The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานบูรณาการ หลักสูตรภาษาไทยและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2563 >> คลิกลิงก์ https://bit.ly/3jeFoRH เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หนังสือ <<

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arthit.ke.60, 2020-08-24 12:34:39

หนังสือส่งเสริมการอ่านเขียนตามหลัก BBL เรื่อง คำควบกล้ำ

โครงงานบูรณาการ หลักสูตรภาษาไทยและการสื่อสาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2563 >> คลิกลิงก์ https://bit.ly/3jeFoRH เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หนังสือ <<

Keywords: Brain Based Learning,นิทาน BBL,แบบฝึกทักษะ BBL,นิทานคำควบกล้ำ,แบบฝึกทักษะคำควบกล้ำ,อาทิตย์ เกษหอม,ภาสพงศ์ ผิวพอใช้,คำควบกล้ำ,อ่านออกเขียนได้

คานา

ในวงการการศึกษาของไทย ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มักจะถูกพูดถึงและมองหาแนวทางการ
แกไ้ ขกนั อยู่เสมอ แต่กระนัน้ กย็ งั ไมส่ ามารถทาใหป้ ัญหานห้ี มดไปได้ ยิ่งไปกว่านัน้ ปญั หาการอา่ นไมอ่ อกเขยี นไม่ได้ยัง
ถอื เป็นอุปสรรคสาคัญในการพัฒนาการเรยี นรู้สาหรับผูเ้ รยี น โดยเฉพาะผู้เรียนช้ันประถมศึกษา เพราะการอ่านออก
เขียนได้น้นั ถือว่าเป็นพ้นื ฐานสาคญั ในการเรียนรู้วิชาต่าง ๆ ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน (วิชาชีวิต) หากอ่านไม่
ออกเขยี นไม่ได้กจ็ ะกอ่ ให้เกดิ ปญั หาในการเรียนรู้ ตลอดจนการพฒั นาตนเองในดา้ นอนื่ ๆ ตามมา

พรพิไล เลิศวิชา (2559) นักวิชาการอิสระ – ผู้เชียวชาญด้าน Brain Based Learning (BBL) ได้กล่าวถึง
การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning : BBL) ว่า “เป็นทฤษฎีเก่ียวกับการทางานของ
สมอง เพ่ือศึกษาค้นคว้าว่า เม่ือจะให้มนุษย์ทาสิ่งใด อย่างไร ที่มนุษย์จะพัฒนา มีกระบวนการอะไรท่ีจะพัฒนาได้”
จากคากลา่ วนี้ การจดั การเรยี นรู้โดยใช้สมองเปน็ ฐานจงึ เปน็ การใช้ความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั สมองเป็น “เคร่ืองมือ”
ในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือให้เด็กมีศักยภาพในการเรียนรู้สูงสุด โครงงานนี้จึงนาศาสตร์หรือแนวคิด
ดังกล่าว มาเป็นแนวทางในการออกแบบหนังสือ “นิทานเสริมประสบการณ์อ่านเขียน (เรียนรู้ตามแนวคิด BBL)”
เนื่องด้วยนิทานเป็นเรื่องราวที่สนุกสนาน มีเหตุการณ์ ฉาก ภาพ และตัวละครท่ีน่าสนใจ อันจะเป็นการปูพื้นฐาน
ส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ รักในการอ่าน ดังท่ีพรพิไล เลิศวิชา (2552, 17) กลา่ ววา่

การสอนภาษา โดยสอนใหเ้ ป็นคา เป็นประโยค และสอนให้สะกดคาน้ันเป็นส่ิงจาเป็น แต่ที่ต้อง
วางรากฐานเปน็ สิ่งแรกคือการเรยี นร้ผู า่ นโลกของนิทานและเรือ่ งเล่าต่าง ๆ เพราะเรื่องเล่าสามารถกระตุ้น
ให้สมองเรียนรู้คาและเชื่อมโยงคาข้ึนเป็นภาษาอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เด็กฟังนิทาน ภาพต่าง ๆ
จะหลง่ั เขา้ มาในสมองตั้งแต่ฉากแรกจนถึงฉากสดุ ท้าย หากเปน็ หนังสือภาพ ภาพประกอบทุกหน้าก็กระตุ้น
ให้สมองเรยี นรภู้ าษา ดังน้นั โลกนิทานในวัยเดก็ จงึ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นิทานสนุก ๆ เล่าให้ฟังพอเพลิน ๆ แต่
นิทานนาเสนอภาษาและไวยากรณ์แบบต่าง ๆ ป้อนเข้าสู่สมอง เพื่อเตรียมก้าวสู่การเรียนรู้อย่างเป็น
ทางการในวยั ต่อ ๆ ไป

