TAXONOMY
อนุกรมวิธาน
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง “อนุกรมวิธาน” เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วน
หนึ่งของวิชาชีววิทยา (ว33246) ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
ศึกษาความรู้ในอนุกรมวิธานของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ และเพื่อผู้ที่สนใจศึกษามี
ความรู้และความเข้าใจในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะ
เป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อผิดพลาดประการใด
คณะผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
5/01/2566
ลีลาวดี 1 ทองอุไร 9
กระดังงา 2 ดอกเข็ม 10
สังกรณี 3 นกกระยาง 11
เฟื่องฟ้า 4 สุนัข 12
บัวสาย 5 นกพิราบ 13
หญ้าดอกขาว 6 แมว 14
ต้นกันเกรา 7 มนุษย์ 15
ดอกพุด 8 บรรณานุกรม 16
ชื่อสามัญ ลีลาวดี
ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumeria rubra L.
ชื่ออื่น จงป่า (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) / จำปาขอม (ภาคใต้)
จำปาขาว (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) /
จำปาลาว (ภาคเหนือ) / ลั่นทม (ภาคกลาง)
ลักษณะ : ไม้พุ่ม สูง 3-6 เมตร ทุกส่วนมียางสี
ขาว ใบเดี่ยวออกเวียนสลับถี่ บริเวณปลายกิ่ง รูป
ใบหอกหรือใบหอกกลับ กว้าง 5-10 เซนติเมตร
ยาว 12-30 เซนติเมตร ปลายและโคนแหลม
ดอก มีหลายสีตั้งแต่สีขาว สีส้ม ชมพูเข้ม จนถึง
⁺ แดงเข้ม กลางดอกสีเหลือง หรือมีแถบสีเหลือง มี
ถิ่นกำเนิดแถบอเมริกากลาง ออกดอกตลอดปี
⊹
1
⌇
⌇
ชื่อสามัญ กระดังงา 2
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cananga odorata (Lamk.)
Hook.f. et Th.
ชื่ออื่น กระดังงา (ตรัง, ยะลา) / กระดังงาไทย กระดังงาใบ
ใหญ่ กระดังงาใหญ่ (ภาคกลาง) / สะบันงา
สะบันงาต้น (ภาคเหนือ)
ลักษณะ : ไม้ต้น สูง 10-20 ม. มีรอยแผลใบขนาดใหญ่กระจายอยู่
ทั่วไป กิ่งตั้งฉากกับลำต้นปลายย้อยลู่ลง ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรี
หรือรูปไข่ยาว ปลายแหลม โคนมนหรือเว้าและเบี้ยวเล็กน้อย ขอบ
เรียบหรือเป็นคลื่น ใบอ่อนมีขนทั้ง 2 ด้าน ใบแก่มักมีขนมากตาม
เส้นแขนงใบและเส้นกลางใบ ช่อดอกสั้น ออกห้อยรวมกันบนกิ่ง
เหนือรอยแผลใบ ช่อหนึ่งๆ มี 3-6 ดอก ดอกใหญ่ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ
รูปสามเหลี่ยม มีขน กลีบดอกเรียงสลับกัน 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ
โคนกลีบด้านในสีม่วงอมน้ำตาล ดอกอ่อนกลีบสีเขียว เมื่อแก่
เปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่นหอม เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก เกสรเพศ
เมียมีหลายอัน อยู่แยกกัน ผลเป็นผลกลุ่ม
ชื่อสามัญ สังกรณี
ชื่อวิทยาศาสตร์ Barleria strigosa Willd.
ชื่ออื่น กำแพงใหญ่ (เลย) ขี้ไฟนกคุ่ม (ปราจีนบุรี) หญ้า
หงอนไก่ หญ้าหัวนาค (เหนือ) กวางหีแฉะ (สุโขทัย)
ลักษณะ : ล้มลุกกึ่งไม้พุ่ม ลำต้น สูงประมาณ 80 ซม. ใบ เดี่ยว
เรียงตรงข้าม รูปไข่ โคนใบรูปลิ่มสอบเข้าหาก้านใบ ก้านใบยาว
มีขน ดอกช่อ เชิงลดออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง ยาว 5 ซม.มีใบ
ประดับรูปขอบขนาน ปลายแหลม กลีบเลี้ยงเรียงเป็น 2 วง วงนอก
เชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉก รูปข้าวหลามตัด แกมรูปไข่กลีบ
ดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอกยาวสีขาว ปลายผายออก
แยกเป็น สองปาก สีน้ำเงินอมม่วง ผล แห้งแตกได้ รูปกระสวยผิว
3 เกลี้ยงเป็นมัน
ชื่อสามัญ เฟื่องฟ้า
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bougainvillea spp.
