1
คานา
แนวทางการเตรยี มเปิดภาคเรยี น ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เล่มนี้ โรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารุง จัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน
สาหรับให้สถานศึกษาได้เตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เพ่ือสร้างความม่ันใจให้แก่นักเรียน
ผู้ปกครองและประชาชนท่ัวไปว่า สถานศึกษาจะมีแนวทางในการสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียนในการเปิดเรียน On Site
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 และระหว่างท่ีจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการท่ีกระทรวง
สาธารณสขุ และกระทรวงศกึ ษาธกิ ารกาหนด
โรงเรยี นประสาธนร์ าษฎรบ์ ารงุ หวงั เป็นอย่างยิ่งว่า รายงานการเตรยี มความพร้อมในการเปิดเรยี น On Site
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) เล่มนจ้ี ะ
ช่วยอานวยความสะดวกใหส้ ถานศึกษา ตลอดจนคณะครู นักเรยี น ชมุ ชนและผูท้ ่เี กยี่ วข้องกบั การปฏบิ ัติงานในสถานศึกษา
ดาเนินการไดต้ ามมาตรการด้านความปลอดภัยสามารถเปิดเรียนได้และจดั การเรยี นการสอนให้แก่นักเรียนความปลอดภยั
ขอบคุณคณะทางานทุกท่านที่ไดร้ ว่ มกนั จัดทาแนวทางการเตรียมเปิดเรยี น On Site ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ภายใต้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เล่มน้ี จนสาเรจ็ บรรลุตามวตั ถุประสงค์
คณะทางานโรงเรยี นประสาธนร์ าษฎร์บารงุ
2
สารบญั ค
เร่อื ง หน้า
คานา 2
สารบญั 3
สารบญั (ตอ่ ) 4
ส่วนท่ี 1 ข้อมูลพืน้ ฐาน
5
- ที่ต้ัง 6
- จานวนนักเรียนในโรงเรียนประสาธนร์ าษฎร์บารงุ แบง่ ตามระดบั ชน้ั 6 7
- จานวนข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ปฏิบัติหน้าทใี่ นสถานศึกษา 7
- ข้อมลู การรับวัคซีนของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ในสถานศกึ ษา 8
- ขอ้ มูลการรับวคั ซนี ของนกั เรียน อายุ 12 - 18 ปี 8
- ขอ้ มูลการรับวคั ซีนของผ้ปู กครอง 8
- ขอ้ มลู ผูต้ ดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) ในเขตพื้นที่ 9
- ขอ้ มลู การขออนญุ าตให้ใช้อาคารสถานที่ในสถานศึกษาเป็นโรงพยาบาลสนาม
สว่ นที่ 2 การประเมินความพร้อมก่อนเปิดเรียนของสถานศึกษาในระบบ TSC+ 10
- ใบรบั รอง โรงเรยี นผา่ นการประเมินในระบบ TSC+ 12
- แบบประเมนิ ตนเองสาหรบั สถานศึกษาในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน
ส่วนที่ 3 มาตรการ Sandbox : Safety Zone in School 17
- กรอบแนวทาง Sandbox Model 19
- แนวปฏบิ ัติระหวา่ งเปดิ ภาคเรียน
ส่วนที่ 4 แผนเผชญิ เหตุ 27
- แผนเผชิญเหตุตามมาตรการปูองกันตามระดับการแพรร่ ะบาดของ
- โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 31
ส่วนที่ 5 บทบาทของบคุ ลากรและหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วข้อง 31
- บทบาทของนักเรยี น 33
- บทบาทของครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
- บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา
3
สารบญั
เรื่อง หน้า
- บทบาทของผู้ปกครองนกั เรยี น 34
- บทบาทขององค์กรสนบั สนุน 35
สว่ นที่ 6 แนวทางการจดั การเรียนการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาด 37
ของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) 39
- การเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียน
- แนวทางการจัดการเรยี นการสอน
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก Timeline แบบบนั ทกึ การเดนิ ทางของนักเรียน 42
ภาคผนวก ข แบบประเมินตนเองผ่านแอพพลิเคชนั Thai Save Thai (TST) 43
ภาคผนวก ค แบบบนั ทกึ ขอ้ มูลผมู้ าติดต่อของสถานศึกษา 44
ภาคผนวก ง แตง่ ตั้งคณะกรรมการดาเนินการเฝูาระวงั ปูองกนั ควบคุม แก้ไขสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรค ตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา่ 2019 ( COVID – 19 ) 45
ภาคผนวก จ ประกาศโรงเรยี นประสาธนร์ าษฎรบ์ ารงุ
เรื่องกาหนดการเปดิ -ปิดเรียน ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 49
ภาคผนวก ฉ อภธิ านศัพท์ 51
4
1ส่วนที่ ข้อมลู พน้ี ฐาน
ทีต่ ั้ง
โรงเรยี นประสาธนร์ าษฎร์บารงุ ตั้งอยเู่ ลขท่ี 126 หม่ทู ี่ 3 ตาบล คลองเส อาเภอ ถ้าพรรณรา
จังหวัดนครศรธี รรมราช รหัสไปรษณยี ์ 80260
Website www.prasatratbumrungschool.ac.th, e-mail : [email protected]
สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
เปิดสอนต้ังแตร่ ะดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 มเี นอื้ ท่ี 35 ไร่
ตราประจาโรงเรียน ป.ร.
อักษรยอ่ สุวิชาภวโหติ ; ผรู้ ูด้ เี ปน็ ผเู้ จรญิ
เรยี นดี กีฬาเด่น เห็นแกส่ ่วนรวม
ปรชั ญาโรงเรยี น น้าเงิน - แดง
คาขวัญโรงเรยี น มารยาทดี มีวินยั ใสใ่ จสาธารณะ
สปี ระจาโรงเรียน สวนปา่ ชุ่มชา่ นาการศึกษา ยดึ หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
อัตลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา
เอกลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา
5
จานวนนักเรียนในโรงเรยี นประสาธน์ราษฎร์บารุง
สงั กัดสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษานครศรีธรรมราช
แบ่งตามระดับชนั้
ระดับช้ัน จานวนนกั เรียน ห้องเรยี น
ชาย หญิง รวม
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 16 12 28 2
มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 27 15 42 2
มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 13 8 21 1
56 35 91 5
รวม มัธยมศกึ ษาตอนต้น 17 21 38 2
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 23 15 38 2
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 8 10 18 2
มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 48 46 94 6
94 81 185 11
รวม มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 50.81 43.79 100.00
รวมท้ังส้ิน
รอ้ ยละ
6
จานวนข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ปฏบิ ตั ิหนา้ ทใ่ี นสถานศกึ ษา
ตาแหน่ง วิทยฐานะ ระดบั จานวน (คน) รวม
1. ผู้อานวยการโรงเรียน ตาแหนง่ ชาย หญิง 1
2. รองผู้อานวยการ ชานาญการ 1- 1
โรงเรยี น รวม คศ.2 1- -
3. ครู -- -
ชานาญการ คศ.2 -- -
4. ลกู จ้างประจา ชานาญการพิเศษ คศ.3 -- 3
5. พนักงานราชการ 12 1
6. ลกู จ้างช่ัวคราว รวม ครผู ู้ช่วย -1 6
- คศ.1 24 3
- คศ.2 -3 13
ชานาญการ คศ.3 39 -
ชานาญการพิเศษ -- -
- -- 5
รวม - 14 19
- - 5 14
-
-
รวมทั้งหมด
ท่มี า : ขอ้ มลู จากกลมุ่ บริหารงานบุคคล ณ วนั ท่ี 1 เมษายน 2565
ขอ้ มูลการรับวัคซีนของขา้ ราชการครู บุคลากรทางการศึกษา
ที่ โรงเรยี น บคุ ลากรท้งั หมด จานวนผ้ทู ่ีได้รบั วคั ซีน จานวนผทู้ ี่ไม่ได้รบั วัคซนี
(คน) (คน)
(คน) 22 1
1 ประสาธน์ราษฎร์บารงุ 23 22 1
95.45 4.55
รวม 23
รอ้ ยละ
*รวมบุคลากรทั้งหมดในสถานศึกษา พอ่ คา้ แม่คา้ ยาม คนสวน ฯลฯ
ทมี่ า : ข้อมูลจากกลมุ่ งานอนามัยโรงเรียน ณ วันท่ี 1 เมษายน 2565
7
ข้อมูลการรบั วัคซนี ของนักเรียน อายุ 12 - 18 ปี
ท่ี ระดบั ชน้ั นักเรยี นทงั้ หมด นักเรยี นทไ่ี ด้รบั วัคซนี จานวนนกั เรยี นท่ีไม่ไดร้ ับวัคซนี
(คน) (คน) (คน)
164 19
1 มัธยมศกึ ษาปีที่ 1-6 185 164 19
88.64 11.37
รวม 185
รอ้ ยละ
ทมี่ า : ขอ้ มูลจากกลมุ่ งานอนามยั โรงเรยี น ณ วนั ท่ี 1 เมษายน 2565
ข้อมูลการรับวัคซนี ของผ้ปู กครอง
ผูป้ กครอง ผปู้ กครอง ผู้ปกครอง
ที่ ระดับช้นั นกั เรียนท้งั หมด นกั เรียนทไี่ ดร้ บั นักเรียนทไ่ี ม่ไดร้ บั
(คน) วคั ซีน (คน) วคั ซีน (คน)
1 ผปู้ กครองนักเรียน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6 366 342 24
รวม 366 342 24
ร้อยละ 93.44 6.56
ทมี่ า : ขอ้ มลู จากกลมุ่ งานอนามัยโรงเรียน ณ วนั ที่ 1 เมษายน 2565
ขอ้ มูลผูต้ ดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) ในโรงเรยี นประสาธน์ราษฎร์บารงุ
ที่ โรงเรยี น อยูร่ ะหว่างรกั ษา (ราย) รกั ษาหายแล้ว (ราย) รวมผู้ปว่ ยสะสม (ราย)
ครู นักเรียน รวม ครู นกั เรยี น รวม ครู นักเรยี น รวม
9 4 13 9 5 14
1 โรงเรียนประสาธน์ - 1 1
9 4 13 9 5 14
ราษฎร์บารงุ
รวม - 1 1
* ข้อมลู ตัง้ แต่วันที่ 1 เมษายน 2565
ที่มา : ข้อมลู จากกลมุ่ งานอนามยั โรงเรยี น ณ วนั ที่ 1 เมษายน 2565
8
ขอ้ มูลการขออนญุ าตให้ใช้อาคารสถานทใ่ี นสถานศึกษาเป็นโรงพยาบาลสนาม
ท่ี หน่วยงานทขี่ อใชส้ ถานที่ ประเภทการขอใช้อาคารสถานท่ใี นสถานศกึ ษา** จานวนเตยี ง
(1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8)*
1. โรงเรียนประสาธนร์ าษฎร์บารงุ * 10
ท่มี า : ขอ้ มลู จากฝุายอาคารสถานที่ ณ วนั ท่ี 1 เมษายน 2565
หมายเหตุ ** ประเภทการขอใช้อาคารสถานท่ีในสถานศึกษา
1. คือ รพ.สนาม
2. คอื รพ.สนาม (สารอง)
3. คอื รพ.สนามและสถานทกี่ ักตัว
4. คอื สถานที่กักตัว
5. คอื สถานที่พักคอย
6. คอื สถานที่แวะเข้าหอ้ งน้าขอผูต้ ิดเช้ือระหวา่ งเดินทางกลบั ภูมลิ าเนา
7. คือ หน่วยคัดกรอง (Swap)
8. * คอื ไม่มกี ารขอใชอ้ าคารสถานที่ในสถานศึกษา
9
2ส่วนที่ การประเมินตนเองผา่ นระบบ Thai Stop Covid Plus
ตอนท่ี 1
แนวปฏบิ ัติการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียน
การเตรียมการก่อนการเปิดเรียนมีความสาคัญอย่างมากเน่ืองจากมีความเก่ียวข้องกับการปฏิบัติตนของ
นกั เรยี น ครู บุคลากร และผเู้ ก่ียวขอ้ งทุกคนในสถานศึกษา เพือ่ ปอู งกันไมใ่ หม้ กี ารตดิ เชือ้ โรคโควิด 19
ความเส่ียงสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความปลอดภัยแก่ทุกคน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน จึงกาหนดให้มีแนว
ปฏบิ ตั ิการเตรยี มการก่อนเปิดภาคเรยี น 6 ข้ันตอน ดงั น้ี
1. สถานศึกษามีการประเมินความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน โดยใช้แบบประเมินตนเองในระบบ Thai Stop
Covid Plus ตัวอยา่ ง TSC+ ของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข ผลการประเมินเปน็ สเี ขียวสามารถเปดิ เรยี นได้
2. ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาโรงเรยี นประสาธนร์ าษฎร์บารงุ ไดร้ บั การฉดี วัคซีนครบโดส
ร้อยละ 85 ขน้ึ ไป ตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ ลงวันที่ 20 กันยายน 2564
3. นักเรียนและผู้ปกครองได้รับการฉีดวัคซีนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะสถานศึกษาที่
อยู่ในพน้ื ทค่ี วบคมุ สูงสุด (พน้ื ที่สีแดง) และพืน้ ท่คี วบคุมสูงสดุ และเขม้ งวด (พ้นื ท่สี ีแดงเขม้ )
4. สถานศกึ ษานาผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษาเสนอตอ่ ท่ีประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน
เพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบให้เปิดภาคเรียน และนาผลการประเมินตนเองของ สถานศึกษาท่ีผ่านความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน รายงานต่อสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประสานสานักงาน
ศกึ ษาธิการจงั หวัดเพือ่ นาเร่ืองเสนอตอ่ คณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัด เพอ่ื พิจารณาอนุมัตใิ หเ้ ปดิ เรียนได้
5. สถานศึกษาทีไ่ ด้รับอนุมัตจิ ากคณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัดให้เปดิ เรยี นได้ใหส้ ถานศึกษาปฏิบตั ิตาม
มาตรการที่กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุขกาหนด
6. สถานศกึ ษารายงานผลการเตรยี มความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนต่อผบู้ งั คบั บัญชาตามลาดับช้ัน
