนิลแห้ง และก้านกระถิน มาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ นำมาจัดช่อบูเก้ เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ และสร้างงาน สร้างอาชีพต่อไปในอนาคต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by penvadee khasuwan, 2022-04-07 06:18:58

ชุดที่ ๑๒ เรื่อง ช่อบูเก้สวยด้วยดอกไม้จากฝักกระถิน อินทนิลแห้ง และก้านกระถิน

เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ รู้คิด รู้ทำ สร้างสรรค์งานศิลป์กระถินและอินทนิลสู่พื้นฐานอาชีพ” ชุดที่ ๑๒ เรื่อง ช่อบูเก้สวยด้วยดอกไม้จากฝักกระถิน อินทนิลแห้ง และ ก้านกระถิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ โรงเรียนนารีนุกูล จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อในการประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ “รู้คิด รู้ทำ สร้างสรรค์งานศิลป์กระถินอินและนิลสู่พื้นฐานอาชีพ” เรื่อง ช่อบูเก้สวยด้วยดอกไม้จากฝักกระถิน อินทนิลแห้ง และจากก้านกระถิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ เป็นการให้ความสำคัญกับการ ประดิษฐ์ดอกไม้จากเศษวัสดุธรรมชาติ และเพิ่มมูลค่าของเศษวัสดุ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยการนำฝักกระถินแห้ง อินทนิลแห้ง และก้านกระถิน มาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ นำมาจัดช่อบูเก้ เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ และสร้างงาน สร้างอาชีพต่อไปในอนาคต

Keywords: ช่อบูเก้สวยด้วยดอกไม้จากฝักกระถิน อินทนิลแห้ง และก้านกระถิน

๕๐ ๔๗

๖.๓ ขนั้ ตอนกำรพับรบิ บ้ินตกแตง่ ช่อบูเก้ดอกไม้จำกกำ้ นกระถิน

๑. ตดั รบิ บิน้ สีแดง ความกว้าง ๒ เซนตเิ มตร และตดั
รบิ บนิ้ สีเขียวความกวา้ ง ๑ เซนตเิ มตร ความยาว
ขนาด 200 เซนติเมตร ท้งั ๒ เส้น
2. นารบิ บน้ิ แต่ละสมี าพับแบ่งครงึ่ ดงั รูป

๓. ม้วนรบิ บนิ้ บริเวณรอบพบั ครึ่งให้มลี กั ษณะเป็นวง
โดยมเี ส้นรอบวงประมาณ ๑๔ เซนตเิ มตร ดงั รูป

๔. มดั ริบบิน้ ด้วยดา้ ยใหแ้ นน่ ดังรปู

๕. ทาวงท่ี ๒ โดยการม้วนรบิ บน้ิ ให้มีลักษณะเปน็ วง
โดยมเี สน้ รอบวงประมาณ ๑๔ เซนติเมตร ดังรูป

๖. มัดริบบ้ินด้วยดา้ ยใหแ้ นน่ ดังรปู

๔๘ ๕๑

๗. จัดทาลักษณะเดียวกนั จนครบ ๕ วง ดงั รูป

๘. นาริบบิ้นอีกด้านท่ีเหลือ ม้วนให้มีลักษณะเปน็ วง
โดยมีเสน้ รอบวงประมาณ ๑๔ เซนติเมตร ดังรูป

๙. จัดทาลกั ษณะเดียวกนั จนครบ ๕ วง สว่ นอกี ขา้ ง
หนึ่งทาเช่นเดยี วกันอีก ๕ วง แลว้ ใชด้ ้ายมดั ใหแ้ นน่
ดังรปู

๑๐. ตดั ลวดสที องความยาว ๕๐ เซนตเิ มตร
พนั ทบั บริเวณตรงกึ่งกลาง ๒ - ๓ รอบ ดงั รูป

๑๑. ตดั รบิ บิ้น ๒ เส้น ความยาวเส้นละ
๑๐ เซนติเมตร ซ้อนทบั กนั ดังรปู

๕๒ ๔๙

๑๒. มว้ นรบิ บนิ้ ใหม้ ลี ักษณะเปน็ วงกลม ดงั รปู

๑๓. นาริบบนิ้ ท่ีม้วนเป็นวงกลมมาวางทบั บริเวณ
ลวดสที อง ดงั รปู

๑๔. สอดปลายลวดสที องที่เหลอื พนั ทบั
๒ – ๓ รอบ ดงั รูป
๑๕. พลิกกลบั ดา้ นหลังบดิ ลวดสีให้แน่น เหลือ
ชายลวดไวม้ ดั กับช่อบเู ก้ ดงั รูป

๑๖. ไดโ้ บจากริบบิน้ สาเร็จ ดงั รูป

๕๐ ๕๓

ใบควำมรู้ ๗
เรื่อง กำรประดษิ ฐ์ชอ่ บเู กส้ วยดอกไม้จำกก้ำนกระถิน

๗.๑ ลำดับข้นั ตอนกำรจัดช่อบเู ก้ดอกไมจ้ ำกกำ้ นกระถิน

๑. นาดอกไม้แถวที่ ๑ จานวน ๑ ดอก
ปักลงกงึ่ กลางโฟม เสยี บกา้ นดอกเข้าไปใน
เนอ้ื โฟม ประมาณ ๒.๕ เซนตเิ มตร ดงั รูป

