The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานประดิษฐ์เศษวัสดุจากธรรมขาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ “ชุดสร้างสรรค์งานศิลป์กระถินอินทนิลสู่พื้นฐานอาชีพ” ชุดที่ ๖ เรื่อง ช่อดอกไม้ติดเสื้อจากฝักกระถินแห้ง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นสื่อในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นการให้ความสำคัญกับการประดิษฐ์ดอกไม้เศษวัสดุธรรมชาติจากพืช และเพิ่มมูลค่าของเศษวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยการนำฝักกระถินแห้งมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ นำมาจัดช่อดอกไม้ติดเสื้อจากฝักกระถินแห้ง เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นที่ต้องการของตลาด และสร้างงานสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต แสดงให้เห็นถึงความเป็นชนชาติไทย ที่มีจิตใจงดงามละเอียดอ่อนโยนและประณีต เป็นเอกลักษณ์ เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by penvadee khasuwan, 2022-03-31 04:02:40

ชุดที่ ๖ เรื่อง ช่อดอกไม้ติดเสื้อจากฝักกระถินแห้ง

เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานประดิษฐ์เศษวัสดุจากธรรมขาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ “ชุดสร้างสรรค์งานศิลป์กระถินอินทนิลสู่พื้นฐานอาชีพ” ชุดที่ ๖ เรื่อง ช่อดอกไม้ติดเสื้อจากฝักกระถินแห้ง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นสื่อในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นการให้ความสำคัญกับการประดิษฐ์ดอกไม้เศษวัสดุธรรมชาติจากพืช และเพิ่มมูลค่าของเศษวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น โดยการนำฝักกระถินแห้งมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ นำมาจัดช่อดอกไม้ติดเสื้อจากฝักกระถินแห้ง เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นที่ต้องการของตลาด และสร้างงานสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต แสดงให้เห็นถึงความเป็นชนชาติไทย ที่มีจิตใจงดงามละเอียดอ่อนโยนและประณีต เป็นเอกลักษณ์ เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ

Keywords: ช่อดอกไม้,ฝักกระถิน

กก

คำนำ

เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชางานประดษิ ฐ์เศษวัสดจุ ากธรรมขาติ กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
“ชุดสร้างสรรค์งานศลิ ป์กระถินอินทนิลสู่พื้นฐานอาชพี ” ชุดท่ี ๖ เร่ือง ช่อดอกไม้ติดเส้ือจากฝกั กระถินแห้ง สาหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ จัดทาขึ้น เพ่ือใช้เป็นสื่อในการทากิจกรรมการเรียนรู้ เป็นการให้ความสาคัญกับการ
ประดษิ ฐด์ อกไมเ้ ศษวัสดุธรรมชาติจากพืช และเพิ่มมลู ค่าของเศษวัสดุท่ีมีอยู่ในทอ้ งถน่ิ โดยการนาฝกั กระถินแห้งมา
ประดิษฐ์เป็นดอกไม้ นามาจัดช่อดอกไม้ติดเส้ือจากฝักกระถินแห้ง เป็นผลงานท่ีสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นที่ต้องการ
ของตลาด และสร้างงานสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต แสดงให้เห็นถึงความเป็นชนชาติไทย ที่มีจิตใจงดงาม
ละเอียดอ่อนโยนและประณีต เป็นเอกลกั ษณ์ เป็นวัฒนธรรมประจาชาติ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในวิชางานประดิษฐ์เศษวัสดุจากธรรมขาติ โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน
เป็นแนวทางใหม่ท่ีช่วยแก้ปัญหา และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถประเมินผลความก้าวหน้าของตนเองได้
เพราะเอกสารประกอบการเรียนการสอน เป็นกระบวนการของการวางแผนการสอน ท่ีสอดคล้องกับเน้ือหาวิชา
จงึ ทาให้เกดิ ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าอย่างมาก เปน็ การจัดการเรยี นรูท้ ี่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั ใหผ้ ู้เรียน ไดเ้ กดิ การเรียนรู้
และการปฏิบัติเพื่อมุ่งพัฒนา เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และประสบการณ์ เก่ียวกับการปฏิบัติงานที่
หลากหลายในเอกสารประกอบการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคณุ ลักษณะสอดคล้องกับความต้องการของ
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

ผู้จัดทาขอขอบพระคุณ นายประหยัดหลักรัตน์ ผู้อานวยการโรงเรียนนารีนุกูล ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน และผู้ที่ให้
ความอนเุ คราะห์ คาปรกึ ษา เสยี สละเวลา เอกสาร ขอ้ มูลท่ีเป็นประโยชน์ และใหค้ วามร่วมมือในการจดั ทาเอกสาร
ฉบับนี้จนสาเร็จ และขอขอบคุณผู้ที่สนใจนาเอกสารฉบับนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองหรือเพ่ือเผยแพร่ต่อวง
การศึกษาตอ่ ไป

เพ็ญวดี คา้ สุวรรณ

ขข

สำรบญั หน้า

คานา ข
สารบญั ๑

คาแนะนาสาหรบั นกั เรียน...................................................…………………………….. ๓
แผนภูมลิ าดบั ขั้นการเรียนเอกสารประกอบการเรยี นการสอน..............…………..... ๔
ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการเรียนร.ู้ ..................................…………………. ๘
แบบทดสอบกอ่ นเรียนเรอื่ ง ช่อดอกไมต้ ิดเส้ือจากฝกั กระถินแห้ง…………………….. ๑๑
วัสด.ุ ......................................................................………………………………….......... ๑๓
อุปกรณ.์ .................................................................…………………………………......... ๑๓
ใบความรทู้ ี่ ๑ เร่ือง การขน้ึ โครงกลีบดอก............................................................. ๑๔
ขั้นตอนการข้ึนโครงกลบี ดอก...............................………………………………………..... ๑๖
การเตรยี มเส้นดนิ้ ทอง..........................................………………………………………..... ๑๘
การเตรียมโครงกลีบดอก...............................................………………………………….. ๑๙
กจิ กรรมท่ี ๑……………………………………………………………………………………………… ๑๙
ใบความรู้ที่ ๒เรื่อง การทากลีบดอกตูม ดอกแยม้ และการประกอบดอก............. ๒๓
ขัน้ ตอนการทากลีบดอกและการประกอบดอก………………………………………………. ๒๔
การประกอบกลบี ดอกตูม...................................................................................... ๒๗
ลาดับขนั้ ตอนการประดิษฐด์ อกแยม้ ...................................................................... ๒๘
กจิ กรรมที่ ๒...............................................…………………………………………………… ๒๘
ใบความรู้ท่ี ๓ เรื่อง การประดิษฐ์ดอกบานและการตกแต่งในแจกัน...................... ๓๑
ลาดับขัน้ ตอนการประดิษฐด์ อกบาน…………………………………………………………….. ๓๕
ลาดบั ขั้นตอนการเช้าชอ่ ดอก…………………………………………………………………...... ๓๕
ขอ้ ควรระวัง………………………………………………………………………………………………. ๓๖
สรุป…………………………………………………………………………………………………………. ๓๗
กิจกรรมท่ี ๓.............................................………………………………………………….....
แบบทดสอบหลงั เรยี นเร่ือง ชอ่ ดอกไมต้ ิดเสื้อจากฝักกระถินแห้ง.......……………..

คค

สำรบญั หนา้
๔๑
บรรณานกุ รม .............................................................................……………………. ๔๒
ภาคผนวก.......................................................................................………………… ๔๓
กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรียน.............................……………… ๔๔
แบบประเมินกระบวนการปฏบิ ัติงาน/ประเมินผลงาน........................................ ๔๕
เกณฑ์การประเมินผลการปฏิบตั ิงาน................................................................... ๔๗
การประเมินคุณลักษณะการปฏบิ ตั ิงานตามใบงาน............................................. ๔๘
เกณฑ์การประเมนิ คุณลกั ษณะการปฏิบัติงานตามใบงาน...................................



คำแนะนำสำหรบั นกั เรยี น

นกั เรยี นควรจะตอ้ งปฏบิ ัตติ ำมกจิ กรรมดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. นักเรยี นศกึ ษาแผนภูมิลาดับข้นั การเรียนจากเอกสารประกอบการเรยี นการสอน
๒. นกั เรียนศึกษาผลการเรียนร้ขู องเอกสารประกอบการเรียนการสอน ชดุ “สรา้ งสรรค์งานศิลป์
กระถนิ อนิ ทนลิ สู่พื้นฐานอาชีพ” ชดุ ที่ ๖เรื่อง ช่อดอกไมต้ ิดเส้อื จากฝักกระถนิ แห้ง
๓. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนเรอ่ื ง ชอ่ ดอกไม้ตดิ เส้ือจากฝกั กระถนิ แห้ง
๔. นักเรียนตอ้ งตั้งใจปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆตามข้นั ตอนจนเสรจ็ สิน้ สมบูรณ์
๕. เม่อื นักเรียนมปี ัญหาในการเรียน หรอื สงสัยใหซ้ ักถามครู
๖. นักเรยี นควรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมด้วยตนเองอยา่ งเต็มความสามารถ ไมล่ อกคาตอบจากผู้อื่น

และไม่ดเู ฉลยก่อนจะตอบคาถามเสรจ็
๗. นักเรยี นสามารถทบทวนเนอ้ื หาไดเ้ ม่ือมีปัญหาสงสัย หรือไม่สามารถตอบคาถาม

