แผนการจัดการเรียนรู้ป.5

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 สิ่งมีชีวติ 11 ชวั่ โมง

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เรอื่ ง โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวติ (2) เวลา 1 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5

วนั ที่ 26 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 ผูส้ อน นางสาว ศุภลักษณ์ ใบสนธิ์

โรงเรยี นบา้ นขุนฝาง ตำบล ขุนฝาง อำเภอ เมือง จังหวัด อตุ รดติ ถ์ คะแนนเก็บ 10 คะแนน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ

สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาส่งิ แวดล้อม
รวมทัง้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชีว้ ดั
ว 1.3 ป.5/1 บรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของสง่ิ มีชีวติ ทเี่ หมาะสมกบั การดำรงชีวติ ซึ่งเปน็ ผลมา
จากการปรับตวั ของสงิ่ มีชีวิตในแตล่ ะแหล่งที่อยู่
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. นกั เรยี นสามารถอธิบายโครงสร้างหรอื ลักษณะของสิง่ มีชวี ติ ที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวติ ใน
แหล่งทอ่ี ยู่ได้ (K)

2. นักเรยี นสามารถยกตัวอยา่ งสตั ว์กบั สิง่ แวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม (K)
3. นักเรยี นสามารถเขยี นลกั ษณะของส่ิงมีชีวิตได้เหมาะสมกับสงิ่ แวดล้อม (P)
4. มคี วามมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)
3. สาระสำคญั
ส่ิงมชี ีวติ ทั้งพชื และสัตวม์ ีโครงสร้างและลกั ษณะท่ีเหมาะสมในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ ซง่ึ เป็นผลมาจากการ
ปรับตัวของส่ิงมีชีวติ เพ่อื ดำรงชวี ติ และอยูร่ อดไดใ้ นแตล่ ะแหลง่ ท่อี ยู่
4. สาระการเรียนรู้
1. ลกั ษณะของสง่ิ มีชีวิตท่ีเหมาะสมกับส่ิงแวดลอ้ ม
2. โครงสรา้ งของพชื ท่ีเหมาะสมต่อการดำรงชวี ิตในแหล่งที่อยู่
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์

2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

7. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1) หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
2) ใบงานท่ี1 เรื่อง ยังชีพได้อยา่ งไร

8. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น

1) ครแู ละนกั เรยี นกลา่ วทกั ทายกนั และเล่นเกมเพ่ือเรยี กสมาธิก่อนเร่ิมเรยี น

ขน้ั จดั กิจกรรมการเรยี นรู้

จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวน(ทำนาย : สังเกต : อธิบาย ( Predict Observe Explain :

P O E ) ข้นั ตอนดังนี้

1) ครแู ละนกั เรียนกลา่ วทักทายกัน ทบทวนความรู้เดินในคาบทีผ่ ่านมาจากนน้ั เร่มิ ความรู้ใหม่ จากนั้น
นำเข้าสูบ่ ทเรียน โดยจัดกจิ กรรมแบบ Predict , Observe , Explain : P O E

1. ข้ันทำนาย ( Predict )
1) ครใู หค้ ำถามกับนักเรียนว่า “ทำไมสตั วถ์ งึ ต้องมกี ารปรับตวั ให้เข้ากบั สภาพแวดล้อม”
( แนวการตอบ : เป็นการปรบั ตวั ให้อยูร่ อดในการดำรงชีวิต)
2) ใหน้ ักเรยี นเขยี นสง่ิ ท่ีตวั เองทำนายลงใสส่ มดุ ของแตล่ ะคน

2. ขนั้ สงั เกต ( Observe )
1) ครูให้นกั เรียนทำการสบื ค้นหาความร้เู พิ่มเติมผ่านเทคโนโลยีหรือหนังสือ เพื่อหาคำตอบว่า

เปน็ ไปตามสงิ่ ทีน่ กั เรียนทำนายไว้หรอื ไม่
3. ขน้ั อธิบาย ( Explain )

1) ให้นักเรียนอธิบายผลที่เกิดจริง ซึ่งผลเกิดขึ้นจริงอาจตรงกับที่ทำนายไว้ทั้งหมด
หรอื บางสว่ น ครใู หน้ กั เรยี นวิเคราะห์หาสาเหตุ และสรุป เก่ียวกบั สิง่ ท่ีนกั เรยี นไดจ้ ากกจิ กรรมนี้

2) ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกยี่ วกับ โครงสร้างของสตั วท์ ่ีเหมาะสมตอ่ การดำรงชีวิตในแหละที่อยู่
3) ครใู หน้ ักเรยี นทำงานที่1 ยงั ชีพได้อย่างไร
4) ครกู บั นักเรียนร่วมกนั อภิปรายเพื่อลงขอ้ สรปุ
9. สือ่ การสอน
1) หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5เล่ม 2
2) PowerPoint เร่ือง โครงสร้างของพชื ทเี่ หมาะสมต่อการดำรงชวี ติ ในแหล่งทอ่ี ยู่

10. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวัด เครื่องมืดวัด เกณฑ์การประเมนิ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ -ปฏบิ ตั ติ าม  - ใบงานท1ี่ - ทำใบกิจกรรมได้
ถูกต้องรอ้ ยละ 80
1) นกั เรียนสามารถยกตัวอยา่ ง ใบงาน  - คำถาม - ตอบคำถามได้
พชื กับสง่ิ แวดลอ้ มได้อย่าง ถกู ต้อง
เหมาะสม (K) -ตอบคำถาม
2) นักเรียนสามารถยกตวั อยา่ ง
สัตว์กับส่ิงแวดล้อมไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม (K)

