เร่ือง องค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
จดั ทาโดย
นายฎเี ทพูมิ โพนคาหล
องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ระบบสารสนเทศมีการนาเทคโนโลยีหลายด้านมาใช้ประโยชน์ในการนาข้อมูลมาประมวลผลและสื่อสารสารสนเทศ
ไปยงั ผู้ท่ีเกยี่ วขอ้ งไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ องค์ประกอบที่สาคัญคอื ฮารด์ แวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) บุคลากรทาง
คอมพิวเตอร์ (Peopleware) ข้อมลู (Data) ขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน (Procedure) และระบบการสื่อสารขอ้ มูล (Data
Communication System)
ฮาร์ดแวร์ Hardware
ฮารด์ แวรเ์ ป็นองคป์ ระกอบสาคัญของระบบสารสนเทศ หมายถึง เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ อปุ กรณ์รอบขา้ ง รวมทงั้
อปุ กรณ์สื่อสารสาหรับเช่ือมโยงคอมพวิ เตอร์เขา้ เป็นเครือขา่ ย ซง่ึ ถือวา่ เป็นองค์ประกอบท่ีสาคัญของระบบสารสนเทศ
Microcomputer หรือ Personal Computer (PC) คอมพวิ เตอร์ขนาดเล็กแบบตัง้ โตะ๊ (Desktop
computer) ใช้กนั แพร่หลายทงั้ ในบา้ น โรงเรียนและสานกั งาน
Macintosh (Macintosh) หรอื ท่ีรู้จกั ในชื่อย่อว่า แมค (Mac) เป็นชอ่ื ของผลติ ภัณฑ์เครื่องคอมพวิ เตอร์ทพี่ ัฒนา
ออกแบบและจาหน่ายโดยบรษิ ัทแอปเปิล แมคอนิ ทอชเป็นระบบคอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คลทส่ี ว่ นใหญ่ใชใ้ นสานกั พิมพ์
นิตยสาร เป็นตน้
Laptop หรือ Notebook โน้ตบุ๊ค คือ คอมพวิ เตอร์ทีม่ ขี นาดเลก็ กว่าไมโครคอมพวิ เตอร์ ถูกออกแบบไวเ้ พ่ือ
การพกพาไปใชต้ ามทต่ี า่ งๆ มีขนาดเลก็ และน้าหนกั เบา ความสามารถในการทางานเทยี บเท่ากบั พซี ที วั่ ไป
Ultrabook เป็นการนาแ Notebook และ Tablet ผนวกรวมเขา้ ดว้ ยกัน มีความบางและนา้ หนักเบาใกล้เคยี ง
กับ Tablet ทางานได้ใกลเ้ คียง Notebook มคี ยี ์บอร์ด Hard disk จะใช้เป็น SSD (Solid-State Drive) หนา้ จอสัมผัส
แบบ Multi Touch ไดเ้ หมือน Tablet
Tablet PC คือ เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ทีใ่ ช้งานโดยใชน้ ้ิวสมั ผัสหรือปากกาเขียนลงบนจอภาพได้โดยตรงแทนการ
ใชเ้ มาสแ์ ละคยี บ์ อร์ด ซ่งึ มีซอฟต์แวรท์ ี่พฒั นาข้ึนมาเป็นพเิ ศษเพื่อใช้กับเครื่อง ในปจั จบุ นั มกี ารใชง้ านกนั อยา่ งแพร่หลา
สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์
1. หน่วยรับขอ้ มูล (Input Unit)
2. หน่วยประมวลผลขอ้ มลู (Central Processing Unit : CPU)
3. หน่วยเกบ็ ข้อมูล (Memory Unit)
