The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by vitthaya1984, 2022-10-25 23:02:39

กำหนดการสอนศิลปะ_ป.2_00

00

บนั ทึกขอ้ ความ

ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านนาคำมลู ชมภูพร สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 .

ที่ ศธ 04170.061/ วันท่ี 16 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ.2565 .

เร่อื ง สง่ กำหนดการสอน และแผนการจัดการเรียนรู้ ประจำปกี ารศกึ ษา 2565 .

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นนาคำมูลชมภูพร

ตามท่ีผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาคำมูลชมภพู ร ได้กำหนดใหค้ รสู ง่ แผนการจดั การเรียนรู้ ในวิชาที่
ตนเองรบั ผดิ ชอบในการดำเนินกจิ กรรมการเรียนการสอน โดยกำหนดให้ส่งก่อนเปดิ ภาคเรยี น 1/2565 ดงั นี้

 กำหนดการสอน รายวิชา ท12101 ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2
 กำหนดการสอน รายวิชา ค12101 วิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2
 กำหนดการสอน รายวิชา ว12101 วิชาวิทยาศาสตร์ฯ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
 กำหนดการสอน รายวชิ า ส12101 วชิ าสังคมศึกษาฯ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
 กำหนดการสอน รายวชิ า ส12102 วิชาประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2
 กำหนดการสอน รายวิชา พ12101 วิชาสขุ ศึกษาและฯ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2
 กำหนดการสอน รายวิชา ศ12101 วชิ าศลิ ปะ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
 กำหนดการสอน รายวิชา ง12101 วิชาการงานอาชีพ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
 กำหนดการสอน รายวิชา อ11101 วชิ าภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
 กำหนดการสอน รายวิชา อ12101 วชิ าภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2
 กำหนดการสอน รายวชิ า อ13101 วิชาภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3
 กำหนดการสอน รายวชิ า ส12202 วิชาการป้องกนั การทุจรติ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2
และแผนการจัดการเรียนรู้
 แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ท12101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
 แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาคณติ ศาสตร์ ค12101 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2
 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตรฯ์ ว12101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2
 แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษาฯ ส12101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2
 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาประวตั ศิ าสตร์ ส12102 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2
 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษาและฯ พ12101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2
 แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาศิลปะ ศ12101 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2
 แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาการงานอาชีพ ง12101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2
 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ อ11101 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1
 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ อ12101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2

 แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาองั กฤษ อ13101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3
 แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าการป้องกันการทจุ รติ ส12202 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2
บัดนข้ี ้าพเจา้ ไดด้ ำเนนิ การจัดทำเอกสารดังกลา่ วเสร็จเรยี บร้อยแลว้ จึงนำเรียนเพอ่ื พจิ ารณาตามเอกสาร
ท่แี นบมานี้

จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณา

ลงชือ่ .
( นายวทิ ยา อาจบำรุง )
ตำแหน่ง ครู

ความคดิ เห็นของผู้บรหิ าร

( ✓ ) ทราบ
( ) อนมุ ัติ

.
.
.

ลงช่อื . .
(นายเคน โพธ์เิ ศษ)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นนาคำมลู ชมภพู ร







คาชี้แจง
กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ

๑. แนวคดิ หลัก

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดสาระการเรยี นรู้ จานวน ๘ กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้ ครูผู้สอนต้องจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยนาความรู้ด้านเน้อื หาวิชามาจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
โดยการฝกึ ทักษะให้ผเู้ รียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และเกดิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๕ ประการ และคุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์ ๘ ประการ ดงั นี้

สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน ๕ ประการ
๑) ความสามารถในการส่อื สารเปน็ ความสามารถในการรับสารและส่อื สารมีวฒั นธรรมในการใช้ภาษา
๒) ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง

สรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ การคิดอย่างเปน็ ระบบเพ่อื นาไปสู่การสร้างองค์ความรูห้ รอื สารสนเทศ เพ่ือใช้
ในการตัดสินใจ เก่ียวกับตนเอง สงั คมได้อย่างเหมาะสม

๓) ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญ
ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์
และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ในสงั คม

๔) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการเข้าใจและเคารพตนเอง สามารถ
นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทางาน
และการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้ง
ตา่ งๆ อย่างเหมาะสม

๕) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยี การแก้ปัญหา
อย่างสร้างสรรค์ถูกต้องเหมาะสม มีคุณธรรมด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนา
ตนเอง สังคมในด้านการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทางาน

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีความสุข ในฐานะ
เปน็ พลเมอื งไทยและพลเมืองโลก ดงั น้ี

๑) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒) ซ่ือสตั ย์ สุจรติ
๓) มีวนิ ัย
๔) ใฝเ่ รยี นรู้
๕) อยอู่ ยา่ งพอเพียง
๖) มุ่งมั่นในการทางาน
7) รกั ความเป็นไทย
๘) มีจติ สาธารณะ



กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีมุ่งเน้นพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ช่ืนชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์
กิจกรรมทางศิลปะช่วยพัฒนาผู้เรียนท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน การนาไปสู่
การพัฒนาส่งิ แวดลอ้ ม สง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รียนมีความเช่อื ม่นั ในตนเอง อันเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพ
ครูผู้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ควรมุ่งเน้นพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ
เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนงต่าง ๆ จัดกิจกรรม
การเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนาเสนอผลงาน
ทางทัศนศิลป์จากจินตนาการ สามารถใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถใช้เทคนิค วิธีการของศิลปิน
ในการสร้างงานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง
ทศั นศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่างานศลิ ปะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ภมู ิปัญญา
ไทยและสากล ช่นื ชม ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

หลักการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนศิลปะ มีการบูรณาการด้านคุณลักษณะในแผนการจัด
การเรียนรู้ที่คานึงถึงคุณลักษณะท่ีให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีทักษะด้านวิธีการทางศิลปะ เกิดความซาบซ้ึงในคุณค่า
ของศิลปะ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระ ในศิลปะแขนงต่าง ๆ ได้แก่ ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์
สอดคล้องตามเป้าหมายของหน่วยการเรียนรู้ และให้มีเจตคติท่ีดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
และมีจิตอาสา ครูผู้สอนควรปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้แก่ผู้เรียนทุกแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้เกิด
คณุ ลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละเปน็ คนดีของสงั คม

๒. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
แนวคิดสาคัญของการจัดศึกษา ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้

ผู้เรียน คิดและลงมือปฏิบัติด้วยกระบวนการท่ีหลากหลาย เพ่ือเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ
การประเมินการเรียนรูจ้ ึงมีความสาคญั และจาเปน็ อยา่ งย่ิง ตอ่ การจดั กิจกรรมการเรยี นร้ใู นห้องเรียน เพราะสามารถ
ทาใหผ้ ้สู อนประเมนิ ระดับ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน

การจดั การศกึ ษาตอ้ งยดึ หลกั ว่า ผเู้ รยี นทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนา ตนเองได้ และถือว่าผู้เรียน
มคี วามสาคัญที่สุด กระบวนการจดั การศึกษาต้อง สง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นสามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเต็มตาม
ศักยภาพ ให้ความสาคัญ ของการบูรณาการความรู้คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ตามความเหมาะสมของระดับ
การศกึ ษา ไดร้ ะบุให้ผ้ทู ่ีเกี่ยวข้องดาเนินการ ดังนี้

๑) สถานศกึ ษาและหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง
(๑) จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยคานึง
ถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล
(๒) ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้
เพอ่ื ป้องกันและแก้ไขปญั หา
(๓) จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติ ให้ทาได้คิดเป็นทาเป็น
รกั การอ่าน และเกิดการใฝ่รอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง



(๔) จัดการเรียนการสอน โดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน
รวมทัง้ ปลูกฝังคุณธรรม ค่านยิ มทด่ี งี ามและ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา

(๕) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ส่ือการเรียน และอานวย
ความสะดวกเพอื่ ให้ผเู้ รียนเกดิ การเรยี นรแู้ ละ มีความรอบรู้ รวมท้ังสามารถใช้การวิจัยให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวน
การเรยี นรู้ ท้งั นี้ผสู้ อนและผู้เรียนอาจเรียนรไู้ ปพร้อมกันจากสื่อการเรยี น การสอนและแหลง่ วทิ ยาการประเภทต่าง ๆ

