เรื่อง ปิโตรเลียม
จัดทำโดย
นางสาวดุสิตา เจียมเจริญกุล เลขที่ 9 ม.5/13
นางสาวนริษรา ภูใบบัง เลขที่ 12 ม.5/13
เสนอ
คุณครู รัตนา หมู่โยธา
รายงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาวิทยาศาสตร์(ว30102)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต20
ปิโตเลียมคืออะไร...? รูปภาพแหล่งผลิตปิโตรเลียม
รูปภาพแหล่งผลิตปิโตรเลียม
ปิโตรเลียม หมายถึง สารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่
เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยมีธาตุเป็นองค์ประกอบ
หลัก คือ คาร์บอนและไฮโดรเจน โดยอาจมีธาตุอื่น
เช่น กํามะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ปนอยู่ด้วย
ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ขึ้น
อยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียมเอง พลังงาน
ความร้อน และความกดดันตามสภาพแวดล้อมที่
ปิโตรเลียมสะสมตัวอยู่
1.1การเกิดและแหล่งปิโตรเลียม
การเกิดปิโตรเลียม
ปิโตรเลียมเกิดจากการทับถม และสลายตัวของอินทรียสาร
จากพืชและสัตว์ ซึ่งคลุกเคล้ากับตะกอน และโคลนตมเป็น
เวลานับล้านปี ตะกอนเหล่านี้ ถูกอัดทับแน่นด้วยความดัน
และความร้อนสูงในบริเวณที่มีปริมาณออกซิเจนจำกัด เกิด
การสลายตัวเป็นน้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติ แทรกอยู่ในรู
พรุนของชั้นหิน และเคลื่อนตัวจากหินกำเนิดไปยังแหล่งกัก
เก็บปิโตรเลียม
รูปภาพการกำเนิดปิโตรเลียม
แหล่งปิโตรเลียม
โดยทั่วไปปิโตรเลียมถูกกักเก็บอยู่ภายใต้พื้นผิวโลกในชั้น
หินทรายที่อยู่ระหว่างชั้นหินดินดาน เนื่องจากหินทรายมี
ความพรุนสูงจึงยอมให้น้ำและปิโตรเลียมซึมผ่านได้ง่าย
ปิโตรเลียมจึงสามารถแทรกอยู่ในช่องว่างระหว่างเม็ดทราย
ในขณะที่หินดินดานมีสมบัติไม่ยอมให้น้ำและปิโตรเลียมซึม
ผ่านได้ง่าย หินดินดานจึงเป็นตัวกักเก็บและป้องกัน
การระเหยของปิโตรเลียม การจะนำปีโตรเลียมจากชั้นหินขึ้น
มาใช้ประโยชน์จะต้องทำอย่างไร
ปิโตรเลียมส่วนใหญ่อยู่ใต้พื้นดิน จึงต้องมีการสำรวจและขุดเจาะเพื่อนำมาใช้
ประโยชน์ การสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมมีความยุ่งยากและซับซ้อนมาก
ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงและเงินทุนจำนวนมากปัจจุบันการสำรวจหาแหล่ง
ปิโตรเลียมบริเวณพื้นดินได้ทำจนทั่วแล้ว จึงขยายการสำรวจหาแหล่ง
ปิโตรเลียมไปในทะเลหรือมหาสมุทร การสำรวจต้องใช้หลายวิธีประกอบกัน
โดยเริ่มจากการสำรวจทางธรณีวิทยาด้วยการทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ
แล้วจึงสำรวจธรณีวิทยาพื้นผิว ผโดลยกเาก็รบศึตกัวษอายช่่าวง
ยหิคนาศดึกคษะเานลัไกด้ษว่าณจะะขมีองหิน
วิเคราะห์ซากพืชซากสัตว์ที่อยู่ในหิน
โอกาสพบโครงสร้างและชนิดของหิน ที่เอื้ออำนวยต่อการกักเก็บปิโตรเลียม
มากน้อยเพียงใด การสำรวจด้วยการตรวจวัดค่าความโน้มถ่วงของโลกเพื่อ
ทราบชนิดของชั้นหินใต้ผิวโลก จะช่วยกำหนดขอบเขตและโครงสร้างของ
แอ่งใต้ผิวดินที่อาจจะเป็นแหล่งกักเก็บปิโตรเลียม การสำรวจด้วยการวัดคลื่น
ไหวสะเทือนจะช่วยบอกให้ทราบตำแหน่ง รูปร่าง ลักษณะและโครงสร้าง
ของชั้นหินใต้ดิน เป็นต้น
ผลการสำรวจเหล่านี้ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ช่วยให้สันนิษฐานว่า
น่าจะมีแหล่งกักเก็บปิโตรเลียมอยู่หรือไม่ ขั้นสุดท้ายจึงเป็นการ
เจาะสำรวจ ข้อมูลจากการสำรวจจะนำมาใช้ในการตัดสินถึงความ
เป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจ ประเทศไทยพบแหล่งน้ำมันดิบเป็น
