การใช้ Prompt สำหรับการวัดและประเมินผล การใช้งาน Prompt สำหรับครูผู้สอนด้วย ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสามารถช่วย ครูส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน การสร้างคำถามเพื่อปรับแต่งผลลัพธ์เป็นประโยชน์ในการใช้งาน ChatGPT อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุดซึ่งมีตัวอย่างและวิธีการเขียน Prompt ที่ช่วยให้ครูผู้สอนใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการวัดและประเมินผล ดังนี้ การทำให้การประเมินนักเรียนเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างสำหรับคำถามปลายเปิดเพื่อตรวจสอบความตั้งใจในการเรียนรู้และ เกณฑ์ความสำเร็จ ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “ สร้างคำถามที่ประเมินความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับแนวคิด เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสง ในบทเรียนชีววิทยา ” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างแบบทดสอบข้อเขียนสั้นๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “ สร้างแบบทดสอบเกี่ยวกับแนวคิด เรื่อง วัฏจักรของน้ำสำหรับชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างข้อความแจ้งสำหรับงานสรุปหรือแบบทดสอบข้อเขียน ตัวอย่างการใช้ งาน Prompt ต่อไปนี้ “ สร้างงานที่ให้นักเรียนสรุปประเด็นหลักของบทเรียนเกี่ยวกับ การปฏิวัติอเมริกา ” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างคำถามที่ท้าทายที่กระตุ้นให้นักเรียนมีความคิดที่ลึกซึ้งและแสดงเหตุผล อย่างชัดเจนตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “ สร้างคำถามที่กระตุ้นให้นักเรียนเกิดการไตร่ตรองถึงผลกระทบทางจริยธรรมของการค้นพบ ทางวิทยาศาสตร์” การใช้การประเมินเป็นโอกาสในการแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างความคิดเห็นที่เฉพาะเจาะจงและเน้นการนำไปใช้งานต่อของ นักเรียน ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “สร้างคำติชมเกี่ยวกับเรียงความของนักเรียนเกี่ยวกับสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ มุ่งเน้นไปที่วิธีการปรับปรุงการเขียนเรียงความของนักเรียน” *หมายเหตุ ตัวหนังสือสีแดงสามารถเปลี่ยนให้ตรงกับเรื่องที่ต้องการเขียน Prompt
การใช้การประเมินเพื่อให้นักเรียนมีโอกาสเรียนรู้ ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างตัวอย่างงานที่มีคำอธิบายประกอบ ซึ่งแสดงคุณสมบัติของงานที่ทำ แบบผู้เริ่มต้น ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ชำนาญมาก ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “ สร้างตัวอย่างงานเขียนคำอธิบายประกอบสำหรับงานเขียนที่สามารถโน้มน้าวใจที่ เปรียบเทียบเรียงความสำหรับผู้เริ่มต้นเขียนเรียงความกับผู้ที่ผู้เชี่ยวชาญแล้ว” การใช้การออกแบบและงานการประเมินอย่างเป็นทางการที่มีคุณภาพสูง ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างงานการประเมินที่สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ตั้งใจไว้ใน เนื้อหา ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “ สร้างงานประเมินสำหรับวิชาประวัติศาสตร์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ประเมินผล การเรียนรู้ ความเข้าใจ สาเหตุและผลที่ตามมาของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างเกณฑ์การให้คะแนนที่ชัดเจนและกระชับ ซึ่งอธิบายสิ่งที่นักเรียน ต้องทำ ความสำเร็จและระดับความสามารถต่างๆ ที่นักเรียนควรบรรลุเป้าหมาย ตัวอย่างการใช้ งาน Prompt ต่อไปนี้ “สร้างตารางรูบริกสำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ที่ ประเมินผลการเรียนรู้ ความเข้าใจขั้นตอนของวิธีการทางวิทยาศาสตร์” ผลลัพธ์ที่ได้ การสร้างตารางรูบริกสำหรับการประเมินผลการเรียนรู้ในการทดลองวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เน้นการประเมินความเข้าใจขั้นตอนของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ควรมีความ ชัดเจน ครอบคลุมทุกขั้นตอน และมีการกำหนดเกณฑ์ที่ชัดเจน นี่คือตัวอย่างตารางรูบริก :
ตารางรูบริกสำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์ เกณฑ์ การประเมิน ระดับ 4 (ยอดเยี่ยม) ระดับ 3 (ดี) ระดับ 2 (พอใช้) ระดับ 1 (ต้องปรับปรุง) 1. การตั้งคำถาม และสมมติฐาน ตั้งคำถามที่ชัดเจน และสมเหตุสมผล สมมติฐานมีความ ชัดเจนและ สอดคล้อง กับคำถาม ตั้งคำถามที่ ค่อนข้างชัดเจน และสมเหตุสมผล สมมติฐานค่อนข้าง ชัดเจนและ สอดคล้อง ตั้งคำถามที่ไม่ ชัดเจน สมมติฐาน ไม่ค่อยชัดเจน หรือไม่สอดคล้อง กับคำถาม ตั้งคำถามที่ไม่ สมเหตุสมผล หรือไม่เกี่ยวข้อง สมมติฐานไม่ ชัดเจนและไม่ สอดคล้อง 2. การออกแบบ การทดลอง ออกแบบการ ทดลองที่ชัดเจน มี การควบคุมตัวแปร และมีขั้นตอนที่ ละเอียด ออกแบบการ ทดลองที่ค่อนข้าง ชัดเจน มีการ ควบคุมตัวแปรและ ขั้นตอนที่ค่อนข้าง ละเอียด การออกแบบการ ทดลองขาดความ ชัดเจน มีการ ควบคุมตัวแปรแต่ ไม่ละเอียด ออกแบบการ ทดลองที่ไม่ชัดเจน ไม่มีการควบคุมตัว แปรหรือไม่มี ขั้นตอนที่ชัดเจน 3. การดำเนิน การทดลอง ดำเนินการทดลอง ตามขั้นตอนอย่าง ละเอียดและ แม่นยำ มีการ บันทึกข้อมูลที่ ครบถ้วน ดำเนินการทดลอง ตามขั้นตอน ค่อนข้างละเอียด และแม่นยำ บันทึก ข้อมูลเกือบ ครบถ้วน ดำเนินการทดลอง แต่ขาดความ ละเอียดและ แม่นยำ บันทึก ข้อมูลไม่ครบถ้วน ดำเนินการทดลอง อย่างไม่ละเอียด และไม่แม่นยำ บันทึกข้อมูลไม่ ครบถ้วน 4. การวิเคราะห์ ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล อย่างละเอียด ใช้ กราฟและตาราง เพื่อช่วยในการ วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อมูล ค่อนข้างละเอียด ใช้กราฟและตาราง บางส่วน วิเคราะห์ข้อมูล ขาดความละเอียด ใช้กราฟและตาราง ไม่ครบถ้วน วิเคราะห์ข้อมูลไม่ ละเอียดและไม่ใช้ กราฟหรือตารางใน การวิเคราะห์ 5. การสรุปผล สรุปผลการทดลอง อย่างชัดเจนและ ตรงกับข้อมูลที่ ได้รับ มีการ เปรียบเทียบกับ สมมติฐาน สรุปผลการทดลอง ค่อนข้างชัดเจน และตรงกับข้อมูลที่ ได้รับ เปรียบเทียบ กับสมมติฐาน บางส่วน สรุปผลการทดลอง ขาดความชัดเจน ไม่ตรงกับข้อมูลที่ ได้รับ ไม่ เปรียบเทียบกับ สมมติฐาน สรุปผลการทดลอง ไม่ชัดเจน ไม่ตรง กับข้อมูลที่ได้รับ ไม่เปรียบเทียบกับ สมมติฐาน
เกณฑ์ การประเมิน ระดับ 4 (ยอดเยี่ยม) ระดับ 3 (ดี) ระดับ 2 (พอใช้) ระดับ 1 (ต้องปรับปรุง) 6. การอภิปรายผล อภิปรายผลการ ทดลองอย่าง ละเอียด มีการ อ้างอิงทฤษฎีและ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อภิปรายผลการ ทดลองค่อนข้าง ละเอียด มีการ อ้างอิงทฤษฎีและ งานวิจัยบางส่วน อภิปรายผลการ ทดลองขาดความ ละเอียด ไม่มีการ อ้างอิงทฤษฎีหรือ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อภิปรายผลการ ทดลองไม่ละเอียด และไม่มีการอ้างอิง ทฤษฎีหรืองานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง 7. การนำเสนอผล การทดลอง นำเสนอผลการ ทดลองอย่าง ชัดเจนและมี โครงสร้างที่ดี ใช้ สื่อและอุปกรณ์ ช่วยอย่าง เหมาะสม นำเสนอผลการ ทดลองค่อนข้าง ชัดเจนและมี โครงสร้าง ใช้สื่อ และอุปกรณ์ช่วย บางส่วน นำเสนอผลการ ทดลองขาดความ ชัดเจนและ โครงสร้าง ใช้สื่อ และอุปกรณ์ช่วยไม่ ครบถ้วน นำเสนอผลการ ทดลองไม่ชัดเจน และไม่มีโครงสร้าง ไม่ใช้สื่อและ อุปกรณ์ช่วย การให้คะแนนและการสะท้อนผล หลังจากประเมินการทดลอง ควรให้คะแนนตามตารางรูบริกและให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนเพื่อให้ นักเรียนสามารถปรับปรุงและพัฒนาทักษะของตนในอนาคตได้ รวมคะแนน: • แต่ละเกณฑ์มีคะแนนเต็ม 4 คะแนน • คะแนนรวมทั้งหมดคือ 28 คะแนน ข้อเสนอแนะ: • ให้ข้อเสนอแนะเฉพาะในแต่ละเกณฑ์ที่นักเรียนทำได้ดีและควรปรับปรุง • ส่งเสริมให้นักเรียนสะท้อนผลการเรียนรู้ของตนเองและตั้งเป้าหมายสำหรับการปรับปรุง ในครั้งต่อไป ตารางรูบริกนี้จะช่วยให้การประเมินมีความเป็นระบบ ยุติธรรม และสามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็น ประโยชน์ต่อนักเรียนในการพัฒนาทักษะการทำงานวิจัยและการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างคำอธิบายให้นักเรียนทราบว่า นักเรียนจะต้องมีการประเมินเมื่อไร และเกี่ยวข้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้จากเนื้อหาเป็นอย่างไร ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “สร้างคำอธิบายสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาภาษาอังกฤษ โดยมี วัตถุประสงค์ของการประเมินปลายทางที่ใช้เมื่อสิ้นสุดหน่วยการเรียนรู้ และความสอดคล้องกับผล การเรียนรู้จากเนื้อหาอย่างไร” การจัดโครงสร้างกิจกรรมการประเมินงานกลุ่ม เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนได้รับการสนับสนุน มีความท้าทาย และนักเรียนสามารถ ทำงานร่วมกันได้สำเร็จ ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างคำแนะนำสำหรับคำอธิบายที่ชัดเจนและโปร่งใสสำหรับการ ประเมินงานกลุ่ม ตัวอย่างการใช้งาน Prompt ต่อไปนี้ “สร้างคำอธิบายสำหรับชั้นเรียน วิชาคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เกี่ยวกับ ประโยชน์ของการใช้การประเมินกลุ่มและวิธีที่สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้จากหลักสูตร” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างงานกลุ่มที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่จากสมาชิกในกลุ่ม แต่ละคน ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “ สร้างการมอบหมายกลุ่มสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วิชาสังคมศึกษา เกี่ยวกับสาเหตุ ของสงครามกลางเมืองที่ต้องมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่จากสมาชิกกลุ่มแต่ละคน” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างคำจำกัดความที่ชัดเจนของบทบาทสำหรับนักเรียนแต่ละคนใน กลุ่ม ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “ สร้างคำอธิบายบทบาทของนักเรียนแต่ละคนในการทำโครงงานเกี่ยวกับระบบสุริยะ สำหรับชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6” การใช้กลยุทธ์การประเมินรายทาง ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างกิจกรรมการประเมินระหว่างทาง ที่ให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งกิจกรรมการเรียนการสอน ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “สร้างกิจกรรมการประเมินรายทางสำหรับวิชาคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง สมการกำลังสอง”
ผลลัพธ์ที่ได้ การสร้างกิจกรรมการประเมินรายทางสำหรับวิชาคณิตศาสตร์ในเรื่องสมการกำลังสองสำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ควรเน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียน การคิดวิเคราะห์ และการ ประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ต่างๆ นี่คือตัวอย่างกิจกรรมการประเมินรายทางที่สามารถใช้ได้: 1. การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Collaborative Learning) กิจกรรม : ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อทำงานร่วมกันในการแก้โจทย์สมการกำลังสองที่มีลักษณะต่างๆ เช่น สมการที่มีรากเป็นจำนวนจริง รากซ้ำ หรือรากเชิงซ้อน การประเมิน : ประเมินการทำงานเป็นทีม ความสามารถในการอธิบายวิธีการแก้โจทย์ และ ความถูกต้องของคำตอบ 2. การแก้ปัญหาผ่านสถานการณ์จำลอง (Problem-based Learning) กิจกรรม : สร้างสถานการณ์จำลองที่นักเรียนต้องใช้สมการกำลังสองในการแก้ปัญหา เช่น การ คำนวณระยะทาง การหาจำนวนเงิน หรือการหาค่าใช้จ่าย การประเมิน : ประเมินความสามารถในการระบุปัญหา การตั้งสมการ และการแก้สมการ รวมถึง การนำเสนอคำตอบและเหตุผล 3. แบบฝึกหัดและการสะท้อนความคิด (Exercises and Reflection) กิจกรรม : ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่หลากหลาย เช่น การแยกตัวประกอบ การใช้สูตรควอดราติก และการทำกราฟสมการกำลังสอง การประเมิน : ประเมินความถูกต้องของคำตอบ ความสามารถในการอธิบายวิธีการ และการ สะท้อนความคิดผ่านการเขียนบันทึกการเรียนรู้ 4. การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ (Technology Integration) กิจกรรม : ใช้แอปพลิเคชันหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการแก้สมการกำลังสอง เช่น การใช้ โปรแกรมกราฟในการวาดกราฟของสมการกำลังสอง หรือการใช้เครื่องคำนวณกราฟิก การประเมิน : ประเมินการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี ความเข้าใจในการอ่านผลลัพธ์จากเครื่องมือ และการนำเสนอข้อมูล
5. การสอนเพื่อน (Peer Teaching) กิจกรรม : ให้นักเรียนเตรียมการสอนสมการกำลังสองให้กับเพื่อนในชั้น โดยเลือกหัวข้อที่ตนเอง ถนัดและทำการสอน การประเมิน : ประเมินความเข้าใจของนักเรียนในเนื้อหาที่สอน ความสามารถในการอธิบาย และ การตอบคำถามของเพื่อน 6. การแข่งขันคณิตศาสตร์ (Math Competition) กิจกรรม : จัดการแข่งขันแก้โจทย์สมการกำลังสองแบบต่างๆ โดยมีโจทย์ที่ท้าทายและมีเวลาใน การแก้ไข การประเมิน : ประเมินความถูกต้องของคำตอบ ความเร็วในการแก้โจทย์ และการทำงานภายใต้ ความกดดัน 7. การทำโครงงานคณิตศาสตร์ (Mathematics Project) กิจกรรม : ให้นักเรียนทำโครงงานเกี่ยวกับสมการกำลังสอง เช่น การศึกษาประวัติของสมการกำลัง สอง การนำสมการกำลังสองมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือการวิจัยเกี่ยวกับสมการกำลังสอง การประเมิน : ประเมินความคิดสร้างสรรค์ ความถูกต้องของข้อมูล การวิเคราะห์ และการนำเสนอ การสรุปผลและการปรับปรุง หลังจากประเมินกิจกรรมต่างๆ ควรมีการสะท้อนผลการเรียนรู้ร่วมกันกับนักเรียน เพื่อให้พวกเขา เห็นข้อดีและข้อเสียของการเรียนรู้และการแก้ไขปัญหา เพื่อปรับปรุงการเรียนรู้ในอนาคต กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสมการกำลังสองและสามารถ นำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างข้อความสำหรับงานประเมินตนเองที่ช่วยให้นักเรียนสะท้อนการ เรียนรู้ของตนเองและระบุด้านที่ต้องปรับปรุง ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “สร้างงานประเมินตนเองสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับ กระบวนการเขียน”
การใช้การประเมินสรุปการเรียนรู้ของนักเรียน ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างการประเมินสรุปการเรียนรู้ของนักเรียนเมื่อเรียนจบหน่วยการ เรียนรู้หรือจบเนื้อหา ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “สร้างงานสำหรับการประเมินสรุปผลการเรียนเรื่อง กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4” ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างการให้คะแนนการประเมินสรุปผลการเรียนรู้ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “สร้างชุดเกณฑ์การทำเครื่องหมายสำหรับการทดสอบวิชาชีววิทยา เรื่อง พันธุศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 6” ผลลัพธ์ที่ได้ การสร้างชุดเกณฑ์การทำเครื่องหมายสำหรับการทดสอบวิชาชีววิทยาเรื่องพันธุศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต้องมีความชัดเจน