รายงานผลการดำเนินงาน
ประจำปีงบประมาณ 2564
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
คำนำ
รายงานผลการดำเนินงานฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสรุปผลการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 10 ในปีงบประมาณ 2564 ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการ
ดำเนินงานตามบทบาทภารกิจของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาส่งเสริมสนับสนุน
ด้านวิชาการให้แก่ภาคีเครือข่ายด้านพื้นที่ อาทิ การรายงานสถานการณ์ทางสังคม การจัดทำโพล การจัดการความรู้
รวมถึงการถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคมให้แก่กลุ่มเป้าหมาย
การนำเสนอรูปแบบรายงานผลการดำเนินประจำปี 2564 ของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ประกอบด้วย ข้อมูล แผนภาพ และอินโฟกราฟฟิก ซึ่งแต่ละส่วนมีสาระสำคัญพอสังเขปโดยเนื้อหารายงานแบ่งเป็น 3 ส่วน
คือ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ส่วนที่ 2 ผลการดำเนินงานตามภารกิจประจำ
ปีงบประมาณ 2564 และส่วนที่ 3 คณะผู้จัดทำ
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายด้านสังคม หน่วยงานทีม พม. (One Home)
7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ที่ให้ความร่วมมือ สนับสนุนด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนราชการ
และผู้สนใจ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์แก่ประชาชน สังคม และประเทศชาติ
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สารบัญ หน้า
1
เรื่อง 1
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 (สสว.10) 2
3
1.1 ความเป็นมา 3
1.2 สถานที่ติดต่อ 4
1.3 อำนาจหน้าที่ 6
1.4 วิสัยทัศน์ 6
1.5 ยุทธศาสตร์ สสว.
1.6 โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ สสว.10
1.7 อัตรากำลัง 7
1.8 ผลการเบิกจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 9
ส่วนที่ 2 รายงานผลการดำเนินงานตามภารกิจหลัก 13
2.1 โครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่ 14
18
2.1.1 การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research : R2R)
2.1.2 งานบริการทางวิชาการ 19
2.1.3 การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) 24
2.1.4 กิจกรรมบูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ํง 27
2.1.5 กิจกรรมการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 30
2.2 โครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานแผนงานด้านสังคมในระดับพื้นที่
2.2.1 การรายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด 39
2.2.2 การขับเคลื่อนการบูรณาการแผนงานด้านสังคมกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2564
2.2.3 การขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด 39
2.2.4 กิจกรรมการวัดอุณหภูมิทางสังคม (พม.POLL)
2.3 สนับสนุนงานตรวจราชการ 42
2.3.1 สนับสนุนงานตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคม
46
และความมั่นคงของมนุษย์
2.4 รายงานผลการปฏิบัติตามแผนการขับเคลื่อนกระบวนงานการให้บริการงานวิชาการ
สู่ดิจิทัล : ผ่าน LINE OFFICIAL ACCOUNT ประจำปีงบประมาณ 2564
2.5 กิจกรรมจิตอาสา
ส่วนที่ 3 ภาคผนวก
3.1 คณะผู้จัดทำ
ส่วนที่ 1
ข้อมูลทั่วไป
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ส่วนที่ 1
ข้อมูลทั่วไปสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
Technical Promotion and Support Office 10 : (TPSO 10)
ข้อมูลทั่วไป
ความเป็นมา
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 หรือในชื่อย่อว่า "สสว.10" เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่
ในภูมิภาค จั้ดตั้งขึ้นตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ พ.ศ.2545 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 119 ตอนที่ 1.3 ก หน้า 186 - 189 ฉบับลงวันที่ 9 ตุลาคม 2545
(เล่มที่ 1) มีฐานะเทียบเท่ากอง หรือสำนัก
ปี 2558 มีพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2558 ให้ สสว. ทั้ง 11 แห่ง
ไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจในการพัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับ
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการ
องค์ความรู้ ข้อมูลสารสนเทศ ให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานบริการทุกกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่รับผิดชอบของกระทรวง
รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชน และประชาชน ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทาง
สังคมและผลกระทบการให้ข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคมและจัดทำยุทธศาสตร์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด สนับสนุนการนิเทศงาน
ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการ ตามนโยบายและภารกิจของกระทรวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัด รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่
เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งการดำเนินภารกิจดังกล่าวสอดคล้อง
กับนโยบาย พม. ปี 2561 : 9-5-5 A2 : นโยบายการบริหารและพัฒนา (Administration Based) ในด้านการพัฒนาบุคลากร
สู่มืออาชีพ ประเด็นการพัฒนาขีดสมรรถนะ การปรับทัศนคติ ในการทำงานเชิงบูรณาการและการคิดเชิงยุทธศาสตร์ ให้เป็นผู้นำ
และผู้เชี่ยวชาญงานด้านสังคมระดับจังหวัด และ A3 : นโยบายการขับเคลื่อนระดับพื้นที่/จังหวัด ภายใต้การบูรณาการขับเคลื่อน
การทำงานในแนวคิด One Home ในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาศักยภาพการประสานภาคีเครือข่าย
และการยกระดับการเป็นเจ้าภาพทางสังคมในระดับพื้นที่ โดย สสว.10 รับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร
นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง และ สุราษฎร์ธานี
สถานที่ติดต่อ
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
เลขที่ 33 หมู่ 1 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84100
โทร 0 7735 5022-3 โทรสาร 0 7735 5705
E-mail : [email protected]
หน้าที่ 1
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
อำนาจหน้าที่
1. พัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
2. ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการ องค์ความรู้ ข้อมูลสารสนเทศ ให้คำปรึกษา แนะนำ แก่หน่วยงานบริการ
ทุกกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้บริการ ในความรับผิดชอบของกระทรวง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
องค์กรภาคเอกชนและประชาชน
3. ศึกษา วิเคราะห์ สถานการณ์และสภาพแวดล้อม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบ
รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคมและจัดทำยุทธศาสตร์ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
4. สนับสนุนการนิเทศงาน ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการตามนโยบายและภารกิจของกระทรวง
ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
5. ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย
ผอ.สสว.10
ฝ่ายบริหารทั่วไป กลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ กลุ่มการวิจัยและ
พัฒนาระบบเครือข่าย
หน้าที่ 2
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
วิสัยทัศน์
“เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการแก่ภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่”
พันธกิจ
พันธกิจที่ 1 พัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนงานด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่ม
เป้าหมายแก่ภาคีเครือข่าย
พันธกิจที่ 2 วิเคราะห์ คาดการณ์ แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคมเพื่อสนับสนุนการจัดวางยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่
พันธกิจที่ 3 พัฒนาองค์กร ให้มีความทันสมัย เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ให้บุคลากร มีความรู้ความเชี่ยวชาญ
พันธกิจที่ 4 สนับสนุนการนิเทศ ติดตาม ผลการดำเนินงานเชิงวิชาการด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการในระดับ
พื้นที่
ยุทธศาสตร์ สสว.
