The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Forestry Research Center, 2021-12-13 10:58:27

แม่เหียะเมืองแห่งประเพณีและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย

Keywords: แม่เหียะ,เมืองแห่งประเพณี,แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม,1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย

แม่เหียะเมืองแห่งประเพณี
และแหล่งท่องเที่ยว
เชิงวัฒนธรรม

โครงการยกระดับเศรษฐกิจและ
สังคมรายตำบลแบบบูรณาการ
1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย

โดย
คณะวนศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์





คำปรารภ

“ ถ้ากล่าวถึงเชียงใหม่ ทุกคนก็คงนึกถึงอากาศที่เย็นสบาย สถานที่สวยงาม มีความ
เป็นธรรมชาติ มีศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาที่วิจิตรงดงาม และถ้าพูดถึงสถานที่ท่อง
เที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตำบลแม่เหียะก็เป็นตำบลที่มีสถานที่ท่องเที่ยว
เชิงวัฒนธรรมหลากหลายแห่ง มีการบอกเล่าเรื่องราวของสังคมผ่านองค์ความรู้ต่างๆ
และสามารถถ่ายทอดให้เราได้เห็นคุณค่าของประวัติ ความเป็นมา การดำเนินชีวิตหรือ
สภาพแวดล้อมของผู้คนในแต่ละยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นในแง่เศรษฐกิจ สังคม หรือ
ขนบธรรมเนียมประเพณี ตำบลแม่เหียะจึงเป็นตำบลที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ที่มีคนมาท่องเที่ยวและพูดถึงมากที่สุด ”

นายธนวัฒน์ ยอดใจ
นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ






บทนำ

ทรัพยากรท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรมเป็นการจัดการการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริม การท่อง
เที่ยวให้มีความสมดุลในมิติทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ อันนำไปสู่การจัดการพัฒนาการ
ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจัดเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวในท้องถิ่นอย่าง
ยั่งยืน รวมทั้งเป็นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นแนวทางสนับสนุนเพื่อจะนำไปสู่การ
จัดการมรดกวัฒนธรรมให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติของประชากรที่อยู่ร่วมกัน
อย่างสันติสุข เอื้ออาทร และยังคงสืบทอดศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรมของตนเองมาถึงยุค
ของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นตำบลที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
และประเพณีหลายแห่ง เช่น วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาเก่าแก่ของคนใน
ท้องถิ่น วัดตำหนักสวนขวัญสิริมังคลาจารย์ วัดท่าข้าม วัดอุโบสถ วัดป่าจี้ วัดต้นปิน และ
วัดสวนพริก ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญทั้งหมดในตำบลแม่เหียะ นอกจากนี้ยังมีอุทยานหลวง
ราชพฤกษ์และหอคำหลวง ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ
ราชพฤกษ์ 2549 และ มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่มีดอกไม้
งามหลากหลายสายพันธุ์เบ่งบานนับแสนนับล้านดอก อีกทั้งในตำบลแม่เหียะยังมีการทำ
กระเบื้องดินขอ ที่แสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีคุณค่า นอกจากนี้ในตำบลแม่เหียะยังมี
ประเพณีเลี้ยงดง ซึ่งเป็นประเพณีที่เก่าแก่ และเป็นความเชื่อที่สืบทอดมานานกว่า 200 ปี
นอกจากนี้ทางทีมงาน U2T ได้ดำเนินโครงการยกระดับการท่องเที่ยวบนฐานทรัพยากร
ท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม และได้เล็งเห็นความสำคัญของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใน
ตำบลแม่เหียะ จึงได้จัดทำหนังสือ ‘‘แม่เหียะเมืองแห่งประเพณีและวัฒนธรรม’’ เล่มนี้
เพื่อรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในตำบลแม่เหียะ เพื่อศึกษาเป็นแนวทางการ
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้เกิดการพัฒนาและอนุรักษ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่
ยั่งยืนต่อไป

อาจารย์ณัฐวัฒน์ คลังทรัพย์
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และผู้จัดการตำบลแม่เหียะ



MAE
วัดตำหนักสวนขวัญ
ศาลปู่แสะ - ย่าแสะ สิริมังคลาจารย์
HIA

CHIANGMAI

วัดต้นปิน วัดสวนพริก วัดท่าข้าม

วัดพระธาตุดอยคำ หอคำหลวง วัดอุโบสถ


กระเบื้องดินขอ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
วัดป่าชี่ หรือวัดป่าจี้ ที่ ทป.4 (ลานจัดพิธีเลี้ยงดง)

