หลักการของ CAT Method งานด้าน Red cell serology เป็ นการตรวจหาปฏิกิริยาระหว่างแอนติเจน (antigen) กับแอนติบอดี (antibody) ซึ่งแสดงออกโดยการจับกลุ่ม (agglutination) และการแตกของเม็ดเลือดแดง (hemolysis) ทั ้งนี ้ แอนติบอดีจะทา ปฏิกิริยากับแอนติเจนบนเม็ดเลือดแดงในสารตัวกลาง (medium) ในหลอดทดลอง แต่สาหรับ BioVue method ปฏิกิริยาจะเกิดใน microcolumn ขนาดเล็ก ซึ่งเรียกว่า Column Agglutination technology (CAT) ภายในมีสารตัว กรอง (filter) คือเม็ดแก้ว (Glass bead) เมื่อเติมเม็ดเลือดแดงกับแอนติซีรัมที่ต้องการทดสอบ ลงบนผิวของ Glass bead รอให้เกิดปฏิกิริยาแล้วจึงปั่น ความแรงของการปั่นจะทาให้เม็ดเลือดแดงทั ้งหมด ตกสู่ ก้นหลอด ถ้ามีการจับกลุ่ม จะสามารถแยกความแรง ของปฏิกิริยาการจับกลุ่มเป็ น 4+, 3+, 2+,1+ และ mix field ตามขนาดของกลุ่มเม็ดเลือดที่ ค้างอยู่ใน Glass bead Column Agglutination Technology (CAT) เป็ นหลักการที่พัฒนาขึ ้นเพื่อให้การอ่านผลของปฏิกิริยา Agglutiantion มี มาตรฐาน และหลักเกณฑ์เดียวกัน ทดสอบได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย โดยเฉพาะ antiglobulin test ของวิธีนี ้ ไม่จาเป็ น ต้องมีขั ้นตอนการปั่นล้างเซลล์ เนื่องจากมี glass bead เป็ นตัวแยก (Separator) เม็ดเลือดแดง ที่ไม่เกิดปฏิกิริยา (unsensitized red cell) ออกจากเม็ดเลือดแดงที่เกิดปฏิกิริยาจับกับแอนติบอดีที่จาเพาะ (sensitized red cell) และ อ่านผลด้วยตาได้ทันที
ORTHO BioVue Cassettes ชุดทดสอบมีประมาณ 16 ชนิด โดยแยกชนิดตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ดังภาพด้านล่าง มีน้ายาบรรจุใน microcolumn ที่เป็ นพลาสติก (Hydrophobic plastic) ขนาด 5.5x6.5 ซม. โดย 1 cassette มี6 microcolumn ภายใน มีGlass bead, บัฟเฟอร์และน้ายา (reagent) และปิ ดผนึกด้วยแผ่นอลูมิเนียม (Aluminium sheet) FRONT LABEL BACK LABEL Cassette Lot Number & Expiry date Sample Identification Cassette barcode Test Identification
การใช้งานเครื่อง Ortho Work Station
ภาพแสดงส่วนประกอบของเครื่อง 1. Centrifuge Rotor 9. Incubator Temperature Status Display 2. Centrifuge Cassette Holder 10. Power cord and Fuse Assembly 3. Centrifuge Time LED Display 11. Incubator Time LED Display 4. Centrifuge RPM LED Display 12. Incubator Block 5. Centrifuge Time Button 13. Incubator Lid 6. Centrifuge Stop Button 14. Centrifuge Lid 7. Incubator Timer Up/Down Buttons 15. Balance cassette Holder 8. Incubator Start/Stop Button 16. Centrifuge Lid Latch