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ พม.สู่การปฏิบัติ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาสังคม
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างและพัฒนาความรู้และนวัตกรรมทางสังคม
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบการนิเทศและการติดตามประเมินผลเชิงวิชาการ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนา สสว.ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
ค่านิยมองค์กร สสว.10
“คุณธรรมนำงาน วิชาการสู่สังคม”
หน้าที่ 3
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ฝ่ายบริหารทั่วไป โครงสร้างอำนาจหน้าที่ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
อำนาจหน้าที่
งานบริหารทั่วไป งานสารบรรณ งานอำนวยการ การบริหารงานงบประมาณ
งานการเงินและบัญชี งานพัสดุ อาคาร สถานที่และยานพาหนะ การบริหารงานบุคคล
การดำเนินการด้านงานประชาสัมพันธ์
ประสานการดำเนินงานระหว่างราชการ บริหารงานกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น
ปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของกลุ่มงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หรือที่ได้รับมอบหมาย
กลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ อำนาจหน้าที่
กำหนดทิศทางยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคมในภาพรวมระดับกลุ่มจังหวัด
ศึกษา วิเคราะห์ วางแผนยุทธศาสตร์ และบูรณาการ (Strategy Planning &
Integration Network) เพื่อการจัดทำแผนทางสังคมให้สอดคล้องกับพื้นที่
และกลุ่มเป้าหมาย
แปลงนโยบายยุทธศาสตร์จากส่วนกลางไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ
และเชื่อมโยงนโยบายและยุทธศาสตร์ระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค
ศึกษาวิเคราะห์ สถานการณ์และสภาพแวดล้อมเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม
ของสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบรวมทั้งข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคม
และจัดทำยุทธศาสตร์ในระดับกลุ่มจังหวัด
วิเคราะห์ สังเคราะห์และบูรณาการข้อมูลด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศด้านสังคมในระดับกลุ่มจังหวัด
สนับสนุนการนิเทศงานติดตามการประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการ
ตามนโยบายและภารกิจของกระทรวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดมาตรฐานการดำเนินงานด้านการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ในระดับพื้นที่
ให้คำปรึกษา วางระบบ และสร้างเครือข่ายให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและทันต่อเหตุการณ์
สนับสนุนการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
ปฏิบัติงานร่วมหรือ สนับสนุนการปฏิบัติงานของกลุ่มงานและหน้วยงาน
ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย
หน้าที่ 4
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
โครงสร้างอำนาจหน้าที่ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
กลุมการวิจัย อำนาจหน้าที่
และพัฒนาระบบเครือข่าย ศึกษา ค้นคว้า วิจัย เพื่อให้ได้องค์ความรู้การพัฒนาสังคม ส่งเสริมให้เกิด
นวัตกรรม รูปแบบ แนวทางการดำเนินงาน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในสภาวะ
วิกฤติและเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต
จัดทำแผนแม่บทวิจัยการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในมิติพื้นที่
ผลิตและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ให้แก่หน่วยงานในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชน/ประชาชน และภาคีเครือข่ายในระดับประเทศ
และต่างประเทศ
ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดนักวิจัย และเครือข่ายทางวิชาการด้านการพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์เชิงประเด็น เชิงกลุ่มเป้าหมายในมิติพื้นที่
ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการนำผลงานวิชาการไปใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
ที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่
ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่าย ด้านวิชาการ การดำเนินงาน
ด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในระดับพื้นที่กลุ่มจังหวัด
เป็นศูนย์กลางการให้บริการและถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์แก่หน่วยงานในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่
เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชนและประชาชน
เป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคมในระดับกลุ่มจังหวัด
พัฒนาศักยภาพบุคลากรของหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคี
เครือข่ายในพื้นที่ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของกลุ่มงานและหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย
หน้าที่ 5
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
อัตรากำลัง
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 มีบุคลากรทั้งสิ้น 26 คน
1. ข้าราชการ จำนวน 14 อัตรา ประกอบด้วย
- ตำแหน่ง ผู้อำนวยการระดับสูง จำนวน 1 อัตรา
อัตรา
- ตำแหน่ง ระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 3 อัตรา
อัตรา
- ตำแหน่ง ระดับชำนาญการ จำนวน 6 อัตรา
อัตรา
- ตำแหน่ง ปฏิบัติการ จำนวน 2
- ตำแหน่ง ระดับชำนาญงาน จำนวน 1
- ตำแหน่ง ระดับปฏิบัติงาน จำนวน 1
2. ลูกจ้างประจำ จำนวน 1 อัตรา
2. พนักงานราชการ จำนวน 8 อัตรา
4. พนักงานจ้างเหมา จำนวน 3 อัตรา
ผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2564
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
หน้าที่ 6
ส่วนที่ 2
รายงานผลการดำเนินงานตามภารกิจหลัก
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ส่วนที่ 2
รายงานผลการดำเนินงานตามภารกิจหลัก
2.1 โครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่
เพื่อบริการงานวิชาการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ โดยการเพิ่มศักยภาพบุคลากร
ข้อมูลสารสนเทศ และองค์ความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคม รวมทั้งเป็นหน่วยเคลื่อนที่ทางวิชาการเชิงรุก
แก่หน่วยงานบริการทุกกลุ่มเป้าหมายในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาสาสมัคร
และภาคีเครือข่าย ซึ่งกิจกรรมภายใต้โครงการศูนย์บริการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่ ประกอบด้วย
2.1.1 การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research : R2R)
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรขององค์กร ให้เป็น
นักวิจัยที่สามารถนำงานวิจัยมาเป็นกลไกการขับเคลื่อนและพัฒนางานประจำ ให้มีกระบวนการค้นคว้าหาความรู้อย่างมีระบบ
เพื่อตอบประเด็นที่สังสัย โดยมีระเบียบวิธีอันเป็นที่ยอมรับ เพื่อพัฒนางาน พัฒนาบุคลากร พัฒนาองค์กร นำไปสู่
การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้
การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ดำเนินการภายใต้โครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคม
และความจัดสวัสดิการสังคม ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทภารกิจด้านการเป็นศูนย์กลางให้บริการและถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์แก่หน่วยงานในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชน
ในปีงบประมาณ 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้จัดทำกิจกรรม การพัฒนางานประจำ
สู่งานวิจัย โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวนทั้งสิ้น 7
หน่วยงานเข้ามาร่วมขับเคลื่อน ประกอบด้วย
1.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร
2.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนอง
3.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา
4.สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (บ้านศรีสุราษฎร์)
จังหวุดสุราษฎร์ธานี
6.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดภูเก็ต
7.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่
หน้าที่ 7
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หัวข้อการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research : R2R) ประกอบด้วย
1.การพัฒนางานส่งเสริมอาชีพด้วยการมีส่วนร่วมและส่งเสริมการขายด้วยระบบออนไลน์
2.การพัฒนาประสิทธิภาพองค์ความรู้ของผู้ปฏิบัติงานศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 จังหวัดระนอง
3.การพัฒนากระบวนการทำงานของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในการช่วยเหลือ
ผู้ประสบปัญหาทางสังคมในพื้นที่จังหวัดพังงา
4.การพัฒนาอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จังหวัดนครศรีธรรมราช "การอบรมการใช้
สมุดพกครอบครัว" ตามโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน
5.ศึกษารูปแบบการสื่อสารด้านภาษาเมียนมาผ่านอปพลิเคชั่น เพื่อเป็น SMART ACTIVITY ROOM ผู้เสียหายจากการ
ค้ามนุษย์
6.การจัดกิจกรรมกลุ่มต่อการสร้างคุณค่าให้ตนเองของผู้ใช้บริการในบ้านมิตรไมตรีจังหวัดภูเก็ต ไปสู่การเป็นเพื่อนช่วยเพื่อน
7.ปัจจัยที่ส่งผลให้คนไร้ที่พึ่งได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่
หน้าที่ 8
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.1.2 งานบริการทางวิชาการ
กิจกรรมการขับเคลื่อนงานวิชาการเชิงรุกในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อการบริการให้ความรู้ด้านการพัฒนาสังคมแก่ภาคี
เครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประชาชนสัมพันธ์หน่วยงานสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ให้เป็น
ที่รู้จักของประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 มีกิจกรรม ดังนี้
1. โครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน" ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านสวยศรี
ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
2. "วันคนพิการสากลจังหวัดนครศรีธรรมราช" วันที่ 25 มีนาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมโรงละคร องค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
3. "วันคนพิการสากลจังหวัดสุราษฎร์ธานี" วันที่ 26 มีนาคม 2564 ณ สวนสาธารณะเกาะลำพู อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
4. กิจกรรมบอกข่าวเล่าเรื่อง พม. (ON-AIR) จำนวน 3 ครั้ง
- วันที่ 21 พฤษภาคม 2564
- วันที่ 25 มิถุนายน 2564
- วันที่ 2 กรกฎาคม 2564
5. เวทีเสวนาวิชาการ เรื่อง "ต่อต้านการค้ามนุษย์มุ่งสู่ Tier I ในสถานการณ์ COVID-19" สำนักงานส่งเสริม
และสนับสนุนวิชาการ 10 ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 ผ่านการประชุมทางไกลออนไลน์ (Zoom
Meeting) และ Facebook Live วันที่ 28 มิถุนายน 2564
6. หน่วยเคลื่อนที่บริการวิชาการ ณ ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 วันที่ 9 กันยายน 2564
7. กิจกรรมให้ความรู้ เรื่อง เด็กและเยาวชนกับการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ผ่านระบบ
