วเอวิชเกอิชาสกสาาสสงัราปครังปรคมะรมศกะศอกึกบอกึษบกษาาการาเเลรรเเลียม่ รนีย่ม1นรู้ 1รู้
ช้นัชปั้นรปะรถะมถศมกึศษกึ าษปาีทปี่ที 3ี่ 3
ผู้จดั ทำ
ผผู้ชูช้ ่วว่ ยยศศาาสสตตรราาจจาารรยย์โโ์ สสภภาา ชชณุ ุณหหรรชั ัชพพนั นั ธธุ์ ์ุ
ออาาจจาารรยย์พพ์ ุททุ ธธชชาาดด ชชมุ มุ แแววงงวาปี
ออาาจจาารรยยว์ ์วมิ มิ ลลลลกั กั ษษณณ์ ์ จจันนั ททนนพพมิ มิ พพ์ ์
ออาาจจาารรยย์ภ์ภววนนนั นั ทท์ ์ นนนุ่ ุน่ กกลลาางง
โโรรงงเเรรยียี นนสสาาธธติติ มมหหาาววิทิทยยาาลลยัยั ขขออนนแแกก่น่น ฝฝา่า่ ยยปปรระะถถมมศศกึึกษษาา ((ศศกึึกษษาาศศาาสสตตรร์)์)
ชชอ่ืื่อ......................................................................................................................................................................ชชั้น้ัน .............................................. เเลลขขทท่ีี่ ..................................
โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 1
ความสำคญั พุทธประวตั ิ
ของศาสนา และหลักธรรม
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ประวัตขิ องศาสนา
ศาสนาของเรา พรามหมณ์ - ฮนิ ดู
ส 1.1 ป. 3/1 และหลกั ธรรม
ส 1.1 ป. 3/2
ส 1.1 ป. 3/4 ประวตั ิของ
ส 1.1 ป. 3/5 ศาสนาครสิ ต์
ส 1.1 ป. 3/6 และหลักธรรม
ประวตั ิของ ประวตั ิของ
ศาสนาซิกข์ ศาสนาอิสลาม
และหลกั คำสอน และหลักธรรม
โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ 1่ี
ศาสนาของเรา
กจิ กรรมท่ี 1.1
คำสัง่ ‘ใหน้。ักเรยี นดภู าพและบอกวา่ เปน็ ภาพอะไรและเปน็ การดำเนนิ ชวี ติ ท่ีหลอ่ หลอมมาจาก
การนบั ถือศาสนาใด พร้อมทัง้ บอกเหตผุ ล
เกีย่ วข้องกับศาสนา……………………………...........
เพราะเป็นภาพเกีย่ วกบั .....................................
………………………………………………………………
เกย่ี วข้องกบั ศาสนา……………………………...........
เพราะเปน็ ภาพเก่ียวกบั .....................................
………………………………………………………………
เก่ยี วขอ้ งกับศาสนา……………………………...........
เพราะเป็นภาพเกี่ยวกบั .....................................
………………………………………………………………
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 3
พุทธประวัติ
ถ่ินกำเนิด กำเนิดในประเทศอนิ เดยี https://www.google.co.th
พระเจ้าสูงสดุ พระพทุ ธเจ้า
ศาสดา พระพุทธเจา้
คมั ภรี ์ พระไตรปฎิ ก
สัญลักษณ์ พระพทุ ธรูป
ศาสนสถาน วดั
พระพุทธเจ้าทรงมีพระนามเดิมว่า "สิทธัตถะ" หมายถึง ผู้ที่สำเร็จความมุ่งหมายแล้ว หรือ
ผู้ปรารถนาสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะกษัตริย์ผู้ครอง
กรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และ "พระนางสิริมหามายา" พระราชธิดาของกษัตริย์ราชสกุลโกลิยวงศ์
แห่งกรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ ประสูติที่ใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน
วสิ าขะ 80 ปีกอ่ นพุทธศักราช (ปัจจุบนั สวนลมุ พินีวนั อยใู่ นประเทศเนปาล)
เสดจ็ ออกบวช
เจ้าชายสทิ ธัตถะทรงเบ่อื ความจำเจในปราสาท 3 ฤดู จึงชวนสารถีทรงรถม้าประพาสอุทยาน
ครั้งนั้นได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง 4 ซึ่งได้แก่ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช โดยเทวทูต
เหล่านั้นเป็นทตู สวรรค์ที่แปลงกายมา พระองค์จงึ ทรงคิดไดว้ ่านี่เปน็ ธรรมดาของโลกชวี ติ ของทุกคน
ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น ไม่มีใครสามารถหลกี เลี่ยงการเกิด แก่ เจ็บ ตายได้จึงทรงเห็นว่าความสขุ
ทางโลกเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้นและวิถีทางที่จะพ้นจากความทุกข์ คือต้องครองตนเป็นสมณะ
ดังน้ันพระองคจ์ งึ ใครจ่ ะเสด็จออกบรรพชา ในขณะทีม่ พี ระชนม์ 29 พรรษา
โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 4
การบำเพญ็ เพียร
หลังจากทรงผนวชแล้ว พระองค์มุ่งไปที่แม่น้ำคยา แคว้นมคธได้พยายามเสาะแสวงทาง
พ้นทุกข์ ด้วยการศึกษาค้นคว้าทดลองในสำนักอาฬารดาบส กาลามโคตร และอุทกดาบส รามบุตร
แต่เมื่อเรียนจบทั้ง 2 สำนักแล้วทรงเห็นว่านี่ยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์จากนั้นพระองค์ได้เสด็จไปที่แม่น้ำ
เนรัญชรา ในตำบลอรุ ุเวลาเสนานิคมและทรงบำเพ็ญทุกรกริ ิยา ด้วยการขบฟันด้วยฟัน กลั้นหายใจ
และอดอาหารจนร่างกายซบู ผอม แต่หลงั จากทดลองได้ 6 ปี ทรงเห็นว่านย่ี ังไมใ่ ช่ทางพน้ ทุกข์จึงทรง
เลิกบำเพ็ญทุกรกิริยาและหันมาฉันอาหารตามเดิม หลังจากพระองค์เลิกบำเพ็ญทุกรกิริยาทำให้
ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยา มหานามะ และอัสสชิ ที่มาคอยรับใช้พระองค์
ดว้ ยความคาดหวังว่าเมือ่ พระองค์คน้ พบทางพน้ ทุกขจ์ ะได้สอนพวกตนให้บรรลุด้วย เกิดเส่ือมศรัทธา
ท่พี ระองค์ลม้ เลกิ ความต้ังใจจงึ เดินทางกลับไปท่ปี ่าอสิ ปิ ตนมฤคทายวัน ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี
หลังจากพระสิทธัตถะทรงเริ่มบำเพ็ญเพียร โดยการนั่งสมาธิให้จิตสงบ ขณะนั้นพญามาร (กิเลส)
ได้พยายามหลอกล่อพระองค์ให้หวนกลับสู่ความสุขสบายทางโลก แต่พระสิทธัตถะทรงตั้งจิตม่ัน
ไม่หวั่นไหวต่อความคิดอันชั่วร้ายที่มากวนจิตของพระองค์ ในที่สุดพระองค์ก็ทรงตรัสรู้เป็นพระ
สัมมาสมั พุทธเจา้ ด้วยการคน้ พบหนทางพ้นทกุ ข์ คือ อริยสจั 4 ได้แก่
ทกุ ข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค
ทีม่ า http://hilight.kapook.com/view/37629
https://www.google.co.th
