- ๙๘ -
แบบประเมนิ แผนผงั ความคิด
รายการประเมนิ
ท่ี กลุ่มที่ มคี วามถกู ตอ้ ง การใช้ภาษา การลาดบั เนือ้ หา ความเรยี บร้อย การคดิ วิเคราะห์ รวม
๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔ ๓๒ ๑ 20
คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน ( ลงชอื่ ).........................................................ผปู้ ระเมนิ
4 คะแนน เท่ากบั ดีมาก (.....................................................)
3 คะแนน เทา่ กบั ดี .............../................./....................
2 คะแนน เท่ากับ พอใช้
1 คะแนน เท่ากบั ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
16-20 คะแนน เท่ากบั ดีมาก
11-15 คะแนน เท่ากับ ดี
6-10 คะแนน เท่ากับ พอใช้
1-5 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ
- ๙๙ -
ใบความรู้
เรอื่ ง ความโปร่งใส
ความโปร่งใส (Transparency) หมายถึง การกระทาการใด ๆ ของภาครัฐท้ังในระดับบุคคล
และองคก์ รท่ผี ้อู ่นื สามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ ครอบคลุมถึงทกุ การกระทาที่เป็นผลจาก
การตัดสินใจของผู้บริหาร การดาเนินงานทางธุรกิจ และงานสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การมี
ระบบงานและข้ันตอนการทางานที่ชัดเจน (ซ่ึงจะดูได้จาก กฎระเบียบ หรือประกาศ) การมีหลักเกณฑ์
ประเมินหรือการให้คุณให้โทษท่ีชัดเจน การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา ความ
โปร่งใสจึงเป็นเคร่ืองมือที่สาคัญในการตรวจสอบความถูกต้อง และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต
รวมท้ังนาไปสู่การส ร้างความไว้วางใจซ่ึงกันแล ะกั นท้ังระหว่างผู้ปฏิบัติร่ว มกันในองค์กรเดียวกัน
ระหว่างประชาชนต่อรัฐไปจนถึงระหว่างคนในชาติด้วยกัน ดังนั้น ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน
ภาครัฐหรือภาคเอกชนควรปรับปรุงกลไกการทางานให้มีความโปร่งใส มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารท่ี
เป็นประโยชน์อย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย เพ่ือประชาชนจะได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้
โดยสะดวก และชว่ ยตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการทางานได้
ตัวอย่าง “ความโปร่งใส”
- ๑๐๐ -
ใบงาน
เรื่อง ความโปร่งใสในประเทศไทย
คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นเขียนพฤติกรรมทแี่ สดงถงึ ความโปร่งใสและไม่โปรง่ ใสในประเทศไทย ท่ีนักเรียนไดร้ ับรู้
ขา่ วสารมาอย่างละ ๕ พฤตกิ รรม
พฤติกรรมความโปรง่ ใส
๑. .............................................................................................................................
๒. .............................................................................................................................
๓. .............................................................................................................................
๔. .............................................................................................................................
๕. .............................................................................................................................
พฤติกรรมความไม่โปรง่ ใส
๑. .............................................................................................................................
๒. .............................................................................................................................
๓. .............................................................................................................................
๔. .............................................................................................................................
๕. .............................................................................................................................
- ๑๐๑ -
เฉลยใบงาน
เร่อื ง ความโปรง่ ใสในประเทศไทย
คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเขยี นพฤติกรรมท่ีแสดงถงึ ความโปร่งใสและไมโ่ ปรง่ ใสในประเทศไทย ท่นี กั เรียนไดร้ บั รู้
ข่าวสารมาอยา่ งละ ๕ พฤติกรรม
พฤติกรรมความโปรง่ ใส
๑. เจา้ หน้าทีร่ ฐั ไม่รบั สินบน
๒. ไม่รบั ฝากคนเข้าทางานและเข้าเรยี น
๓. เคารพสิทธิของผูอ้ ื่น ปฏิบัตติ ามกฎหมาย
๔. คานงึ ถึงประโยชนส์ ว่ นรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
๕. ไม่นาของในราชการมาใชห้ รอื มาเป็นของตน
พฤตกิ รรมความไม่โปร่งใส
๑. การวงิ่ เตน้ ใหไ้ ด้ตาแหน่งและซือ้ ตาแหน่ง
๒. การรับเงินเพื่อลงคะแนนเสยี งใหก้ ับนักการเมอื ง
๓. การรีดไถจากเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั
๔. การฝากคนเข้าทางาน
๕. การรบั เงนิ ใตโ้ ตะ๊
- ๑๐๒ -
แบบสงั เกตพฤติกรรม ซ่ือสัตย์สจุ รติ
คาช้แี จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดับคะแนน
ใหข้ ้อมลู ท่ี ปฏบิ ัติในสิง่ ท่ี ปฏิบัติตอ่ ผู้อ่ืน รวม สรปุ
ถูกต้อง และ ถกู ตอ้ ง ละอาย ดว้ ยความ คะแน
เปน็ จรงิ และเกรงกลวั ท่ี ซ่อื ตรง น
จะทาความผิด
ลาดบั ชอ่ื -สกลุ ทาตามสัญญาที่
ที่ ตนใหไ้ ว้กับ
เพ่ือน พอ่ แม่
หรือผ้ปู กครอง
และครู
๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ
ระดบั คุณภาพ ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
ดีเย่ยี ม (...................................................)
ดี ............../.................../................
ผ่าน
ไม่ผา่ น เกณฑก์ ารตดั สนิ
ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน
ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน
ไดค้ ะแนน ๓-๔ คะแนน
ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๐๓ -
แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ความโปรง่ ใสในประเทศไทย
คาชแ้ี จง : ครูให้คะแนนการตรวจผลงานนักเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน
ลาดบั รายการประเมนิ รวม
ท่ี
ช่อื -สกลุ รูปแบบผลงาน ภาษา เนื้อหา เวลา ๑๖
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
(..................................................)
............../.................../................
เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดเี ย่ยี ม
คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี
คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผ่าน
คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถงึ ไม่ผา่ น
- ๑๐๔ -
รายละเอียดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอื่ ง ความโปร่งใสในประเทศไทย
ประเด็นการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
๔๓๒ ๑
๑. รปู แบบผลงาน - มีสสี นั สวยงาม
- รูปแบบผลงาน - รูปแบบผลงาน - มขี นาดเหมาะสม สมั พันธ์กบั เนื้อหา
๒. ภาษา
ถกู ต้องตามท่ี แปลกใหม่ - มีสีสันสวยงาม - มีการใช้ภาษา
๓. เน้อื หา อยา่ งสรา้ งสรรค์
กาหนด - มีขนาดเหมาะสม สัมพนั ธก์ บั เน้ือหา
๔. เวลา - รายละเอยี ด
- รูปแบบแปลกใหม่ - มีสสี นั สวยงาม ครอบคลุม
- เน้ือหาสอดคล้อง
นา่ สนใจ สัมพันธ์กับเนื้อหา
- มขี นาดเหมาะสม
- มสี สี ันสวยงาม
สมั พนั ธก์ บั เน้ือหา
- มีการใชภ้ าษา - สะกดคาถูกต้อง - มกี ารเว้นวรรค
อยา่ งถูกต้อง - มกี ารเวน้ วรรค โดยไมฉ่ ีกคา
- สะกดคาถูกต้อง โดยไมฉ่ กี คา - มกี ารใชภ้ าษา
- มีการเว้นวรรค - มกี ารใชภ้ าษา อยา่ งสร้างสรรค์
โดยไม่ฉกี คา อยา่ งสร้างสรรค์
- มกี ารใช้ภาษา
อยา่ งสร้างสรรค์
- เนือ้ หาถูกต้อง - เน้ือหาตรงตาม - เนื้อหาเปน็ ไป
- เนอื้ หาตรงตาม หวั ข้อเร่ือง ตามท่กี าหนด
หวั ข้อเรือ่ ง - เนอ้ื หาเปน็ ไป - รายละเอยี ด
- เนอ้ื หาเป็นไป ตามที่กาหนด ครอบคลุม
ตามท่ีกาหนด - รายละเอียด - เนอื้ หาสอดคล้อง
- รายละเอียด ครอบคลุม
ครอบคลุม - เน้อื หาสอดคล้อง
- เนอ้ื หาสอดคล้อง
- สง่ ชน้ิ งานภายใน - สง่ ชิ้นงานช้ากว่า
เวลาทกี่ าหนด กาหนด ๑ วนั
- ๑๐๕ -
แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยท่ี ๓ ช่อื หน่วย STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕
เวลา ๑ ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง ความต่นื รู้ และความรู้
๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ
๑.๒ ปฏิบัติตนเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ
๒.๑ นกั เรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจเรื่องการทุจรติ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
๒.๒ นกั เรยี นสามารถอธิบายพฤติกรรมความตื่นร้ตู อ่ การต่อตา้ นทุจริตได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
1) บอกความหมายของคาวา่ “ความตืน่ ร้แู ละความรู้”
2) ระบพุ ฤติกรรมที่เก่ียวกับความตื่นร้แู ละความรู้ตอ่ ต้านการทุจรติ
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กดิ )
๑) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขียน)
๒) ความสามารถในการคดิ (วิเคราะห์ สรปุ )
๓.๓ คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ค่านิยม
ใฝเ่ รยี นรู้
4. กจิ กรรมการเรียนรู้
๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้
๑) ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔-๘ คน ดวู ดิ ีโอ เรือ่ ง รู้ทันกลโกง ตอน ทุจรติ ทาลายชาติ
และครูกับนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายแล้วสรุปเปน็ ผังความคิดและยกตัวอยา่ งพฤติกรรมตอ่ ต้านการทจุ ริต
๒) ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง รปู แบบการทจุ รติ จากผลโพลของนดิ ้า และทา
ใบความรู้ เรื่อง ความต่ืนร้ตู ่อการตอ่ ต้านทจุ ริต
๓) ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ แสดงบทบาทสมมตุ ิยกตัวอย่างรปู แบบการทุจริตจากการศกึ ษาใบงานหนา้
ชั้นเรยี น
๔) ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ รปู แบบของการทจุ ริต โทษของการทจุ ริตและแนวทางการแก้ปญั หาการ
ทจุ ริต
๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
๑) ใบความรู้ เรื่อง รูปแบบการทุจรติ จากผลโพลของนิดา้
๒) วีดิทศั น์ เรอ่ื ง “รู้ทนั กลโกง ตอน ทุจริตทาลายชาติ”
๓) ใบงาน เรอ่ื ง ความตน่ื รตู้ อ่ การต่อต้านทจุ ริต
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
- ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เรอ่ื ง ความตน่ื รู้ต่อการต่อต้านทุจริต
- ครูสงั เกตพฤตกิ รรมใฝ่เรียนรู้ของนักเรยี น
- ๑๐๖ -
๕.๒ เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรอื่ ง ความต่ืนรู้ต่อการต่อต้านทจุ ริต
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรมใฝเ่ รียนรู้ของนักเรียน
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ขึน้ ไป
๖. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอ่ื ................................................ ครผู ู้สอน
(.................................................)