อธิบายหน้าจอการใช้งาน หน้าจอ D1 จอแสดงเวลาของการปั่น centrifuge D2 จอแสดงผลรอบของความเร็วในการปั่นของ Centrifuge (RPM), และปุ่ มแสดงผลการเกิดความ ผิดพลาด Error D3 จอแสดงผลปุ่ มStart ของ centrifuge D4 จอแสดงผลปุ่ มStop ของ centrifuge ปุ่ มกด K1, K2 ปุ่ มเพิ่มเวลา incubate K3, K4 ปุ่ มลดเวลา incubate K5, K6 ปุ่ ม START / STOP เริ่มจับเวลา/หยุดเวลานับถอยหลัง K7, K8 จอแสดงผลรอบของความเร็วในการ Incubate (Sec), และจอแสดงผลการเกิดความผิดพลาด Error เครื่อง Ortho Work Station Heat Block ได้ตั ้งโปรแกรมมาแล้วจากบริษัท โดยใช้อุณหภูมิในการ incubate 37o C+/-2 o C และใช้เวลาในการ incubateโดยเฉลี่ย 15 นาที D1 D2 D3 D4 K1 K3 K5 K2 K8 K7 K4 K6 D4
วิธีการใช้งานส่วนของ ORTHO WORK STATION สําหรับ Heat Block เพื่อทําการทดสอบ 1. เปิ ดเครื่อง กดปุ่ ม ON ที่ ON/OFF switch ด้านหลังเครื่อง 2. รอให้เครื่องทําอุณหภูมิให้ได้37 o C ประมาณ 5 นาทีโดยตรวจสอบอุณหภูมิได้จากสัญลักษณ์รูปปรอทที่แสดงบน เครื่อง หากอุณหภูมิไม่อยู่ในช่วงที่กําหนดจะมีไฟกระพริบสีแดงและหากอุณหภูมิเหมาะสมจะเปลี่ยนเป็ นไฟสีเขียว 3. เปิ ดฝาเครื่อง Heat Block 4. ใส่cassette ลงในช่องสาหรับ incubate 5. ปิ ดฝาเครื่องHeat Block ไว้ตลอดเวลาเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่ 6. กดปุ่ ม START/STOP เพื่อเริ่มจับเวลาถอยหลัง 15 นาทีโดยหน้าจอจะแสดงเวลาถอยหลัง 7. เมื่อครบ 15 นาทีแล้ว เครื่องจะมีเสียงเตือนให้กดปุ่ ม START/STOP เพื่อหยุดการIncubate หากผู้ใช้งานไม่กดปุ่ ม START/STOP เวลาที่แสดงที่หน้าจอจะเริ่มนับขึ ้นเพื่อแสดงระยะเวลาที่เกินกว่า15นาทีตามข้อกําหนดทําให้ทราบเวลา Incubate ที่แท้จริง 8. เปิ ดฝาเครื่อง Heat Block 9. นํา cassette ออกจาก Heat Block หมายเหตุระยะเวลาในการ Incubate ที่เหมาะสมโดยเฉลี่ยคือ15 นาทีแต่ไม่เกิน 30 นาทีเป็ นระยะเวลาที่ Antigen และ Antibodyทาปฏิกิริยาโดยสมบูรณ์หากช่วงเวลาในการ Incubate เกินกว่าที่ทางบริษัทกาหนดอาจส่งผลให้ Antibody บางระบบที่ทาปฏิกิริยาได้ดีในช่วงเวลาดังกล่าวไม่สามารถตรวจพบได้หรืออาจส่งผลทาให้เกิดการระเหยของ ของเหลวภายใน columnจึงส่งผลต่อปฏิกิริยาดังกล่าว วิธีการใช้งานส่วนของORTHO WORK STATION สาหรับ Centrifuge เพื่อทาการทดสอบ 1. จอLED บนหน้าจอจะแสดงตัวเลข 5:00 ซึ่งเป็ นระยะเวลาที่ใช้ในการปั่นอ่านผลปฏิกิริยา 2. การเปิ ดฝาเครื่อง Centrifuge (Lid) จะต้องเลื่อนปุ่ ม Centrifuge Lid Latchไปทางซ้ายมือเพื่อปลดล็อค 3. ใส่cassette ลงใน ช่องใส่cassette (cassette holder) โดยใส่cassette ให้มีความสมดุลกันทั ้งสองด้าน หากจา เป็ นอาจใช้cassette