บันทกึ ข้อความ
ส่วนราชการ โรงเรยี นศรีบญุ เรืองวิทยาคาร ตําบลขมิน้ อาํ เภอเมอื ง จังหวดั สกลนคร
ที่ …………….....................…….. วนั ท.ี่ ....27 กนั ยายน 2562.......
เร่ือง การรายงานผลการดาํ เนนิ งานวจิ ัยปฏิบตั ิการในชัน้ เรียน
เรียน ผู้อาํ นวยการโรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร
ดว้ ยขา้ พเจ้า............. นายกฤษฎา คํามา ตําแหน่งครูผชู้ ่วย ....... ไดจ้ ัดทํางานวิจยั ปฏบิ ัตกิ ารใน
ชั้นเรียน เรื่อง ทักษะการเรียนรู้ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4
โรงเรยี นศรบี ุญเรืองวทิ ยาคาร โดยใช้เทคนคิ การต่อภาพกับความหมาย
บัดน้ี การดําเนินงานได้เสร็จสิ้นแล้ว ขอรายงานผลการจัดทําวิจัยปิบัติการในชั้นเรียน ตาม
เอกสารทแี่ นบมานี้
ผลการดาํ เนนิ งาน บรรลตุ ามเป้าหมายที่ตงั้ ไว้ ไม่บรรลตุ ามเปา้ หมายทต่ี ้งั ไว้
ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายละเอียดดงั เอกสารท่แี นบมาน้ี
จงึ เรียนมาเพอ่ื โปรดทราบและพิจารณา
ลงชอ่ื ......................................ผดู้ ําเนนิ การวิจยั
(......นายกฤษฎา คาํ มา....)
ครผู ู้ช่วย
........................................................................
........................................................................
........................................................................
........................................................................
ลงช่ือ……………………………………………………………………….
(นายธนวุ ัฒน์ สุภาอ้วน)
ตาํ แหน่งผอู้ ํานวยการโรงเรยี นศรบี ญุ เรอื งวิทยาคาร
งานวจิ ยั ปฏบิ ตั กิ ารในช้นั เรียน
เรื่อง ทักษะการเรยี นรู้ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
โดยใชโ้ ดยเทคนคิ การตอ่ ภาพกับความหมาย
ของนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรยี นศรีบุญเรืองวิทยาคาร
ผวู้ ิจยั นายกฤษฎา คามา
ข้นั ที่ 1 วางแผน
1. ความเป็นมา ความสาคญั ของปญั หาและแนวทาง ข้าพเจา้ เปน็ ครผู สู้ อน รายวิชาคอมพวิ เตอร์
นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาช้นั ปีที่ ๔ ของโรงเรียนศรีบุญเรืองวทิ ยาคาร โดยทาหนา้ ทีจ่ ดั การเรยี นการ
สอนนักเรยี นในรายวชิ าคอมพิวเตอร์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ซึ่งในการจัดการ
เรียนการสอนพบว่านักเรยี นมีปญั หา ดา้ นการเรียน เรอื่ ง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเปน็ เรื่องที่
ข้าพเจา้ สนใจมากที่สุด คอื การบอกหน้าที่ของอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ การทข่ี ้าพเจา้ เหน็ วา่ การบอก
หน้าท่ขี องอปุ กรณ์คอมพิวเตอรส์ าคญั มาก เพราะทกั ษะการบอกหนา้ ที่ของสว่ นประกอบคอมพิวเตอร์
เปน็ เรอ่ื งพน้ื ฐานของนกั เรยี นที่นกั เรียนต้องมีความรคู้ วามเข้าใจเพ่ือนาไปศึกษาหาความรใู้ นเรือ่ งอื่นๆ
หากทักษะการบอกหน้าท่ีของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ไม่ไดร้ บั การแก้ไขอย่างเรง่ ด่วนจะสง่ ผลเสยี ตอ่
การศึกษา คน้ ควา้ เรยี นรูใ้ นการเรียนรใู้ นรายวิชา และนอกจากนีแ้ ลว้ ทกั ษะการบอกสว่ นประกอบ
ของคอมพวิ เตอร์ยงั สามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ ับการเรยี นในรายวชิ าคอมพิวเตอร์ในหน่วยต่อไป
ในห้องเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ ท่ีข้าพเจ้าเปน็ ครผู สู้ อน มนี ักเรยี น จานวน 34 คน มีทงั้
เดก็ เกง่ ปานกลาง อ่อน และเดก็ พิเศษ คละกัน จากการจัดกจิ กรรมการสอนวชิ าคอมพิวเตอร์ เรือ่ ง
สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ ต้องมีการฝึกฝนในการจดจาอปุ กรณ์ และหน้าท่ีของการใชง้ าน ซง่ึ
เป็น สาระการเรียนรตู้ ามตัวชวี้ ดั ในมาตรฐาน ง 3.1 ป.2/3 บอกช่อื และหน้าที่ของอุปกรณ์พน้ื ฐานที่
เป็นสว่ นประกอบหลักของคอมพิวเตอร์ โดยการจัดเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี นนั้น ครผู สู้ อนฝกึ การจบั คู่
รูปภาพใหน้ กั เรยี นบอกหน้าที่การทางาน และฝกึ กิจกรรมบนกระดานให้วาดรูปอปุ กรณท์ ่ีนกั เรียนจา
ได้และบอกหน้าทกี่ ารทางาน เพอื่ ใหน้ กั เรียนฝึกความจาในอุปกรณน์ ั้น จากน้ันจึงทดสอบ ทักษะการ
ตอบคาถามในชัน้ เรยี นจากแบบฝึกหดั ทลี ะคน เพื่อทดสอบว่ายังมนี กั เรียนคนใดบ้างทีย่ งั ไมเ่ ข้าใจการ
เรยี นรู้หนา้ ท่กี ารทางานของส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ (ตวั อยา่ งแบบฝึกหดั ตามภาคผนวก ก)