- ๑๐๗ -
7. ภาคผนวก
ใบงาน
เรอ่ื ง ร้ทู นั กลโกง ตอน ทุจรติ ทาลายชาติ
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนชมวีดิโอ เรือ่ ง รู้ทันกลโกง ตอน ทจุ ริตทาลายชาติ จากน้นั ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุม่ ตามความ
เหมาะสม กลุ่มละ 4-8 คน ชว่ ยกันอภปิ รายและร่วมกันเขียนแผนผังความคดิ และยกตัวอย่างพฤตกิ รรม
ต่อตา้ นการทจุ รติ
- ๑๐๘ -
แบบประเมินแผนผงั ความคิด
รายการประเมนิ
ที่ กลมุ่ ท่ี มคี วามถูกต้อง การใช้ภาษา การลาดับเน้ือหา ความเรยี บร้อย การคิดวิเคราะห์ รวม
๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔ ๓๒ ๑ 20
คะแนน
เกณฑก์ ารให้คะแนน ( ลงช่อื ).........................................................ผปู้ ระเมนิ
4 คะแนน เท่ากับ ดีมาก (.....................................................)
3 คะแนน เทา่ กับ ดี .............../................./....................
2 คะแนน เทา่ กบั พอใช้
1 คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
16-20 คะแนน เท่ากับ ดมี าก
11-15 คะแนน เท่ากบั ดี
6-10 คะแนน เท่ากบั พอใช้
1-5 คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรงุ
- ๑๐๙ -
ใบความรู้
เรือ่ ง รูปแบบการทจุ รติ จากผลโพลของนดิ า้
“พฤตกิ รรมการทจุ ริตคอร์รปั ชนั ”
ประชาชนช้กี ารว่ิงเต้นให้ได้ตาแหน่งและซ้อื ตาแหน่ง เป็นการทจุ รติ คอร์รปั ชนั
และยังเคยพบเหน็ พฤติกรรมการแซงคิวผอู้ น่ื มากทสี่ ดุ แต่ไม่คดิ ว่าพฤติกรรมดังกลา่ วเป็น
การทุจรติ คอรร์ ัปชัน
ยา้ การตอ่ ต้านการทุจรติ คอร์รปั ช่นั เปน็ หนา้ ทีข่ องประชาชนคนไทยทกุ ๆ คน
นิด้าโพล ทาการสารวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เก่ียวกับเร่ือง “พฤติกรรมการทุจริตคอร์
รัปชัน” จากการสารวจพบว่า พฤติกรรมที่ประชาชนคิดว่าเป็นการทุจริตคอร์รัปชันมากท่ีสุด อันดับหนึ่ง การ
วิ่งเต้นให้ได้ตาแหน่งและซื้อตาแหน่ง (ร้อยละ ๙๔.๕๕ ) อันดับสอง การรับเงินเพื่อลงคะแนนเสียงให้กับ
นักการเมือง (ร้อยละ ๙๓.๘๖ ) และอนั ดบั สาม การรีดไถจากเจ้าหน้าท่ขี องรัฐ (รอ้ ยละ ๙๒.๑๑)
ท้งั นีป้ ระชาชน ระบวุ า่ ประชาชนคนไทยทกุ ๆ คนมีหน้าท่ีในการต่อตา้ นปัญหาการทจุ รติ คอรร์ ัปชนั (ร้อย
ละ ๖๕.๔๖) ส่วนวิธีการท่ีจะต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันให้ได้ผลนั้น ประชาชนแนะนาว่าควรใช้กฎหมายอย่าง
จรงิ จังและดาเนินการลงโทษผู้กระทาการทุจริตอย่างเด็ดขาด รวมทั้งปลูกฝังจิตสานึก คุณธรรมจริยธรรมให้กับ
เยาวชนต้งั แตว่ ยั เดก็
นอกจากนป้ี ระชาชน ยงั เคยพบเหน็ พฤตกิ รรมการแซงคิวผ้อู ่ืนมากท่สี ดุ (ร้อยละ ๘๕.๑๖) รองลงมา
เคยพบเห็นการขบั รถแทรกผู้อื่นโดย ไมม่ ีการต่อแถว (ร้อยละ ๘๒.๓๘) และ เคยพบเห็นการรับเงนิ เพื่อลงคะแนน
เสียงให้กบั นักการเมือง (ร้อยละ ๗๑.๑๑)
ใบงาน
เร่ือง ความต่ืนรู้ตอ่ การต่อต้านทุจริต
- ๑๑๐ -
คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเขยี นรูปแบบการทจุ ริตและแนวทางแก้ไขการทจุ รติ มาอย่างละ ๕ ข้อ
รูปแบบการทุจรติ
๑. .............................................................................................................................
๒. .............................................................................................................................
๓. .............................................................................................................................
๔. .............................................................................................................................
๕. .............................................................................................................................
แนวทางแกไ้ ขการทจุ ริต
๑. .............................................................................................................................
๒. .............................................................................................................................
๓. .............................................................................................................................
๔. .............................................................................................................................
๕. .............................................................................................................................
- ๑๑๑ -
เฉลยใบงาน
เร่อื ง ความตืน่ รู้ตอ่ การตอ่ ต้านทจุ รติ
คาชแ้ี จง : ให้นกั เรียนเขียนรูปแบบการทุจรติ และแนวทางแกไ้ ขการทุจริต มาอย่างละ ๕ ข้อ
รปู แบบการทจุ ริต
๑. การว่ิงเตน้ ให้ไดต้ าแหน่งและซอื้ ตาแหนง่
๒. การรับเงินเพ่ือลงคะแนนเสยี งใหก้ ับนกั การเมอื ง
๓. การรดี ไถจากเจ้าหน้าทีข่ องรัฐ
๔. การฝากคนเข้าทางาน
๕. การรบั เงินใต้โตะ๊
แนวทางแกไ้ ขการทุจรติ
๑. ปลูกฝังการต่นื รู้ให้แก่ประชาชนตอ่ การต่อตา้ นการทจุ ริตด้วยการรณรงค์
๒. สร้างความตระหนกั ให้ประชาชนละอายตอ่ การทุจรติ คอรัปชน่ั ผา่ นสือ่ ต่างๆ
๓. ใหค้ วามรูโ้ ดยการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การทุจรติ การต่อต้านการทุจรติ ลงไปในหลักสูตร
การศกึ ษา
๔. ปฏบิ ตั ติ นด้วยความเลง็ เห็นโทษของการทุจรติ เคารพสิทธิกฎหมายต่อส่วนรวม
๕. กาหนดการแกป้ ัญหาการทจุ รติ เป็นวาระแห่งชาติ
- ๑๑๒ -
แบบสังเกตพฤตกิ รรม ใฝ่เรียนรู้
คาชแี้ จง : ให้ครสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน
แสวงหาข้อมูล มกี ารจดบนั ทึก สรุปความรู้ได้ รวม สรุป
ลาดบั ช่ือ-สกลุ จากแหล่ง ความร้อู ย่าง อย่างมเี หตุผล คะแน
ท่ี
การเรยี นรู้ต่างๆ เป็นระบบ น
๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ
ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ
(...................................................)
............../.................../................
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ
ดเี ยย่ี ม ไดค้ ะแนน ๗-๙ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน
ผา่ น ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน
ไม่ผา่ น ไดค้ ะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๑๓ -
แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เร่ือง ความตน่ื รตู้ ่อการต่อตา้ นทุจรติ
คาช้แี จง : ครใู หค้ ะแนนการตรวจผลงานนักเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดับคะแนน
ลาดบั รายการประเมนิ รวม
ที่
ชือ่ -สกลุ รปู แบบผลงาน ภาษา เน้ือหา เวลา ๑๖
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน
ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
(..................................................)
............../.................../................
เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดีเยี่ยม
คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี
คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผ่าน
คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ไมผ่ ่าน
- ๑๑๔ -
รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรื่อง ความตน่ื รตู้ ่อการต่อต้านทจุ รติ
ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน
ประเมิน
๔๓๒๑
๑. รปู แบบผลงาน
- รูปแบบผลงาน - รูปแบบผลงาน - มขี นาดเหมาะสม - มีสีสั นสว ยงา ม
๒. ภาษา
ถู ก ต้ อ ง ต า ม ที่ แปลกใหม่ - มีสีสั นสว ยงา ม สมั พันธ์กบั เนอื้ หา
๓. เน้อื หา
กาหนด - มีขนาดเหมาะสม สมั พันธก์ บั เนื้อหา
๔. เวลา
- รปู แบบแปลกใหม่ - มีสีสั นสว ยงา ม
นา่ สนใจ สัมพนั ธ์กับเนือ้ หา
- มีขนาดเหมาะสม
- มีสีสั นสว ยงา ม
สมั พนั ธ์กบั เน้อื หา
- มี ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า - สะกดคาถูกตอ้ ง - มีการเว้นวรรค - มี ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า
อย่างถกู ตอ้ ง - มีการเว้นวรรค โดยไม่ฉีกคา อย่างสรา้ งสรรค์
- สะกดคาถกู ตอ้ ง โดยไมฉ่ กี คา - มี ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า
- มีการเว้นวรรค - มี ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า อย่างสรา้ งสรรค์
โดยไม่ฉกี คา อย่างสร้างสรรค์
- มี ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า
อยา่ งสรา้ งสรรค์
- เนื้อหาถกู ต้อง - เน้ือหาตรงตาม - เ น้ื อ ห า เ ป็ น ไ ป - ร า ย ล ะ เ อี ย ด
- เน้ือหาตรงตาม หวั ขอ้ เรอ่ื ง ตามทีก่ าหนด ครอบคลุม
หวั ขอ้ เร่ือง - เ น้ื อ ห า เ ป็ น ไ ป - ร า ย ล ะ เ อี ย ด - เนื้อหาสอดคลอ้ ง
- เ นื้ อ ห า เ ป็ น ไ ป ตามทก่ี าหนด ครอบคลุม
ตามทีก่ าหนด - รายละเอียด - เนื้อหาสอดคล้อง
- รายละเอียด ครอบคลุม
ครอบคลุม - เนอ้ื หาสอดคลอ้ ง
- เน้อื หาสอดคล้อง
- ส่งช้ินงานภายใน - ส่งช้ินงานช้ากว่า
เวลาที่กาหนด กาหนด ๑ วนั
- ๑๑๕ -
แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยท่ี ๓ ชือ่ หนว่ ย STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕
เวลา ๒ ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ เรอ่ื ง ตอ่ ตา้ นทุจริต
๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG / จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ
๑.๒ ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้ทู ่ี STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรยี นสามารถยกตวั อย่างโทษของการทุจรติ ได้
๒.๒ นกั เรียนสามารถระบพุ ฤติกรรมที่เป็นการต่อตา้ นการทุจรติ ได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
1) ความหมายของการทจุ ริต
2) ยกตัวอย่างพฤติกรรมท่ีบ่งบอกถงึ การต่อต้านการทจุ ริต
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กดิ )
๑) ความสามารถในการสื่อสาร (อา่ น ฟัง พูด เขียน)
๒) ความสามารถในการคดิ (วเิ คราะห์ สรปุ )
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม
ซือ่ สัตย์ สจุ รติ
๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี ๑
๑) ครูชแ้ี จงวัตถุประสงค์การเรยี นรูใ้ ห้กับนักเรยี นได้ทราบและแบ่งกลมุ่ นักเรยี น ออกเป็นกลุ่มละ
๕-๘ คน อย่างละเท่ากนั
๒) ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ชมวิดโี อ เร่อื ง รทู้ ันการโกง ตอน ผลประโยชน์ทับซ้อน ภัยเงยี บทาลาย
ชาติ
๓) ครูยกตัวอย่างโทษของการทุจริตใหน้ กั เรยี นได้ฟงั และใหน้ ักเรียนทาใบงาน เรื่อง โทษของการ
ทจุ รติ
๔) ครใู ห้นักเรียนช่วยกันระดมสมองวางแผนบทบาทสมมตุ ิในหัวข้อ “พฤติกรรมทต่ี ่อต้านการ
ทจุ ริต”
ชว่ั โมงท่ี ๒
1) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอบทบาทสมมตุ ิ และรว่ มกันสนทนาซักถามถึงผลดีท่ีจะเกิดขึ้นกบั
ประเทศชาติ
2) ครู และนักเรยี นร่วมกนั สรปุ โทษของการทจุ ริต และแนวทางการปฏบิ ัติตนต่อต้านการทุจริต
๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
๑) VDO เรื่อง ร้ทู ันการโกง ตอน ผลประโยชน์ทบั ซ้อน ภัยเงยี บทาลายชาติ
๒) ใบงาน เรอ่ื ง โทษของการทจุ ริต
- ๑๑๖ -
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ
- ครูตรวจผลงานการทาใบงาน เร่อื ง โทษของการทุจริต
- ครูสังเกตใหค้ ะแนนพฤติกรรมการแสดงบทบาทสมมติของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่
- ครูสังเกตพฤตกิ รรมซือ่ สัตย์สจุ ริตของนักเรียน
๕.๒ เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการประเมิน
- แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอื่ ง โทษของการทจุ รติ
- แบบสังเกตใหค้ ะแนนพฤติกรรมการแสดงบทบาทสมมตขิ องนักเรียนแตล่ ะกลุ่ม
- แบบสังเกตพฤตกิ รรมซื่อสัตย์สจุ รติ ของนกั เรยี น
๕.๓ เกณฑ์การตัดสนิ
- นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ข้ึนไป
๖. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................... ...................................................... ...........
............................................................................................................................. ...................................
ลงชื่อ ................................................ ครผู สู้ อน
(.................................................)
- ๑๑๗ -
7. ภาคผนวก
ใบงาน
เรือ่ ง โทษของการทจุ รติ
คาช้แี จง ให้นกั เรียนร่วมกันอภิปรายกลุ่มเพอื่ นาเสนอความร้ทู ีไ่ ด้รับจากการชมวิดโี อ เรื่อง ร้ทู ันการโกง ตอน
ผลประโยชน์ทับซ้อน ภยั เงยี บทาลายชาติ และรว่ มกันทาใบความรู้ ในประเด็นดงั ต่อไปนี้
๑. ใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งการกระทาทีเ่ ปน็ การทุจริตคอรปั ชั่น
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. ให้นักเรียนบอกผลเสียที่เกดิ จากการทจุ ริตคอรัปชน่ั
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๓. ใหน้ กั เรยี นบอกวิธกี ารป้องกันการทุจรติ คอรัปชั่น
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
- ๑๑๘ -
เฉลยใบงาน
เร่ือง โทษของการทจุ ริต
คาช้แี จง ให้นักเรียนร่วมกันอภปิ รายกลมุ่ เพือ่ นาเสนอความรทู้ ่ไี ดร้ ับจากการชมวดิ โี อ เรื่อง รทู้ ันการโกง ตอน
ผลประโยชนท์ ับซ้อน ภยั เงยี บทาลายชาติ และร่วมกันทาใบความรู้ ในประเด็นดงั ต่อไปนี้
๑. ให้นักเรยี นยกตัวอย่างการกระทาที่เปน็ การทจุ ริตคอรปั ช่นั
- การเสนอโครงการหรือเลือกโครงการท่ีไม่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมาก แต่มโี อกาสทจี่ ะได้
เงนิ ใตโ้ ต๊ะมากกว่า
- การซอ้ื วสั ดุอปุ กรณ์ทต่ี ่ากว่ามาตรฐาน หรือราคาสงู กวา่ ความเปน็ จรงิ
- การจา่ ยเงนิ ให้กับเจา้ หน้าทเี่ พื่อให้มีการยกเวน้ กฎระเบียบท่ีเกี่ยวกบั การบังคบั ใช้กฎหมาย
- การยักยอทรพั ยส์ นิ ของรฐั ไปเป็นของตน
- การซื้อขายตาแหน่งหรือการกระทาที่มีผลกระทบต่อระบบคุณธรรมของราชการ
- การให้และรบั สินบน การข่เู ข็ญบังคับและการให้ส่งิ ล่อใจ
๒. ให้นกั เรียนบอกผลเสียทเ่ี กดิ จากการทุจรติ คอรปั ชัน่
- คอรัปช่นั บ่อนทาลาย และเซาะกร่อนพนื้ ฐานศีลธรรมของทกุ สังคม
- คอรัปชั่นรกุ ลา้ สทิ ธิทางสงั คมและเศรษฐกิจของคนยากจนและอ่อนแอ
- คอรัปชน่ั ทาใหป้ ระชาธิปไตยอ่อนแอ
- คอรัปชนั่ บอ่ นทาลายกฎกติกา กฎหมาย ซ่งึ เปน็ พนื้ ฐานของทกุ สงั คม
- คอรปั ช่นั หน่วยเหนย่ี วการพฒั นา
- คอรัปชัน่ ทาให้สังคมโดยเฉพาะอย่างย่งิ คนยากไร้และผ้ดู ้อยโอกาสไม่ได้รบั ประโยชน์จากระบบ
เศรษฐกิจเสรี
๓. ใหน้ ักเรยี นบอกวิธีการป้องกันการทุจริตคอรปั ช่นั
- ต้องมีความมุ่งมน่ั ต้งั ใจทจ่ี ะอาสาเข้ามาทางานเพอ่ื ประโยชน์ของบ้านเมืองจริง ๆ
- ต้องติดอาวุธทางปญั ญาให้กบั ตัวเองตลอดเวลา นั่นคือ ต้องมคี วามรทู้ เี่ กี่ยวข้องกบั อานาจ
หนา้ ทีข่ อง ป.ป.ช.ภาคประชาชน และตอ้ งแสวงหาความรู้ให้เท่าทนั เทคนิคกลโกง การทจุ ริตคอรัปชน่ั ด้วยวธิ ี
ต่างๆ
- เฝ้าระวงั พ้ืนที่ทเ่ี หน็ ว่าเสี่ยงตอ่ การแสวงหาผลประโยชน์
- ดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ เพื่อรณรงค์ต่อต้านการทุจรติ อยา่ งต่อเนอ่ื งในชมุ ชน หมูบ่ ้าน ตาบล
และในทุกภาคส่วนของสังคมโดยเฉพาะอย่างย่ิงในสถานศกึ ษาทุกระดับ
- ๑๑๙ -
ใบกิจกรรม (แสดงบทบาทสมมตุ )ิ
เร่อื ง “พฤติกรรมทตี่ ่อต้านการทจุ ริต”
คาช้แี จง
๑. ใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม แสดงบทบาทสมมุติ ในหวั ขอ้
“พฤติกรรมท่ีต่อตา้ นการทุจริต” โดยใช้เวลากลุ่มละ ๕ นาที
๒. หากนักเรียนต้องใช้อปุ กรณ์ประกอบการแสดงให้นกั เรียนเตรียมมาเอง
- ๑๒๐ -
แบบสังเกตพฤติกรรม ซอื่ สัตยส์ ุจรติ
คาช้แี จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน
ใหข้ ้อมลู ท่ี ปฏบิ ตั ิในสงิ่ ที่ ปฏิบัตติ อ่ ผู้อื่น รวม สรปุ
ถูกต้อง และ ถูกตอ้ ง ละอาย ดว้ ยความ คะแน
เปน็ จรงิ และเกรงกลวั ที่ ซือ่ ตรง น
จะทาความผิด
ลาดบั ชอ่ื -สกลุ ทาตามสัญญาท่ี
ที่ ตนให้ไวก้ ับ
เพอื่ น พ่อแม่
หรือผู้ปกครอง
และครู
๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ
ระดบั คุณภาพ ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ
ดีเย่ยี ม (...................................................)
