1
คําอธบิ ายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รายวชิ า วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4
รหสั วิชา ว14101 เวลา 120 ชว่ั โมง/ปี
.............................................................................................................................................................
ศึกษา วิเคราะห์ หน้าที่ของราก ลําต้น ใบ และดอกของพืชดอก ส่วนประกอบของพืชดอก ความ
แตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็น กลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ จําแนกพืชออกเป็น
พืชดอกและพืชไม่มีดอก จําแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะเฉพาะ
ของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทินนําสะเทินบก กลุ่มสัตว์เลํือยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์
เลํียงลูกด้วยนม ตัวอย่างของสัตว์ในแต่ละกลุ่ม นอกจากนํีเปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพของวัสดุจากการ
ทดลองและระบุการนําสมบัติของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจําวันโดยผ่านกระบวนการออกแบบชํินงาน แลกเปลี่ยน
ความคิดกับผู้อ่ืนโดยการอภิปรายเก่ียวกับสมบัติทางกายภาพของวัสดุอย่างด้านความแข็ง และสภาพความ
ยืดหยุ่น การนําความร้อน การนําไฟฟ้า ของวัสดุ สมบัติของสสารทํัง ๓ สถานะ การสังเกต มวล ความต้องการ
ท่ีอยู่ รูปร่างและปริมาตรของสสาร เครื่องมือท่ีใช้สําหรับการวัดมวล และปริมาตรของสสาร ทัํง 3 สถานะ ผล
ของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุ การใช้เครื่องช่ังสปริงในการวัดนําหนักของวัตถุ มวลของวัตถุที่มีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ วัตถุที่เป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง และวัตถุทึบแสง ลักษณะการ
มองเห็นผ่านวัตถุ แบบรูปเส้นทางการขํึนและตกของดวงจันทร์ แบบจําลองอธิบายแบบรูปการเปลี่ยนแปลง
รูปร่างของดวงจันทร์ และสามารถพยากรณ์รูปร่างของดวงจันทร์ท่ีปรากฏ แบบจําลองแสดงองค์ประกอบของ
ระบบสรุ ยิ ะ และเปรยี บเทยี บคาบของการโคจรของดาวเคราะหต์ ่าง ๆ จากแบบจาํ ลองได้
ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทํางาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่าง
ง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือส่ือ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้
อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ นําเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตลอดจนใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการ
สืบเสาะหาความรู้ การสํารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์
และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจสามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ และมีความสามารถ
ในการตดั สนิ ใจ
เกิดการรับรู้ และเห็นคุณค่าของการนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสมท่ีพึงประสงค์ตอ่ การดําเนนิ ชีวติ ในปัจจบุ นั
รหัสตวั ชีว้ ัด
วิทยาศาสตร์
มาตรฐาน ว 1.2 ป.4/1
มาตรฐาน ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
มาตรฐาน ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
มาตรฐาน ว 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
มาตรฐาน ว 2.3 ป.4/1
มาตรฐาน ว 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
วิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ)
มาตรฐาน ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5
รวม 21 ตวั ชวี้ ัด
2
รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงสรา้ งรายวิชา ชัน้ ประถมศกึ ษาทีป่ี 4
รหัสวิชา ว14101 วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เวลา 80 ชวั่ โมง/ปี
มาตรฐาน
ลาํ ดับ ช่ือหนว่ ยการ การเรียนรู้ เวลา น้ําหนกั
ที่ เรยี นรู้ ชื่อเร่อื ง / สาระสําคัญ (ช่ัวโมง) คะแนน
1 การเรยี นรสู้ งิ่ เรอ่ื งท่ี 1 - ตัวชี้วดั วทิ ยาศาสตร์เปน็ การศึกษาเกย่ี วกบั 10 10
ต่าง ๆ รอบตวั เรียนรู้ สิ่งตา่ งๆ ท่อี ยู่รอบตัว วิธีการและ
กระบวนการ ขํันตอนท่ีใชเ้ พื่อตอบปัญหาทส่ี งสัย
วทิ ยาศาสตร์ เรยี กวา่ วิธกี ารทางวิทยาศาสตร์
ในการสืบเสาะหาความรอู้ ย่าง
เปน็ ระบบ ผู้เรยี นควรฝกึ ฝนทกั ษะ
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ ห้
เกิดความชาํ นาญ เพื่อใหส้ ามารถ
คน้ หาคาํ ตอบได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
เม่อื ทาํ การศกึ ษาและแสวงหา
ความรู้โดยใชก้ ระบวนการทาง
วิทยาศาสตรแ์ ล้ว ผเู้ รียนจะเกิดจติ
วิทยาศาสตร์
2 สิ่งมีชวี ิต เรอ่ื งที่ 1 ว 1.3 สงิ่ มีชวี ติ มีหลายชนดิ โดยแตล่ ะ 8 6
สิง่ มีชีวติ ป.4/1 ชนิดจะมีลักษณะสาํ คญั บางอยา่ ง
รอบตัวเรา ป.4/2 เหมือนกนั หรอื แตกตา่ งกนั ไป ซ่งึ
ป.4/3 สามารถใชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการจดั กลุม่
ป.4/4 สง่ิ มชี ีวิตออกเปน็ กล่มุ พชื กลมุ่ สตั ว์
และกล่มุ ท่ีไม่ใช่พชื และสัตว์
ในการจาํ แนกพชื สามารถใช้
ลักษณะการมดี อกของพชื เป็น
เกณฑ์ และในการจําแนกสัตว์
สามารถใชก้ ารมีกระดกู สันหลงั ของ
สัตวเ์ ป็นเกณฑ์ได้ สตั ว์มีกระดูกสนั
หลงั แบ่งออกได้ 5 กลุ่ม ซ่ึงสตั ว์มี
กระดกู สนั หลงั แตล่ ะกล่มุ จะมี
ลกั ษณะเฉพาะ ทส่ี งั เกตได้
แตกตา่ งกนั
เรอื่ งท่ี 2 ว 1.2 พืชดอกมสี ว่ นตา่ ง ๆ ท่สี าํ คัญ 8 4