เปล่ามาใส่เพิ่มเพื่อให้เกิดความสมดุล 4. ปิ ดฝาเครื่อง Centrifuge (Lid) 5. กดปุ่ ม START/RPM เครื่องจะล็อคฝาเครื่องและเริ่มทาการปั่น 6. เมื่อปั่นครบ 5 นาทีแล้วเครื่องจะหยุดหมุน พร้อมกับมีเสียงแจ้งเตือน 3 ครั ้ง 7. เมื่อต้องการนา Cassette มาอ่านผลต้องเปิ ดฝาเครื่องจะต้องเลื่อนปุ่ ม Centrifuge Lid Latch ไปทางซ้ายมือเพื่อ ปลดล็อค 8. นํา cassette ออกจากเครื่องcentrifugeและอ่านผลด้วยตา
การทดสอบหมู่เลือด (Blood Grouping) • ABO/Rh/Rvs cassette (CAT No.707155) ชุดทดสอบประกอบด้วย Column 1 : Blood grouping Reagent Anti-A Anti-A murine (IgM) monoclonal antibody blend (Clones MH04 และ3D3) Column 2 : Blood grouping Reagent Anti-B Anti-B murine (IgM) monoclonal antibody blend (Clones NB10.5A5 และ NB1.19) Column 3 : Blood grouping Reagent Anti-D Anti-D murine (IgM) monoclonal antibody (Anti-RH1) (Clones D7B8) Column 4 : Control ภายในบรรจุนํ ้ายา PEG ใช้ทดสอบเพื่อยืนยัน การอ่านผล Cells grouping Column 5 และ6 : Reverse Diluent ใช้เพื่อยืนยันผลการทดสอบหมู่เลือด ด้วยการทํา Reverse Grouping ขั้นตอนการทดสอบ 1. ใช้ชุดทดสอบ ABO/Rh/REV cassette โดยวางทิ ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้งานเสมอ 2. กําหนดเลขที่ของตัวอย่าง (Sample No.) ที่ช่องระบุตัวอย่างของชุดทดสอบ (ด้านที่มีบาร์โคด) 3. เตรียมตัวอย่างเลือด โดยการเจือจางด้วยนํ ้าเกลือให้เป็ น 3-5% red cells suspension (Packed red cell 50 uL + น้าเกลือ(NSS) 1 mL) 4. สําหรับการทํา reverse grouping ใช้Ortho 3 % Affirmagen red cells 4.1 ใช้ไปเปตดูด A1 cells 10 uL ใส่ลงใน reaction chamber ลําดับที่5 4.2 ใช้ไปเปตดูด B cells 10 uL ใส่ลงใน reaction chamber ลําดับที่6 5. ใช้ไปเปตดูด serum/plasma ของตัวอย่างใส่ลงใน reaction chamber ลําดับที่5 และ6 หลุมละ40 uL 6. ใช้ไปเปตดูดเลือดตัวอย่างที่เจือจางเป็ น 3-5% ใส่ลงใน reaction chamber ลาดับที่1,2,3,4 หลุมละ10 uL 7. นําชุดทดสอบไปปั่น (centrifuge) 5 นาทีโดยใช้Ortho Work Station 8. อ่านผลของปฏิกิริยาการตกตะกอน และ/หรือhemolysis ทั ้งด้านหน้าและด้านหลังในแต่ละ column 9. จดบันทึกผลการอ่าน reaction grading (0 ถึง 4+) โดยเปรียบเทียบผลการอ่านปฏิกิริยาจาก Reaction Grading Chart และสรุปผล blood grouping ที่ถูกต้อง หมายเหตุควรนําชุดทดสอบปั่นทันที(ภานใน 30 นาที) หลังจากการใส่ตัวอย่างและ reagent red cell เรียบร้อยแล้ว