จากการให้นักเรยี นบอกอุปกรณ์พร้อมหน้าท่ีในชนั้ เรยี นทลี ะคนจากแบบฝึก พบวา่ มีนักเรียน
สว่ นมากสามารถบอกอุปกรณ์กบั หน้าที่ได้อยา่ งถกู ต้อง ยกเว้นนกั เรยี นจานวน 10 คน มีปญั หาดา้ น
การ บอกหน้าทีข่ องอุปกรณไ์ มถ่ กู ต้อง คือยงั ไมถ่ ึงเกณฑ์ที่ข้าพเจ้ากาหนด คือ ร้อยละ 80 ของทุกข้อ
ในแบบฝกึ โดยลักษณะการตอบคาถามของนักเรียนที่ไม่ถูกต้อง คือ ไม่เข้าใจ การบอกหนา้ ท่ขี อง
อปุ กรณ์ ตวั อยา่ งเชน่ CD มหี นา้ ทีบ่ ันทึกข้อมลู แต่เด็กบางคนตอบทาหนา้ ทีส่ ่งข้อมูล ข้าพเจ้าจงึ ได้
พยายามแก้ไขปัญหานี้ใน ห้องเรียนทันที โดยให้มาฝกึ การบอกหนา้ ที่ของอุปกรณ์ทลี ะคนตัวตอ่ ตวั กบั
ขา้ พเจา้ หลังเลิกช้ันเรียนตาม แบบฝึกเดิมที่ใช้สอนในห้องเรียน ซึ่งพบวา่ มีนกั เรียน 5 คน ทส่ี ามารถ
บอกหนา้ ท่ขี องอปุ กรณ์ได้อยา่ ง ถูกต้องทุกข้อ จึงยังคงเหลือนักเรยี นอีก 5 คน ท่ียงั ไมส่ ามารถ
เปรยี บเทียบเศษส่วนได้ถูกต้อง ไมถ่ งึ เกณฑร์ อ้ ยละ 80 ของแบบฝึกหดั ซึง่ เด็กกลมุ่ ดังกล่าวน้จี าเป็น
จะตอ้ งได้รบั การแก้ไขปัญหาน้ี ก่อนที่จะแก้ไขปญั หาใหก้ ับนกั เรียน 5 คนน้ี ขา้ พเจา้ ได้ศึกษาสาเหตุ
ของการอธบิ ายหนา้ ทส่ี ่วนประกอบไมถ่ ูกต้อง เพ่ือให้ทราบสาเหตุมาจากอะไรจะได้แกไ้ ขได้ถูกต้อง ซ่ึง
จากการสอบถามเพ่ือนๆ ของนกั เรยี นท้งั 5 คน สามารถสรุปไดว้ า่ สาเหตทุ ี่นกั เรียนบอกหน้าที่ของ
อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง คือ นักเรยี น ไม่สามารถวเิ คราะห์แยกแยะว่าขอ้ มูลมีความสัมพันธก์ นั อย่างไร ขาด
ทักษะการคิด การจดจา และการวิเคราะห์ จึงทาให้ นักเรยี นเกดิ ความสบั สนในการแยกแยะหน้าท่ี
อุปกรณ์ เมอ่ื พิจารณาสาเหตุของการอธบิ ายหนา้ ท่ีอุปกรณ์ไมถ่ ูกต้องของนกั เรยี น จานวน 5 คน
ดงั กลา่ วนั้น เม่ือพจิ ารณาแลว้ พบว่าไม่ไดม้ าจากสาเหตจุ ากการอธิบายหน้าท่ีของอุปกรณ์เพยี งเท่าน้นั
แตม่ า จากการที่ไม่มีทกั ษะการจาเนอ้ื หา และไม่สามารถแยกแยะไดว้ ่าข้อมูลมีความสัมพันธก์ ัน
อย่างไร จึงต้อง ปรับวิธกี ารสอนเพ่ือทบทวนความเขา้ ใจ ให้นักเรียนได้ฝกึ การจา และแยกแยะขอ้ มูลที่
มีความสัมพนั ธ์กันให้มีประสิทธิภาพย่งิ ขนึ้ การจะแก้ไขปัญหาให้เด็กนกั เรียนกลมุ่ นี้ ข้าพเจ้าจะไม่ใช้
แบบฝึกเดมิ เพราะคดิ วา่ หากใช้ นักเรยี นฝึกตามแบบฝึกเดมิ ที่เคยใชใ้ นการเรียนการสอนที่ผ่านมาก็คง
ไดผ้ ลเชน่ เดมิ ข้าพเจ้าจึงหา เทคนคิ ในการฝึกให้แกน่ ักเรยี นกลมุ่ เป้าหมายใหม่ ให้สอดคล้องกับสาเหตุ
ของปัญหาของนกั เรยี นนั้น เทคนิคใหม่ทจ่ี ะแก้ไขปัญหาใหก้ ล่มุ เป้าหมายดงั กลา่ วคอื การใหน้ ักเรียน
เห็นความแตกต่างของหน้าที่การทางานของอปุ กรณ์ในแต่ละอุปกรณ์ทีเ่ คยทาไม่ถูกต้อง โดยใช้
“เทคนิคการจับคู่บตั รคากบั หน้าทีข่ องอปุ กรณ์” โดยการให้นกั เรียน เลอื กอุปกรณม์ า 1 ใบและใหห้ า
ความหมายมาต่อกันใหถ้ ูกต้อง เพื่อให้เข้าใจหนา้ ทข่ี องส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ได้ดีย่งิ ข้นึ การที่
ข้าพเจา้ คดิ เทคนคิ การจับคู่ภาพกับความหมายมาใช้ เนือ่ งจากข้าพเจา้ เหน็ วา่ หากนักเรียนได้เหน็
ภาพในรูปแบบอุปกรณ์ ซง่ึ สามารถทาให้นกั เรียนเห็นภาพจริงและสามารถบอกหน้าที่ของอุปกรณไ์ ด้
จากแนวคดิ ดังกล่าวข้าพเจ้าจึงนาแบบฝึกที่ใช้ในหอ้ งเรียนมาจดั ทาแบบฝึกในรปู แบบของการ ตอ่ ภาพ
กับความหมาย จานวน 3 ชุด ชดุ ละ 5 ขอ้ ซึง่ ขา้ พเจ้าเชอ่ื ว่าแบบฝกึ นี้น่าจะพอเพียงท่ีจะใช้ในการฝึก
นักเรียนกลุม่ เป้าหมายใหส้ ามารถมีความเขา้ ใจหนา้ ท่ีของอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ได้อยา่ งเข้าใจมาก
กวา่ เดิม และเหมาะกับเด็ก วัยนี้ และระดับความสามารถในการเรียนรู้ของเดก็ กลมุ่ น้เี พราะหาก
เนอื้ หาที่ยากกว่าน้ี เดก็ อาจเกิดความเบื่อหน่าย และเกดิ อาการล้าในการฝึก โดยแบบฝกึ ชุดแรก เป็น
แบบฝึกทเ่ี ป็นการเลือกความหมายให้ตรงกับรปู ภาพที่กาหนดให้ ชดุ ที่สองใหโ้ ยงเส้นอุปกรณก์ บั หน้าที่
ของอุปกรณ์ ใหถ้ ูกตอ้ ง และชุดท่สี ามเติมช่ืออุปกรณล์ งไปในหน้าทกี่ ารทางานให้ถูกต้องแบบฝกึ หัดทา
ให้ นกั เรยี นเขา้ ใจในการทางานของอปุ กรณแ์ ต่ละอปุ กรณ์ สกู่ ารปฏิบัติใหมท่ ่แี ตกต่างจากเดิม ที่ทาให้
เด็กสามารถบอกหน้าท่ีได้โดยการมองเหน็ ภาพและได้สนุกสนานในการเรยี นการสอน (ตัวอยา่ งแบบ
ฝกึ ตามภาคผนวก ข) สว่ นในรูปแบบในการฝึกการบอกหน้าท่ขี องอุปกรณ์คอมพิวเตอรน์ ้ันสามารถ
กระทาไดห้ ลายวธิ ีการ เชน่ ใหม้ า ฝึกทาแบบฝึกกบั ครู ใหฝ้ ึกทาแบบฝึกกับเพ่ือน หรือการฝึกดว้ ย
