การอา่ นออกเสียง
บทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง
การอา่ นออกเสียง
แบง่ ตามลกั ษณะคาประพนั ธ์ท่ีนามาอ่านได้ 2 ประเภท ดงั นี้
ร้อยแก้ว หมายถงึ ข้อความที่เรียบเรียงอย่างสละสลวยถูกตอ้ งตามลักษณะภาษา
แตไ่ ม่กาหนดขอ้ บังคบั ตามฉนั ทลักษณ์
ร้อยกรอง หมายถงึ ถอ้ ยคาท่ีมลี ักษณะบังคับในการแต่งซ่ึงทาให้เกดิ ความไพเราะ
จากเสียงสัมผสั จังหวะ และเสียงหนักเบาตามฉนั ทลักษณ์ที่กาหนด
เช่น กลอน กาพย์ โคลง ร่าย ฉนั ท์
การอา่ นออกเสยี ง
บทรอ้ ยแกว้
การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว
หลกั เกณฑใ์ นการอา่ น
1. ศกึ ษาเร่อื งทอี่ ่านใหเ้ ขา้ ใจ โดยศึกษาสาระสาคัญของเร่อื งและขอ้ ความทกุ ข้อความ
เพอื่ จะแบ่งวรรคตอนในการอา่ นไดอ้ ย่างเหมาะสม
2. อา่ นออกเสยี งดังพอเหมาะ โดยใช้เสียงดังพอเหมาะกับสถานท่แี ละจานวนผู้ฟงั
ให้ผู้ฟังได้ยนิ ทั่วกนั ไม่ดงั หรือคอ่ ยจนเกินไป
3. ออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ งตามอักขระวธิ ี อา่ นออกเสียงให้ชดั ถอ้ ยชัดคา โดยเฉพาะตวั ร ล
หรือคาควบกลา้ ต้องออกเสยี งใหช้ ดั เจน
4. อ่านออกเสียงให้เป็นเสยี งพูดอย่างธรรมชาติท่ีสุด
การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว
หลักเกณฑใ์ นการอา่ น (ต่อ)
5. เน้นเสยี งและถ้อยคาตามน้าหนักสาคญั ของใจความ ใชเ้ สยี งและจงั หวะให้เป็นไปตามเนื้อเรือ่ ง
เช่น ดุ ออ้ นวอน จริงจัง โกรธ เป็นตน้
6. อา่ นออกเสียงให้เหมาะกับประเภทของเรื่อง รู้จกั ใส่อารมณใ์ ห้เหมาะสมตามเน้อื เรือ่ ง
7. ขณะท่อี า่ นควรสบสายตาผู้ฟงั ในลกั ษณะท่ีเปน็ ธรรมชาติ
8. การอ่านในท่ีประชุม ตอ้ งจับหรือถือบทอ่านใหเ้ หมาะสมและยนื ทรงตัวในทา่ ที่สงา่
ตัวอย่างบทอ่าน
ผู้คนในชนบทนั้น ไม่อาจเข้าใจภาษาสลับซับซ้อนของคนเมืองได้ เวลาคนในเมืองกล่าวว่า
แมเ่ ป็น "ขุมทรัพย์แห่งความรัก" จึงซับซ้อนเกินไปสาหรับพวกเขา สาหรับคนชนบทในเวียดนามนั้น
เปรียบแม่ของตัวเองกับบรรดากล้วยที่ดีที่สุด น้าผึ้ง ข้าวที่หวานหอม หรือไม่ก็อ้อย พวกเขาแสดง
ความรักอย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมาเช่นนี้ สาหรับข้าพเจ้าแล้ว แม่เป็นเหมือนกล้วยที่ดีที่สุด
ข้าวท่หี วานหอมทส่ี ดุ และก็อ้อยทอ่ี รอ่ ยที่สุด
เมตตาภาวนา คาสอนว่าด้วยรกั
ตวั อยา่ งบทอ่าน
ฝ่ายโจโฉ ครั้นเวลาเช้าจึงขี่ม้าพาทหารไปเที่ยวตรวจดูค่ายบก เห็นมั่นคงอยู่แล้วก็กลับมา
ครั้นเวลาเย็นก็ลงเรือออกตรวจกองทัพเรือซึ่งอิกิ๋มมอกายจัดแจงให้ผูกเป็นแพร้อยโซ่ไว้เป็นกอง ๆ
