3. ขน้ึ ฝึกปฏิบตั ิ (Practice)
1. ครใู ห้นกั เรียนจับคู่กนั แล้วครูแจกข้อความให้คู่ละ 1 แผน่ ใหน้ ักเรียนแก้ไขการเขยี นท่ีไม่ถูกต้อง
this Summer I’m takeing a trip to Thailand with some
friends. First, we’re going to spent a few days in 51rain51k. I
have some Thai friends there, and they might take us on a
tour of the city after that, we’re going to take a 51rain to
Chiang Mai and go camping for a couple of weeks. Its going
to be a perfect vacation? See you all when I get back.
Mayuko
2. ครขู ออาสาสมัครอ่านประโยคทีม่ ีการแก้ไข พร้อมทั้งอธบิ ายสง่ิ ที่แก้ไข
4. ขัน้ นำไปใช้ ( Production )
1. ครูใหน้ กั เรียนเขียน blog เกย่ี วกบั วนั หยุดสุดสปั ดาห์ของตนเอง ความยาว 80-100 คำ โดยเขียน
เก่ยี วกบั กจิ กรรมที่ทำในชว่ งเวลาเช้า บ่าย และเยน็ จนถงึ ค่ำ ครูให้นักเรยี น ตง้ั ชื่อเร่ืองเอง เม่ือเขียนเสรจ็ แล้ว
ใหน้ ักเรียนอา่ นตรวจทานงานเขียนของตนเอง
2. ครใู หแ้ ลกเปลีย่ นกับเพ่ือนเพื่อตรวจความถูกต้อง จากนัน้ ครูขออาสาสมัครอ่านงานของตนเอง 1-
2 คน และบอกประเดน็ บกพร่องทเ่ี พอื่ นชว่ ยแก้ไขให้
3. นักเรยี นทำ Self-Check 1 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 113
5. ข้ันสรุป ( Wrap up )
1. ครใู หน้ ักเรยี นสรปุ ลักษณะการเขยี นแบบไม่เป็นทางการ
2. แบบฝกึ หัด หนา้ หนา้ 11 Exs. 2b-5 ใหน้ ักเรียนทำเป็นการบา้ น
7. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น SPARK 2 ม. 2
2. เกม
8. วิธกี ารวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้
เคร่อื งมือ วธิ ีการ เกณฑ์การประเมนิ
ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ 60%
1. แบบฝึกหัด -ตรวจความถูกต้องของแบบฝึกหดั
4 ระดับ ดมี าก - ดี - พอใช้
สมุด - ปรับปรงุ
2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน - สงั เกตการเขา้ รว่ มและความต้งั ใจ
ในการทำกจิ กรรม
แผนการจัดการเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ( ภาษาอังกฤษ )
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง At work, at play เวลาเรียน 17 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16 เร่ือง ASEAN corner เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง
สอนวนั ท่ี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2
__________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ดั
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ ง
มเี หตุผล
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวข้อเร่ือง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail)
และแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเร่อื งที่ฟังและอา่ นพร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความ
คิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เร่อื งทีฟ่ ัง
หรอื อ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ ง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณท์ ่ีอยู่ในความสนใจของสังคม
2. สาระสำคญั
การเรยี นรเู้ กีย่ วกบั ความสำคัญของภาษา โดยเฉพาะภาษาทใี่ ชใ้ นประเทศกลุ่มประชาคมอาเซยี น
ชว่ ยใหส้ ามารถสอื่ สารได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และก่อให้เกิดผลประโยชนแ์ ละโอกาสท้ังทางดา้ นเศรษฐกิจ
และการศึกษา
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกรายละเอยี ดของเร่อื งท่ีอ่านหรือฟงั ได้
2. พูดแสดงความคิดเห็นในประเด็นท่ีกำหนดให้ได้
3. เขยี นสรุปผลการอภิปรายในประเดน็ ท่ีกำหนดใหไ้ ด้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (broaden, survive)
Nouns (opportunity, advantage, race, hub, investor,
infrastructure, cooperation, industry)
Adjectives (available, multilingual, fluent, beneficial)
Adverb (peacefully)
Functions: Discussing about language you should learn
I think we should learn Mandarin because there are lots of
Chinese companies in Asia.