กจิ กรรมประจาบทได้
๘. เม่อื นกั เรยี นปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ เสรจ็ เรียบรอ้ ยและครบถว้ นให้นากระดาษคาตอบกจิ กรรม
และเอกสารประกอบการเรยี นการสอน ชุดที่ ๖ เร่อื ง ช่อดอกไม้ติดเส้ือจากฝักกระถินแห้งสง่ ครู
๙. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเรอื่ งช่อดอกไม้ติดเสอ้ื จากฝักกระถนิ แห้งนาแบบทดสอบ
และกระดาษคาตอบ ส่งครู เพ่อื บนั ทึกคะแนน
๑๐. ใช้เวลาในการศึกษาและปฏิบัตกิ ิจกรรม ๒ ชว่ั โมง

๒๒

แผนภมู ิลำดับขั้นกำรเรยี นเอกสำรประกอบกำรเรียนกำรสอน

ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น

อ่ำนคำชีแ้ จงคำแนะนำ

ศกึ ษำผลกำรเรียนรู้สำระสำคัญ สำระกำรเรยี นรู้

ศกึ ษำเอกสำรประกอบกำรเรียนกำรสอน
ทำกจิ กรรมตำมลำดับขั้นตอน

ทำแบบทดสอบ
หลงั เรียน

ผำ่ นเกณฑ์คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนนนักเรียน ไม่ผ่ำนเกณฑ์
ต้องได้ ๘ คะแนนข้ึนไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ ศึกษำ(ทบทวน)เอกสำรประกอบ
กำรเรียนกำรสอน ทำแบบทดสอบ

ตรวจกบั เฉลย

ศึกษำชุดตอ่ ไป

แผนภูมิลำดับข้นั ตอนกำรเรยี นเอกสำรประกอบกำรเรียนกำรสอน ชดุ “ชดุ สร้ำงสรรค์งำนศิลป์กระถนิ
อนิ ทนิลสู่พื้นฐำนอำชพี ”ชดุ ท่ี ๖ เร่อื ง ช่อดอกไม้ตดิ เสื้อจำกฝกั กระถนิ แห้ง

๓๓

ผลกำรเรียนรู้

๑. ปฏิบตั ิประดษิ ฐ์ช่อดอกไม้ติดเสอ้ื จากฝักกระถินแหง้ ไดป้ ระณตี สวยงาม นาไปประยุกต์ใช้ได้
เหมาะสมกบั โอกาส

๑.๑ เตรียมวัสดุอุปกรณ์และบารงุ รกั ษาเครื่องมอื อปุ กรณ์การประดิษฐ์ช่อดอกไมต้ ิดเสือ้ จากฝกั
กระถินแหง้ ได้ถูกต้อง

๑.๒ อธบิ ายลาดบั ขัน้ ตอนการประดิษฐ์ชอ่ ดอกไมต้ ิดเส้ือจากฝกั กระถนิ แห้งได้ถกู ต้อง
๑.๓ ปฏบิ ัติประดิษฐ์ช่อดอกไมต้ ดิ เสือ้ จากฝักกระถนิ แห้งแห้งไดป้ ระณีตสวยงาม
๑.๔ ประเมนิ ผลปรบั ปรงุ พฒั นาช่อดอกไม้ติดเสื้อจากฝกั กระถินแห้งให้ดขี ึ้นได้

สำระสำคญั

ชอ่ ดอกไม้ติดเส้ือจากฝักกระถินแหง้ เป็นการนาวัสดุเหลอื ใช้จากธรรมชาติจากพืช
คือ ฝักกระถินแหง้ และลูกอนิ ทนลิ แหง้ ท่ีหาไดท้ ัว่ ไปในทอ้ งถนิ่ มาประดิษฐ์เป็นชอ่ ดอกไม้ติดเสือ้ จากฝัก
กระถนิ แหง้ เป็นเข็มกลัดตดิ เสื้อ โดยไมต่ ้องซ้ือหาสามารถเก็บไว้ได้โดยไมเ่ หยี่ วเฉาทิง้

สำระกำรเรยี นรู้

๑. วัสดอุ ปุ กรณแ์ ละการบารงุ รักษาเครอ่ื งมืออปุ กรณ์การประดิษฐ์ช่อดอกไมต้ ิดเส้อื จากฝกั
กระถินแหง้
๒.ลาดับข้ันตอนการประดษิ ฐ์ช่อดอกไมต้ ิดเสือ้ จากฝักกระถินแหง้

๔๔

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เรอื่ ง ชอ่ ดอกไมต้ ดิ เสอื้ จำกฝักกระถนิ แหง้

๑. ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกท่สี ุดเพียงคาตอบเดียวและกาเครื่องหมายกากบาท (X)
ลงในกระดาษคาตอบ

๒. ขอ้ สอบมจี านวน ๑๐ ข้อ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนนใช้เวลา ๑๐ นาที
๓. เมือ่ ทาแบบทดสอบเสร็จแล้วให้ส่งกระดาษคาถามพรอ้ มกระดาษคาตอบคนื เพ่ือบนั ทึกคะแนน

๑. การประดษิ ฐ์ดอกไมจ้ ากฝักกระถนิ แห้งจะเลือกใช้วัสดุข้อใดมาทาใบไม้จงึ จะเหมาะสมทสี่ ดุ
ก. ใบแก้วแห้ง
ข. ใบมะมว่ งแหง้
ค. ใบฝกั กระถนิ แห้ง
ง. ใบไม้สาเรจ็ สเี ขียว

๒.“การเรียงกลบี ดอกชั้นท่ี ๑ จดั ชอ่ งว่างให้มรี ะยะหา่ งของแตล่ ะกลีบให้มีขนาดเทา่ ๆ กันทุกกลีบ”
จากข้อความที่กาหนดให้คาตอบข้อใดถูกต้อง

ก. เทคนคิ การประกอบดอกไม้
ข. แนวปฏิบัตกิ ารประดิษฐ์ดอกไม้
ค. หลกั การประดิษฐ์ดอกไม้ที่ถูกตอ้ ง
ง. ลาดบั ขั้นตอนการประกอบดอกไม้
๓. จานวนกลีบดอกตามข้อใดทน่ี ามาใชก้ ารประกอบดอกบาน
ก. ขนาดเล็ก ๓ กลบี ขนาดกลาง ๔ กลีบ ขนาดใหญ่ ๕ กลีบ
ข. ขนาดเลก็ ๔ กลบี ขนาดกลาง ๕ กลบี ขนาดใหญ่ ๖ กลบี
ค. ขนาดเลก็ ๕ กลบี ขนาดกลาง ๖ กลบี ขนาดใหญ่ ๗ กลีบ
ง. ขนาดเล็ก ๖ กลีบ ขนาดกลาง ๗ กลบี ขนาดใหญ่ ๘ กลบี

๕๕

นาข้อความที่กาหนดใหไ้ ปตอบคาถามในข้อท่ี๔
๑. เตรยี มลกู อนิ ทนลิ แหง้ ขนาดกลางมีกา้ นข้ัว(สาหรับยดึ กลีบดอก)เปน็ เกสรดอก
๒. นากลีบดอกขนาดเลก็ มาประกอบกบั เกสรดอกให้ครบตามจานวน
๓. จดั เรยี งกลีบจดั ช่องว่างของแต่ละกลบี ให้มขี นาด เท่าๆ กัน
๔. นากลีบขนาดกลางตดิ กบั เกสรดอกให้บานออก ๒มลิ ลิเมตร
๕. จดั ความสูงของกลบี ดอกให้เทา่ กบั กลบี ขนาดเลก็ จดั ช่องว่างของแต่ละกลีบให้มีขนาด เทา่ ๆกันจนครบ
ตามจานวน
๖. นากลบี ขนาดใหญต่ ิดกับเกสรดอกใหบ้ านออก ๒ มลิ ลิเมตร จดั ความสูงให้เท่าๆกนั เรียงกลีบจนครบจานวน

๔. จากขอ้ ความทกี่ าหนดใหข้ ้อใดเรยี งลาดับขั้นตอนการประดิษฐด์ อกบานไดถ้ ูกต้อง
ก. ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ - ๖
ข. ๑ - ๓ - ๕ - ๒ - ๔ - ๖
ค. ๑ - ๒ - ๔ – ๓ - ๖ - ๕
ง. ๑ - ๒ - ๔ - ๓ - ๕ - ๖

๕. ลวดกา้ นช่อดอกควรเลือกขนาดตามขอ้ ใดถูกต้องทส่ี ุด
ก. เบอร์ ๑๔ ยาว ๘ เซนติเมตร
ข. เบอร์ ๑๖ ยาว ๑๐ เซนติเมตร
ค. เบอร์ ๑๘ ยาว ๑๒ เซนติเมตร
ง. เบอร์ ๒๐ ยาว ๑๔ เซนติเมตร

๖. ลกั ษณะของดอกบานข้อใดถกู ต้อง
ก. กลบี ดอกแต่ละช้ันจะมีขนาดเท่าๆกนั เรยี งสบั หวา่ งเลีย่ งหวา่ ง บานออก ๒ มิลลเิ มตร
ข. กลบี ดอกแตล่ ะชั้นจะมคี วามสงู ลดหล่นั กันไปบานออก ๒ มิลลเิ มตร
ค. การจัดกลีบจะต้องเรียงกลีบไมจ่ ัดสับหว่างและเล่ยี งหว่าง บานออก ๒ มลิ ลเิ มตร
ง. เรียงกลีบจัดชอ่ งว่างเท่าๆกัน กลีบแตล่ ะชน้ั เรยี งสบั หวา่ งความสงู ของกลีบ
แตล่ ะชั้นเสมอกนั บานออก ๒ มลิ ลเิ มตร

