สถิติในชวี ติ ประจำวัน เลขดชั นี 1
บทท่ี 6
เลขดัชนี
(Index Number)
เนือ้ หำบทเรยี น
1. ดชั นรี าคา
2. ดชั นปี รมิ าณ
3. ดชั นีมลู คา่
4. ดชั นผี บู้ ริโภค
5. อานาจการซอื้ และมลู คา่ ปัจจบุ นั
วตั ถปุ ระสงคข์ องบทเรยี น
1. เพ่อื ใหน้ กั ศกึ ษามีความรูเ้ ก่ียวกบั เร่ืองดชั นที ่ีสาคญั ต่างๆ
2. เพ่อื ใหน้ กั ศกึ ษาสามารถความรูเ้ กี่ยวกบั เร่ืองเลขดชั นีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
สถติ ใิ นชวี ติ ประจำวนั เลขดัชนี 2
บทท่ี 6 เลขดชั นี
(Index Number)
เลขดชั นี
☺ เป็นค่าวดั อยา่ งหน่ึง ท่ชี ีใ้ หเ้ หน็ ถงึ การเปล่ียนแปลงของขอ้ มลู เร่ืองใดเรื่องหนง่ึ ท่ีสนใจศกึ ษา
จากเวลาใดเวลาหน่งึ ไปยงั อีกเวลาหน่ึง
☺ เลขดชั นี เป็นตวั เลขท่แี สดงการเปล่ยี นแปลงของขอ้ มลู เม่ือเวลาเปล่ียนไป ระหวา่ ง
ช่วงเวลาหน่ึงกบั อีกชว่ งเวลาหน่งึ
☺ ซ่ึงปกติเราจะเรียก ปีท่ีใชเ้ ปรียบเทียบว่าเวลำฐำน (Base period)หรือ ปีฐาน
(Base year)
☺ ปีท่ตี อ้ งการดกู ารเปลี่ยนแปลง จะเรยี กว่า ปีท่สี นใจ
☺ ดชั นรี ะบใุ นรูปเปอรเ์ ซน็ ตแ์ ต่ในทางปฏิบตั จิ รงิ จะไมเ่ ขียนสญั ลกั ษณข์ อง
เปอรเ์ ซนต์
โดยปกติเลขดัชนีจะอย่ใู นรูปร้อยละ ดงั นนั้ ณ เวลาฐานเลขดชั นีจงึ มีค่า 100(100%)
สว่ นเลขดชั นขี องเร่อื งท่สี นใจศกึ ษาอาจจะมีค่าต่ากวา่ 100% หรอื สงู กว่า 100% กไ็ ด้
สาหรบั ช่วงเวลาท่ีใชเ้ ปรียบเทียบอาจเป็น สปั ดาห์ วนั เดือน ปี หรือตามช่วงเวลาท่ีเก็บขอ้ มูลก็ได้
ตวั อย่างเชน่
☺ ดชั นรี าคากาแฟปี 2538 เทียบกบั ปี 2532 = 116%
หมายความว่าราคากาแฟปี 2538 จะสงู กวา่ ราคากาแฟปี 2532 ถึง 16%
ปี 2532 จงึ เรียกวา่ ปีฐาน
เลขดชั นีเป็นตวั เลขท่ีแสดงการเปลีย่ นแปลงของขอ้ มลู เม่ือเวลาเปลี่ยนไปซง่ึ จะเป็นเครือ่ งมือสาคญั
ทางสถิติท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางเศรษฐกิจและธรุ กิจ
☺ เชน่ การวดั การเปลย่ี นแปลงของราคา ปรมิ าณ หรือมลู ค่าสนิ คา้ วา่ มกี ารปลี่ยน
แปลงสงู ขึน้ หรือต่าลงมากนอ้ ยเพียงใดเม่อื เวลาเปล่ยี นไปจากเวลาหน่ึงส่อู ีกเวลา
หนง่ึ
☺ เช่น การเปรียบเทียบว่าราคาของเนือ้ สตั วช์ นิดหนึ่งเปล่ียนแปลงไปอย่างไรในปี
2552 เม่อื เทยี บกบั ปี 2551
☺ การวัดการเปลี่ยนแปลงนี้ จะวัดออกมาในรูปค่าสัมพัทธ์โดยคานวณการ
เปลย่ี นแปลงออกมาเป็นเปอรเ์ ซน็ ต์
☺ เช่นหากพบว่าราคาของเนือ้ สตั วช์ นิดหน่ึงในปี 2552 เพ่ิมขึน้ 20% เม่ือเทียบกบั ปี
2551 ในกรณีนจี้ ะถือว่าปี 2551 เป็นปีท่ใี ชเ้ ปรียบเทยี บ จะเรยี กปี 2551 ว่า
ปีฐาน (Base year)
สว่ นปี 2552 คอื ปีท่ตี อ้ งการดกู ารเปล่ยี นแปลง จะเรยี กว่า ปีท่สี นใจ
สถิติในชวี ติ ประจำวัน เลขดัชนี 3
☺ โดยปีฐานจะมีเลขดชั นีเท่ากบั 100% เสมอ ดงั นนั้ ดชั นีราคาเนือ้ สตั วข์ องปี 2551
จะเท่ากบั 100%
☺ ซ่งึ ในกรณีนดี้ ชั นรี าคาของเนือ้ สตั วป์ ี 2552 จะเท่ากบั 120%
ในทานองเดียวกนั กบั การวดั การเปล่ียนแปลงของปรมิ าณ
☺ ตวั อยา่ งเชน่ การเปรยี บเทยี บผลผลติ ขา้ วในปี 2551 เทยี บกบั ปี 2550
☺ หากพบว่าดชั นีปริมาณผลผลิตขา้ วในปี 2551 เท่ากบั 90% แสดงว่าผลผลิตขา้ วปี 2551
ลดลงจากปี 2550 เทา่ กบั 10%
☺ และเน่ืองจากปี 2550 เป็นปีฐานท่ีใชเ้ ปรียบเทียบ จะมีดัชนีปริมาณผลผลิตขา้ วเท่ากับ
100%
เลขดัชนีนั้นนอกจากจะใชใ้ นการแสดงการเปล่ียนแปลงของราคาและปริมาณของส่ิงต่างๆ ตามท่ี
กล่าวมาแลว้ ยงั ใชใ้ นการดูการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจไดว้ ่าเปล่ียนแปลงในทางท่ีดีขึน้
หรือไม่อย่างไร เช่น ดกู ารเปล่ียนแปลงมูลค่าของสินคา้ ราคาหุน้ การผลิตในอุตสาหกรรม ค่าจา้ ง
และและแรงงาน ค่าครองชพี เป็นตน้
และเป็นเครื่องมือท่ีเป็นประโยชนอ์ ย่างยิ่งต่อหน่วยงานต่างๆ ในการท่ีจะกาหนดนโยบายและวาง
แผนการพฒั นาองคก์ ร รวมถึงการแกป้ ัญหาในเรอื่ งตา่ งๆ
ดชั นีราคาท่ีใชก้ นั แพรห่ ลายท่สี ดุ คอื ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค (Consumer price index:
CPI) จะเป็นอกี คา่ หน่งึ ท่ีสาคญั มากในเชิงเศรษฐศาสตร์ โดยใชใ้ นการกาหนดการเปลี่ยนแปลงและ
แกป้ ัญหาในเร่อื งต่างๆ ท่เี ก่ียวขอ้ ง เช่น ใชก้ าหนดการเปลี่ยนแปลงในค่าจา้ งและแรงงาน ใชก้ าหนดการ
เปล่ยี นแปลงราคาสนิ คา้ ลว่ งหนา้ ใชว้ ดั อานาจซือ้ ของเงินตรา ใชว้ ดั มลู ค่าท่แี ทจ้ รงิ ของเงิน (Money value)
ใชว้ ดั อตั ราเงินเฟ้อ เป็นตน้
ดชั นรี าคาผบู้ รโิ ภค(Consumer price index) เป็นดชั นรี าคาท่ใี ชว้ ดั การเปล่ยี นแปลงของ
ราคาขายปลีกของสนิ คา้ และบรกิ ารท่คี รอบครวั ประเภทท่ีมรี ายไดเ้ ป็นคา่ จา้ งหรอื เงนิ เดอื นซือ้ ใชก้ นั เป็น
ประจา เม่อื เทียบกบั ราคาในช่วงฐาน
การเลือกปีใดเป็นฐานนนั้ โดยท่วั ไปจะเลือกปีท่มี ีเหตกุ ารณป์ กติน่นั คือไม่มภี าวะสงคราม
หรือภยั ธรรมชาติ ไม่อย่ใู นระยะท่ีเศรษฐกิจรุง่ เรอื งเต็มท่ีหรือตกต่าอยา่ งสดุ ขีด เป็นปีท่เี ศรษฐกิจมี
เสถียรภาพดี และเป็นปีท่ไี ม่ห่างจากปีปัจจบุ นั มากนกั ตงั้ แต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2533 เป็นตน้ มา ไทยเรา
ใช้ ปี พ.ศ. 2529 เป็นปีฐาน โดยดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคในปี พ.ศ. 2529 เท่ากบั 100
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคในปี พ.ศ.2535 เท่ากบั 130.8 หมายความวา่
ถา้ ราคาสินคา้ สาหรบั ผบู้ รโิ ภคในปี พ.ศ. 2529 เทา่ กบั 100 บาท
ราคาสินคา้ สาหรบั ผบู้ รโิ ภคในปี พ.ศ. 2535 จะเทา่ กบั 130 บาท 80 สตางค์