2) นกั เรยี นสามารถเขียน - ผลงาน  - แบบประเมินผล -ได้คะแนนรูบริคส์
ลักษณะของส่ิงมชี ีวิตได้ -สงั เกต งาน ตัง้ แต่ 2 ขน้ึ ไป
เหมาะสมกบั สิ่งแวดลอ้ ม (P)
3) มคี วามม่งุ มันในทำงาน (A) 4 (ดมี าก) -แบบสังเกต -ไดค้ ะแนนรูบรคิ ส์
ตั้งแต่ 2 ข้นึ ไป
เกณฑ์การประเมนิ ผลรูบรคิ ส์
ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรุง)
ประเด็นการประเมนิ 3 (ด)ี 2 (พอใช)้

1) นักเรยี นสามารถ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึน้ ไป
ยกตวั อย่างพชื กบั สิง่ แวดล้อม
ได้อยา่ งเหมาะสม (K)

2) นกั เรียนสามารถ
ยกตวั อยา่ งสตั ว์กบั ส่งิ แวดล้อม
ได้อย่างเหมาะสม (K)

2.) นกั เรียนสามารถเขยี น - มีคณุ สมบัติ 4 - มีคณุ สมบตั ิ 3 - มีคณุ สมบตั ิ 2 - มคี ุณสมบัติ 1
ลักษณะของส่ิงมีชีวติ ได้ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ
เหมาะสมกบั สง่ิ แวดลอ้ ม (P) คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ
คณุ ภาพ
1. การพดู คล่องแคล่ว - มีคณุ สมบัติ 4 - มีคณุ สมบตั ิ 3 - มคี ณุ สมบัติ 2 - มีคุณสมบัติ 1
2. ออกเสียงชัดเจน ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั
3. มไี หวพรบิ ในการสังเกต คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ
4. เขียนสะกดคำได้ถกู ต้อง

3. มคี วามมุ่งมัน่ ในการทำงาน
(A)
คณุ ภาพ
1. มรี ว่ มในการเรยี นรู้
2. ตง้ั ใจทำงาน







เกณฑใ์ นการตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทั้งหมด

กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ทกุ ดา้ นเปน็ 4 ระดบั คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ

กำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพดีมาก 17 – 18 คะแนน

ระดับคุณภาพดี 14 – 16 คะแนน

ระดับคุณภาพพอใช้ 10 – 13 คะแนน

ระดับคุณภาพปรับปรงุ น้อยกว่า 10 คะแนน









แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 ส่ิงมีชีวิต 11 ชว่ั โมง

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เรือ่ ง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมชี ีวติ กบั สิ่งมชี วี ติ เวลา 1 ชั่วโมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5

วนั ท่ี 29 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 ผ้สู อน นางสาว ศุภลกั ษณ์ ใบสนธิ์

โรงเรยี นบา้ นขนุ ฝาง ตำบล ขนุ ฝาง อำเภอ เมือง จังหวัด อุตรดติ ถ์ คะแนนเกบ็ 10 คะแนน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต

กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายขอ งประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม
รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวช้วี ดั
ว 1.3 ป.5/2 อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต
กบั สงิ่ ไม่มีชวี ติ เพอ่ื ประโยชนต์ ่อการดำรงชีวิต
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1.นักเรยี นสามารถระบคุ วามสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งมชี วี ติ ในระบบนเิ วศได้ (K)
2. นกั เรียนสามารถยกตัวอยา่ งความสัมพันธร์ ะหว่างสิง่ มีชีวิตในระบบนิเวศได้ (K)
3.นกั เรียนสามารถสบื ค้นขอ้ มูลเก่ยี วกับความสมั พันธร์ ะหว่างสง่ิ มีชวี ติ ในระบบนิเวศได้ (P)
4. มคี วามมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A)
3. สาระสำคญั
ในแหลง่ ที่อย่หู น่ึงๆสิ่งมีชีวิตจะมีความสัมพันธ์ซ่ึงกันและกันและสัมพันธ์กับสิง่ ไม่มีชีวติ เพื่อประโยชน์
ต่อการดำรงชีวติ เช่นความสัมพันธก์ ันดา้ นการกินกนั เป็นอาหารเป็นแหลง่ ท่ีอยู่อาศยั หลบภัยและเลี้ยงดูลูกอ่อน
ใช้อากาศในการหายใจ
4. สาระการเรยี นรู้
ความสัมพนั ธ์ในสิ่งแวดล้อม ทอ่ี ย่รู อบตวั เรามีทัง้ มีชีวติ และไมม่ ีชวี ิต
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด

6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มจี ติ วทิ ยาศาสตร์
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน

7. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู
1) หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั จดั กิจกรรมการเรียนรู้

จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวน (ทำนาย : สังเกต : อธิบาย ( Predict Observe Explain :
P O E ) ขน้ั ตอนดงั น้ี

1) ครแู ละนักเรยี นกล่าวทักทายกัน ทบทวนความรู้เดนิ ในคาบทผี่ ่านมาจากนั้นเริ่มความรู้ใหม่ จากน้ัน
นำเขา้ สู่บทเรียน โดยจัดกิจกรรมแบบ Predict , Observe , Explain : P O E