๗. ขอ้ ใดเปน็ ข้ันตอนสดุ ท้ายในการประดิษฐด์ อกไม้ จากฝกั กระถนิ แห้ง
ก. การประกอบกลบี ดอก
ข. การตกแต่งขอบกลีบดอก
ค. การเข้าชอ่ ดอกตกแต่งด้วยเข็มกลัด
ง. ตรวจสอบความเรยี บร้อยของช้นิ งาน

๖๖

๘. เทคนคิ การประกอบชอ่ ดอกข้อใดถูกต้องท่สี ดุ
ก. การวางดอกตูม ดอกแย้ม และดอกบาน แต่ละช้นั ใหอ้ ยู่ในระดับเดยี วกนั
ข. ใบจะเลือกใช้ใบไม้แห้งหรอื ใบไม้จาก ผ้าตามต้องการ
ค. เสริมก้านดอกด้วยใบเสริมก้านและเส้น -ลวด เบอร์ ๒๐ พนั ทับด้วยฟลอรา่ เทป
ง. การพันด้วยฟลอร่าเทปจะต้องพนั ในลักษณะแนวเฉียงและในขณะพนั ให้ดงึ ยืดฟลอรา่ เทป
ใชน้ ิ้วหวั แมม่ อื และนิว้ ช้ีกดทบั เพื่อให้กา้ นดอก มีความเรยี บในระดบั เดยี วกนั

๙. ขอ้ ใดคือส่วนประกอบของชอ่ ดอกไม้จากฝักกระถินแห้ง
ก. ดอกไม้ ใบไม้ กา้ นดอกริบบิ้น
ข. ดอกไมใ้ บไม้ ก้านดอกรบิ บิน้ เข็มกลัด
ค. ดอกไม้ กลบี เลยี้ งใบไม้ ก้านดอก เข็มกลดั
ง. ดอกตมู ดอกแย้ม ดอกบาน กลบี เลย้ี ง ใบไม้ ก้านดอก

จงพิจารณาขอ้ ความต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคาถามในข้อท่ี ๑๐
๑. นาดอกตมู ๑ ดอก เขา้ ช่อกบั ก้านดอกพันทับฟลอรา่ เทป สนี า้ ตาล
๒. ตดั ลวดเบอร์ ๑๘ ยาว ๑๓ เซนติเมตรจานวน ๑ เส้นเปน็ ก้านช่อดอก
๓. นาดอกบานเข้าช่อลดหลัน่ กนั ลงมากะระยะพองามประมาณ ๔ เซนตเิ มตรพนั ทบั ด้วยฟลอร่าเทปสี
นา้ ตาลแล้วใส่ประกอบใบ
๔. นาดอกแย้มเข้าช่อลดหลั่นกนั ลงมาประมาณ ๑.๕ เซนตเิ มตร พนั ทบั ด้วยฟลอร่าเทปสนี า้ ตาลแลว้
ประอบใบ
๕. นาลวดท่ีเหลอื พันกับแทง่ ปากกา แลว้ นามายืดออกติดเข็มกลัดตาแหนง่ ที่ตอ้ งการ

๑๐. จากขอ้ ความทีก่ าหนดให้ข้อใดเรยี งลาดบั ขนั้ ตอนการเข้าช่อดอกไดถ้ ูกต้องท่สี ดุ
ก. ๒ – ๑ – ๔ – ๓ - ๕
ข. ๒ – ๓ – ๑ – ๔ – ๕
ค. ๑ - ๒ – ๓ – ๔ - ๕
ง. ๒ – ๑ – ๓ – ๔ – ๕

๗๗

วสั ดุอุปกรณ์
วสั ดุ

๑. ฝกั กระถินแห้งด้านสนี า้ ตาล

ฝกั กระถินแหง้ ดา้ นสีครมี

๒. ลูกอนิ ทนลิ แห้ง
๓. ใบมะมว่ งแหง้

๘๘

๔. กาวแท่ง
๕. กาวยฮู ู
๖. ลวดเบอร์ ๒๒ พันกา้ นสาเรจ็
สนี า้ ตาลสาหรบั ติดก้านใบ
๗. ลวดเบอร์ ๑๘ ใช้สาหรบั เข้าชอ่ ดอก

๘. ดน้ิ ทองเส้นเลก็

๙๙

๙. ฟลอรา่ เทปสีนา้ ตาลสาหรับ
พนั กา้ นดอกและช่อดอก

๑๐. สอี ะคลลี คิ สีนาคใชต้ กแตง่ ใบไม้
เพื่อเพิม่ มูลคา่ ให้กบั ชิ้นงาน

๑๑. ปากกาขนาดพอเหมาะ

๑๒. เข็มกลัด

๑๓. โบตกแต่ง

๑๐ ๑๐
๑. กรรไกร
อุปกรณ์

๒. คีมตัดลวด

๓. ปนื กาวใช้ประกอบกลีบดอก

๑๑ ๑๑

๔. พู่กันใชส้ าหรบั ทาสี

๕. ไมบ้ รรทดั ใช้วัดระยะของเส้นลวด
และเส้นดนิ้ ทอง

๑๒ ๑๒

ใบควำมรู้ที่ ๑
เรื่อง กำรขึ้นโครงกลบี ดอก

ขน้ั ตอนกำรขนึ้ โครงกลบี ดอก
เนื้อหำ

กำรเตรียมเสน้ โครงลวดกลีบดอก

๑. ตดั ลวดและด้นิ ทอง
+ ตัดลวดเบอร์ ๒๔ ให้ไดค้ วามยาว ๒๕ เซนติเมตร จานวน ๓ เส้น
+ ตัดดิน้ ทองเสน้ เลก็ ยาว ๒๕ เซนตเิ มตร จานวน ๓ เสน้
+ ตัดลวดเบอร์ ๒๔ ให้ไดค้ วามยาว ๓๕ เซนติเมตร จานวน ๒ เส้น
+ ตดั ด้ินทองเส้นเล็กยาว ๓๕ เซนติเมตร จานวน ๒ เส้น
+ ตดั ลวดเบอร์ ๒๔ ให้มีความยาว ๕๖ เซนติเมตร จานวน ๑ เส้น
+ ตดั ดิ้นทองเสน้ เล็กให้มคี วามยาว ๕๖ เซนตเิ มตร จานวน ๑ เสน้

๒. นาเส้นลวดและเส้นดน้ิ ทองทมี่ คี วาม
ยาวเท่ากนั จัดไวเ้ ปน็ คู่ ๆ
แลว้ นาเสน้ ลวดเบอร์ ๒๔ สอดเข้าไปใน
เส้นด้ินทอง ทาเช่นนจ้ี นครบทุกเส้น

๑๓ ๑๓

กำรเตรียมเสน้ ดิ้นทอง
ดอกตมู

๑. นาเสน้ ด้นิ ทองท่ีสอดลวดแลว้ มคี วามยาว
๒๕ เซนติเมตร นามาตัดให้ได้จานวน ๕ เส้น

ดอกแย้ม ๒. ปลายดน้ิ ทองท่ตี ัดให้ทากาวยฮู ู
ป้องกนั ไม่ให้ดิน้ ทองหลดุ

๑. นาเส้นดน้ิ ทองทส่ี อดลวดแลว้ มีความยาว
๒๕ เซนติเมตร จานวน ๑ เสน้ นามาตดั ใหไ้ ด้
จานวน ๕ เสน้ ยาวเส้นละ ๕ เซนติเมตร
๒. นาเส้นด้นิ ทองทสี่ อดลวดแลว้ มีความยาว
๓๖ เซนติเมตร นามาตัดให้ได้ จานวน๖ เสน้
ยาวเสน้ ละ ๖ เซนติเมตร

๑๔ ๑๔

ดอกบำน ๑. นาเสน้ ด้ินทองทสี่ อดลวดแล้วมคี วาม
ยาว ๒๕ เซนติเมตร จานวน ๑ เสน้ นามา
ดน้ิ ทองสอดลวดแลว้ ตดั ความยาวตามขนาด ตดั ใหไ้ ดจ้ านวน ๕ เสน้ ยาวเส้นละ ๕
ท่ตี ้องการ เซนตเิ มตร
๒. นาเส้นด้นิ ทองท่ีสอดลวดยาว ๓๖
เซนติเมตร จานวน ๑ เส้น นามาตัดใหไ้ ด้
จานวน ๖ เสน้ ยาวเส้นละ ๖ เซนติเมตร
๓. นาดิ้นทองทสี่ อดลวดแล้ว มคี วามยาว
๔๙ เซนติเมตร จานวน ๑ เสน้ นามาตดั
ให้ได้ จานวน ๗ เสน้ ยาวเส้นละ ๗
เซนติเมตร

เทคนิคกำรสอดด้ินทอง

๑. เส้นลวดตอ้ งเปน็ เสน้ ตรง ไม่มีรอยหงิกงอ และเสน้ ดน้ิ ทองต้องเรยี บ ไม่มรี อยพบั และรอยย่น เมอื่
นาลวดมาสอดใส่ในเส้นดน้ิ ทอง จะทาไดง้ า่ ยและเสรจ็ ตามเวลา
๒. ตอ้ งไมต่ ัดลวดและเสน้ ดิ้นทองให้ยาวมากเกนิ ไป เพราะจะทาให้การนาลวดมาใสใ่ นเส้นดนิ้ ทอง
จะทาใหช้ า้ และใส่ได้ยาก
๓. เม่ือส้นิ สดุ การสอดลวดในเส้นด้นิ ทองให้นากาวมาทาเพื่อปอ้ งกันไมใ่ หร้ อยตดั เสน้
ด้ินทองลยุ่