ตนเอง ซงึ่ ขา้ พเจ้าเหน็ วา่ หากให้ นกั เรยี นกลมุ่ น้ฝี ึกด้วยตนเองตามลาพงั เด็กอาจจะทาผิดหรอื ถกู
เหมอื นเดิมเพราะไมม่ ใี ครช่วย ตรวจสอบวา่ ทาผดิ หรือทาถูก ดงั น้นั การทาแบบฝึกของนักเรียนกลุม่ นี้
จงึ จาเปน็ ตอ้ งมีคนมาชว่ ยดแู ล ตรวจสอบวา่ ทาถูกหรือไม่ แต่หากข้าพเจา้ ต้องดูแลใหน้ ักเรียนฝึกด้วย
ตนเอง ก็คงฝึกฝนให้นักเรียนได้ วันละสองคน เพ่ือใหน้ ักเรยี นเข้าใจได้อย่างละเอียดและชัดเจน
ขา้ พเจา้ จึงคดิ หารูปแบบการฝึกทีค่ นอน่ื สามารถชว่ ยดูแลการทาแบบฝึกเรื่องหนา้ ท่ีของอุปกรณ์ ของ
นกั เรยี นกลมุ่ เป้าหมายแทนข้าพเจ้า จึงได้ขอให้นกั เรยี นรุ่นพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทเี่ ก่งๆ จานวน 5
คน เปน็ อาสาสมัครช่วยดแู ลการฝกึ ซง่ึ ข้าพเจา้ คดิ ว่าจะชว่ ยดูแลในการฝกึ ให้นกั เรยี นกลุ่มเปา้ หมายได้
ฝึกทาแบบฝกึ นักเรียนรุ่นพ่ีท่ีเป็นอาสาสมคั รที่ชว่ ยดแู ลการฝึกก็จะรู้ทนั ทวี ่าทาผดิ หรือทาถกู และ
สามารถทาให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายสามารถบอกหน้าทขี่ องอปุ กรณ์ใหถ้ ูกตอ้ งได้ สาหรบั สถานท่ีให้ใช้
สาหรบั ให้นกั เรยี นกลุ่มเปา้ หมาย ฝึกทาแบบฝึกกบั รุ่นพีน่ ัน้ ขา้ พเจา้ ใหฝ้ กึ ท่หี ้องเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ ๔ ซ่งึ เป็นหอ้ งเรียนของนักเรยี นกลมุ่ เปา้ หมาย เพราะช่วงกลางวัน ไม่มีนักเรยี นขึ้นมาเล่นใน
หอ้ งเรยี น ซง่ึ จะทาให้กลุ่มเปา้ หมายมีสมาธใิ นการฝึก และหากใช้สถานท่ีอืน่ หรอื ห้องอ่ืนๆ เมอื่ ครูเข้า
สอนแลว้ เด็กอาจจะยงั ฝกึ ไม่เสร็จและจะมาเขา้ เรียนสาย แตถ่ า้ ฝกึ ใน ห้องเรยี นตนเองก็เหมอื นกบั
การมารอเรยี นชว่ งบ่าย และจะได้ควบคมุ เวลาให้ฝึกเสรจ็ กอ่ นเข้าเรียน โดยฝึกก่อนเข้าเรยี นตอนบ่าย
และทตี่ ้องให้ฝึกในชว่ งหลงั อาหารกลางวนั เพราะเปน็ ชว่ งเดียวของวนั ท่ี กลมุ่ เป้าหมายพอจะมีเวลา
วา่ ง
2. กรอบแนวคดิ การวจิ ัย
ในงานวิจัยในช้ันเรยี นเรอ่ื งน้ี ข้าพเจ้าต้องการแก้ไขปญั หาความสามารถในการบอกหนา้ ท่ีของ
สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์ของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ โรงเรยี นศรบี ญุ เรืองวิทยาคาร ทฝ่ี ึก
การบอกหนา้ ทีข่ องอปุ กรณ์ โดยการใช้เทคนิคต่อภาพกับความหมาย
การฝกึ บอกหน้าท่ีของสว่ นประกอบคอมพวิ เตอร์ ความสามารถในการบอกหน้าท่ี
โดยใช้เทคนคิ การต่อภาพกับความหมาย ของอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์
3. คาถามวิจัย
จากกรอบแนวคดิ ในการวิจยั ทก่ี ล่าวมา เน่อื งจากการแกป้ ัญหาครง้ั นขี้ ้าพเจ้าต้องการรู้ว่า การ
ฝึกดว้ ยเทคนิคต่อภาพกบั ความหมาย สามารถพฒั นาความสามารถในการบอกหน้าท่ีของอปุ กรณ์ ให้
สูงขึ้นกวา่ เดมิ ทัง้ ในภาพรวมและรายบคุ คล และสามารถทาใหน้ กั เรยี นมคี วามสามารถในการบอก
หนา้ ทข่ี องอปุ กรณ์ได้ตามเกณฑ์ร้อยละ 80 จึงกาหนดคาถามวิจัยได้ 2 ข้อ คือ
3.1 ความสามารถในการบอกหนา้ ที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายทัง้
ในภาพรวมและรายบุคคล หลังการฝกึ ทาแบบฝกึ ทใ่ี ช้เทคนิคการต่อภาพกบั ความหมาย สูงกว่ากอ่ น
ฝกึ หรือไม่
3.2 นกั เรยี นกลุม่ เป้าหมายรายบุคคลเม่ือฝึกทาแบบฝึกดว้ ยเทคนิคการต่อภาพกบั ความหมาย
จะมีความสามารถในการบอกหนา้ ทีข่ องอปุ กรณ์ได้สงู ขึน้ ถึงเกณฑ์ร้อยละ 80 หรอื ไม่
4. วัตถุประสงค์วจิ ยั
วัตถุประสงค์ของการวิจัย ข้าพเจ้ากาหนดไว้ 2 ข้อ เพื่อให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับ
คาถามวิจยั ดงั นี้
4.1 เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการบอกหน้าท่ีของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ของ
นักเรียนกลุ่มเป้าหมายท้ังในภาพรวมและรายบุคคล ก่อนและหลังการฝึกด้วยการบอกหน้าที่ของ
อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ดว้ ยเทคนิคการต่อภาพกบั ความหมาย
4.2 เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของ
นกั เรยี นกลมุ่ เปา้ หมายรายคนกับเกณฑร์ อ้ ยละ 80
5. สมมตุ ฐิ านวจิ ัย
การที่ข้าพเจา้ เลือกใช้เทคนคิ การตอ่ ภาพกับความหมาย เพราะคดิ ว่าวธิ ีการนจี้ ะทาให้
นกั เรียนจะต้องพยายามหาความหมายให้ตรงกับรปู ภาพและแยกแยะแต่ละอปุ กรณ์ได้ถกู ต้อง จะทา
ใหก้ ลมุ่ เป้าหมาย ทุกคนมีความสามารถในการบอกหนา้ ท่ีของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ได้สงู ข้นึ กว่าเดิม
จงึ กาหนดสมมุตฐิ านไวว้ า่ “ความสามารถในการบอกหนา้ ท่ีของสว่ นประกอบของคอมพวิ เตอรข์ อง
