The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่องหนังควายจี่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Samattapong Tejasen, 2023-05-12 03:17:30

รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่องหนังควายจี่

รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่องหนังควายจี่

รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง หนังควายจี่ เสนอ ผศ. สาโรช สอาดเอี่ยม จัดท าโดย ส.อ.เอกสิทธิ์ ปัญโญ นักศึกษาชั้นปี ที่ 1 ห้อง 1 รหัส 6510530432098 รายงานฉบับนี้เป็ นส่วนหนึ่งของการศึกษา วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า รหัสวิชา GE4005 ภาคเรียนที่ 3 ปีการศึกษา 2565 มหาวท ิ ยาลย ั มหามกฏุ ราชวท ิ ยาลย ั วิทยาเขตล้านนา เชียงใหม่


รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง หนังควายจี่ เสนอ ผศ. สาโรช สอาดเอี่ยม จัดท าโดย ส.อ.เอกสิทธิ์ ปัญโญ นักศึกษาชั้นปี ที่ 1 ห้อง 1 รหัส 6510530432098 รายงานฉบับนี้เป็ นส่วนหนึ่งของการศึกษา วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า รหัสวิชา GE4005 ภาคเรียนที่ 3 ปีการศึกษา 2565 มหาวทิยาลยัมหามกุฏราชวทิยาลยั วิทยาเขตล้านนา เชียงใหม่


ค าน า รายงานชิ้นน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา เทคโนโลยสีารสนเทศเพื่อการศึกษาคน้ควา้ (GE4005) โดยได้ ศึกษาผา่นบุคคลภายในทอ้งถิ่นของภาคเหนือและภาคอีสาน และเรียนรู้ผ่านแหล่งความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆโดย จุดประสงค์ของรายงานฉบบัน้ีเพื่อรวบรวมเน้ือหาและศึกษาเกี่ยวกบัการทา หนงัควายจี่ ขอขอบคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาโรช สะอาดเอี่ยม อาจารย์ประจ าวิชาที่ให้ค าปรึกษาและแนะแนวทาง ในการศึกษารวบรวมข้อมูลตลอดจนการจัดท ารูปเล่ม และขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือมาโดย ตลอด ผจู้ดัทา หวงัเป็นอยา่งยงิ่วา่รายงานเล่มน้ีจะใหค้วามรู้และเป็นประโยชน์แก่ผทู้ี่ตอ้งการศึกษาทุกๆท่าน หากมีข้อแนะน าหรือผิดพลาดประการใด ผู้จัดท าขอน้อมรับไว้และขออภยัมา ณ ที่น้ีดว้ย ผู้จัดท า ส.อ.เอกสิทธิ์ ปัญโญ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ก


สารบัญ เรื่อง หน้า ค าน า ก สารบัญ ข ประวัติควายไทย 1 ลกัษณะทวั่ ไปของควายไทย 2 การเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ 2-3 ประโยชน์ของควายไทย 3-4 หนังควายจี่ 4-5 อุปกรณ์ในการท าหนังควายจี่ 5-6 วิธีท าหนังควายจี่ 7 สรุป 8 บรรณานุกรม 9 ภาคผนวก 10-12 ข


ประวัติควายไทย “ควาย” เป็ นสัตว์ขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่มีความผูกพันธ์กับมนุษย์มาแต่สมัยดึกด าบรรพ์ จากหลักฐาน ภาพเขียนก่อนยคุประวตัิศาสตร์ของมนุษยโ์บราณ ปรากฏภาพควาย ปลาและสัตวป์่าบางชนิด เขียนอยตู่ามถ้า ต่าง ๆ โดยทวั่ ไปแสดงให้เห็นวา่ควายเป็นสัตวท์ ี่มีความสา คญั ในชีวิตประจา วนัของมนุษยม์าแต่ยคุก่อน ประวัติศาสตร์ในประเทศไทยเชื่อว่า “ควาย” มีบทบาทส าคัญ เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย ใช้เป็ นแรงงาน เพื่อการเกษตร การขนส่งและการคมนาคม แม้แต่ในการสงครามยังใช้ควายเป็ นพาหนะในการต่อสู้ข้าศึก เช่น การต่อสู้ของชาวบ้านบางระจัน ควายมีการเรียกแตกต่างกันไปแต่ละชาติแต่ละภาษา เช่น ภาษาจีนเรียกว่า “สุ่ยหนิว” (Sui Nui) ภาษา ฟิ ลิปปิ นส์ เรียกว่า “คาราบาว” (Carabao) และภาษาไทยเรียกว่า “ควาย” (Khway) ภาษามาเลย์เรียกว่า “เกร เบา” (Krabao) เป็ นต้น พันธุ์ควายในโลกมี 2 ชนิด คือควายป่ า และควายบ้าน ซึ่งสามารถแบ่งควายบ้านออกไปได้อีก 2 ประเภทดงัน้ีคือ-ควายปลัก (Swamp Buffalo) ประเทศต่าง ๆ ในแถบเอเชียไดแ้ก่ไทย ฟิลิปปินส์มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม กัมพูชา ลาว มีควายปลักเป็ นจ านวนมาก ใช้ส าหรับท างานในท้องนาเพื่อ ปลูกขา้วและลากเขน็เมื่อกระบือใชง้านไม่ไหวแลว้ก็จะส่งเขา้โรงฆ่าเพื่อใชเ้น้ือเป็นอาหาร 1


