78
เรือ่ งท่ี 1 การแบงชว งเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร
ยุคสมัยประวตั ศิ าสตรมคี วามสําคญั ตอการศึกษาประวตั ิศาสตรเนือ่ งจากเปน การแบงชวงเวลาในอดีต
อยา งเปน ระบบ โดยพิจารณาจากหลักฐานที่เหลืออยูในปจจุบัน ซ่ึงจะนําไปสูการวิเคราะหเหตุการณตาง ๆ
อยางมีเหตุผล โดยตระหนักถึงความสําคัญของความตอเนื่องของชวงเวลา จะทําใหการลําดับเปรียบเทียบ
เรอื่ งราวทางประวตั ศิ าสตรม ีความชัดเจนขนึ้ ตามเกณฑด ังตอ ไปน้ี
1. การแบงชว งเวลา มีพ้ืนฐานมาจากยคุ สมัยทางศาสนาแบงออกเปน
(1) การแบงชวงเวลาตามประวตั ิศาสตรไ ทย ไดแ ก รัตนโกสนิ ทรศ ก (ร.ศ.) จุลศักราช (จ.ศ.) และ
พทุ ธศักราช (พ.ศ.) ปจจุบนั ทีใ่ ชก ันอยคู อื พุทธศักราช (พ.ศ.) ซึ่งเปนศักราชในกลุมผูท่ีนับถือพระพุทธศาสนา
การนับปของพุทธศาสนา เร่ิมป พ.ศ.1 หลังจากที่พระพุทธเจาเสด็จดับขันธปรินิพพานแลว 1 ป คือปแรก
นับเปน พ.ศ. 0 เม่ือครบ 1 ป ของพุทธศาสนาจึงเร่ิมนับ พ.ศ.1 โดยเริ่มใชตั้งแตสมัยสมเด็จพระนารายณ
มหาราช จนมาเปน ที่แพรหลายและระบุใชอ ยางเปนทางการในสมยั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว
(รชั กาลท่ี 6) ในปพุทธศักราช 2455 และบางครัง้ มีการแบง เปน ทศวรรษ และศตวรรษ เชน พุทธศตวรรษท่ี 25
คอื ป พ.ศ. 2500 เทากับ คริสตศ ตวรรษท่ี 20 คอื ป ค.ศ. 2000
(2) การแบงชวงเวลาตามประวัติศาสตรสากล ไดแก คริสตศักราช (ค.ศ.) เปนการนับเวลาทาง
ศกั ราชของผูทน่ี บั ถอื ครสิ ตท ีน่ ยิ มใชก ันมาท่ัวโลก โดยครสิ ตศกั ราชที่ 1 เริ่มนับต้ังแตปที่พระเยซูคริสตประสูติ
(ตรงกับ พ.ศ. 543 ) และถือระยะเวลาทอี่ ยกู อ นครสิ ตศักราชลงไปจะเรียกวา สมัยกอนคริสตศักราชหรือกอน
ครสิ ตกาล และฮจิ เราะหศกั ราช (ฮ.ศ.) เปนการนับเวลาทางศักราชของผูนับถือศาสนาอิสลามโดยท่ีอาศัยปท่ี
ทานนบีมูฮัมหมัดไดอพยพจากเมืองเมกกะไปยังเมืองมาดินา เปนปเริ่มตนศักราชอิสลามซึ่งตรงกับวันท่ี
6 กรกฎาคม ค.ศ. 622
2. การแบง ยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร
การแบงยุคสมัยทางประวัติศาสตรโดยการใชหลักเกณฑการพิจารณารูปแบบและลักษณะของ
หลักฐานท่ีเปนลายลักษณอักษรและไมเปนลายลักษณอักษร สามารถแบงยุคสมัยทางประวัติศาสตรเปน
ยคุ ตาง ๆ ไดดงั น้ี
ยุคกอ นประวตั ิศาสตร
เปนชวงเวลาท่ีมนุษยยังไมรูจักการประดิษฐตัวอักษร แตมีความสามารถในการปรับตัวใหเขากับ
สง่ิ แวดลอม ส่งิ ท่มี นุษยส รางขนึ้ เพื่อใชประโยชนในชีวิตประจําวันและหลงเหลืออยู จึงเปนหลักฐานแสดงให
เหน็ ถึงววิ ฒั นาการในยคุ กอนประศาสตร ซ่งึ แบงยอ ยออกไปตามลักษณะวัสดทุ ่ใี ชท าํ เครื่องมอื เครอ่ื งใช ดังนี้