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 5
กิจกรรมท่ี 1.2
คำสง่ั ให้นักเรียนโยงเส้นจบั คขู่ ้อความให้สัมพนั ธก์ บั ภาพ
บำเพญ็ เพียร
ปฐมเทศนา
ผจญมาร
ปรินิพพาน
ประสูติ
ตรสั รู้
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 6
ผลงานนกั เรยี น
กิจกรรมท่ี 1.3
คำสง่ั ให้นกั เรียนเขยี นสรุปพทุ ธประวัตใิ นรปู แบบผงั มโนทศั น์ พร้อมตกแตง่ ระบายสีใหส้ วยงาม
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 7
หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา
กจิ กรรมท่ี 1.4 เบญจศลี เบญจธรรม
คำส่ัง ใหน้ ักเรยี นนำอักษรหนา้ หลกั ธรรมด้านขวามอื มาเติมลงในช่องวา่ งทางซ้ายมือให้สอดคล้องกับ
การปฏิบตั ิตน
การปฏิบตั ติ น หลกั ธรรม
1. .......... ไม่ฆ่าสตั ว์หรอื ทรมานสตั ว์ ก. เบญจศีลข้อท่ี 2
2. .......... ไม่ประพฤติผดิ ในลูกเมยี ผูอ้ ่ืน ข. เบญจศีลขอ้ ที่ 4
3. .......... ไมพ่ ูดโกหก ค. เบญจธรรมข้อท่ี 5
4. .......... ไม่ลักทรพั ย์ ง. เบญจศลี ข้อท่ี 5
5. .......... ไม่ดื่มสุรา จ. เบญจธรรมขอ้ ที่ 2
6. .......... มีสติ ฉ. เบญจธรรมขอ้ ที่ 1
7. ......... มีความซื่อสตั ย์ ซ. เบญจธรรมข้อที่ 3
8. .......... ร้จู ักสำรวม กาย วาจา ใจ ฌ. เบญจศีลขอ้ ที่ 1
9. .......... ประกอบอาชีพสุจรติ ญ. เบญจธรรมข้อท่ี 4
10. .......... มเี มตตากรณุ าต่อสัตว์ ณ. เบญจศีลขอ้ ท่ี 3
สติสมั ปชัญญะ และสังคหวตั ถุ 4
กจิ กรรมท่ี 1.5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 8
สงั คหวัตถุ 4
คำส่งั ใหน้ กั เรยี นนำพยัญชนะหนา้ ขอ้ ความดา้ นขวามือเติมในชอ่ งว่างดา้ นซ้ายใหส้ ัมพันธก์ บั
หลกั ธรรม
หลักธรรม ข้อปฏบิ ตั ิ
.........1. ปยิ วาจา ก. การให้
.........2. สติ ข. ความรู้สึกตัว
การพดู ด้วย
..........3. ทาน
ค. ถ้อยคำท่ีสุภาพ
..........4. อตั ถจริยา
ง. ความระลึกได้
..........5. สมานัตตา
.........6. สมั ปชญั ญะ จ. การวางตัวให้เหมาะสม
กบั ฐานะ
ฉ. การบำเพ็ญประโยชน์
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 9
กจิ กรรมท่ี 1.6 ฆราวาสธรรม 4
คำสัง่ ใหน้ กั เรยี นเติมคำในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง
1. ฆราวาส แปลวา่ .....................................................................................................................
2. ธรรม แปลวา่ .........................................................................................................................
3. ฆราวาสธรรมมี 4 ประการ ได้แก่
3.1 ............................หมายถึง ......................................................................................
3.2 ............................หมายถึง .....................................................................................
3.3 ............................หมายถงึ .....................................................................................
3.4 ............................หมายถงึ .....................................................................................
กิจกรรมที่ 1.7 อัตถะ 3
คำสงั่ ให้นกั เรยี นเติมคำในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง
1. อัตถะ แปลว่า .....................................................................................................................
2. อตั ตัตถะ หมายถึง ....................................................................................................................
3. ปรตั ถะ หมายถงึ .....................................................................................................................
4. อุภยัตถะ หมายถงึ .....................................................................................................................
กจิ กรรมที่ 1.8 โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 10
มงคล 38
คำสัง่ ให้นักเรยี นอธบิ ายเก่ียวกบั มงคล 38 ประการ ตามหวั ข้อตอ่ ไปนี้
1. การรู้จกั ให้ ....................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
2. การพดู จาไพเราะ .........................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
3. การอยใู่ นสิง่ แวดลอ้ มที่ดี .............................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 11
ศาสนาครสิ ต์ กำเนิดในประเทศอิสราเอล https://www.google.co.th
พระยะโฮวาห์
ถ่นิ กำเนิด พระเยซู
พระเจ้าสูงสุด ไบเบลิ
ศาสดา ไมก้ างเขน
คัมภรี ์ โบสถ์
สญั ลกั ษณ์
ศาสนสถาน
กิจกรรมท่ี 1.9
คำสง่ั ใหน้ กั เรียนเติมคำในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง
1. ศาสดาของศาสนาครสิ ตค์ ือ............................................................................................................
2. พระเยซูประสูตทิ ีก่ รงุ .........................................ประเทศ.................................................................
3. คำสอนของพระเยซูทส่ี อนประชาชนคือ ........................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. สาเหตุท่ีพระเยซูถูกประหาร คอื ......................................................................................................
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 12
https://www.google.co.th
โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 13
หลกั ธรรมทเ่ี ปน็ พืน้ ฐานของศาสนาคริสต์
หลกั ธรรมสำคัญของศาสนาครสิ ต์คือสอนให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรกั ตัวเอง ด้วยการช่วยเหลือ
ซงึ่ กนั และกัน ปฏบิ ตั ิตนให้มปี ระโยชนต์ ่อสงั คม รกั สงบและสันติ อีกทงั้ สอนให้รกั พระผเู้ ป็นเจา้
กจิ กรรมที่ 1.10
คำสงั่ ให้นักเรยี นเขยี นคำตอบลงในแผนผงั ให้ถูกตอ้ ง
หลกั ธรรมทเี่ ปน็ พ้นื ฐานของศาสนาครสิ ต์
บญั ญัติ 10 ประการ หลักความรัก
1. ............................................ …….................................................
2. ............................................ …….................................................
3. ............................................ …….................................................
4. ............................................ …….................................................
5. ............................................ …….................................................
6. ............................................
7. ............................................
8. ............................................
9. ............................................
10. ............................................
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 14
ศาสนาอิสลาม
ถิ่นกำเนดิ กำเนิดในประเทศซาอดุ ิอาระเบีย
พระเจา้ สูงสุด พระอัลเลาะห์
ศาสดา นบี มุฮัมมัด กำเนิดในเมืองเมกกะประเทศซาอดุ อิ าระเบีย
คัมภีร์ อลั กรุ อาน
ศาสนสถาน มสั ยดิ
กิจกรรมที่ 1.11
คำสงั่ ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบทก่ี ำหนดใหเ้ ตมิ ในชอ่ งวา่ ง
เอเชีย 23 ปี นบมี ฮู ัมมดั
ตะวนั ออกกลาง นครเมกกะ
เทวทูต
1. ศาสดาของศาสนาอิสลาม คอื ....................................................................................................
2. นบีมูฮัมมัด เกิดท.่ี ......................................................................................................................
3. ผูท้ ีน่ ำโองการของอลั เลาะห์มาประทานแกน่ บมี ูฮัมมดั คอื ..........................................................
4. นบีมูฮมั มัดเผยแพรศ่ าสนาอยูเ่ ป็นเวลา......................................................................................
5. ประชาชนท่นี ับถอื ศาสนาอสิ ลามมมี ากท่.ี ..................................................................................
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 15
หลักธรรมทเ่ี ป็นพน้ื ฐานของศาสนาอสิ ลาม
หลักคำสอนสำคัญของศาสนาอิสลามคือ สอนให้ทุกคนอดทนต่อการทำความดี ละเว้น
ความชั่ว ละจากกิเลสและอบายมุขทัง้ ปวง ซึ่งประกอบดว้ ยหลักศรัทธา และหลักปฏิบัติ รวมถึงสอน
ใหย้ ึดมัน่ ในศาสนาและองค์อลั เลาะห์
กจิ กรรมที่ 1.12
คำสงั่ ใหน้ กั เรยี นเติมคำตอบใหถ้ กู ตอ้ ง
หลกั คำสอนของศาสนาอิสลาม
หลักศรัทธา 6 ประการ หลักปฏบิ ัติ 5 ประการ
1....................................... 1.......................................
2....................................... 2.......................................
3....................................... 3.......................................
4....................................... 4.......................................
5....................................... 5.......................................
6.......................................
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 16
ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู
เป็นศาสนาเก่าแก่ที่สุดโลก ช่วงแรกเรียกว่า ศาสนาพราหมณ์ ต่อมาได้พัฒนามาเป็นศาสนา
ฮินดู และเป็นศาสนาท่ีคนไทยจำนวนหน่ึงนับถอื กำเนิดขึ้นในประเทศอินเดีย ชาวอินเดียส่วนใหญจ่ ะ
นับถือศาสนานี้ เป็นศาสนาที่ไม่มศี าสดา นับถือพระเจ้าหลายองค์ เทพเจ้าท่ีสำคัญ ได้แก่ พระพรหม
คอื ผู้สร้างโลกและจกั รวาล พระวิษณุคอื ผู้คุ้มครองโลก พระศิวะคอื ผูท้ ำลายโลก
ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู เป็นศาสนาที่เน้นการประกอบพิธีกรรม เพื่อบูชาและสรรเสริญ
เทพเจา้ ผู้ท่อี ยใู่ นฐานะสูงสุด และเปน็ ผูน้ ำทางความเชื่อถือของศาสนา ไดแ้ ก่ พราหมณ์ ซ่ึงเปน็ ผู้
ประกอบพิธกี รรมและเปน็ ตัวแทนในการตดิ ต่อกับเทพเจ้า วรรณะพราหมณ์จงึ เป็นวรรณะหรอื ชน
ชน้ั สูงสุดของชาวอนิ เดีย
วรรณะศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู มี 4 ชัน้ คือ พราหมณ์ กษตั รยิ ์ แพศย์ ศูทร
1. วรรณะพราหมณ์ คือ ผู้ทำพิธีกรรม มีหน้าทีต่ ิดต่อกับเทพเจ้า สั่งสอนศาสนาและประกอบ
พิธีกรรมแก่ประชาชนทุกวรรณะ รวมถึงมีหน้าที่ศึกษา จดจำและสืบต่อคัมภีร์พระเวท วรรณะนี้เชื่อ
วา่ กำเนิดมาจากปากของพระพรหม
2. วรรณะกษัตริย์ คือ กษัตริย์หรือนักรบ ทำหน้าที่ป้องกันชาติบ้านเมือง และทำศึกสงคราม
วรรณะนี้เชื่อวา่ กำเนิดมาจากหน้าอกของพระพรหม
3. วรรณะแพศย์ คือ ผู้ประกอบพาณิชกรรม เกษตรกรรม ซึ่งเป็นวรรณะของคนส่วนใหญ่ใน
สงั คม วรรณะนีเ้ ชอ่ื ว่ากำเนดิ มาจากมอื ของพระพรหม
4. วรรณะศูทร คอื กรรมกร วรรณะนเ้ี ชอ่ื วา่ กำเนดิ มาจากเท้าของพระพรหม
ในกรณีท่ีมีการแต่งงานข้ามวรรณะ บุตรท่ีเกิดมาก็จะกลายเป็น จัณฑาล (ในภาษาไทยคือ
กาลกณิ ี) เปน็ ผูอ้ ย่นู อกวรรณะซ่งึ เป็นทร่ี ังเกยี จของทกุ วรรณะ
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 17
ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
ถ่ินกำเนดิ กำเนิดในประเทศอินเดีย
พระเจา้ สูงสุด -
เทพเจา้ พระพรหม พระวิษณุ พระศวิ ะ
คัมภีร์ พระเวท ไดแ้ ก่
ฤคเวท = สวดสรรเสรญิ พระเจ้า
ยชรุ เวท = บทสวดในพิธีบูชายัญ
สามเวท = บทสวดในพิธปี ระกอบการทางไสยศาสตร์
กิจกรรมที่ 1.13 ประวัติศาสดาของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู
คำส่ัง ให้นักเรยี นเตมิ คำในช่องว่างให้ถกู ตอ้ ง
1. ศาสนาท่ีเก่าแกท่ ส่ี ดุ ในโลกคือศาสนา............................................................................................