• ABO/Rh DAT (Newborn Cassette)(CAT No.6901906) ชุดทดสอบประกอบด้วย Column 1 : Blood grouping Reagent Anti-A Anti-A murine (IgM) monoclonal antibody blend (Clones MH04 และ3D3) FD&C Blue No.1 Column 2 : Blood grouping Reagent Anti-B Anti-B murine (IgM) monoclonal antibody blend (Clones NB10.5A5 และ NB1.19) FD&C Yellow No.5 Column 3 : Blood grouping Reagent Anti-A,B Anti-A,B murine (IgM) monoclonal antibody blend Column 4 : Blood grouping Reagent Anti-D Anti-D murine (IgM) monoclonal antibody (Anti-RH1) (Clones D7B8) Column 5 : Control ภายในบรรจุนํ ้ายา PEG ใช้ทดสอบเพื่อยืนยันการอ่านผล Cells grouping Column 6 : Anti-Human Globulin Anti-IgG ภายในบรรจุนํ ้ายา Rabbit Anti-IgG เพื่อทดสอบ Direct Rabbit) (Green) Antiglobulin Testing (DAT) ขั้นตอนการทดสอบ 1. ใช้ชุดทดสอบ Newborn cassette โดยวางทิ ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้งานเสมอ 2. กําหนดเลขที่ของตัวอย่าง (Sample No.) ที่ช่องระบุตัวอย่างของชุดทดสอบ (ด้านที่มีบาร์โคด) 3. เตรียมตัวอย่าง Umbilical cord samples โดยการเจือจางด้วยนํ ้าเกลือให้เป็ น 3-5% red cells suspension (Packed red cell 50 uL + นํ ้าเกลือ(NSS) 1 mL) 4. ใช้ไปเปตดูดเลือดตัวอย่างที่เจือจางเป็ น 3-5% ใส่ลงใน reaction chamber ทุกหลุม หลุมละ10 uL 5. นําชุดทดสอบไปปั่น (centrifuge) 5 นาทีโดยใช้Ortho Work Station 6. อ่านผลของปฏิกิริยาการตกตะกอน และ/หรือhemolysis ทั ้งด้านหน้าและด้านหลังในแต่ละ column 7. จดบันทึกผลการอ่าน reaction grading (0 ถึง4+) โดยเปรียบเทียบผลการอ่านปฏิกิริยาจาก Reaction Grading Chart และสรุปผล blood grouping และ DAT ที่ถูกต้อง หมายเหตุควรนําชุดทดสอบปั่นทันที(ภานใน 30 นาที) หลังจากการใส่ตัวอย่างและ reagent red cell เรียบร้อยแล้ว
การตรวจกรองแอนติบอดี(Antibody Screening) เป็ นการตรวจหาแอนติบอดีในซีรัม โดยวิธีIndirect antiglobulin test (IAT) • Anti-Human Globulin polyspecific(CAT No.707350) ชุดทดสอบประกอบด้วย Column 1 – 6 : Anti-Human Globulin (AHG) Polyspecific Anti-Human Globulin IgG Rabbit Anti-C3b : F7G3 Mouse Anti-C3d : C4C7 Mouse ขั้นตอนการทดสอบ 1. ใช้ชุดทดสอบ Anti-Human Globulin (AHG) Polyspecific โดยวางทิ ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้งานเสมอ 2. กําหนดเลขที่ของตัวอย่าง (Sample No.) ที่ช่องระบุตัวอย่างของชุดทดสอบ (ด้านที่มีบาร์โคด) 3. ค่อยๆ ดึงแถบ foil ที่ปิ ดผนึกออกจานวน 2 หลุม สาหรับการทา Ab screening โดยใช้Ortho 0.8% Selectogen (2 cells) สําหรับตัวอย่าง 1 ราย 4. ใช้ไปเปตดูด Ortho 0.8% Selectogen ใส่ลงใน reaction chamber หลุมละ50 uL 5. ใช้ไปเปตดูด serum/plasma