พลังจิตใต้สำนึก
จากผู้แปล
เป็นความจริงที่ยอมรับกันทั่วไปว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วน
สำเร็จเสร็จสิ้นได้ด้วยใจ ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องสิ่ง
ประดิษฐ์ต่างๆรวมถึงผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เอื้อ
ประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งหลาย ก็ถือกำเริดเกิดขึ้นในจิตใจ-
จินตนาการของมนุษย์ในเบื้องต้นของสิ้น
“พลังจิตใต้สำนึก” เป็นหนังสือที่ดร.โจเซฟ เมอร์ฟี่
ตั้งใจให้ท่านผู้อ่านได้เกิดภาพจินตนาการสร้างสรรค์ นำเสนอ
สิ่งดีงามให้กับชีวิต พร้อมกันนั้น ก็เสนอแนะวิธีการป้ องกัน
แนวคิดทางลบที่บ่อนทำลายมิให้ปรากฎขึ้น หรือถ้ามันหลุด
รอดเข้ามาได้ก็แนะนำวิธีขจัดให้มลายไป
ผู้แปลเองก็ได้รับประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้อย่าง
มากมายมหาศาลเช่นเดียวกับผู้คนนับล้านทั่วโลก โดย
เฉพาะภาษาอังกฤษมียอดพิมพ์หลายล้านเล่ม ไม่รวมที่นำไป
แปลเป็นภาษาอื่นอีกนับไม่ถ้วน จึงเป็นหนังสือที่ไม่ต้อง
โฆษณา เพราะจากปากต่อปากที่บอกเล่าถึงประโยชน์ที่ได้รับ
ทำให้หนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า
จึงหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์สูงสุดโดย
การนำเทคนิคง่ายๆแต่ได้ผลใน”พลังจิตใต้สำนึก”เล่มนี้ไปใช้
ในทุกๆขอบเขตแห่งชีวิต
ด้วยความเคารพ
“ทศยุทธ
พลังจิตใต้สำนึกมีหลากหลายหัวข้อวันนี้ขอเลือก
หัวข้อ”ความร่ำรวยน่ะดีอยู่แล้วนำเสนอ
ด้วยความเคารพ
”สุกัญญา”
สารบัญ
ความร่ำรวยน่ะดีอยู่แล้ว 1
เงินตราคือสัญลักษณ์ชนิดหนึ่ ง 2
วิธีย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความร่ำรวย 3
ทำไมการเงินจึงไม่กระเตื้องขึ้น 4
เงินทองและความสมดุลของชีวิต 5
ความยากไร้คือโชคร้ายของจิตใจ 6
ทำไมคุณต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์”เงินตรา” 7
ปรับท่าทีต่อเงินทองให้สอดคล้องเหมาะสม 8
ทัศนคติต่อเงินทอง 9
วิธีดึงดูดเงินตรา 10
ทำไมบางคนจึงไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือน 11
อุปสรรคขวางกั้นบนเส้นทางแห่งความร่ำรวย 12
ปกป้ องการลงทุน 13
คุณไม่สามารถครอบครองบางสิ่งที่ไร้ค่า 14
แหล่งสนับสนุนการเงินที่มั่นคง 15
สรุปท้ายบท 16
ความร่ำรวยน่ะดีอยู่แล้ว
เรามีสิทธิ์อันชอบธรรมของการดำรงค์ชีวิตที่มั่งคั่ง
รุ่งเรือง มีความสุขและอิสรภาพ ดังนั้นจะต้องทำให้
เงินทองทั้งมวลที่เราต้องการตอบสนองความ
สมบูรณ์พูนสุขและชีวิตที่เฟื่ องฟู
เราเกิดมาบนโลกใบนี้เพื่อความเจริญก้าวหน้ าและ