ประชุมทางไกลออนไลน์ (Zoom Meeting) ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 วันที่ 15
กันยายน 2564
8. เวทีเสวนาวิชาการ "แลกเปลี่ยนสร้างแรงบันดาลใจเครือข่าย อพม. กับทีม พม. จังหวัด (One Home) 7 จังหวัดภาคใต้"
ตอนบน ผ่านระบบทางไกลออนไลน์ (Google Meet) ณ ห้องประชุมศูนบย์ปฏิบัติการ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
วันที่ 27 กันยายน 2564
หน้าที่ 9
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 10
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 11
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน่วยเคลื่อนที่ทางวิชาการเชิงรุก ปีงบประมาณ 2564
ผลการดำเนินการออกหน่วยเคลื่อนที่ทางวิชาการเชิงรุก จัดได้จำนวน 10 ครั้ง แบ่งเป็นรูปแบบ ดังนี้
รูปแบบ ON Ground จำนวน 3 ครั้ง
รูปแบบ ON Air จำนวน 3 ครั้ง
รูปแบบ ON Line จำนวน 4 ครั้ง
*** สำหรับรูปแบบ ON Air จะไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด แต่สามารถบอกพื้นที่การกระจายเสียงคลื่นวิทยุได้ คือกระจายเสียง
ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอสิชลและอำเภอทุ่งสง) จังหวัดกระบี่ (อำเภอปลายพระยา)
จังหวัดชุมพร (อำเภอละแม) ***
หน้าที่ 12
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.1.3 การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM)
การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) เป็นการรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจาย
อยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสารมาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถเชิงแข่งขันสูงสุด โดยเป้าหมายที่สำคัญของการจัดความรู้มุ่งมั่นพัฒนาใน 3 ประเด็น ได้แก่
พัฒนางาน พัฒนาคนและการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 เป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมและ
สนับสนุนวิชาการด้านการพัฒนาสังคมแก่ภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ ศึกษา วิเคราะห์ สถานการณ์เพื่อคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์
ทางสังคมและผลกระทบ การถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาสังคมในระดับพื้นที่
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้ดำเนินโครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคม
โดยมีกิจกรรม การจัดการความรู้และการถ่ายทอดความรู้ ซึ่งเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในพื้นที่เขตจังหวัดรับผิดชอบ สำนักงาน
ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ประกอบด้วยจังหวัด กระบี่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง และสุราษฎร์ธานี เพื่อนำ
องค์ความรู้ที่ได้มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจสามารถเข้าถึงความรู้ ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนางานหรือนำไป
ประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องตามบริบทงานได้อย่างเหมาะสมต่อไป
สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 มีเป้าหมายในการจัดทำ
ชุดความรู้ จำนวนทั้งสิ้น 6 เรื่อง ซึ่งสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้จำนวนทั้งสิ้น 6 เรื่อง โดยจำแนกตามประเด็นการกำหนด
องค์ความรู้ 5 ประเด็น ดังนี้
1. เสริมพลัง อพม. สานต่อการพัฒนาสังคม (จังหวัดสุราษฎร์ธานีและระนอง)
2. ศิลปะบำบัด ศาสตร์ ศิลป์ สู้ซึมเศร้า (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
3. คู่มือปฏิบัติงานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พื้นที่รับผิดชอบ)
4. กองทุนผู้สูงอายุสู่การสร้างอาชีพ (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
5. การจัดการภัยพิบัติ กรณีศึกษา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช
6. ทีมโฆษก พม. (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่
รายละเอียด KM
หน้าที่ 13
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.1.4 กิจกรรมบูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง
เพื่อการแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตผู้ประสบปัญหาทางสังคม และพัฒนาศักยภาพชุมชนให้เข้มแข็งตามบริบทของพื้นที่
ภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชน จำนวน 8 กิจกรรม ดังนี้
1. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 การประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานทีม พม.จังหวัดกระบี่ ภายใต้แนวคิด
บ้านเดียวกัน (One Home) ครั้งที่ 2 เพื่อการขับเคลื่อนการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ณ ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ เพื่อการขับเคลื่อนการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง
2. วันที่ 3 มีนาคม 2654 การประชุมการขับเคลื่อนโครงการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการตำบลสร้างเสริมสวัสดิการสังคมประจำปี 2564 (เวทีจุดประกายขายความคิด) สาระสำคัญคือ
กระบวนการดำเนินโครงการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
3. วันที่ 11 มีนาคม 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร และทีม พม.จังหวัด (One Home) จัดประชุมโครงการบูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง
เพื่อชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ บูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็งนำเสนอข้อมูลรายงานสถานการณ์ทางสังคม
พร้อมทั้งข้อมูล TPMAP และคัดเลือกคณะทำงานสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี
จังหวัดชุมพร
4. วันที่ี 11 มีนาคม 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา และทีม พม.จังหวัด (One Home) จัดประชุมโครงการบูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง
เพื่อชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ บูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็งนำเสนอข้อมูลรายงานสถานการณ์ทางสังคม พร้อม
ทั้งข้อมูล TPMAP และคัดเลือกคณะทำงานสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลนบปลิง อำเภอเมือง จังหวัด
พังงา
หน้าที่ 14
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
5. วันที่ 19 มีนาคม 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนอง และทีม พม.จังหวัด (One Home) จัดประชุมโครงการบูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง เพื่อ
ชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ บูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็งนำเสนอข้อมูลรายงานสถานการณ์ทางสังคม พร้อมทั้ง
ข้อมูล TPMAP และคัดเลือกคณะทำงานสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง ณ ห้องประชุมวิทยาลัยชุมชนระนอง ตำบลบางริ้น อำเภอ
เมือง จังหวัดระนอง
6. วันที่ 21 เมษายน 2564 ลงพื้นที่นำสมุดพกครอบครัวเก็บข้อมูลครัวเรเปราะบาง จำนวน 3 ครัวเรือน ในพื้นที่
สร้างเสริมชุมชนเข้มแข็งตำบลขุนทะเล ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทีม พม.
จังหวัด (One Home) และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ตามโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน
ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หน้าที่ 15
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
7. วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 จัดจัดการประชุมตัวชี้วัดระดับความสำเร็จการบูรณาการสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง
สสว.1-11 ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ (Google Meet) มีประเด็นสำคัญคือการจัดทำแผนปฏิบัติงานโครงการบูรณาการ
สร้างชุมชนเข้มแข็ง 3 ปี (ปี 2564 - 2566
8. วันที่ 26 สิงหาคม 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทีม พม. จังหวัด (One Home) จัดประชุมถอดบทเรียนโครงการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง
ตำบลขุนทะเล จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้กับภาคีเครือข่าย ได้แก่ หน่วยงานทีม พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำเสนอและวิเคราะห์
สถานการณ์ในพื้นที่ตำบลขุนทะเล รวมถึงร่วมกันถอดบทเรียน สรุปประเด็น ปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน และข้าเสนอแนะ
เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประสบปัญหาทางสังคมรายครัวเรือน ให้สามารถพึ่ีงพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
หน้าที่ 16
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
9. วันที่ 30 มีนาคม 2564 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามผลการดำเนินงานศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคมและ
จัดสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 (รอบ 6 เดือนแรก) พร้อมทั้งแลกเปลี่ยน ข้อคิด
เห็นข้อเสนอแนะ และปัญหาอุปสรรคต่างๆ ระหว่างการดำเนินงานเพื่อนำไปวิเคราะห์ และหาข้อสรุป ณ โรงแรมขนมซันไรส์
รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
หน้าที่ 17
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.1.5 กิจกรรมการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้ดำเนินการจัดเช่าแพ็คเกจ Google Workspace จำนวน 2 Units
(2 Users) โดย 1 User เป็น User ที่ใช้ภายในองค์กร และ 1 User เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานทีม พม.
จังหวัด (One Home) ในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ประกอบด้วยจังหวัด กระบี่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช
ชุมพร ระนอง และสุราษฎร์ธานี โดยมีกิจกรรมการอบรมถ่ายทอดความรู้และทักษะการใช้งาน Google Workspace
รวมถึงให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการจองระบบห้องประชุมออนไลน์ ให้กับผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้มาพัฒนาให้เป็นระบบหรือสามารถนำไปประยุกต์ใช้
ในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องตามบริบทงานได้อย่างเหมาะสมต่อไป แบ่งได้เป็น 2 กิจกรรม ดังนี้
1.การจัดอบรมให้ความรู้
สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 จัดอบรม Google
Workspace จำนวนทั้งสิ้น 2 ครั้ง ดังนี้
1.การอบรม เรื่อง การใช้งาน Google Meet จัดอบรมวันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 เวลา 09.30-12.00 น. กลุ่มเป้าหมาย
คือผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 39 หน่วยงานๆ ละ 2 คน โดยนางสาวนิศากร
หนูนวล (นักพัฒนาสังคม) สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 เป็นวิทยากร
2.การอบรมการใช้งาน Google Workspace จัดอบรมวันพุธที่ 20 ตุลาคม 2564
เวลา 09.00-15.00 น. กลุ่มเป้าหมายคือผู้ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 39 หน่วยงานๆ ละ 2 คน โดยนายอานนท์ ตันสกุล
จากบริษัท ล็อกซเล่ย์ ออบิท จำกัด (มหาชน) เป็นวิทยากร
2. การให้บริการห้องประชุมออนไลน์
สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้บริการระบบ
ห้องประชุมออนไลน์ (Google Meet) ให้แก่หน่วยงานทีม พม.
