การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร

รายงานการวิจัย การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอน แบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ แผนกวิชาการบัญชีประจำภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี กุลจิรา กุลชิน งานวิจัยภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

รายงานการวิจัย การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอน แบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ แผนกวิชาการบัญชี ประจำภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี กุลจิรา กุลชิน งานวิจัยภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

ชื่อเรื่องวิจัย เรื่อง การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอน แบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ แผนก วิชาการบัญชี ประจำภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี ชื่อผู้วิจัย นางสาวกุลจิรา กุลชิน ตำแหน่ง ครูผู้สอน ประจำแผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี วุฒิการศึกษา ระดับปริญญาตรี (บช.บ) บัญชีบัณฑิต คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ปีที่ทำการวิจัย 2566 ประเภทวิจัย วิจัยชั้นเรียน บทคัดย่อ การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ วิชาการบัญชีเดี่ยวและการกระทบยอด เรื่อง การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอนแบบการสาธิต ประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ ๓ แผนกวิชาการบัญชี ประจำภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี จำนวน 10 คน พบว่า ในปีที่ผ่านมาผู้เรียนส่วนมาก ยังไม่เข้าใจถึงการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร เนื่องจากขาดทักษะ ความรู้ และความชำนาญ ดังนั้นผู้วิจัยเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดทำสื่อ อุปกรณ์ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหา ความรู้ มีความชำนาญ เกิดทักษะ และกระบวนการคิด วิเคราะห์ คำนวณ ได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นผู้วิจัยจึงได้ตะ หนักถึงผู้วิจัยจึงได้ตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญของการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบ ยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอนแบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริงเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ทักษะ การกระทบยอดเงินฝากธนาคารได้ถูกต้อง ด้วยเครื่องมือแบบประเมินผลการเรียนรู้ / ใบงาน และแบบ ประเมินผลการทำใบงาน การรวบรวมข้อมูลจากแบบประเมินผลการทำใบงาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ค่าเฉลี่ยและร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนมีการพัฒนาการเรียนรู้เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ซึ่งเห็นได้จาก ผลการสรุปการใช้นวัตกรรม นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจาก ผู้เรียนให้ความสนใจในการเรียน จาก การสอนแบบการสาธิตที่ใช้สื่อจริงประกอบการสอนทำให้ผู้เรียนได้เห็นและได้ลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

บทที่ 1 บทนำ 1. ที่มาและความสำคัญของปัญหา แผนกวิชาการบัญชีมีการจัดการเรียนการสอนมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะในสาขาวิชาชีพการบัญชี โดยเฉพาะวิชาการบัญชีเดี่ยวและการกระทบยอด เป็นวิชาชีพที่ผู้เรียนในระดับ ปวช.๓ แผนกวิชาการบัญชี เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจหลักการปฏิบัติงานบัญชีอุตสาหกรรม มีทักษะปฏิบัติงานบัญชีตามหลักการบัญชีที่ รับรองทั่วไป มีกิจนิสัย ความมีระเบียบ ละเอียด รอบคอบ มีวินัยตรงต่อเวลา และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพบัญชี จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า วิชาการบัญชีเดี่ยวและการกระทบยอด เป็นวิชาที่มีความสำคัญต่อผู้เรียน เพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ในระดับอุดมศึกษาต่อไป ผู้วิจัยในฐานะเป็นครูสอนวิชาการบัญชีเดี่ยวและการกระทบ ยอด พบว่า ในปีที่ผ่านมาผู้เรียนส่วนมากทำงบกระทบยอดเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้องเนื่องจากชาดทักษะ ดังนั้น ผู้วิจัยเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดทำสื่อ อุปกรณ์ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหา ความรู้ มีความชำนาญ เกิดทักษะ และกระบวนการคิด วิเคราะห์ คำนวณ ได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น 2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ทักษะการกระทบยอดเงินฝากธนาคารได้ถูกต้อง 3. ขอบเขตของการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ ปวช. ๓ แผนกวิชาการบัญชี ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 2566 ในวิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี จำนวน 10 คน ตัวแปร ตัวแปรอิสระ คือ การสอนแบบสาธิต ตัวแปรตาม คือ ผู้เรียนมีทักษะการกระทบยอดเงินฝากธนาคารที่ถูกต้อง 4. นิยามศัพท์เฉพาะ การพัฒนาผลการเรียนรู้หมายถึง การพัฒนาทักษะ ความรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเรียนรู้เพิ่มขึ้น โดยมี สื่อการเรียนการสอนที่สามารถแก้ไขปัญหาการเรียนของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี เช่นการใช้เทคนิคการสอนแบบ การสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง การบัญชีเดี่ยวและการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร หมายถึง รายวิชาการที่จัดการเรียนการสอนตาม หลักสูตร และแผนการเรียนของระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 2566 นักเรียน หมายถึง นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๓ แผนกวิชาการบัญชี ประจำภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี 5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ สามารถพัฒนาการเรียนรู้ ทักษะ การกระทบยอดเงินฝากธนาคารที่ถูกต้