ครั้งแรกที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2464
ปัจจุบันมีปริมาณเหลือน้อยมาก ต่อมาได้พบแหล่ง
น้ำมันดิบที่จังหวัดกำแพงเพชร ให้ชื่อว่าแหล่งสิริกิติ์
ซึ่งนำมากลั่นใช้ประโยชน์ได้ประมาณ 20,000
บาร์เรลต่อวัน ปริมาณดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการ
บริโภคภายในประเทศ จึงต้องนำเข้าทั้งน้ำมันดิบ
และน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ
รูปภาพแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทย
1.2การกลั่นน้ำมันดิบ
และผลิตภัณฑ์
ㆍในกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ นั้นเริ่มต้นจากส่งน้ำมันดิบเข้าไปในท่อ
ที่ผ่านหอเผาน้ำมันดิบอุณหภูมิสูงประมาณ 350-400 C
เพื่อฉีดเข้าทางด้านล่างของหอกลั่นที่เป็นหอสูง ประกอบด้วยชั้นต่างๆ
ซึ่งแต่ละชั้นจะมีอุณหภูมิแตกต่างกัน โดยส่วนล่างสุดมีอุณหภูมิสูงและ
อุณหภูมิจะลดลงตามความสูงของหอกลั่น เมื่อไอของสารที่มีจุดเดือด
ต่างกันลอยขึ้นด้านบนของหอกลั่น จะควบแน่นเป็นของเหลวในแต่ละ
ชั้นของหอกลั่นได้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีช่วงจุดเดือดลดหลั่นลงมา
ตามลำดับการกลั่นแบบนี้ เรียกว่า การกลั่นลำดับส่วน ผลิตภัณฑ์หรือ
สารที่กลั่นได้แต่ละช่วงจุดเดือดจะมีสมบัติต่างกัน จึงนำไปใช้ประโยชน์
ได้แตกต่างกัน
รูปภาพน้ำมันดิบ
ในการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนที่ใน 1 โมเลกุลประกอบด้วยคาร์บอนเพียง
1 อะตอม ไปจนถึงสารที่มีจำนวนคาร์บอนมากกว่า 50 อะตอม
สารที่มีจำนวนคาร์บอนน้อยๆ เช่น คาร์บอน 1-4 อะตอม จะมี
เสปถ็นาขนอะเงปเ็หน
ลแวก๊เสริ่มตั้งเแมื่ตอ่ขจอำนงเวหนลควาใรส์บเบอานกอว่ะาตนอ้ำมไเปพิ่จมนขึ้ถนึงจขะไอดง้สเหารลทวี่
ข้นเหนียวและหนืดตามจำนวนอะตอมคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่กลั่นได้แต่ละส่วนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
โดยตรงและผลิตภัณฑ์ที่ได้เหล่านี้บางชนิดนำไปเป็นสารตั้งต้น
ในอุตสาหกรรมการผลิตสารอื่นๆได้อีก ซึ่งเรียกอุตสาหกรรมนี้ว่า
อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
รูปภาพโรงกลั่นน้ำมันดิบ
แผนภาพแสดงกระบวนการและผลิตภัณฑ์ที่ไดจากการกลั่นน้ำมันดิบ
นอกจากการนำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ
มาใช้โดยตรง เช่น แก๊สหุงต้ม ตัวทำละลาย
น้ำมันเบนชิน ยังมีการนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปใช้เป็น
วัตถุดิบหรือสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้
ผลิตภัณฑ์ เช่น ถุงบรรจุอาหาร ขวดน้ำ ท่อน้ำ
ฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า หนังเทียม บัตรเครดิต
โฟมบรรจุอาหาร ภาชนะและเครื่องใช้ในครัวเรือน
ยางสังเคราะห์ เส้นใยสังเคราะห์ ผงซักฟอก
แชมพู ปุ๋ย สีย้อมและกาว เป็นต้น
รูปภาพน้ำมันดิบ
1.3การแยกแก๊สธรรมชาติและผลิตภัณฑ์
แก๊สธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง ประเทศไทยสำรวจพบ
แหล่งแก๊สธรรมชาติในบริเวณอ่าวไทยเมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยพบว่ามีปริมาณมากพอ
ในเชิงพาณิชย์ นอกจากนั้นยังพบแหล่งแก๊สบนแผ่นดินที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
เมื่อ พ.ศ. 2524
รูปภาพแหล่งแก๊สธรรมชาติในอ่าวไทย รูปภาพแหล่งแก๊สบนแผ่นดิน
ที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
แก๊สธรรมชาติส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนเพียง 1 อะตอมมีชื่อ
