1.Internet คืออะไร
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดใหญ่ มกี ารเชื่อมต่อระหวา่ งเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายท่วั
โลก โดยใชภ้ าษาที่ใช้สื่อสารกนั ระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้
เครอื ข่ายนีส้ ามารถส่อื สารถึงกนั ไดใ้ นหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้น
ข้อมลู และข่าวสารต่าง ๆ รวมท้งั คัดลอกแฟ้มขอ้ มลู และโปรแกรมมาใชไ้ ด้
2. ส่ิงต่อไปนี้เก่ียวข้องกับอินเทอรเ์ นต็ อยา่ งไร
2.1 เครื่องมอื แม่ขา่ ย (Host)
เคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รอื ระบบปฏิบัตกิ ารหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทีท่ าหนา้ ที่ให้บริการ
อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงหรอื หลายอยา่ ง แกเ่ ครื่องคอมพวิ เตอร์หรอื โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ทเี่ ปน็ ลูกข่าย
ในระบบเคร่อื ข่าย ข้อความแบบนีอ้ าจจะงงอยู่บา้ ง
2.2 โปรโตคอล (Protocol)
โปรโตคอล (Protocol) คอื ข้อตกลงรว่ มกนั ระหวา่ งผู้รบั และผสู้ ่ง เพื่อให้สามารถสอื่ สาร
กนั ได้อย่างเขา้ ใจ เหมอื นการใช้ภาษาในการสอ่ื สารเดยี วกนั โปรโตคอลท่ใี ชใ้ นการส่ือสารข้อมูลมี
อยู่หลายชนิด แตท่ ่ีพบเหน็ กนั ทว่ั ไป
- โปรโตคอล IPX/SPX -โปรโตคอล NetBEUI
-โปรโตคอล TCP/IP - โปรโตคอล AppleTalk
2.3 TCP/IP
โปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) เป็น
โปรโตคอลท่ีนยิ มใชง้ านแพร่หลายมากที่สดุ ถกู ใช้เป็นโปรโตคอลในการรับ-ส่งข้อมูลในเครือขา่ ย
Internet จุดเด่นคอื ความสามารถในการว่งิ หาเส้นทางใหม่ในการส่งข้อมลู ไปยังปลายทางไดอ้ กี ทัง้
ยงั เปน็ เทคโนโลยเี ปิด (open Source) จึงสามารถใช้งานไดโ้ ดยไมต่ อ้ งเสยี ค่าลิขสิทธิ์แตอ่ ย่างใด
3.ทาไมเราตอ้ งใช้อนิ เทอร์เนต็
อนิ เตอรเ์ นต็ ได้กลายเปน็ ส่วนหน่ึงในชวี ติ ประจาวนั ของคนจานวนมากในโลกนีไ้ ปแลว้
ประมาณกันวา่ ในแต่ละวนั มีผ้คู นมากกวา่ 50 ลา้ นคนในประเทศตา่ งๆ กวา่ 150 ประเทศทวั่ โลก
กาลังใช้อินเตอร์เน็ตกนั อยู่ อาจเป็นนกั ศกึ ษาคนหนึ่งในประเทศออสเตรเลียท่กี าลังสืบค้นข้อมลู