4. หน่วยตดิ ต่อสื่อสาร (Communication Unit)
5. หนว่ ยแสดงผล (Output Unit)
สว่ นประกอบภายนอกท่ีสาคญั ของคอมพวิ เตอร์ คือ อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ทีน่ ามาประกอบกันแล้ว
จะได้ คอมพวิ เตอร์ชนดิ ตัง้ โตะ๊ ทสี่ มบรู ณ์ 1 เครอ่ื ง ควรประกอบด้วยองคป์ ระกอบทีส่ าคัญหลายอยา่ ง เช่น
กล่องซพี ียู แป้นพิมพ์ จอภาพ เป็นตน้
1. กล่องซีพยี ู (Case) เป็นองคป์ ระกอบคอมพิวเตอร์ทภี่ ายในบรรจแุ ผงเมนบอรด์ แหล่งจ่ายไฟ
และหน่วยความจาต่างๆ เช่น รอม(ROM) แรม(RAM) ฮาร์ดดสิ ก์ เป็นต้น ท่เี รยี กวา่ กล่องซพี ยี เู พราะภายใน
เครื่องบรเิ วณแผงวงจรหลัก เป็นท่ตี ิดตัง้ ซพี ยี ู ซ่งึ ถอื เป็นสมองของเครือ่ งคอมพิวเตอร์
2. แป้นพมิ พ์ (Keyboard) คือ อุปกรณท์ ่ใี ช้ในการพมิ พข์ ้อมลู เขา้ สู่เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เพ่อื ให้หนว่ ย
ประมวลผลขอ้ มูลกลาง ทาการประมวลผล แป้นพิมพจ์ ัดเป็นอุปกรณด์ า้ นหน่วยป้อนข้อมลู ทท่ี าหนา้ ทใ่ี นการ
ป้อนขอ้ มูลเขา้ สเู่ ครื่องคอมพิวเตอร์
3. เมาส์ (Mouse) คือ อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการเลอื กและเลอ่ื นตาแหน่งลูกสรเพื่อสงั่ งาน ใหค้ อมพิวเตอร์
ทางาน เมาส์จดั เป็นอุปกรณ์ดา้ นหนว่ ยป้อนข้อมูลเชน่ เดียวกบั แป้นพมิ พ์ เมาส์ในปจั จบุ นั มที งั้ แบบมีสาย
และแบบไร้สาย
4. จอภาพ (Monitor) คอื อุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นการแสดงผลข้อมลู ท่ีผา่ นการประมวลผลจากซพี ยี ูมาแลว้
เพอ่ื ทาใหผ้ ใู้ ชม้ องเห็นผลลัพธข์ องข้อมูลและสามารถติดตอ่ กับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ จอภาพจดั เป็นอปุ กรณ์
ด้านหน่วยแสดงผล
5. ลาโพง (Speaker) คือ อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการแปลงสญั ญาณไฟฟ้าเป็นสะญญาณเสยี งและแสดง
เสยี งออกทางลาโพงทาให้ผู้ใชไ้ ดย้ นิ เสียงในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ เสียงเพลง ลาโพลงจัดเป็นอปุ กรณ์ ด้าน
หน่วยแสดงผล
6. หน่วยความจาสารอง (Secondary memory unit) หน่วยความจาสารองเป็นสว่ นเพม่ิ
หน่วยความจาให้มขี นาดใหญ่ มีความจมุ าก มีราคาถกู ในระบบคอมพิวเตอรจ์ งึ มักคดิ ตัง้ หน่วยความจา
สารองเพ่อื นามาใชเ้ ก็บข้อมลู จานวนมาก หนว่ ยความจาสารองมหี ลายชนดิ ดังตอ่ ไปนี้
ฮาร์ดดสิ ก์ (Hard disk)
เป็นทีส่ าหรับเก็บข้อมลู ขนาดใหญ่ Hard disk จะประกอบดว้ ยจาน Disk หรอื ท่ี
เรียกวา่ Platters หลายๆ แผ่นมารวมกัน Hard Disk ส่วนมากจะอยาภายในเครื่องคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงไม่
