ทฤษฎีก า รเ รียน รู้ท า งสั งคมเชิ งพุทธิปัญญ า ทฤษฎีการเรียนรู้ของ BANDURA
โ ด ย น .ส.ส าริ ศ า ว ง ศ์ ศ รี เ ผื อ ก ร หั ส6622610612 ห้ อ ง 6 เสนอ ดร.รอง ปัญสังกา
ประวัติของศาสตราจารย์บันดูรา อัล เบิร์ต บันดูรา (Albert Bandura) » นักจิตวิทยาชาวอเมริกันที่ให้ความสนใจงานที่ เกี่ยวข้องกับทฤษฎีการ เรียนรู้ทางสังคม » เกิดที่เมืองอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา » ได้รับปริญญาศิลปะศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย และได้รับปริญญาศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิตและปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ทาง จิตวิทยาคลินิก จากมหาวิทยาลัยไอโอวา » รับต าแหน่งที่ภาควิชาจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา บันดูรามีความเชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมากเป็นการ เรียนรู้โดยการสังเกตหรือการเลียนแบบ เนื่องจากมนุษย์มี ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัวอยู่เสมอ บันดูรา อธิบาย ว่าการเรียนรู้เกิดจากปฏิสัมพันธ์ ระหว่าง ผู้เรียน และสิ่งแวดล้อมในสังคม ซึ่งทั้งผู้เรียนและสิ่งแวดล้อม มี อิทธิพลต่อกันและกัน
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา บันดูรา จึงเปลี่ยนชื่อ ทฤษฎีการเรียนรู้ของท่านว่า การเรียนรู้ทาง สังคม (Social learning Theory) แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น การเรียนรู้ทาง สังคมเชิงพุทธิปัญญา (Social Cognitive learning Theory) อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เนื่องจากแบนดูรา พบจากการทดลองว่า สาเหตุที่ส าคัญอย่าง หนึ่งในการเรียนรู้ด้วยการสังเกต คือ ผู้เรียนจะต้องเลือกสังเกตสิ่งที่ต้องการ เรียนรู้โดยเฉพาะ และสิ่งส าคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ผู้เรียนจะต้องมีการเข้ารหัส (Encoding) ในความทรงจ าระยะยาวได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ผู้เรียนต้องสามารถที่จะประเมินได้ว่า คนเลียนแบบได้ดี หรือไม่ดีอย่างไร และจะต้องควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้ด้วย
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา จึงสรุปว่า การเรียนรู้โดยการสังเกตจึงเป็นกระบวนการทางการรู้คิดหรือ พุทธิปัญญา (Cognitive Processes) การเรียนรู้โดยการสังเกตหรือการ เลียนแบบ (Observational Learning หรือ Modeling) บันดูรา (Bandura) มีความเห็นว่าทั้งสิ่งแวดล้อม และตัวผู้เรียนมีความส าคัญเท่า ๆ กัน บันดูรากล่าวว่า คนเรามีปฏิสัมพันธ์ (Interact) กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ รอบๆ ตัวเราอยู่เสมอการเรียนรู้เกิดจาก ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและ สิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งผู้เรียนและสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อกันและกัน พฤติกรรมของ คน เ ร า ส่ วน ม า ก จ ะ เป็น ก า ร เ รี ยน รู้โ ด ย ก า ร สั ง เ ก ต (Observational Learning) หรือการเลียนแบบจากตัวแบบ (Modeling)