ตีแผ่ร่างกายจิตวิญญาณ เรามีความชอบธรรมในการ
พัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้ า เราจะต้องแวดล้อมตัวเอง
ไว้ด้วยความสุดงดงามและความรู้หรา
“ทำไมจึงพึงใจเพียงแค่การเงินเพียงพอกับการจับ
จ่ายใช้สอยในเมื่อคุณสามารถสนุกกับความร่ำรวย
ของจิตใต้สำนึกตัวเองได้อยู่แล้ว”
เราจะได้เรียนรู้วิธีใกล้ชิดสนิทสนมกับเงินและจะมี
ประโยชน์เพียงพอกับการใช้จ่ายและยังเหลือเก็บ
เป็นทุนอีกด้วย ความต้องการที่จะร่ำรวยของเราก็
คือความต้องการต่อความสุขที่มากกว่าและชีวิตที่น่า
อภิรมย์ ซึ่งมันเป็นแรงกระตุ้นที่มีพลังมหาศาล ไม่
เพียงผลักดันไปสู่สิ่งที่ดีแบบธรรมดาแต่เป็ นสิ่งที่ดี
มากที่สุด
1
“เงินตราคือสัญลักษณ์ชนิดหนึ่ ง”
เงินตาคือสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยน มัน
ไม่เพียงมีความหมายแค่อิสรภาพจากความต้องการ
แต่ยังหมายถึงความมั่งคั่งความสวยงามความ
ประณีต มันเป็นเพียงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงให้
เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจที่สมบูรณ์ เมื่อเลือดสูบฉีด
อยู่ภายในร่างกายเราก็จะมีสุขภาพดีเช่นเดียวกับ
กระแสการเงินหมุนเวียนอย่างคล่องตัวเราก็จะเป็ น
ผู้มีเศรษฐกิจดีผู้คนเริ่มสะสมเงินทองเขาใส่มันลงใน
กล่องใบเล็กๆและเกิดความหวาดกลัวว่าจะสูญหาย
ซึ่งเป็ นโรคเศรษฐกิจชนิดหนึ่ ง
ในฐานะที่เงินเป็ นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ งนั้นเงินมี
ลักษณะการหลายรูปแบบตลอดหลายทศวรรษที่ผ่าน
มาเกือบทุกสิ่งที่เราคิดได้ล้วนถูกนำมาใช้เป็ นเงินใน
บางยุคบางสมัยและในประวัติศาสตร์มาแล้วทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็ นไม่ว่าจะเป็ นทองคำเงินเกลือลูกปั ด
เครื่องประดับเล็กๆน้ อยๆหลากหลายรูปแบบในยุค
ต้นๆเศรษฐีเข้าวัดกันด้วยจำนวนของแกะหรือวัวที่มี
แต่ปั จจุบันเราใช้เงินและเครื่ องมือในการซื้ อขา
ยอื่ นๆเพราะการเขียนเช็คนับว่าเป็ นวิธีการจ่ายเงินที่
สะดวกกว่าการจูงแกะตามมาเป็ นขบวนเพื่ อซื้ อหา
ข้าวของ
2
“วิธีย่างก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความร่ำรวย”
ขณะที่เราเข้าใจเกี่ยวกับพลังแห่งจิตใต้สำนึกเท่ากับ
เรามีแผนที่ทางหลวงที่เข้าสู่ความร่ำรวยทางด้าน
การเงินและจิตวิญญาณวิญญาณผู้ที่ประสบปั ญหาแต่
เรียนรู้กฎแห่งจิตใจจะเชื่อมั่นและตระหนักอย่าง
แน่วแน่ โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
ความผันผวนของตลาดหุ้นการนัดหยุดงานหรือ
แม้แต่สภาวะสงคราม อย่างไรเราจะได้รับการ
สนับสนุนเสมอ