สารบัญ ก

คำปรารภ
บทนำ

แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในตำบลแม่เหียะ 1
ศาลปู่แสะ-ย่าแสะ 3
วัดป่าชี่ หรือวัดป่าจี้ 5
วัดสวนพริก 7
วัดท่าข้าม 9
วัดพระธาตุดอยคำ 13
วัดอุโบสถ 15
วัดต้นปิน 17
วัดตำหนักสวนขวัญสิริมังคลาจารย์ 21
กระเบื้องดินขอ 23
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ ทป.4 (ลานจัดพิธีเลี้ยงดง) 25
หอคำหลวง 29
บรรณานุกรม 31
คณะผู้จัดทำ

เชิงทางขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ หมู่ที่ 3
ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เบอร์ติดต่อ : 061-365 0346

ปู่แสะ - ย่าแสะ เป็นชื่อของยักษ์สองผัวเมีย
ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวลัวะ ที่ได้เป็น
ผู้พิทักษ์รักษาเมืองเชียงใหม่ เหตุผลสำคัญที่การ
เลี้ยงผีปู่แสะ - ย่าแสะที่ดอยคำ ยังคงดำรงอยู่ได้
เนื่องจากปู่แสะและย่าแสะ ยังคงได้รับการบูชา
เซ่นสรวง โดยชาวบ้านจะนำอาหารคาวหวาน
ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ เพื่อไปเซ่นไหว้รูปปั้ น
ปู่แสะ - ย่าแสะ ที่เชิงพระธาตุดอยคำ

1

ปู่แสะย่าแสะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำชุมชนแม่เหียะที่คอยอำนวยฝนฟ้า
และคุ้มครองภัยแก่ชาวบ้าน ตามความเชื่อของชาวบ้าน ย่าแสะจะยืน
คร่อมภูเขาระหว่างเชิงดอยคำ และดอยเหล็ก อยู่ในอิริยาบถยืน

เมื่อย่าแสะสะบัดปลายผ้าซิ่น จะพัดพาลมฝน สร้างความอุดมสมบูรณ์
ให้แก่ชาวบ้าน ตามความเชื่อนี้ จึงมีการจัดทำศาลปู่แสะ - ย่าแสะ
บริเวณเชิงพระธาตุดอยคำเพื่อบูชาเซ่นสรวงจนถึงปัจจุบัน

2

71 หมู่ที่ 3 ถนนเชียงใหม่ - หางดง
ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 053-266550

วัดป่าชี่ เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญ

ของตำบลแม่เหียะ ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมที่

สวยงาม และการสืบสานประเพณีท้องถิ่น

นอกจากนี้ วัดป่าชี่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ยังที่

ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการ

บูรณะแล้ว แต่ยังคงสถาปัตยกรรมเดิมอยู่

3

สถาปัตยกรรมเดิมที่พูดถึงก็คือในเรื่องของลายไทยที่ประดับตามผนังโบสถ์ วิหาร
ปละพญานาค สถานที่ต่างๆ ภายในวัดรวมไปถึงศาลาหรือ ระเบียงคต

ทั้งนี้อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอไตรวิหาร เจดีย์ และ
กุฏิสงฆ์ และวัดป่าชี่ยังเป็นสถานที่เก็บรักษา “พระบฏ” หรือ “ผ้าพระบฏ” อายุเก่าแก่
กว่า 1,000 ปี คำว่า “บฏ” มาจากภาษาบาลีว่า “ปฏ” (อ่านว่า ปะ-ตะ) แปลว่า ผ้าทอ
หรือผืนผ้าที่วาดภาพพระพุทธเจ้า นิยมแขวนไว้ในสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อ
เป็นรูปเคารพบูชา ซึ่งพระบฏเป็นองค์ประกอบสำคัญในพิธีเลี้ยงดงผี จัดขึ้นปีละ1 ครั้ง
ราวๆ เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน

4

201/1 หมู่ 3 ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 053-039845

วัดสวนพริก เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมเป็นวัดร้าง ต่อมามีชาว
บ้านและหน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาบูรณะในปี พ.ศ.2523 และทำการก่อสร้างวิหาร
เมื่อปี พ.ศ.2525 ภายในวิหารมีฐานเก่า ซากดินจี่ (อิฐสีแดง) และรอบๆ บริเวณ
วิหารมีแนวรั้วและประตูวัดที่เก่าแก่หลงเหลืออยู่ และได้ทำการบูรณะในส่วนต่างๆ
จนถึงปัจจุบัน เช่น กุฏิสงฆ์ อุโบสถ เป็นต้น