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค ซ่งึ ในสมยั นนั้ ใชช้ ่ือว่า ดชั นคี ่าครองชีพ (Cost-of-living-index)
สรา้ งขึน้ ในประเทศไทยครง้ั แรก เม่อื ปี พ.ศ. 2486 โดยใชป้ ี 2481 เป็นปีฐาน เราสรา้ งดชั นรี าคา
ผบู้ รโิ ภคหลงั ประเทศอ่นื ประมาณ 100 ประเทศ เชน่ ประเทศสหรฐั อเมรกิ า สรา้ งดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค ตงั้ แตป่ ี
พ.ศ. 2456 โดยสาหนกั งานสถิตแิ รงงานของไทย กรมเศรษฐกจิ การพาณิชย์ จดั พิมพด์ ชั นรี าคาผบู้ รโิ ภค
สถิตใิ นชวี ิตประจำวนั เลขดชั นี 4
ท่วั ไปและดชั นรี าคาอ่นื ๆ เชน่ ดชั นรี าคาขายสง่ ดชั นีราคาผผู้ ลติ วสั ดกุ ่อสรา้ งและดชั นีราคาสนิ คา้ สง่ ออก
เผยแพรท่ กุ ปี
เลขดชั นจี าแนกออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการสรา้ ง ดงั นี้
1. ดชั นรี าคา (Price Index)
2. ดชั นปี รมิ าณ (Quantity Index)
3. ดชั นมี ลู ค่า (Value Index)
1) ดชั นีราคา (Price index)
เป็นค่า/ตวั เลข ที่ใชว้ ดั การเปล่ียนแปลงสมั พทั ธ์ของราคาสินคา้ และบรกิ ารต่างๆเทียบ
กบั ปีฐาน ดัชนีราคาเป็นค่าท่ีสาคัญมากในเชิงเศรษฐศาสตรแ์ ละธุรกิจ เช่น ดัชนีราคา
ขายส่งสินคา้ (Wholesale price index) ดัชนีราคาผูบ้ ริโภค (Consumer price index:
CPI) ดชั นีราคาหนุ้ เป็นตน้
2) ดชั นปี รมิ าณ (Quantity index)
เป็นคา่ /ตวั เลข ท่ีใชว้ ดั การเปลีย่ นแปลงสมั พทั ธข์ องปรมิ าณสินคา้ และบรกิ ารต่างๆ เทียบ
กบั ปีฐาน ดชั นีปรมิ าณท่ีสาคญั เช่น ดชั นีปริมาณสินคา้ สง่ ออก ดชั นีปรมิ าณรถยนต์
สง่ ออก ดชั นปี รมิ าณนาเขา้ หรอื สง่ ออก เป็นตน้
3) ดชั นมี ลู คา่ (Value index)
เป็นค่าท่ีใชว้ ดั การเปล่ียนแปลงสมั พทั ธข์ องมลู ค่าหรือยอดขายสินคา้ และบริการต่างๆ
เม่อื เทยี บกบั ปีฐาน
มลู ค่าสนิ คา้ ใดๆ ไดจ้ ากการคณู ราคาต่อหน่วยของสินคา้ นนั้ ดว้ ยปริมาณ v = p q
เช่น ถา้ ราคาสง่ ออกขา้ วคือตนั ละ 12,000 บาท และทาการสง่ ขา้ วออกทงั้ หมด 500 ตนั
ดงั นนั้ มลู คา่ การสง่ ออกขา้ วเทา่ กบั 12,000x500 = 6,000,000 บาท เป็นตน้
จะเห็นไดว้ ่าดัชนีมลู ค่าเป็นค่าท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทงั้ ในดา้ นราคาและ
ปรมิ าณพรอ้ มๆ กนั
6.1 สญั ลกั ษณท์ ใ่ี ช้ในกำรคำนวณเลขดัชนี
การคานวณเลขดชั นมี ีสญั ลกั ษณต์ า่ งๆ ท่ใี ชใ้ นการคานวณดงั นี้
p หมายถงึ ราคาสนิ คา้
p0 หมายถงึ ราคาสนิ คา้ ณ ช่วงเวลาท่เี ป็นฐานในการเปรียบเทยี บ
เชน่ p2550 หมายถงึ ราคาสินคา้ ปี 2550 โดยท่ปี ี 2550 เป็นปีฐาน
pn หมายถงึ ราคาสินคา้ ณ ช่วงเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
หรอื แทนราคาสินคา้ ในช่วงเวลาท่ตี อ้ งการเปรียบเทียบ
In หมายถงึ ดชั นีราคาสนิ คา้ ณ ชว่ งเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี หรอื ดชั นรี าคาในช่วงเวลาท่ี
ตอ้ งการเปรียบเทียบ
เช่น I2552 หมายถงึ ดชั นีราคาสินคา้ ณ ปี 2552 เป็นตน้
สถติ ใิ นชวี ติ ประจำวัน เลขดชั นี 5
q หมายถงึ ปรมิ าณสนิ คา้
q0 หมายถงึ ปรมิ าณสินคา้ ณ ช่วงเวลาท่เี ป็นฐานในการเปรียบเทียบ
เช่น q2550 หมายถึงปรมิ าณสนิ คา้ ปี 2550 โดยท่ีปี 2550 เป็นปีฐาน
qn หมายถึง ปรมิ าณสินคา้ ณ ชว่ งเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
v หมายถงึ มลู ค่าสินคา้
v0 หมายถึง มลู ค่าสนิ คา้ ณ ช่วงเวลาท่เี ป็นฐานในการเปรยี บเทยี บ โดยท่ี v0 = p0q0
vn หมายถงึ มลู ค่าสนิ คา้ ณ ช่วงเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี โดยท่ี vn = pnqn
QIn หมายถึง ดชั นีปรมิ าณสินคา้ ณ ชว่ งเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
เช่น QI2552 หมายถงึ ดชั นีปรมิ าณสินคา้ ณ ปี 2552 เป็นตน้
VIn หมายถงึ ดชั นมี ลู ค่าสินคา้ ณ ชว่ งเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
เชน่ VI2552 หมายถึงดชั นมี ลู ค่าสนิ คา้ ณ ปี 2552 เป็นตน้
6.2 สง่ิ ท่ตี อ้ งคำนึงในกำรสร้ำงเลขดัชนี
6.2.1 กำรกำหนดวัตถปุ ระสงคก์ ำรสร้ำง
6.2.2 กำรเลือกตวั แทนรำยกำรสินค้ำและบริกำรทจี่ ะใช้คำนวณเลขดัชนี
6.2.3 กำรเลือกเวลำทีใ่ ชเ้ ป็ นฐำนในกำรเปรยี บเทียบ
6.2.4 กำรเลอื กสูตรและวิธีกำรถว่ งนำ้ หนัก
6.2.1 กำรกำหนดวตั ถุประสงคก์ ำรสร้ำง
เน่ืองจากเลขดชั นีมีหลายประเภท และวตั ถุประสงคใ์ นการสรา้ งเลขดชั นีแต่ละประเภทแตกต่างกนั
กอ่ นการสรา้ งจงึ ตอ้ งกาหนดใหแ้ น่ชดั ว่าตอ้ งการสรา้ งเลขดชั นีเพ่อื วตั ถปุ ระสงคใ์ ด เช่น การสรา้ งดชั นี
ราคาผูบ้ ริโภค จะมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือวดั การเปลี่ยนแปลงของราคาสินคา้ และบริการท่ีจาเป็นในการ
ดารงชวี ติ
6.2.2 กำรเลอื กตวั แทนรำยกำรสนิ ค้ำและบริกำรทจี่ ะใช้คำนวณเลขดชั นี
การสรา้ งเลขดชั นนี นั้ จะถูกตอ้ งเช่ือถือไดม้ ากนอ้ ยเพยี งใดนนั้ ขนึ้ อยู่กบั ปัจจยั หลกั คือ การ
เลือกกลมุ่ สินคา้ และบรกิ ารท่ีจะเป็นตวั แทนในการคานวณเลขดชั นี ว่าเป็นตวั แทนท่ีดีของสินคา้
และบรกิ ารท่ีมีอย่ทู งั้ หมดหรือไม่
เช่นการสรา้ งดชั นีราคาผูบ้ รโิ ภค สินคา้ เพ่ือการบริโภคท่ีจะใชเ้ ป็นตวั แทนในการคานวณ
เลขดัชนีมีอยู่ 7 หมวดหมู่ เช่นหมวดหมู่อาหารและเคร่ืองด่ืม หมวดหมู่ท่ีอยู่อาศัย หมวดหมู่การ
รกั ษาโรค เป็นตน้ สินคา้ ในแต่ละหมวดหมู่ก็มีหลายชนิด เช่น การเลือกสินคา้ ตัวแทนหมวดหมู่
สถิตใิ นชวี ติ ประจำวัน เลขดชั นี 6