2) นักเรียนกล่าวทักทายกัน ทบทวนความรู้เดิมในชั่วโมงที่ผ่านมาจากนั้นเริ่มความรู้ใหม่ แล้วแจ้ง
จุดประสงค์การเรียนรู้ที่จะเรียนในวันนี้ให้นักเรียนทราบ จากนั้นนำเข้าสู่บทเรียน โดยจัดกิจกรรมแบบ
Predict Observe Explain : P O E
1) ข้ันทำนาย (Predict)

1) ครูเปิดวิดโิ อ ความสมั พนั ธ์ในสิง่ แวดลอ้ ม ใหน้ ักเรียนดู จากนั้นครใู ชค้ ำถามกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนแต่ละ
คนทำนายวา่ ในวิดโิ อท่ผี ่านมามสี ิ่งมชี ีวิตอะไรบา้ ง และสิ่งไมม่ ีชีวิตมอี ะไรบา้ ง พร้อมยกตวั อย่างความสัมพันธ์ใน
รูปแบบต่างๆเพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตแบบใด (แนวการตอบ: สิ่งมีชีวิต นก คน สุนัข ปลา ไส้เดือน
สิ่งไมม่ ชี ีวิต แมน่ ้ำ อากาศ หิน เรอื ความสัมพนั ธ์ นก หาไสเ้ ดือนให้ลกู กินเป็นอาหาร คนหาปลากินเปน็ อาหาร)

2) ให้นักเรียนเขียนสงิ่ ที่ตัวเองทำนายลงใสส่ มุดของแตล่ ะคน
2) ขัน้ สังเกต ( Observe )

1) นักเรียนสืบคน้ หาความรู้เพ่ิมเตมิ ผ่านเทคโนโลยีหรอื หนงั สือ เพอื่ หาคำตอบว่าเป็นไปตามส่ิงท่ี
นกั เรียนทำนายไวห้ รอื ไม่
3) ขน้ั อธิบาย ( Explain )

1) ให้นกั เรยี นอธิบายผลที่เกดิ จริง ซ่ึงผลเกิดขนึ้ จริงอาจตรงกบั ที่ทำนายไว้ท้ังหมดหรือบางส่วน ครูให้
นักเรยี นวเิ คราะห์หาสาเหตุ และสรปุ เกยี่ วกบั สิ่งท่ีนกั เรียนไดจ้ ากกิจกรรมนี้

2) อธิบายเพิม่ เตมิ เกย่ี วกบั ความสมั พนั ธใ์ นส่ิงแวดลอ้ ม
3) นกั เรียนและครูรว่ มกันอภิปรายเพื่อลงข้อสรุป
9. สือ่ การสอน
1) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ป. 5 เลม่ 2
2) PowerPoint เรอื่ ง ความสมั พนั ธใ์ นสิง่ แวดลอ้ ม

10. การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวัด เคร่ืองมืดวดั เกณฑก์ ารประเมิน
- ทำใบกิจกรรมไดถ้ ูกต้อง
จุดประสงค์การเรยี นรู้ -ปฏิบตั ติ าม  - ใบงานท1่ี รอ้ ยละ 80
- ตอบคำถามได้ถกู ต้อง
1)นักเรียนสามารถระบุ ใบงาน  - คำถาม
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ มชี วี ิต -ไดค้ ะแนนรูบริคส์ตัง้ แต่ 2
ในระบบนิเวศได้ (K) -ตอบคำถาม ขน้ึ ไป
2. นักเรียนสามารถยกตัวอยา่ ง
ความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่งิ มชี วี ติ - ผลงาน  - แบบประเมนิ ผล -ไดค้ ะแนนรบู รคิ สต์ ัง้ แต่ 2
ในระบบนเิ วศได้ (K) -สังเกต งาน ขึ้นไป

2) นกั เรียนสามารถสบื คน้ ข้อมูล -แบบสงั เกต
เกย่ี วกบั ความสมั พันธ์ระหว่าง
ส่ิงมชี ีวิตในระบบนิเวศได้ (P)

3) มคี วามมงุ่ มันในทำงาน (A)

เกณฑ์การประเมินผลรบู ริคส์ 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ 1 (ปรับปรงุ )
3 (ด)ี 2 (พอใช)้
ประเดน็ การประเมนิ - มีคุณสมบตั ิ 1 ใน
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป 4 ของระดับ
1)นักเรยี นสามารถระบุ คณุ ภาพ
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชวี ิต - มีคุณสมบัติ - มคี ณุ สมบตั ิ 3 - มคี ุณสมบตั ิ 2
ในระบบนเิ วศได้ (K) - มคี ุณสมบตั ิ 1 ใน
4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ 4 ของระดับ
2) นักเรียนสามารถยกตวั อย่าง คุณภาพ
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่ิงมชี ีวติ ระดับคุณภาพ คณุ ภาพ คณุ ภาพ
ในระบบนเิ วศได้ (K)
2.) นักเรียนสามารถสืบค้น - มีคุณสมบตั ิ - มีคณุ สมบัติ 3 - มีคณุ สมบตั ิ 2
ข้อมลู เกีย่ วกับความสัมพันธ์
ระหว่างส่งิ มีชวี ติ ในระบบนเิ วศ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ
ได้ (P)
คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ คุณภาพ คุณภาพ
1. การพดู คล่องแคล่ว
2. ออกเสยี งชดั เจน
3. มไี หวพริบในการสงั เกต
4. เขียนสะกดคำได้ถกู ต้อง
3. มีความมุ่งม่นั ในการทำงาน
(A)
คุณภาพ
1. มีร่วมในการเรยี นรู้
2. ต้งั ใจทำงาน







เกณฑใ์ นการตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทั้งหมด

กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ทกุ ดา้ นเปน็ 4 ระดบั คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ

กำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพดีมาก 17 – 18 คะแนน

ระดับคุณภาพดี 14 – 16 คะแนน

ระดับคุณภาพพอใช้ 10 – 13 คะแนน

ระดับคุณภาพปรับปรงุ น้อยกว่า 10 คะแนน







แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ส่ิงมีชีวติ 11 ช่วั โมง

รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา 15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เรื่อง โซ่อาหาร เวลา 1 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5

วันท่ี 7 เดือน ธนั วาคม พ.ศ. 2564 ผูส้ อน นางสาว ศภุ ลักษณ์ ใบสนธิ์

โรงเรยี นบา้ นขุนฝาง ตำบล ขนุ ฝาง อำเภอ เมือง จังหวัด อุตรดติ ถ์ คะแนนเก็บ 10 คะแนน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ

สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายขอ งประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมแนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสงิ่ แวดล้อม
รวมทงั้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวชวี้ ดั
ว 1.1 ป.5/3 เขียนโซอ่ าหารและระบุบทบาทหนา้ ท่ขี องส่ิงมชี วี ติ ทเี่ ปน็ ผผู้ ลิตและผ้บู รโิ ภคในโซอ่ าหาร
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1.อธิบายความสัมพันธข์ องสิง่ มชี ีวิตกับส่ิงมชี วี ติ ในรูปแบบโซ่อาหารและสายใยอาหารได้ (K)
2. เขยี นโซ่อาหารในรูปแบบแผนภาพได้ (P)
3. มีความมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)
3. สาระสำคัญ
สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ต้องการพลังงานเพื่อการดำรงชีวิต และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งพลังงานนี้สิ่งมีชีวิต
จะได้จากการกินอาหาร โดยในแต่ละแหล่งที่อยู่สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่รวมกันจะมีความเกี่ยวข้อง
สัมพันธ์กนั ในดา้ นการกนิ อาหาร และมกี ารถ่ายทอดพลงั งานต่อกันเป็นทอด ๆ ในรปู แบบของโซ่อาหาร
4. สาระการเรยี นรู้
สิ่งมีชีวิตมีการกินกันเป็นอาหาร โดยกินต่อกันเป็นทอดๆ ในรูปแบบของโซ่อาหาร ทำให้สามารถระบุ
บทบาทหนา้ ทข่ี องสงิ่ มชี วี ติ เปน็ ผู้ผลิตและผบู้ รโิ ภค
5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มจี ิตวิทยาศาสตร์
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

7. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้)
1) หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2
2) ใบงานเขียนโซ่อาหารแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างส่ิงมชี วี ติ

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน

1) ครูและนักเรียนกล่าวทักทายกัน
2) ครกู ระตุ้นความสนใจของนักเรยี นก่อนทจ่ี ะเรยี นในวันนี้ โดยการตัง้ คำถามเพอื่ กระตนุ้ ความคิด
ให้กับนักเรยี นเกี่ยวกับการกินอาหารของสตั ว์ เชน่

1) กระต่ายกนิ อะไร เปน็ อาหาร
(แนวตอบ กินหญา้ หรอื ผัก)

2) ถวั่ หนู และแมว ใครกินใคร
(แนวตอบ หนกู ินถ่วั เปน็ อาหาร และแมวกนิ หนูเปน็ อาหาร)

ขัน้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ขัน้ ตอนดงั น้ี

1) ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1) ครูให้นักเรียนดูภาพสัตว์ที่เกี่ยวกับการอาศัยรวมกันของสัตว์และถามคำถามนักเรียนว่า

“นักเรียนทราบหรือไม่ว่าทั้ง ภาพนี้เป็นความสัมพันธ์ด้านอะไรเพราะอะไรถึงคิดแบบนัน้ ” ครูให้เวลานักเรียน
คดิ คำตอบของแต่ละคนเปน็ เวลา 3 นาที

2) ครูเปิด PowerPoint เรื่อง โซ่อาหาร ให้ความรู้ว่าโซ่อาหารมีความจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต เพราะว่า โซ่
อาหารจะทำให้เกิดการถ่ายทอดพลังงานจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปยังอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่ง จึงทำให้สิ่งมีชีวิตมีพลังงานท่ี
ใช้ในการดำรงชีวติ ตอ่ ไป)
2) ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration)

1) ให้นกั เรยี นอา่ นสาระสำคัญและดภู าพในหัวข้อการถา่ ยทอดพลงั งานของสิ่งมชี วี ติ จากหนังสือเรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนา้ 108 จากน้นั ถามนกั เรียนแล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันอธิบายคำตอบ ดังนี้

1) การถา่ ยทอดพลังงานของสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อมเกิดข้ึนจากอะไร (แนวตอบเกดิ ข้ึนจากการกินกัน
ของส่ิงมีชีวติ ในรปู แบบของโซอ่ าหาร)

2) องค์ประกอบของโซ่อาหารมีอะไรบ้าง จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันอธิบายคำตอบ (แนวตอบ
องค์ประกอบของห่วงโซอ่ าหาร คือ ผผู้ ลติ และผูบ้ ริโภค)

2) ครูเปิด PowerPoint เรื่อง โซ่อาหาร ให้นักเรียนดู จากนั้นถามคำถามกระตุ้นความคิดโดยให้
นักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายและหาคำตอบร่วมกัน เช่น โซ่อาหารมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร (แนวตอบ
โซ่อาหารมีความจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต เพราะว่า โซ่อาหารจะทำให้เกิดการถ่ายทอดพลังงานจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งไป
ยังอีกสงิ่ มีชวี ติ หนึง่ จงึ ทำให้ส่ิงมีชีวติ มพี ลังงานทใ่ี ชใ้ นการดำรงชวี ิตตอ่ ไป)