เหตุผลที่เป็ นเช่นนี้เพราะเรารวบรวมความคิดแห่ง
ความมั่งคั่งและลำเลียงมันเข้าสู่ ซึ่งจะคอยตอบ
สนองสิ่งที่เราต้องการและเชื่อมั่นอยู่ภายในว่าเงิน
ทองนั้นหมุนเวียนไหลหลั่งในชีวิตของเราอย่างไม่
หยุดยั้งทำให้เราสามารถเก็บเกี่ยวกำไรได้อย่างน่า
อัศจรรย์ไม่ว่าสถานการณ์ด้านการเงินของรัฐบาลจะ
ล้มละลายลงในวันพรุ่งนี้ทำให้ค่าเงินตกต่ำถึงขีดสุด
เราก็จะยังคงดึงดูดความร่ำรวยมาไว้ใกล้ตัวไม่ว่า
สถานการณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม
3
“ทำไมการเงินจึงไม่กระตื้องขึ้น”
ขณะที่อ่านมาถึงบทนี้เราอาจจะกล่าวว่าฉันมีคุณค่า
มากกว่าอัตราเงินเดือนที่ได้รับ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้คน
ส่วนใหญ่ล้วนคิดว่าตัวเองไม่ได้รับค่าตอบแทนเพียง
พอ ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่ได้รับ
เงินเดือนมากขึ้นเป็ นเพราะพวกเขาตำหนิติเตียน
เงิน ทั้งเปิดเผยและลับหลังพวกเขาพาดพิงถึงเงินใน
ฐานะ"เงินสกปรก" หรือกล่าวถึงเงินตราว่าคือราก
เหง้าแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง
ส่วนเหตุผลอื่นที่ทำให้ไม่รุ่งเรืองก็เพราะพวก
เขาใส่ความรู้สึกส่อเสียดลงไปในจิตใต้สำนึกอันเป็ น
คุณสมบัติของความยากไร้ซึ่งรูปแบบแห่ง
จิตใต้สำนึกนี้อาจถูกฝึ กฝนมาแต่เยาว์วัยหรืออาจมี
พื้นฐานมาจากการแปลความหมายจากการอ่าน
หนังสือในที่ต่างๆผิดเพี้ยนไป
4
“เงินทองและความสมดุลของชีวิต”
ถ้าเราตั้งอกตั้งใจอยู่กับเงินเพียงอย่างเดียว
และพูดว่าฉันต้องการเงินและมองหาทุกวิถีทางเพื่อ
ให้ได้มันมา เราก็สามารถมีเงินทองและบรรลุถึงโชค
ลาภแต่อย่าลืมไปว่าการเกิดมาบนโลกใบนี้ เราต้อง
ทำชีวิตให้เกิดความสมดุลต้องนึกถึงความสงบทาง
จิตใจปรองดองความรักร่าเริงและการมีสุขภาพดี
การตั้งจุดมุ่งหมายไว้ที่การหาเงินอย่างเดียว
เราอาจเดินทางผิดได้อย่างง่ายดายแม้เราจะคิดว่าสิ่ง
นั้นเป็นสุดยอดปรารถนา แต่จะได้พบหลังจากความ
พยายาม เงินไม่ใช่สิ่งเดียวที่ชีวิตต้องการ มนุษย์ยัง
ต้องการความสามารถพิเศษที่ซ่อนเร้นเอาไว้และ
ต้องการสถานที่เหมาะสมสำหรับชีวิตต้องการความ
สวยสดงดงามยินดีในการสนับสนุนให้เกิดความสุข
กับผู้อื่น
การเรียนรู้กฎแห่งจิตใต้สำนึกเราจะเป็ นเศรษฐีเงิน
ล้านถ้าต้องการเราจะต้องมีความสุขในจิตใจ
สมานฉันท์สุขภาพดีและมีการแสดงออกที่เหมาะสม
5
“ความยากไร้คือโรคร้ายของจิตใจ”
ความยากจนมันไม่มีคุณงามความดีใดๆแอบแฝงอยู่
มันเป็ นโรคร้ายชนิดหนึ่ งคล้ายกับโรคทางจิตใจทั้ง
หลาย ถ้าเราเจ็บไข้ได้ป่วยทางร่างกายเราจะคิดว่า
นั่นคือความผิดปกติอย่างหนึ่ งที่เกิดขึ้ นกับร่างกาย