1. ยคุ หิน เปนยคุ ท่ีมนษุ ยร ูจกั นําหินมาดัดแปลงเปน เคร่อื งมอื เคร่อื งใช โดยมวี วิ ัฒนาการดงั น้ี
(1) ยุคหินเกา มนุษยนํากระดูกสัตว นําหินมากะเทาะทําเครื่องมืออยางหยาบ ๆ ยังคงใชชีวิต
เรรอนยายท่ีอยตู ามฝูงสตั วทล่ี าเปนอาหารโดยอาศยั อยตู ามถ้าํ
(2) ยุคหินกลาง มนุษยเ ร่มิ รูจักสรางบานเรือนแทนการอยูถ้ํา เร่ิมทําเกษตรและรูจักปนหมอไห
อยา งหยาบ ๆ ดวยดนิ เหนียวตากแหง
79
(3) ยคุ หนิ ใหม มนษุ ยอยูเ ปน หลกั แหลง สามารถทําการเกษตรและผลิตอาหารไดเอง เคร่ืองมือ
เครอ่ื งใชทีท่ าํ จากหนิ มกี ารขดั เกลาใหแหลมคม ทําเครื่องปน ดนิ เผามาใชใ นบา นเรอื นได และเรม่ิ รจู กั การนาํ เสน
ใยมาทอผา
2. ยุคโลหะ ในยุคนี้มนุษยเริ่มทําเคร่ืองมือเคร่ืองใชจากโลหะแทนหินและกระดูกสัตว ยุคโลหะ
สามารถแบงยอยไปไดอกี 2 ยุค ตามลักษณะโลหะท่ีใชคือ
(1) ยคุ สํารดิ เครือ่ งมือเครื่องใชของมนษุ ยใ นยุคนท้ี ําจากโลหะผสมระหวางทองแดงและดบี กุ เชน
ขวาน หอก กําไล เปน ตน
(2) ยคุ เหล็ก เมือ่ มนษุ ยรจู ักวธิ กี ารถลุงเหลก็ จึงนาํ มาทําเครื่องมอื เครอ่ื งใชแ ละอาวุธ เชน ใบหอก
ขวาน มดี ซ่งึ จะมีความแขง็ แกรง ทนทานกวาสาํ รดิ มาก
ยุคประวัตศิ าสตร
เปนชวงเวลาท่ีมนุษยรูจักประดษิ ฐต ัวอักษรและบันทึกไวบนวัสดุตาง ๆ เชน แผนหิน แผนดินเหนียว
แผน ผา ยุคประวตั ศิ าสตรแ บงออกเปน ยคุ สมัยตาง ๆ ดังน้ี
1. สมัยโบราณ มนุษยเลิกใชชีวิตแบบเรรอนมาตั้งถ่ินฐานบานเรือนอยูรวมกัน สรางระเบียบวินัย
ในการอยูรวมกันข้ึนจนเปนสังคมที่มีความซับซอน อารายธรรมในสมัยนี้ ไดแก อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
อารยธรรมอยี ิปต อารายธรรมอนิ เดยี อารยธรรมจนี ไปจนถึงจกั รวรรดโิ รมันลมสลาย
2. สมัยกลาง เมื่อจักรวรรดิโรมันลมสลาย โดยการรุกรานของพวกเตอรก ศิลปะวิทยาการตาง ๆ
จึงหยดุ ชะงกั ไปดวย ยุคสมยั นจี้ งึ เรยี กอกี ชอื่ หนึง่ วา ยุคมืด
3. สมัยใหมหรือยุคฟนฟูศิลปะวิทยาการ นับวายุคนี้เปนรากฐานของความเจริญทุก ๆ ดานในยุค
ตอมา ชว งเวลาของยุคนเ้ี ร่ิมตั้งแตก ารออกสํารวจดนิ แดนไปจนถงึ สงครามโลกครง้ั ท่ี 1
4. สมัยปจจุบันคือ ชวงเวลาตง้ั แตย ุติสงครามโลกคร้ังที่ 1 เร่อื ยมาจนถึงปจจุบนั
หลกั เกณฑการแบง ยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร มีดงั น้ี
1. การแบง ยคุ สมยั ทางประวัติศาสตรส ากล
แบงตามความเจริญทางอารยธรรมมนุษย
แบงตามการเร่มิ ตน ของเหตุการณส ําคัญ
แบง ตามช่ือจักรวรรดหิ รืออาณาจักรท่สี ําคัญท่ีเคยรุงเรือง
แบง ตามราชวงศท ป่ี กครองประเทศ
แบงตามการตั้งเมอื งหลวง
2. การแบงยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตรไ ทย
สวนใหญยึดถือหลักเกณฑของประวัติศาสตรสากล แบงเปนสมัยกอนประวัติศาสตรไทยและสมัย