ของตัวอย่างใส่ลงใน reaction chamber ลําดับที่1 และ2 หลุมละ40 uL (หรืออาจ เป็ นหลุมลําดับถัดไป) 6. เขย่าชุดทดสอบเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากันดี(ควรระวังไม่ให้ส่วนผสมทั ้งหมดไหลลงไปที่นํ ้ายาด้านล่าง) 7. นําชุดทดสอบ Incubate ใน OWS ประมาณ 15 นาที(หรืออาจนานกว่านั ้น ไม่เกิน 30 นาที) 8. นําชุดทดสอบปั่น (centrifuge) ประมาณ 5 นาที 9. อ่านผลของปฏิกิริยาการตกตะกอน และ/หรือhemolysis ทั ้งด้านหน้าและด้านหลังในแต่ละ column 10. จดบันทึกผลการอ่าน reaction grading (0 ถึง 4+) โดยเปรียบเทียบผลการอ่านปฏิกิริยาจาก Reaction Grading Chart และสรุปผล Antibody Screening ที่ถูกต้อง
การตรวจ Crossmatching เป็ นการตรวจหาความเข้ากันได้ระหว่างเลือดผู้บริจาคและเลือดผู้ป่ วย โดยใช้วิธีIndirect antiglobulin test (IAT) • Anti-Human Globulin IgG ชุดทดสอบประกอบด้วย Column 1 – 6: Anti-Human Globulin (AHG) Anti-IgG Anti-Human Globulin IgG Rabbit ขั้นตอนการทดสอบ 1. ใช้ชุดทดสอบ Anti-Human Globulin (AHG) Anti-IgG โดยวางทิ ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้งานเสมอ 2. กําหนดเลขที่ของตัวอย่าง (Sample No.) ที่ช่องระบุตัวอย่างของชุดทดสอบ (ด้านที่มีบาร์โคด) และกําหนด เลขที่ของ Donor unit สําหรับ reaction column ที่ต้องการทา Crossmatching 3. ควรปั่ นล้าง Donor red cells ทุกราย อย่างน้อย 1 ครั้ง ก่อนที่จะเตรียมให้เป็ น 3 –5 % red cells suspension โดยใช้นํ ้าเกลือ(NSS) (Packed red cell 50 uL + นํ ้ากลือ(NSS) 1 mL) 4. ค่อยๆ ดึงแถบ foil ที่ปิ ดผนึกออกตามจานวนหลุมที่ต้องการทา crossmatching 5. ใช้ไปเปตดูดนํ ้ายา Ortho BLISS ใส่ลงใน reaction chamber หลุมละ50 uL 6. ใช้ไปเปตดูด 3 – 5 % Donor red cells ที่เตรียมไว้ใส่ลงใน reaction chamber หลุมละ10 uL 7. ใช้ไปเปตดูด serum/plasma ของตัวอย่างใส่ลงใน reaction chamber หลุมละ40 uL 8. เขย่าชุดทดสอบเบาๆให้ส่วนผสมเข้ากันดี(ควรระวังไม่ให้ส่วนผสมทั ้งหมดไหลลงไปที่นํ ้ายาด้านล่าง) 9. นําชุดทดสอบ Incubate ในOWS ประมาณ 15 นาที(หรืออาจนานกว่านั ้น ไม่เกิน 30 นาที) 10. นําชุดทดสอบปั่น (centrifuge) ประมาณ 5 นาที 11. อ่านผลของปฏิกิริยาการตกตะกอน และ/หรือ Hemolysis ทั ้งด้านหน้าและด้านหลังในแต่ละ column 12. จดบันทึกผลการอ่าน reaction grading (0 ถึง 4+) โดยเปรียบเทียบผลการอ่านปฏิกิริยาจาก Reaction Grading Chart และสรุปผล Crossmatch ที่ถูกต้อง