จังหวัด (One Home) ในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ประกอบด้วยจังหวัด กระบี่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช
ชุมพร ระนอง และสุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 2 ครั้ง รายละเอียดการให้บริการ ดังนี้
หน้าที่ 18
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.2 โครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานแผนงานด้านสังคมในระดับพื้นที่
2.2.1 การรายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด
เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ทางสังคม และจัดทำรายงานสถานการณ์
ทางสังคมระดับกลุ่มจังหวัด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 10 พร้อมทั้งเผยแพร่รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดให้หน่วยงานต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์
ผลการดำเนินงาน
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ดำเนินการจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม ประจำปี 2564 โดยแบ่งเป็น
สถานการณ์ทางสังคมเชิงกลุ่มเป้าหมาย สถานการณ์ทางสังคมเชิงประเด็น และการวิเคราะห์และจัดลำดับความรุนแรงของสถานการณ์
ทางสังคมกลุ่มจังหวัด จากการวิเคราะห์พบว่า สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ คือ กลุ่มเปราะบาง (คนยากจน) การแพร่ระบาดของโรค
ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการให้บริการของศูนย์ช่วยเหลือสังคมสายด่วน 1300
กลุ่มเปราะบาง (คนยากจน)
จากข้อมูลของระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้าหรือ TPMAP ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่ง
เสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 คือ ผู้ที่มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเกณฑ์ในมิติต่าง ๆ 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่
ด้านการศึกษา ด้านรายได้ และด้านการเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐ พบว่ามีจำนวนครัวเรือนเปราะบางเป้าหมาย จำนวน 87,288 ครัวเรือน
ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ตกเกณฑ์ในมิติด้านรายได้ รองลงมาเป็นมิติด้านความเป็นอยู่ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพและ
ด้านการเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐ ตามลำดับ จากการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะ
บางรายครัวเรือน เพื่อขจัดปปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้
ข้อมูลจาก TPMAP พบว่า การถ่ายทอดและการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่ MOU ให้ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงาน 12 กระทรวง
ในระยะเริ่มแรก ยังไม่เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างครอบคลุมทุกมิติเป็นรูปธรรม ซึ่งอาจส่งผลต่อการวิเคราะห์ข้อมูล
และเกิดข่องว่างของข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง มีผลต่อการวางแผนแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการจำแนกข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย
ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน
หน้าที่ 19
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดที่มีความรุนแรงและแพร่กระจายไปในวงกว้างมากขึ้น โดยผลมาจากการพัฒนา
สายพันธ์และความรุนแรงของโรค ซึ่งข้อมูลผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่เดือนเมษายน - ตุลาคม 2564
จำนวน 100,452 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 12,327 คน รักษาหายแล้ว 87,464 คน เสียชีวิต 661 คน โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ
สูงสุดได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช รองลงมาคือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ชุมพร ระนอง กระบี่และพังงาตามลำดับ เพื่อเป็นการป้องกัน
การระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งระบาดอย่างหนักทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ ทั้งการประกาศ
Lock down ทั่วประเทศ ในช่วงเวลา 21.00 – 04.00 น. การแบ่งโซนสีพื้นที่ตามความรุนแรงในการแพร่ระบาดของโรคไวรัส
โคโรนา 2019 จัดหาวัคซีนพร้อมกับรณรงค์ให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุมกันหมู่ให้กับประชากรทั่วประเทศ นอกจากนี้
แต่ละจังหวัดยังมีมาตรการเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค เช่น ขอความร่วมมือประชาชนห้ามเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงที่มี
การระบาดหนัก จะเข้าจังหวัดได้ต้องมีหลักฐานการรับวัคซีนแล้ว เป็นต้น
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รวบรวมข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในกลุ่มเปราะบางทางสังคมและผู้ป่วยยืนยัน ภายใต้การช่วยเหลือของหน่วย
งานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2564 ในพื้นที่ 7
จังหวัดภาคใต้ตอนบน (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่) ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางแล้ว
จำนวน 9,049 ครัวเรือน เป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 จำนวน 193 ครัวเรือน ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการติด
เชื้อโควิด -19 จำนวน 36 ครัวเรือน เมื่อแบ่งตามรูปแบบครอบครัวที่ให้การช่วยเหลือ มีครัวเรือนที่ได้รับการช่วยเหลือ
ทั้งหมด 7,977 ครัวเรือน ช่วยเหลือเป็นตัวเงินรวมทั้งสิ้น 10,004,900 บาท ถุงยังชีพ 1541 ชุด ข้าวสาร 950 ถุง
อาหารแห้ง น้ำดื่ม 15,889 ชุด อาหารกล่อง 17,526 กล่อง เวชภัณฑ์ป้องกัน 1,121 ชุด ของใช้ในชีวิตประจำวัน
278 ชุด แพมเพิสเด็ก 34 ชุด แพมเพิสผู้ใหญ่ 484 ชุด จัดตั้งโรงครัว 6 ครั้ง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย 114 ครั้ง นมเด็ก
4,857 ชุด และมีการช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์ จำนวน 2600 ครั้ง
ตาราง แสดงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิ ด-19 (หน่ วย:คน)
จังหวัด จำนวนประชากร ระลอก 1 - 2 ระลอกเมษายน รวม
ผู้ติดเชื้อ ร้อยละ ผู้เสียชีวิต ร้อยละ ผู้ติดเชื้อ ร้อยละ ผู้เสียชีวิต ร้อยละ ผู้ติดเชื้อ ร้อยละ ผู้เสียชีวิต ร้อยละ
นครศรีธรรมราช 1,383,329 16 0.0012 1 0.0001 6,935 0.5013 55 0.0040 6,951 0.1731 56 0.0014
กระบี่ 441,292 29 0.0066 0 - 1,454 0.3295 2 0.0005 1,483 0.0369 2 0.00005
พังงา 238,068 2 0.0008 0 - 1,010 0.4242 5 0.0021 1,012 0.0252 5 0.0001
ภูเก็ต 373,702 230 0.0615 3 0.0008 2,973 0.7956 18 0.0048 3,203 0.0797 21 0.0005
สุราษฎร์ธานี 964,108 29 0.0030 0 - 5,993 0.6216 38 0.0039 6,022 0.1499 38 0.0009
ระนอง 163,746 1 0.0006 0 - 5,114 3.1231 35 0.0214 5,115 0.1273 35 0.0009
ชุมพร 452,509 21 0.0046 3 0.0007 3,460 0.7646 18 0.0040 3,481 0.0867 21 0.0005
รวม 4,016,754 328 0.0082 7 0.0002 26,939 0.6707 171 0.0043 27,267 0.6788 178 0.0044
ที่มา : https://sites.google.com/view/datacenter-tpso10 ศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564
หน้าที่ 20
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ภาพ สถานการณ์ การแพร่ ระบาดของโรคโควิ ด-19 (หน่ วย: คน)
ที่มา : https://sites.google.com/view/datacenter-tpso10 ศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564
ภาพ รายงานข้ อมู ลการให้ ความช่ วยเหลื อผู้ ได้ รั บผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ ระบาด
ของโรค โควิ ด-19 ในกลุ่ มเปราะบางทางสั งคมและผู้ ป่ วยยื นยั น ภายใต้ การช่ วยเหลื อ
ของหน่ วยงานในสั งกั ด กระทรวงการพั ฒนาสั งคมและความมั่ นคงของมนุ ษย์ (หน่ วย: คน)
ที่มา : รายงาน ศปก.พม. เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564
https://datastudio.google.com/reporting/77481907-b414-4e6a-904e-0901de2dd0c6/page/pjFWC
หน้าที่ 21
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
การให้บริการของศูนย์ช่วยเหลือสังคมสายด่วน 1300
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคมสายด่วน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556
โดยให้บริการเต็มรูปแบบรวมสายการให้บริการ ณ จุดเดียวในส่วนกลางที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กทม. สายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
MODEL กระบวนงานให้บริการระบบงานศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300
Input Process การช่วยเหลือแก้ไข บันทึกระบบ การรายงาน
การรับเรื่องผ่านการสนทนา 1. ปฏิบัติงานหน่วยเคลื่อนที่เร็ว - เก็บรายละเอียด ข้อมูล ยุติเรื่อง รายงานผลกลับ
- การรับการส่งต่อจาก จนท.รับโทรศัพท์ - แก้ไขดำเนินการ ในระบบ มายังส่วนกลาง
Conseling/Counselor - การปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว/เยี่ยมบ้าน - ยุติปัญหา Software
- การบูรณาการช่วยเหลือในระดับจังหวัด (Software)
การบันทึกการสนทนา - การดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบ วางแผนในการให้ความช่วย
ในระบบ - การบันทึกผลการช่วยเหลือในระบบ เหลือตามสภาพปัญหา กฎหมาย
- การรายงานจากหน่วยงานที่ช่วยเหลือมายังส่วนกลาง และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
การวิเคราะห์ ในระบบ Sofeware แบบบูรณาการ
ประเด็นปัญหา
2. ส่งต่อความช่วยเหลือ(Team One Home)
สรุปรายละเอียด/ส่งต่อ - หน่วยงาน พส.
- หน่วยงาน ดย.
- หน่วยงาน พก.
- หน่วยงาน สค.
- หน่วยงาน ผส.
- หน่วยงาน กคช.
- หน่วยงาน พอช.