สิ่งทสี่ าคญั ไม่แพ้การอ่านออกคือการเขียนได้ โครงงานน้ีได้ออกแบบแบบฝึกเพ่ิมเติมเข้าไปในเน้ือหาของ
หนังสือ “นิทานเสริมประสบการณ์อ่านเขียน (เรียนรู้ตามแนวคิด BBL)” โดยนาแนวคิด Brain Based Learning
หรือ BBL มาเป็นแนวทางด้วยเช่นกัน กล่าวคือ เน้ือหาจะมีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง มีจังหวะในการอ่าน พร้อม
ภาพประกอบที่สวยงาม ส่วนแบบฝึกและการอธิบายความหมายคาศัพท์จะมุ่งเน้นให้มีความง่าย ใช้สีและ
ภาพประกอบท่สี วยงาม เป็นต้น

นทิ านเสรมิ ประสบการณ์อา่ นเขยี น (เรียนรู้ตามแนวคิด BBL) เล่มนี้ จะมุ่งเน้นเนื้อหาประสบการณ์ “อ่าน
เขียน” เกีย่ วกับคาทมี่ ีพยัญชนะควบกลาในภาษาไทย เพราะการพูดหรืออ่านออกเสียงคาควบกล้าไม่ชัด การเขียน
สะกดคาควบกลา้ ไม่ได้ กระท่งั ไม่รู้จักคาศพั ท์ท่เี ป็นคาควบกลา้ นบั เป็นอีกปัจจัยที่ควรได้รับการแก้ไขและส่งเสริมไป
พรอ้ มกบั ปญั หาการอา่ นไม่ออกเขียนไม่ได้ ดงั นนั้ โครงงาน “นทิ านเสริมประสบการณ์อ่านเขียน (เรียนรู้ตามแนวคิด
BBL)” จึงเป็นโครงงานผลิตสื่อการเรียนการสอนท่ีให้ความสาคัญกับผู้เรียนเป็นสาคัญ มีเนื้อหาท่ีสอดคล้องกับ
ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551 รวมทั้งช่วยส่งเสริมการแกไ้ ขปัญหาการอา่ นไม่ออกเขยี นไมไ่ ด้ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ

อาทิตย์ เกษหอม และ ภาสพงศ์ ผวิ พอใช้

24 กรกฎาคม 2563

1

ค้าควบกล้า
คืออะไร ?

ค้าควบกล้า หรือ อักษรควบ หรือ อักษรกล้า คือ พยัญชนะ
2 ตวั อา่ นออกเสยี งควบหรือกลา้ อยใู่ นสระเดียวกัน จา้ แนกออกเป็น
2 ชนิด ได้แก่

1. อักษรควบแท้ คือ พยัญชนะอื่นท่ีควบหรือกล้ากับ
พยัญชนะ ร, ล, หรอื ว แล้วอา่ นออกเสียงพยัญชนะทังสองตัวนัน
เป็นเสียงเดยี วกนั เชน่ กรน กลอก กวาง

2. อักษรควบไม่แท้ คือ พยัญชนะอ่ืนที่ควบหรือกล้ากับตัว ร
แล้วออกเสียงเฉพาะพยัญชนะต้นตัวหน้าเพียงตัวเดียว ไม่ออกเสียง
ร เชน่ จริง [จงิ ] ศรัทธา [สัดทา] สรา้ ง [ส้าง]

หมายเหตุ : เมื่อ ทร ควบกันจะออกเสียงเป็น ซ เช่น ทรง
[ซง] ทรพั ย์ [ซบั ]

2

3

กระโดดโลดเตน(กร)

ตะวันนง่ักนิขาวตมกลิน่หอมกรนุในตอนเชา
ดาวเหนือน่งักนิขนมปงกรอบเสยีงดังกรอบแกรบในตอนเชา
สองพีน่องกระโดดโลดเตนดีใจเพราะคณุพอกบัคณุแม
จะพาไปเที่ยวสวนสตัว
ดาวเหนือใสชุดกระโปรงยาวนารกัสะพายกระเปาตดิกระดงิ่
สงเสียงดงักรงุกริ๊งสดใส
สวนตะวนัพ่ชีายใสเสื้อยืดลวดลายกระยกึกระยอื
กบักางเกงขายาว

