ชุดการสอน1ที่ 4
เร่อื ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยิน
1
ชุดการสอน2ที่ 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหูกบั การไดย้ นิ
คานา
ชดุ การสอนกลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ วิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 3 เรื่องเสียงและ การ
ได้ยินชุดนี้เป็น “ชุดการสอนท่ี 4 เรื่องมลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยิน” จัดทาขึ้นเพื่อใช้
ประกอบการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 ของโรงเรียนประสาธน์ราษฎร์บารุง เพื่อให้
เป็นไปตามหลกั สูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติพุทธศักราช 2542 ท่ีมุ่งเน้นให้การจัดการจัดการเรียนรู้ โดยผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนา
ตนเอง สร้างความหมายของส่ิงท่ีตนเองเรียนรู้ได้ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกสถานที่ทุกเวลา เน้นการ
พัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพของแต่ละคน ซึ่งผู้จัดทาได้รวบรวมและเรียบเรียงจากหนังสือ คู่มือ ตารา
รวมทั้งสืบค้นความรู้จากอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ รวมทั้งมีการนาคาศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อเป็นการฝึกให้
ผู้เรียนได้เรียนรู้คาศัพท์และเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนเข้าสู่อาเซียน โดยแต่ละชุดการสอน
น้ันผ้จู ัดทาได้จัดทาคาแนะนาการใช้ชดุ การสอนไว้อย่างละเอียด รวมทั้งหมด 9 ชุด ไดแ้ ก่
ชดุ การสอนที่ 1 ธรรมชาติและสมบตั ิของเสียง
ชดุ การสอนท่ี 2 อตั ราเรว็ ของเสยี งและการเคลอ่ื นที่ของเสียงผ่านตัวกลาง
ชดุ การสอนท่ี 3 ความเขม้ เสียงและระดบั เสียง
ชุดการสอนที่ 4 มลภาวะของเสยี งและหูกบั การได้ยิน
ชุดการสอนที่ 5 ระดับสูงต่าของเสยี งและคุณภาพเสยี ง
ชดุ การสอนท่ี 6 ความถ่ธี รรมชาตแิ ละการส่นั พ้องของเสยี ง
ชดุ การสอนที่ 7 การบีตและคลืน่ นิ่งของเสียง
ชดุ การสอนที่ 8 ปรากฏการณด์ อปเพลอร์และคลืน่ กระแทก
ชุดการสอนที่ 9 การประยกุ ตค์ วามรูเ้ รือ่ งเสียง
ชดุ การสอนเล่มนี้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็เพราะได้รับการส่งเสริมสนับสนุน และข้อเสนอแนะ
เพ่ือแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ จากผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเน้ือหาวิชาและ
ภาษาทีใ่ ช้ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างย่ิงไว้ ณ โอกาสนี้ ผู้จัดทาหวงั เปน็ อย่างย่ิงว่า ชุดการสอนน้ีจะเป็น
ประโยชน์ต่อนักเรียนและครูผู้สอน และได้แนวคิดในการนาไปพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือ
พฒั นาผเู้ รียนให้บรรลุตามเป้าหมาย และวัตถปุ ระสงคข์ องหลกั สตู รเปน็ อยา่ งดี
สุนรี ตั น์ ชชู ว่ ย
สารบญั
2
ชดุ การสอน3ที่ 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยนิ
เรือ่ ง หนา้
คานา ก
สารบญั ข
สารบัญภาพ ค
สารบัญตาราง ง
คาชีแ้ จงเก่ียวกบั ชดุ การสอน 1
คาชแ้ี จงสาหรบั ครู 2
คาช้แี จงสาหรับนักเรียน 3
ผลการเรยี นรู้และจุดประสงค์การเรยี นรู้ 5
แบบทดสอบก่อนเรยี น 6
บัตรเนอื้ หา เรอ่ื งมลภาวะของเสียงและหูกบั การได้ยนิ 9
บัตรคาถาม 14
บัตรฝึกทักษะ 16
แบบทดสอบหลงั เรยี น 18
บรรณานุกรม 21
ภาคผนวก 22
เฉลยแบบทดสอบก่อน - หลงั เรยี น 23
24
เฉลยบตั รคาถาม 26
เฉลยบัตรฝกึ ทกั ษะ 27
แบบบนั ทกึ คะแนนแบบทดสอบก่อน - หลงั เรยี น 28
แบบบนั ทกึ ผลการประเมินดา้ นความรู้
3
ชดุ การสอน4ท่ี 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ ิน
สารบญั ภาพ
ภาพที่ หน้า
1 การป้องกนั มลภาวะของเสยี งโดยใชท้ ีค่ รอบหู 10
2 ภาพจาลองแสดงหแู ละลักษณะภายในของหู 11
3 ชว่ งความถ่ีและระดับเสียงทหี่ ูคนปกติสามารถรบั รู้ 12
4 กราฟแสดงเวลากอ้ งของเสียง 13
4
ชดุ การสอน5ที่ 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการไดย้ นิ
ตารางท่ี สารบัญตาราง หน้า
1 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องความปลอดภัยเก่ยี วกับเสียง 9
5
ชุดการสอน6ท่ี 4
เร่อื ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการไดย้ นิ
คาชี้แจงเก่ยี วกับชุดการสอน
1. ชุดการสอนชุดนี้เป็นชุดการสอนท่ี 4 เร่ืองมลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยิน
