CIP Advance นวัตกรรมเพื่อชุมชน

การบูรณา
การวิชา IS

กับ CIP ADVANCE

การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
(INDEPENDENT STUDY : IS)

ขั้นที่ 1 การตั้งประเด็นปัญหา และสมมุติฐาน (Hypothesis Formulation)

IS1 ขั้นที่ 2 การแสวงหาเพื่อสืบค้นสารสนเทศ (Searching for Information)

ขั้นที่ 3 การสรุปองค์ความรู้ (Knowledge Formation)

IS2 ขั้นที่ 4 การสื่อสาร และการนำเสนอ (Effective Communication)
IS3 ขั้นที่ 5 การบริการสังคม และจิตสาธารณะ (Public Service)

การฝึกทักษาะการคิดขั้นสูง เพื่อสร้างนวัตกรรมเพื่อชุมชน
(COMMUNITY INNOVATION PROJECT : CIP)

ขั้นที่ 1 การประเมินทักษะการคิดของผู้เรียน
ขั้นที่ 2 การคิดประเด็นการเรียนรู้จากแรงบันดาลใจ
ขั้นที่ 3 การร่วมมือกันเขียนแผน
ขั้นที่ 4 การจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ 5 การให้ผู้เรียนประเมินตนเอง
ขั้นที่ 6 การเน้น ย้ำ ซ้ำ ทวน ชวนคิดต่อยอด

การบูรณาการ.....

INDEPENDENT STUDY : IS COMMUNITY INNOVATION PROJECT : CIP

ขั้นที่ 1 การตั้งประเด็นปัญหา และสมมุติฐาน ขั้นที่ 1 การประเมินทักษะการคิดของผู้เรียน
ขั้นที่ 2 การแสวงหาเพื่อสืบค้นสารสนเทศ ขั้นที่ 2 การคิดประเด็นการเรียนรู้จากแรงบันดาลใจ
ขั้นที่ 3 การสรุปองค์ความรู้ ขั้นที่ 3 การร่วมมือกันเขียนแผน
ขั้นที่ 4 การสื่อสาร และการนำเสนอ ขั้นที่ 4 การจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ 5 การบริการสังคม และจิตสาธารณะ ขั้นที่ 5 การให้ผู้เรียนประเมินตนเอง
ขั้นที่ 6 การเน้น ย้ำ ซ้ำ ทวน ชวนคิดต่อยอด

ขั้นที่ 1

การแตลั้งะปสรมะเดม็นติปฐัาญนหา

ขั้นที่ 2

การแสสวางรหสาเนพื่อเทสศืบค้น

ขั้นที่ 3

การสรุปองค์ความรู้



ขั้นที่ 4

การสื่อสาร และการนำเสนอ

ขั้นที่ 5

แกลาระจบิตริกสาารธสัางรคณมะ

การศึกษาและพัฒนาเครื่องกรองน้ำ
สำหรับบ่อเลี้ยงปลาสวยงาม

ที่มา

ปัจจุบันผู้คนมีความนิยมนำปลาสวยงามชนิดต่าง ๆ มาเลี้ยงใน
บริเวณที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก มีทั้งเลี้ยงในตู้กระจก ในบ่อปูน
หรือวัสดุอื่น ๆ ซึ่งในการเลี้ยงปลาในพื้นที่จำกัดมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ที่ต้องรักษาความสะอาดของน้ำ และรักษาสมดุลของออกซิเจนในน้ำ
เนื่องจากหากคุณภาพน้ำไม่ดี ก็จะส่งผลทำให้ปลาตายได้

ดังนั้นเครื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงามจึงมีความ
จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว คณะผู้จัดทำจึงสนใจ

ที่จะศึกษาและพัฒนาเครื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงาม เพื่อ
ทำให้น้ำสะอาด และเพิ่มปริมาณของออกซิเจนในน้ำ

วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาระบบเครื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงาม
2. เพื่อพัฒนาเครื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงาม 4 ด้านคือ

2.1. ด้านประโยชน์ใช้สอย
2.2. ด้านความแข็งแรงคงทน
2.3. ด้านความสวยงาม
2.4. ด้านความปลอดภัยและการบำรุงรักษา
3. เพื่อตรวจสอบคุณภาพของน้ำ

ตัวแปรต้น ตัวแปรที่ศึกษา

เครื่องกรองน้ำ

ตัวแปรตาม ระดับคุณภาพแต่ละด้าน คุณภาพของน้ำ

ตัวแปรควบคุม วัสดุกรอง ขนาดปั๊ มน้ำ ขนาดถังกรองน้ำ
ชนิดปลาที่ใช้เลี้ยง ฯลฯ

วิธีการดำเนินการ

1. วิธีการสร้างเครื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงาม
วัสดุอุปกรณ์