ส่วนตา่ งๆ ป.4/1 ไดแ้ ก่ ราก ลาํ ตน้ ใบ ดอก ผลและ
3
ลาํ ดบั ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน เวลา นา้ํ หนัก
ที่ เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
ชอ่ื เร่อื ง / สาระสาํ คญั
3 แรงและ ของพืชดอก 8 6
พลงั งาน ตวั ชีว้ ัด เมลด็ ซง่ึ ส่วนต่าง ๆ เหล่านํจี ะทํา
5 4
4 วัสดุและสสาร หน้าที่ต่างกันไป 1 10
15 10
เรอื่ งท่ี 1 ว 2.2 แรงโนม้ ถ่วงของโลก เปน็ แรง
แรงโนม้ ถ่วง ป.4/1 ดึงดูดทโี่ ลกกระทาํ ต่อมวลของวตั ถุ
ของโลก ว 2.2 ทกุ ชนิดทอ่ี ยู่บนโลกและทีอ่ ยใู่ กล้
ป.4/2 โลก ซ่งึ มีทศิ ทางเข้าสูศ่ ูนยก์ ลางของ
ว 2.2 โลก ทาํ ใหว้ ตั ถุมนี ําหนักและตกลงสู่
ป.4/3 พํนื โลก เราสามารถวัดนําหนักของ
วัตถุได้โดยใชเ้ ครือ่ งช่ังสปรงิ
มวลของวัตถตุ า่ งๆ มผี ลต่อการ
เปล่ียนแปลงการเคลอื่ นท่ขี องวตั ถุ
วตั ถุท่ีมีมวลมากจะเปล่ยี นแปลงการ
เคลอื่ นทไ่ี ดย้ ากกว่าวัตถุท่มี ีมวล
นอ้ ย
เรอ่ื งท่ี 2 ว 2.3 เมอ่ื มองส่ิงต่าง ๆ โดยมีวัตถตุ า่ ง
ตัวกลางของ ป.4/1 ชนิดมากํันแสง จะทําให้มองเห็นสงิ่
แสง นัํน ๆ ชดั เจนแตกตา่ งกนั ไป
จงึ จําแนกวตั ถทุ น่ี ํามากํนั แสงไดเ้ ป็น
ตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง
และวัตถทุ บึ แสง
สอบปลายภาคเรยี นที่ 1
เรอ่ื งที่ 1 ว 2.1 วัสดุตา่ ง ๆ มสี มบัตทิ างกายภาพ
วสั ดใุ นชวี ติ ป.4/1 ที่สามารถสงั เกตและทดสอบได้
ประจาํ วัน ว 2.1 แตกต่างกันไป เชน่
ป.4/2 มคี วามแขง็ มีสภาพยดื หยุน่
นําความรอ้ น นาํ ไฟฟา้ เปน็ ต้น
ซึ่งเราสามารถนาํ วสั ดุท่มี สี มบัตทิ าง
กายภาพด้านต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์
ไดต้ ่างกนั
เรื่องที่ 2 ว 2.1 สสารในชีวิตประจําวนั มหี ลาย 11 5
สถานะของ ป.4/3 ชนดิ แต่ละชนดิ อาจอยใู่ นสถานะ
สสาร ว 2.1 ของแข็ง ของเหลว หรอื แกส๊ ซ่งึ
4
ลาํ ดับ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน เวลา น้าํ หนกั
ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
ช่ือเร่ือง / สาระสาํ คญั
5 โลกและอวกาศ เรอ่ื งที่ 1 7 10
การปรากฏ ตัวชว้ี ัด
ของดวง ป.4/4 สสารแตล่ ะสถานะอาจมสี มบัตบิ าง 6 5
จันทร์ ประการเหมือนกนั หรอื ตา่ งกัน โดย
สังเกตไดจ้ ากการมมี วล การ
เร่อื งที่ 2 ต้องการทอ่ี ยู่ การมีรูปรา่ งและ
ระบบสรุ ิยะ ปรมิ าตรของสสาร ซงึ่ เราสามารถใช้
ของเรา เครอ่ื งมือในการวดั มวลและ
ปรมิ าตรของสสารได้
ว 3.1 ดวงจันทร์โคจรรอบโลก
ป.4/1 พร้อมกับหมนุ รอบตัวเอง ในขณะที่
ว 3.1 โลกหมนุ รอบตัวเองจะทาํ ใหเ้ รา
ป.4/2 มองเหน็ ดวงจนั ทรป์ รากฏขํนึ
ทางดา้ นทิศตะวันออกและตก
ทางด้านทศิ ตะวนั ตก ซึง่ หมุนเวียน
เป็นแบบรปู ซํา ๆ
ดวงจันทร์นํันเป็นทรงกลม แต่
รปู ร่างของดวงจนั ทรท์ ีป่ รากฏในแต่
ละวนั จะแตกตา่ งกัน ดวงจันทรจ์ ะมี
รปู รา่ งปรากฏเปน็ เสยีํ วโดยจะมี
ขนาดเพ่ิมขนึํ ในแต่ละวนั จนเต็มดวง
และมขี นาดลดลงจนมองไม่เหน็
ดวงจันทร์ จากนํนั รปู ร่างปรากฏ
ของดวงจนั ทรจ์ ะเป็นเสํยี วใหญข่ ึํน
จนสว่างเต็มดวงอกี ครงํั และเกิด
การเปลยี่ นแปลงเชน่ นํเี ป็นแบบรปู
ซํา ๆ ทกุ เดอื น
ว 3.1 ระบบสุรยิ ะนนํั เป็นระบบทมี่ ี
ป.4/3 ดวงอาทติ ยเ์ ปน็ ศูนยก์ ลาง และมี
ดาวบรวิ ารตา่ งๆ โคจรอยู่โดยรอบ
ประกอบด้วยดาวเคราะห์8 ดวง
รวมทัํงดวงจันทรบ์ รวิ ารของดาว
เคราะหต์ ่าง ๆ ดาวเคราะหแ์ คระ
ดาวเคราะห์นอ้ ย ดาวหาง และ
วัตถขุ นาดเล็กอ่ืน ๆ โคจรอยู่รอบ
ดวงอาทติ ย์
5
มาตรฐาน
ลําดับ ชอื่ หนว่ ยการ การเรียนรู้ เวลา นํา้ หนัก
ท่ี เรียนรู้ ชอื่ เรื่อง / สาระสาํ คัญ (ชวั่ โมง) คะแนน
ตวั ชี้วดั ดาวเคราะหท์ ่โี คจรรอบ 1 10
80 80
ดวงอาทิตย์แตล่ ะดวงจะมีขนาดของ
ดาว ระยะหา่ งจากดวงอาทิตยแ์ ละ
คาบการโคจรรอบดวงอาทติ ย์
แตกตา่ งกนั ไป
สอบปลายภาคเรยี นท่ี 2
รวม
6
รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โครงสรา้ งรายวิชา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
รหสั วชิ า ว14101 วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ) เวลา 40 ช่วั โมง/ปี
ลําดับ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู้ เวลา นาํ้ หนกั
ชอื่ เรื่อง / สาระสาํ คัญ (ชวั่ โมง) คะแนน
ตัวชว้ี ดั 4 1
1 เทีย่ วบ้านคณุ ย่า ขํนั ตอน ว 4.2 อัลกอริทมึ (algorithum) เป็น 1
วิธีการ ป.4/1 ขัํนตอนวธิ ีที่ใชแ้ ก้ปัญหาต่าง ๆ ทัํงใน
แกป้ ัญหา ชวี ิตจริงและในการสั่งงานคอมพวิ เตอร์ 1
ปัญหาหนง่ึ อาจมอี ันกอริทึมในการ
แก้ปัญหาได้หลายวธิ ี
2 โปรแกรมแสน การเขียน ว 4.2 Program โปรแกรม Scratch เป็น 4
สนุก โปรแกรม ป.4/2 โปรแกรมสาํ หรับเขียนโปรแกรม
เบํืองต้น เบืํองต้น การเขียนสครปิ ต์ในโปรแกรม
Scratch เป็นการนําบลอ็ กคําสั่งมาวาง
ตอ่ กันเพ่ือใหโ้ ปรแกรมทํางานตามท่ี
ต้องการตวั อย่างบลอ็ กในโปรแกรม
Scratch เชน่ บล็อก Say ใชส้ ําหรบั
แสดงกลอ่ งคําพดู
3 หนทางหม่ืนลํี การเขียน ว 4.2 บลอ็ กคาํ สง่ั glide ใช้ในการเคล่อื นที่ 4
เรมิ่ ตน้ ทธ่ี งเขียว โปรแกรม ป.4/2 ตวั ละครไปยงั ตําแหน่งท่กี ําหนดอยา่ ง
อย่างง่าย ช้า ๆ
บลอ็ กคาํ สง่ั point in direction ใช้
ในการกาํ หนดทศิ ทางการหนั หนา้ ของ
ตวั ละคร ไปยงั ทศิ ทางท่กี ําหนด
บลอ็ กคําส่ัง move ใชส้ าํ หรับย้าย
ตําแหนง่ ตวั ละครไปแนวเดยี วกนั กับ
ทศิ ทางที่ตัวละครหันหนา้ อยู่
บลอ็ กคาํ ส่งั pen down ใชใ้ นการ
จรดปากกาเพ่อื เริ่มต้นการวาดเส้น
บล็อกคําสงั่ pen up ใช้ในการยก
ปากกาเม่ือสนํิ สดุ การวาด
การแก้ไขข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
(debugging) ทําได้โดยการสั่งให้