วิชาฟสิ กิ ส์เพ่มิ เตมิ 3 รหสั วชิ า ว 30203 ใชส้ อนนักเรียนระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5
2. ชดุ การสอนชดุ นปี้ ระกอบด้วย
2.1 คาชแี้ จงเกี่ยวกับชุดการสอน
2.2 คาช้แี จงสาหรบั ครู
2.3 คาชี้แจงสาหรบั นกั เรียน
2.4 แบบทดสอบก่อนเรยี น
2.5 บตั รเน้ือหา
2.6 บัตรคาถาม
2.7 บัตรฝกึ ทักษะ
2.8 แบบทดสอบหลงั เรียน
2.9 เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น
2.10 เฉลยบัตรคาถาม
2.11 เฉลยบตั รฝึกทกั ษะ
3. ชดุ การสอนท่ี 4 เรื่อง มลภาวะของเสยี งและหูกบั การไดย้ นิ ใช้เวลาในการศึกษา
2 ชวั่ โมง
6
ชดุ การสอน7ท่ี 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ ิน
คาชีแ้ จงสาหรบั ครู
1. ครเู ตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์จัดชั้นเรียนใหพ้ ร้อม
2. ครศู กึ ษาเน้ือหาที่จะสอนใหล้ ะเอยี ดและศึกษาชดุ การสอนให้รอบคอบ
3. ก่อนสอนครูต้องเตรียมชุดการสอนไว้บนโต๊ะให้เรียบร้อยและให้เพียงพอกับนักเรียนใน
แต่ละกลมุ่ ใหไ้ ดร้ บั คนละ 1 ชุด ยกเว้นส่ือการสอนทต่ี อ้ งใช้ร่วมกนั ท้งั กลุม่
4. ครูเป็นผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้และวัดผลประเมินผลให้เป็นไปตามลาดับขั้นตอนที่
กาหนดไว้
5. การสอนแบง่ ออกเป็น 5 ขั้น คือ ข้ันสร้างความสนใจ ข้ันสารวจและค้นหา ข้ันอธิบาย
และลงข้อสรปุ ขัน้ ขยายความรู้ และข้ันประเมนิ
6. กอ่ นสอนครตู ้องชีแ้ จงให้นักเรียนศกึ ษาการเรียนด้วยชุดการสอนตั้งแต่ คาชี้แจงสาหรับครู
คาช้ีแจงสาหรับนักเรียน บัตรเนื้อหา บัตรคาถาม บัตรฝึกทักษะ แบบทดสอบหลังเรียน เฉลย
แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน เฉลยบัตรคาถาม เฉลยบัตรฝกึ ทกั ษะ
7. ขณะท่ีนักเรยี นทุกกลุ่มปฏิบตั กิ ิจกรรม ครไู ม่ควรพูดเสียงดงั หากมีอะไรจะพดู ต้องพูดเปน็
รายกลมุ่ หรอื รายบุคคล ตอ้ งไมร่ บกวนกิจกรรมของนกั เรียนกลมุ่ อ่ืน
8. ขณะท่ีนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ครตู อ้ งเดินดูการปฏิบัติกจิ กรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
อย่างใกล้ชดิ หากมีนักเรยี นคนใดหรอื กลมุ่ ใดมีปัญหา ครูควรจะเข้าไปใหค้ วามชว่ ยเหลอื จนปัญหาน้ัน
จนคล่คี ลาย
9. เมื่อปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสร็จ ครูตอ้ งเนน้ ให้นักเรยี นเกบ็ ชุดการสอนของตนไว้ในสภาพเรียบร้อย
หา้ มถือตดิ มือไปด้วย
10. การสรปุ บทเรยี นควรจะเป็นกิจกรรมรว่ มของกลมุ่ หรอื ตวั แทนกลุ่มร่วมกัน
7
ชดุ การสอน8ที่ 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ ิน
คาชีแ้ จงสาหรับนักเรียน
บทเรียนท่ีนักเรียนใช้อยู่นี้เรียกว่า ชุดการสอนเป็นบทเรียนที่สร้างข้ึนเพื่อให้นักเรียน
สามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถแก้ปัญหาจาก
สถานการณ์ที่กาหนดให้อย่างมีขั้นตอน โดยนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากชุดการสอนตามจุดประสงค์
ท่ีต้งั ไว้ดว้ ยการปฏบิ ัติตามคาแนะนาตอ่ ไปนี้อยา่ งเครง่ ครัด
1. นักเรยี นอ่านคาชแี้ จงสาหรบั นักเรยี นให้เขา้ ใจก่อนลงมือศึกษาชดุ การสอน
2. นักเรยี นอ่านผลการเรียนรู้และจุดประสงค์การเรียนรู้กอ่ นลงมือศึกษาชดุ การสอน
3. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนจานวน 10 ข้อ ลงในแบบบันทกึ แบบทดสอบก่อน –
หลังเรยี นท่ีครูแจกให้ และนาสง่ ครูเมื่อทาเสร็จ
4. นกั เรียนศกึ ษาบตั รเนอ้ื หา เร่ืองมลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ นิ ด้วยความต้งั ใจ ทา
บตั รคาถาม และบตั รฝกึ ทักษะ
5. ตรวจเฉลยบัตรคาถาม บัตรฝกึ ทกั ษะ โดย
5.1 รับบัตรเฉลยคาถามและเฉลยบตั รฝึกทักษะจากครูตรวจสอบความถูกตอ้ งใหค้ ะแนน
ตามเกณฑ์
5.2 สง่ บัตรคาถามและบัตรฝึกทกั ษะ หลังจากทาเสร็จและตรวจสอบความถกู ต้องให้
เรยี บรอ้ ยแล้วสง่ ใหค้ รู
6. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน ลงในแบบบันทึกแบบทดสอบก่อน – หลังเรยี น
7. ตรวจสอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและแบบทดสอบหลงั เรยี น โดย
7.1 รบั เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจสอบความถกู ต้องให้
คะแนนขอ้ ละ 1 คะแนน
7.2. สง่ แบบบนั ทกึ แบบทดสอบหลงั เรยี น หลงั จากทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเสรจ็ และตรวจ
ให้คะแนนเรยี บรอ้ ยแล้วที่ครู
8
ชุดการสอน9ที่ 4
เรือ่ ง มลภาวะของเสียงและหกู บั การได้ยนิ
8. นักเรยี นแต่ละคนในกลุม่ แจ้งคะแนนของแบบทดสอบก่อนเรยี น บตั รคาถาม บัตรฝึก