เรียกเเก๊สมีเทน ซึ่งมีประมาณร้อยละ 80-95 แล้วแต่แหล่งที่พบ นอกจากนั้นเป็น
สารไฮโดรคาร์บอนที่มีจำนวนคาร์บอน 2-5 อะตอม ส่วนที่เหลืออีกเล็กน้อยเป็นไอปรอท
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ไนโตรเจนและไอน้ำ การนำแก๊สธรรมชาติมาใช้ประโยชน์
ต้องขุดเจาะและนำขึ้นมาจากใต้พื้นดิน ซึ่งมีทั้งสาวที่เป็นของเหลวและแก๊สผสมกัน จากนั้นจึงแยก
สารทั้งสองส่วนนี้ออกจากกัน โดยการแยกสารที่ไม่ใช่สารประกอบไฮโดรคาร์บอนออกก่อน ด้วยการ
ส่งแก๊สผสมไปกำจัดสารเจือปนที่ไม่ต้องการ เช่น สารประกอบของปรอท คาร์บอนไดออกไซด์
และน้ำ แล้วจึงผ่านแก๊สผสมเข้าสู่หอกลั่น เพื่อแยกสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ตามจุดเดือดของแก๊ส แต่ละชนิด ได้แก่ มีเทน อีเทน โพรเพน และแก๊สอื่นๆ เพื่อนำไป
ใช้ประโยชน์ตามสมบัติของแก๊สนั้น
1.4 เชื้อเพลิงในชีวิตประจำวัน
1.น้ำมันเบนซิน
เป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถ
ยนต์เครื่องยนต์แก๊สโซลีน มี
การกำหนดคุณภาพของน
้ำมันด้วยเลขออกเทน
(octane) สามารถผสมกับเอทานอล (ethanol) ใน
อัตราส่วนต่าง ๆ กลายเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์
(gasohol) เป็นพลังงานทดแทน เพื่อประหยัดน้ำมัน
2.เเก๊สหุงต้ม
เป็นแก๊สผสมระหว่างแก๊สโพรเพน และแก๊สบิวเทน แก๊สผสมดังกล่าว
ถูกอัดลงในถังเหล็กภายใต้ความดันสูง ทำให้แก๊สนี้เปลี่ยนสถานะเป็น
ของเหลว เรียกว่า LPG (liquefied petroleum gas)
3.ไบโอดีเซล
เป็นเอสเทอร์ที่ผลิตจากน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์
โดยนำไปทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ โดยมีกรด
หรือเบสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา จะได้เอสเทอร์กับ
กลีเซอรอล
4.เเก๊สมีเทน
ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า บางส่วนนำไปใช้เป็น
เชื้อเพลิงรถยนต์ ในชื่อ NGV (natural gas for
vehicles) แก๊สธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ CNG
(compressed natural gas) แก๊สธรรมชาติอัด
เพื่อลดมลพิษที่เกิดจากไอเสียรถยนต์
1.5 ผลของผลิตภัณฑ์
ปิโตรเลียมต่อสิ่งมีชีวิตเเละ
สิ่งเเวดล้อม
ผลของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่อสิ่งมีชีวิตเเละสิ่งเเวดล้อม
ผลกระทบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่สำคัญคือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็น
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นอันตรายต่อระบบ
หายใจ หากได้รับในปริมาณมากอาจเสียชีวิต เพราะแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ ไปจับกับ
ฮีโมโกลบินอย่างเหนียวแน่นแทนที่ออกซิเจน ส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจนจนเสีย
ชีวิตได้
ผลของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่อสิ่งมีชีวิตเเละสิ่งเเวดล้อม
ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติบางชนิดเป็นตัวทำละลาย มี
สมบัติละลายสารอื่นได้ดี ระเหยง่าย ติดไฟง่าย เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบนซีน
โทลูอีน เป็นต้น ตัวทำละลายที่ใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ทินเนอ
ร์ผสมสีทาบ้าน น้ำยาทำความสะอาดชิ้นงานและเครื่องจักร น้ำยาย้อมผม
น้ำยาลบคำผิด สารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ ทางการหายใจ การ
รับประทาน และการสัมผัส โดยจะก่อให้เกิดอันตรายได้
คำถาม
1. ปิโตรเลียมคืออะไร ?
