The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารสรุปผล โครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (Government Innovation Lab : Gov Lab) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cdlc Udon, 2023-09-15 03:35:11

เอกสารสรุปผลโครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐ (GOV LAB) ศพช.อุดรธานี

เอกสารสรุปผล โครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (Government Innovation Lab : Gov Lab) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี

P a g e | ก


P a g e | ข เอกสารสรุปผล โครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (Government Innovation Lab : Gov Lab) ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 256 6 ด าเนิ นการโดย ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี (ศพช.อุดรธานี) ซึ่งใช้ประเด็นหัวข้อ “การผลิตผ้าทอพื้นเมือง หนองบัวล าภูตามแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model)” โดยเลือกพื้นที่ต้นแบบ คือ วิชชาลัยผ้าทอ หนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ต าบลนาค าไฮ อ าเภอเมืองหนองบัวล าภู จังหวัดหนองบัวล าภู ทีมนวัตกร ประกอบด้วย ทีมนวัตกร ศพช.อุดรธานี ทีมนวัตกรส านักงานพัฒนาชุมชนหนองบัวล าภู ผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ เป็นสมาชิก เคร ือข่ายกลุ่มทอผ้าของวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ด าเนินงานตามกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ดังนั้น ศพช.อุดรธานี จึงจัดท าเอกสารสรุปผลการด าเนินงานฯ ขึ้น เพื่อใช้เผยแพร่ กระบวนการสร้างนวัตกรรมดังกล่าวให้แก่บุคลากรในสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน และประชาชนทั่วไป คณะผู้จัดท า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารสรุปผลการด าเนินงานฯ ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อ การน าไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและประยุกต์ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนของบุคลากร กรมการพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนากรผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สามารถใชเ้ป็นต้นแบบของนวัตกรรม เชิงกระบวนการที่น ามาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพบร ิบทของชุมชน ให้เหมาะสมกับภูมิสังคมของแต่ละพื้นที่ชุมชน ได้ ก่อให้เกิดการด าเนินงานพัฒนาชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุด ทั้งนี้ขอขอบคุณ ทีมนวัตกรศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวล าภูมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี และวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู ตลอดจนผู้เข้าร่วมกระบวนการ ทดสอบต้นแบบนวัตกรรมที่ช่วยให้การขับเคลื่อนนวัตกรรมตามโครงการฯ ประสบความส าเร็จ บรรลุ วัตถุประสงค์ของโครงการ น าไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ตามภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน “เศรษฐกิจฐานราก มั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี กันยายน 2566


P a g e | ค หน้า ค าน า ข สารบัญ ค บทสรุปผู้บร ิหาร จ ส่วนที่ 1 บทน า 1 1.1 หลักการและเหตุผล 1 1.2 กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ด าเนินงาน 1 1.3 รูปแบบการด าเนินงาน 2 1.4 ระยะเวลาด าเนินงาน 2 1.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 2 1.6 ตัวชี้วัดผลส าเร็จของงาน 3 1.7 การก าหนดกรอบด าเนินงาน 3 1.8 ภาพการประชุมก่อนด าเนินงาน 4 ส่วนที่ 2 ผลการด าเนินงานตามโครงการ 5 2.1 กิจกรรม Government Innovation Lab Crashcourse & Scoping Workshop 5 2.2 กิจกรรมที่ 2 Discover : อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเร ียนรู้พื้นที่ต้นแบบ 7 2.3 กิจกรรมที่ 3 Define & Design : การวิเคราะห์ปัญหา ระบุจุดคานงัดและออกแบบ แนวคิดนวัตกรรม 16 2.4 กิจกรรมที่ 4 Develop & Deliver : พัฒนาต้นแบบแนวคิดนวัตกรรม และทดสอบ ต้นแบบนวัตกรรมในพื้นที่จร ิง 21 ส่วนที่ 3 กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) 27 3.1 Empathize วิธีการค้นหา ท าความเข้าใจปัญหา 27 3.2 Define วิธีก าหนดโจทย์ปัญหา และสังเคราะห์ข้อมูล 28 3.3 Ideate วิธีระดมไอเดียการแก้ปัญหา 29 3.4 Prototype โมเดลในการแก้ปัญหา 30 3.5 Test วิธีการน าต้นแบบไปทดสอบ 31 ส่วนที่ 4 ผลที่เกิดขึ้นหลังการด าเนินโครงการ 35 4.1 สิ่งทไี่ด้เรยีนรูจ้ากการทดสอบต้นแบบนวัตกรรม 35 4.2 ผลที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายและทีมนวัตกร 35 4.3 แนวทางปรับปรุงต้นแบบนวัตกรรม 36 4.4 การวางแผนงานที่จะขับเคลื่อนร่วมกันในอนาคต 36 4.5 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 37


P a g e | ง สารบัญ (ต่อ) หน้า ส่วนที่ 5 บทเร ียนที่ได้จากการด าเนินโครงการ 39 5.1 Next Step แนวทางการพัฒนาต่อไป 39 5.2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 39 5.3 ปัจจัยที่ส่งผลให้โครงการประสบความส าเร็จ 39 5.4 ปัญหา อุปสรรค ในการด าเนินงานโครงการ 40 5.5 ข้อเสนอแนะในการด าเนินงานโครงการ 41 ภาคผนวก ก. ภาพประกอบการด าเนินกิจกรรม 42 ข. รายชื่อทีมนวัตกร 45 คณะผู้จัดท าเอกสาร 46


P a g e | จ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ด าเนินโครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนา คุณภาพชีวิตของประชาชน หัวข้อ “การผลิตผ้าทอพื้นเมืองหนองบัวล าภูตามแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model)” โดยเลือกพื้นที่ต้นแบบ คือ วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย จังหวัดหนองบัวล าภู ทีมนวัตกร ประกอบด้วย ทีมนวัตกร ศพช.อุดรธานี ทีมนวัตกรส านักงานพัฒนาชุมชนหนองบัวล าภู ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม โครงการ เป็นสมาชิกเคร ือข่ายกลุ่มทอผ้าของวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ด าเนินงานตาม กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ดังนี้ 1. ขั้นตอน Empathize เป็นการท าเข้าใจปัญหาและความต้องการของประชาชน พบปัญหา เกี่ยวกับการย้อมสีเส้นใยผ้า ที่ใชส้ ีธรรมชาติจากพืชพื้นถิ่นได้ตลอดทั้งปีและต้องการขั้นตอนการย้อมที่งา่ย ขึ้น และการเลือกใชส้ ีจากพืชพื้นถิ่นทสี่ามารถจดัเฉดสีได้อย่างสม ่ าเสมอ 2. ขั้นตอน Define ก าหนดโจทย์ส าหรับการออกแบบแนวคิดนวัตกรรม คือ “เราจะใช้ เทคนิคการย้อมสีธรรมชาติแบบง่าย ๆ และสามารถค้นหาพืชให้สีธรรมชาติในท้องถิ่นมาใชป้ระโยชน์ตลอด ทั้งปีได้อย่างไร” 3. ขั้นตอน Ideate เป็นการสร้างสรรค์แนวคิดนวัตกรรม ทีมนวัตกรและกลุ่มเป้าหมายได้ ช่วยกันระดมสมองเพื่อหาค าตอบในการสร้างนวัตกรรม โดยสรุปแนวทางออกเป็น 3 แนวทาง ดังนี้ 1) จัด workshop ค้นหาพืชที่ให้สีธรรมชาติ พร้อมทั้งทดสอบหาค่าของสี ก าหนดโทนสี ทดสอบความเป็นกรด-ด่าง โดยเฉพาะสีด า สีเทา ที่เป็นพืชที่หาได้ยากในบางฤดูกาล 2) จัดท าคู่มือการใช้ประโยชน์จากพืชให้สี 3) สร้างชุมชนนักปฏิบัติแลกเปลี่ยนเร ียนรู้การใช้ประโยชน์จากพืชให้สีร่วมกัน 4. ขั้นตอน Prototype เป็นการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมเชิงพื้นที่ ก าหนดเต้นแบบแนวคิด นวัตกรรมที่ว่า “สร้างการเร ียนรู้แบบมีส่วนร่วมของสมาชิกเคร ือข่ายเทวาผ้าไทย ในการน าสีธรรมชาติใน ทอ้งถิ่นมาใชป้ระโยชน์ได้ตลอดทงั้ปี” ภายใต้เงื่อนไข 1) ไม่กระทบวิถีชีวิตและการทอผ้า 2) เร ียนรู้แบบเข้าใจ ง่าย ไม่ยุ่งยาก ท าได้จร ิง 3) ท าแล้วช่วยลดต้นทุน ขั้นตอนและเวลา หร ือเร ียกว่า Prototype ผ้าทอ 4 ใจ คือ คนมีใจ เข้าใจ ร่วมใจ เอาใจใส่ จากต้นแบบแนวคิดนวัตกรรมที่กล่าวมาข้างต้น ทีมนวัตกรได้ด าเนินการจัด กิจกรรมทดสอบต้นแบบแนวคิดนวัตกรรม ตามล าดับดังนี้ 1) จัดกิจกรรม workshop ค้นหาพืชที่ให้สีธรรมชาติ โดยเฉพาะสีด า สีเทา ที่เป็นพืชที่ หาได้ยากในบางฤดูกาล เพื่อน ามาใช้ย้อมเส้นใยผ้าร่วมกัน 2) ส่งพืชตัวอย่างไปยังศูนย์ออกแบบสรา้งสรรค์ผ้าและสิ่งทอ (FTCDC) มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี เพื่อท าการทดสอบทางแลปวิทยาศาสตร์ โดยทดลองย้อมสีจากพืชตัวอย่างที่กลุ่มเป้าหมาย ค้นหาได้ นั่นคือ ฉนวน หร ือที่เร ียกชื่อทั่วไปว่า กระพี้/กระพี้โพรง ผลของการทดสอบ พบว่า ใบฉนวนสด จะให้ค่าสีที่เป็นเฉดสีด าหร ือเทา และมีผลการทดสอบที่ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใบฉนวนสดมี ลักษณะเป็นใบสีเขียว แต่เมื่อตากแดดและแห้งจะกลายเป็นสีด าเข้ม 3) เมื่อทดสอบกระบวนการย้อมสีจากใบฉนวนที่ได้ค่ามาตรฐานแล้ว ทีมนวัตกรจัด กิจกรรมน าเสนอผลการทดสอบต้นแบบนวัตกรรม และน าเสนอผลการย้อมสีจากใบฉนวน ได้รับความร่วมมือ จากภาคีเคร ือข่าย ทีมนวัตกรระดับพื้นที่ ซึ่งมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรยุทธ์ เพ็งชัย รองอธิการบดี