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา ส าหรับตัวแบบไม่จ าเป็นต้องเป็นตัวแบบที่มีชีวิตเท่านั้น แต่อาจจะเป็น ตัวสัญลักษณ์ เช่น ตัวแบบที่เห็นในโทรทัศน์ ภาพยนตร์ เกมส์คอมพิวเตอร์ หรือ อาจจะเป็น รูปภาพ การ์ตูน หนังสือ นอกจากนี้ ค าบอกเล่าด้วยค าพูดหรือ ข้อมูลที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรก็เป็นตัวแบบได้ การเรียนรู้โดยการสังเกตไม่ใช่การลอกแบบจากสิ่งที่สังเกตโดยผู้เรียนไม่ คิด คุณสมบัติของผู้เรียนมีความส าคัญ เช่น ผู้เรียนจะต้องมีความสามารถที่จะ รับรู้สิ่งเร้า และสามารถสร้างรหัสหรือก าหนดสัญลักษณ์ของสิ่งที่สังเกตเก็บไว้ใน ความจ าระยะยาว และสามารถเรียกใช้ในขณะที่ผู้สังเกตต้องการแสดง พฤติกรรมเหมือนตัวแบบ
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา แบนดูราได้ให้ความส าคัญของการปฏิสัมพันธ์ของอินทรีย์ และสิ่งแวดล้อม และถือว่าการเรียนรู้ก็เป็นผลของปฏิสัมพันธ์ ระหว่างผู้เรียนและสิ่งแวดล้อม โดยผู้เรียนและสิ่งแวดล้อมมี อิทธิพลต่อกันและกัน บันดูราได้ถือว่าทั้งบุคคลที่ต้องการจะเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุของพฤติกรรมและได้อธิบายการปฏิสัมพันธ์ ดังนี้
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา B (Behavior) = พฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งของบุคคล P (Person) = บุคคล (ตัวแปรที่เกิดจากผู้เรียน เช่น ความคาดหวังของ ผู้เรียน ฯลฯ) E(Environment) = สิ่งแวดล้อม
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา 2. แบนดูราได้ให้ความแตกต่างของการเรียนรู้ (Learning) และการกระท า (Performance) ถือว่าความแตกต่างนี้ส าคัญมาก เพราะคนอาจจะเรียนรู้อะไรหลายอย่างแต่ ไม่กระท า เป็นต้นว่านักศึกษาทุกคนที่ก าลังอ่านเอกสารประกอบการสอนนี้คงจะ ทราบว่า การโกงในการสอบนั้นมีพฤติกรรมอย่างไร แต่นักศึกษาเพียงน้อยคนที่จะ ท าการโกงจริง ๆ บันดูราได้สรุปว่าพฤติกรรมของมนุษย์อาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท 2.1 พฤติกรรมสนองตอบที่เกิดจากการเรียนรู้ ผู้ซึ่งแสดงออกหรือกระท า สม่ าเสมอ 2.2 พฤติกรรมที่เรียนรู้แต่ไม่เคยแสดงออกหรือกระท า 2.3 พฤติกรรมที่ไม่เคยแสดงออกทางการกระท า เพราะไม่เคยเรียนรู้จริง ๆ
แนวคิดและทฤษฎีของบันดูรา 3. แบนดูราไม่เชื่อว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจะคงตัวอยู่เสมอ ทั้งนี้เพราะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และทั้งสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม มีอิทธิพลซึ่งกันและกัน ตัวอย่างเช่น เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวก็คาดหวังว่าผู้อื่นจะแสดง พฤติกรรมก้าวร้าวต่อตนด้วย ความหวังนี้ก็ส่งเสริมให้เด็กแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว และผลพวงก็คือว่าเด็กอื่น (แม้ว่าจะไม่ก้าวร้าว) ก็จะแสดงพฤติกรรมตอบสนองแบบก้าวร้าวด้วย และเป็นเหตุให้ เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวยิ่งแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการย้ าความ คาดหวังของตน บันดูราสรุปว่า “เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวจะสร้างบรรยากาศก้าวร้าวรอบ ๆ ตัว จึงท าให้เด็กอื่นที่มีพฤติกรรมอ่อนโยนไม่ก้าวร้าวแสดงพฤติกรรมตอบสนองก้าวร้าว เพราะเป็นการแสดงพฤติกรรมต่อสิ่งแวดล้อมที่ก้าวร้าว”
