The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานระเบียบแถว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aom Sudarut, 2022-05-31 08:12:09

โครงงานระเบียบแถว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

โครงงานระเบียบแถว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

1

2

บทท่ี 1
บทนำ
1.1 ท่ีมาและความสำคัญ
ในสังคมที่มีการพัฒนาในทุกๆด้าน ทั้งในด้านเศรษฐีกิจ สังคม การเมือง การพัฒนาเหล่านี้ จ าเป็น
ตอ้ ง อาศัยปัจจัยหลาย ๆ ประการเก้อื หนนุ กนั แตป่ ัจจัยหลักของการพัฒนาจำเป็นต้องอาศยั ทรัพยากรบุคคล
ที่มี คุณภาพนั้น จะต้องมีคุณสมบัติทั้งทางด้านสมรรถภาพทางร่างกายแข็งแรงและจิตใจที่ดี มีสติ มีความรู้
ความสามารถ มีความอดทน ขยันขันแข็ง ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เผชิญปัญหาและอุปสรรคด้วยความ
มงุ่ ม่ัน คุณสมบตั เิ หลา่ นี้ จำเป็นต้องถกู หล่อหลอมให้เกดิ ขนึ้ ในตัวบุคคลในรูปของคำว่า “วนิ ัยในตนเอง” วินัย
ในตนเองเป็นวัฒนธรรมของสังคมที่ทุกคนต้องปฏิบัติ เพราะครูควรสร้างสรรค์ให้เกิดแก่เด็กในระดับปฐมวัย
เพราะถ้าเดก็ มวี นิ ัยในตนเองต้งั แต่ยังเล็กน้ันจะทำให้เด็กอยรู่ ว่ มกนั ได้ดว้ ยความสขุ
วินัยในตนเอง เป็นคุณธรรมประการหนึ่งที่ทุกคนควรสร้างขึ้นสำหรับบังคบั พฤตกิ รรมของตนเอง ทำ
ให้คนเราบรรลุจุดหมายของชีวิต ประสบความสุขความเจริญในชีวิต จึงเป็นวินัยที่ควบคุมพฤติกรรมของ
ตนเอง ใหเ้ ปน็ ไปในทางท่ดี งี ามและประสบความสำเรจ็ ในชีวิต จงึ ต้องดำเนินการฝกึ ให้เกิดผลอย่างจริงจงั เด็ก
นั้น นับว่าเป็นทรัพยากรมนุษยท์ ่ีสำคัญที่สุดของประเทศ หากไม่ได้เตรียมพัฒนาเดก็ ใหเ้ ป็นทรพั ยากรที่ดแี ล้ว
การพัฒนาประเทศอาจเป็นไปได้ไม่เต็มที่ จะเห็นได้ว่าความมีวินัยในตนเองเป็นลักษณะที่จำเป็นต้องปลูกฝัง
ให้กับเยาวชน เมื่อเยาวชนมีวินัยในตนเองเป็นพื้นฐานและมีวินัยต่อสังคม ผลที่สุดก็จะมีวินัยต่อประเทศโดย
ส่วนรวม ซ่งึ ทำใหป้ ระเทศชาตกิ า้ วหนา้ มาก
ดังนั้นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองร่ม โดยส่วนมากพบว่ายังไม่มีความเป็น
ระเบียบแถว ไม่ว่าจะเดินขึ้นห้องหรือเวลาเปลี่ยนคาบเรียน และเดินแถวในการรับประทานอาหาร ฉะนั้นถ้า
นักเรียนมีวินัยในการเดนิ แถวทำกจิ กรรมทุกกจิ กรรมจะทำใหเ้ ด็กมจี ติ สำนึกท่ดี ี มคี วามสวยงามมรี ะเบียบวินัย
เม่อื มกี ิจกรรมก็จะดำเนนิ ได้โดยดีสรา้ งความสามัคคีในหมู่คณะและลดปัญหาทางสังคมไดอ้ ีกดว้ ย

1.2 วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองร่ม มีความรู้และความเข้าใจในการ

ปฏิบัติตามระเบยี บแถว
2. เพอื่ ให้นักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นบา้ นหนองรม่ ทุกคนปฏบิ ตั ติ ามระเบียบแถว
3. เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองร่มเห็นความสำคัญของการมีระเบียบ

วินัย และสามารถนำไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้

3

1.3 ขอบเขตของการศึกษา
เปา้ หมาย นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นบ้านหนองรม่ ปีการศึกษา 2564 จำนวน 30 คน
สถานท่ี โรงเรยี นบ้านหนองร่ม
ระยะเวลาดำเนนิ การ ดำเนินการตัง้ แตป่ กี ารศกึ ษา 2564 และดำเนินการต่อเน่อื งเป็นประจำทุกปี