P a g e | ฉ มหาวทิยาลัยราชภัฏอุดรธานีและอาจารย์ศูนย์ออกแบบสรา้งสรรค์ผ้าและสิ่งทอ (FTCDC) มหาวิทยาลัยราช ภัฏอุดรธานีให้ความรูแ้ละน าเสนอผลการทดสอบสีจากพืชพื้นถิ่นทมี่ีอยู่ในจงัหวัดหนองบัวล าภูและจดัสาธติ ขั้นตอน กระบวนการย้อมสีจากใบฉนวนให้แก่สมาชิกเคร ือข่ายกลุ่มทอผ้าที่สนใจ เพื่อเป็นต้นแบบและ แนวทางในการน าไปต่อยอด หร ือฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามขั้นตอนของ Prototype ผ้าทอ 4 ใจ 5. ขั้นตอน Test ได้มีการจัดกิจกรรมทดสอบต้นแบบนวัตกรรมในระดับพื้นที่จ านวน 2 ครั้ง เรม่ิจากการจดักิจกรรมครงั้ที่1 เพื่อถ่ายทอดความรูก้ารย้อมสีธรรมชาติและกรรมวธิกีารย้อมสีจากใบฉนวน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่สมาชิกวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู ได้เร ียนรู้และฝึกปฏิบัติตามกระบวนการ ย้อมสีทผี่่านการทดสอบผลทางวทิยาศาสตรจ์ากศูนย์ออกแบบสรา้งสรรค์ผ้าและสิ่งทอ (FTCDC) ซึ่งเป็นการ ย้อมร้อน หลังจากนั้นทางทีมวิชชาลัยได้มีการทดสอบกระบวนการย้อม ทดลองวิธีการใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อ หาข้อพิสูจน์การน าใบฉนวนมาใช้ในการย้อมสีเส้นฝ้าย ผลการทดลอง พบว่า การย้อมที่ได้มาตรฐานจะต้องใช้ ใบฉนวนสดเท่านั้น จึงจะให้สีด า สีเทา และสีจะติดเส้นฝ้ายได้ดี ส าหรับกิจกรรมครั้งที่ 2 เป็นการขยายผล องค์ความรู้การย้อมสีจากใบฉนวนลงสู่ชุมชนน าร่อง ณ บ้านศิลามงคล หมู่ที่ 7 ต าบลหนองสวรรค์ อ าเภอ เมือง จังหวัดหนองบัวล าภู โดยทีมครูวิทยากรจากวิชชาลัยเทวาผ้าไทย น าเสนอผลการทดสอบ ทดลองย้อมสี จากใบฉนวนด้วยวิธีย้อมเย็น ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกขึ้น และผลของการย้อมยังพบว่า ให้สีด าเช่นเดียวกัน และสีติดกับเส้นฝ้ายได้ดีด้วย จากนั้นจัดเวทีระดมความคิดเห็นร่วมกัน เพื่อมอบการบ้านให้กลุ่มช่างทอของ บ้านศิลามงคล น าไปทดลองท าที่กลุ่มหร ือครัวเร ือนของตนเอง เสมือนเป็นการฝึกท าด้วยตนเอง และอาจจะ น าไปสู่ข้อค้นพบใหม่ ๆ จากนั้นน ามาแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ร่วมกันต่อไป ถือว่าเป็นชุมชนนักปฏิบัติ (CoP) ตาม ขั้นตอนใน Prototype ผ้าทอ 4 ใจ ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี และวิชชาลัยผ้าทอ หนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย อยู่ระหว่างการขอจดสิทธิบัตร ในส่วนของกรรมวิธีการย้อมสีจากใบฉนวน โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตร และอยู่ระหว่างรอผล การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานที่ให้สิทธิบัตร ซึ่งผลการทดสอบการย้อมสีใบฉนวนถือว่าอยู่ใน ระดับที่ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลการทดสอบความคงทนของสีต่อการซักผ่านมาตรฐาน และที่ส าคัญ ช่วยลดขั้นตอนการย้อมที่ไม่ต้องย้อมหลายครั้งได้ สามารถเลือกให้ได้หลายเฉดสีเช่น สีเทา สีด า สีเขียวขี้ม้า ทั้งนี้อยู่ที่การใช้สารติดสี เช่น การใส่สารส้ม การใส่จุนสี เกลือแกง รวมทั้งยังสามารถสร้าง Story เพิ่มมูลค่า ให้กับผลิตภัณฑ์จากผ้าทอมือได้ด้วย ในอนาคตมีแผนงานที่จะยกระดับให้เป็นพืชให้สีที่โดดเด่นของจังหวัด หนองบัวล าภูส่งเสรมิการปลูกต้นฉนวนให้เพิ่มขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑผ์ ้าทอพื้นเมืองจากการใชส้ ีธรรมชาติ และสีใบฉนวน เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตหร ือช่างทอผ้าในชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัด หนองบัวล าภูต่อไป


P a g e | 0 ร่วมคิด ร่วมท า ร่วมสร้างสรรค์ งานพัฒนาชุมชน


P a g e | 1 1.1 หลักการและเหตุผล รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ หมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ มาตรา ๒๕๘ ข (๔) ด้านการบร ิหารราชการแผ่นดิน ก าหนดให้มีการปรับปรุงและพัฒนาการบร ิหารงานบุคคลภาครัฐให้มีความคิด สร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้การปฏิบัติราชการและการบร ิหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ภาครัฐหร ือระบบราชการซึ่งเป็นกลไกส าคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว จึงต้อง มีการน าแนวคิดด้านนวัตกรรมเข้าใช้เพื่อต่อยอดการท างาน รูจ้กัคิดรเิรม่ิและประยุกต์ศาสตรอ์งค์ความรู้ ต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการท างานและการบร ิการของภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของภาคประชาชน และภาคเอกชนมากขึ้นรัฐบาลได้ประกาศโมเดลการพัฒนาประเทศ Thailand ท าให้ภาครัฐจ าเป็นต้องมี การปรับตัวให้เป็นระบบราชการ ๔.๐ ซึ่งต้องท างานโดยยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เป็นหลัก เพื่อให้สามารถเป็นที่ไว้วางใจ และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จร ิง กล่าวคือ ภาครัฐต้อง เปิดกว้างและเชื่อมโยงกัน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย โดยมีปัจจัยแห่ง ความส าเร็จของการปรับไปสู่ระบบราชการ ๔.๐ ได้แก่ การสร้างนวัตกรรมบนพื้นฐานของการสานพลัง ความร่วมมือกัน ระหว่างภาครัฐและภาคส่วนอื่น ๆ ในสังคม รวมทั้งใช้ประโยชน์จากความเป็นระบบดิจิทัลใน การคิดค้นและแสวงหาหนทางหร ือวิธีการใหม่ ๆ อันจะก่อให้เกิดผลกระทบสูง เพื่อท าการปรับปรุงและ ออกแบบนโยบายสาธารณะและการจัดบร ิการสาธารณะให้สามารถตอบโจทย์ความท้าทายของประเทศหร ือ ตอบสนองปัญหาความต้องการของประชาชนที่แปรผันไปตามสภาพพลวัตของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมี คุณภาพ ในทุกเวลา ทุกสถานที่ทุกอุปกรณ์ และทุกช่องทาง ได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และประหยัด ปัจจุบันนวัตกรรมเป็นสิ่งสาคัญและจ าเป็นส าหรบัการปรบัตัวของภาครฐัในการเตรยีมพรอ้มรบั การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลก ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ หร ือการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพ ภูมิอากาศ ท าให้ภาครัฐต้องหาวิธีการบร ิหารจัดการภาครัฐใหม่เพื่อเตร ียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการ แก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งการสร้างนวัตกรรมภาครัฐเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้ภาครัฐสามารถปรับตัว ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของโลก ช่วยให้ภาครัฐมีกลไกที่มีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันกับ ประเทศอื่น ๆ ในโลกได้และช่วยตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อบร ิการ ภาครัฐที่สูงขึ้นเร ื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้เกิดระบบราชการ ๔.๐ ขึ้น สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จงึได้รเิรม่ิโครงการห้องปฏิบัติการนวัตกรรม ภาครัฐร่วมกับส านักงานโครงการพัฒนาสหประชาชาติโดยใช้ทีมนวัตกรในหน่วยงานท าหน้าที่ร่วมด าเนิน โครงการห้องปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐในโครงการน าร่องตลอดโครงการ ส่วนในพื้นที่จะใช้Dream Team ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน รวมทั้ง ผู้ให้บร ิการ ผู้รับบร ิการ ตลอดจนนักวิชาการ เข้ามาท างานร่วมกันในการพัฒนานวัตกรรมภาครัฐท าให้ ต้นแบบนวัตกรรมภาครัฐที่พัฒนาขึ้นมานั้นเกิดขึ้นจากความต้องการของประชาชน ดังนั้น เพื่อให้การสร้าง นวัตกรรมภาครัฐตอบสนองความต้องการของประชาชนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง และยกระดับคุณภาพ ชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี จึงได้จัดท าโครงการสร้างทีมนวัตกรรมภาครัฐ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (Government Innovation Lab : Gov Lab) ขึ้น 1.2 กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ด าเนินงาน 1.2.1 สมาชิกเคร ือข่ายวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ต าบลนาค าไฮ อ าเภอเมือง หนองบัวล าภู จังหวัดหนองบัวล าภู จ านวน 30 คน ส่วนที่ 1 บทน า