๒. ปักดอกไมแ้ ถวที่ ๒ จานวน ๔ ดอก
ปกั ลดหลนั่ จากแถวท่ี ๑ (ดอกท่ี ๑)
ลงมาเลก็ นอ้ ย ดังรปู

๓. ปกั ดอกไม้แถวท่ี ๓ จานวน ๖ ดอก
ปกั ลดหล่ัน สับหวา่ งและเล่ยี งหว่าง จากแถว
ที่ ๒ กะระยะช่องไฟ หา่ งเท่า ๆ กัน
ดงั รปู

๕๔ ๕๑
๔. ปักดอกไม้แถวที่ ๔ จานวน ๗ ดอก
ปักลดหลั่น สับหวา่ งและเลย่ี งหวา่ ง
จากแถวท่ี ๓ กะระยะช่องไฟ หา่ งเท่า ๆ กนั
ดงั รูป

๕. ปกั ดอกไม้ ครบ ๔ แถว จานวน ๑๘ ดอก
จะได้ดอกไม้ที่จดั มีลักษณะ ดังรปู

๖. ปักดอกแซมโดยนาดอกหญา้ แหง้ มาปัก
แซม ดงั รูป

๗.๒ ลำดับขั้นตอนกำรห่อช่อบเู ก้ดอกไมจ้ ำกกำ้ นกระถนิ

๑. นาจบี พัดกระดาษใยไหม ทท่ี าเตรียมไว้
มาตกแต่งยดึ ติดกับแกนโฟม โดยใชเ้ ทปใส
พนั ทับให้แน่น นาจีบพดั กระดาษใยไหม
ชน้ิ ที่ ๒ ,ชิน้ ที่ ๓ และชน้ิ ท่ี ๔ วางทบั
ที่แกนโฟมกะช่องว่างหา่ งเท่า ๆ พันทับ
ดว้ ยเทปใสยึดติดให้แน่น ดังรูป

๕๒ ๕๕

๒. นาใยปา่ นรามี ที่ตัดเตรียมไว้มาพับครึง่
แล้ววางทาบบนแกนโฟม พับทับด้วยเทปใส
ใหแ้ นน่ แผ่นใยป่านรามชี นิ้ ท่ี ๒ , ชน้ิ ที่ ๓
และชน้ิ ที่ ๔ พบั ทบคร่งึ แลว้ วางทาบบน
แกนโฟม กะช่องวา่ งแตล่ ะแผ่น เท่า ๆ กนั
พนั ทับดว้ ยเทปใสใหแ้ น่น ดงั รูป

๓. นากระดาษสาท่ีพับจีบ และต่อกา้ น
ดว้ ยไมแ้ ข็ง ปักลงบนแกนโฟมระหว่างแผ่น
ใยป่านรามี ปักท้ัง ๔ มุม จนครบ จานวน
๔ ช้ิน ดงั รปู

๔.นาแผ่นกระดาษสาท่ตี ัดเตรียมไว้
ขนาด ๒๘ x ๓๕ เซนตเิ มตร มาหอ่ แกนโฟมที่
จบั ชอ่ บูเก้ นาเทปใสมาพนั ทับยดึ ตดิ กับแกน
โฟมใหแ้ นน่ ดังรปู

๕.พบั เก็บชายกระดาษสาห่อแกนโฟม
ท่จี บั ชอ่ บเู ก้ใหเ้ รียบรอ้ ย ดงั รูป

๕๖ ๕๓

๖. นาผ้ารามี่หิมะ ทีต่ ดั เตรยี มไว้
ขนาด ๓๐ x ๕๐ เซนติเมตร มาหอ่ ทบั
กระดาษสาทีห่ อ่ แกนโฟม นาเทปใสมา
พันทบั ให้แนน่ และพบั เก็บชายผ้ารามี่หิมะ
ใหเ้ รยี บร้อย ดงั รูป

