A NEW PERSPECTIVE ON THE PAST AND FUTURE MODERN ART ศิลปะสมัย มั ใหม่
หนังนัสือสืเล่มนี้เ นี้ป็น ป็ ส่วส่นหนึ่งนึ่ของวิชวิา ศ 32103 ศิลปะพื้นพื้ฐาน ชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 5 โดยมีจุมีจุดประสงค์ เพื่อพื่ การศึกษาความรู้ที่รู้ที่ได้จด้ากเรื่อรื่งศิลปะสมัยมั ใหม่ ซึ่งซึ่หนังนัสือสื เล่มนี้มี นี้ เมีนื้อนื้หาเกี่ยวกับการสร้าร้งงานศิลปะตั้งตั้เเต่ปลาย คริสริต์ศตวรรษที่ 19 คณะผู้จัผู้ ดจัทำ ได้เด้ลือก หัวหัข้อข้นี้ในี้ นการ ทำ หนังนัสือสืเล่มนี้ เนื่อนื่งมาจากเป็น ป็ เรื่อรื่งที่น่าน่สนใจ รวมถึง เป็น ป็ งานที่มีลัมี ลักษณะสากล คณะผู้จัผู้ ดจัทำ จะต้องขอขอบคุณคุคุณคุครูธรูนกฤต สุวสุรรณชาตรี ผู้ใผู้ห้คห้วามรู้เรู้เละเเนวทางการศึกษาเเละ เพื่อพื่นๆทุกทุคนที่ให้คห้วามช่วช่ยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัผู้ ดจัทำ หวังวัว่าว่รายงานฉบับบันี้จ นี้ ะให้คห้วามรู้ เเละเป็น ป็ ประโยชน์เน์เก่ผู้ อ่านทุกทุ ๆท่าน คณะผู้จัดทำ 15 ธันว าคม 2565 INTRODUC TION
ที่มาของศิลปะสมัยมั ใหม่ Impressionism Post-Impressionism Fauvism Expressionism Cubism Surrealism Abtract Expressionism Refer (บรรณานุกนุรม) TABLE OF COSNTENT M O D E R N A R T 1 2 5 8 11 13 16 18 20 M O D E R N A R T
M O D E R N A R T ศิลปะสมัยมั ใหม่ (MODERN ART) เริ่มริ่ขึ้นขึ้ตอนปลายศตวรรษที่ 18 ในประเทศฝรั่งรั่เศส สืบสื เนื่อนื่งจากความเจริญริทางวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยี มีผมีลทำ ให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะอย่าย่งขนานใหญ่ ทั้งทั้รูปรูแบบและ จุดประสงค์ โดยเฉพาะสร้าร้งสรรค์งานจิตจิรกรรม ศิลปินยุคใหม่ ต่างพากันปลีกตัวออกจากการยึดยึหลักวิชวิาการ (Academic) ซึ่งซึ่ เป็นกฎเกณฑ์ที่มีรมีากฐานมาจากศิลปะกรีกรีและโรมันมัมาใช้คช้วาม รู้สึรู้กสึนึกนึคิดและความคิดสร้าร้งสรรค์ของแต่ละคนอย่าย่งอิสระ แยก ศิลปะออกจากศาสนาโดยสิ้นสิ้เชิงชิศิลปะจึงจึเป็นเรื่อรื่งส่วส่นตัวของ บุคคลอย่าย่งแท้จริงริ ใช้สิช้ทสิธิเธิสรีภรีาพในการแสดงออกอย่าย่งเต็มที่ จึงจึทำ ให้เห้กิดรูปรูแบบศิลปะใหม่ ๆ ขึ้นขึ้มากมาย ทั้งทั้ ในยุโรปและ สหรัฐรัอเมริกริา ลักษณะสำ คัญของ “ศิลปะสมัยมั ใหม่”ม่ (Modern Art) คือทัศน คติใหม่ๆม่ที่มีต่มี ต่ออดีตดีและอนาคต ซึ่งซึ่เป็นไปแบบสุดสุขั้วขั้โดยเริ่มริ่ต้น มาตั้งตั้แต่ปลายคริสริต์ศตวรรษที่ 18 ที่ถือกันว่าว่เป็นยุคปฏิวัติวั ติของ ยุโรปศิลปินเริ่มริ่ที่จะให้กห้ารยอมรับรัการเขียขีนภาพ “เหตุกตุารณ์ ปัจจุบันบั -ร่วร่มสมัยมั ” ในยุคของตนว่าว่สามารถมีคุมีณคุค่าทางศิลปะได้ เท่าเทียมกับภาพเขียขีนเรื่อรื่งราวในอดีตดีตั้งตั้แต่ยุคโบราณหรือรืยุค ประวัติวั ติศาสตร์จร์ากคัมภีร์ไร์บเบิลบิ PAGE 01
จิตจิรกรที่ภาพวาดแบบ อิมเพรสชันชันิซึนิมซึมักมัถูกถูมองว่าว่เป็นป็พวกขบถ เนื่อนื่งจากพวกเขา มักมัวาดภาพของสิ่งสิ่ที่อยู่ตยู่รงหน้าน้ให้ดูห้ ปดูระหลาดและแตกต่างจากการวาดในอดีตดี page 02 IMPRES SIONISM