พร้อมกับหาวิธีเพื่อบำบัดรักษาให้ให้หายไปในทันที
เช่นเดียวกันถ้าไม่มีเงินทองหมุนเวียนอย่างคล่อง
ตัวในชีวิตเรานั่นแสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่าง
รุนแรงเกิดขึ้นแล้วในจิตใจ
กฎเกณฑ์แห่งชีวิตในตัวเราได้กระตุ้นให้เรา
เจริญเติบโตเกอดมาเพื่อมีชีวิตที่มั่งคั่งพรั่งพร้อมยิ่ง
ขึ้นเราไม่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้เพื่ออยู่อาศัยในบ้านที่
ปรักหัก และแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นและเต็ม
ไปด้วยความหิวโหยกระหาย แต่เราจะต้องมีความ
สุขรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จ
6
“ทำไมคุณต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์เงินตรา”
จงขจัดความเชื่อเกี่ยวกับโชคลางอันมหัศจรรย์
ทางด้านการเงินออกไปจากจิตใจให้หมดสิ้นและอย่า
วาดภาพเงินตราในฐานะสิ่งสกปรกหรือชั่วร้ายเป็ น
อันขาดเพราะถ้าคุณคิดเช่นนั้นเท่ากับติดปี กให้เงิน
ตราโบยบินหายรับไปจากคุณโปรดจำไว้ว่าคุณจะสูญ
เสียในสิ่งที่คุณตำหนิคุณไม่สามารถดึงดูดสิ่งที่ตัวเอง
วิพากษ์วิจารณ์
7
“ปรับท่าทีต่อเงินทองให้สอดคล้องเหมาะสม”
นี่คือเทคนิคง่ายๆที่เราอาจนำไปใช้ในการเพิ่มพูนเงิน
ทองให้ตัวเองจงพูดประโยคต่อไปนี้วันละหลายๆครั้ง
"ฉันชอบเงิน ฉันรักและใช้มันอย่างฉลาด เป็น
ไปในทางสร้างสรรค์ สุขุมรอบคอบ เงินทอง
หมุนเวียนอยู่ในวงจรชีวิตของฉันอย่างไม่ขาดสาย
ฉันปลดปล่อยมันออกไปด้วยความยินดี แล้วมัน
ย้อนกลับมาเป็ นทวีคูณในวิถีทางอันน่ามหัศจรรย์
มันเป็นสิ่งที่ดีและดีอย่างมากๆ เงินทองผาถมเข้ามา
หาฉันอย่างมากมายมหาศาล ฉันใช้มันไปในสิ่งที่ถูก
ต้องดีงามเท่านั้น และยินดีต่อความดีงามและร่ำรวย
แห่งจิตใจของตัวเองเป็ นอย่างยิ่ง”
8
“ทัศนคติต่อเงินทอง”
สมมุติว่าเราพบสายแร่ในปริมาณมหาศาลของ ทองคำ เงิน
ตะกั่ว ทองแดง หรือเหล็กใต้พื้นดิน เราจะต้องสรรพนามให้มัน
ว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายหรือไม่? ความชั่วร้ายนั้นมาจากอวิชชาหรือ
ความไม่รู้จริงของมนุษย์ เป็นเหตุให้ตีความหมายของชีวิตผิด
พลาดและนำจิตใต้สำนึกไปใช้ผิดทาง
นับเนื่องจากการที่เงินเป็นเพียงสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง เราจึง
สามารถใช้ตะกั่วดีบุกหรือโลหะชนิดอื่ นๆเป็ นสื่ อกลางของการ
แลกเปลี่ยนอย่างเช่นตอนต้นศตวรรษที่ 20 เหรียญ 10 เซ็นต์
และ 25 เซอยต์ของสหรัฐอเมริกาทำด้วยเงินอันมีค่าต่อมา
รัฐบาลก็เริ่มผลิตเหรียญมูลค่าดังกล่าวด้วยโลหะที่มีราคาสูง
กว่าแต่ราคาค่างวดยังคงเป็น 10เซ็นต์ และ 25เซ็นต์ตามเดิม