๗. นาโบที่ทาจัดเตรยี มไวแ้ ลว้ มาตกแตง่ ผูกตดิ
กับแกนโฟมท่ีจบั ชอ่ บูเก้ ดงั รูป

๘. จะได้ช่อบูเกส้ วยดว้ ยดอกไม้จากก้าน
กระถนิ ดังรูป

๕๔ ๕๗

ข้อเสนอแนะกำรประดิษฐ์ช่อบูเก้สวยดอกไม้จำกกำ้ นกระถนิ

๑. สามารถเลือกสยี ้อมกลีบดอกไม้ เป็นสีอ่นื ไดต้ ามต้องการ (สยี ้อมกกจะติดเน้อื ไม้ได้ดีและทน)
๒. สามารถเลือกใช้สผี สมอาหารชนิดที่เป็นซอง ก็ได้ตามต้องการ
๓. ริว้ ไมก้ ระถินท่ีเหลาเสรจ็ แล้วนามาขดเป็นกลีบดอกไม้ ย้อมสีและนามาประกอบดอก สามารถนา
ไปตกแตง่ ดว้ ยกากเพชรตรงขอบกลีบดอก หรอื นาลกู ปัดทากาวใส่ในใจกลางกลบี ดอกไม้ กไ็ ดต้ ามความคิด
สร้างสรรค์ของแต่ละคน
๔. การจดั ตกแตง่ ชอ่ บูเกเ้ ลอื กใช้กระดาษสาทีม่ สี ี และลวดลาย ตา่ ง ๆ ได้ตามตอ้ งการ ทั้งน้ีการเลือกใช้
สกี ระดาษสาจะต้อง เป็นตัวเสรมิ ให้ชอ่ ดอกไม้โดดเดน่ ข้ึนมา
๕. ใยป่านรามี จะเลือกลวดลาย และเลือกใชส้ ี ไดต้ ามความตอ้ งการ
๖. เครื่องตกแต่งประกอบช่อบเู ก้ จะเลือกการพับจบี พดั หรือประดิษฐ์ขึน้ ใหม่มีหลายรูปแบบ
ตามจนิ ตนาการของผู้ประดิษฐ์
๗. ลวดสีทีใ่ ชผ้ กู มดั ช่อบเู ก้ สามารถเลอื กสี หรือจะเลือกใช้เส้นใยจากธรรมแทนกไ็ ด้ตามความตอ้ งการ
๘. รูปแบบการพับโบในเอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ เปน็ เพียงตัวอยา่ งการพับโบ เพือ่ เป็น
แนวทางในการออกแบบสงิ่ ตกแต่งประกอบชอ่ บูเก้ ผู้ประดิษฐ์สามารถเลอื กวธิ ีการพับโบ รปู แบบตา่ ง ๆ
ไดต้ ามความต้องการ โดยศึกษาจากแหล่งเรยี นรู้ในอินเตอร์เนต็ เช่น รปู แบบโบและวธิ ีการพบั จากเวป็ ไซด์
https://th.wikihow.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A7
%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%
9A%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99 วิธกี ารพับโบจากยูทปู
https://youtu.be/0jKEEw64e6U

๕๘ ๕๕

แบบทดสอบหลงั เรียน
เร่ือง ชอ่ บเู ก้สวยด้วยดอกไมจ้ ำกฝักกระถนิ อินทนลิ แหง้

คาชี้แจง ๑. ให้นกั เรียนเลือกคาตอบทถ่ี ูกท่ีสดุ เพยี งคาตอบเดียวและกาเคร่ืองหมายกากบาท (X)
ลงในกระดาษคาตอบ

๒. ขอ้ สอบมีจานวน ๑๐ ข้อ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เวลา ๑๐ นาที
๓. เมื่อทาแบบทดสอบเสร็จแลว้ ให้ส่งกระดาษคาถามพร้อมกระดาษคาตอบคืนเพื่อบนั ทึก

คะแนน

๑. อุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นการประดษิ ฐช์ ่อบเู กข้ ้อใดถูกต้อง
ก. กรรไกร เครื่องตัดเทปใส คมี ตัดลวด
ข. ลวดเบอร์ ๑๘ กรรไกร คีมตดั ลวด
ค. กระดาษสา กรรไกร เคร่ืองตดั เทปใส รบิ บิ้น
ง. กรรไกร เคร่ืองตัดเทปใส คมี ตดั ลวด ปนื กาว ไมบ้ รรทดั

๒. จานวนกลีบตามข้อใดทน่ี ามาใชก้ ารประกอบดอกบาน
ก. ขนาดเล็ก ๓ กลบี ขนาดกลาง ๔ กลบี ขนาดใหญ่ ๕ กลบี
ข. ขนาดเล็ก ๔ กลีบ ขนาดกลาง ๕ กลีบ ขนาดใหญ่ ๖ กลบี
ค. ขนาดเล็ก ๕ กลบี ขนาดกลาง ๖ กลีบ ขนาดใหญ่ ๗ กลีบ
ง. ขนาดเล็ก ๖ กลีบ ขนาดกลาง ๗ กลบี ขนาดใหญ่ ๘ กลบี

๓. การประดิษฐ์ช่อบเู ก้สวยดว้ ยดอกไมจ้ ากฝกั กระถิน อนิ ทนิลแหง้ จะเลือกใช้เศษวสั ดุธรรมชาติ
ตามขอ้ ใดมาตกแตง่ จึงจะเหมาะสมทสี่ ุด
ก. ลกู อินทนิลแหง้ ฝักกระถินแหง้ ริบบ้นิ
ข. ฝักกระถนิ แหง้ ลกู อินทนลิ แห้ง
ค. ฝักกระถินแห้ง ลูกอนิ ทนิลแห้ง กระดาษสา
ง. ฝักกระถินแหง้ ลูกอนิ ทนลิ แหง้ ใบมะม่วงแห้ง

๔. ลวดกา้ นชอ่ ดอกควรเลือกขนาดตามขอ้ ใดถูกต้องที่สดุ
ก. เบอร์ ๑๔ ยาว ๒๕ เซนตเิ มตร
ข. เบอร์ ๑๖ ยาว ๒๐ เซนติเมตร
ค. เบอร์ ๑๘ ยาว ๒๕ เซนติเมตร
ง. เบอร์ ๒๐ ยาว ๒๐ เซนติเมตร

๕๖ ๕๙

๕. เทคนิคการประกอบช่อดอกข้อใดถูกต้องทสี่ ุด
ก. เสริมกา้ นดอกด้วยใบเสรมิ กา้ นและเส้นลวด เบอร์ ๓๐
ข. ใบจะเลอื กใช้ใบไม้แหง้ หรือใบไม้จากผ้าตามต้องการ
ค. การวางดอกตูม ดอกแย้ม และดอกบาน แต่ละช้ันให้เรยี งสบั หว่างเลยี่ งหว่างตามลาดบั
ง. การพนั ดว้ ยฟลอรา่ เทปจะตอ้ งพนั ในลกั ษณะแนวเฉยี งและในขณะพันให้ดึงยืดฟลอรา่ เทป
ใชน้ วิ้ หัวแมม่ ือและนวิ้ ชีก้ ดทับเพ่ือให้ก้านดอกมคี วามเรียบในระดับเดียวกนั

