The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การคัดกรองนักเรียนพิการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by บ้านช่องไม้งาม, 2022-12-27 11:23:18

การคัดกรองนักเรียนพิการ

การคัดกรองนักเรียนพิการ

สรุปความรู้ การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
การคดั กรองนกั เรียนพกิ าร

ปกี ารศกึ ษา 256๓

นางสาวศริ าพร ชว่ ยชะนะ
ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบ้านช่องไม้งาม

โรงเรียนบา้ นชอ่ งไม้งาม
สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี เขต 2

สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

เรื่องสิทธิและกฎหมายท่เี กยี่ วข้อง

1. กฎหมายที่ตราขึน้ มาเพือ่ รองรับเกี่ยวกับการศกึ ษาสำหรบั คนพิการตามรฐั ธรรมนูญ
1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา 4 มาตรา 27 มาตรา 50

มาตรา 54 มาตรา 74
๒. พระราชบัญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ.๒๕๕๓ และ

(ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๖๒
๓. พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรบั คนพิการ พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ (ฉบับ ๒) พุทธศักราช

๒๕๕๖
๔. ประกาศคณะกรรมการพิจารณาให้คนพิการได้รับสิทธิช่วยเหลือทางการศึกษา เรื่อง กําหนด

หลักเกณฑ์และวิธีการการรบั รองบุคคลของสถานศกึ ษาวา่ เปน็ คนพกิ าร พ.ศ.2556 (คัดกรอง)

2. สทิ ธขิ องคนพกิ ารทางการศึกษาตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 (ฉบับท่ี

3) พ.ศ.2553และ(ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2562
หมวด 4 แนวการจดั การศึกษา (มาตรา 22 – 30) เปน็ หัวใจของ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ
มาตรา 22 การจัดการศึกษายึดหลกั วา่ ผู้เรียนทกุ คนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และ

ถือว่าผู้เรียนสาํ คัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเตม็
ตามศกั ยภาพ

มาตราที่ 23 การจดั การศกึ ษาท้ังการศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
ตอ้ งเนน้ ความสาํ คญั ทงั้ ความรู้ คณุ ธรรม
กระบวนการเรียนรู้และบรู ณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับการศึกษาในเร่ืองต่อไปนี้ (จุดเน้นในการ
จดั การศึกษาทั้ง 3 ระบบ)

(1)ความรู้เกีย่ วกับตนเองและความสมั พันธ์ของตนเองกับสงั คมรวมถึงประวตั ิความเป็นมา
ของสงั คมไทย และระบอบการปกครอง

(2) ความรูแ้ ละทกั ษะด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
(3) ความรเู้ กยี่ วกับศาสนา ศลิ ปวัฒนธรรม การกฬี า ภูมปิ ญั ญาไทยและการประยุกตใ์ ช้
ภูมิปัญญา
(4) ความรแู้ ละทกั ษะดา้ นคณติ ศาสตร์และด้านภาษาเน้นการใช้ภาษาไทยอยา่ งถูกตอ้ ง
(5) ความรแู้ ละทกั ษะในการประกอบอาชีพ และการดํารงชีวิตอยา่ งมคี วามสุข
มาตรา 25 รฐั ต้องส่งเสรมิ การดําเนนิ งานและการจัดต้ังแหลง่ การเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบ ได้แก่
ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ศูนย์การกีฬาและนันทนาการ แหล่งข้อมูล และแหล่งการเรียนรู้อื่นอย่างพอเพียงและมี
ประสิทธิภาพ (รฐั ส่งเสริมการจดั ตง้ั แหลง่ เรยี นรูต้ ลอดชวี ิต)

มาตรา 26 ให้สถานศึกษาจัดการประเมินผู้เรียน โดยพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความ
ประพฤติ การสังเกตพฤติกรรม การเรียน การร่วมกิจกรรม และการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการ
สอน ตามความเหมาะสมของแตล่ ะระดับและรปู แบบการศึกษาให้สถานศึกษาใชว้ ิธีการที