5

วัดสวนพริกแห่งนี้ เป็นวัดเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าสีเขียว บรรยากาศสงบ
เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม กับพระท่านที่เป็นพระนักพัฒนา วัดสวนพริกอาจจะไม่ค่อย
เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ แต่ถ้าถามถึงผู้ที่ชอบการปฎิบัติธรรมในเชียงใหม่ ที่วัดสวนพริกนี้
จะมีชื่ออยู่ในลิสต์นั้นเสมอ

6

วัดท่าข้ามสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2030 ได้รับพระราชทาน
วิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2493 เดิมกลางหมู่บ้านมีท่าน้ำ
สำหรับข้ามไปมา เพื่อค้าขายติดต่อธุระของประชาชน
พร้อมกับมีบริเวณที่กว้างสำหรับให้ประชาชนได้พักผ่อน
ก่อนข้ามฝั่ งน้ำแม่เหียะไปมาทางทิศเหนือ

ตามประวัติบอกว่า ได้มีการอัญเชิญพระมหาชินธาตุเจ้า
หรือ พระบรมสารีริกธาตุ จากวัดพระธาตุศรีจอมทอง
โดยอัญเชิญขบวนแห่พระธาตุมาข้ามท่าน้ำแม่เหียะ และ
ได้พักชั่วคราว ณ บริเวณนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มากราบ
ไหว้ หลังจากนั้นขบวนแห่ก็เดินทางต่อ ถึงพลับพลาหรือ
ตำหนักของเจ้านายฝ่ายเหนือ ปัจจุบันคือวัดตำหนัก

จากนั้นเจ้านายฝ่ายเหนือก็ต้อนรับขบวนแห่ ได้นำพระบรมสารีริกธาตุสู่เมืองเชียงใหม่ให้เจ้า
เมือง และประชาชนได้สักการะบูชา เมื่อนำพระบรมสารีริกธาตุกลับก็จะผ่าน ณ จุดเดิมคือ
ท่าน้ำแม่เหียะ ชาวบ้านท่าข้ามจึงได้ตกลงกันสร้างวัดบริเวณที่พักนั้นเรียกชื่อว่าวัดท่าข้าม

7

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัดท่าข้าม

อุโบสถ : สร้างปีพ.ศ. 2551 ด้วยไม้สักทอง รูปทรงแบบล้านนาประยุกต์
ลงรักปิดทอง ได้รับรางวัลชนะเลิศอุโบสถสวยงามในปี พ.ศ. 2556



เจดีย์ : วิหาร : สร้างในปี พ.ศ. 2539 ด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
รูปทรงแบบพุทธคยา รูปแบบล้านนา ประดับด้วยไม้สักแกะสลักลวดลายแบบ
อ่อนช้อยและสวยงาม ฝาผนังวิหารด้านบนเป็นภาพวาด

เรื่องราวพระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ ด้านล่างเป็นภาพ
วาดวิถีชีวิตและประเพณีของชาวล้านนา

118 หมู่ที่ 4 ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ 089-7591367

8

108 หมู่ที่ 3 ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เบอร์ติดต่อ : 099-0149666, 062-2316336

วัดพระธาตุดอยคำ เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต ชาวบ้าน

เรียกว่า “วัดดอยคำ” สร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์

แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 พระองค์ เป็นผู้สร้างในปี

พ.ศ. 1230 ประกอบด้วย เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และพระพุทธ

รูปปูนปั้ น

พ.ศ. 2509 ขณะนั้นวัดดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตก

ชาวบ้านได้พบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง

พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ(เนื้อดิน) ซึ่งนำ

มาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กม.