4

เม่ือถงึสวนสตัวทุกคนชชี้วนกนัดูสารพดัสตัวนานาชนิด
คุณพอช้ใีหดูนกกระจบิตัวกระจิรดิในกรงสีทอง
คณุแมชี้ใหดูลูกเตาขนาดกระจว๋ิหลวิเดินกระตวมกระเตี้ยม
อยรูิมขอบบอ
ตะวันชใี้หดาวเหนอืดหูมคีวายตวัใหญมีกรงเล็บนาเกรงกลวั
มนันอนกรนอยูขางๆร้วักระตอบของมัน
ดาวเหนอืกระซิบใหตะวนัดกูระรอกตวักระจอย
มนันั่งแทะเปลือกถ่ัวเสยีงดังกรวมกรวมบนหลังคากระโจม
โกรนเกรง
สองพีน่องกระโดดโลดเตนดใีจเพราะครง้ัหนาคุณพอ
กบัคณุแมจะพามาเท่ียวสวนสตัวอกี

5

6

มือเจาขรัวเขรอะ(ขร)

ตะวนักับดาวเหนืออยากฟงนทิานจึงวานคณุแมชวยเลาใหฟง
เรือ่ง“มอืเจาขรัวเขรอะ”
กาลคร้ังหนึ่งนานมาแลวมเีจาขรวัอยคูนหนึ่งเจาขรวัคนนี้
มใีบหนาเครงขรมึอยตูลอดเวลา
สาเหตทุใี่บหนาเครงขรมึเปนเพราะวาเจาขรวัไมกลาขริบ
เล็บมอืเอง
อยมูาวันหน่งึมือของเจาขรวัเขรอะไปดวยโคลน
ทำความสะอาดลำบากมากเพราะเลบ็มือเรมิ่ยาวและสกปรก
เจาขรัวมใีบหนาเครงขรมึทกุขใจแตกไ็มกลาขรบิเลบ็มอืเอง
ขรึมไดไมนานจึงบอกแมบานชวยขรบิเล็บมือให
แมบานใชตะไบเล็บทม่ีีผวิขรขุระขดัถูเล็บมือใหเจาขรวั
ในทส่ีดุเจาขรวักพ็ึงพอใจหายเครงขรึมเพราะเล็บมือส้ัน
และไมสกปรกเมื่อคณุแมเลานทิานจบตะวนักับดาวเหนือ
กป็รบมอืชอบใจ

7

ขนมครกแสนอรอย(คร)

ตะวันกบัดาวเหนอืไดยนิเสียงฟารองครน้ืคร่นัจงึพากัน
ไปยนืดูทห่ีนาตางมองเหน็ทองฟามดืครม้ึและฝนทก่ีำลังตก
ปรอยๆ

ครน้ัสองพนี่องเดินเขาไปในครวัก็เหน็คุณแมกำลังทำอาหาร
อยางคร่ำเครงสวนคุณพอกำลงัขัดถอูะไรบางอยางทีค่รำ่เครอะ
เสียงดังครืดคราดนาสงสยั

8

ดาวเหนอืถามคุณพอวา“กำลังทำอะไรคะ”
คณุพอตอบวา“ทำความสะอาดเบาขนมครกจะวนันีค้ณุแม
จะทำขนมครกโบราณ”
ตะวนักบัดาวเหนอืชวยคณุแมทำขนมครกสงเสยีงครึกคร้ืน
เฮฮาอยูในครวั
พอฝนหยุดตกทุกคนออกไปกินขนมครกทแ่ีครในสวน
สงเสยีงหัวเราะกนัคร้ืนเครงสนกุสนาน

9

10

ตนื่นอนตอนเชาตรู(ตร)

ดาวเหนอืตนื่นอนตอนเชาตรู เดนิเตร็ดเตรดูรอบรอบบาน
มองเห็นตนมะมวงสงูตระหงาน มีผลสุกนาทานมากมาย
ตนมะมวงอยตูรงหลงับาน มผีลสุกนาทานหลากหลาย
ดาวเหนอืตรึกตรองไมคลาย คดิแลวก็นำ้ลายสอ
ตรวจตราดอูยางถถ่ีวน จงึชวนตะวนัและคณุพอ
ทง้ัสองไมรัง้รรีอ เอาตะกรอมาสอยมะมวง
ดาวเหนอืตระเตรียมตะกรา ตะวันเอาผามารอง
เสรจ็สรรพมะมวงเปนกอง ทงั้สองจงึรองไชโย