ดี ............../.................../................
ผ่าน
เกณฑก์ ารตัดสิน
ไม่ผา่ น ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน
ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน
ไดค้ ะแนน ๓-๔ คะแนน
ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๒๑ -
แบบสงั เกตให้คะแนน
พฤตกิ รรมการแสดงบทบาทสมมติของนักเรยี นแต่ละกลุ่ม
คาชี้แจง : ครูใหค้ ะแนนการตรวจผลงานนกั เรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน
ลาดับ ชอื่ -สกลุ รูปแบบการ รายการประเมนิ เวลา รวม
ที่ นาเสนอ ภาษา เน้ือหา ๔๓๒ ๑๖
๔๓๒๑ ๔๓๒๑๔ ๓ ๒ ๑ ๑ คะแนน
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(..................................................)
............../.................../................
เกณฑก์ ารตัดสิน คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถึง ดเี ยีย่ ม
คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี
คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผ่าน
คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ไมผ่ า่ น
- ๑๒๒ -
รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนพฤตกิ รรมการแสดงบทบาทสมมตขิ องนกั เรยี นแต่ละกลมุ่
ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ประเมนิ
๑. รปู แบบการ ๔๓ ๒ ๑
นาเสนอ - มคี วามคดิ - แสดงถงึ การ
- รปู แบบการ - รูปแบบการ สร้างสรรค์ ต่อตา้ นการทจุ ริต
๒. ภาษา - แสดงถงึ การ
นาเสนอถกู ตอ้ ง นาเสนอถูกตอ้ ง ต่อตา้ นการทุจรติ - มีการใช้ภาษา
๓. เนอื้ หา อยา่ งสรา้ งสรรค์
ตามท่กี าหนด ตามทก่ี าหนด - มกี ารเวน้ วรรค
๔. เวลา โดยไมฉ่ ีกคา - รายละเอยี ด
- รปู การนาเสนอ - รปู การนาเสนอ - มีการใชภ้ าษา ครอบคลุม
อย่างสรา้ งสรรค์ - เนือ้ หาสอดคล้อง
แปลกใหมน่ า่ สนใจ แปลกใหมน่ ่าสนใจ
- เนอ้ื หาเป็นไป
- มีความคิด - มคี วามคดิ ตามที่กาหนด
- รายละเอยี ด
สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ ครอบคลุม
- เนอ้ื หาสอดคล้อง
- แสดงถงึ การ
ตอ่ ตา้ นการทจุ รติ
- มกี ารใชภ้ าษา - สะกดคาถูกต้อง
อย่างถูกต้อง - มีการเวน้ วรรค
- สะกดคาถูกต้อง โดยไม่ฉกี คา
- มีการเวน้ วรรค - มกี ารใช้ภาษา
โดยไมฉ่ กี คา อย่างสรา้ งสรรค์
- มีการใช้ภาษา
อยา่ งสร้างสรรค์
- เนือ้ หาถูกต้อง - เน้อื หาตรงตาม
- เนอ้ื หาตรงตาม หวั ขอ้ เรือ่ ง
หวั ข้อเร่อื ง - เนอ้ื หาเปน็ ไป
- เนื้อหาเปน็ ไป ตามท่ีกาหนด
ตามทกี่ าหนด - รายละเอียด
- รายละเอยี ด ครอบคลุม
ครอบคลุม - เนอ้ื หาสอดคล้อง
- เนอื้ หาสอดคล้อง
- แสดงบทบาท - แสดงบทบาท
สมมุตภิ ายในเวลาที่ สมมตุ ิเกนิ เวลาท่ี
กาหนด กาหนด
- ๑๒๓ -
แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรือ่ ง โทษของการทจุ ริต
คาช้แี จง : ครใู หค้ ะแนนการตรวจผลงานนักเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดับคะแนน
ลาดับ รายการประเมนิ รวม
ที่
ชื่อ-สกลุ รูปแบบผลงาน ภาษา เน้อื หา เวลา ๑๖
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(..................................................)
............../.................../................
เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดเี ย่ยี ม
คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี
คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถงึ ผา่ น
คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถงึ ไม่ผ่าน
- ๑๒๔ -
รายละเอยี ดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอื่ ง โทษของการทุจริต
ประเด็นการ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมนิ
๔๓๒ ๑
๑. รปู แบบผลงาน - มีสสี นั สวยงาม
- รปู แบบผลงาน - รูปแบบผลงาน - มขี นาดเหมาะสม สมั พันธ์กบั เน้ือหา
๒. ภาษา
ถูกต้องตามท่ี แปลกใหม่ - มีสสี นั สวยงาม - มกี ารใชภ้ าษา
๓. เน้ือหา อยา่ งสร้างสรรค์
กาหนด - มีขนาดเหมาะสม สัมพนั ธ์กับเน้ือหา
๔. เวลา - รายละเอยี ด
- รปู แบบแปลกใหม่ - มีสสี นั สวยงาม ครอบคลุม
- เนื้อหาสอดคล้อง
นา่ สนใจ สัมพันธก์ บั เน้ือหา
- มขี นาดเหมาะสม
- มสี ีสันสวยงาม
สัมพนั ธ์กับเน้ือหา
- มีการใชภ้ าษา - สะกดคาถกู ต้อง - มกี ารเว้นวรรค
อย่างถูกต้อง - มีการเวน้ วรรค โดยไมฉ่ ีกคา
- สะกดคาถูกต้อง โดยไม่ฉกี คา - มีการใช้ภาษา
- มกี ารเว้นวรรค - มีการใชภ้ าษา อย่างสร้างสรรค์
โดยไมฉ่ ีกคา อยา่ งสร้างสรรค์
- มกี ารใชภ้ าษา
อย่างสร้างสรรค์
- เนื้อหาถกู ต้อง - เนือ้ หาตรงตาม - เนอ้ื หาเปน็ ไป
- เน้ือหาตรงตาม หัวขอ้ เรื่อง ตามที่กาหนด
หวั ขอ้ เรอื่ ง - เนอ้ื หาเป็นไป - รายละเอียด
- เนอื้ หาเปน็ ไป ตามท่กี าหนด ครอบคลุม
ตามทกี่ าหนด - รายละเอยี ด - เนือ้ หาสอดคล้อง
- รายละเอียด ครอบคลุม
ครอบคลุม - เนื้อหาสอดคล้อง
- เนอื้ หาสอดคล้อง
- ส่งชิน้ งานภายใน - สง่ ชิน้ งานชา้ กวา่
เวลาท่กี าหนด กาหนด ๑ วัน
- ๑๒๕ -
แผนการจดั การเรยี นรู้
หน่วยท่ี ๓ ช่ือหน่วย STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕
เวลา ๑ ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๕ เรอ่ื ง มงุ่ ไปขา้ งหนา้
๑. ผลการเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับ STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจริต
๑.๒ ปฏิบัตติ นเปน็ ผูท้ ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจริต
๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๒.๑ นกั เรียนสามารถอธิบายแนวคดิ ของการมุ่งไปข้างหนา้ ด้วยการไม่ทุจริตคอรปั ชั่นได้
๒.๒ นกั เรยี นสามารถระบุพฤตกิ รรมของการมุ่งไปขา้ งหน้าให้ประเทศไทยปราศจากการทุจรติ ได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
ความหมายของการมงุ่ ไปข้างหนา้
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กดิ )
๑) ความสามารถในการส่ือสาร (อ่าน ฟัง พูด เขียน)
๒) ความสามารถในการคดิ (วิเคราะห์ จดั กลุ่ม สรปุ )
๓.๓ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ค่านิยม
มุ่งม่นั ในการทางาน
๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้
1) ครชู ้แี จงวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรแู้ ละอภิปรายให้เหน็ ถงึ ภยั ของการทุจริตคอรัปชั่น การเปลี่ยนวถิ ี
คดิ ใหมใ่ นการปฏบิ ัตติ นให้ถกู ตอ้ งใช้หลกั คุณธรรมมาใชใ้ นการดารงชวี ิตให้นกั เรียนได้ฟงั และเปิด
โอกาสให้นกั เรียนไดซ้ ักถาม
2) ครูให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆกันและศึกษาวดิ โี อ เรอื่ ง “The Bridge”และรว่ มกันอภิปราย
สนทนาวา่ ทาไม พอ่ ของเด็กถึงเลือกสละชีวติ ลูกชายของตนเอง โดยแตล่ ะกลุม่ ช่วยกันสรปุ ความรทู้ ่ี
ได้รบั
3) ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบงาน เรอ่ื ง ประโยชน์สว่ นตนกับประโยชนส์ ่วนรวม
4) ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนนักเรียนออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียนในประเดน็ ท่ีศกึ ษาและทา
ใบความรู้
5) นักเรยี นและครรู ่วมกันสรปุ บทเรียน แนวทางของการพฒั นาความรู้ เพื่อจะไดเ้ ปน็ แนวทางมงุ่ ไป
ข้างหน้าขจัดปัญหาการทจุ รติ ต่าง ๆ
๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
๑) สื่อวิดีทัศน์ เร่ือง “The Bridge”
๒) ใบงาน เร่ือง ประโยชน์สว่ นตนกบั ประโยชน์สว่ นรวม
๕. การประเมินผลการเรยี นรู้
๕.๑ วิธกี ารประเมิน
- ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เร่อื ง ประโยชน์สว่ นตนกบั ประโยชน์สว่ นรวม
- ครสู ังเกตพฤตกิ รรมมุ่งม่ันในการทางานของนักเรยี น
- ๑๒๖ -
๕.๒ เครื่องมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ
- แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ประโยชนส์ ว่ นตนกับประโยชนส์ ว่ นรวม
- แบบสงั เกตพฤติกรรมมงุ่ ม่ันในการทางานของนกั เรียน
๕.๓ เกณฑ์การตัดสนิ
- นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ขนึ้ ไป
๖. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. ..........................................