นกั เรยี นกลุ่มเป้าหมายทัง้ ในภาพรวมและรายบคุ คล หลงั การฝึกดว้ ยการทาแบบฝึกด้วยเทคนคิ การต่อ
ภาพกบั ความหมายสงู ข้นึ กว่ากอ่ นการฝึก”
6. ตวั แปรในงานวจิ ัย
ตวั แปรในงานวจิ ัยนี้มี 2 ตัวแปร ตามกรอบแนวคิดการวจิ ัย ได้แก่
6.1 ตัวแปรต้น (วิธีการแก้ปัญหา) คือ การฝึกการบอกหน้าท่ีของส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
โดยใชเ้ ทคนิคการต่อภาพกบั ความหมาย
6.2 ตวั แปรตาม (ผลจากการฝกึ บอกหนา้ ทข่ี องอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์) คือ ความสามารถใน
การบอกหน้าทข่ี องอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์
7. เคร่ืองมือวิจัย
เครื่องมอื สาหรบั การทาวจิ ัยมี 2 ชดุ คือ เคร่ืองมือสาหรับตัวแปรตน้ และเคร่ืองมือสาหรับวดั
ตวั แปรตาม
7.1 เครื่องมือสาหรับตัวแปรตน้
เครื่องมือสาหรับตัวแปรต้น คือ เครื่องมือสาหรับการฝึกบอกหน้าที่ของอุปกรณ์ ได้แก่ แบบ
ฝึกในรูปแบบของการตอ่ ภาพกบั ความหมาย จานวน 3 ชุด ชุดละ 5 ข้อ ดังน้ี
แบบฝึกชุดที่ 1 เลอื กความหมายให้ตรงกบั รูปภาพท่กี าหนดให้
แบบฝึกชดุ ท่ี 2 โยงเส้นอปุ กรณ์กบั หน้าที่ของอุปกรณ์ ให้ถูกต้อง
แบบฝึกชดุ ท่ี 3 เตมิ ชื่ออุปกรณล์ งไปในหน้าท่ีการทางานให้ถูกต้อง
ซ่งึ ในแบบฝกึ จะมีการฝกึ ใชร้ ปู ภาพอุปกรณท์ ี่เหมือนกนั ท้งั 3 ชดุ จะแตกต่างกนั คือการสลับ
อุปกรณ์ที่ เพ่ือให้นักเรียนได้เรยี นรู้และจดจาหนา้ ท่ีของอปุ กรณ์ได้เป็นอยา่ งดี (ตวั อยา่ งเครอื่ งมือ
นาเสนอไวใ้ นภาคผนวก ข)
7.2 เครือ่ งมือสาหรบั วดั ตัวแปรตาม
เคร่อื งมือสาหรบั การวัดตัวแปรตาม คือ เครอื่ งมือสาหรบั วัดความสามารถในการบอกหน้าที่
ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (นาเสนอไว้ในภาคผนวก ค) เป็นแบบทดสอบ จานวน 5 ข้อ ท่ีเป็นการ
บอกหน้าที่ของอปุ กรณ์การทางานของคอมพิวเตอร์ โดยให้นักเรยี นทาแบบทดสอบ แล้วให้เพื่อน หรือ
ครูเป็นผู้ตรวจสอบในการทาแบบทดสอบว่าถูกต้องหรือไม่ถ้าถูกต้องก็บันทึกคะแนนลงในแบบบันทึก
คะแนน ได้ 1 คะแนน ถ้าผิดให้ใส่เคร่ืองหมาย X ไม่ได้คะแนน หรือ 0 คะแนน (ตัวอย่างเครื่องมือ
สาหรับวัดตัวแปรตาม นาเสนอในภาคผนวก ค) โดยเครื่องมือสาหรับวัดตัวแปรตามนี้ ใช้สาหรับวัด
ความสามารถในการบอกหน้าที่ของส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ทั้งก่อนและหลังการดาเนินการ
แก้ปัญหา หรอื กอ่ นหรือหลงั การฝกึ ตามแบบฝกึ
8. กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร จานวน 5 คน ที่บอกหน้าท่ี
การทางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยังไม่ถูกต้อง ซ่ึงเป็นนักเรียนท่ีซ่อมเสริมให้ฝึกรายบุคคลท่ีโต๊ะครู
ในห้องเรียนแลว้ ยังไม่สามารถบอกหน้าท่ีการทางานของอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ไดต้ ามเกณฑ์ทกี่ าหนดไว้
คอื บอกหน้าท่ีการทางานไดอ้ ย่างถกู ต้อง ประมาณร้อยละ 80
9. ชว่ งเวลา/ระยะเวลา
หลังเวลารับประทานอาหารกลางวัน ประมาณเวลาเท่ียงครงึ่ เป็นเวลา 3 วัน รวมระยะเวลา
ดาเนินการแกป้ ัญหา 3 วัน ระหวา่ งวันที่ 6-8 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2561
10. สถานที่
ห้องเรยี น ชนั้ ประถมศึกษาชนั้ ปีที่ 4 ซึง่ เป็นหอ้ งเรียนของนักเรียน
11. การเก็บรวบรวมข้อมูลเสน้ ฐาน
ก่อนดาเนินการวิจัยข้าพเจ้าจาเป็นต้องเก็บข้อมูลความสามารถในการอธิบายหน้าที่ของ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพอ่ื เป็นขอ้ มูลพื้นฐาน ซ่ึงจะทาให้ข้าพเจ้าได้ร้พู ื้นฐานความสามารถในการเรียน
ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายรายคน ว่ามีความสามารถมากน้อยเพียงใด เพ่ือเก็บไวส้ าหรับเปรียบเทียบ
คะแนนความสามารถในการบอกหน้าท่ีของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลังจากท่ีนักเรียนกลุ่มเป้าหมายได้
ฝึกการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์ในแบบฝึกทั้ง 3 ชุดแล้ว การเก็บข้อมูลเส้นฐานของข้าพเจ้าสามารถ
เลือกใช้คะแนนจากแบบฝึกที่นักเรียนทาท้ายชั่วโมงเรียนได้แต่เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีชัด เจนอีกครั้งและ
เพ่ือให้มีเครื่องมือสาหรับการตรวจวัดความสามารถในการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในคร้ัง
ต่อไป ข้าพเจ้าจึงใช้แบบทดสอบความสามารถในการที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้นใหม่ เพ่ือเป็นข้อมูลเส้นฐาน
(ภาคผนวก ค) โดยดาเนนิ การดังน้ี