IMPRESSIONISM ศิลปะแบบอิมเพรสชันชันิสม์ จะ มุ่งมุ่เน้นถึงการวาดภาพที่จับจั ซึ่งซึ่สายตาสัมสัผัสผัรับรัรู้ใรู้นช่วช่ง ณ เวลานั้นนั้และเป็นช่วช่งเวลาที่ ฉับพลัน และจะมีกมีารแยกแยะ สีที่สี ที่ จะเข้าข้มาประกอบกันเข้าข้ เป็นป็แสงที่ส่อส่งต้องสิ่งสิ่ต่าง ๆ ทำ ให้เห้กิดพื้นพื้ผิวผิภาพที่เต็มไป ด้วด้ยสีสัสีนสัที่แปรเปลี่ยนเป็นป็ ภาพที่เต็มไปด้วด้ยความ เคลื่อนไหวไม่หม่ยุดนิ่ง ลักษณะของภาพวาดแบบอิมเพรส ชั่นชั่นิสม์ คือ การใช้พู่ช้พู่กัพู่ กันตระหวัดวัสี อย่าย่งเข้มข้ๆ ใช้สีช้สสีว่าว่ง ๆ มีส่มีวส่น ประกอบของภาพที่ไม่ถูม่กถูบีบบีเน้นไป ยังยัคุณคุภาพที่แปรผันผัของแสง (มักมั จะเน้นไปยังยัผลลัพธ์ที่ธ์ ที่ เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงของเวลา) เนื้อหาของ ภาพเป็นป็เรื่อรื่งธรรมดาๆ และมีมุมีมุ มองที่พิเพิศษ จิตจิรกรแนวอิมเพรสชันชันิสม์ ได้ฉีกกรอบการวาดที่มาตั้งตั้แต่อดีต พวกเขาจึงจึได้ชื่อชื่ว่าว่เป็นป็พวกขบถ พวกเขาได้วาดภาพจากสิ่งสิ่ที่อยู่ตยู่รง หน้าในปัจจุบันบั ให้ดูห้ ปดูระหลาดและไม่ สิ้นสิ้สุดสุสำ หรับรัสาธารณชนที่มาดูงดูาน ของพวกเขานักวาดแนวนี้ปฏิเสธที่จะ นำ เสนอความงามในอุดมคติ และ มองไปยังยัความงามที่เกิดจากสิ่งสิ่ สามัญมัแทน พวกเขามักมัจะวาดภาพ กลางแจ้งจ้มากกว่าว่ ในห้อห้งสตูดิตูดิโอ อย่าย่งที่ศิลปินทั่วทั่ ไปนิยมกัน เพื่อพื่ที่จะ ลอกเลียนแสงที่แปรเปลี่ยนอยู่เยู่สมอ ในมุมมองต่าง ๆ PAGE 03
page 04 เฟรเดริกริบาซีย์ซี ย์ แมรี คาซาท แอดการ์ เดอกา อาร์ม็ร์อม็ง กีโยแม็งม็ เอดัวดัร์ มาแน โกลด มอแน กามีย์มี ย์ปีซาโร ปีแปียร์-ร์โอกุสกุต์ เรอนัวร์ อัลเฟรด ซิสซิลีย์ จิตจิรกรอิมเพรสชันชันิสนิม์ ถึงแม้คำม้ คำว่าว่อิมเพรสชันชันิสม์ เป็นป็คำ เสียสีดสีขสีอง LOUIS LEROY แต่ พวกศิลปินปิกลับชื่นชื่ชอบมันมัและเห็นห็ว่าว่ เป็นป็คำ เรียรีกแบบให้เห้กียรติกัน ถึงแม้ รูปแบบและมาตรฐานของแต่ละคนจะ แตกต่างแปรเปลี่ยนไปแต่สิ่งสิ่ที่ ร้อร้ย รัดรัพวกเขาให้เห้ป็นป็หนึ่งเดียดีวคือจิตจิ วิญวิญาณแห่งห่ความเป็นป็ขบถและ ความเป็นป็ตัวของตัวเองถึงแม้ใม้นอดีตดี การวาดภาพจะถูกถูมองอยู่เยู่สมอว่าว่นำ เสนอสิ่งสิ่ต่าง ๆ ทางประวัติวั ติศาสตร์แร์ละ ทางศาสนาในลักษณะที่เป็นทางการ แต่ความจริงริศิลปินปิหลายท่านก็วาด ภาพถึงสิ่งสิ่ที่สามารถพบเห็นห็ ในชีวิชีตวิ ประจำ วันวั จิตจิรกรชาว DUTCH ในศวรรษที่ 19 อย่าย่งเช่นช่ยาน สตีนมุ่งมุ่เน้นไปที่วัตวัถุ ธรรมดา แต่ว่าว่งานของพวกเขาก็แสดงให้ เห็นห็ถึงอิทธิพธิลของการจัดจัองค์ประกอบ ภาพแบบเก่า ๆ ในการจัดจัวางฉาก เมื่อมื่ ศิลปะแนว อิมเพรสชันชันิสม์ เกิดขึ้นขึ้พวก ศิลปินปิก็สนใจในการวาดภาพต่อสิ่งสิ่ ธรรมดาดาด ๆ และนิยมการเก็บภาพ ด้วด้ยวิธีวิ ใธีหม่ เหตุแตุละปัจจัยจัที่ทำ ให้เห้กิดศิลปะลัทธิ IMPRESSIONISM นอกเหนือจาก ความก้าวหน้าทางวิทวิยาศาสตร์ที่ร์ ที่ ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดนั้นนั้ก็ยังยัมี ความเบื่อบื่หน่ายต่อสิ่งสิ่ที่ซ้ำ ซาก เต็มไป ด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เคร่งร่ครัดรั ไม่มีม่ มี อิสระในการแสดงออกเท่าที่ควร ซึ่งซึ่ภาพวาดส่วส่นใหญ่ใญ่นลัทธินี้ธิ นี้ จะเป็น ภาพวาดของกิจกรรมหรือรืสิ่งสิ่ก่อสร้าร้ง ที่พบเจอได้ในชีวิชีตวิ ประจำ วันวัทั่วทั่ ไป เช่นช่ ท้องถนน ริมริแม่น้ำม่ น้ำร้าร้นกาแฟ ห้อห้ง ซ้อซ้มบัลบัเล่ต์ และนอกจากนี้ยังยันิยม เขียขีนภาพธรรมชาติ เช่นช่แม่น้ำม่ น้ำทะเล ทุ่งทุ่นา บึงบึบัวบัเป็นป็ต้น