อาหารและเคร่ืองดื่ม ผู้เลือกจะตอ้ งมีความเช่ียวชาญในการเลือกว่าจะใช้ราคาของอาหารและ
เครือ่ งด่มื ชนิดใดบา้ งเป็นตวั แทนจงึ จะเป็นตวั แทนท่ีดีท่สี ดุ
6.2.3 กำรเลอื กเวลำที่ใช้เป็ นฐำนในกำรเปรยี บเทียบ
การเลือกเวลาท่ีใชเ้ ป็นฐานนนั้ อาจเลือกช่วงเวลาเป็นปี เดือน หรือสปั ดาหก์ ็ได้ แต่ช่วงเวลาฐานควร
เป็นช่วงเวลาท่ีปกติ เช่น ไม่เกิดภาวะสงคราม หรือมีสภาพเศรษฐกิจโดยรวมเป็นปกติและการนาไป
เปรยี บเทียบกบั ปีท่สี นใจดกู ารเปล่ยี นแปลงควรเป็นชว่ งเวลาท่เี ท่ากนั
6.2.4 กำรเลอื กสตู รและวิธกี ำรถว่ งน้ำหนัก
เลขดชั นีประเภทเดียวกนั จะมีสตู รในการสรา้ งหลายสตู ร และมีวิธีการถ่วงนา้ หนกั แตกต่างกนั แต่
การเลือกสตู รและวิธีการถ่วงนา้ หนกั จะมีความเก่ียวขอ้ งกนั การเลือกว่าจะใชส้ ูตรใดในการสรา้ งขนึ้ อยู่
กบั ความคิดเห็นของผสู้ รา้ งว่าสตู รใดควรเหมาะสม และการสรา้ งเลขดชั นีแต่ละประเภทจะมีทงั้ กรณี
คานวณโดยการไม่ถ่วงนา้ หนกั และวิธีการถ่วงนา้ หนกั
ดชั นแี ต่ละประเภท จะมีทงั้ การคานวณจากสนิ คา้ รายการเดยี วและจากสินคา้ หลายรายการ
กรณีท่คี านวณจากสินคา้ รายการเดยี วจะเรียกว่า ดชั นอี ยา่ งง่าย (Simple index)
เช่น ดัชนีราคาอย่างง่าย (Simple price index) หรือ ดชั นีปริมาณอย่างง่าย (Simple
quantity index) เป็นตน้
สว่ นกรณีท่ีคานวณจากสนิ คา้ หลายรายการ จะเรียกว่า ดชั นีสว่ นประกอบ(Composite
index)
ดชั นีแต่ละพวก ถา้ พจิ ารณาแบง่ ตามลกั ษณะการคานวณจะแบง่ ออกเป็น 2 ชนิด คือ
ดัชนีไมถ่ ่วงน้ำหนัก (Unweighted index)
ดชั นีถ่วงนา้ หนกั (Weighted index)
6.3 ดชั นีรำคำ (Price index)
การคานวณดชั นีราคามีหลกั การคือ เป็นการคานวณโดยทาการเปรียบเทียบราคาสินคา้ ในปีท่ีสนใจ
กบั ราคาสนิ คา้ ในปีฐาน ซ่งึ สนิ คา้ ท่จี ะหาดชั นรี าคาอาจเป็นสินคา้ รายการเดยี วหรือหลายๆ รายการรวมกนั ก็ได้
ดัชนีรำคำแบบไมถ่ ่วงนำ้ หนัก(Unweighted price index)
เป็นการคานวณดชั นีราคาโดยให้ความสาคญั กบั สินคา้ ทุกรายการเท่าๆ กนั
ดชั นรี าคาแบบไมถ่ ว่ งนา้ หนกั จะแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
ดชั นรี าคาอย่างงา่ ย (Simple price index)
ดชั นรี าคารวมอย่างงา่ ย (Simple aggregative price index)
ดชั นีราคาเฉลยี่ สมั พทั ธอ์ ย่างงา่ ย (Simple average of relative price index)
สถติ ิในชวี ติ ประจำวัน เลขดัชนี 7
6.3.1 ดัชนีรำคำอย่ำงงำ่ ย(Simple price index)
เป็นคา่ ท่อี ธิบายการเปล่ียนแปลงของราคาสนิ คา้ รายการเดียวในปีท่สี นใจเม่ือเทยี บกบั ราคาในปี
ฐาน โดยแสดงการเปลยี่ นแปลงในลกั ษณะราคาสมั พทั ธ์ มสี ตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นีราคาอย่างงา่ ย (In ) = pn x 100
p0
p หมายถึง ราคาสินคา้
p0 หมายถงึ ราคาสนิ คา้ ณ ชว่ งเวลาท่เี ป็นฐานในการเปรียบเทยี บ
pn หมายถงึ ราคาสนิ คา้ ณ ชว่ งเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
ดชั นรี าคาอยา่ งงา่ ยนเี้ ป็นวิธีมาตรฐาน ในการหาดชั นีราคาของสนิ คา้ ชนดิ เดียว
ตัวอยำ่ งที่ 6.1 สมมติวา่ ราคาเครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ องบรษิ ัทหน่ึงในปี 2550 เท่ากบั 38,600 บาท และในปี
2551 ราคาเท่ากบั 32,000 บาท จงหาค่าดชั นีราคาอยา่ งงา่ ยของปี 2551 เทียบกบั ปี 2550
วิธีทำ 1) ปีฐานคือปี 2550 In = pn x 100
2) คานวณดชั นรี าคาอยา่ งง่ายไดด้ งั นี้ จาก p0
p หมายถึง ราคาสินคา้
p0 หมายถึง ราคาสนิ คา้ ณ ช่วงเวลาท่เี ป็นฐานในการเปรียบเทียบ
เช่น p2550 หมายถึงราคาสินคา้ ปี 2550 โดยท่ปี ี 2550 เป็นปีฐาน
p2550 = 38,600
pn หมายถงึ ราคาสินคา้ ณ ช่วงเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
p2551 คอื ราคาสนิ คา้ ณ ช่วงเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
p2551 = 32,000
In หมายถงึ ดชั นรี าคาสนิ คา้ ณ ชว่ งเวลาท่สี นใจหาเลขดชั นี
เช่น I2551 หมายถงึ ดชั นีราคาสินคา้ ณ ปี 2551
ดชั นรี าคาอยา่ งง่ายของปี 2551 เทยี บกบั ปี 2550
I2551 = pp33222855,,550601 00x001x00100
=
= 82.9
3) แสดงว่า ราคาเครื่องคอมพิวเตอรใ์ นปี 2551 ลดลงจากปี 2550 เทา่ กบั 17.1% (100-82.9)%
ขอ้ สงั เกต ดชั นรี าคาของปีฐานเทา่ กบั 100 เสมอ
สถิติในชวี ติ ประจำวัน เลขดชั นี 8
6.3.2 ดชั นีรำคำรวมอยำ่ งง่ำย (Simple aggregative price index)
เป็นค่าท่ีอธิบายการเปลี่ยนแปลงของราคาสินคา้ กลมุ่ หน่งึ ในปีท่สี นใจเทยี บกบั ราคาของสินคา้ กลมุ่ นนั้
ในปีฐาน แสดงการเปล่ียนแปลงโดยสว่ นรวมของราคาสินคา้ หลายรายการ โดยนาผลรวมของราคาสนิ คา้ ใน
ชว่ งเวลาท่ตี อ้ งการเปรยี บเทียบมาหารดว้ ยผลรวมของราคาสนิ คา้ ในชว่ งฐาน แลว้ คณู ดว้ ย 100
โดยมสี ตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นรี าคารวมอย่างง่าย (In ) = pn x 100
p0
โดยท่ี p แทนผลรวมของราคาสินคา้ ในชว่ งเวลาท่ตี อ้ งการเปรยี บเทยี บ
n แทนผลรวมของราคาสินคา้ ในช่วงเวลาท่เี ป็นฐาน
p
o
ตัวอย่ำงท่ี 6.2 สมมตวิ า่ ราคาสนิ คา้ บรโิ ภค 5 รำยกำรในปี 2551 - 2552 เป็นดงั ตารางต่อไปนี้ จงหาคา่
ดชั นรี าคารวมอย่างงา่ ยของปี 2552 เทียบกบั ปี 2551
ราคาสินคา้ (บาท/หน่วย)
รายการสินคา้ ปี 2551 ปี 2552
ขา้ วสารจา้ ว (กิโลกรมั ) 15 18
เนอื้ หมู (กิโลกรมั ) 90 95
ไขไ่ ก่เบอร์ 0 (โหล) 35 40
นา้ มนั พืช (ลติ ร) 56 62
นา้ ตาล (กโิ ลกรมั ) 20 22
ผลรวม p =216 p =237
วธิ ีทา 1) ปีฐานคือปี 2551 on
2) คานวณดชั นีรำคำรวมอย่ำงง่ำยไดด้ งั นี้ จาก In = pn x 100
p0