1.4 ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ บั
1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านหนองร่ม มีความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติตาม

ระเบยี บแถว
2. นักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นบ้านหนองรม่ ทุกคนปฏบิ ัตติ ามระเบยี บแถว
3. นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบา้ นหนองร่มเหน็ ความสำคัญของการมีระเบียบวินัย และ

สามารถนำไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวัน

4

บทท่ี 2
การศึกษาปญั หาและสาเหตุ

2.1 ปญั หาและสาเหตุ
ปัจจัยภายใน นักเรียนขาดความสนใจในเรื่องระเบียบวินัย ขาดความพร้อมและ ขาดความ

รับผดิ ชอบตอ่ ตนเองในการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าเสาธง การเดนิ แถวอย่างมรี ะเบยี บวนิ ัย
ปัจจัยภายนอก สภาพแวดล้อมใกล้ตัวนักเรียน ผู้ปกครองขาดการเอาใจใส่นกั เรียน ทำให้นักเรียนมี

พฤตกิ รรม ท่ีเปลีย่ นไปคือขาดระเบียบวนิ ัยในตนเอง ขาดความรบั ผดิ ชอบในตนเอง
จากขอ้ มูลดังกลา่ ว จงึ ทำให้ศกึ ษาขอ้ มูลการดำเนินการเพ่ือนนกั เรียนในชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3

ทุกคนได้มี ระเบยี บวินยั ในตนเอง จะได้มีความสุขในการเรียน และการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั

2.2 เป้าหมายและทางออก
เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านหนองทกุ คนปฏิบัติตามระเบียบแถว 80 %
เชงิ คุณภาพ
นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนบ้านหนองรม่ ทุกคนปฏิบตั ติ ามระเบียบแถว

5

บทท่ี 3
วธิ กี ารดำเนินงาน

3.1 วธิ กี ารดำเนินงาน
1. ประชุมระดมความคดิ สมาชิกทุกคนในโครงงาน เพ่ือกำหนดกจิ กรรม
1.1 ประชมุ ชีแ้ จงเก่ยี วกับโครงงานเข้าแถวสรา้ งวินัย สร้างน้ำใจและไมตรี

1.2 แตง่ ต้งั คณะทำงานโครงการเข้าแถวสร้างวินยั สรา้ งนำ้ ใจและไมตรี
1.3 การจัดป้ายนเิ ทศภายในโรงเรียน

1.4 จดั ทำเอกสาร/แผน่ ผับประชาสมั พนั ธ์โครงการ
1.5 ดำเนนิ งาน

1. อบรมให้ความร้นู ักเรียนเก่ยี วกับการเดินแถวอยา่ งเป็นระเบียบโดยยึดหลกั เดินชดิ ขวา

6

2. จดั กิจกรรมเกมการเดินแถวเพ่ือให้นักเรยี น

3. ให้นักเรยี นปฏิบัตใิ นการขน้ึ ลงบันไดให้เป็นระเบียบ เดนิ ชิดขวาเปน็ หลกั

4. ใหน้ กั เรียนเข้าแถวซ้อื อาหารอย่างเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยเดนิ ตามชอ่ งทีจ่ ัดไว้

5. ใหน้ ักเรียนเขา้ แถวเดนิ ไปซ้ืออาหารกลางวันอยา่ งเป็นระเบยี บ

7

2. สรุปผลและประเมนิ ผลของโครงงาน
3. รายงานโครงงาน โดยรายงานโครงงานกบั ครูที่ปรึกษาสปั ดาหล์ ะ 1 ครั้ง

3.2 หลกั ธรรมทน่ี ำไปใช้
1. หลกั ธรรมอิทธบิ าท
คำว่า อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมี คุณธรรม เครื่องให้ลุถึง

ความสำเรจ็ ตามทีต่ นประสงค์ ผู้หวังความสำเรจ็ ในสง่ิ ใด ต้องทำตนใหส้ มบรู ณ์ ด้วยส่งิ ท่ี เรยี กว่า อทิ ธิบาท
ซึง่ จำแนกไวเ้ ป็น 4 คอื