จากหอ้ งสมุดแห่งหนึง่ ในประเทศอังกฤษ หรอื เป็นอาจารยม์ หาวิทยาลยั คนหนงึ่ ในประเทศญป่ี นุ่
กาลังส่ังซอื้ หนงั สอื จากประเทศไทย เป็นต้น การประกอบกิจกรรมตา่ งๆ ในอินเตอร์เน็ตดังท่ไี ด้
กล่าวมาน้ี เป็นตัวอย่างท่ีสะท้อนให้เห็นภาพของการส่ือสารทไี่ รพ้ รมแดนได้อยา่ งชัดเจน
การใชอ้ นิ เตอร์เน็ตในปจั จบุ นั ไดข้ ยายวงกวา้ งออกไปมากข้นึ โดยไดก้ า้ วล่วงเขา้ ไป
ในทกุ สาขาอาชพี ไม่ไดจ้ ากัดอยเู่ ฉพาะดา้ นการศึกษาหรือการวจิ ยั เหมือนเมอ่ื เร่มิ มีการใช้
อินเตอร์เน็ตใหมๆ่ ด้วยคุณสมบตั ิการเข้าถึงกลุม่ เป้าหมายจานวนมากๆ ไดใ้ นเวลาอันรวดเร็ว และ
ใชต้ ้นทุนในการลงทนุ ต่า ทาให้อนิ เตอร์เนต็ เปน็ ส่งิ ที่พงึ ปรารถนาขององคก์ รทั้งหลาย ไดม้ ีความ
พยายามนาอนิ เตอร์เน็ตมาใช้เพ่ือประโยชนส์ าหรบั หน่วยงานของตนในรปู แบบตา่ งๆ อาทิ การ
ประชาสัมพันธอ์ งคก์ ร การโฆษณาสนิ ค้า การคา้ ขาย การติดต่อส่อื สาร ฯลฯ นอกจากนี้
อนิ เตอรเ์ น็ตยังกลายเปน็ อีกส่อื หนึ่งของความบันเทิงภายในครอบครัวไปดว้ ย ไม่ว่าจะเป็นการฟงั
วิทยุ ดูโทรทศั น์ หรืออา่ นหนังสอื พมิ พก์ ต็ าม ล้วนแล้วแต่สามารถกระทาผ่านอินเตอร์เนต็ ได้ทัง้ ส้นิ
4.อนิ เตอรเ์ น็ตมปี ระโยชน์ด้านใดบ้าง
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต – ดา้ นการศึกษา
เป็นแหล่งค้นควา้ หาขอ้ มูลทางวชิ าการ ขอ้ มลู ดา้ นการบนั เทิง ด้านการแพทย์ และอ่นื ๆที่
เราสนใจ เปน็ ตน้
1.ทาหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมดุ ขนาดใหญ่ หรอื คลังหนงั สอื มหาศาล
2.นักเรียน และนกั ศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตตดิ ต่อกบั โรงเรยี น และมหาวิทยาลัยอ่นื ๆ
เพอื่ ค้นหาขอ้ มูลท่ีกาลังศกึ ษาอยู่ได้ ท้ังท่ขี อ้ มลู ท่ีเปน็ ขอ้ ความ เสียง และภาพเคล่อื นไหวต่างๆ
3.ทาการเรยี นการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
ประโยชนข์ องอินเทอรเ์ น็ต – ด้านธุรกจิ และเชงิ พาณิชย์
1.เป็นแหลง่ ค้นหาขอ้ มลู เพ่ือช่วยในการตัดสนิ ใจทางธุรกิจสามารถซ้อื – ขายสนิ คา้ ผ่าน
ระบบอนิ เทอรเ์ น็ต
2.บริษัทหรือองค์กรตา่ งๆสามารถให้บริการและสนับสนนุ ลกู คา้ ผา่ นระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา ตอบปัญหาตา่ งๆให้แก่ลกู ค้า เปน็ ต้น