นำขอ้ ควำมทก่ี ำหนดให้ต่อไปนี้ตอบคำถำมในข้อท่ี ๖
๑. เตรียมลกู อนิ ทนลิ แห้งขนาดกลางมีก้านขั้วเป็นเกสรดอก
๒. นากลีบดอกขนาดเลก็ มาประกอบกบั เกสรดอกให้ครบตามจานวน
๓. จดั เรียงกลีบจดั ชอ่ งวา่ งของแต่ละกลีบใหม้ ีขนาดเทา่ ๆ กัน
๔. นากลบี ขนาดกลางติดกับเกสรดอกใหบ้ านออก ๒ มิลลิเมตร
๕. จัดความสูงของกลีบดอกให้เท่ากับกลีบขนาดเลก็ จัดช่องวา่ งของแตล่ ะกลีบให้มี

ขนาดเท่าๆ กันจนครบตามจานวน
๖. นากลีบขนาดใหญต่ ดิ กับเกสรดอกใหบ้ านออก ๒ มลิ ลิเมตร จัดความสูงให้เทา่ ๆ

กันเรียงกลีบดอกจนครบจานวน
๖. จากข้อความท่ีกาหนดใหข้ ้อใดเรียงลาดับขนั้ ตอนการประดิษฐ์ดอกบานไดถ้ กู ต้อง

ก. ๑ - ๒ - ๔ – ๓ - ๖ - ๕
ข. ๑ - ๒ - ๔ - ๓ - ๕ - ๖
ค. ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ - ๖
ง. ๑ - ๓ - ๕ - ๒ - ๔ - ๖
๗. ขอ้ ใดเปน็ ข้ันตอนสุดทา้ ยในการประดิษฐ์ดอกไมจ้ ากฝกั กระถนิ แห้ง
ก. พันทับดว้ ยฟลอร่าเทปสีนา้ ตาล
ข. นาดอกไม้ท่ีประดษิ ฐ์สาเรจ็ แลว้ มาเสริมก้านดอกกบั เส้นลวดเบอร์ ๑๘
ค. นาดอกตมู ดอกแยม้ และดอกบานท่ปี ระดิษฐ์สาเรจ็ มาเสริมกา้ นดอกด้วยกระดาษทชิ ชู

ตามความยาวของก้านดอก
ง. นาดอกตูม ดอกแย้ม และดอกบานทป่ี ระดิษฐ์สาเรจ็ มาเสรมิ กา้ นดอกโดยจดั ทา

ตามลาดับข้นั ตอนใหไ้ ด้จานวนดอกตามตอ้ งการ

๖๐ ๕๗

๘. ข้อใดคือสว่ นประกอบของช่อบเู ก้แบบช่อกลม
ก. ดอกแยม้ ดอกบาน ใยปา่ นรามี รบิ บนิ้
ข. ดอกตมู ดอกแย้ม กระดาษสาสีธรรมชาติ รบิ บ้ิน
ค. ดอกตูม ดอกแย้ม กระดาษสาสธี รรมชาติ ก้านดอก ริบบิ้น
ง. ดอกตมู ดอกแยม้ ดอกบาน ใยป่านรามี กระดาษสาสธี รรมชาติ รบิ บน้ิ

๙. ลกั ษณะของดอกบานข้อใดถกู ตอ้ ง
ก. กลีบดอกแต่ละชนั้ จะมีขนาดเทา่ ๆกันเรียงสบั หว่าง บานออก ๒ มลิ ลิเมตร
ข. กลบี ดอกแตล่ ะชน้ั จะมคี วามสูงลดหล่นั กนั ไปบานออก ๒ มิลลเิ มตร
ค. การจดั กลีบจะต้องเรียงกลีบไม่จัดสับหว่างบานออก ๒ มลิ ลเิ มตร
ง. เรียงกลีบจดั ชอ่ งวา่ งเทา่ ๆ กัน กลีบแตล่ ะชน้ั เรียงสบั หวา่ งความสูงของกลบี แต่ละชัน้ เสมอกัน
บานออก ๒ มลิ ลเิ มตร
จงพิจำรณำข้อควำมตอ่ ไปนีแ้ ล้วตอบคำถำมในขอ้ ที่ ๑๐
๑. ใยป่านรามีมาตัดเป็นส่ีเหลย่ี มผนื ผา้ ขนาด ๑๐× ๒๐ เซนติเมตร จานวน ๗ ชิน้
๒. นาแตล่ ะชิน้ มาจบั จีบตรงจดุ ก่ึงกลางตรึงด้วยเทปใสใหป้ ลายบานออกไปทาไปจนหมดทุกชิ้น
๓. นาดอกไม้ มาจัดรวมเข้าดว้ ยกันทลี ะดอกโดยเร่มิ จากดอกตูมอย่ดู า้ นบนสุด
ลดหลน่ั ลงมาเปน็ ดอกแย้มและดอกบานตามลาดบั
๔. จัดวางดอกไม้ในจงั หวะท่ีเหมาะสมโดยให้ก้านบิดไปในทางเดียวกนั เมอ่ื ใส่ดอกไม้จนหมดแลว้
ใหต้ รวจดูรูปทรงด้านบนวา่ สวยงามและกลม
๕. มัดดว้ ยลวดเบอร์ ๒๔ หรอื พนั ดว้ ยเทปใส
๖. ตกแตง่ ด้วยวัสดปุ า่ นรามีทจ่ี ดั เตรยี มไว้แลว้ พันทับดว้ ยเทปใสให้แน่น
๗. จดั ตกแตง่ ห่อท่ีจบั ด้วยกระดาษสา เสน้ ใยป่านรามี ให้สวยงามตามต้องการ
๘. จัดตกแตง่ ด้วยใยป่านศรนารายณห์ รือผกู โบใหส้ วยงามตามต้องการ