แม้ว่าโลหะที่นำมาผลิตจะมีค่าน้ อยกว่าก็ตาม
นักพิสิษฐ์คนหนึ่ งกล่าวให้เราทราบว่าข้อแตกต่างเพียง
ประการเดียวระหว่างโลหะ 2 ชนิดก็คือจำนวนและอนุภาคที่
เป็ นองค์ประกอบในอะตอมของมันถ้าเราสามารถระเบิด
อนุภาคที่ถูกปิ ดกั้นอยู่ในโลหะชนิดหนึ่ งออกมาได้ก็สามารถ
แปลงเปลี่ยนมันให้เป็ นอย่างอื่ นได้ซึ่งความฝั นของนักเคมีสมัย
โบราณที่จะทำโลหะที่ไม่มีค่าให้กลายเป็ นทองคำปั จจุบันอยู่
ใกล้แค่เอื้อม
ดังนั้นทำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วทองคำมิได้ดีงามหรือเลว
ร้ายกว่าตะกวดแต่อย่างใดพวกมันเพียงแต่มีคุณสมบัติแห่ง
องค์ประกอบพื้นฐานที่แตกต่างกันเท่านั้น ด้วยประวัติศาสตร์
อันยาวนานที่มนุษย์เรายกย่องให้ความสำคัญว่าทองคำเป็ นสิ่ง
มีค่าผู้คนจึงรักมันมากกว่าตะกั่ว
9
“วิธีดึงดูดเงินตรา”
หลายปี มาแล้วผู้เขียนพบกับชายหนุ่มคนหนึ่ งในประเทศ
ออสเตรเลียเขาฝี นอยากเป็ นนายแพทย์เขาทำคะแนนในวิชา
วิทยาศาสตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ไม่มีเงินพอสำหรับโรงเรียน
แพทย์และพ่อแม่ก็เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ ดังนั้นเพื่อความอยู่
รอดเขาจึงรับจ้างทำความสะอาดห้องทำงานของแพทย์ที่ตึก
โรงพยาบาลท้องถิ่น ผู้เขียนอธิบายให้เขาฟังถึงวิธีที่เมล็ดพืช
อย่างรากลงไปในดินและดึงดูดอาหารเสริมมาสร้างลำต้น
ทั้งหมดที่เขาต้องปฏิบัติก็คือเรียนรู้การงอกงามเจริญเติบโต
ของเมล็ดพืช และปลูกฝังความปรารถนาลงไปในจิตใต้สำนึก
ทุกๆคืนก่อนนอนชายหนุ่มคนนี้จินตนาการภาพ
ประกาศนียบัตรทางการแพทย์ที่มีชื่ อของเขาเป็ นอักษรขนาด
ใหญ่ติดอยู่ และพบว่าเป็นการง่ายที่จะจินตนาการรายละเอียด
ของประกาศนียบัตรได้อย่างชัดเจนเพราะหน้ าที่อย่างหนึ่งของ
เขาก็คือปั ดฝุ่นทำความสะอาดกรอบรูปกาสะนีที่ติดอยู่บนผนัง
ของสำนักงานแพทย์อยู่แล้วซึ่งเขาก็ศึกษาพิจารณาพร้อมกับ
ทำความสะอาดไปในเวลาเดียวกัน เขามุ่งมั่นอยู่กับเทคนิคการ
สร้างภาพฝันทุกๆวัน ประมาณ 4 เดือนก็มีแค่คนหนึ่งที่เขา
ทำความสะอาดห้องทำงานเสนอว่าเขาต้องการเป็ นผู้ช่วย
แพทย์หรือไม่ จากนั้นนายแพทย์ก็จ่ายเงินส่งเขาไปฝึกอบรม
ความรู้พื้นฐานทางการแพทย์อย่างกว้างขวางและมอบงานให้
ได้ทำในตำแหน่งผู้ช่วยเขาประทับใจในความคล่องแคล่วสละ
เฉลี่ยของชายหนุ่มเป็ นอย่างมากจึงตั้งใจจะส่งให้เรียนแพทย์
ในลำดับต่อไปปั จจุบันชายหนุ่มผู้นี้คือนายแพทย์ผู้มีชื่ อเสียงใน
มอนทรีออล แคนาดา
เขาประสบความสำเร็จพอได้เรียนรู้กฎแห่งการดึงดูดเขาค้นพบ
วิธีใช้จิตใต้สำนึกไปในทิศทางที่ถูกต้อง การใช้กฎที่กล่าวว่าจง