2. ศาสนาฮนิ ดูพัฒนามาจากศาสนา..................................................................................................
3. ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู ถอื กำเนดิ ท่ปี ระเทศ.................................................................................
4. เทพเจ้าทีส่ ำคัญของศาสนา พราหมณ์ - ฮินดู คือ..........................................................................
5. วรรณะสงู สุดของชาวอนิ เดียคอื วรรณะ.........................................................................................
สญั ลกั ษณข์ องศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
อักษรเทวนาครี อ่านว่า “โอม” ซึ่งย่อมาจากอกั ษร อะ อุ และ มะ
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 18
กิจกรรมที่ 1.14
คำส่งั ใหน้ ักเรยี นจบั คู่ตวั อกั ษร กบั ข้อความให้ถกู ตอ้ ง
.......... 1. ผูส้ รา้ งโลก ก. พระวษิ ณุ
.......... 2. ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ข. ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู
.......... 3. ผู้คุ้มครองโลก ค. ศาสนาซิกข์
.......... 4. ครุ ุนานกั ง. พระพรหม
.......... 5. ศาสนาที่เก่าแกท่ ีส่ ดุ ในโลก จ. ศาสดาองคแ์ รกแห่งศาสนาซิกข์
.......... 6. ศาสนาทมี่ ีศาสดาหลายองค์ ฉ. พระศิวะ
.......... 7. ผทู้ ำลายโลก ด. ศาสนาทไี่ มม่ ีศาสดา
.......... 8. พราหมณ์ ต. ผู้ประกอบพธิ ีกรรม และเป็น
ตัวแทนในการตดิ ตอ่ กบั เทพเจ้า
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 19
กจิ กรรมที่ 1.15 หลกั ธรรมศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู
คำสง่ั ให้นักเรยี นเติมหลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ให้ถูกต้อง
หลักธรรม
10 ประการ
โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 20
ศาสนาซิกข์
เป็นศาสนาที่มีคนไทยจำนวนหนึง่ นบั ถือ แต่มีจำนวนไม่มากนัก ถือกำเนิดในประเทศอินเดยี
เป็นศาสนาทีต่ ั้งอยู่บนรากฐานของความจรงิ และเน้นความเรียบง่าย สอนให้ทกุ คนมคี วามเสมอภาค
ยึดม่ัน เพื่อให้เกดิ ความสามคั คีกนั โดยการศรทั ธาในพระเจ้าองค์เดียว
ศาสนาซิกข์มีศาสดาหลายองค์ ศาสดาองค์แรกคือ คุรุนานัก ท่านเป็นผู้ใฝ่ใจในเรื่องศาสนา
วันหนึ่งขณะที่ท่านบำเพ็ญสมาธิอยู่ในป่า ท่านได้พบพระผู้เป็นเจ้า จากนั้นเป็นต้นมา ท่านได้
สงเคราะห์คนยากจน และคนเจ็บป่วย รวมทั้งได้เดินทางสั่งสอนประชาชนตามที่ต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่
ศาสนาจนมลี ูกศิษยม์ ากมาย
หลักคำสอนของศาสนาซิกข์
หลักคำสอนของศาสนาซิกข์ จะสอนให้พยายามเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ การที่คนเราจะพบ
ความสุขท่ีแท้จรงิ ได้ มอี ยู่ 5 ประการคอื
1. กรรมคอื การกระทำ
2. ปญั ญา คือ ความรอบรู้ในทกุ ส่งิ ทกุ อย่างทีเ่ ปน็ จรงิ
3. มหาปีติ คอื ความอิ่มใจ ทำใหอ้ ่ิมเอิบอยใู่ นทางธรรม
4. พละ คือ กำลังจิต ทำให้แน่วแนม่ นั่ คงไม่หวัน่ ไหว ไม่เกรงกลัว
5. สจั จะ คือ ความเคารพอย่างจรงิ ใจตอ่ พระเจ้า
นอกจากนี้หลักคำสอนที่สำคัญของศาสนาซิกข์ คือ การสอนให้นับถือเทพเจ้าเพียงองค์เดียว
สอนใหค้ นมคี วามเสมอภาคกัน และมีเสรภี าพ เช่น การยกฐานะผู้หญงิ ให้เท่าเทียมกับผู้ชาย ให้
ผู้หญิงมีสิทธใ์ิ นการศกึ ษา ร่วมสวดมนต์หรอื เป็นผูน้ ำในการสวดมนต์ไดเ้ ชน่ เดยี วกับผู้ชายเปน็ ต้น
ท่มี า http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php
คันดา้ คือ สญั ลกั ษณ์ของชาวซกิ ข์
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 21
กิจกรรมท่ี 1.16 หลักคำสอนของศาสนาซิกข์
คำสง่ั ใหน้ กั เรยี นเติมคำตอบในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ต้อง
..................................... .....................................
..................................... .....................................
..................................... .....................................
..................................... .....................................
..................................... หลักคำสอน .....................................
..................................... ของ .....................................
..................................... .....................................
..................................... ศาสนาซิกข์ .....................................
......................................
......................................
......................................
......................................
กจิ กรรมที่ 1.17 โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 22
ศาสนสาวกหรอื ศาสนบคุ คล
คำสั่ง ใหน้ ักเรยี นดูภาพตอ่ ไปนี้แล้วตอบวา่ เปน็ ศาสนสาวกหรอื ศาสนบคุ คลของศาสนาใดและมีชื่อ
เรยี กว่าอยา่ งไร
เปน็ ศาสนสาวก หรอื ศาสนบคุ คลของศาสนา ...................................
มชี อ่ื เรยี กวา่ อย่างไร.............................................................................
เปน็ ศาสนสาวก หรอื ศาสนบุคคลของศาสนา ...................................
มีชื่อเรียกวา่ อย่างไร.............................................................................
เป็นศาสนสาวก หรือศาสนบุคคลของศาสนา ...................................
มชี อ่ื เรยี กวา่ อยา่ งไร.............................................................................
เปน็ ศาสนสาวก หรือศาสนบุคคลของศาสนา ...................................
มชี อ่ื เรียกวา่ อยา่ งไร.............................................................................