10
โรงเรียนประสาธนร์ าษฎร์บารงุ ประเมนิ ตนเอง ผ่านการประเมนิ ท้ัง 44 ข้อ
และได้รบั ใบประกาศรับรองมาตรฐาน จากกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข ดงั ภาพ
เกียรตบิ ตั รผา่ นการประเมนิ
11
ตอนท่ี 2
การประเมนิ ความพร้อมกอ่ นเปิดเรยี นของสถานศึกษาในระบบ Thai Stop Covid Plus (TSC+)
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยได้สร้างเคร่ืองมือสาหรับสถานศึกษาประมินตนเองในระบบ Thai
Stop Covid Plus ด้วย TSC+ เพื่อให้สถานศึกษาเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปี
การศึกษา 2565 ลิงค์ระบบ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/th/school แบบประเมินตนเอง ดังกล่าว
ประกอบดว้ ย 6 มิติ 44 ข้อ โรงเรียนประสาธนร์ าษฎร์บารุง ผ่านการประเมนิ ทั้ง 44 ข้อ ตามขั้นตอนการประเมนิ ตนเอง ดังนี้
แบบประเมนิ ตนเองสาหรับสถานศึกษาในการเตรยี มความพร้อมก่อนเปิดภาคเรยี น
เพื่อเฝา้ ระวังและป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
เกณฑก์ ารประเมนิ ตนเอง
ขอ้ ประเด็น มี ไม่มี หมายเหตุ
(1) (0)
มิติท่ี 1 ความปลอดภยั จากการลดการแพรเ่ ชอ้ื โรค
มีการจดั เวน้ ระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร เช่น ทีน่ ั่งในห้องเรียน ท่ีน่ังใน
1 โรงอาหาร ท่ีน่ังพัก จุดยนื รับ-สง่ สง่ิ ของ/อาหาร พร้อมติดสญั ลักษณ์แสดง
ระยะห่างอยา่ งชดั เจน หรือไม่ 1
มมี าตรการใหน้ กั เรียน ครู บุคลากรและผูเ้ ขา้ มาติดต่อในสถานศึกษาตอ้ ง
2 สวมหนา้ กากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั 100% ตลอดเวลาท่อี ย่ใู น
สถานศึกษา หรอื ไม่ 1
3 มจี ดุ ลา้ งมือด้วยสบูแ่ ละนา้ หรือจดั วางเจลแอลกอฮอล์สาหรับใช้ทาความ 1
สะอาดมอื อย่างเพยี งพอและใช้งานได้สะดวก หรอื ไม่
4 มมี าตรการคดั กรองวดั อุณหภูมใิ หก้ ับนักเรียน ครู บคุ ลากร และผู้เข้ามา 1
ตดิ ตอ่ ทุกคน ก่อนเข้าสถานศึกษา หรอื ไม่
มมี าตรการใหล้ ดการทากจิ กรรมรวมกล่มุ คนจานวนมาก และหลีกเล่ียง
5 การเขา้ ไปในพนื้ ทท่ี ี่มีคนจานวนมากหรือพื้นท่ีเส่ียงทม่ี ีการแพรร่ ะบาดของ
1
6 โมรีกคารหทราอื คไมวา่ มสะอาดพืน้ ผวิ สมั ผัสร่วมทุกวนั เชน่ ราวบันได ลกู บิด-มอื จบั 1
ประตู โต๊ะ เกา้ อ้ี หรอื ไม่
มีมาตรการใหน้ ักเรยี น ครู และบคุ ลากร รบั ผดิ ชอบดแู ลตนเอง มีวินัย
7 ซ่ือสตั ยต์ ่อตนเอง ปฏิบตั ติ ามมาตรการอยา่ งเคร่งครดั และไม่ปดิ บังขอ้ มลู
กรณีสัมผสั ใกล้ชิดกับผตู้ ิดเชื้อหรอื ผูส้ ัมผัสเสีย่ งสงู หรือไม่ 1
1
8 มมี าตรการใหน้ ักเรยี น ครู และบุคลากรกินอาหารด้วยการใช้ช้อนสว่ นตัว 1
ทกุ ครง้ั และงดการกินอาหารรว่ มกัน หรอื ไม่
12
ข้อ ประเด็น มี ไม่มี หมายเหตุ
มมี าตรการส่งเสริมใหก้ ินอาหารปรุงสุกใหมร่ ้อน และจัดให้บริการอาหาร (1) (0)
ตามหลักสุขาภิบาลและหลกั โภชนาการ หรอื ไม่
9 1
มีการจดั ระบบให้นกั เรียน ครู บุคลากร และผเู้ ขา้ มาตดิ ต่อในสถานศึกษา
10 ทุกคน ลงทะเบยี นไทยชนะตามทรี่ ฐั กาหนดดว้ ย app ไทยชนะ หรอื
ลงทะเบียนบนั ทกึ การเขา้ -ออกอย่างชดั เจน หรือไม่ 1
มกี ารจดั ระบบการตรวจสอบ ดูแล และเฝาู ระวังนักเรียน ครู บุคลากร
11 หรือผทู้ ่ีมาจากพ้ืนทเ่ี ส่ียง เพ่ือเข้าส่กู ระบวนการคัดกรอง หรือไม่
1
12 มมี าตรการใหน้ กั เรียน ครู หรือบุคลากรทม่ี ปี ระวัตสิ มั ผสั ใกลช้ ดิ กับผู้ตดิ 1
เช้อื หรอื ผสู้ มั ผสั เสีย่ งสูงกักกนั ตัวเอง 14 วนั หรอื ไม่
มีการปรบั ปรุงห้องเรยี นให้มีสภาพการใช้งานได้ดี เปิดประตูหน้าต่าง
ระบายอากาศ ถา่ ยเทสะดวกกรณีใช้เคร่ืองปรับอากาศกาหนดเวลาเปดิ -
13 ปิด เปิดประตหู นา้ ต่างระหว่างเวลาพักเที่ยงหรอื ไมม่ ีการเรียนการสอน
และทาความสะอาดอย่างสม่าเสมอ หรอื ไม่
1
มีการทาความสะอาดห้องเรียน ห้องเรยี นรว่ ม เชน่ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ห้อง
14 ดนตรี อปุ กรณ์กีฬา และอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการเรยี นการสอน ก่อนและหลัง
ใชง้ านทุกคร้ัง หรือไม่ 1
มีการจัดสภาพแวดล้อมบริเวณภายในสถานศึกษาใหส้ ะอาดและปลอดภยั
15 มกี ารจดั การขยะทเี่ หมาะสม รวมถึงการดูแลความสะอาดห้องสว้ ม
หรือไม่ 1
มมี าตรการสง่ เสริมให้นักเรยี น ครู และบุคลากร รู้จักและหมน่ั สังเกต
16 อาการเส่ยี งจาก โรคโควิด-19 เช่น ไข้ ไอ น้ามูก เจบ็ คอ คอแหง้
อ่อนเพลยี หายใจลาบาก หายใจเร็ว เจ็บแนน่ หน้าอก เสยี การดมกลนิ่ ลน้ิ
ไม่รบั รส ตาแดง มีผืน่ ท้องเสีย หรือไม่ 1
17 มมี าตรการให้นักเรยี น ครู และบคุ ลากร ประเมนิ ความเสี่ยงของตนเอง 1
ผา่ น Thai save Thai (TST) อย่างต่อเนื่อง หรอื ไม่
18 มีมาตรการเฝูาระวงั ตรวจคดั กรอง ดว้ ย Antigen Test Kit (ATK) ตาม 1
แนวทางทก่ี าหนด หรอื ไม่
19 มมี าตรการสนบั สนุนให้ครู บุคลากร และฝาุ ยสนบั สนุน (Support Staff) 1
เข้าถึงการฉีดวัคซีน มากกว่ารอ้ ยละ 85 หรือไม่
13
ข้อ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมายเหตุ
(1) (0)
20 มหี ้องพยาบาลหรอื มีพ้นื ทเ่ี ป็นสดั ส่วนสาหรบั สงั เกตอาการผู้มอี าการเส่ียง 1
หรือจดั ใหม้ ี School Isolation หรอื ไม่ (1) ไมม่ ีทพี่ ักและ
1 เรอื นนอน
มติ ทิ ี่ 2 การเรยี นรู้ 1
1
มีการตดิ ปูายประชาสมั พันธ์การปฏบิ ตั ิตนเพื่อสุขอนามัยปลอดภัยจากโรค
1
21 โควดิ -19 หรือไม่ (เชน่ เว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคล (D) สวมหน้ากากผา้
หรือหน้ากากอนามัย (M) วธิ ลี ้างมอื ที่ถูกต้อง (H) เป็นตน้ ) 1
1
22 มกี ารจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกบั โรคและการปูองกันการแพร่ระบาด 1
ของโรคโควิด-19 สอดคล้องตามวยั ของผเู้ รียน หรือไม่ 1
มกี ารจดั หาส่ือความรู้การปอู งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19
23 สาหรับประกอบการเรียนการสอน การเรยี นรู้นอกห้องเรียน ในรูปแบบ
ของสื่อออนไลนแ์ ละส่ือส่ิงพิมพ์ หรือไม่
มกี ารจัดกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียนตามวยั ใหม้ ีความคิดสร้างสรรคน์ วตั กรรม
24 สขุ ภาพ และแลกเปลยี่ นเรยี นร้บู ทเรยี นการปูองกนั การแพร่ระบาดของ
โรคโควดิ -19 โดยศกึ ษาคน้ คว้าจากแหลง่ ความรู้ทางวชิ าการดา้ น
สาธารณสุขหรือแหลง่ ข้อมลู เชอ่ื ถอื ได้ หรือไม่
มนี กั เรียนแกนนาดา้ นสุขภาพหรือผพู้ ทิ ักษ์อนามยั โรงเรียน อยา่ งน้อย
25 หอ้ งเรียนละ 2 คน เป็นจิตอาสา อาสาสมคั รเป็นผชู้ ่วยครูอนามัยทา
หน้าทด่ี แู ลช่วยเหลือ เฝาู ระวังคดั กรองสขุ ภาพ และงานอนามยั โรงเรยี น
หรือไม่
มิติที่ 3 การครอบคลุมถงึ เด็กดอ้ ยโอกาส
26 มกี ารจัดเตรียมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยสารองสาหรบั นกั เรยี นที่
ตอ้ งการใช้หรือไม่
มมี าตรการสนบั สนนุ อปุ กรณ์ของใชส้ ขุ อนามยั สว่ นบุคคลในการปูองกัน
27 การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19 สาหรบั กลมุ่ เปราะบาง หรือไม่
มมี าตรการส่งเสริมใหน้ ักเรยี น อายุ 12-18 ปี กล่มุ เสยี่ งที่มีนา้ หนักมาก มี
28 โรคประจาตวั 7 กลุม่ โรค หรือกล่มุ เปาู หมาย เข้าถึงการฉีดวคั ซนี ปอู งกนั
โควดิ -19 ตามแนวทางที่รฐั กาหนด หรือไม่
29 มมี าตรการคัดกรองวดั อุณหภูมติ รวจ ATKเว้นระยะห่าง ทา
ความสะอาดที่พักเรือนนอน และจดั สภาพแวดลอ้ มให้ถูกสุขลกั ษณะ และ
14
ข้อ ประเด็น มี ไมม่ ี หมายเหตุ
มีตารางเวรทาความสะอาดทุกวัน หรือไม่ (กรณีมที ่ีพักหรือเรอื นนอน) (1) (0)
มมี าตรการคดั กรองวัดอุณหภูมติ รวจ ATKเวน้ ระยะห่าง ทาความสะอาด (1) ไม่มีสถานที่
ปฏิบัตศิ าสนกิจ
30 สถานที่และจดั สภาพแวดลอ้ มใหส้ อดคล้องกบั ข้อบัญญตั กิ ารปฏบิ ัตดิ า้ น
ศาสนกิจ และมตี ารางเวรทาความสะอาดทกุ วัน หรอื ไม่ (กรณมี ีสถานที่
ปฏิบตั ศิ าสนากจิ )
มติ ิท่ี 4 สวัสดภิ าพและการคมุ้ ครอง
มีแผนเผชิญเหตุและแนวปฏิบัติรองรบั กรณีมผี ู้ตดิ เช้ือในสถานศึกษาหรือ
31 ในชมุ ชน และมกี ารซักซ้อมการปฏิบัตอิ ย่างเข้มงวด หรือไม่
มีการส่ือสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลขา่ วสารการตดิ เชือ้ และการปฏิบัตติ น 1
32 อย่างเหมาะสม เพ่อื ลดการรงั เกียจและการตตี ราทางสังคม 1
(Socialstigma)ตอ่ ผู้ตดิ เชอื้ โควิด-19 หรอื ผสู้ มั ผัสเส่ียงสูง หรือไม่ 1
1
33 มแี นวปฏิบตั ิการจดั การความเครียดของครูและบคุ ลากร หรอื ไม่
มีการสารวจตรวจสอบประวัติเสยี่ งและการกกั ตัวของนักเรียน ครู และ 1
34 บุคลากรก่อนเปิดภาคเรยี น และเขา้ มาเรยี น เพื่อการเฝาู ระวังติดตาม
หรือไม่
35 มเี อกสารคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานเปน็ ขนั้ ตอน (SOP) ประจาห้อง
พยาบาล เกย่ี วกับแนวปฏบิ ตั ิการปูองกนั และกรณีพบผูส้ มั ผัสเสย่ี งสงู
หรือ ผตู้ ิดเชื้อภายในสถานศกึ ษาหรือในชุมชน หรือไม่
มิติที่ 5 นโยบาย
36 มนี โยบายเนน้ การปฏบิ ตั ิตามมาตรการสขุ อนามัยสว่ นบคุ คล 6
มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) เปน็
ลายลกั ษณ์อักษรหรือมหี ลักฐานชดั เจน หรอื ไม่
1
15
ข้อ ประเดน็ มี ไมม่ ี หมายเหตุ
(1) (0)
37 มีนโยบายการเฝาู ระวังคัดกรอง ตดั ความเสย่ี ง และสร้างภมู ิคุ้มกัน ด้วย 1
3T1V (TSC Plus , Thai Save Thai , ATK , Vaccine)และถือปฏบิ ตั ิได้ 1
หรือไม่
1
38 มีนโยบายเข้มควบคุมดแู ลการเดินทางไป - กลับของนักเรยี นให้มคี วาม
ปลอดภัย (Seal Route) หรือไม่ 1
1
39 มนี โยบายตามมาตรการการปูองกันแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน 1
สถานศกึ ษา สอดคลอ้ งตามบรบิ ทพนื้ ท่ี และมีการสอ่ื สารประชาสมั พนั ธ์ 1
ใหน้ กั เรยี น ครู และบุคลากรรับทราบอยา่ งท่วั ถึง หรอื ไม่ ให้นักเรียน ครู 1
และบคุ ลากรรบั ทราบอย่างท่ัวถึง หรอื ไม่
40 มนี โยบายการบรหิ ารจดั การการปอู งกนั การแพร่กระจายเชื้อโรคบนรถ
รบั -ส่งนกั เรียน อาทิ ทาความสะอาดภายใน-นอกรถก่อนและหลงั ใช้งาน
เว้นระยะห่างที่นงั่ มีปาู ยสญั ลักษณ์แสดงท่นี ง่ั ชดั เจน สวมหนา้ กากผ้าหรือ
หนา้ กากอนามัยขณะอยู่บนรถ มเี จลแอลกอฮอลบ์ นรถ และงด-ลดการ
พดู คยุ หยอกล้อเลน่ กันบนรถ หรอื ไม่ (กรณีรถรบั –ส่งนกั เรยี น)
มิตทิ ี่ 6 การบริหารการเงิน
41 มีแผนการใช้งบประมาณสาหรบั เปน็ คา่ ใชจ้ ่ายในการดาเนินการปอู งกนั
การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19 ในสถานศึกษา หรอื ไม่
42 มีการจดั หาวสั ดอุ ปุ กรณป์ ูองกันโรคโควดิ -19 เช่น ATK หนา้ กากผา้ หรือ
หน้ากากอนามยั เจลแอลกอฮอล์ สบู่ อยา่ งเพียงพอ หรือไม่
43 มกี ารบริหารจดั การการเงินเพื่อดาเนินกจิ กรรมการปอู งกันการแพร่
ระบาดของโรคโควดิ -19ตามความจาเปน็ และเหมาะสม หรือไม่
มกี ารจัดหาบุคลากรทาหนา้ ท่ีเฝาู ระวัง ตรวจสอบ สอดสอ่ งดแู ลสขุ ภาพ
44 นกั เรยี น และจัดการสภาพแวดล้อมในสถานศกึ ษาในชว่ งสถานการณ์โค
วดิ -19 หรอื ไม่
16
สว่ นที่ 3 กรอบแนวทางการขบั เคลื่อนการเปิดเรียนของโรงเรยี นประสาธนร์ าษฎร์บารุง
ตามมาตรการ Sandbox Safety Zone in School
ความสาคญั
ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยมีการนาร่องเปิดการเรียน การสอนแบบ
Onsite โดยใช้มาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยภายในโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School คือ การจากัด
บุคคลเข้าออกโรงเรียนอย่างชัดเจนและจะมีการคัดกรองโดยใช้วิธี Rapid Antigen Test มีระบบติดตามของครูและบุคลากร
อย่างเข้มงวด กาหนดให้ทุกคนต้องประเมินความเสี่ยงผ่านแอปพลิเคชัน Thai Save Thai (TST) อย่างสม่าเสมอและเฝูาระวัง
โดยการสุ่มตรวจทุก 14 วัน หรือ 1 เดือนต่อภาคเรียน ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรอ่ืนในโรงเรียนได้รับ