P O S T - I M P R E S S I O N I S M ลัทธินี้ธิ นี้ เกิดขึ้นขึ้หลังจาก ศิลปะอิมเพรส ชันชันิซึมซึเนื่องจากจิตจิรกรกลุ่มลุ่หนึ่ง ปฏิเสธแนวคิดของศิลปะอิมเพรสชันชันิ ซึมซึ โดยให้เห้หตุผตุลว่าว่ต้องให้คห้วาม สำ คัญกับลักษณะเชิงชิสัญสัลักษณ์ เรขาคณิตณิรูปทรงมากกว่าว่แต่ในบาง ภาพก็ยังยัคงแนวคิดของลัทธิเธิดิมดิ PAGE 05
page 06 ชื่เชื่มื่อมื่นักวิจวิารณ์ ฟอร์มร์อลลิสม์ ชาวอังกฤษ ชื่อชื่ โรเจอร์ ฟราย (Roger Fry) จัดจังานชื่อชื่ “มาเนต์ แอนด์ เดอะ โพสต์-อิมเพรสชันชันิ สต์” (Manet and the PostImpressionist) ที่ ลอนดอนส์ กราฟตัน แกลเลอรีส์รี (London’s Grafton ส์ Galleries) ชื่อชื่ลัทธิเธิกิดขึ้นขึ้หลังจากที่ศิลปิน ในกลุ่มลุ่นี้ตายหมดแล้ว (ไม่ใม่ครมีชีมีวิชีตวิอยู่เยู่กิน ปี1906) เช่นช่เดียดีวกับศัพท์ผสมทางศิลปะอื่นๆที่มีคำมี คำ ว่าว่ “โพสต์-” หรือรื “นีโอ-” นำ หน้า คำ ว่าว่ “โพสต์-อิมเพรสชันชันิสม์” ม์ ได้บอกเราว่าว่ กลุ่มลุ่นี้มาหลัง “อิมเพรสชันชันิสม์”ม์ (Impressionism) นอกจากนี้ คำ ว่าว่ “โพสต์-” ยังยับ่งบ่บอกด้วยว่าว่มันมัคือปฏิกริยริา ต่อต้านสิ่งสิ่ที่มาก่อนมันมั ในขณะที่คำ ว่าว่ “นีโอ-” จะให้คห้วามหมายในเชิงชิบวก เช่นช่การ ฟื้นฟื้ ฟู หรือรืการยอมรับรักระแสศิลปะที่เกิด ขึ้นขึ้มาก่อน ชื่อ ชื่ “โพสต์-อิมเพรสชัน ชั นิสนิม์”ม์ เกิดขึ้น ขึ้ เมื่อ มื่ปี 1910
ด้วยแรงบันบัดาลใจจากเสรีภรีาพทาง ศิลปะที่นำ เสนอโดยศิลปินปิแนวอิม เพรสชันชันิสต์ ศิลปินอย่าย่ง Paul Cézanne, Paul Gauguin, Vincent van Gogh และ Henri Toulouse-Lautrec จึงจึเริ่มริ่ทำ งาน ในรูปแบบที่โดดเด่นและแหวกแนว การเคลื่อนไหวที่มีสีมีสัสีนสันี้รู้จัรู้กจักันใน ชื่อชื่ Post-Impressionism เริ่มริ่ต้น ขึ้นขึ้ ในทศวรรษที่ 1890 และแสดงให้ เห็นห็ถึงความสนใจในอารมณ์คณ์วาม รู้สึรู้กสึและความชอบในการตีความ ตามอัตวิสัวิยสัมากกว่าว่การนำ เสนอที่ เหมือมืนจริงริ PAGE 07
page 08 FAUVISM ก่อตั้งตั้ โดย LES FAUVES ซึ่งซึ่เป็นป็กลุ่มลุ่ศิลปินปิแนวหน้าน้ ซึ่งซึ่รวมถึง ANDRÉ DERAIN และ HENRI MATISSE—FAUVISM ปรากฏขึ้นขึ้ครั้งรั้แรกในต้น ศตวรรษที่ 20 เช่นช่เดียดีวกับพวกโพสต์อิมเพรสชันชันิสนิต์ FAUVISTS ชอบโทนเสียสีงที่ไม่สม่มจริงริและเน้นน้ที่การรับรั รู้ขรู้องแต่ละคนในการแสดงภาพของพวกเขา ซึ่งซึ่โดย ทั่วทั่ ไปแล้วนำ เสนอรูปรูแบบที่จดจำ ได้ (แต่ค่อนข้าข้งเป็นป็ นามธรรม)