2) Language Skills
Speaking: แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ภาษาท่ีนกั เรยี นไทยควรเรียนรู้
Reading: อา่ นเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Writing: เขยี นสรุปผลการอภปิ รายในประเด็นที่กำหนด
4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝเ่ รียนรู้
2) มุ่งม่ันในการทำงาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
1. กจิ กรรมนำสู่บทเรยี น( Warm up )
ครสู นทนากับนักเรียนเกีย่ วกบั ประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซยี น ภาษาท่ีใช้ในประเทศกลุ่ม
ประชาคมอาเซยี น และนอกจากภาษาไทยแลว้ นักเรียนสามารถพดู ภาษาของประเทศใดในกลุ่ม
ประชาคมอาเซยี น
2. ขัน้ นำเสนอ (Presentation)
1. ครูใหน้ ักเรยี นดูภาพและอ่านช่อื เร่ือง Why do we learn languages? ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 18
แลว้ ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับความสำคัญของภาษา
2. ครใู ห้นกั เรียนอ่านคำถามและขีดเสน้ ใต้คำว่า multilingual, economy, education system
ครถู ามนักเรียนว่าจากคำถามและคำศัพทท์ ข่ี ดี เส้นใตน้ กั เรยี นคดิ วา่ จะไดเ้ รยี นเก่ยี วกับอะไร
3. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นออกเสยี งคำศัพท์ท้งั 3 คำ ตามครู จากนนั้ นักเรยี นอ่านออกเสียงคำศัพท์
พร้อมกัน แล้วหาความหมายของคำศัพท์จากพจนานุกรม
multilingual (adj) = using, speaking, or writting in several different languages
(ซงึ่ พูด/เขยี นไดห้ ลายภาษา)
economy (n) = the system by which a country’s money and goods are
produced and used, or a country considered in this way
(เศรษฐกิจ)
education system (n) = the system of
the process of teaching and learning, usually at
school, college, or university (ระบบการศึกษา)
4. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กล่มุ กล่มุ ละ 4 คน แล้วให้นักเรยี นอ่านบทอ่านย่อหน้าท่ี 1 และย่อหน้า
สุดท้ายแลว้ บอกใจความสำคัญของทั้ง 2 ยอ่ หน้า จากนั้นครอู ธิบายวา่ การอ่านเรยี งความท่มี หี ลายย่อหน้า ยอ่
หน้าที่ 1 มักจะเปน็ ใจความสำคัญของเรื่อง และย่อหน้าสุดทา้ ยจะเป็นการสรปุ เร่อื ง ซึ่งส่วนมากแลว้ ประโยคที่
1 ของย่อหน้า จะเป็นประโยคใจความสำคญั ของย่อหนา้ น้ัน ๆ
5. ครใู ห้แตล่ ะกลมุ่ อ่านบทอา่ นเร่ือง Why do we learn languages? และตอบคำถามใน Ex. 1
จากนั้นครูส่มุ เรียกนกั เรยี นบอกคำตอบกล่มุ ละ 2 ข้อ
3. ข้นึ ฝกึ ปฏบิ ัติ (Practice)
1. ครูใหน้ กั เรียนจบั คอู่ ภิปรายวา่ ภาษาใดในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียนท่ีนักเรยี นไทยควร
เรียนรู้ พร้อมบอกเหตผุ ล
2. ครขู ออาสาสมัคร 5-6 คู่ นำเสนอผลการอภปิ ราย นักเรยี นค่อู ืน่ ๆ สามารถร่วมเสนอขอ้ มลู
เพ่มิ เติมได้
4. ขน้ั นำไปใช้ ( Production )
ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้แตล่ ะกลุม่ อภิปรายร่วมกนั ในประเด็น ขอ้ ดีของ
การทีค่ นในประเทศไทยสามารถพดู ภาษาได้มากกวา่ 1 ภาษา แลว้ แต่ละกลุ่มเขยี นสรุปผลจากการ
อภปิ ราย
5. ขัน้ สรุป ( Wrap up )
ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ 0kdginjv’mujvjko
7. สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน SPARK 2 ม. 2
8. วิธกี ารวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้
เครื่องมอื วธิ กี าร เกณฑ์การประเมนิ
ได้คะแนนไมน่ ้อยกว่า 60%
1. แบบฝึกหัด -ตรวจความถกู ต้องของแบบฝึกหัด
4 ระดบั ดีมาก - ดี - พอใช้
สมดุ - ปรับปรุง
2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น - สังเกตการเข้ารว่ มและความตัง้ ใจ
ในการทำกจิ กรรม
แผนการจดั การเรียนรกู้ ล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ ( ภาษาองั กฤษ )
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง At work, at play เวลาเรียน 17 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 17 เรอ่ื ง Fun time เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง
สอนวันที่ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2
__________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ ง
มเี หตุผล
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวข้อเร่อื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนับสนุน (supporting detail)
และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับเรอ่ื งท่ีฟังและอ่านพร้อมทง้ั ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต 2.1 ม. 2/3 เข้าร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
2. สาระสำคัญ
การรแู้ ละเขา้ ใจคำศัพท์ โครงสรา้ งภาษา ชว่ ยให้พูด/เขยี นสื่อสาร และเข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาได้
อย่างเหมาะสม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ทบทวนคำศพั ท์และไวยากรณ์ท่ีเรยี นมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1
2. เขยี น quiz เกย่ี วกบั เนื้อหาท่ีเรียนมาแล้วได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (broaden, survive)
Nouns (opportunity, advantage, race, hub, investor,
infrastructure, cooperation, industry)
Adjectives (available, multilingual, fluent, beneficial)
Adverb (peacefully)
Functions: Discussing about language you should learn
I think we should learn Mandarin because there are lots of
Chinese companies in Asia.