การฉีดวัคซีนมากกว่า ร้อยละ 85 ของทั้งหมด และมีมาตรการการปฏิบัติตนตาม 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม และ 7
มาตรการเข้มงวด เพือ่ คานึงถึงความปลอดภัยและปูองกันการแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID – 19 ) ใน
สถานศกึ ษา โรงเรยี นมหี ลกั เกณฑท์ ี่ต้องปฏบิ ตั ิอยา่ งเคร่งครดั 4 องคป์ ระกอบ ดงั นี้
1. องคป์ ระกอบดา้ นกายภาพ ลกั ษณะอาคารและพ้ืนที่โดยรอบอาคารของโรงเรียน ประกอบด้วย
1.1 พ้ืนท่ี/อาคาร สนบั สนนุ การบริการ
1.2 พ้ืนท่ี/อาคาร เพือ่ จัดการเรยี นการสอน
โดยจัดอาคารและพ้นื ที่โดยรอบให้เปน็ พื้นท่ปี ฏิบัติงานท่ปี ลอดภัย และมีพื้นที่ทเี่ ปน็ Covid free Zone
2. องค์ประกอบด้านการมีส่วนร่วม ต้องเป็นไปตามความสมัครใจของทุกฝุาย โดยโรงเรียนได้ดาเนินการในรูปแบบ
Sandbox Safety Zone in School ต้องจัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันของคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน ครู
ผ้ปู กครอง ผนู้ าชุมชน และมีมติให้ความเหน็ ชอบรว่ มกนั ในการจัดพน้ื ทก่ี ารเรียนการสอนในรูปแบบ Sandbox Safety Zone in
School ตลอดภาคการศึกษาก่อนนาเสนอโครงการผ่านต้นสังกัดในพื้นท่ี และขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อ
จังหวดั นครศรธี รรมราช
3. องคป์ ระกอบด้านการประเมินความพร้อมสู่การปฏบิ ัติ โรงเรยี นตอ้ งเตรียมการประเมินความพร้อม ดังน้ี
3.1 โรงเรยี นหรือสถานศกึ ษา ต้องดาเนนิ การ
1) ต้องผ่านการประเมินความพร้อมผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOE
COVID
2) ต้องจัดให้มีสถานท่ีแยกกักตัวในโรงเรียน (School Isolation) หรือพื้นท่ีแยกกักตัวชั่วคราวรวมไป
ถึงแผนเผชิญเหตุสาหรับรองรับการดูแลรักษาเบ้ืองต้นกรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรในสถานศึกษากรณีมีการติดเชื้อโควิด 19
หรือผลตรวจคัดกรองหาเชื้อเป็นบวก โดยมีการซักซ้อมอย่างเคร่งครัด โดยมีความร่วมมือกับสถานพยาบาลเครือข่ายในพ้ืนท่ีท่ี
ดูแลอย่างใกล้ชดิ
17
3) ตอ้ งควบคุมดูแลการเดนิ ทางระหว่างบ้านกับโรงเรียนอย่างเข้มขน้ โดยหลกี เลีย่ งการเข้าไปสัมผสั ใน
พื้นท่ตี า่ ง ๆ ตลอดเส้นทางการเดินทาง
4) ตอ้ งจดั พน้ื ที่หรอื บริเวณให้เป็นจุดคัดกรอง (Screening Zone) ที่เหมาะสมจัดจุด รับ-ส่งส่ิงของ
จุดรบั -ส่งอาหาร หรือจดุ เสี่ยงอนื่ เป็นการจาแนกนกั เรียน ครู บุคลากร ผ้ปู กครองและผู้มาติดต่อทีเ่ ข้ามาในโรงเรียน
5) ต้องมรี ะบบและแผนรบั การติดตามประเมินความพร้อม โดยทมี บรู ณาการรว่ มกันระหวา่ ง
กระทรวงศกึ ษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ท้งั ช่วงก่อนและระหว่างดาเนินการ
3.2 นักเรยี น ครู และบคุ ลากร ตอ้ งปฏิบตั ิ
1) ครู และบุคลากร ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส ต้ังแต่ร้อยละ 85 ขึ้นไป ส่วนนักเรียนและ
ผูป้ กครอง ควรไดร้ ับวัคซนี ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะสถานศึกษาที่อยู่ในพ้ืนที่ควบคุมสูงสุด (พ้ืนท่ีสีแดง)
และพื้นทค่ี วบคุมสงู สดุ และเข้มงวด (พ้นื ท่ีสแี ดงเข้ม)
2) นักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษามีการทากิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble และ
หลีกเล่ียงการทากิจกรรมข้ามกลุ่มกัน โดยเฉพาะพ้ืนที่ควบคุมสูงสุด (พ้ืนที่สีแดง) และพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด (พ้ืนท่ีสี
แดงเขม้ )
3) ถ้านักเรียน ครู และบุคลากรมีอาการเข้าข่าย (Inclusion Criteria) กับการติดเชื้อโควิด 19 หรือ
สัมผัสกลุ่มเส่ียงสูงให้ดาเนินการตรวจคัดกรองหาเช้ือด้วยวิธีที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์พร้อมท้ัง
รายงานผลการตรวจกับหน่วยงานสาธารณสขุ ในพืน้ ท่ที นั ที และปฏบิ ตั ติ ามแผนเผชิญเหตกุ รณีมีผลตรวจเปน็ บวก
4. องคป์ ระกอบดา้ นการดาเนนิ การของโรงเรยี นหรอื สถานศึกษา ระหว่างภาคการศกึ ษาตอ้ งดาเนินการ ดังน้ี
4.1 สามารถจัดการเรียนการสอนได้ ทงั้ รปู แบบ Onsite หรือ Online หรือแบบผสมผสาน
( Hybrid )
4.2 นักเรียน ครู และบุคลากรที่อยู่ในพ้ืนที่ต้องประเมิน Thai Save Thai (TST) อย่างต่อเน่ืองตามเกณฑ์
จาแนกตามเขตพน้ื ทก่ี ารแพร่ระบาด
4.3 นักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษามีการสุ่มตรวจคัดกรองหาเชื้อเป็นระยะตามแนวทางของ
คณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัดกาหนด
4.4 ปฏิบัตติ ามมาตรการสขุ อนามยั ส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น ได้แก่ 6 มาตรการหลัก ( DMHT-RC ) และ 6
มาตรการเสริม ( SSET - CQ )
4.5 นักเรียน ครู และบุคลากร ท่ีเกี่ยวข้องกับสถานศึกษา เขียนบันทึก Timeline กิจกรรมประจาวันและการ
เดนิ ทางเข้าไปในสถานทต่ี ่าง ๆ แตล่ ะวันอยา่ งสมา่ เสมอ
4.6 ปฏบิ ตั ิตามแนวทาง 7 มาตรการเขม้ งวด สาหรับสถานศกึ ษาประเภทไป-กลับอยา่ งเครง่ ครัด
4.6.1 สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผล
ผา่ น MOE COVID โดยถอื ปฏิบัติอยา่ งเขม้ ขน้ อย่างตอ่ เนือ่ ง
4.6.2 ทากิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble หลีกเลี่ยงการทากิจกรรมข้ามกลุ่มกัน และจัด
นกั เรียนในหอ้ งเรียนขนาดปกติ (6x8 เมตร) ไม่เกิน 25 คน หรือจัดให้เว้นระยะห่างระหว่างนักเรียนในห้องเรียนไม่น้อยกว่า 1.5
เมตร พจิ ารณาตามความเหมาะสมโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัด
18
4.6.3 จัดระบบการให้บริการอาหารสาหรับนักเรียนครูและบุคลากรในสถานศึกษาตามหลักมาตรฐาน
สขุ าภิบาลอาหารและหลกั โภชนาการ อาทเิ ช่น การจดั ซ้อื จัดหาวตั ถุดิบจากแหลง่ อาหาร การปรุงประกอบอาหาร หรือการสั่งซื้อ
อาหารตามระบบการสง่ อาหาร ( Delivery ) ทถี่ กู สขุ ลกั ษณะและตอ้ งมรี ะบบตรวจสอบทางโภชนาการก่อนนามาบรโิ ภค
4.6.4 จัดการดา้ นอนามัยสง่ิ แวดล้อมให้ไดต้ ามแนวปฏิบัติด้านอนามัยส่ิงแวดล้อมในการปูองกันโรคโค
วิด 19 ในสถานศึกษา ได้แก่ การระบายอากาศภายในอาคาร การทาความสะอาด คุณภาพน้า อุปโภคบริโภคและการจัดการ
ขยะ
4.6.5 จดั ให้มีสถานทแี่ ยกกักตวั ในโรงเรียน ( School Isolation ) หรือพ้ืนทีแ่ ยกกกั ช่ัวคราว รวมไปถึง
แผนเผชญิ เหตุ สาหรับรองรบั การดแู ลรกั ษาเบ้ืองต้นกรณนี ักเรียน ครู หรือบุคลากรในสถานศึกษามีการติดเชื้อโควิด 19 หรือผล
ตรวจคัดกรองหาเชอ้ื เป็นบวก โดยมีการซักซ้อมอย่างเคร่งครัดโดยมีความร่วมมือกับสถานพยาบาลเครือข่ายในพื้นที่ท่ีดูแลอย่าง
ใกลช้ ิด
4.6.6 ควบคุมดแู ลการเดินทางเขา้ และออกจากสถานศึกษา (Seal Route) อย่างเข้มข้นโดยหลีกเลี่ยง
การเข้าไปสัมผัสในพื้นท่ีต่าง ๆ ตลอดเส้นทางการเดินทางจากบ้านไป-กลับโรงเรียน ทั้งกรณีรถรับ-ส่งนักเรียน รถส่วนบุคคล
และพาหนะโดยสารสาธารณะ
4.6.7 จัดให้มี School Pass สาหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาซึ่งประกอบด้วยข้อมูล
ผลการประเมิน TST ผลตรวจคัดกรองหาเช้ือตามแนวทางคณะกรรมการโรคติดต่อระดับพื้นที่ และประวัติการรับวัคซีนตาม
มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นท่ีสีแดง) และพ้ืนที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พ้ืนท่ีสีแดง
เขม้ )
4.7 กรณสี ถานศกึ ษาต้งั อยู่ในพ้นื ที่ควบคมุ สูงสดุ (พนื้ ทีส่ ีแดง) และพ้นื ที่ควบคมุ สงู สดุ และเขม้ งวด
( พ้ืนที่สีแดงเข้ม ) กาหนดให้สถานประกอบกิจการ กิจกรรม ที่อยู่รอบรั้วสถานศึกษาให้ผ่านการประเมิน Thai Stop Covid
Plus (TSC+) Covid Free Setting โดยใหม้ กี ารกากบั ร่วมกับคณะกรรมการโรคตดิ ตอ่ ระดับพ้ืนท่ี
แนวปฏบิ ัตริ ะหวา่ งเปดิ ภาคเรียน
ในระหว่างเปิดเรียนสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการท่ีกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการกาหนดให้
ครอบคลุมทุกมิติอย่างเคร่งครัด เพ่ือปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID – 19 ) โดยคานึงถึง
ความปลอดภยั ของนักเรยี น ครแู ละบุคลากรในสถานศึกษาเป็นสาคญั เป็น 2 กรณี ดงั น้ี
1. กรณเี ปดิ เรียนได้ตามปกติ (Onsite) สถานศึกษาตอ้ งปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
มาตรการ 6 มาตรการหลัก DMHT- RC
1. Distancing เวน้ ระยะห่าง
1) ทาสัญลักษณ์เพือ่ เว้นระยะหา่ งระหว่างบุคคลตามมาตรการเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร
เช่น จดุ คดั กรอง การจดั ที่น่ังเรียน การจัดทน่ี งั่ รบั ประทานอาหาร เป็นตน้
2) ในหอ้ งเรยี นมีนักเรียนไม่เกิน 25 คน การทากจิ กรรมในรปู แบบ Small Bubble
(เน้นกลมุ่ เล็ก) หลีกเลีย่ งการทากิจกรรมข้ามกลุ่ม
3) สาหรบั เดก็ เล็กทีต่ อ้ งนอนกลางวนั ให้รักษาระยะหา่ งระหวา่ งกันอยา่ งน้อย 1 เมตร
19
โดยไม่เอาศีรษะชนกนั และแยกอปุ กรณข์ องใชเ้ ป็นสว่ นตวั ไมใ่ ช้ร่วมกนั
2. Mask Wearing สวมหนา้ กากอนามัย
1) ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรอ่ืนและนักเรียนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
ตลอดเวลาและสวมใหถ้ กู วธิ ตี ้งั แตเ่ ดนิ ทางออกจากบ้านและอยู่บริเวณโรงเรียน
2) ผูป้ กครองหรือผูม้ าติดตอ่ ราชการต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
เมือ่ อยบู่ รเิ วณโรงเรยี น
3) ตรวจตราผู้ประกอบอาหารของโรงเรียนให้ปฏิบัติตามสุขอนามัยในการประกอบอาหาร สวมหน้ากาก
อนามัยหรือหน้ากากผ้า face shield หมวกคลุมผม ถุงมือ ขณะประกอบอาหารและเสริ ์ฟอาหารทุกครั้ง
4) มีการจัดเตรียมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สารองไว้อย่างน้อย 5% ของจานวนนักเรียน สาหรับ
นักเรียนหรือผู้มาติดต่อราชการในสถานศึกษาโรงเรียนต้องแนะนาหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพเหมาะสมให้กับนักเรียน รวมทั้ง
สอนวธิ ีการสวมและการปรับหนา้ กากอนามัยใหถ้ กู ต้อง รวมทงั้ การตรวจ เช็คสภาพระหวา่ งวนั
5) หลังใช้หน้ากากอนามัยทุกครั้ง การถอดออกควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสด้านนอกของหน้ากากอนามัยให้ได้
น้อยทส่ี ดุ พบั ให้เป็นชิ้นเลก็ ใส่ในถุง พลาสติกทป่ี ดิ สนทิ นาไปท้ิงในถงั ขยะและล้างมือให้สะอาดทุกครง้ั
3. Hand Washing ลา้ งมอื
1) จัดเตรียมอุปกรณ์ล้างมือ เช่น แอลกอฮอล์ไว้บริเวณทางเข้าโรงเรียนห้องเรียนและอาคารต่าง ๆ ที่มีการ
ใชง้ านรว่ มกันทุกจดุ
2) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้า หรือใช้แอลกอฮอล์ทาความสะอาดมือก่อนเข้าโรงอาหาร ก่อนรับประทาน
อาหาร ภายหลังซอ้ื อาหาร หลังจากจับเหรียญหรอื ธนบตั รหรอื สมั ผสั ส่ิงสกปรก รวมถงึ ล้างมือทกุ ครง้ั หลังจากใช้หอ้ งสขุ า
3) หลีกเล่ียงการสมั ผัสบริเวณจุดเส่ียง เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู เป็นต้น รวมท้ังไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา
ปาก จมูก โดยไม่จาเป็น
4) นักเรียนทกุ คนมผี า้ เชด็ หนา้ ผา้ เชด็ มือพกติดตัวตลอดเวลา โดยไม่ใช้ผา้ เช็ดหน้าหรอื ผา้ เช็ดมือร่วมกับผู้อ่ืน
โดยเด็ดขาด
4. Testing คัดกรองวัดไข้
1) ตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนที่เข้ามาในสถานศึกษาโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย สังเกต
และสอบถามอาการเบ้ืองต้น เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ามูก เจ็บคอ เหนื่อยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส โดยติดสัญลักษณ์ สติ๊กเกอร์
แสดงให้เห็นชัดเจนวา่ ผ่านการคดั กรองแล้ว
2) กรณพี บนักเรยี นหรอื ผู้ท่ีมีอาการไข้อุณหภมู ริ า่ งกายตัง้ แต่ 37.5 องศาเซลเซยี สขึน้ ไป
ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่งรีบแจ้งผู้ปกครองมารับ งดให้เข้าร่วมกิจกรรมและแนะนาให้ไปพบแพทย์