บทที่ ๒ แนวคิด ทฤษฎี และเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1. กรอบแนวคิดในการวิจัย 1. สื่อ อุปกรณ์การเรียนการสอน หมายถึง แผนภาพ แบบฟอร์มการกระทบยอดเงินฝากธนาคารที่ ถูกต้องตามวิธีต่างๆ เพื่อให้นักเรียน เพื่อให้นักเรียนฝึกทักษะการกระทบยอดเงินฝากธนาคารที่ถูกต้อง จาก โจทย์ที่ครูกำหนดให้ 2. การสาธิต เป็นเทคนิควิธีการสอนที่อาศัยสื่อที่เป็นจริง นำมาสาธิต การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ที่ถูกต้อง ให้ผู้เรียนใช้การสังเกต เป็นการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติด้วย ตนเองตามขั้นตอน แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1.1 การบัญชีเดี่ยวและการกระทบยอด การกระทบยอดธนาคาร เป็นการพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคาร ว่ายอดที่บันทึกในบัญชีและยอดเงินฝาก ในธนาคารตรงกันหรือไม่ การกระทบยอดธนาคารจะช่วยให้การบันทึกบัญชีมีความถูกต้องมากขึ้น ทั้งช่วยแก้ไข ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการบันทึกบัญชี และทำให้รู้ถึงความแตกต่างของยอดที่บันทึกกับรายการจริงในบัญชี การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร (Bank Reconciliation Statement) คือ รายงานทาง การเงินที่ จัดทำขึ้นเพื่ออธิบายหรือพิสูจน์ความถูกต้องของยอดคงเหลือในบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทกระแสรายวัน ตามสมุดบัญชี กระทบกับใบแจ้งยอดจากธนาคารว่าแตกต่างกันเพราะ สาเหตุใด แล้วทำการปรับปรุงยอดสรุป ให้ถูกต้องตรงกับรายการที่เกิดขึ้นจริง ใบแจ้งยอดเงินฝากธนาคาร (Bank Statement) คือ เอกสารรายงานของ ธนาคารที่จัดส่งมา ให้กิจการ ซึ่งแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของกิจการในแต่ละเดือน เช่น ยอดคงเหลือ ยกมาต้นเดือน การนำฝากและการถอนเงินระหว่างเดือน เช็คคืน ค่าธรรมเนียม ธนาคาร และ ยอดคงเหลือ ในวันสิ้นเดือน บัญชีเงินฝากธนาคาร คือ บัญชีหลักสำหรับมหาวิทยาลัย ไว้ใช้บันทึกการรับเงิน และเป็น บัญชีสำหรับรายการจ่ายค่าใช้จ่าย ที่เป็นตัวหลักๆ ของมหาวิทยาลัยดอกเบี้ยเงินฝาก คือ ผลตอบแทน ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้กับผู้เป็นเจ้าของเงิน สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารนั้นจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของเงินฝากธนาคารและ อัตราดอกเบี้ย ของธนาคารแต่ละแห่งจะไม่เท่ากัน โดยธนาคารต้อง ประกาศอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคาร จะจ่ายสำหรับเงินฝาก แต่ละประเภทและธนาคารต้องปิดประกาศดังกล่าวไว้ ในที่เปิดเผย ฉะนั้น การจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารจะต้องเป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ระบุไว้ในประกาศ ของ ธนาคารนั้นทุกกรณีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (Saving Deposit Account) คือ เงินฝากที่ไม่ก าหนดเวลา และ จำนวนครั้งในการฝากถอน มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากค่อนข้างต่างบัญชีเงินฝากประจำ (Fixed Deposit Account) คือ เงินฝากที่มีกำหนดระยะเวลาการฝาก ถอนที่แน่นอนมีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าการฝาก ออมทรัพย์บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือ บัญชีเดินสะพัด (Current Deposit Account) คือ เงิน ฝากที่เป็น ตัวช่วยในการบริหารจัดการเงินของหน่วยงาน เพราะใช้เช็คในการเบิกจ่ายเงินได้ นอกจากนี้ยังสามารถขอใช้ วงเงินเบิกเกินบัญชี (Overdraft: OD) สถาบันการเงินจะจัดส่งใบแจ้ง รายการบัญชีกระแสรายวัน (Statement of Current Deposit หรือ Bank Statement) ให้กับ หน่วยงาน โดยทั่วไปมักไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยให้บัญชีเงิน

