ภมู ศิ าสตร์ประเทศไทย
สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
จัดทาโดย
นางสาววภิ าดา กุสมุ าลย์
นักศกึ ษาชน้ั ปีที่ 5 สาขาวชิ าสงั คมศกึ ษา
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธานี
ลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย รูปรา่ งและขนาด
ท่ตี ั้ง ประเทศไทยมรี ปู รา่ งคลา้ ยขวานโบราณ ความยาวจากเหนือสดุ ถึงใต้สดุ มี
ประเทศไทยตง้ั อยูท่ ี่ละติจดู 5 องศา 36 ลปิ ดาเหนือ กับ 20 ระยะทาง 1,640 กิโลเมตร วดั จากอาํ เภอแมส่ าย จงั หวัดเชียงราย ถงึ อําเภอ
องศา 27 ลิปดาเหนอื และระหวา่ งลองจจิ ูด 97 องศา 21 ลปิ ดา
ตะวนั ออก กับ 105 องศา 38 ลิปดาตะวนั ออก เบตง จงั หวดั ยะลา
จุดเหนือสุด อย่ทู อี่ าํ เภอแม่สาย จังหวัดเชยี งราย ความกวา้ งจากตะวันตกสุดไปตะวันออกสดุ มรี ะยะทาง 780 กโิ ลเมตร
จุดใตส้ ุด อยูท่ อี่ าํ เภอเบตง จังหวัดยะลา
จุดตะวนั ออกสดุ อยู่ทอี่ ําเภอโขงเจียม จงั หวัดอุบลราชธานี วัดจากอําเภอสงั ขละบุรี จงั หวดั กาญจนบรุ ี ถึงอาํ เภอโขงเจยี ม จังหวดั
จุดตะวนั ตกสดุ อยูท่ อ่ี ําเภอแมส่ ะเรยี ง จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน อบุ ลราชธานี
ประเทศไทยตั้งอย่ใู นทวปี เอเชีย ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ แนวพรมแดนและอาณาเขต
บริเวณคาบสมุทรอินโดจีนและคาบสมทุ รมลายู ประเทศไทยมเี นอ้ื
ที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร ประเทศไทยมอี าณาเขตติดตอ่ กบั 4 ประเทศ ดงั นี้
ทศิ เหนือ ตดิ ตอ่ กับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและสาธารณรัฐ
ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว
ทิศตะวนั ออก ตดิ ต่อกับสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาวและ
ราชอาณาจักรกมั พูชา
ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กบั สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
ทิศใต้ ตดิ ต่อกับประเทศมาเลเซยี
ลักษณะทางกายภาพ เปน็ ที่ราบแอ่งกระทะ
ของประเทศไทย เปน็ ทรี่ าบลมุ่ แมน่ า้ ขนาดใหญ่
เป็นภูเขาสูงสลับกับหุบเขา เป็นทีร่ าบล่มุ แม่น้าและทร่ี าบ
และทีร่ าบลุ่มแมน่ า้ ขนาดเลก็ ชายฝัง่ ทะเล
เปน็ ภูเขาสูงสลบั กบั ทีร่ าบล่มุ แมน่ า้
ขนาดเลก็ และมที รี่ าบชายฝ่ังทะเล
เป็นคาบสมทุ ร มีชายฝ่งั ทะเล
ขนาบอยทู่ งั 2 ด้าน
ภาคเหนอื เปน็ ภูเขาสงู สลบั กับหุบเขา และท่ีราบลุม่ แม่น้าขนาดเลก็ เป็นตน้ กา้ เนิดของแม่นา้ หลายสาย
ดอยอนิ ทนนท์ ภชู ีฟา้
เป็นยอดเขาที่สงู ทสี่ ดุ ของ มลี กั ษณะเป็นหนา้ ผา