สะดวกในการเคลื่อนยา้ ย บางทีถกู เรียกว่า Fixed Disk
ในปจั จุบันไดม้ กี ารนาฮาร์ดดิสกข์ องคอมพิวเตอร์ใส่ในเคสเลก็ ๆ ใช้สาย USB ในการเชื่อมตอ่ เขา้ กบั
คอมพวิ เตอร์ ซ่ึงทาใหส้ ามารถจัดเก็บขอ้ มลู ได้มากและพกพาสะดวกเป็นท่ีนิยมกนั มากในปัจจุบัน
เรียกวา่ External Hard Disk
แผ่นขอ้ มลู แบบบนั ทึกดว้ ยแสง (Optical disk) แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทด้วยกนั คือ
1. CD ROM ซีดี (Computer Disk) เป็นส่ือบนั ทกึ ข้อมูลทีม่ ีความจุสงู โครงสร้างเป็นแผน่ พลาสตกิ
ทรงกลมบาง ทีฉ่ าบด้วยโลหะ metallic หลกั การทางานจะใชแ้ สงเลเซอร์ ฉายลงบนพืน้ ผิวของแผ่น ทาให้
เกิดกลุมรหสั เป็น 0 และ 1 การอา่ นขอ้ มลู ก็จะใชแ้ สงเลเซอร์กวาดไปพ้ืนผวิ ของแผ่นแลว้ ใช้แสงสะท้อนกลับ
2. DVD (Digital Versatile Disk) เป็นสื่อบันทกึ ข้อมูลทีม่ ีความจุสงู มากกว่าซีดี โครงสรา้ งของแผ่น
พลาสตกิ ทรงกลมบางทีฉ่ าบด้วยโลหะ metallic สามารถเกบ็ ข้อมลู ได้มากสุดถึง 8.5 GB ซ่ึงเหมาะสาหรับ
การเก็บขอ้ มลู แตแ่ ผ่นดวี ีดีจะตอ้ งใช้งานรว่ มกบั อปุ กรณ์ ดวี ีดีรอมไดรฟ์ ซ่งึ อปุ กรณด์ วี ีดรี อมไดร์ฟสามารถ
อ่านแผน่ ไดท้ ุกประเภท
หน่วยความจาแฟลช (Flash Memory) ยเู อสบีไดรฟ์ (USB drive) แฮนด้ีไดร์ฟ (Handy Drive)
หรอื ทมั พไ์ ดร์ฟ (Thumb Drive) คือ สอื่ ทีใ่ ชบ้ ันทกึ ขอ้ มูลอกี ชนดิ หนง่ึ ท่ีปัจจบุ นั ดีรบั ความนิยมใช้กนั มาก สอ่ื
บันทกึ ข้อมูลชนิดนี้สามารถอ่านและเขยี นขอ้ มลู ไดเ้ หมือนกับแผ่น CD, DVD และฮาร์ดดิสก์แต่มขี อ้ ดีตรงที่ว่า
พกพาได้สะดวก เพราะมีขนาดเลก็ มีความจุหลายขนาด สามารถทางานได้ในหลายระบบปฏบิ ัติการ
เช่น Windows,Linux
หน่วยความจาแฟลชประเภทการด์ (Memory Card) หน่วยความจาชนดิ นนี้ ิยมใชใ้ นปจั จบุ นั อย่าง
แพร่หลายเพราะสามารถนาไปใช้กบั อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์อืน่ ๆ เพื่อเก็บสารองข้อมูลตา่ งๆ เชน่
โทรศัพท์, เคร่อื งเล่น MP3 แบบพกพา หรือกล้องวดิ โี อรุน่ ใหม่ๆ ชนิดหน่วยความจาประเภทนี้ เชน่
* PC Card
* Compact flash
* Smart Media
* Multimedia memory card (MMC)
* Secure Digital (SD)
* Memory stick
7. อปุ กรณต์ ่อพ่วง คอื อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่นามาต่อพ่วงกบั คอมพวิ เตอรเ์ พื่อทาใหเ้ กดิ ประโยชน์
อย่างใดอย่างหนง่ึ เชน่ นาอปุ กรณม์ าตอ่ พว่ งกบั คอมพิวเตอรเ์ พื่อพมิ พ์ข้อมูล เพอ่ื สแกนรูปภาพ เป็นต้น
หลักการทางานของอปุ กรณต์ อ่ พว่ งแตล่ ะชนิด จะตา่ งกนั ขนึ้ อยูก่ ับว่าจะใหอ้ ปุ กรณ์ต่อพว่ งชนดิ นนั้ ทางาน