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 23
พระคมั ภรี ์ของศาสนาต่าง ๆ
กจิ กรรมท่ี 1.18
คำสง่ั ใหน้ ักเรียนนำตัวอักษรหน้าขอ้ ความทางขวามอื มาใสใ่ นช่องว่างหนา้ ข้อความทางซา้ ยมือ
......... 1. คัมภีร์ของศาสนาพุทธ ก. อลั กุรอาน
.......... 2. คัมภีร์ของศาสนาครสิ ต์ ข. สามเวท
.......... 3. คมั ภรี ์ของศาสนาอสิ ลาม ค. พระไตรปิฎก
.......... 4. คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ง. ยชุรเวท
.......... 5. บทสวดเทพเจ้า จ. หลักธรรมของศาสนาคริสต์
.......... 6. บทสวดในพิธีบูชายัญ ฉ. ไบเบลิ
.......... 7. บทสวดสำหรับใชท้ ั่วไป ช. อาถรรพเวท
.......... 8. บทสวดประกอบพิธีกรรมต่างๆ ญ. ฤคเวท
.......... 9. มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการเขา้ ถงึ พระเจา้ ฎ. พระเวท
..........10. พระวนิ ัยปิฎก พระสตุ ตันตปฎิ ก ฏ. คำสอน 3 หมวด
และพระอภิธรรมปฎิ ก
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 24
ผลงานนักเรยี น
กจิ กรรมที่ 1.19
คำสั่ง ใหน้ ักเรยี นเขียนสรุปรปู แบบผังมโนทัศน์ เรอื่ งความสำคญั ของพระไตรปิฎก และหลกั ธรรมของ
ทุกศาสนาพรอ้ มท้ังระบายสีและตกแต่งใหส้ วยงาม
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 25
ช้ินงานท่ี 1
คำส่งั ให้นักเรียนสรุปความร้จู ากการเรียนรูเ้ ร่อื งศาสนาของเรา โดยใชร้ ูปแบบแผนผงั ความคดิ
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 26
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน
ประเด็นทป่ี ระเมนิ ดีมาก (4) ระดบั การประเมิน
ดี (3) ปานกลาง (2) ควรปรับปรงุ (1)
1. ผลงานตรงกับ
เน้อื หาทีก่ ำหนด ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานไมส่ อดคล้อง
เนือ้ หาทุกประเดน็ เนื้อหาเป็นส่วนใหญ่ เนอ้ื หาบางประเดน็ กับเนอื้ หา
2. ผลงานมีความ เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ
ถกู ต้องสมบูรณ์ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้องเปน็
ครบถว้ น ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้องเป็น สว่ นใหญ่
3. ผลงานมคี วามคดิ
สร้างสรรค์ สว่ นใหญ่ บางประเด็น
4. ผลงานมีความเป็น ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมีแนวคิด ผลงานมคี วาม ผลงานไมแ่ สดง
ระเบียบ ความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่แต่ยังไม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไม่มี แนวคดิ ใหม่
แปลกใหมแ่ ละเป็น เปน็ ระบบ แนวคิดแปลกใหม่
ระบบ
ผลงานมีความเปน็ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่ไม่
ระเบียบแสดงออกถงึ ความเปน็ ระเบยี บ ระเบยี บแตม่ ี เปน็ ระเบยี บ และมี
ความประณตี แตย่ งั มขี ้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่องบางสว่ น ขอ้ บกพร่องมาก
เลก็ นอ้ ย
เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ
นกั เรยี นไดค้ ะแนน 13 คะแนนขึน้ ไป หมายถึง ระดับการประเมนิ ดีมาก
หมายถึง ระดับการประเมิน ดี
นักเรียนได้คะแนน 11 - 12 คะแนน หมายถึง ระดบั การประเมนิ พอใช้
หมายถึง ระดับการประเมิน ควรปรบั ปรุง
นกั เรียนไดค้ ะแนน 9 - 10 คะแนน
นักเรียนได้คะแนน 8 คะแนนลงไป
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 27
ผลการประเมนิ ชนิ้ งาน
คำชี้แจง ให้ทำเครอื่ งหมาย ✓ ในชอ่ ง เพอื่ ประเมนิ ชนิ้ งานตามความคิดเห็นของตนเอง
(ตนเอง) ระดับการประเมิน
ประเด็นที่ประเมิน ควร
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรับปรงุ
(4) (3) (2) (1)
1. ผลงานตรงกบั เนื้อหาทกี่ ำหนด
2. ผลงานมคี วามถูกต้องสมบรู ณ์
3. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์
4. ผลงานมคี วามเป็นระเบยี บ
รวม ………………..คะแนน
ลงช่อื ...................................................................
(..........................................................................)
ตนเอง
(ผู้ปกครอง) ระดบั การประเมิน
ควร
ประเด็นท่ปี ระเมิน
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรับปรุง
1. ผลงานตรงกบั เนอ้ื หาทก่ี ำหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถูกต้องสมบูรณ์
3. ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมีความเป็นระเบียบ ลงชอ่ื ...................................................................
รวม (..........................................................................)
ผปู้ กครอง
(ผู้สอน) ระดับการประเมิน
ควร
ประเด็นท่ปี ระเมนิ
ดมี าก ดี ปานกลาง ปรับปรุง
1. ผลงานตรงกบั เนื้อหาที่กำหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์
3. ผลงานมคี วามคิดสร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมีความเปน็ ระเบียบ
รวม
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร์) 28
ลงชือ่ ...................................................................
(..........................................................................)
ผสู้ อน
ความหมายและ ประโยชน์และ
ประเภทสนิ ค้า คณุ ค่าของสนิ ค้า
และบริการ
และบริการ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 หลกั การเลอื ก
เศรษฐศาสตร์ใกล้ตวั ซอ้ื สินคา้ ที่
จำเปน็ และ
ส 3.1 ป. 3/1 ความหมาย
ส 3.1 ป. 3/3 ผู้ผลติ และ
ผบู้ รโิ ภค
การแข่งขนั ทาง
การค้า ปญั หาพ้นื ฐาน
ทางเศรษฐกจิ
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 29
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2
เศรษฐศาสตรใ์ กล้ตวั
กิจกรรมท่ี 2.1 ความหมายและประเภทของสนิ คา้
คำสั่ง ให้นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ ง
1. สินคา้ คือ …………………………………………………………………………………………………………………
2. บรกิ าร คอื ……………………………………………………………………………………………………………….
3. สินคา้ แบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท คอื …………………………………………………………………………….
และ…………………………………………………………………………………………………………………………..