สูงจากระดับน้ำทะเล 465 ม. และสามารถมองเห็นวิวเมือง

เชียงใหม่ จึงเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทการบินไทยที่ใช้

กำหนดพื้นที่ทางสายตาก่อนจะนำเครื่องลงจอดที่สนามบิน

9

ตำนานวัดพระธาตุดอยคำ

เทือกเขาถนนธงชัย ด้านทิศตะวันตกบนเทือกเขาเหล่านั้น
จะเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระเจดีย์สำคัญ และเก่าแก่
คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ถึง 2 องค์พระเจดีย์ แต่ละแห่งถูก
สถาปนาขึ้นโดยพระมหากษัตริย์ในสมัยหริภุญชัยและล้าน
นาตามลำดับ หนึ่งในนั้นคือพระธาตุดอยคำ อยู่บนยอดเขา
เล็ก ๆ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 200 เมตร
อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมืองเชียงใหม่ เรียกว่า
“พระธาตุดอยคำ”

“พระธาตุดอยคำ” เคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์สองผัวเมีย

ชื่อ จิคำและตาเขียวมาก่อน ซึ่งต่อมาชาวบ้านได้เรียกยักษ์

ทั้งสองนี้ว่า “ปู่แสะ – ย่าแสะ” ปู่แสะย่าแสะมีลูก 1 คน ชื่อ

ว่า “สุเทวฤๅษี” เหตุที่ได้ชื่อว่าดอยคำ เนื่องจากศุภนิมิตที่

ยักษ์ทั้งสองได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า เกิดฝน

ตกหนักหลายวัน ทำให้น้ำฝนเซาะและพัดพาแร่ทองคำบน

ไหล่เขาและลำห้วยไหลลงสู่ปากถ้ำเป็นจำนวนมาก จึงได้

เรียกภูเขาลูกนี้ว่า “ดอยคำ” จากตำนานหลายฉบับได้

กล่าวว่า เทวดาได้นำพระเกศาธาตุที่พระพุทธเจ้าได้

ประทานแก่ปู่แสะและย่าแสะ นำขึ้นมาฝังและก่อสถูปไว้

บนดอยแห่งนี้ และต่อมาในปี พ.ศ. 1230 เจ้ามหันตยศ

และเจ้าอนันตยศ 2 พระโอรสแฝดของพระนางจามเทวี

แห่งหริภุญชัยนคร ได้ขึ้นมาก่อเจดีย์ครอบพระสถูปเกศา

นั้นไว้ ส่วนพระเจดีย์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ทางทิศ

เหนือของดอยคำ คือ พระธาตุดอยสุเทพ

10

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัดพระธาตุดอยคำ

พระธาตุดอยคำ : องค์เจดีย์มีลักษณะ
คล้ายพระธาตุดอยสุเทพ คือสร้างบนฐาน
สี่เหลี่ยมย่อมุม มีลวดบัว 5 ชั้น องค์ระฆัง
บัลลังก์ย่อมุม ลักษณะปลียอดฉัตรเป็นแบบ
พม่า องค์เจดีย์หุ้มทองจังโกฎ

วิหาร : สร้างจากไม้สัก ที่เป็นศิลปะแบบ
ล้านนา ประดับด้วยการแกะสลักลวดลาย
สวยงามที่มีขนาดเล็ก และมี "พระพุทธรูป
องค์ใหญ่อันเป็นแก้วที่ประเสริฐของเมือง
เชียงใหม่" คือ พระพุทธนพีสีพิงครัตน์

หลวงพ่อทันใจ : สร้างในสมัยพญากือนา
กษัตริย์องค์ที่ 6 ของราชวงค์มังราย มีชื่อ
เสียงโด่งดังในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ บนบาน
ขอสิ่งใดมักจะสำเร็จสมหวังแต่ต้องขอเพียง
1 สิ่งเท่านั้น (ส่วนใหญ่มักจะแก้บนด้วยพวง
มาลัยดอกมะลิ)

11

จิตรกรรมฝาผนังบนทางเดินขึ้นวัด : เป็นฝีมือ
ของช่างพื้นบ้าน ที่สอดแทรกภาพวาดดารา
และนักร้องที่ทำความดีช่วยเหลือสังคม เช่น
ตูน บอดี้สแลม, ต่าย อรทัย และเฌอปราง
BNK48 เป็นต้น
อุโบสถ : สร้างโดยบริษัทการบินไทยจำกัด
(มหาชน)

12

67 หมู่ที่ 2 ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 053-252557

วัดอุโบสถ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2135 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2210
ภายในมีเนื้อที่ 5 ไร่ ประกอบด้วย ศาสนวัตถุหลายอย่างในวัด ตั้งแต่ อุโบสถ ศาลาบําเพ็ญ
กุศล พระเจดีย์ วิหารพระเจ้าทันใจ และวิหารหลังใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นบนที่เดิมของวิหารหลัง
เก่าที่ชํารุดทรุดโทรม