3) ครใู ห้นักเรียนช่วยกันวาดภาพตัวอย่างความสมั พนั ธข์ องสิง่ มีชีวติ ในท่งุ นาบนกระดานดำ

4) ครูให้นักเรียนช่วยกันอธิบายภาพความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในทุ่งนาที่นักเรียนวาดจากนั้นครูสรุป

ความร้วู ่า เราสามารถพบโซ่อาหารไดท้ ุกทีทม่ี สี งิ่ มีชีวิตอาศยั อยรู่ ว่ มกนั ในทุง่ นาทบี่ า้ นของเรา

5) ครแู จกใบงานใหน้ กั เรียนโซ่อาหารแสดงความสมั พนั ธ์ระหว่างส่งิ มีชวี ติ

3) ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)

1) ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมวา่ การท่ีสง่ิ มชี วี ิตหน่งึ กินสิ่งมชี วี ิตหนึ่งเป็นอาหาร โดยมีการกินต่อไปเป็นทอด ๆ

นี้เรียกว่า โซ่อาหารสิ่งมีชีวิตที่กินกันเป็นลำดับทำให้วงการส่งต่อพลังงานหรือถ่ายพลังงานซึ่งโซ่อาหารมี

ความสำคัญมากในการควบคุมปรมิ าณสตั ว์อกี ด้วย

2) ครูตั้งคำถามเพิ่มเติมว่า เราสามารถพบเห็นโซ่อาหารได้ที่ไหนบ้าง และให้นักเรียนยกตัวอย่างห่วง
โซ่อาหารมา 1 ตวั อย่าง
4) ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)

ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ ว่า สตั วส์ รา้ งอาหารเองไม่ได้ต้องอาศยั การกินพชื หรือกนิ สตั ว์หรือกินท้ังพืชและสัตว์
เราเรยี กสตั วท์ ี่กินสตั วอ์ ืน่ วา่ ผู้ล่า และเรยี กสตั ว์ที่ถกู กนิ ว่า เหยื่อสตั ว์บางชนิดเปน็ ทง้ั ผู้ล่าและบางครั้งเป็นเดียว
ของสัตว์อ่นื
5) ขน้ั ประเมิน (Evaluation)

1) ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการทำกจิ กรรมหนา้ ชน้ั เรยี น

2) ครูตรวจสอบผลการทำใบงานเรอื่ ง โซอ่ าหารในสิง่ แวดล้อม
9. สอื่ การสอน

1) หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป. 6 เล่ม 2
2) PowerPoint เรอ่ื ง โซ่อาหาร

10. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั เคร่ืองมืดวดั เกณฑก์ ารประเมิน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ -ปฏิบตั ิตาม  - ใบงานท1ี่ - ทำใบกจิ กรรมได้
ถกู ต้องรอ้ ยละ 80
1) นักเรยี นสามารถอธบิ าย ใบงาน  - คำถาม - ตอบคำถามได้
ความสมั พนั ธข์ องสงิ่ มีชีวิตกบั ถูกต้อง
สงิ่ มีชวี ิตในรปู แบบโซอ่ าหาร -ตอบคำถาม
และสายใยอาหารได้ (K)

2) นกั เรยี นสามารถเขยี นโซ่ - การสังเกต - แบบการ -ไดค้ ะแนนรูบรคิ ส์
อาหารในรปู แบบแผนภาพได้ พฤติกรรม สังเกต ต้ังแต่ 2 ขึน้ ไป
(P) พฤติกรรม

3) มีความมุ่งมันในทำงาน (A) -สังเกต -แบบสงั เกต -ไดค้ ะแนนรบู ริคส์
ตงั้ แต่ 2 ข้ึนไป

เกณฑ์การประเมนิ ผลรบู ริคส์ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรบั ปรุง)
3 (ด)ี 2 (พอใช้)
ประเดน็ การประเมิน
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป
1.อธบิ ายความสัมพันธข์ อง
สิง่ มีชวี ติ กับส่งิ มชี ีวิตใน
รูปแบบโซ่อาหารและสายใย
อาหารได้ (K)

2) สามารถเขยี นโซ่อาหารใน - มคี ุณสมบัติ 4 - มคี ณุ สมบัติ 3 - มีคณุ สมบัติ 2 - มีคุณสมบตั ิ 1

รูปแบบแผนภาพได้ (P) ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ

คณุ ภาพ คุณภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ คณุ ภาพ

1. การพดู คล่องแคล่ว

2. ออกเสียงชดั เจน

3. มไี หวพรบิ ในการสังเกต

3. มีความมุง่ มนั่ ในการทำงาน - มคี ณุ สมบตั ิ 4 - มีคณุ สมบัติ 3 - มีคุณสมบัติ 2 - มคี ุณสมบัติ 1

(A) ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ

คณุ ภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ

1. มีร่วมในการเรียนรู้

2. ต้งั ใจทำงาน

เกณฑ์ในการตัดสินระดบั คุณภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมท้ังหมด

กำหนดระดบั คณุ ภาพผลการเรยี นรรู้ ่วมกนั ทุกดา้ นเปน็ 4 ระดับคือ ดมี าก ดี พอใช้ และปรับปรุง