4. ปจั จยั 4 ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
1. ……………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………
4. ……………………………………………………………………………
5. สนิ ค้าที่มนุษย์ตอ้ งการเพอ่ื ใหเ้ กิดความพึงพอใจ แตเ่ กนิ ความจำเป็น
เรยี กว่า………………………………………………………………………………………………………………………
คำสั่ง ให้นักเรยี นวาดภาพการบรกิ ารและภาพสินค้า แล้วตอบคำถาม
1. จากภาพเป็นการบริการอะไร …………………………………….
มปี ระโยชนต์ อ่ นกั เรยี นคอื ....................................................
…….…………………………………………………………………………..
2. จากภาพเปน็ สนิ คา้ อะไร...………..……….……….…………….
มปี ระโยชนต์ ่อนกั เรยี นคือ...................................................
…..…….………………………………………………………………
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 30
กจิ กรรมที่ 2.2
คำสั่ง ให้นกั เรียนวาดรปู สนิ ค้าทีน่ ักเรียนรู้จักลงในกรอบท่ีกำหนด
สนิ ค้าจำเป็นที่ช่วยใหช้ วี ติ อย่รู อด สินค้าทีใ่ ห้ความสะดวกสบาย
ชอื่ สินคา้ …………………………………… ช่ือสินคา้ ……………………………………
ช่ือสนิ ค้า …………………………………… ช่อื สินค้า ……………………………………
ช่อื สินค้า …………………………………… ชอ่ื สินคา้ ……………………………………
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 31
หลักการเลือกซ้ือสินคา้ ทจี่ ำเป็น
การเลือกซื้อสินค้าอย่างฉลาดและรอบคอบ เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากสินค้านั้น ๆ
ควรปฏิบัติตามหลกั การดังน้ี
1. หลักประโยชน์ หมายถึง ซอ้ื สินคา้ ทีจ่ ำเป็นต่อการดำรงชีวิต
2. หลกั ประหยดั หมายถึง เปรยี บเทยี บราคาสินคา้ ให้สอดคลอ้ งกับรายไดต้ นเอง
3. หลักความปลอดภัย หมายถึง การคำนึงถึงความปลอดภัยของสินค้า โดยดูเครื่องหมาย
รับรองคณุ ภาพ
กิจกรรมท่ี 2.3
คำสั่ง เขียนหลักการเลอื กซอ้ื สินค้าทค่ี วรปฏิบัตแิ ละสิ่งทีไ่ มค่ วรปฏบิ ตั ิในการเลือกซ้ือสนิ คา้
หลกั การเลือกซื้อสินค้าท่ีควรปฏิบตั ิ สิ่งทไ่ี มค่ วรปฏบิ ตั ใิ นการซือ้ สินคา้
1. …………………………………...……………… 1. …………………………………...………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
2. …………………………………...……………… 2. …………………………………...………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
3. …………………………………...……………… 3. …………………………………...………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 32
งานบรกิ าร
อาชีพด้านงานบริการ ได้แก่ ขับรถโดยสาร ช่างตัดผม ช่างตัดเสื้อ พนักงานเก็บขยะ แพทย์
ตำรวจ ครู เปน็ ต้น อาชีพเหล่านีเ้ ปน็ กระบวนการของความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผู้ใช้บรกิ ารและ ผู้
ให้บริการ เช่น พยาบาลดูแลคนปว่ ย ครูใหค้ วามรู้ อบรม นักเรยี น
กิจกรรมที่ 2.4
คำส่ัง ในชวี ติ ประจำวนั นกั เรียนรจู้ กั อาชีพบรกิ ารทีจ่ ำเปน็ อะไรบ้างและใช้บริการในลักษณะอยา่ งไร
ใหน้ กั เรียนวาดภาพ หรือติดภาพประกอบพร้อมเขยี นอธิบาย
อาชพี บรกิ ารทีร่ ู้จัก ลักษณะการใช้บริการ
อาชีพ…………………………………... ..................................................................
อาชีพ…………………………………... ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 33
การผลติ และการแขง่ ขนั ทางการคา้
ผู้ผลิต หมายถึง ผูท้ นี่ ำเอาปัจจัยการผลติ มาแปรรปู เพือ่ ใหเ้ กดิ สินค้าและบริการ เช่น ชาวนา
ชาวสวน ชาวประมง เจา้ ของโรงงาน
ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ที่ซื้อสินค้า หรือบริการ ที่ผู้ผลิตทำขึ้น เพื่อไปใช้ประโยชน์ตามความ
ตอ้ งการของตน
กจิ กรรมท่ี 2.5
คำสั่ง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ ง
1. ผูผ้ ลติ หมายถึง
……………………………………………………………………………………………………………
2. ผู้บรโิ ภคหมายถึง
………………………………………………….…………………………………………………………
3. เหตใุ ดจึงเกดิ ปัญหาขาดแคลนทรพั ยากร
…………………………………………………………………………………………………………….
คำสง่ั ใหน้ กั เรยี นเขยี น ผ หนา้ ข้อความทเ่ี ป็นผู้ผลติ และเขียน บ หนา้ ข้อความท่ีเป็นผู้บริโภค
………….. 1. ชาวนาทำนาปลกู ข้าว
………….. 2. แม่ซื้อผกั จากตลาดมาทำอาหาร
………….. 3. พอ่ ทำโรงงานทอผ้าสง่ ผา้ ไปขาย
………….. 4. ชาวสวนปลกู ผลไม้ไปขาย
………….. 5. ชาวสวนซื้อขา้ วสารไปรับประทาน
………….. 6. ชาวประมงจบั ปลาส่งไปขายต่างประเทศ
………….. 7. พีซ่ ือ้ เส้อื จากห้างสรรพสนิ คา้
………….. 8. แดงซอื้ เนื้อหมเู พอ่ื ทำอาหาร
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 34
ปญั หาพ้นื ฐานทางเศรษฐกิจ
ในการผลิตสินค้าและบริการ ทรัพยากรในการผลิตเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งปัจจุบัน
ประเทศไทยมที รพั ยากรอย่างจำกัด ขณะทป่ี ระชากรมปี รมิ าณเพิ่มสูงขึ้น จงึ มีความตอ้ งการในการใช้
สินค้าและบริการในปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดไม่เพียงพอต่อความ
ต้องการของทุกคน ทำให้เกิดปญั หาการขาดแคลนทรัพยากรท่ีใช้ในการผลติ ดังน้ันผู้ผลิตต้องศึกษา
และตดั สนิ ใจอย่างรอบคอบว่า
- จะผลิตสนิ ค้าชนดิ ใด
- จะผลติ อย่างไร
- จะผลติ เพ่อื ใคร
กิจกรรมที่ 2.6
คำสัง่ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง
1. อะไรเปน็ สาเหตใุ หเ้ กิดปัญหาการขาดแคลนทรพั ยากรทใ่ี ชใ้ นผลิต
…………………………………………………………………….………………………………
2. ถา้ ผผู้ ลิตและผูบ้ รโิ ภคไมใ่ ช้ทรพั ยากรทีม่ อี ยู่อยา่ งประหยดั จะก่อใหเ้ กดิ ผลอย่างไร
…………………………………………………………………….………………………………
3. ผผู้ ลิตจะตอ้ งตัดสนิ ใจใหร้ อบคอบในเร่ืองใดบา้ งก่อนที่จะผลิตสินค้า
1. .………………………………………………………………..