ลักษณะทั่วไปของควาย 1.ขนาด :ควายจะโตเต็มวัยเมื่ออายุระหว่าง 5-8 ปีน้า หนกัตวัผูโ้ตเตม็วยัโดยเฉลี่ย 520-560 กิโลกรัม ตัวเมีย เฉลี่ยประมาณ 360-440 กิโลกรัม ตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย 2.รูปร่างหน้าตา :ควายส่วนใหญ่รูปร่างอ้วน เต้ีย พ่วงพีลา ตวัส้ัน ท้องกางกลม แขง้ขาส้ัน เขากางยาว ปลาย เขาโคง้เป็นวงคลา้ยพระจนัทร์เส้ียว 3.สี:ควายมีอยู่ 2 สีคือควายที่มีขนสีด ากับควายที่มีขนสีขาว โดยทวั่ ไปควายมีขนสา ดา ส่วนควายขนสีขาว หรือที่เรียกว่าควายเผือก (Albinoid Buffalo) ไม่ค่อยมีหน้าที่ในการเป็ นสินค้า หรืออาหาร เพราะชาวนาไม่ นิยมซ้ือขาย และไม่นิยมฆ่าแกง แต่จะมีประโยชน์ด้านจิตใจมากกว่าควายสีด า 4.เขา :ควายโดยทวั่ ไปหรือส่วนใหญ่มีเขายาวกางออกสองขา้งศีรษะ ปลายเขาโค้งเข้าหากัน ลักษณะเขาควาย ส่วนล่างเป็ นสี่เหลี่ยมรูปมนผิวขรุขระเป็ นปล้อง ส่วนบนกลมเรียวปลายแหลมผิวลื่น ควายบางตัวมีเขาผิดปกติ คือเขาส้ันทู่หรือเขาหลบห้อยลงสองข้างศีรษะูขนาดเขาควายโดยปกติยาวประมาณ 60-120 เซนติเมตร 5.ฟัน :ควายมีฟันล่าง 20 ซี่ ส่วนฟันบนมีเฉพาะกราม 12 ซี่ ไม่มีฟันหน้า ดว้ยเหตุน้ีชาวนาจึงเชื่อวา่ควายไม่มี ฟันบน การเจร ิ ญเต ิ บโตและการส ื บพน ั ธ ์ ุ ลูกควายจะกินนมแม่จนอายุประมาณ 1.5 ปีควายจะเจริญเติบโตใช้แรงงานได้ระหว่างอายุ2.5-3 ปี ช่วงที่ใช้งานได้เต็มที่คือระหว่างอายุ5-8 ปีควายแต่ละตัวจะใช้งานได้จนอายุย่างเข้า 20 ปีอายคุวายโดยทวั่ ไป เฉลี่ยประมาณ 25 ปี(เว้นกรณีพิเศษที่ควายบางตัวอาจมีอายุยืนผิดปกติ) ควายตวัผสู้ามารถเป็นพ่อพนัธุ์ไดต้้งัแต่อายุ2 ปีส่วนควายตวัเมียสามารถเป็นแม่พนัธุ์ไดต้้งัแต่อายุ3 ปี ข้ึนไป ควายจะต้งัทอ้งช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวซ่ึงเป็นฤดูที่อาหารอุดมสมบูรณ์ ควายจะอุ้มท้องประมาณ 10.5 เดือน ก่อนและหลงัคลอด 2-3 อาทิตย์เจ้าของไม่นิยมใช้งานหนัก ปกติควายจะคลอดลูก2 ตัว ในเวลา 3 ปี ควายเป็ นสัตว์ซึ่งตามภาษาสัตวศาสตร์ เรียกว่า Bos Bubalis มนุษยร์ู้จกัและเล้ียงมาชา้นานแลว้ โดย ควายตามลกัษณะของวิชาสัตวศาสตร์มีดงัน้ีเป็นสัตวข์นาดหนกัโครงร่างใหญ่ร่างกายหนาผิวหนงัมีสีดา สี เผือก สีด่าง มีขนเลก็นอ้ย หวัยาวแคบ มีเขาบนหัว หางส้ันและมีขนที่ปลายหาง กระบือพันธุ์นมที่ดีจะมีเต้านม 2