มองให้เห็นบทสรุปอย่างเด่นชัดแล้วบทสรุปนั้นจะปรากฏ ใน
ที่สุดด้วยจินตนาการนี้เองที่ลำเลียงความคิดแทรกซึมไปในชั้น
ต่างๆของจิตใต้สำนึกจนกลายเป็ นความเชื่ อมั่นอย่างหนึ่ งที่
ดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาสานฝั นให้เป็ นจริง
10
“ทำไมบางคนจึงไม่ได้รับการคืนเงินเดือน”
ถ้าคุณกำลังทำงานอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่ และเชื่อ
ว่าตัวเองได้ค่าตอบแทนน้ อยเกินไป พร้อมกันนั้นก็
ขุ่นเคืองต่อความจริงที่ว่า คุณไม่เป็นที่ชื่นชอบของ
นายจ้าง และคิดอยู่เสมอว่าคุณควรได้เงินและการ
ยอมรับนับถือมากกว่านี้
ด้วยการกำหนดจิตใจที่เป็ นปรปั กษ์กับนายจ้าง
นี่เองที่ก่อเกิดแรงขับเคลื่อนทางทำลายจนในที่สุด
วันหนึ่ง หัวหน้ าก็มาบอกกับคุณว่า "เราจำเป็นต้อง
ให้คุณออก" ซึ่งจริงๆแล้วคุณนั่นแหละที่ไล่ตัวเอง
ออกจากงาน ส่วนหัวหน้ าของคนนั้นตั๋วบทบาทใน
ฐานะเพียงเครื่องตอกย้ำสภาวะจิตใจทางทำลายของ
คนเท่านั้น นี่คือตัวอย่างของกฎแห่งการกระทำและ
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับ การกระทำคือความคิดส่วน
ปฏิกิริยาสะท้อนกลับคือการตอบสนองของ
จิตใต้สำนึก
11
“อุปสรรคขวางกั้นบนเส้นทางแห่งความร่ำรวย”
เราอาจจะเคยได้ยินใครบางคนพูดในทำนองที่
ว่า"ใครก็ตามที่หาเงินได้มากๆมักจะได้มาอย่างไม่
สุจริต"
บุคคลที่พูดจะคิดเช่นนี้มักทุกข์ทรมานกับ
ปัญหาทางการเงิน ขมขื่นที่เพื่อนเก่าได้ดิบได้ดีและ
ประสบความสำเร็จเด่นล้ำกว่าถ้าเป็ นเช่นนั้นก็
เท่ากับบุคคลผู้นี้กำลังสร้างความยากลำบากให้กับ
ตนเอง ด้วยความคิดในทางทำลายเกี่ยวกับเพื่อนๆ
และกล่าวโทษความร่ำรวยของพวกเขาซึ่งทำให้
ความมั่งคั่งร่ำรวยของตนเองโดยบินหายไป เราจะ
อยู่ร่วมกับใครบางคนที่ตำหนิติเตียนกล่าวโทษเรา
หรือไม่? คำตอบก็เป็นที่รู้กันว่าไม่อย่างแน่นอน
ความมั่งคั่งร่ำรวยก็เช่นเดียวกัน คนพวกนี้กำลัง
ตำหนิติเตียนสิ่งที่เขาอ้อนวอนขอให้ได้มา
เขากำลังขอ 2 ทิศทาง 1 นั้นอ้อนวอนว่าความ
ร่ำรวยจงหลั่งไหลมาหาฉันในบัดดล และในอึดใจต่อ
มาไม่ว่าจะเป็ นความคิดหรือคำพูดที่เก่าออกมาว่า
ฉันไม่พอใจต่อความร่ำรวยของคนผู้นั้น เป็นสิ่งที่
ขัดแย้งกันอย่างยิ่ง
ฉะนั้นจงทำใจให้ยินดีในความร่ำรวยของผู้อื่น
ในทุกวิถีทาง
12
“ปกป้ องกันลงทุน”
ถ้าเรากำลังแสวงหาการลงทุนที่ชาญฉลาด
หรือเรากำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาวะหุ้นหรือ
พันธบัตรล่ะก็ จงทำจิตใจให้สงบแล้วท่องข้อความ
ต่อไปนี้ “ความเฉลียวฉลาดอันไร้ขอบเขตจง
ควบคุมดูแลสภาวะการเงินทั้งหลายและสิ่งที่