11

ปริศนาวนัฝนตก(ปร)

ฝนตกเปราะแประโปรยปราย ตะวนัพี่ชายตน่ืนอน
ปลกุดาวเหนอืทีก่ำลังพักผอน ตืน่นอนมาดฝูนตกโปรยปราย
ดาวเหนอืปรือตาปริบปริบ รบีหยบิถงุเทามาใส
จากน้ันว่งิปรอเดินไป เดนิไปดูฝนตกโปรยปราย
วันนอ้ีากาศปรวนแปร คณุแมเอานมอุนมาให
บอกวาไมควรออกไป ออกไปดฝูนตกโปรยปราย

12

สองพน่ีองเลนปรศินา อะไรทำใหผาเปรอะเปอน
อีกฝายนั้นไมแชเชือน เปรอะเปอนเพราะฝนตกโปรยปราย

ดาวเหนือสุดแสนฉลาด ตะวันเปรอื่งปราดนกัหนา
ทัง้คปูลมื้เปรมปรดีา ธรรมดาธรรมดาท่ฝีนตกโปรยปราย

13

14

ดาวนายพราน(พร)

ค่ำคนืทองฟาพรางพราว ตะวันดดูาวพร่งัพรอม
พระจันทรพร้มิพรายไมตรอม กล่ินหอมคำ่คนืโชยมา
กลางคืนทองฟาสวยมาก ไมอยากจะกะพริบตา
ดาวพรืดอยเูตม็ทองฟา โรยราหายไปกลางวนั
ดาวเหนือตามมาพรองเพรียกรองเรยีกพชี่ายอยูน่นั
ทงั้สองจึงยืนดวยกนั ฝนเฟองถงึเร่อืงดวงดาว
ดาวน้นัเรียกวาอยางไร ดาวเหนอืสงสยัพรอมหาว
ตะวนับอกเลาเรอ่ืงราว ดวงดาวนั้นเรียกนายพราน

15

ซื่อสัตยไมกลบักลอก(กล)

ตะวนัซื่อสัตยไมพูดจากลบักลอก
ดาวเหนอืซือ่สัตยไมพดูจากลอกกล้ิง
สองพ่นีองชวยกนัเก็บของเลนไมใหเกล่อืนกลาด
ดาวเหนือเก็บลูกบอลทรงกลมทกี่ล้ิงไปมาใสกลอง
ตะวันหยบิกลองสองทางไกลใสกลอง

16

สองพ่ีนองชวยกันเกบ็ของเลนจนเกลีย้งเกลาไมเกลอ่ืนกลน
คณุแมถามทง้ัสองคนวา“ใครเก็บของเลนทก่ีลาดเกลื่อนจะ”
ท้งัสองคนกลาวตอบพรอมกันวา“เราทง้ัสองเก็บชวยกันครบั/คะ”
คุณแมปรบมือชืน่ชมทำใหท้งัสองคนกอดกันกลมเกลียว

17

18

นอนเขลง(ขล)
ตะวันนอนเขลงคดิอยากเปาขลยุ
ดาวเหนือนอนขลุกขลยุคดิอยากกนิขลม
สองพน่ีองนอนขลงึเขละขละขลกุขลัก
สองพ่ีนองขลกุอยูกบัการนอน

19

นิสยัคลายๆกนั(คล)

ตะวันกับดาวเหนอืสองพนี่องหนาตาคลายคลึงกันมีนสิยัคลายๆกนั
ตะวันไมชอบกล่นิถุงเทาเหมน็คละคลุง
ดาวเหนือกไ็มชอบกล่นิถุงเทาเหมน็คละคลุงเหมือนกนั
ดาวเหนอืชอบเลนคลานบนเสอ่ื
ตะวันก็ชอบเลนคลานบนเส่อืเหมอืนกัน
ตะวันไมชอบน่ังเรือเพราะมนัโคลงเคลง
ดาวเหนอืกไ็มชอบนั่งเรือเพราะมันโคลงเคลงเหมอืนกัน