๑๐. จากขอ้ ความทก่ี าหนดให้ข้อใดเรยี งลาดับ ขน้ั ตอนการจัดช่อบูเก้ได้ถูกต้องท่สี ุด
ก. ๒ – ๑ – ๔ – ๓ - ๕ - ๖ - ๗ - ๘
ข. ๑ - ๒ – ๓ – ๔ - ๕ - ๖ - ๗ - ๘
ค. ๒ – ๓ – ๑ – ๔ – ๕ - ๖ - ๗ - ๘
ง. ๒ – ๑ – ๓ – ๔ – ๕ - ๖ - ๗ - ๘

๕๘ ๖๑

บรรณำนุกรม

เตือนใจ ชูสาฤทธ.ิ์ ดอกไมป้ ระดิษฐ์. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั ไทยวฒั นาพานชิ จากดั , ๒๕๔๘.
ปราณชนก แดงเปา้ . กำรจัดดอกไม้. พิมพ์ครง้ั ที่ ๒. กรงุ เทพฯ: โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๕.
เพ็ญทิพย์ นาคสุวรรณ.์ ฝมี ือและอำชีพ. กรุงเทพฯ: บริษทั อินเตอร์ลิ้งค์โปรซายน์ จากดั , มปป.
ภาสุรี ฮามวงศ.์ งำนประดิษฐจ์ ำกเศษวสั ดธุ รรมชำติ. กรุงเทพมหานคร: แอ๊ปป้า พริน้ ต้ิง กร๊ปุ จากดั ,

๒๕๕๒.
เยน็ จติ ร วงษาลงั การ. ศลิ ปะกำรจัดดอกไม้เบือ้ งตน้ . กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๕.
ลาวลั ย์ ภกั ดีลขิ ติ . ไอเดียใสจำกใบบำง. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๕.
วนิ ัย ตาระเวช. กำรจดั ดอกไม.้ กรุงเทพฯ: จูน พบั ลิชชง่ิ จากดั , ๒๕๔๙.
อมรรตั น์ เจรญิ ชยั . หนงั สอื เรียนสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี งำนประดิษฐ์

กลุ่มสำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔-๖ พิมพค์ รั้งท่ี ๒.
กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์วฒั นาพานชิ , ๒๕๕๒.
กำรออกแบบกำรจดั ดอกไม้ – ทฤษฎขี องสี (ออนไลน์). ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ (อา้ งเมื่อวันที่ ๒๗
มนี าคม ๒๕๖๒). จาก http://myhanabana.blogspot.com/2015/05/floral-designs-
color-theory.html
Color Theory 101 (online). 11 October 2012 (cited 27 March 2019). Available form:
sitepoint.com/color-theory-101-2/
จัดช่อดอกไมว้ ำเลนไทน์ แบบอำร์ตๆ ตำมทฤษฎีสี (ออนไลน)์ . (อ้างเมื่อวันท่ี ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒).
จาก: https://www.fruitnflora.com/valentine-bouquet-color

๖๒ ๕๙

ภาคผนวก

๖๐ ๖๓

กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน/ หลงั เรียน
วชิ ำ งำนประดษิ ฐจ์ ำกเศษวัสดุธรรมชำติ

ชดุ ที่ ๑๒ เร่ือง ช่อบเู ก้สวยด้วยดอกไม้จำกฝักกระถนิ อินทนลิ แหง้
กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชพี นักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ ๔

ชอื่ ............................................................................ช้นั .......................เลขท.่ี ...................
โรงเรียน..........................................อาเภอ.........................จงั หวัด.....................................

กระดำษคำตอบก่อนเรยี น กระดำษคำตอบหลงั เรียน

ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
๑ ๑
๒ ๒
๓ ๓
๔ ๔
๕ ๕
๖ ๖
๗ ๗
๘ ๘
๙ ๙
๑๐ ๑๐

แบบบนั ทึกคะแนนกอ่ นเรียน แบบบันทกึ คะแนนหลงั เรยี น

คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
๑๐ ๑๐

๖๔ ๖๑

แบบประเมนิ กระบวนกำรปฏิบัติงำน/ประเมนิ ผลงำน

กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี รายวชิ า งานประดิษฐจ์ ากเศษวสั ดธุ รรมชาติ
ชอ่ื – สกลุ ......................................................................... ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ เลขที่ ...........
หนว่ ยท.ี่ .......... ชอื่ หนว่ ย ..................................................................................................................