.......................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................. .....
............................................................................................................................................................. ..........
ลงช่ือ ................................................ ครูผสู้ อน
(.................................................)
- ๑๒๗ -
ใบงาน
เรอ่ื ง “The Bridge”
คาชี้แจง ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มๆละเท่าๆกันและศึกษาวดิ ีโอ เรื่อง “The Bridge” และรว่ มกนั อภิปราย สนทนา
ว่าทาไม “พอ่ ของเด็กถึงเลอื กสละชวี ิตลกู ชายของตนเอง” โดยแต่ละกลุ่มช่วยกันสรปุ ความรทู้ ีไ่ ด้รบั
- ๑๒๘ -
แบบประเมนิ การใหค้ ะแนนใบงาน
รายการประเมิน
กลมุ่ ที่ มีความถกู ต้อง การใชภ้ าษา การลาดบั เน้อื หา ความเรยี บรอ้ ย การคิดวิเคราะห์ รวม
๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔๓๒๑ ๔ ๓๒ ๑ 20
คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ( ลงชอื่ ).........................................................ผปู้ ระเมนิ
4 คะแนน เท่ากับ ดีมาก (.....................................................)
3 คะแนน เท่ากับ ดี .............../................./....................
2 คะแนน เท่ากับ พอใช้
1 คะแนน เท่ากับ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
16-20 คะแนน เท่ากบั ดีมาก
11-15 คะแนน เท่ากับ ดี
6-10 คะแนน เท่ากบั พอใช้
1-5 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรุง
- ๑๒๙ -
ใบงาน
เร่อื ง ประโยชน์สว่ นตนกับประโยชน์ส่วนรวม
คาช้แี จง : ให้นกั เรียนเขยี นแนวทางในการปฏิบตั ิตนโดยคานึงถึงประโยชน์ส่วนตนกบั ประโยชนส์ ่วนรวม
การปฏิบตั ติ นโดยคานึงถึงประโยชน์ส่วนตน
๑. .............................................................................................................................
๒. .............................................................................................................................
๓. .............................................................................................................................
๔. .............................................................................................................................
๕. .............................................................................................................................
การปฏบิ ตั ิตนโดยคานงึ ถงึ ประโยชนส์ ่วนรวม
๑. .............................................................................................................................
๒. .............................................................................................................................
๓. .............................................................................................................................
๔. .............................................................................................................................
๕. .............................................................................................................................
- ๑๓๐ -
แบบสังเกตพฤติกรรม มุง่ มน่ั ในการทางาน
คาชี้แจง : ใหค้ รสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ตง้ั ใจทางาน รบั ผิดชอบใน ทางานดว้ ย รวม สรุป
การทางาน ความเพียร คะแน
ลาดับ ชื่อ-สกลุ พยายามและ น
ท่ี อดทนจนงาน
สาเรจ็
๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ
ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน
(...................................................)
............../.................../................
ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสิน
ดีเยีย่ ม ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน
ผ่าน ไดค้ ะแนน ๓-๔ คะแนน
ไม่ผา่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๓๑ -
แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรอ่ื ง ประโยชนส์ ว่ นตนกับประโยชน์ส่วนรวม
คาช้ีแจง : ครูให้คะแนนการตรวจผลงานนักเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน
ลาดบั รายการประเมนิ รวม
ที่
ชื่อ-สกลุ รูปแบบผลงาน ภาษา เนอื้ หา เวลา ๑๖
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน
ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน
(..................................................)
............../.................../................
เกณฑ์การตดั สิน คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดีเย่ยี ม
คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี
คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผา่ น
คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ไมผ่ ่าน
- ๑๓๒ -
รายละเอยี ดเกณฑ์การให้คะแนนแบบให้คะแนนการตรวจผลงาน
เรื่อง ประโยชนส์ ว่ นตนกับประโยชนส์ ว่ นรวม
ประเดน็ การ เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ประเมิน
๔๓๒ ๑
๑. รปู แบบผลงาน - มีสีสนั สวยงาม
- รปู แบบผลงาน - รปู แบบผลงาน - มีขนาดเหมาะสม สัมพันธ์กับเนื้อหา
๒. ภาษา
ถูกต้องตามที่ แปลกใหม่ - มสี สี นั สวยงาม - มีการใชภ้ าษา
๓. เนือ้ หา อย่างสรา้ งสรรค์
กาหนด - มีขนาดเหมาะสม สมั พันธก์ ับเนื้อหา
๔. เวลา - รายละเอียด
- รปู แบบแปลกใหม่ - มีสสี ันสวยงาม ครอบคลุม
- เน้ือหาสอดคล้อง
น่าสนใจ สัมพันธ์กับเนื้อหา
- มขี นาดเหมาะสม
- มสี สี นั สวยงาม
สัมพันธก์ บั เน้ือหา
- มกี ารใชภ้ าษา - สะกดคาถูกต้อง - มีการเวน้ วรรค
อย่างถูกต้อง - มีการเวน้ วรรค โดยไมฉ่ ีกคา
- สะกดคาถกู ต้อง โดยไม่ฉีกคา - มกี ารใชภ้ าษา
- มีการเวน้ วรรค - มีการใช้ภาษา อย่างสร้างสรรค์
โดยไม่ฉีกคา อย่างสรา้ งสรรค์
- มีการใชภ้ าษา
อย่างสร้างสรรค์
- เน้ือหาถกู ต้อง - เนือ้ หาตรงตาม - เนอื้ หาเปน็ ไป
- เนื้อหาตรงตาม หวั ขอ้ เรอื่ ง ตามท่ีกาหนด
หวั ขอ้ เร่อื ง - เนื้อหาเป็นไป - รายละเอยี ด
- เนอื้ หาเปน็ ไป ตามทกี่ าหนด ครอบคลุม
ตามทก่ี าหนด - รายละเอยี ด - เนอ้ื หาสอดคล้อง
- รายละเอียด ครอบคลุม
ครอบคลุม - เน้ือหาสอดคล้อง
- เนื้อหาสอดคล้อง
- ส่งชน้ิ งานภายใน - สง่ ชนิ้ งานชา้ กวา่
เวลาทีก่ าหนด กาหนด ๑ วัน
- ๑๓๓ -
แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยท่ี ๓ ช่อื หน่วย STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทุจรติ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕
เวลา ๑ ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ เรือ่ ง ความเออ้ื อาทร
๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจริต
๑.๒ ปฏิบัตติ นเปน็ ผูท้ ี่ STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริต
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกความสาคญั ของความเอ้ืออาทรต่อการต่อตา้ นการทจุ รติ ได้
๒.๒ นกั เรียนสามารถบอกประโยชนข์ องความเอื้ออาทรต่อการต่อต้านการทจุ ริตได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
ความสาคญั ของความเออื้ อาทรและประโยชนข์ องความเอ้ืออาทรต่อการต่อต้านการทจุ ริต
๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด)
๑) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พดู เขียน)
๒) ความสามารถในการคดิ (วเิ คราะห์ สรปุ )
๓.๓ คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ค่านิยม
มจี ิตสาธารณะ
4. กิจกรรมการเรียนรู้
๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้
1) ครูแจง้ วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้แก่นักเรียนและครูอธิบาย เรอื่ ง ความเออ้ื อาทร วา่ มีความสาคัญต่อ
การอยู่รว่ มกนั ในสงั คมอย่างไร เช่น การมคี วามเมตตาชว่ ยเหลือซึ่งกันและกัน การเปน็ แบบอยา่ งท่ี
ดใี นความซ่ือสัตยส์ จุ ริต ให้ข้อมลู ทดี่ ีและถกู ต้องต่อกัน ว่าอะไรที่ถกู กฎหมาย อะไรทไ่ี ม่ถูกกฎหมาย
2) ครใู ห้นักเรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ ๔ – ๘ คน โดยครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ดูวดิ โี อ จาก YouTube เรอื่ ง
"Unsung Hero" [ภาพยนตร์โฆษณา ปี พ.ศ.๒๕๕๗ ] [Official TVC ๒๑๑๔: Thai Life Insurance] เป็นเรื่องราว
“ของชายหนมุ่ ที่เป็นพนักงานออ๊ ฟฟิต ผ้เู อ้ืออาทรตอ่ ผู้อนื่ ด้วยความเมตตา”
3) ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกันอภปิ รายในประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี
- ทาไมผู้ชายในภาพยนตร์ถึงช่วยเหลอื ทุกคน
- ถา้ นกั เรยี นเป็นผไู้ ดร้ ับการช่วยเหลอื จะรู้สึกอย่างไร
- ถา้ มคี วามเอ้อื อาทรในประเทศไทยจะเป็นอยา่ งไร
- ถ้านกั เรยี นเป็นชายในภาพยนตรจ์ ะต้องมีจิตใจอย่างไร
4) ครใู ห้นกั เรยี นทุกคนทาใบงาน เรื่อง ความสาคญั และประโยชนข์ องความเอ้ืออาทร
5) ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย สรปุ ความร้เู รื่อง ความสาคญั ของความเอื้ออาทรและประโยชนท์ ่มี ี
ต่อการต่อตา้ นการทจุ ริต
- ๑๓๔ -
๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้
๑) วดี โี อ เรอื่ ง "Unsung Hero"
๒) ใบงาน เรอ่ื ง ความสาคัญและประโยชน์ของความเอ้ืออาทร
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วิธีการประเมิน
- ครตู รวจผลงานการทาใบงาน เร่อื ง ความสาคัญและประโยชนข์ องความเอ้ืออาทร
- ครูสังเกตพฤตกิ รรมมีจติ สาธารณะของนักเรยี น
๕.๒ เคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ นการประเมิน
- แบบให้คะแนนการตรวจผลงาน เร่อื ง ความสาคญั และประโยชน์ของความเอื้ออาทร
- แบบสังเกตพฤติกรรมมจี ติ สาธารณะ
๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน
- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ข้ึนไป
๖. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้
........................................................................................... ...................................................................................