(๖) จัดการเรยี นรใู้ ห้เกดิ ขน้ึ ไดท้ ุกเวลา ทุกสถานท่ี มกี ารประสานความร่วมมือกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
และบคุ คลในชุมชนทุกฝา่ ย เพือ่ ร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ

๒) การจดั สภาพแวดล้อมส่งเสรมิ การเรียนรู้
(๑) จดั สภาพแวดลอ้ ม ห้องเรยี น หรือภายนอกห้องเรียน ให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ สะอาด มีความเป็น

ระเบียบ ตกแต่งหอ้ งเรียนใหน้ ่าอยู่ มมี ุมต่าง ๆ ในหอ้ งเรียน มที เ่ี กบ็ วสั ดุอปุ กรณ์ และง่ายต่อการนามาใช้ มีป้ายนิเทศ
ให้ความรู้ ภายนอกห้องเรียนจัดบรรยากาศให้เป็นธรรมชาติน่าอยู่ ร่มรื่นและเหมาะกับกิจกรรมการเรียนรู้
ถกู สุขลกั ษณะและปลอดภยั

(๒) จดั สภาพแวดล้อม หรอื ห้องใหผ้ ้เู รยี นไดฝ้ ึกปฏบิ ตั กิ าร
(๓) จัดสอื่ อปุ กรณ์ ท่เี กย่ี วกบั การเรยี นรูอ้ ยา่ งเพยี งพอ เหมาะสม
(๔) จดั หาเคร่ืองมือแสวงหาความรู้ หรือ ช่องทางเสนอข่าวสารต่าง ๆ เพ่ือให้ผู้เรียนได้รับรู้ข้อมูล
ข่าวสารทีท่ ันสมยั ปัจจุบนั อยเู่ สมอ

๓) ครูผ้สู อน
การจัดการเรียนรู้ตามแนวดังกล่าว จาเป็นต้องเปล่ียนแปลงพฤติกรรมการเรียนการสอน

ทงั้ ของผเู้ รยี นและผู้สอน กล่าวคอื ลดบทบาทของครผู ู้สอน จากการเป็นผู้บอกเล่า บรรยาย สาธิต เป็นการวางแผน
จัดกิจกรรมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ กิจกรรมต่าง ๆ จะต้องเน้นที่บทบาทของผู้เรียนต้ังแต่เริ่ม คือ ร่วมวางแผน
การเรียน การวัดผล ประเมินผล และต้องคานึงว่ากิจกรรมการเรียนน้ัน เน้นการพัฒนากระบวนการคิด วางแผน
ลงมือปฏิบัติศึกษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูล ด้วยวิธีการต่าง ๆ จากแหล่งเรียนรู้หลากหลาย ตรวจสอบ วิเคราะห์
การแก้ปัญหา การมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน การสร้างคาอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลที่สืบค้นได้ เพื่อนาไปสู่คาตอบ
ของปญั หาหรอื คาถามตา่ ง ๆ และสร้างองค์ความรู้ ท้ังนี้กิจกรรมการเรียนรู้เหล่าน้ีต้องพัฒนาผู้เรียนให้มีพัฒนาการ
เหมาะสมตามวยั ท้ังทางร่างกาย อารมณ์สงั คม และสติปัญญา

หลักการจัดกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับช้ันประถมศึกษา ครูผู้สอนต้อง
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทใี่ หผ้ ู้เรียนไดเ้ รยี นร้อู ย่างมีความหมาย โดยการร่วมมือระหว่างครูกับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้เรียน
ครตู ้องลดบทบาทในการสอนโดยเป็นผู้ชี้แนะ กระตุ้นให้ผู้เรียนกระตือรือร้นท่ีจะเรียนรู้ และปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
มากขึน้ และอยา่ งหลากหลาย ดังนี้

1) ควรให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดเวลาด้วย การกระตุ้นให้นักเรียน
ลงมือปฏิบัตแิ ละอภปิ รายผล โดยใชเ้ ทคนิคต่าง ๆ ของการสอน เชน่ การนาเข้าส่บู ทเรยี น การใชค้ าถาม การเสริมพลงั
มาใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์ ทีจ่ ะทาใหก้ ารเรยี นการสอนน่าสนใจและมชี ีวติ ชีวา



2) ครูควรมีการวางแผนการใช้คาถามอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะนานักเรียนเข้าสู่บทเรียน
และลงข้อสรุปได้โดยที่ไม่ใช้เวลานานเกินไป ครูควรเลือกใช้คาถามที่มีความยากง่ายพอเหมาะกับความสามารถ
ของนกั เรียน

3) เมื่อนักเรียนถาม อย่าบอกคาตอบทันที ควรให้คาแนะนาที่จะช่วยให้นักเรียนหาคาตอบได้เอง
ครคู วรใหค้ วามสนใจตอ่ คาถามของนักเรียนทุก ๆ คน แม้ว่าคาถามน้ันอาจจะไม่เกี่ยวกับเร่ืองที่กาลังเรียนอยู่ก็ตาม
ครูควรจะชี้แจงให้ทราบและเบนความสนใจของนักเรียนกลับมาสู่เรื่องที่กาลังอภิปรายอยู่ สาหรับปัญหาท่ีนักเรียน
ถามมานัน้ ควรจะไดห้ ยบิ ยกมาอภิปรายในภายหลัง

4) การสารวจตรวจสอบซ้า เป็นสิ่งจาเป็นเพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีน่าเช่ือถือ ดังนั้น ในการจัดการเรียนรู้
ครูควรยา้ ใหน้ กั เรยี นได้สารวจตรวจสอบซ้าเพ่อื นาไปสูข่ อ้ สรุปท่ถี ูกตอ้ งและเชอื่ ถอื ได้

กระบวนการเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ
เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ทัศนศึกษานอกสถานที่ การเรียนรู้

จากหอ้ งสมดุ แหล่งเรียนร้จู ากภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ปราชญช์ าวบ้าน งานวิเคราะห์จากการศกึ ษาภาคสนาม
การเรียนรู้โดยผู้เรียนลงมือปฏิบัติ เป็นการเรียนรู้ท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือทาจริง โดยกาหนด

ภาระงาน (task) การวางแผนปฏบิ ัติ ลงมอื ปฏิบัตโิ ดยครใู หค้ าแนะนาและสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง ผู้เรียนฝึกได้ปฎิบัติ
ตามลาดับข้ันตอนจนชานาญ ในรูปแบบของโครงงาน ศิลป์สร้างสรรค์ ท่ีเน้นกระบวนการกลุ่ม ประกอบด้วย
การอภิปรายกลมุ่ ยอ่ ย การแก้ปญั หากลมุ่ สืบค้นความรู้ กล่มุ สมั พนั ธ์ การเรยี นรู้แบบรว่ มมือ การอภปิ ราย

การเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิด ได้แก่ การถามตอบ การสืบสอบ ความคิดรวบยอด การพัฒนา
กระบวนการคิด การสอนโดยใช้วิธีการตั้งคาถามผู้เรียน การเรียนการสอนโดยใช้แผนผังความคิด ( Graphic
Organizers) การเรยี นการสอนดว้ ยกระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์

๓. สอื่ การจดั การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้
สื่อการจัดการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้นักเรียนได้รับ

ความรู้ ทักษะกระบวนการได้ง่ายในระยะเวลาส้ันและช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
สื่อที่ปรากฏในแผนการจดั การเรียนรูม้ ีดังน้ี

๑) ใบความรู้ ใบงาน แผนภาพนาเสนอข้อมลู
๒) คลิป/วดี ิทัศน/์ ภาพขา่ วสถานการณ์ปัจจบุ นั
๓) สถานการณส์ มมุติ
๔) สอ่ื บคุ คล

แหลง่ เรยี นรู้ เป็นเครื่องมอื สร้างคณุ ลกั ษณะการใฝ่เรียนรูท้ ่ีทุกคนตอ้ งใฝร่ ูต้ ลอดชวี ติ ดังนี้
๑) แหล่งเรยี นรภู้ ายในโรงเรยี น
๒) แหล่งเรียนรู้ภายนอกโรงเรียน ได้แก่ ชุมชน ท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ห้องสมุด
ประชาชน ห้องสมุดแหง่ ชาติ
หอ้ งสมดุ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สาคัญและเป็นหัวใจสาคัญของผู้เรียนในการศึกษาค้นคว้า โรงเรียนควรจัด
ห้องสมุดกลาง ห้องสมดุ หมวดวิชา มมุ หนงั สอื ในห้องเรยี น หอ้ งสมุดเคลือ่ นท่ี รถเคลื่อนที่ ห้องสมุดประชาชนลว้ นเปน็
แหล่งเรียนรจู้ ะทาให้ผูเ้ รียนได้เรยี นรู้และปลูกฝังลกั ษณะนิสยั ทด่ี ใี นการสง่ เสรมิ นิสยั รักการอ่าน