13

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัดพระอุโบสถ

อุโบสถ : สร้างด้วยไม้เก่าแก่อายุกว่า 150 ปี
เป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ หลังคาซ้อนกัน 2 ชั้น
หน้าบันประดับด้วยลายปูนปั้ น พรรณพฤกษา
และแก้วอังวะรูปร่างคล้ายอัญมณี ราวบันไดมี
รูปปั้ นเทวดา 2 องค์

พระเจดีย์ : อยู่ด้านหลังพระวิหาร ศิลปะล้านนา
อิทธิพลสุโขทัย โดยองค์เจดีย์มีกำแพงแก้วล้อมรอบอยู่
แต่ละมุมจะมีฉัตรประดับไว้ โดยฐานด้านล่างสุดเป็น
สี่เหลี่ยม มีลายปูนปั้ น 12 นักษัตรอยู่โดยรอบ เหนือขึ้น
ไปเป็นฐานบัวย่อเก็จ รองรับกับฐานอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งใน
แต่ละด้านมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปปางมาร
วิชัย ถัดขึ้นไปเป็นชั้นมาลัยเถาแปดเหลี่ยมซ้อนกัน 2
ชั้น รับกับองค์ระฆังคว่ำ ส่วนยอดเป็นฉัตรสีทอง 9 ชั้น

พระวิหาร : เป็นสถาปัตยกรรมล้านนา หลังคาซ้อนกัน
2 ชั้น หน้าบันเป็นงานแกะสลักไม้รูปพรรณพฤกษา
และลิง ราวบันไดเป็นรูปมกรคายนาค ผนังด้านนอก
บริเวณประตูทางเข้า เป็นจิตรกรรมเกี่ยวกับการแสดง
โอวาทปาติโมกข์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายใน
ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน
ส่วนที่ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ
และทศชาติชาดก

14

110 หมู่ที่ 5 ซอยดอนปิน 2 ถนนเชียงใหม่ - หางดง
ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เบอร์ติดต่อ : 053-271288

วัดต้นปิน เดิมเรียกว่า “ วัดพระจันทร์ ” เรียกตามชื่อพระพุทธรูปยืน 2 องค์ บนฐาน

ชุกชี (แท่นแก้ว) ในวิหารวัดต้นปินหลังปัจจุบัน วัดต้นปินตามคำบอกเล่าของคนเฒ่า

คนแก่ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตั้งอยู่บริเวณ “โรงเรียนบ้านดอนปินวิทยาคาร” เรียกว่า

“วัดพระจันทร์” ครูบาเจ้าอุปนันทเถระ พร้อมด้วยศรัทธาญาติโยมสมัยนั้นได้ย้ายมา

ตั้งวัดใหม่ไว้ ณ ที่ดอนมะตูม (ชาวเหนือเรียกมะตูมว่า มะปิน) อยู่ห่างไปทางทิศ

ตะวันออกวัดพระจันทร์ประมาณ 500 เมตร เมื่อประะมาณ พ.ศ. 2366 ปัจจุบันไม่มี

หลักฐานเดิมของวัดพระจันทร์ปรากฏให้เห็น หลักฐานครั้งสุดท้ายปรากฏเมื่อ

ประมาณ 50 - 60 ปีที่แล้ว มีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่มุมสุดตะวันตกของอาคารเรียนหลังใต้

ปัจจุบันถูกโค่นล้มไปแล้วเช่นกัน

15

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัดต้นปิน

พระวิหาร สถาปัตยกรรมล้านนา ด้านหน้าโดด

เด่นด้วยการประดับกระจกสี สะท้อนแสง

อาทิตย์แวววับ สวยงามแปลกตา หน้าบันเป็น

รูปพระอินทร์เคียงข้างด้วยเหล่าเทวดา และ

ลวดลายพรรณพฤกษา ซุ้มประตูทางเข้าเป็นรูป

ธรรมจักรและกวางหมอบ แสดงถึงการเผยแผ่

พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์เป็นครั้งแรก

ภายในพระวิหารประดิษฐานพระประธาน
พระพุทธรูปปางมารวิชัย ตั้งอยู่บนฐานชุกชียก
สูงพอสมควร ขนาบข้างด้วยพระพุทธรูปใน
อิริยาบถยืน ซึ่งเป็นพระคู่วัดมาตั้งแต่สมัยยัง
เป็นวัดพระจันทร์ ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรม
เล่าเรื่องทศชาติชาดก และพุทธประวัติ