ชื่ออื่น ดอกต่างใบ (กรุงเทพฯ) / ดอกกระดาษ
ดอกโคม (ภาคเหนือ) / ตรุษจีน (ภาคกลาง) /
เย่จื่อฮวา จื่อซานฮวา (จีนกลาง)
ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อยอายุยืนหลายสิบปี ⁺⁺
ขนาดตั้งแต่พุ่มเล็กถึงพุ่มใหญ่ มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่เหนือ
ใบ ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกสลับกับกิ่งหรือเยื้องกัน มีขนขึ้น 4
ปกคลุมเล็กน้อย มีสีเขียวหรือใบด่าง รูปร่างรีแหลมยาว 3-6
ซม. กว้าง 2.5 ซม. ใบประดับลักษณะคล้ายรูปหัวใจหรือรูปไข่
มี 3-5 ใบ มีหลายสีเช่น ม่วง แดง ชมพู ส้ม ฟ้า เหลืองและ
อื่นๆ ผู้พบเห็นทั่วไปมักเข้าใจว่าใบประดับคือดอก ดอกมีทั้ง
ดอกสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์เพศ
ชื่อสามัญ บัวสาย ลักษณะ : เป็นพืชน้ำ มีลำต้นใต้ดินคล้ายหัว
เผือก ใบเป็นใบเดี่ยวรูปเกือบกลมฐานใบหยัก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Nymphaea lotus Linn. ลึก ขอบใบจักแหลม ใบออกสลับถี่ ลอยบน
ชื่ออื่น บัวแดง, สัตตบรรณ, บัวสายสีชมพู, โกมุท, ผิวน้ำเรียงเป็นวง ดอกเป็นดอกเดี่ยว ขนาดใหญ่
มีก้านชูดอกยาว ดอกชูเหนือน้ำ มีกลีบเลี้ยง 4
ลินจง, เจตบุตร กลีบ กลีบดอกรูปรีแกมไข่จำนวนมาก เรียงซ้อน
กันหลายชั้น ผลกลมมีเมล็ดเล็ก ๆ จำนวนมาก
บัวสายมีหลายชนิด มีชื่อเรียกต่างๆ กัน ตามสีด
อก ขนาดดอก และลักษณะพิเศษอื่นๆ
5
ชื่อสามัญ หญ้าดอกขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Barleria strigosa Willd.
ชื่ออื่น หญ้าไม้กวาด, หญ้าลิเก
ลักษณะ : ล้มลุกกึ่งไม้พุ่ม ลำต้น สูงประมาณ 80
ซม. ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่ โคนใบรูปลิ่ม
สอบเข้าหาก้านใบ ก้านใบยาว มีขน ดอกช่อ เชิง
ลดออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง ยาว 5 ซม.มีใบ
ประดับรูปขอบขนาน ปลายแหลม กลีบเลี้ยงเรียง
เป็น 2 วง วงนอกเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นแฉก
รูปข้าวหลามตัด แกมรูปไข่กลีบดอกเชื่อมติดกัน
เป็นหลอดรูปทรงกระบอกยาวสีขาว ปลายผาย
ออกแยกเป็น สองปาก สีน้ำเงินอมม่วง ผล แห้ง
แตกได้ รูปกระสวยผิวเกลี้ยงเป็นมัน
6
⌇ ลักษณะ : ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ต้น
สูงประมาณ 15-20 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาล ผิว
⁺ เรียบ เมื่อลำต้นแก่จะแตกเป็นร่องลึกตามยาว
แก่นมีความแข็งแรง คงทน แตกกิ่งก้านมาก ใบ
เดี่ยวเรียงตรงข้าม ออกหนาแน่นที่ปลายยอด ใบ
รูปวงรี ขอบใบขนาน แผ่นใบเป็นคลื่นเล็กน้อย
เรียบเป็นมัน สีเขียวเข้ม ฐานใบมน หูใบยาว 0.1-
0.2 ซม. เส้นแขนงใบ 5-9 คู่ เห็นไม่ชัดเจน ดอก
ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกกลีบดอกสีขาวและ
เหลืองอ่อนจำนวน 5 กลีบ
ชื่อสามัญ ต้นกันเกรา ⌇ ⁺
ชื่อวิทยาศาสตร์ Fagraea fragrans
ชื่ออื่น มันปลา (ตะวันออกเฉียงเหนือ เหนือ) / ตราเตรา (เขมร) /
ปันปลา (กบินทร์) / ตำเสา ทำเสา (ใต้)
7
ชื่อสามัญ ดอกพุด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gardenia jasminoides.