ขอ้ ที่ รำยกำรประเมนิ ๔ ระดบั คะแนน ๑
ประเมนิ กระบวนกำรปฏบิ ัติงำน ๓๒

๑ การเตรียมวสั ดแุ ละอปุ กรณ์
๒ การเลือกใช้วัสดแุ ละอปุ กรณ์
๓ ความถกู ต้องของขนั้ ตอนในการปฏิบตั ิงาน
๔ เวลาทีใ่ ช้ในการปฏบิ ัตงิ าน
๕ ความปลอดภัยจากการปฏิบัติงาน
๖ ความส้ินเปลืองในการใชว้ สั ดุ
ประเมนิ ผลงำน
๗ คุณภาพของช้ินงาน
๘. ผลงานมคี วามประณีต
๙. ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
๑๐ ประโยชน์ใช้สอย

รวม
รวมท้ังหมด

เกณฑ์กำรพิจำรณำ ดีมาก ลงชอ่ื .............................................. ผู้ประเมนิ
ระดบั คะแนน ๔ หมายถึง ดี (นางเพ็ญวดี คา้ สุวรรณ)
ระดับคะแนน ๓ หมายถึง ปานกลาง
ระดบั คะแนน ๒ หมายถึง ปรบั ปรุง
ระดบั คะแนน ๑ หมายถงึ

๖๒ ๖๕

เกณฑ์กำรประเมินผลกำรปฏบิ ตั ิงำน

ผปู้ ระเมนิ ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมินโดยเพือ่ น ❑ ประเมนิ โดยครูผสู้ อน

องคป์ ระกอบ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน

ทป่ี ระเมนิ ๔ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน

๑. การเตรียม จัดเตรียมวสั ดุและ เตรียมวสั ดุครบ ขาดวัสดุและ ขาดวสั ดุและ

วัสดุและ อปุ กรณ์อยา่ งครบถ้วน ขาดอปุ กรณ์ อปุ กรณ์บางอย่าง อปุ กรณจ์ นไม่

อุปกรณ์ และอยู่ในสภาพท่ีใช้ บางอยา่ ง แตย่ งั แต่ยังสามารถ สามารถปฏบิ ัติงาน

งานไดด้ ี สามารถปฏบิ ัติงาน ปฏบิ ตั ิงานได้ ได้

จนสาเรจ็ ได้

๒. การเลือกใช้ ใชว้ สั ดุและอปุ กรณ์ ใช้วสั ดุและอปุ กรณ์ ใชว้ ัสดุและ ใชว้ ัสดุและอปุ กรณ์

วสั ดุและ อยา่ งเหมาะสมกบั งาน บางอยา่ งไม่ อปุ กรณ์บางอย่าง ไมเ่ หมาะสมกบั งาน

อุปกรณ์ คานึงถงึ ความประหยดั เหมาะสม แต่ ไม่เหมาะสมกับ และไมค่ านงึ ถึง

คุ้มคา่ และปลอดภัย คานึงถึงความ งาน และไม่ ความประหยดั และ

ประหยดั ค้มุ คา่ คานึงถึงความ ความปลอดภยั

และปลอดภยั ประหยัด และ

เลก็ นอ้ ย ความปลอดภัย

๓. ความถูกต้อง ปฏบิ ตั ิงานประดิษฐ์ มกี ารปฏบิ ตั ิงานผิด มกี ารปฏบิ ตั งิ าน ไม่ปฏิบัติงานตาม

ของขั้นตอนใน กลีบดอกจากฝกั ขั้นตอนบ้างแต่ไม่ ผดิ ขนั้ ตอนจนทา ขั้นตอนจนทาให้

การปฏบิ ตั งิ าน กระถินแห้งได้ถกู ต้อง ทาให้เกดิ ความ ให้เกิดความ เกดิ ความเสียหาย

ตามขน้ั ตอน เสียหายตอ่ ช้ินงาน เสียหายตอ่ ตอ่ ชิ้นงาน

ชนิ้ งาน

๔. เวลาท่ีใช้ใน เหลอื เวลาตามกาหนด เหลือเวลาตาม เสรจ็ ทันเวลาที่ เลยเวลาท่กี าหนด

การปฏิบัติงาน ๕๐% กาหนด ๒๕% กาหนด ๑๐ %

๕. ความ มคี วามปลอดภัยโดยครู มีความปลอดภยั มปี ญั หาอปุ สรรค มปี ัญหาอุปสรรค

ปลอดภัยในการ ไม่ต้องควบคุมดแู ล โดยครูต้อง แก้ไขไดด้ ว้ ย เล็กนอ้ ยเพือ่ นต้อง

ปฏิบัตงิ าน ควบคมุ ดูแล ตัวเอง แกไ้ ขให้

๖. ความ ใช้วัสดตุ ามทก่ี าหนด ใช้วสั ดุมากกวา่ ท่ี ใชว้ ัสดมุ ากกวา่ ที่ ใชว้ ัสดุมากกวา่ ท่ี

สน้ิ เปลอื งในการ กาหนด ๑๐% กาหนด ๓๐% กาหนด ๕๐%

ใชว้ ัสดุ

๖๖ ๖๓

(ตอ่ )
เกณฑ์กำรประเมินผลกำรปฏิบัตงิ ำน

ผูป้ ระเมิน ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมนิ โดยเพือ่ น ❑ ประเมนิ โดยครูผู้สอน