แบบใด แตอ่ ุปกรณ์ทนี่ ามาตอ่ พ่วงกับคอมพวิ เตอร์จะต้องต่อสายเคเบิล หรอื สายนาสัญญาณเขา้ กบั พอรต์
ของเครอื่ งคอมพิวเตอร์ ซ่งึ อาจจะเป็นพอรต์ ขนาน พอร์ตอนุกรรม หรอื พอร์ต USB ก็แล้วแต่ท่จี ะกาหนด
หรอื อาจใช้วธิ กี ารเชอื่ มตอ่ แบบไร้สายเชน่ Wireless LAN หรอื บลูทธู เป็นตน้ และโดยทวั่ ไปจะต้องมี
โปรแกรมหรอื ซอฟต์แวรใ์ ชค้ วบคุมการทางานของอปุ กรณ์ต่อพว่ ง เชน่ ตอ่ พว่ งเครอื่ งพิมพเ์ ขา้ กบั
คอมพิวเตอร์ จะต้องติดตัง้ ไดรเวอร์เพื่อใหค้ อมพิวเตอรร์ ้จู ักกบั เครอื่ งพมิ พน์ ัน้ ในทีน่ จี้ ะกล่าวถึงอปุ กรณต์ ่อ
พว่ งประเภทเคร่อื งพิมพ์
อุปกรณต์ อ่ พ่วงประเภทเครอื่ งพมิ พ์ เครือ่ งพมิ พ์ (Printer) เป็นอปุ กรณ์ตอ่ พว่ งกับคอมพิวเตอร์เพอ่ื
พิมพข์ ้อมลู ออกทางกระดาษพิมพ์ โดยรับขอ้ มูลจากคอมพวิ เตอร์ ผ่านสายเคเบิลหรือระบบเครอื ขา่ ย
เช่น LAN หรอื Wireless LAN ไปยงั เคร่ืองพมิ พ์
ประเภทของเครื่องพิมพ์
1. เคร่ืองพมิ พด์ อทเมตริก (Dot Matrix) เป็นเคร่อื งพมิ พท์ ่ีใชห้ ัวเขม็ กระแทกลงไปบนผา้ หมกึ
เพอ่ื ใหห้ มึกท่ีจะพมิ พต์ ัวอกั ษรไปปรากฏบนกระดาษพิมพ์ ตัวเครอ่ื งพิมพจ์ ะมรี าคาแพงส่วนผา้ หมกึ จะมีราคา
ถูก ปัจจุบันใช้ในงานพมิ พ์เอกสารทีต่ ้องการสาเนาหลายชดุ เช่น ใบสงั่ ซือ้ บิลเงินสด เป็นหลัก
หวั พมิ พ์จะประกอบดว้ ยเขม็ โลหะเลม่ เล็กๆ วางเรียงกันเป็นแถวจานวน 9 เขม็ หรอื 24 เขม็ เข็ม
แต่ละเลม่ จะรับสัญญาณควบคุมใหพ้ ุ่งผ่านผ้าหมกึ ไปตกกระทบบนกระดาษซงึ่ มลี ้อยางรองรับอยดู่ า้ นหลังให้
เรยี งเป็นจุดตวั อักษรหรือภาพ
2. เคร่ืองพมิ พ์แบบพน่ หมึก (Ink Jet Printer) เป็นเครอ่ื งพิมพท์ ีอ่ าศยั หลกั การพน่ หมกึ ออกมาบน
กระดาษพิมพโ์ ดยมหี ัวพมิ พ์เคลื่อนท่ีบนแกนโลหะ การทางานของหัวพมิ พใ์ ชว้ ธิ กี ารฉีดพ่นนา้ หมึกเป็นจดุ
ขนาดเลก็ ๆ จากกลักน้าหมึกใหเ้ ป็นตัวอกั ษรหรือรปู ภาพ แทนลงบนกระดาษความละเอยี ดของการพมิ พว์ ดั
เป็นจานวนจดุ ตอ่ ตารางนิว้ ขนาดการดาษทีใ่ ช้มกั เป็นขนาด A4 หรอื ขนาดทีเ่ ลก็ กว่า ความเร็วในการพิมพ์
นับเป็นจานวนหนา้ ต่อนาที การพมิ พ์สจี ะใชห้ ลกั การพน่ หมึก 3 สีคอื น้าเงิน แดง และเหลอื ง ผสมกัน
3. เคร่อื งพมิ พ์เลเซอร์ (Laser Printer) มีหลักการทางานคลา้ ยกบั เครื่องถ่ายเอกสาร โดยจะทาการ
แปลงข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ใหเ้ ป็นรหสั แล้วใชล้ าแสงเลเซอร์ยิงเป็นรูปภาพต้นแบบลงบนแท่นพิมพ์ที่เป็น
ล้อยาง แล้วทาหารใช้ความรอ้ นดูดผงหมึกจากกลัก เข้ามาตดิ กับลอ้ ยางตามแบบพิมพ์ จากนนั้ กระดาษจะ