และอาจมีห้องแยกผ้มู ีอาการออกจากพื้นที่
3) ควรมีการคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายข้าราชการครูบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและบุคลากรอื่นใน
โรงเรียน อย่างนอ้ ยวนั ละ 2 คร้งั (เชา้ - บา่ ย)
4) ขณะท่ีนักเรียนอยู่ในโรงเรียนให้สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก
เหน่ือยหอบ ไมไ่ ด้กล่ิน ไมร่ ูร้ ส รีบแจง้ ครูประจาช้ันหรอื ครผู ู้สอนทนั ที
20
5. Reducing ลดการแออดั
1) จัดโต๊ะ เก้าอี้ หรือที่นั่ง ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1.5 เมตร โดยคาถึงสภาพบริบท
และขนาดพน้ื ที่และจัดทาสัญลักษณแ์ สดงจดุ ตาแหน่งชัดเจน จัดให้มีการเรียนการสอนการแบ่งจานวนนักเรียน หรือการใช้พื้นที่
ใช้สอยบริเวณสถานศึกษาตามความเหมาะสม ทั้งน้ีอาจพิจารณาวิธีปฏิบัติอ่ืนตามบริบทความเหมาะสม โดยยึดหลัก Social
distancing
2) ติดประกาศแจ้งการจากัดจานวนคนและเวลาในการเข้าใช้บริการในห้องพิเศษต่าง ๆเช่น ห้องสมุด ห้อง
ประชุม โรงอาหาร สนามกีฬา ให้ผู้ใช้บรกิ ารทกุ คนทราบ
3) หลีกเล่ียงการจัดกิจกรรมหรือเล่นกีฬาประเภทแข่งขันเป็นทีมหรือที่มีการปะทะกันอย่างรุนแรง เช่น
วอลเลยบ์ อล ฟุตบอล ฟตุ ซอล บาสเกตบอล เป็นต้น
4) ใช้ระบบการประชุมผ่านสือ่ อิเล็กทรอนกิ ส์ เพือ่ ลดความแออดั
6. Cleaning ทาความสะอาด
1) เปดิ ประตู หนา้ ต่าง ใหอ้ ากาศถ่ายเท
2) ทาความสะอาดพื้นห้องเรียนและบริเวณต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นผิวท่ัวไปและอุปกรณ์สัมผัสร่วม เช่น ราว
บันได โต๊ะเรียน อุปกรณ์กีฬา ที่จับประตู หน้าต่าง ของเล่น เคร่ืองช่วยสอน อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
โดยใชน้ ้ายาฆา่ เช้ือหรือแอลกอฮอล์ 70%
3) ทาความสะอาดห้องสุขาดว้ ยนา้ ยาฆ่าเชอ้ื อยา่ งนอ้ ยวันละ 2 ครั้ง
4) กาจัดขยะอย่างถูกวิธีทุกวัน โดยการมัดปากถุงให้แน่น ปิดปากถุงให้สนิท รวมถึงจัดให้มีถังขยะมูลฝอย
แบบมฝี าปิดและนาขยะออกจากหอ้ งเรยี นเพื่อนาไปกาจดั ทุกวัน
5) ทาความสะอาดโตะ๊ เกา้ อ้ี พ้นื โรงอาหารด้วยน้ายาฆ่าเช้ือทั้งก่อนและหลังการรับประทานอาหารกลางวัน
ของนักเรยี นในแตล่ ะรอบ
6 มาตรการเสรมิ SSET - CQ
1. Self care
1) ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษาบุคลากรอ่ืนในสถานศึกษา และนักเรียนติดตามข้อมูลข่าวสาร
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคโควิด 19 พ้ืนที่เสี่ยงคาแนะนาการปูองกันตนเองและลดความเส่ียงจากการแพร่กระจายของโรค
โควดิ 19 จากแหลง่ ขอ้ มลู ทเ่ี ชื่อถือได้
2) ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรอ่ืนในสถานศึกษา และนักเรียน สังเกตอาการของตนเอง
หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ เหน่ือยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รสให้หยุดปฏิบัติงาน หยุดมาโรงเรียน และรีบไปพบแพทย์ทันที
กรณีมีสมาชิกในครอบครัวปุวยด้วยโรคโควิด 19 หรือ กลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักตัวให้ปฏิบัติตามคาแนะนาของ
เจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสขุ อยา่ งเครง่ ครดั
3) สถานศกึ ษาส่ือสารใหค้ วามรู้ คาแนะนาหรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์ในการปูองกันและลดความเส่ียงจาก
การแพร่กระจายโรคโควิด 19 ให้แก่นักเรียน เช่น สอนวิธีการล้างมือท่ีถูกต้อง การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
21
คาแนะนาการปฏิบัติตัว การเว้นระยะห่างทางสังคม การทาความสะอาด หลีกเล่ียงการทากิจกรรมรวมกันจานวนมาก เพ่ือลด
ความแออดั
4) กรณีนกั เรียนด่ืมน้าบรรจขุ วด ควรแยกเฉพาะตนเองและทาเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์เฉพาะไม่ให้ปะปน
กบั ของคนอืน่
5) ข้าราชการครู บคุ ลากรทางการศกึ ษาบุคลากรอน่ื ในสถานศึกษา และนักเรยี น หมั่นลา้ งมือ
บ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ห้องสุขา หลีกเล่ียงการใช้มือสัมผัสกับใบหน้า ตา ปาก จมูก เม่ือกลับถึงบ้านต้องรีบ
อาบนา้ สระผม และเปล่ียนเสื้อผา้ ใหม่ทนั ที
2. Spoon ใชช้ อ้ นกลางสว่ นตัว
ใช้ชอ้ นกลางของตนเองทุกครัง้ เม่ือตอ้ งรบั ประทานอาหารร่วมกัน ลดสัมผสั รว่ มกับผอู้ ่นื
3. Eating กนิ อาหารปรุงสกุ ใหม่
1) จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ให้นักเรียนรับประทานภายในเวลา 2 ชั่วโมง หากเกินเวลาดังกล่าวให้นา
อาหารไปอุ่นจนเดอื ด แล้วนามาเสริ ์ฟใหม่ กรณีทไี่ มส่ ามารถจัดเหลื่อมเวลาสาหรับนักเรียนในมื้อกลางวัน ให้เตรียมอาหารกล่อง
แทนและรบั ประทานท่โี ตะ๊ เรียน
2) หลกี เลี่ยงการรับประทานอาหารท่ีปรุงไม่สุก อาหารไม่มีการปกปิดมิดชิด และตรวจสอบคุณภาพอาหาร
ก่อนรบั ประทานทุกครั้ง เชน่ สภาพอาหาร กล่นิ ความสะอาด
4. Thai Chana APP ไทยชนะ
ข้าราชการครู บุคลากรทางการศกึ ษาบุคลากรอ่นื ในสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครองและผู้มาติดต่อราชการ
ในสถานศึกษาทุกคน ลงทะเบียนใช้งาน “ไทยชนะ” ของสถานศึกษาหรือลงทะเบียนในสมุดบันทึกการเข้า – ออก ของ
สถานศกึ ษา
5. Check ตรวจสอบ
สารวจบุคคล นักเรียน กลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพ้ืนที่เสี่ยง มีการคัดกรองโดยการซักประวัติและบันทึก
ขอ้ มูลไว้เป็นหลักฐาน
6. Quarantine กกั กนั ตัวเอง
กักกนั ตวั เอง 14 วนั เมอ่ื เขา้ ไปสมั ผสั หรอื อยใู่ นพืน้ ทีเ่ สย่ี งทมี่ กี ารระบาดโรค
7 มาตรการเขม้ งวด
ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรอื่นในสถานศึกษา ให้มีการจัดระบบการให้บริการอาหาร ตาม
หลกั มาตรฐานสุขาภบิ าลอาหารและหลกั โภชนาการ เช่น การจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งอาหาร การปรุงประกอบอาหารหรือ
การสง่ั ซอ้ื อาหารตามระบบนาส่งอาหาร (Delivery) ท่ีถูกสุขลักษณะและต้องมีระบบตรวจสอบทางโภชนาการก่อนนามาบริโภค
โดยสถานศกึ ษาแต่งตัง้ คณะกรรมการตรวจสอบ วตั ถุดบิ ทจ่ี ะนามาประกอบอาหาร แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอาหารที่ปรุง
สาเร็จแล้วกอ่ นนามาบริโภค
1) การจดั ซอื้ จดั หาวัตถดุ ิบในการประกอบอาหาร ควรพิจารณาจดั ซอ้ื จากแหลง่ ทม่ี คี วามปลอดภัย
22
2) หากผู้สัมผสั อาหารมอี าการเจบ็ ปวุ ย เช่น มไี ข้ ไอ จาม มีน้ามกู หายใจเหนื่อยหอบใหห้ ยุดงานและพบแพทยท์ ันที
3) ขณะปฏิบัติงานผู้สัมผัสอาหารต้องสวมหมวกคลุมผม ผ้ากันเป้ือนหน้ากากผ้า ถุงมือมีการปฏิบัติตนตาม
สุขลกั ษณะสว่ นบุคคลที่ถกู ต้อง
4) ล้างมืออย่างสม่าเสมอด้วยสบู่และน้า เมื่อมีการหยิบจับสิ่งของหรือส่ิงสกปรก ท้ังก่อนและหลังการประกอบ
อาหาร ไม่ไอหรือจามใสอ่ าหาร รวมถึงลา้ งมอื ทกุ ครั้งหลังจากใชห้ อ้ งสขุ า
5) ปกปิดอาหาร ใช้ถุงมือและที่คีบหยิบจับอาหาร ห้ามใช้มือหยิบจับอาหารที่พร้อมรับประทานโดยตรงและจัดให้
แยกรบั ประทานอาหาร
6) ทาความสะอาดโรงอาหาร ร้านจาหน่ายอาหารและจุดเส่ียงต่าง ๆ เช่น ห้องครัว อุปกรณ์ปรุงประกอบอาหาร
โตะ๊ เก้าอี้ ดว้ ยนา้ ยาทาความสะอาด รวมถึงล้างภาชนะอุปกรณ์หรือส่ิงของเครื่องใช้ให้สะอาดประจาทุกวัน จัดท่ีน่ังรับประทาน
อาหารใหม้ ีระยะหา่ งโดยน่งั 1 ทเี่ วน้ 1 ท่ี ภาชนะใสอ่ าหารและชอ้ นควรจัดเป็นสว่ นตัวของนกั เรยี นแต่ละคน โดยไม่ใชร้ ว่ มกนั
7) การรับประทานอาหารกลางวนั แตล่ ะระดบั ชนั้ มีการเหล่อื มเวลาพักรบั ประทานอาหารกลางวนั เพ่ือลดความแออดั
8) เตรียมอาหารที่ปรุงสุกใหม่ให้นักเรียนรับประทานภายใน 2 ช่ัวโมง หากเกินเวลาดังกล่าวให้นาอาหารไปอุ่นจน
เดือดและนามาเสริ ฟ์ ใหม่
9) สนับสนุนให้นักเรียนได้รับโภชนาการที่ดีและเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยเพ่ือสร้างภูมิคุ้มกัน ดูแลบริหารจัดการให้
นักเรียนรับประทานอาหาร 5 หมู่สะอาด ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการ โดยได้รับประทานผักผลไม้ปลอดสารพิษตามฤดูกาล
ตามมาตรฐานอาหารกลางวนั โรงเรยี นไทย (Thai School Lunch) อยา่ งนอ้ ย 70 -100 กรัม/ม้อื
4. จดั การดา้ นอนามัยสิ่งแวดลอ้ ม
สถานศกึ ษาจดั การด้านอนามยั ส่งิ แวดลอ้ มให้ได้ตามแนวปฏบิ ตั ิในการปอู งกนั โรคโควิด 19 ในสถานศกึ ษา ได้แก่
1) การระบายอากาศภายในอาคาร
- เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศก่อนและหลังการใช้งานอย่างน้อย 15 นาที หน้าต่างหรือช่องลม อย่างน้อย 2
ด้านของห้องใหอ้ ากาศภายนอกถ่ายเทเข้าสภู่ ายในอาคาร
- กรณีใช้เคร่ืองปรับอากาศ ควรระบายอากาศในอาคารก่อนและหลังการใช้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือเปิดประตู
หน้าต่างระบายอากาศช่วงพักเที่ยงหรือช่วงที่ไม่มีการเรียนการสอน กาหนดเวลาเปิด – ปิดเคร่ืองปรับอากาศ และทาความ
สะอาดสมา่ เสมอ
2) การทาความสะอาด
- ทาความสะอาดวัสดุสงิ่ ของด้วยผงชกั ฟอกหรอื น้ายาทาความสะอาด และล้างมือด้วยสบ่แู ละน้า
- ทาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนพ้ืนผิวทั่วไป อุปกรณ์สัมผัสร่วม เช่น ห้องน้า ห้องส้วม ลูกบิด ประตู รีโมท
คอนโทรล ราวบันได สวิตช์ไฟ จุดน้าด่ืม เป็นต้น ด้วยแอลกอฮอล์ 70% นาน 10 นาที และฆ่าเชื้อโรคบนพ้ืนผิว วัสดุแข็ง เช่น
กระเบ้อื ง เซรามิก สแตนเลส ด้วยน้ายาฟอกขาวหรือโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% นาน 5-10 นาที อย่างน้อยวันละ 2 คร้ัง และ
อาจเพิ่มความถีต่ ามความเหมาะสมโดยเฉพาะเวลาท่ีมผี ู้ใชง้ านจานวนมาก
3) คุณภาพน้าเพ่อื การอุปโภคบริโภค
- ตรวจดูคุณลกั ษณะทางกายภาพ สี กล่ิน และไม่มสี ่ิงเจอื ปน หากตรวจพบว่ามีคณุ ลักษณะทางกายภาพท่ีผิดปกติ
อาจทาให้ไมป่ ลอดภัยกับนกั เรยี นใหง้ ดการอปุ โภคบริโภค
23
- ดแู ลความสะอาดจุดบรกิ ารนา้ ด่ืมและภาชนะบรรจนุ า้ ดืม่ ทกุ วนั (ไมใ่ ช้แกว้ น้าด่มื ร่วมกันเดด็ ขาด)
- ตรวจคณุ ภาพนา้ เพื่อหาเช้อื แบคทเี รียด้วยชุดตรวจภาคสนามทกุ 6 เดอื น
4) การจัดการขยะ
- มีถังขยะแบบมีฝาปิดสาหรับรองรับสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วประจาห้องเรียน อาคารเรียนหรือบริเวณโรงเรียนตาม
ความเหมาะสมและมีการคดั แยกลดปรมิ าณขยะตามหลัก 3R (Reduce Reuse Recycle)
- กรณีขยะเกิดจากผู้สัมผัสเส่ียงสูง/ผู้กักกันตัว หรือหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วนาใส่ในถุง ก่อนท้ิงให้ราดด้วย
แอลกอฮอล์ 70% หรือน้ายาฟอกขาว 2 ฝา ลงในถุง มัดปากถุงให้แน่น ซ้อนด้วยถุงอีก 1 ชั้น ปิดปากถุงให้สนิท และฉีดพ่น
บริเวณปากถงุ ด้วยสารฆ่าเช้ือแลว้ ทง้ิ ในขยะท่ัวไป
5. จัดใหม้ สี ถานท่ีแยกกกั ตัวในโรงเรียน (School Isolation) หรอื พ้ืนท่ีแยกกักชั่วคราว
นักเรียนที่มีความเส่ียงให้สถานศึกษาแยกกักตัวในสถานศึกษา (School Isolation) และมีการซักซ้อมแผนเผชิญ
เหตรุ องรบั การดแู ลรักษาเบื้องตน้ กรณีนกั เรยี น ครู หรือบุคลากรในสถานศึกษามผี ลการตรวจพบเช้ือโรคโควิด 19 หรือ ผล ATK
เป็นบวกโดยมกี ารซกั ซ้อมอยา่ งเคร่งครดั
1) ต้องกาหนดพน้ื ที่แยกกักตัวในสถานศึกษาให้ชัดเจน มีการระบุพ้ืนท่ีชัดเจน มีปูายหรือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า
เปน็ พ้นื ที่แยกกักตัวเด่นชัด
2) พ้ืนทแี่ ยกกกั ตวั สามารถใช้หอ้ งพยาบาลหรือแบง่ พนื้ ที่ห้องส่วนใดภายในสถานศึกษาเป็นพ้ืนท่ีหลัก เพื่อปฏิบัติตาม
มาตรการแยกกักตัวในสถานศึกษา (School Isolation) ในกรณีโรงเรียนมีพื้นที่เพียงพอ หรือมีอาคารแยกเป็นสัดส่วน ชัดเจน
ควรแยกพ้ืนทีก่ ักตวั เป็นเอกเทศ
3) ในกรณที ่พี บนกั เรียนหรือครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีความเส่ียงให้แยกไว้ในพื้นที่กักตัวทันทีและปฏิบัติตาม