3.ทาการตลาด การโฆษณาผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เตอร์เน็ต
ประโยชนข์ องอนิ เทอรเ์ น็ต – ด้านความบันเทงิ
1.ค้นหา Magazine o-nline รวมทั้งหนงั สือพิมพแ์ ละข่าวสารอน่ื ๆได้
2.ฟงั วิทยผุ ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต็ ได้
3.สามารถดงึ ดาวน์โหลด (Download) ภาพยนตรต์ ัวอย่างทง้ั ภาพยนตรใ์ หม่และเกา่ มาดู
ได้
นอกจากนย้ี ังมีประโยชนม์ ีความสาคญั ในรูปแบบอื่นๆอกี
1. สง่ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Email) ผ่านเครอื ขา่ ยอินเทอร์เน็ต ซ่ึงเหมือนกบั การสง่
จดหมายแบบเดมิ ๆ แต่การสง่ อเี มลจ์ ะรวดเร็วกว่ามาก
2. โอนถา่ ยข้อมลู คน้ หา และเรียกข้อมลู จากแหลง่ ตา่ งๆมาเกบ็ ไวใ้ นเคร่ืองของเราได้ ท้ัง
ข้อมลู ประเภทตวั หนงั สือ รปู ภาพ และเสยี ง
3. ค้นขอ้ มูลข่าวสารทีม่ ีอยู่มากมายจากแหลง่ ข้อมูลต่างๆทวั่ โลกได้ ผา่ น World wide
Web
4, ส่อื สารด้วยขอ้ ความ Chat เป็นการพูดคุยโดยพมิ พข์ ้อความตอบกนั การสนทนากนั ผ่าน
อินเทอร์เนต็ เปรียบเสมือนเรานง่ั อย่ใู นหอ้ งสนทนาเดียวกนั แม้อย่คู นละประเทศหรอื คนละซีกโลก
กต็ าม
5. www.คืออะไร
WWW ยอ่ มาจาก Wold Wide Web คือ เครอื ข่ายทเ่ี ช่อื มต่อกันท่วั โลก เรามักเรยี กยอ่ ๆ
กันวา่ เว็บ คือรปู แบบหนง่ึ ของระบบการเชอื่ มโยงเครือข่ายขา่ วสาร ใช้ในการค้นหาขอ้ มลู ขา่ วสาร
บน Internet จากแหลง่ ขอ้ มลู หนึ่ง ไปยังแหล่ง ขอ้ มูลท่อี ยหู่ ่างไกล ใหม้ คี วามง่ายต่อการใชง้ าน
มากที่สดุ WWW จะแสดงผลอยู่ในรูปแบบของเอกสารท่ีเรยี กวา่ ไฮเปอรเ์ ท็กซ์ (Hyper Text) ซ่งึ
เปน็ ฐานข้อมูลชนิดหนงึ่ ท่ีทาหน้าทรี่ วบรวมข่าวสารขอ้ มลู ทีอ่ ยู่กระจัดกระจายในท่ีต่าง ๆ ทว่ั โลกให้
สามารถนามาใชง้ านไดเ้ สมือนอยู่ในที่เดยี วกนั โดยใชเ้ วบ็ เบราเซอร์ซึง่ เปน็ โปรแกรมทชี่ ว่ ยในการดู
หรอื อ่านขอ้ มูลเหล่านัน้ เว็บเบราวเซอร์ที่นิยมใช้ เช่น IE Microsoft Internet Explorer ,
Firefox, google chrome เปน็ ต้น
6. Web site คอื อะไร
เว็บไซต์ คือสือ่ นาเสนอขอ้ มูลบนเคร่อื งคอมพิวเตอร์ หรอื คอื การรวบรวม หน้าเวบ็ เพจ