.............................................................................................................................. ................................................
..................................................................................................................................... .........................................
.............................................................................................................................................. ................................
ลงชื่อ ................................................ ครผู สู้ อน
(.................................................)
7. ภาคผนวก - ๑๓๕ -
ใบงาน
เรอื่ ง ความสาคญั และประโยชน์ของความเอ้ืออาทร
คาชีแ้ จง จากการทน่ี ักเรยี นไดศ้ กึ ษาวิดโี อ เรอื่ ง "Unsung Hero" ให้นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายภายในกลุ่มและ
ตอบคาถามดังต่อไปนี้
๑. ใหน้ ักเรียนอธบิ ายความสาคัญของความเอื้ออาทรทีม่ ตี ่อประเทศไทย
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................... ...........................
....................................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๒. ใหน้ ักเรียนบอกประโยชนข์ องความเอื้ออาทรต่อการต่อตา้ นการทจุ ริต
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................... ........................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................. .............................................................................................
๓. ใหน้ กั เรยี นสรปุ ขอ้ คดิ ท่ีได้รบั จากการชมภาพยนตร์ เร่อื ง "Unsung Hero"
.......................................................................................... ....................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................. .............................................................................................
๔. จงบอกพฤตกิ รรมของตนเองทบ่ี ง่ บอกถึงความเอ้ืออาทรต่อสังคม
...................................................................................................... ........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................... .........................................
......................................................................................... .....................................................................................
- ๑๓๖ -
แบบสงั เกตพฤติกรรม มีจติ สาธารณะ
คาช้ีแจง : ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน
ช่วยเหลอื ผู้อื่นด้วยความ เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ปน็ รวม สรปุ
ลาดับ เต็มใจโดยไม่หวัง ประโยชน์ต่อโรงเรยี น คะแนน
ที่
ชือ่ -สกลุ ผลตอบแทน ชมุ ชน และสังคม
๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ
ระดับคุณภาพ ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ดีเย่ยี ม (...................................................)
ดี ............../.................../................
ผา่ น
ไม่ผา่ น เกณฑ์การตดั สิน
ไดค้ ะแนน ๗-๙ คะแนน
ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน
ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน
ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน
- ๑๓๗ -
แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรือ่ ง ความสาคัญและประโยชน์ของความเอื้ออาทร
คาชี้แจง : ครใู หค้ ะแนนการตรวจผลงานนกั เรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน
ลาดบั รายการประเมิน รวม
ท่ี
ช่อื -สกลุ รปู แบบผลงาน ภาษา เน้ือหา เวลา ๑๖
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ คะแนน
ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
(..................................................)
............../.................../................
เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน ๑๔-๑๖ คะแนน หมายถงึ ดเี ย่ยี ม
คะแนน ๑๑-๑๓ คะแนน หมายถงึ ดี
คะแนน ๕-๙ คะแนน หมายถึง ผ่าน
คะแนน ๑-๔ คะแนน หมายถึง ไมผ่ ่าน
- ๑๓๘ -
รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบให้คะแนนการตรวจผลงาน
เรอื่ ง ความสาคัญและประโยชน์ของความเอ้ืออาทร
ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเมิน
๔๓๒ ๑
๑. รปู แบบผลงาน - มีสีสนั สวยงาม
- รูปแบบผลงาน - รูปแบบผลงาน - มขี นาดเหมาะสม สัมพันธก์ ับเน้ือหา
๒. ภาษา
ถูกต้องตามท่ี แปลกใหม่ - มสี สี ันสวยงาม - มีการใชภ้ าษา
๓. เนอื้ หา อย่างสร้างสรรค์
กาหนด - มีขนาดเหมาะสม สัมพนั ธ์กับเน้ือหา
๔. เวลา - รายละเอียด
- รูปแบบแปลกใหม่ - มีสีสันสวยงาม ครอบคลุม
- เนอื้ หาสอดคล้อง
น่าสนใจ สัมพันธ์กับเนื้อหา
- มีขนาดเหมาะสม
- มสี สี ันสวยงาม
สมั พนั ธ์กับเนื้อหา
- มกี ารใช้ภาษา - สะกดคาถูกต้อง - มีการเวน้ วรรค
อย่างถูกต้อง - มกี ารเวน้ วรรค โดยไม่ฉีกคา
- สะกดคาถูกต้อง โดยไมฉ่ กี คา - มีการใช้ภาษา
- มีการเว้นวรรค - มกี ารใช้ภาษา อยา่ งสร้างสรรค์
โดยไมฉ่ กี คา อยา่ งสรา้ งสรรค์
- มีการใช้ภาษา
อย่างสรา้ งสรรค์
- เนอ้ื หาถูกต้อง - เนื้อหาตรงตาม - เนอื้ หาเปน็ ไป
- เนอ้ื หาตรงตาม หวั ข้อเรือ่ ง ตามท่ีกาหนด
หวั ขอ้ เรอ่ื ง - เนอ้ื หาเป็นไป - รายละเอยี ด
- เนื้อหาเป็นไป ตามที่กาหนด ครอบคลุม
ตามทก่ี าหนด - รายละเอยี ด - เนือ้ หาสอดคล้อง
- รายละเอยี ด ครอบคลุม
ครอบคลุม - เน้ือหาสอดคล้อง
- เนือ้ หาสอดคล้อง
- สง่ ชน้ิ งานภายใน - สง่ ช้ินงานช้ากว่า
เวลาท่กี าหนด กาหนด ๑ วัน
- ๑๓๙ -
หนว่ ยท่ี ๔
พลเมอื งกับความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
- ๑๔๐ -
แผนการจัดการเรยี นรู้
หน่วยที่ ๔ ช่อื หนว่ ย พลเมอื งกับความรบั ผิดชอบต่อสังคม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง การเคารพสทิ ธิหน้าทต่ี ่อตนเองและผอู้ ่ืน เวลา ๒ ชวั่ โมง
๑. ผลการเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับพลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม
๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมายของคาวา่ รูจ้ กั หน้าท่ขี องตนเอง และเคารพสทิ ธิของผู้อ่ืนได้
๒.๒ นกั เรียนยกตวั อยา่ งร้จู กั หน้าทขี่ องตนเองได้
๒.๓ นักเรียนยกตัวอย่างเคารพสทิ ธิของผอู้ ่ืนได้
๓. สาระการเรยี นรู้
๓.๑ ความรู้
๑) ความหมายคาว่ารู้จกั หน้าท่ีของตนเองและเคารพสิทธขิ องผอู้ ่นื
๒) ยกตวั อย่างการร้จู กั หน้าท่ขี องตนเอง
๓) ยกตัวอยา่ งเคารพสทิ ธขิ องผอู้ ่นื
๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด)
๑) ความสามารถในการส่ือสาร
- ฟัง พูด อา่ น เขยี น
๒) ความสามารถในการคิด
- วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรุป
๓.๓ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ / ค่านยิ ม
๑) ใฝ่เรยี นรู้
๔. กิจกรรมการเรยี นรู้
๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้
๑) ชว่ั โมงที่ ๑
๑) ครชู แี้ จงจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้กับนกั เรยี น
๒) ครอู ธบิ ายความหมายคาวา่ รูจ้ กั หนา้ ที่ของตนเอง และเคารพสทิ ธขิ องผู้อื่น
๓) ครใู ห้ผู้เรียนชมคลิปวีดโิ อ เรื่อง รจู้ กั หน้าที่ ซ่งึ เป็นเนื้อหาเกีย่ วกบั การไม่ต้ังใจทางาน โดยเลน่
อินเทอร์เน็ต และเลน่ โทรศพั ทใ์ นเวลาทางาน
๔) ครูให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปราย จากการรับชมคลิปวดี ิโอ ตามประเดน็ ต่อไปน้ี ที่ครูมอบให้
ไดแ้ ก่ ครูตง้ั
คาถามเพ่ือใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับความรบั ผิดชอบ
- นกั เรยี นมหี นา้ ท่ีอะไรบา้ งขณะอยทู่ บ่ี า้ น และโรงเรยี น
- หากเรารจู้ ักหน้าท่ีของตนเอง จะเกิดผลดีอยา่ งไร
๕) ครูสรุปผลการอภปิ รายให้นกั เรยี นเขา้ ใจ ครูสรปุ ว่าสทิ ธิของตนเองและผู้อื่นตามที่บัญญัติไว้ใน
รัฐธรรมนูญ
- ๑๔๑ -
แห่งราชอาณาจักรไทย การปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเองภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ โดยไม่
กระทบสิทธิบุคคลอื่นย่อมได้ช่ือว่าบุคคลน้ันเป็นผู้มีส่วนนาพาชาติบ้านเมืองให้พัฒนา ในท่ีนี่จะกล่าวถึงการ
ปฏิบัติตนในการรักษาและเคารพสิทธิ เสรีภาพของตนเองและผู้อื่น ต่อครอบครัว ชุมชน สังคมและ
ประเทศชาตติ ามรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยกาหนดไว้
๒) ช่ัวโมงท่ี ๒
๑) ครูให้ผ้เู รยี นชมสอ่ื วีดีทศั น์ เรอื่ ง เคารพสทิ ธิของผู้อ่นื ซ่ึงเป็นเน้ือหาเกี่ยวกับการการวาง
กระถางต้นไมไ้ วบ้ นกาแพงท่ีก้ันระหว่างบา้ น และรดนา้ ตน้ ไม้
๒) ครสู นทนากับนักเรียน เกี่ยวกบั คลิปวิดีโอทนี่ ักเรียนดู จากน้ันสนทนาซักถามกับนักเรียน ดังนี้
- การเคารพสิทธขิ องผู้อืน่ มีข้อดอี ย่างไร
- ถา้ นกั เรียนเปน็ เพื่อนบา้ น นักเรยี นจะทาอยา่ งไร
- นักเรียนคดิ ว่าคนที่นากระถางต้นไม้ไปวางบนร้วั ทาถูกหรือไม่ เพราะเหตุใด
๓) ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคนศึกษา ใบความรู้ เร่ืองเคารพสทิ ธิของตนเองและผอู้ ่ืน
๔) ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มทาใบงาน เรอื่ ง เคารพสิทธิของตนเองและผอู้ ่ืน
๕) ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกนาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน
๖) ครสู รปุ องคค์ วามรเู้ ร่อื ง การเคารพสทิ ธิของผ้อู ่นื ให้นักเรียนเขา้ ใจ ครสู รปุ ว่า สมาชิกทุกคนใน
สังคมมีสิทธิเท่าเทียมกันในการดาเนินชีวิตในสังคม โดยสิทธิดังกล่าวจะต้องไม่ละเมิดสิทธิของสมาชิกคนอ่ืน
ในสังคม
๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้
๑) คลิปวดิ โี อเรอ่ื ง รจู้ กั หนา้ ท่ี
๒) วคี ลิปวดิ ีโอเรอ่ื ง เคารพสิทธิของผู้อนื่
๓) ใบงาน เรอ่ื ง เคารพสิทธิของตนเองและผู้อ่ืน
๔) ใบความรู้ เรื่อง การเคารพสทิ ธิของตนเองและผู้อ่ืน
๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๕.๑ วธิ ีการประเมนิ
๑) ครูตรวจผลงานการทาใบงาน เรอื่ ง เคารพสทิ ธิของตนเองและผูอ้ ่นื
๒) ครูสงั เกตพฤติกรรมใฝ่เรียนรขู้ องนักเรยี น
๕.๒ เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการประเมนิ
๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงาน เรือ่ ง เคารพสิทธขิ องตนเองและผูอ้ นื่
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมใฝเ่ รียนรู้
๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน
๑) นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ดีข้ึนไป
๒) นักเรยี นผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมระดับดีขึ้นไป
๖. บันทกึ หลังสอน
............................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................... .................................................