I2552 = p2552 x 100 = 237 x 100 = 109.72
p2551 216
4) แสดงวา่ ราคาสนิ คา้ บริโภครวมทงั้ 5 รายการนี้ ในปี 2552 เพิ่มขึน้ จากปี 2551 เท่ากบั 9.72%
การคานวณดชั นีวิธีมวลรวมไม่ถ่วงนา้ หนกั ในตวั อย่างท่ี 6.2 จะพบว่าราคาของสินคา้ ต่อหน่วยไม่
เหมอื นกนั และการนาคา่ ขอ้ มลู มารวมกนั เพ่อื คานวณหาคา่ ดชั นดี จู ะไม่ค่อยถกู ตอ้ งนกั การเปล่ียนแปลง
ของปรมิ าณสนิ คา้ ชนิดตา่ ง ๆ ดงั นนั้ เพ่อื ขจดั ปัญหาเกี่ยวกบั หน่วยขอ้ มลู ออกไป จึงมวี ิธีการคานวณเลข
ดชั นีโดยหาคา่ เฉลี่ยสมั พทั ธไ์ ม่ถว่ งนา้ หนกั
สถติ ใิ นชวี ติ ประจำวนั เลขดัชนี 9
6.3.3 ดชั นีรำคำเฉล่ยี สมั พัทธอ์ ย่ำงง่ำย (Simple average of relative price index) ไมถ่ ่วงนา้ หนกั
เป็นค่าท่อี ธิบายการเปลี่ยนแปลงของราคาสินคา้ กล่มุ หน่ึงในปีท่สี นใจ เทียบกบั ราคาของสินคา้ กล่มุ นนั้
ในปีฐานเช่นเดียวกบั ดชั นีราคารวมอย่างง่าย
แต่จะทาการคานวณราคาสมั พัทธ์ของสินคา้ แต่ละรายการเสียก่อน แลว้ นาราคาสมั พทั ธข์ อง
สินคา้ ทกุ รายการมารวมกัน และหาค่าเฉล่ียอีกครงั้ หนึ่งดว้ ยการหารดว้ ยจานวนรายการสินคา้
การคานวณวิธีนีจ้ ะเป็นการขจดั ปัญหาในเรื่องขนาดของราคาสินคา้ ที่ต่างกนั ออกไป ทาใหก้ าร
เปลี่ยนแปลงที่เห็นเป็นการเปลี่ยนแปลงของราคาสมั พทั ธจ์ ริงๆ จึงมีความถูกตอ้ งน่าเชื่อถือ
มากกว่าดชั นีราคารวมอย่างงา่ ย โดยมสี ตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นรี าคาเฉลย่ี สมั พทั ธอ์ ย่างง่าย (In ) = pn In ดว้ ย P0 / n
p0
x 100 , หรือ เขยี นแทน
n
ผลรวมของราคาสมั พทั ธ์ = pn , เม่อื n คือ จานวนรายการสนิ คา้ ทงั้ หมด
p0
ตวั อย่ำงที่ 6.3 จากขอ้ มลู ในตวั อยา่ งท่ี 6.2 จงหาค่าดชั นีราคาเฉลี่ยสมั พทั ธอ์ ย่างง่าย
วิธีทำ 1) ในท่นี ปี้ ีฐานคือปี 2551
2) คานวณดชั นีราคาเฉล่ียสมั พทั ธอ์ ยา่ งง่ายไดด้ งั นี้ จาก In = pn x 100
p0
n
ดงั นนั้ I2552 = p2552 x 100
p2551
5
3) คานวณหาค่าต่างๆ ดงั นี้
รายการสินคา้ ราคาสินคา้ (บาท/หน่วย) p2552
ปี 2551 ปี 2552
ขา้ วสารจา้ ว (กิโลกรมั ) p2551
เนอื้ หมู (กิโลกรมั ) 15 18
ไขไ่ ก่เบอร์ 0 (โหล) 90 95 18 = 1.20
นา้ มนั พืช (ลติ ร) 35 40 15
นา้ ตาล (กิโลกรมั ) 56 62
20 22 95 = 1.06
ผลรวม 216 237
90
40 = 1.14
35
62 = 1.11
56
22 = 1.10
20
5.61
p2552
p2551
สถติ ิในชวี ติ ประจำวัน เลขดชั นี 10
4) คานวณหาค่า I2552 = p2552 x 100 = 5.61 x 100 = 112.11
p2551 5
5
5) แสดงว่า ราคาสินคา้ บรโิ ภครวมทงั้ 5 รายการนใี้ นปี 2552 เพม่ิ ขึน้ จากปี 2551 เทา่ กบั 12.11%
จะเห็นไดว้ า่ ในกรณีท่สี ินคา้ มรี าคาตอ่ หนว่ ยต่างกนั การคานวณดชั นีราคา โดยใชค้ ่าเฉลยี่ สมั พทั ธ์
ไมถ่ ว่ งนา้ หนกั (ค่าเฉลย่ี สมั พทั ธอ์ ยา่ งง่าย)นา่ จะมีความถกู ตอ้ งมากกว่าโดยใชว้ ิธีมวลรวมไมถ่ ว่ งนา้ หนกั
เน่อื งจากราคาสมั พทั ธข์ องสนิ คา้ แตล่ ะชนิด ไมม่ ีปัญหาเร่อื งหน่วยของสินคา้ ท่จี ะเขา้ มามอี ิทธิพลต่อการ
คานวณเลขดชั นี
6.4 ดัชนีปรมิ ำณ (Quantity index)
ดชั นีปรมิ าณ คือคา่ ท่ีแสดงการเปล่ียนแปลงของปรมิ าณสินคา้ และบรกิ ารในปีท่สี นใจเม่ือเทียบกบั
ปีฐาน
ซ่งึ ดชั นีปริมาณเป็นค่าท่ีสาคญั มากในทางอตุ สาหกรรม เพราะการเปล่ียนแปลงของปรมิ าณสินคา้
มผี ลกระทบมากต่อการวางแผนการผลติ
ดชั นีปรมิ าณจะเป็นค่าสาคญั ท่ีใชว้ ดั การเปล่ียนแปลงนี้ การสรา้ งดชั นีปรมิ าณมีหลกั การคลา้ ยกบั
ดชั นีราคา เพียงแตเ่ ปลย่ี นจากราคาเป็นปรมิ าณ
ดัชนีปริมาณไม่ถ่วงน้าหนัก (Unweighted quantity index) มีหลักการเหมือนดัชนีราคาไม่ถ่วง
นา้ หนกั คอื เป็นการคานวณดชั นโี ดยใหค้ วามสาคญั กบั สินคา้ ทกุ รายการเทา่ ๆ กนั
โดยดชั นีปริมำณไม่ถ่วงน้ำหนักแบง่ ออกเป็ น 3 ชนิดคือ
6.4.1 ดชั นปี รมิ าณอย่างง่าย (Simple quantity index)
6.4.2 ดชั นีปรมิ าณรวมอย่างงา่ ย (Simple aggregative quantity index)
6.4.3 ดชั นีปรมิ าณเฉลี่ยสมั พทั ธอ์ ย่างง่าย (Simple average of relative quantity index)
6.4.1 ดชั นีปริมำณอย่ำงงำ่ ย (Simple quantity index)
เป็นค่าท่ีอธิบายการเปลี่ยนแปลงของปรมิ าณสินคา้ รายการเดียวในปีท่ีสนใจเม่ือเทียบกบั ปรมิ าณใน
ปีฐานโดยมสี ตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นีปรมิ าณอย่างงา่ ย ( QIn ) = qn x 100
q0
6.4.2 ดัชนีปริมำณรวมอย่ำงงำ่ ย (Simple aggregative quantity index)
เป็นค่าท่ีอธิบายการเปลี่ยนแปลงของปรมิ าณสินคา้ กล่มุ หนึ่งในปีท่ีสนใจ เทียบกบั ปริมาณของสินคา้
กลมุ่ นนั้ ในปีฐาน โดยมีสตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นีปรมิ าณรวมอย่างงา่ ย (QIn ) = qn x 100
q0
สถติ ิในชวี ิตประจำวัน เลขดชั นี 11
6.4.3 ดชั นีปริมำณเฉลี่ยสัมพัทธอ์ ย่ำงงำ่ ย (Simple average of relative quantity index)
เป็นค่าท่ีอธิบายการเปล่ียนแปลงของปริมาณสินคา้ กล่มุ หน่ึงในปีท่ีสนใจ เทียบกบั ปริมาณของสินคา้
กลุ่มนั้นในปีฐาน ซ่ึงจะทาการคานวณปริมาณสมั พัทธข์ องสินคา้ แต่ละรายการเสียก่อนแลว้ นาปริมาณ
สมั พัทธข์ องสินคา้ ทุกรายการมารวมกันและหาค่าเฉล่ียอีกครง้ั หนึ่งดว้ ยการหารดว้ ยจานวนรายการสินคา้
โดยมสี ตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นปี รมิ าณเฉลี่ยสมั พทั ธอ์ ย่างง่าย (QIn ) = qn x 100
q0
n
ตัวอย่ำงที่ 6.4 ขอ้ มูลในตารางขา้ งล่างเป็นจานวนการจา้ งงานของแต่ละสาขา 4 สาขา ในระยะเวลา 2 ปี
คอื ปี 2550 ถงึ ปี 2551 ดงั นี้
ปรมิ าณการจา้ งงาน (คน)