ชื่ออื่น ดอกต้นพุดศุภโชค , ต้นพุดแคระ
ลักษณะ : พูดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย
ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ผิวลำต้นมีสีขาวเทาแตก
กิ่งก้านออกใบรอบต้น ใบเป็นใบเดี่ยว แตกออกเป็นคู่ตรงกัน
ข้ามออกตามข้อของกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปมนรี ปลายใบ
แหลม ผิวใบเรียบสีเขียว ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามปลายยอด
หรือปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมีดอกประมาณ 5-6 ดอก ซึ่งแล้วแต่ชนิด
พันธุ์ ดอกมีกลิ่นหอมสีขาว กลีบดอกซ้อนเป็นชั้น ๆ หรือเรียง
เป็นชั้นเดียวแล้วแต่ชนิดพันธุ์
8
ชื่อสามัญ ทองอุไร
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tecoma stans (L.) Kunth
ชื่ออื่น ดอกละคร(เชียงใหม่) / พวงอุไร(กทม.) /
สร้อยทอง(กทม./กลาง)
ลักษณะ : ไม้พุ่ม สูง 2-5 เมตร ไม่ผลัดใบ บางครั้งมี
ลักษณะเป็นพุ่มเรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่ เปลือกต้น
สีน้ำตาลอ่อน ประกอบแบบขนนก ปลายคี่ เรียงตรง
ข้ามกัน ใบย่อย 5-13 ใบ รูปใบหอกหรือรูปไข่แกมรูป
ขอบขนาน กว้าง 2-3 ซม. ยาว 3-8 ซม. ปลายใบแหลม
โคนใบสอบ ใต้ใบมีขนละเอียด ขอบใบจักฟันเลื่อย
ดอกสีเหลือง ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะแยกแขนงที่
ปลายกิ่ง กลีบดอกร่วงง่าย กลีบเลี้ยงรูปถ้วย ปลายแยก
เป็น 5 แฉก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว
3-4 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ คล้ายรูปแตร
9
ชื่อสามัญ ดอกเข็ม
ชื่อวิทยาศาสตร์ lxora chinensis Lamk.,
Ixora spp.
ชื่ออื่น เข็ม
ลักษณะ : เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดย่อม จะแตกกิ่ง
ก้านสาขาออกแผ่เป็นพุ่ม ใบของดอกเข็มแข็ง และเปราะง่าย
มีสีเขียวสด ลักษณใบมนรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ใบจะ
ออกเรียงสลับกันคนละทิศทาง ดอกออกเป็นช่อใหญ่ จะออก
ตรงส่วนยอดของต้น ในแต่ละช่อจะประกอบด้วยดอกขนาด
เล็กเป็นหลอด ตรงปลายหลอดจะเป็นกลีบซึ่งมีอยู่ 4-5 กลีบ
ปลายกลีบแหลม
10
◟
ชื่อสามัญ นกกระยาง ⊹
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ardea alba Linnaeus
◟ ชื่ออื่น —
ลักษณะ : นกกระยางเป็นนกขนาดใหญ่มีขนาดความ
ยาวลำตัวประมาณ 90 เซนติเมตร สีขาวตลอดตัว คอ
ยาว ปากยาว แหลมมีสีเหลือง ตาเหลือง ไม่มีเปีย ขา
และนิ้วเท้าดำ ในฤดูผสมพันธุ์มีขนประดับเป็นเส้นยาว ๆ
อยู่บนหลังและยาวเลยหางออกไปเล็กน้อย นกยางโทน
ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายกัน ในฤดูผสมพันธ์
⊹ ปากจะมีสีดำ
11
ชื่อสามัญ สุนัข
ชื่อวิทยาศาสตร์ Canis lupus familiaris
⁺ ชื่ออื่น —
⌇
ลักษณะ : เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิด ⌇⌇ ⁺
หลายสกุลในวงศ์ Canidae ออกลูกเป็นตัว ลำ ⁺
ตัวมีขนปกคลุม มีเขี้ยว 2 คู่ เท้าหน้ามี 5 นิ้ว เท้า
หลังมี 4 นิ้ว ซ่อนเล็บไม่ได้ มีหลายพันธุ์ เป็นสัตว์
เลี้ยงชนิดแรกของมนุษย์
12
ชื่อสามัญ นกพิราบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Columba livia Gmelin
ชื่ออื่น —