PAGE 09 คำ ว่าว่ “โฟวิสวิม์” (FAUVISM) ม์เป็นภาษาฝรั่งรั่เศส แปลว่าว่ “สัตสัว์ป่ว์าป่ ” ลักษณะงานศิลปะแบบโฟวิสวิม์นี้ม์ นี้ สร้าร้งงานจิตจิรกรรมแนวใหม่ ม่ ใช้รูช้รูปทรง อิสระ ใช้สีช้สสีดใสตัดกันอย่าย่งรุนแรง เน้นการสร้าร้งงานตามสัญสัชาตญาณ แห่งห่การแสดงออกอย่าย่งเต็มที่ ผลงานที่เกิดขึ้นขึ้จะแสดงให้เห้ห็นห็ถึงความ สนุกสนาน อันเกิดจากลีลาของรอยแปรงและจังจัหวะของสิ่งสิ่ต่าง ๆ นอกจากนี้ จะนำ ลีลาของเส้นส้มาใช้ใช้หม่ เช่นช่การตัดเส้นส้รอบนอกของสิ่งสิ่ ต่าง ๆ เพื่อพื่สร้าร้งความโดดเด่น เป็นป็ศิลปะที่มีจุมีจุดเริ่มริ่ต้นในประเทศฝรั่งรั่เศส โดยมี HENRI MATISSE มี เป็นป็หัวหัหน้าลัทธิ ผลงานของลัทธินี้ธิ นี้โดดเด่นที่การใช้สีช้สสีด รุนแรง ในการสื่อสื่ ความหมายทางอารมณ์ มีทั้มี ทั้งทั้การใช้คู่ช้ คู่สีคู่ตสีรงข้าข้มมาอยู่ด้ยู่ ด้วยกัน หรือรืมีหมีลาย สิบสิสีใสีนภาพเดียวกัน สร้าร้งความรู้สึรู้กสึตื่นเต้นแปลกใหม่ใม่ห้แห้ก่ผู้ที่ผู้ ที่ได้ชม งานศิลปะแนว FAUVISM มีจุมีจุดเด่นที่การใช้สีช้สสีดจัดจั ไม่มีม่กามีรพูดถึงทฤษฎีสีตสีามหลักการ ใดๆ และไม่มีม่กมีารจัดจัองค์ประกอบศิลป์ที่ป์ ที่ ตายตัว พวกเขาใช้สีช้ ใสีนลักษณะที่แตกต่างจากลัทธิ อื่นๆ ตรงที่สีขสีองพวกเขาจะไม่ไม่ด้ใช้สื่ช้ สื่อสื่ความหมายตามความเป็นจริงริสีเสีขียขีวไม่จำม่จำเป็นต้อง เป็นป็สีขสีองต้นไม้ แต่อาจใช้เช้พื่อพื่สื่อสื่ถึงอารมณ์ใณ์นช่วช่งเวลานั้นนั้ๆ แทน นอกจากนั้นนั้ศิลปินยังยั ไม่ใม่ห้คห้วามสำ คัญกับมิติมิ ติไม่ว่ม่าว่วัตวัถุจถุะอยู่ใยู่นระยะไหน หรือรืมีเมีงาเข้มข้อ่อนอย่าย่งไร ก็จะถูกถู แทนที่ด้วด้ยสีสสีดทั้งทั้สิ้นสิ้ซึ่งซึ่ทั้งทั้หมดนี้เป็นไปตามความพอใจของศิลปินล้วนๆ
page 10 THE JOY OF LIFE เป็นป็ภาพธรรมชาติที่มีสีมีจัสีดจัสดใสอยู่ ด้าด้นบนนั้นนั้ ลงสีด้สีวด้ยฝีแปรงเป็นป็อิสระมาก ตรงกันข้าข้มกับคน ซึ่งซึ่อยู่ใยู่นความสุขสุ รื่นรื่เริงริด้าด้นล่างของภาพ ที่มีกมีารเน้นน้เส้นส้แนวรูปรูร่าร่งที่ชัดชัเจน ทั่วทั่ทั้งทั้ ภาพมีคมีลื่นลอน เลื่อนไหล ใช้สีช้จัสีดจัตัดกัน เป็นป็ภาพความสุขสุทางโลกที่ แสดงออกในแนวใหม่ HARMONY IN RED (THE RED ROOM) เป็นป็ภาพที่มีแมีนวคิด ปฎิวัติวั ติใหม่ใม่นวงการศิลปะสมัยมั ใหม่ เป็นป็ภาพโต๊ะอาหารเช่นช่เดียดีวกัน กับภาพในสมัยมัก่อนที่มี แสง สี บริเริวณว่าว่ง การตกแต่งห้อห้งที่ใช้แช้ต่ เพียพีงพื้นพื้สีแสีดงที่แผ่ไผ่ ปทั่วทั่เป็นป็บริเริวณแบน ๆ มีลมีวดลายคดเคี้ยว แบบ ARABESQUE ของเถาไม้เม้ลื้อยที่บางส่วส่นอยู่บยู่นกำ แพง
PAGE 11 EXPRESSIONISM ศิลปะแบบเอ็กซ์เซ์พรสชันชันิสนิม์ เกิดขึ้นขึ้ทางเหนือนืของยุโรป โดยที่ศูนย์กย์ลางอยู่ที่ยู่ ที่ประเทศ เยอรมันมัศิลปะแนวนี้ ได้รัด้บรัอิทธิพธิลจากศิลปินปิสำ คัญ 2 คนคือ VINCENT VAN GOGH และศิลปินปิชาว NORWEGIAN ที่ชื่อชื่ EDVARD MUNCH ซึ่งซึ่ทั้งทั้สองคนนี้ ใช้สีช้ที่สี ที่ รุนรุแรง และเกินความเป็นป็จริงริ โดยเน้นน้ความพอใจของศิลปินปิเป็นป็หลัก ไม่ยึม่ดยึถือ กฏเกณฑ์ และ ธรรมเนียนีมใดๆในอดีตดีเลย สีที่สี ที่ใช้นั้ช้นนั้จะสื่อสื่ถึงพลังที่ถูกถูบีบบีคั้นคั้บังบัคับกดดันดัที่อยู่ใยู่นความ รู้สึรู้กสึนึกนึคิด ของจิตจิ ใจคน เป็นป็การปดปล่อยอารมณ์ผ่ณ์าผ่นสี และฝีแปรงที่ให้คห้วามรู้สึรู้กสึที่ แข็งข็ๆ ดิบดิรุนรุแรง