การแปลผล (Interpretation) • ปฏิกิริยาผลบวก (grading reaction 0.5 (W); 1+; 2+; 3+; 4+) พิจารณาจากการเกาะกลุ่มกันของเม็ดเลือด แดง ที่ปรากฏภายใน glass bead ของ column ภายหลังจากการปั่น • ปฏิกิริยาผลลบ จะพิจารณาจากที่เม็ดเลือดแดงรวมตัวกันอยู่บริเวณก้นหลุมของ column ภายหลังจากการปั่น • หากมีการแตกของเม็ดเลือดแดงจากการทาปฏิกิริยาใน Chamber และ/ หรือมีการเกาะกลุ่มกันของเม็ดเลือด แดง แปลผลเป็ นปฏิกิริยาผลบวก และหากไม่มีการแตกของเม็ดเลือดแดงจากการทําปฏิกิริยาใน Chamber และ/ หรือไม่มีการเกาะกลุ่มกันของเม็ดเลือดแดง แปลผลเป็ นปฏิกิริยาลบ • ในการอ่านผลและแปลผลของปฏิกิริยาต้องทําภายหลังจากการปั่นครั ้งแรกเท่านั ้น ห้ามปั่ นซํ้า เพื่ออ่านผลและ แปลผลซํ ้า • ควรทําการอ่านผลโดยดูปฏิกิริยาการเกาะกลุ่มทั ้ง ด้านหน้า และ ด้านหลัง ของแต่ละcolumn เนื่องจากอาจ เกิดปฏิกิริยาที่แรงอาจเกิดได้ชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง
คําแนะนําการแปลผลความแรงของการเกิดปฏิกิริยา Reaction grading 4+ เม็ดเลือดแดงทั ้งหมดจะเกาะกลุ่มกันเป็ นแถบบริเวณด้านบนของ Column Reaction grading 3+ เม็ดเลือดแดงส่วนใหญ่เกาะกลุ่มกันอยู่ด้านบน 1/3 ของ Column Reaction grading 2+ เม็ดเลือดแดงเกาะกลุ่มกันกระจายอยู่ทั่วไปภายในของ Column และอาจพบกลุ่ม ของเม็ดเลือดแดงที่ก้นหลุมของcolumn Reaction grading 1+ เม็ดเลือดแดงส่วนใหญ่เกาะกลุ่มกันอยู่ด้านล่าง 1/3 ของ Column และอาจพบกลุ่ม ของเม็ดเลือดแดงที่ก้นหลุมของcolumn Reaction grading 0.5+ เม็ดเลือดแดงส่วนใหญ่ตกอยู่ก้นหลุมของ Column และพบกลุ่มของเม็ดเลือดแดง กระจายเพียงเล็กน้อยเหนือก้นหลุมของ column
การแก้ไขปัญหา (Troubleshooting) Mixed Fieldจะปรากฏเซลล์เม็ดเลือดแดงบางส่วนเกาะกลุ่มกันอยู่ด้านบนของ Column และพบเซลล์เม็ดเลือดแดง ที่ ไม่ทําปฏิกิริยาอยู่บริเวณก้นหลุมของ Column หมายเหตุ: ปรากฏการณ์Mixed Field นี ้จะไม่พบในการทดสอบ Antibody Screening สาเหตุ: Recent transfusion, bone marrow transplants Haemolysis การอ่านผลของ BioVue ด้วยตาเปล่าเหมือนกับการอ่านผลด้วยตาเปล่าในหลอดทดลอง กล่าวคือหาก มี การแตกของเม็ดเลือดแดงจากการทําปฏิกิริยาจะพบ Haemoglobin ในของเหลวภายใน column หรือปรากฏ สีแดงใน column สาเหตุ: Haemolytic Antibody, Haemolysed serum/plasma Top Lineอาจเกิดขึ ้นเนื่องมาจากการที่มีส่วนประกอบบางส่วนในการทําปฏิกิริยาถูกใส่ลงไปใน column ที่มีantihuman globulin serum อยู่ทําให้serum ของคนไข้ทําปฏิกิริยาจับกับ anti-human globulin ซึ่งทําให้เกิด top-line โดย จะสามารถเห็นลักษณะเป็ นร่างแห ซึ่งเม็ดเลือดแดงบางส่วนจะสามารถผ่านไปยังด้านล่างของcolumn ได้แต่จะ พบ เม็ดเลือดแดงบางส่วนเกาะอยู่บริเวณที่เป็ นร่างแหดังกล่าว นอกจากนี ้อาจเกิดจากมีfibrin