ทักษะ และแบบทดสอบหลงั เรียนของตนเองให้ผรู้ ายงานบันทึกลงในแบบบันทกึ ผลการประเมนิ ด้าน
ความรู้ เพอ่ื สรปุ สง่ ต่อไป
9. นกั เรียนทด่ี ตี ้องซื่อสตั ย์ต่อตนเองไมค่ วรเปิดดเู ฉลยก่อนทจ่ี ะใช้ความสามารถด้วยตนเอง
10. ถ้านักเรยี นสงสยั หรอื ไมเ่ ขา้ ใจในเน้ือหาใหท้ บทวนใหม่ ถ้ายงั ไมเ่ ข้าใจอีกใหส้ อบถาม
จากครู
9
ชดุ การสอน10ท่ี 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยนิ
ผลการเรยี นรู้และจุดประสงค์การเรยี นรู้
ผลการเรยี นรู้
สืบค้น อธิบาย บอกความสัมพันธ์เก่ียวกับความเข้มเสียง ระดับเสียง ระดับสูงต่าของเสียง
คณุ ภาพเสยี ง มลภาวะของเสียง หกู ับการได้ยิน เวลาก้องเสียงและคานวณหาปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง
พรอ้ มท้ังนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เพอื่ ให้นกั เรยี นสามารถ
1. อธบิ ายความหมาย ผลกระทบและแนวทางแก้ไขปัญหามลพษิ ทางเสยี งได้
2. สบื คน้ ขอ้ มูลองคป์ ระกอบต่าง ๆ ของการได้ยนิ ลกั ษณะการก้องของเสียงและเวลาก้อง
เสยี งได้
3. แสดงความเป็นคนแสวงหาข้อมลู จดบนั ทึกความรู้เร่ืองมลภาวะของเสยี ง องคป์ ระกอบ
ตา่ ง ๆ ของการได้ยนิ และมีความอดทนไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จได้อย่างถูกต้อง
4. มคี วามสามารถในการสื่อสารนาความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั มลภาวะของเสียงและหูกับ
การไดย้ นิ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม
10
ชดุ การสอน11ท่ี 4
เรือ่ ง มลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ ิน
เรื่อง มลภาวะของเสยี งและหูกับการได้ยนิ
คาชแี้ จง 1. แบบทดสอบชุดนี้เปน็ แบบทดสอบปรนยั 4 ตวั เลือก จานวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
2. ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบทถ่ี กู ต้องแลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทับหน้าข้อ ก, ข, ค
และ ง ลงในแบบบันทึกแบบทดสอบก่อน – หลงั เรียน
1. มนุษย์ไดย้ นิ เสยี งต่าง ๆ จากภายนอกเนื่องจากปัจจัยในข้อใด
ก. การส่ันสะเทือนของเยื่อแก้วหู
ข. การส่ันของอากาศรอบ ๆ แหล่งกาเนดิ
ค. กระดูกค้อน กระดูกทงั่ กระดูกโกลนในหู
ง. ถูกตอ้ งทุกข้อ
2. การทค่ี นเราได้ยนิ เสยี งไดต้ ้องมีสิ่งใดเป็นองคป์ ระกอบบา้ ง
1. หผู ู้ฟังตอ้ งปกติ
2. แหล่งกาเนิดเสยี งต้องสนั่
3. ตอ้ งมีตวั กลางใหเ้ สยี งเคล่ือนทผี่ ่าน
4. ความถ่ตี ้องอยใู่ นชว่ งท่ีหูคนเรารบั ฟงั ได้
ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. ข้อ 1, 2
ข. ขอ้ 2, 3
ค. ข้อ 1, 2, 3
ง. ขอ้ 1, 2, 3, 4
3. ข้อใดเป็นมลภาวะของเสยี งทเี่ กดิ ขึน้
ก. นาย ก รบั ฟังเสียงทม่ี ีระดบั ความเข้มสงู มาก ๆ
ข. นาย ข รบั ฟงั เสียงที่มีความถี่ต่ามาก 10 ชว่ั โมง
ค. นาย ค รับฟังเสียงท่มี ีความเขม้ น้อย 10 ช่วั โมง
ง. ถกู ทุกขอ้
11
ชดุ การสอน12ท่ี 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหกู บั การได้ยนิ
4. ข้อใด หมายถึง มลภาวะของเสียง
1. เสยี งทมี่ ีระดับความเข้มตง้ั แต่ 0-120 เดซิเบล
2. เสียงที่มรี ะดับเสียงสงู เกนิ กวา่ 20,000 เฮิรตซ์
3. เสยี งท่ีมีความเข้ม 90 เดซิเบลและรับฟังเสยี งเกนิ 8 ชว่ั โมง
4. เสียงทีม่ ีความเข้มตัง้ แต่ 10-12 ถงึ 1 วตั ตต์ ่อตารางเมตร
คาตอบทถ่ี ูกต้อง คือ
ก. ข้อ 3
ข. ขอ้ 1, 2
ค. ข้อ 2, 3
ง. ขอ้ 1, 2, 3, 4
5. ข้อใดถือวา่ เป็นมลภาวะของเสยี ง
ก. เสียงระเบิด
ข. เสยี งเครอ่ื งตัดหญ้า
ค. เสียงดนตรที ดี่ ังมาก ๆ
ง. ถกู ทุกขอ้
6. มลภาวะของเสยี งคือเสียงลกั ษณะใด
ก. เสยี งเบา
ข. เสียงอกึ ทึก
ค. ข้อ ข. และ ง.
ง. เสียงปานกลางแต่ก่อความราคาญ
12
ชุดการสอน13ท่ี 4
เร่อื ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยนิ
7. กราฟทีแ่ สดงขีดเริ่มของการไดย้ นิ และขดี เรม่ิ ของความเจ็บปวดน้นั บอกใหท้ ราบถึงเรื่องอะไร
1. มนุษย์จะได้ยนิ ในช่วงความถี่ 20-20,000 เฮิรตซ์เสมอ
2. มนษุ ย์อาจจะไดย้ นิ ระดบั ความเขม้ ตา่ กวา่ 0 เดซิเบลได้
3. บางความถ่ใี นชว่ ง หากระดบั ความเข้มไม่พอเหมาะมนุษยก์ ็อาจไม่ไดย้ นิ
คาตอบทถ่ี ูก คอื
ก. ข้อ 1 ถูก
ข. ขอ้ 2 ถูก
ค. ข้อ 3 ถูก
ง. ขอ้ 2 และ 3 ถูก
8. ขอบเขตความสามารถของการไดย้ นิ เสียงของคนมนุษยข์ ้ึนอยูก่ บั ขอ้ ใด
ก. ระดบั เสียง
ข. ความถเ่ี สยี ง
ค. บีตของเสยี ง
ง. ข้อ ก และ ข ถูก
9. ช่องเลก็ ๆ ทตี่ ิดต่อกับหลอดลม ซ่งึ ทาหน้าท่ปี รับความดันอากาศทัง้ สองด้านของแกว้ หูใหส้ มดลุ