แบบสรุปองค์ความรู้
สทิ ธแิ ละกฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ ง

11.นโยบายและจุดเนน้ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา 1. รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 4
ขน้ั พื้นฐาน มาตรา 27 มาตรา 50 มาตรา 54 มาตรา 74

10. ประกาศคณะกรรมการสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษา 2. พรบ.การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2545
สําหรับคนพิการ เรื่องหลักเกณฑ์การใหค้ รูการศึกษา (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ.2553 และ (ฉบับท่ี 4 )พ.ศ.2562
พิเศษ ครู และคณาจารย์ ไดร้ ับการสง่ เสรมิ และพฒั นา
ศกั ยภาพในการจัดการศกึ ษาสาํ หรับคนพิการ พ.ศ.2552 สิทธิและกฎหมายท่ี 3. พรบ.การจดั การศึกษาสาํ หรับคนพกิ าร พ.ศ.
เกย่ี วข้อง 2551 และ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2556
9. กฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑแ์ ละ
วิธกี ารใหค้ นพกิ ารมสี ทิ ธไิ ดร้ บั ส่ิงอํานวย 4. พรบ.สง่ เสรมิ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ คน
ความสะดวก สอื่ บริการ และความ พกิ าร พ.ศ.2550 และ(ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2556
ชว่ ยเหลืออน่ื ใดทางการศึกษาพ.ศ.2550

8. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องหลกั เกณฑแ์ ละ 5. ประกาศคณะกรรมการพิจารณาใหค้ นพกิ ารได้รับสทิ ธิ
วิธีการจดั ทําแผน การจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคลระดบั ชว่ ยเหลอื ทางการศึกษาเรื่อง กําหนดหลกั เกณฑ์และวิธกี าร
การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พ.ศ.2552 การรับรองบุคคลของสถานศึกษาวา่ เป็น คนพกิ าร พ.ศ.2556
(คดั กรอง)
7. ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ เรอื่ ง
ประเภทและหลกั เกณฑค์ วามพิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555 (กาํ หนดไว้ 7 6. ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เร่อื ง กําหนดประเภทและหลักเกณฑ์
ประเภท) ของคนพกิ ารทางการศกึ ษา พ.ศ.2552 (กําหนดไว้ 9 ประเภท)

ประเภทคนพกิ ารทางการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ

๑. ลักษณะเด่นของเดก็ ที่มคี วามบกพร่องทางการได้ยิน : เด็กหูตงึ

เดก็ หูตึง หมายถึงเด็กที่มกี ารได้ยนิ เหลืออยูเ่ พยี งพอทจี่ ะได้ยินการพูดผ่านทางการได้ยิน โดยท่ัวไปจะ

ใส่เครือ่ งชว่ ยฟงั ซึ่งหากตรวจวดั การได้ยนิ จะมีการสูญเสยี การได้ยินน้อยกวา่ 90 เดซิเบลลงมาถึง 26 เดซเิ บล