P a g e | 2 1.2.2 ทีมนวัตกรเชิงพื้นที่ (i-team) จ านวน 15 คน ประกอบด้วย บุคลากรของ ศพช.อุดรธานี เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด/อ าเภอ ผู้น าชุมชน และวิทยากรประจ าวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย 1.2.3 พนักงานขับรถยนต์ จ านวน 1 คน 1.3 รูปแบบการด าเนินงาน โครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (Government Innovation Lab : Gov Lab) มีขั้นตอนและวิธีด าเนินงาน 4 กิจกรรม ดังนี้ 1.3.1 กิจกรรมที่ 1 Government Innovation Lab Crashcourse & Scoping Workshop การสร้างความเข้าใจทีมนวัตกร โดยด าเนินการฝึกอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ ทีมนวัตกร (I-team) เพื่อเตร ียมพร้อมในการขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่าน ระบบออนไลน์ Zoom Cloud Meeting 1.3.2 กิจกรรมที่ 2 Discover : อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเร ียนรู้พื้นที่ต้นแบบ กิจกรรมย่อยที่ 2.1 เข้าใจปัญหาและค้นพบโอกาสในชุมชน โดยด าเนินการอบรมเชิง ปฏิบัติการกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต้นแบบ เพื่อสร้างความเข้าใจบร ิบทภาพรวม การเข้าถึงสภาพปัญหาและ ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียฝ่ายต่าง ๆ พร้อมทั้งระดมความคิดเห็นเพื่อระบุความท้าทายและ ประเด็นส าคัญทจี่ะน ามาแก้ไขปัญหาและสรา้งสรรค์สิ่งใหม่ กิจกรรมย่อยที่ 2.2 อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อน าเสนอปัญหาและข้อค้นพบในชุมชน เป็นการแบ่งกลุ่มน าเสนอข้อมูลปัญหาและข้อค้นพบในชุมชน และการเติมเต็ม (Coaching) โดยวิทยากร ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Cloud Meeting 1.3.3 กิจกรรมที่ 3 Define & Design : การวิเคราะห์ปัญหา ระบุจุดคานงัดและออกแบบ แนวคิดนวัตกรรม โดยด าเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการ แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ และระดมความคิดสร้างความรู้ ความเข้าใจระบุจุดคานงัดและออกแบบแนวคิดนวัตกรรม ด าเนินการ ณ วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน 1.3.4 กิจกรรมที่ 4 Develop & Deliver : พัฒนาต้นแบบแนวคิดนวัตกรรม และทดสอบ ต้นแบบนวัตกรรมในพื้นที่จร ิง กิจกรรมย่อยที่ 4.1 สร้างและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ โดยด าเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการ การออกแบบนวัตกรรมเชิงพื้นที่ และประชุมน าเสนอผลการออกแบบเพื่อทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ต้นแบบ และรับฟังข้อเสนอแนะ หร ือ Feedback มาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงต่อไป กิจกรรมย่อยที่ 4.2 อบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ โดยการ อบรมการสร้างต้นแบบนวัตกรรม รับฟังการน าเสนอข้อมูลนวัตกรรม และการเติมเต็ม (Coaching) โดยวิทยากร ผ่านการประชุมระบบออนไลน์ Zoom Cloud Meeting 1.4 ระยะเวลาด าเนินงาน ด าเนินการในไตรมาสที่ 2-4 (เดือนมกราคม - เดือนกันยายน 2566) 1.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.5.1 มีทีมนวัตกรในการขับเคลื่อนนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 1.5.2 มีรูปแบบการพัฒนานวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 1.5.3 เกิดการบูรณาการการท างานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ในการพัฒนา นวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


P a g e | 3 1.6 ตัวชี้วัดผลส าเร็จของงาน 1.6.1 เชิงปร ิมาณ 1) มีทีมนวัตกรในการขับเคลื่อนนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จ านวน 1 ทีม 2) มีรูปแบบการพัฒนานวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จ านวน 1 รูปแบบ 1.6.2 เชิงคุณภาพ 1) เกิดนวัตกรรมภาครัฐที่จะน าไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน 2) ประชาชนมีส่วนร่วมและมีโอกาสได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตตรงตามความต้องการได้ 1.7 การก าหนดกรอบด าเนินงาน กรอบการด าเนินงาน ก าหนดขึ้นและน าเสนอตามขั้นตอนและแผนการด าเนินงานด้วย Gantt Chart โดยประยุกต์ใชว้งจรเดมมิ่ง (PDCA) ดังตาราง ขั้นตอนและแผนการด าเนินงาน (PDCA) ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ขั้นวางแผนงาน (Plan) - จัดท ากรอบด าเนินงานโครงการ - ก าหนดแผนการด าเนินโครงการ - ประชุมชี้แจงแนวทางโครงการ 2. ขั้นด าเนินการ (DO) - กิจกรรมสร้างความเข้าใจทีมนวัตกรโดย ด าเนินการฝึกอบรมทีมนวัตกร ผ่าน Zoom Cloud Meeting ด าเนินการเดือนมีนาคม 2566 - กิจกรรมลงพื้นที่เพื่อเข้าใจปัญหาและค้นพบ โอกาสในชุมชน โดยด าเนินการอบรมเชิง ปฏิบัติการกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต้นแบบ จ านวน 2 ครั้ง ด าเนินการเดือนมีนาคม 2566 ณ วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย - กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อน าเสนอปัญหา และข้อค้นพบในชุมชน เป็นการแบ่งกลุ่มน าเสนอ ข้อมูลปัญหาและข้อค้นพบในชุมชน (Coaching) ผ่าน Zoom Cloud Meeting ด าเนินการเดือน มีนาคม 2566 - กิจกรรมวิเคราะห์ปัญหาระบุจุดคานงัดและ ออกแบบแนวคิดนวัตกรรม โดยอบรมเชิง ปฏิบัติการ ระดมความคิด ระบุจุดคานงัด ออกแบบแนวคิดนวัตกรรม ด าเนินการเดือน มีนาคม 2566 ณ วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน - กิจกรรมสร้างและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ โดยด าเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการการออกแบบ นวัตกรรมเชิงพื้นที่ ด าเนินการเดือนกรกฎาคม 2566 ณ วิชชาลัย ผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย


P a g e | 4 ขั้นตอนและแผนการด าเนินงาน (PDCA) ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. - กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างและ พัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ โดยอบรมการสร้าง ต้นแบบนวัตกรรม ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting ด าเนินการเดือนสิงหาคม 2566 3. ขั้นติดตามประเมินผล (Check) - ประเมินผลหลังการจัดกิจกรรม - จัดท ารายงานผลการด าเนินงานกิจกรรม ตลอดทั้งโครงการ 4. ขั้นปรับปรุงหลังการติดตามประเมินผล (Act) - น าผลการประเมินการจัดกิจกรรม ไปสู่ การปรับปรุงรูปแบบการด าเนินงาน - รายงานผลต่อผู้บร ิหารองค์กร 1.8 ภาพการประชุมก่อนด าเนินงาน


P a g e | 5 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ได้ด าเนินการตามรูปแบบวิธีด าเนินงานของโครงการ อธิบายดังนี้ 2.1 กิจกรรมที่ 1 Government Innovation Lab Crashcourse & Scoping Workshop เป็นการคัดเลือกทีมนวัตกร (i-team) เพื่อเตร ียมพร้อมส าหรับด าเนินงานร่วมกัน และด าเนินการ ฝึกอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทีมนวัตกร (i-team) เพื่อเตร ียมพร้อมในการขับเคลื่อนการสร้าง นวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน รายละเอียดดังนี้ 2.1.1 ส่งเสร ิมการด าเนินกิจกรรมตามโครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีว ิตของ ประชาชน (Government Innovation Lab : Gov Lab) ตามกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) 1) จัดท าแผนผังของผู้มีส่วนร่วม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ 2) รายชื่อทีมนวัตกร (i-team) ที่ ชื่อ – สกุล ต าแหน่ง หน่วยงาน/สังกัด ที่ปร ึกษาทีมนวัตกร 1 นายเสฏฐชัย ยุทธเศรษฐสิร ิ พัฒนาการจังหวัดหนองบัวล าภู ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด หนองบัวล าภู 2 นางกนกกร สุทธิอาจ ผู้อ านวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนา ชุมชนอุดรธานี ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุดรธานี ทีมนวัตกร ศพช.อุดรธานี 1 นายพงศ์วิทย์ บุ่งนาแซง นักวิชาการพัฒนาชุมชนช านาญการ พิเศษ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุดรธานี 2 นายกรุณา หล้าสรวย นักทรัพยากรบุคคลช านาญการ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุดรธานี 3 นายณัฐวุฒิ เหมากระโทก นักทรัพยากรบุคคล ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อุดรธานี ทีมนวัตกรระดับพื้นที่ 1 นายสุทธิรักษ์ ศร ีสุเลิศ ผู้อ านวยการกลุ่มงานส่งเสร ิมและ พัฒนาชุมชน ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด หนองบัวล าภู ส่วนที่ ๒ ผลการด าเนินงานตามโครงการ