๓) แหลง่ เรยี นรูอ้ อนไลน์
- สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
- สานกั หอสมดุ มหาวิทยาลยั ตา่ งๆ
- กระทรวงวัฒนธรรม
ฯลฯ

๔. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
จุดประสงค์สาคัญของการประเมินการเรียนรู้ คือ การช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์

ที่ผสู้ อนหรือหลักสูตรวางไว้ ปัญหาที่พบในปัจจุบันก็คือ ผู้บริหาร ผู้สอน ตลอดจนผู้ปกครองเป็นจานวนมากยังให้
ความสาคัญการเรียนรู้แบบท่องจาเพื่อสอบ หรือการเรียนรู้เพ่ือแข่งขัน ซ่ึงถือเป็นการเรียนรู้แบบผิวเผินมากกว่า
การประเมินการเรยี นรรู้ ะหวา่ งเรียนการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาตนเองซงึ่ ผลลพั ธข์ องการเรยี นรู้จะยัง่ ยนื กว่า
(กุศลนิ มุสิกุล, ๒๕๕๕; ขจรศกั ด์ิ, เพ็ญจันทร์ และวรรณทพิ า รอดแรงคา้ , ๒๕๔๘)

ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนน้ัน จาเป็นต้องมีการประเมิน
การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นระหว่างและส้ินสุดกระบวนการเรียนรู้ โดยใช้การประเมินในรูปแบบ
ที่หลากหลายสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ รูปแบบการประเมินการเรียนรู้ ได้แก่ การประเมิน
การเรยี นรรู้ ะหว่างเรียน (Formative Assessment) การประเมินการเรียนรู้สรุปรวม (Summative Assessment)
และการประเมินการเรียนรู้ตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ในการประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
และการประเมินตามสภาพจริงน้นั ผูส้ อนจาเป็นต้องสะทอ้ นการประเมนิ ใหผ้ เู้ รยี นรับทราบเพื่อปรับปรุงและพัฒนา
ตนเอง และผู้สอนต้องนาผลการประเมินมาพิจารณาเพื่อทบทวนและปรับแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถ
ดาเนินการแก้ไข ช่วยเหลือ หรือหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนแต่ละคนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้
ตามแต่ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูห้ รือเปา้ หมายของตัวชีว้ ัดตา่ ง ๆ (กุศลิน มสุ ิกุล, ๒๕๕๕ )

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมิน
เพ่ือพัฒนาผเู้ รยี นและการตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ประสบความสาเร็จนั้น
ผ้เู รียนจะตอ้ งได้รบั การพฒั นาและประเมนิ ตามตวั ช้ีวัด เพ่อื ให้บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ สะทอ้ นสมรรถนะสาคัญ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินการเรียนรู้ในทุกระดับ
(กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, ๒๕๕๒)

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่ปรากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ ให้ความสาคัญของก ารประเมิน
พฤตกิ รรมการปฏบิ ัติ ดังน้ี

๑) วธิ กี ารประเมิน
(1) การวัดและประเมินก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบความพร้อม และความรู้เดิมของผู้เรียน

(ผสมผสานในกิจกรรมการเรียนรู้ขนั้ นา)
(2) การวดั และประเมินระหวา่ งเรียน ไดแ้ ก่ ด้านความรู้ ทกั ษะการปฏิบัติ และคุณลักษณะ โดยวิธี

การสังเกตพฤติกรรม ถามตอบพร้อมแสดงเหตุผล ตรวจชิ้นงาน การนาเสนอ (ผสมผสานในกิจกรรมการเรียนรู้

ข้ันสอน) จุดมุง่ หมายของการประเมินระหวา่ งเรียน มดี ังนี้



(๒.๑) เพ่ือค้นหาและวินิจฉัยว่าผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเนื้อหา มีทักษะความชานาญ รวมถึง

มเี จตคตทิ างการเรียนรอู้ ย่างไรและในระดบั ใด เพ่ือเปน็ แนวทางให้ผู้สอนสามารถวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้

อยา่ งเหมาะสม เพ่อื พัฒนาการเรียนรขู้ องผเู้ รยี นได้อย่างเต็มศักยภาพ

(๒.๒) เพอื่ ใชเ้ ปน็ ข้อมลู ปอ้ นกลบั ให้กับผู้เรียนว่ามีผลการเรยี นรอู้ ย่างไร
(๒.๓) เพอ่ื ใช้เปน็ ข้อมูลในการสรปุ ผลการเรียนรู้และเปรียบเทียบระดับพัฒนาการด้านการเรียนรู้
ของผเู้ รียนแตล่ ะคน
(3) การวัดและประเมินหลังเรียน เพื่อตรวจสอบความสาเร็จตามจุดประสงค์รายแผน
เป็นการพัฒนาในจุดท่ีผู้เรียนอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง (ผสมผสานในกิจกรรมข้ันสรุป)
และเพื่อตดั สนิ ผลการจัดการเรียนรู้ เป็นการประเมินหลังจากผู้เรียนได้เรียนไปแล้ว ผลจากการประเมินประเภทน้ี
ใชป้ ระกอบการตดั สินผลการจดั การเรียนการสอน หรอื ตัดสินใจว่าผเู้ รียนคนใดควรจะได้รบั ระดับคะแนนใด
(๔) ประเมนิ รวบยอดเม่อื ส้ินสุดหน่วยการเรียนรู้ ดาเนนิ การดังนี้
การประเมินโดยครผู ู้สอน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผเู้ รยี นวา่ บรรลเุ ป้าหมายของหน่วยการเรียนรู้ตาม

มาตรฐาน ตัวชี้วัด สมรรถนะ คุณลักษณะ และเจตคติหรือไม่ เช่น การทาโครงงาน การนาความรู้ไปใช้เพื่อพัฒนา

สงั คมในรูปแบบตา่ ง ๆ

การประเมินโดยผเู้ รียนแตล่ ะคน โดยการทาแบบบันทกึ การเรียนรู้ (Learning log) ควรให้ผู้เรียน
ไดป้ ระเมินการเรียนรขู้ องตนเอง เพอ่ื เปิดโอกาสไดส้ ะทอ้ นคดิ สง่ิ ท่เี รยี นรูท้ ้ังทีท่ าไดด้ ีและยังต้องพัฒนา (ตัวอย่างแบบ
บนั ทกึ การเรียนรู้ ดภู าคผนวก ค.) ควรให้ผู้เรียนได้ประเมินการเรียนรู้ย่อยหลังจบการเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียนรู้
และประเมินการเรยี นรรู้ วมในชว่ งกลางภาคเรยี น และปลายภาคเรยี น โดยครสู ามารถเลอื กใช้ชุดคาถามและจานวนขอ้
ให้เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียน ช่วงเวลาและธรรมชาติของแต่ละวิชา ทั้งนี้ในคร้ังแรกครูควรทาร่วมกับนักเรียน
เพอ่ื แนะนาวิธกี ารเขียนแบบสะทอ้ นคดิ และควรอ่านส่ิงทีน่ กั เรยี นบันทกึ พร้อมใหข้ ้อมลู ย้อนกลับ เสนอแนะในเชงิ บวก
และสร้างสรรค์ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากข้อมูลในแบบบันทึกเพื่อพัฒนาการสอนของตัวเองและช่วยเหลือนักเรียน
เปน็ รายบคุ คลต่อไป

๒) ผู้ประเมิน ได้แก่ เพื่อนประเมินเพ่ือน ครูประเมินผู้เรียน ผู้เรียนประเมินตนเอง และผู้ปกครอง