1) ฉนั ทะ ความพอใจรักใคร่ในสง่ิ นนั้
2) วริ ยิ ะ ความพากเพยี รในสิง่ น้นั
3) จิตตะ ความเอาใจใสฝ่ ักใฝใ่ นสิ่งน้นั
4) วมิ งั สา ความหม่ันสอดสอ่ งในเหตผุ ลของสิ่งนนั้
ธรรม ๔ อยา่ งน้ี ย่อมเนอ่ื งกนั แตล่ ะอยา่ งๆ มหี น้าที่เฉพาะของตน
ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ตนถือว่าดีที่สุดที่มนุษย์เราควรจะได้ ข้อนี้เป็น
กำลงั ใจอันแรกทท่ี ำให้เกดิ คณุ ธรรม ข้อต่อไปทกุ ขอ้
วริ ิยะ คอื ความพากเพียร หมายถงึ การการะทำท่ีตดิ ต่อไม่ขาดตอนเป็นระยะยาวจนประสบ
ความสำเรจ็ คำนี้ มีความหมายของความกล้าหาญเจืออยดู่ ว้ ยสว่ นหนึ่ง
จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้งสิ่งนั้นไปจากความรู้สึกของตัวทำสิ่งซึ่งเป็นวัตถุประสงค์น้ัน
ใหเ้ ด่นชัดอยู่ในใจเสมอคำนรี้ วมความหมายของคำวา่ สมาธิ อยูด่ ้วยอยา่ งเต็มท่ี
วิมังสา หมายถึงความสอดส่องในเหตุและผลแห่งความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ ให้ลึกซึ้ง
ยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปญั ญา ไว้อยา่ งเต็มท่ี
2. พละ 5 คอื กำลังหา้ ประการไดแ้ ก่
1) ศรัทธาพละ ความเชอ่ื กำลงั การควบคุมความสงสัย ความวิตก
2) วิรยิ ะพละ ความเพยี ร กำลงั การควบคมุ ความเกียจคร้าน
3) สมาธิพละ ความต้งั ใจม่ัน กำลังการควบคุมการวอกแวกเขวไ่ ขว่ ฟงุ้ ซา่ น
4) ปัญญาพละ ความรอบรู้ กำลังการควบคุม การทำเกนิ พอดี
5) สตพิ ละ ความระลึกได้ กำลงั การควบคมุ ความประมาท ความงมงาย
เป็นหลักธรรมที่คูก่ ับอนิ ทรีย์ 5 คอื ศรัทธินทรยี ์ วริ ยิ นิ ทรยี ์ สตนิ ทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ โดยมี
ความเหมือนความแตกต่างและความเกี่ยวเนื่องคือ พละ ๕ เป็นธรรมท่ีกำจัดแก้อกุศลนิวรณ์ อินทรีย์เป็น
ธรรมเสริมสรา้ งกศุ ลอทิ ธิบาท
3. พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

8

‘ ระเบยี บในการทำงานน้ีจำเปน็ ต้องมคี ือ มีวนิ ยั น่ันเองถา้ ไม่มีวินัยทำอะไรกจ็ ะเปะปะไปหมด แม้
ในห้องเรียนจะไม่ได้สอนว่าวิชานี้ๆต้องมีวินัยแต่ทุกวิชาต้องมีวินัยแม้จะไปสังสรรค์กันไปเลน่ กีฬากัน ไป
พัฒนาชนบทก็ตามต้องมีวินัยทั้งน้ันถ้าไม่มีวนิ ัยงานนน้ั มีหวังล้มเหลวหรือยิ่งกว่านน้ั งานน้ันอาจจะมี หวัง
ทำลายส่วนรวมก็ได้ถ้าไม่มีวินัยขาดความรู้หน่อยอาจจะยังดีดีกว่าขาดวินัยแต่ถ้ามีทั้งความรู้และ วินัยก็
ยิ่งดีพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่นักศึกษาปัจจุบันของ
มหาวิทยาลัยขอนแก่นณ สโมสรอาจารย์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น เม่อื วันท่ี ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๒๒ ’

3.3 การวดั และประเมนิ ผล
วธิ กี ารวัด
สงั เกตพฤติกรรมกาการเขา้ แถวของนกั เรยี น
วิธีประเมนิ ผล
เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ : แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
ช่วงระยะเวลา
ชว่ งระยะเวลาการประเมิน สปั ดาหล์ ะ 1 คร้ัง

3.4 อปุ สรรคความผดิ พลาดและการแก้ปัญหา
เน่อื งจากนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นบ้านหนองร่มมีจำนวนมากการดูแลอาจจะไม่ท่ัวถึง

ตอ้ งมีคณุ ครูและนักเรยี นแกนนำคอยช่วยดูแลในการจดั ระเบยี บวนิ ัยในชว่ งระยะแรก

9

บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานโครงงาน “เขา้ แถวสรา้ งวินัย สรา้ งน้ำใจและไมตรี.” พบวา่
ก่อนดำเนินกิจกรรมตามโครงงานฯ

- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองร่ม จำนวน 30 คน มีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบแถวไม่แน่ชัดในวัตถุประสงค์ของโครงงานนี้ สามารถปฏิบัติตามระเบียบแถว
ไดถ้ กู ต้อง คิดเปน็ ร้อยละ 20 %
หลงั ดำเนนิ กิจกรรมตามโครงงานฯ

- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองร่ม จำนวน 30 คน มีความรู้ความเข้าใจ
เก่ียวกับการปฏิบัติตามระเบียบแถว ตรงวัตถปุ ระสงค์ของโครงงานน้ี สามารถการปฏิบัติตามระเบียบแถวได้
ถกู ตอ้ ง คิดเปน็ ร้อยละ 80 %

10

บทท่ี 5
ผลสรุป และข้อเสนอแนะ

5.1 สรุปผลการดำเนินการโครงงาน
1. จากการดำเนินงานโครงงาน เข้าแถวสร้างวินัย สร้างน้ำใจและไมตรี เกิดการปฏิบัติตามระเบียบ

แถวได้มากกว่าร้อยละ 80 %
2. นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นบา้ นหนองร่มทกุ คนตระหนกั ถงึ ข้อดดี ้านความมีวนิ ัย

มมี ารยาท และมจี ิตอาสา

5.2 ข้อเสนอแนะ
1. คุณครปู ระจำชนั้ ควรชว่ ยกวดขันเรื่องระเบียบวนิ ัยในการเดนิ ให้นกั เรียน
2. ควรมีการเสริมแรงโดยการมอบรางวัล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักเรียนที่มีวินัยและความ

เรียบรอ้ ย

5.3 การขยายผล
ระยะท่ี 1 รเิ ริ่มบุกเบิก ดำเนนิ การทดลองในช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3
ระยะที่ 2 ตอกย้ำ ซำ้ ทวนขยายผล ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถงึ มนี าคม
ระยะท่ี 3 ปรบั ปรุงแก้ไขสร้างเปน็ ข้อตกลงในการปฏบิ ัติร่วมกันในโรงเรียน

11

ภาคผนวก

12

ภาพประกอบโครงงาน “เข้าแถวสรา้ งวินยั สร้างนำ้ ใจและไมตรี”

การฝึกอบรมการจัดระเบยี บแถวของนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3

13

ภาพประกอบโครงงาน “เข้าแถวสรา้ งวินัย สรา้ งน้ำใจและไมตรี”

การฝึกระเบยี บการเดนิ แถวของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3

14

ภาพประกอบโครงงาน “เข้าแถวสร้างวินยั สร้างน้ำใจและไมตรี”

การฝึกนักเรยี นเดินขึน้ ลง บันไดโดยการชดิ ขวา และแนะนำปา้ ยนเิ ทศระเบียบแถว

15

ภาพประกอบโครงงาน “เข้าแถวสร้างวินัย สร้างนำ้ ใจและไมตรี”

การฝกึ นกั เรียนในการเขา้ แถวรบั อาหารกลางวนั และการซอื้ ขนมอย่างเปน็ ระเบยี บ

16

แบบสำรวจความพึงพอใจท่ีมีต่อการทำโครงงานคณุ ธรรม(เข้าแถวสร้างวนิ ัย สรา้ งน้ำใจและไมตรี)

ตอนที่ 1 สถานภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม

คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย ใหต้ รงกับสถานภาพของตนเอง

( ) นกั เรยี น ( ) ครู ( ) ผู้บริหาร

( ) ผปู้ กครอง ( ) บคุ ลากรอืน่ ๆโปรดระบ.ุ ................................

ตอนที่ 2 ความพึงพอใจของผตู้ อบแบบสอบถาม

คำชแ้ี จง ให้ทำเครื่องหมายในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับความพึงพอใจของท่านมากทีส่ ดุ

ประเด็นการประเมิน ระดบั ความพึงพอใจ

54321

1. การเดินแถวขึ้นลงรถรับ-ส่งของนักเรียนหลังทำโครงงาน
เปน็ ระเบยี บยิง่ ขึน้
2. การเข้าแถวซื้อขนมของนักเรียนหลังทำโครงงานเป็น
ระเบยี บยิ่งขึน้
3. การเข้าแถวรับประทานอาหารของนักเรียนหลังทำ
โครงงานเป็นระเบยี บยิ่งข้ึน
4.การเข้าแถวเดินภายในโรงเรียนของนักเรียนหลังทำ
โครงงานเป็นระเบียบยง่ิ ขน้ึ
5. นักเรยี นเดนิ เข้าขวา วนออกซ้ายในการซอ้ื ขนม
6. นกั เรียนยดึ การเดนิ ชดิ ขวาเป็นหลกั

ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version