หลายหน้า ซ่ึงเชอ่ื มโยงกนั ผ่านทางไฮเปอร์ลงิ ก์ ซงึ่ ตอ้ งเปดิ ดว้ ยโปรแกรมเฉพาะทางที่เรยี กว่า Web
Browser โดยถกู จัดเกบ็ ไวใ้ นเวิลด์ไวด์เวบ็ และเวบ็ ไซต์นนั้ ถกู สรา้ งข้ึนด้วยภาษาทางคอมพิวเตอร์ที่
เรียกว่า HTML (Hyper Text Markup Language) และได้มกี ารพัฒนาและนาภาษาอืน่ ๆเข้า
มารว่ มด้วย เพอื่ ใหม้ ีความสามารถมากขนึ้ เช่น PHP , SQL , Java ฯลฯ
7. Web page คืออะไร
เว็บเพจ (webpage) คือหนา้ ตา่ งท่สี ามารถแสดงขอ้ มูลตัวเลข ตวั อกั ษร รูปภาพ เพลง
หรอื วีดีโอ โดยในทุกหน้างตา่ งทีม่ ีข้อมูลเหล่านภ้ี ายในเวบ็ ไซตน์ ัน้ จะถกู เรยี กว่า webpage ซึง่
สรา้ งด้วยภาษา HTML (Hyper Text Markup Language) เป็นโครงสร้าง และมภี าษาอืน่ ๆ เข้า
มามีสว่ นเกี่ยวข้องตามความต้องการของเจา้ ของเวบ็ ไซตซ์ ง่ึ อาจจะทาเอง หรือจ้างผู้พฒั นาเวบ็ ไซต์
ภาษาเหล่านไ้ี ดแ้ ก่ ภาษา PHP ภาษา SQL เป็นตน้
8. Home page คืออะไร
โฮมเพจ คือคาท่ใี ช้เรียกหน้าแรกของเว็บไซต์ โดยเปน็ ทางเข้าหลกั ของเวบ็ ไซต์ เมื่อ
เปดิ เวบ็ ไซต์น้นั ข้นึ มา โฮมเพจ กจ็ ะเปรยี บเสมอื นกับเปน็ สารบัญและคานาทีเ่ จ้าของเวบ็ ไซต์น้ันได้
สร้างขน้ึ เพือ่ ใช้ประชาสัมพนั ธ์องค์กรของตน นอกจากนี้ ภายในโฮมเพจก็อาจมเี อกสารหรอื
ขอ้ ความท่เี ชอ่ื มโยงต่อไปยังเว็บเพจอ่ืนๆอกี ด้วย
9. Wed Browser คืออะไร
เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ (web browser) คอื โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทผี่ ใู้ ชส้ ามารถดขู อ้ มูลและ
โต้ตอบกับข้อมูลข่าวสารสนเทศทจ่ี ดั เกบ็ ในหนา้ เว็บไซต์ท่สี ร้างดว้ ยภาษาเฉพาะ เชน่ ภาษา
เอชทีเอม็ แอล (html) ทีจ่ ัดเก็บไวใ้ นระบบบรกิ ารเว็บโฮสตง้ิ หรอื เวบ็ เซริ ์ฟเวอร์ หรอื ระบบ
คลังข้อมูลอ่นื ๆ โดยโปรแกรมเวบ็ เบราวเ์ ซอร์เปรยี บเสมือนเคร่อื งมอื ในการตดิ ตอ่
10. IP ADDRESS คืออะไร
หมายเลขทใี่ ช้สาหรับระบุตวั ตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ท่เี ช่ือมต่ออยู่บนเครือ่ ข่าย
ประกอบด้วยตวั เลข 4 ชดุ ทไี่ มซ่ า้ กนั ในแตล่ ะเครอ่ื ง โดย IP ท่ีใช้กันอยู่ในปัจจุบนั อยใู่ นมาตรฐาน
ของ version 4 หรือที่ร้จู ักกนั ในนาม IPv4.