โปรแกรมทาํ งานและตรวจสอบผลลพั ธ์
ทลี ะคาํ สง่ั
7
ลําดับ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน เวลา นํา้ หนกั
ที่ เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
ชอ่ื เรอ่ื ง / สาระสาํ คัญ
4 ลอยฟา้ ตะลุย 4 1
สวน ตวั ชี้วัด
การรวบรวม ว 4.2 ขอ้ มลู หมายถึง ลกั ษณะหรือ 3 1
5 แสบต้องเสิรช์ ข้อมูลและ ป.4/4 รายละเอียดเก่ยี วกับสง่ิ ใดสิ่งหน่งึ
การ วิธีการทีใ่ ชใ้ นการสํารวจขอ้ มูล เช่น 1 5
6 บางแสน แสน ประมวลผล การสังเกต การวัด การสัมภาษณ์ การ 4 1.5
สุข อย่างงา่ ย ตอบแบบสอบถามด้วยกระดาษหรอื
ออนไลน์
อปุ กรณ์หรอื เครอื่ งมือทใี่ ชส้ ําหรบั
บนั ทกึ และรวบรวมข้อมูล เชน่ ปากกา
ดนิ สอ ยางลบ สมุดบนั ทกึ เคร่อื ง
คอมพวิ เตอร์
การประมวลผลขอ้ มลู เช่น
การคํานวณ การเปรยี บเทยี บ
การจําแนก
การใชค้ าํ ค้น ว 4.2 การค้นหาขอ้ มลู ทําไดโ้ ดยใช้
ป.4/3, โปรแกรมคน้ หา (search engine)
ป.4/5 การระบคุ าํ สาํ คญั (keyword) ใน
คาํ ค้นให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงจะ
ทําใหไ้ ดข้ ้อมูลทตี่ รงตามความตอ้ งการ
การเลอื กใช้ข้อมลู ควรเลือกจาก
แหล่งขอ้ มลู ทม่ี ีความนา่ เชื่อถอื โดย
พจิ ารณาจากองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ เช่น
ยูอาร์แอล ช่ือผเู้ ขยี น วันท่เี ผยแพร่
ข้อมลู แหลง่ ทีม่ าของข้อมลู
ก่อนนําข้อมูลบนอนิ เทอร์เน็ตไปใช้
ตอ้ งประเมินความนา่ เช่อื ถือของข้อมูล
และควรปรกึ ษาผ้เู ชี่ยวชาญ โดยเฉพาะ
ในเร่ืองสุขภาพ
การปกป้องขอ้ มลู ส่วนตัวช่วยให้
ปลอดภัยจากผไู้ ม่หวงั ดี
สอบปลายภาคเรยี นที่ 1
การ ว 4.2 ปญั หาหนงึ่ อาจมีทางเลอื กในการ
วเิ คราะห์ ป.4/4 แกป้ ัญหาไดห้ ลายวธิ ี การเลือกวิธีการ
และสร้าง แกป้ ัญหาทีเ่ หมาะสมขํนึ อยู่กับขอ้ มูล
ทางเลอื ก เงื่อนไขและเหตุผล
8
ลําดบั ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน เวลา น้ําหนัก
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
ชอื่ เร่อื ง / สาระสําคญั
7 ชารต์ ชารต์ 1.5
ชารต์ นอ้ งเคย ตัวชีว้ ัด การสร้างทางเลอื กและการตดั สนิ ใจ 1
เหน็ ชาร์ตหรือ
เปล่า เป็นส่งิ ที่เกิดขํนึ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ
ในชวี ติ ประจาํ วัน การตดั สินใจทด่ี ีเกดิ
8 อยา่ ไว้ใจทาง จากการหาข้อมลู ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง อย่าง
อยา่ วางใจข่าว ครบถว้ นและวิเคราะหผ์ ลทไ่ี ด้ว่าตรงกับ
จุดประสงคท์ ี่กําหนดไว้มากนอ้ ย
เพยี งใด
การนาํ เสนอ ว 4.2 ข้อมลู มีหลายรูปแบบ ทํังขอ้ ความ 5
ข้อมูล ป.4/4 รปู ภาพและข้อมูลเชงิ ปริมาณใน
รูปแบบของตาราง
ขอ้ มลู นัํนมีประโยชน์ การนําเสนอ
ขอ้ มลู ท่ดี ีจะทําให้ผู้ฟงั เข้าใจได้งา่ ย
ขอ้ มลู แต่ละรปู แบบอาจมีวิธกี าร
นําเสนอท่แี ตกตา่ งกัน
ขํึน
การนาํ เสนอข้อมูลเชิงปริมาณ
สามารถนําเสนอในรูปของ แผนภมู ิ
รูปภาพ แผนภมู ิวงกลม แผนภูมแิ ทง่
การใช้ ว 4.2 การประเมินความนา่ เชอื่ ถือของ 5
อินเทอรเ์ น็ต ป.4/3, ข้อมูลในเว็บไซต์ สามารถพจิ ารณาได้
หาความรู้ ป.4/5 จาก หน่วยงานหรอื เจ้าของเนํือหาที่
เผยแพร่ ผู้เขียน วนั ที่เผยแพร่ข้อมลู
การอ้างองิ แหล่งขอ้ มูล
การอา้ งอิงแหล่งข้อมูลทาํ ให้ข้อมลู ที่
แสดงมคี วามน่าเชอื่ ถอื ช่วยให้ผู้ใช้
การส่งต่อข้อมูลท่ผี ิด หรอื ข้อมูลท่ไี ม่
เป็นความจริงจะทาํ ใหเ้ กดิ ความวุน่ วาย
และอาจมีความผดิ ตามกฎหมาย
เม่ือไดร้ บั ข้อมูลข่าวสารทางสอื่ สงั คม
ควรตรวจสอบและประเมนิ ความ
น่าเชอ่ื ถือของขอ้ มลู ทุกครังํ
ส่อื สงั คมมที ัํงประโยชนแ์ ละโทษ ควร
ใช้อยา่ งเหมาะสมและระมดั ระวงั
9
ลาํ ดับ ชือ่ หน่วยการ มาตรฐาน เวลา นํา้ หนกั
ที่ เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
ช่ือเร่ือง / สาระสําคญั
9 บํงั ไฟบุปผชาติ 5 1
ตวั ชีว้ ดั
การทํานาย ว 4.2 ผลลพั ธข์ องโปรแกรมขึนํ อยู่กบั 1 5
ผลลพั ธ์ ป.4/1, สถานะเริม่ ตน้ และคาํ สัง่ ของโปรแกรม 40 20
ป.4/2 การทาํ นายผลลัพธ์ท่ีได้โดยพิจารณา
เงือ่ นไขของปัญหา และทาํ ตามคําส่งั
ของโปรแกรมทลี ะขนัํ ตอนอยา่ ง
รอบคอบ
เมอ่ื พบขนํั ตอนท่ที ําใหผ้ ลลัพธ์ของ
โปรแกรมไมเ่ ปน็ ไปตามท่ีคาดหวงั
หรือไมส่ อดคลอ้ งตามเงอ่ื นไขของโจทย์
แสดงว่าอาจมขี อ้ ผดิ พลาดเกิดขนํึ ใน
ขนัํ ตอนนีํ ควรทําการแก้ไขเพ่ือนําไปสู่
ผลลพั ธ์ที่ถกู ต้อง
สอบปลายภาคเรยี นที่ 2
รวม
10
รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เวลา 80 ชั่วโมง/ปี
รหสั วชิ า ว14101 วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี
มาตรฐานการ จํานวน
หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ เนือ้ หา เรียนรูแ้ ละรหสั (ชว่ั โมง)
1 การเรียนรู้ส่ิงตา่ งๆรอบตัว - การสืบเสาะหาความรู้ทาง ตัวชว้ี ัด
วิทยาศาสตร์ - 10
- การวัดและการใชจ้ าํ นวนของ
นกั วิทยาศาสตร์
- การทดลองของนกั วทิ ยาศาสตร์
2 สง่ิ มชี ีวติ - ส่ิงมชี ีวิตรอบตัว และการจัดกลุ่ม ว 1.2 16
ส่ิงมชี วี ิต ป.4/1
- สว่ นตา่ งๆของพืชดอก ว1.3 13
ป.4/1, ป.4/2, 1
3 แรงและพลงั งาน - มวลและแรงโน้มถ่วงของโลก ป.4/3, ป.4/4 26
- ตวั กลางของแสง ว 2.2
ป.4/1,
สอบปลายภาคเรียนท่ี 1 ป.4/2, ป.4/3
4 วสั ดแุ ละสสาร - ความแขง็ ของวัสดุ ว2.1
- สภาพยืดหยุ่นของวสั ดุ ป.4/1, ป.4/2,
- การนําความรอ้ นของวัสดุ ป.4/3, ป.4/4
- การนาํ ไฟฟ้าของวัสดุ
- สถานะของสาร
5 โลกและอวกาศ - ดวงจันทรข์ องเรา ว 3.1 13
- ระบบสุรยิ ะของเรา ป4/1, ป4/2,
ป4/3, ป.4/4 1
สอบปลายภาคเรยี นท่ี 2 80
รวม
11