P a g e | 6 2 นางรัตตินันท์ พัชรเร ืองวงศ์ พัฒนาการอ าเภอเมืองหนองบัวล าภู ส านักงานพัฒนาชุมชนอ าเภอเมือง หนองบัวล าภู 3 นางพิชญาภรณ์ บัวสระ นักวิชาการพัฒนาชุมชนช านาญการ ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด หนองบัวล าภู 4 นางวิยะดา บุญรอด นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ ส านักงานพัฒนาชุมชนอ าเภอเมือง หนองบัวล าภู 5 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ธีระยุทธ์ เพ็งชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 6 อาจารย์อโณทัย สิงห์ค า หัวหน้าแลปทดสอบผ้าและสิ่งทอ FTCDC LAB ศูนย์ออกแบบสร้างสรรค์ผ้า และสิ่งทอ มหาวทิยาลัยราชภัฏ อุดรธานี (FTCDC) 7 อาจารย์เบญจพร ครุฑกุล นักออกแบบและพัฒนาผ้าและ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอนวัตกรรม ศูนย์ออกแบบสร้างสรรค์ผ้า และสิ่งทอ มหาวทิยาลัยราชภัฏ อุดรธานี (FTCDC) 8 นางเบญจวรรณ บุ้งทอง ครูเชี่ยวชาญ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี 9 นายกิตติพันธ์ สุทธิสา ผู้อ านวยการวิชชาลัยผ้าทอ หนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย 10 นางบุญเพ็ง ไชยเอก สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านนาค าไฮ (เทวาผ้าไทย) วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย 11 นายจิระโรจน์ โชติการ สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านนาค าไฮ (เทวาผ้าไทย) วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย 12 นางจ าเนียร เพชรสี สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านนาค าไฮ (เทวาผ้าไทย) วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย 13 นางนงลักษณ์ นรบุตร สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านนาค าไฮ (เทวาผ้าไทย) วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย 14 นายคณิต พละศูนย์ ผู้ใหญ่บ้านนาค าไฮ หมู่ที่ 2 ต าบลนาค าไฮ ต าบลนาค าไฮ อ าเภอเมือง หนองบัวล าภู 2.2 ฝึกอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ทีมนวัตกร (i-team) เป็นการฝึกอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ และทบทวนกระบวนการด าเนินงานให้แก่ทีมนวัตกร ศพช.อุดรธานี ตามกระบวนการคิดเชิง ออกแบบ (Design Thinking)


P a g e | 7 2.2 กิจกรรมที่ 2 Discover : อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเร ียนรู้พื้นที่ต้นแบบ 2.2.1 กิจกรรมเข้าใจปัญหาและค้นพบโอกาสในชุมชน เป็นการด าเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการ กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต้นแบบ เพื่อสร้างความเข้าใจบร ิบทภาพรวม การเข้าถึงสภาพปัญหาและความต้องการ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียฝ่ายต่าง ๆ พร้อมทั้งระดมความคิดเห็นเพื่อระบุความท้าทายและประเด็นส าคัญที่จะ น ามาแก้ไขปัญหาและสรา้งสรรค์สิ่งใหม่ 1) แบบสรุปรายงานปัญหาและความต้องการของประชาชน (Empathize) ในพื้นที่ ต้นแบบ ก าหนดโจทย์ส าหรับออกแบบนวัตกรรมเบื้องต้น ดังนี้ เราจะช่วยให้สมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านนาค าไฮ (เทวาผ้าไทย) สามารถใช้เทคนิคการใช้ประโยชน์จากสีธรรมชาติ แบบง่าย ๆ และสามารถค้นหาพืชให้สีธรรมชาติในทอ้งถ่ินมาใชใ้นการผลิตตลอดทั้งปีได้อย่างไร จากนั้นก าหนดวันด าเนินการ เพื่อลงพื้นที่สร้างความเข้าใจปัญหาและความต้องการของชุมชน รายละเอียดตามก าหนดการ ครั้งที่ 1


P a g e | 8 วางแผนส าหรับเก็บรวบรวมข้อมูล ครั้งที่ 1 2) รายงานปัญหาและความต้องการของประชาชน สรุปรายงานปัญหาและความต้องการ ของประชาชน (Empathize) ดังนี้ สภาพบร ิบทของสมาชิกกลุ่มทอผ้า ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป นิยมทอผ้าในครัวเร ือน ของตนเอง ปัจจุบันมองว่าการทอผ้าเป็นอาชีพหลัก มากกว่าการท าเกษตรกรรม เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทา ให้เกิด รายได้เข้ามาใช้จ่ายในครัวเร ือนมากที่สุด ข้อค้นพบ คือ ส่วนใหญ่นิยมผลิตผ้าทอตามออเดอร์ของผู้ที่สั่งจอง ไว้แล้ว และจะขายเป็นผ้าผืน โดยลูกค้าที่รับซื้อส่วนใหญ่จะน าไปขายที่ตลาดผ้านาข่า ส าหรับประเด้นการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ พบว่า เนื่องด้วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ทอผ้าในปัจจุบัน จึงไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง และ มองว่าสิ่งทที่า อยู่ก็เพียงพอต่อการด ารงชพี ในครอบครวัแล้ว แต่จากการสัมภาษณ์ก็ยังพบว่า สมาชกิบางคน ยังมีความต้องการได้รับการพัฒนาทักษะ ความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ถ้ามีโอกาสจากการ ส่งเสร ิมอย่างจร ิงจังจากหน่วยงานภายนอก และการสร้างลวดลายผ้าแบบใหม่ที่สวยงาม ตรงใจลูกค้า เพราะ ปัจจุบันมักจะท าลายผ้าแบบเดิม ๆ เนื่องจากหากจะใช้ลายผ้าใหม่ ต้องไปจ้างช่างที่รับมัดลาย เก็บขิด และ มัดหมี่ ไม่สามารถท าได้เอง เพราะขั้นตอนการมัดลาย เก็บลายขิด จะต้องความเชี่ยวชาญขั้นสูงมาก ดังนั้นการจะสร้างนวัตกรรมให้กับกลุ่มช่างทอ ต้องมองในหลายมิติประกอบกัน โดยประเด็นปัญหา ความต้องการพัฒนาของกลุ่มช่างทอผ้า มีดังนี้


P a g e | 9 ปัญหาด้านการย้อมสีเส้นใยผ้า 1. การใช้พืชให้สีธรรมชาติในปัจจุบัน สีบางสีที่ได้จากพืช ไม่ได้มีอยู่ในชุมชน จะต้องสั่งซื้อจาก ภายนอกชุมชน เช่น สั่งเปลือกฝางจากต่างจังหวัด สั่งครามจากร้านค้า หร ืออาจจะจะซื้อผงสีธรรมชาติมาใช้ 2. พืชแต่ละต้นจะให้ค่าสีแตกต่างกัน ท าให้เวลาเอามาย้อมแล้วสีผ้าจะไม่คงที่ หร ือสีไม่เสมอกัน ถึงแม้จะเป็นพืชชนิดเดียวกัน แต่หากน าใบพืช และเปลือกมาจากต้นอื่นหร ือต้นเดียวกัน จะให้สีจะไม่ เหมือนกัน 3. พืชให้สีส่วนใหญ่เราจะใช้เปลือก ดังนั้นวิธีการ คือ มักจะไปกระเทาะเปลือก หร ือใช้มีดฟันเอาส่วน ที่เปลี่ยนเปลือกไม้ออกมาใช้ อาจจะส่งผลต่อพืชได้ และหากน ามาใช้จ านวนมาก พืชอาจจะตายได้ กระทบต่อ ทรัพยากร ต้นไม้ที่มีอยู่ในชุมชน 4. การใช้สีธรรมชาติในการย้อมเส้นใยผ้า อาจจะท าให้สีตกได้ ซักแล้วสีจะออก ท าให้ผ้าด่าง กินสีผ้า อื่น จึงต้องหาวิธีการท าให้สีผ้าไม่ตก รวมทั้งซักผ้าแล้วสีอาจจะตกน้อยลง 5. การใช้สีบางสีเราจะได้จากผลของต้นพืช ซึ่งจะมีเป็นช่วงฤดูกาล อาจจะไม่มีตลอดทั้งปี และยังไม่รู้ ว่าจะหาอะไรมาใช้ทดแทนกันได้ เพื่อให้มีพืชให้สีธรรมชาติใช้ตลอดทั้งปี 6. ขั้นตอนในการใช้สีธรรมชาติมีหลายขั้นตอน ยุ่งยาก ท าให้ช่างทอส่วนใหญ่ไม่นิยม รวมทั้งมองว่า ต้องลงทุนสูง เสียเวลา เมื่อขายแล้วราคาก็เท่ากับกับสีเคมี ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการที่ท าแบบง่าย ไม่ยุ่งยาก 7. ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อผ้า มักจะชอบสีที่สดใส ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้สีเคมี 8. วัตถุดิบส าหรับมาท าสีธรรมชาติหาได้ยาก เช่น ใบไม้ เปลือกไม้ ถ้าจะเก็บไว้ใช้นานๆ ก็มักจะขึ้นรา และยังไม่มีวิธีการที่จะช่วยเก็บรักษาให้ได้สีธรรมชาติ ปัญหาด้านการมัดลายผ้า 1. สมาชิกส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถในการมัดลาย เก็บขิด มัดหมี่ จึงต้องจ้างคนที่เชี่ยวชาญที่มีอยู่ ภายในชุมชนหร ือต่างหมู่บ้านท าให้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าจ้างท า ค่าเก็บขิดจะอยู่ที่ 8,000-10,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ลวดลาย 2. ขาดการพัฒนาลวดลายผ้าทเี่ป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของตนเอง และขาดลวดลายใหม่ๆ ทคี่ิดค้น ขึ้นมาเพื่อน ามาทอและขาย ซึ่งเป็นลวดลายใหม่ไม่ซ้าใคร และมีความสวยงาม 3. ถ้าใช้สีธรรมชาติ มักจะเจอปัญหาสีไม่ซึมเข้าเนื้อเส้นใยผ้า หมี่ไม่กินข้างในเส้นใยผ้า หมี่เข้าข้อ ทั้งหมดนี้ท าให้ลายไม่สวย ปัญหาด้านการแปรรูป/พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 1. ขาดทักษะในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นแฟชั่นสมัยใหม่ เช่น กระเป๋า หมวด ผ้าพันคอ เสื้อผ้า 2. ขาดเคร ื่องมือในการตัดเย็บเสื้อผ้า ขาดอุปกรณ์ที่จะใช้ตัดชุดเสื้อ และขาดอุปกรณ์ส าหรับอัดกาว ปัญหาด้านการเงินทุนและการตลาด 1. มีการท าตามออเดอร์ของเถ้าแก่ นายหน้าที่จ้างให้ทอ พร้อมทั้งลงทุนวัตถุดิบ/อุปกรณ์ให้ 2. ช่างทอส่วนใหญ่ไม่ได้ขายผ้าเอง แต่จะขายฝากกับตัวแทนของกลุ่ม นายหน้า และเทรดเดอร์ ความต้องการด้านการย้อมสีเส้นใยผ้า 1. เทคนิคการใช้สีธรรมชาติที่ท าแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน และช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ หาก มีวิธีการท าแบบง่าย ๆ ประหยัดเวลา ลดต้นทุนได้จร ิง ช่างทอก็จะหันมาท าโดยใช้สีธรรมชาติมากขึ้น 2. การใช้สีธรรมชาติที่ท าให้สีไม่ตก สีคงทน และเมื่อย้อมผ้าแล้วสีจะซึมเข้าเนื้อผ้าอย่างสม่าเสมอกัน