แล้วสั่งให้ทหารจัดแจงเครื่องศัสตราวุธและเกาทัณฑ์เตรียมไว้ริมค่าย แล้วแต่งโต๊ะเลี้ยงทหารทั้งปวง
ในขณะนั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้เสวยราชได้สิบสองปี (พ.ศ.744) เมื่อโจโฉลงมาตรวจกองทัพเรือนั้น
เป็นเดือนอ้าย ขึ้นสิบห้าค่า พระจันทร์ส่องสว่าง ลมสงบ คลื่นในท้องทะเลราบดังหน้ากลอง และเรือ
ขนานทั้งปวงแน่นดงั แผ่นดนิ ถึงมาตรว่าจะเกดิ ข้ึนลมใหญ่ เรือก็ไม่ระสา่ ระสาย ทัง้ ทหารก็มไี ดเ้ มาคลน่ื
สามก๊ก ฉบับเจา้ พระยาพระคลัง (หน)
ขอ้ สงั เกตตัวอยา่ งบทอ่านท่ีไดน้ าเสนอพบว่า
บทอา่ นแรกใชถ้ อ้ ยคาท่อี ่านงา่ ย ภาษาไม่เป็นทางการ ไมม่ ีศัพท์เฉพาะ
เนอ้ื หาแสดงถงึ ความรักของผ้เู ขียนทีม่ ตี ่อแม่
ส่วนบทอ่านท่สี องเป็นรอ้ ยแกว้ จากวรรณคดีเรือ่ งสามก๊ก ซ่ึงมสี านวนภาษา
แบบโบราณ เนือ้ หาบรรยายเกย่ี วกบั การทาสงคราม ดงั นัน้ การถ่ายทอดน้าเสียง
ระหว่างบทอ่านท้งั สองบทจงึ ต่างกัน
เรื่องราวท่เี กี่ยวกับชีวิตประจาวนั ของผูเ้ ขยี นในสมยั นัน้ การเขยี นขา่ วตา่ ง ๆ ท่เี กิดขน้ึ จากผู้ทไี่ ด้พบเห็น
ประเภทนวนยิ าย ประเภทจดหมายเหตุ
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วประเภทต่าง ๆ
ประเภทพงศาวดาร ประเภทความเรียงตา่ ง ๆ
เร่อื งราวของเหตุการณ์ทีเ่ กี่ยวกับประเทศชาตแิ ละพระมหากษิตรยิ ์ บทความแสดงทรรศนะ โน้มน้าวใจ และเชงิ พรรณนา
การอ่านออกเสียง
บทรอ้ ยกรอง
เพจภาษาไทยไมจ่ กั๊ เดยี ม
การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองเป็นการอ่านท่ีมุ่งให้เกิดความเพลดิ เพลนิ ซาบซ้งึ ในรสของ บทประพันธ์ซ่งึ
จะตอ้ งอ่านอย่างมีจังหวะ ลีลา และทว่ งทานองตามลักษณะของคาประพนั ธ์แตล่ ะชนิด การอา่ นบทรอ้ ยกรอง
อ่านได้ 2 แบบ ดังน้ี
อา่ นออกเสียงธรรมดา เปน็ การอ่านออกเสยี งพูดตามปกตเิ หมอื นอา่ นร้อยแก้ว
แตม่ จี ังหวะวรรคตอนมกี ารเน้นสมั ผัสตามลกั ษณะบงั คับ
ของคาประพนั ธ์แตล่ ะชนดิ
อา่ นทานองเสนาะ เป็นการอา่ นมีสาเนยี งสูง ตา่ หนกั เบา ยาว สัน้ เป็นทานอง
เหมอื นเสียงดนตรี มีการเอ้อื นเสียง เนน้ สมั ผัส ตามจังหวะ ลีลา
และท่วงทานองท่แี ตกต่างไป ตามลักษณะบงั คบั ของคาประพันธ์
ชนดิ ตา่ ง ๆ ทาให้ผู้ฟังเกดิ อารมณค์ ลอ้ ยตาม
การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง
หลกั เกณฑ์การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง
1. ศึกษาลกั ษณะบังคบั ของคาประพันธ์แต่ละชนดิ ให้เขา้ ใจ เชน่ การแบง่ จงั หวะ จานวนคา
สมั ผสั เสียงวรรณยกุ ต์ เสยี งหนักเบา เป็นตน้