2) Language Skills
Speaking: แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับภาษาทน่ี กั เรียนไทยควรเรยี นรู้
Reading: อา่ นเพื่อหาข้อมูลเฉพาะ
Writing: เขยี นสรุปผลการอภิปรายในประเดน็ ที่กำหนด
4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มงุ่ มั่นในการทำงาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
1. กิจกรรมนำสู่บทเรยี น( Warm up )
ครูเขียนวลี When I grow up, I want to b a … บนกระดาน แล้วสนทนากับนักเรยี น
เกีย่ วกบั อาชีพทน่ี ักเรยี นอยากทำ
2. ขน้ั นำเสนอ (Presentation)
1. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกันบอกคำศัพท์ท่ีเรยี นในหนว่ ยการเรียนรู้นี้ โดยครูกำหนดหัวข้อ ใหน้ ักเรยี น
บอกคำศัพทท์ ่เี กยี่ วข้องกับหัวข้อดังกล่าว
2. นักเรียนปดิ หนังสือเรยี น ครทู บทวนไวยากรณ์ทีเ่ รยี นในหน่วยการเรยี นรูน้ ้ี โดยใหน้ กั เรยี นบอก
โครงสรา้ งและวิธีการใช้ ครูเขียนในรูป mind map
Present
simple
-ing form ไวยากรณ์ Present
& to- หน่วยการ continuo
เรยี นรู้ท่ี 1
infinitive Adverbs us
of
frequency
3. ขนึ้ ฝึกปฏิบตั ิ (Practice)
1. ครูให้เลน่ เกม What am I? โดยครจู ะเป็นผู้อา่ นคำใบ้ หรอื ให้นักเรียน 1 คน อา่ นคำใบ้ แลว้
ให้นกั เรียนชว่ ยกนั ทายวา่ คืออาชพี อะไร
2. ครใู ห้นกั เรยี นทำ quiz โดยห้ามเปิดดูเนือ้ หา เสร็จแล้วให้นกั เรยี นเปรียบเทียบคำตอบกบั เพ่อื น
จากนั้นครจู ึงเฉลยคำตอบ
3. ครูเลอื กนกั เรยี น 2 คนทเ่ี รยี นเก่งเปน็ คนพดู ประโยค โดยผลัดกนั พดู แล้วแบ่งนักเรียนเปน็ 3
กล่มุ ให้แต่ละกลุ่มฟงั ประโยคทีเ่ พ่ือนพูด แลว้ ทายว่าคอื อาชีพอะไร ถ้าทายถูกจะได้ 1 คะแนน กล่มุ ท่ี
มีคะแนนมากทส่ี ดุ จะเปน็ ผ้ชู นะ
Leader: I cut people’s hair.
Team B S1: Hairdresser
T: Team B gets 1 point.
Leader: I look after people’s teeth.
Team A S2: Dentist
T: Team A gets 1 point.
4. ขน้ั นำไปใช้ ( Production )
ครใู ห้นักเรียนจบั คู่กนั แลว้ ครแู จกกระดาษให้คลู่ ะ 1 แผน่ ให้แต่ละคคู่ ดิ คำถาม quiz 5-6
ขอ้ เกยี่ วกับเน้อื หาในหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ครูใหน้ ักเรยี นเปิดดูเน้ือหาได้ และให้นักเรียนเขยี นคำตอบ
ไวด้ ้านหลังกระดาษ เมื่อทุกคู่คิดคำถามเสรจ็ แล้วให้แลกกันทำ quiz กบั คู่อ่ืน
5. ขั้นสรปุ ( Wrap up )
ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ บทเรียนทเี่ รียนมาแลว้
7. ส่อื การเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น SPARK 2 ม. 2
2. เกม
8. วิธกี ารวดั ผลและประเมินผลการเรยี นรู้
เครื่องมอื วธิ ีการ เกณฑก์ ารประเมิน
ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่า 60%
1. แบบฝกึ หัด -ตรวจความถกู ต้องของแบบฝึกหดั
4 ระดับ ดีมาก - ดี - พอใช้
สมุด - ปรับปรุง
2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน - สงั เกตการเขา้ รว่ มและความตง้ั ใจ
ในการทำกจิ กรรม