แผนเผชญิ เหตุในลาดับต่อไป
4) เมอ่ื ใชพ้ ้ืนทีก่ ักตัวแลว้ เสร็จในแต่ละวันใหท้ าความสะอาดโดยปฏิบัติตามมาตรการด้านอนามัยส่ิงแวดล้อมและด้าน
การใช้อาคาร สถานทข่ี องสถานศึกษาในช่วงเย็นของทุกวนั
6. ควบคมุ ดูแลการเดินทางเขา้ และออกจากสถานศึกษา (Seal Route) อย่างเข้มขน้
ให้สถานศึกษาควบคุมดูแลการเดินทางเข้าและออกจากสถานศึกษา (Seal Route) ของข้าราชการครู บุคลากร
ทางการศึกษา บคุ ลากรทางการศึกษาอื่น และนักเรียนอย่างเข้มข้น โดยหลีกเล่ียงการเข้าไปสัมผัสในพื้นท่ีต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง
การเดินทาง จากบา้ นไป – กลบั โรงเรียนตามรปู แบบการเดินทาง ดังน้ี
1. รถรบั -สง่ นกั เรยี น
1) พนักงานขับรถรับ-ส่งนักเรียน ผู้ควบคุมนักเรียน จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาผ่านการคัดกรอง
ตรวจวดั อุณหภมู ิ พน่ สเปรยฆ์ า่ เชอ้ื หรอื ใช้แอลกอฮอลล์ ้างมือก่อนปฏิบัติหน้าท่ี
2) นกั เรียนผ่านการคัดกรอง โดยตรวจวัดอุณหภูมิ พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อหรือใช้แอลกอฮอล์ล้างมือก่อนขึ้นรถและลง
รถ รวมทัง้ สวมหนา้ กากอนามยั ตลอดการเดนิ ทาง
3) เวน้ ระยะห่างระหว่างบคุ คลและจดั ทน่ี ่ังบนรถโดยทาสญั ลักษณ์จดุ ตาแหน่งที่น่งั ชัดเจน
24
4) จัดให้มีแอลกอฮอล์หรือน้ายาฆ่าเช้ือโรคประจารถ เพ่ือทาความสะอาดรถรับ-ส่งนักเรียนก่อนและหลังการ
ให้บรกิ ารแตล่ ะรอบ
5) เปดิ หนา้ ตา่ งและประตเู พ่อื ถ่ายเทระบายอากาศภายในตัวรถและทาความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น
ราวจบั ทเี่ ปดิ ประตู เบาะน่งั ท่วี างแขน เปน็ ตน้
6) มกี ารลงทะเบยี นบันทกึ ขอ้ มลู การใชบ้ ริการแต่ละรอบของนักเรยี น
2. รถสว่ นบุคคล (ผูป้ กครองมารบั - ส่ง)
1) ตอ้ งสวมหนา้ กากอนามัยตลอดเวลา
2) ใช้แอลกอฮอล์หรือพน่ สเปรยฆ์ ่าเช้ือ ก่อนขึ้นและลงรถ
3) ไม่แวะสถานท่ีอนื่ ในระหวา่ งเดินทาง
3. เดินทางมาดว้ ยตนเอง (เดินเทา้ , รถจกั รยาน, รถจักรยานยนต)์
1) ตอ้ งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
2) ไม่แวะสถานที่อน่ื ในระหว่างเดินทาง
3) ไม่หยบิ จบั สิง่ ของบรเิ วณข้างทาง
4) พกแอลกอฮอลล์ ้างมือตดิ ตัวตลอดเวลา
หมายเหตุ
1. การเดินทางไป - กลบั ระหว่างบา้ นกับสถานศึกษา นักเรียนตอ้ งจดบนั ทึก Timeline ทุกวัน
2. กรณนี กั เรยี นมีโทรศพั ทม์ ือถอื สามารถตรวจสอบการเดนิ ทางโดยใช้แอพพลเิ คชัน่ Google Maps
4. จัดให้มี School Pass สาหรับนักเรยี น ครู และบคุ ลากรในสถานศกึ ษา
ก่อนนกั เรียน ครู และบุคลากรในสถานศกึ ษาเข้าสถานศกึ ษาใหแ้ สดงขอ้ มลู ดงั นี้
1) ผลการประเมินตนเองของนักเรยี น ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาผ่านแอปพลเิ คชัน Thai Save Thai (TST)
2) ประวตั ิการรับวัคซีน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะพืน้ ท่ีควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง) และพ้ืนท่ี
ควบคมุ สูงสดุ และเขม้ งวด (พ้ืนทสี่ แี ดงเข้ม)
3) ผลตรวจคดั กรองหาเช้อื ตามแนวทางคณะกรรมการควบคมุ โรคระดบั พน้ื ที่
หมายเหตุ สามารถเลือกปฏิบตั ิเพยี งขอ้ ใดข้อหนงึ่ หรือทัง้ 3 ขอ้ ตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา
2. กรณีโรงเรยี นไม่สามารถเปิดเรยี นได้ตามปกติ
การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่ง
สถานศึกษาไม่สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ เพ่ือให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง สถานศึกษาจึงควรเลือกรูปแบบการ
เรยี นการสอนใหม้ ีความเหมาะสมตามความพร้อมของสถานศกึ ษา ดงั น้ี
1) การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ( Online ) การจัดการเรียนการสอนผ่านอนิ เทอร์เน็ตและ
แอพพลิเคชัน การจดั การเรียนการสอนแบบน้ี สาหรับครูและนกั เรียนท่ีมีความพรอ้ มทางด้านอปุ กรณ์ เช่นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต
โทรศพั ท์ และมีการเช่อื มต่อสัญญาณอินเทอร์เนต็
2) การเรยี นผา่ นหนังสือ เอกสารและใบงาน ( ON Hand ) การจัดการเรียนการสอนในกรณีที่นักเรียนมี
25
ทรัพยากรไม่พรอ้ มในการจดั การเรียนการสอนในรูปแบบข้างต้น โดยสถานศกึ ษาจัดทาแบบฝกึ หัดหรือให้การบา้ นไปทาทบี่ ้าน
อาจใช้รว่ มกบั รูปแบบอื่น ๆ ตามบริบทของท้องถิน่
3) การจดั การเรยี นการสอนแบบ ( ON Demand ) คือ การเรียนรผู้ ่านทางเว็บไซต์ DLTV (www.dltv.ac.th)
หรอื ช่อง YouTube และแอพพลเิ คชนั ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนหรือแทบ็ เล็ต
26
4ส่วนที่ แผนเผชญิ เหตุ
โรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารุงจัดทาแผนเผชิญเหตุตามมาตรการปูองกันตามระดับการแพร่ระบาด ของโรคติดเช้ือ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสถานศึกษา กรณีหากพบผู้ติดเช้ือหรือพบว่ามีนักเรียน ครู หรือ บุคลากรทางการศึกษามี
ความเสี่ยงสูง สถานศึกษาต้องมีความพร้อมในเรื่องสถานท่ีวัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบขนส่งระบบการประสานงาน
ตรงกับบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ การสร้างการรับรู้ข่าวสารภายใน รวมทั้งการคัดกรองเพื่อแบ่งกลุ่มนักเรียน ครูและ
บคุ ลากรในสถานศึกษา ตามทกี่ ระทรวงสาธารณสขุ และ กระทรวงศกึ ษาธิการ กาหนดรายละเอียดตอ่ ไปนี้
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพื่อกาหนดมาตรการการเตรียมความพร้อมการปูองกันการควบคุมโรค และตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีการแพร่
ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในโรงเรียน
2. เพื่อกาหนดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของบุคลากรในการเตรียมความพร้อม การปูองกันควบคุมโรค และ
ตอบโต้ ภาวะฉุกเฉนิ กรณีสถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงเรยี น
3. เพ่ือให้การประสานงานระหว่างบุคลากรภายในและภายนอกในการเตรียมความพร้อมการปูองกัน ควบคุมโรค
และตอบโต้ภาวะฉุกเฉนิ กรณี สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID19)
4. เพ่ือสร้างความม่ันใจในการเตรียมความพร้อมการปูองกัน การควบคุมโรค และตอบโต้ภาวะ ฉุกเฉินกรณี
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับบุคลากร ผู้ปกครอง และนักเรียนของโรงเรียน
ประสาธนร์ าษฎรบ์ ารุง
แนวปฏิบัตแิ ผนเผชิญเหตรุ องรับการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
1. การสร้างความรว่ มมือจากทกุ ภาคสว่ น
2. โรงเรียนจัดทาคาสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ปี
การศกึ ษา 2565
3. คัดกรองนักเรียน ผู้บริหาร ครู บุคลากร และผู้เกี่ยวข้องมีการสวมหน้ากาก การล้างมือ การเว้นระยะห่าง การทา
ความสะอาด และลดความแออดั
4. มีแนวปฏิบัติสาหรับผู้บริหาร ครู และบุคลากรในสถานศึกษาในการดาเนินการเก่ียวกับโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
5. การปดิ สถานศึกษาที่เกดิ การระบาดและควบคุมการระบาดในสถานศึกษา
6. รายงานการประเมนิ สถานการณผ์ ลการดาเนินงาน ปัญหาอปุ สรรค และให้ข้อเสนอแนะแก่ หน่วยงาน ต้นสังกัด และ
คณะกรรมการโรคติดตอ่ ระดับจงั หวัดเพ่ือการตัดสินใจ
27
แผนเผชิญเหตรุ องรบั สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทม่ี ีความรุนแรงขึน้ ทัว่ โลก
จานวนผูป้ ุวยติดเชือ้ สะสมเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเป็นภาวะ เสี่ยงต่อการตดิ โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในเขต
พื้นท่ีชุมชนและสถานศึกษา ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรยี นการสอน ดงั นัน้ โรงเรยี นประสาธน์ราษฎร์บารงุ ไดจ้ ดั ทาแผนเผชิญ
เหตรุ องรบั สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดงั นี้
แผนเผชญิ เหตุ
มาตรการป้ องกันตามระดับการแพร่ระบาดโควิด – 19
โรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารงุ
ระดับการแพรร่ ะบาด ครูนกั เรยี น/ มาตรการปอ้ งกนั
ในชุมชน ในสถานศกึ ษา โรงเรียนสถานศึกษา
ไมพ่ บผตู้ ดิ ไมพ่ บผู้ตดิ เชอื้ 1 .ไม่พบผตู้ ิดเชือ้ ยืนยนั 1 .ไม่พบผตู้ ดิ เชือ้ ยนื ยนั
เชื้อ ยืนยัน
1 .เปิดเรยี น Onsite
มผี ู้ตดิ เชื้อ ไม่พบผตู้ ิดเชอ้ื 1 .ปฏบิ ัติตามมาตรการ DMHTT 2. ปฏบิ ตั เิ ขม้ ตามมาตรการ TSC+
ประปราย ยนื ยนั 2 .ประเมนิ TST ทุกวัน 3. เฝูาระวงั คดั กรอง กรณีโรงเรียนนอนประจา,
เดก็ พเิ ศษ
1-5 ราย
พบผูต้ ิดเชือ้ 1. ปฏบิ ตั ิเขม้ ตาม DMHTT 1 .หอ้ งเรียนทมี่ ผี ู้ตดิ เช้ือปดิ เรยี นเปน็ เวลา วนั 3
ยนื ยนั ใน * เน้นใส่หน้ากาก เพ่ือทาความสะอาด
หอ้ งเรียน * เวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล 1-2 ม. 2. เปดิ หอ้ งเรียนอ่ืน ๆ Onsite ไดต้ ามปกติงด
1 ราย ข้นึ ไป 2. ประเมิน TST ทกุ วนั กจิ กรรมที่มีการรวมกล่มุ กันโดยเฉพาะระหวา่ ง
3. ระบายอากาศทุก 2 ชว่ั โมง ห้องเรยี น
กรณีใช้เครื่องปรบั อากาศ 3. สมุ่ ตรวจเฝาู ระวงั
กรณี High Risk Contact : Sentinel Surveillance ทุก 2 คร้งั /สัปดาห์
งดเรยี น On Site และ กักตวั ทบ่ี ้าน 14 วัน 4.ปฏิบัติเขม้ ตามมาตรการ TSC+
กรณี Low Risk Contact :
ให้สงั เกตอาการของตนเอง และปฏิบัติตาม
มาตราการของกระทรวงสาธารณสุข
28
ระดบั การแพรร่ ะบาด มาตราการปอ้ งกัน
ในชุมชน ในชุมชน คร/ู นกั เรียน สถานศกึ ษา
พบผ้ตู ิดเชอ้ื .1ประเมนิ TST ทกุ คนในหอ้ งเรียนและ ผู้ 1 .หอ้ งเรียนหลายห้องที่พบผตู้ ิดเช้ือ ปิด
ยืนยนั มากกว่า สมั ผสั ใกลช้ ิดทกุ วนั เรียนเปน็ เวลา 3 วนั เพ่อื ทาความสะอาด งด
1 หอ้ งเรียน 2 .ปฏิบัติเข้มตามมาตรการ DMHTT กจิ กรรมทีม่ ีการรวมกลมุ่ กนั ทกุ กจิ กรรมหรือปดิ
* เน้นใสห่ นา้ กาก เรยี นตามอานาจพิจารณาของคณะกรรมการ
* เวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบคุ คล 1-2 ม. โรคตดิ ต่อจังหวดั
.3ระบายอากาศทุก 2 ช่ัวโมง 2. เปิดห้องเรยี นอ่นื ๆ Onsite ไดต้ ามปกติงด
กรณีใช้เครอื่ งปรบั อากาศ กิจกรรมท่ีมีการรวมกลมุ่ กันโดยเฉพาะระหวา่ ง
ห้องเรยี น
3. สมุ่ ตรวจเฝาู ระวงั
Sentinel Surveillance ทกุ 2 ครั้ง /สปั ดาห์
4.ปฏิบตั ิเขม้ ตามมาตรการ TSC+
มีผู้ติดเชอื้ 1. ปฏิบตั ิเขม้ ตาม DMHTT 1 .พจิ ารณาการเปิดเรียน Onsite โดยปฏบิ ัติตาม
เป็นกลมุ่
* เน้นใส่หนา้ กาก มาตรการทุกมิติ
กอ้ น
( cluster ) * เว้นระยะห่างระหวา่ งบุคคล 1-2 ม. 2. สาหรับพนื้ ทีร่ ะบาดแบบกลุ่มก้อน
ในชมุ ชน
2. ประเมิน TST ทกุ วนั พจิ ารณาปดิ เรยี นโดยคณะกรรมการควบคุมการ
3. ระบายอากาศทุก 2 ช่ัวโมง แพร่ระบาดระดับพ้ืนทห่ี ากมีหลักฐานและความ
กรณใี ชเ้ คร่ืองปรบั อากาศ จาเป็น
กรณี High Risk Contact : 3.สมุ่ ตรวจเฝูาระวัง Sentinel Surveillance
งดเรียน On Site และ กักตัวที่บ้าน 14 วัน ทุก 2 สปั ดาห์
กรณี Low Risk Contact :
ใหส้ งั เกตอาการของตนเอง
29
ระดบั การแพรร่ ะบาด มาตราการปูองกนั
ในชมุ ชน ในสถานศกึ ษา คร/ู นักเรียน สถานศึกษา
มกี ารแพร่ .1ปฏิบัติเขม้ ตาม DMHTT 1. พจิ ารณาการเปิดเรียน On Site
โดยเขม้ ตามมาตรการทุกมิติ
ระบาดใน 2. เฝูาระวังอาการเสีย่ งทกุ วัน 2. สาหรบั พ้ืนที่ระบาดแบบกลมุ่ กอ้ น
พจิ ารณาปดิ โดยคณะกรรมการควบคมุ การ
ชมุ ชน Self Quarantine แพรร่ ะบาดระบาดระดบั พ้นื ท่หี ากมีหลกั ฐาน
และความจาเปน็
3. ประเมิน TST ทุกวัน 3. สมุ่ ตรวจเฝาู ระวัง
Sentinel Surveillance ทุก 2 สัปดาห์
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข. (2564). คู่มือการปฏิบัติมาตรการ Sandbox Safety Zone in School เปิดเรยี นมั่นใจ
ปลอดภยั ไรโ้ ควิด 19 ในสถานศกึ ษา. กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข.