ครอบคลุม และสามารถวัดผลการเรียนรู้ ของนักเรียนได้อย่างถูกต้อง นี่คือตัวอย่างชุดเกณฑ์การทำเครื่องหมายที่สามารถใช้ได้: ตัวอย่างข้อสอบและชุดเกณฑ์การทำเครื่องหมาย ข้อสอบ 1. ข้อเขียน (Essay) - อธิบายกระบวนการแยกตัวของโครโมโซมในระหว่างการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสและไมโทซิส - อธิบายหลักการของกฎเมนเดลและการทดลองที่นำไปสู่การค้นพบกฎนี้ - อธิบายลักษณะทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านการทำงานของ DNA และ RNA 2. ข้อปรนัย (Multiple Choice) - คำถามที่เกี่ยวกับการแยกตัวของโครโมโซม การข้ามคู่ และการรวมตัวกันใหม่ในระหว่างการ แบ่งเซลล์ - คำถามเกี่ยวกับกฎการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและการทำงานของยีน - คำถามเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมแบบต่างๆ เช่น การถ่ายทอดแบบโด มินันท์และรีเซสซีฟ
3. ข้อปฏิบัติ (Practical) - การคำนวณความน่าจะเป็นของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมในแบบผังพีเนต (Punnett Square) - การวิเคราะห์แผนภูมิวงศ์ตระกูล (Pedigree Analysis) - การสกัด DNA จากตัวอย่างชีวภาพ เกณฑ์การทำเครื่องหมาย ข้อเขียน (Essay) 1. กระบวนการแยกตัวของโครโมโซมในไมโอซิสและไมโทซิส (20 คะแนน) - อธิบายขั้นตอนการแบ่งเซลล์ไมโอซิสอย่างละเอียด (10 คะแนน) - อธิบายขั้นตอนการแบ่งเซลล์ไมโทซิสอย่างละเอียด (10 คะแนน) 2. กฎเมนเดลและการทดลอง (20 คะแนน) - อธิบายหลักการของกฎเมนเดล (10 คะแนน) - บรรยายการทดลองของเมนเดลที่นำไปสู่การค้นพบกฎนี้ (10 คะแนน) 3. การทำงานของ DNA และ RNA (20 คะแนน) - อธิบายการทำงานของ DNA ในการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม (10 คะแนน) - อธิบายการทำงานของ RNA ในการสังเคราะห์โปรตีน (10 คะแนน) ข้อปรนัย (Multiple Choice) (30 คะแนน) - คำตอบถูกต้อง: 1 คะแนนต่อข้อ - คำตอบผิด: 0 คะแนน ข้อปฏิบัติ (Practical) 1. การคำนวณความน่าจะเป็นด้วยผังพีเนต (10 คะแนน) - คำนวณความน่าจะเป็นได้ถูกต้องและครบถ้วน (5 คะแนน) - อธิบายวิธีการคำนวณอย่างชัดเจน (5 คะแนน) 2. การวิเคราะห์แผนภูมิวงศ์ตระกูล (10 คะแนน) - วิเคราะห์แผนภูมิวงศ์ตระกูลได้ถูกต้อง (5 คะแนน) - อธิบายการวิเคราะห์อย่างละเอียด (5 คะแนน) 3. การสกัด DNA (10 คะแนน) - ดำเนินกระบวนการสกัด DNA ได้ครบถ้วนและถูกต้อง (5 คะแนน) - อธิบายขั้นตอนและหลักการในการสกัด DNA (5 คะแนน)
สรุปการให้คะแนน - ข้อเขียน: 60 คะแนน - ข้อปรนัย: 30 คะแนน - ข้อปฏิบัติ: 30 คะแนน - รวม: 100 คะแนน การให้ข้อเสนอแนะ (Feedback) หลังการทดสอบ ควรให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อดีและข้อที่ต้องปรับปรุงของ นักเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถนำข้อเสนอแนะไปพัฒนาการเรียนรู้ของตนในอนาคต ชุดเกณฑ์การทำเครื่องหมายนี้จะช่วยให้การประเมินผลมีความเป็นระบบ โปร่งใส และ ยุติธรรมต่อนักเรียนทุกคน การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการประเมินและให้ข้อเสนอแนะ ใช้ ChatGPT เพื่อสร้างการแจ้งเตือนสำหรับการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการประเมิน และการให้ข้อเสนอแนะ ตัวอย่างการใช้งาน Prompt “สร้างแนวคิดสำหรับการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเขียนของนักเรียน ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่5” สิ่งพิเศษ การขอให้ ChatGPT เป็นผู้ถามที่ปรับเปลี่ยนได้ โดยการใช้งาน Prompt “ฉันกำลังพยายามปรับปรุงการสอนพีชคณิต ถามคำถามเกี่ยวกับพีชคณิตกับฉัน และ ถามคำถามแบบปรับตัวให้ฉันต่อไปเพื่อสำหรับการปรับปรุง" หากตอบถูกจะทำให้ครูมีคำถามที่ยากขึ้น หากตอบผิด มันจะให้ข้อเสนอแนะสำหรับการ สร้างข้อคำที่ง่ายขึ้น