ระดบั การสูญเสียการไดย้ ิน มีดงั น้ี

๑. ตงึ เล็กน้อย ๒๖-๔๐ เดซิเบล

๒. ตงึ ปานกลาง ๔๑-๕๕ เดซเิ บล

๓. ตงึ มาก ๕๖-๗๐ เดซิเบล

๔. ตงึ รุนแรง ๗๑-๙๐ เดซเิ บล

๕. หูหนวก ๙๐ เดซเิ บลขน้ึ ไป

ลกั ษณะบางอย่างท่ีพอสังเกตได้

1. ไมม่ ปี ฏิกริ ยิ าต่อเสียงดงั เสยี งพูด หรือเสยี งดนตรี

2. มักพูดด้วยเสยี งต่ำ ระดบั เดยี วกันตลอด

3. มกั พูดเสียงเบา หรอื ดังเกินความจำเปน็
4. พดู ไม่ชัด

5. เวลาฟงั มักจะมองปาก หรือจ้องหนา้ ผูพ้ ดู ตลอดเวลา

6. มปี ระวตั ิเปน็ โรคหูนำ้ หนวกเรอ้ื รัง
7. ใหค้ วามสนใจต่อการสัน่ สะเทือน

8. พดู ตาม หรอื เลยี นแบบเสียงพดู ไมไ่ ด้

9. ไมต่ อบสนองต่อเสียงเรยี ก หากมองไม่เหน็ ผู้พูด

๒. เด็กที่มีความบกพร่องทางสตปิ ัญญากบั เด็กท่มี ีความบกพร่องทางการเรียนรแู้ ตกตา่ งกันอย่างไร?
บคุ คลท่ีมีความบกพร่องทางสตปิ ญั ญา ไดแ้ ก่ บคุ คลทม่ี ีความจำกัดอยา่ งชัดเจนในการ ปฏบิ ตั ติ น

(Functioning) ในปจั จบุ นั ซึ่งมีลกั ษณะเฉพาะ คือ ความสามารถทางสตปิ ัญญาต่ำกวา่ เกณฑ์ เฉลี่ยอย่างมี
นัยสำคัญร่วมกับความจำกดั ของทักษะการปรับตัวอีกอย่างนอ้ ย ๒ ทกั ษะจาก ๑๐ ทักษะ ไดแ้ ก่ การส่ือ
ความหมาย การดูแลตนเอง การดำรงชวี ิตภายในบา้ นทกั ษะทางสงั คม/การมีปฏิสัมพันธ์ กับผู้อนื่ การรู้จกั ใช้
ทรัพยากรในชมุ ชน การรู้จกั ดูแลควบคมุ ตนเอง การนำความรมู้ าใช้ ในชวี ติ ประจำวัน การทำงาน การใช้เวลา
วา่ ง การรกั ษาสขุ ภาพอนามัยและความปลอดภัย ทง้ั นี้ ได้แสดงอาการดังกลา่ วก่อนอายุ ๑๘ ปี ในสว่ นของเดก็
ทม่ี ีความบกหรอ่ งทางการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ บุคคลทมี่ ีความผิดปกตใิ นการทำงานของสมองบางส่วนท่ีแสดงถึงความ
บกหรอ่ งในกระบวนการเรียนรู้ทอ่ี าจเกิดข้ึนเฉพาะความสามารถดา้ นใดดา้ นหน่งึ หรือหลายค้าน คือ การอ่าน
การเขียน การคดิ คำนวณ ซ่งึ ไม่สามารถเรียนรใู้ นด้านทบี่ กพร่องได้ ทงั้ ท่ีมรี ะดบั สติปัญญาปกติ

๓. ลกั ษณะเดน่ ของเดก็ ออทิสติกมีอะไรบา้ ง?

เดก็ ออทิสติก เป็นความผิดปกติของพฒั นาการเดก็ รปู แบบหนงึ่ ซึง่ มีลักษณะเดน่ เฉพาะตัว ดังนี้

1. ความบกพร่องดา้ นปฏสิ ัมพนั ธส์ งั คม เด็กออทสิ ติกมีความบกพร่องในการมปี ฏิสัมพันธร์ ะหว่าง
บุคคลกับสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่มองสบตา ไม่มีการแสดงทางสหี น้ากริ ิยาท่าทาง จงึ ไมส่ ามารถผกู สัมพันธ์กับใคร
เลน่ กบั เพ่ือนไม่เป็น ไม่สนใจที่จะทำงานกบั ใคร มักจะอยู่ในโลกของตัวเอง