11. DNS (Domain Name System) คอื อะไร
Domain Name System (DNS) เปน็ ระบบท่ีกระจายอยทู่ ั่วโลกมีหนา้ ทเี่ กบ็ ข้อมลู
domain name (URL) ท่ีเราใช้ในการเขา้ website ผา่ นทาง web browser แปลงกลบั มาเป็น
IP เพราะแท้ท่ีจริงแลว้ การทางานบน internet ระบบมองเห็นแตเ่ พยี ง IP Address สาหรับ
domain name แล้วมีไว้เพื่อให้ user อย่างเราสามารถจดจาไดง้ า่ ยขนึ้ เพราะฉะนั้นจงึ มี
ความสาคญั มากในโลก internet
Domain name คอื อะไร เป็นสิง่ สาคญั สาหรบั web site เหมือนเป็นท่อี ยูข่ อง website
เรา เชน่ https://saixiii.com ซึง่ doman name นี้จะแปลงกลับเปน็ IP ด้วย Domain Name
System (DNS) เพอ่ื ระบบจะใช้ IP ในการหา routing และ connected เขา้ หากันได้ การท่ีเรา
จะจดชอ่ื domain ไดน้ ั้นเราตอ้ งเลอื กกอ่ นว่าจะใหอ้ ยู่ภายใต้ domain อะไรเช่น
* .com คอื บรษิ ัท หรือ องค์กรพาณชิ ย์
* .org คือ องค์กรเอกชนท่ีไม่แสวงผลกาไร
* .net คือ องคก์ รที่เปน็ เกตเวย์ หรอื จุดเชือ่ มตอ่ เครือข่าย
* .edu คือ สถาบันการศกึ ษา
* .gov คือ องค์กรของรัฐบาล
* .mil คอื องค์กรทางทหาร
12. รปู แบบของ Domain Name ประกอบด้วยอะไร
โดเมนเนม ความหมายโดยทวั่ ๆ ไป หมายถึง ชื่อเวบ็ ไซต์ ชอื่ บล็อก ซงึ่ เป็นชื่อที่ต้งั ขึน้
เพ่อื ใหจ้ ดจาและนาไปใชง้ านได้ง่าย
ทั้งในการเข้าชมผ่านบราวเซอรข์ องผู้ใชท้ ่วั ไป ยังรวมไปถงึ ผ้ดู ูแลระบบโดเมนเนมซีสเทม ทสี่ ามารถ
แก้ไขไอพแี อดเดรสของช่อื โดเมนเนมนั้นๆ ได้ทนั ที
โดยทีผ่ ู้ใชท้ ั่วไปไม่จาเปน็ ตอ้ งรับรู้หรอื จดจาไอพีแอดเดรสท่มี ีการเปลย่ี นแปลง
เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่ทาหน้าทเ่ี ผยแพร่เว็บไซต์ จะมโี ดนเมนเนมเฉพาะไม่ซ้ากบั ใคร
โดนเมนเนม มีด็อทอย่หู ลายประเภทแต่ที่นยิ มมากท่ีสดุ นน้ั กค็ ือ .com เพราะเป็นด็อทในยุคแรกๆ
ทีเ่ ริ่มใชก้ ัน และงา่ ยต่อการจดจา
13.จากขอ้ 12 ส่วนนประกอบของรปู แบบการเขยีน Domain
name แต่ละส่วนมคี วามหมายว่าอย่างไร
โดเมนเนมจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ
ส่วนที่ 1 Sub Domain Name
คือ “คา” ที่อยู่ก่อนชือ่ โดเมน และเป็นส่ิงท่ีจะตอ้ งกาหนดวา่ จะให้ URL นเี้ ชื่อมโยงไปยังสว่ นไหน
ของเวบ็ ไซต์ โดยปกตมิ ักใชเ้ ป็น www ซ่งึ เปน็ ของฟรี
ส่วนท่ี 2 Second-Level Domain Name (SLD)
ในส่วนนม้ี ักจะตงั้ ช่อื เปน็ อะไรกไ็ ด้ แต่ห้ามซ้ากบั ทมี่ ีอย่แู ล้ว เพราะจะทาใหส้ ับสนวา่ จะไปทเ่ี วบ็ ไซต์
ไหนกันแน่ การตั้งชอื่ ตรงนจ้ี ะมีความสาคญั มากกับการท่ีจะทาให้เว็บดังได้ เพราะคงจะปฏิเสธกัน
ไม่ไดว้ า่ “ชือ่ ” เป็นสง่ิ แรกทีค่ นในโลกของอนิ เตอร์เน็ตจะรู้จักกันได้ การต้งั ชือ่ ในสว่ นน้ีจึงควรให้