๑๕ ๑๕

กำรเตรยี มโครงกลีบดอก

ขนำดกลีบทีใ่ ช้

ดอกตูม กลีบขนาดเล็ก ๕ กลบี (ความยาวเส้นดิน้ ทอง ๕ เซนตเิ มตร)
ดอกแย้ม กลีบขนาดเล็ก ๕ กลบี (ความยาวเส้นด้ินทอง ๕ เซนตเิ มตร)

กลบี ขนาดกลาง ๖ กลีบ (ความยาวเสน้ ด้ินทอง ๖ เซนตเิ มตร)
ดอกบาน กลีบขนาดเลก็ ๕ กลบี (ความยาวเส้นดิน้ ทอง ๕ เซนติเมตร)

กลีบขนาดกลาง ๖ กลบี (ความยาวเส้นดนิ้ ทอง ๖ เซนติเมตร)
กลบี ขนาดใหญ่ ๗ กลบี (ความยาวเสน้ ดนิ้ ทอง ๗ เซนติเมตร)
การขึ้นโครงกลบี ดอก ขนาดกลบี เลก็ หรอื ใหญข่ ึ้นอยู่กับขนาดของแกนแท่งปากกา
เปน็ หลกั การเลอื กใช้แกนแท่งปากกาขนาดใด ต้องดขู นาดของกลบี ดอก ขนาดเลก็
ขนาดกลางและขนาดใหญ่

วธิ ที ำ

๑. เลือกแทง่ ปากกาขนาดทต่ี ้องการ
๒. นาเส้นดิน้ ทองมาพันรอบแทง่
ปากกา เหลอื ปลายเส้นดนิ้ ทอง
ไวเ้ ล็กนอ้ ย มดั ตรงโคนดิน้ ทอง
เข้าด้วยกนั ใหแ้ น่น

๓. ถอดออกจากแทง่ ปากกา

๑๖ ๑๖

๔. นาเส้นด้ินทองท่ีขึ้นโครงกลีบเสร็จแล้ว
มาดดั ให้ได้ลักษณะคล้ายรปู หยดน้าทาตาม
ขน้ั ตอนเช่นเดียวกันใหค้ รบทุกกลบี

โครงกลีบดอกขนาดเล็ก กลีบดอกขนำดเล็ก
โครงกลีบดอกขนาดกลาง ช้นิ งานขนาดเดียวกัน ให้ใชข้ นาดแท่งปากกา
โครงกลีบดอกขนาดใหญ่ ขนาดเดิม แล้วเรมิ่ ต้นการขึน้ โครงกลบี ข้ันท่ี ๒
ขน้ั ท่ี ๓ ตามข้นั ตอน จนเสรจ็ ตามข้นั ตอนจานวน
กลีบ ๕ กลบี

กลบี ดอกขนำดกลำง
ให้เลอื กใชแ้ ทง่ ปากกาขนาดใหญ่ข้ึน แล้วเรม่ิ ตน้
การขนึ้ โครงกลีบขัน้ ท่ี ๒ – ขั้นที่ ๓ ตามขนั้ ตอน
จนเสร็จจานวน ๖ กลบี

กลบี ดอกขนำดใหญ่
ใหเ้ ลือกใชแ้ ท่งปากกาขนาดใหญก่ ว่ากลีบขนาด
กลางแล้วเรม่ิ ตน้ ขน้ึ โครงกลีบ ขน้ั ท่ี ๒ ขน้ั ท่ี ๓
ตามข้นั ตอนจนเสรจ็ ส้ิน
จานวน ๗ กลีบนากลีบแตล่ ะขนาด
จดั ไวเ้ ป็นชดุ ๆ กลีบดอกขนาดเล็ก
ขนาดกลาง และขนาดใหญ่
ตามลาดบั

๑๗ ๑๗

กจิ กรรมท่ี ๑

ใหน้ ักเรยี นทำโครงกลีบดอก

คำชี้แจง ขน้ั ตอนกำรทำ

กจิ กรรม

๑. ใหน้ กั เรียนศกึ ษำขัน้ ตอนกำรทำโครงกลีบดอกจำกใบควำมรู้ที่ ๒

๒. ใหน้ กั เรยี นจัดเตรยี มวสั ดุอปุ กรณใ์ นกำรปฏิบัติให้พรอ้ ม
๓. นักเรียนปฏิบัติกำรทำโครงกลบี ดอกตำมขน้ั ตอนทก่ี ำหนด

ก ๑๘

ใบควำมรู้ที่ ๒
เรื่อง กำรทำกลีบดอกตมู ดอกแยม้ และกำรประกอบดอก

เนือ้ หำ ข้ันตอนกำรทำกลบี ดอกและกำรประกอบดอก

๑. นาเสน้ ดิน้ ทองโครงกลบี ดอกแต่ขนาด
ท่ดี ัดเสรจ็ แลว้ นามาทากาวจะเลือกใชก้ าว
ยูฮหู รือกาวปนื ก็ไดต้ ามความต้องการ

๒. การใชก้ าวปนื

๓. การใช้กาวยฮู ู

๔. ฝกั กระถนิ ด้านสีครีม

๑๙ ๑๙

๕. ฝกั กระถนิ ด้านสีน้าตาล

๖. นากลบี แต่ละขนาดทท่ี ากาวเสร็จแลว้
นามาตดิ กบั ฝักกระถินแห้งจะเลอื กตดิ ดา้ น
สนี า้ ตาลหรือดา้ นสีครมี ตามความตอ้ งการ

๗. การนาโครงกลบี ดอกมาติดกับฝักกระถนิ
ควรจะตดิ ขนาดโครงกลีบดอกให้เสรจ็ เป็น
ชุดๆ เช่น กลีบดอกขนาดเลก็ กลบี ดอก
ขนาดกลาง และกลีบดอกขนาดใหญ่

๘. ลักษณะของโครงกลบี ดอกทีต่ ดิ
กับฝกั กระถนิ แลว้

๒๐ ๒๐

๙. ตดั แยกกลบี ดอกจากฝักกระถนิ
ทลี ะกลีบเพอื่ ให้สามารถตัดตกแตง่ เก็บ
รายละเอยี ดขอบริมกลบี ดอกไดง้ ่าย

๑๐. ตัดตกแตง่ กลีบดอกจากฝักกระถนิ
ตามรอยขอบดนิ้ ทองให้เรยี บและสวยงาม

๑๑. ลกั ษณะของกลีบดอกที่ตกแตง่ สาเร็วแลว้

๒๑ ๒๑

เทคนคิ ในกำรตดิ โครงลวดบนฝกั
กระถินแหง้

๑.เมือ่ ทากาวเสรจ็ แล้วใหร้ ีบตดิ บนฝักกระถิน
เพราะกาว ท้งั ๒ ประเภทนมี้ ีคณุ สมบตั ิพเิ ศษ
คือแห้งเร็ว
๒.การวางโครงกลีบดอกใหว้ างตามแนวเฉียงของ
ฝักกระถนิ เม่ือตัดกลบี ดอกฝกั กระถินจะไมแ่ ตก

เทคนคิ กำรตกแตง่
ขอบกลีบดอก

๑. เมื่อนาโครงกลีบดอกมาตดิ กับฝกั กระถนิ
โดยการทากาวเช่ือมติดต้องท้ิงให้กาวแหง้ สนทิ
ก่อนจงึ จะตัดกลีบดอก
๒. กรรไกรทีน่ ามาตดั ขอบกลีบดอกควรเป็น
ขนาดเล็กและคมจะทาให้ ตดั ได้สะดวก
ตดั รมิ ขอบกลบี เรยี บสวยงาม

๒๒ ๒๒

กำรประกอบกลีบดอกตูม

กลีบดอกตมู
กลีบดอกขนำดเลก็ จำนวน ๕ กลีบ

๑. นากลบี ดอกจากฝักกระถนิ แห้งขนาดเล็กสุด
จานวน ๕ กลบี ประกอบกับลูกอินทนิลแห้ง
(เกสรดอก) โดยการทากาวปืนประมาณ ๑ เม็ด
ถว่ั เขียวทีข่ วั้ ลูกอินทนลิ และนากลีบดอกเช่อื มตดิ
กะระยะชอ่ งว่างใหเ้ ท่า ๆ กันทกุ กลีบตดิ กลบี ดอก
จนครบจานวน ๕ กลีบ

๒. วางกลบี ดอกชัน้ ที่ ๑
วางกลบี เรยี งกะระยะชอ่ งว่างเท่า ๆ กันทุกกลีบ

๓. ดอกตูมที่สาเรจ็ แล้ว

๒๓ ๒๓

ลำดับขน้ั ตอนกำรประดิษฐ์ดอกแยม้

ก รประดษิ ฐ์ดอก ย้ม

กลบี ดอกแย้ม

กลบี ดอกขนาดเล็ก จานวน ๕กลีบ
กลีบดอกขนาดกลาง จานวน ๖ กลบี

๒๔ ๒๔

กำรประกอบดอกแย้ม

๑. กลบี ดอกชนั้ ที่ ๑
นากลีบดอกจากฝักกระถินแห้งกลีบขนาดเล็กมา
ประกอบกับลูกอนิ ทนลิ (เกสรดอก)โดยการทากาวปืน
ประมาณ ๑ เมด็ ถั่วเขยี วทข่ี วั้ ลกู อนิ ทนิลและนากลบี
ดอกเช่ือมตดิ กะระยะช่องว่างของกลบี ดอกแต่ละ
กลบี ใหม้ ีช่องว่างเทา่ ๆกนั ตดิ กลบี จนครบทง้ั ๕ กลีบ