กระทำลงไปขอให้บังเกิดประโยชน์โภชน์ผล
ตอบแทน”
เมื่อกล่าวข้อความดังกล่าวนี้ซ้ำแล้วซ้ำอี
กบ่อยๆก็จะพบว่าการลงทุนของคุณนั้นเป็ นไปยัง
สุขุมรอบคอบยิ่งไปกว่านั้นจะพบอีกว่ามันปกป้ อง
ไว้จากการขาดทุนคุณพร้อมที่จะขายหุ้นออกไป
ก่อนการขาดทุนจะขยายตัวขึ้น
13
“คุณไม่สามารถครอบครองบางสิ่งที่ไร้ค่า”
ในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมีการว่าจ้างหน่วยงาน
รักษาความปลอดภัยไว้คอยสอดส่องและป้ องกันคน
ขโมยของในแต่ละวันพวกเขาสามารถจับกุมผู้คน
จำนวนหนึ่งที่พยายามขโมยบางสิ่งที่ไม่มีราคา ใคร
ก็ตามที่ทำเช่นนี้ล้วนมีสภาวะจิตใจของข้อจำกัดที่
ขาดแคลนเกินพอดี เพราะความพยายามขโมยบาง
สิ่งของผู้อื่นเท่ากับพวกเขากำลังโจรกรรมความสงบ
เย็น ความศรัทธา ความปรารถนาดี และความเชื่อ
มั่นของตนเอง
ไม่เพียงเท่านั้น.....ข้อมูลที่หยิบยื่นต่อ
จิตใต้สำนึกของพวกเขาจะดึงดูดความขาดแคลนสูญ
เสียทั้งหลายมาสู่ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง
เกียรติยศสถานะทางสังคมความสยบความสงบเย็น
ของจิตใจบุคคลเหล่านี้ไม่เข้าใจวิธีการทำงานของ
จิตใจ พวกเขาขาดแคลนศรัทธาเกื้อหนุนเพราะถ้า
เพียงพวกเขาปลุกพลังจิตใต้สำนึกให้ตื่นขึ้นมาและ
เรียกร้องให้ชีวิตแนะนำไปในทิศทางที่ถูกต้องพวก
เขาก็จะได้งานและความมั่งคั่งร่ำรวยจากนั้นความ
ซื่อตรงและมานะพยายามจะทำให้ตัวเองยืนหยัดอยู่
ในสังคมอย่างมีเกียรติและสง่าผ่าเผย
14
“คุณไม่สามารถครอบครองบางสิ่งที่ไร้ค่า”
ในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมีการว่าจ้างหน่วยงาน
รักษาความปลอดภัยไว้คอยสอดส่องและป้ องกันคน
ขโมยของในแต่ละวันพวกเขาสามารถจับกุมผู้คน
จำนวนหนึ่งที่พยายามขโมยบางสิ่งที่ไม่มีราคา ใคร
ก็ตามที่ทำเช่นนี้ล้วนมีสภาวะจิตใจของข้อจำกัดที่
ขาดแคลนเกินพอดี เพราะความพยายามขโมยบาง
สิ่งของผู้อื่นเท่ากับพวกเขากำลังโจรกรรมความสงบ
เย็น ความศรัทธา ความปรารถนาดี และความเชื่อ
มั่นของตนเอง
ไม่เพียงเท่านั้น.....ข้อมูลที่หยิบยื่นต่อ
จิตใต้สำนึกของพวกเขาจะดึงดูดความขาดแคลนสูญ
เสียทั้งหลายมาสู่ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง
เกียรติยศสถานะทางสังคมความสยบความสงบเย็น
ของจิตใจบุคคลเหล่านี้ไม่เข้าใจวิธีการทำงานของ
จิตใจ พวกเขาขาดแคลนศรัทธาเกื้อหนุนเพราะถ้า
เพียงพวกเขาปลุกพลังจิตใต้สำนึกให้ตื่นขึ้นมาและ
เรียกร้องให้ชีวิตแนะนำไปในทิศทางที่ถูกต้องพวก
เขาก็จะได้งานและความมั่งคั่งร่ำรวยจากนั้นความ
ซื่อตรงและมานะพยายามจะทำให้ตัวเองยืนหยัดอยู่
ในสังคมอย่างมีเกียรติและสง่าผ่าเผย
14
“สรุป”