วัสดุอุปกรณ์ (ต่อ)

วิธีการทำเครื่องกรองน้ำ

วิธีการทำเครื่องกรองน้ำ (ต่อ)

วิธีการทำเครื่องกรองน้ำ (ต่อ)

2. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลรายด้าน
2.1 ด้านประโยชน์ใช้สอย
2.2 ด้านความแข็งแรงคงทน
2.3 ด้านความสวยงาม

2.4 ด้านความปลอดภัยและการบำรุงรักษา

3. วิธีการตรวจสอบคุณภาพของน้ำ

ผลการดำเนินการ

1. ผลการสร้างเครื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงาม

จากผลการศึกษาพบว่า เครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมในการในมาใช้
เลี้ยงปลาสวยงามควรมีระบบกรองหลายถัง โดยแบ่งเป็นถังกรองหยาบ
และกรองละเอียด โดยวัสดุกรองจะเริ่มจากวัสดุกรองที่ดักจับสิ่งสกปรก
ที่มีอนุภาคใหญ่ ไปอนุภาคเล็ก และในระบบควรให้น้ำเสียเข้าด้านล่าง
น้ำออกด้านบน

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลรายด้าน

ข้อมูลรายด้าน ค่าเฉลี่ย ระดับคุณภาพ

1. ด้านประโยชน์ใช้สอย 4.58 มากที่สุด
4.46 มาก
2. ด้านความแข็งแรงคงทน 4.37 มาก
3. ด้านความสวยงาม 4.45 มาก
4. ด้านความปลอดภัยและการบำรุงรักษา 4.47 มาก

ภาพรวม

3. ผลการตรวจคุณภาพของน้ำ

1. น้ำที่ได้มีลักษณะที่ใสเมื่อเปรียบเทียบตัวอย่างน้ำ ก่อน และ
หลังผ่านเครื่องกรองน้ำ โดยใช้วิธีการสังเกตลักษณะทางกายภาพ

2. น้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำแล้วมีค่า pH ในช่วงเป็นกลาง คือช่วง
pH 7 โดยใช้วิธีการหาค่า pH ด้วยยูนิเวอร์แซลอินดิเคเตอร์

สรุปผลการดำเนินการและข้อเสนอแนะ

สรุปผลการดำเนินการ

1. เครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมในการในมาใช้เลี้ยงปลาสวยงามควรมีระบบกรองหลายถัง
โดยแบ่งเป็นถังกรองหยาบ และกรองละเอียด โดยวัสดุกรองจะเริ่มจากวัสดุกรองที่ดักจับสิ่ง
สกปรกที่มีอนุภาคใหญ่ ไปอนุภาคเล็ก และในระบบควรให้น้ำดีเสียด้านล่าง น้ำดีออกด้านบน
เพื่อป้องกันไม่ให้อนุภาคสิ่งสกปรกตกลงมาปะปนตามแรงโน้มถ่วงของโลก หากให้น้ำเสียเข้า
ด้านบน

2. การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยรายด้านของเรื่องกรองน้ำสำหรับเลี้ยงปลาสวยงาม ด้านประโยชน์
ใช้สอย ด้านความแข็งแรงคงทน ด้านความสวยงาม และด้านความปลอดภัยและการบำรุงรักษา
มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 , 4.46, 4.37 และ4.45 ตามลำดับ และพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ
ด้านประโยชน์ใช้สอยมีค่าเท่ากับ 4.58 และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือด้านความสวยงามมี
ค่าเท่ากับ 4.37 และมีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมทุกด้านเท่ากับ 4.47

3. น้ำที่ได้มีลักษณะที่ใสเมื่อเปรียบเทียบตัวอย่างน้ำ ก่อน และหลังผ่านเครื่องกรองน้ำ
โดยใช้วิธีการสังเกตลักษณะทางกายภาพ และน้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำแล้วมีค่า pH ในช่วงเป็น
กลาง คือช่วง pH 7 โดยใช้วิธีการหาค่า pH ด้วยยูนิเวอร์แซลอินดิเคเตอร์

ข้อเสนอแนะ

1. ควรปรับเครื่องกรองน้ำให้มีวาล์วน้ำเปิดปิดเพื่อให้ง่ายต่อการทำความ
สะอาดกรอง

2. การเพิ่มขนาดถังกรองทำให้น้ำที่ได้มีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ แต่ต้องคำนึงถึง
ปั๊ มพ์น้ำ และขนาดของท่อน้ำเพื่อให้ระบบน้ำในกรองสมดุล

3. การตรวจสอบคุณภาพน้ำด้วยการสังเกตอาจมีความคลาดเคลื่อน
ควรมีการใช้เครื่องมือ หรือการทดลองที่ให้ผลที่แม่นยำ

THANK YOU

SELAPHUM SCHOOL