ใน serum / plasma สาเหตุ: เม็ดเลือดแดงเกาะติดอยู่ด้านข้างของชั ้น reaction chamber , เกิดจาก Serum, Plasma มีFibrin Fibrin interference พบชั ้นของ Fibrin แผ่ขวางอยู่บนชั ้น bead ของ column ทําให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถผ่านลง ไป ใน column ได้ทั ้งนี ้สามารถเขี่ย fibrin ออกได้ สาเหตุ: เกิดจาก Serum, Plasma มีFibrin Haze ในปฏิกิริยาผลลบนอกจากจะพบเม็ดเลือดแดงทั ้งหมดตกอยู่ด้านล่างของ column แล้วจะพบว่าภายใน column มีลักษณะคล้ายมีหมอกกระจายทั่ว column หรือบริเวณรอบ ๆของเม็ดเลือดแดง สาเหตุ: เกิดจากผนังของเม็ดเลือดแดงเปลี่ยนแปลงในระหว่างการเก็บ ซึ่งเป็ นสาเหตุให้เซลล์ไม่สามารถผ่านไปยังชั ้น ของ glass bead โดยปกติจะเกิดจากการใช้เซลล์เม็ดเลือดแดงที่หมดอายุมาทาปฏิกิริยา Column Bubbles เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดแดงเกาะบริเวณฟองอากาศใน column ทาให้เกิดปฏิกิริยา Weakly Positive (0.5+ -1+) สาเหตุ: เกิดได้จากการขนส่งและการเก็บ Cassettes ที่ไม่ถูกต้อง ทั ้งนี ้ไม่ควรนํา cassettes ที่มีฟองอากาศ มาใช้งาน
การควบคุมคุณภาพ (Quality Control) BioVue Cassettes สําหรับการควบคุมคุณภาพของ Cassettes จะถูกกําหนดขึ ้นเพื่อป้ องกันผลลบปลอมที่อาจเกิดขึ ้นและ ผลที่ไม่เข้ากัน ในการทาการทดสอบการเข้ากันของเลือด โดยมีขั ้นตอนตรวจสอบดังนี ้ 1. ตรวจสอบปฏิกิริยาของนํ ้ายาใน column 2. นํ ้ายาที่ใช้ร่วมในทาการทดสอบ 3. ขั ้นตอนการปั่นและเวลาที่เหมาะสม 4. ขั ้นตอนการ Incubationและเวลาที่เหมาะสม โดยขั ้นตอนการตรวจสอบคุณภาพนี ้สามารถทําการตรวจสอบเฉพาะในแต่ละการทดสอบหรือทั ้งหมดตาม ขั ้นตอนข้างต้น ข้อควรระวังเพื่อป้ องกันไม่ให้น้ายาที่บรรจุใน cassettes เสื่อมสภาพ • ควรเก็บ cassettes โดยวางในแนวตรงที่อุณหภูมิระหว่าง 21 –25 o C • ห้ามแช่แข็งหรือเก็บใกล้แหล่งความร้อน เช่น วางใกล้ตู้เย็นหรือหลอดไฟส่องสว่าง • ห้ามใช้cassettes หากพบว่า - มีการเสียหายของ cassette - ภายใน column แห้ง - cassettes เปลี่ยนสี - มีฟองอากาศหรือรอยแตกในส่วนของ glass bead column - ฟอยด์(Foil)ปิ ด column มีรอยเปิ ด • ภายหลังเปิ ดฟอยด์(foil) ควรใช้cassette ภายใน 1 ชั่วโมง • ควรวางcassettes ไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้งาน นอกจากนี ้ในการเตรียม 3 -5 % cell suspension ควรเตรียมจากสิ่งส่งตรวจที่ปั่นด้วยความความเร็ว 900 ถึง 1000 g ประมาณ 5 นาทีเพื่อให้ได้ปริมาณเม็ดเลือดแดงอัดแน่น (Packed red cell) อยู่ที่80 เปอร์เซ็นต์หากเตรียมเซลล์ เข้มข้นหรือเจือจางเกินไปจะส่งผลต่อการเกิด ปฏิกิริยาและการแปลผลได้