page 12 ศิลปะแสดงออกนิยนิมหรือรืศิลปะเอ็กซ์เซ์พรสชันชั นิสนิมุ่งมุ่แสดงอารมณ์คณ์วามรู้สึรู้กสึภายในด้วด้ย สาระที่เกี่ยวกับสังสัคมการระบายสีแสีละการใช้สีช้ สี รุนรุแรงตรงไปตรงมา นิยนิมระบายสีทัสี ทับซ้อซ้น (IMPASTO) เพื่อพื่แสดงภาวะความรู้สึรู้กสึลึกๆ รูปรูทรงที่ปรากฏอาจปรับรัไปตามกระบวนการ ระบายสีอสีย่าย่งอิสระ พระบาทสมเด็จด็ พระเจ้าจ้อยู่หัยู่วหัทรงพัฒพันาแนวคิดและการ ปฏิบัติบั ติของเอ็กซ์เซ์พรสชันชันิสนิมาใช้ใช้น จิตจิรกรรมฝีพระหัตหัถ์ของพระองค์ เช่นช่ภาพ เหมือมืนสุภสุาพสตรีพื้รีพื้นพื้ภาพสี แดง สีขสีาว แสดงบริเริวณแสง เสื้อสื้สีเสีขียขีว ไม่ปม่รากฏชื่อชื่ ภาพ (๒๕๐๖) ภาพสุภสุาพสตรีสีรีเสีขียขีว ไม่ ปรากฏชื่อชื่ภาพ (๒๕๐๖) ภาพสุภสุาพสตรีสีรีอสีอก เหลือง เขียขีวคล้ำ าดำ รอยพู่กัพู่ กันอิสระ รูปรูทรง ไร้ขร้อบ ไม่ปม่รากฏชื่อชื่ (๒๕๐๗) พระองค์ทรง อาจหาญในการแสดงออก โดยไม่ทม่รงกังวล กับพื้นพื้ฐานการเขียขีนภาพระบายสี เอ็กซเพรสชันชันิสนิม์ หรือรืลัทธิสำธิสำแดง พลังอารมณ์หณ์รือรืลัทธิแธิสดงพลัง อารมณ์(ณ์EXPRESSIONISM) คือ ขบวนการทางวัฒวันธรรมที่เริ่มริ่ขึ้นขึ้ ใน เยอรมนีเนีมื่อมื่ต้นคริสริต์ศตวรรษที่ 20 วัตวัถุปถุระสงค์ของขบวนการนี้คื นี้ คือการ แสวงหาความหมายของ “ความรู้สึรู้กสึ มีชีมีวิชีตวิชีวชีา” (BEING ALIVE) และ ประสบการณ์ทณ์างอารมณ์แณ์ทนความ เป็นป็จริงริทางวัตวัถุ แนวโน้มน้ของ ศิลปินปิกลุ่มลุ่นี้จ นี้ ะบิดบิเบือบืนความเป็นป็ จริงริเพื่อพื่ที่จะแสดงผลที่มีต่มี ต่ออารมณ์ และเป็นป็ศิลปะอัตวิสัวิยสั (SUBJECTIVE ART FORM)ซึ่งซึ่ หมายถึง มุมมองหรือรืความคิดเห็นห็ ของบุคคล โดยเฉพาะสิ่งสิ่ที่เกี่ยวข้อข้ง กับความรู้สึรู้กสึความเชื่อชื่หรือรืความ ต้องการ ซึ่งซึ่อาจตรงข้าข้มกับความ เป็นป็จริงริก็ได้
PAGE 13 CUBIS
M ศิลปะแบบคิวบิสบิ (CUBISM) คือ การค้นหาความ งามจากรูปรูทรงของเหลี่ยม ลูกลูบาศก์ ค้นหา โครงสร้าร้งตามความจริงริที่เป็นป็แท่ง ๆ มากกว่าว่จะ ไปเน้นน้ที่รายละเอียดในธรรมชาติ ถือเป็นป็การ สร้าร้งสรรค์งานศิลปะที่แสดงให้เห้ห็นห็วัตวัถุธถุาตุมิตุใมิช่ แค่การเลียนแบบวัตวัถุ เพราะยังยัคงมีเมีนื้อนื้หาและ เรื่อรื่งราวในภาพอยู่ อาจถือได้ว่ด้าว่เป็นป็ศิลปะที่ พยายามเชื่อชื่มโยงทั้งทั้ทางความคิด และสายตา เข้าข้ ด้วด้ยกันเพราะการสร้าร้งผลงานทางศิลปะแบบคิวบิ สนั้นนั้เป็นป็การ สร้าร้งรูปรูทรงเรขาคณิตณิ โดยการหา โครงสร้าร้งแยกย่อย่ยแล้วนำ มาประกอบเข้าข้กันใหม่ โดยสีที่สี ที่ใช้ จะใช้สีช้มัสีวมั ไม่สม่ด ไม่รุม่นรุแรง เป็นป็สีแสีบน ๆ หรือรืบางทีจะนำ โครงสร้าร้งด้าด้นหน้าน้และด้าด้นหลังมา ประกอบพร้อร้ม ๆ กันเพื่อพื่ ให้สห้ามารถเห็นห็วัตวัถุนั้ถุนนั้ ทั้งทั้สองด้าด้นได้ใด้นคราวเดียดีวกันและเห็นห็ถึงความตื้น ลึกของภาพแม้อม้ยู่ใยู่นระนาบเดียดีวกัน ซึ่งซึ่ศิลปะแบบ คิวบิสบินั้นนั้เป็นป็อีกหนึ่งนึ่วิธีวิกธีารแก้ปัญหาของภาพ เขียขีนที่มีเมีพียพีงสองมิติมิ ติและตาเห็นห็ ได้แด้ค่ด้าด้นเดียดีว โดยหลักสุนสุทรียรีศาสตร์ขร์องศิลปะแบบคิวบิสบิอยู่ที่ยู่ ที่ กฎของการควบคุมคุความรู้สึรู้กสึอารมณ์แณ์ละการ แสดงออกที่ต้องมีกมีารพิจพิารณากลั่นลั่กรองเสียสี ก่อน page 14