ลงชื่อ ................................................ ครูผสู้ อน
(.................................................)
- ๑๔๒ -
7. ภาคผนวก
ใบความรู้
เร่ือง เคารพสิทธิของตนเองและผอู้ ่ืน
การปกครองระบอบประชาธิปไตยเปน็ การปกครองที่มีรัฐธรรมนูญเป็นแมบ่ ทกาหนดกรอบให้ทุกภาค
ส่วนของสังคมยึดถือและปฏิบัติร่วมกัน โดยกรอบที่สาคัญในการดารงตนอย่างเหมาะสมของประชาชน คือ
การยึดมนั่ ในสทิ ธิ เสรภี าพ และหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกาหนด หากประชาชนทุกคนรู้ถึงสิทธิ เสรีภาพ และ
หน้าท่ีท่ีรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ และต่างปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ประชาชนในชาติก็ย่อมอยู่ร่วมกัน
อย่างมคี วามสุขและชาติบา้ นเมอื งกจ็ ะพฒั นาและเจริญกา้ วหนา้ ได้อยา่ งรวดเร็ว
สิทธขิ องตนเองและผู้อนื่
๑. สิทธิของตนเองและผู้อ่ืนตามท่ีบญั ญตั ไิ ว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย การปฏิบัติตนตาม
สิทธิของตนเองภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ โดยไม่กระทบสิทธิบุคคลอ่ืนย่อมได้ชื่อว่าบุคคลน้ันเป็นผู้มีส่วน
นาพาชาติบา้ นเมืองใหพ้ ัฒนา ในที่นี่จะกลา่ วถึงการปฏบิ ตั ติ นในการรักษาและเคารพสิทธิ เสรีภาพของตนเอง
และผอู้ ่นื ตอ่ ครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยกาหนดไว้ ดงั น้ี
๑.๑ การเคารพสิทธขิ องตนเองและผู้อ่นื ท่มี ีต่อครอบครวั
ครอบครัว ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก ทุกครอบครัวมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองตาม
รัฐธรรมนูญในหลายประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะเร่ืองการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม
หมายความวา่ พ่อแม่ และลกู จะตอ้ งไมใ่ ช้ความรุนแรง หรือปฏิบัติตามกันอย่างไม่เป็นธรรม กรณีระหว่างสามี
และภรรยาจะตอ้ งเคารพและรบั ฟังความคดิ เห็นของกันและกนั ไม่ตัดสนิ ปัญหาโดยใชก้ าลัง กรณีระหว่างบุตร
กับบิดามารดา บุตรต้องเคารพเชื่อฟังคาสั่งสอนบุตรโดยใช้เหตุผล ไม่ใช้การแก้ไขพฤติกรรมลูกด้วยการเฆี่ยน
ตี เลีย้ งลูกด้วยความรักความเข้าใจและใช้สิทธิเสรีภาพในการแสวงหาความสุขส่วนตัว แต่ต้องอยู่ในขอบเขต
และไมท่ าใหเ้ กดิ ความเดือดรอ้ นหรอื สร้างปัญหาใด ๆ ใหแ้ กบ่ ดิ ามารดา
สิทธิในครอบครัวและความเป็นอยู่ส่วนตัว เป็นสิทธิท่ีชาวไทยทุกคนได้รับตามรัฐธรรมนูญ
ทุกครอบครัวย่อมมีสิทธิจัดการภายในครอบครัวชองตนเอง ในการนาพาครอบครัวไปในด้านต่าง ๆ ตาม
ความต้องการของตนเองได้ โดยจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย รวมทั้ง
จะต้องไม่เปน็ การรบกวนสทิ ธคิ รอบครวั ของบุคคลอ่ืน
๑.๒ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผู้อน่ื ทม่ี ตี ่อชุมชนและสังคม
สมาชิกทุกคนในสังคมมีสิทธิเท่าเทียมกันในการดาเนินชีวิตในสังคม โดยสิทธิดังกล่าว
จะต้องไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องสมาชิกคนอื่นในสงั คม ในทน่ี ่ขี อยกตัวอย่างสิทธิของตนเองท่ีมีต่อชุมชน และสังคมท่ี
สาคญั บางประการ ดงั น้ี
๑.๒.๑ เสรีภาพในเคหสถาน ชาวไทยทุกคนย่อมมีเสรีภาพในเคหสถานท่ีจะสามารถอาศัย
และครอบครองเคหสถานของตนโดยปกติสุข ไม่ว่าจะเกิดจากการเช่า หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์ิ ซึ่งบุคคล
- ๑๔๓ -
อ่ืนจะต้องให้ความเคารพในสิทธิน้ี แม้แต่เจ้าหน้าท่ีของรัฐหากจะเข้าไปดาเนินการตามกฎหมายใด ๆ เช่น
การตรวจคน้ เคหสถานของประชาชนก็จะกระทามิได้ เว้นแต่จะมีหมายคน้ ทอี่ อกโดยศาลเท่าน้ัน
๑.๒.๒ เสรภี าพในการเดินทางและติดตอ่ สอ่ื สาร ชาวไทยทกุ คนมีเสรภี าพที่จะเดินทางไปใน
ท่ีต่าง ๆ บนผืนแผ่นดินไทย ได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยและสามารถเลือกถ่ินท่ีอยู่อาศัย ณ ที่ใดก็ได้
ภายในประเทศไทย รวมทั้งชาวไทยทุกคนสามารถท่ีจะติดต่อสื่อสารกับบุคคลอ่ืนไม่ว่าจะเป็นทางจดหมาย
โทรศัพท์ หรืออินเทอร์เน็ต
๑.๒.๓ เสรีภาพในการนับถือศาสนา สมาชิกทุกคนในสังคมมีสิทธิ เสรีภาพ ที่จะนับถือ
ศาสนาแตกต่างกนั ได้ ซึง่ บุคคลอืน่ ในสังคมรวมทง้ั รฐั จะต้องใหค้ วามเคารพสิทธเิ สรภี าพในเร่ืองนดี้ ว้ ย
๑.๒.๔ เสรีภาพในทางวิชาการ เยาวชนไทยทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาข้ันพื้นฐานไม่น้อย
กวา่ ๑๒ ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากน้ีคนไทยทุกคนยังมีสิทธิในการที่จะศึกษาค้นคว้าหรือทาวิจัยตามท่ี
ต้องการ โดยไมข่ ัดตอ่ กฎหมาย
๑.๒.๕. เสรีภาพในการชมุ นุมอยา่ งสงบโดยปราศจากอาวุธ หมายถึง ประชาชนทุกคนมีสิทธิ
เสรีภาพในการชุมนุม แต่ต้องเป็นไปโดยสงบปราศจากอาวุธ และจะต้องไม่รบกวนสิทธิของผู้อ่ืน การ
ปราศจากอาวุธนั้น หมายรวมถึง ห้ามทุกคนที่มาร่วมชุมนุมพกพาอาวุธเข้ามาในที่ชุมนุมโดยเด็ดขาด บุคคล
นน้ั จะไม่ไดร้ ับความคุม้ ครองตามรัฐธรรมนูญในกรณที ่ีไดก้ ล่าวมาขา้ งตน้
๑.๒.๖ สทิ ธิเสรภี าพในการอนุรกั ษ์และฟ้ืนฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทุกคนย่อมมี
ส่วนร่มในการอนุรักษ์และร่วมสืบสานศิลปะหรือวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นและของประเทศชาติเพื่อให้
ดารงอย่ตู ่อไปกับอนชุ นรุ่นหลงั
๑.๒.๗ เสรีภาพในการประกอบอาชีพ โดยเสรีภาพในการประกอบอาชีพจะต้องไม่เอารัด
เอาเปรยี บผูอ้ ืน่ เชน่ ผ้ปู ระกอบการจะตอ้ งเคารพและซ่ือสตั ย์ตอ่ ผ้บู รโิ ภค และไม่เอาเปรียบผ้บู ริโภค เปน็ ตน้
นอกจากสิทธิเสรีภาพของตนเองที่พึงมีต่อชุมชนและสังคมตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังมีสิทธิ
ในประเด็นอื่นๆ ท่ีเกี่ยวกับสังคมและชุมชนอีกเป็นจานวนมาก เช่น สิทธิในการบริโภค สิทธิในการเข้าถึงสื่อ
เปน็ ต้น
๑.๓ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผ้อู ื่นท่ีมตี ่อประเทศชาติ
๑.๓.๑ สิทธิในการมีส่วนร่วม หมายถึง สิทธิการมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของ
เจ้าหน้าที่รัฐ เกยี่ วกับการปฏบิ ัตริ าชการดา้ นการปกครอง อนั มผี ลกระทบตอ่ สิทธิและเสรีภาพของคนในสังคม
โดยตรง
๑.๓.๒ สิทธิท่ีจะฟ้องร้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น
เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือองค์กรของรัฐท่ีเป็นนิติบุคคล
ประชาชนมีสิทธิที่จะฟ้องร้องหน่วยงานต่าง ๆ เหล่าน้ีให้รับผิดชอบ หากการกระทาใดหรือการละเว้นการ
กระทาใด ๆ ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานนั้น ส่งผลกระทบต่อการดาเนินชีวิตของ
ประชาชนต่อศาลปกครอง
- ๑๔๔ -
๑.๓.๓ สทิ ธิท่ีจะต่อตา้ นโดยสันติวิธี การกระทาใดจะเป็นไปเพ่ือให้ได้มาซ่ึงอานาจการปกครอง
ประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น การต่อต้านการทาปฏิบัติ
รฐั ประหาร เป็นส่ิงทีป่ ระชาชนมีสทิ ธิทีจ่ ะออกมาตอ่ ต้านแต่ต้องเปน็ ไปโดยสนั ติวธิ ี
รัฐประหาร หมายถงึ การใชก้ าลงั เปล่ียนแปลงคณะรัฐบาลโดยฉบั พลัน