หมายเหตุ
เมื่อพบผ้ตู ิดเช้ือยืนยัน ให้ประสานงานกับโรงพยาบาลถ้าพรรณรา
ชอ่ื ผปู้ ระสานงาน นายสันติชยั ไตรเมศ โทร 088-3861502
30
คู่มอื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
สว่ นท่ี 5 บทบาทของบคุ ลากรและหนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ ง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงมีการแพร่
ระบาดอย่างต่อเน่ือง เพื่อให้สถานศึกษามีแนวทางการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVD-19) สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จึงกาหนดบทบาทของบุคลากรและหน่วยงานที่
เก่ียวขอ้ ง ดังนี้
1. บทบาทของนักเรยี น
นักเรยี นเป็นหวั ใจสาคัญท่ีต้องได้รับความคมุ้ ครอง ดแู ลในเรื่องความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทั้งนี้นักเรียน
จะต้องถือปฏิบัติตนตามมาตรการความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาอย่างเคร่งครัด
ตั้งแตก่ ารเดินทางออกจากบา้ นมาเรยี น ขณะอยใู่ นโรงเรยี น จนถึงการกลับบา้ น บทบาทของนักเรยี น ควรมีดงั น้ี
1) เตรยี มความพรอ้ มในเรือ่ งอปุ กรณ์การเรยี น เคร่อื งใช้ส่วนตัว และอ่ืน ๆ ท่จี าเปน็ สาหรับการเรยี น
2) ปฏิบัตติ าม 6 มาตรการหลกั 6 มาตรการเสริมของกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดอย่างเครง่ ครดั
3) ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
และสร้างความรู้ความเข้าใจของคาแนะนาในการปูองกันตนเอง และลดความเส่ียงจากการแพร่กระจายของโรค
ตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) จากแหล่งขอ้ มลู ทเี่ ชือ่ ถือได้
4) ประเมินความเส่ียงของตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น Thai Save Thai (TST) อย่างสม่าเสมอและสังเกต
อาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส รีบแจ้ง
ครูหรือผู้ปกครองให้พาไปพบแพทย์ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
หรือกลบั จากพน้ื ทีเ่ สี่ยง และอยใู่ นช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตามคาแนะนาของเจา้ หน้าทีส่ าธารณสุขอย่างเครง่ ครัด
5) ขอคาปรึกษาจากครูผู้สอนเมื่อพบปัญหาเกี่ยวกับการเรียน อุปกรณ์การเรียน เคร่ืองใช้ส่วนตัว หรือ
พบความผิดปกติของร่างกายทอี่ าจเส่ียงต่อการติดเชื้อของโรคติดเชือ่ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ทนั ที
2. บทบาทของครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
ครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น ซึ่งถืออยู่ใกล้ชิดนักเรียน มีหน้าที่สาคัญในการจัดการเรียนรู้ให้แก่
นักเรียนทุกรูปแบบ จึงต้องเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนสอน
นอกจากจะต้องดูแลตนเองแล้ว ยังต้องดูแลนักเรียนอีกด้วย โดยเฉพาะด้านสุขอนามัยตามมาตรการท่ีกระทรวง
สาธารณสุขกาหนด บทบาทของครูและบุคลากรทางการศึกษา ควรมีดงั น้ี
1) ประชุมออนไลน์ (Online) ช้ีแจงผู้ปกครองนักเรียน เพ่ือสร้างความเข้าใจร่วมกันในการปูองกันการ
เฝูาระวัง การเตรียมตวั ของนักเรียนให้พร้อมกอ่ นเปิดเรยี น
2) ประเมินความเส่ียงของตนเองผ่านแอพพลิเคชัน Thai Save Thai (TST) อย่างสม่าเสมอและสังเกต
อาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจลาบาก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส ให้หยุด
ปฏิบัติงาน และรีบไปพบแพทย์ทันที กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโ รคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) หรือกลับจากพื้นทเ่ี สี่ยงและอยู่ในช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขอย่าง
31
ค่มู อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรยี นภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
เครง่ ครัด
3) ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
และสร้างความรู้ความเข้าใจของคาแนะนาในการปูองกันตนเอง และลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรค
ติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากแหล่งข้อมลู ทเ่ี ชื่อถอื ได้
4) จดั หาส่อื ประชาสมั พันธใ์ นการปูองกนั และลดความเส่ียงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโร
นา 2019 (COVID-19) ให้แก่นกั เรียน เช่น สอนวิธีการล้างมือที่ถูกต้อง การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
คาแนะนาการปฏิบตั ิตวั การเวน้ ระยะห่างทางสังคม การทาความสะอาด หลกี เลี่ยงการทากิจกรรมร่วมกันจานวน
มากเพอื่ ลดจานวนคน
5) ปฏบิ ตั ติ าม 6 มาตรการหลกั 6 มาตรการเสรมิ ของกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดอย่างเคร่งครัด
6) คอยดูแล สอดส่องช่วยเหลือนักเรียนในเร่ืองสุขอนามัยให้เป็นไปตามมาตรการที่กระทรวง
สาธารณสุขกาหนด ได้แก่
(1) ทาการตรวจคัดกรองสุขภาพนักเรียนทุกคนท่ีเข้ามาในโรงเรียนในตอนเช้า ใช้เครื่องวัด
อุณหภูมิร่างกายพร้อมสังเกตอาการและสอบถามอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ
หายใจลาบาก เหน่ือยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส โดยติดสัญลักษณ์ สติกเกอร์หรือตราป๊ัม แสดงให้เห็นชัดเจนว่า
ผา่ นการคดั กรองแลว้
(2) กรณีพบนักเรียนหรือผู้มีอาการมีไข้ อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสข้ึนไป
ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหน่ึง จัดให้อยู่ในพื้นท่ีแยกส่วน ประสานโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพประจาตาบล หรอื เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ เพอื่ ตรวจคัดกรองอกี ครั้ง หากพบว่าผลตรวจเบ้ืองต้นเป็นบวกจึง
แจ้งผู้ปกครองมารับ จากนั้นแจ้งผู้บริหารหรือผู้มีส่วนเก่ียวข้อง เพื่อดาเนินการตามแผนเผชิญเหตุและมาตรการ
ปูองกันตามระดบั การแพร่ระบาดโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ของสถานศกึ ษา
(3) บันทึกผลการคัดกรองและสง่ ต่อประวัติการปวุ ย ตามแบบบันทึกการตรวจสุขภาพ
(4) จดั อปุ กรณก์ ารลา้ งมอื พรอ้ มใช้งานอย่างเพยี งพอ เช่น เจลแอลกอฮอลว์ างไว้บริเวณทางเข้า
สบูล่ า้ งมอื บรเิ วณอ่างล้างมอื
7) ตรวจสอบ กากบั ตดิ ตามการมาเรยี นของนกั เรยี น ขาดเรียน ถูกกักตัว หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติด
โรคโควิด 19 และรายงานต่อผู้บรหิ าร
8) ปรับพฤติกรรมสาหรับนักเรียนท่ีไม่ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการท่ีครูกาหนดด้วยการแก้ปัญหาการ
เรยี นรู้ใหมใ่ ห้ถูกต้อง นั่นคือ "สร้างพฤติกรรมที่พงึ ประสงค์" หรอื "ลดพฤตกิ รรมท่ไี ม่พึงประสงค์"
9) สร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับความเครียด ว่าเป็นปฏิกิริยาปกติท่ีเกิดขึ้นได้ในภาวะวิกฤติที่มีการ
แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และนากระบวนการการจัดการความเครียด การฝึก
สติให้กลมกลืนและเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละวัยร่วมกับการฝึกทักษะชีวิตที่เสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ
(Resilience) ใหก้ ับนักเรยี น ได้แก่ ทกั ษะชีวิตดา้ นอารมณ์ สงั คม และความคดิ เป็นตน้
10) สังเกตอารมณ์ความเครียดของตัวเอง เน่ืองจากภาระหน้าท่ีการดูแลนักเรียนจานวนมากและกากับ
ปฏิบัติตามมาตรการปูองกันการติดโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นบทบาทสาคัญอาจจะสร้าง
32
คู่มอื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ความเครยี ดวติ กกงั วลทั้งจากการเฝูาระวงั นักเรียนและการปูองกันตัวเองจากการสัมผัสกับเช้ือโรค ดังนั้น เมื่อครู
มีความเครยี ดจากสาเหตุตา่ ง ๆ มขี อ้ เสนอแนะ ดังนี้
(1) กรณีมีความสับสนกับมาตรการของโรงเรียนที่ไม่ชัดเจน แนะนาให้สอบถามกับผู้บริหาร
โรงเรยี นหรอื เพอ่ื นรว่ มงาน เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจบทบาทหนา้ ทแ่ี ละขอ้ ปฏบิ ัติทีต่ รงกนั
(2) กรณีมีความวิตกกังวลกลัวการติดเช้ือในโรงเรียน ให้พูดคุยส่ือสารถึงความไม่สบายใจและ
รอ้ งขอส่งิ จาเปน็ สาหรับการเรยี นการสอนทเ่ี พียงพอตอ่ การปูองกันการตดิ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-
19) เช่น สถานที่ ส่ือการเรียนการสอน กระบวนการเรียนรู้ การส่งงานหรือตรวจการบ้าน เป็นต้น หากตนเอง
เป็นกลมุ่ เสย่ี งหรือมีโรคประจาตัวก็สามารถเข้ารับการตรวจรกั ษาตามมาตรการท่ีกระทรวงสาธารณสขุ กาหนด
(3) จัดให้มีกิจกรรมบาบัดความเครียด โดยการฝึกสติให้เป็นกิจวัตรก่อนเร่ิมการเรียนการสอน
เพอื่ ลดความวิตกกังวลตอ่ สถานการณท์ ต่ี งึ เครียดนี้
11) กากับและติดตามการได้รับวัคซีนของนักเรียนและผู้ปกครองให้เป็นไปตามมาตรการที่กาหนดและ
เปน็ ปจั จุบัน
3. บทบาทของผบู้ ริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้ที่มีบทบาทสาคัญในการขับเคลื่อนต้ังแต่การวางแผน การกาหนดนโยบาย
สถานศึกษา การเตรียมความพร้อมการเปิดเรียน การส่งเสริมครูในการออกแบบการจัดการเรียนการสอน การ
กากบั ตดิ ตามช่วยเหลือ การประเมินผลการจัดการเรียนการสอน การแก้ไขปัญหา การประเมินสถานการณ์ การ
รายงาน ตลอดจนร่วมมือกับครูและบุคลากร ผู้ปกครองนักเรียน ให้การตรวจสอบสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพ่ือความปลอดภัยของนักเรียนโดยบทบาทของผู้บริหาร
สถานศึกษา ควรมีดังนี้
1) จัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู ผู้ปกครองนักเรียน
ผู้นาชมุ ชน และมีมติใหค้ วามเห็นชอบรว่ มกันในการจัดพืน้ ทีแ่ ละรปู แบบการจดั การเรยี นการสอน
2) ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) ในโรงเรยี น
3) แต่งต้ังคณะทางานดาเนินการควบคุมดูแลและปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ประกอบดว้ ย นักเรยี น ครู ผ้ปู กครอง เจา้ หน้าที่สาธารณสขุ ท้องถิ่น ชุมชนและผู้เกี่ยวขอ้ ง
4) ประเมินความพร้อมผ่าน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานการติดตามการประเมินผล
ผ่าน MOE COVID
5) ทบทวน ปรับปรุง ซักซ้อมปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของโรงเรียนในภาวะที่มีการระบาดของโรคติด
เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
6) จัดให้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์แนวทางการปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) เก่ียวกับนโยบาย มาตรการ แนวปฏิบัติ และการจัดการเรียนการสอนให้แก่ครู นักเรียน
ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาผ่านช่องทางส่ือที่เหมาะสมและติดตามข้อมูลข่าวสารท่ีเก่ียวข้องจาก
แหลง่ ขอ้ มลู ท่ีเช่อื ถอื ได้
33
ค่มู อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรียมเปดิ เรยี นภายใต้สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
7) สนบั สนนุ ให้นกั เรยี น ครแู ละบคุ ลากรได้รับวคั ซีนครบโดส ตั้งแตร่ ้อยละ 85 ข้ึนไป
8) สนับสนนุ ให้มกี ารตรวจคัดกรองหาเช้อื ด้วยวิธกี ารทีเ่ หมาะสมตามมาตรการของภาครฐั
9) สนับสนุน ส่งเสริม ให้นักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ปกครองประเมินตนเองผ่าน Thai
Save Thai (TST) ตามเกณฑ์จาแนกเขตพ้นื ท่ีการแพร่ระบาด
10) ส่ือสารสร้างความรู้ความเข้าใจ เพ่ือลดการรังเกียจและลดการตีตราทางสังคม (Social Stigma)
กรณีพบว่ามบี ุคลากรในโรงเรียน นกั เรียน หรอื ผู้ปกครองตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
11) กาหนดมาตรการคัดกรองสุขภาพทุกคน บริเวณจุดแรกเข้าไปในโรงเรียน (Point of Entry) ให้แก่
นักเรียน ครู บุคลากรและผู้มาติดต่อ และจัดให้มีพ้ืนท่ีแยกโรค อุปกรณ์ปูองกัน เช่น หน้ากากผ้าหรือหน้ากาก
อนามัย เจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ รวมถึงเพ่ิมช่องทางการสื่อสารระหว่างครู นักเรียน ผู้ปกครอง และ
เจา้ หนา้ ท่สี าธารณสขุ ในกรณีทพ่ี บนักเรียนกลมุ่ เสี่ยงหรือสงสยั
12) จัดให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนท่ีมีคุณภาพเหมาะสมตามบริบทได้อย่างต่อเน่ือง
ตรวจสอบ ติดตาม กรณีนักเรียนขาดเรียน ลาปุวย การปิดโรงเรียน การจัดให้มีการเรียนการสอนทางไกล ส่ือ
ออนไลน์ การติดต่อทางโทรศัพท์ หรอื Social Media เปน็ รายวนั หรือรายสปั ดาห์
13) กรณพี บนกั เรียน ครู บุคลากร หรือผู้ปกครองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ปุวยยืนยันเข้ามาในโรงเรียน ให้
รีบแจง้ เจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ ในพื้นทีเ่ พอ่ื ดาเนนิ การสอบสวนโรคและพิจารณาดาเนินการตามแผนเผชิญเหตุ และ
มาตรการปูองกนั ตามระดับการแพรร่ ะบาดโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสถานศกึ ษา
14) มีมาตรการให้นักเรียนได้รับอาหารกลางวัน ตามสิทธิที่ควรได้รับกรณีพบอยู่ในกลุ่มเส่ียงหรืออยู่
ในชว่ ง กักตวั
15) ควบคุม กากับ ติดตาม ตรวจสอบและรายงานผลการดาเนินงาน ตามมาตรการปูองกันการแพร่
ระบาดภายในโรงเรียนอย่างเคร่งครัดและตอ่ เนอ่ื ง
16) เย่ียมบ้านสร้างขวัญกาลังใจนักเรียน ท้ังนักเรียนที่มาเรียนแบบปกติและท่ีไม่สามารถมาเรียนแบบ
ปกตไิ ด้
4. บทบาทของผปู้ กครองนกั เรยี น
ผู้ปกครองนักเรียน เป็นบุคคลที่มีความสาคัญย่ิงมีหน้าท่ีต้องดูแลเอาใจใส่นักเรียนและตนเองในด้าน
สุขอนามัยและการปูองกันความเส่ียงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่าง
เคร่งครัด ต้องให้ความร่วมมือกับโรงเรียน ครูประจาช้ัน หรือครูที่ปรึกษา เกี่ยวกับมาตรการการดูแลนักเรียน
ผู้ปกครอง จึงมีบทบาทสาคัญร่วมกับครู เพื่อช่วยนักเรียนทั้งในเร่ืองการเรียนรู้และการดูแลความปลอดภัยของ
นกั เรียน บทบาทของผปู้ กครอง ควรมีดังน้ี
1) ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
และสร้างความรู้ความเข้าใจของคาแนะนาในการปูองกันตนเองและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรค
ตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากแหลง่ ข้อมลู ท่เี ชอื่ ถอื ได้
2) ประเมินความเสี่ยงของตนเอง นักเรียน และคนในครอบครัวผ่านแอปพลิเคชัน Thal Save Thai
(TST) อย่างสม่าเสมอ สังเกตอาการปุวยของนักเรียน ของตนเอง และของคนในครอบครัว หากมีอาการไข้ มี
34
ค่มู อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรียมเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
น้ามูก เจบ็ คอ หายใจลาบาก เหน่อื ยหอบ ไม่ได้กลน่ิ ไม่รรู้ ส ให้รีบพาไปพบแพทย์ ควรแยกเด็กไม่ให้ไปเล่นกับคน
อ่ืน ให้พักผ่อนอยู่ท่ีบ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) หรือกลับจากพ้ืนที่เส่ียงอยู่ในช่วงกักตัวให้ปฏิบัติตามคาแนะนาของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่าง
เครง่ ครัด
3) จัดหาของใช้ส่วนตัวให้นักเรียนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ทาความสะอาดทุกวัน เช่น หน้ากากผ้า