ร่วมประเมิน

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้านศลิ ปะ เปน็ กระบวนการทางสุนทรียศาสตร์ ท่ีเก่ยี วกบั รสนยิ ม
ความช่ืนชอบ ความงาม เกณฑ์ในการวัดผลแบบนิยมท่ีเน้นความถูกต้องของการตอบข้อสอบใน มาตัดสินความงาม
ความคิดสร้างสรรค์ไม่เหมาะสม การวัดและประเมินผลตามสภาพจริง จึงเหมาะท่ีจะใช้ประเมินผลการเรียนรู้
ทางศิลปะ เป็นการประเมนิ ความสามารถ และกระบวนการในการปฏิบัติในสถานการณ์จริง หรือคล้ายสถานการณ์
จริง ทั้งในและนอกห้องเรียน เน้นให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึงความเข้าใจและทักษะการคิด ที่บูรณาการการเรียนรู้
เช่ือมโยงการนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ด้วยการเรียนรู้ด้านศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์มีความเก่ียวข้องกับวิถีชีวิต
วฒั นธรรมของผู้คนในสงั คม

การวัดและประเมินผลกับการจัดการเรียนการสอนศิลปะ จึงเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน หากขาดสิ่งหน่ึง
สง่ิ ใดการเรยี นการสอนก็ขาดประสทิ ธภิ าพ ครูต้องใชว้ ิธกี ารและเคร่ืองมือการประเมินที่หลากหลาย เช่น การสังเกต
การซักถาม การระดมความคิดเหน็ เพอ่ื ให้ได้มติขอ้ สรุปของประเดน็ ทกี่ าหนด การใช้แฟ้มสะสมงาน การใช้ภาระงาน
ท่เี นน้ การปฏิบัติ การประเมนิ ความรู้เดมิ การให้ผเู้ รียนประเมินตนเอง การให้เพ่ือนประเมินเพ่ือน และการใช้เกณฑ์



การให้คะแนน (Rubrics) สิ่งสาคัญที่สุดในการประเมินเพื่อพัฒนาคือ การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนในลักษณะ
คาแนะนาท่ีเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ทาให้การเรียนรู้พอกพูน แก้ไขความคิด ความเข้าใจเดิมที่ไม่ถูกต้อง
ตลอดจนการให้ผ้เู รียนสามารถตั้งเปา้ หมายและพฒั นาตนได้ ในการประเมนิ เพ่อื ตดั สินผลการเรียนที่ดีต้องให้โอกาส
ผู้เรียนแสดงความรู้ความสามารถด้วยวิธีการที่หลากหลายและพิจารณาตัดสินบนพื้นฐานของเกณฑ์ผลการปฏิบัติ
มากกว่าใช้เปรียบเทียบระหว่างผู้เรยี น

5. คาแนะนาบทบาทครูปลายทางในการจดั การเรยี นรู้
ครูปลายทางควรมีบทบาทการสอนคู่ขนานกับครูต้นทางในการกากับดูแลช่วยเหลือนักเรียนในทุกข้ันตอน

การสอน ดงั นี้
1) ขัน้ เตรียมตวั กอ่ นสอน
(1) ศึกษาทาความเข้าใจคาช้ีแจงและทาความเข้าใจเช่ือมโยง ท้ังเป้าหมาย กิจกรรมและการวัดผล

และประเมินผลระหวา่ งหน่วยการเรยี นร้กู บั แผนการจัดการเรยี นรู้รายชั่วโมง
(2) ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้เพิ่มเตมิ จากแหล่งเรียนรู้ หน่วยงาน องค์กรท่ีให้ความรู้ที่เช่ือถือได้ รวมท้ัง

เทคนิคการจดั การเรยี นรเู้ พือ่ พัฒนาความสามารถของผู้เรยี นอยา่ งรอบด้าน
(3) ปรับ/ประยุกต์หรือเพ่ิม เป้าหมายท้ังเน้ือหา ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะที่เป็นจุดเน้น

และท่ีเป็นปัจจุบันตามบริบทของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน รวมถึงการวัดประเมินทักษะกระบวนการเรียนรู้
ตามศักยภาพของผเู้ รยี น และตามสภาพจริง

(4) ศึกษาคลิปบทเรียนที่มีการอัพโหลดล่วงหน้าเพื่อทาความเข้าใจการจัดกิจกรรม PowerPoint
และส่ือต่าง ๆ ที่ครูใช้ประกอบการสอน โดยเฉพาะแนวการจัดกิจกรรมในขั้นตอนช่วงการปฏิบัติ ท้ังด้านวิธีการ
สื่อทใี่ ช้ และช่วงเวลาของการทาแต่ละกจิ กรรมเพ่ือนามาวิเคราะห์และหาแนวทางเตรยี มนกั เรียน/ชว่ ยเหลอื ส่งเสรมิ /
อานวยความสะดวกนักเรียนตามบริบทของห้องเรียนของตนให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็ม
ตามศกั ยภาพ

(5) เตรยี มใบงาน (ทค่ี ดั เลอื กสาหรบั มอบหมายให้นักเรียนได้ทาตามเห็นควรและเหมาะสม) รวมทั้ง
การเตรียมอปุ กรณต์ ามระบใุ นแผนฯและ/หรอื ท่ปี รากฏในคลปิ (ในกรณีมีการปรับเปล่ียนเพ่มิ เติม)

(6) ติดตามข้อมลู รายละเอียดการจัดกิจกรรมในช่วงการปฏิบัติตามกาหนดการสอนที่มีรายละเอียด
ของสือ่ การสอน ใบงาน ใบความรู้ บนเว็บไซต์ www.dltv.ac.th

2) ขัน้ การจดั การเรียนรู้
(1) สร้างการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการทากิจกรรม เช่น กระตุ้นให้นักเรียนคิด ตอบคาถาม

ของครตู ้นทาง ฟังเฉลยและช่วยเสรมิ /อธิบาย/ในสิง่ ท่ีนักเรียนยังไมเ่ ขา้ ใจ ชมเชย/ใหก้ าลังใจหากนักเรียนทาไดด้ ี
(2) ใหค้ วามชว่ ยเหลือนกั เรียนท่ีตามไม่ทัน เช่นอธิบายเพิ่มเติมเพ่ือให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ต่อไป

อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
(3) กากับดูแลให้มวี ินยั ในการเรียนเชน่ ไม่เล่นหรือพูดคุยกนั ปฏิบตั ติ ามคาสั่งในการทากิจกรรม ฯลฯ
(4) อานวยความสะดวกในการเรียนรู้ เช่น จัดเตรียมสอื่ การเรยี นรู้/อุปกรณ์



(5) สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นเช่น คณุ ลกั ษณะผู้เรียน, สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน การจัดการเรยี นร้/ู
การปฏิบัติงาน ความรู้ในบทเรียน และบันทึกข้อมูลตามแนวทางประเมินท่ีแนะนาไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้
เพือ่ นาข้อมลู ไปพัฒนานกั เรียนและใหค้ วามช่วยเหลอื นักเรยี นทง้ั ช้นั /กลมุ่ /รายบุคคลตามกรณี

3) ขั้นการปฏบิ ัติ
(1) ทบทวนขั้นตอนการทากิจกรรมตามที่ครูต้นทางแนะนา และตามข้อแนะนาการปฏิบัติท่ีระบุ

ใน PowerPoint ตรวจสอบความเขา้ ใจ และเตรียมนกั เรียนก่อนทากิจกรรม (การแบ่งกลุ่ม ฯลฯ)
(2) กากับใหก้ ารทากิจกรรมเป็นไปตามลาดับเวลาตามแนวทางท่ีระบุบน PowerPoint
(3) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื นกั เรยี นในระหว่างการทากิจกรรม
(4) เตรยี มพรอ้ มนกั เรียนสาหรบั กจิ กรรมในขั้นตอนสรุปการเรียน (ถ้ามี) เช่น การสรุปผลปฏิบัติงาน

เพอื่ เทยี บเคยี งกับผลงานท่ีนกั เรยี นต้นทางจะนาเสนอ เป็นตน้

4) ขนั้ สรปุ
(1) กากบั นกั เรียนให้มสี ว่ นรว่ มในการเฉลยใบงาน/สรปุ ผลการทากจิ กรรม ฯลฯ
(2) ทบทวนประเดน็ สาคญั ที่มกี ารสรุปทา้ ยชว่ั โมง และงาน/ใบงานท่ีครตู ้นทางมอบหมายให้ทาเป็น

การบ้าน/หรอื ใบงานทคี่ รปู ลายทางไดเ้ ลอื กมาใช้กบั ชน้ั เรียนของตน
(3) จัดให้นักเรียนได้ทาแบบประเมินตามระบุในหัวข้อ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

(เฉพาะหลังจบแตล่ ะหน่วยการเรยี นรแู้ ละครงึ่ /ปลายภาคเรยี น)