ใหญ่หวันมยาว น้า นมมีสีขาวไขมนัสูงสามารถใชป้ระโยชน์ไดห้ลายอยา่งโดยใชไ้ถนาลากของลากเกวียน เน้ือและหนังสามารถน ามาท าเป็นอาหารอีกท้งัยงัเป็นพาหนะได้อีกด้วย ประโยชน์ของควายไทย ประเทศไทยเป็ นประเทศกสิกรรม ประชาชนประมาณร้อยละ 80 ประกอบอาชีพทางการท าไร่ท านา การเล้ียงววัควายเป็นส่วนประกอบของการกสิกรรม เพราะได้ใช้แรงงานจากวัวควายช่วยในการท างานต่างๆ นบัต้งัแต่ไถ พรวน ฉุดระหดัน้า นวดข้าว สีข้าว ลากเข็น ตลอดไปจนถึงการขนส่งผลิตผลจากทอ้งถิ่นห่างไกล ไปสู่ถนนหลวงหรือตลาด เนื่องจากชาวนาไทยมีที่ดินน้อย เฉลี่ยเพียงครอบครัวละ 10-20 ไร่ หรือนอ้ยกวา่น้นั ในบางภาค การใช้วัวควายท างานในไร่นาจึงเหมาะสม เพราะสะดวกที่จะ ท าเมื่อใดก็ได้และแล้วเสร็จได้ในเวลาไม่นาน วัวหรือควายคู่ หนึ่งไถนาได้วันละไม่ต ่ากว่าหนึ่งไร่ ท้งัยงัประหยดัเงินกว่าการ จ้างรถไถนาท างาน ซึ่งต้องเสียค่าจ้างในอัตราสูง การใช้วัวควาย ไถนาท าให้ได้ใช้แรงงานในครอบครัวให้เป็ นประโยชน์ช่วยให้มีชีวิตชีวา และเสริมสร้างวิญญาณแห่งความรัก ความผูกพัน ในงานอาชีพของกสิกร ใหแ้ก่สมาชิกของครอบครัว การเล้ียงววัควายเพื่อช่วยในการทา ไร่ทา นาในประเทศไทยน้นั โดยทวั่ ไป นิยมเล้ียงกนัเพียงครอบครัว ละสามตัวบ้าง ห้าตัวบ้าง แต่เมื่อรวมกันเข้าก็เป็ นจ านวนสิบล้านตัว เป็ นวัวและควายอย่างละประมาณครึ่งต่อครึ่ง อาหารของววัควายเหล่าน้ีไดแ้ก่หญา้ที่ข้ึนอยตู่ามคนันาริมถนน และท้องทุ่งที่ว่างจากการท าไร่ท านา วัวควาย จะถูกต้อนออกไปหากินในยามเช้า และกลับเข้าคอกเมื่อยามพลบ คอกวัวคอกควายมักอยู่ใกล้บ้าน หรือใต้ถุน บา้น เมื่อถึงหนา้เพาะปลูก น้า หลาก ทอ้งทุ่งทอ้งนาเตม็ไปดว้ยกลา้ขา้วและพืชผลยามน้ีววัควายตอ้งอาศยัฟาง และหญ้าแห้งที่เจ้าของเก็บกองไวใ้ห้ต้งัแต่ปลายฤดู เพาะปลูกปี ที่ผ่านมา เป็ นอาหารเสริมไปจนกว่าจะเก็บ เกี่ยวพืชผลเสร็จ วัวควายจึงเป็ นอิสระในท้องทุ่งอีก วาระหน่ึง ซ่ึงในระยะน้นัอาหารววัควายจะมีบริบูรณ์ ววัควายจึงสืบพนัธุ์กนั ในระยะน้ีเป็นส่วนมาก 3