1) ให้นักเรียนท่ีมีปัญหาในการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จากชั่วโมงเรียน
คอมพิวเตอร์ ท่ีข้าพเจ้าทดลองสอน ซึ่งมีจานวน 5 คน นัดให้นักเรียนไปพบที่ห้องเรียนเวลาเท่ียงคร่ึง
หลงั รบั ประทานอาหารกลางวนั
2) นาแบบทดสอบความสามารถในการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยการเติมชื่อ
อุปกรณ์ลงไปในหน้าที่การทางานให้ถูกต้องให้นักเรียนได้ทดสอบ โดยให้นักเรียนทาตามลาดับใน
แบบทดสอบ ข้าพเจ้าบันทึกคะแนนจากการทาแบบทดสอบของนักเรียนลงในแบบบันทึกคะแนน
ความสามารถในการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (ภาคผนวก ค) พบว่าจากการฝึกบอกหน้าที่
ของอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ 10 ข้อ ซึ่งจะมีรูปภาพของอปุ กรณ์ทซ่ี ้ากนั เพื่อใหเ้ ด็กเกิดความเข้าใจมากข้ึน
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
12. การดาเนนิ การพฒั นา
หลังจากการท่ีขา้ พเจ้าไดเ้ กบ็ ข้อมูลเสน้ ฐานแล้ว จงึ ไดด้ าเนินการพฒั นาให้กบั นกั เรียนทีม่ ีการ
บอกหน้าทขี่ องอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ได้ตา่ กวา่ ร้อยละ 80 ตามคะแนนข้อมลู เส้นฐาน โดยวธิ กี าร
แกป้ ัญหาของข้าพเจา้ คอื การพัฒนาใหน้ กั เรียนกลุม่ เปา้ หมายสามารถบอกหน้าทีข่ องอุปกรณ์
คอมพวิ เตอร์ ให้ถูกต้องมากกวา่ เดิม ดว้ ยการใหฝ้ ึกแบบทดสอบในแบบฝกึ จานวน 3 แบบฝึกๆ ละ 5
ข้อ โดยให้รุ่นพี่ทเี่ รยี นเก่งเปน็ อาสาสมัครช่วยฝึกให้ โดยดาเนนิ การดังนี้
1) ในวันแรกของการดาเนินการแก้ปัญหา ขา้ พเจ้านดั ใหน้ กั เรยี นอาสาสมัครจานวน 5 คน ที่
จะชว่ ยดแู ลมาพบเวลาเท่ยี งครงึ่ ท่หี ้องเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ แจ้งวตั ถปุ ระสงค์กับเด็กกล่มุ นีว้ ่า
ต้องการให้ชว่ ยดูแลเปน็ พเี่ ลยี้ งการบอกหนา้ ท่ีของอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ของนักเรยี นรุน่ นอ้ ง 5 คนที่มี
ปญั หา การบอกหนา้ ที่ของอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ และให้ทุกคนทดลองทาแบบฝึก ในแบบฝึกให้ข้าพเจา้
ดู เพ่ือสรา้ งความม่นั ใจวา่ นักเรยี นอาสาสมัครท่จี ะช่วยดแู ลการฝึกนกั เรยี นกลมุ่ เปา้ หมายได้ ข้าพเจ้า
จึงได้ให้นักเรยี นอาสาสมัครได้ทดลองฝึกฝนการไปชว่ ยนักเรียนกลุม่ เป้าหมาย โดยให้อาสาสมัครคน
อนื่ ๆ ช่วยตรวจสอบการบอกหน้าท่ขี องอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ว่าผิดหรือถูกแล้วให้คาแนะนาในการ
บอกหนา้ ท่ีของอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ใหถ้ ูกต้อง
2) เม่อื มั่นใจว่านกั เรียนกลุ่มนี้จะช่วยดูแลน้องๆ ได้แลว้ จงึ แจกชุดแบบฝึกจานวน 3 ชดุ ให้
นักเรียนอาสาสมัครไปฝึกน้องๆ ในชว่ งหลงั เลกิ เรียนในชว่ งเย็นวนั เดียวกนั น้นั 1 ชุด คอื เลอื กรูปภาพ
ให้ตรงกับความหมายท่ีกาหนดให้ วันถดั มาให้ฝึก 1 ชดุ คือ โยงเส้นอปุ กรณ์กับหน้าทขี่ องอุปกรณ์ ให้
ถกู ต้อง โดยใชช้ ว่ งหลังอาหารกลางวนั 1 ชดุ และให้ฝึกอีก 1 ชดุ คอื เติมช่ืออุปกรณ์ลงไปในหนา้ ที่
การทางานให้ถูกตอ้ ง สถานท่ีใชฝ้ กึ คือห้องเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
13. การเก็บรวบรวมข้อมูลหลงั การพัฒนา
เม่อื นกั เรยี นกลุ่มเป้าหมายฝึกครบตามแบบฝึก 3 ชดุ แล้ว ข้าพเจ้าได้ทดสอบความสามารถใน
การการบอกหนา้ ทข่ี องอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ ด้วยแบบทดสอบเดิมท่ี ใช้ทดสอบก่อนการให้นักเรียน
กล่มุ เป้าหมายฝึกเพื่อเกบ็ ขอ้ มูลหลงั การแก้ปัญหาเพื่อนามาการเปรยี บเทยี บกบั ครัง้ แรก
ขั้นท่ี 2 สงั เกตผล
ในขน้ั ตอนน้ีขา้ พเจา้ ต้องการศึกษาผลจากการฝกึ ให้นักเรียนบอกหน้าท่ขี องอปุ กรณ์
คอมพิวเตอร์ว่า สามารถแก้ปัญหาของนักเรยี นกลุ่มเป้าหมายไดร้ ับการแก้ไขไปแล้วมากนอ้ ยเพยี งใด
ท้ังในภาพรวมและรายบคุ คล และนกั เรียนกลุ่มเปา้ หมายรายบุคคลมีความสามารถในการบอกหน้าที่
ของอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ ตามเกณฑ์ทต่ี ้องการหรือไม่โดยพจิ ารณาจากผลการเปรียบเทียบคะแนน
ความสามารถในเปรยี บเทียบและแยกแยะความสมั พันธ์ของอุปกรณ์แตล่ ะชนิ้ กอ่ นการฝกึ การบอก
หนา้ ทขี่ องอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ คอื คะแนนเส้นฐาน และหลังการฝึก หากคะแนนหลังการฝึกสูงกว่า
กอ่ นการฝึก แสดงวา่ นกั เรียนมีความสามารถในการบอกหน้าทขี่ องอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ หลงั การฝกึ