รายวชิ า วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4
รหัสวชิ า ว14101 วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) เวลา 40 ชัว่ โมง/ปี
หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ เนอ้ื หา มาตรฐานการ จํานวน
เรยี นรู้และรหสั (ชั่วโมง)
ตัวชี้วดั
1 เท่ียวบา้ นคณุ ยา่ - รูจ้ กั ความหมายของอัลกอลทิ มึ ว 4.2 4
- ใช้อลั กอลิทึมแก้ปญั หาใน ป.4/1
ชวี ิตประจาํ วัน
- ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา
2 โปรแกรมแสนสนกุ - รูจ้ ักโปรแกรม Scratch ว 4.2 4
- เขียนโปรแกรมเบํอื งต้น ป.4/2
3 หนทางหมื่นลีเํ ร่มิ ตน้ ท่ธี ง - เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย ว 4.2 4
เขียว - ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดโดยตรวจสอบ ป.4/2
การทํางานทีละคาํ ส่ัง
4 ลอยฟ้าตะลยุ สวน - รวบรวมขอ้ มูล ว 4.2 4
- ประมวลผลข้อมลู ป.4/4
5 แสบตอ้ งเสิรช์ - ค้นหาขอ้ มลู จากอินเตอรเ์ น็ต ว 4.2 3
- ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือของข้อมูล ป.4/3, ป.4/5
- ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภยั
สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1
- วิเคราะห์ปญั หา สร้างทางเลอื กใน 1
6 บางแสน แสนสขุ ว 4.2 4
การแก้ปัญหา ป.4/4
- ประมวลข้อมูลเพอ่ื ใช้แก้ปัญหา
7 ชาร์ต ชารต์ ชารต์ นอ้ ง - เลือกชนดิ แผนภมู ิให้เหมาะสมกบั ว 4.2 5
เคยเห็นชาร์ตหรือเปล่า ข้อมูล ป.4/4
- ใช้ซอฟตแ์ วรใ์ นการนําเสนอข้อมลู
8 อยา่ ไวใ้ จทาง อย่าวางใจ - ประเมินความน่าเชือ่ ถอื ของข้อมลู ว 4.2 5
ข่าว และการอ้างองิ แหล่งท่มี า ป.4/3, ป.4/5
9 บํังไฟบปุ ผชาติ - ทํานายผลลัพธ์จากการแก้ปัญหา/ ว 4.2 5
ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด ป.4/1, ป.4/2
สอบปลายภาคเรยี นที่ 2 1
รวม 40
12
แผนการจดั การเรียนรู้
กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 วสั ดแุ ละสสาร
เรอ่ื ง สถานะของสสาร เวลา 1 ชว่ั โมง
ผูส้ อน : นางสาวขนษิ ฐา ศรีภมู ราช
.............................................................................................................................................................
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสมบัติของ
สสารกับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของ
การเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
ตวั ชว้ี ัด
ว 2.1 ป.4/3 เปรยี บเทยี บสมบัติของสสารทัํง 3 สถานะ จากขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการสังเกตมวล
การตอ้ งการท่ีอยู่ รูปรา่ งและปรมิ าตรของสสาร
สาระสาํ คัญ/ความคิดรวบยอด
สถานะของสสารมี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
สาระการเรียนรู้
สสาร หมายถึง ส่ิงที่มีตัวตน มีมวล มีนําหนัก ต้องการที่อยู่ สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทัํงห้า
มี 3 สถานะคือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส มีสมบัติแตกต่างกัน วัสดุทุกชนิดเป็นสสาร คือ มีมวล ต้องการ
ท่ีอยู่ และสัมผัสได้ ซ่ึงสสารแต่ละสถานะมีมวลและปริมาตรแตกต่างกัน จึงใช้เคร่ืองมือวัดมวลและปริมาตร
ตา่ งกนั ดว้ ย
การระบุว่าสสารท่ีสนใจเป็นสถานะใด สสารนํันต้องมีสมบัติครบตามท่ีนักวิทยาศาสตร์กําหนด คือ
ของแข็ง มีมวล ต้องการท่ีอยู่ มีปริมาตรและรูปร่างคงที่ ของเหลวมีมวล ต้องการท่ีอยู่ มีปริมาตรคงที่ แต่มี
รปู รา่ งไม่คงท่ี และรกั ษาผวิ หนา้ อยู่ในแนวราบเสมอ ส่วนแกส๊ มมี วล ตอ้ งการทอ่ี ยู่ มปี รมิ าตรและรูปรา่ งไม่คงที่
สารบางชนิดไมจ่ ัดเปน็ ของแข็ง ของเหลว หรือ แก๊ส เนือ่ งจากขาดสมบัตบิ างประการของสารในสถานะนนัํ ๆ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (Knowledge)
1.1 นักเรียนสามารถอธิบายสมบัติของสสารในสถานะของแข็ง ของเหลว และแกส๊ จากการสังเกต
มวล การตอ้ งการที่อยรู่ ปู ร่าง และปรมิ าตร
1.2 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบสมบัติของสสารในสถานะของแข็ง ของเหลว และแกส๊ จากการ
สังเกต มวล การต้องการท่อี ยูร่ ปู รา่ ง และปรมิ าตร
2. ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
2.1 นักเรียนสามารถจําแนกสมบัติของสสารในสถานะของแข็ง ของเหลว และแก๊ส จากการสังเกต
มวล การต้องการทอ่ี ย่รู ปู รา่ ง และปริมาตรได้
13
3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attribute)
3.1 นักเรียนมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทํางาน สามารถทาํ งานรว่ มกับผอู้ น่ื ได้
กจิ กรรม / กระบวนการเรียนรู้
จัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้การจดั การเรียนรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ดงั นีํ
ขั้นที่ 1 ขนั้ นําเขา้ สู่บทเรยี น (Engagement Phase)
1. ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม 4 กลมุ่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั พร้อมใหน้ กั เรยี นเลอื กหวั หน้ากล่มุ และรอง
หวั หน้ากลุม่
2. ครูนําเข้าสู่บทเรียนโดยทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนในเรื่องสถานะของสสาร โดยครูแสดงกล่อง
ปริศนาท่ีมีส่ิงของอยู่ 1 กล่อง ซึ่งมีหมายเลข 1 2 และ 3 ให้นักเรียนดู จากนํันสอบถามนักเรียนว่าอยากดู
สิ่งของในกล่องหมายเลขใดก่อน ครูสามารถหยิบส่ิงของจากหมายเลขใดก่อนก็ได้ตามท่ีนักเรียนส่วนใหญ่
ต้องการ
3. ครูแสดงส่ิงของที่อยู่ในกล่องพร้อมทัํงนํานักเรียนอภิปรายว่า “สิ่งของท่ีอยู่ในกล่องคืออะไร