2. ความบกพร่องทางการส่ือสาร เป็นความบกพร่องทัง้ ดา้ นการใชภ้ าษา ความเข้าใจภาษา การส่อื สาร
ความหมาย การใช้ภาษา เด็กจะมีความล่าช้าทางภาษาและการพดู ในหลายระดับ ตงั้ แตไ่ มส่ ามารถพูดส่ือ
ความหมายได้เลย หรือพูดไดบ้ ้างแตไ่ ม่สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้อืน่ ได้อย่างเขา้ ใจและเหมาะสม คนจะมี
ลกั ษณะการพดู แบบเสียงสะท้อน หรอื พดู เลียนแบบ ทวนคำ หรอื พูดข้นึ แตใ่ นเรื่องที่ตนเองสนใจ การใชภ้ าษา
พูดมักจะสลบั สรรพนาม ระดับเสียงที่พูดอาจจะมคี วามผิดปกติ บางคนพูดในระดบั เสียงเดียว

3. ลกั ษณะทางพฤติกรรมและอารมณ์ทบี่ กพร่อง เด็กออทิสตกิ จะมีพฤติกรรมซำ้ ๆ ผิดปกติ เช่น เลน่
มือ โบกมือไปมา หรอื หมนุ ตัวไปรอบ ๆ ยดึ ตดิ ไมย่ อมเปล่ียนแปลงในชีวติ ประจำวัน มีความสนใจแคบ หมกมุ่น
ตดิ ส่งิ ของบางอยา่ ง เด็กบางคนแสดงออกทางอารมณไ์ ม่เหมาะสมกับวยั บางคร้ังร้องไหห้ รอื หัวเราะโดยไม่มี
เหตุผล บางคนมีปัญหาด้านการปรบั ตัวเมื่อมีการเปล่ยี นแปลงสงิ่ แวดล้อมตา่ งๆ จะอาละวาดหรอื แสดง
พฤติกรรมก้าวร้าว

4. ความบกพรอ่ งทางด้านการเลยี นแบบและจติ นาการ เด็กบางคนต้องกระตุ้นจึงจะเล่นเลียนแบบได้
เชน่ เลียนแบบการเคล่ือนไหว การพดู บางคนไม่สามารถเลยี นแบบไดแ้ มก้ ารกรทำท่งี ่าย ๆ การขาดทักษะการ
เลยี นแบบซง่ึ เปน็ พื้นฐานท่สี ำคญั ของการเลน่ ทำใหเ้ ด็กขาดทกั ษะการเล่นในด้านจิตนาการ ไมส่ ามารถแยก
เรื่องจริงเรอื่ งสมมตุ ิได้ ประยุกต์วธิ ีจากเหตุการณห์ น่งึ ไปยังเหตกุ ารณ์อ่ืนไมไ่ ด้ เขา้ ใจสิ่งทเ่ี ปน็ นามธรรมไดย้ าก
เลน่ สมมตุ ิไม่เป็น จดั ระบบความคิดลำดับความสำคัญก่อนหลัง การวางแผน การคดิ จินตนาการจากภาษาได้
ยากส่งผลต่อการเรยี นของเด็ก

5. ความบกพรอ่ งดา้ นการเรียนรูท้ างประสาทสัมผสั การใช้ประสาทสัมผัสทง้ั 5 การรบั รทู้ างสายตา
การตอบสนองต่อการฟัง การสัมผัส การรักล่นิ รส มคี วามแตกตา่ งกันในแต่ละบคุ คล

6. คามบกพร่องดา้ นการใช้อวัยวะตา่ ง ๆ อย่างประสาทสัมผสั การใชส้ ว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย รวมถึง
การประสานสัมพนั ธข์ องกลไกกล้ามเน้ือมดั ใหญแ่ ละมัดเล็กมคี วามบกพร่อง บางคนมีการเคลอ่ื นไหวทีง่ ุม่ ง่าม
ผดิ ปกติไม่คล่องแคล่ว

แบบสรปุ องค์ความรู้
ประเภทคนพิการทางการศกึ ษาตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ

บคุ คลที่มีความบกพร่องทางการเห็น คนตาบอด
บุคคลทม่ี คี วามบกพร่องทางการไดย้ ิน คนเห็นเลอื นลาง
คนหหู นวก

คนหูตงึ

ประเภทคน ิพการทางการศึกษา บุคคลทีม่ คี วามบกพร่องทางสตปิ ญั ญา ๒ ทกั ษะใน ๑๐ ทกั ษะ
ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
บุคคลทม่ี คี วามบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ

บุคคลทมี่ ีความบกพร่องทางการเรยี นรู้ อา่ น/เขียน/คำนวณ

บคุ คลที่มคี วามบกพร่องทางการพดู และภาษา พดู ไมช่ ัด
พูดเสียงผิดปกติ
พดู จังหวะผิดปกติ

บุคคลทีม่ คี วามบกพร่องทางพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ ๑. ความประพฤติ
บุคคลออทิสติก ๒. ความต้ังใจและสมาธิ
บคุ คลพกิ ารซำ้ ซอ้ น ๓. อยไู่ มส่ ุข/สมาธสิ น้ั
๔. การถอนตวั หรือลม้ เลิก
๕. ความผิดปกติในการ
ทำงานของร่างกาย

แบบสรุปองคค์ วามรู้
เทคนคิ การใหค้ ำปรกึ ษาและการประสานกบั ผ้ปู กครองและผทู้ ่ีเกย่ี วขอ้ ง

การใช้คําถามปลายเปิด การรบั ฟงั ปัญหาอย่าง เขา้ อก
การเงียบ เขา้ ใจ
การทวนคําพูด

การสะทอ้ นความรู้สึก

การสรุปความ เทคนิคการใหก้ าร
ปรกึ ษา

การสนับสนุน เทคนิคการให้ การยกตัวอยา่ ง
คาปรึกษาและการ
1 8 ปรบั ปรงุ และพฒั นาแนวทางการ
ประสานกบั ประสานงานจากผลการประเมนิ ทุกครั้ง
กาํ หนดเป้าหมายในการ ผปู้ กครองและผทู้ ่ี 7 ประเมนิ ผลการสือ่ สารและ
ประสานงานใหช้ ัดเจน
เกีย่ วขอ้ ง ประสานงานทกุ ครงั้
2
เทคนิคการประสานงาน
เตรียมขอ้ มูลท่จี ะใช้ในการ
ประสานงานให้ ครบถว้ นครอบคลมุ

3 ศึกษาข้อมลู ของบคุ คลหรอื 6
หนว่ ยงานจะ ประสานงานดว้ ย
เคารพและให้เกยี รติผ้ทู ี่ประสานงาน
4 ดว้ ยรวมทงั้ เปิดโอกาสใหม้ สี ่วนรว่ มใน

วางแผนการประสานงานท่สี อดคลอ้ ง การแสดงความคิดเห็น
กับ เปา้ หมายและระยะเวลา
5

เตรียมตนเองให้พรอ้ ม ตามกาลเทศะ เช่น การแตง่ กาย การ
ใชภ้ าษาพูดทีเ่ หมาะสมกบั บุคคลที่ประสานงาน

แบบสรุปองคค์ วามรู้

การวางแผนการจัดการศึกษาสำหรับนักเรยี นทีม่ ีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษทางการศึกษา

1. ขั้นเตรยี มการ 2. ขั้นการจัดทำแผนการ 3.ข้ันการนำแผนจดั
6. ข้ันการส่งต่อ จดั การศึกษาเฉพาะบุคคล การศึกษาเฉพาะบคุ คล

การวางแผนการจดั ไปใช้
การศกึ ษาสาหรบั นักเรยี นท่ี
มคี วามตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษ 4. ข้ันการประเมินผล
การเรียนรตู้ ามทกั ษะที่
ทางการศกึ ษา
ระบใุ นแผนการจัด
5. ขนั้ การสรุปและ การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล
รายงานผล


Click to View FlipBook Version