ปฏวิ ตั ิ หมายถงึ การเปล่ียนแปลงระบอบการบรหิ ารบา้ นเมอื ง เชน่ ปฏิวตั ิการปกครอง
การปฏิบตั ิตนตามสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผอู้ ่ืนในสังคม
การปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่นในสังคม เป็นส่ิงที่ช่วยจัดระเบียบให้กับ
สงั คม เพื่อให้สังคมสงบสุข โดยมีแนวทางในการปฏิบตั ิ ดังนี้
๑. เคารพสิทธิของกันและกัน โดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อ่ืน สามารถแสดงออกได้หลาย
ประการ เช่น การแสดงความคิดเห็น การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน เปน็ ตน้
๒. รู้จักใช้สิทธขิ องตนเองและแนะนาให้ผู้อ่ืนรู้จกั ใชส้ ิทธิของตนเอง
๓. เรียนรู้และทาความเข้าใจเก่ียวกับหลักสิทธิ เสรีภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น สิทธิ
เสรภี าพของความเปน็ มนุษย์ สทิ ธิ เสรภี าพในเคหสถาน เป็นต้น
๔. ปฏิบตั ิตามหน้าทีข่ องชาวไทยตามทบ่ี ัญญตั ไิ ว้ในรฐั ธรรมนูญ เช่น การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การ
เสยี ภาษี
ผลทีไ่ ดร้ ับจากการปฏิบัตติ นเคารพสทิ ธิของตนเองและผอู้ ่ืน
ถ้าประชาชนในสังคมปฏิบัติตนตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน
โดยท่ีจะต้องไม่ใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต จนไปกระทบสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ซึ่งผลท่ีจะเกิดขึ้น คือ
ความสงบสุขในสงั คม และความเป็นปึกแผ่นของชาติบ้านเมือง โดยเราสามารถแบ่งผลท่ีเกิดข้ึนกับครอบครัว
สังคมและประเทศชาติ หากประชาชนทุกคนต่างเคารพสิทธแิ ละเสรีภาพของตนเองและผู้อนื่ ได้ ดังน้ี
๑. ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ประเทศชาติ หากประชาชนมีความสมัครสมานรักใคร่สามัคคี ไม่มีความแตกแยก
แบ่งเป็นพวกเป็นเหล่า บ้านเมืองก็จะสงบสุขเกิดสวัสดิภาพ บรรยากาศ โดยรวมก็จะสดใสปราศจากการ
ระแวงตอ่ กนั การดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ สามารถดาเนินไปไดอ้ ยา่ งราบร่ืน นักลงทนุ นักทอ่ งเท่ียวก็จะเดินทาง
มาเยอื นประเทศของเราด้วยความมน่ั ใจ
๒. ผลทเี่ กิดขึน้ กบั ชมุ ชนหรือสังคม เมื่อประชาชนในสังคมรู้จักสิทธิของตนเอง และของคนอื่น ก็จะ
นาพาให้ชุมชนหรือสังคมเกดิ การพฒั นา เมื่อสงั คมมน่ั คง เขม้ แขง็ ก็จะมีส่วนทาให้ประเทศชาติเข้มแข็ง เพราะ
ชมุ ชนหรอื สังคมเปน็ ส่วนหน่ึงของชาตบิ า้ นเมืองโดยรวม
๓. ผลทเ่ี กิดขึ้นกบั ครอบครัว ครอบครัวเป็นสถาบันแรกของสังคม เม่ือครอบครัวเข้มแข็งและอบรม
สั่งสอนให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนรู้บทบาท สิทธิ เสรีภาพของตนเองและปฏิบัติตามท่ีกฎหมายและ
รัฐธรรมนูญได้ให้ความคุ้มครองไว้อย่างเคร่งครัด โดยไม่ละเมิดสิทธิ เสรีภาพของสมาชิกอ่ืนในสังคม ก็จะ
นาพาให้สังคมและประเทศชาตเิ ขม้ แขง็ ตามไปดว้ ย
- ๑๔๕ -
ใบงาน
เร่ือง เคารพสทิ ธิของตนเองและผู้อ่นื
ให้นกั เรยี นตอบคาถาม ดงั ต่อไปน้ี
๑) ความหมายของคาว่า การรจู้ ักหนา้ ทข่ี องตนเอง หมายถึงอะไร
............................................................................................................................. ..............................................
...........................................................................................................................................................................
๒) การเคารพสิทธขิ องผู้อืน่ หมายถึง
............................................................................................................................. ..............................................
...........................................................................................................................................................................
๓) จงยกตัวอย่างเหตุการณ์การเคารพสทิ ธขิ องตนเอง มาคนละ ๕ ตวั อย่าง
....................................................................................................... ....................................................................
............................................................................................................................. ..............................................
๔) จงยกตัวอย่างเหตกุ ารณ์การเคารพสิทธิของผู้อ่นื มาคนละ ๕ ตัวอย่าง
............................................................................................................................. ..............................................
.............................................................................................................................................................. .............
๕) ผลทไ่ี ดร้ บั จากการปฏิบัตติ น เคารพสทิ ธิของตนเองและผอู้ ืน่ จะมผี ลดตี ่อตนเองและผู้อ่นื อย่างไรบา้ ง
................................................................................................................................................. ..........................
......................................................................................................... ..................................................................
- ๑๔๖ -
แบบประเมินการให้คะแนนใบงาน
ท่ี ช่ือ-สกลุ มีความถูกต้อง การใช้ภาษา การลาดบั เนื้อหา ความเรียบร้อย การคิดวเิ คราะห์ รวม
๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑๔ ๓ ๒ ๑ ๔๓ ๒ ๑ ๔๓ ๒ ๑ ๒๐
คะแนน
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
ลงชอ่ื ...................................................ผู้สังเกต
(...................................................)
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
๔ คะแนน เท่ากบั ดมี าก ๑๖-๒๐ คะแนน เทา่ กับ ดมี าก
๓ คะแนน เทา่ กบั ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เทา่ กบั ดี
๒ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ ๖-๑๐ คะแนน เท่ากบั พอใช้
๑ คะแนน เทา่ กับ ปรับปรุง ๑-๕ คะแนน เท่ากบั ปรับปรงุ
- ๑๔๗ -
แบบสงั เกตพฤติกรรม ใฝ่เรยี นรู้
คาชีแ้ จง : ให้ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทตี่ รงกับระดับคะแนน
แสวงหาข้อมูล มีการจดบันทึก สรปุ ความรไู้ ด้ รวม สรุป
จากแหล่ง ความรอู้ ย่าง อยา่ งมีเหตุผล คะแนน
ลาดับที่ ชอื่ -สกลุ
การเรยี นรตู้ ่างๆ เปน็ ระบบ
๓ ๒ ๑ ๙ ผ มผ
๓๒๑๓๒๑
ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(...................................................)
............../.................../................
ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ
ดเี ยยี่ ม ได้คะแนน ๗-๙ คะแนน
ดี ไดค้ ะแนน ๕-๖ คะแนน
ผ่าน ได้คะแนน ๓-๔ คะแนน
ไมผ่ า่ น ได้คะแนน ๑-๒ คะแนน