P a g e | 10 3. การหาพืชทดแทน ในกรณีที่จะไม่มีพืชบางชนิดในเวลาที่ต้องการ เช่น การใช้พืชอื่นแทนพืชที่ไม่มี ในช่วงเดือนนี้ การใช้พืชอื่นที่หาได้ง่ายในชุมชน ไม่ต้องไปซื้อจากภายนอก ความต้องการด้านการจัดหาวัตถุดิบ 1. การลดต้นทุนการผลิตให้น้อยลง การน าวัตถุดิบมาใช้หมุนเวียนในหลายกระบวนการผลิตได้ 2. การเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่ราคาถูก แต่มีคุณภาพ เส้นไหม เส้นด้าย เส้นฝ้าย ที่ราคาเหมาะสม ความต้องการด้านการมัดลาย/ลวดลายผ้า 1. ต้นแบบลวดลายผ้าลายใหม่ ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด 2. ทกัษะในการเก็บขิด มัดหมี่หรอืเพิ่มจา นวนชา่งทมี่ีอยู่ในชุมชน โดยไม่ต้องจ้างช่างจากภายนอก ความต้องการด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์ 1. พัฒนาทักษะด้านการท าผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้ได้มากกว่าการท าเฉพาะผ้าผืนขาย เช่น ทักษะออกแบบ กระเป๋า ตัดชุดเสื้อผ้า 2. การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ส าหรับใช้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เช่น เคร ื่องเย็บเสื้อผ้า เคร ื่องอัดกาว ภาพกิจกรรมการลงพื้นที่ ครั้งที่ 1


P a g e | 11 2.2.2 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อน าเสนอปัญหาและข้อค้นพบในชุมชน เป็นการแบ่งกลุ่ม น าเสนอข้อมูลปัญหาและข้อค้นพบในชุมชน และการเติมเต็ม (Coaching) โดยวิทยากร ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Cloud Meeting 1) แบบสรุปรายงานผลการตั้งโจทย์ส าหรับการออบแบบแนวคิดนวัตกรรม วางแผนการลงพื้นที่ แผนปฏิบัติงานส าหรับการลงพื้นที่ ครั้งที่ 2 เพื่อสรุปประเด็นปัญหา และน าไปก าหนดโจทย์ส าหรับ พัฒนานวัตกรรม รายละเอียดดังนี้ น าเสนอผลสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการได้รับการพัฒนาของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อใช้เป็น แนวทางส าหรับก าหนดโจทย์ อธิบายดังนี้


P a g e | 12 สร้างแผนผังประสบการณ์ของสมาชิกเคร ือข่ายวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย


P a g e | 13 จัดล าดับความส าเร็จ จ าเป็น เร่งด่วนของปัญหา ซึ่งประเด็นปัญหาที่ส าคัญ จ าเป็น เร่งด่วนที่สุด และควรน ามาก าหนดเป็นโจทย์นวัตกรรม คือ การแก้ไขและพัฒนากระบวนการย้อมสีเส้นใยผ้าด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ จากนั้น ใช้เคร ื่องมือเพื่อท าความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งด้วยตารางแมทร ิกซ์ ผลมีดังนี้


P a g e | 14 2) ก าหนดโจทย์ (Define) ส าหรับออกแบบแนวคิดนวัตกรรม สรุปผลการตั้งโจทย์ ส าหรับการออกแบบแนวคิดนวัตกรรมในพื้นที่ต้นแบบ วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ต าบลนา ค าไฮ อ าเภอเมือง จังหวัดหนองบัวล าภูได้ดังนี้ 1. เราจะหาวิธีการที่ท าให้กระบวนการย้อมสีเส้นใยผ้า ด้วยพืช สัตว์ และแร่ธาตุที่มี อยู่ในทอ้งถิ่นของวชิชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภูแบบงา่ย ๆ ประหยัดเวลา ลดต้นทนุการผลิตได้อย่างไร 2. เราจะค้นหาพืชให้สีธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นที่ให้สีโทนเดียวกัน สามารถ ทดแทนกันได้ พร้อมทั้งมีตลอดฤดูกาลได้จากอะไรบ้าง และต้องมีกรรมวิธีท าอย่างไร ภาพกิจกรรม ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี พิจารณาคัดเลือกวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ต าบลนาค าไฮ อ าเภอเมือง จังหวัดหนองบัวล าภู เป็นพื้นที่ด าเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ โดยได้รับการสนับสนุน การด าเนินกิจกรรมจาก นายกิตติพันธ์ สุทธิสา ผู้อ านวยการวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย พร้อม ทีมงาน พร้อมนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปร ึกษาองค์ความรู้ทางด้านการพัฒนาผ้าทอพื้นเมือง ดังนี้ 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีระยุทธ์ เพ็งชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 2. อาจารย์อโณทัย สิงห์ค า หัวหน้าแลปทดสอบผ้าและสิ่งทอ FTCDC LAB 3. อาจารย์เบญจพร ครุฑกุล นักออกแบบและพัฒนาผ้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอนวัตกรรม ศูนย์ ออกแบบสรา้งสรรค์ผ้าและสิ่งทอ มหาวทิยาลัยราชภัฏอุดรธานี(FTCDC) ได้รับความร่วมมือจากส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวล าภู โดยนายเสฏฐชัย ยุทธเศรษฐสิร ิ พัฒนาการจังหวัดหนองบัวล าภู มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฯ ร่วมเป็นทีมนวัตกรและอ านวยความสะดวกในการ จัดกิจกรรมครั้งนี้ ส าหรับกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยสมาชิกเคร ือข่ายกลุ่มทอผ้าเท วาผ้าไทย ผู้น าท้องที่ ประชาชนทั่วไปที่สนใจการทอผ้าพื้นเมืองในพื้นที่ต าบลนาค าไฮ และต าบลหนองสวรรค์ รวมจ านวน 30 คน กิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย - ระดมความคิดเห็น เพื่อสร้างแผนผังประสบการณ์ - วิเคราะห์ปัญหา/ความต้องการพัฒนา จัดล าดับความส าคัญปัญหาที่จ าเป็น เร่งด่วน ด้วยตาราง แมทร ิกซ์สองแกน - ท าความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งด้วยตารางแมทร ิกซ์ - วิเคราะห์ปัญหา ความต้องการที่ส าคัญที่สุด เพื่อน าไปสรุปความเข้าใจเชิงลึก และตั้งโจทย์ นวัตกรรม


P a g e | 15


P a g e | 16 2.3 กิจกรรมที่ 3 Define & Design : การวิเคราะห์ปัญหา ระบุจุดคานงัดและออกแบบ แนวคิดนวัตกรรม เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ และระดมความคิดสร้างความรู้ความเข้าใจระบุ จุดคานงัดและออกแบบแนวคิดนวัตกรรม โดยมีทีมวิทยากรประจ าโครงการให้ความรู้ และข้อเสนอแนะ ด าเนินการ ณ วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน 2.3.1 แบบสรุปรายงานผลการสร้างสรรค์แนวคิด (Ideate) เป็นการระดมสมองเพื่อหาค าตอบ ในการสร้างนวัตกรรมในพื้นที่ต้นแบบ ขั้นตอนด าเนินงาน ทีมนวัตกรน าผลการวิเคราะห์ปัญหาที่ได้จากการระดมความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายมาช่วยกัน ออกแบบ และตั้งโจทย์นวัตกรรม จากนั้นท าการระดมความคิดเพื่อออกแบบสร้างสรรค์แนวคิดนวัตกรรม ร่วมกัน ตามใบงานที่ก าหนดไว้ อธิบายดังนี้ จากการใชเ้ครอ่ืงมือเพื่อสรา้งความเข้าใจเชงิลึก จากสิ่งทไี่ด้เรยีนรูจ้ากกระบวนการเข้าใจปัญหา เบื้องต้นทีมนวัตกรได้ท าการวิเคราะห์ปัญหา ความต้องการ สรุปได้ดังนี้ - ปัญหาด้านการย้อมสีเส้นใยผ้า จากพืชพื้นถิ่น สัตว์และแรธ่าตุทมี่ีอยู่ในทอ้งถิ่น พบว่า 1) การใช้พืชให้สีธรรมชาติในปัจจุบัน สีบางสีที่ได้จากพืช ไม่ได้มีอยู่ในชุมชน จะต้องสั่งซื้อ จากภายนอก 2) พืชแต่ละต้นจะให้ค่าสีแตกต่างกัน ท าให้เวลาเอามาย้อมแล้วสีผ้าจะไม่คงที่