ฝากประเภทนี้6 การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ในระบบ ERP งานบัญชี กองคลัง มทร.พระนคร เงินฝาก ธนาคาร มี 3 ประเภท คือ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ และเงิน ฝากประจำ เงินฝากระหว่างทาง (Deposit in transit) เกิดจากการนำฝากเช็คเข้าบัญชีธนาคารหลังจาก เวลาที่ธนาคารปิดรับเช็คในวันนั้น เช็ค ค้างจ่าย (Outstanding Checks) คือ เช็คที่สั่งจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ภายนอกหรือบุคลากร แต่ผู้รับเช็คยังไม่นำเช็ค ไปขึ้นเงินที่ธนาคาร เช็คคืน (Returned checks) เกิดจากการนำเช็คของลูกค้าฝากเข้าบัญชีธนาคาร แต่ ธนาคารไม่สามารถเรียกเก็บเงินตามเช็คได้ ค่าธรรมเนียมธนาคาร (bank service charge) เกิดจากการใช้ บริการต่างๆ ของธนาคาร วันสิ้นงวดบัญชี หมายถึง งวดบัญชีประจำเดือนที่ 1 – 12 ปีงบประมาณ หมายถึง วันที่ 1 ตุลาคม ถึง วันที่ 30 กันยายน ของปีถัดไป 1.2 การสอนแบบสาธิต ความหมายการสอนแบบสาธิต การสาธิต หมายถึงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือการแสดง หรือการกระทำสิ่งต่าง ๆ ให้ผู้เรียนดูวิธีการ สอนแบบสาธิต หมายถึง วิธีสอนที่ครูมีหน้าที่ในการวางแผนการเรียนการสอนเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการ แสดง หรือการกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง นักเรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการสังเกต การฟัง การกระทำหรือการ แสดง แนวทางในการสาธิต การสาธิตแบบบอกความรู้ เป็นการสาธิตที่แจ้งให้ผู้เรียนทราบก่อนการสาธิตว่าจะทำอะไร อย่างไร และจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วให้ผู้เรียนสังเกตการณ์สาธิต พร้อมอธิบายตามไปด้วย การสาธิตแบบค้นพบ ความรู้ เป็นการสาธิตที่ผู้สาธิตหรือครูตั้งคำถามให้ผู้เรียนคาดคะเนคำตอบ เพื่อเป็นการเร้าความสนใจแล้วจึง ให้ผู้เรียนคอยสังเกตจากการสาธิตว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และอย่างไร 2. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สุพรรณีสุวรรณจรัส (2543) การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหา คุณภาพของ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสาธิตร่วมกันโดยใช้สื่อสามมิติประกอบการเรียนรู้ เรื่องการสร้างตาราง 2) ศึกษา ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบสาธิตร่วมกับการเรียนรู้ร่วมกัน โดยใช้สื่อสาม มิติประกอบการ เรียนรู้ เรื่องการสร้างตาราง 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วย การจัดการเรียนรู้แบบสาธิตร่วมกับการเรียนรู้ร่วมกันโดยใช้สื่อสามมิติประกอบการเรียนรู้ เรื่องการสร้าง ตาราง สำหรับโรงเรียนเทศบาล 3 วัดท่ามะปราง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 / 2 จำนวน 34 คน จากผลการศึกษาพบว่า ช่วงคะแนนของแบบทดสอบหลังเรียนสูงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ ทราบว่านักเรียนกลุ่มตัวอย่างห้อง 4 / 2 นั้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การ เรียนรู้โดยใช้สื่อสามมิติ เรื่องตาราง นั้นนักเรียนมีความเข้าใจในเรื่องของแถวและคอลัมน์ และจากการ สุ่ม ตัวอย่างนักเรียน จำนวน 3 คน ให้ทดลองปฏิบัติงานกับสื่อสามมิตินักเรียนสามารถปฏิบัติได้อย่าง ถูกต้องและ นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานในรูปแบบต่าง ๆ ได้เนื่องจากระหว่างเรียนคณะผู้วิจัยได้ วัดจากการ ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งระหว่างการปฏิบัตินั้น นักเรียนได้ร่วมมือกันในการเรียนรู้ทำให้ เกิดการ ช่วยเหลือกัน ประกอบกับการที่คณะผู้สอนได้ใช้การติดตามและเอาใจใส่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิดทำให้ ผู้เรียนกล้า ซักถาม จึงทำให้เข้าใจเนื้อหาบทเรียน และมีคุณลักษณะพฤติกรรมในการเรียนรู้ที่ดี