5 ) การบนั ทึกผลหลงั สอน
(1) บันทึกการจัดการเรยี นร้ขู องตนเอง โดยใชข้ อ้ มลู จากแบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียนระหว่างเรียน

และแบบประเมนิ ตนเอง บันทกึ การเรยี นร้ขู องนกั เรียนเพ่ือวิเคราะห์เทคนิค หรือวิธีการใด ท่ีทาให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม
มีความรู้ มที ักษะ และคุณลกั ษณะตามจดุ ประสงค์

(2) บันทกึ สาเหตขุ องความสาเรจ็ อปุ สรรค และ/หรอื ขอ้ จากัดท่ีเกิดขึ้น เช่น เทคนิค หรือวิธีการใด
การบริหารจัดการชน้ั เรยี น การจัดบรรยากาศ ส่ิงแวดล้อมอย่างไร ฯลฯ ที่ทาให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม มีความรู้ มีทักษะ
และคุณลักษณะตามจุดประสงค์ โดยใช้คาถามที่ให้ไว้ใน “คาถามบันทึกผลหลังสอนสาหรับครูปลายทาง”
(ดภู าคผนวก ค.) เป็นแนวทางในการย้อนคิด ไตร่ตรองสิง่ ท่ีเกิดข้ึนและนาไปบนั ทึกผลหลงั สอนของชัว่ โมงนนั้ ๆ

(3) วิเคราะห์และสรปุ ผลจากขอ้ มลู ตามปญั หา/ความสาเร็จท่ีเกิดข้ึน และเสนอแนวทางการปรับปรงุ
เพือ่ นามาพัฒนาการจดั การเรยี นรู้ และชว่ ยเหลือ/ส่งเสริมนักเรียนในการจัดการเรียนรู้ในคร้ังต่อไป รวมทั้งนาไปใช้
เป็นข้อมูลเพื่อพัฒนาเป็นงานวิจยั ในชัน้ เรยี นตอ่ ไป



รหัสวชิ า ศ12101 คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๒ จานวน ๑ หน่วยกิต
รายวชิ า ทัศนศิลป์ ดนตรี–นาฏศลิ ป์
เวลา ๔๐ ช่วั โมง

ทศั นศลิ ป์
ศกึ ษารปู รา่ ง รูปทรงทพี่ บในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทัศนธาตุ และงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเส้น สี รูปร่าง

รปู ทรง การใชว้ สั ดอุ ปุ กรณส์ รา้ งงานทัศนศลิ ป์ ๓ มิติ สรา้ งภาพปะตดิ จากกระดาษ วาดภาพ เร่ืองราวเหตุการณ์ชีวิต
จริง และงานโครงสร้างเคล่ือนไหว บอกความสาคัญของงานทัศนศิลป์ประเภทต่าง ๆ ที่พบในท้องถิ่นและใน
ชีวิตประจาวัน

ดนตรี
ศกึ ษาเรียนรู้และเข้าใจ แหล่งกาเนดิ ของเสยี ง การจาแนก สงู –ต่า ดงั –เบา ช้า–เร็ว ส้ัน–ยาว การเคลื่อนไหว

ประกอบเพลง เครอื่ งดนตรีประกอบเพลง การขบั รอ้ งเพลง ความหมายและความสาคัญของเพลงในทอ้ งถิน่ และเพลง
ท่ีใช้ในชีวติ ประจาวัน

นาฏศลิ ป์
ศึกษาเรยี นร้แู ละปฏิบตั ิการเคล่ือนไหวอยา่ งมรี ูปแบบ การประดิษฐ์ท่าทาง หลักและวิธีการปฏิบัตินาฏศิลป์

การใช้ภาษาท่าและนาฏศิลป์ มารยาทในการชมหรือการมีส่วนรว่ ม โดยใชว้ ธิ ีการศกึ ษาขอ้ มูล เพอ่ื ให้เกิดความรู้ความ
เข้าใจ สุนทรยี รส และนาความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวันได้

รหสั ตัวชวี้ ดั ศ 1.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5 ป.๒/๖ ป.๒/7 ป.2/8
ทัศนศิลป์
ศ 1.2 ป.2/1 ป.2/2
ดนตรี ศ 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5
ศ 2.2 ป.2/1 ป.2/2
นาฏศลิ ป์
ศ 3.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5
ศ 3.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3

รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวชีว้ ัด



รหสั วิชา ศ1๒101 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒
ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ
รายวชิ า ทัศนศลิ ป์ ดนตรี–นาฏศลิ ป์
รวมเวลา ๒๐ ชั่วโมง

สาระท่ี ๑ ทศั นศลิ ป์
มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์
วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องาน ศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั

ตัวชี้วัด
ป.๒/๑ บรรยายรปู ร่าง รูปทรงทพี่ บในธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม
ป.๒/๒ ระบทุ ัศนธาตุทีอ่ ยใู่ นสิง่ แวดล้อม และงานทศั นศลิ ป์ โดยเน้นเรอื่ งเสน้ สี รปู รา่ ง และรูปทรง

ป.๒/๓ สร้างงานทัศนศิลป์ต่าง ๆ โดยใชท้ ัศนธาตทุ ่ีเน้นเสน้ รปู ร่าง
ป.๒/๔ มที กั ษะพน้ื ฐานในการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ สรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ๓ มติ ิ
ป.๒/๕ สรา้ งภาพปะตดิ โดยการตดั หรอื ฉีกกระดาษ

ป.๒/๖ วาดภาพเพือ่ ถา่ ยทอดเร่อื งราวเกยี่ วกบั ครอบครวั ของตนเองและเพ่ือนบ้าน
ป.๒/๗ เลือกงานทศั นศิลป์ และบรรยายถึงสง่ิ ท่ีมองเห็น รวมถึงเน้ือหาเรอื่ งราว
ป.๒/๘ สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ปเ์ ป็นรูปแบบงานโครงสรา้ งเคลือ่ นไหว

มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทัศนศิลป์ท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล
ตวั ชว้ี ัด

ป.๒/๑ บอกความสาคัญของงานทศั นศลิ ป์ท่พี บเหน็ ในชีวิตประจาวัน
ป.๒/๒ อภิปรายเกี่ยวกบั งานทศั นศิลปป์ ระเภทต่าง ๆ ในทอ้ งถน่ิ โดยเนน้ ถงึ วิธกี ารสรา้ งงานและวสั ดุอปุ กรณ์
ที่ใช้

สาระท่ี ๒ ดนตรี
มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี

ถ่ายทอดความรู้สกึ ความคิดต่อดนตรอี ยา่ งอสิ ระ ช่นื ชม และประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั
ตัวชี้วดั

ป.๒/๑ จาแนกแหล่งกาเนิด ของเสยี งทีไ่ ดย้ ิน

ป.๒/๒ จาแนกคณุ สมบัตขิ องเสยี ง สงู -ต่า , ดงั -เบา ยาว-สนั้ ของดนตรี
ป.๒/๓ เคาะจงั หวะหรือเคลอ่ื นไหวร่างกายให้สอดคลอ้ งกับเนือ้ หาของเพลง
ป.๒/๔ ร้องเพลงง่าย ๆ ทเี่ หมาะสมกับวัย

ป.๒/๕ บอกความหมายและความสาคญั ของเพลงท่ีได้ยิน
มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรีที่
เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถนิ่ ภูมิปญั ญาไทยและสากล



ตัวชีว้ ัด
ป.๒/๑ ระบุลักษณะเด่นและเอกลักษณข์ องดนตรใี นท้องถิ่น
ป.๒/๒ ระบุความสาคญั และประโยชนข์ องดนตรีตอ่ การดาเนินชีวติ ของคนในท้องถิน่

สาระท่ี ๓ นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า

นาฏศิลปถ์ ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิดอย่างอิสระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
ตัวช้ีวดั

ป.๒/๑ เคลือ่ นไหวขณะอยกู่ ับท่ีและเคลือ่ นท่ี
ป.๒/๒ แสดงการเคลือ่ นไหวที่สะท้อนอารมณข์ องตนเองอยา่ งอสิ ระ
ป.๒/๓ แสดงทา่ ทาง เพื่อส่ือความหมายแทนคาพูด
ป.๒/๔ แสดงทา่ ทางประกอบจงั หวะอย่างสร้างสรรค์
ป.๒/๕ ระบมุ ารยาทในการชมการแสดง
มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศิลป์ท่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
ตวั ชวี้ ัด
ป.๒/๑ ระบแุ ละเล่นการละเลน่ พน้ื บา้ น
ป.๒/๒ เชื่อมโยงสงิ่ ที่พบเห็นในการละเล่นพืน้ บ้านกบั สิ่งที่พบเห็นในการดารงชีวติ ของคนไทย
ป.๒/๓ ระบุสงิ่ ท่ีช่ืนชอบและภาคภมู ิใจในการละเลน่ พนื้ บา้ น