กำหนดเกณฑ์ในการประเมินดงั นี้

ระดับคุณภาพดีมาก 17 – 18 คะแนน

ระดับคุณภาพดี 14 – 16 คะแนน

ระดบั คุณภาพพอใช้ 10 – 13 คะแนน

ระดับคณุ ภาพปรับปรงุ น้อยกว่า 10 คะแนน







เกณฑใ์ นการตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทั้งหมด

กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ทกุ ดา้ นเปน็ 4 ระดบั คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ

กำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพดีมาก 17 – 18 คะแนน

ระดับคุณภาพดี 14 – 16 คะแนน

ระดับคุณภาพพอใช้ 10 – 13 คะแนน

ระดับคุณภาพปรับปรงุ น้อยกว่า 10 คะแนน









แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 สิ่งมีชีวิต 11 ชั่วโมง

รายวชิ า วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า 15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เร่อื ง ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชีวิตกับสง่ิ ไม่มชี ีวติ เวลา 1 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5

วนั ที่ 3,8 เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. 2564 ผูส้ อน นางสาว ศุภลกั ษณ์ ใบสนธิ์

โรงเรยี นบา้ นขุนฝาง ตำบล ขุนฝาง อำเภอ เมือง จังหวัด อุตรดิตถ์ คะแนนเกบ็ 10 คะแนน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ

สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศควา มหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มแนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปญั หาสิ่งแวดล้อม
รวมทงั้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้วี ัด
ว 1.3 ป.5/2 อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างสง่ิ มชี ีวิตกับสงิ่ มีชวี ติ และความสัมพันธร์ ะหว่างสง่ิ มชี วี ิตกบั
ส่งิ ไมม่ ชี วี ติ เพ่ือประโยชนต์ อ่ การดำรงชวี ติ
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.นักเรียนสามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมชี วี ิตกบั ส่ิงไมม่ ีชวี ติ ในแหล่งที่อยเู่ ดยี วกัน (K)
2. นกั เรยี นสามารถยกตวั อย่างความสมั พันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มชี วี ติ กับไม่มสี งิ่ มชี วี ิตได้ (K)
3. นักเรียนสามารถสำรวจความสมั พนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มีชวี ติ กับสิ่งไมม่ ีชวี ิตในแหลง่ ทอ่ี ยเู่ ดยี วกันได้ (P)
4 . มีความมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A)
3. สาระสำคญั
ในแหลง่ ทอ่ี ยู่หน่ึงๆสง่ิ มีชีวิตจะมีความสัมพนั ธซ์ ่ึงกนั และกนั และสมั พันธ์กบั สิ่งไม่มีชวี ิตเพ่ือประโยชน์ต่อการ
ดำรงชวี ิตเช่นความสมั พันธก์ นั ด้านการกินกนั เป็นอาหาร เป็นแหลง่ ท่อี ยู่อาศยั หลบภยั และเลยี้ งดลู ูกออ่ น
ใช้อากาศในการหายใจ
4. สาระการเรยี นรู้
ส่งิ มชี ีวติ จะมคี วามสัมพนั ธ์กับสิง่ ไม่มชี วี ติ เพือ่ ประโยชน์ต่อการดำรงชีวติ เช่น อากาศทใ่ี ช้ในการหายใจ
ใช้ดินนำ้ และหนิ เปน็ ทีอ่ ยอู่ าศัยหรอื แหลง่ หลบภัย
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ

6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. มจี ติ วิทยาศาสตร์

2. ใฝ่เรยี นรู้

3. มุ่งมั่นในการทำงาน

7. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1) หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
2) ใบงานเร่ืองความสัมพนั ธข์ องส่ิงมชี ีวิตกับสง่ิ ไม่มชี ีวติ
8. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน

1) ครแู ละนกั เรียนกล่าวทักทายกนั และนั่งสมาธิกอ่ นเร่ิมเรียน

ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

จัดกจิ กรรมการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ขนั้ ตอนดังน้ี

1) ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement)

1) ครทู กั ทายกบั นักเรียน แล้วแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นร้ทู ี่จะเรียนในวนั น้ีให้นักเรยี นทราบ
2) กระตุ้นความสนใจของนกั เรียนก่อนท่ีจะเรียนในวันน้ี โดยการเล่น เกม บก นำ้ ดนิ ซ่งึ เป็นเกมท่ี

แสดงให้เห็นถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชวี ิตกับสงิ่ ไม่มชี ีวิตในสิ่งแวดล้อม ซ่งึ คำส่ังของเกมจะระบุแหลง่ ท่ีอยู่
อาศัย และผเู้ ล่นตอ้ งตอบสัตว์ท่ีอยูใ่ นแหล่งอาศยั ท่ีระบมุ า

3) อธิบายวิธกี ารเลน่ เกมบก นำ้ ดิน ให้นกั เรยี นฟัง จากนัน้ ให้เล่นเกม บก นำ้ ดิน ประมาณ 4-5 ครง้ั