มสี ถานะอะไร” ซง่ึ สิ่งท่อี ยใู่ นกลอ่ งปริศนาแต่ละกลอ่ งมีดงั นํี
กลอ่ งท่ี 1 ดนิ นํามัน กอ้ นหิน สถานะของแขง็
กลอ่ งท่ี 2 นําแดงบรรจุในขวด สถานะของเหลว
กล่องที่ 3 อากาศทบี่ รรจใุ นลูกโปง่ สถานะแกส๊
4. ครูบอกกับนักเรียนว่า ส่ิงท่ีอยู่ในกล่องปริศนาทัํงหมดนํันมีตัวตน มีมวล มีนําหนัก ต้องการท่ีอยู่
สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทํังห้า มีสมบัติแตกต่างกัน เรียกว่า สสาร ส่วนองค์ประกอบของสสาร หรือเนํือของ
สาร เรียกว่า สาร
5. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนทราบหรือไม่ว่าครูแบ่งกลุ่มโดยใช้อะไรเป็นเกณฑ์ (แนวคําตอบ ใช้
สถานะเป็นเกณฑ์)
6. ครูบอกนักเรียนว่า สถานะของสสารมี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส ครูจะให้นักเรียน
จาํ แนกสถานะของสสาร และเรยี นรู้คณุ สมบตั ขิ องสสารผา่ นชุดกิจกรรม “ฉนั คือสถานะอะไร”
ขั้นที่ 2 ขน้ั สํารวจและคน้ หา (Exploration Phase)
1. ครูให้นักเรียนทํากิจกรรมเพื่อจําแนกสถานะของสสารและหาคุณสมบัติของสสารในกิจกรรม
“ฉันคือสถานะอะไร” แล้วบันทึกลงในใบกิจกรรมที่ 1 และใบกิจกรรมที่ 2 เรื่อง สถานะของสสาร โดยนักเรียน
จะตอ้ งรวบรวมข้อมูลดว้ ยตนเองจากใบความรู้ หรือหนังสือเรยี น
2. ครูชีํแจงเก่ยี วกับกจิ กรรม แตล่ ะกลุ่มจะได้ชดุ กจิ กรรมกลมุ่ ละ 1 ชุด ประกอบไปด้วย
- ใบความรู้ เรือ่ ง สถานะของสสาร
- ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง สถานะของสสาร
- แผ่นวงกลมแยกสถานะของสสาร และตวั หนบี สาร ส่งิ ของต่าง ๆ
- ใบกจิ กรรมท่ี 2 เร่ือง สถานะของสสาร
ให้นักเรียนช่วยกันตอบคําถามเกี่ยวกับการจัดเรียงอนุภาค และสมบัติของสสารลงในใบกิจกรรมท่ี 1
และให้นักเรียนจําแนกสสารท่ีเป็นตัวหนีบ หนีบลงบนแผ่นวงกลุ่มตามการแยกสถานะของสารพร้อมทํา
เคร่ืองหมายถูกต้องในใบกิจกรรมที่ 2 ภายในเวลา 20 นาที
3. ครูคอยแนะนําช่วยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเดินดูรอบ ๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส
ใหน้ ักเรยี นทุกคนซกั ถามเม่อื มปี ัญหา
14
4. เม่ือนกั เรียนทาํ กจิ กรรมเสร็จ ใหน้ กั เรียนนาํ เสนอผลงานหน้าหอ้ งเรยี น
ข้ันท่ี 3 ขน้ั อภิปรายและสรุปผล (Explanation Phase)
1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายกิจกรรมที่ผ่านมา โดยใช้ส่ือนําเสนอ หรือสื่อทํามือ เพ่ือสรุปว่า
สสารมีทัํงหมด 3 สถานะ ได้แก่
ของแข็ง (solid) จะมีอนุภาคอยู่กันอย่างหนาแน่นมาก แรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคมาก ปริมาตร
และรูปรา่ งคงที่ เชน่ พลาสติก ไม้ หนิ เหลก็ ทอง
ของเหลว (liquid) จะมีมีอนุภาคอยู่ชิดติดกันน้อยกว่าของแข็ง แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อยกว่า
ของแข็ง ปริมาตรคงท่ีแต่มีรูปร่างเปลี่ยนไปตามภาชนะที่บรรจุ เช่น นํา นํามันพืช นม นําผํึง นํามันเบนซิน
แอลกอฮอล์
แก๊ส (gas) จะมีอนุภาคอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อยมาก ปริมาตร
และรูปร่างไมค่ งที่ เปล่ยี นไปตามภาชนะท่ีบรรจุ เชน่ อากาศ แก๊สฮเี ลียม แกส๊ หุงต้ม
ขน้ั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Expansion Phase)
1. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมแก่นักเรียนว่า เหตุผลท่ีสสารทํัง 3 สถานะมีสมบัติบางอย่างไม่เหมือนกัน
เนื่องจากการจัดเรียงอนุภาคทแี่ ตกตา่ งกัน ดงั นํี
ของแข็ง (solid) มีโครงสร้างภายในของสารมีอนุภาคเรียงชิดติดกัน ทําให้อนุภาคสารไม่สามารถ
เคลอื่ นท่ีได้ จงึ มปี ริมาตร และรปู ร่างคงที่
ของเหลว (liquid) คือ มีโครงสร้างภายในของสารมีอนุภาคไม่เรียงชิดติดกัน ทําให้อนุภาคภายใน
สามารถเคลื่อนที่ได้ จึงมรี ปู ร่างเปล่ียนไปตามภาชนะทีบ่ รรจุ และ
แก๊ส (gas) มีโครงสร้างภายในมีอนุภาคที่ห่างกันทําให้อนุภาคสารสามารถเคลื่อนท่ีได้ อย่างอิสระ จึงมี
รปู ร่างและปริมาตรทเ่ี ปลย่ี นไปตามภาชนะท่บี รรจุ
ขน้ั ที่ 5 ขั้นประเมินผล (Evaluation Phase)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่
เขา้ ใจหรอื ยงั มขี ้อสงสยั ถ้ามีครชู ว่ ยอธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียนเขา้ ใจ
2. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกับ สถานะของสาร โดยการใชเ้ พลง “สถานะของสาร”
เพลง...สถานะของสาร
สถานะของสารมี 3 สถานะ สถานะของสารมี 3 สถานะ
คือของแขง็ ของเหลว แกส๊ คอื ของแขง็ ของเหลว แก๊ส
จําไวม้ ี 3 สถานะ มี 3 สถานะ
3. ครใู หน้ ักเรียนทาํ แบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง สถานะของสสาร
4. ครูให้นกั เรยี นทาํ ใบงาน เร่อื ง สถานะของสสาร ส่งในคาบถัดไป
สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้
1. กล่องปริศนา 1 กล่อง
2. หนิ
3. นําแดงบรรจใุ นขวด
15
4. อากาศที่บรรจุในลกู โปง่
5. แบบจําลองอนุภาคของสสาร
6. สอ่ื นําเสนอ เรอื่ ง สถานะของสสาร
7. ชุดกจิ กรรม “ฉนั คือสถานะอะไร”
8. ใบความรู้ เรื่อง สถานะของสสาร
9. ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง สถานะของสสาร
10. ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรื่อง สถานะของสสาร
11. แบบทดสอบหลังเรียน
12. ใบงาน เรอ่ื ง สถานะของสสาร
การวดั และประเมนิ ผล
เคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล
1) แบบประเมินใบงาน
2) แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการการทํางานเป็นกลุม่