ประเทศไทย สูง 2,565 เมตร ปลายแหลมชีขนึ ฟา้
กว๊านพะเยา
สภาพอากาศหนาวเยน็ จงึ ปลกู พชื ทะเลสาบนา้ จดื
เมืองหนาว เช่น กะหลา้่ ปลี สตรอเบอร์รี ท่ใี หญท่ ีส่ ุดในภาคเหนอื
ภาคเหนือ
ประกอบดว้ ย 9 จังหวดั ได้แก่ จังหวดั แม่ฮอ่ งสอน เชยี งใหม่ ลาํ พนู ลําปาง เชยี งราย
พะเยา น่าน แพร่ และอุตรดติ ถ์
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
ภาคเหนือมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับกับหุบเขาและท่ีราบลุ่มแม่น้ํา
ขนาดเล็กทก่ี ระจายอย่ทู ่วั ทั้งภาค บรเิ วณท่ีเปน็ ภูเขามีพนื้ ท่ีประมาณสามในสข่ี องพน้ื ท่ี
ทวิ เขา ในภาคเหนือประกอบดว้ ยทวิ เขาแดนลาว ทวิ เขาถนนธงชัย ทวิ เขา
ผีปันน้าํ และทวิ เขาหลวงพระบาง
แม่น้ํา ในภาคเหนือแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มที่ไหลลงแม่น้ําเจ้าพระยา
ไดแ้ ก่ แม่น้าํ ปิง แม่น้าํ นา่ น กลุ่มท่ีไหล ลงแม่นํ้าโขง ได้แก่ น้ําแม่กก น้ําแม่องิ กลุ่มท่ีไหล
ลงแม่นํ้าสาละวิน ได้แก่ น้ําแม่ปาย นํ้าแม่ยวม นํ้าแม่เมย แม่น้ําต่าง ๆ เหล่านี้ เม่ือไหล
ผ่านมายังหุบเขาและท่ีราบจะนําตะกอนและธาตุอาหารของพืชมาทับถม จนกลายเป็น
บริเวณท่ีมคี วามอุดมสมบรู ณเ์ หมาะแกก่ ารเพาะปลูกและ ตั้งถิน่ ฐาน
ภาคกลาง เป็นทีร่ าบลุ่มแมน่ ้ากว้างใหญ่ ขอบของภาคเปน็ ทวิ เขาและทส่ี งู ตอ่ เนื่องมาจากภาคเหนือและตะวันออกเฉยี งเหนอื
ลานหนิ ปมุ่
เกิดจากการสกึ กรอ่ นของหิน แมน่ า้ เจา้ พระยา
และอิทธิพลจากลมและฝน
เป็นแมน่ ้าสายหลกั ของภาคกลาง
บงึ บอระเพด็ เกิดจากแมน่ ้าปงิ และแมน่ า้ นา่ น
เปน็ แหลง่ นา้ จดื ขนาดใหญท่ ี่สดุ ไหลมารวมกนั
ของประเทศไทย
ภาคกลาง
ประกอบด้วยกรุงเทพมหานคร และ 21 จังหวัด ได้แก่ จังหวดั สโุ ขทยั พิษณโุ ลก
กําแพงเพชร พจิ ติ ร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สงิ หบ์ รุ ี ลพบรุ ี อ่างทอง
สระบรุ ี สุพรรณบรุ ี พระนครศรีอยุธยา ปทมุ ธานี นนทบรุ ี นครนายก นครปฐม
สมุทรปราการ สมทุ รสาคร และสมุทรสงคราม
ลักษณะภมู ิประเทศ
ภาคกลางมีลักษณะภูมิประเทศเป็นท่ีราบลุ่มแม่นํ้าขนาดใหญ่ท่ีสุดของประเทศภาค
กลางเป็นที่ราบสลับกับภูเขา เช่ือมต่อกับทิวเขาและสันเขาท่ีเป็นแนวแบ่งเขตภาคกลาง
ออกจากภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ บริเวณขอบด้านทิศตะวันออกมีทิว
เขาเพชรบูรณ์ตะวันตก คู่ขนานไปกับทิวเขา เพชรบูรณ์ตะวันออก และมีลุ่มแม่น้ําป่าสัก
คั่นระหว่างกลาง
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื เป็นที่ราบสูง บริเวณตอนกลางเป็นแอ่งกระทะ มีขอบสงู ชันตามแนวทวิ เขา