ตลอดเวลาอยทู่ ห่ี สู ่วนใด
ก. หสู ว่ นใน
ข. หสู ่วนนอก
ค. หสู ่วนกลาง
ง. ระหว่างหสู ่วนนอกกับหูกลาง
10. อวัยวะใดภายในหทู ่ที าหน้าท่รี บั รู้การสัน่ ของคลืน่ เสยี งที่ผ่านมาจากหูส่วนกลางพร้อมทั้งส่งสัญญาณ
การรับรไู้ ปยังสมอง
ก. คอเคลยี
ข. กระดูกทัง่
ค. กระดูกคอ้ น
ง. กระดูกโกลน
13
ชุดการสอน14ท่ี 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการได้ยนิ
เรอื่ ง มลภาวะของเสยี งและหกู ับการไดย้ ิน
มลภาวะของเสยี ง (noise pollution)
เมื่อเราอยู่ใกล้บริเวณท่ีกาลังมีการตอกเสาเข็มหรือมีการขุดเจาะถนนด้วยเคร่ืองเจาะ
หรือบริเวณโรงงานอุตสาหกรรมท่ีมีเคร่ืองจักรขนาดใหญ่หรือแม้แต่ในบริเวณสนามบินเสียงที่
เกิดขน้ึ ในบรเิ วณเหล่าน้ีจะเปน็ เสียงทมี่ รี ะดบั เสียงสูง ถ้าหูรับฟังเสียงเหล่านี้ติดต่อกันนาน ๆ สภาพ
หูและสภาพจิตใจของผู้ฟังผิดปกติได้ ดังนั้นผู้ที่ทางานในบริเวณท่ีมีระดับความเข้มสูง จึงต้องมีจุก
อุดหูหรือที่ครอบหูหรือวัสดุเก็บเสียงอ่ืน ๆ เพื่อช่วยลดระดับเสียงให้หูปลอดภัย เนื่องจากเสียงท่ีมี
ระดับเสียงสูงเป็นอันตรายต่อผู้ฟังที่อยู่ใกล้กระทรวงมหาดไทยจึงได้ออกประกาศเกี่ยวกับความ
ปลอดภัยในการทางานในบรเิ วณทีม่ ีเสียงดังโดยมเี กณฑ์ ดงั แสดงในตารางท่ี 1
ตารางท่ี 1 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ืองความปลอดภัยเกีย่ วกบั เสยี ง
เวลาในการทางานต่อวนั ระดับความเข้มเสยี งท่คี นทางานไดร้ บั อย่างต่อเน่อื งตอ้ งไม่เกนิ
(ชั่วโมง) (เดซิเบล)
นอ้ ยกว่า 7 91
7–8 90
มากกวา่ 8 80
ท่ีมา: สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2554: 76)
เสียงท่ีมีระดับเสียงสูง หรือเสียงทก่ี ่อใหเ้ กิดความราคาญแก่ผู้ฟัง คือ มลภาวะของเสียง
(noise pollution) การปรับปรงุ หรือแก้ไข แหลง่ กาเนิดเสียงให้มีกาลังเสียงลดลง จะทาให้ระดับ
ความเข้มของเสียงลดลงด้วย จึงจัดเป็นการลดมลภาวะของเสียงวิธีหนึ่ง ในกรณีท่ีเราไม่สามารถ
แก้ไขความดังของเสียงท่ีแหล่งกาเนิดเสียงได้ การป้องกันโดยวิธีอ่ืน ๆ เช่น การใช้จุกอุดหู หรือท่ี
ครอบหู หรือการตดิ ต้งั วัสดเุ กบ็ เสียง จะสามารถชว่ ยลดมลภาวะของเสียงได้ ดังภาพที่ 1
14
ชดุ การสอน15ที่ 4
เร่ือง มลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ นิ
ภาพที่ 1 การปอ้ งกันมลภาวะของเสยี งโดยใช้ท่ีครอบหู
ทม่ี า: จรรยภรณ์ เจนเจรญิ โภไคย (2552)
หกู ับการได้ยนิ
ถ้าเราอยู่ในที่ที่สงบเงียบเราอาจจะได้ยินแม้กระทั่งเสียงน้าฝนที่หยดจากหลังคา เสียงลม
หายใจของคนที่อยู่ใกล้ ๆ เสียงที่แผ่วเบาเหล่าน้ี เกิดจากการถ่ายโอนพลังงานการสั่นของแหล่งกาเนิด
เสยี งผ่านอากาศมากระทบเย่ือแกว้ หซู ่ึงมคี วามไวมาก จากการศึกษาโครงสร้างและพบว่าการส่ันของเยื่อ
แก้วหูเพยี งเลก็ น้อยเทา่ นน้ั กม็ ผี ลต่อประสาทรับรูใ้ นการไดย้ ินของคนเราแลว้
หขู องคนเราแบง่ ออกเป็น 3 สว่ นคอื หูสว่ นนอก หูส่วนกลาง หูสว่ นใน ดงั ภาพท่ี 2
1 ) หูสว่ นนอก (external ear) ประกอบด้วยใบหู รูหูหรือช่องหู จนถึงแก้วหู ทาหน้าที่รับ
เสียงจากภายนอก คล่นื เสยี งเดนิ ทางไปทางรหู ู โดยมชี อ่ งหูทาหนา้ ท่ีรวมเสียงไปสแู่ กว้ หู
2 ) หูส่วนกลาง (middle ear) อยู่ถัดจากแก้วหูเข้าไป มีลักษณะเป็นโพรงอากาศ ภายใน
มีกระดูก 3 ช้ิน ได้แก่กระดูกค้อน อยู่ชิดแนบกับแก้วหู กระดูกโกลนมีฐานวางปิดช่องท่ีต่อไปยังหูช้ันใน
และกระดูกทั่งทาหน้าท่ีส่งต่อแรงสั่นสะเทือนของเสียงไปยังหูส่วนใน และหูส่วนกลาง นอกจากน้ียังทา
หน้าที่ปรับความดันอากาศภายในให้เท่ากับความดันอากาศภายนอก โดยอาศัยท่อที่ติดต่อกับโพรง
อากาศ หากความดันไมเ่ ทา่ กันจะทาใหห้ ูอ้อื ได้ยนิ เสียงไมช่ ดั เจน
15
ชดุ การสอน16ที่ 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ นิ
3 ) หูสว่ นใน (inner ear) ประกอบด้วยส่วนสาคญั 2 ส่วน
ส่วนแรก คือ คอเคลีย (cochlea) เป็นท่อขดคล้ายรูปหอยโข่ง ภายในมีของเหลว
มีเซลลร์ บั ความส่นั สะเทอื นของของเหลวภายในคอเคลีย ทาหน้าที่รับคลนื่ เสยี ง และแปลงเป็นคลื่นไฟฟ้า
ไปตามประสาทไดย้ นิ ไปยงั สมอง เพ่อื รบั ร้กู ารไดย้ ินและแปลความหมายโดยสมอง
ส่วนท่ีสอง คือ ท่อคร่ึงวงกลม 3 ท่อ ตั้งฉากซ่ึงกันและกัน ทาหน้าที่รับการทรงตัว
ของร่างกายและการเคล่ือนไหวของศรี ษะ
ภาพที่ 2 ภาพจาลองแสดงหูและลกั ษณะภายในของหู
ที่มา: สถาบันนวัตกรรมการเรยี นรู้ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล (ม.ป.ป.).