ลักษณะ : นกขนาดเล็ก-กลาง มีลักษณะกลมป้อม
หัวเทาเข้ม หลังและอกสีเข้มกว่า ปากหนาตรงสั้นสี
เทาดำปลายปากป่องเล็กน้อย ขนปกคลุมลำตัวสี
เทาเข้ม ปีกสีเทาอ่อน แถบปีกสีดำ หางยาวสีเทา
ปลายหางสีดำ ท้องสีเทา ขาแดง ตัวผู้มีขนาด
ใหญ่กว่าตัวเมีย คอเหลือบสีเขียวมากกว่า
13
ลักษณะ : เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อยู่ใน ชื่อสามัญ แมว
ตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโต
และเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือ ชื่อวิทยาศาสตร์ Felis catus
ไซบีเรียน (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลำตัว
ตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร ชื่ออื่น — ◟
แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก
ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่ม ◌
ของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและ
เล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียว
กับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาด
ใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคง
พบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน
⁺
⌇
14
ชื่อสามัญ มนุษย์ ลักษณะ : มนุษย์มีลักษณะพิเศษ คือ มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ Homo sapiens สมองใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัว โดยเฉพาะ
ชื่ออื่น — สมองชั้นนอก สมองส่วนหน้า และสมอง
กลีบขมับที่พัฒนาเป็นอย่างดี ทำให้มนุษย์
⌇⁺ สามารถให้เหตุผลเชิงนามธรรม ใช้ภาษา
⁺ พินิจภายใน (introspection) แก้ปัญหา
และสร้างสรรค์วัฒนธรรมผ่านการเรียนรู้ทาง
⌇ สังคม ความสามารถทางจิตใจของมนุษย์นี้
ประกอบกับการปรับตัวมาเคลื่อนไหวสอง
เท้าซึ่งทำให้มือว่างจัดการจับวัตถุได้ ทำให้
มนุษย์สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องมือได้ดีกว่า
สปีชีส์อื่นใดบนโลกมาก มนุษย์ยังเป็นสปีชี
ส์เดียวเท่าที่ทราบที่ก่อไฟและทำอาหารเป็น
สวมใส่เสื้อผ้า และสร้างสรรค์ รวมถึงมี
ความสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีและศิลปะ
อื่น ๆ
15
1. http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/kpb_01-9.htm
2. http://www.rspg.or.th/plants_data/plantdat/annonace/codora_1.htm
3. https://apps.phar.ubu.ac.th/phargarden/main.php?
action=viewpage&pid=289
4. https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?
nu=pages&page_id=1774&code_db=610010&code_type=01
5. https://www.ricethailand.go.th/rkb3/title-index.php-
file=content.php&id=4-4.htm
6. https://sites.google.com/site/wachiratham60601/home/tn-phud
7. http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/khem.htm
8. https://www.scimath.org/image-biology/item/9539-2018-11-30-07-37-40
9. http://www.wachum.com/dewey/500/cat11.htm
10.https://www.happinessbangsaotong.com/index.php/columbidae-001/
16
Prreesse
ennt t
คุณครูนลินรัต
น์ งามเชื้อชิต
Suubbmmitittetded bbyy
พัชราภรณ์27 ศรัญญา29 สุปรียา31 พัชราภา38