ภูกระดงึ หนองหาร
เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นทะเลสาบนา้ จดื
จดุ สงู สุดอยบู รเิ วณคอกเมย ทใี่ หญท่ ี่สดุ ในภาค
สูง 1,316 เมตร สามพนั โบก
มอหนิ ขาว แก่งหนิ หินเวา้ แหว่งใตแ้ มน่ า้ โขง
ปรากฏในชว่ งนา้ แล้ง
กล่มุ หนิ ทรายสขี าวตังเรียงกัน
เกดิ จากการแตกหกั กัดเซาะ
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื
ประกอบดว้ ย 20 จงั หวัด ได้แก่ จงั หวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุดรธานี
หนองบวั ลําภู เลย มกุ ดาหาร กาฬสนิ ธ์ุ ขอนแก่น อาํ นาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอด็
มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสมี า บรุ ีรัมย์ สรุ นิ ทร์ ศรสี ะเกษ และ อบุ ลราชธานี
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งท่ีราบขนาดใหญ่ ทางตอนกลาง มี
การยกตัวสูงข้ึนบริเวณขอบทางด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ เป็นทิวเขาเต้ียๆ มีลักษณะเป็นผาชัน
และคอ่ ย ๆ ลาดตาํ่ ลงอีกดา้ นหนึ่ง
แอ่งที่ราบ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบด้วย 2 แอ่งใหญ่ ๆ ได้แก่ แอ่งโคราช อยู่
ทางตอนใต้ของทิวเขาภูพาน เป็นแอ่งที่ราบขนาดใหญ่ มีพื้นท่ีลาดเทไปทางทิศตะวันออก
ครอบคลุมพื้นท่ีประมาณสามในส่ีของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในแอ่งโคราชมีแม่น้ําชีและ
แม่นํ้ามูลไหลผ่าน แอ่งสกลนคร อยู่ทางตอนเหนือของทิวเขาภูพานเป็นแอ่งที่ราบขนาดเล็ก มี
พ้นื ทีล่ าดเทไปทางทศิ ตะวนั ออก พื้นท่ีส่วนใหญ่ของภาคตะวันออกเฉยี งเหนือเป็นดินร่วนปนทราย
น้ําซึมผ่านได้ง่าย ดินจึงไม่สามารถเก็บความช้ืนได้นาน พ้ืนที่จึงมีความแห้งแล้งและมักขาดแคลน
น้าํ ในฤดรู ้อน
ภาคตะวันออก มีทวิ เขาและที่สงู อยู่ทางตอนกลาง มเี นนิ เขา ทีด่ อน บางส่วนเป็นทร่ี าบสลับกับเนนิ เขาคลา้ ยลกู ฟกู
พทั ยา ละลุ
เมืองชายฝงั่ ทะเลอา่ วไทย เกดิ จากฝนกดั เซาะ
การพังทลายของดนิ
ทุ่งโปรงทอง
เกาะช้าง
เป็นแหลง่ ท่องเทีย่ วเชิง ใหญเ่ ปน็ อนั ดบั ท่ี 2 รองจากเกาะ
ระบบนเิ วศน์ของป่าชายเลน ภเู กต็ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วส้าคญั
ภาคตะวันออก
ประกอบด้วย 7 จังหวดั ได้แก่ จังหวดั ฉะเชิงเทรา ปราจีนบรุ ี สระแก้ว ชลบุรี
ระยอง จันทบรุ ี และตราด
ลักษณะภูมิประเทศ
ภาคตะวนั ออกมีลักษณะภมู ปิ ระเทศเปน็ ทร่ี าบลมุ่ แมน่ ้ําและทรี่ าบชายฝ่ังทะเล
ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก มีลักษณะเป็นหาดโคลน และหาดทรายปนโคลน เช่น