ถูกรดี ด้วยล้อยาง ผ่านแม่พมิ พ์ที่มผี งหมึกตดิ อยทู่ าให้เกิดเป็นตวั อกั ษรหอื รูปภาพบนกระดาษความละเอียด
ของการพมิ พว์ ัดเป็นจานวนจุดตอ่ ตารางน้วิ (Dot Per Inch : DPI ) ขนาดกระดาษท่ใี ชม้ ักเป็นกระดาษ
ขนาด A4 หรอื ขนาดอ่ืนก็ได้ ข้ึนอยกู่ บั คุณสมบตั ิของเครอ่ื งพมิ พ์ คุณภาพในการพมิ พ์มีความคมชดั สูงกวา่
เครื่องพิมพ์ Inkjet
ซอฟต์แวร์ (Software)
ซอฟตแ์ วร์ หมายถงึ โปรแกรมหรอื ชดุ คาสงั่ ทใี่ ห้คอมพวิ เตอร์ทางาน เป็นตัวสงั่ การให้อุปกรณ์
เช่อื มตอ่ ทางานได้ โดยโปรแกรมจะเขียนให้ทางานเป็นขนั้ ตอนโดยจะครอบคลมุ การดาเนนิ การทงั้ หมดวา่ จะ
ใหผ้ ลลัพธอ์ อกมาในลกั ษณะไหน โดยผู้เขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอรจ์ ะเป็นผู้เขยี นโปรแกรมกาหนดให้
โปรแกรมรับอะไรมาประมวลผล แลว้ ให้ผลลพั ธ์แสดงออกมาในรปู แบบใดแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ซอฟตแ์ วร์
ระบบกับซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์
ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) คือ ชุดคาสงั่ หรอื โปรแกรมท่ีถูกเขยี นข้นึ ทางานกับฮาร์ดแวร์
เพอื่ สงั่ การควบคมุ การทางาน อานวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถตดิ ต่อกบั เคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ละ
คอมพิวเตอรท์ กุ เครอื่ งจะต้องมรี ะบบปฏิบัตกิ าร (Operating System : OS) ระบบปฏบิ ัตกิ ารท่ีใชก้ นั ทวั่ ไป
เช่น Windows XP, Windows 7, Windows 8 สาหรบั เครือ่ ง Macintosh เช่น ระบบปฏิบตั กิ าร Snow
Leopard, Lion Mountain และยงั มีระบบปฏบิ ัตกิ ารเปิด เชน่ Linux Ubuntu เป็นต้น
ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ (Application Software) คอื ชุดคาสงั่ หรือโปรแกรมทถี่ ูกสร้างขึ้นใหใ้ ชง้ าน
ดา้ นต่างๆ ใหไ้ ด้ประโยชนส์ ูงสุดตามความตอ้ งการของผใู้ ช้งานโดยแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. ซอฟตแ์ วร์สาเรจ็ รปู (Package Program) หรอื ซอฟตแ์ วรใ์ ช้งานทวั่ ไป (General Purpose
Software)
เป็นโปรแกรมทสี่ ามารถนามาประยุกตใ์ ชง้ านไดห้ ลายๆ แบบ ทงั้ งานส่วนตัวและงานแบบองค์กร
ในปัจจุบันมีผทู้ ีจ่ ดั ทาซอฟตแ์ วร์สาเรจ็ รูปขนึ้ มามากมายทงั้ โปรแกรมทส่ี ร้างโดยบรษิ ทั ใหญ่ๆ ที่สรา้ งขนึ้
สาหรับจาหนา่ ย ไปจนถึงผ้ทู ่ีหดั สรา้ งโปรแกรมสาเร็จรปู ขน้ึ ใชง้ านแลว้ เปิดให้ใช้งานไดฟ้ รี ทงั้ หมดนถ้ี อื เป็น
ซอฟต์แวร์สาเร็จรูปได้ ซงึ่ สามารถจาแนกออกเป็นกลมุ่ ตา่ งๆ ได้ 10 ประเภท ดังน้ี