- อปท./ภาคีเครือข่ายต่าง ๆ
ภาพ กระบวนงานให้บริการระบบงานศู นย์ช่ วยเหลือสังคม 1300
ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้ให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น
6,397 ราย โดยได้ให้บริการแก่กลุ่มผู้ใหญ่มากที่สุด จำนวน 1,340 ราย รองลงมากลุ่มเยาวชน จำนวน 521 ราย
กลุ่มเด็ก จำนวน 3,563 ราย และกลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 973 ราย ตามลำดับ ทั้งนี้มีผลการให้ความช่วยเหลือแก่
ผู้รับบริการ ในเรื่องการให้คำปรึกษา จำนวน 4,671 ราย การส่งต่อ จำนวน 1,804 ราย ซึ่งมีการส่งต่อหน่วยงานภายใน
สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งสิ้น 1,779 ราย โดยส่งต่อหน่วยงานของสำนักงาน
ปลัดกระทรวง พม. มากที่สุด จำนวน 1,013 ราย รองลงมาหน่วยงานภายในกรมกิจการเด็กและเยาวชน จำนวน 382 ราย
หน่วยงานภายในกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จำนวน 302 ราย หน่วยงานภายในกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตคนพิการ จำนวน 66 ราย หน่วยงานภายในกรมกิจการผู้สูงอายุ จำนวน 14 ราย และหน่วยงานภายใน
กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จำนวน 2 ราย ตามลำดับ การส่งต่อหน่วยงานภายนอก มีจำนวนทั้งสิ้น 24 ราย
โดยส่งต่อหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในมากที่สุด จำนวน 11 ราย รองลงมาสถานีตำรวจท้องที่ จำนวน 5 ราย
โรงพยาบาล จำนวน 4 ราย หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2 ราย และศูนย์เอราวัณ จำนวน 1 ราย
ศูนย์ดำรงธรรม จำนวน 1 ราย ตามลำดับ
ถ้าพิจารณาประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของผู้รับบริการจากศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม สายด่วน 1300
กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน พบว่า มีผู้แจ้งปัญหาความเดือดร้อนรวมทั้งสิ้น 6,397 ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่น่าสนใจ
ทั้งนี้มีประเด็นปัญหาที่รับแจ้งมากที่สุด คือ ปัญหาเรื่องสิทธิสวัสดิการและกฎหมาย จำนวน 2,621 ราย รองลงมา
เป็นปัญหารายได้ความเป็นอยู่ จำนวน 2,270 ราย ปัญหาที่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมเหตุการณ์อุบัติใหม่อยู่ใน
ความสนใจของประชาชน จำนวน 531 ราย ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว จำนวน 231 ราย ปัญหาความ
รุนแรง 218 ราย ปัญหาเร่ร่อน/ขอทาน จำนวน 165 ราย ปัญหาสุขภาพ/อุบัติเหตุ/อุบัติภัย จำนวน 164 ราย
หน้าที่ 22
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ปัญหาพฤติกรรม จำนวน 142 ราย ปัญหาบุคคลสูญหาย พลัดหลง ศพนิรนาม จำนวน 24 ราย ปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม
ไม่พึงประสงค์ จำนวน 23 ราย และการถูกแสวงหาผลประโยชน์/แจ้งเบาะแสค้ามนุษย์ จำนวน 8 ราย ตามลำดับ
ภาพ สถิติการให้บริการระบบงานศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน
หน้าที่ 23
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.2.4 การขับเคลื่อนการบูรณาการแผนงานด้านสังคมกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2564
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 ดำเนินการจัดประชุม
เชิงปฏิบัติการกิจกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการโครงการด้านสังคมในระดับพื้นที่ ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 15-16
มีนาคม 2564 ณ โรงแรม CBD 2 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์จาก 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วมประชุม
สาระสำคัญในการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ มีการนำเสนอการวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่ง
อ่าวไทยและฝั่งอันดามัน การให้ความรู้แนวทางการจัดสรรงบประมาณให้กลุ่มจังหวัด แนวทางการเขียนโครงการให้สอดคล้อง
กับยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ภาคใต้ ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และแนวทางการวิเคราะห์โครงการตามมติคณะกรรมการบูรณาการ
นโยบายพัฒนาภาค ทั้งนี้ มีการระดมความคิดเห็นและนำเสนอประเด็นด้านสังคมระดับพื้นที่ และการจัดทำข้อเสนอโครงการ
ที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนพัฒนา กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ประจำงบประมาณ พ.ศ. 2566
โดย ผศ.ดร.นิทัศน์ เพราแก้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และ นายอัมรินทร์ นวลน้อย ผู้อำนวยการ
กลุ่มบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เป็นวิทยากร
ผลจากการระดมความคิดเห็น ทำให้ได้ร่างข้อเสนอโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนพัฒนา
กลุ่มจังหวัดฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการเสริมสร้างศักยภาพด้านอาชีพเพื่อการพัฒนา
คนและสังคมอย่างมีคุณภาพ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมย่อย คือ
กิจกรรมย่อยที่ 1 ยกระดับศักยภาพ สร้างรายได้และทางเลือกอาชีพด้วยตลาดออนไลน์
กิจกรรมย่อยที่ 2 การส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพช่างชุมชนเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยครัวเรือนเปราะบาง
กิจกรรมย่อยที่ 3 เรียนรู้อาชีพทางเลือก เพื่อเสริมรายได้ครัวเรือนเปราะบาง
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้จัดประชุมทบทวนโครงการด้านสังคมในระดับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่ง
อ่าวไทยและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จำนวน 2 ครั้ง เพื่อทบทวนสาระสำคัญและกิจกรรมโครงการ ผ่านระบบประชุมทาง
ไกลออนไลน์ Zoom Meeting ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. 38 หน่วยงาน
และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด 4 ท่าน คือ ผศ.ดร.นิทัศน์ เพราแก้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี , นางสาวอรรจนาปัทมสิงห์ ณ อยุธยาผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ 4 , นายอัมรินทร์
นวลน้อย ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และ นายสุริยัน เดชรักษา ผู้อำนวยการกลุ่ม
งานบริหารยุทธศาสตร์ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ร่วมวิพากย์และให้ข้อคิดเห็นต่อการจัดทำข้อเสนอโครงการ โดยทั้ง 4 ท่าน
ได้ให้ข้อคิดเห็นสำคัญต่อการจัดทำข้อเสนอโครงการ ดังนี้
ผศ.ดร.นิทัศน์ เพราแก้วมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
1.โครงการที่กำหนดต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนแม่บท แผนพัฒนา
กลุ่มจังหวัด มีลักษณะโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนด
หน้าที่ 24
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.มีการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ศักยภาพ หรือทำ SWOT Analysis
3.เป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ร่วมกันมากกว่า 1 จังหวัด เช่น ประโยชน์ร่วมกันทางกายภาพ
4.ไม่เป็นโครงการที่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การจัดซื้อครุภัณฑ์การซ่อมแซมอาคารสิ่งก่อสร้าง
ของราชการ
5.ลักษณะโครงการมีความพร้อม สามารถดำเนินการได้ มีความเป็นไปได้ และมีความยั่งยืน
นางสาวอรรจนาปัทมสิงห์ ณ อยุธยาผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ 4
1.กลุ่มเป้าหมาย
- การกำหนดคุณสมบัติ วิธีการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องมีการกำหนดคุณสมบัติหรือวิธี
การกลั่นกรองกลุ่มเป้าหมาย สามารถอธิบายได้ว่าทำไมจึงเลือกกลุ่มนี้
2.ชุดวิชาฝึกอบรม
- ระบุให้ชัดเจนว่าชุดวิชาที่ฝึกอบรมมีกี่ชุด เนื้อหา/หลักสูตรประกอบด้วยอะไรบ้าง
3.ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ผลผลิต ผลลัพธ์
นายอัมรินทร์นวลน้อยผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
1.ดำเนินการวิเคราะห์และจัดทำข้อเสนอโครงการโดยการมีส่วนร่วม
2.หลักการเหตุผลมีความเชื่อมโยงทั้งในระดับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนา
กลุ่มจังหวัด โดยให้เห็นความสำคัญระดับนโยบาย ข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มจังหวัดอ่าวไทย และกลุ่ม
จังหวัดอันดามัน ระบุให้เห็นปัญหา และเหตุผลที่จะต้องดำเนินการโครงการนั้นๆ
3.กิจกรรมในลักษณะการฝึกอบรม อาทิ e-commerce ทุกกิจกรรมสามารถประเมินผลความสำเร็จได้ ชี้ชัดให้ได้
ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร
นายสุริยัน เดชรักษา ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีการกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา “ทุนมนุษย์” ไว้ในแผน
ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม การเสนอโครงการด้านการพัฒนาต้นทุนมนุษย์ กลับไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ
ในการดำเนินโครงการด้านนี้เลย เนื่องด้วยคณะกรรมาธิการมีข้อคิดเห็นว่าการพัฒนาต้นทุนมนุษย์เป็นการดำเนินงาน
ตามภารกิจระจำของหน่วยงาน
ข้อคิดเห็นต่อการเสนอโครงการเพื่อของบพัฒนากลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามัน - ต้องมีการระบุประเด็นปัญหาความต้องการ
จากระดับพื้นที่ และนำความต้องการนั้นมาวิเคราะห์ เพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการโดยโครงการที่นำเสนอต้องไม่เป็นภารกิจของ
ท้องถิ่น
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. 38 หน่วยงาน ร่วมประเมิน
ความสอดคล้องของกิจกรรมและสถานการณ์ทางสังคมระดับพื้นที่ รวมทั้งความพร้อมของทีม One Home ของแต่ละจังหวัดในการ
ขับเคลื่อนโครงการกรณีที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอโครงการเสริมสร้าง
หน้าที่ 25
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ศักยภาพด้านอาชีพเพื่อการพัฒนาคนและสังคมอย่างมีคุณภาพ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากแผน
พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
หน้าที่ 26
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.2.3 การขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้ดำเนินการขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด เพื่อเป็นแหล่งที่
รวบรวมข้อมูล นำเข้าและจัดเก็บข้อมูลด้านสังคมทั้งจากระบบสารสนเทศด้านสังคมของ พม. และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงสถานการณ์ทาง
สังคมที่มีตัวชี้วัดที่เป็นสากล
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ดำเนินการจัดเก็บ รวบรวม และเผยแพร่ข้อมูลด้านสังคมทางเว็ปไซด์ของ
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์ ครอบคลุมทั้งข้อมูลเชิงกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูล
เชิงประเด็น สถิติการให้บริการ รวมทั้งสถานการณ์ทางสังคมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถนำข้อมูลไป
ใช้ประโยชน์ประกอบในการวางแผนงาน/โครงการที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
รูปแบบศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด มี ๒ รูปแบบ
1. ศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด สสว.1-11 Thailand Social Data Center (TSDC)
http://tsdc.m-society.go.th/TSDC/index.php
2. ศูนย์ข้อมูลกลุ่มจังหวัด สสว.๑๐
http://sites.google.com/view/datacenter-tpso10
ปรับปรุงช่องทางการเข้าถึงข้อมูล (banner) ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลตามรูปแบบที่กำหนด
มีการปรับปรุงช่องทางการเข้าถึงข้อมูล 3 ช่องทาง ได้แก่
1.เว็บไซต์ของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
http://tpso11.m-society.go.th/index.php/th/
2.ศูนย์ข้อมูลกลุ่มจังหวัด สสว.10
http://sites.google.com/view/datacenter-tpso10
3.Line Official Account TPSO 10 สสว.สฎ.