16
ชดุ การสอน17ที่ 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ นิ
เราทราบแล้ววา่ ขอบเขตความสามารถของการได้ยนิ ของหูคนเราขน้ึ อยู่กับระดับเสียงและ
ความถี่ของเสียง จากการศึกษาความสามารถทางการได้ยินของคนปกติพบว่าช่วงความถี่และระดับ
เสียงที่คนเราสามารถรบั รู้ได้มีความสัมพนั ธ์กัน ดังภาพที่ 3
ภาพที่ 3 ช่วงความถีแ่ ละระดับเสียงที่หคู นปกติสามารถรับรู้
ทีม่ า: สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2554:79)
จากรูปจะเห็นว่าสาหรับเสียงความถ่ีต่า ๆ เช่น 20-30 เฮิรตซ์ หูจะได้ยินเสียงดังกล่าวก็
ต่อเมื่อเสียงน้ันมีระดับเสียง 50–60 เดซิเบล ซึ่งแตกต่างจากเสียงความถ่ีสูงปานกลาง เช่น 1,000
เฮิรตซ์ ที่เราสามารถได้ยินแม้จะมีระดับเสียงเพียง 10 เดซิเบล กราฟเส้นล่างแสดงขีดเร่ิมของ
การได้ยิน (threshold of hearing) และกราฟเส้นบนแสดงขีดเริ่มของการเจ็บปวด
(threshold of pain) พื้นท่ีซึ่งล้อมรอบด้วยกราฟเส้นบนและเส้นล่างน้ีจะแทนขอบเขตของการได้
ยินของคนเสยี งท่เี ราสามารถรับรู้ได้จะมีความถี่และระดับเสียงอยู่ภายในขอบเขตของการได้ยินนี้จาก
กราฟการได้ยินของหูมนุษย์ จะช่วยให้เกิดความเข้าใจทาไมวิทยุกระเป๋าหิ้วท่ีมีกาลังเสียงเพียง 0.25
วตั ต์ สามารถสง่ ข่าวสารและดนตรีให้เรารับฟังได้ชัดเจน เพราะว่าเสียงท่ีใช้พูดคุย สนทนา โดยท่ัวไป
จะมีความถ่ีในช่วง 1,000–8,000 เฮิรตซ์ ซ่ึงการได้ยินต้องการระดับเสียงใกล้ 0-10 เดซิเบล ก็
สามารถทาให้ผู้ฟังได้ยินเสียงชัดเจนแล้วเสียงร้องเพลงก็อยู่ในช่วงความถี่นี้เช่นกัน สาหรับเสียงท่ีมี
ความถ่ีต่าและเสียงท่ีมีความถี่สูง ๆ น้ันต้องใช้เคร่ืองขยายเสียงที่มีกาลังมากกว่าน้ี เวลาก้อง
เสยี ง (reverberation time) (Tr)
17
ชดุ การสอน18ที่ 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ ิน
เวลาที่นับจากเสียงมีพลังงานมากท่ีสุดจนกระท่ังเสียงมีพลังงานลดลงถึงค่าหนึ่ง ซึ่งระดับ
เสียงลดลงจากระดับเสียงเริ่มต้น 60 เดซิเบล คือ เวลาก้องเสียง (reverberation time) (Tr)
ในหอ้ งประชุมท่มี ีการสะท้อนไดด้ ี เชน่ ห้องกระจกหรือผนังตึกที่ว่างเปล่า ค่าเวลาก้องเสียงจะสูงมาก
ทาให้เม่ือเปิดเคร่ืองขยายเสียง เสียงจะมีเสียงก้องนานมากจนกระทั่งฟังเสียงไม่รู้เรื่องก่อให้เกิด
ความราคาญ ดังน้ันในการออกแบบห้องประชุม โรงละคร หรือโรงภาพยนตร์ วิศวกรและสถาปนิก
จะต้องคานึงถึงเสียงก้องเสมอ ในห้องท่ีมีเสียงก้องมากไปต้องใช้วัสดุเก็บเสียง เช่น ผ้าม่านกระดาษ
ชานอ้อย หรือพรมที่พ้ืนห้องเพ่ือช่วยลดช่วงเวลาก้องเสียงลงให้พอเหมาะถ้าเวลาก้องเสียง มีค่าน้อย
ไปจะฟงั เสยี งเพลงไดไม่เพราะ
ภาพที่ 4 กราฟแสดงเวลาก้องของเสียง
ท่ีมา: สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2554:80)
ปัจจบุ นั เครอื่ งขยายเสียงชน้ั ดีจะมวี งจรเสยี งก้องด้วย เราสามารถเลอื กเวลาเสียงก้องให้มี
มากหรือน้อยได้ เพ่ือให้เหมาะกับห้องและรสนยิ มของผู้ฟงั
18
ชดุ การสอน19ท่ี 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยนิ
เรือ่ ง มลภาวะของเสยี งและหูกับการได้ยนิ
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอธบิ ายขอ้ ความให้ถูกต้องและสัมพันธ์กนั ขอ้ ละ 1 คะแนน
1. มลภาวะของเสยี ง หมายถึง อะไร
ตอบ.........................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยปลอดภยั เกยี่ วกับเสียง กาหนดเวลาในการทางานต่อวันน้อยกว่า 7
ช่วั โมง ระดบั เสียงต้องไมเ่ กนิ ก่ีเดซิเบล
ตอบ....................................................................................... ..................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ถา้ มคี วามจาเปน็ ต้องเขา้ ไปในบรเิ วณทม่ี ีระดับเสยี งสงู เราสามารถป้องกนั แก้ไขความดังของเสียงได้
โดยวธิ ีใดบ้าง
ตอบ................................................................................................................................................. ........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. สว่ นประกอบของหทู ส่ี าคัญทส่ี ดุ ตอ่ การได้ยิน คืออะไร
ตอบ...................................................................................................................................... ...................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. หคู นเรามีความไวตอ่ เสียงที่มีความถสี่ ูงหรือตา่
ตอบ............................................................................................................................... ..........................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
6. หูสว่ นนอก มสี ่วนประกอบด้วยอะไรบา้ ง
ตอบ.......................................................................................................................... ...............................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
19
ชุดการสอน20ที่ 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการได้ยิน