3) แบบประเมนิ ผลดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
วิธกี ารวดั และประเมินผล
1) การสังเกตความสนใจ ความตัํงใจและความร่วมมือในการทํางานของนักเรียนใน การทํากิจกรรม
การตอบคําถาม ความตรงต่อเวลา การแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นร่วมถึงการตัดสินใจ
รว่ มกัน
2) การตรวจผลงาน ตรวจความถูกต้อง ความเปน็ ระเบียบของชนํิ งาน
3) การบนั ทึกแบบประเมินทักษะกระบวนการการจําแนกประเภท
4) การบนั ทกึ แบบประเมนิ ผลด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5) การตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
เกณฑ์การวดั และประเมินผล
1) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายสถานะและสมบัติของสสารได้ 60% ขํึนไป
2) นกั เรียนสามารถทาํ งานได้ตามเกณฑ์ที่กาํ หนดได้ 60% ขึนํ ไป
3) นักเรยี นไดค้ ะแนนจากแบบประเมิน 60% ขนํึ ไป
16
เกณฑ์การประเมินใบงาน
ดมี าก ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรงุ
(5 คะแนน) (4 คะแนน) ( 3คะแนน) ( 2คะแนน) (1คะแนน)
1. เนืํอหาทต่ี อบมีความถูกตอ้ งและมี ขาด 1 ขอ้ ขาด 2 ข้อ ขาด 3 ข้อ ขาด 4 ขอ้
ความชัดเจนครอบคลุม
2. ลายมืออ่านง่ายและเขียนเปน็ ระเบยี บ
เรียบรอ้ ย
3. เขยี นไดค้ รบทกุ หวั ขอ้ ทกี่ าํ หนดให้
4. ใชภ้ าษาได้ถกู ตอ้ ง
5. ส่งงานตรงตามกาํ หนดที่กาํ หนดไว้
ระดับคณุ ภาพ
5 หมายถงึ ดีมาก
4 หมายถงึ ดี
3 หมายถึง ปานกลาง
2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
หมายเหตุ นกั เรยี นที่ได้คะแนนอยชู่ ่วง 3-4 หรือ ระดบั ปานกลาง ขนํึ ไป ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
17
แบบตรวจงาน/ผลงาน/ใบงาน
คาํ ช้แี จง แบบตรวจกิจกรรมนํใี ช้สาํ หรบั ให้คะแนนเมื่อนกั เรยี นทาํ กิจกรรมในการเรียน
รายการประเมิน
เลขท่ี ชอ่ื -สกุล ความสะอาด ความถกู ต้อง ตรงต่อเวลา รวม
432143214321 (12คะแนน)
เกณฑ์การประเมิน หมายความวา่ ดีมาก
10 – 12 หมายความว่า ดี
7– 9 หมายความวา่ พอใช้
4–6 หมายความว่า ควรปรับปรุง
0–3
18
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลุม่
คําชีแ้ จง แบบสังเกตนใีํ ชบ้ นั ทึกขณะปฏิบัตกิ ิจกรรมกลมุ่ ( แบบสังเกตนคีํ รเู ปน็ ผปู้ ระเมิน )
การทาํ งานกลุ่ม
การแบง่ หนา้ ท่ี สรุปผล แสดงความ
กลุ่ม ความสนใจ รบั งาน การนําเสนอ คดิ เหน็ ยอมรบั รวม
ที่ กระตือรอื รน้ รว่ มกนั (20)
ผิดชอบ ฟังความคดิ ผูอ้ ื่น
4 คะแนน 4 คะแนน 4 คะแนน 4 คะแนน 4 คะแนน
1
2
3
4
5
6
เกณฑก์ ารประเมิน หมายถึง ดีมาก
16 – 20 หมายถงึ ดี
11 – 15 หมายถึง พอใช้
6 –10 หมายถึง ต้องปรบั ปรงุ พฤตกิ รรมการทํางาน
0–5
19
เกณฑ์การประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานกลมุ่
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
รายการประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ต้องปรับปรุง
(4) (3) (2) (1)
1 ความสนใจ สมาชิกทกุ คนมี สมาชิกสว่ นใหญม่ ี สมาชกิ ส่วนน้อย สมาชิกสว่ นใหญ่
กระตือรือรน้ ความสนใจ ความสนใจ มคี วามสนใจ ไมส่ นใจ ไม่
กระตอื รอื รน้ กระตือรอื ร้น กระตอื รอื รน้ กระตอื รือรน้
ในการทํางาน ในการทํางาน ในการทาํ งาน ในการทํางาน
2. การแบ่งหน้าท่ี มีการแบ่งหนา้ ท่ี มกี ารแบ่งหน้าท่ี มกี ารแบง่ หนา้ ท่ี ไม่มีการแบง่
รบั ผดิ ชอบ กนั อย่างชัดเจน กันอยา่ งชดั เจน กันอย่างชดั เจน หนา้ ทกี่ ันอยา่ ง
มีความรับผดิ ชอบ มีความรับผิดชอบ ไมร่ ับผดิ ชอบงาน ชัดเจน
งานตามบทบาท งานตามบทบาท ตามบทบาทหนา้ ที่ ไม่รับผิดชอบ
หน้าที่ หนา้ ท่ีเปน็ ส่วน งานตามบทบาท
ใหญ่ หนา้ ที่
3. การสรุปผลงาน สมาชิกทกุ คนมี สมาชกิ สว่ นใหญ่มี สมาชกิ กล่มุ ให้ สมาชิกสว่ นใหญ่
ร่วมกัน ส่วนรว่ มกันใน สว่ นรว่ มกันใน ความร่วมมอื ใน มสี ว่ นร่วมในการ
การสรุปผลงาน การสรุปผลงาน การสรุปผลงาน สรุปผลงานกลุ่ม
กลุ่มเปน็ สว่ นน้อย นอ้ ยมาก
4. การนาํ เสนอ สมาชิกทกุ คนมี สมาชิกสว่ นใหญม่ ี สมาชกิ มีสว่ นร่วม สมาชกิ สว่ นใหญ่
ส่วนรว่ มในการ ส่วนร่วมในการ ในการนําเสนอ มสี ว่ นร่วมในการ
นาํ เสนองานกลุ่ม นาํ เสนองานกลุม่ งานกลมุ่ เปน็ ส่วน นาํ เสนองานกลมุ่
นอ้ ย นอ้ ยมาก
5. การแสดงความ สมาชิกทุกคน สมาชกิ สว่ นใหญ่ สมาชกิ ส่วนน้อย สมาชิกส่วนใหญ่
คิดเหน็ ยอมรบั ฟังความ ยอมรบั ฟังความ ยอมรับฟังความ ยอมรบั ฟังความ ไม่ยอมรบั ฟงั
คดิ เห็นผู้อืน่ คดิ เห็นจากผ้อู ื่น คิดเหน็ จากผูอ้ ่นื คิดเหน็ จากผอู้ น่ื ความคิดเหน็ จาก
อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมเี หตผุ ล อยา่ งมเี หตุผลและ ผู้อื่นและไม่มี
และสร้างสรรค์ และสร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ เหตุผล
20
แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
รายการประเมนิ
มงุ่ มน่ั ในการ ผลการ
เลขท่ี ชือ่ -สกุล มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ทํางาน ประเมนิ
3 2 1 0 3 2 1 0 3 2 1 0 (ฐานนยิ ม)
หมายเหตุ ให้บันทกึ โดยใชเ้ ครือ่ งหมาย
= แสดงพฤตกิ รรมท่ีพงึ ประสงค์ตามคาดหวงั
= ไมแ่ สดงพฤติกรรมทพี่ ึงประสงค์ตามคาดหวัง
เกณฑป์ ระเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ประเดน็ การประเมนิ 3 (ดี) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง) ขาด 2 อยา่ ง
มคี วามรบั ผิดชอบ - ตรงต่อเวลา ขาด 1 อย่าง
- รับผดิ ชอบ ขาด 2 อย่าง
- ซอ่ื สตั ย์ ขาด 1 อยา่ ง
ขาด 2 อย่าง
ใฝเ่ รียนรู้ - ตํงั ใจเรียน ขาด 1 อยา่ ง
- กระตือรือร้น
- มีการจดบนั ทึก คือ ปรับปรุง
คอื ปานกลาง