ศิลปะแบบคิวบิสบิแบ่งบ่ออกเป็นป็สามยุค โดยใน ยุคแรก คือ ยุคคิวบิสบิม์วิม์เวิคราะห์ งานศิลปะจะมุ่งมุ่เน้นน้ ไปที่การวิเวิคราะห์ โครงสร้าร้งและการแปรระนาบแล้วสร้าร้ง รูปรูทรงที่เป็นป็เหลี่ยมเป็นป็สันสัขึ้นขึ้มาโดยลด ระยะในช่วช่งความลึกจากความเป็นป็อยู่ใยู่น ธรรมชาติหรือรืทิวทัศน์จน์ริงริมาทำ ให้ มวลสารทั้งทั้หลายอัดรวมกันเหมือมืนภาพ นูนนูโดยจะเน้นน้เรื่อรื่งน้ำ หนักนั ยุคที่สอง ยุคทอง ยุคของคิวบิสบิ วิเวิคราะห์ศิห์ ศิลปินปิจะจำ แนกวัตวัถุอถุอกเป็นป็ ส่วส่นต่างๆ จะไม่แม่สดงให้เห้ห็นห็ โดยชัดชัเจน ว่าว่อะไรเป็นป็อะไร จะขยายให้เห้กิดมุมเด่นด่ ของแต่ละวัตวัถุชัถุดชัเจนยิ่งยิ่ขึ้นขึ้แล้วจึงจึผสม ผสานวัตวัถุต่ถุต่างๆ ให้สัห้มสัพันพัธ์กัธ์ กันทั้งทั้ภาพ โดยนำ วัตวัถุต่ถุต่างๆนั้นนั้มาปรากฏอยู่คู่ยู่ คู่กัคู่กัน เป็นป็วิธีวิกธีารทำ ระนาบให้เห้ชื่อชื่มโยงกันไป เรื่อรื่ยๆไม่แม่สดงให้เห้ห็นห็ส่วส่นละเอียดของ แต่ละวัตวัถุมถุากนักนั โดยเส้นส้ขอบอาจถูกถู กลืนหายเข้าข้ไปในบริเริวณสี และสีใสีนภาพ เป็นป็มักมัจะเป็นป็สีเสีทาอมน้ำ ตาล การนำ วัตวัถุ ที่ถูกถูมองจากมุมมองที่ต่างกัน ทั้งทั้ เบื้อบื้งบน ด้าด้นข้าข้ง ด้าด้นหน้าน้หรือรืด้าด้นใด ๆ มารวมกันให้เห้กิดเอกภาพ อยู่ใยู่นองค์ เดียดีวกัน ทางด้าด้นรูปรูทรงก็ถูกถูทำ ลายจน เกือบอยู่ใยู่นสภาพนามธรรม ยุคที่สาม คิวบิสบิสังสัเคราะห์ ผลงานในยุคนี้ เริ่มริ่มีกมีารนำ วัสวัดุต่ดุต่างๆ มาคละเคล้าปะติด รวมเข้าข้ด้วด้ยกันกับการวาดภาพ วัสวัดุเดุหล่า นั้นนั้อาจจะใช้แช้ผ่นผ่กระดาษ เศษ หนังนัสือสืพิมพิพ์ แผ่นผ่กระจกเงา ผ้าผ้ฯลฯ วิธีวิ ธี นี้เ นี้ รียรีกว่าว่ COLLAGE มีกมีารเขียขีนตัว หนังนัสือสืหรือรืกระดาษหนังนัสือสืพิมพิพ์ ปะลง ผืนผืผ้าผ้ใบทำ ให้เห้ห็นห็คุณคุค่าของงานศิลปะ โดยการนำ ตัวอักษรมาเป็นป็สื่อสื่นำ ความ เข้าข้ใจและยังยัทำ ให้ศิห้ ศิลปินปิกับผู้ชผู้ มมีกมีาร เชื่อชื่มโยงกันทางความคิดมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ด้วด้ย วัสวัดุที่ดุที่ นำ มาประยุกต์ใช้ โดยยังยัคงไว้ซึ่ว้ ซึ่งซึ่ คุณคุสมบัติบั ติในการใช้สช้อยเมื่อมื่นำ มาจัดจัองค์ ประกอบจะทำ ให้ภห้าพได้คุด้ณคุลักษณะใหม่ที่ม่ ที่ เป็นป็อิสระกว่าว่เดิมดิมีกมีารสังสัเคราะห์ให์นเรื่อรื่ง ของเส้นส้ ให้มีห้คมีวามใกล้ชิดชิกับเส้นส้ เรขาคณิตณิมากขึ้นขึ้ PAGE 15
page 16 S U R R E A L I S M SURREALISM ลัทธิศิธิ ศิลปะเหนือนืจริงริเริ่มริ่ขึ้นขึ้ ตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ในประเทศ ฝรั่งรั่เศส