สาขา ปี 2550 ปี 2551
เกษตรกรรม 16,031 15,945
อตุ สาหกรรมการผลิต 4,357 4,178
เหมอื งแร่ 44 40
กอ่ สรา้ ง 2,021 1,763
ก) จงคานวณดชั นปี รมิ าณรวมอยา่ งงา่ ยของการจา้ งงานปี 2551 โดยใชป้ ี 2550 เป็นปีฐาน
ข) จงคานวณดชั นีปรมิ าณเฉลย่ี สมั พทั ธอ์ ย่างงา่ ยของการจา้ งงานปี 2551 โดยใชป้ ี 2550 เป็นปีฐาน
วธิ ที ำ ก) เน่ืองจากใชป้ ี 2550 เป็นปีฐาน ดงั นนั้ คานวณดชั นีปริมาณรวมอย่างงา่ ยไดด้ งั นี้
จาก QIn = qn x 100
q0
QI2551 = q2551 x 100
q2550
คานวณค่าต่างๆ ดงั นี้
ปรมิ าณการจา้ งงาน (คน)
สาขา ปี 2550 ปี 2551
เกษตรกรรม 16,031 15,945
อตุ สาหกรรมการผลิต 4,357 4,178
เหมอื งแร่ 44 40
ก่อสรา้ ง 2,021 1,763
รวม 22,453 21,926
สถิตใิ นชวี ติ ประจำวนั เลขดชั นี 12
ดงั นนั้ QI2551 = q2551 x 100 = 21,926 x 100 = 97.65
q2550 22,453
แสดงว่า ปรมิ าณการจา้ งงานรวมในปี 2551 จะลดลงจากปี 2550 เท่ากบั 2.35% (100 – 97.65)
ข) จงคานวณดชั นีปริมาณเฉลี่ยสมั พทั ธอ์ ย่างง่ายของการจา้ งงานปี 2551 โดยใชป้ ี 2550 เป็นปีฐาน
เน่อื งจากใชป้ ี 2550 เป็นปีฐาน ดงั นนั้ คานวณดชั นีปรมิ าณเฉล่ียสมั พทั ธอ์ ยา่ งงา่ ยไดด้ งั นี้
จาก QIn = qn x 100
q0
n
QI2551 = q2551 x 100
q2550
4
คานวณค่าต่างๆ ดงั นี้
สาขา ปรมิ าณการจา้ งงาน (คน) q2551
ปี 2550 ปี 2551 q2550
เกษตรกรรม 16,031 15,945 15,945 = 0.995
16,031
4,178
อตุ สาหกรรมการผลติ 4,357 4,178 4,357 = 0.959
เหมอื งแร่ 44 40 40 = 0.909
44
1,763
ก่อสรา้ ง 2,021 1,763 2,021 = 0.872
รวม 22,453 21,926 3.735
ดงั นนั้ QI2551 = q2551 x 100 = 3.735 x 100 = 93.38
q2550
44
แสดงว่า ปรมิ าณการจา้ งงานรวมในปี 2551 จะลดลงจากปี 2550 เทา่ กบั 6.62%
6.5 ดชั นีมลู คำ่ (Value index)
ดชั นีมลู ค่า คอื ค่าท่ีใชว้ ดั การเปล่ียนแปลงของมลู ค่าสินคา้ และบรกิ ารจากช่วงเวลาหน่ึงส่อู ีก
ชว่ งเวลาหนงึ่
เช่น การเปล่ียนแปลงของมลู ค่าการขายของสนิ คา้ ชนิดหน่ึงจากปี 2551 สปู่ ี 2552 เป็นตน้
การคานวณดชั นมี ลู ค่าใชห้ ลกั การเดียวกนั กบั การคานวณดชั นีราคา
สถิตใิ นชวี ติ ประจำวนั เลขดชั นี 13
จากมลู ค่าสนิ คา้ (v) = pq และมลู ค่าสินคา้ รวม v = pq
ดชั นีมลู ค่าสินคา้ รวมอย่างง่าย คืออตั ราส่วนสมั พทั ธท์ ่ีแสดงการเปล่ียนแปลงของ
มลู ค่าสนิ คา้ รวมของปีท่สี นใจเทียบกบั ปีฐาน
สรุปเป็นสตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นีมลู ค่าสินคา้ รวมอยา่ งง่าย ( VIn ) = pnqn x 100
p0q0
ในกรณีท่ีตอ้ งการคานวณหาดัชนีมลู ค่าสินคา้ รวมแบบถ่วงนา้ หนัก จะเรียกว่า ดชั นีมลู ค่า
เฉลี่ยสมั พทั ธถ์ ว่ งนา้ หนกั มีสตู รการคานวณดงั นี้
ดชั นมี ลู คา่ เฉลี่ยสมั พทั ธถ์ ว่ งนา้ หนกั ( VIn ) = pnqn v
p0q0
x 100
v
p0q0 เมอ่ื ใชม้ ลู คำ่ ปีฐำนเป็นตวั ถ่วงนำ้ หนกั
โดยท่ี v = pnqn เมอ่ื ใชม้ ลู คำ่ ปีทส่ี นใจเป็นตวั ถ่วงนำ้ หนกั
paqa เมอ่ื ใชม้ ูลค่ำปีใดๆ ก็ไดเ้ป็นตัั วถ่วงนำ้นหกั
ตัวอย่ำงที่ 6.5 จากตารางขา้ งลา่ ง แสดงขอ้ มลู การขายยาปอ้ งกนั และรกั ษาโรคของปี 2549 และปี 2551
จงทาการคานวณหาดชั นีมลู ค่าเฉล่ียสมั พทั ธถ์ ่วงนา้ หนกั เม่ือกาหนดใหม้ ลู ค่าของปีฐานคือปี 2549 เป็นตวั
ถ่วงนา้ หนกั
ยา ราคา (บาท) ปี 2549 ปรมิ าณ (เม็ด)
ปี 2549 ปี 2551 ปี 2551
เพนนิซลิ นิ 5 9 25,000 29,500
สเตรปโตมยั ซนิ 10 12 18,000 24,000
แอลคาลอยด์ 8 13 13,400 17,000
วธิ ีทำ
1) เน่ืองจากกาหนดใหม้ ลู ค่าปีฐานคือปี 2549 เป็นตวั ถว่ งนา้ หนกั
ดงั นนั้ v = v0 = p0q0 = p q2549 2549
2) คานวณดชั นมี ลู ค่าเฉล่ียสมั พทั ธถ์ ่วงนา้ หนกั ไดด้ งั นี้
จาก pnqn v
p0q0
VIn = x 100
v
สถติ ิในชวี ติ ประจำวนั เลขดชั นี 14
p q2551 2551 x p q2549 2549
p q2549 2549
VI2551 = x 100
3) คานวณค่าต่างๆ ดงั นี้
p q2549 2549
ยา p q2551 2551 p q2549 2549 p q2551 2551 x p q2549 2549
p q2549 2549
เพนนิซิลิน 265,500 125,000 265,500
สเตรปโตมยั ซนิ 288,000 180,000 125,000 x 125,000 = 265,500
แอลคาลอยด์ 221,000 107,200
774,500 412,200 288,000 x 180,000 = 288,000
รวม 180,000
221,000
107,200 x 107, 200 = 221,000
774,500
4) ดงั นนั้ VI2551 = p q2551 2551 x p q2549 2549 774,500
p q2549 2549 412,200
x 100 = x 100 = 187.89
p q2549 2549
5) แสดงว่า มลู ค่าการขายยาในปี 2551 เพิม่ ขึน้ จากปี 2549 เท่ากบั 87.89%
6.6 ดชั นีรำคำผ้บู ริโภค (Consumer price index: CPI)
ดชั นรี าคาผบู้ รโิ ภค ( Consumer Price Index : CPI) หรือดชั นีคา่ ครองชพี (cost of living)
คอื ดชั นที ่ีใชว้ ดั การเพิ่มขึน้ ของราคาสินคา้ และบริการท่มี ีการซอื้ ขายกนั โดยครวั เรอื นใน
ระบบเศรษฐกจิ หนว่ ยงานของรฐั บาล คอื สานกั ดชั นีเศรษฐกจิ การคา้ กรมการคา้ ภายใน
เป็นผจู้ ดั ทาดชั นี
ดชั นรี าคาเป็นเคร่ืองมือท่ใี ชว้ ดั การเปลยี่ นแปลงของราคาของสินคา้ และบรกิ ารท่ีผบู้ รโิ ภค
สว่ นใหญ่(ครอบครวั ประเภทท่มี รี ายไดเ้ ป็นค่าจา้ งหรือเงนิ เดอื นเช่น พนกั งาน ขา้ ราชการ)ซือ้
ใชก้ นั เป็นประจาเม่ือเทียบกบั ราคาในชว่ งฐาน
ดชั นีราคาผบู้ ริโภค หรือดัชนีราคาค่าครองชีพ เป็นเคร่ืองมือสาคัญท่ีใชว้ ดั การเปลี่ยนแปลง
ของราคาสินคา้ และบรกิ ารท่ีผบู้ ริโภคส่วนใหญ่ซือ้ ไปใชป้ ระจาในปรมิ าณและคณุ ภาพคงท่ีซ่ึง
กาหนดไวใ้ นปีฐาน
ผบู้ รโิ ภคจะหมายถึงครอบครวั ท่มี ีรายไดห้ รือเงินเดือนประจา เชน่ พนกั งาน ขา้ ราชการ ….