พระอุโบสถ สถาปัตยกรรมล้านนา อยู่ด้านหน้าพระวิหาร หน้าบันประดับลายปูนปั้ นพรรณพฤกษา
ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยกระจกสีสันต่างๆ ประตูทางเข้าเป็นไม้แกะสลักเกี่ยวกับพุทธประวัติ ด้านหน้ามี
สิงห์เฝ้าอยู่สองตัว

พระเจดีย์ อยู่ด้านหลังพระวิหาร ศิลปะล้านนา ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม เหนือขึ้นไปเป็นฐานบัวลูกแก้ว
สี่เหลี่ยมย่อเก็จยกสูง แต่ละด้านมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติประดิษฐานอยู่ในซุ้มจระนำที่ตกแต่งด้วย
กระจกสี ถัดขึ้นไปเป็นชั้นมาลัยเถาแปดเหลี่ยมซ้อนกันเจ็ดชั้น รับกับองค์ระฆังทรงกลมสีทอง และ
ยอดเป็นฉัตรสีทอง 9 ชั้น

ศาลาสองครูบา เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้ นพระอริยสงฆ์ที่มีคุณูปการต่อวัดต้นปิน นั่นคือครูบาเจ้า
อุปนันเถระ เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดต้นปิน และครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา




16

294 หมู่ที่ 1 ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 053-804623

วัดตำหนักสวนขวัญสิริมังคลาจารย์
หรือ วัดตำหนัก สร้างขึ้นเมื่อประมาณ
ปี พ.ศ. 2050 สมัยพระเมืองแก้ว
กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์มังราย
ในสมัยนั้น เรียกว่า วัดเวฬุวนาราม
หมายถึง ป่าไผ่ พระองค์เคยเสด็จไป
บรรจุพระบรมธาตุ ณ พระเจดีย์ของวัด

17

ในปี พ.ศ. 2062 เคยเป็นที่จำพรรษาของพระสิริมังคลาจารย์ ปราชญ์ทาง
ด้านภาษาบาลี เป็นผู้นิพนธ์พระคัมภีร์ “มังคลัตถทีปนี” เดิมชื่อ ศรีปิงเมือง
ต่อมาเมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งมีฉายาว่า สิริมังคละ เป็นพระเจ้าน้องยา
เธอของพระเมืองแก้ว และเป็นพระเจ้าหลานเธอของพระเจ้าติโลกราช

18

“ วัดแห่งนี้มีชื่อเป็นทางการสั้นๆว่า “ตำหนัก” ตามชื่อของหมู่บ้านแต่มักมีคน

เรียกว่า ตำหนักสวนขวัญบ้าง วัดสวนขวัญบ้าง วัดสิริมังคลาจารย์บ้าง วัดตำหนักสวน

ขวัญสิริมังคลาจารย์บ้าง แต่ถ้าจะให้สมกับเป็นวัดของนักปราชญ์ ผู้ผลิตผลงานที่เป็น

ประโยชน์แก่พระศาสนาควรเรียกชื่อว่า วัดตำหนักสวนขวัญสิริมังคลาจารย์ ”

19

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในวัดตำหนัก

วิหาร เป็นการก่ออิฐถือปูนแบบล้านนาไทย แต่ได้รับการบูรณะมาโดยตลอดโดยกรม
ศิลปากร วิหารหลังนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี มีจิตกรรมฝาผนัง นอกจากนี้มีวิหารสร้าง
ขึ้นใหม่อีก 1 หลัง เป็นแบบพื้นบ้านล้านนารุ่นหลัง

เจดีย์ เป็นแบบมอญ - พม่า ฐานเหลี่ยม พระสิริมังคลาจารย์
ย่อมุมตื้น 3 ชั้น องค์ระฆังทรงกระบอก


ไม่มีบัลลังก์ 20

96/3 หมู่ที่ 5 ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 081-7466039

กระเบื้องดินขอ คือ กระเบื้องมุงหลังคา
เรือนของชาวล้านนา เป็นเครื่องปั้ นดินเผา
ทำมาจากดินเหนียว หรือดินดากที่ขุดจาก
ท้องนา ปั้ นแล้วเผาไฟ มีขนาดเล็กและ
บางเรียบ น้ำหนักเบา ปลายด้านหนึ่งหัก
งอคล้ายตะขอ ใช้สำหรับเกาะไม้ก้านฝาที่
ยึดติดกับโครงสร้างหลังคา มีคุณสมบัติกัน
น้ำรั่วซึม มีอายุการใช้งานนาน ทนต่อ
ความร้อนและความชื้น