PAGE 17 ในปี ค.ศ. 1920 ศิลปินปิทัศนศิลป์ SALVADOR DALÍ, MAX ERNST, MAN RAY, JOAN MIRÓ และ YVES TANGUY มารวมตัวกันเพื่อพื่ค้นหา SURREALISM ซึ่งซึ่เป็นป็การเคลื่อนไหวที่ฝังรากอยู่ใยู่น จิตจิ ใต้สำ นึกนึ ไม่มีม่ มี“การควบคุมคุใด ๆ ที่ใช้ด้ช้วด้ยเหตุผตุล ได้ รับรัการยกเว้นว้จากข้อข้กังวลเกี่ยวกับสุนสุทรียรีศาสตร์หร์รือรื ศีลธรรม” (ANDRÉ BRETON, MANIFESTOES OF SURREALISM) แนวเพลงดังดักล่าวถึงจุดสุดสุ ยอดในคอลเลกชันชัที่หลากหลายของการแสดงภาพ เหมือมืนความฝันที่ส่งส่ตรงจากจินจิตนาการของศิลปินปิ ศิลปะเหนือนืจริงริเป็นป็ศิลปะที่ว่าว่กันด้วด้ยเรื่อรื่งของ การถ่ายทอดภาพจากจิตจิ ใต้สำ นึกนึความเพ้อพ้ ฝัน ความแปลกแยกโดดเดี่ย ดี่ ว ฯลฯ มีศิมี ศิลปินปิที่ถ่ายทอดผลงานแนวนี้ม นี้ ากมาย เช่นช่ JEAN ARP, MAX ERNST, GIORGIO DE CHIRICO, MAN RAY, JOAN MIRO, RENE MAGRITTE แต่ที่มีชื่มีชื่อชื่เสียสีงและคุ้นคุ้ตามากที่สุดสุก็น่าน่จะเป็นป็ซาลวาดอร์ดร์าลี (SALVADOR DALI) ศิลปินปิเซอร์เร์รียรีลลิสต์ชาวสเปน บุคลิกเพี้ย พี้ นๆ ที่มีผมีลงานได้รัด้บรัการยอมรับรัไปทั่วทั่ โลก ทั้งทั้ ใน วงการศิลปะทัศนศิลป์,ป์การแสดง, กราฟิกฟิดีไดีซน์,น์ออกแบบตกแต่งภายนอก-ภายใน, จนไปถึงผล งานทางภาพยนตร์ศิร์ ศิลปินปิกลุ่มลุ่นี้ก นี้ ล่าวว่าว่ความรู้สึรู้กสึของมนุษนุย์เย์ป็นป็สิ่งสิ่สำ คัญมาก ถ้าท่านรู้สึรู้กสึ อย่าย่งไร จงแสดงออกทันที อย่าย่สกัดกั้นกั้เอาไว้ เพราะมันมัจะฝังอยู่ใยู่ต้จิตจิสำ นึกนึและจะเป็นป็อันตราย ต่อตัวท่านเอง จากคำ กล่าวของลัทธินี้ธิ นี้ ทำ ให้ทห้ราบว่าว่ลัทธินี้ธิเ นี้ กี่ยวข้อข้งกับจิตจิ ไร้สำร้สำนึกนึซึ่งซึ่เป็นป็ระยะ พอดีกัดี กับที่นายแพทย์ ซิกซิมันมัด์ ฟรอย์ (1856-1934) ประกาศทฤษฎีด้าด้นจิตจิวิทวิยาอยู่ใยู่นยุโรปพอดี นับนัว่าว่ซิกซิมันมัด์ ฟรอย์ มีส่มีวส่นช่วช่ยให้ลัห้ ลัทธิเธิซอร์เร์รียรีลลิสม์ มีอิมี อิทธิพธิลต่อวงการมาก ศิลปะลัทธิเธิหนือ นื จริงริ (SURREALISM)
page 18 ABSTRACT EXPRES SIONISM เป็นป็กระแสเคลื่อนไหวทางศิลปะ ที่ถือกำ เนิดนิขึ้นขึ้ ในนิวนิยอร์กร์ ใน ช่วช่งปี 1940-1950 ได้รัด้บรั อิทธิพธิลจากกระแสศิลปะ นามธรรม (ABSTRACT) ในการแสดงออกของอารมณ์ ความรู้สึรู้กสึผ่าผ่นการทำ งานศิลปะ ที่ไม่ยึม่ดยึติดกับความเป็นป็จริงริ เน้นน้การสำ แดงความเคลื่อนไหว แบบฉับพลันและรุนรุแรงตาม สัญสัชาตญาณของศิลปะ เอ็กซ์เซ์พรสชันชันิสนิม์ รวมถึงใช้ปช้ระโยชน์จน์ากการ ทำ งานโดยอัตโนมัติมั ติของ จิตจิ ไร้สำร้สำนึกนึของศิลปะเซอร์ เรียรีลลิสม์ ศิลปินปิ ได้รัด้บรัการ ยอมรับรัในฐานะผู้บุผู้ บุกเบิกบิงาน ศิลปะแบบหัวหัก้าวหน้าน้ของ อเมริกริาอย่าย่งแท้จริงริผลงาน ของพวกเขาได้รัด้บรัการ ยกย่อย่งว่าว่เต็มเปี่ยปี่มไปด้วด้ย จิตจิวิญวิญาณแบบอเมริกัริ กัน ด้วด้ยขนาดของผลงานอัน ใหญ่โญ่ตมโหฬาร เต็มเปี่ยปี่มไปด้วด้ยความรู้สึรู้กสึ อันท่วมท้นล้นหลั่งลั่และการ แสดงออกอันห้าห้วหาญ รุนรุแรงจากจิตจิวิญวิญาณแห่งห่ เสรีภรีาพของปัจเจกชน