P a g e | 17 3) พืชให้สีส่วนใหญ่เราจะใช้เปลือก หากน ามาใช้จ านวนมาก พืชอาจจะตายได้ กระทบต่อ ทรัพยากร ต้นไม้ที่มีอยู่ในชุมชน 4) การใช้สีธรรมชาติในการย้อมเส้นใยผ้า อาจจะท าให้สีตกได้ ซักแล้วสีจะออก ท าให้ผ้าด่าง กินสีผ้าอื่น 5) การใช้สีบางสีเราจะได้จากผลของต้นพืช ซึ่งจะมีเป็นช่วงฤดูกาล อาจจะไม่มีตลอดทั้งปี 6) การใช้สีธรรมชาติมีหลายขั้นตอน ยุ่งยาก ช่างทอส่วนใหญ่ไม่นิยม ลงทุนสูง เสียเวลา เมื่อขายแล้วราคาก็เท่ากับกับสีเคมี 7) ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อผ้า มักจะชอบสีที่สดใส ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้สีเคมี 8) วัตถุดิบส าหรับมาท าสีธรรมชาติหาได้ยาก เช่น ใบไม้ เปลือกไม้ ถ้าจะเก็บไว้ใช้นานๆ ก็ มักจะขึ้นรา และยังไม่มีวิธีการที่จะช่วยเก็บรักษาให้ได้สีธรรมชาติให้ใช้ได้ตลอดทั้งปี สร้างสรรค์แนวคิด (Ideate) ระดมสมองเพื่อหาค าตอบในการสร้างนวัตกรรม แนวคิดที่จะสามารถน ามาใช้ได้จร ิง มีดังนี้ 1) จัดการฝึกอบรม เพื่อฝึกปฏิบัติ workshop ค้นหาพืชที่ให้สีธรรมชาติ พร้อมทั้งทดสอบ หาค่าของสี ก าหนดโทนสี ทดสอบความเป็นกรด-ด่าง 2) จัดท าคู่มือการใช้ประโยชน์จากพืชให้สี 3) สร้างหลักสูตรให้กับวิชชาลัยผ้าทอ ใช้สอบกลุ่มทอผ้าในการย้อมสีธรรมชาติ 4) ทา การค้นหาพืชในทอ้งถิ่นที่ให้สีโทนเดียวกัน โดยเฉพาะสีด า สีเทา ทหี่าพืชมาทดแทน กันได้ยาก และบางชนิดมีเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น 4) ทดลองน าใบฉนวน ที่คาดว่าจะให้สีเทา สีด า มาลงมือท า และท าการใช้กระบวนการย้อม พร้อมทั้งน าไปทดลองในห้องวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ เพื่อให้ได้พืชติดสี เมื่อท าการทดลอง ส าเร็จแล้ว หากมีความเป็นไปได้ จะสามารถน ามาใช้ทดแทนมะเกลือที่จะมีเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น 5) ท าผงสีธรรมชาติไว้ใช้ในการย้อมผ้าแบบง่าย โดยสมาชิกกลุ่มสามารถท าได้เองในชุมชน และไม่ลงทุนมาก พร้อมทั้งประหยัดเวลา ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก 6) ศึกษางานวิจัย ผลการทดสอบที่มีอยู่แล้วในสถาบันการศึกษา และน ามาสู่ชุมชน จากนั้นน ามาจัดล าดับโจทย์นวัตกรรม และแนวคิดนวัตกรรมที่สามารถท าได้จร ิง ภายใต้แผนด าเนิน โครงการสร้างทีมนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2566


P a g e | 18 2.3.2 สรุปแนวคิดเพื่อการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมเชิงพื้นที่(Prototype) ทีมนวัตกรเข้าร่วม โครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชนชน (Government Inovation Lab : Gov Lab) สถาบันการพัฒนาชุมชน กิจกรรมที่ 3 Define & Design : วิเคราะห์ปัญหาระบุจุดคานงัดและ ออกแบบแนวคิดนวัตกรรม ระหว่างวันที่ 30 - 31 มีนาคม 2566 โดยสถาบันการพัฒนาชุมชน กรมการ พัฒนาชุมชน ซึ่งได้รับเกียรติจาก ผศ.แพรวา สาธุธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะ เป็นวิทยากรให้ ความรู้ โดยได้ด าเนินกิจกรรมการเร ียนรู้ คือ - แบ่งปันสิ่งทไี่ด้ค้นพบและปรกึษาโค้ชประจา กลุ่ม - การสร้างผู้ใช้จ าลอง (Persona) - แผนภาพระบบ (System Map) - ระบุจุดคานงัดและตั้งโจทย์ สามารถสรุปแนวคิดการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรม ดังนี้ ผลผลิตการจัดท าแผนผู้ใช้จ าลอง ผลผลิตการวิเคราะห์เชิงระบบ เพื่อค้นหาจุดคานงัด


P a g e | 19 ผลผลิตการระดมไอเดียเพื่อสรุปแนวคิดนวัตกรรม ผลผลิตแมทร ิกซ์ระดมความคิดโจทย์นวัตกรรมที่จะใช้งานจร ิง สรุปแนวคิดเพื่อการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมเชิงพื้นที่ (Prototype)


P a g e | 20 ภาพกิจกรรม


P a g e | 21 2.4 กิจกรรมที่ 4 Develop & Deliver : พัฒนาต้นแบบแนวคิดนวัตกรรม และทดสอบต้นแบบ นวัตกรรมในพื้นที่จร ิง 2.4.1 กิจกรรมสร้างและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ โดยด าเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการ ออกแบบนวัตกรรมเชิงพื้นที่ และประชุมน าเสนอผลการออกแบบเพื่อทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ต้นแบบ และรับฟังข้อเสนอแนะ หร ือ Feedback มาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงต่อไป ก าหนดจัดกิจกรรมใน พื้นที่ จ านวน 2 ครั้ง ได้แก่ 1) น าเสนอผลการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรม น าเสนอผังผู้ใช้จ าลอง สรุปข้อจ ากัดในการใช้สีธรรมชาติ


P a g e | 22


P a g e | 23 Prototype ผ้าทอ 4 ใจ 2) ด าเนินกิจกรรมทดสอบต้นแบบนวัตกรรมกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่


P a g e | 24 3) ผลการด าเนินกิจกรรมทดสอบต้นแบบนวัตกรรมในระดับพื้นที่ การทดสอบต้นแบบนวัตกรรม ครั้งที่ 1 ใช้วิธีการ ถ่ายทอดความรู้การย้อมสีเส้นฝ้ายด้วยใบฉนวน ประกอบด้วยกิจกรรม 1. น าเสนอทดสอบผลทางวิทยาศาสตร์จาก ศูนย์ออกแบบสรา้งสรรค์ผ้าและสิ่งทอ (FTCDC) ซึ่ง เป็นกรรมวิธีการย้อมร้อน 2. ถ่ายทอดความรู้ และฝึกปฏิบัติให้กับ สมาชิกกลุ่มเทวาผ้าไทย และผู้สนใจ 3. สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการทดลอง ฝึกปฏิบัติครั้งที่ 1


P a g e | 25 ภาพกิจกรรม การทดสอบต้นแบบนวัตกรรม ครั้งที่ 2 ขยายผลไปยัง ชุมชนน าร่อง ณ บ้านศิลามงคล ต าบลหนองสวรรค์ ประกอบด้วยกิจกรรม 1. ทีมวิชชาลัยเทวาผ้าไทย น าเสนอผล ทดลองย้อมสีจากใบฉนวนด้วยวิธีย้อมเย็น ซึ่งเป็นวิธี ที่ง่ายและสะดวกขึ้น 2. สาธิต และฝึกปฏิบัติร่วมกับชุมชน 3. มอบโจทย์ให้สมาชิกชุมชนไปทดลองท า ด้วยตนเอง เพื่อหาข้อค้นพบใหม่ น าไปสู่เทคนิค วิธีการที่ง่ายขึ้น และชุมชนนักปฏิบัติ


P a g e | 26 2.4.2 กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างและพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ โดยการอบรม การสร้างต้นแบบนวัตกรรม รับฟังการน าเสนอข้อมูลนวัตกรรม และการเติมเต็ม (Coaching) โดยวิทยากร ผ่านการประชุมระบบออนไลน์ Zoom Cloud Meeting ซึ่งได้มีการน าเสนอผลการด าเนินงานขับเคลื่อน กิจกรรมทดสอบต้นแบบนวัตกรรมให้กับวิทยากรประจ าโครงการ รายละเอียดดังนี้ วิธีการทดสอบต้นแบบนวัตกรรม ประกอบด้วย 1. น าเสนอ Prototype ผ้าทอ 4 ใจ ให้กับสมาชิก ทีมนวัตกรทุกฝ่ายรับทราบแนวทางท างานร่วมกัน 2. ด าเนินการตามขั้นตอนที่ 1-2 ของ Prototype คือคัดเลือกสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรม และจัดการส ารวจพืชให้ สีทมี่ีอยู่ในทอ้งถิ่น 3. เตร ียมพร้อมการทดสอบนวัตกรรมทั้ง 2 จุด 4. ด าเนินการจัดการความรู้เร ื่องพืชให้สี 5. น าเสนอองค์ความรู้ สาธิตและฝึกปฏิบัติ 6. จัดท าชุดความรู้ คู่มือการใช้ประโยชน์พืชให้สี 7. ชุมชนนักปฏิบัติ ทดลองท าในครัวเร ือนของ ตนเองแล้วมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน สิ่งทไี่ด้เรยีนรูจ้ากการทดสอบต้นแบบนวัตกรรม คือ 1. การบูรณาการท างานร่วมกันของภาคีเคร ือข่าย ทั้งภาคราชการ ภาควิชาการ ชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ต้นแบบ 2. ทีมนวัตกรมีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะด าเนินการ ตามกระบวนการให้ส าเร็จ 3. สมาชิกวิชชาลัย เทวาผ้าไทยมีความพร้อม และ ให้ความส าคัญในการทดสอบ ทดลองลงมือท า 4. สมาชิกเคร ือข่าย คนในชุมชนต้นแบบใส่ใจ และเอาใจใส่ มีส่วนร่วมอย่างแท้จร ิง 5. มีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง


P a g e | 27 3.1 Empathize วิธีการค้นหา ท าความเข้าใจปัญหา ส่วนที่ 3 กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking)


P a g e | 28 3.2 Define วิธีก าหนดโจทย์ปัญหา และสังเคราะห์ข้อมูล


P a g e | 29 3.3 Ideate วิธีระดมไอเดียการแก้ปัญหา


P a g e | 30 3.4 Prototype โมเดลในการแก้ปัญหา


P a g e | 31 3.5 Test วิธีการน าต้นแบบไปทดสอบ


P a g e | 32


P a g e | 33


P a g e | 34 เอกสารองค์ความรู้การย้อมสีจากใบฉนวน จากการทดสอบต้นแบบนวัตกรรม น าไปสู่การถอดองค์ความรู้จากการลงมือปฏิบัติ และผลทดสอบ การย้อมสีธรรมชาติจากพืช “ใบฉนวน” สามารถสรุปเป็นเอกสารองค์ความรู้ ดังนี้ QR CODE การย้อมสีจากใบฉนวน


P a g e | 35 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ได้ด าเนินการตามรูปแบบวิธีด าเนินงานของโครงการ และด าเนิน กิจกรรมตามกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) แล้วเสร็จตามโครงการเร ียบร้อยแล้ว ผู้บร ิหารโครงการอธิบายดังนี้ 4.1 สิ่งที่ได้เรยีนรูจ้ากการทดสอบต้นแบบนวัตกรรม ผลจากการด าเนินกิจกรรมทดสอบต้นแบบนวัตกรรม สรุปดังนี้ 4.2 ผลที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายและทีมนวัตกร มีการจัดประชุมเพื่อทบทวนการด าเนินงานร่วมกันระหว่างกลุ่มเป้าหมาย และทีมนวัตกร สรุปดังนี้ ส่วนที่ 4 ผลที่เกิดขึ้นหลังการด าเนินโครงการ


P a g e | 36 4.3 แนวทางปรับปรุงต้นแบบนวัตกรรม มีการจัดประชุมเพื่อทบทวนกระบวนการด าเนินงาน และทบทวนผลหลังการปฏิบัติงาน (AAR) โดย ทีมนวัตกร ศพช.อุดรธานี สรุปดังนี้ 4.4 การวางแผนงานที่จะขับเคลื่อนร่วมกันในอนาคต ทีมนวัตกร และสมาชิกเคร ือข่ายวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภูวางแผนด าเนินงานร่วมกันต่อยอด ต้นแบบนวัตกรรม สรุปดังนี้ ผลจากการด าเนินโครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จังหวัดหนองบัวล าภู โดยส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวล าภูได้มีการวิเคราะห์และออกแบบ โมเดลขับเคลื่อนงานส่งเสร ิมการใช้ผ้าไทย และการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมของวิชชาลัยผ้าทอ หนองบัวล าภู ภายใต้ LUMPHU (ลุ่มภู โมเดล) เพื่อเป็นแผนงานสนับสนุน และต่อยอด การขับเคลื่อนเมืองผ้าทอพื้นเมือง ดังภาพ


P a g e | 37 4.5 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สรุปรวบรวมประเด็นข้อเสนอแนะ ค าแนะน าจากทีมวิทยากรประจ าโครงการ ได้ดังนี้ 5.4.1 ขยายผลเทคโนโลยีการพัฒนาสีธรรมชาติ อาจจะย้อนกลับมาที่สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเร ื่องราว story สินค้าที่จับต้องได้ เราจะสร้างสินค้าที่จับต้องได้อย่างไร โดยใช้สีด า สีเทาจากใบฉนวน และจะน าไปสู่ BCG model ได้จร ิง 5.4.2 สิ่งที่จะขับเคลื่อนงานต่อไป คือ ควรเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑท์ ี่ดึงคนรุน่ ใหม่เข้ามาชว่ยดีไซน์ ผลิตภัณฑ์ ท าการตลาดที่เปิดกว้างขึ้น สร้างเร ื่องราวให้กับผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ 5.4.3 โจทย์ที่ยังต้องท าต่อไป คือ จะท าอย่างไรให้กลุ่มทอผ้าลดการน าเข้า ครั่งกับคราม แล้วหันมา ใช้สีธรรมชาติในชุมชน ท าอย่างไรจะช่วยให้ชุมชนลดต้นทุนการผลิต ลดขั้นตอนท างานได้จร ิง 5.4.4 ศึกษาต้นฉนวนคุณสมบัติ มีลักษณะอย่างไร ขึ้นในพื้นที่อย่างไร ตอบโจทย์โลกร้อนได้หร ือไม่ คาร์บอนเครดิตเท่าไร แล้วเราสร้างข้อมูลนี้ได้ อาจจะตอบโจทย์แก้ไขปัญหาได้หลายอย่าง รวมทั้งสามารถเล่า เร ื่องราวได้ 5.4.5 อนาคตอาจจะเป็น ผ้าทอ 5 ใจ เพิ่มค าว่า “ได้ใจ” หร ือ ผ้าทอ 6 ใจ “ได้ใจ + โดนใจ” 5.4.6 สร้างเร ื่องราวstory เล่าที่มาที่ไปของการค้นพบ ฉนวน ท า story ของพืชให้สี จะช่วยยกระดับ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ 5.4.7 แผ่นดินมีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย แต่ทุกวันนี้ยังไม่ถูกน ามาใช้ประโยชน์ หน้าที่ของ พช. คือ ดึงเอาทรัพยากรคนจากหน่วยงานต่าง ๆ มาบูรณาการท าแบบนี้ร่วมกัน อย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งงาน ทา ให้ยั่งยืน โยงใยไปยังชุมชนเข้มแข็ง ได้ทงั้ธรรมชาติวัฒนธรรม สู่การรกัษาภูมิปัญญาทอ้งถิ่น


P a g e | 38 ภาพกิจกรรมการน าเสนอผลการด าเนินงาน การน าเสนอผล และรับฟังความคิดเห็นแนวทางการปรับปรุงแนวคิดจากวิทยากร (Coaching) ผ่าน ระบบประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meeting โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพรวา สาธุธรรม อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนา ชุมชนและผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ และนวัตกรรมสังคมให้ข้อเสนอแนะ และค าแนะน า เพิ่มเติมในการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน


P a g e | 39 5.1 Next Step แนวทางการพัฒนาต่อไป 5.1.1 ทีมนวัตกรของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด หนองบัวล าภู และวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู จัดเวทีชุมชนนักปฏิบัติการใช้ประโยชน์จากพืชให้สีในชุมชนที่ เป็นเป้าหมายโครงการสร้างนวัตกรรมภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อถอดบทเร ียน และ รวบรวมองค์ความรู้ที่ได้จากการลงมือปฏิบัติจร ิงของสมาชิกกลุ่มทอผ้าพื้นเมือง รวมทั้งน าไปจัดท าเป็นคู่มือ การใชป้ระโยชน์จากพืชให้สีในทอ้งถิ่นเมืองหนองบัวล าภูเป็นการส่งเสรมิการใชเ้ศรษฐกิจหมุนเวยีน 5.1.2 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี และวิชชาลัยผ้าทอ หนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ด าเนินการขอจดสิทธิบัตร ในส่วนของกรรมวิธีการย้อมสีจากใบฉนวน โดย สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นผู้แทนในการยื่นขอจดสิทธิบัตร เพื่อรับรอบผล การตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผลการทดสอบการย้อมสีใบฉนวนถือว่าอยู่ในระดับที่ผ่านมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลการทดสอบความคงทนของสีต่อการซักผ่านมาตรฐาน และที่ส าคัญช่วยลดขั้นตอนการ ย้อมที่ไม่ต้องย้อมหลายครั้งได้ สามารถเลือกให้ได้หลายเฉดสีเช่น สีเทา สีด า และสีเขียวขี้ม้า ทั้งนี้อยู่ที่การใช้ สารติดสี เช่น การใส่สารส้ม การใส่จุนสี เกลือแกง รวมทั้งยังสามารถสร้าง Story เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ จากผ้าทอมือได้ด้วย 5.1.3 ก าหนดแผนงานที่จะยกระดับให้เป็นพืชให้สีที่โดดเด่นของจังหวัดหนองบัวล าภู ส่งเสร ิมให้ เกิดการปลูกต้นฉนวนเพิ่มขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑผ์ ้าทอพื้นเมืองจากการใชส้ ีธรรมชาติและสีใบฉนวน เพื่อ สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตหร ือช่างทอผ้าในชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดหนองบัวล าภูต่อไป 5.2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5.2.1 เกิดการบูรณาการการท างานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการ พัฒนานวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5.2.2 การขับเคลื่อนวัตกรรมภาครัฐ เกิดการบูรณาการและประสานความร่วมมือจากภาคีเคร ือข่าย ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยทุกฝ่ายลงพื้นที่เข้าไปศึกษาชุมชน สร้างกระบวนการเร ียนรู้ แลกเปลี่ยน เร ียนรู้ และวางแผนส าหรับการพัฒนาให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ส าหรับการบูรณาการท างานในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 5 ภาคส่วน ประกอบด้วย 1) ภาครัฐ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ส านักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวล าภู 2) ภาควิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี 3) ภาคประชาชน สมาชิกกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองต าบลหนองสวรรค์ และต าบลนาค าไฮ อ าเภอเมืองหนองบัวล าภู จังหวัดหนองบัวล าภู 4) ภาคเอกชน ร้านเทวาผ้าไทย ร้านขวัญตาผ้าไทย 5) ชุมชน ผู้น าชุมชนบ้านนาค าไฮ ต าบลนาค าไฮ อ าเภอเมืองหนองบัวล าภู 5.3 ปัจจัยที่ส่งผลให้โครงการประสบความส าเร็จ 5.3.1 ชุมชนเป้าหมาย 1) วิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภูมีองค์ความรู้ และสามารถถ่ายทอดกระบวนการเร ียนรู้ให้แก่ คนในชุมชนได้อย่างเข้าใจ และสามารถช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับช่างทอในชุมชน 2) มีปราชญ์ที่เชี่ยวชาญด้านการย้อมสีธรรมชาติ ส่วนที่ 5 บทเร ียนที่ได้จากการด าเนินโครงการ