กลมุ่ สินคา้ และบรกิ ารท่ใี ชใ้ นการคานวณดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค เป็นสนิ คา้ และบรกิ ารท่มี กี ารซือ้
ขายกันอย่ทู ่วั ไปในตลาด แบ่งเป็นตะกรา้ สินคา้ มีการสารวจจากกล่มุ ครวั เรือนท่ีอย่ใู นเขต
เทศบาลเมืองของกรุงเทพฯ และปรมิ ณฑล โดยมีการเปรียบเทียบราคาสินคา้ ในปีใดปีหนึ่ง
กบั ปีฐาน
สินคา้ และบรกิ ารท่ใี ชค้ านวณดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคแบ่งเป็น 7 หมวดหมู่ ดงั นี้
สถติ ใิ นชวี ติ ประจำวัน เลขดัชนี 15
1) หมวดอาหารและเครื่องดม่ื ไดแ้ ก่ ขา้ ว แปง้ ผลติ ภณั ฑจ์ ากแปง้ เนือ้ สตั ว์ เป็ด ไก่
และสตั วน์ า้ ผกั ผลไม้ ไข่ นม ผลิตภณั ฑจ์ ากนม อาหารท่ซี ือ้ จากตลาด และ
เครอื่ งด่มื ไมม่ แี อลกอฮอล์ เป็นตน้
2) หมวดเคหะสถาน เชน่ คา่ ท่ีพกั อาศยั ค่าเชา่ บา้ น ค่าสิ่งปลกู สรา้ ง ค่าเคร่ืองใช้
ภายในบา้ น ไฟฟ้า ประปา เชอื้ เพลงิ ผา้ ท่ใี ชใ้ นบา้ น สิ่งท่ีใชท้ าความสะอาดใน
บา้ น เป็นตน้
3) หมวดเครอ่ื งน่งุ หม่ เช่น เสือ้ ผา้ ชายและเด็กชาย เสือ้ ผา้ หญิงและเดก็ หญิง บรกิ าร
ตดั เย็บ
4) หมวดการตรวจรกั ษาและบริการสว่ นบคุ คล เชน่ ค่าตรวจรกั ษา คา่ ยา คา่ บรกิ าร
สว่ นบคุ คล
5) หมวดพาหนะ การขนสง่ และการสอ่ื สาร
6) หมวดการบนั เทิง การอา่ นและการศกึ ษา
7) หมวดยาสบู เคร่อื งดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์
สินคา้ และบรกิ ารทงั้ 7 หมวดหมู่ เป็นสินคา้ และบรกิ ารท่ีครอบครวั ส่วนใหญ่ของประเทศซือ้
ใชเ้ ป็นประจา ซ่งึ กองดชั นเี ศรษฐกิจการคา้ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้
มีหน้าท่ีเก็บรวบรวมข้อมูลราคาสินค้าและบริการต่างๆ เพ่ือใชใ้ นการคานวณดัชนีราคา
ผบู้ ริโภคและเผยแพรก่ ารเปลี่ยนแปลงของราคาสนิ คา้ และบรกิ ารเหลา่ นี้ ซ่งึ จะใชเ้ ป็นตวั ชวี้ ดั
การเปลย่ี นแปลงในสภาวะเศรษฐกจิ ท่วั ไป
ดัชนีราคาผูบ้ ริโภคจะเป็นตัวชีใ้ หเ้ ห็นอานาจซือ้ ของผูบ้ รโิ ภคว่าเพ่ิมขึน้ หรือลดลงมากนอ้ ย
เพียงใด จึงเป็นเครื่องมือสาคัญใหผ้ ูป้ ระกอบการหรือรฐั บาลใชเ้ ป็นแนวทางในการปรบั
เงนิ เดือน คา่ จา้ ง คา่ แรงขนั้ ต่า ค่าเชา่ หรอื เงินช่วยเหลอื ทางสงั คมอ่นื ๆ
นอกจากนั้นดัชนีราคาผู้บริโภคยังใชใ้ นการคานวณอานาจซือ้ ของเงิน การกาหนดตัวถ่วง
นา้ หนกั จาเป็นตอ้ งทราบปริมาณสินคา้ ท่ีซือ้ มาบริโภคในปีฐาน ซ่ึงปริมาณสินคา้ ท่ีบรโิ ภค
เป็นประจาจะกาหนดจากครวั เรือนท่ีเป็นตวั แทนของผบู้ รโิ ภคท่วั ไปในเขตตา่ งๆ ทงั้ เขตเทศบาล
เมอื งในจงั หวดั ต่างๆ 4 ภาคของประเทศไทย ในเขตกรุงเทพฯ และเขตปรมิ ณฑล
การกาหนดรายการสินคา้ จะไดจ้ ากการคดั เลือกรายการสินคา้ และบรกิ ารจาก 7 หมวดหมู่
ส่วนการเก็บรวบรวมราคาเพ่ือการคานวณจะเก็บทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค โดยจะเก็บ
ราคาขายปลีกจากตลาดในกรุงเทพฯ จากตลาดในเขตปริมณฑล และจากตลาดในส่วน
ภมู ภิ าคทงั้ 4 ภาค
สถติ ใิ นชวี ติ ประจำวัน เลขดชั นี 16
ประโยชนข์ องดัชนีรำคำผู้บรโิ ภค(Consumer price index: CPI)
ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) จะใชว้ ัดภาวะค่าครองชีพหรือวัดการเปล่ียนแปลงค่าครองชีพ
รวมทงั้ วดั สภาพของเงิน เช่นวัดอตั ราเงินเฟ้อ(Inflation) ว่าจะมีมากนอ้ ยเพียงใด หรือจะ
เกิดขนึ้ หรือไม่ซ่งึ อตั ราเงนิ เฟ้อคืออตั ราการเพ่มิ ของราคาสินคา้
เชน่ หากดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคในปี 2538 มคี ่าเท่ากบั 154 (เม่ือปีฐานคอื ปี 2529) แสดงว่าใน
ระยะ 9 ปี คือตั้งแต่ปี 2529 ถึง 2538 อัตราเงินเฟ้อคือรอ้ ยละ 54 หรืออัตราเงินเฟ้อโดย
เฉล่ียประมาณรอ้ ยละ 6 ต่อปี เป็นตน้
ใชว้ ิเคราะหถ์ ึงสภาพเศรษฐกิจดว้ ยว่า ดีขึน้ หรือ เลวลง อย่างไร โดยพิจารณาจากดัชนี
ราคาผบู้ รโิ ภค
นอกจากนนั้ ยงั ใชว้ ดั อานาจซอื้ ของเงนิ หรือมลู คา่ ท่แี ทจ้ รงิ ของเงนิ
ซ่งึ อานาจซือ้ ของเงินจะเป็นตวั ท่ีบอกใหท้ ราบว่า เงิน 1 หน่วยนนั้ ในความเป็นจริงมีมลู ค่า
เท่าใดเม่ือเทียบกบั สภาพเศรษฐกจิ ในขณะนนั้ หรือใชว้ ดั รายไดท้ ่ีแทจ้ รงิ โดยมีสตู รสาคญั ท่ี
เกี่ยวกบั การนาดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคไปใชป้ ระโยชนด์ งั นี้
อานาจซอื้ ของเงิน = 1 100
ดชั นีราคาผบู้ ริโภค
หรอื อานาจซือ้ ของเงิน = 1 100
CPI
รายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ = รำยไดท้ เ่ี ป็ นตัวเงนิ ปัจจบุ ัน 100
ดัชนีรำคำผู้บรโิ ภค
นอกจากนีย้ ังใชด้ ัชนีราคาผูบ้ ริโภคเป็นตัวปรบั มูลค่า (Statistical deflation) เพราะมลู ค่าคือ
ผลคณู ของราคาและปรมิ าณ
ดังนัน้ มูลค่าอาจเปลี่ยนไปเน่ืองจากระดับราคาเพียงอย่างเดียวหรือเน่ืองจากปริมาณเพียง
อย่างเดียวกไ็ ด้ จึงสามารถปรบั ปรุงมลู คา่ ตามระดบั ราคาท่ีตอ้ งการได้ ดงั นี้
มลู คา่ ในระดบั ราคาท่ตี อ้ งการ = มลู ค่าตามราคาในปัจจบุ นั 100
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค
สถติ ิในชวี ติ ประจำวนั เลขดชั นี 17
ตัวอย่ำงท่ี 6.6 ถา้ ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคและรายไดต้ ่อเดือนของนายตะวนั ปี 2548 - 2552 เป็นดงั ในตารางนี้