ของนักเรยี นกลุ่มนี้ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 80 หรือไม่ ถ้าเกินแสดงว่านกั เรยี นรายน้นั มีความสามารถใน
การบอกหน้าที่ของอปุ กรณ์คอมพิวเตอรต์ ามท่ขี ้าพเจ้าพอใจแล้ว โดยข้าพเจ้านาเสนอผลการวเิ คราะห์
ข้อมูล สรปุ ผล และ อภิปรายผลไว้ดงั นี้
14. ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู
จากการเก็บข้อมูลเส้นฐานความสามารถในการบอกหน้าท่ีของอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ก่อนการ
ใหน้ ักเรียนกลุ่มเป้าหมายฝึกฝนจากแบบฝึก และ หลงั จากการฝึกฝนจากแบบฝึก จานวน 3 ชดุ นามา
เปรียบเทยี บกัน และเปรียบเทยี บกับเกณฑ์ ร้อยละ 80
15.สรุปผลการวิจยั
15.1 สรปุ องค์ความรทู้ ่ีได้จากการวจิ ยั จากผลการวิจัยท่พี บวา่ ในภาพรวมนกั เรยี น
กลุ่มเป้าหมายมคี ะแนนความสามารถในการบอกหนา้ ที่ของอุปกรณ์คอมพวิ เตอรส์ ูงข้ึน และนักเรยี น
กลมุ่ เป้าหมายมีคะแนนสูงขน้ึ หลงั การฝึกการอ่านและฝึกจารูปภาพด้วยเทคนคิ การต่อภาพกับ
ความหมาย แสดงวา่ วธิ ีการฝึกการบอกหนา้ ท่ขี องอปุ กรณ์คอมพิวเตอรด์ ว้ ยเทคนิคการต่อภาพกับ
ความหมาย สง่ ผลตอ่ ความสามารถทาให้นักเรียนสามารถแยกแยะหน้าท่ีของแต่ละอปุ กรณ์ไดม้ าก
ย่ิงข้นึ ข้นึ
15.2 ผลการพัฒนานักเรยี น จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีพบว่านกั เรียนกลุม่ เป้าหมาย ทั้ง 5
คน มคี ะแนนความสามารถในการบอกหนา้ ท่ีของอปุ กรณ์คอมพิวเตอรผ์ า่ นเกณฑร์ ้อยละ 80 ตามทต่ี ้ัง
ไว้ แสดงวา่ งานวจิ ยั นไี้ ดแ้ กป้ ัญหาการบอกหนา้ ท่ีการทางานของสว่ นประกอบของคอมพิวเตอรข์ อง
นักเรียนสาเร็จแล้วท้งั 5 คน
16. อภิปรายผลการวิจัย
เนอ่ื งจากการวจิ ัยทพ่ี บวา่ เมอื่ ให้นักเรียนฝึกการบอกหน้าที่ของอปุ กรณ์คอมพิวเตอรจ์ าก
แบบฝึกแล้ว นกั เรยี นในภาพรวมมีความสามารถในการบอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์สงู ขึน้ นน้ั
ทั้งน้เี นอื่ งมาจากการฝกึ ฝนดว้ ยเทคนิคต่อภาพกบั ความหมาย น้นั นกั เรียนตอ้ งใชค้ วามพินิจพเิ คราะห์
คิดวิเคราะห์ คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ มากขึ้น เพราะถา้ รับรู้ว่าบอกหนา้ ท่ีของอปุ กรณช์ ิ้นใดชิน้ หน่งึ ผิด
กจ็ ะทาใหช้ นิ้ อื่นผดิ ไปด้วย จึงตอ้ งมเี ทคนคิ ในรปู แบบตา่ งๆ เพ่อื ให้เกดิ ความร้คู วามเขา้ ใจมากขึ้น
เพอื่ ใหเ้ กิดความถูกต้องและแม่นยามากยิ่งข้ึน
ข้ันท่ี 3 สะท้อนความคิด
17. การสะท้อนความคดิ จากตนเอง
จากการทางานวจิ ัยปฏิบตั ิการในช้ันเรยี นเรอ่ื งนข้ี ้าพเจ้าซ่ึงรับผิดชอบดาเนินการวิจยั ตั้งแต่
เรม่ิ ตน้ ในการค้นหาปญั หาของผเู้ รยี น และดาเนินการแก้ปัญหาโดยลาดบั ข้าพเจา้ ไดข้ ้อคดิ จากการ
วจิ ยั ในชน้ั เรยี นของขา้ พเจา้ ในประเดน็ ตา่ งๆ ดังนี้
1) การท่ีข้าพเจ้าใชเ้ คร่ืองมือทดสอบความสามารถในการบอกหน้าท่ีของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
มาทดสอบนักเรียน ชช้ี ัดว่านักเรยี นผใู้ ดนา่ จะมปี ญั หาในบอกหน้าท่ีของอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ ขา้ พเจา้
คดิ วา่ เปน็ สิ่งที่เหมาะสมแล้วเพราะนักเรยี นจะใช้มาตรฐานเดยี วกนั ในการบง่ บอกว่ามปี ญั หาหรอื ไม่
และเป็นประโยชนต์ ่อการดแู ลนกั เรียนกล่มุ เปา้ หมายเปน็ รายบุคคล เพราะได้รู้ระดับความสามารถ
ของแต่ละบคุ คล
2) การกาหนดว่าผู้มปี ัญหาในเการบอกหนา้ ที่ของอุปกรณ์คอมพิวเตอรน์ นั้ ควรมีการกาหนด
เกณฑ์อย่างชัดเจน วา่ นกั เรยี นบอกหน้าทีข่ องสว่ นประกอบคอมพิวเตอร์ผิดจานวนก่ขี ้อ จึงจะเป็น
นกั เรยี นท่ีมปี ัญหาต้องแก้ไข เพราะบางครงั้ การกาหนดเกณฑไ์ ว้สูงเกินไป เดก็ ท่มี ปี ญั หาเพยี งนดิ
หน่อยกจ็ ะกลายเป็นผู้ที่มีปัญหา อนั จะสง่ ผลให้ต้องเพ่ิมภาระในการพัฒนา ท้ังๆ ใชก้ ารแนะนาเพียง
นิดหนอ่ ยเดก็ กลมุ่ นัน้ อาจหมดปญั หาไปได้
3) แบบฝึกที่ใชใ้ นการพัฒนานักเรยี นควรไดป้ รับปรงุ ใหม่ โดยเฉพาะการเรียงลาดับควรเรียง
จากงา่ ยไปยาก จากชน้ิ สว่ นอุปกรณง์ ่ายๆ ไปจนถงึ ชน้ิ ส่วนการทางานของคอมพิวเตอรท์ ี่ยากขึน้ ทงั้ จะ
ช่วยพัฒนานักเรียนมคี วามสามารถในการเรียนรตู้ ่าได้อยา่ งถูกขนั้ ตอน การไม่ได้จดั เรียงตามความยาก
ของแบบฝกึ อาจทาให้นักเรียนทม่ี คี วามสับสน เกิดการชะงักงันในการเรยี นรู้ต่อไป
4) แบบฝกึ นนี้ ่าจะไม่เหมาะกับเด็กทม่ี ีความสามารถทางการเรยี นรตู้ ่า ทั้งน้เี นอื่ งจากนกั เรยี น
บางคนอาจมพี ฒั นาการชา้
5) สาหรับนกั เรยี นท่ีมีความสามารถในการเรียนร้ตู า่ ครูต้องชว่ ยมากกวา่ คนอ่นื การสาธิตให้
เด็กดูแล้วให้นกั เรยี นสงั เกตแล้วฝึกอธบิ ายแตล่ ะช้ินสว่ นอย่างช้าๆและคอยให้กาลงั ใจเด็กในการทางาน
น่าจะเป็นวิธกี ารท่ีใหน้ ักเรียนสามารถบอกหนา้ ท่ีของอปุ กรณค์ อมพวิ เตอรไ์ ด้ถกู ต้อง โดยเรม่ิ จากการ
ฝึกจากอุปกรณง์ ่ายๆอย่าชา้ ๆ
6) การฝกึ ให้นักเรยี นไดช้ ่วยดูแลน้องๆ ในขณะฝึกการบอกหน้าท่ขี องอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์
เป็นการฝึกการมีจิตสาธารณะ กบั ทงั้ ยังเปน็ การพัฒนานักเรียนทีจ่ ะเปน็ ผู้ฝกึ ให้มคี วามสามารถสงู
ยิง่ ขน้ึ นอกจากน้ยี ังเปน็ การช่วยแบง่ เบาภาระจากครูอีกดว้ ย
7) การได้ตรวจสอบว่านกั เรียนผู้ชว่ ยฝึกให้น้องๆ วา่ มีความสามารถในการฝึกน้องๆ ตาม
รปู แบบการฝกึ จะทาให้ข้าพเจ้าม่ันใจว่าเขาจะช่วยเหลือนอ้ งๆ ได้อยา่ งจรงิ
8) การใช้ห้องเรียนทใี่ หผ้ ้ชู ว่ ยฝึก ฝึกใหน้ ้องๆ โดยใชห้ อ้ งเรียนน้นั มีความสะดวกดี แตบ่ างที
นกั เรียนต้องเร่งใหเ้ สร็จทันก่อนที่ห้องต้องใชจ้ ัดการเรยี นการสอนในภาคบ่าย ขณะเดยี วกันถา้ มี
นกั เรยี นคนอืน่ ๆ มาเล่นในห้องเรียนก็จะรบกวนการฝึก
9) การเก็บคะแนนควรมีการเก็บคะแนนเปน็ ระยะๆ หลงั แบบฝึกแต่ละแบบ โดยมาให้
ทดสอบการบอกหนา้ ท่ีของอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์แตล่ ะชุด ไมเ่ กบ็ รวบรวมยอดทดสอบหลังการฝึก 3
แบบฝกึ พร้อมกนั ทีเดียว เพราะจะทาใหไ้ ด้แก้ไขขอ้ บกพร่องเด็กได้ทันที และไมส่ รา้ งความเครยี ดให้กบั
ผู้เรยี นทีม่ คี วามแตกต่างในการเรยี นรู้ต่ากว่าเพื่อน
10) การฝึกฝนไม่ควรเกนิ 20 นาที เพราะธรรมชาติเด็กมรี ะยะความสนใจไม่ยาว อาจเริ่ม
เบอ่ื หนา่ ย และต้องการทีจ่ ะเล่นออกกาลงั กาย สนุกสนานกับเพื่อนบา้ ง กับทั้งเด็กยังต้องเตรยี มตัวให้
พรอ้ มท่ีจะเรียนในวิชาเรียนภาคบา่ ยต่อไป
18. การสะท้อนความคิดจากเพ่อื นครู
จากการที่ข้าพเจ้าได้พูดคุยเก่ียวกับงานวจิ ยั ในชน้ั เรยี นกับเพ่ือนครู ท่ที างานวิจัยในลกั ษณะนี้
ข้อคิดเหน็ เพ่ือการพัฒนาปรบั ปรุงงานวจิ ัย คือ
1) ควรมกี ารบอกหน้าที่การทางานของคอมพวิ เตอร์ในรูปแบบท่ยี ากขึ้น กลา่ วคือ การบอก
หนา้ ทข่ี องการทางานข้องา่ ยๆ อาจเปน็ เพยี งระดบั ความสามารถในการรู้การทางานพนื้ ฐานของ
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ดงั น้ันจึงควรฝึกใหเ้ ดก็ บอกหน้าที่ของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ในข้อยากๆ มาก
ยง่ิ ขึ้น
2) การใหเ้ ด็กเปรยี บเทยี บจากแบบฝึก อาจทาให้เดก็ เบื่อหน่าย หรือ ไมจ่ ูงใจ หรือเร้าใจ
เพอ่ื ใหเ้ ดก็ อยากฝึกเท่าท่คี วร ควรได้ให้ฝึกในวิธกี ารอน่ื ๆ เช่น การฝึกจากเพลงหนา้ ทีส่ ่วนประกอบ
ของคอมพิวเตอร์ แล้วให้หาคาตอบในเพลง เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถจดจาได้ดยี ่ิงขนึ้
3) แบบทดสอบความสามารถในการการบอกหนา้ ท่ีการทางานของคอมพิวเตอร์ นา่ จะมี
แบบฝึก มากกว่า 3 แบบฝึกเพื่อใหน้ ักเรยี นได้ฝกึ มากๆกวา่ น้ี เพราะ 3 แบบฝึกน้อยเกินไป อาจยังไม่
ครอบคลุม
ภาคผนวก ก
แบบฝกึ การบอกหน้าที่ของอุปกรณค์ อมพิวเตอร์
ทีใ่ ชใ่ นการจดั การเรียนการสอน
ชื่อ.....................................................................ชนั้ ...................................เลขท่ี….............................
คาชี้แจง้ ให้นักเรียนนาตวั เลขที่มีความหมายตรงกบั รูปภาพไปใส่ในช่องให้ถูกตอ้ ง
ภาคผนวก ข
แบบฝกึ การการฝกึ บอกหน้าท่ีของส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
โดยใชเ้ ทคนิคการตอ่ ภาพกับความหมาย
ทใ่ี ชใ่ นการแก้ไขปัญหานักเรยี น
แบบฝึกชุดที่ 1 เลอื กความหมายใหต้ รงกบั รปู ภาพที่กาหนดให้
แบบฝกึ ชดุ ที่ 2 โยงเสน้ อปุ กรณ์กบั หนา้ ทีข่ องอุปกรณ์ ให้ถกู ต้อง
แบบฝึกชดุ ที่ 3 เติมชอ่ื อุปกรณ์ลงไปในหนา้ ทีก่ ารทางานให้ถกู ตอ้ ง
ชื่อ.....................................................................ชนั้ ...................................เลขท่ี….............................
คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนจบั คูอ่ ุปกรณ์กบั หนา้ ท่ีของอุปกรณ์น้นั ใหถ้ กู ตอ้ ง
ทำหน้ำท่ี สำมำรถบันทกึ
ข้อมูล ภำพ เสียง และข้อมูล
ทำงคอมพวิ เตอร์ได้
ทำหน้ำท่ี ช้ีและเลือกรายการ
บนหนา้ จอคอมพิวเตอร์
ทำหน้ำท่ี กระจายเสียง
ทำหน้ำท่ี ประมวลผล คานวณ
และวเิ คราะห์ผลชุดคาสงั่
ทำหน้ำที่ ถ่ายโอนขอ้ มูลจาก
คอมพวิ เตอร์ไปสู่กระดาษ
ช่ือ.....................................................................ชนั้ ...................................เลขท่ี….............................