๒. กลีบดอกชน้ั ท่ี ๒
นากลีบขนาดกลางติดกลีบดอกโดยการทากาวปืน
ประมาณ ๑ เม็ดถ่ัวเขียวที่ขั้วลกู อนิ ทนลิ และนากลบี
ดอกเชื่อมติดบานออกประมาณ ๒ มิลลิเมตร ส่งกลบี
ให้สงู เท่า ๆ กนั กะระยะช่องว่างของกลีบดอกแต่ละ
กลีบ เทา่ ๆ กนั จนครบจานวน ๖ กลีบ

๓. ดอกแย้มสาเรจ็ ดงั รูป

๒๕ ๒๕

เทคนคิ กำรประดษิ ฐด์ อกแย้ม

๑. เลือกลูกอินทนลิ แห้งท่มี ลี ูกขนาดเล็กและ
มีก้านข้วั
๒. การเรยี งกลีบดอก จดั ช่องวา่ งใหม้ ี
ระยะห่างแตล่ ะกลบี เทา่ ๆ กัน

เทคนิคกำรประกอบ
ดอกแยม้

๑. การเรียงกลบี ดอกช้ันที่ ๑ จดั ช่องว่างใหม้ ี
ระยะห่างแตล่ ะกลีบเทา่ ๆ กนั จนครบจานวน ๕ กลีบ
๒. การเรียงกลบี ดอกชน้ั ที่ ๒ ให้สบั หว่างกับกลีบชั้นท่ี
๑ โดยจัดช่องว่างให้มรี ะยะห่างเท่า ๆ กันจนครบ
จานวน ๖ กลบี

๒๖ ๒๖

กจิ กรรมที่ ๒

คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นประดิษฐ์ดอกตมู ดอกแย้มและการประกอบดอกจากกิจกรรมท่ี ๒

ลำดบั ขัน้ ตอนกำรประดิษฐ์ดอกตมู ดอกแยม้
และกำรประกอบดอก

๑. ให้นกั เรียนศกึ ษำลำดับขั้นตอนกำรประดษิ ฐ์ดอกตูม ดอกแยม้
และกำรประกอบดอกจำกใบควำมรู้

๒. ให้นักเรียนจดั เตรยี มวัสดุอุปกรณใ์ นกำรปฏบิ ตั ิใหพ้ ร้อม

๓. นักเรยี นปฏิบัติประดษิ ฐ์ดอกตมู ดอกแยม้ และกำรประกอบดอก
ตำมลำดบั ขัน้ ตอนจำกใบควำมรู้

๒๗ ๒๗

ใบควำมรทู้ ี่ ๓
เร่อื ง ชอ่ ดอกไมต้ ดิ เสอ้ื จำกฝักกระถนิ แห้ง

เน้ือหำ

ลำดับขั้นตอน
กำรประดิษฐ์ดอกบำน

ก รประดษิ ฐ์ดอกบ น

กำรเตรยี มกลีบดอก
กลีบดอกบำน

กลีบดอกขนาดเล็ก จานวน ๕ กลบี
กลบี ดอกขนาดกลาง จานวน ๖กลีบ
กลบี ดอกขนาดใหญ่ จานวน ๗กลีบ

๒๘ ๒๘

กำรประกอบดอกบำน

๑. กลบี ดอกชั้นท่ี ๑
เตรยี มเกสรโดยใชล้ ูกอินทนิลขนาดกลางทมี่ ีก้านขัว้ นากลีบ
ดอกจากฝักกระถนิ แหง้ กลบี ขนาดเล็กมาประกอบกับลูก
อนิ ทนิล(เกสรดอก)โดยการทากาวปืนประมาณ ๑ เมด็ ถัว่ เขียว
ทขี่ ั้วลกู อนิ ทนลิ และนากลบี ดอกเช่ือมติดกะระยะช่องว่างของ
กลีบดอกแต่ละกลบี ให้มชี ่องวา่ งเทา่ ๆกัน ติดกลบี จนครบ
จานวน ๕ กลีบ

๒. กลบี ดอกชน้ั ที่ ๒
นากลีบขนาดกลางติดกลีบดอกโดยการทา
กาวปนื ประมาณ ๑ เม็ดถ่ัวเขียวท่ขี ัว้ ลกู อนิ ทนิลและนากลีบ
ดอกเชื่อมติดบานออกประมาณ ๒ มิลลเิ มตร สง่ กลีบใหส้ ูง
เทา่ ๆ กันกะระยะช่องว่างของกลบี ดอกแต่ละกลีบ เท่า ๆ
กนั จนครบจานวน ๖ กลีบ

๓. กลีบดอกช้ันท่ี ๓
กลบี ขนาดใหญ่ตดิ กลีบดอกทากาวประกอบกลบี ดอก
เหมือนช้ันท่ี ๒ แตเ่ พิม่ เปน็ ๗ กลีบ บานออกประมาณ
๒ มิลลิเมตร ส่งกลีบให้สูงเทา่ ๆ กัน เรยี งกลีบสบั หว่าง
และเล่ียงหว่างกบั ชั้นที่ ๒ จนครบจานวน ๗ กลีบ

๒๙ ๒๙

๔. ดอกบานสาเรจ็

เทคนคิ กำรประกอบดอกบำน

๑. สว่ นปลายกลีบของแตล่ ะชน้ั ให้สง่ ความ
ยาวเท่า ๆกันทุกกลีบ

๒. กลบี ชั้นที่ ๒ บานออกจากช้นั ท่ี ๑ ประมาณ
๒ มิลลเิ มตร
๓. กลีบชน้ั ที่ ๓ บานออกจากช้นั ท่ี ๒ ประมาณ
๒ มลิ ลเิ มตร
๔.การประกอบกลีบดอกในแต่ละชั้นกลีบดอก
ต้องมีขนาดเดยี วกนั

๓๐ ๓๐

ลำดบั ขั้นตอนกำรเข้ำชอ่ ดอก

๑. ตดั ลวดเบอร์ ๑๘ ยาว ๑๒ เซนตเิ มตร จานวน ๓ เสน้
๒. ตดั ลวดเบอร์ ๑๖ ยาว ๘ เซนตเิ มตร จานวน ๒ เส้น
พนั ทับด้วยฟลอรา่ เทปสนี ้าตาล

๓. นาดอกตมู ดอกแย้ม และดอกบานมาเสริมก้านดอก
ดว้ ยกระดาษทิชชู่ตามความยาวของก้านดอก

๔.พันทับดว้ ยฟลอร่าเทปสนี า้ ตาล

๕. จัดทาตามลาดับข้ันตอนให้ได้จานวนดอกตาม
ตอ้ งการ

๓๑ ๓๑

กำรเขำ้ ช่อดอก

๑.ตัดลวดเบอร์ ๑๘ ยาว ๑๒ เซนติเมตร จานวน ๓ เส้น
๒.ตดั ลวดเบอร์ ๑๖ ยาว ๘ เซนตเิ มตร จานวน ๒ เสน้ พัน
ทับด้วยฟลอร่าเทปสีน้าตาล
๓.นาดอกตูม ดอกแย้ม และดอกบานมาเสรมิ ความยาว
ของกา้ นดอก

๔.นาดอกไมจ้ ากฝักกระถนิ แห้ง ดอกตูม ดอกแย้ม
และดอกบานมาเสริมกา้ นดอกดว้ ยกระดาษทชิ ชู่

๕.พันทับด้วยฟลอร่าเทปสนี า้ ตาล

๓๒ ๓๒

๖.นาใบมะม่วงแห้งมาตัดตกแตง่ ใหไ้ ด้รูปทรงตาม
ตอ้ งการแล้วนาลวดเบอร์ ๑๖ ท่ีเตรียมไว้แล้วทา
กาวปนื ทาบลงด้านหลังของกลบี ใบให้เหลือปลาย
๓-๕ เซนติเมตร

๗.นาดอกตูมเปน็ ดอกหลกั และนาดอกแย้มมาวาง
เรียงลาดบั แต่ละชนั้ ให้ลดหล่ันกันลงมาพนั ทบั ดว้ ย
ฟลอรา่ เทปสนี า้ ตาล

๘.นาดอกบานมาวางเรียงให้ลดหล่ันสับหว่าง
กนั ลงมาพนั ทับดว้ ยฟลอร่าเทปสีน้าตาล

๙.นาใบมาเสริมจานวน ๒ ใบ จดั วางตาแหนง่ ให้
เหมาะสมพนั ทับดว้ ยฟลอร่าเทปสนี า้ ตาล

๓๓ ๓๓

๑๐.นาเขม็ กลัดติดเสอื้ มาวางตรงตาแหน่ง
ทต่ี ้องการพนั ทบั ดว้ ยฟลอร่าเทปจนสุดกา้ น
ชอ่ ดอกใหแ้ นน่

๑๑.นาปลายลวดทเ่ี หลือพันกับแท่งปากกา
แลว้ ดงึ ออกจะไดก้ ้านดอกท่มี ีปลายคลา้ ย
หนวดตาลงึ

๑๒.นารบิ บนิ้ มาตกแตง่ ให้สวยงาม

๑๓.จะได้ชอ่ ดอกไมต้ ิดเสื้อดงั รปู

๓๔ ๓๔

เทคนคิ กำรประกอบ ๑.การพันด้วยฟลอร่าเทปจะต้องพันใหอ้ ยใู่ น
ชอ่ ดอก ลกั ษณะแนวเฉยี งและในขณะพนั ใหด้ ึงยดื
ฟลอรา่ เทปแล้วใช้น้วิ หวั แม่มอื และน้ิวชีก้ ดทับ
ข้อควรระวงั เพ่อื ใหก้ า้ นดอกมีความเรยี บสวยงาม
๒.การเสริมกา้ นดอกดว้ ยกระดาษทิชชูจะต้องตัด
กระดาษทชิ ชใู หม้ ีความกว้าง ๑ เซนติเมตร ยาว
๒๐ เซนตเิ มตร นามาพนั เสริมกา้ นดอกทากาว
ลาเทก็ ซใ์ ห้มขี นาดใหญ่
๓.การวางดอกตูม ดอกแย้ม และดอกบาน
เรียงลาดับแต่ละชนั้ ให้ลดหล่ันสับหวา่ งกันลงมา