1. ซอฟต์แวร์ประมวลผลคา (Word Processing Software) ใช้สาหรบั สรา้ งเอกสารข้อความ
ตวั อักษร ภาพ จดั การรปู แบบได้งา่ ยและสะดวกตอ่ การทางาน เช่น Microsoft Word, OpenOffice เป็นต้น
2. ซอฟตแ์ วร์ดา้ นการคานวณ วิเคราะห์แบบตารางการทางาน (Spreadsheet Software) ใช้
สาหรับงานด้านการคานวณ วเิ คราะหห์ าผลลพั ธ์ งานลักษณะทตี่ ้องสร้างตาราง เช่น Microsoft Excel เป็น
ตน้
3. ซอฟต์แวรด์ ้านการนาเสนอขอ้ มลู (Presentation Software) ใชส้ าหรบั การนาเสนอข้อมลู ใน
รปู แบบต่างๆ ในการประชุม สัมมนา เช่น Microsoft PowerPoint เป็นตน้
4. ซอฟตแ์ วร์ดา้ นการจัดการฐานขอ้ มลู (Database Management Software) ใช้สาหรบั จดั เกบ็
ข้อมูลจานวนมาก สามารถเรียกใช้งานได้ สร้างตัวติดตอ่ กับฐานขอ้ มลู เพือ่ เรยี กใชท้ างานได้ เชน่ Microsoft
Access เป็นต้น
5. ซอฟต์แวร์ดา้ นงานพมิ พ์ (Publishing Software) ใช้สาหรบั สรา้ งเอกสารสาหรับงานพิมพ์แผ่น
ผับ หนังสือ เชน่ Microsoft Publisher เป็นตน้
6. ซอฟต์แวรด์ า้ นสอื่ รูปภาพ (Graphic Software) ใชส้ าหรบั ออกแบบตกแต่งภาพ สามารถแบ่ง
ออกเป็นประเภทต่างๆ เชน่ Adobe Photoshop, Paint เป็นตน้
7. ซอฟต์แวรด์ า้ นสอ่ื ผสม (Multimedia Software) เป็นโปรแกรมที่รวบรวมทงั้ ขอ้ ความ รูปภาพ
เสยี ง วดี โี อ ภาพเคลอื่ นไหว ใหส้ ามารถทางานรว่ มกันได้แสดงออก เพม่ิ ความน่าสนใจของผลงาน
เชน่ Windows Movie Maker, Proshow เป็นต้น
8. ซอฟต์แวร์ด้านการติดต่อส่อื สาร (Telecommunication Software) เป็นโปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการ
ตดิ ต่อ พดู คยุ ผ่านสงั คมออนไลน์ เชน่ Facebook, Line เป็นตน้
9. ซอฟต์แวรเ์ กี่ยวกบั เบราวเ์ ซอร์ (Web Browser Software) ใช้แสดงขอ้ มูลท่แี สดงผ่านเครอื ข่าย
ตา่ งๆ ทวั่ โลก เชน่ Google Chrome, Safari เป็นต้น
10. ซอฟตแ์ วร์อรรถประโยชนใ์ นการใช้งาน (Utility Software) เป็นโปรแกรมที่สร้างข้ึนเพ่อื เพิ่ม
ความสะดวก รวมไปถึงความบันเทงิ ให้กับผูใ้ ช้งาน เชน่ WinRAR, Nero เป็นต้น
2. ซอฟตแ์ วร์เฉพาะดา้ น (Special Purpose Software)
ถึงแมว้ า่ ซอฟตแ์ วร์ทวั่ ไปนนั้ จะสามารถใช้งานได้หลากหลายรปู แบบ แตล่ ะหนว่ ยงานธุรกิจหลายๆ
ประเภทนนั้ มขี ้อมูลรับเขา้ นาออกมากเกนิ กวา่ ทีจ่ ะใชง้ านซอฟตแ์ วรท์ วั่ ไปในการจัดการบริหารงาน และ
เพอื่ ให้งานออกมาเป็นระบบมแี บบแผนมากย่งิ ข้นึ หน่วยงานกจ็ าเป็นต้องสรา้ งงานซอฟต์แวร์เฉพาะธรุ กิจ
หรอื หนว่ ยงานข้นึ เพอื่ ใช้งานเอง เช่น งานรับจองตัว๋ เครือ่ งบิน งานโรงแรม เป็นต้น
บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ (Peopleware)
บคุ ลากรในระดบั ผใู้ ช้ ผู้บริหาร ผพู้ ัฒนาระบบ นักวเิ คราะห์ระบบ และนักเขยี นโปรแกรม เป็น
องค์ประกอบสาคญั ในความสาเร็จของระบบสารสนเทศ บคุ ลากรมีความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์
มากเท่าใดโอกาสท่ีจะใชง้ านระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ไดเ้ ตม็ ศกั ยภาพและค้มุ ค่ายงิ่ มากขึ้น
เทา่ นนั้ ผใู้ ชม้ โี อกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพฒั นาระบบงานไดเ้ องตามต้องการ
บคุ ลากรางคอมพิวเตอร์ เชน่
- นกั วเิ คราะห์ระบบ (System Analysis)
- โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
- วิศวกรระบบ (System Engineer)
- ผบู้ ริหารระบบงาน (Administrator)
- พนกั งานปฏิบัตกิ าร (Operator)
- ผูใ้ ช้ (End-User)
ข้อมลู (Data)
เป็นนองค์ประกอบทสี่ าคญั อีกประการหน่ึงของระบบสารสนเทศ การเกบ็ ขอ้ มลู จากแหล่งกาเนิด
ขอ้ มูลจะตอ้ งมีความถูกต้องมกี ารตรวจสอบแล้วเทา่ นนั้ จึงจะมปี ระโยชน์ ข้อมูลจาเป็นจะตอ้ งมมี าตรฐานเม่ือ
ใชง้ านในระดับกล่มุ หรอื ระดับองคก์ ารขอ้ มูลตอ้ งมีโครงสรา้ งในการจดั เกบ็ ที่เป็นระบบระเบียบ เพ่อื การสืบคน้
ที่รวดเรว็ มปี ระสทิ ธภิ าพ
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน (Procedure)
ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงานของผู้ใช้หรอื ของบคุ ลากรท่ีเกีย่ วข้องเป็นเรือ่ งสาคญั เมื่อไดพ้ ฒั นาระบบงาน
แล้ว ขณะท่ใี ช้งานกจ็ าเป็นต้องคานงึ ถึงลาดบั ขนั้ ตอนของคนและความสัมพนั ธ์กับเคร่ือง ทงั้ ในกรณีปกติและ
กรณฉี กุ เฉนิ เชน่ การบันทึกขอ้ มลู การประมวลผลการปฏิบตั งิ านเมอื่ เครื่องชารดุ หรือข้อมูลสูญหาย และ
การทาสาเนาขอ้ มูลสารองเพอื่ ความปลอดภัย และการทาเอกสารคมู่ ือการใชง้ านท่ชี ัดเจน
ระบบการส่อื สารขอ้ มูล (Data Communication System)
ระบบส่อื สารข้อมลู เป็นปัจจยั สาคัญในการเชอื่ มต่อสารสนเทศ ทาให้มกี ารใชง้ านสารสนเทสไดม้ ี
ประสิทธิภาพ ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีด้านนี้ทาใหท้ กุ ภาคสว่ นตอ้ งมกี ารปรบั ตัวเพ่อื รองรับกับความ
เปลีย่ นแปลงอย่างรวดเรว็ แล้วนามาใชป้ ระโยชนก์ ับองคก์ ร ระบเครือข่ายและระบบโทรคมนาคมชว่ ยทาให้
การติดต่อสือ่ สาร การแลกเปลย่ี นข้อมลู ง่าย สะดวก รวดเรว็ คา่ ใช้จา่ ยนอ้ ยลง เช่น มกี ารใช้
สญั ญาณ WiFi ระบบ 3G ซึง่ กาลงั จะเปล่ียนเป็น 4G ในไมช่ ้า อินเทอรเ์ น็ตก็เป็นช่องทางหนึ่งท่มี คี วามสาคัญ
ในการใช้ระบบสารสนเทศ