21

นายสมาน จันทคลักษณ์ ประมาณปี พ.ศ. 2400 พญามุงเมฆ ผู้นำ
ดินขอบ้านครูสมาน ชุมชนแม่เหียะ ได้มีความคิดริเริ่มในการนำ
วัสดุ อุปกรณ์ และของใช้ที่มีอยู่ในครัวเรือน
มาทำกระเบื้องดินขอ เพื่อใช้มุงหลังคาแทน
หญ้าคา ใบจาก และใบตองตึง จึงเป็นที่มาของ
การทำกระเบื้องดินขอในตำบลแม่เหียะ

สำหรับแหล่งกระเบื้องดินขอ ที่ผลิตในจังหวัด
เชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือเพียงแห่งเดียวคือ
บ้านของครูสมาน จันทคลักษณ์ ในตำบลแม่
เหียะ ซึ่งในอดีตตำบลแม่เหียะ เป็นแหล่งผลิต
ดินขอและดินกี่ที่สำคัญ

22

หมู่ที่ 3 บ้านแม่เหียะใน ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 053-210246, 053-210244,

086-4205242, 053-212065

ปัจจุบันลานสำหรับจัดประเพณีเลี้ยงดง
จัดขึ้นที่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
ดอยสุเทพ - ปุย ที่ ทป.4 แม่เหียะ ปัจจุบันยัง
เหลือร่องรอย สิ่งก่อสร้างและซากอิฐ ซึ่งคาด
ว่าเป็นสถานที่ที่เคยใช้สำหรับประกอบพิธีใน
งานวันบวงสรวง

23

ในความเชื่อของพราหมณ์จะมีการตั้งศาลบรรพบุรุษของชาวลัวะ และอัญเชิญมารับของ
เซ่นไหว้ ในความเชื่อของผีจะอัญเชิญร่างทรงประทับ แล้วกินเนื้อควายสด ในความเชื่อ
ของพุทธ จะมีการอัญเชิญพระบฏมาแขวนให้เสมือนมีพระพุทธเจ้า และมีการอัญเชิญ
พระสงฆ์มาสวดเจริญศีล และให้พร

24

334 หมู่ที่ 3 ถนนเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ
อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 053-114195-6

“หอคำหลวง” เป็นส่วนแสดงสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในงานมหกรรมพืชสวนโลก
เฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 เป็นพื้นที่จัดแสดงส่วนกลางที่โดดเด่นและ
สง่างามที่สุด เพื่อจัดแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นกษัตริย์นักการเกษตรเอกของโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ
แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ที่ทรงอัจฉริยภาพและทรง
ครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดในโลก ภายใต้แนวคิดว่า “พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว คือ ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย” นั่นคือที่มาของอภิมหา
สถาปัตยกรรมล้านนา “หอคำหลวง” โดย หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ “หอคำหลวง”

25

26

จุดเด่นและเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมล้านนา

หอคำหลวง : สถาปัตยกรรมล้านนาที่สง่างาม
เป็นอาคารครึ่งไม้ครึ่งตึก 2 ชั้น สีน้ำตาลแดง
ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าบนเนินดิน พื้นที่ประมาณ
3,000 ตารางเมตร สองข้างทางเดินสู่หอคำ
หลวงเต็มไปด้วยสีเหลืองของดอกราชพฤกษ์
ส่งให้หอคำหลวงเป็นพื้นที่จัดแสดงส่วนกลางที่
โดดเด่นและสง่างามที่สุด อีกทั้งตระการตา

วิหารซด (หลังคา) : ซ้อนเกยกันตาม
ลักษณะของการก่อสร้างหอคำหลวงใน
อดีต คือมีหลังคาหน้า 3 หลัง 2 โดยที่
โครงสร้างของวิหารจะไม่ใช้ตะปูในการ
ยึดติด แต่จะใช้ลิ่มสลักให้ไม้เชื่อมติด
กันโดยที่ไม่หลุด เรียกว่าขึ้นม้าต่างไหม
การขึ้นม้าต่างไหม ช่างจะนำท่อนไม้มา
เรียงซ้อนต่อตัวกันสามระดับ รูปทรง
คล้ายปิรามิด และจัดวางให้สมดุลกัน
โดยมีการลดหลั่นของหลังคา จากห้อง
ประธานลงมาทางด้านหน้า และด้าน
หลังเป็นชั้นเชิงที่สวยงาม นอกจากนี้
วิหารซด ยังเป็นสิ่งปลูกสร้างที่บ่งบอก
ว่าเป็นที่ประทับของกษัตริย์