20

ดาวเหนอืชอบมาเพราะมนัเคล่ือนท่คีลองแคลว
ตะวนักช็อบมาเพราะมันเคลอื่นที่คลองแคลว
เหมือนกนั
ตะวันชอบน่ังดูคลื่นทะเลเพราะผอนคลายเคลบิเคลม้ิ
ดาวเหนือก็ชอบนง่ัดูคลืน่ทะเลเพราะผอนคลาย
เคลิบเคล้มิเหมอืนกัน

21

ปลกูผกัปลอดภยั(ปล)

ตะวนัปลกูผกัปลอดภัย ไมใชสารเคมี
ดาวเหนือปลูกกะหลำ่ปลีปลกูอยทูแ่ีปลงผกั
ปลกูผักเอาใจใส ไมปลอยปละละเลย
ทัง้คูไมเพกิเฉย ปลอยปละละเลยแปลงผกั

22

ตง้ันาิกาปลกุ ตนื่ลกุรดนำ้ทุกวนั
พรวนดินสดุขยัน ปองกนัแมลงแปลกปลอม
ตะวันปลาบปลื้มดีใจ พืชผกัเตบิใหญเปลี่ยนไปไมชา
ดาวเหนอืเปลงเสยีงรองเรงิราฮาฮาฮาปล้ืมใจปลมื้ใจ

23

กะโผลกกะเผลก(ผล)

ฤดใูบไมผลิตะวนัผลบุๆโผลๆอยูในสวน
ตะวนัผลผีลามโผลเขาไปทักทาย
ตะวันเผลอไผลผลบุผลบัตกใจสะดุดกอนหินลมผลึ่ง
โชคดเีทาของตะวนัไมมีแผล
ทำใหแคเดนิกะโผลกกะเผลกเทานน้ั

24

ดาวเหนือผลุนผลันชวยพยุงพช่ีายพรอมกบัขอโทษ
ตะวันไมถือโกรธดาวเหนอืเพราะเผลอแปบเดียว
กห็ายโผลกเผลก

25

ดอกพลบัพลงึ(พล)

เวลาพลบคำ่โพลเพล ตะวันนอนเปลเพลิดเพลิน
ดาวเหนอืโผลมาบงัเอญิ เยื้องเดินรองเพลงลนัลา
ดาวเหนือไพลหลงัดดูอกพลบัพลึงตกตะลงึเหน็เพลีย้สฟีา
มันเดนิไปเดนิมา ไมบอกลาบินไปเรว็พลนั

พลับพลงึสีขาวโพลน พัดพลิ้วปลอบโยนสุขสันต
ดาวเหนอืรองเรยีกตะวนั มาดูดวยกนัดูดอกพลับพลึง
พลางตะวนัเดนิมา ในไมชาก็เดนิมาถงึ
ดาวเหนือตะวนัดูดอกพลบัพลงึสุดซาบซึ้งเพลนิใจ

26

27

กวาดบานนอนเปล(กว)

ทองฟากวางใหญ สดใสกวาทกุวัน
สองพี่นองสดุขยัน ชวยกนักวาดบาน

ตะวนัใชไมกวาด กวาดกวดัแกวงชำนาญ
ดาวเหนือไมเกยีจคราน กวาดบานแกวงกวัด

28

ไมกวาดอันใหญ ดาวเหนอืใชไมถนัด
เปลย่ีนใชอันเลก็กะทดัรดั กวดัไกวไปมา

กวาดบานเสรจ็เรยีบรอยไมรีรอคอยทา
ไปนอนเปลกันเถดิหนา แกวงไกวไปมาสนกุ

29

ของขวญัสำหรับคนขวนขวาย(ขว)

ตะวนัขวนขวายอานหนังสอื
ดาวเหนอืขวายขวนอานหนังสือ
สองพนี่องไดของขวญัเพราะขยนัขวนขวายอานหนังสือ
30 สองพี่นองดีใจขวัดแควงขวักไขวไปมา

สองพน่ีองแกะของขวัญขวบั
ตะวนัไดกรอบรูปสำหรบัแขวนผนัง
ดาวเหนือใชมอืขวาหยิบของขวญัออกมา
ไดพวงกญุแจหมอนขวานนารกั

31

วาดภาพไมเควงควาง(คว)