องคป์ ระกอบ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน

ทป่ี ระเมนิ ๔ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน

๗ คุณภาพของ มีรปู ทรงทสี่ วยงาม มีขอ้ บกพร่อง มีขอ้ บกพร่อง ผลงานไม่มีคณุ ภาพ

ชน้ิ งาน ขนาดสมา่ เสมอ บา้ งเลก็ น้อย จานวนมาก ไมส่ ามารถใช้งานได้

ประณตี และเรยี บร้อย

๘. ผลงาน มีความประณตี มคี วามประณตี มีความประณีต มคี วามสวยงามแต่

มีความประณตี สวยงามมากกว่าแบบ สวยงามตามแบบ และสวยงามใน ไมม่ ีความประณตี

กาหนด บางสว่ น

๙. ความคิด ใช้ความคดิ รเิ รม่ิ ใช้ความคดิ รเิ ร่มิ ใน สามารถสรา้ ง ไมส่ ามารถสร้าง

รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ในการสรา้ ง การสร้างผลงาน ผลงานได้ ผลงานได้

ผลงานให้มคี ุณภาพ

๑๐. ประโยชน์ ผลงานมีความ ผลงานมี ผลงานสามารถใช้ ผลงานไม่สามารถ

ใชส้ อย เหมาะสมกบั การ ข้อบกพร่องในการ งานได้บางส่วน นาไปใช้ประโยชน์

ใช้งาน ใช้งาน ได้

เกณฑ์กำรตดั สนิ คุณภำพ

คะแนน ๓๘ - ๔๐ คะแนน หมายถงึ ดีมาก ไดค้ ุณภาพ ระดบั ๔

คะแนน ๓๐ - ๓๗ คะแนน หมายถงึ ดี ไดค้ ณุ ภาพ ระดบั ๓
คะแนน ๒๑ - ๒๙ คะแนน หมายถงึ ปานกลาง ได้คุณภาพ ระดับ ๒
หมายถึง ปรบั ปรุง ไดค้ ณุ ภาพ ระดบั ๑
ต่ากวา่ ๒๐ คะแนน

กำรผำ่ นเกณฑก์ ำรวัดและประเมิน
(เทยี บคะแนนเต็ม ๔๐ ใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)

คะแนนเตม็ ๑๐ นกั เรยี นตอ้ งไดค้ ะแนนต้ังแต่ ๘ คะแนนขึ้นไป หรือคิดเป็นร้อยละ ๘๐
ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

๖๔ ๖๗

กำรประเมินคณุ ลักษณะกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน

กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพ รายวชิ า งานประดิษฐจ์ ากเศษวัสดธุ รรมชาติ
ชอ่ื – สกลุ ......................................................................... ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ เลขที่ ...........
หน่วยที่........... ชือ่ หน่วย ..................................................................................................................

ข้อที่ รำยกำรประเมนิ ๔ ระดบั คะแนน ๑
กำรประเมนิ คณุ ลักษณะกำรปฏิบัติงำนตำมใบงำน ๓๒

๑ การวเิ คราะห์ปัญหาและข้อบกพร่องของช้นิ งาน
๒ คณุ ลักษณะในการทางาน
๓ ความสามารถในการทางาน
๔ การรกั ษาความสะอาด
๕ เจตคตติ ่อการทางานเห็นคุณคา่ ของงาน

รวม
รวมทั้งหมด

เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำ ดมี าก ลงชอ่ื .............................................. ผปู้ ระเมิน
ระดับคะแนน ๔ หมายถงึ ดี (นางเพญ็ วดี ค้าสุวรรณ)
ระดับคะแนน ๓ หมายถงึ ปานกลาง
ระดบั คะแนน ๒ หมายถึง ปรบั ปรงุ
ระดับคะแนน ๑ หมายถึง

๖๘ ๖๕

เกณฑก์ ำรประเมนิ คุณลักษณะกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน
เรือ่ ง ชอ่ บเู ก้สวยด้วยดอกไมจ้ ำกฝักกระถนิ อนิ ทนลิ แห้ง

ผู้ประเมิน ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมนิ โดยเพ่ือน ❑ ประเมินโดยครผู ู้สอน

องค์ประกอบ เกณฑก์ ำรให้คะแนน

ท่ีประเมิน ๔ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน

๑๑.การวิเคราะห์ มกี ารวเิ คราะหป์ ัญหา มีการวิเคราะห์ มีการวเิ คราะห์ มีการวเิ คราะหป์ ญั หา

ปัญหาและ ในการทางาน ปญั หาในการทางาน ปัญหาในการ ในการทางาน

ขอ้ บกพร่องของ ข้อบกพร่องของชิ้นงาน ขอ้ บกพร่องของ ทางานข้อบกพร่อง ข้อบกพร่องของ

ชน้ิ งาน และเสนอแนวทางในการ ช้ินงาน แต่ยังเสนอ ของชิ้นงาน แต่ไม่ ชน้ิ งานน้อยมากและ

ปรบั ปรงุ และพัฒนาที่ แนวทางในการ เสนอแนวทางใน ไมเ่ สนอแนวทางใน

เหมาะสมชดั เจน ปรบั ปรุงและพฒั นาท่ี การพัฒนาและ การพัฒนาและ

ไมเ่ หมาะสมบ้าง ปรบั ปรงุ งาน ปรบั ปรุงงาน

๒.คณุ ลกั ษณะ มที ักษะในการร่วม มที ักษะในการรว่ ม ทักษะในการรว่ ม รว่ มกจิ กรรมกลุ่มได้