27

หน้าบันและเสาซุ้มประตูทางเข้า : เป็นส่วนที่งดงามโดดเด่นที่สุด ซึ่งเป็นผลงานของช่าง
สิบหมู่พื้นบ้าน จากอำเภอต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือกว่า 60 คน ถือเป็นการรวมตัวกัน
ครั้งยิ่งใหญ่ของศิลปินสกุลช่างชาวล้านนา ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แพร่
น่าน ทุกคนต่างวาดลวดลายการแกะสลักและปิดทองกันอย่างสุดฝีมือ

28

บรรณานุกรม

วัดท่าข้าม ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่. (ม.ป.ป). สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564
จากเว็บไซต์ https://www.at-chiangmai.com/วัดท่าข้าม-ตำบลแม่เหียะ-อำเภอ
เมืองเชียงใหม่/

วัดท่าข้าม. (ม.ป.ป). สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ http://culture.mome.co/wa
tthakham/

สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2564). ดินขอ.
สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://art-culture.cmu.ac.th/Lan
na/articleDetail/2089

สุดยอดที่เที่ยว ที่กิน ข้อมูลจังหวัดเชียงใหม่. (2021). วัดสวนพริก เชียงใหม่.
สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.topchiangmai.com/
trip/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A7
%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81-%E
0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B
9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/

QR Culture. (ม.ป.ป). วัดสวนพริก.
สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ http://culture.mome.co/watsuan
prik/

ร้อยเรียงเรื่องราว. (2557). ประเพณีเลี้ยงดง.
สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ http://baifernfengfeng.blogspot.c
om/2014/07/blog-post_1591.html?m=1

chiangmaitouring. (2014). วัดป่าจี้.
สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.chiangmaitouring.co
m/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%
E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89/

lovethailand. (2564). วัดป่าชี่ แม่เหียะ.
สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.lovethailand.org/tra
vel/th/1-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8
%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/11016-%E0%
B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%
B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5-(%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88
%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%B0).html

29

topchiangmai. (2560). ศาลปู่แสะย่าแสะ ทางขึ้นวัดดอยคำ.
สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.topchiangmai.com/
trip/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B
9%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%A2%
E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%B0/

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่. (2559). วัดพระธาตุดอยคำ.
สืบค้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.m-culture.go.th/chi
angmai/ewt_news.php?nid=622&filename=index

At Chiangmai. (2559). วัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่.
สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.at-chiangmai.com/%
E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%
B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%
94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B3-%E0%B8%95%
E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%
B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%
B0-%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD
%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E
0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B
9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/

QR Culture. (ม.ป.ป). วัดอุโบสถ(Ubosot Temple).
สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ http://culture.mome.co/watubo
sot/

royalparkrajapruek. (ม.ป.ป). อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หอคำหลวง.
สืบค้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ https://www.royalparkrajapruek
.org/About

เทศบาลเมืองแม่เหียะ. (ม.ป.ป). วัดตำหนัก (วัดศิริมังคลาจารย์).
สืบค้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ http://maehia.go.th/page/catalog
/view/travel/3

QR Culture. (ม.ป.ป). วัดต้นปิน.
สืบค้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 จากเว็บไซต์ http://culture.mome.co/wattonp
in/

30

คณะผู้จัดทำ

ที่ปรึกษา :

อาจารย์ณัฐวัฒน์ คลังทรัพย์
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผู้จัดการตำบลแม่เหียะ โครงการ 1 ตำบล 1
มหาวิทยาลัย

ผู้จัดทำ / รวบรวม :

นางสาวณัฏฐรุจจี สิงห์โทราช
นางสาวณัฐนันท์ จันทร์นวล
นายณัฐสุชา รัศมีแจ่ม
นายธนายุทธ์ ปัญญางาม
นางสาวภานุชนารถ สิงห์โทราช
นายวศิน วัฒนศัพท์
นางสาวศิรประภา บุญพีระ
นางสาวศุภนิดา แสงจันทร์
นายกุศล อาคาร
นางสาวจิดาภา ปัญญานนท์
นางสาวพรนิภา เรือนใจแก่น
นางสาววิไลภรณ์ คำดี
นางอรุณี สุคำจันทร์

31

โดย

โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ
1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย

เทศบาลเมืองแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
โดยคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


Click to View FlipBook Version