P a g e | 40 3) ความเข้มแข็งของเคร ือข่ายวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้น า ชุมชน สมาชิกกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองในพื้นที่ต าบลหนองสวรรค์ และต าบลนาค าไฮ ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 5.3.2 ทีมนวัตกร 1) มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดได้อย่างเข้าใจ ท าให้สามารถพูดคุย แลกเปลี่ยน สื่อสาร และท าความเข้าใจร่วมกันได้ในทิศทางเดียวกัน 2) การท างานเป็นทีม แบ่งงานและหน้าที่กันอย่างชัดเจน สามารถด าเนินงานได้ทันที 3) ความตั้งใจในการร่วมมือกันของทีมนวัตกรหลัก ทีมนวัตกรเฉพาะกิจ และทีมสนับสนุน 4) การวางแผนการเก็บข้อมูล จัดกลุ่มผู้ให้ข้อมูล คัดเลือกผู้ให้ข้อมูลตามโจทย์นวัตกรรม 5) การประชุมเพื่อพูดคุย รับฟังข้อคิดเห็น และแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน 5.3.3 ภาคีเคร ือข่าย 1) การให้ความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ในการสนับสนุนภาควิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบผลทางวิทยาศาสตร์ การย้อมสีธรรมชาติ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง 2) การประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน ในการเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนปัจจัย การผลิต เพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และ BCG โมเดล 5.4 ปัญหา อุปสรรค ในการด าเนินงานโครงการ 5.4.1 การประสานงานจากส่วนกลางไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะช่วงของการลงพื้นที่ชุมชน เป้าหมาย รายละเอียดของการด าเนินกิจกรรมในพื้นที่ ทีมนวัตกรไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจนว่าต้องท าอะไร โดย ต้องแก้ไขปัญหาในการประสานกับทีมวิทยากรเอง 5.4.2 ส่วนกลางไม่มีการก าหนดรายละเอียด แนวทางในการด าเนินกิจกรรม การเขียนเอกสารให้ ชัดเจน ซึ่งทีมนวัตกรจะต้องปร ึกษา หาร ือกันเอง ซึ่งบางครั้งอาจจะท าไม่ถูกต้องตามกระบวนการ 5.4.3 ขาดงบประมาณในการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรม เนื่องจากทีมนวัตกรสร้างกระบวนการ นวัตกรรมแล้ว ท าให้เกิดความคาดหวังจากชุมชน ที่จะได้รับการสนับสนุนให้ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้น ดังนั้นทีมนวัตกรจึงหาแนวทางแก้ไข โดยได้รับการสนับสนุนจากวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวล าภู เทวาผ้าไทย ใน การส ารวจพื้นที่ ส ารวจพันธุ์ไม้ให้สี และวัสดุอุปกรณ์ในการย้อมสีธรรมชาติ และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สนับสนุนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้บร ิการห้องปฏิบัติการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และสนับสนุน เส้นไหม เส้นฝ้ายที่ใช้ในการทดสอบแลปทางวิทยาศาสตร์ 5.4.4 ทีมวิทยากร ไม่สามารถดูแล ให้ค าปร ึกษาแก่ทีมนวัตกรของแต่ละทีมได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก การฝึกอบรมใช้รูปแบบออนไลน์ ท าให้การสื่อสาร การสร้างปฏิสัมพันธ์กันน้อยมาก บางครั้งต้องใช้เวลา และ หาช่องทางในการติดต่อกับทีมวิทยากรให้ช่วยอธิบายกระบวนการ หร ือข้อสงสัยให้กับทีมนวัตกรได้ 5.4.5 การฝึกอบรมผ่านระบบบออนไลน์ที่มีการด าเนินกิจกรรม 4 กิจกรรม และมีกิจกรรมย่อยอีก จ านวนมาก ซึ่งถือว่ามีรายละเอียดที่มาก จนท าให้ทีมนวัตกรเกิดความสับสน และไม่สามารถท าความเข้าใจ ตามกระบวนการได้อย่างครบถ้วน ชดัเจน จงึต้องใชเ้วลาในการศึกษาเพิ่มเติม 5.4.6 กระบวนการคิดเชิงออกแบบ มีรายละเอียดในการต้องศึกษาชุมชน ค้นหาปัญหาชุมชน และ ความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย จ าเป็นต้องมีการลงพื้นที่ชุมชนหลายครั้ง แต่เนื่องด้วยข้อจ ากัดของ งบประมาณทไี่ม่เพียงพอ ทา ให้ชว่งเวลาของการลงพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยเกินไป ส่งผลต่อกระบวนการเรม่ิแรก ที่เป็นสารตั้งต้นในการวิเคราะห์ และออกแบบแนวคิดนวัตกรรม 5.4.7 ระยะเวลาของการด าเนินโครงการไม่มีความต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสที่ 3 ไม่มีกิจกรรมที่ เกี่ยวข้องกับโครงการ ท าให้เกิดช่องว่างของการด าเนินงาน และขับเคลื่อนกิจกรรมในระดับพื้นที่


P a g e | 41 5.5 ข้อเสนอแนะในการด าเนินงานโครงการ 5.5.1 ข้อเสนอแนะต่อกิจกรรมตามโครงการ 1) ส าหรับปีงบประมาณต่อไป ควรปรับรูปแบบการฝึกอบรมให้น้อยลง เน้นไปที่กระบวนการ ในระดับพื้นที่ เพื่อประหยัดงบประมาณในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิทยากร ท าให้มีงบประมาณไป สนับสนุนในส่วนของการทดสอบต้นแบบนวัตกรรมในระดับพื้นทเี่พิ่มมากขึ้น 2) เป็นโครงการที่ดีส าหรับการสร้างกระบวนการพัฒนาชุมชน ที่มาจากการรับฟังปัญหา และความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จร ิง ซึ่งกระบวนการการคิดเชิงออกแบบ เหมาะส าหรับน ามาใช้ใน การขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน 5.5.2 ข้อเสนอต่อทีมวิทยากร 1) ทีมวิทยากรมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จร ิงในการสร้างนวัตกรรมภาครัฐ 2) ทีมวิทยากรมีความทันสมัย สามารถประยุกต์ใช้สื่อดิจิทัล สื่อในการระดมสมองได้ และ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในยุค New normal 3) ทีมวิทยากรสามารถให้ค าปร ึกษาแก่ทีมนวัตกรได้อย่างชัดเจน 5.5.3 ข้อเสนอแนะต่อการบร ิหารโครงการ 1) ข้อจ ากัดระยะเวลาในการขับเคลื่อนโครงการ ที่ต้องด าเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ท าให้กระบวนการพัฒนาต้นแบบนวัตกรรม ไม่สามารถเลือกแนวคิดนวัตกรรมที่ใช้ ระยะเวลามากได้ ดังนั้นจะเลือกได้เฉพาะแนวคิดนวัตกรรมที่สามารถด าเนินการได้ในระยะเวลาสั้นเท่านั้น 2) ผู้จัดโครงการควรท าแผนการด าเนินกิจกรรมในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน และแจ้งให้ ทีมนวัตกรทราบรายละเอียดของขั้นตอนการด าเนินงาน เพื่อให้ทีมนวัตกรสามารถบร ิหารจัดการเวลาและ ภาระงานอื่นได้เนื่องจากที่ผ่านมาทีมนวัตกรจะต้องประสานผู้เชี่ยวชาญในทีม พร้อมทั้งประสานพื้นที่จังหวัด อ าเภอ และกลุ่มเป้าหมาย ท าให้แต่ละคนไม่สามารถจัดตารางและเข้าร่วมกิจกรรมได้ครบตามที่ก าหนดไว้ 3) เป็นโครงการที่ดี ส าหรับการเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนได้ เพราะ กระบวนการมีความเหมือนกับกระบวนการพัฒนาชุมชน และการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน QR CODE คลิปสรุปผลด าเนินงาน Gov Lab ปี 2566 ศพช.อุดรธานี


P a g e | 42 Empathize วิธีการค้นหา ท าความเข้าใจปัญหา Define วิธีก าหนดโจทย์ปัญหา และสังเคราะห์ข้อมูล ภาพประกอบการด าเนินกิจกรรม


P a g e | 43 Ideate วิธีระดมไอเดียการแก้ปัญหา Prototype โมเดลในการแก้ปัญหา Test วิธีการน าต้นแบบไปทดสอบ


Click to View FlipBook Version