๑. ควรทงิ้ ระยะใหป้ ืนกาวรอ้ นมากพอทจ่ี ะทาให้แท่งกาวละลาย และควรเว้นระยะให้ปืนกาวรอ้ น
เต็มที่ก่อนจะนาไปติดช้นิ งานตอ่ ไป
๒. อยา่ จับทีป่ ลายปนื กาวโดยเด็ดขาดเพราะมคี วามร้อนสูง
๓. กาวทลี่ ะลายจะมีความร้อนสงู เชน่ กนั ดงั นน้ั ควรระวังไม่ให้โดนส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายขณะใช้งาน
๔. ควรเพ่มิ ความระวงั มากข้นึ เม่ือใช้ปนื กาวขนาดใหญ่ ๔๐-๘๐ โวลต์เพราะความรอ้ นจะสงู กวา่ ปนื
กาวขนาดเลก็
๕. การใช้กรรไกรควรระวงั อย่าใหค้ มกรรไกรบาดมือ

สรปุ

ชอ่ ดอกไมต้ ิดเสอ้ื จากฝักกระถินแห้งเป็น การนาวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติจากพชื คือ ฝักกระถนิ แห้ง
และลูกอินทนิลแหง้ ทห่ี าได้ทว่ั ไปในท้องถิ่นมาประดิษฐ์เป็นช่อดอกไม้ตดิ เสื้อจากฝกั กระถนิ แห้งเป็นเขม็
กลัดตดิ เสื้อ โดยไมต่ อ้ งซื้อหาสามารถเกบ็ ไวไ้ ดโ้ ดยไม่เห่ยี วเฉาทิ้ง สามารถนาไปขาย หรอื ใชต้ กแตง่ ตาม
งานวันสาคัญต่างๆ นอกจากนีย้ ังเป็นการฝกึ ความร่วมมือความอดทนในประปฏิบัตงิ านอีกดว้ ย

๓๕ ๓๕

กิจกรรมที่ ๓

คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนทากลบี ดอกและการประกอบชอ่ ดอกจากกจิ กรรม
ใหน้ กั เรยี นประดิษฐช์ ่อดอกไม้ติดเสอื้ จากฝักกระถนิ แหง้ ตามลาดับ
ข้ันตอนจากกิจกรรม

ลำดับขั้นตอนกำรประดิษฐ์ดอกบำนกำรประกอบช่อดอก

๑. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาขนั้ ตอนการประดิษฐด์ อกบานการประกอบชอ่ ดอกจากใบความรู้

๒. ใหน้ กั เรยี นจดั เตรยี มวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการปฏบิ ัติใหพ้ ร้อม
๓. นักเรียนประดิษฐด์ อกบานประกอบชอ่ ดอกทาเข็มกลัดติดเสื้อตามข้ันตอนทีก่ าหนด

๓๖ ๓๖

แบบทดสอบหลงั เรียน
เรือ่ ง ช่อดอกไมต้ ดิ เส้ือจำกฝกั กระถินแห้ง

คาช้แี จง ๑. ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบท่ีถูกทสี่ ดุ เพียงคาตอบเดียวและกาเคร่ืองหมายกากบาท (X)
ลงในกระดาษคาตอบ
๒. ขอ้ สอบมีจานวน ๑๐ ข้อ คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนนเวลา ๑๐ นาที
๓. เมอื่ ทาแบบทดสอบเสรจ็ แล้วใหส้ ่งกระดาษคาถามพร้อมกระดาษคาตอบคนื เพื่อบนั ทึกคะแนน
๑.“การเรยี งกลบี ดอกชน้ั ที่ ๑ จัดชอ่ งวา่ งให้มีระยะหา่ งของแต่ละกลีบให้มีขนาดเท่าๆ กันทกุ กลีบ”
จากข้อความที่กาหนดให้คาตอบข้อใดถูกต้อง
ก. ลาดับข้นั ตอนการประกอบดอกไม้
ข. แนวปฏิบตั ิการประดิษฐด์ อกไม้
ค. เทคนคิ การประกอบดอกไม้
ง. หลักการประดษิ ฐ์ดอกไม้ท่ถี ูกตอ้ ง
๒. ขอ้ ใดเป็นข้ันตอนสุดท้ายในการประดิษฐด์ อกไม้ จากฝกั กระถนิ แหง้
ก. การประกอบกลีบดอก
ข. การตกแตง่ ขอบกลบี ดอก
ค. ตรวจสอบความเรยี บร้อยของชิน้ งาน
ง. การเข้าชอ่ ดอกตกแต่งด้วยเข็มกลัด
๓. ลวดก้านชอ่ ดอกควรเลอื กขนาดตามข้อใดถูกต้องทส่ี ุด
ก. เบอร์ ๑๔ ยาว ๘ เซนติเมตร
ข. เบอร์ ๑๖ ยาว ๑๐ เซนติเมตร
ค. เบอร์ ๑๘ ยาว ๑๒ เซนติเมตร
ง. เบอร์ ๒๐ ยาว ๑๔ เซนตเิ มตร
นาขอ้ ความทกี่ าหนดให้ไปตอบคาถามข้อ ๔
๑. เตรยี มลกู อนิ ทนลิ แหง้ ขนาดกลางมีกา้ นขัว้ (สาหรบั ยดึ กลีบดอก) เป็นเกสรดอก
๒. นากลีบดอกขนาดเลก็ มาประกอบกบั เกสรดอกให้ครบตามจานวน
๓. จดั เรยี งกลบี จดั ช่องวา่ งของแต่ละกลีบให้มขี นาด เท่าๆกนั
๔. นากลบี ขนาดกลางตดิ กบั เกสรดอกใหบ้ านออก ๒มิลลิเมตร
๕. จดั ความสูงของกลบี ดอกให้เทา่ กบั กลบี ขนาดเล็กจดั ช่องวา่ งของแตล่ ะกลีบให้มีขนาด เท่าๆกนั จนครบตาม
จานวน
๖. นากลบี ขนาดใหญต่ ิดกบั เกสรดอกให้บานออก ๒ มิลลิเมตร จัดความสูงให้เท่าๆกนั เรียงกลีบจนครบจานวน

๓๗ ๓๗

๔. จากข้อความท่กี าหนดให้ข้อใดเรียงลาดับข้ันตอนการประดษิ ฐ์ดอกบานไดถ้ ูกต้อง
ก. ๑ - ๒ - ๓ - ๔ - ๕ - ๖
ข. ๑ - ๒ - ๔ - ๓ - ๕ - ๖
ค. ๑ - ๒ - ๔ – ๓ - ๖ - ๕
ง. ๑ - ๓ - ๕ - ๒ - ๔ - ๖

๕. จานวนกลีบตามข้อใดทน่ี ามาใช้การประกอบดอกบาน
ก. ขนาดเล็ก ๓ กลีบ ขนาดกลาง ๔ กลีบ ขนาดใหญ่ ๕ กลบี
ข. ขนาดเลก็ ๔ กลีบ ขนาดกลาง ๕ กลีบ ขนาดใหญ่ ๖ กลบี
ค. ขนาดเลก็ ๕ กลีบขนาดกลาง ๖ กลบี ขนาดใหญ่ ๗ กลีบ
ง. ขนาดเล็ก ๖ กลีบ ขนาดกลาง ๗ กลบี ขนาดใหญ่ ๘ กลบี

๖. การประดิษฐด์ อกไมจ้ ากฝักกระถินแห้งจะเลือกใชว้ สั ดุข้อใดมาทาใบไมจ้ ึงจะเหมาะสมท่ีสุด
ก. ใบแก้วแห้ง
ข. ใบมะมว่ งแหง้
ค. ใบฝกั กระถนิ แหง้
ง. ใบไมส้ าเรจ็ สเี ขียว

๗. ลกั ษณะของดอกบานข้อใดถูกต้อง
ก. กลีบดอกแตล่ ะชั้นจะมขี นาดเท่าๆกนั เรยี งสบั หว่างเล่ียงหว่าง บานออก ๒ มลิ ลิเมตร
ข. กลีบดอกแต่ละชัน้ จะมีความสงู ลดหลน่ั กนั ไปบานออก ๒ มิลลิเมตร
ค. การจัดกลบี จะตอ้ งเรียงกลบี ไมจ่ ดั สบั หว่างและเลีย่ งหวา่ งบานออก ๒ มิลลิเมตร
ง. เรยี งกลีบจัดช่องวา่ งเท่าๆกนั กลบี แตล่ ะชัน้ เรียงสับหวา่ งและเลี่ยงหว่างความสูงของกลบี
แต่ละช้ันเสมอกนั บานออก ๒ มิลลิเมตร

๘. ข้อใดคือสว่ นประกอบของช่อดอกไม้จากฝกั กระถินแห้ง
ก. ดอกไม้ ใบไม้ กา้ นดอกริบบิ้น
ข. ดอกไมใ้ บไม้ กา้ นดอก รบิ บ้ินเข็มกลัด
ค. ดอกไม้ กลบี เลย้ี งใบไม้ กา้ นดอกเขม็ กลดั
ง. ดอกตูม ดอกแยม้ ดอกบาน กลีบเลีย้ ง ใบไม้ กา้ นดอก