บทที่ 3 วิธีการดำเนินการวิจัย การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอน แบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 แผนกวิชาการบัญชี ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี” โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการ ดำเนินการวิจัยดังนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับ ปวช. 3 สาขาการบัญชีใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 256๖ ในวิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานีจำนวน 10 คน ตัวแปร ตัวแปรอิสระ คือ การสอนแบบสาธิต ตัวแปรตาม คือ ผู้เรียนมีทักษะการตรวจนับและ คำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือในวันสิ้นงวด บัญชี 2. เครื่องมือที่ใช้การวิจัย แบบประเมินผลการเรียนรู้ / ใบงาน และแบบประเมินผลการทำใบงาน 3. วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล จากแบบประเมินผลการทำใบงาน 4. สถิติที่ใช้ในกำรวิเคราะห์ ค่าเฉลี่ยและร้อยละ

บทที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยการพัฒนาการเรียนรู้เรื่อง“การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการสอนแบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 2 แผนกวิชาการบัญชีประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี” ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้ 1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 หาค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละการทำใบงาน ตารางที่ 1 แสดงคะแนนผลการทำใบงานของผู้เรียน เรื่อง การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ของ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 แผนกวิชาการบัญชีประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานีจำนวน 10 คน แบบฝึกปฏิบัติใบงาน ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ครั้งที่ 1 5.05 50.50 ครั้งที่ 2 8.95 89.50 จากตารางที่ 1 แสดงให้เห็นว่า คะแนนค่าเฉลี่ยของนักเรียนครั้งที่ 1 เท่ากับ 5.05 คิดเป็นร้อยละ 50.50 ส่วนคะแนนค่าเฉลี่ยของนักเรียน ครั้งที่ 2 เท่ากับ 8.95 คิดเป็นร้อยละ 89.50 นักเรียนมี ผลสัมฤทธิ์การเรียนดีขึ้นกว่าเดิม

บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้ เพื่อ“การพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร โดยใช้เทคนิคการ สอนแบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 แผนกวิชาการ บัญชีประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี” ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัย สรุปผลการวิจัย และข้อเสนอแนะ จะนำเสนอรายละเอียดดังนี้ 1. สรุปผลการวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ทักษะ การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ได้ถูกต้อง 2. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปี ที่ 3 แผนกวิชาการบัญชีประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานีจำนวน 10 คน ตัวแปร ตัวแปรอิสระ คือ การสอนแบบสาธิต ตัวแปรตาม คือ ผู้เรียนมีทักษะการกระทบยอดเงินฝากธนาคาร 3. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ทักษะ การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ได้ถูกต้อง 4. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล จากแบบประเมินผลการทำใบงาน 5. การวิเคราะห์ข้อมูล แสดงให้เห็นว่า คะแนนค่าเฉลี่ยของนักเรียนครั้งที่ 1 เท่ากับ 5.05 คิดเป็นร้อยละ 50.50 ส่วน คะแนนค่าเฉลี่ยของนักเรียน ครั้งที่ 2 เท่ากับ 8.95 คิดเป็นร้อยละ 89.50 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การ เรียนดี ขึ้นกว่าเดิม 6. อภิปรายผล ผู้เรียนมีการพัฒนาการเรียนรู้เรื่องการกระทบยอดเงินฝากธนาคารสูงขึ้น ซึ่งเห็นได้จากผลการสรุป การใช้นวัตกรรม นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจาก ผู้เรียน ให้ความสนใจในการเรียน จากการสอน แบบการสาธิตที่ใช้สื่อจริงประกอบการสอน ทำให้ผู้เรียนได้เห็นและ ได้ลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

7. ข้อเสนอแนะ การใช้เทคนิคการสอนแบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ทำให้ผู้เรียนสนใจในการเรียนมากขึ้น ทำ ให้ผู้เรียนสามารถลงมือปฏิบัติงานได้ด้วยความตั้งใจและถูกต้อง

เอกสารอ้างอิง วรรณา วงศ์วิวัฒน์. การบัญชีเดี่ยวและการกระทบยอด, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์เอมพันธ์, 2562 https://finance.offpre.rmutp.ac.th/2556/wpcontent/uploads/2022/03/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1 %E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B% E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E 0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99- %E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D %E0%B8%8A%E0%B8%B5_supaporn.pdf