ตะวนักบัดาวเหนอืว่งิเลนกนัควั่ก
เร่มิรูสกึเควงควางไมสนกุ
ตะวันควกักระดาษกับดินสอในกระเปาออกมาวาดภาพ
ตะวนัวาดหมีควาย

32

ดาวเหนือวาดกะลาคว่ำแตไมสวยจึงควายางลบมาลบ
ดาวเหนือวาดใบไมกำลงัลอยควางทามกลางควนัโขมง
สองพีน่องนอนควำ่วาดภาพกนัสนุกไมควางเควง

33

สนกุจรงิๆ(ควบไมแท)

ดาวเหนือใสสรอยเลนกอกองทรายสนุกจริงๆ
ตะวันเลนสมมตเิปนเศรษฐีมทีรัพยสมบัติสนกุจริงๆ
ตะวันกบัดาวเหนอืเลนซอนแอบใตตนไทร
ใกลๆกระทอมเกาทรุดโทรมสนุกจริงๆ

34

สองพ่ีนองชอบเลนอะไรทสี่รางสรรคไมโศกเศรา
เพราะมันสนกุจริงๆ

ทกุคร้งัท่ีเลนเสรจ็จะอาบนำ้สระผมและดม่ืนม
เสริมพลังกอนเขานอนเพอ่ืเตรยีมพรอมสนกุจรงิๆ 35

36

37

ศพั ท์ชวนคดิ พนิ จิ กร

กรง หมายถงึ ส่งิ ท่ที าเปน็ ซ่ี ๆ ลอ้ มรอบ
สาหรับขงั นกเป็นตน้

กระดิ่ง หมายถงึ เครอ่ื งทาเสยี งสัญญาณ ทา
ดว้ ยโลหะ มรี ูปคลา้ ยระฆัง แตข่ นาดเลก็ กว่า

สนกุ เขียน เรียน กร

คดั คาควบกลา้ กร ทกี่ าหนดให้และฝึกอ่านออกเสยี ง

กระรอก กระโปรง กรุ่น

กระเปา๋ กระตอ๊ บ กรน

38

ศพั ท์ชวนคดิ พนิ ิจ ขร

เจา้ ขรัว หมายถึง คนทมี่ งั่ มี (มกั หมายถงึ
เศรษฐจี นี ), เจส๊ ัว หรือ เจา้ สวั กเ็ รียก
ขรุขระ หมายถงึ เปน็ ป่มุ เปน็ แง่, ไมเ่ รยี บราบ

สนุกเขียน เรยี น ขร

คดั คาควบกลา้ ขร ท่กี าหนดให้และเช่ือมโยงภาพให้ถกู ต้อง

ขร+ิ บ = ขรบิ
เ+ขร+อ+ะ = เขรอะ

ขร+ึ ม = ขรึม

39

ศพั ทช์ วนคดิ พนิ ิจ คร

ครู หมายถึง ผูส้ ่งั สอนศษิ ย์, ผ้ถู ่ายทอดความรู้
ให้แก่ศษิ ย์

คราด หมายถึง เคร่ืองมอื ส้าหรับชกั หรอื ลาก
ข้หี ญ้าหรือหยากเยอื่ เปน็ ต้น ทา้ เป็นซี่ ๆ มี
ดา้ มสา้ หรบั จับชกั หรอื ลากไป

สนุกเขยี น เรยี น คร

เขียนคา้ ควบกล้า คร ในประโยคให้ถกู ตอ้ งและฝกึ อา่ นออกเสียง

ดาวเหนือมองเหน็ ทอ้ งฟ้ามืดครึ้ม
ดาวเหนอื มองเหน็ ทอ้ งฟา้ มืดครึ้ม
ตะวนั ไดย้ นิ เสยี งฟา้ ร้องครื้นครน่ั
ตะวันไดย้ นิ เสยี งฟ้าร้องครน้ื ครน่ั
คุณแม่ท้ากับขา้ วอยใู่ นครัว
คณุ แม่ท้ากับขา้ วอยู่ในครัว