ชอ้ น สอ้ ม แก้วนา้ แปรงสฟี นั ยาสฟี นั ผา้ เชด็ หน้า ผา้ เชด็ ตัว เป็นต้น
4) จัดหาสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์และกากับดูแลนักเรียนให้ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนกินอาหาร หลังใช้ส้วม
หลกี เล่ียงการใช้มือสมั ผสั ใบหนา้ ตา ปาก จมูก โดยไมจ่ าเป็นและสร้างสุขนิสัยท่ีดีหลังเล่นกับเพ่ือน และเม่ือกลับ
มาถงึ บ้าน ควรอาบน้า สระผม และเปลยี่ นชดุ เสอ้ื ผา้ ใหม่ทนั ที
5) ดูแลสุขภาพนักเรียน จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ ส่งเสริมให้กินอาหารร้อน สะอาด อาหารครบ 5
หมู่ และผัก ผลไม้ 5 สี และควรจัดอาหารกล่อง (Box Set) ให้แก่นักเรียนในช่วงเช้าแทนการซ้ือจากโรงเรียน
(กรณีท่ีไม่ได้รับประทานอาหารเชา้ จากที่บ้าน) เพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ออกกาลังกายอย่างน้อย 60 นาที ทุกวัน
และนอนหลับอยา่ งเพยี งพอ 9 - 11 ชั่วโมงตอ่ วนั
6) หลีกเลี่ยงการพานักเรียนไปในสถานเสี่ยงต่อการติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สถานท่ี
แออัดท่ีมีการรวมกันของคนจานวนมาก หากจาเป็นต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ
7 ขั้นตอน ด้วยสบูแ่ ละน้า นาน 20 วนิ าที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
7) กรณีนักเรียนเดินทางมาโรงเรียน โดยรถโรงเรียน รถตู้ หรือรถอ่ืน ๆ ผู้ปกครองและโรงเรียนต้องขอ
ความรว่ มมือกับคนขบั รถให้ปฏบิ ตั ติ ามมาตรการของสาธารณสขุ อยา่ งเครง่ ครดั
8) กรณีมีการจัดการเรียนการสอนทางไกล ออนไลน์ ผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือกับครูในการดูแล
จัดการเรยี นการสอนแก่นกั เรยี น เช่น การส่งการบา้ น การรว่ มทากิจกรรม เป็นต้น
5. บทบาทขององคก์ รสนบั สนุน
5.1 สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษา
1) ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจให้โรงเรียนในสังกัดเกี่ยวกับการปูองกันตนเอง การดูแล
สุขอนามยั ของตนเอง และบคุ คลในครอบครวั
2) ประสานงานองคก์ รต่าง ๆ ในเขตพ้ืนที่การศกึ ษาในการชว่ ยเหลือสนับสนุนโรงเรยี น
3) นิเทศ กากับ ติดตาม โรงเรียนในสังกัดด้านการบริหารโรงเรียนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
4) กากบั ติดตาม โรงเรยี นในสงั กัดดา้ นการบริหารข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกบั การได้รับวัคซีนของนักเรียน
ครู ผู้บริหารโรงเรยี นและผปู้ กครองนักเรยี นให้ได้รับวัคซีนตามมาตรการที่กาหนด
5) รายงานผลการดาเนินการต่อหน่วยงานตน้ สังกัดใหท้ ราบความเคล่อื นไหวอยา่ งต่อเนื่องสม่าเสมอ
6) ประชุม ตรวจเย่ียมสถานศึกษา สร้างขวัญกาลังใจในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ทั้ง
แบบปกตแิ ละแบบทางไกล
5.2 สานกั งานสาธารณสุข
35
ค่มู อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรยี นภายใต้สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
1) ให้คาแนะนาเก่ียวกับข้อควรปฏิบัติของสถานศึกษา สนับสนุนการดาเนินงานของโรงเรียนให้
สอดคลอ้ งตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ และกระทรวงศึกษาธิการกาหนด
2) สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ชุดตรวจคัดกรองหาเช้ือที่เหมาะสม อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ
หน้ากากอนามยั เจลล้างมือ ฯลฯ
3) สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการบริการตรวจคัดกรองความเสี่ยงให้แก่ นักเรียน ครู และ
บคุ ลากรทางการศึกษา
4) จดั ใหม้ ชี ่องทางการส่ือสาร การให้ข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้องเป็นปัจจุบันให้กับสถานศึกษาและจัดระบบ
สนับสนนุ เมอื่ มีนกั เรียน ครหู รอื บุคลากรมีความเส่ยี งตอ่ การตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
5) สารวจ ติดตามสถานการณ์ในพ้ืนที่บริการอย่างต่อเนื่อง กรณีพบผู้มีอาการเส่ียงหรือปุวย ต้อง
ดาเนนิ การทนั ทีและรายงานให้สถานศึกษาทราบเพอ่ื ดาเนนิ การตามมาตรการตอ่ ไป
6) ออกให้บริการตามท่ีสถานศึกษาร้องขอ เช่น จัดเจ้าหน้าท่ี อสม.ประจาหมู่บ้าน ตาบล ตรวจเวรยาม
บนั ทึกตู้แดงตามจดุ ท่ีโรงเรยี นกาหนดและอื่น ๆ ตามความต้องการจาเปน็
5.3 องค์กรทางปกครอง
หมายถึง หน่วยงานทางปกครอง ได้แก่ จังหวัด อาเภอ ตาบล หมู่บ้าน และหน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่
องค์การบริหารสว่ นตาบล เทศบาล
1) ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้โรงเรียนและชุมชนในเขตการปกครอง มีความรู้ความเข้าใจ
เก่ียวกบั การปูองกันตนเอง การดแู ลสขุ อนามัยของตนเองและบุคคลในครอบครวั
2) สนับสนุน ชว่ ยเหลอื โรงเรยี นในเขตปกครองตามคาสง่ั ของจังหวัดอย่างเคร่งครดั
3) กากบั ตดิ ตามการไดร้ บั วคั ซนี ของประชาชนในเขตปกครองและมีข้อมูลทางสถิติที่อ้างอิงเชื่อถือได้
4) ใหบ้ รกิ ารตามทีส่ ถานศึกษาร้องขอตามความตอ้ งการเรง่ ด่วนและจาเปน็
5.4 องคก์ รเอกชน
1) สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ ชุดตรวจคัดกรองหาเชื้อที่เหมาะสม อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ
หน้ากากอนามยั เจลลา้ งมอื ฯลฯ
2) สนับสนุนงบประมาณให้แก่สถานศึกษาในการนาไปใช้บริหารจัดการภายใต้สถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
3) อานวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน จาเป็นในการส่งตัวนักเรียน ครูและบุคลากร ที่
คาดวา่ จะไดร้ ับเชื้อหรอื เปน็ กลุ่มเสีย่ งสง่ หนว่ ยงานสาธารณสขุ ได้อย่างรวดเร็ว
4) สร้างระบบการติดต่อส่ือสารหน่วยงานภายในจังหวัด อาเภอ ตาบล ให้มีความรวดเร็วในการ
ช่วยเหลือดแู ล นักเรียน ครู บุคลากร และผปู้ กครองที่สถานศกึ ษาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
36
คมู่ ือการปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรียมเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
6ส่วนท่ี แนวทางการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
การเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียน
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตาม
ขอ้ กาหนด ตามความในมาตรา 9 แหง่ พระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับ
ท่ี 32) ลงวันท่ี 20 กันยายน 2564 กาหนดมาตรการ Sandbox : Safety Zone in School เพื่อให้สถานศึกษา
นาไปใช้ในการการปฏิบตั ขิ องสถานศกึ ษา ดังน้ี
กอ่ นเปดิ เรยี น
1) โรงเรียนทาการสารวจขอ้ มลู ครู นักเรียน ผูป้ กครอง และบคุ คลที่เก่ยี วข้องกับการเดินทางไปยังพื้นท่ี
เส่ยี ง ภายใน 14 วัน หรอื มีอาการท่ีแสดงว่ามีความเส่ียงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) และให้
แจ้งโรงเรยี นรบั ทราบโดยทนั ที
2) โรงเรียนมีการแบ่งพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจน จัดเตรียมสถานที่ในห้องเรียน โรงอาหาร
พื้นที่สันทนาการ โดยใช้ social distancing ให้มีระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตร ระหว่างบุคคล พร้อมทาปูาย
สัญลกั ษณแ์ จ้งเตอื นทวั่ บริเวณโรงเรยี น และต้องหม่ันตรวจสอบใหอ้ ยู่ในสภาพพรอ้ มใช้งาน
3) โรงเรียนมีการทาความสะอาดพ้ืนท่ีภายในโรงเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอนทุกครั้งก่อน
เปิดเรียนอย่างต่อเนอื่ ง
4) โรงเรียนกาหนดจุดคดั กรองบริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของนักเรียน
ครู และบุคลากรทม่ี าติดต่อกับโรงเรียนทุกรายและทุกครง้ั
5) โรงเรียนมีจุดบริการทาความสะอาดมือและมีการจัดเตรียมสบู่ล้างมือ แอลกอฮอล์เจล บริเวณ
ทางเขา้ ประตู โรงเรยี น ห้องเรยี น บรเิ วณอาคาร หอ้ งนา้ หรือสถานท่จี ัดกจิ กรรมอน่ื ๆ อยา่ งเพียงพอและท่วั ถงึ
6) โรงเรียนให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) มาตรการ
ปูองกนั การแพรร่ ะบาดของโรงเรยี นแก่ครู บุคลากร และพนักงานของโรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครอง นักเรียน และ
ผู้เกี่ยวข้อง ( provide Covid-19 )
7) โรงเรียนจัดให้มีปูายประชาสัมพันธ์แนะนามาตรการปูองกันโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID - 19) ของโรงเรยี น การสังเกตอาการ และอื่น ๆ
8) โรงเรียนจัดทาแผนการเรียนการสอน โดยโรงเรียนท่ีมีจานวนนักเรียนมาก อาจแบ่งนักเรียนสลับมา
เรยี นทโ่ี รงเรยี นแตล่ ะหอ้ งหรอื แตล่ ะชัน้ ตามความเหมาะสม หรอื ขยายหอ้ งเรยี น และจัดใหม้ ีการเหล่อื มเวลา เข้า
เรยี น เลกิ เรยี น รวมถึงเวลาพักของนักเรยี นแต่ละชั้นปี
37
คมู่ ือการปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ระหว่างเปดิ เรยี น
9) ผู้ปกครองต้องตรวจวดั อณุ หภมู ขิ องนกั เรียนทกุ คร้งั ก่อนออกจากบ้านมาโรงเรยี น หากตรวจอุณหภูมิ
ร่างกายเทา่ กบั หรอื สูงกวา่ 37.5 องศา ต้องไมใ่ ห้นักเรยี นมาโรงเรียน
10) บุคคลทุกคน ท่ีจะเข้ามาภายในบริเวณโรงเรียนต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ณ จุดคัด
กรอง ทีป่ ระตูทางเข้าโรงเรยี น ในกรณีท่ีพบผู้มีอุณหภูมิร่างกายเท่ากับหรือสูงกว่า 37.5 องศา หรือมีอาการไข้
ไอ จาม มนี า้ มูก หรือมอี าการเก่ียวกับระบบทางเดินหายใจ จะไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในบริเวณโรงเรียน และมี
การบันทึกขอ้ มลู เก็บไว้
11) นักเรียน ครู และบคุ ลากร หรือผมู้ าติดตอ่ กับโรงเรียนทกุ คน ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะท่ีอยู่
ภายในพน้ื ทบ่ี รเิ วณโรงเรียน
12) โรงเรียนต้องจัดให้มีระบบระบายอากาศ เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศได้ดี และทุกคนต้องถอด
รองเทา้ ทุกครง้ั กอ่ นเข้าหอ้ งเรยี น
13) เพ่ิมความเข้มข้นในการทาความสะอาดภายในโรงเรียน ห้องเรียน ห้องน้า อุปกรณ์การเรียน
อุปกรณ์กีฬา เคร่ืองดนตรี ฯลฯ อย่างสม่าเสมอเป็นประจาหลังใช้งาน หากจาเป็นต้องใช้อุปกรณ์และของเล่น
ร่วมกันต้องมีการทาความสะอาดก่อนและหลังใช้งานทุกครั้ง รวมถึงไม่อนุญาตให้นาของเล่นส่วนตัวมาใช้ใน
โรงเรียน
14) โรงเรียนต้องมีการควบคุมคุณภาพการประกอบอาหารและการจัดการน้าด่ืมในโรงเรียนให้ถูก
สขุ อนามัย
15) งดการประชมุ หรอื จดั กจิ กรรมรวมกลุ่มท่มี ีคนหมู่มาก
16) งดกจิ กรรมกฬี าทกุ ประเภททต่ี อ้ งสัมผสั ตวั กับผรู้ ่วมแข่งขนั หรือกฬี าประเภทท่ีตอ้ งแข่งขันเปน็ ทมี
17) นักเรียนจะได้รับคาเตือนจากครูให้ล้างมือเม่ือจบคาบเรียนทุก ๆ คาบ หรือเม่ือทากิจกรรมท่ีต้อง
สมั ผัสวสั ดุ ตา่ ง ๆ โดยมีเจลลา้ งมือให้บริการหน้าโรงเรยี น ในหอ้ งเรยี น หอ้ งนา้ และโรงอาหาร
18) นกั เรียนและพนักงานทกุ คนจะต้องมีขวดนา้ หรอื ภาชนะใส่นา้ ของตนเอง
19) ในกรณที พ่ี บนกั เรียนตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) หรือเจ็บปุวย ให้มีผู้ประสานงานกับ
หน่วยงานดา้ นสาธารณสุข เพอ่ื ดาเนินการคัดแยกและดแู ลรักษาผู้ปุวย
20) หลกี เล่ียงการเรยี นการสอนในห้องเรยี นที่ใชเ้ ครอ่ื งปรบั อากาศเป็นเวลาต่อเนื่องเกนิ 2 ชวั่ โมง
21) การจะใหน้ กั เรียนมาหรือไม่มาโรงเรยี นในแตล่ ะวนั ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของผู้ปกครอง
หลงั เลิกเรียน (After school)
22) โรงเรียนต้องแจ้งผูป้ กครอง เพื่อรับนักเรยี นกลบั บ้านทันทหี ลังเลิกเรียน
23) โรงเรียนมคี ณะกรรมการติดตามและประเมินผลมาตรการการปอู งกนั โรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
(COVID - 19) และรายงานผูอ้ านวยการสถานศกึ ษาทราบเป็นประจา
38
คู่มอื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
แนวทางการจัดการเรยี นการสอน
แนวทางการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) สถานศึกษา พิจารณาเลอื กจัดการเรียนการสอนโดยพิจารณารปู แบบใหม้ ีความเหมาะสม
ตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา ใหส้ อดคล้องกับหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน โดยสถานศกึ ษา กาหนด
แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบ ผสมผสาน (Hybrid) ทัง้ นตี้ ้องคานึงถงึ ความปลอดภัยของนักเรยี น ครู
และบคุ ลากรเป็นสาคัญ
1. กรณีเปดิ เรยี นได้ตามปกติ (Onsite) สถานศกึ ษาจดั การเรียนการสอน ดงั น้ี
โรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารุง เลือกใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ แบ่งกลุ่มมาเรียน
แบ่งเปน็ 2 ระยะ ดังน้ี
ระยะท่ี 1 ระยะทดลอง ( วันที่ 9 – 20 พฤษภาคม 2565 )
1. นักเรยี นกลุ่มเสีย่ งทมี่ แี นวโน้มไมผ่ ่านเกณฑ์ และอาจหลุดจากระบบได้
2. นักเรียนระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 และมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ซ่งึ ตอ้ งจบระดับชนั้ ในภาคเรียนน้ี
ระยะท่ี 2 เปดิ เต็มรูปแบบ
นักเรียนทกุ ระดับช้ันมาเรยี นโดยกาหนดระยะห่าง และแบ่งกลุม่ ช้นั เรียนในกรณที ม่ี ีนักเรยี นมี
จานวนเกนิ ที่กาหนด (กาหนดเวลาใหพ้ กั กลางวนั ไม่ใหต้ รงกนั ใหน้ ักเรยี นอาหารกล่องมารับประทานเอง) เปล่ียน
จากนกั เรียนเปล่ยี นหอ้ งเรยี น เป็นครเู ดินสอน (ให้นักเรียนน่ังประจาห้อง) เพ่ือลดการใกล้ชิดกันของนักเรียนช่วง
ระหวา่ งเปลีย่ นชัว่ โมง
2. กรณโี รงเรยี นไม่สามารถเปดิ เรยี นได้ตามปกติ สถานศกึ ษาจัดการเรยี นการสอน ดังนี้
การจดั การเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-
19) ซึ่งสถานศึกษาไม่สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ เพ่ือให้ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องสถานศึกษาจึง
เลือกรูปแบบการเรยี นการสอนให้มีความเหมาะสมตามความพรอ้ มของสถานศึกษา ดงั น้ี
1) การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online) การจัดการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ตและ
แอพพลิเคชัน การจัดการเรียนการสอนแบบน้ี สาหรับครูและนักเรียนท่ีมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ เช่น
คอมพวิ เตอร์ แทบ็ เล็ต โทรศพั ท์ และมกี ารเชอ่ื มตอ่ สญั ญาณอินเทอร์เนต็ ทุกระดับชน้ั
2) การเรียนผ่านหนังสือ เอกสารและใบงาน (ON Hand) การจัดการเรียนการสอนในกรณีท่ี
นักเรยี นมีทรัพยากรไม่พร้อมในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบข้างต้น โดยสถานศึกษาจัดทาแบบฝึกหัดหรือ
ใหก้ ารบ้านไปทาที่บา้ น อาจใช้ร่วมกับรปู แบบอน่ื ๆ ตามบรบิ ทของท้องถิน่
3) การจัดการเรียนการสอนแบบ (ON Demand) คือ การเรียนรู้ผ่านทางเว็บไซต์ DLTV
(www.dltv.ac.th) หรือช่อง YouTube (DLTV Channel 1-15) และแอพพลิเคชัน DLTV บนสมาร์ทโฟนหรือ
แท็บเล็ต
39
คู่มอื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มบริหารวิชาการ
.........................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ .....................................................