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือเลียนแบบมี 2 ขั้น ขั้นที่ 1 ขั้นการได้รับมาซึ่งการเรียนรู้ (Acquisition) ท าให้สามารถแสดงพฤติกรรม ได้ สิ่งเร้าหรือการรับเข้า > บุคคล (Input) (Person) ขั้นที่ 2 เรียกว่าขั้นการกระท า (Performance) ซึ่งอาจจะกระท าหรือไม่กระท าก็ได้ สิ่งเร้าหรือการรับเข้า > บุคคล (Input) (Person)
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือเลียนแบบมี 2 ขั้น ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นการรับมาซึ่งการเรียนรู้ ขั้นการกระท า (Acquisition) (Performance) บันดูราได้ให้ความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้ (Learning) กับการกระท า (Performance)ซึ่งส าคัญ มาก เพราะคนเราอาจจะเรียนรู้อะไรหลายอย่างแต่ไม่ จ าเป็นต้องแสดงออกทุกอย่าง เช่นเราอาจจะเรียนรู้วิธี การ ทุจริตในการสอบว่าต้อง ท าอย่างไรบ้าง แต่ถึง เวลาสอบจริงเราอาจจะไม่ทุจริตก็ได้ สิ่งเร้า Input บุคคล Person พฤติกรรมสนองตอบ Output
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยการเลียนแบบ 1. กระบวนการความเอาใจใส่ (Attention) 2. กระบวนการจดจ า (Retention) 3. กระบวนการแสดงพฤติกรรมเหมือนตัวอย่าง (Reproduction) 4. กระบวนการการจูงใจ (Motivation)
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยการเลียนแบบ 1. กระบวนการความเอาใจใส่ (Attention) ความใส่ใจของผู้เรียนเป็นสิ่งส าคัญมาก ถ้าผู้เรียนไม่มีความใส่ใจการ เรียนรู้ก็จะไม่เกิดขึ้น ผู้เรียนจะต้องมีความใส่ใจ (Attention) ที่จะสังเกต ตัว แบบ ไม่ว่าเป็นการแสดงโดยตัวแบบจริงหรือตัวแบบ สัญลักษณ์ ถ้าเป็นการ อธิบายด้วยค าพูดผู้เรียนก็ต้องตั้งใจฟังและถ้าจะต้องอ่านค าอธิบายก็จะต้องมี ความตั้งใจทีจะอ่าน 2. กระบวนการจดจ า (Retention) ผู้เรียนสามารถจดจ าสิ่งที่ตนเองสังเกตและไปเลียนแบบได้ถึงแม้เวลาจะ ผ่านไปก็ตาม
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยการเลียนแบบ 3. กระบวนการแสดงพฤติกรรมเหมือนตัวอย่าง (Reproduction) เป็นกระบวนการที่ผู้เรียนสามารถแสดงออกมาเป็นการการกระท าหรือแสดง พฤติกรรมเหมือนกับตัวแบบ 4. กระบวนการการจูงใจ (Motivation) แรงจูงใจของผู้เรียนที่จะแสดงพฤติกรรมเหมือนตัวแบบที่ตนสังเกต เนื่องมาจาก ความคาดหวังว่า การเลียนแบบจะน าประโยชน์มาใช้ เช่น การได้รับแรงเสริมหรือรางวัล หรืออาจจะน าประโยชน์บางสิ่งบางอย่างมาให้ ตัวอย่าง นักเรียนคนหนึ่งท าการบ้านเรียบร้อยถูกต้องแล้วได้รับรางวัลชมเชยจาก ครู หรือให้สิทธิพิเศษก็จะเป็นตัวแบบให้แก่นักเรียนคนอื่น ๆ พยายามท าการบ้านมาส่งครู ให้เรียบร้อย เพราะมีความคาดหวังว่าคงจะได้รับแรงเสริมหรือรางวัลบ้าง
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยการเลียนแบบ ความใส่ใจ การจดจ า กระบวนการ เลียนแบบ กระบวนการ จูงใจ