7. หูสว่ นกลาง มีสว่ นประกอบด้วยอะไรบ้างและทาหนา้ ท่ีอย่างไร
ตอบ.......................................................................................................................... ...............................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
8. หูส่วนใน มสี ว่ นประกอบด้วยอะไรบ้างและทาหนา้ ท่ีอยา่ งไร
ตอบ.......................................................................................................................... ...............................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
9. หูนอกจากจะทาหน้าทีก่ ารรบั ฟังเสยี งแลว้ ยงั ทาหน้าท่สี าคญั อีกอยา่ งหนึ่งคืออะไร
ตอบ.......................................................................................................................... ...............................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
10. เวลากอ้ งเสียง หมายถงึ อะไร
ตอบ.......................................................................................................................... ...............................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
20
ชดุ การสอน21ท่ี 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหกู ับการได้ยนิ
เร่ือง มลภาวะของเสยี งและหกู ับการได้ยิน
ตอนท่ี 1 ให้นักเรียนนาอักษร A, B, C,… ทางดา้ นขวามือเตมิ หน้าข้อความด้านซ้ายมอื ท่ีมี
ความสมั พันธ์กัน ขอ้ ละ 0.5 คะแนน
………1. หสู ว่ นนอก A. ระดับเสียงไม่เกิน 90 เดซิเบล
………2. เวลาทางานน้อยกว่า 7 ชวั่ โมงตอ่ วัน B. ระดบั เสยี งความถี่
………3. เวลากอ้ งเสียง C. ระดับเสยี งไมเ่ กิน 85 เดซิเบล
………4. มลภาวะของเสยี ง D. ใบหู รูหแู ละเย่อื แกว้ หู
………5. ระดับเสยี งจากยานพาหนะท่ีระยะหา่ ง E. ระดบั เสยี ง ไม่เกิน 80 เดซิเบล
7.5 เมตร จากที่อยู่อาศัย F. หสู ่วนใน
………6. คอเคลยี G. เวลาที่นับจากพลงั งานมากทส่ี ุดจน
………7. เวลาทางาน 7- 8 ชว่ั โมงตอ่ วัน
พลังงานลดลงถึงคา่ หนงึ่ ลดลง 60 เดซิเบล
………8. ขอบเขตความสามารถของการไดย้ นิ ข้ึนอยูก่ บั H. เสยี งทมี่ รี ะดับเสยี งสงู และก่อใหเ้ กดิ
………9. กระดูกค้อน กระดูกท่ัง กระดูกโกลน ความราคาญแกผ่ ู้ฟัง
………10. เวลาทางานมากกวา่ 8 ช่วั โมงต่อวัน I. ส่งสญั ญาณเสยี งไปยังสมอง
J. ระดบั เสยี งไม่เกิน 91 เดซิเบล
ตอนที่ 2 จงอธิบาย ข้อละ 2.5 คะแนน
1. ความไวของการรบั ร้เู สยี งของเด็กและผใู้ หญ่มีความเหมอื นหรือแตกต่างกันอยา่ งไร
ตอบ............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
21
ชุดการสอน22ท่ี 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการไดย้ นิ
2. รถจกั รยานยนต์หรอื รถยนตท์ ่ีถอดท่อเก็บเสียงออก หรือถกู ดัดแปลงท่อไอเสยี เพื่อทาให้เกิดเสียงดัง
มาก เหมาะสมทจ่ี ะนามาใช้ในเขตชุมชนหรือไม่ รถดังกล่าวเพ่ิมมลภาวะของเสียงอย่างไร
ตอบ.......................................................................................................................... ..................................
..................................................................................................................................... ...............................
................................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. .......................................
...................................................................................................................................................... ..............
.................................................................................................................... ................................................
22
ชดุ การสอน23ท่ี 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ นิ
เรือ่ ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการได้ยนิ
คาช้ีแจง 1. แบบทดสอบชดุ นเ้ี ปน็ แบบทดสอบปรนัย 4 ตวั เลือก จานวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
2. ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องแล้วทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทบั หนา้ ขอ้ ก, ข, ค
และ ง ลงในแบบบันทึกแบบทดสอบก่อน – หลงั เรยี น
1. อวัยวะใดภายในหูท่ีทาหน้าที่รับรู้การสั่นของคล่ืนเสียงที่ผ่านมาจากหูส่วนกลางพร้อมทั้งส่งสัญญาณ
การรับรู้ไปยงั สมอง
ก. คอเคลยี
ข. กระดกู ทง่ั
ค. กระดกู คอ้ น
ง. กระดกู โกลน
2. ขอบเขตความสามารถของการได้ยินเสียงของคนมนุษยข์ ้ึนอยกู่ ับขอ้ ใด
ก. ระดบั เสยี ง
ข. ความถี่เสียง
ค. บีตของเสยี ง
ง. ขอ้ ก และ ข ถกู
3. มลภาวะของเสียงคือเสียงลกั ษณะใด
ก. เสยี งเบา
ข. เสยี งอกึ ทึก
ค. ข้อ ข และ ง
ง. เสยี งปานกลางแตก่ ่อความราคาญ
23