ศิลปะ ABSTRACT EXPRESSIONISM แบ่งบ่ย่อย่ยๆ ออกเป็นป็สองประเภท PAGE 19 ประเภทแรกคือ แอ็กชันชัเพนติง โดยนิยนิามการทำ งานจิตจิรกรรมที่ ใช้วิช้ธีวิกธีารวาดภาพที่แตกต่างจาก การจับจัพู่กัพู่ กันวาดภาพตามปกติ หากแต่ใช้กช้ารเคลื่อนไหวของ ร่าร่งกายแทบทุกทุส่วส่น ไม่ว่ม่าว่จะเป็นป็ แขน ไหล่ ขา ฯลฯ สำ แดงท่วงที ในการใช้สีช้สสีร้าร้งภาพให้ปห้รากฏขึ้นขึ้ มา แจ็คจ็สันสัพอลล็อค ผู้เผู้ป็นป็ที่ รู้จัรู้กจัอย่าย่งโดดเด่นด่ ในการวาดภาพ ด้วด้ยการวางผืนผืผ้าผ้ใบลงบนพื้นพื้ แล้วเยื้อยื้งย่าย่งร่าร่งกายไปรอบๆ และตวัดวัสะบัดบัสาด เทสี จาก กระป๋อป๋งสี (ทาบ้าบ้น) ลงบนผืนผื ผ้าผ้ใบ จนกลายเป็นป็ภาพวาดอัน เลื่องชื่อชื่ ประเภทที่สองคือ คัลเลอร์-ร์ฟิลฟิด์ เพนติง ชื่อชื่ของมันมัถูกถูตั้งตั้ขึ้นขึ้มา จากงานจิตจิรกรรมที่มีลัมี ลักษณะ พื้นพื้ที่ของสีกสีว้าว้งใหญ่ หนาแน่นน่ แบนราบ แผ่กผ่ระจายเป็นป็คราบบน ผืนผืผ้าผ้ใบ สร้าร้งพื้นพื้ที่ต่อเนื่อนื่ง กว้าว้งไกลจนดูคดูล้ายกับท้องทุ่งทุ่ ของสีตสีามชื่อชื่ของมันมัการทำ งาน ศิลปะลักษณะนี้ ไม่ใม่ห้คห้วามสำ คัญ กับเรื่อรื่งราวและเนื้อนื้หา หากแต่ เน้นน้ ไปที่รูปรูทรงและร่อร่งรอยของ สีสัสีนสัและปฏิเสธการใช้ฝีช้ ฝีแปรง แบบการวาดภาพทั่วทั่ ไป
HTTP://WORLDCIVIL14.BLOGSPOT.COM/2014/02/FAUVISM.HTML HTTPS://MYMODERNMET.COM/WHAT-IS-MODERN-ART-DEFINITION/? FBCLID=IWAR0RGXWQSSW3_CI2ZARQZDX1FQHKF6DVUZTH6JGTUJHVXRKRL6G7ILVOEM#POST-IMPRESSIONISM HTTPS://WWW.DESIGNER.CO.TH/1356 HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/A/SAMAKKHI.AC.TH/HISTORYOFART/SILP A-SMAY-HIM-MODERN-ART/SILPA-BAE-BXIM-PHERS-CHAN-NI-SMIMPRESSIONISM HTTPS://HUMAN.YRU.AC.TH/INNODESIGN/PAGE/22/%E0%B8%A8%E0%B 8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1 %E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0% B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B 4%E0%B8%87(SURREALISM).HTML HTTPS://ANGIEGROUP.WORDPRESS.COM/2016/03/26/%E0%B8%A8%E0 %B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8% 9A%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E 0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%8C-CUBISM/ HTTPS://HUMAN.YRU.AC.TH/INNODESIGN/PAGE/22/%E0%B8%A8%E0%B 8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1 %E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0% B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B 4%E0%B8%87(SURREALISM).HTML page 20 REFER
น า ย ภ ร า ด ร ห ลำ เ บ็ ญ บ็ ส ะ เ ล ข ที่ 1 3 น า ย ภู ว ภู ด ล ตั ว บุ ญ เ ล ข ที่ 1 4 น า ย สุ ร สุ นั น ท น์ สุ ว สุ ร ร ณ ค ง เ ล ข ที่ 1 7 น . ส .ฉัฏ ร ญ า ฎ า พู ล ส วั สวั ดิ์ เ ล ข ที่ 2 6 น . ส . อ นุ ษ า สี ม สี า เ ล ข ที่ 2 8 น . ส . ณั ฐ ณิ ช า ผ า ง น้ำ คำ เ ล ข ที่ 3 0 น . ส . ธั น ธั ย มั ย มั พ ร ห ม ณ ะ เ ล ข ที่ 3 1 น . ส . ย ศ ย ง ช่ ว ช่ ย ท อ ง เ ล ข ที่ 3 6 น . ส . ญ า สุ มิ สุ น มิ เ ท พ ริ น ริ ท ร์ เ ล ข ที่ 3 9 น . ส . ร วิ พ วิ ร ก น ก พ ล เ ล ข ที่ 4 5 น . ส . ศิ ริ กั ริ กั ล ย า จั น จั ท ร ก า ห ลั ก เ ล ข ที่ 4 7 1 . 2 . 3 . 4 . 5 . 6 . 7 . 8 . 9 . 1 0 . 1 1 . GROUP MEMBERS