ควายประเทศไทยในภาคเหนือและอีสานนอกจากควายที่เป็ นสัตว์ใช้ในการเกษตรกรรมควายที่ หมดอายกุารใชง้านหรือที่ถูกนา มา ประกอบอาหารทุกส่วนของตวัควายลว้นรับประทานไดเ้กือบท้งัตวั ซึ่งปัจจุบนั ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยนิยมรับประทานเน้ือควายเป็นจา นวนมากเช่นการทา ลาบควาย ส้าจิ้นควาย นอกจากน้ีเน้ือเครื่องในและส่วนต่างๆของควายแลว้ยงัมีส่วนที่สามารถรับประทานไดน้นั่ก็คือ ผิวหนังของตัวควายเช่นการน าไปท าแคปหนังควายหรือภาคเหนือเรียกแคปพอง แต่ในการนา เสนอน้ีเป็นภาค พิเศษที่จะน าเสนอโครงงานแนวเศรษฐกิจหนังควายจี่เป็ นอาชีพหลักได้เลยทีเดียวหรือ เป็ นอาชีพเสริมที่มีรายได้ ไม่แพ้กว่าการค้าขายของ รับประทานประเภทอื่นๆ หนังควายจี่ หนังควายจี่ถือเป็ นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ชาวอีสาน นิยมท ามาแต่ในอดีต เนื่องจากหนังควายเส้น หรือหนังควาย เค็ม ถือเป็ นอาหารที่นิยมกันมาแต่โบราณ ถือเป็ นวิธีการถนอม อาหารแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยจะน าหนังควายมาแปรรูป ทา เป็นเส้น กวา้งประมาณ 2 เซนติเมตร ก่อนนา ไปหมกั น้า เกลือและผสมร า เพื่อลดกลิ่นเหมน็คาว ก่อนนา ไปตากแหง้ หรืออบไฟใหแ้หง้จากน้นัก็จะนา มาสับเป็นเส้นที่ไดค้วามยาวตามขนาด เพื่อรอน าปขาย ซึ่งเป็ นวิธีการถนอม อาหารหนงัควาย ที่สามารถเก็บไวไ้ดน้านเป็นปีไม่มีเน่าเสียอีกท้งัยงัปลอดสารเจือปน “หนังควายจี่นิยาม ค าว่า จี่ (เผา) ท าให้สุกโดยความร้อน เช่น เตาถ่าน เหมือนกบัการยา่งแต่การจี่จะทิ้ง สิ่งที่จะจี่ลงไฟเลยโดยไม่มีอะไรรอง” หนังควายจี่คือ เอาหนังวัว หนังควาย ที่ผ่านกรรมวิธีท าแห้งเค็มแล้ว มา เผาไฟ พอสุกแลว้นา ข้ึนมาทุบใหเ้หนียวนุ่ม การนา หนงัควายจี่มาปรุงอาหารเช่น แกงใส่ผกัข้ีเหลก็หรือหลงัจาก ที่ทุบแล้ว สามารถรับประทานได้เลย ผู้คนนิยมน าหนังควายจี่มาท าเป็ นกับแกล้มกินกับเหล้าขาว มะขามเปี ยก ทางภาคอีสานน้นัข้ึนชื่อเรื่องการถนอมอาหารทา ”หนงัควายจี่”จากภูมิปัญญาชาวบ้านสู่ธุรกิจเงินล้าน ทา เงินฤดูหนาวจุดเริ่มตน้จากถนอมอาหารสู่เมนูเด็ด ส่งขายถึงเมืองนอกสร้างรายไดสู้งเดือนละหลกัแสนบาท 4


เนื่องจากชาวอีสานส่วนใหญ่ในช่วงฤดูหนาวขณะก่อไฟผิง ก็จะนิยมนา หนงัควายเส้นตากแหง้มาเผาไฟ แลว้ ทุบกินกบัขา้วเหนียว โดยชาวอีสานเชื่อวา่การเค้ียวหนงั เค็มจะเป็ นการกระตุ้นให้ร่างกายอบอุ่น เนื่องจากหนัง เคม็จะเค้ียวยาก อ ุ ปกรณ ์ในการท าหนังควายจี่ 1.เตรียมหนังควายจี่ 2.เตรียมเตาองัโล่ 5