ในการทางาน กิจกรรมกลุ่ม มวี นิ ัย กจิ กรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลมุ่ ขาดมีวนิ ยั ทางานไม่

ต้งั ใจพยายาม แสวงหา มวี ินยั ตั้งใจพยายาม มีวนิ ยั ทางาน สาเรจ็

วิธีทางานทางานสาเร็จ แสวงหาวธิ ีทางาน จนสาเรจ็

และผลงานมคี ุณภาพ ทางานจนสาเร็จ

๓. ความ เลอื ก ใช้วัสดุ / อปุ กรณ์ เลือก ใชว้ ัสดุ / สามารถเลอื ก ใช้ เลือก ใช้วสั ดุ /

สามารถในการ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั งาน อปุ กรณ์ได้อยา่ ง วัสดุ / อุปกรณไ์ ด้ อุปกรณ์ไม่เหมาะสม

ทางาน ปฏบิ ตั งิ านไดถ้ ูกต้องตาม เหมาะสมกบั งาน อย่างเหมาะสมกับ กับงาน ปฏิบตั งิ านไม่

ขั้นตอนทนั เวลาตามท่ี ปฏิบัตงิ านไดถ้ ูกต้อง งาน ปฏบิ ัติงานได้ ถกู ต้องตามข้ันตอน

กาหนดสามารถพัฒนา ตามขนั้ ตอนทนั เวลา ถูกต้องตามขน้ั ตอน ไม่ทันเวลาตามท่ี

งานได้ ตามทกี่ าหนดไม่ ไมท่ ันเวลาตามท่ี กาหนด

สามารถพัฒนางาน กาหนด

๔. การรักษา รกั ษาความสะอาด รักษาความสะอาด รักษาความ ไมไ่ ด้มกี ารทาความ

ความสะอาด ของวัสดแุ ละอุปกรณ์ ของวัสดแุ ละอปุ กรณ์ สะอาดของวัสดุ สะอาดวัสดแุ ละ

พนื้ ท่ีบริเวณทางานทั้ง พน้ื ท่ีบรเิ วณทางาน และอุปกรณ์ อุปกรณ์ พืน้ ท่ีบริเวณ

ระหว่างปฏบิ ัติงานและ ยังเก็บทาความ ไม่ทาความสะอาด ทางานเลย

หลงั จากปฏบิ ัติงาน สะอาดไม่ค่อย พน้ื ทบ่ี ริเวณทางาน

เรียบรอ้ ยแลว้ เรยี บร้อย

๖๖ ๖๙

(ต่อ)

เกณฑก์ ำรประเมนิ คณุ ลักษณะกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมใบงำน
เรอื่ ง ช่อบเู ก้สวยด้วยดอกไมจ้ ำกฝกั กระถนิ แหง้

ผู้ประเมิน ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมนิ โดยเพอ่ื น ❑ ประเมินโดยครูผสู้ อน

องค์ประกอบ เกณฑก์ ำรให้คะแนน

ทป่ี ระเมนิ ๔ คะแนน ๓ คะแนน ๒ คะแนน ๑ คะแนน

๕. เจตคตติ อ่ ชมเชยผูอ้ ืน่ เม่ือทางาน ชมเชยเมื่อทางาน ชมเชยผู้อ่นื เมอ่ื ชมเชยเมอื่

การทางาน สาเร็จและสามารถบอก สาเรจ็ และสามารถ ทางานสาเร็จและ ทางานสาเร็จไม่

เหน็ คณุ คา่ ของ กระบวนการทางานให้ บอกกระบวนการ สามารถบอก สามารถบอก

งาน ผูอ้ ื่นได้มีความคิดใน ทางานใหผ้ ูอ้ ่ืนได้มี กระบวนการทางาน กระบวนการ

การปรับปรงุ พัฒนางาน ความตง้ั ใจพยายาม ใหผ้ อู้ ่ืนได้ทางานไม่ ทางานให้ผอู้ ่ืนได้

ให้ดยี ง่ิ ขึ้นมีความต้ังใจ ทางานจนสาเรจ็ สาเร็จ ทางานไม่สาเร็จ

พยายามทางานจน

สาเร็จและผลงานมี

คุณภาพ

สรปุ ผลกำรประเมิน

คะแนน ๑๘ - ๒๐ คะแนน หมายถงึ ดีมาก ได้คุณภาพ ระดบั ๔
ดี ไดค้ ณุ ภาพ ระดับ ๓
คะแนน ๑๕ - ๑๗ คะแนน หมายถงึ ปานกลาง ได้คณุ ภาพ ระดบั ๒
ปรับปรงุ ได้คุณภาพ ระดบั ๑
คะแนน ๑๒ - ๑๔ คะแนน หมายถงึ

ต่ากว่า ๑๐ คะแนน หมายถงึ

กำรผ่ำนเกณฑก์ ำรวัดและประเมิน
(เทยี บคะแนนเต็ม ๒๐ ให้เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
คะแนนเต็ม ๑๐ นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนนตั้งแต่ ๘ คะแนนข้ึนไป หรือคดิ เป็นร้อยละ ๘๐ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์


Click to View FlipBook Version