หาดบางแสน จังหวัดชลบุรี หาดแม่รําพึง จังหวัดระยอง หาดเจ้าหลาว จังหวัด
จันทบุรี มเี กาะบรเิ วณชายฝงั่ จาํ นวนมาก เช่น เกาะสชี ัง เกาะลา้ น จังหวดั ชลบุรี เกาะ
เสม็ด จงั หวดั ระยอง เกาะชา้ ง จงั หวัดตราด
ภาคตะวนั ตก ทิวเขาตอ่ เนื่องมาจากภาคเหนอื มีท่รี าบล่มุ แม่นา้ และทร่ี าบชายฝั่งทะเล
สะพานขา้ มแม่นา้ แคว นา้ ตกทลี อซู
เป็นสะพานทส่ี รา้ งตงั แต่ เป็นน้าตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ
สมัยสงครามโลกครงั ท่ี 2 300 เมตร ในเขตทวิ เขาถนนธงชยั
เขือ่ นศรนี ครนิ ทร์ อทุ ยานแห่งชาติเขาสามรอ้ ยยอด
สร้างขึนบนแมน่ า้ แควใหญ่ เปน็ ภูเขาหินปนู ริมฝงั่ ทะเล
เป็นเขือ่ นเอนกประสงค์ และมีทีร่ าบนา้ ทว่ มขังตลอดปี
ภาคตะวนั ตก
ประกอบด้วย 5 จังหวัด ไดแ้ ก่ จงั หวดั ตาก กาญจนบรุ ี ราชบุรี เพชรบุรี และ
ประจวบครี ขี นั ธ์
ลักษณะภูมิประเทศ
ภาคตะวันตกมีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาต่อเนื่องมาจากภาคเหนือ ประกอบด้วย
ทิวเขาถนนธงชัยกลางและทิวเขาตะนาวศรี เป็นแนวยาวจากทิศเหนือไปใต้ ลักษณะภูมิ
ประเทศของภาคตะวันตกแบง่ ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้
ทิวเขา เกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก เช่นเดียวกับทิวเขาในภาคเหนือ มีความสูง
ค่อนข้างมาก ประกอบดว้ ยทิวเขาถนนธงชัยกลางและทวิ เขาตะนาวศรี
ท่ีราบลุ่มแม่น้า ประกอบด้วยที่ราบลุ่มแม่นํ้าแควใหญ่และแม่น้ําแควน้อยในจังหวัด
กาญจนบุรี ท่ีราบลุ่มแม่นํ้าแม่กลอง ในจังหวัดราชบุรี ท่ีราบลุ่มแม่น้ําเพชรบุรีในจังหวัด
เพชรบุรี
ท่ีราบชายฝ่ังทะเล อยู่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่เป็นหาด
โคลนและหาดทรายปนโคลน เช่น หาดชะอํา จังหวัดเพชรบุรี หาดหัวหิน หาดอ่าวมะนาว
จังหวัดประจวบครี ขี ันธ์
ภาคใต้ เป็นแบบคาบสมุทร มที ิวเขาสงู อยตู่ รงกลาง และมีทรี่ าบชายฝ่ังทะเลขนาบอยูท่ ัง 2 ดา้ น
เกาะปันหยี เขื่อนรชั ชประภา
มหี มูบ่ า้ นตงั เรียงรายบนทะเล มีภูเขาหินปนู รปู รา่ งแปลกตา
ถูกเรียกว่า กุ้ยหลินเมืองไทย
เกาะปอดะ
ทะเลสาบสงขลา
มีหาดทรายล้อมรอบ 3 ดา้ น
ยกเว้นด้านตะวันตกเป็น เป็นทะเลสาบนา้ จดื ทมี่ ี
หนา้ ผาสงู ชัน ทางออกสทู่ ะเลอา่ วไทย
ภาคใต้
ประกอบด้วย 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชมุ พร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา กระบ่ี
นครศรธี รรมราช พัทลุง ตรัง ภูเกต็ สตลู สงขลา ปตั ตานี ยะลา และนราธิวาส
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ
ภาคใต้มีลักษณะภูมิประเทศเปน็ คาบสมุทร มที ิวเขาเป็นแนวยาวต่อเน่ืองกัน ตงั้ แตเ่ หนือสุด
ของภาคไปจนสุดเขตแดนประเทศไทย ขนาบด้วยที่ราบชายฝ่งั ทะเล ทัง้ 2 ดา้ น คอื ดา้ นทิศ
ตะวันออกเป็นอ่าวไทย และดา้ นทิศตะวนั ตกเปน็ ทะเลอนั ดามัน ลักษณะภมู ปิ ระเทศของภาคใต้
แบง่ ออกได้ ดงั น้ี
ทิวเขา ประกอบด้วยใบขาตะนาวศรี ทิวเขาภูเกต็ ทวิ เขานครศรธี รรมราชและทวิ เขาสันกา
ลาคีรี
ท่ีราบชายฝงั่ ทะเล ทรี่ าบชายฝงั่ อา่ วไทย เปน็ ชายฝั่งแบบยกตัว มีบริเวณนา้ํ ตน้ื กวา้ ง มีทั้ง
หาดทรายและหาดโคลน มกี ารทบั ถมของตะกอนบริเวณ ชายฝั่งเกดิ เป็นสันทรายยนื่ ยาวออกไป
ในทะเล ปลายสนั ทรายมีลักษณะโคง้ งอ เชน่ แหลมตะลมุ พุก จังหวดั นครศรีธรรมราช ที่ราบ
ชายฝั่งทะเลอันดามนั เปน็ ชายฝง่ั แบบยุบตวั มีลกั ษณะเวา้ แหว่งมาก มีอา่ วน้อยใหญ่และเกาะ
ตา่ ง ๆ มากมาย มีทร่ี าบแคบ ๆ ตามแนวชายฝ่ัง ไม่กวา้ งเหมือนดา้ นอา่ วไทย แม่นํา้ ที่ไหลผ่าน
คือ แม่นาํ้ ตรงั และแม่นํ้ากระบรุ ี
ลกั ษณะภมู อิ ากาศของประเทศไทย
ภูมิอากาศ คือ ลักษณะของลมฟ้าอากาศ มีอยู่ กรมอตุ ุนิยมวทิ ยาได้แบง่ ฤดกู าลของประเทศไทยออกเปน็ 2 เขต ดังนี้
ประเทศไทยตอนบน หมายถึง ทุกภาคยกเวน้ ภาคใต้มีฤดูกาล
ประจําในแต่ละท้องถิ่นและเกิดเป็นระยะเวลานาน โดย
พิจารณาจากค่าเฉล่ียของอุณหภูมิ และปริมาณฝนใน 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน เริ่มต้ังแต่กลางเดือน
ช่วงเวลาต่าง ๆ ของปี กุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือน พฤษภาคม ฤดูฝน มีระยะเวลาประมาณ
5-6 เดือน เร่ิมต้ังแต่กลางเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงกลางเดือน
ปัจจัยท่ีทําให้ลักษณะภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่ของ พฤศจิกายน และฤดูหนาว มีระยะเวลาประมาณ 2 เดือน เร่ิมต้ังแต่
ประเทศไทย แตกต่างกัน ได้แก่ ตําแหน่งที่ตั้งของพื้นที่ กลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถงึ กลางเดอื นกุมภาพันธ์
ความสูงของพ้ืนที่ ความใกล้-ไกลจากทะเล ทิศทางของ
ลมประจาํ และกระแสนา้ํ ในมหาสมุทร ประเทศไทยตอนลา่ ง หมายถงึ ภาคใต้ตง้ั แตจ่ ังหวัดเพชรบรุ ีลงไป
มีฤดูกาล 2 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน มีระยะเวลาประมาณ 5 เดือน เริ่มต้ังแต่
กลางเดอื นธันวาคมไปจนถงึ กลางเดือนพฤษภาคม
และฤดูฝน มีระยะเวลาประมาณ 7 เดือน เร่ิมต้ังแต่กลางเดือน
พฤษภาคมไปจนถงึ กลางเดอื นธนั วาคม
ลักษณะภูมอิ ากาศ
ประเทศไทยตังอยใู่ นเขตรอ้ น ใกล้เส้นศูนย์สูตร อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 27 องศาเซลเซยี ส