๙. เทคนิคการประกอบช่อดอกข้อใดถูกตอ้ งท่สี ดุ
ก. ใบจะเลอื กใช้ใบไมแ้ หง้ หรือใบไมจ้ ากผา้ ตามต้องการ
ข. การวางดอกตูม ดอกแยม้ และดอกบาน แตล่ ะชน้ั ใหอ้ ยู่ในระดับเดียวกัน
ค. เสริมกา้ นดอกด้วยใบเสริมก้านและเส้นลวดเบอร์ ๒๐ พนั ทับด้วยฟลอร่าเทป
ง. การพนั ด้วยฟลอรา่ เทปจะต้องพันในลักษณะแนวเฉียงและในขณะพนั ให้ดึงยืดฟลอรา่ เทป

ใช้นิว้ หวั แม่มอื และน้วิ ชกี้ ดทับเพ่ือให้กา้ นดอกมีความเรยี บในระดบั เดยี วกนั

๓๘ ๓๘

จงพจิ ารณาข้อความต่อไปน้แี ล้วตอบคาถามในข้อท่ี ๑๐
๑. นาดอกตมู ๑ ดอก เข้าช่อ กับกา้ นดอกพนั ทบั ดว้ ยฟลอร่าเทป สีน้าตาล
๒. ตดั ลวดเบอร์ ๑๘ ยาว ๑๓ เซนตเิ มตรจานวน ๑ เส้นเป็นก้านชอ่ ดอก
๓. นาดอกบานเข้าช่อลดหล่ันกนั ลงมากะระยะพองามประมาณ ๔ เซนตเิ มตรพันทับด้วยฟลอร่าเทป
สนี า้ ตาลแลว้ ประกอบใบ
๔. นาดอกแยม้ เข้าชอ่ ลดหลน่ั กนั ลงมาประมาณ ๑.๕ เซนตเิ มตร พันทับดว้ ยฟลอร่าเทปสนี า้ ตาล

แลว้ ประกอบใบ
๕. นาลวดทเี่ หลอื พนั กบั แทง่ ปากกา แลว้ นามายืดออกติดเขม็ กลดั ตาแหน่งท่ีตอ้ งการ

๑๐. จากข้อความท่กี าหนดใหข้ ้อใดเรียงลาดบั ขน้ั ตอนการเขา้ ชอ่ ดอกไมจ้ ากฝักกระถนิ ได้ถกู ต้องทีส่ ดุ
ก. ๒ – ๓ – ๑ – ๔ – ๕
ข. ๒ – ๑– ๔ – ๓ - ๕
ค. ๑ - ๒ – ๓ – ๔ - ๕
ง. ๒ – ๑ – ๓ – ๔ – ๕

๓๙ ๓๙

บรรณำนุกรม

เตือนใจ ชสู าฤทธ.์ิ ดอกไม้ประดษิ ฐ.์ กรุงเทพมหานคร:บรษิ ัทไทยวฒั นาพานชิ จากัด,๒๕๔๘
เพญ็ ทิพย์ นาคสวุ รรณ์.ฝีมือและอำชีพ.กรงุ เทพมหานคร:บริษัทอินเตอร์ลง้ิ คโ์ ปรซายน์ จากัด, มปป.
ภาสรุ ี ฮามวงศ.์ งำนประดษิ ฐ์จำกเศษวัสดธุ รรมชำต.ิ กรงุ เทพมหานคร: แอป๊ ป้า พร้นิ ติ้ง กรปุ๊ จากัด,
๒๕๕๒.
ลาวลั ย์ ภักดีลขิ ติ .ไอเดยี ใสจำกใบบำง.กรงุ เทพมหานคร: โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๕

เตอื นใจ ชสู ำฤทธ์ิ. ดอกไม้ประดษิ ฐ.์ กรุงเทพมหานคร บริษัทไทยวฒั นาพานิชจากัด 2548
เพ็ญทพิ ย์ นำคสวุ รรณ.์ ฝีมอื และอาชีพ.บรษิ ทั อนิ เตอร์ลงิ้ ค์โปรซายน์ จากดั .มปป.
ลำวลั ย์ ภักดีลิขิต.ไอเดยี ใสจากใบบาง.กรงุ เทพมหานคร.โอเดยี นสโตร์.2545
ศกุนตลำ ครำ้ มอำ่ .ดอกไม้เกรด็ ปลา.Absolute Idea.2543

๔๐ ๔๐

ภาคผนวก

๔๑ ๔๑

กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลงั เรยี น
วิชำ งำนประดิษฐ์จำกเศษวัสดธุ รรมชำติ
เร่อื ง ชอ่ ดอกไมต้ ดิ เสอื้ จำกฝักกระถนิ แหง้

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๔

ช่อื ............................................................................ชัน้ .......................เลขท่.ี ...................
โรงเรยี น..........................................อาเภอ.........................จงั หวัด.....................................

กระดำษคำตอบก่อนเรียน กระดำษคำตอบหลังเรยี น

ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง
๑ ๑
๒ ๒
๓ ๓
๔ ๔
๕ ๕
๖ ๖
๗ ๗
๘ ๘
๙ ๙
๑๐ ๑๐

แบบบนั ทกึ คะแนนกอ่ นเรียน แบบบันทกึ คะแนนหลังเรียน

คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้
๑๐ ๑๐

๔๒ ๔๒

แบบประเมินกระบวนกำรปฏบิ ัติงำน/ประเมนิ ผลงำน

กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ รายวิชา งานประดษิ ฐ์จากเศษวัสดธุ รรมชาติ
ชื่อ – สกุล ......................................................................... ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ เลขที่ ...........
หนว่ ยที.่ .......... ชอ่ื หนว่ ย ..................................................................................................................

ระดบั คะแนน

ขอ้ ท่ี รำยกำรประเมิน ๔ ๓ ๒๑

ประเมินกระบวนกำรปฏบิ ัติงำน

๑ การเตรียมวสั ดุและอปุ กรณ์

๒ การเลือกใช้วัสดแุ ละอุปกรณ์

๓ ความถูกตอ้ งของขน้ั ตอนในการปฏบิ ตั ิงาน

๔ เวลาท่ีใชใ้ นการปฏิบตั งิ าน

๕ ความปลอดภัยจากการปฏบิ ัติงาน

๖ ความสิ้นเปลืองในการใช้วสั ดุ

ประเมนิ ผลงำน

๗ คุณภาพของช้นิ งาน

๘. ผลงานมคี วามประณีต

๙. ความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์

๑๐ ประโยชน์ใช้สอย

รวม

รวมท้ังหมด

เกณฑ์กำรพิจำรณำ ลงชอ่ื .............................................. ผู้ประเมิน
ระดับคะแนน ๔หมายถงึ ดีมาก (นางเพ็ญวดี ค้าสุวรรณ)
ระดบั คะแนน ๓หมายถึง ดี
ระดบั คะแนน๒หมายถึง ปานกลาง
ระดับคะแนน ๑หมายถึง ปรบั ปรงุ

๔๓ ๔๓

เกณฑก์ ำรประเมินผลกำรปฏบิ ตั งิ ำน

ผูป้ ระเมิน ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมนิ โดยเพือ่ น ❑ ประเมินโดยครูผสู้ อน

องค์ประกอบ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน
ท่ปี ระเมิน
๑.การเตรยี ม ๔คะแนน ๓คะแนน ๒คะแนน ๑คะแนน
วสั ดแุ ละ จัดเตรยี มวัสดุและ ขาดวสั ดุและ
อปุ กรณ์ อปุ กรณ์อย่างครบถว้ น เตรียมวัสดุครบ ขาดวัสดุและ อุปกรณจ์ นไม่
และอยู่ในสภาพท่ใี ช้ สามารถปฏิบตั ิงาน
๒.การเลือกใช้ งานได้ดี ขาดอปุ กรณ์ อปุ กรณ์บางอย่าง ได้
วัสดแุ ละ
อุปกรณ์ ใชว้ ัสดแุ ละอุปกรณ์ บางอยา่ ง แต่ยัง แตย่ ังสามารถ ใช้วัสดุและอุปกรณ์
อย่างเหมาะสมกบั งาน ไมเ่ หมาะสมกับงาน
คานงึ ถึงความประหยัด สามารถปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ัตงิ านได้ และไม่คานงึ ถึง
ค้มุ คา่ และปลอดภยั ความประหยดั และ
จนสาเรจ็ ได้ ความปลอดภยั

ใช้วสั ดุและอปุ กรณ์ ใช้วสั ดแุ ละ

บางอยา่ งไม่ อปุ กรณ์บางอย่าง

เหมาะสม แต่ ไมเ่ หมาะสมกับ

คานงึ ถงึ ความ งาน และไม่

ประหยัด ค้มุ คา่ คานงึ ถงึ ความ

และปลอดภัย ประหยดั และ

เล็กน้อย ความปลอดภยั

๓. ความถกู ต้อง ปฏบิ ัติงานประดิษฐ์ มกี ารปฏบิ ัติงานผิด มีการปฏบิ ัติงาน ไม่ปฏบิ ตั ิงานตาม

ของข้นั ตอนใน กลบี ดอกจากฝัก ข้นั ตอนบ้างแตไ่ ม่ ผดิ ขน้ั ตอนจนทา ขนั้ ตอนจนทาให้
การปฏิบัตงิ าน กระถินแหง้ ได้ถูกตอ้ ง
ทาให้เกดิ ความ ให้เกดิ ความ เกดิ ความเสียหาย
ตามข้ันตอน
เสียหายตอ่ ชนิ้ งาน เสียหายต่อ ต่อชิ้นงาน