( นางสุนีรตั น์ ชูชว่ ย )
หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ
ความเห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน
.........................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................................
ลงช่ือ .......................................................
( นายเด่นวฒั น สักคุนา )
ผู้อานวยการโรงเรียนประสาธน์ราษฎรบ์ ารุง
ความเห็นของประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐาน
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.
ลงช่ือ..................................................
( นายสมเกียรติ พลายแก้ว )
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐาน
โรงเรยี นประสาธนร์ าษฎรบ์ ารุง
40
คมู่ อื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ภาคผนวก
41
คมู่ อื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรียมเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ภาคผนวก ก
Timeline แบบบนั ทึกการเดินทางของนักเรียน
แบบบันทกึ การเดินทางของนักเรยี น (Timeline) ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
ภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
โรงเรียนประสาธนร์ าษฎร์บารุง
สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษานครศรธี รรมราช
ชอื่ -นามสกุล..........................................................................ชน้ั ........................
วัน/เดือน/ปี ช่วงเวลา สถานท่ี วิธีการเดินทาง ผ้รู ่วมเดินทาง หมายเหตุ
42
คมู่ ือการปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ภาคผนวก ข
การประเมนิ ตนเองผ่านแอพพลเิ คชนั (Thai Save Thai (TST)
43
ค่มู อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ภาคผนวก ค
แบบบนั ทึกขอ้ มลู ผมู้ าตดิ ต่อสถานศึกษา
ภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโคนา 2019 (Covid-19)
โรงเรยี นประสาธน์ราษฎร์บารงุ
สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
ท่ี วัน/ ชอ่ื -นามสกลุ อายุ ทอี่ ยู่ เวลา เข้า-ออก
เดือน/ปี (ปี) บุคคคลทจ่ี ะไปพบ เวลา เวลา หมายเหตุ
เขา้ ออก
44
คูม่ อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใต้สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ภาคผนวก ง
คาสงั่ แตง่ ต้ังคณะกรรมการการเฝ้าระวังและป้องกนั
การแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโคนา 2019 (Covid-19)
คาส่งั โรงเรียนประสาธนร์ าษฎร์บารุง
ที่ 52 / 2565
เร่ือง แตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนินการเฝา้ ระวัง ป้องกนั ควบคุม แก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา่ 2019 (COVID-๑๙)
…………………………………………………………………………....
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้กาชับให้ทุกสถานศึกษา ปฏิบัติตามมาตรการเฝูาระวัง ปูองกัน
ควบคุมแก้ไข สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ให้เป็นไปอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ อาศัยอานาจตามมาตรา 39 แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.
2546 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา
27 จึงแต่งตั้งบุคลากรต่อไปนี้เป็นคณะกรรมการดาเนินการเฝูาระวัง ปูองกัน ควบคุม แก้ไขสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)
1. คณะกรรมการอานวยการ มีหน้าที่ ให้คาแนะนา เป็นทป่ี รกึ ษา แก้ไขปัญหา และให้การสนับสนนุ
ส่งเสริมทกุ ด้าน ไดแ้ ก่
1) นายเด่นวัฒน สักคนุ า ประธานกรรมการ
2) นางอรพนิ ท์ ล่มิ พาณชิ ย์ รองประธานกรรมการ
3) นางสาวจรุ รี ตั น์ เสนา กรรมการ
4) นายธนิต ทองถึง กรรมการ
5) นางสุนรี ตั น์ ชชู ่วย กรรมการ
6) นายสนั ตชิ ยั ไตรเมศ กรรมการและเลขานุการ
2. คณะกรรมการดาเนินงาน มีหน้าที่ นานโยบาย มาตรการ และแนวปฏิบัติในการเฝูาระวัง ปูองกัน
ควบคุม โรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 ( COVID 19) เพื่อปูองกันการแพร่ระบาด ควบคุม กากับ ดูแล และเฝูา
ระวังช่วยเหลือนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน ติดตามสถานการณ์โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 และประสานหน่วยงานที่เก่ียงข้องในการช่วยเหลือนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน
45
คูม่ อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
รวบรวมข้อมูลและรายงานสถานการณ์ ฯ ให้ผู้บังคับบัญชาและส่วนท่ีเกี่ยวข้องทราบ ในกรณีพบบุคคลท่ีอาจมี
ความเส่ยี งใหร้ ายงานไปยังหวั หนา้ งานอนามยั โรงเรียน และใหร้ ายงานตามลาดับ ข้ันตอน ได้แก่
1) นายสนั ตชิ ยั ไตรเมศ ประธานกรรมการ
2) นางสภุ ารตั น์ ไตรเมศ กรรมการ
3) นางอรสา ชมุ ชาตรี กรรมการ
4) นางสาวสธุ าวดี มชั ฌิมวงศ์ กรรมการ
5) นางสาววลิดา เชาวไ์ ฝ กรรมการ
6) นางสาวลลิตวดี บุญชวู งศ์ กรรมการและเลขานุการ
3. คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพนั ธ์ มหี นา้ ที่ ประชาสมั พันธ์ เผยแพร่ รณรงค์ ใหค้ วามรู้ และจดั ทาไวนิล
เก่ียวกบั เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ไดแ้ ก่
1) นางสนั ติชยั ไตรเมศ ประธานกรรมการ
2) นางสาววลดิ า เชาว์ไฝ กรรมการ
3) นางสาวผกามาศ ฤทธิกาญจน์ กรรมการและเลขานุการ
4. คณะกรรมการฝ่ายวชิ าการ มีหน้าท่ี จดั ทา/บรหิ ารหลกั สูตร แผนการจดั การเรยี นรู้ วางแผนจัดการเรียนการ
สอนทางไกล เตรียมความพร้อมกาหนดรูปแบบการจัดการเรียนการสอน แผนการวดั ผลประเมินผล การนเิ ทศ
ตดิ ตาม เพ่ือรองรับการเปิดเรียน ประจาปีการศึกษา 2565 ไดแ้ ก่
1) นางสุนีรัตน์ ชูชว่ ย ประธานกรรมการ
2) นายรฐั ศาสตร์ สงมา กรรมการ
3) นางสาวจริ าพร หยงั หลัง กรรมการ
4) นางสาวศศิกัญญา ไทยกลาง กรรมการ
5) นางสาวผกามาศ ฤทธิกาญจน์ กรรมการ
6) นางทิพย์วรรณ ใจสมทุ ร กรรมการและเลขานุการ
5. คณะกรรมการฝา่ ยแผนงาน การเงิน และพัสดุ มีหน้าท่ี ดาเนินการปรับเปล่ยี นแผนงาน/โครงการ สารวจ
ตรวจสอบงบประมาณ จัดซ้ือ จัดหาวสั ดุ อปุ กรณ์ ทจี่ าเป็นต้องใชใ้ นการดาเนินการ เพื่อใหส้ นองนโยบาย
เปาู หมาย มาตรการการเฝูาระวงั ปอู งกนั และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ตลอดจนดาเนนิ การเร่ืองการเบกิ จ่ายเงนิ ตามระเบียบ ได้แก่
1) นางสาวจุรีรตั น์ เสนา ประธานกรรมการ
2) นางสาวนิสาชล มะศรี กรรมการ
3) นางสาวสธุ าวดี มชั ฌิมวงศ์ กรรมการกรรมการและเลขานุการ
6. คณะกรรมการฝา่ ยอาคารสถานท่ี มีหนา้ ท่ี อานวยความสะดวกด้านความปลอดภยั ด้านอาคารสถานที่
ห้องเรยี น ประสานสานักงานสาธารณสุขในการพ่นยาฆ่าเชื้ออาคารสถานท่ี นาแอลกอฮอล์ ฆา่ เชอ้ื ไปทาความ
สะอาดอาคารสถานท่ีต่าง ๆ ดว้ ยการเช็ดถู บรเิ วณเคาน์เตอร์ วัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช้ร่วมกนั ตดิ ตัง้ อา่ งลา้ งมือให้
46
คู่มือการปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
เพยี งพอ ได้แก่ ทองถึง ประธานกรรมการ
1) นายธนิต ไตรเมศ กรรมการ
2) นายสันตชิ ยั บุญชูวงศ์ กรรมการ
3) นางสาวลลิตวดี แกว้ คง กรรมการ
4) นายธม สงมา กรรมการและเลขานุการ
5) นายรฐั ศาสตร์
7. คณะกรรมการฝ่ายคัดกรอง
7.1 คัดกรองบุคคลทเี่ ข้ามาภายในโรงเรียน มหี นา้ ที่ ตง้ั จดุ คัดกรองบรเิ วรประตดู า้ นหน้าโรงเรยี น โดยจัด
บคุ ลากรปฏิบัตหิ นา้ ท่ีตรวจวัดไข้ดว้ ยเครื่องสแกนอุณหภมู แิ ละบริการแอลกอฮอล์เจลลา้ งมอื ถ้าพบบุคคลมีไข้ให้
แจ้งงานอนามัยโรงเรยี น ผ้เู ก่ียวขอ้ ง และใหป้ ฏบิ ัตติ ามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และใหล้ งช่ือ เบอร์
โทรศพั ทบ์ ุคคลภายนอกทีเ่ ข้ามาบรเิ วณภายในโรงเรยี น ตลอดจนคัดกรองบุคลากร กรณีมีการประชมุ หรือ
ทางานร่วมกนั เปน็ กลุม่ หลายคน ไดแ้ ก่
1) นางอรพินท์ ลม่ิ พาณชิ ย์ ประธานกรรมการ
2) นางสาวสุธาวดี มชั ฌิมวงศ์ กรรมการ
3) นางสาวศศิกัญญา ไทยกลาง กรรมการ
4) นางสาวนสิ าชล มะศรี กรรมการ
5) นางสาววลิดา เชาว์ไฝ กรรมการและเลขานุการ
7.2 คัดกรองนักเรยี นที่เขา้ มาปฏิบตั ิกิจกรรมในโรงเรียน มีหนา้ ท่ี ต้ังจดุ คัดกรองบริเวรประตูดา้ นหนา้
โรงเรียน โดยจดั บุคลากรปฏิบตั หิ นา้ ทตี่ รวจวดั ไข้ดว้ ยเคร่ืองสแกนอุณหภูมแิ ละบริการแอลกอฮอลเ์ จลลา้ งมือ ถา้
พบนกั เรยี นมีไข้ใหแ้ จง้ งานอนามัยโรงเรยี น ผ้เู กย่ี วข้อง และให้ปฏิบตั ติ ามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ไดแ้ ก่
1) นางสุภารตั น์ ไตรเมศ ประธานกรรมการ
2) ครูเวรประจาวนั (ประตเู ชา้ ) กรรมการ
3) นางอรสา ชมุ ชาตรี กรรมการ
4) นางสาวจิราพร หยังหลงั กรรมการ
5) นางสาวลลติ วดี บญุ ชวู งศ์ กรรมการและเลขานุการ
8. คณะกรรมการฝา่ ยประเมินผล มีหน้าที่ สรุป ประเมนิ ผล รายงานเป็นรปู เล่มเสนอตามลาดบั ขน้ั ได้แก่
1) นายสนั ตชิ ยั ไตรเมศ ประธานกรรมการ
2) นางสุภารัตน์ ไตรเมศ กรรมการ
3) นางสาวผกามาศ ฤทธิกาญจน์ กรรมการ
4) นางสาววลิดา เชาว์ไฝ กรรมการและเลขานุการ
ขอใหผ้ ู้ที่ได้รับการแต่งต้ังปฏิบัติหนา้ ทใี่ หเ้ ปน็ ไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธภิ าพ และบังเกดิ ผลดตี ่อทาง
47
คมู่ อื การปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรียนภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ราชการสืบไป
ทัง้ นี้ ตั้งแตว่ นั ที่ 2 พฤษภาคม 2565
สั่ง ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2565
( นายเดน่ วฒั น สักคุนา )
ผอู้ านวยการโรงเรียนประสาธน์ราษฎรบ์ ารงุ
48
คมู่ อื การปฏบิ ัตแิ นวทางการเตรียมเปดิ เรยี นภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ภาคผนวก จ
ประกาศโรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารงุ
เรอ่ื งกาหนดการเปดิ – ปดิ เรียน ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
ประกาศโรงเรยี นประสาธนร์ าษฎรบ์ ารงุ
เร่อื ง กาหนดการเปิด - ปดิ เรียน ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
.............................................................................
ตามที่ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา นครศรีธรรมราช ได้ประกาศนโยบายและแนว
ปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 ของ
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช เพ่ือให้โรงเรียนทราบและถือเป็นแนวปฏิบัติ แล้วนั้น
สืบเน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในการนี้ เพ่ือให้การ
ดาเนินงานของโรงเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นแนวทางเดียวกันสานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพ้นื ฐาน ไดแ้ จง้ กาหนดการเปิด - ปดิ เรยี น ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ดังนี้
ภาคเรยี นที่ 1
วนั เปิดภาคเรยี น วันท่ี 9 พฤษภาคม 2565 วันปิดภาคเรยี น วนั ท่ี 23 กนั ยายน 2565
โดยโรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารุง ได้กาหนดการจัดการเรียนการสอน ตามแนวทางของสานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ภาคเรียนท่ี
1 ปีการศึกษา 2565 ดงั น้ี
1. นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นและชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจัดการเรียนการสอนแบบ Onsite
ระหวา่ งวนั ที่ 9 พฤษภาคม 2565 - 23 กันยายน 2565
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและช้ันมัธยมศึกษาตอนปลายจัดการเรียนการสอนแบบ Onsite
แบบแบ่งกล่มุ เป็น 2 ระยะ คือ
- ระยะทดลอง เปิดเฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2,3,5,6 ในสัปดาห์ที่ 1 แล
ระดบั ชนั้
มัธยมศึกษาปีท่ี 1,3,4,6 ในสัปดาห์ท่ี 2 เพ่ือทดลองใช้มาตรการอย่างเข้มก่อนเปิดเรียนทุกระดับชั้น เป็น
ระยะเวลา 2 สปั ดาห์ ( วันที่ 9 - 20 พฤษภาคม 2565 )
49
คมู่ ือการปฏบิ ตั แิ นวทางการเตรยี มเปดิ เรยี นภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ( Covid-19 )
ย
- ระยะท่ี 2 เปิดทุกระดับช้ัน (ในกรณีที่ 10 วันในระยะแรก ไม่มีนักเรียนคนใดติดเช้ือ)
โดยใช้
มาตรการตามคมู่ ือการปฏิบัติงานแผนเผชญิ เหตุท่สี ถานศกึ ษากาหนดโดยเคร่งครัด
ประกาศ ณ วันที่ 2 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565
(นายเด่นวฒั น สกั คุนา)
ผอู้ านวยการโรงเรียนประสาธน์ราษฎรบ์ ารุง
50