ชุดการสอน24ท่ี 4
เร่อื ง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ นิ
4. มนุษย์ได้ยนิ เสยี งตา่ ง ๆ จากภายนอกเน่ืองจากปัจจัยในข้อใด
ก. การสั่นสะเทือนของเย่ือแก้วหู
ข. การสน่ั ของอากาศรอบ ๆ แหลง่ กาเนิด
ค. กระดูกคอ้ น กระดูกท่งั กระดูกโกลนในหู
ง. ถูกตอ้ งทกุ ขอ้
5. ขอ้ ใดหมายถึงมลภาวะของเสยี ง
1. เสยี งที่มรี ะดบั ความเข้มต้ังแต่ 0-120 เดซเิ บล
2. เสยี งทม่ี รี ะดับเสียงสงู เกินกว่า 20,000 เฮิรตซ์
3. เสียงท่ีมีความเข้ม 90 เดซิเบลและรบั ฟังเสียงเกนิ 8 ชว่ั โมง
4. เสยี งทม่ี คี วามเข้มต้งั แต่ 10-12 ถึง 1 วัตตต์ ่อตารางเมตร
ข้อที่ถูกต้อง คอื
ก. ขอ้ 3
ข. ขอ้ 1, 2
ค. ขอ้ 2, 3
ง. ข้อ 1, 2 ,3, 4
6. ข้อใดเป็นมลภาวะของเสยี งท่ีเกิดขึน้
ก. นาย ก รบั ฟงั เสียงท่ีมรี ะดับความเข้มสงู มาก ๆ
ข. นาย ข รบั ฟงั เสยี งที่มคี วามถ่ีตา่ มาก 10 ช่ัวโมง
ค. นาย ค รับฟังเสียงท่ีมีความเข้มน้อย 10 ช่ัวโมง
ง. ถูกทุกขอ้
7. ช่องเล็ก ๆ ที่ตดิ ต่อกับหลอดลม ซงึ่ ทาหน้าที่ปรับความดันอากาศทัง้ สองด้านของแกว้ หใู ห้สมดุล
ตลอดเวลาอยู่ท่ีหสู ่วนใด
ก. หสู ว่ นใน
ข. หสู ว่ นนอก
ค. หสู ว่ นกลาง
ง. ระหวา่ งหูสว่ นนอกกบั หูกลาง
24
ชุดการสอน25ท่ี 4
เรือ่ ง มลภาวะของเสียงและหูกบั การไดย้ ิน
8. ขอ้ ใดถือว่าเป็นมลภาวะของเสยี ง
ก. เสียงระเบิด
ข. เสียงเครือ่ งตัดหญา้
ค. เสยี งดนตรที ี่ดังมาก ๆ
ง. ถูกทกุ ขอ้
9. การทค่ี นเราไดย้ นิ เสียงไดต้ ้องมสี ิง่ ใดเปน็ องค์ประกอบบ้าง
1. แหล่งกาเนิดเสียงต้องสัน่
2. หผู ฟู้ ังต้องปกติ
3. ตอ้ งมีตวั กลางใหเ้ สียงเคลื่อนท่ผี า่ น
4. ความถตี่ ้องอยู่ในช่วงท่ีหูคนเรารับฟงั ได้
ขอ้ ใดกลา่ วได้ถกู ต้อง
ก. ขอ้ 1, 2
ข. ขอ้ 2, 3
ค. ขอ้ 1, 2, 3
ง. ข้อ 1, 2 ,3, 4
10. กราฟท่ีแสดงขีดเริ่มของการได้ยนิ และขดี เรม่ิ ของความเจ็บปวดน้นั บอกให้ทราบถงึ เร่ืองอะไร
1. มนษุ ย์จะไดย้ ินในช่วงความถ่ี 20-20,000 เฮิรตซ์เสมอ
2. มนุษยอ์ าจจะไดย้ ินระดบั ความเข้มต่ากว่า 0 เดซเิ บลได้
3. บางความถใ่ี นชว่ งหากระดับความเขม้ ไม่พอเหมาะมนษุ ย์กอ็ าจไม่ได้ยิน
ข้อใดกล่าวได้ถกู ต้อง
ก. ข้อ 1 ถูก
ข. ขอ้ 2 ถกู
ค. ขอ้ 3 ถูก
ง. ขอ้ 2 และ 3 ถกู
25
ชดุ การสอน26ท่ี 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหกู ับการไดย้ นิ
บรรณานกุ รม
กฤตนัย จันทรจตุรงค์. (ม.ป.ป.). ฟิสิกส์:เร่อื งท่ี 11 เสียงและการได้ยิน ฉบับชว่ ยสอบเข้า
มหาวิทยาลัยท่ีรบั ตรง & โควตา & PAT 2 สาหรบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6. นนทบุรี
: ธรรมบัณฑิต.
จรรยภรณ์ เจนเจริญโภไคย. (2552). การปอ้ งกนั อันตรายจากเสียงดัง. สืบค้นเมือ่ 25 มกราคม,
2555, จาก http://esafety.tarad.com/product.detail_646090_en_3634126.
จารกึ สุวรรณรตั น์. (2555). คู่มอื ฟิสกิ ส์ ม.4-6 เล่ม 3 รายวิชาเพิ่มเตมิ . กรุงเทพมหานคร :
เดอะบุคส.์
เฉลิมชัย มอญสขุ า. (2554). ฟสิ กิ ส์เสริมการเรียนฟสิ ิกส์เพมิ่ เติม ช้ัน ม.4-6 เลม่ 3.
กรงุ เทพมหานคร : เดอะบุคส์.
ช่วง ทมทติ ชงค์ และคณะ. (ม.ป.ป.). ตะลุยโจทยข์ ้อสอบฟิสกิ ส์ ม.5 เล่มรวมเทอม 1-2.
กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ไฮเอ็ดพับลชิ ช่ิง.
ธรี ศานต์ ปรุงจิตวิทยาภรณ์. (ม.ป.ป.). ฟิสิกส์ ม.5 เลม่ 2 ฉบับศึกษาดว้ ยตนเอง. นนทบรุ ี :
ธรรมบัณฑติ .
นวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหดิ ล, สถาบนั . (ม.ป.ป.). การได้ยิน. สืบค้นเมื่อ 21
มกราคม, 2555, จาก http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/nervous/3_3.htm.
ศกึ ษาธิการ, กระทรวง. (2553). แนวปฏบิ ัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตามหลักสตู ร
แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นุม
สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั .
. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.
สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . (2550). หนงั สือเรยี นสาระการเรยี นรู้พื้นฐาน
และเพ่ิมเตมิ ฟสิ ิกส์ เล่ม 2. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพค์ รุ สุ ภา.
. (2554). หนังสือเรยี น รายวชิ าเพิ่มเติม ฟสิ กิ ส์ เล่ม 3. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์
คุรุสภาลาดพร้าว
. (2554). คู่มือครู รายวชิ าเพ่มิ เติม ฟิสกิ ส์ เล่ม 3. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ครุ ุสภา
ลาดพรา้ ว
Jewett, Jr. J. W. and Serway, R. A. ( 2004). Physics for Scientists and Engineers
with PhysicsNOW and InfoTrac. Six edition. Thomson Brooks/Cole.
26
ชุดการสอน27ท่ี 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหกู บั การไดย้ ิน
ภาคผนวก
27
ชุดการสอน28ท่ี 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหูกบั การไดย้ นิ
เร่ือง มลภาวะของเสยี งและหกู ับการได้ยนิ
ขอ้ เฉลยกอ่ นเรียน เฉลยหลังเรยี น
1. ง. ก.
2. ง. ง.
3. ก. ค.
4. ก. ง.
5. ง. ก.
6. ค. ก.
7. ค. ค.
8. ง. ง.
9. ค. ง.
10. ก. ค.