โครงสร้างรายวิชา

รหสั วชิ า ศ๑๒๑๐๑ รายวชิ า ทัศนศิลป์-ดนตร–ี นาฏศลิ ป์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒

ภาคเรียนที่ ๑ รวมเวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

สาระทัศนศิลป์ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นา้ หนกั
ตัวชว้ี ัด คะแนน
หน่วยที่ ชอ่ื หนว่ ย (ช่วั โมง)
การเรียนรู้ ศ ๑.๑ ป.๒/๑ ๑๐
ป.๒/๒ การสรา้ งสรรคง์ าน ๔
๑ กาเนิดศลิ ป์ ป.๒/๓ ๑๕
ป.๒/๗
ทัศนศลิ ป์นนั้ มอี งค์ประกอบ
ศ ๑.๒ ป.๒/๑
มากมายในการนามาใช้

สรา้ งสรรคผ์ ลงานสงิ่ เหล่านนั้

เรยี กวา่ ทัศนธาตุ การเลือกใช้

ทศั นธาตุต่าง ๆ มีส่วนสาคญั

ในการสร้างงานทศั นศลิ ปใ์ หเ้ กิด

ความสวยงามอกี ท้งั ยังสอ่ื สาร

ความหมายบอกเลา่ เรอื่ งราว

ผา่ นตัวผลงานได้อกี ด้วย

๒ สรรค์สร้างงานศลิ ป์ ศ ๑.๑ ป.๒/๓ ผลงานทศั นศลิ ป์มีอยู่ ๖
ป.๒/๔
รอบตวั เรา แฝงอยู่ใน
ป.๒/๕
ป.๒/๖ ชวี ติ ประจาวัน ทอ้ งถ่ินทเ่ี ราอยู่
ป.๒/๗
อาศยั ซึ่งมรี ปู แบบเทคนคิ
ป.๒/๘
ศ ๑.๒ ป.๒/๑ วธิ กี ารที่มากมายในการ

ป.๒/๒ สร้างสรรคแ์ ตกต่างกันออกไป

ตามวัสดุอุปกรณเ์ ร่ืองราว

สภาพแวดล้อมตา่ ง ๆ



สาระดนตร–ี นาฏศลิ ป์ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสาคญั / เวลา น้าหนัก
หน่วยท่ี ช่อื หนว่ ย ตวั ชี้วดั ความคิดรวบยอด (ชัว่ โมง) คะแนน

การเรียนรู้ ศ ๒.๑ ป.๒/๑ ศึกษาเรียนร้แู ละ ๔ ๑๐
๓ สนกุ กบั ดนตรี ป.๒/๒
ป.๒/๓ เขา้ ใจแหล่งกาเนิดของเสยี ง ๖ ๑๕
๔ นาฏศลิ ป์ไทย ป.๒/๔ คุณลกั ษณะของเสยี ง
ป.๒/๕ การเคลื่อนไหวประกอบเพลง ๒๐ ๒๕

ศ ๓.๑ ป.๒/๑ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ
ป.๒/๒ ในการนาไปใช้ โดยสามารถ
ป.๒/๓ บอกถึงความหมายจากการฟงั
ป.๒/๔
ป.๒/๕ ต่าง ๆ และถา่ ยทอดความรู้
ใหก้ ับผ้อู นื่ ได้
รวมตลอดภาคเรียน
ศกึ ษาเรยี นรูแ้ ละ

ปฏิบัตกิ ารเคลอ่ื นไหวอยา่ งมี
รปู แบบ การประดษิ ฐท์ ่าทาง
หลกั และวธิ ีการปฏิบตั ิ

นาฏศิลป์ การใชภ้ าษาทา่ และ
นาฏศลิ ป์ โดยใชว้ ธิ กี ารศกึ ษา
ข้อมลู เพอ่ื ให้เกิดความรูค้ วาม

เข้าใจ สุนทรียรส และนา
ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ใน
ชวี ติ ประจาวันได้



รหัสวชิ ำ ศ๑๒๑๐๑ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ
ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง
รำยวิชำ ศิลปะ

ทศั นศลิ ป์
ศึกษารูปร่าง รูปทรงที่พบในธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ทัศนธาตุ และงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเส้น สี

รูปร่าง รูปทรง การใช้วัสดุอุปกรณ์สร้างงานทัศนศิลป์ ๓ มิติ สร้างภาพปะติดจากกระดาษ วาดภาพ เรื่องราว
เหตุการณ์ชีวิตจริง และงานโครงสร้างเคล่ือนไหว บอกความสาคัญของงานทัศนศิลป์ประเภทต่าง ๆ ที่พบใน
ท้องถน่ิ และในชีวติ ประจาวัน

ดนตรี
ศึกษาเรียนรู้และเข้าใจ แหล่งกาเนิดของเสียง การจาแนก สูง – ต่า ดัง – เบา ช้า – เร็ว ส้ัน – ยาว

การเคล่ือนไหวประกอบเพลง เคร่ืองดนตรีประกอบเพลง การขับร้องเพลง ความหมายและความสาคัญ
ของเพลงในท้องถิ่น และเพลงที่ใช้ในชีวติ ประจาวนั

นำฏศิลป์
ศึกษาเรียนรู้และปฏิบัติการเคลื่อนไหวอย่างมีรูปแบบ การประดิษฐ์ท่าทาง หลักและวิธีการปฏิบัติ

นาฏศิลป์ การใช้ภาษาท่าและนาฏศิลป์ มารยาทในการชมหรือการมีส่วนร่วม โดยใช้วิธีการศึกษาข้อมูล
เพ่อื ใหเ้ กิดความร้คู วามเข้าใจ สุนทรยี รส และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวันได้

รหสั ตัวชวี้ ดั ศ 1.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5 ป.๒/๖ ป.๒/7 ป.2/8
ทศั นศิลป์ ศ 1.2 ป.2/1 ป.2/2
ศ 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5
ดนตรี ศ 2.2 ป.2/1 ป.2/2
ศ 3.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5
นาฏศิลป์ ศ 3.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3

รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวชว้ี ดั



มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด

รหัสวิชา ศ๑๒๑๐๑ รายวชิ า ศิลปะ กลุม่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สาระท่ี ๑ ทศั นศิลป์ สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลปต์ ามจนิ ตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์
มาตรฐานการเรยี นรู้ ศ ๑.๑ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องาน
ศลิ ปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั
ตัวชี้วัด
ป.๒/๑ บรรยายรูปร่าง รปู ทรงทีพ่ บในธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
ป.๒/๒ ระบุทัศนธาตุท่ีอยู่ในสิ่งแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเร่ืองเส้นสี
รูปรา่ ง และรปู ทรง
ป.๒/๓ สร้างงานทศั นศลิ ปต์ า่ ง ๆ โดยใชท้ ศั นธาตทุ ีเ่ น้นเส้น รูปรา่ ง
ป.๒/๔ มที ักษะพ้ืนฐานในการใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ สรา้ งงานทศั นศิลป์ ๓ มติ ิ
ป.๒/๕ สรา้ งภาพปะตดิ โดยการตัดหรือฉีกกระดาษ
ป.๒/๖ วาดภาพเพ่ือถ่ายทอดเรือ่ งราวเก่ยี วกบั ครอบครวั ของตนเองและเพื่อนบ้าน
ป.๒/๗ เลอื กงานทัศนศิลป์ และบรรยายถงึ ส่ิงที่มองเห็น รวมถึงเน้อื หาเร่ืองราว
ป.๒/๘ สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ปเ์ ปน็ รปู แบบงานโครงสร้างเคลอื่ นไหว
มาตรฐานการเรยี นรู้ ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม
เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน
ตัวช้วี ัด ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ป.๒/๑
ป.๒/๒ บอกความสาคัญของงานทัศนศลิ ป์ที่พบเหน็ ในชีวติ ประจาวนั
อภปิ รายเก่ียวกับงานทศั นศิลป์ประเภทต่าง ๆ ในท้องถ่นิ โดยเนน้ ถงึ วธิ กี าร
สรา้ งงานและวัสดอุ ุปกรณ์ที่ใช้