2. .………………………………………………………………..
3. .………………………………………………………………..
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 35
การแขง่ ขนั ทางการค้า
การแข่งขันทางการค้า หมายถึง การที่ผู้ผลิตหรือผู้ขายมากกว่า 2 รายขึ้นไป แสวงหาวิธี
เพื่อให้สินค้าของตนขายได้ในปริมาณท่มี ากข้ึน โดยผผู้ ลิตหรือผู้ขายจะแขง่ ขันท้ังด้านราคา คุณภาพ
มาตรฐาน การบรกิ าร โฆษณา และปัจจัยอนื่ ๆ ท่สี ่งผลตอ่ การตดั สนิ ใจซ้อื สินคา้ ของผู้บรโิ ภค
กิจกรรมท่ี 2.7
คำส่งั ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง
1. การแข่งขนั ทางการคา้ คืออะไร………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..
2. การแขง่ ขนั ทางการค้าทำใหเ้ กดิ ผลดตี อ่ ผบู้ รโิ ภคอย่างไร ……………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
3. ถา้ ผลติ สินค้าชนดิ เดยี วกนั ออกมาจำนวนมากจะส่งผลในเรือ่ งใด
…………………………………………………………………………………………………………………………..
4. การลดราคาสนิ ค้าตำ่ กวา่ ทุนจะเกิดผลอย่างไร ………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………
5. บอกวธิ กี ารดงึ ดูดใจใหผ้ ู้ซอื้ ตัดสินใจซอื้ สินคา้ ไดง้ ่ายขน้ึ ………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………..
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 36
ชน้ิ งานที่ 2
คำสั่ง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรู้จากการเรยี นรู้เร่อื งเศรษฐศาสตรใ์ กลต้ ัว โดยใชร้ ูปแบบแผนผังความคดิ
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 37
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน
ประเดน็ ที่ประเมิน ดีมาก (4) ระดบั การประเมนิ
ดี (3) ปานกลาง (2) ควรปรับปรงุ (1)
1. ผลงานตรงกับ
เน้อื หาทกี่ ำหนด ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานไม่สอดคล้อง
เนือ้ หาทุกประเดน็ เนื้อหาเป็นส่วนใหญ่ เน้อื หาบางประเด็น กับเนอื้ หา
2. ผลงานมีความ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ งเป็น
ครบถว้ น ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถกู ต้องเป็น ส่วนใหญ่
3. ผลงานมคี วามคดิ
สร้างสรรค์ สว่ นใหญ่ บางประเดน็
4. ผลงานมีความเป็น ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมแี นวคิด ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง
ระเบียบ ความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่แต่ยังไม่ น่าสนใจ แต่ยังไม่มี แนวคดิ ใหม่
แปลกใหมแ่ ละเป็น เปน็ ระบบ แนวคิดแปลกใหม่
ระบบ
ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญไ่ ม่
ระเบียบแสดงออกถงึ ความเป็นระเบยี บ ระเบียบแต่มี เปน็ ระเบียบ และมี
ความประณตี แตย่ งั มขี ้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่องบางสว่ น ข้อ บกพร่องมาก
เลก็ นอ้ ย
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
นกั เรยี นได้คะแนน 13 คะแนนข้นึ ไป หมายถึง ระดบั การประเมิน ดีมาก
หมายถึง ระดับการประเมิน ดี
นักเรียนไดค้ ะแนน 11 - 12 คะแนน หมายถงึ ระดับการประเมิน พอใช้
หมายถึง ระดับการประเมิน ควรปรบั ปรุง
นกั เรยี นไดค้ ะแนน 9 - 10 คะแนน
นักเรียนไดค้ ะแนน 8 คะแนนลงไป
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 38
ผลการประเมนิ ชน้ิ งาน
คำช้แี จง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ในช่อง เพือ่ ประเมนิ ชนิ้ งานตามความคดิ เหน็ ของตนเอง
(ตนเอง) ระดับการประเมิน
ควร
ประเดน็ ท่ีประเมิน
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ
1. ผลงานตรงกับเนื้อหาท่กี ำหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถูกตอ้ งสมบรู ณ์
3. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมีความเป็นระเบียบ ลงชือ่ ...................................................................
รวม (..........................................................................)
ตนเอง
(ผู้ปกครอง) ระดับการประเมนิ
ประเดน็ ที่ประเมิน ควร
ดมี าก ดี ปานกลาง ปรับปรงุ
(4) (3) (2) (1)
1. ผลงานตรงกบั เนอ้ื หาท่กี ำหนด
2. ผลงานมีความถูกต้องสมบรู ณ์
3. ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์
4. ผลงานมีความเป็นระเบียบ
รวม ………………..คะแนน
ลงชอ่ื ...................................................................
(..........................................................................)
ผูป้ กครอง
(ผู้สอน) ระดบั การประเมนิ
ประเด็นที่ประเมิน ควร
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรุง
(4) (3) (2) (1)
1. ผลงานตรงกับเนือ้ หาทก่ี ำหนด
2. ผลงานมีความถูกตอ้ งสมบูรณ์
3. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์
4. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ
รวม ………………..คะแนน
ลงช่ือ ...................................................................
(..........................................................................)
ผสู้ อน
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 39
สัญลกั ษณข์ อง แผนผัง ประเภท
สิ่งแวดลอ้ ม และประโยชน์
ของแผนที่
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ทศิ มาตราส่วน
สิง่ ต่าง ๆ รอบตัวเรา สญั ลกั ษณแ์ ละ
การใชส้ ใี นแผนท่ี
ส 5.1 ป. 3/1
ส 5.1 ป. 3/2
ส 5.1 ป. 3/3
ลกั ษณะทาง
สังคมของชมุ ชน
ทต่ี ัง้ และลักษณะ
ทางกายภาพของ
ชุมชน
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 40
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3
ส่งิ ต่าง ๆ รอบตวั เรา
กิจกรรมท่ี 3.1 สิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว
เรา
คำสง่ั ใหน้ ักเรยี นสำรวจสถานที่ของชุมชนตนเองแล้ววาดแผนผังใหถ้ ูกต้องและสวยงาม
แผนผังชุมชน..........................................................................................
โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 41
กิจกรรมท่ี 3.2
คำสง่ั ใหน้ กั เรยี นวาดสัญลักษณข์ องสิง่ แวดลอ้ มต่าง ๆ ทมี่ ใี นชุมชน
โรงเรียน บา้ น
วัด สวนสาธารณะ
โรงพยาบาล ตลาด
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 42
แผนทแี่ ละแผนผัง
แผนท่ี หมายถึง การแสดงลักษณะพื้นผิวโลกลงบนแผ่นราบ โดยการย่อส่วนและการใช้
สญั ลักษณไ์ ม่วา่ เครอ่ื งหมายหรือสี แทนส่งิ ตา่ ง ๆ บนพ้นื ผวิ โลก แผนที่จงึ ต่างจากลูกโลกและแผนผงั
ประเภทของแผนที่
1. แผนที่ภูมิประเทศเป็นแผนที่แสดงรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เช่น ทะเล
มหาสมทุ ร เทือกเขา ที่ราบสงู ท่รี าบ ฯลฯ
2. แผนท่เี ฉพาะเรอื่ ง ทน่ี ิยมใชม้ ี 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่
2.1 แผนที่รฐั กจิ เช่น แผนทีแ่ สดงขอบเขตการปกครองของจังหวดั รฐั ประเทศ
2.2 แผนท่ีเศรษฐกิจเป็นแผนที่แสดงการกระทำทางเศรษฐกิจของมนุษย์ต่าง ๆ
รวมทั้งแสดงแหล่งทรพั ยากรสำคญั
แผนผงั หมายถงึ สิง่ ที่แสดงรายละเอยี ดของส่งิ ต่าง ๆ โดยการย่อหรอื การขยายขนาดลงบน
กระดาษ มีลักษณะเป็นภาพที่มองจากด้านบน นิยมใช้แสดงบริเวณพื้นที่ที่มีขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก
เช่น บ้าน โรงเรยี น และชมุ ชน
การใช้แผนผงั
การใช้แผนผัง ผู้ใช้แผนผังต้องมีความรู้เกี่ยวกับความหมายและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏ
บนแผนผังน้ัน ๆ รวมทง้ั ความรเู้ ก่ียวกบั ทิศทางและระยะทางเพ่อื ระบุสถานทตี่ ่าง ๆ ในแผนผงั ได้
ท่ีมา https://sites.google.com/site/ruangnok/1-4-kar-chi-phaenphang-laea-phaenthi
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 43
กิจกรรมที่ 3.3
คำสั่ง ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ตอ้ ง
1. แผนผังคือ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
2. การใช้แผนผังตอ้ งมคี วามเขา้ ใจเก่ยี วกับอะไรบา้ ง
........................................................................................................................................................
3. แผนที่คือ.....................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
4. ประเภทของแผนทท่ี ่นี ยิ มใชก้ นั มี ...........ลกั ษณะ คอื
1) ..........................................................................................
2) ..........................................................................................
5. แผนที่รัฐกจิ คอื แผนทีแ่ สดง.........................................................................................................
.........................................................................................................................................................
6. แผนทเี่ ศรษฐกิจ คือแผนท่ีแสดง...................................................................................................
.........................................................................................................................................................
โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 44
กิจกรรมท่ี 3.4 แผนทีป่ ระเทศไทย
คำสัง่ ใหน้ กั เรียนระบายสีแผนท่ีประเทศไทยให้สวยงาม
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 45
ตวั อยา่ งแผนที่และแผนผงั
แผนผังโรงเรยี น แผนทมี่ หาวทิ ยาลยั ขอนแก่น
กจิ กรรมที่ 3.5
คำสัง่ ใหน้ กั เรยี นเขยี นขั้นตอนในการเขียนแผนผังอยา่ งงา่ ย
การเขียนแผนผงั อยา่ งง่าย
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 46
กิจกรรมท่ี 3.6
คำสัง่ ใหน้ ักเรยี นบอกประโยชนข์ องแผนที่
………………………………… ………………………………… …………………………………
………………………………… ………………………………… …………………………………
………………………………… ……… …
………………………………..
ประโยชนข์ องแผนท่ี …………………………………
…………………………………
…………………………………… ………………………………………
………………………………………… …………..…………………………
.
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 47
กิจกรรมที่ 3.7 ทศิ
ตอนที่ 1
คำสั่ง ให้นักเรยี นบอกทศิ ท้ัง 8 ทศิ แบบสากลใหถ้ กู ต้อง
.(..ต...วั ...อ..ย...า่ ..ง...)...ท...ิศ...เ.ห...น...อื .....
……………………….. …………………….......
………………………… ……………….……….
………………………… …………………………..
........................................
ตอนท่ี 2
คำสงั่ ให้นกั เรียนบอกชื่อเรียกทิศทง้ั 8 ทิศ แบบไทยให้ถกู ต้อง
......(.ต...ัว...อ...ย..า่...ง..)...อ...ุด..ร.........
……………………….. …………………….......
………………………… ……………….……….
………………………… …………………………..
........................................
โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 48
กิจกรรมที่ 3.8
คำสัง่ ให้นกั เรยี นเขียนตำแหนง่ ทศิ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. สนามบาสของโรงเรยี นตงั้ อยู่ทางทศิ ใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ถา้ ยนื อยู่ทเ่ี สาธงแล้วหนั มาทาง อาคาร 10 แสดงวา่ หันหนา้ มาทางทศิ ใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เมื่อเดินเข้าประตูหนา้ โรงเรยี น อาคาร 6 อยู่ทางดา้ นทิศใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. สนามวอลเลยบ์ อลและหอประชุมเลก็ อยทู่ างทศิ ใดของสนามฟตุ บอล 1
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. อาคาร 8 อยู่ทางทิศใดของอาคาร 2
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 49
กจิ กรรมท่ี 3.9
คำส่งั ใหน้ ักเรียนเขียนเครอ่ื งหมายทีแ่ สดงในแผนที่แทนสิ่งต่าง ๆ บนโลก
แทน แม่นำ้ ลำคลอง แทน ถนน
แทน หนอง บงึ ทะเลสาบ แทน ทางรถไฟ
แทน ภเู ขา แทน ทต่ี ง้ั เมอื งหลวง
การใชส้ ี แทน ...................................................................
1. สีเขยี ว แทน ...................................................................
2. สีน้ำเงนิ แทน ...................................................................
3. สีนำ้ ตาล