28
ชดุ การสอน29ที่ 4
เรือ่ ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยนิ
เรอื่ ง มลภาวะของเสยี งและหกู ับการไดย้ นิ
คาช้แี จง ข้อละ 1 คะแนน
1.มลภาวะของเสียง หมายถงึ อะไร
แนวการตอบ เสียงท่ีมีระดบั เสยี งสูงหรอื เสียงทกี่ ่อใหเ้ กดิ ความราคาญแกผ่ ู้ฟงั
2. ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยปลอดภยั เก่ยี วกับเสียง กาหนดเวลาในการทางานต่อวนั นอ้ ยกวา่ 7
ชัว่ โมง ระดับเสยี งต้องไมเ่ กนิ กเี่ ดซิเบล
แนวการตอบ 91 เดซิเบล
3. เราสามารถปอ้ งกนั แกไ้ ขความดงั ของเสยี งที่แหล่งกาเนดิ ได้โดยวิธใี ดบ้าง
แนวการตอบ การใชจ้ ุกอุดหู หรอื ทคี่ รอบ การติดต้ังวสั ดเุ ก็บเสยี ง
4. สว่ นประกอบของหูท่สี าคัญท่ีสุดตอ่ การไดย้ ิน คืออะไร
แนวการตอบ เยื่อแกว้ หู
5. หูคนเรามีความไวตอ่ เสยี งท่มี ีความถสี่ งู หรือต่า
แนวการตอบ ความถสี่ งู
6. หสู ว่ นนอก มีส่วนประกอบอะไรบา้ ง
แนวการตอบ ใบหู รูหู และเยื่อแก้วหู
7. หสู ่วนกลาง มสี ่วนประกอบด้วยอะไรบา้ งและทาหน้าท่ีอยา่ งไร
แนวการตอบ กระดูก 3 ชนิ้ คือ กระดกู คอ้ น กระดูกทัง่ กระดูกโกลน นอกจากนี้ยังมชี ่องเลก็ ๆ ติดตอ่
กับหลอดลม ทาหน้าท่ปี รบั ความดนั อากาศของแก้วหูใหเ้ ทา่ กัน
8. หสู ว่ นใน มีส่วนประกอบด้วยอะไรบ้างและทาหน้าท่ีอยา่ งไร
แนวการตอบ คอเคลยี และทาหนา้ ท่ีส่งสญั ญาณการรบั รู้ผ่านไปยงั สมอง
29
ชุดการสอน30ท่ี 4
เรอ่ื ง มลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ นิ
9. หนู อกจากจะทาหนา้ ที่การรับฟงั เสียงแลว้ ยังทาหนา้ ทสี่ าคัญอีกอยา่ งหนงึ่ คืออะไร
แนวการตอบ ควบคุมการทรงตวั การเคลอ่ื นไหวของร่างกาย
10. เวลาก้องเสยี ง หมายถงึ อะไร
แนวการตอบ เวลาท่ีนับจากเสยี งมพี ลังงานมากที่สดุ จนกระท่งั เสียงมพี ลังงานลดลงถงึ ค่าหน่งึ ซึ่งระดับ
เสยี งลดลงจากระดับเสยี งเร่ิมตน้ 60 เดซิเบล
30
ชุดการสอน31ท่ี 4
เรือ่ ง มลภาวะของเสียงและหูกบั การได้ยนิ
เรอ่ื ง มลภาวะของเสยี งและหกู ับการไดย้ ิน
ตอนท่ี 1 ข้อละ 0.5 คะแนน
ขอ้ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
คาตอบ D. J. G. H. C. I. A. B. F. E.
ตอนที่ 2 ขอ้ ละ 2.5 คะแนน
1. ความไวของการรับร้เู สยี งของเด็กและผใู้ หญ่มีความเหมอื นหรือแตกต่างกันอย่างไร
แนวการตอบ การรับรู้เสียงของคนเราข้ึนอยู่กับช่วงอายุ โดยเด็ก ๆ จะมีความไวต่อเสียงความถ่ีสูง
มากกว่าผ้ใู หญ่ กล่าวคือ ความไวของการได้ยินเสียงจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
2. รถจกั รยานยนต์หรอื รถยนตท์ ่ีถอดท่อเกบ็ เสียงออก หรือถูกดดั แปลงทอ่ ไอเสีย เพ่ือทาใหเ้ กิดเสยี งดัง
มาก เหมาะสมทจี่ ะนามาใชใ้ นเขตชมุ ชนหรือไม่ รถดังกลา่ วเพ่ิมมลภาวะของเสยี งอย่างไร
แนวการตอบ ไมเ่ หมาะ กรณถี อดท่อเกบ็ เสียงออกหรือถูกดัดแปลงท่อไอเสียจะทาให้เคร่ืองยนต์มีเสียง
ดังมากจนเป็นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพของผู้ฟงั ในชุมชน
31
ชุดการสอน32ท่ี 4
เร่อื ง มลภาวะของเสียงและหูกบั การไดย้ ิน
แบบบนั ทึกคะแนนแบบทดสอบก่อน - หลังเรยี น
ชอื่ ...........................สกลุ .........................ช้นั ............เลขท่ี.......
กระดาษทดสอบก่อนเรียน ง. กระดาษทดสอบหลังเรยี น
ขอ้ ก. ข. ค. ข้อ ก. ข. ค. ง.
1. 1.
2. 2.
3. 3.
4. 4.
5. 5.
6. 6.
7. 7.
8. 8.
9. 9.
10. 10.
8 - 10 คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ดี
5 - 7 คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถึง พอใช้
นอ้ ยกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 หมายถงึ ควรปรบั ปรุง
ระดบั คุณภาพ 1 หมายถึง
ประเมนิ ผล สรปุ ผลการประเมิน หลังเรยี น
คะแนนเต็ม กอ่ นเรียน 10
คะแนนทีไ่ ด้ 10
ระดับคุณภาพ
32
ชดุ การสอน33ท่ี 4
เรอื่ ง มลภาวะของเสียงและหูกับการได้ยนิ
แบบบันทกึ ผลการประเมนิ ด้านความรู้
ผ้บู นั ทึก ( ) ครู ( ) นักเรียน ( ) อน่ื ๆ.......................................
คาช้แี จง ใหส้ มาชิกในกล่มุ แจ้งคะแนนของแบบทดสอบหลังเรยี น บตั รกิจกรรม บตั รคาถาม บตั รฝึก
ทกั ษะของตนเอง ใหเ้ ลขากลุ่มบันทกึ ผลลงในแบบบันทึกน้ี
ชื่อ – สกลุ การประเมนิ ด้านความรู้ รวม
บตั รคาถาม บัตรฝึกทักษะ แบบทดสอบ (30 คะแนน)
(10 คะแนน) (10 คะแนน) หลังเรยี น
(10 คะแนน)
ลงช่ือ............................................ผบู้ นั ทึก
.................../................./...................
เกณฑก์ ารตดั สนิ การผา่ นดา้ นความรู้
เกณฑ์การตดั สนิ / บตั รคาถาม บตั รฝกึ ทักษะ แบบทดสอบ
รายการ หลงั เรียน
รอ้ ยละ 70 รอ้ ยละ 70 ร้อยละ 80
ผา่ น ขนึ้ ไป ข้นึ ไป ข้ึนไป
33
ชดุ การสอน34ท่ี 4
เรื่อง มลภาวะของเสียงและหูกับการไดย้ นิ
34