2. อา่ นใหถ้ ูกต้อง ตามลกั ษณะบงั คบั ของคาประพนั ธ์ชนิดนั้น ๆ
3. อ่านออกเสียงคาใหช้ ัดเจน ถูกต้อง โดยเฉพาะคาทอ่ี อกเสียง ร ล และควบกลา้
4. อ่านเสียงดงั พอสมควร ให้ผู้ฟงั ไดย้ นิ ทวั่ ถงึ ไมด่ ังหรอื เบาจนเกินไป
การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง
หลกั เกณฑ์การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง (ตอ่ )
5. อา่ นมจี งั หวะ วรรคตอน ร้จู ักทอดจังหวะ เอ้ือนเสียง หรือหลบเสียง
6. คาท่ีรับสัมผัสกนั ตอ้ งอ่านเนน้ เสียงให้ชัด ถ้าเปน็ สมั ผสั นอก ต้องทอดเสยี งใหม้ ีจงั หวะ
ยาวกวา่ ธรรมดา
7. คาที่มีพยางคเ์ กนิ ให้อา่ นเร็วและเบา เพอ่ื ใหเ้ สยี งไปตกอยูพ่ ยางค์ท่ตี อ้ งการ
8. มศี ลิ ปะในการใช้เสียง เอ้อื นเสียงให้เกิดความไพเราะ และใชเ้ สียงแสดงความรู้สกึ
ให้เหมาะกบั ขอ้ ความ เพ่ือรกั ษาบรรยากาศของเรื่องทีอ่ ่าน
การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
หลกั เกณฑ์การอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง (ต่อ)
9. อา่ นเออ้ื นสัมผัสในเพอื่ เพมิ่ ความไพเราะ เช่น
อันรักษาศลี สัตยก์ ตเวที อา่ นวา่ กดั -ตะ-เว-ที เพื่อใหส้ มั ผสั กับ สัตย์
ขา้ ขอเคารพอภวิ นั ท์ อา่ นว่า อบ-พ-ิ วนั เพอ่ื ให้สมั ผัสกบั เคารพ
ไม่มกี ษัตริย์ครองปฐพี อา่ นวา่ ปัด-ถะ-พี เพ่ือใหส้ มั ผสั กับ กษตั ริย์
คิดถึงบาทบพิตรอดศิ ร อ่านวา่ อะ-ดดิ -สอน เพื่อใหส้ มั ผัสกับ บพิตร
10. เมื่ออา่ นถงึ ตอนทีจ่ ะจบบท ตอ้ งเอื้อนเสยี งและทอดจงั หวะให้ชา้ ลง จนกระทั่งจบบท
วิธีการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
ในการอ่านทานองเสนาะจากคาประพนั ธ์จะมีเครอ่ื งหมายแบง่ วรรคตอนในการอ่าน
ดังนี้
เครอื่ งหมาย / หมายถึง การหยดุ เว้นช่วงจังหวะสั้น ๆ
เครอื่ งหมาย // หมายถึง การหยุดเวน้ ช่วงจังหวะท่ยี าวกว่าเครอ่ื งหมาย /
วิธกี ารอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
1. ประเภทเสภา
ประเภทเสภา มีหลักการอา่ นดงั นี้
1. จังหวะในการอ่าน ให้อา่ นเปน็
2/2/3 00/00/000
หรือ 3/2/3 000/00/000
2. การเอ้อื น มีขอ้ สงั เกตุคือ ถา้ บทท่ัวไปจะเออ้ื นสน้ั ถ้าบทเศร้าจะเอือ้ นยาว ถ้าเศรา้ มากจะ
เอื้อนยาวเหมือนเพลงหม้ายขันหมาก
- การเอ้อื นสัน้ เช่น ...เอ๊ย....จะกล่าวถงึ /พลายงาม/ทรามสวาท
วธิ ีการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง
ประเภทเสภา มหี ลกั การอา่ นดังน้ี
3. การเอ้อื นยาว เชน่ ...เฮอ้ .......เงอ...........เออ่ .....เอย..............ยาฮ้อื ..
เจา้ พลายงาม/ความแสน/สงสารแม่
4. บทสดุ ท้ายหากจะลงจบ มขี ้อสังเกตุเพ่ือความไพเราะข้ึนนะใหข้ ึ้นดว้ ยเสยี งกลาง ๆ
ในวรรค ๑-๒ และจะข้นึ เสยี งสูงในวรรคที่ ๓-๔ เช่น
“เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชาเลืองแลดูหนา้ น้าตาไหล
แลว้ กราบกรานมารดาดว้ ยอาลยั ลกู เตบิ ใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ”
วิธกี ารอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
2. ประเภทกาพยเ์ หเ่ รอื
กาพย์เหเ่ รอื มีหลักการอ่านดงั นี้
1. บทแรกจะเปน็ โคลงสีส่ ุภาพ แบ่งจังหวะการอ่านเปน็
- บาทแรก 2/3 และ 2(2) : 00/000 00 (00)
- บาทสุดท้าย 2/3 และ 2(2) : 00/000 00 (00)
ปางเสดจ็ ประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพมิ านชัย กิง่ แก้ว
พร่ังพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพรศิ พร้ิงพรายทอง
วธิ กี ารอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
กาพย์เห่เรอื มีหลกั การอ่านดังน้ี
2. บทตอ่ ไปจะเปน็ กาพยย์ านี 11 แบ่งจงั หวะการอา่ นเปน็
- วรรคหนา้ 5 คา อา่ นเป็น 2/3 : 00/000
- วรรคหลัง 6 คา อา่ นเปน็ 3/3 : 000/000
พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กงิ่ เเกว้ แพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
นาวาแน่นเปน็ ขนัด สาครลัน่ ครัน่ ครนื้ ฟอง
เรือร้ิวทวิ ธงสลอน
ฝึกอ่านกาพย์เห่เรือ วิธกี ารอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง
โคลงสส่ี ภุ าพ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลยั
กาพยย์ านี 11 ทรงรัตนพมิ านชยั ก่งิ แก้ว
พร่ังพรอ้ มพวกพลไกร แหนแห่
เรอื กระบวนตน้ แพร้ว เพรศิ พรงิ้ พรายทอง
พระเสดจ็ โดยแดนชล ทรงเรือตน้ งามเฉิดฉาย
กิง่ เเกว้ แพร้วพรรณราย พายออ่ นหยบั จับงามงอน
ลว้ นรูปสตั วแ์ สนยากร
นาวาแน่นเปน็ ขนัด สาครลน่ั คร่ันครื้นฟอง
เรือรวิ้ ทิวธงสลอน ลิว่ ลอยมาพาผนั ผยอง
รอ้ งโหเ่ หโ่ อเ้ หม่ า
เรือครุฑยดุ นาคหิ้ว เพยี งพิมานผา่ นเมฆา
พลพายกรายพายทอง หลังคาแดงแย่งมังกร
สรมุขมขุ ส่ดี า้ น
มา่ นกรองทองรจนา
ฝกึ อา่ นกาพยเ์ หเ่ รือ วธิ กี ารอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจบั สาคร
เรยี บเรยี งเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟา้ มาแดนดิน
งามชดช้อยลอยหลงั สินธ์ุ
สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย ลินลาศเลอื่ นเตอื นตาชม
เพียงหงส์ทรงพรมมนิ ทร์ รวดเร็วจริงยงิ่ อยา่ งลม
ห่มท้ายเย่นิ เดินคู่กนั
เรอื ชัยไววอ่ งวง่ิ
เสยี งเส้าเรา้ ระดม
กาพย์เหเ่ รอื ตอน เหช่ มเรือกระบวน
ให้นักเรียนจบั กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน ทา Presentation การขับเสภา
เสภา ขุนชา้ งขนุ แผน
เจา้ พลายงามความแสนสงสารแม่ ชาเลืองแลดูหน้านา้ ตาไหล
แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลกู เตบิ ใหญค่ งจะมาหาแมค่ ุณ
แตค่ ร้งั น้มี ีกรรมจะจาจาก ตอ้ งพลดั พรากแมไ่ ปเพราะไอ้ขนุ
เทย่ี วหาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ ไมล่ ืมคุณมารดาจะมาเยือน