ม่งุ มัน่ ในการทาํ งาน - ทําได้สาํ เรจ็ เรยี บร้อย คือ ดี
- ถูกตอ้ งครบถว้ น
- ขยนั ในการทาํ งาน
ระดับคณุ ภาพ
- คะแนนอยูร่ ะหวา่ งช่วง 0 - 3
- คะแนนอยรู่ ะหวา่ งชว่ ง 4 - 6
- คะแนนอยรู่ ะหวา่ งชว่ ง 7 - 9
เกณฑ์การตดั สนิ ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้
นกั เรยี นทไี่ ดค้ ะแนนอย่ชู ว่ ง 4-6 หรือ ระดบั ปานกลาง ขึนํ ไป ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้
21
บันทึกหลังสอน
ผลการจัดการเรยี นรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
ปญั หา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
แนวทางแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
การนิเทศ/ติดตามผล
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
ลงช่ือ…………….….………..…………..……………
(นางสาวขนิษฐา ศรีภมู ราช)
ผสู้ อน
22 ใบความรู้
เร่ือง สถานะของสสาร
ในชีวิตประจําวันเราพบเห็นส่ิงต่าง ๆ มากมายทํังมีชีวิต และไม่มีชีวิต ได้แก่ พืช มนุษย์ และสัตว์ต่าง
ๆ ส่วนสิ่งไมม่ ีชีวติ เชน่ รถยนต์ บ้านเรือน โต๊ะ เปน็ ตน้ ทกุ ๆ สิ่งรอบตวั เรา ประกอบไปด้วย สสาร
ภาพที่ 1 ทุก ๆ สง่ิ รอบตัวเรา ประกอบไปดว้ ยสสาร
ที่มา : http://nutsreeya.blogspot.com/2013/09/blog-post_13.html
สสาร
หมายถึง ส่ิงท่ีมีตัวตน มีมวล มีนําหนัก ต้องการท่ีอยู่ สัมผัสได้
ด้วยประสาทสัมผัสทัํงห้ามี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และ
แก๊ส มีสมบัติแตกต่างกัน วัสดุทุกชนิดเป็นสสาร คือ มีมวล ต้องการ
ท่ีอยู่ และสัมผสั ได้
สาร
หมายถึง ส่วนย่อย ๆ ที่เป็นองค์ประกอบในสสาร หรือเนํือ
ของสาร
ภาพที่ 2 สง่ิ (สสาร) ตา่ ง ๆ รอบตัวเรา
ทมี่ า : http://www.ph9wallpaper.com/article/214/beachviewwallpaper
แนวคิดสาํ คญั
วสั ดุเป็นสสารเพราะมมี วลและตอ้ งการทอี่ ยูส่ สารมีสถานะเปน็ ของแข็ง ของเหลว หรอื
แก๊ส ของแข็งมีปริมาตรและรปู รา่ งคงที่ ของเหลวมปี รมิ าตรคงที่ แต่มรี ูปรา่ งเปลยี่ นไปตาม
ภาชนะเฉพาะ สว่ นท่บี รรจุของเหลว ส่วนแก๊สมีปรมิ าตรและรูปรา่ งเปลย่ี นไป ตามภาชนะท่ีบรรจุ
23 ใบความรู้
เรอื่ ง สถานะของสสาร
สถานะของสสารท่ีส่วนใหญ่รจู้ กั สามารถแบ่งได้ 3 สถานะดงั นีํ
1. ของแข็ง (solid) จะมีอนุภาคอยู่กันอย่างหนาแน่นมาก แรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคมาก
ปรมิ าตรและรปู ร่างคงท่ี เช่น ก้อนหนิ สมุด ทราย พลาสตกิ ไม้ หิน เหล็ก ทอง เปน็ ต้น
ภาพท่ี 3 อนภุ าคของของแขง็
ท่ีมา : http://sciencenuan.blogspot.com/2015_12_01_archive.html.jpg
2. ของเหลว (liquid) จะมีมีอนุภาคอยู่ชิดติดกันน้อยกว่าของแข็ง แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อย
กว่าของแข็ง ปริมาตรคงที่แต่มีรูปร่างเปล่ียนไปตามภาชนะท่ีบรรจุ เช่น นํา นํามันพืช นม นําผํึง นํามันเบนซิน
แอลกอฮอล์ เป็นตน้
ภาพท่ี 4 อนุภาคของของเหลว
ท่มี า : http://sciencenuan.blogspot.com/2015_12_01.jpg
3. แก๊ส (gas) จะมีอนุภาคอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อยมาก
ปรมิ าตรและรูปร่างไม่คงท่ี เปลี่ยนไปตามภาชนะท่ีบรรจุ เชน่ อากาศ แกส๊ ฮีเลียม แก๊สหุงตม้
ภาพที่ 5 อนุภาคของของแกส๊
ทมี่ า : http://sciencenuan.blogspot.com/2017_12_01.jpg
24 ใบกิจกรรม 1
จดุ ประสงค์ : 1. เพ่อื วิเคราะหแ์ ละจําแนกสถานะของสสารทงํั 3 สถานะ เร่อื ง สถานะของสสาร
2. เพือ่ สรุปความเข้าใจสถานะและสมบตั ิของสสาร
คาํ ช้ีแจง : 1. ใหน้ ักเรยี นศึกษาภาพต่อไปนแํี ลว้ อธบิ ายเกย่ี วกับคุณสมบัตขิ องของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
(15 คะแนน)
แบบจาํ ลองของอนภุ าคของสํารในสถานะตา่ ง ๆ
ลักษณะการจัดเรยี งอนุภาค
ของแข็ง (Solid) ของเหลว (Liquid) แกส๊ (Gas)
สมาชกิ ในกลุม่ ท.่ี ............... ชัน้ ป.4/.............
1. ช่ือ-นามสกุล........................................................................ เลขท่ี.................
2. ช่อื -นามสกลุ ........................................................................ เลขท่ี.................
3. ชื่อ-นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
4. ชื่อ-นามสกุล........................................................................ เลขท่ี.................
5. ชื่อ-นามสกลุ ........................................................................ เลขท่ี.................
25 ใบกิจกรรม 2
เรือ่ ง สถานะของสสาร
คาํ ชีแ้ จง : 1. ใหน้ ักเรยี นจาํ แนกสถานะของสสารในชดุ กิจกรรมให้ถูกตอ้ ง
2. ใหน้ ักเรยี นทําเครือ่ งหมาย / ในตารางใหต้ รงกับสถานะของสสารที่กาํ หนดให้ ให้ถกู ตอ้ ง
(10 คะแนน)
สาร สถานะของสสาร แก๊ส (Gas)
ของแข็ง (Solid) ของเหลว (Liquid)
1. ดินนํามนั
2. นาํ ตก
3. นํามนั
4. แก๊สออกซเิ จน
5. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์
6. นําตาลทราย
7. นําส้ม
8. อากาศ
9. ปากกา
10. นําเกลอื
สมาชิกในกลุม่ ท.ี่ ............... ชัน้ ป.4/.............
1. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
2. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขท่ี.................
3. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
4. ชือ่ -นามสกุล........................................................................ เลขท่ี.................
5. ชื่อ-นามสกุล........................................................................ เลขที่.................