โดยมวี ิธกี ารเลน่ เกม ดังน้ี

วธิ กี ารเลน่ เกม
1) นกั เรียนน่ังเปน็ วงกลม แล้วร้องวา่ บก นำ้ ดิน พร้อมทง้ั ปรบมือเปน็ จงั หวะไปเรื่อย ๆ
2) ครชู ี้น้วิ ไปทน่ี ักเรยี นหน่ึงคน จากนน้ั ให้นกั เรยี นหยุดรอ้ งเพลง
3) กำหนดแหล่งที่อยู่อาศัย 1 แหล่ง เช่น บก ซึ่งนักเรียนที่ถูกชี้จะต้องบอกชื่อสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแหล่ง
อาศยั ที่ครูกำหนดมา 1 ชนดิ
4) หากนักเรียนตอบช้า หรือตอบผิด ให้แยกนักเรียนคนนั้นออกมา เล่นเกมวนไปประมาณ 4-5 คร้ัง
สำหรับนักเรียนที่ตอบช้า หรือตอบผิดจะถูกลงโทษด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่ เต้นตามเพลง หรืออื่น ๆ ตาม
ความเหมาะสม
5) นกั เรียนจบั ฉลาก เพอื่ แบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุม่ จากนั้นให้นักเรยี นกลับไปน่ังประจำทขี่ องตน
6) ตั้งคำถามว่า “ตอนที่เล่นเกม บก น้ำ ดิน เราได้พูดถึงสิ่งมีชีวิตอะไรบ้าง และสิ่งไม่มีชีวิตอะไรบ้าง”
โดยใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามอย่างอิสระ
2) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration)

1) แบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็นกลุม่ กลุ่มละ 3-4 คน โดยแบ่งตามตัวเลขบนกระดาษ นกั เรียนทไ่ี ด้เลข
เหมอื นกันอยู่ดว้ ยกนั เหมือนกนั ให้อยู่ด้วยกัน
2) นักเรียนแต่ละกล่มุ สนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรใู้ นหวั ข้อ สง่ิ มชี วี ติ และสิ่งไม่มชี วี ติ ทบ่ี า้ นของฉัน บันทึก
ข้อมลู ลงในสมดุ ประจำตัว

3) นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สรุปและอภิปรายข้อมลู จากกิจกรรมแลกเปลยี่ นเรียนร้ใู นหัวขอ้ ส่งิ มีชวี ิตและ
สิ่งไมม่ ีชวี ิตที่บ้านของฉัน

ชั่วโมงท่ี 2

3) ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการศึกษาจากกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ สิ่งมีชีวิตและ

ส่งิ ไม่มชี วี ติ ที่บา้ นของฉัน
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบการนำเสนอผลงาน/ผลการทำกิจกรรม)
2) ต้งั คำถามเพ่อื กระตุ้นความคดิ โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ อภิปรายและหาคำตอบร่วมกนั วา่ “สิ่งมีชีวิต

และส่ิงไม่มีชวี ิต ในสงิ่ แวดล้อมมีความสมั พันธ์กนั หรือไม่ อย่างไร”
(แนวตอบ : มีความสัมพันธ์กัน โดยสิ่งมีชีวิตจะต้องอาศัยสิ่งไม่มีชีวิตในสิ่งแวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิต ในด้าน
แหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย แหลง่ หลบภัย และเป็นปจั จยั ท่สี ่งผลให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงโครงสรา้ งของสง่ิ มชี ีวิต)

3) อาสาสมัครนักเรียน 2 คน เพื่อสรุปผลการอภิปรายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับ
สิง่ ไมม่ ีชีวิตในส่ิงแวดล้อม จากนัน้ ครกู ลา่ วขอบคุณอาสาสมัครนักเรียน

4) นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยให้ร่วมกันศึกษาข้อมูลจากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง
สงิ่ มชี วี ติ กบั สงิ่ ไม่มีชวี ติ

(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ )
ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)

1) นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปรายและ
สรปุ ผลเก่ยี วกับความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่งิ มีชวี ติ กับสงิ่ ไม่มชี ีวิตในสิง่ แวดล้อม

(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบการนำเสนอผลงาน/ ผลการทำกจิ กรรม)
ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)

1) อาสาสมคั รนักเรยี น 3 คน ให้ยกตัวอย่างสิ่งมีชีวติ กับสิ่งไม่มีชีวิตในส่ิงแวดล้อมที่มีความสัมพันธ์กัน
ในดา้ นต่าง ๆ ดงั น้ี

• คนที่ 1 ใหย้ กตวั อยา่ งส่ิงมีชวี ิตและสง่ิ ไมม่ ชี ีวติ ท่ีมีความสมั พันธ์กันในด้านแหลง่ ทอี่ ยู่อาศัย 2
ตวั อย่าง

• คนที่ 2 ใหย้ กตัวอย่างสง่ิ มชี ีวิตและสง่ิ ไม่มชี ีวิตท่มี ีความสัมพันธ์กนั ในดา้ นแหล่งหลบภัย 2 ตวั อยา่ ง
• คนที่ 3 ให้ยกตวั อยา่ งส่งิ มีชวี ิตและสิ่งไม่มีชีวิตที่มีความสัมพันธ์กนั ในดา้ นการปรบั โครงสร้างและ

ลกั ษณะของส่ิงมีชวี ิต 2 ตัวอย่าง
2) นักเรยี นทำแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรทู้ ี่ 2 โดยให้นักเรียนเขียนลงในสมุดประจำตวั
3) นกั เรียนทำ ใบงานที่ 1 เรอื่ ง ความสมั พันธ์ระหว่างสง่ิ มีชีวิตกับส่ิงไม่มีชีวิตในท้องถนิ่ ของเรา โดย
มอบหมายใหท้ ำเป็นการบา้ นและนำมาส่งในชวั่ โมงถัดไป

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)

1) ประเมินผลนกั เรียน โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

พฤติกรรมการทำงานกลุม่ และจากการนำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าช้ันเรียน

2) ตรวจสอบผลการทำแบบฝึกพัฒนาการเรยี นรู้ที่ 2

3) ตรวจสอบผลการทำใบงานท่ี 1 เรื่อง ความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่ิงมชี ีวติ กบั ส่ิงไม่มชี วี ิตในทอ้ งถิ่นของเรา