ประวัติศาสตรไ ทย
80
สมัยประวัติศาสตรไ ทยแบงตาม
สมยั โบราณหรอื สมัยกอนสุโขทัย ต้งั แต พ.ศ.1180 ถึง พ.ศ. 1792
สมัยสุโขทยั ตั้งแต พ.ศ. 1792 ถงึ พ.ศ. 2006
สมยั อยธุ ยา ตัง้ แต พ.ศ. 1893 ถงึ พ.ศ. 2310
สมัยธนบุรี ตง้ั แต พ.ศ. 2310 ถึง พ.ศ. 2325
สมัยรตั นโกสนิ ทร ตัง้ แต พ.ศ. 2325 ถงึ ปจ จุบนั
การเทยี บยคุ สมยั สาํ คัญระหวางประวตั ิศาสตรส ากลกบั ไทย
ประวตั ิศาสตรส ากล ประวตั ศิ าสตรไ ทย
สมยั โบราณ สมัยโบราณหรอื สมยั กอนสโุ ขทยั
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย อาณาจกั รลังกาสุกะ
อารยธรรมอยี ปิ ต อาณาจกั รทวารวดี
อารยธรรมกรีก อาณาจกั รโยนกเชียงแสน
อารยธรรมโรมัน อาณาจกั รตามพรลงิ ค
สน้ิ สุดสมยั โบราณ เม่ือ ค.ศ.476 ( พ.ศ.1019 )
สมัยกลาง สมัยสุโขทยั
จกั รวรรดิโรมันตะวนั ออก สน้ิ สดุ ค.ศ. 1453 สมัยอยธุ ยา
การสรา งอาณาจักรคริสเตียน
การปกครองในระบบฟวดลั สมยั ธนบรุ ี
การฟน ฟเู มอื งและการคา สมัยรัตนโกสนิ ทร
การฟนฟูศิลปะวิทยาการ
การคน พบทวปี อเมรกิ า
สมัยใหม
การสํารวจทางทะเล
การปฏวิ ัตวิ ิทยาศาสตร
การปฏิวัตอิ ุตสาหกรรม
การปฏิวัติฝรงั่ เศส
สงครามโลกครัง้ ท1ี่ -2
สิ้นสุดสมัยใหม ค.ศ. 1945
81
ประวัติศาสตรส ากล ประวัติศาสตรไ ทย
สมยั ปจ จุบัน-รวมสมยั -ปจ จบุ นั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา-
ยุคสงครามเย็น ภมู พิ ลอดลุ ยเดช (2489 – ปจ จบุ นั )
ยคุ เทคโนโลยีการสอื่ สาร
ตวั อยางเหตกุ ารณส ําคญั ทแ่ี สดงความสมั พันธและความตอ เนอ่ื งของกาลเวลา
1. ประวตั ศิ าสตรสากล
เหตุการณส าํ คญั ในประวัติศาสตรสากลนํามาเปนตัวอยางคือ ยุคจักรวรรดินิยมเกิดขึ้นมาจากปจจัย
หลายประการ ท้ังการเมือง เศรษฐกิจและพลังทางสังคม ซึ่งทําใหประเทศในทวีปยุโรปมีอํานาจเขมแข็ง
มีความกาวหนาทางเศรษฐกิจ มีความเจริญรุงเรือง แตการมีอํานาจและความม่ันคงดังกลาวเกิดข้ึนมา
เพราะการปฏิวัติอุตสาหกรรมและยุคจักรวรรดินิยม ส้ินสุดเมื่อสงครามโลกคร้ังที่ 1 ซ่ึงทําใหมหาอํานาจ
ท้งั หลายหยดุ การลา อาณานิคม แตอ าณานคิ มทัง้ หลายที่เปน อยกู ็ยงั คงเปนอาณานคิ มตอ มาอกี หลายป
หลายชาตเิ ริม่ เรยี กรองเอกราชและสว นใหญไ ดเ อกราชคืนภายหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2
2. ประวัตศิ าสตรไ ทย
เหตุการณสําคัญในประวัติศาสตรไทยที่นํามาเปนตัวอยางคือ ยุคการปรับปรุงประเทศอยูในชวง
พ.ศ. 2394-2475 หรือในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัวถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกลา
เจา อยูหวั ระหวา งนมี้ กี ารปรับปรงุ และปฏริ ปู ประเทศทุกดา นทั้งการปกครอง สังคม เศรษฐกจิ วัฒนธรรม ฯลฯ