26 แบบทดสอบหลงั เรยี น
เร่ือง สถานะของสสาร
คําชแ้ี จง : 1. แบบทดสอบฉบบั นีํเปน็ แบบทดสอบปรนยั 4 ตัวเลอื ก จํานวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน
2. จงเลอื กคาํ ตอบทถ่ี กู ที่สดุ เพยี งขอ้ เดียว แล้วทาํ เครื่องหมาย (X) ลงในกระดาษคาํ ตอบ
1. สารใดตอ่ ไปนํเี ปน็ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส 6. สารในขอ้ ใดมีสถานะต่างกัน
ตามลาํ ดบั ก. นําเชอ่ื ม นํามะนาว
ก. นาํ แขง็ นําปลา ออกซเิ จน ข. นาํ เกลอื นาํ เช่ือม
ข. นําปลา นําตาล ออกซิเจน ค. นําแขง็ ก้อนหิน
ค. นําแข็งแห้ง นําปลา ออกซิเจน ง. พมิ เสน ยาธาตุ
ง. นําปลา ออกซิเจน นาํ แขง็ แหง้
2. ข้อใดคอื สมบัติท่เี หมือนกันของของแข็งและ 7. ข้อใดคือสมบตั ขิ องของแขง็
ของเหลว ก. รปู รา่ งคงที่ ปรมิ าตรคงท่ี
ก. รูปรา่ ง ข. รูปรา่ งคงที่ ปรมิ าตรไม่คงท่ี
ข. ปริมาตร ค. รูปร่างไม่คงท่ี ปรมิ าตรคงท่ี
ค. เปน็ ของไหล ง. รูปรา่ งไมค่ งท่ี ปรมิ าตรไม่คงท่ี
ง. การจดั เรียงของอนุภาค
3. จากตารางใหน้ กั เรียนตอบคําถามต่อไปนีํ 8. ข้อใดคอื สมบตั ขิ องของเหลว
สาร A B C ก. รปู ร่างคงที่ ปริมาตรคงท่ี
รปู ร่าง คงที่ ไมค่ งท่ี ไม่คงท่ี ข. รูปร่างคงท่ี ปริมาตรไม่คงท่ี
ปริมาตร คงท่ี คงท่ี ไมค่ งที่ ค. รปู รา่ งไม่คงที่ ปรมิ าตรคงที่
อนุภาค เรยี งชิด อยู่ห่างกนั ฟุ้งกระจาย ง. รูปร่างไม่คงท่ี ปรมิ าตรไมค่ งที่
ตดิ กนั
ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง 9. ข้อใดคอื สมบัติของของแกส๊
ก. A คือ ของเหลว B คือ ของแข็ง C คอื แกส๊ ก. รปู ร่างคงที่ ปริมาตรคงที่
ข. A คอื ของเหลว B คือ แกส๊ C คือ ของแข็ง ข. รูปรา่ งคงท่ี ปรมิ าตรไม่คงท่ี
ค. A คอื ของแขง็ B คือ ของเหลว C คอื แกส๊ ค. รปู รา่ งไมค่ งท่ี ปริมาตรคงที่
ง. A คอื ของแขง็ B คอื แกส๊ C คือ ของเหลว ง. รูปร่างไมค่ งที่ ปริมาตรไม่คงที่
4. ข้อใดตอ่ ไปนีํกลา่ วถกู ต้อง
ก. ของเหลว และแกส๊ เปน็ ของไหล 10. ขอ้ ใดจัดเรยี งแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนภุ าคของ
ข. ของแข็ง ของเหลวมีรูปร่างคงที่ สารจากมากไปหานอ้ ย ได้ถูกต้อง
ค. ของแขง็ ของเหลวมีปริมาตรไมค่ งที่
ง. ของแข็ง ของเหลว มีมวล แก๊สไมม่ มี วล ก. นาํ นม หิน แกว้ นํา
5. สารใดสามารถเปลี่ยนรปู รา่ งไปตามภาชนะทบ่ี รรจุ ข. ลม ปากกา นําหวาน
ก. นําแขง็ ค. เหล็ก อากาศ นําเปล่า
ข. นําผลไม้ ง. กระดาษ นําปูนใส แก๊สออกซเิ จน
ค. ดนิ นํามนั
ง. นําตาลทราย ขอให้ทุกคนโชคดนี ะคะ
27 ใบงาน
เรือ่ ง สถานะของสสาร
คาํ ช้ีแจง : 1. ให้นกั เรียนออกแบบ Mind mapping จากการศึกษาเนํอื หาเรื่อง “สถานะของสสาร”
พรอ้ มระบายสสี วยงาม (10 คะแนน)
ชือ่ -นามสกุล........................................................................ เลขที่................. ชน้ั ป.4/.............
28 เฉลยใบกิจกรรม 1
จดุ ประสงค์ : 1. เพอื่ วเิ คราะห์และจําแนกสถานะของสสารทงํั 3 สถานะ เรื่อง สถานะของสสาร
2. เพ่ือสรปุ ความเข้าใจสถานะและสมบตั ิของสสาร
คาํ ช้ีแจง : 1. ให้นักเรียนศึกษาภาพต่อไปนแํี ลว้ อธบิ ายเก่ยี วกบั คณุ สมบัติของของแขง็ ของเหลว และแกส๊
(15 คะแนน)
แบบจําลองของอนภุ าคของสํารในสถานะต่าง ๆ
ลักษณะการจัดเรียงอนุภาค
ของแขง็ (Solid) ของเหลว (Liquid) แกส๊ (Gas)
สถานะของสสารทม่ี ีอนภุ าคอยู่ สถานะของสสารที่มีอนภุ าคอยู่ สถานะของสสารที่มอี นภุ าคอยู่
ชิดกนั มชี ่องวา่ งระหวา่ งอนภุ าค หา่ งกนั มากกว่าของแข็ง จงึ อย่กู ัน หา่ งกนั มาก จงึ มีแรงยึดเหน่ียว
น้อย อนภุ าคของสสารจงึ อยา่ งหลวม ๆ อนุภาคของสสาร ระหว่างกันนอ้ ยมากทาํ ใหอ้ นภุ าค
เคลือ่ นไหวไดย้ าก ดงั นํันสสารจงึ มี จงึ เคลอื่ นไหวไดง้ า่ ยขึนํ ดังนํัน เคลอ่ื นทไ่ี ดอ้ ยา่ งอิสระ ดังนํนั
รปู รา่ งและปรมิ าตรคงไม่ สสารจึงมีรูปร่างไม่แนน่ อน สสารจึงมรี ูปร่างและปรมิ าตร ไม่
เปลีย่ นแปลง สสารที่มสี ถานะเปน็ เปลย่ี นแปลงไปตามภาชนะที่ แน่นอน เมือ่ สสารอยู่ในภาชนะใด
ของแข็ง เช่น ก้อนหิน สมุด ดนิ สอ บรรจุ แต่มีปริมาตรไม่ อนภุ าคของสสารจะฟ้งุ กระจาย
กลอ้ ง รม่ โต๊ะ เป็นตน้ เปล่ียนแปลง สสารมีสถานะเป็น เต็มภาชนะ สสารทม่ี สี ถานะแก๊ส
ของเหลว เช่น นํานม นําอดั ลม เชน่ กา๊ ซหุงตม้ ก๊าซออกซเิ จน
นาํ ฝน เปน็ ต้น เป็นตน้
สมาชิกในกลุ่มท.่ี ............... ชนั้ ป.4/.............
1. ชื่อ-นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
2. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
3. ช่ือ-นามสกุล........................................................................ เลขที่.................
4. ช่ือ-นามสกลุ ........................................................................ เลขท่ี.................
5. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
29 เฉลยใบกจิ กรรม 2
เรื่อง สถานะของสสาร
คาํ ชี้แจง : 1. ให้นักเรยี นจําแนกสถานะของสสารในชุดกจิ กรรมใหถ้ ูกต้อง
2. ให้นักเรียนทําเคร่ืองหมาย / ในตารางให้ตรงกบั สถานะของสสารทก่ี าํ หนดให้ ใหถ้ กู ต้อง
(10 คะแนน)
สาร ของแขง็ (Solid) สถานะของสสาร แก๊ส (Gas)
ของเหลว (Liquid)
1. ดินนํามนั / -
2. นาํ ตก - - -
3. นาํ มัน - / -
4. แกส๊ ออกซิเจน - / /
5. แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ - - /
6. นาํ ตาลทราย / - -
7. นาํ ส้ม - - -
8. อากาศ - / /
9. ปากกา / - -
10. นําเกลือ - - -
/
สมาชิกในกลุม่ ท.่ี ............... ชน้ั ป.4/.............
1. ชื่อ-นามสกุล........................................................................ เลขท่ี.................
2. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขที่.................
3. ชือ่ -นามสกุล........................................................................ เลขที่.................
4. ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................ เลขท่ี.................
5. ช่อื -นามสกุล........................................................................ เลขท่ี.................
30 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
เรอ่ื ง สถานะของสสาร
คาํ ชแี้ จง : จงเลอื กคาํ ตอบทถี่ ูกท่ีสุดเพยี งข้อเดยี ว แลว้ ทําเครือ่ งหมาย (X) ลงในกระดาษคาํ ตอบ
ข้อ ก ข ค ง
1X
2X
3X
4X
5X
6X
7X
8X
9X
10 X
ช่อื -นามสกุล........................................................................ เลขท่ี................. ชั้น ป.4/.............
31 เฉลยใบงาน
เร่อื ง สถานะของสสาร
คาํ ช้แี จง : 1. ใหน้ กั เรียนออกแบบ Mind mapping จากการศึกษาเนํือหาเรือ่ ง “สถานะของสสาร”
พรอ้ มระบายสีสวยงาม (10 คะแนน)
ชื่อ-นามสกุล........................................................................ เลขท่ี................. ชนั้ ป.4/.............