= น้ำมันที่ได้จากหิน
2. ปิโตรเลียมเกิดจากอะไร ?
= สารไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตาม
ธรรมชาติ โดยอาจมีธาตุอโลหะอื่นปะปนอยู่ด้วย
เช่น กำมะถัน ไนโตรเจน ออกซิเจน
3. ปิโตรเลียมมีกี่ชนิด ?
= ปิโตรเลียม แบ่งเป็น 2 สถานะ คือ ของเหลว
(น้ำมันดิบ) และ ก๊าซ (ก๊าซธรรมชาติ และคอนเดน
เสท : ก๊าซธรรมชาติเหลว)
4. ก๊าซธรรมชาติเหลวคืออะไร ?
= ก๊าซธรรมชาติที่เมื่ออยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ผิวโลก
ซึ่งมีความร้อนและความกดดันสูง จะมีสภาพเป็นก๊าซ
และจะกลายสภาพเป็ นของเหลวเมื่ อขึ้นมาอยู่บนพื้ น
ผิวโลก
5. การสำรวจหาเเหล่งปิโตรเลียมมีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง ?
= มี 3 ขั้นตอน
1.การสำรวจทางธรณีวิทยา
2.การสำรวจทางธรณีฟิ สิกส์
3.การเจาะสำรวจ
6. ก๊าซธรรมชาติเหลวกับน้ำมันดิบต่างกันอย่างไร ?
= ก๊าซธรรมชาติเหลวเมื่ออยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ผิวโลก ซึ่งมี
ความร้อนและความกดดันสูง จะมีสภาพเป็นก๊าซ และจะกลาย
สภาพเป็นของเหลวเมื่อขึ้นมาอยู่บนพื้นผิวโลก ส่วนน้ำมันดิบมี
สภาพเป็ นของเหลวตั้งแต่เมื่ ออยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ผิวโลก
7. การกลั่นลำดับส่วนคืออะไร ?
= คือการนำน้ำมันดิบมาเข้ากระบวนการเเปรรูปเป็น
ผลิตภัณฑ์โดยอาศัยจุดเดือดที่ต่างกันออกไป
8. น้ำมันดิบนอกจากเเก๊สเเละของเหลว มีน้ำมันดิบในรูป
เเบบอื่นหรือไม่ ?
= มี อยู่ในรูปเเบบกึ่งของเเข็ง คือ ทรายน้ำมัน
9. การขนส่งน้ำมันดิบจากเเหล่งผลิตขนส่งโดยใช้อะไร ?
= ท่อส่งน้ำมัน
10. เเก๊สหุงต้มเเละเเก๊สธรรมชาติต่างกันหรือเหมือนกัน ?
= ต่างกัน เพราะส่วนประกอบไฮโดรคาร์บอนต่างกันเเละ
อุปกรณ์สำหรับบรรจุเเก๊สก็ต่างกัน
อ้างอิง
- หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ สารเเละสมบัติของการ ชั้น
มัธยมปีที่4-6 สำหรับนักเรียนที่ไม่เน้นวิทยาศาสตร์
- https://www.trueplookpa
nya.com/learning/detail/34056
ขอบคุณค่ะ