3.เตรียมค้อนทุบ 4.ตอไมใ้ หม่ที่รองทุบ 5.เเปรงทิงเหลืองส าหรับขัดหนังควาย 6.ถ่านหรือไมฟ้้ืน 6


วิธีท าหนังควายจี่ 1.สุมไฟให้แรงในเตาอังโล่เมื่อไฟแรงได้ที่ให้โยนหนังควายที่เตรียมไว้ เข้าไปเผาจนพอเหมาะด าเกรียมแต่ไม่แข็งโหดเกินไป 2. นา หนงัควายที่เผาไดท้ ี่ข้ึนมาขดัใหข้าวดว้ยแปรงทองเหลืองที่เตรียม ไว้ผัดจนให้ขาวไม่มีสีด าเกรียม 3. เมื่อขัดเสร็จแล้วให้ เอาค้อนที่เตรียมไว้ทุกหนังควายที่ต่อไม้อย่างแรงและจริงใจทุกข์จนให้หนังโฟร์นวลนุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป จากน้นัก็สามารถนา ไปรับประทานกบัน้า จิ้มที่แต่ละบา้นสูตร ไม่เหมือนกนั ไม่วา่จะน้า จิ้มขาน้า จิ้มมะขามหรือน้า พริกตาแดงลูกบา้น ทุกท่านที่มีความแข็งแรงกามแข็งก็สามารถรับประทานได้เลยรสชาติ ของมันจะมนัมนัเค้ียวไม่ค่อยยอมหยดุหรือท่านใดที่ไดอ้่านโครงงานที่ นา เสนอน้ีอยากลิ้มลองเชิญไดท้ ี่หนงัควายจี่โกเบเเกม้เล่า 7


สร ุ ป ในสมยัก่อนควายเป็นสัตวเ์กษตรกรรมใชล้ากจูงและไถนาแต่ในปัจจุบันเนื่องด้วยเทคโนโลยีจึงมีรถไถ ซึ่งท าให้ควายตกงานควายจึงกลายมาเป็ นสัตว์ที่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เน้ือควายเป็นที่นิยมรับประทานในภาคเหนือ นา มาปรุงอาหาร หลากหลายประเภท แต่ในโครงงานน้ีได้ น าเสนอถึงธุรกิจต่างควายจี่และวิธีทา หวงัวา่ท่านที่ไดอ้่านโครงงานน้ีจะเพลิดเพลินและจินตนาการกับวิธีการใน การท าหนังควายจี่เพราะเจ้าของหนังควายจี่เขียนเองขอบคุณครับ 8


บรรณาน ุ กรม PHETSRIPUTTA. ( 2561). ประวัติควายไทย. สืบค้น 1 พฤษภาคม 2566, จาก https://phetsriputta.wordpress.com/ประวัติควายไทย/ Thainewsonline. (2560). หนังเค็ม"จากวัว-ควาย หรือ"จี่หนัง". สืบค้น 1 พฤษภาคม 2566, จาก https://www.tnews.co.th/social/380467 9


ภาคผนวก 10


11


12


ประวต ัิ ผ ้ ู จ ั ดท า ชื่อ - นามสกุลรหัส ส.อ.เอกสิทธิ์ ปัญโญ รหัส 6510530432098 วัน เดือน ปี เกิด 23กุมภาพันธ์ 2535 ภูมิลา เนา บ้านห้วยห้า ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ล าพูน การศึกษา -ระดับประถมศึกษา โรงเรียนห้วยห้า จ.ล าพูน -ระดับมัธยมศึกษาปี ที่ 1-3 โรงเรียนบางกะปิ กรุงเทพ -ระดับมัธยมศึกษาปี ที่ 4-6 โรงเรียนธีรกานท์บ้านโฮ่ง -โรงเรียนนายสิบทหารราบ ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ปราณบุรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ -ปัจจุบันกา ลงัศึกษา ระดับปริญญษตรี คณะสังคมศาสตร์ การปกครอง มหาวิทยาลัย มหากุฎราชวิทยาลัย การท างาน -ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน -ชุดปฏิบัติการจิตวิทยาและวิทยากรเสริมสร้างความเข้าใจ -นายสิบห้องวิทยุสื่อสาร -นายสิบส่งเสบียง หมวดส่งก าลังบ ารุง ร้อยบังคับการ กองพัน มณฑลทหารบกที่ 33


Click to View FlipBook Version