สาระที่ ๒ ดนตรี เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
มาตรฐานการเรยี นรู้ ศ ๒.๑ คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม
และประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ตัวชี้วัด
ป.๒/๑ จาแนกแหล่งกาเนิด ของเสยี งท่ไี ดย้ ิน
ป.๒/๒ จาแนกคณุ สมบตั ิของเสียง สูง - ตา่ , ดัง - เบา ยาว - สน้ั ของดนตรี
ป.๒/๓ เคาะจังหวะหรอื เคลื่อนไหวร่างกายใหส้ อดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาของเพลง
ป.๒/๔ ร้องเพลงง่าย ๆ ที่เหมาะสมกบั วยั
ป.๒/๕ บอกความหมายและความสาคัญของเพลงท่ีไดย้ ิน



มาตรฐานการเรยี นรู้ ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม
เห็นคุณค่าของดนตรีท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ตวั ช้วี ัด ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
ป.๒/๑
ป.๒/๒ ระบุลกั ษณะเด่นและเอกลักษณข์ องดนตรใี นทอ้ งถิน่
ระบคุ วามสาคญั และประโยชนข์ องดนตรีต่อการดาเนนิ ชวี ิตของคนในท้องถิน่
สาระที่ ๓ นาฏศิลป์
มาตรฐานการเรียนรู้ ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์
วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ช่ืนชม
ตวั ชวี้ ัด และประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวัน
ป.๒/๑
ป.๒/๒ เคล่ือนไหวขณะอยู่กบั ทแ่ี ละเคลอ่ื นท่ี
ป.๒/๓ แสดงการเคลอื่ นไหวท่สี ะท้อนอารมณข์ องตนเองอยา่ งอิสระ
ป.๒/๔ แสดงทา่ ทาง เพือ่ สือ่ ความหมายแทนคาพดู
ป.๒/๕ แสดงทา่ ทางประกอบจงั หวะอย่างสรา้ งสรรค์
ระบุมารยาทในการชมการแสดง
มาตรฐานการเรยี นรู้ ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน
ตัวชีว้ ัด ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
ป.๒/๑
ป.๒/๒ ระบุและเลน่ การละเล่นพน้ื บา้ น
เชอื่ มโยงสง่ิ ท่ีพบเหน็ ในการละเลน่ พื้นบ้านกบั สิ่งท่ีพบเห็นในการดารงชีวติ
ป.๒/๓ ของคนไทย
ระบุสงิ่ ท่ีช่ืนชอบและภาคภูมิใจในการละเลน่ พน้ื บ้าน



โครงสรา้ งรายวิชา

รหสั วิชา ศ๑๒๑๐๑ รายวิชา ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒
รวมเวลา ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ

สาระทัศนศลิ ป์

หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั / ความคิดรวบ เวลา น้าหนัก
เรยี นรู้/ ตัวชวี้ ดั ยอด (ชั่วโมง) คะแนน

5 ศลิ ปส์ ร้างสรรค์ ศ ๑.๑ ป.๒/๑ งานศิลปะเกิดจากการนาเอา ๘ ๒๐

ป.๒/๒ เส้น สี รูปร่าง รูปทรงต่าง ๆ

ป.๒/๓ มาสร้างสรรค์ ต่อเติมจาก

ป.๒/๔ จินตนาการจนเกิดเป็นผลงาน

ป.๒/๕ ศิลปะ ตามแบบเทคนิควิธีการ

ป.๒/๖ ในการสร้างสรรค์ท่ีมีอยู่หลาย

ป.๒/๗ รูปแบบ

ป.๒/๘

ศ ๑.๒ ป.๒/๑

6 งานทศั นศลิ ป์ใน ศ ๑.๑ ป.๒/๕ งานศิลปะมีอยู่ท่ัวไปในชีวิต ๒ ๕

ชีวติ ประจาวนั ศ ๑.๒ ป.๒/๑ ประจาวันของเรา เชน่ การออกแบบ

ป.๒/๒ อาคารบ้านเรือน เคร่ืองแต่งกาย

ส่ิงของเคร่ืองใช้ และนอกจากนี้

งานศิลปะยังมีความแตกต่างกัน

ออกไปตามภูมิภาค ท้องถ่ินของ

แต่ละท่อี ีกด้วย

สาระดนตรี

หนว่ ยที่ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั / ความคดิ รวบ เวลา น้าหนัก
เรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั ยอด (ชั่วโมง) คะแนน

๗ รักษ์ถิ่นไทย ศ ๒.๑ ป.๒/๕ บทเพลงเป็นสิ่งที่ทาให้มนุษย์มี ๓ ๑๐

ศ ๒.๒ ป.๒/๑ ความสุข เป็นเคร่ืองมือแสดงถึง

ป.๒/๒ สติปัญญา และคุณธรรมของ

ประเทศชาติ เพลงเปน็ สื่อกลางใน

การติดต่อ และสร้างความเข้าใจ

กั นได้ ดี บทเพลงพื้ นบ้ านที่

สะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดาเนิน

ชีวิต ความเช่ือและค่านิยมที่

แตกต่างกัน ทุกคนควรช่วยกัน

รักษาไวใ้ หค้ งอยู่คทู่ ้องถน่ิ



สาระนาฏศิลป์

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ/ ความคิดรวบ เวลา น้าหนัก
เรยี นรู้/ ตัวชีว้ ดั ยอด (ช่วั โมง) คะแนน

8 นาฏศลิ ป์รกั ษไ์ ทย ศ ๓.๑ ป.๒/๑ ศึกษาเรียนรู้การแสดงนาฏศิลป์ ๗ 15

ป.๒/๒ พ้ืนบา้ น และการละเล่นพ้นื บา้ น

ป.๒/๓ ของไทยเพื่อให้เกิดความรู้ความ

ป.๒/๔ เข้าใจ และเกิดความสนุกสนาน

ป.๒/๕ เพลิดเพลิน ช่วยฝึกทักษะด้าน

ศ ๓.๒ ป.๒/๑ ต่าง ๆ ทาให้ร่างกายแข็งแรง

ป.๒/๒ และเป็นมรดกของชาติที่ควร

ป.๒/๓ อนรุ ักษ์ไว้ให้คงอยสู่ บื ไป

รวมตลอดภาคเรยี น 20 50

กำหนดการเรียนรรู้ ายช่ัวโมงและสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม (ฉบบั เผยแพร่ออกอากาศ)

รายวชิ า ศลิ ปะ รหสั วิชา ศ12101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 จำนวน 19 ชั่วโมง

คร้งั ที่ วัน เดือน ปี จำนวน เร่ืองทีส่ อน EP. สง่ิ ท่ีโรงเรยี นปลายทาง
(ออกอากาศ) ช่วั โมง ตอ้ งเตรียม

1 7 ม.ิ ย. 64 1 หน่วยที่ 1 กำเนดิ ศลิ ป์ 1 1.กระดาษวาดเขยี น
(13.30-14.30 น.) เรอ่ื ง เสน้ 2.สีไม้

2 14 ม.ิ ย. 64 1 เรื่อง สี 2 1.กระดาษวาดเขียน
(13.30-14.30 น.) 2.สไี ม้

3 21 ม.ิ ย. 64 1 เรอ่ื ง รปู รา่ ง รูปทรงที่พบในธรรมชาติ 3 1.กระดาษวาดเขียน
(13.30-14.30 น.) และส่งิ แวดล้อม 2.สีไม้

4 28 ม.ิ ย. 64 1 เรื่อง เรอ่ื งราวทัศนศลิ ป์ 4 1.กระดาษวาดเขียน
(13.30-14.30 น.) 2.สไี ม้

5 5 ก.ค. 64 1 หนว่ ยท่ี 2 สรรค์สร้างงานศลิ ป์ 5 1.กระดาษวาดเขียน
(13.30-14.30 น.) เรอ่ื ง วาดภาพครอบครวั 2.สีไม้

6 12 ก.ค. 64 1 เรอ่ื ง ปัน้ เสน้ เปน็ รูป 6 1.ดินน้ำมนั
(13.30-14.30 น.) 2.แผน่ รองปนั้

7 19 ก.ค. 64 1 เรื่อง สนกุ กับงานป้ัน 7 1.ดนิ นำ้ มนั
(13.30-14.30 น.) 2.แผน่ รองป้นั

8 2 ส.ค. 64 1 เรอ่ื ง ศิลปะจากการปะติด 1.กระดาษสี
(13.30-14.30 น.) 8 2.กรรไกร

3.กาว

1.ลกู ปัด

9 9 ส.ค. 64 1 เรือ่ ง โมบาย 9 2.เชอื ก
(13.30-14.30 น.) 3.กรรไกร

4.โครงลวด

10 16 ส.ค. 64 1 เรื่อง ทศั นศลิ ปท์ ้องถ่นิ 10 1.ใบงานเร่ือง ทัศนศลิ ป์ทอ้ งถ่ิน
(13.30-14.30 น.)