การทดลอง บันดูรา ร็อส และร็อส (Bandural, Ross&Roos, 1961) ได้แบ่งเด็กออกเป็น 3 กลุ่ม - เด็กกลุ่มหนึ่ง ให้เห็นตัวอย่างจากตัวแบบที่มีชีวิต แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว - เด็กกลุ่มที่สอง มีตัวแบบที่ไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว - เด็กกลุ่มที่สาม ไม่มีตัวแบบแสดงพฤติกรรมให้ดูเป็นตัวอย่าง ผลการทดลองพบว่า เด็กที่อยู่ในกลุ่มที่มีตัวแบบแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวจะ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว จะแสดงพฤติกรรมเหมือนกับที่สังเกตจากตัวแบบการทดลอง
การทดลอง บันดูรา และเม็นลอฟ (Bandural & Menlove, 1968) ได้ศึกษาเกี่ยวกับเด็ก ซึ่งมีความกลัวสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข จนกระทั่งพยายามหลีกเลี่ยงหรือไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยง บันดูรา และเม็นลอฟได้ให้เด็กกลุ่มหนึ่งที่มีความกลัวสุนัขได้สังเกตตัวแบบที่ไม่ กลัวสุนัข และสามารถจะเล่นกับสุนัขได้อย่างสนุก โดยเริ่มจากการค่อย ๆ ให้ตัวแบบเล่น แตะ และพูดกับสุนัขที่อยู่ในกรงจนกระทั่งในที่สุดตัวแบบ เข้าไปอยู่ในกรงสุนัข ผลของการทดลองปรากฏว่าหลังจากสังเกตตัวแบบ ที่ไม่กลัวสุนัข เด็กจะกล้าเล่นกับสุนัขโดยไม่กลัว หรือพฤติกรรมของเด็กที่ กล้าที่จะเล่นกับสุนัขเพิ่มขึ้นและพฤติกรรมที่แสดงว่ากลัวสุนัขจะลดน้อย ไป
การน าทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน 1 บ่งชี้วัตถุประสงค์ที่จะให้นักเรียนแสดงพฤติกรรมหรือ เขียนวัตถุประสงค์เป็นเชิงพฤติกรรม 2 แสดงตัวอย่างของการกระท าหลายๆอย่าง 3 ให้ค าอธิบายควบคู่กันไปกับการให้ตัวอย่างแต่ละอย่าง 4 ชี้แจงขั้นตอนของการเรียนรู้โดยการสังเกตแก่นักเรียน 5 จัดเวลาให้นักเรียนมีโอกาสที่แสดงพฤติกรรมเหมือนตัวแบบ 6 ให้เสริมแรงแก่นักเรียนที่สามารถเลียนแบบได้อย่างถูกต้อง
สรุป ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Bandura เน้นความส าคัญของการเรียนรู้ แบบการสังเกตหรือเลียนแบบจากตัวแบบ ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งตัวบุคคล จริง ๆ เช่น ครู เพื่อน หรือจากภาพยนตร์โทรทัศน์ การ์ตูน การเรียนรู้โดย การสังเกตประกอบด้วย 2 ขั้น คือ ขั้นการรับมาซึ่งการเรียนรู้เป็น กระบวนการทางพุทธิปัญญา และขั้นการกระท า ตัวแบบที่มีอิทธิพลต่อ พฤติกรรมของบุคคลมีทั้งตัวแบบในชีวิตจริงและตัวแบบที่เป็นสัญลักษณ์
ค าถาม 1. ทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูราเน้นความส าคัญในเรื่องใด 2. เราสามารถน าทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรามา ประยุกต์ใช้ในการศึกษา อย่างไร
แนวค าตอบ 1 ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Bandura เน้นความส าคัญของการเรียนรู้แบบการสังเกตหรือเลียนแบบ จากตัวแบบ ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งตัวบุคคลจริง ๆ เช่น ครู เพื่อน หรือจากภาพยนตร์โทรทัศน์ การ์ตูน 2. เราสามารถน าทฤษฎีการเรียนรู้ของบันดูรามาประยุกต์ใช้ในการศึกษา ดังนี้ 1. ตั้งวัตถุประสงค์ที่จะท าให้นักเรียนแสดงพฤติกรรม 2. ครูผู้สอนแสดงตัวอย่างของการกระท าหลายๆ 3. ผู้สอนให้ค าอธิบายควบคู่ไปกับการให้ตัวอย่างแต่ละครั้ง 4. ชี้แนะขั้นตอนการเรียนรู้โดยการสังเกตแก่นักเรียน 5. จัดให้นักเรียนมีโอกาสที่จะแสดงพฤติกรรมเหมือนตัวแบบ 6. ให้แรงเสริมแก่นักเรียนที่สามารถเลียนแบบได้ถูกต้อง
นางสาวสาริศา วงศ์ศรีเผือก รหัสนักศึกษา 6622610612 ห้อง 6