มี 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว
ฤดหู นาว ฤดูร้อน
เริ่มกลางเดือนพฤษภาคม เรม่ิ กลางเดือนกมุ ภาพนั ธ์
ถึงกลางเดือนกุมภาพนั ธ์ ถงึ กลางเดือนพฤษภาคม
ฤดฝู น
เรมิ่ กลางเดือนพฤษภาคม
ถงึ กลางเดอื นพฤศจิกายน
ทรพั ยากร : นา้ 1
การใชน้ า้ ในประเทศไทยส่วนใหญใ่ ช้เพ่ือการเกษตร อุปโภคบรโิ ภค 2 3
และใช้นา้ มากขึนทุกปี จงึ ตอ้ งมกี ารบรหิ ารจัดการนา้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4
7 5 11
6 8
9 12
ทีต่ งั เขอื่ นสา้ คญั 10
1 เขื่อนแมง่ ัดสมบูรณช์ ล 13 เขอื่ นทบั เสลา 25 เขอ่ื นแกง่ กระจาน 13 17 19 20 21 24
14 16 18 22 23
2 เข่อื นแมก่ วงอดุ มธารา 14 เขื่อนวชิราลงกรณ 26 เข่ือนปราณบรุ ี
15
3 เขื่อนกวิ่ คอหมา 15 เขือ่ นศรนี ครนิ ทร์ 27 เขื่อนรชั ชประภา 25
26
4 เขื่อนกวิ่ ลม 16 เขื่อนกระเสยี ว 28 เข่อื นบางลาง
5 เขื่อนสิรกิ ิติ์ 17 เข่ือนปา่ สกั ชลสิทธิ์
6 เขอ่ื นภูมิพล 18 เขื่อนขนุ ด่านปราการชล
7 เขอ่ื นแควนอ้ ยบา้ รุงแดน 19 เขือ่ นลา้ ตะคอง
8 เขื่อนจุฬาภรณ์ 20 เขอ่ื นล้าพระเพลิง
9 เขื่อนอุบลรัตน์ 21 เขอ่ื นมูลบน 27
28
10 เขือ่ นลา้ ปาว 22 เขอ่ื นลา้ แซะ
11 เขื่อนน้าอนู 23 เขื่อนลา้ นางรอง
12 เขื่อนน้าพุง 24 เขือ่ นสริ นิ ธร
พนื ท่ีลุม่ น้า
หนว่ ยของพืนที่ซ่งึ ล้อมรอบดว้ ยสันปันนา้ เป็นพืนท่ีรับนา้ ฝนของแมน่ า้ สายหลักในลมุ่ นา้ นนั ๆ เม่ือฝนตกลงมาในพืนทล่ี มุ่ นา้ จะไหล
ออกสู่ล้าธารสายยอ่ ย ๆ แล้วรวมกนั ออกสลู่ า้ ธารสายใหญแ่ ละรวมกันออกสแู่ มน่ า้ สายหลัก จนไหลออกปากน้าในทส่ี ุด
สันปันนา้ ล้าธารสายยอ่ ย ๆ
(boundary) (sub-order)
ลา้ ธารสายหลกั
(order)
แม่นา้ สายหลัก
(mainstream)
ปากนา้
(outlet)
การแบ่งพืนทีล่ ุ่มน้าจะท้าใหส้ ามารถจัดการพืนทลี่ มุ่ น้าไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ท้าใหม้ ีปริมาณน้าใชเ้ พียงพอ มีคณุ ภาพท่ดี แี ละมี
การไหลอยา่ งสม่้าเสมอ รวมถงึ ควบคุมเสถียรภาพของดินและการใช้ทรพั ยากรอ่ืนๆ
พนื ท่ลี ุ่มนา้ ในประเทศไทย 2
32
1 ลมุ่ นา้ สาละวิน 14 ลุ่มน้าแม่กลอง 167 2
2 ลุ่มน้าโขง 15 ลุ่มนา้ ปราจีนบรุ ี 89
3 ลุ่มน้ากก 16 ลุ่มน้าบางปะกง
4 ลุ่มน้าชี 17 ลมุ่ นา้ โตนเลสาบ 11 10 12 4 5
5 ลมุ่ นา้ มูล 18 ลุ่มน้าชายฝ่งั ทะเลตะวนั ออก 14 17
6 ลมุ่ น้าปงิ 19 ลมุ่ นา้ เพชรบรุ ี
7 ลมุ่ น้าวัง 20 ลุ่มน้าชายฝง่ั ทะเลประจวบคีรขี นั ธ์ 13
21 ลุ่มน้าภาคใตฝ้ ่งั ตะวนั ออก 15
8 ลมุ่ น้ายม
22 ล่มุ น้าตาปี 16
9 ลุ่มนา้ น่าน 19 18