11 23 ส.ค. 64 1 หน่วยท่ี 3 สนกุ กับดนตรี 11 1.ใบงาน เรื่อง เคร่ืองดนตรีน่ารู้
(13.30-14.30 น.) เรื่อง สีสันของเสียง

12 30 ส.ค. 64 1 เรอ่ื ง จงั หวะดนตรี 12 1.สมดุ
(13.30-14.30 น.)

13 6 ก.ย. 64 1 เรอ่ื ง การขับรอ้ ง 13 1.สมดุ
(13.30-14.30 น.)

14 13 ก.ย. 64 1 เร่ือง บทเพลงสร้างสรรค์ 14 1.สมุด
(13.30-14.30 น.)

15 20 ก.ย. 64 1 หนว่ ยที่ 4 ลีลานาฏศิลป์ 15 1.สมุด
(13.30-14.30 น.) เรื่อง การเคลื่อนไหวรา่ งกาย

16 27 ก.ย. 64 1 เรื่อง นาฏยศพั ท์ ส่วนมือ 16 1.สมดุ
(13.30-14.30 น.) 1 เรื่อง นาฏยศพั ท์ ส่วนเท้า 17 1.สมดุ

17 4 ต.ค. 64
(13.30-14.30 น.)

กำหนดการเรยี นรรู้ ายชั่วโมงและสิง่ ทีโ่ รงเรยี นปลายทางต้องเตรยี ม (ฉบับเผยแพร่ออกอากาศ)

รายวชิ า ศลิ ปะ รหสั วชิ า ศ12101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 จำนวน 19 ช่วั โมง

ครงั้ ท่ี วัน เดอื น ปี จำนวน เร่ืองทสี่ อน EP. ส่งิ ท่โี รงเรียนปลายทาง
(ออกอากาศ) ชัว่ โมง ตอ้ งเตรียม

18 11 ต.ค. 64 1 เรอ่ื ง ภาษาทา่ 18 1.สมุด
(13.30-14.30 น.)

19 18 ต.ค. 64 1 เรอ่ื ง เพลงในน้ำมปี ลา ในนามขี ้าว (1) 19 1.สมุด
(13.30-14.30 น.)

20 1 เรื่อง เพลงในนำ้ มีปลา ในนามีขา้ ว (2) 20 1.สมุด

กำหนดการเรียนรูร้ ายชว่ั โมงและส่ิงท่ีโรงเรียนปลายทางต้องเตรยี ม (ฉบับเผยแพร่ออกอากาศ)

รายวชิ า ศิลปะ รหสั วชิ า ศ12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 จำนวน 20 ช่ัวโมง

คร้ังท่ี วัน เดือน ปี จำนวน เร่ืองทสี่ อน EP. ส่งิ ทีโ่ รงเรียนปลายทาง
(ออกอากาศ) ชั่วโมง ต้องเตรยี ม

หน่วยที่ 5 ชอ่ื หนว่ ย ศิลป์ 1

1 1 พ.ย. 64 1 สร้างสรรค์ 1.กระดาษวาดเขยี น
(12.30-13.30น.) ทศั นธาตุในส่งิ แวดลอ้ มและงาน
2.อุปกรณว์ าดภาพระบายสี

ทศั นศิลป์

2 8 พ.ย. 64 1 สร้างงานทศั นศิลป์จากรปู ร่าง 2 1.กระดาษวาดเขยี น
(12.30-13.30น.) ธรรมชาตสิ ่งิ แวดลอ้ ม 2.อปุ กรณว์ าดภาพระบายสี

3 15 พ.ย. 64 1 เพือ่ นบ้านของฉนั 3 1.กระดาษวาดเขียน
(12.30-13.30น.) 2.อุปกรณ์วาดภาพระบายสี

4 22 พ.ย. 64 1 งาน 3 มติ ิลวงตา 4 1.กระดาษวาดเขียน
(12.30-13.30น.) 2.อปุ กรณ์วาดภาพระบายสี

5 29 พ.ย. 64 1.ดนิ นำ้ มัน
(12.30-13.30น.)
1 งานประตมิ ากรรม 5 2.จานกระดาษ
6
13 ธ.ค. 64 3.ฝาแกว้ น้ำพลาสติกแบบโดม

(12.30-13.30น.) 1.กระดาษวาดเขยี น

7 20 ธ.ค. 64 1 งานปะติดจากการตดั กระดาษ 6 2.กระดาษสี
(12.30-13.30น.) 3.กรรไกร

8 27 ธ.ค. 64 4.กาว
(12.30-13.30น.)
1.กระดาษวาดเขยี น
9
1 งานปะติดจากการฉีกกระดาษ 7 2.กระดาษสี
10 ม.ค. 65
(12.30-13.30น.) 1 เคร่ืองแขวน 3.กาว

10 17 ม.ค. 65 หน่วยท่ี 6 ช่อื หนว่ ย งานศลิ ปใ์ น 1.จานกระดาษ
(12.30-13.30น.) ชีวติ ประจำวนั
1 ชวี ติ ประจำวันกับงานศลิ ป์ 8 2.กรรไกร
11 24 ม.ค. 65
(12.30-13.30น.) 3.เชอื ก

12 31 ม.ค. 65 1.กระดาษวาดเขยี น
(12.30-13.30น.)
2.อปุ กรณ์วาดภาพระบายสี
13 7 ก.พ. 65
(12.30-13.30น.) 9 3.ถว้ ยขนม

4.กรรไกร

5.กาว

1 งานศิลป์ในท้องถ่นิ 10 1.กระดาษวาดเขียน
2.อุปกรณ์วาดภาพระบายสี

1 หนว่ ยที่ 7 ช่อื หนว่ ย รกั ษถ์ น่ิ ไทย 11 1.สมดุ
บทเพลงในชีวติ ประจำวนั 2.สไี ม้

1 บทเพลงสรา้ งสุข 12 1.สมุด
2.สีไม้

1 ดนตรีในทอ้ งถ่นิ 13 1.สมดุ
2.สไี ม้

กำหนดการเรยี นรูร้ ายชัว่ โมงและส่ิงทโ่ี รงเรียนปลายทางต้องเตรียม (ฉบับเผยแพร่ออกอากาศ)

รายวิชา ศิลปะ รหสั วชิ า ศ12101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2

ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 จำนวน 20 ช่ัวโมง

คร้ังที่ วนั เดือน ปี จำนวน เรือ่ งที่สอน EP. สิ่งทโ่ี รงเรียนปลายทาง
(ออกอากาศ) ช่ัวโมง ต้องเตรยี ม

14 14 ก.พ. 65 1 หน่วยที่ 8 ชอ่ื หนว่ ย นาฏศิลป์ถิ่น 14 1.สมดุ
(12.30-13.30น.) ไทย
นาฏยศพั ท์

15 21 ก.พ. 65 1 ภาษาท่า 15 1.สมุด
(12.30-13.30น.) 16 1.สมุด
17 1.สมุด
16 28 ก.พ. 65 1 การใชน้ าฏยศพั ท์และภาษาท่า 18 1.สมุด
(12.30-13.30น.) ประกอบจงั หวะ(1) 19 1.สมุด
20 1.สมุด
17 7 ม.ี ค. 65 1 การใช้นาฏยศัพทแ์ ละภาษาท่า
(12.30-13.30น.) ประกอบจังหวะ(2)

18 14 มี.ค. 65 1 นาฏศลิ ป์พ้นื เมือง
(12.30-13.30น.)

19 สถานีอปั โหลดข้ึน 1 รำวงพน้ื เมือง
เวบ็ ไซต์

20 สถานอี ปั โหลดข้นึ 1 การละเล่นพ้ืนบ้าน
เวบ็ ไซต์




Click to View FlipBook Version