1.จงกล้าหาญให้เพียงพอต่อการอ้างว่ามันเป็ นความถูกต้องชอบธรรมในการใฝ่
หาความร่ำรวยและจิตใจส่วนลึกจะซึมซับประทับเอาไว้
2.เรามิได้ต้องการเพียงแค่เงินทองพอจับจ่ายใช้สอยเท่านั้นแต่เราต้องการคือการมี
เงินทองเพื่อทำทุกสิ่งที่ต้องการและเมื่อเราต้องการเงินจำนวนนั้นจงทำความคุ้นเคย
กับความร่ำรวยของจิตใต้สำนึกเสียก่อน
3.เมื่อเงินหมุนเวียนอย่างอิสระอยู่ในชีวิตของเราสถานะทางการเงินของเราก็มั่นคงจง
มองเงินตาให้เหมือนกับการขึ้นลงของน้ำและพยายามตักตวงไว้ให้เต็มเปี่ ยมเสมอ
เพราะว่าการลดลงและการหลั่งไหลของสายน้ำเป็ นไปอย่างนิรันดร์ฉะนั้นเมื่ อน้ำแห้ง
เหือดคุณก็แน่ใจได้ว่ามันจะกลับมาในไม่ช้า
4.ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกจะทำให้เราได้รับการหนุนเนื่ องทางการเงินอยู่
เสมอโดยไม่คำนึงว่าสถานการณ์การเงินจะเป็ นเช่นไร
5.เหตุผลที่ทำให้ผู้คนส่วนมากชักหน้ าไม่ถึงหลังและไม่เคยมีเงินพอเพียงเพราะพวก
เขาตำหนิติเตียนเงินจำไว้ว่าสิ่งที่เราตำหนิติเตียนจะติดปี กโบยบินจากไป
6.จงอย่าบูชาเงินเป็ นพระเจ้ามันเป็ นเพียงสัญลักษณ์อย่างหนึ่ งจำไว้ว่าความร่ำรวย
ที่แท้จริงนั้นอยู่ภายในจิตใจของคุณเองคุณเกิดมาเพื่อชักนำชีวิตไปสู่ความสมดุลทั้งนี้
รวมทั้งการได้มาซึ่งเงินทองทั้งหลายที่คุณปรารถนาด้วย
7.อย่าตั้งเป้ าหมายที่การเงินเพียงอย่างเดียวจงเรียกร้องความร่ำรวยความสุขความ
สันติการแสดงออกที่ถูกต้องรวมทั้งความรักทั้งส่วนรวมและส่วนตัว
8.คุณไม่ได้เกิดมาเพื่ ออยู่อาศัยในกระท่อมสับปะรังเคปกปิ ดร่างกายด้วยเสื้ อผ้า
ซอมซ่อหรืออยู่ในสภาพหิวโหยแต่คุณเกิดมาเพื่อนำชีวิตไปสู่ความมั่งมีศรีสุข
9.อย่าใช้ประโยคที่ว่าเงินสกปรกหรือฉันชังเงินเพราะคุณจะสูญเสียสิ่งที่คุณตำหนิติ
เตียนไม่มีสิ่งใดดีหรือเลวจงคิดถึงสรรพสิ่งให้เป็ นกลางๆ
10.จงกล่าวย้ำซ้ำทวนว่าฉันชอบเงินฉันใช้มันอย่างชาญฉลาดเป็ นไปในทางสร้างสรรค์
และเหมาะสมฉันจับจ่ายมันไปด้วยความยินดีและย้อนกลับมาหาเป็ นร้อยเท่าพันทวี
11.เงินตราไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายอะไรมากไปกว่าทองแดงตะกั่วสังกะสีหรือเหล็กซึ่งคุณอาจ
พบว่าความชั่วร้ายทั้งมวลเกิดจากอวิชชาความไม่รู้สภาวะความเป็ นจริงและเกิดจาก
การนำพลังแห่งจิตใจไปใช้ในทางที่ผิด
12.การสร้างภาพผลสรุปสุดท้ายขึ้นในจิตใจทำให้จิตใต้สำนึกสนองตอบและแต่งเติม
ภาพในจิตใจให้กลายเป็ นจริง
16
จัดทำโดย
นางสาว สุกัญญา เทียรวรรณ์
รหัสนักศึกษา 63708073
คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษสิ่อสาร
ธุรกิจ
พลังจิตใต้สำนึ ก