4) นักเรยี นและครูสรปุ ความรจู้ ากการเรยี นจนไดข้ ้อสรปุ รว่ มกันวา่ “สงิ่ มีชวี ิตจะมคี วามสัมพันธก์ ับ

สง่ิ ไม่มชี วี ิตเพื่อประโยชนต์ ่อการดำรงชีวิต ในด้านแหล่งท่ีอยอู่ าศยั แหลง่ หลบภัย และเป็นปจั จยั ท่ีส่งผล

ใหเ้ กิดการเปลยี่ นแปลงโครงสร้างของสิง่ มชี ีวติ ”

9. ส่อื การสอน

1) หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ส่ิงมีชีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ ม
2) เกมบก ดิน น้ำ
3) สมุดประจำตวั
4) ใบงานท1่ี เร่ือง ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่ิงมีชวี ิตกบั สง่ิ ไม่มชี วี ติ ในท้องถิ่นของเรา

10. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครื่องมืดวดั เกณฑก์ ารประเมนิ

จุดประสงค์การเรยี นรู้ -ปฏิบัตติ าม  - ใบงานท1ี่ - ทำใบกจิ กรรมได้
ถูกต้องร้อยละ 80
1.นกั เรยี นสามารถอธิบาย ใบงาน  - คำถาม - ตอบคำถามได้
ความสัมพันธร์ ะหว่างส่งิ มีชวี ติ ถกู ต้อง
กับสง่ิ ไม่มีชีวิตในแหลง่ ที่อยู่ -ตอบคำถาม
เดียวกัน (K)
2.นักเรยี นสามารถยกตวั อย่าง
ความสัมพันธร์ ะหว่างส่ิงมีชีวติ
กบั ไม่มีส่ิงมชี ีวติ ได้ (K)

2.นักเรยี นสามารถสำรวจ - ผลงาน  - แบบประเมินผล -ไดค้ ะแนนรูบริคส์
ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ มชี ีวติ งาน ตั้งแต่ 2 ข้นึ ไป
กบั ส่ิงไม่มีชีวติ ในแหล่งที่อยู่
เดยี วกนั ได้(P) -สังเกต -แบบสงั เกต -ไดค้ ะแนนรบู รคิ ส์

3. มคี วามมงุ่ มนั ในทำงาน (A)

ตงั้ แต่ 2 ขน้ึ ไป

เกณฑ์การประเมนิ ผลรบู ริคส์ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ดี) 2 (พอใช)้
ประเดน็ การประเมนิ
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้ึนไป
1)นักเรียนสามารถอธบิ าย
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งส่งิ มีชีวติ
กับส่ิงไม่มชี วี ิตในแหล่งที่อยู่
เดียวกนั (K)
2) นักเรยี นสามารถยกตวั อยา่ ง
ความสมั พันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี วี ติ
กับไม่มสี ิ่งมชี วี ิตได้ (K)

2.) นักเรยี นสามารถสำรวจ - มคี ณุ สมบตั ิ - มคี ณุ สมบัติ 3 - มีคุณสมบัติ 2 - มีคุณสมบตั ิ 1
ความสมั พนั ธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวติ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดบั
กับสงิ่ ไม่มีชีวติ ในแหล่งที่อยู่ ระดับคุณภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ คณุ ภาพ
เดยี วกนั ได้(P)
คุณภาพ - มีคุณสมบตั ิ - มีคณุ สมบัติ 3 - มคี ุณสมบตั ิ 2 - มคี ุณสมบตั ิ 1
1. การพดู คล่องแคลว่ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั ใน 4 ของระดับ ใน 4 ของระดบั
2. ออกเสยี งชัดเจน ระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ คณุ ภาพ คุณภาพ
3. มีไหวพรบิ ในการสงั เกต
4. เขยี นสะกดคำได้ถกู ต้อง

3. มีความมุง่ ม่ันในการทำงาน
(A)
คณุ ภาพ
1. มรี ว่ มในการเรียนรู้
2. ต้ังใจทำงาน
3. สง่ งานครบตามเวลากำหนด
4. รบั ผดิ ชอบต่องานท่ีได้รับ
มอบหมาย

เกณฑ์ในการตัดสินระดับคุณภาพนกั เรียนจากคะแนนรวมทั้งหมด

กำหนดระดบั คณุ ภาพผลการเรยี นรรู้ ่วมกันทุกด้านเป็น 4 ระดับคือ ดมี าก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ

กำหนดเกณฑใ์ นการประเมินดังน้ี

ระดับคุณภาพดีมาก 17 – 18 คะแนน

ระดับคุณภาพดี 14 – 16 คะแนน

ระดับคุณภาพพอใช้ 10 – 13 คะแนน

ระดับคณุ ภาพปรับปรงุ นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน







เกณฑใ์ นการตัดสนิ ระดับคณุ ภาพนกั เรยี นจากคะแนนรวมทง้ั หมด

กำหนดระดับคุณภาพผลการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ทกุ ดา้ นเปน็ 4 ระดบั คือ ดีมาก ดี พอใช้ และปรบั ปรงุ

กำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดงั น้ี

ระดับคุณภาพดีมาก 17 – 18 คะแนน

ระดับคุณภาพดี 14 – 16 คะแนน

ระดับคุณภาพพอใช้ 10 – 13 คะแนน

ระดับคุณภาพปรับปรงุ น้อยกว่า 10 คะแนน







กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี