The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pwachiira, 2021-05-22 05:38:09

2-Measurement_Evaluation

2-Measurement_Evaluation

ตัวอย่างการประเมินแบบแยกประเดน็

เกณฑ์ ระดบั การประเมนิ

ชือ่ เรอื่ ง ๔ ๓๒๑๐

เน้ือหา น่าสนใจ ทันสมัย น่าสนใจแต่ ทว่ั ๆ ไป ไม่เกย่ี วข้องกบั สาระ ไม่มขี ้อมูลเพยี งพอ
เหมาะสมกับ
เน้อื เรอื่ ง ไมท่ นั สมยั ไม่นา่ สนใจ ท่เี รยี น ตอ่ การตดั สิน

สอดคล้องกบั เนอ้ื หา ไมส่ อดคล้อง

กบั เนื้อหา

ข้อมูลถูกต้อง ข้อมูลถกู ตอ้ ง ตรง มขี อ้ มูลท่ผี ิดบ้าง ขอ้ มูลส่วนใหญ่ ไมม่ ขี ้อมลู เพยี งพอ
สมบูรณ์ ประเด็น แต่ขาด และยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถกู ต้องและ ต่อการตัดสิน
ตรงประเด็น รายละเอยี ด ขาดหาย

การลาดับ ใจความชดั เจนลาดับ ใจความสับสนบ้างแต่ยัง ใจความไม่ชดั เจน ขาด ไมต่ ่อเน่ือง ไม่มขี ้อมูลเพียงพอตอ่
ใจความ เหตกุ ารณส์ มเหตุ สม การตัดสนิ
ผล สามารถเข้าใจได้ ความสมเหตุ สมผล ขาดความสมเหตุสมผล

ขาดความสมเหตุ สม

ผลไปบา้ ง

หลักเกณฑ์ ประโยคสมบรู ณ์ เขยี นประโยคได้ เขยี นประโยคสมบูรณ์ เขยี นประโยค ไม่มขี อ้ มูลเพยี งพอต่อ
ทางภาษา ถกู ตอ้ งตามหลกั เกณฑ์ สมบูรณ์ แตย่ ึด บ้าง ผดิ หลักเกณฑท์ าง การตัดสนิ
ทางภาษา หลกั เกณฑท์ างภาษา ไมส่ มบรู ณ์บา้ ง ผิด ภาษา สือ่ ความไม่ได้
สื่อความได้ชัดเจน สอ่ื ความได้ หลกั เกณฑท์ างภาษา
อย่างมาก ส่อื ความไม่
ชดั

การเลอื กใช้ข้อสอบ

ข้อสอบแบบปรนัย ควรใช้เมื่อ

จานวนผสู้ อบมาก และต้องการ
นามาใชอ้ ีก

ต้องการผลการวดั ทีม่ คี วาม
เที่ยงสูง

การเลือกใช้ขอ้ สอบ

ข้อสอบแบบปรนัย ควรใช้เมื่อ

ต้องการความยุติธรรมในการ
ตรวจใหค้ ะแนน
ต้องการทราบผลการสอบโดยเร็ว

การเลอื กใชข้ ้อสอบ

ข้อสอบแบบอตั นยั ควรใชเ้ ม่ือ

ต้องการวัดพฤติกรรมการเรยี นรู้
ในระดับนาไปใช้ข้ึนไป
ตอ้ งการสง่ เสริมให้ผู้เรยี นมีทักษะ
ในการแสดงความคดิ เห็น

การเลือกใชข้ ้อสอบ

ขอ้ สอบแบบอัตนยั ควรใชเ้ มอ่ื

จานวนผ้สู อบมไี มม่ าก และจะ
ไม่นาข้อสอบนน้ั มาใช้อกี
ผ้สู อนมีเวลาออกขอ้ สอบนอ้ ย
แตม่ ีเวลาตรวจขอ้ สอบเพียงพอ

แนวทางการตรวจสอบขอ้ สอบ

1. ความสอดคล้องของข้อสอบกบั
วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้

2. การเขยี นคาถาม
3. การเขยี นตวั เลอื ก

การสรา้ งเคร่อื งมือวดั ทกั ษะปฏบิ ตั ิ

การวัดทกั ษะปฏิบัติ

การวัดความสามารถของผ้เู รยี น
ในการประยุกต์ความรู้ และ
ทักษะตา่ งๆ มาใช้ในการปฏิบัตงิ าน

ลักษณะของการวัดทักษะปฏบิ ตั ิ

1. เปน็ การวัดกระบวนการ และผลงาน
2. เปน็ การวัดความสามารถโดยตรง
3. เปน็ การวัดทส่ี ามารถนามาใช้

ในขณะทีม่ ีการเรยี นการสอน

4. เปน็ การวัดที่สามารถนามาใช้ในการ

ประเมนิ ทกั ษะทางสังคม และอารมณ์

การวดั ทกั ษะปฏิบตั ิ

ขอ้ ดี วัดไดต้ รงตามสภาพจรงิ
ประเมินไดท้ ้งั กระบวนการ
และผลงาน

การวดั ทักษะปฏิบัติ

ขอ้ จากดั ใชเ้ วลามากในการสอบ

- ตรวจใหค้ ะแนน
ใช้เวลามาก

- ตรวจใหค้ ะแนน
อาจจะไมม่ ีความเที่ยง

การกาหนดขอบเขต
การวัดทักษะปฏบิ ัติ

1. กาหนดเปา้ หมายท่ีจะประเมนิ
2. เง่อื นไขที่ต้องมมี าก่อน
3. เครือ่ งมือ และอุปกรณ์ทีจ่ าเป็น
4. คาช้แี จงแก่ผสู้ อบ
5. การใหค้ ะแนน

ข้ันตอนการสรา้ ง
แบบวดั ทกั ษะการปฏบิ ตั ิ

1. กาหนดจดุ มงุ่ หมายของการวัด
2. กาหนดคณุ ลกั ษณะของพฤติกรรม

ที่ต้องการวดั
3. กาหนดวธิ ีการวัด และประเมนิ ทกั ษะ

การปฏบิ ตั ิ

ข้นั ตอนการสรา้ ง
แบบวัดทกั ษะการปฏิบัติ

4. สรา้ งเครอื่ งมือวดั ทักษะการปฏิบตั ิ

5. กาหนดวิธกี ารตรวจให้คะแนน

6. ตรวจสอบคุณภาพของเคร่ืองมือ
7. สรา้ งคู่มอื การใช้เครือ่ งมือวัดทักษะการ

ปฏบิ ัติ

ประเภทของ
เครอื่ งมือวัดทกั ษะการปฏิบัติ

1. แบบทดสอบ
2. แบบตรวจสอบรายการ
3. แบบมาตรประมาณคา่
4. รายงานผลการปฏิบัตกิ าร

1. แบบทดสอบ

แบบตอบสน้ั
แบบอตั นัย

2. แบบตรวจสอบรายการ

ใช้ตรวจสอบกระบวนการทางาน
และผลงานของผเู้ รยี น

คาช้ีแจง โปรดเขยี นเครอ่ื งหมายในท้ายขอ้ แตล่ ะรายการ
เขยี นเครอ่ื งหมาย / ถ้าการปฏบิ ัตนิ นั้ ถกู ตอ้ ง
และเขยี นเคร่อื งหมาย x ในทา้ ยขอ้
ถ้าการปฏบิ ัตนิ นั้ ไมถ่ ูกต้อง

แบบตรวจสอบรายการ การทากระทงใบตอง

หมายเหตุ

เคร่อื งหมาย หมายถงึ ผ่านรายการน้นั
X หมายถงึ ไม่ผ่าน หรือทาไดไ้ มด่ ี

แบบตรวจสอบรายการ การทากระทงใบตอง

รายการท่ีสงั เกต ชอื่ นักเรยี น 1 2 3 4 5 6
ข้นั เตรียมอปุ กรณ์
1. การเตรยี มใบตอง ____________________

2. การเตรยี มอุปกรณ์ ___________________

แบบตรวจสอบรายการ การทากระทงใบตอง

รายการทีส่ งั เกต ชื่อนกั เรยี น 1 2 3 4 5 6

ขน้ั กระบวนการทางาน
3. ทาความสะอาดใบตอง _________________
4. ใช้เครอ่ื งมอื

อยา่ งคลอ่ งแคล่ว ____________________
5. ความสามรถในการ

สรา้ งแบบ________________________

แบบตรวจสอบรายการ การทากระทงใบตอง

รายการท่ีสงั เกต ชือ่ นกั เรยี น 1 2 3 4 5 6

ขั้นสรปุ ผลงาน

6. รปู ทรงได้สดั ส่วนสวยงาม __________________
7. แบง่ ช่องกลบี ของใบตอง

เหมาะสม__________________________
8. กลบี ใบตองไมแ่ ตก หรือช้า _________________
9. ความเรียบรอ้ ยของการเย็บ _________________
10. ประกอบ หรอื ตกแตง่ กับ

ดอกไมเ้ หมาะสม______________________

3. มาตรประมาณค่า

ผู้เรียนเปน็ คนคลอ่ งแคล่วเพยี งใด
(ใหเ้ ลือกเพยี ง 1 ตัวเลอื ก)

คล่องแคลว่ มาก
คล่องแคล่ว
ไม่คล่องแคล่ว
ไมค่ ล่องแคลว่ เลย

แบบประเมินภาคปฏบิ ตั ิ
เรือ่ ง การเป่าขลุย่ เพยี งออ

ชอ่ื สกุล ลาดับท่ี........

ทา่ น่ังและ รายการประเมนิ
การจบั
การเปา่ ไล่ การเปา่ เสยี ง คุณภาพเสียง จงั หวะการ
321
เสยี ง คู่แปด เป่า

3 213 2 1 3 2 1 3 2 1

เกณฑ์การประเมนิ

1. ทา่ นัง่ และการจับ
ระดับ ดี 3 คะแนน หมายถึงนง่ั ตัวตรง ศรี ษะตรงหนา้ มองตรง จับ

ขลยุ่ ด้วยมือขวาอยู่ด้านบน มือซ้ายอยู่ ดา้ นล่าง
(แบบไทย) ปิดน้วิ ท่ีรูเสยี งได้สนิท
ระดบั ปานกลาง 2 คะแนน หมายถึง นั่งตัวตรง ศีรษะเอยี งทางใดทางหนง่ึ
จบั ขลยุ่ ด้วยมือขวาอยูด่ ้านบน มือซา้ ยอยู่ดา้ นลา่ ง
(แบบไทย) ปดิ น้ิวไม่คอ่ ยสนิท
ระดบั ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข 1 คะแนน หมายถงึ น่งั หลังงอ ศีรษะเอียง จับ
ขลุ่ยด้วยมอื ซ้ายอยูด่ ้านบน มือขวาอยู่ด้านล่าง
(แบบสากล) ปิดนว้ิ ไมส่ นิท

เกณฑ์การประเมิน

2. การเป่าไล่เสียง
ระดบั ดี 3 คะแนน หมายถงึ เปดิ นิ้วไดถ้ ูกตอ้ ง มคี วามคลอ่ งแคลว่

ชดั เจน เสียงไม่เพี้ยน สามารถบอก
ชอ่ื ตวั โนต้ ทีเ่ ปา่ ได้
ระดับปานกลาง 2 คะแนน หมายถงึ เปิด-ปดิ นว้ิ ได้ แต่ขาดความ
คล่องแคล่ว เสียงเพย้ี น สามารบอกชอ่ื ของ
เสยี งตัวโนต้ ได้บางตวั
ระดบั ควรปรับปรงุ แกไ้ ข 1 คะแนน หมายถงึ เปดิ -ปดิ นิว้ ไมค่ อ่ ยถูกต้อง
ขาดความคล่องแคล่วชดั เจน เสยี งพี้ยน คลมุ เครือ
ไม่สามารถบอกชื่อของเสยี งตวั โน้ตทเ่ี ป่าได้

เกณฑ์การประเมนิ

5. จงั หวะการเป่า

ระดบั ดี 3 คะแนน หมายถงึ มีความคลอ่ งแคล่ว และต่อเนื่องในชว่ งการ
เปิด- ปิดนว้ื มีความสม่าเสมอของเสยี งที่เป่า
ลักษณะการเปิด-ปิดนิ้วมคี วามพร้อมในการสง่
ตอ่ ไปยงั เสียงตอ่ ไป

ระดับปานกลาง 2 คะแนน หมายถึง สามารถเปิด-ผดิ นว้ิ ได้ แตย่ ังขาดความ
ต่อเนอ่ื งยังขาดความพร้อมท่ีจะสง่ ต่อไปยงั เสียงตอ่ ไป

ระดับควรปรบั ปรงุ แก้ไข 1คะแนน หมายถึง ขาดความคลอ่ งแคล่ว และความ
ต่อเนอื่ งในการเปดิ ปดิ นิว้ เพื่อส่งตอ่ ไปยงั เสยี งตอ่ ไป
ขาดความพรอ้ มในการปฏิบตั ิ

การตรวจสอบคุณภาพ
ของเคร่อื งมือวดั ทกั ษะปฏิบัติ

ความตรง (Validity)
ความเทีย่ ง (Reliability)

ความตรง

ความสามารถของเครอื่ งมือในการวัด
สิ่งท่ตี อ้ งการวัด

ความตรงตามเนอื้ หา
ความตรงเชงิ จาแนก
ความตรงเชิงเกณฑส์ ัมพนั ธ์

ความเทย่ี ง

ความสามารถของเคร่ืองมือในเรอ่ื ง
ความคงทข่ี องคะแนนท่วี ัดได้

1. วิธกี ารหาความเท่ยี งโดยการสอบซา้
2. วิธีการหาความเทย่ี งระหวา่ งผูป้ ระเมนิ

- วิธีสัมประสิทธ์สิ หสมั พนั ธ์
- วิธีหาความสอดคลอ้ ง

แนวคิดและวิธกี ารตัดเกรด

ระบบการให้เกรดเป็นสัญลักษณ์

2 เกรด 5 เกรด 8 เกรด
ระดับ ความหมาย
S (ผ่าน) A สญั ลักษณ์ 4.0 ดเี ยย่ี ม (excellent)
B A 3.5 ดีมาก (very good)
B+ 3.0 ดี (good)
C B 2.5 คอ่ นข้างดี (fairly good)
C+ 2.0 พอใช้ (fair)
D C 1.5 อ่อน (poor)
D+ 1.0 อ่อนมาก (very poor)
U (ไม่ผา่ น) F D 0.0 ตก (fail)
F

หลกั ในการตัดเกรด

ต้งั อยู่บนพ้นื ฐานของความยตุ ิธรรม
ยึดเกณฑเ์ ป็นหลัก
ใช้ข้อมลู ที่มีความเช่อื ถือได้

ควรอิงปจั จยั 3 ประการ คอื
- ความรอบร้ใู นเนอ้ื หาวิชา

- ความสามารถเม่ือเทียบกบั กลมุ่ ปกติ
- ความเจริญกา้ วหน้าเม่ือเทียบกบั ตนเอง

ปจั จัยทใ่ี ชก้ าหนดเกรด

ปจั จยั หลัก

ความรู้ความสามารถของผเู้ รยี น

ปจั จัยเสริม

เชน่ การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม
การเรยี นการสอน

การตัดเกรด

1. การตดั เกรดเชิงสมบูรณ์
(Absolute Grading):
การตัดเกรดแบบองิ เกณฑ์

2. การตดั เกรดเชิงสัมพทั ธ์
(Relative Grading):
การตดั เกรดแบบองิ กลุ่ม

1. การตดั เกรดแบบองิ เกณฑ์

1.1 วิธีตดั เกรดแบบองิ มวลความรู้

(Domain–Reference Grading)

1.2 วิธีตดั เกรดแบบองิ จุดประสงค์

(Objective–Reference Grading)

1.1 การตดั เกรดแบบอิงมวลความรู้

ใช้รอ้ ยละของคะแนนเต็ม
การกาหนดจุดตัด ข้ึนอยกู่ บั

ความเชอื่ พ้ืนฐานของครู
ธรรมชาตขิ องเนื้อหาวิชา
ความยากงา่ ยของขอ้ สอบ
ปัจจยั อ่ืนๆทค่ี รเู หน็ ว่าเก่ยี วขอ้ ง

การตดั เกรดแบบองิ มวลความรู้

กาหนดเกรดตามรอ้ ยละของคะแนนเตม็ ที่ได้

ตวั อยา่ งการกาหนดเกรด
A เมอ่ื ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป
B เมือ่ ไดค้ ะแนนร้อยละ 70-79
C เมือ่ ได้คะแนนร้อยละ 60-69
D เมื่อไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 50-59
F เมื่อได้คะแนนต่ากว่ารอ้ ยละ 50

1.2 การตดั เกรดแบบองิ จุดประสงค์

ใหเ้ กรดตามสง่ิ ทคี่ รกู าหนดวา่ ผูเ้ รียนต้องทาได้

ตัวอยา่ งการกาหนดเกรด
A เม่อื สอบผา่ นทกุ จดุ ประสงค์
B เมื่อสอบผ่านจุดประสงคห์ ลกั ทกุ ข้อ
C เม่ือสอบผา่ นไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจดุ ประสงค์ท้ังหมด
D เมื่อสอบผ่านไม่นอ้ ยกวา่ 1 ใน 2 ของจดุ ประสงค์ทงั้ หมด
F เมือ่ สอบผา่ นนอ้ ยกวา่ 1 ใน 2 ของจดุ ประสงค์ท้งั หมด

2. การตัดเกรดแบบองิ กลุ่ม

2.1 วิธีกาหนดโควตา
2.2 วิธหี าชอ่ งวา่ ง
2.3 วธิ ีกาหนดช่วงคะแนนโดยใช้พสิ ัย
2.4 วิธกี าหนดช่วงคะแนนโดยใช้คา่ เฉล่ียเลขคณติ
2.5 วิธกี าหนดช่วงคะแนนโดยใชโ้ คง้ ปกติ

การตัดเกรดแบบองิ กลุ่ม:
วธิ กี าหนดโควตา

กาหนดจานวนหรือโควตาของผู้เรยี นที่จะได้แต่ละเกรด

ตวั อย่างการกาหนดเกรด
จานวนผไู้ ด้ A ร้อยละ 10
จานวนผไู้ ด้ B ร้อยละ 20
จานวนผไู้ ด้ C ร้อยละ 40
จานวนผไู้ ด้ D ร้อยละ 20
จานวนผไู้ ด้ F รอ้ ยละ 10

การประเมนิ แบบองิ กลุ่ม

20% 40% 20%
C
10% 10%

FD BA

C

FD BA

การตัดเกรดแบบองิ กลุ่ม:
วิธหี าช่องวา่ ง

กาหนดเกรดโดยพจิ ารณา 82
ช่องวา่ งของคะแนน 80

ใหเ้ กรดโดยคานึงว่าผทู้ ีม่ ีความรู้ 76
แตกตา่ งกนั ก็ต่อเม่อื ไดค้ ะแนน 73
แตกต่างกนั มากพอ 70

66
65

การตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม:
วิธีกาหนดชว่ งคะแนนโดยใช้พสิ ยั

พิสัย คอื ผลต่างระหว่าง คะแนนสูงสุด
คะแนนสงู สดุ กับคะแนนต่าสุด A
B
วิธีการตัดเกรดใชก้ ารแบง่ คะแนน C
เป็นชว่ งๆ จานวนชว่ งเทา่ กบั D
จานวนเกรดท่ีตอ้ งการ
F
คะแนนตาสุด

การตดั เกรดแบบอิงกลุ่ม:

วธิ กี าหนดชว่ งคะแนนโดยใช้คา่ เฉลีย่ เลขคณติ

กาหนดเกรดโดยใช(้ mean) X , S.D. กาหนดชว่ งคะแนน

การตดั เกรดแบบองิ กลุม่ :

วธิ กี าหนดช่วงคะแนนโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณติ

กาหนดเกรดโดยใช(้ mean) X , S.D. กาหนดชว่ งคะแนน

ตัวอย่างการกาหนดเกรด
A เมื่อได้คะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กับ mean +1.5 S.D.
B เมื่อได้คะแนนมากกวา่ หรือเท่ากบั mean+0.5 S.D.

แต่น้อยกวา่ mean+1.5 S.D.
C เม่อื ได้คะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กบั mean-.5 S.D.

แตน่ ้อยกว่า mean +.5 S.D.
D เมื่อได้คะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กับ mean-1.5 S.D.

แต่นอ้ ยกว่า mean -.5 S.D.
F เม่ือได้คะแนนน้อยกว่า mean -1.5 S.D.



การตัดเกรดแบบอิงกลมุ่ :
วธิ กี าหนดช่วงคะแนนโดยใช้โคง้ ปกติ

กาหนดเกรดโดยใช้คะแนนมาตรฐาน Z, T



การตัดเกรดแบบอิงกลมุ่ :
วธิ กี าหนดช่วงคะแนนโดยใช้โคง้ ปกติ

กาหนดเกรดโดยใช้คะแนนมาตรฐาน Z, T

การตัดเกรดแบบองิ เกณฑ์

ข้อดี

เสริมสร้างความร่วมมือของผู้เรยี น
มเี กณฑม์ าตรฐานการตัดสนิ คุณภาพในวิชาชพี

ข้อเสยี

ผู้สอนมเี กณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพแตกตา่ งกัน
มปี ญั หาความเช่ือถอื ไดข้ องเกณฑ์


Click to View FlipBook Version