40

ศัพทช์ วนคดิ พินจิ ตร

เชา้ ตรู หมายถงึ เวลาสาง ๆ ตอนเช้า, เวลาที่
แสงเงินแสงทองขน้ึ

ตรง หมายถงึ ไม่คดโคง้ , เท่ียงตามกาหนด,
ถูกตอ้ ง, ไมอ่ ้อมค้อม

สนุกเขียน เรียน ตร

คดั คาควบกลา้ ตร ที่กาหนด แล้วค้นหาคาน้นั ด้านล่างพร้อมวงกลมรอบคา

ตระเตรียม เตรด็ เตร่
ตรึกตรอง ตรวจตรา

เ ต ร็ ด เ ต ร่ ไ ป ม า ชั ก ช้ า
ด า ว เ ห นื อ ต ร ะ เ ต รี ย ม
ต ะ ก ร้ า ส า ม ต ร ว จ ต ร า
ต ะ วั น ต รึ ก ต ร อ ง ส บ า ย ห ล า ย

41

ศัพทช์ วนคดิ พนิ จิ ปร

โปรย หมายถึง ตกลงมาเปน็ เม็ด ๆ กระจาย
ทั่วไป

ปรอื ตา หมายถึง พยายามลืมตาแตล่ มื ขน้ึ
ไม่ไดม้ าก

สนกุ เขยี น เรยี น ปร

คดั คาควบกล้า ปร ท่ีกาหนด แลว้ ระบายสีคาน้นั ในเกลด็ ปลาให้สวยงาม

ปราย เปร่ือง

ปรวนแปร ปราย
เปรม ปรดี า ปรบิ ๆ
เปราะ โปรย เปราะ

เปรอะ ปริศนา

ปรบิ ๆ

42

ศพั ท์ชวนคดิ พนิ จิ พร

พรา่ งพราว หมายถงึ มแี สงประกายแวววาว
000า ระยบิ ระยับ

พรม้ิ พราย หมายถึง ยมิ แย้มดูงาม

สนุกเขยี น เรยี น พร

เขียนค้าควบกล้า พร ใหถ้ ูกต้องและฝึกอา่ นออกเสียง

+ + า + น = พราน
+ อ้ + อ + ม = พอรอ้ ม
เ + + อี + ย + ก = เพอรยี ก

แ + + + ว = แพรว

43

ศพั ท์ชวนคดิ พนิ จิ กล

กลมเกลียว หมายถงึ ที่เขา้ กนั ได้เปน็ อันหน่งึ
อนั เดยี วกัน

กลบั กลอก หมายถงึ เปล่ยี นไปมาเชอ่ื ถือ
ไมไ่ ด้ หรอื พดู จาไม่อย่กู ับรอ่ งกับรอย

สนุกเขียน เรยี น กล

คัดค้าควบกล้า กล ทก่ี า้ หนดใหแ้ ละเชอ่ื มโยงภาพให้ถกู ต้อง

กลอ้ ง กลอง
กล้อง กลอง

กลม กล้อง
กลม กลอ้ ง
กลอง กลม
กลอง กลม

44

ศพั ทช์ วนคดิ พนิ จิ ขล

เขลง หมายถึง ทอดอารมณ์อย่างสบาย (ใชแ้ ก่
กริยานอน)

สนกุ เขียน เรยี น ขล

คัดคา้ ควบกล้า ขล ทก่ี ้าหนดให้และฝกึ อ่านออกเสียง

ขลยุ่ ขลุ่ย ขลุ่ย ขลยุ่
ขลยุ่ ขลยุ่ ขลยุ่ ขลุ่ย
เขละขละ เขละขละ เขละขละ
เขละขละ เขละขละ เขละขละ
ขลม ขลม ขลม ขลม
ขลม ขลม ขลม ขลม

45

ศพั ท์ชวนคดิ พนิ ิจ คล

คลอง หมายถงึ ทางนา้ หรอื ล้านา้ ทเ่ี กิดขนึ เอง
หรือขุดเช่ือมกบั แมน่ ้าหรือทะเล

คลื่น หมายถึง น้าในทะเลหรือแม่นา้
เคลอ่ื นไหวนูนสูงกว่าระดบั โดยปรกติแล้ว
ลดลง หรอื ส่งิ อื่นทมี่ ลี กั ษณะเหมอื นกนั

สนุกเขยี น เรียน คล

คัดค้าควบกลา้ คล ทกี่ ้าหนดใหถ้ กู ตอ้ งและฝกึ อ่านออกเสียง

คลาน คล้าย เคล่ือน คละ คลา
คลาน คลา้ ย เคลื่อน คละ คลา

คลาน คลา้ ย เคลอื่ น คละ คลา
คลาน คล้าย เคลือ่ น คละ คลา

46


Click to View FlipBook Version