ปี 2548 2549 2550 2551 2552
รายได้ 10,200 10,700 11,600 12,800 13,700
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค
(CPI) 100 105 110.2 114.8 120.5
ก) จงคานวณอานาจซอื้ ของปีตา่ งๆ เม่อื กาหนดใหป้ ี 2548 เป็นปีฐาน
ข) จงหารายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ ของนายตะวนั ปีตา่ งๆ เม่อื กาหนดใหป้ ี 2548 เป็นปีฐาน
ค) นายตะวนั ควรมรี ายไดเ้ ดือนละเท่าใดในปี 2552 จงึ จะทาใหเ้ ขามีอานาจซอื้ ของเงินเท่ากบั ปี 2548
ง) ถ้านายตะวนั ซือ้ บา้ นในปี 2548 ราคา 900,000 บาทและในปี 2552 เขาตอ้ งการขายบา้ น เขาควรขาย
บา้ นราคาเท่าใด จึงจะทาใหบ้ า้ นมีมลู คา่ เท่าเดมิ
วิธที ำ
ก) จงคานวณอานาจซือ้ ของปีต่างๆ เม่อื กาหนดใหป้ ี 2548 เป็นปีฐาน
จากสตู ร อานาจซือ้ ของเงนิ = 1 100
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค
= 1 100
CPI
คานวณอานาจซือ้ ของเงนิ ปีต่างๆ ไดด้ งั นี้
ปี ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค(CPI) อานาจซือ้ ของเงนิ
(ปี 2548 เป็นปีฐาน)
2548 100 1 x 100 = 1
100
2549 105 1 x 100 = 0.95
105
2550 110.2 1 x 100 = 0.91
110.2
2551 114.8 1 x 100 = 0.87
114.8
2552 120.5 1 x 100 = 0.83
120.5
จากอานาจซอื้ ของเงนิ ท่ีคานวณไดอ้ ธิบายไดว้ ่า
ปี 2548 อานาจซอื้ เทา่ กบั 1 หมายความวา่ เงนิ 1 บาทมอี านาจซอื้ เท่ากบั เงนิ 1 บาท
ส่วนปี 2549 อานาจซือ้ เท่ากับ 0.95 หมายความว่าเงิน 1 บาทมีอานาจซือ้ เท่ากับเงิน 0.95 บาท
เม่อื เทียบกบั ปี 2548 เป็นตน้
ส่วนปี 2550 อานาจซือ้ เท่ากับ 0.91 หมายความว่าเงิน 1 บาทมีอานาจซือ้ เท่ากบั เงิน 0.91 บาท
เม่อื เทยี บกบั ปี 2548 เป็นตน้
สถติ ิในชวี ติ ประจำวนั เลขดัชนี 18
ส่วนปี 2551 อานาจซือ้ เท่ากับ 0.87 หมายความว่าเงิน 1 บาทมีอานาจซือ้ เท่ากบั เงิน 0.87 บาท
เม่อื เทียบกบั ปี 2548 เป็นตน้
ข) จงหารายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ ของนายตะวนั ปีตา่ งๆ เม่อื กาหนดใหป้ ี 2548 เป็นปีฐาน
จากสตู ร รายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ = รายไดท้ ่เี ป็นตวั เงินปัจจบุ นั 100
ดชั นีราคาผบู้ ริโภค
คานวณรายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ ไดด้ งั นี้
ปี ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค รายไดท้ ่เี ป็นตวั เงิน รายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ
(ปี 2548 เป็นปีฐาน)
2548 100 10,200 +500 10,200 x 100 = 10,200 -9.52
2549 105 10,700 100
2550 110.2 11,600
2551 114.8 12,800 10,700 x 100 = 10,190.48
2552 120.5 13,700 105
11,600 x 100 = 10,526.32
110.2
12,800 x 100 = 11,149.83
114.8
13,700 x 100 = 11,369.29
120.5
จากรายไดท้ ่ีแทจ้ ริงท่ีคานวณได้ อธิบายไดว้ ่า
ปี 2548 รายไดท้ ่ีแทจ้ ริงเท่ากับ 10,200 บาท ซ่ึงเท่ากบั รายไดท้ ่เี ป็นตวั เงนิ เน่ืองจากใชป้ ี
2548 เป็นปีฐาน
ส่วนปี 2549 รายไดท้ ่ีแทจ้ ริงเท่ากับ 10,190.48 บาท ซ่ึงจะเห็นว่า ถึงแมร้ ายไดท้ ่ีเป็นตัว
เงินในปี 2549 จะเพิ่มขึน้ จากปี 2548 เท่ากบั 10,700 - 10,200 = 500 บาท
☺ แต่อตั ราการเพ่ิมของรายไดน้ อ้ ยกว่าอตั ราการเพิ่มของราคาสนิ คา้ บรโิ ภค จงึ ทาให้
รายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ กลบั ลดลงเท่ากบั 10,200 – 10,190.48 = 9.52 บาท
สาหรบั รายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ ของปีอ่นื ๆ สามารถอธิบายไดใ้ นทานองเดียวกนั
ค) นายตะวนั ควรมีรายไดเ้ ดือนละเทา่ ใดในปี 2552 จงึ จะทาใหเ้ ขามีอานาจซอื้ ของเงนิ เทา่ กบั ปี 2548
จากดชั นรี าคาผบู้ รโิ ภคปี 2548 เท่ากบั 100 และปี 2548 มรี ายได้ 10,200 บาท
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคปี 2552 เทยี บกบั ปี 2548 เทา่ กบั 120.5 น่นั คอื
ในปี 2548 มีรายได้ 100 บาท ถา้ ตอ้ งการใหม้ อี านาจซือ้ เท่าเดิม ปี 2552 ควรมีรายได้ = 120.5 บาท
120.5
ในปี 2548 มรี ายได้ 10,200 บาทถา้ ตอ้ งการใหม้ อี านาจซือ้ เท่าเดิม ปี2552 ควรมีรายได้ = 100 x 10, 200
= 12,291 บาท
ดังนัน้ นายตะวันควรมีรายได้ในปี 2552 เดือนละ 12,291 บาท จึงจะทาใหเ้ ขามีอานาจซือ้ ของเงินในปี
2552 เทา่ กบั ปี 2548
สถติ ิในชวี ิตประจำวัน เลขดัชนี 19
ง) ถา้ นายตะวนั ซือ้ บา้ นในปี 2548 ราคา 900,000 บาทและในปี 2552 เขาตอ้ งการขายบา้ น เขาควรขาย
บา้ นราคาเท่าใด จึงจะทาใหบ้ า้ นมีมลู ค่าเทา่ เดมิ
ดชั นรี าคาผบู้ รโิ ภคปี 2552 เทยี บกบั ปี 2548 เทา่ กบั 120.5
จาก มลู คา่ ในระดบั ราคาท่ตี อ้ งการ = มลู ค่าตามราคาในปัจจบุ นั 100
ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค
900,000 = มลู คำ่ ตำมรำคำในปจั จุบนั x 100
ดงั นนั้ นายตะวนั ควรขายบา้ นราคา 120.5
900,000 x 120.5
= 100 = 1,084,500 บาท
*********************************
1.ทา แบบฝึกทกั ษะ บทท่ี 6 และ In Class
2.ทาแบบฝึกหดั ทา้ ยบท ขอ้ 1, 2, 4, 5, 7 สง่ ตามกาหนด