เปน็ ชอ่ื ที่จาง่าย สัน้ และกระชับ สะกดงา่ ย ทค่ี วามหมายและเข้าใจไดช้ ัดเจน
ส่วนท่ี 3 Top-Level Domain (TLD)
แบ่งไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คือ โดเมน 2 ระดับ และโดเมน 3 ระดบั
โดเมน 2 ระดับ มลี ักษณะดงั นี้ hotmail.com , thai.net เป็นตน้ โดยโดเมนแบบนี้จะ
ประกอบด้วยชื่อโดเมน และตวั ยอ่ ทีอ่ ยู่ด้านหลังเคร่ืองหมายจดุ คอื คาย่อของประเภทองคก์ ร
ประเภทองค์กร
Com - กล่มุ องค์กรการคา้
Edu - กลุ่มการศกึ ษา
Gov - กลุ่มองค์กรรัฐบาล
Mit - กลุ่มองคก์ รการทหาร
Net - กลุม่ การบริการเครอื ขา่ ย
Org - กลุ่มองคก์ รอ่ืนๆ
โดเมน 3 ระดับ มีลกั ษณะดงั น้ี dora.co.th , onec.go.th , kois.go.kr เปน็ ต้น โดเมน
เนมในลักษณะนจ้ี ะประกอบด้วย ช่อื โดเมน , ตัวย่อท่อี ยดู่ ้านหลังเครือ่ งหมายจดุ ใช้ระบปุ ระเภท
ขององค์กรแตม่ ีรปู แบบแตกต่างจากคาย่อท่ีใชโ้ ดเมนเนม 2 ระดับ และตวั ย่อที่ระบุประเทศที่
กอ่ ตั้งขององค์กรน้ันๆ ถ้าเราสงั เกตจะเหน็ ว่าในอเมริกานนั้ จะใชต้ ัวย่อของประเภทองคก์ รเปน็
ตัวอกั ษร 3 ตัว microsolf.com ในกรณีทีป่ ระเทศอ่ืนๆเช่นบ้านเราจะมเี พยี งแค่ 2 ตัว เชน่
moe.go.th
ประเภทขององค์กร
.go หนว่ ยงานรัฐบาล
.ac สถาบันการศึกษา
.co องคก์ รธุรกจิ
.or องคก์ รอืน่ ๆ
14. URL คืออะไร มรี ปู แบบยา่ งไร
URL ย่อมาจากคาวา่ Uniform Resource Locator คอื ทอี่ ยู่ (Address) ของข้อมูลตา่ งๆ
ในInternet เชน่ ที่อยขู่ องไฟลห์ รือเวบ็ ไซตบ์ นอินเตอรเ์ น็ต
รูปแบบของ URL จะประกอบดว้ ย
http://www.mindphp.com/support/urlfaq.htm
1. ชอื่ โปรโตคอลท่ใี ช้ (http ซง่ึ ยอ่ มาจาก HyperText Transfer Protocol)
2. ชื่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และชื่อเครือข่ายย่อย (www.mindphp)
3. ประเภทของเวบไซต์ (.com) ซ่งึ มีอยู่ หลาย ประเภท คอื เช่น .com
(Commercial),.edu (Educational),.org (Organizations),.net (Network), .co.th (บรษิ ทั ใน
ประเทศไทย ดูเพม่ิ เตมิ ที่น่ี) ฯลฯ
4. ไดเรก็ ทอรี่ (/support/)
5. ชอ่ื ไฟลแ์ ละนามสกลุ (urlfaq.htm)
15.จงอธบิ ายถึง HTML ตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น
HTML คอื ภาษาหลกั ทีใ่ ช้ในการเขยี นเว็บเพจ โดยใช้ Tag ในการกาหนดการแสดงผล
HTML ย่อมาจากคาว่า Hypertext Markup Language โดย Hypertext หมายถึง ข้อความท่ี
เชือ่ มต่อกันผ่านลงิ้ (Hyperlink) Markup language หมายถึงภาษาทใี่ ช้ Tag ในการกาหนดการ
แสดงผลส่งิ ตา่ งๆทีแ่ สดงอยูบ่ นเวบ็ เพจ ดังน้นั HTML จึงหมายถงึ ภาษาท่ีใช้ Tag ในการ
กาหนดการแสดงผลเวบ็ เพจทต่ี า่ งก็เชื่อมถงึ กันใน Hyperspace ผา่ น Hyperlink นน่ั เอง