ภาคผนวก ค
แบบทดสอบความสามารถ
ในการบอกหนา้ ทข่ี องอุปกรณค์ อมพิวเตอร์
แบบทดสอบความสามารถในการบอกหนา้ ที่ของอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์
ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ โรงเรยี นศรบี ญุ เรอื งวทิ ยาคาร
คาช้แี จง ให้นกั เรียน X ลงในชอ่ ง ในขอ้ ท่ถี ูกต้องทีส่ ดุ
1. ข้อใดคือหนา้ ที่ของการทางานของ จอคอมพิวเตอร์
ก. ทาหนา้ ทแ่ี สดงภาพนิ่งหรอื ภาพเคล่อื นไหวได้เหมือนกับหนา้ จอโทรทศั น์
ข. ทาหน้าทก่ี ระจายเสียง
ค. ทาหนา้ ท่ี ชี้และเลือกรายการบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
ง. ทาหนา้ ที่ ประมวลผล คานวณและวเิ คราะหผ์ ลชุดคาสั่ง
2. ขอ้ ใดคือหน้าที่การทางานของ เมาส์
ก. ทาหนา้ ทแ่ี สดงภาพนิง่ หรือภาพเคลื่อนไหวไดเ้ หมือนกบั หนา้ จอโทรทัศน์
ข. ทาหนา้ ท่กี ระจายเสยี ง
ค. ทาหน้าที่ ชแี้ ละเลอื กรายการบนหนา้ จอคอมพิวเตอร์
ง. ทาหน้าท่ี ประมวลผล คานวณและวเิ คราะห์ผลชดุ คาสง่ั
3. ข้อใดคือหน้าที่การทางานของ แป้นพมิ พ์
ก. ทาหนา้ ที่ สาหรับพมิ พต์ ัวหนังสือ หรือตัวเลขเข้าไปยงั โปรแกรมต่างๆ
ข. ทาหน้าที่ กระจายเสียง
ค. ทาหนา้ ท่ี ชแี้ ละเลอื กรายการบนหนา้ จอคอมพวิ เตอร์
ง. ทาหนา้ ท่ี ประมวลผล คานวณและวเิ คราะห์ผลชุดคาสั่ง
4. ข้อใดคือหนา้ ท่ีการทางานของ เครื่องปรนิ้
ก. ทาหน้าท่ี สาหรบั พมิ พต์ วั หนังสือ หรอื ตวั เลขเข้าไปยงั โปรแกรมต่างๆ
ข. ทาหน้าท่ี ถ่ายโอนข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ไปสู่กระดาษ
ค. ทาหน้าที่ ช้ีและเลอื กรายการบนหนา้ จอคอมพิวเตอร์
ง. ทาหน้าที่ ประมวลผล คานวณและวเิ คราะห์ผลชดุ คาสั่ง
5. ขอ้ ใดคือหน้าท่ีการทางานของ ลาโพง
ก. ทาหน้าท่ี ชแี้ ละเลอื กรายการบนหน้าจอคอมพวิ เตอร์
ข. ทาหน้าที่ กระจายเสยี ง
ค. ทาหน้าท่ี ประมวลผล คานวณและวิเคราะห์ผลชุดคาสง่ั
ค. ทาหน้าท่ี ชีแ้ ละเลือกรายการบนหนา้ จอคอมพิวเตอร์
6. ข้อใดคือหนา้ ท่ีการทางานของ แรม
ก. ทาหนา้ ท่ี ช้ีและเลือกรายการบนหนา้ จอคอมพิวเตอร์
ข. ทาหน้าท่ี กระจายเสียง
ค. ทาหนา้ ท่ี ประมวลผล คานวณและวเิ คราะหผ์ ลชดุ คาสง่ั
ค. ทาหน้าท่ี ทาหน้าทีห่ นว่ ยความจาท่ใี ชเ้ ปน็ หนว่ ยความจาหลกั ของเครื่องคอมพวิ เตอร์
7. ข้อใดคือหนา้ ที่การทางานของ แผน่ CD
ก. ทาหน้าท่ี ช้ีและเลือกรายการบนหนา้ จอคอมพิวเตอร์
ข. ทาหนา้ ที่ สามารถบันทึกข้อมลู ภาพ เสียง และข้อมูลทางคอมพวิ เตอรไ์ ด้
ค. ทาหน้าที่ ประมวลผล คานวณและวิเคราะห์ผลชุดคาส่งั
ค. ทาหนา้ ที่ ชี้และเลอื กรายการบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
8. ข้อใดคือหนา้ ที่การทางานของ เคส
ก. ทาหนา้ ท่ี สามารถบนั ทกึ ข้อมลู ภาพ เสยี ง และข้อมูลทางคอมพวิ เตอร์ได้
ข. ทาหนา้ ที่ ชี้และเลือกรายการบนหน้าจอคอมพวิ เตอร์
ค. ทาหน้าท่ี ประมวลผล คานวณและวิเคราะห์ผลชดุ คาสงั่
ค. ทาหน้าท่ี ทาหนา้ ทเี่ ปน็ ฮารด์ แวร์ทสี่ าคญั อีกช้ินหนึง่
ที่ห่อหมุ้ อปุ กรณค์ อมพิวเตอรไ์ ว้
9. ขอ้ ใดคือหนา้ ที่การทางานของ เมนบอร์ด
ก. ทาหน้าท่ี ชี้และเลอื กรายการบนหน้าจอคอมพวิ เตอร์
ข. ทาหนา้ ท่ี ทาหนา้ ที่ เปน็ แผงวงจรหลกั ที่คอยส่ังการให้อปุ กรณต์ า่ งๆ
ท่ีมีการเชื่อมต่อทางานตามคาสัง่
ค. ทาหน้าท่ี ประมวลผล คานวณและวิเคราะห์ผลชดุ คาสัง่
ง. ทาหนา้ ที่ ชีแ้ ละเลอื กรายการบนหน้าจอคอมพวิ เตอร์
10. ขอ้ ใดคอื หนา้ ทก่ี ารทางานของ CPU
ก. ทาหนา้ ที่ ช้ีและเลอื กรายการบนหนา้ จอคอมพวิ เตอร์
ข. ทาหน้าท่ี กระจายเสียง
ค. ทาหน้าท่ี ประมวลผล คานวณและวิเคราะห์ผลชดุ คาส่ัง
ค. ทาหนา้ ท่ี ช้แี ละเลอื กรายการบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
แบบบนั ทกึ คะแนน
การทดสอบการบอกหน้าทข่ี องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ชอ่ื …………………………………………………..นามสกลุ …………………………………ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4
คาชีแ้ จง ถา้ ตอบถกู ตอ้ ง ใส่ 1 คะแนน และ ถา้ ผดิ ใส่ X หรอื 0 คะแนน ลงในช่องวา่ ง
1. 2. 3. 4. 5.
6. 7. 8. 9. 10.
รวมทงั้ หมดได้ คะแนน