วิธกี ารอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง
3. ประเภทฉันท์
โดยบงั คบั คาลหุ คาครุ แทนคาธรรมดา นอกจากนยี้ ังบังคบั สัมผัสเชน่ เดียวกบั คาประพนั ธ์
ชนิดอืน่ ๆ การอา่ นทานองเสนาะคาฉันท์มหี ลักเกณฑ์การอา่ นเหมือนกับคาประพันธท์ ่วั ไป คือ
1. อ่านทอดจงั หวะคาแต่ละวรรคตามแตช่ นดิ ของฉนั ท์
2. อา่ นออกเสียงคาใหถ้ กู ต้องตามลกั ษณะบังคับลหุครขุ องฉนั ท์แตล่ ะชนิด
3. คาสุดท้ายวรรคที่ใชค้ าเสียงจตั วา ต้องอ่านใหเ้ สยี งสงู เปน็ พิเศษ
ครุ = เสียงยาว ลหุ = เสียงส้ัน
วิธีการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
ประเภทฉันท์ มหี ลักการอา่ นดงั น้ี
1. วชิ ชุมาลาฉนั ท์ 8
- จังหวะการอา่ นเป็น 2/2 : ๐๐/๐๐
- ออกเสียงธรรมดาตอนเริม่ ตน้ ออกเสียงสงู ในวรรคที่ 4 แล้วค่อยลดเสียงต่าลง
ตามลาดับจนจบ
แรมทาง/กลางเถอ่ื น ห่างเพือ่ น/หาผู้
หนึ่งใน/นกึ ดู เหน็ ใคร/ไป่มี
หลายวัน/ถนั่ ล่วง เมอื งหลวง/ธานี
นามเว/สาลี ดมุ่ เดา/เขา้ ไป
ประเภทฉันท์ มหี ลกั การอ่านดังนี้ วิธีการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
2. มาณวกฉันท์ 8
- จงั หวะการอา่ นเป็น 2/2 : ๐๐/๐๐
- ตอ้ งเออ้ื นในคาที่ 1 ของทุกวรรค
ลว่ งลปุ ระมาณ กาลอนกุ รม
หนงึ่ ณนยิ ม ทา่ นทวชิ งค์
เม่ือจะประสทิ ธ์ิ วทิ ยะยง
เชญิ วรองค์ เอกกมุ าร
วธิ กี ารอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
ประเภทฉันท์ มีหลกั การอา่ นดังน้ี
3. อนิ ทรวิเชียรฉันท์ 11
- จงั หวะการอ่าน วรรคท่ี 1 และ 3 อา่ นเปน็ 2/3 : ๐๐/๐๐๐
วรรคท่ี 2 และ 4 อา่ นเป็น 3/3 : ๐๐๐/๐๐๐
- จะออกเสียงชา้ เน้นตามอารมณ์
บงเนือ้ /ก็เน้อื เต้น พศิ เส้น/สรรี ร์ วั
ทั้วร่าง/และท้งั ตวั กร็ ะรกิ /ระริวไหว
ประเภทฉนั ท์ มหี ลักการอ่านดงั น้ี วิธีการอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
4. อทิ ิสงั ฉันท์ 20
- จังหวะการอ่าน วรรคท่ี 1 อา่ นเปน็ 3/2/4 : ๐๐๐/๐๐/๐๐๐๐
วรรคท่ี 2 อา่ นเป็น 2/2/4 : ๐๐/๐๐/๐๐๐๐
วรรคท่ี 3 อ่านเป็น 3 : ๐๐๐
- จะออกเสียงรวดเร็วกระแทกกระทนั้
เอออเุ หม่นะมงึ ชชิ า่ งกระไร
ททุ าสสถลุ ฉนไี้ ฉน ก็มาเป็น
ประเภทฉันท์ มหี ลกั การอา่ นดังนี้ วธิ กี ารอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
5. วสันตดลิ กฉนั ท์ 14
- จังหวะการอา่ น วรรคที่ 1 และ 3 อา่ นเป็น 2/2/4 : ๐๐/๐๐/๐๐๐๐
วรรคที่ 2 และ 4 อา่ นเป็น 3/3 : ๐๐๐/๐๐๐
- จะออกเสยี งเปน็ จงั หวะชา้ เนบิ ๆ ทกุ จังหวะต้องเน้นเสียงอา่ นและเออื้ นยาว
สามยอด/ตลอด/ระยะระยับ วะวะวบั /สลบั พรรณ
ช่อฟ้า/ตระการ/กลจะหยนั จะเยาะยวั่ /ทฆิ มั พร
https://www.youtube.com/shorts/jd1JW_Vlvhk
ประเภทฉันท์ มหี ลกั การอา่ นดังน้ี วธิ กี ารอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
6. สัททุลวิกกฬี ติ ฉนั ท์ 19
- จังหวะการอา่ น วรรคที่ 1 อา่ นเปน็ 3/3/3/4 : ๐๐๐/๐๐๐/๐๐๐/๐๐๐๐
วรรคท่ี 2 อา่ นเป็น 2/3 : ๐๐/๐๐๐
วรรคท่ี 3 อ่านเปน็ 2 : ๐๐
- คาทรี่ บั สมั ผัสกันอา่ นเน้นเสยี งใหช้ ัดเจน
สรวมชพี หดั /ถประณาม/ณเบื้อง/พระบทมาลย์
หมายโพ/ธสิ มภาร พระองค์
ประชนั ท่วงทำนอง
ขอบคุณสาหรับการเขา้ เรียน
“โปรดตดิ ตามเรื่องตอ่ ไป”