ชิ้นงาน

๔. เวลาท่ีใชใ้ น เหลอื เวลาตามกาหนด เหลือเวลาตาม เสรจ็ ทันเวลาที่ เลยเวลาทก่ี าหนด
กาหนด ๑๐ %
การปฏบิ ตั งิ าน ๕๐% กาหนด ๒๕%

๕. ความ มีความปลอดภยั โดยครู มคี วามปลอดภยั มปี ัญหาอปุ สรรค มปี ญั หาอุปสรรค

ปลอดภยั ในการ ไมต่ ้องควบคุมดูแล โดยครตู อ้ ง แก้ไขได้ดว้ ย เล็กน้อยเพื่อนต้อง

ปฏบิ ัติงาน ควบคมุ ดแู ล ตวั เอง แกไ้ ขให้

๖. ความ ใชว้ สั ดุตามทกี่ าหนด ใชว้ ัสดุมากกว่าท่ี ใชว้ สั ดมุ ากกวา่ ท่ี ใชว้ ัสดุมากกวา่ ท่ี
ส้ินเปลอื งในการ กาหนด ๑๐% กาหนด ๓๐% กาหนด ๕๐%
ใช้วสั ดุ

๔๔ ๔๔

เกณฑก์ ำรประเมินผลกำรปฏบิ ัตงิ ำน

ผูป้ ระเมนิ ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมนิ โดยเพ่อื น ❑ ประเมินโดยครผู ู้สอน

องคป์ ระกอบ เกณฑ์กำรให้คะแนน

ทีป่ ระเมนิ ๔คะแนน ๓คะแนน ๒คะแนน ๑คะแนน

๗ คุณภาพของ มรี ปู ทรงท่สี วยงาม มีขอ้ บกพร่อง มขี ้อบกพร่อง ผลงานไม่มีคุณภาพ

ช้นิ งาน ขนาดสมา่ เสมอ บ้างเลก็ นอ้ ย จานวนมาก ไมส่ ามารถใช้งานได้

ประณตี และเรียบรอ้ ย

๘. ผลงาน มคี วามประณตี มีความประณีต มีความประณีต มีความสวยงามแต่

มคี วามประณตี สวยงามมากกวา่ แบบ สวยงามตามแบบ และสวยงามใน ไม่มีความประณตี

กาหนด บางสว่ น

๙.ความคิดรเิ รม่ิ ใชค้ วามคดิ รเิ ริ่ม ใชค้ วามคดิ ริเรม่ิ ใน สามารถสร้าง ไม่สามารถสร้าง

สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ในการสร้าง การสรา้ งผลงาน ผลงานได้ ผลงานได้
ผลงานให้มีคุณภาพ

๑๐.ประโยชน์ ผลงานมคี วาม ผลงานมี ผลงานสามารถใช้ ผลงานไมส่ ามารถ

ใชส้ อย เหมาะสมกับการ ข้อบกพร่องในการ งานไดบ้ างส่วน นาไปใชป้ ระโยชน์

ใชง้ าน ใชง้ าน ได้

เกณฑก์ ำรตดั สินคุณภำพ ได้คณุ ภาพ ระดบั ๔
ไดค้ ุณภาพ ระดบั ๓
คะแนน ๓๔ - ๔๐ คะแนน หมายถึง ดีมาก ไดค้ ุณภาพ ระดบั ๒
คะแนน ๒๖ - ๓๓ คะแนน หมายถงึ ดี ได้คณุ ภาพ ระดับ ๑
คะแนน ๑๘ - ๒๕ คะแนน หมายถงึ ปานกลาง
คะแนน ๑๐ - ๑๗ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง

กำรผำ่ นเกณฑก์ ำรวดั และประเมนิ
(เทียบคะแนนเต็ม ๔๐ ให้เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)

คะแนนเตม็ ๑๐ นักเรียนต้องไดค้ ะแนนตั้งแต่ ๘ คะแนนข้นึ ไป หรอื คิดเป็นร้อยละ ๘๐ ถอื วา่
ผา่ นเกณฑ์

๔๕ ๔๕

กำรประเมินคุณลักษณะกำรปฏิบัตงิ ำนตำมใบงำน
เรื่อง ชอ่ ดอกไมต้ ิดเสอ้ื จำกฝักกระถินแห้ง

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ รายวชิ า งานประดษิ ฐจ์ ากเศษวัสดุธรรมชาติ
ช่อื – สกุล .............................................................................. ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ เลขที่ ...........
หน่วยท.่ี .......... ชื่อหนว่ ย .....................................................................................................................

ข้อที่ รำยกำรประเมิน ๔ ระดับคะแนน ๑
๓๒
กำรประเมนิ คุณลกั ษณะกำรปฏิบตั ิงำนตำมใบงำน
๑ การวเิ คราะห์ปัญหาและข้อบกพร่องของชน้ิ งาน
๒ คุณลกั ษณะในการทางาน
๓ ความสามารถในการทางาน
๔ การรักษาความสะอาด
๕ เจตคตติ อ่ การทางานเหน็ คุณค่าของงาน
รวม
รวมท้ังหมด

เกณฑ์กำรพจิ ำรณำ ลงชอ่ื .............................................. ผู้ประเมนิ
ระดับคะแนน ๔ หมายถึง ดมี าก (นางเพ็ญวดี ค้าสวุ รรณ)
ระดับคะแนน ๓ หมายถงึ ดี
ระดับคะแนน ๒ หมายถึง ปานกลาง
ระดับคะแนน ๑ หมายถงึ ปรบั ปรงุ

๔๖ ๔๖

เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ลักษณะกำรปฏบิ ัตงิ ำนตำมใบงำน
เรอ่ื ง ช่อดอกไม้ติดเส้อื จำกฝักกระถินแหง้

ผู้ประเมิน ❑ ประเมินตนเอง ❑ ประเมนิ โดยเพอื่ น ❑ ประเมนิ โดยครูผสู้ อน

องคป์ ระกอบ เกณฑก์ ำรให้คะแนน

ทปี่ ระเมนิ ๔คะแนน ๓คะแนน ๒คะแนน ๑คะแนน

๑๑.การวเิ คราะห์ มีการวเิ คราะหป์ ัญหา มกี ารวิเคราะห์ มกี ารวเิ คราะห์ มีการวิเคราะห์ปญั หา

ปัญหาและ ในการทางาน ปัญหาในการทางาน ปัญหาในการ ในการทางาน

ข้อบกพร่องของ ขอ้ บกพร่องของชน้ิ งาน ข้อบกพร่องของ ทางานข้อบกพร่อง ข้อบกพร่องของ

ช้นิ งาน และเสนอแนวทางใน ช้นิ งาน แต่ยงั เสนอ ของช้ินงาน แต่ไม่ ชนิ้ งานนอ้ ยมากและ

การปรับปรุงและพัฒนา แนวทางในการ เสนอแนวทางใน ไม่เสนอแนวทางใน

ท่เี หมาะสมชดั เจน ปรบั ปรงุ และพัฒนาท่ี การพฒั นาและ การพฒั นาและ

ไมเ่ หมาะสมบา้ ง ปรบั ปรุงงาน ปรับปรงุ งาน

๒.คุณลักษณะ มีทักษะในการรว่ ม มที ักษะในการรว่ ม ทกั ษะในการร่วม ร่วมกจิ กรรมกลุ่มได้

ในการทางาน กิจกรรมกลมุ่ มวี นิ ยั กจิ กรรมกลุ่ม กิจกรรมกลุม่ ขาดมีวินัย ทางาน ไม่

ต้งั ใจพยายาม แสวงหา มีวินัย ต้ังใจพยายาม มีวนิ ยั ทางาน สาเรจ็

วิธีทางานทางานสาเร็จ แสวงหาวธิ ีทางาน จนสาเร็จ

และผลงานมคี ุณภาพ ทางานจนสาเรจ็

๓. ความ เลือก ใชว้ ัสดุ / อปุ กรณ์ เลือก ใช้วัสดุ / สามารถเลอื ก ใช้ เลือก ใช้วัสดุ /

สามารถในการ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั งาน อุปกรณ์ได้อยา่ ง วัสดุ / อุปกรณไ์ ด้ อุปกรณ์ไม่เหมาะสม

ทางาน ปฏิบตั ิงานไดถ้ ูกต้องตาม เหมาะสมกับงาน อย่างเหมาะสมกบั กับงาน ปฏิบัติงานไม่

ข้ันตอนทนั เวลาตามที่ ปฏิบัติงานได้ถูกต้อง งาน ปฏบิ ัตงิ านได้ ถกู ต้องตามขน้ั ตอน

กาหนดสามารถพัฒนา ตามขั้นตอนทนั เวลา ถูกต้องตามขั้นตอน ไมท่ นั เวลาตามที่

งานได้ ตามท่กี าหนดไม่ ไมท่ นั เวลาตามท่ี กาหนด

สามารถพฒั นางาน กาหนด

๔.การรักษา รกั ษาความสะอาด รักษาความสะอาด รกั ษาความ ไม่ไดม้ ีการทาความ

ความสะอาด ของวสั ดแุ ละอุปกรณ์ ของวสั ดแุ ละอปุ กรณ์ สะอาดของวสั ดุ สะอาดวสั ดแุ ละ

พ้นื ทบ่ี ริเวณทางานทั้ง พืน้ ท่ีบริเวณทางาน และอุปกรณ์ อปุ กรณ์ พนื้ ท่บี ริเวณ

ระหว่างปฏิบัตงิ านและ ยงั เก็บทาความ ไม่ทาความสะอาด ทางานเลย

หลัง จากปฏบิ ัตงิ าน สะอาดไม่ค่อย พ้นื ทบ่ี รเิ วณทางาน

เรียบรอ้ ยแลว้ เรียบรอ้ ย


Click to View FlipBook Version