23 ลมุ่ นา้ ทะเลสาบสงขลา
10 ลุ่มนา้ เจ้าพระยา 20
11 ลมุ่ นา้ สะแกกรงั 24 ลุ่มนา้ ปัตตานี
12 ลมุ่ น้าปา่ สัก 21
13 ลมุ่ น้าทา่ จีน 25 ลมุ่ นา้ ภาคใต้ฝง่ั ตะวนั ตก
25 22
21
23 21
24
21
ทรัพยากร : ปา่ ไม้
ป่าไม้มคี วามส้าคญั ต่อระบบนิเวศ ชว่ ยอนุรักษด์ ินและนา้ เปน็ แหล่ง
ตน้ น้าลา้ ธาร สรา้ งวัฏจักรของคาร์บอน ไนโตรเจน และออกซเิ จน
ปา่ ตน้ น้า
เป็นพนื ทล่ี าดชนั สูงจากระดบั นา้ ทะเล
มากกว่า 35% 700 เมตร
ป่าไม้ในประเทศไทยมีลักษณะแตกตา่ งกันไปตามสภาพภูมิประเทศ
และภูมิอากาศ แบ่งเปน็ 2 ประเภท
1. ปา่ ผลัดใบ 2. ปา่ ไม่ผลดั ใบ
ปา่ เบญจพรรณ ปา่ ดิบเขา ปา่ ชายเลน
ป่าเตง็ รัง ปา่ ดบิ ชนื ป่าพรุ
ป่าดบิ แล้ง ป่าชายหาด
ป่าสนเขา
ทรพั ยากร : ป่าไม้ ป่าผลดั ใบ ปา่ ไมผ่ ลัดใบ
ป่าไมผ่ ลดั ใบ
ป่าชายเลน ป่าชายหาด ป่าพรุ ปา่ ดิบชนื ป่าดบิ แล้ง ป่าเบญจพรรณ ปา่ เต็งรัง ปา่ สนเขา ป่าดบิ เขา
ป่าดบิ ชืน เปน็ ป่าทตี่ ้นไมเ้ ขียวชอ่มุ ตลอดปี พบมากบริเวณชายฝัง่ ภาคตะวันออกและภาคใต้
ปา่ มีเรอื นยอดสงู พันธ์ุไมส้ ว่ นใหญ่เป็น
วงศย์ าง เหียง ตะเคยี น
พันธไุ์ ม้ชนั ลา่ งเป็นปาลม์ หวาย เถาวลั ย์
ปา่ เบญจพรรณ เป็นป่าไม้ผลัดใบ เปน็ ป่าที่มพี รรณไม้เดน่ 5 ชนดิ คอื สัก มะคา่ แดง ประดู่ และชงิ ชนั
เปน็ ปา่ โปร่ง ต้นไมจ้ ะขนึ อยหู่ ่างกัน
ทา้ ใหแ้ สงอาทติ ย์ตกถึงพนื มาก
ในฤดูแลง้ ต้นไมจ้ ะผลดั ใบ ทา้ ใหเ้ กดิ ไฟป่าไดง้ ่าย
ปา่ ชายเลน เป็นป่าไม้ไมผ่ ลดั ใบ ไม้ทพ่ี บจะมรี ากคา้ ยันและรากหายใจ พบบริเวณดนิ เลนริมทะเลหรอื บริเวณปากแม่น้า
โกงกาง มกั ขนึ บริเวณด้านนอกของป่าชายเลน
รมิ แมน่ า้ หรือริมชายทะเลท่ีน้าทะเลท่วมถึง
รากค้ายัน ชว่ ยให้โกงกางทรงตัวอย่ไู ด้
ในบรเิ วณดินเลน
ปา่ อนุรกั ษ์
พนื ท่ปี า่ สงวนแห่งชาติถูกกา้ หนดไว้เพื่อ
- อนุรกั ษส์ ิ่งแวดล้อม ดิน น้า พันธ์พุ ชื และพันธ์ุสตั ว์หายาก
- ป้องกนั ภยั ธรรมชาติที่เกิดจากนา้ ท่วมและการพงั ทลายของดนิ
- ประโยชนใ์ นดา้ นการศกึ ษา การวจิ ัย และความม่นั คงของชาติ
พนื ที่อทุ ยานแห่งชาติ เช่น พืนที่เขตรักษาพนั ธ์ุสัตว์ป่า เช่น
จ.เพชรบรุ ี จ.ตาก
อุทยานแหง่ ชาติแกง่ กระจาน เขตรกั ษาพันธุส์ ตั ว์ปา่ ทงุ่ ใหญน่ เรศวร
ทรัพยากร : แร่
แร่เป็นทรัพยากรทใ่ี ชแ้ ล้วหมดไป มีความสา้ คญั ในอุตสาหกรรม
แบ่งเปน็ 3 ประเภท
1. แร่โลหะ
ใชผ้ ลติ อเิ ล็กทรอนกิ ส์
ยานยนต์ อาหารกระป๋อง
2. แร่อโลหะ
ใชผ้ ลติ วัสดกุ ่อสร้าง
อาหาร ยา
3. แรเ่ ชือเพลิงและพลงั งาน
ใช้ส้าหรับ โรงไฟฟ้า โรงกลัน่
น้ามัน แปรรูปปโิ ตรเลียม
อา้ งอิงขอ้ มลู