สรุปประโยชนข์ องดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค มีดงั นี้ คือ เพิม่ เติม
1ใชว้ ดั อตั ราเงินเฟ้อของประเทศ
2.ใชเ้ ป็นแนวทางในการพจิ ารณาในการวางนโยบาย แผน และประเมนิ ผลกระทบของนโยบาย และแผน
ตา่ ง ๆ ทางเศรษฐกจิ
3ใชเ้ ป็นแนวทางในการพิจารณาประกอบการปรบั ค่าจา้ ง เงินเดือนของราชการและเอกชน
4ชเ้ ป็นแนวทางในการพิจารณาในการกาหนดเงินบานาญ และเงนิ ช่วยเหลอื หรอื สวสั ดิการในรูปต่าง ๆ
5.ใชใ้ นการประเมนิ รายรบั ท่ีควรจะเป็นในการทาสญั ญาระยะยาว เชน่ สญั ญาซือ้ ขายในระยะยาว
6ใชเ้ ป็นแนวทางในการวจิ ยั พยากรณก์ ารตลาด และราคาสนิ คา้ ต่าง ๆ
7.ใชใ้ นการหาค่าของเงินหรอื มลู ค่าท่แี ทจ้ รงิ
8. ดชั นีผบู้ รโิ ภคเป็นดชั นที ่ชี ีใ้ หเ้ หน็ ถึงอตั ราเงนิ เฟอ้ นักลงทนุ จะตอ้ งเขา้ ใจสภาวะของอตั ราเงินเฟอ้ ดว้ ย ถา้
อตั ราเงินเฟอ้ สงู มาก อตั ราดอกเบีย้ ก็มกั จะสงู ขึน้ ตามเพ่อื ลดการขยายตวั ของเศรษฐกิจ อนั จะทาใหอ้ ตั รา
เงนิ เฟ้อมีคา่ เพิ่มขนึ้
* ดชั นผี บู้ รโิ ภคท่ีผกู้ าหนดนโยบายทางดา้ นการเงนิ ของแตล่ ะประเทศมกั จะใหค้ วามสนใจเป็นพเิ ศษกค็ ือ
ดชั นรี าคาผบู้ รโิ ภคพืน้ ฐาน
ดชั นีผบู้ รโิ ภคเป็นการวดั การเปล่ยี นแปลงของราคาสนิ คา้ ทงั้ หมดท่อี ย่ใู นรายการเหลา่ นี้ สมมตุ ิวา่ ถา้ มลู คา่
แรกเร่มิ ของสินคา้ เหลา่ นมี้ ีค่าเท่ากบั 100 และในเดอื นนรี้ าคาสนิ คา้ เหลา่ นมี้ คี ่าเท่ากบั 101 เราจะเห็นคา่
สถติ ิในชวี ิตประจำวัน เลขดชั นี 20
ของ ดชั นผี บู้ รโิ ภค มีค่าเพิ่มขึน้ 1 % คา่ ของดชั นผี บู้ รโิ ภค ท่เี พ่ิมขึน้ มานนั้ ถกู เรียกว่า อตั ราเงินเฟ้อ
อตั ราเงินเฟ้อ = (CPI ปีปัจจบุ นั - CPI ปีท่ผี า่ นมา) x 100
CPI ปีท่ผี า่ นมา
ภาวะเงนิ เฟอ้ เป็นภาวะทางเศรษฐกิจท่ีค่าของเงนิ ลดลงเน่อื งจากราคาสนิ คา้ โดยท่ัวไปสงู ขึน้ อย่างต่อเน่ือง
จงึ ไดใ้ ชก้ ารเปลยี่ นแปลงราคาเฉลีย่ เป็นเครอ่ื งชีค้ วามรุนแรงดชั นีราคาผบู้ ริโภค
อตั ราเงนิ เฟ้อคือ ภาวะท่รี ะดบั ราคาสนิ คา้ เพม่ิ สงู ขึน้ อย่างต่อเน่ือง หรือภาวะท่ีค่าเงินท่ีแทจ้ รงิ ลดลงอย่าง
ต่อเน่ือง
แบบฝึ กหัดทำ้ ยบทที่ 6
1. ขอ้ มลู ตอ่ ไปนี้ เป็นราคาและปรมิ าณของนา้ มนั 4 ชนดิ สาหรบั ปี 2550 และปี 2551
ประเภทนา้ มนั ราคา (บาท/ลิตร) ปรมิ าณ (ลา้ นลติ ร)
เบนซิน ปี 2550 ปี 2551 ปี 2550 ปี 2551
ดีเซล 9.50 10.00 1,451 1,540
8.30 8.60 2,734 3,015
นา้ มนั เคร่อื ง 20.75 22.50 777 890
นา้ มนั เตา 4.00 4.50 2,560 2,670
ถา้ กาหนดใหป้ ี 2550 เป็นปีฐาน จงหา
ก) ดชั นีราคารวมอยา่ งงา่ ย สาหรบั ปี 2551 พรอ้ มทงั้ อธิบายผล
ข) ดชั นรี าคาเฉล่ยี สมั พทั ธอ์ ย่างงา่ ย สาหรบั ปี 2551 พรอ้ มทงั้ อธิบายผล
2. ขอ้ มูลในตารางขา้ งล่าง แสดงจานวนและราคารถยนตย์ ่ีหอ้ หนึ่ง 4 ประเภทท่ีขายไดข้ องบริษัทรถแห่ง
หน่งึ ในปี 2551 และปี 2552
ประเภทรถยนต์ ราคา (1,000 บาท/คนั ) ปรมิ าณ (คนั )
1,500 ซีซี ปี 2551 ปี 2552 ปี 2551 ปี 2552
1,600 ซซี ี 530 560 250 230
2,000 ซีซี 620 670 290 305
955 1,200 158 150
สงู กวา่ 2,000 ซซี ี 999 1,450
90 80
ถา้ กาหนดใหป้ ี 2551 เป็นปีฐาน จงหา
ก) ดชั นีปรมิ าณรวมอยา่ งงา่ ย สาหรบั ปี 2552 พรอ้ มทงั้ อธิบายผล
ข) ดชั นีปรมิ าณเฉลย่ี สมั พทั ธอ์ ย่างง่าย สาหรบั ปี 2552 พรอ้ มทงั้ อธิบายผล
3. ถา้ รายไดต้ ่อเดือนของคนงานในโรงงานอตุ สาหกรรมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และดัชนีราคาผูบ้ ริโภคของปี
2546 ถึงปี 2551 เป็นดงั ตารางขา้ งลา่ ง
สถติ ิในชวี ติ ประจำวัน รายไดต้ ่อเดือน เลขดัชนี 21
2,500
ปี 2,650 ดชั นรี าคาผบู้ รโิ ภค
2546 2,800 100
2547 3,000 106
2548 3,400 110
2549 4,200 112
2550 115
2551 120
จงหารายไดท้ ่แี ทจ้ รงิ ของคนงานโรงงานอตุ สาหกรรมแหง่ นีต้ งั้ แตป่ ี 2546 ถึงปี 2551
4. ถา้ ในปี 2552 คอมพิวเตอรร์ าคาเคร่ืองละ 32,000 บาท ในปี 2549 คอมพิวเตอรค์ วรมีราคาเครื่องละ
เทา่ ใด ถา้ ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคปี 2552 เทยี บกบั ปี 2549 เทา่ กบั 125
5. ถา้ ในปี 2548 นาย ก มีรายไดเ้ ดือนละ 15,000 บาท ในปี 2551 นาย ก ควรมีรายไดเ้ ดือนละเท่าใด จงึ จะ
ทาใหน้ าย ก มีอานาจซือ้ เท่ากบั ปี 2548 ถา้ ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคปี 2551 เทยี บกบั ปี 2548 เทา่ กบั 120
6. บริษัทแห่งหนึ่งตงั้ เป้าการขายไวว้ ่าในปี 2553 ตอ้ งมีปริมาณการขายเพิ่มขึน้ จากปี 2552 เท่ากบั 20%
ถา้ บรษิ ัทตอ้ งการใหม้ ีรายไดเ้ พ่ิมขึน้ จากปี 2552 ถึง 2553 เท่ากบั 30% บริษัทจะตอ้ งตงั้ ราคาขายสินคา้
เพม่ิ ขึน้ กี่เปอรเ์ ซน็ ต์
7. จากขอ้ มลู ท่กี าหนดใหใ้ นตารางขา้ งล่าง จงคานวณหาราคาเคร่ืองซกั ผา้ และตเู้ ย็นท่ีเปล่ยี นแปลงไปจรงิ ๆ
ท่มี ิใชเ่ กิดจากเงินเฟ้อ
ปี เครือ่ งซกั ผา้ (บาท/เครอ่ื ง) ตเู้ ยน็ (บาท/เคร่ือง) ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภค
2549 16,000 10,100 100
2550 17,000 10,800 125
2551 19,000 11,000 130
2552 21,000 12,000 160