หน้าที่ 27
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 28
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ถอดบทเรียนและประเมินผลศูนย์ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัด
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 ในฐานะเจ้าภาพ กำหนดจัดถอดบทเรียนการดำเนินงานศูนย์ข้อมูล
ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เพื่อสรุปผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลทางสังคม ปี พ.ศ.๒๕๖๔
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นผลการดำเนินงานในประเด็นปัญหาและอุปสรรคการใช้งานข้อมูลและแนวทางการพัฒนาปรับปรุงศูนย์
ข้อมูลทางสังคมกลุ่มจังหวัดและการนำเข้าข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อขยายผลการจัดทำฐานข้อมูล
หน้าที่ 29
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.2.4 กิจกรรมการวัดอุณหภูมิทางสังคม
เพื่อสำรวจความคิดเห็น และนำข้อมูลไปใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคม ให้สอดคล้องกับพื้นที่
กลุ่มจังหวัด
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับกับศูนย์สำรวจ
ความคิดเห็น "นิด้าโพล" สำรวจความคิดเห็นด้านสังคม จำนวน 2 ครั้ง ดังนี้
1.กิจกรรมวัดอุณหภูมิทางสังคม (พม.POLLX ครั้งที่ 1 ในประเด็น "Gen Z มีอะไรจะบอกต่อสังคมไทย"
ทำการสำรวจระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม พ.ศ. 2564 จากเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 12 - 24 ปี ในเขตพื้นที่
จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง
แบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) รวมขนาดตัวอย่างทั้งสิ้น จำนวน 400 หน่วยตัวอย่าง ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ และ
เผยแพร่ผลการสำรวจข้อมูล ครั้งที่ี 1 โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.1 เรื่องที่ต้องการเห็นอะไรในประเทศไทย 10 ปีข้างหน้า อันดับ 1 คือ เศรษฐกิจ
ดีขึ้น รองลงมา คือ ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น และอันดับ 3 คือ ระบบการศึกษา
ที่ตอบโจทย์ชีวิตต
1.2 เรื่องที่ต้องการให้คนไทยพัฒนา อันดับ 1 คือ ความมีระเบียบวินัย/เคารพกฎหมาย
รองลงมา คือ ความซื่อสัตย์สุจริต และอันดับ 3 คือ ความมีจิตสำนึกต่อสาธารณะ
1.3 เรื่องที่มีความกังวลต่อสังคมไทย อันดับ 1 คือ ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
รองลงมา คือ ปัญหาโรคระบาด และอันดับ 3 คือ ปัญหาคุณภาพการศึกษา
1.4 เป้าหมายในชีวิต อันดับ 1 คือ เรียนจบมีงานทำ รองลงมา คือ มีครอบครัว
ที่สมบูรณ์ และอันดับ 3 คือ ด้านอาชีพ
1.5 ทักษะที่ต้องการพัฒนา อันดับ 1 คือ ด้านภาษา รองลงมา คือ ด้านเทคโนโลยี
และอันดับ 3 คือ ด้านอาชีพ
1.6 กิจกรรมที่อยากทำร่วมกับครอบครัว อับดับ 1 คือ รับประทานอาหาร รองลงมา
คือ ท่องเที่ยว/ช้อปปิ้ง และอันดับ 3 คือ ดูหนัง ฟังเพลง
1.7 เรื่องที่ได้ทำในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา อันดับ 1 คือ การดูแลสุขภาพ รองลงมา คือ
การพัฒนาตนเอง และอันดับ 3 คือ การทำกิจกรรมร่วมกันกับบุคคลในครอบครัว
1.8 กิจกรรมที่ทำในเวลาว่าง อันดับ 1 คือ เล่นซื่อโซเชียล รองลงมา คือ นอนพักผ่อน
และอันดับ 3 คือ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ
1.9 กิจกรรมทางสังคมที่เข้าร่วม อันดับ 1 คือ ร่วมกิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา
รองลงมา คือ ร่วมกิจกรรมสืบสานประเพณี วัฒนธรรม และอันดับ 3 คือ ร่วมกิจกรรม
สาธารณประโยชน์
หน้าที่ 30
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
กิจกรรมวัดอุหภูมิทางสังคม (พม.POLL) ครั้งที่ 1 ในประเด็น
"Gen Z มีอะไร จะบอกต่อสังคมไทย"
หน้าที่ 31
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.กิจกรรมวัดอุณหภูมิทางสังคม (พม.POLLX ครั้งที่ 2 ในประเด็น "60+"ฝ่าวิกฤติ COVID-19 สู่วิถีถัดไป Next
Normal"
มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้สูงอายุที่มีต่อสถานการณ์และผลกระทบ ของการแพร่ระบาดของโรค
ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 ทำการสำรวจในเดือนสิงหาคม พ.ศ.
2564 จากผู้สูงอายุมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูณ์ขึ้นไป ในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวนพื้นที่ละ 2 จังหวัด ๆละ 200 ชุด รวมทั้งสิ้น 4,400 ชุด
ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง แบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling)
กำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.00 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 เก็บข้อมูลในพื้นที่ อำเภอตะกั่วทุ่ง และ
อำเภอเมือง จังหวัดพังงา กับ อำเภอหลังสวน และ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร รวมตัวอย่างทั้งสิ้น จำนวน 400 หน่วย
ตัวอย่าง ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้การลงพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น
ไปด้วยความยากลำบาก สสว.10 ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการ ให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(อพม.) ลงพื้นที่ภาคสนาม และการตอบแบบสอบถามออนไลน์ ครั้งที่ี 2 โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
2.1 ปัจจุบันท่านใช้อุปกรณ์สื่อสารในชีวิตประจำวันหรือไม่ ซึ่งพบว่า ใช้ ร้อยละ
89.00 โดยอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้มากที่สุดคือมื่อถือแบบสมาร์ทโฟน ร้อยละ 56.18
รองลงมาคือ มือถือแบบไม่ใช่สมาร์ทโฟน ร้อยละ 44.38 และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
โน๊ตบุ๊ค/แล็ปท็อป ร้อยละ 1.40 โดยส่วนใหญ่การใช้อุปกรณ์สื่อสารในช่วงการแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) นั้นใช้แอปพลิเคชั่นมากที่สุด 3 อันดับ
แรกคือ ไลน์ เฟซบุ๊ก ยูทูป และการสั่งซื้อสินค้าการบริการออนไลน์
2.2 ผลกระทบในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
มากที่สุดคือ เกิดความเครียด ร้อยละ 91.75 รองลงมา คือรายได้ลดลง มีภาระค่าใช้จ่าย
หนี้สินมากขึ้น ร้อยละ 47.25 และมีเวลาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น ร้อยละ 27.75
2.3 ผู้สูงอายุมีความวิตกกังวลในช่วงสถานการดังกล่าว อันดับแรกพบว่า เกิดความเครียด
ร้อยละ 42.29 รองลงมาคือ การทำมาหาเลี้ยงชีพ การประกอบอาชีพ ร้อยละ 12.57
และสถานการณ์และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ร้อยละ 12.32
2.4 เรื่องของการได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการเยียวยา/กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ได้รับความช่วยเหลือ ร้อยละ 93.25 ได้รับการช่วยเหลือฯ จากรัฐบาลมากที่ คือ
คนละครึ่ง ร้อยละ 50.49 รองลงมา เราชนะ ร้อยละ 37.80 และการลดค่าน้ำ
ค่าไฟ ร้อยละ 38.07
2.5 การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019
(COVID-19) อันดับแรกคือ ติดตามข้อมูลข่าวสาร ร้อยละ 89.25 รองลงมาคือ
ปฏิบัติตนตามนโยบายมาตรการ การควบคุมของรัฐ ร้อยละ 81.75 และฉีดวัคซีน
ป้องกันเชื้อไวรัสโครนา 2019 ร้อยละ 54.50
หน้าที่ 32
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
กิจกรรมวัดอุหภูมิทางสังคม (พม.POLL) ครั้งที่ 2 ในประเด็น
กิจกรรมวัดอุณหภูมิทางสังคม (พม.POLLX ครั้งที่ 2 ในประเด็น "60+"ฝ่าวิกฤติ COVID-19 สู่วิถีถัดไป Next Normal"
หน้าที่ 33
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.3 สนับสนุนงานตรวจราชการ
การตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
การตรวจราชการเป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายและแผนงาน โครงการสำคัญ
ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และในเรื่องที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล รวมทั้ง
การติดตามปัญหาหรือประเด็นทางสังคมที่สำคัญในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อประชาชน และ/หรือ การดำเนินงานของหน่วยงาน
ในพื้นที่ โดยกำหนดกรอบเวลาในการตรวจราชการ จำนวน 3 รอบ คือ
รอบที่ 1 Agenda Review การชี้แจงแผนการตรวจราชการ
รอบที่ 2 Progress Review การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามประเด็นการตรวจราชการ
รอบที่ 3 Evaluation การประเมินผลการดำเนินงานในภาพรวม ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ
ความคุ้มค่าในการปฏิบัติงาน และการขับเคลื่อนตามประเด็นการตรวจราชการประจำปี
แต่เนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
จึงเปลี่ยนแปลงวิธีการตรวจราชการจากการตรวจติดตามในพื้นที่ เป็นการประชุมผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการรายงาน
ผลการดำเนินงานตามประเด็นการตรวจราชการด้วยเอกสารตามแบบที่กำหนด ทั้งนี้ กำหนดประเด็นการตรวจราชการตาม
นโยบายรัฐบาลและแผนงานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ
ส่วนที่ 1 ประเด็นการตรวจราชการตามแผนปฏิบัติราชการกระทรวง พม. 6 ประเด็นหลัก คือ
ประเด็นการตรวจราชการที่ 1 การพัฒนาศักยภาพคนทุกกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย
- โครงการส่งเสริมความเข้มแข็งของสภาเด็กและเยาวชน
- โครงการผู้มีรายได้น้อยในเมืองและชนบทมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย
- โครงการบ้านเรา “ก้าว” ไปด้วยกัน
ประเด็นการตรวจราชการที่ 2 การบูรณาการเพื่อส่งมอบงานบริการสังคม
- การขับเคลื่อนแผนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของจังหวัด
- การขับเคลื่อนการดำเนินงานทีม พม.จังหวัด (One Home) เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการส่งมอบ
บริการสังคม
- การช่วยเหลือคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว
ประเด็นการตรวจราชการที่ 3 การส่งเสริมและพัฒนาเครือข่าย ประกอบด้วย
- การขับเคลื่อนงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- การขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจระดับจังหวัด
- การเสริมสร้างศักยภาพศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ
- การขับเคลื่อนการดำเนินงานคุ้มครองเด็กระดับจังหวัด
- การขับเคลื่อนงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการผ่านกลไกการประชุม
คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัด
ประเด็นการตรวจราชการที่ 4 การบริหารข้อมูล
- การขับเคลื่อนงานสู่การเป็นศูนย์ข้อมูลทางสังคมของจังหวัด
หน้าที่ 34
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ประเด็นการตรวจราชการที่ 4 การบริหารข้อมูล
- การขับเคลื่อนงานสู่การเป็นศูนย์ข้อมูลทางสังคมของจังหวัด
ประเด็นการตรวจราชการที่ 5 การขับเคลื่อนงานตามบริบทพื้นที่/จังหวัด
- การขับเคลื่อนงานตามบริบทพื้นที่/จังหวัด เช่น 1 จังหวัด 1 โครงการสำคัญ , โครงการที่ได้รับ
- การสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัด/กลุ่มจังหวัด
ประเด็นการตรวจราชการที่ 6 การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือข้อร้องเรียนของประชาชน
ส่วนที่ 2 ประเด็นการตรวจราชการเพิ่มเติม
โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2564
โครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน
การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ในพื้นที่
การดำเนินงานและการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน
การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 มีพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ซึ่งแบ่งเป็น 2 เขตตรวจ
ราชการ และเป็นพื้นที่รับผิดชอบของผู้ตรวจราชการกระทรวง 2 ท่าน คือ
นายชูรินทร์ ขวัญทอง หัวหน้าผู้ตรวจราชการ รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 5 ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (จังหวัดชุมพร
นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี)
นางเทพวัลย์ ภรณวลัย ผู้ตรวจราชการ รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 6 ภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดกระบี่ พังงา
ภูเก็ต และระนอง)
การดำเนินงานตรวจราชการ
รอบที่ 1 Agenda Review การชี้แจงแผนการตรวจราชการ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564
รอบที่ 2 Progress Review การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามประเด็น
การตรวจราชการ
ประชุมตรวจราชการผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุม ศปก.พม.ชั้น 2
อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จำนวน 2 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ประชุมตรวจราชการเขตตรวจราชการที่ 5 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564
เวลา 13.30 น. โดย นายชูรินทร์ ขวัญทอง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุม
ครั้งที่ 2 ประชุมตรวจราชการเขตตรวจราชการที่ 6 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. โดย นางเทพวัลย์ ภรณวลัย
ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุม
หน้าที่ 35
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
รอบที่ 3 Evaluation การประเมินผลการดำเนินงานในภาพรวม ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความคุ้มค่าในการปฏิบัติงาน
และการขับเคลื่อนตามประเด็นการตรวจราชการประจำปี โดยปรับรูปแบบการตรวจราชการเป็น “การรายงานด้วยเอกสาร”
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีความรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการตรวจราชการพบปัญหา อุปสรรค ในการปฎิบัติงานระดับพื้นที่ และผู้ตรวจราชการได้ให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนิน
งานขับเคลื่อนนโยบาย และโครงการสำคัญ ในแต่ละเขตตรวจราชการ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่ 5 ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
ปัญหา อุปสรรค สำคัญในการดำเนินงานระดับพื้นที่ที่สำคัญ 2 ประการคือ
1. สถานการณ์ COVID-1 ส่งผลให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด บางกิจกรรมดำเนินงานล่าช้า
บางกิจกรรมไม่สามารถดำเนินงานได้ โดยเฉพาะกิจกรรมหรือโครงการที่ต้องมีการลงพื้นที่ การประชุม หรือการฝึกอบรมต่าง ๆ
2. การขาดองค์ความรู้ในการปฏิบัติงานและด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งเป็นเครือข่ายสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านสังคม
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
1. การปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้การดำเนินงานและผลการเบิกจ่ายเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด กรณีกิจกรรมที่
ไม่สามารถดำเนินการได้ อันเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ให้ประสานสำนัก / กรม เจ้าของงบประมาณ เพื่อหารือการจัด
กิจกรรม การเบิกจ่าย หรือการส่งคืนงบประมาณ
2. การดำเนินโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน จะมีการใช้ข้อมูลจากระบบ
บริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP : Thai People Map and Analytics Platforn) และฐานข้อมูลการช่วย
เหลือกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นการขับเคลื่อนโดยทีม “พม.จังหวัด” โดยใน
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ให้มีการดำเนินการเยี่ยมบ้าน จัดเก็บข้อมูลโดยใช้สมุดพกครอบครัว และมีอาสาสมัครพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นกลไกการดำเนินงานระดับพื้นที่ในการคัดกรองและจัดเก็บข้อมูล
3. อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการ กิจกรรม
ต่างๆ ของกระทรวง ขอให้ทุกหน่วยงานตระหนักถึงคุณค่า ศักยภาพ และความทุ่มเทของ อพม. สำหรับการดำเนินงานด้านสิทธิ
ที่ อพม. ควรจะได้รับ ให้ถือเป็นเรื่องสำคัญและเร่งดำเนินการโดยด่วน
4. ศูนย์บริการประชาชนทุกช่วงวัย (ศูนย์สารพัดนึก) จะเป็นศูนย์บริการในลักษณะ One Stop Service แก่ประชาชน
ทุกช่วงวัยในพื้นที่ให้ทีม พม.จังหวัดร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์อำเภอละ 1 ศูนย์ ภายในเดือนกรกฎาคม
2564 และให้มีศูนย์ดังกล่าวร้อยละ 50 ของตำบลทั้งหมดของจังหวัดนั้นๆ ภายในเดือนกันยายน 2564และให้มี
ศูนย์ดังกล่าวครบทุกตำบลภายในเดือนธันวาคม 2564
5. กรณีข่าวปลอม (Fake News) หากในพื้นที่ปรากฏข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์ ให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบและชี้แจงข่าวดังกล่าว เพื่อความเข้าในที่ถูกต้องในพื้นที่
หน้าที่ 36
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
6. การแก้ไขความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของประชาชน ให้เร่งดำเนินการ และรายงานต่อผู้บริหารจังหวัด
และผู้บริหารกระทรวงฯ ทราบ โดยเฉพาะประเด็นร้องเรียนผ่านสื่อ Social Media เพื่อให้ผู้ร้องเรียนรับทราบว่าหน่วยงานของ
กระทรวงฯ ในพื้นที่รับรู้และกำลังช่วยเหลือ
เขตตรวจราชการที่ 6 ภาคใต้ฝั่งอันดามัน
ปัญหา อุปสรรค สำคัญในการดำเนินงานระดับพื้นที่ที่สำคัญ 2 ประการคือ
1. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้การดำเนินโครงการกิจกรรม
ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม
2. เครือข่ายหลักในพื้นที่ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
มีจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจบทบาทภารกิจที่จะสนับสนุนการดำเนินโครงการ กิจกรรม ของกระทรวง พม.
3. หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ กิจกรรม บางแห่ง ยังไม่เข้าใจขั้นตอน วิธีการ เป้าหมายไม่ตรงกัน
ทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ
ข้อเสนอเชิงพื้นที่
1. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเบิกจ่ายตามระเบียบ และรวบรวมเอกสาร
การเบิกจ่ายให้ถูกต้อง ครบถ้วน
2. ทบทวน ปรับรูปแบบวิธีการทำงานในพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือให้บรรลุตามเป้าหมาย
3. การดำเนินโครงการบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ให้ใช้กลไกในพื้นที่
ร่วมดำเนินการ และกระจายความรับผิดชอบให้หน่วย One Home ลงพื้นที่ เยี่ยมบ้าน จัดเก็บสมุดพกครอบครัว
และดำเนินการตามขั้นตอน ต่อไป
4. ประสานความร่วมมือกลไกในพื้นที่ ได้แก่ อปท. อพม. สภาเด็กและเยาวชน ฯ ให้มีความรู้ความเข้าใจและเป็น
เครือข่ายสนับสนุนการดำเนินโครงการต่างๆ ของกระทรวง พม.
5. พัฒนากลุ่มเป้าหมายให้พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยเน้นด้านอาชีพให้สอดรับกับวิถีชีวิตแนวใหม่
ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
6. พัฒนาบุคลากรของหน่วยงาน โดยเฉพาะทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล กฎหมาย ระเบียบต่างๆ
7. ดำเนินมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการดูแลผู้รับบริการ
ที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงาน
8. ปัญหาข้อร้องเรียน หากอยู่ระหว่างดำเนินการเกิน 1 เดือน ให้แจ้งความคืบหน้าต่อผู้ร้องเรียน เพื่อให้ทราบว่า
หน่วยงานมิได้เพิกเฉย
หน้าที่ 37
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ข้อเสนอเชิงนโยบาย
1. กำหนดตัวชี้วัด ผลสัมฤทธิ์ของเป้าหมายโครงการให้ชัดเจน มีการสื่อสารให้ผู้ปฎิบัติเข้าใจ
อย่างต่อเนื่อง และทบทวนความเข้าใจดังกล่าว รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ผู้ปฏิบัติ เช่น การจัดทำแบบ
ประเมินความพึงพอใจผู้ใช้บริการ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานนำไปใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
2. พัฒนาฐานข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินงาน ให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจและใช้ประโยชน์ได้ เชื่อมโยงแบ่ง
ปันข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
3. นำข้อมูลสถานการณ์กลุ่มเป้าหมายของจังหวัดมาใช้ประโยชน์ในการจัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานโครงการของ
กระทรวง พม. เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาและการพัฒนากลุ่มเป้าหมายระดับพื้นที่
หน้าที่ 38
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
2.4 รายงานผลการปฏิบัติตามแผนการขับเคลื่อนกระบวนงานการให้บริการงานวิชาการสู่ดิจิทัล
: ผ่าน Line Official Account ประจำปีงบประมาณ 2564
หน้าที่ 39
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 40
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 41
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
กิจกรรมจิตอาสา
ทรงพระราชทานจัดตั้ง
โครงการหน่วยพระราชราชทานและประชาชนจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ"
พราะราชปณิธาน
- สืบสาน
- รักษา
- ต่อยอด
พระราโชบาย
- ทำเป็นตัวอย่าง
- ทำจากเล็กไปใหญ่
- ดูแลบ้านตนเองก่อน แล้วพัฒนาไปสู่ส่วนรวม
จิตอาสา
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับ พ.ศ. 2542 ได้ให้ความหมายของ “จิต อาสา” ดังนี้ 1) “จิต”
เป็นคำนาม หมายถึง ใจ สิ่งที่มีหน้าที่รู้ คิด และนึก 2) “ อาสา ” เป็นคำกริยา หมายถึง เสนอตัวเข้ารับทำ ดังนั้น
“จิตอาสา” จึงหมายถึง จิตแห่งการให้ความดีงามทั้งปวงแก่เพื่อนมนุษย์โดยเต็มใจ สมัครใจอิ่มใจ ซาบซึ้งใจ ปีติสุข
ที่พร้อมจะเสียสละเวลา แรงกาย แรงสติปัญญา เพื่อสาธารณประโยชน์ ในการทำกิจกรรม หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์
แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน และมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นจิต ที่ไม่นิ่งดูดายเมื่อพบเห็นปัญหา หรือความ
ทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับผู้คน เป็นจิตที่มีความสุขเมื่อได้ทำความดี และเห็นน้าตาเปลี่ยนแปลงเป็นรอยยิ้ม เป็นจิตที่เปี่ยม
ด้วย “บุญ” คือความสงบเยือกเย็น และพลังแห่ง ความดี อีกทั้งยังช่วยลด “อัตตา” หรือความเป็นตัวตนของตนเองลงได้
หน้าที่ 42
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ได้ทำกิจกรรมต่างๆในวันสำคัญ ดังนี้
1. วันที่ 21 ตุลาคม 2563 ร่วมทำกิจกรรมโครงการ
วันต้นไม้ ประจำปีของชาติ พ.ศ.2563 โดยมีกิจกรรม
ดังนี้
- กิจกรรมเคารพธงชาติ
- กิจกรรมสักการะพระประชาลบดี
- กิจกรรมบำรุงรักษาต้นไม้
- กิจกรรม 5 ส.
2. วันที่ 4 ธันวาคม 2563 ร่วมทำกิจกรรม "5 ส. พัฒนา
หน่วยงาน" เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ
พระบาทสมด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราชบรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ
ณ บริเวณโดยรอบและภายในอาคาร สำนักงานส่งเสริม
และสนับสนุนวิชาการ 10
3. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ร่วมทำกิจกรรม สสว.10
จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม ช่วยกันประกอบวัสดุอุปกรณ์
เป็นคอกใช้ในการคัดแยกขยะมูลฝอย ที่สามารถนำกลับ
ไปรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม
ณ บริเวณสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 43
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
4. วันที่ 26 มีนาคม 2564 ร่วมจัดกิจกรรม สสว.10
จิตอาสาพัฒนาสิ่งแวด ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณ
สำนักงานและคัดแยกขยะมูลฝอย ที่สามารถนำกลับไป
รีไซเคิลจัดเก็บใส่ในคอกที่จัดไว้เพื่อความสะอาดเรียบร้อย
และช่วยลดปริมาณขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม ณ บริเวณ
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
5. วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ร่วมถวายพระพรสมเด็จ
พระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา และร่วมกันทำกิจกรรม
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทำความสะอาด และตัดแต่ง
กิ่งไม้ ต้นไม้ ณ บริเวณสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 10
6. วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ร่วมจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐาน
พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องถวายราชสักการะ
ประดับธงชาติคู่กับธงอักษร พระปรมาภิไทย ว.ป.ร. และ
ประดับผ้าระบายสีเหลืองกับผ้าระบายสีขาว บริเวณรั้ว
สำนักงาน และกิจกรรมทำความสะอาด ทาสีตีเส้นอาคาร
จอดรถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณสำนักงานส่งเสริม
และสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 44
รายงานผลการดำเนินงาน ประจำปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
7. วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสาฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
1 2 สิ ง ห า ค ม 2 5 6 4 โ ด ย มี กิ จ ก ร ร ม จั ด ตั้ ง โ ต๊ ะ ห มู่
ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ
บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงาน ประดับธงชาติคู่ธงอักษร
พระนามาภิไธย ส.ก. ประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบาย
สีขาว บริเวณรั้วสำนักงาน ร่วมกิจกรรมจัดศูนย์เรียนรู้ สสว.10
ล้อพอเพียง และกิจกรรมปรับศูนย์เรียนรู้วิชาการ ชั้น 2
ณ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
8. วันที่ 30 กันยายน 2564 ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา
พัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันทำความสะอาด และตัด
แต่งต้นไม้ บริเวณรอบอาคารสำนักงาน ณ สำนักงานส่ง
เสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
9. วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ร่วมจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐาน
พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องถวายราชสักการะ
ประดับธงชาติคู่กับธงอักษร พระปรมาภิไทย ว.ป.ร. และ
ประดับผ้าระบายสีเหลืองกับผ้าระบายสีขาว บริเวณ
รั้วสำนักงาน และกิจกรรมทำความสะอาด ทาสีตีเส้น
อาคารจอดรถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณสำนักงาน
ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
หน้าที่ 45