The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการขับเคลื่อนระบบประกันฯ ปี 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by supervisor-lib nan1, 2023-07-12 23:51:40

คู่มือการขับเคลื่อนระบบประกันฯ ปี 2566

คู่มือการขับเคลื่อนระบบประกันฯ ปี 2566

1 สารบัญ เรื่อง หน้า การดำเนินการขับเคลื่อนการประกันคุณภาพภายใน ๓ ตอนที่ 1 การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและการประกาศค่าเป้าหมาย ๔ ตอนที่ 2 การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ๔ -๕ ตอนที่ 3 การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ๖ -๘ ตอนที่ 4 การจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ๙ – ๑๑ รายละเอียด มาตรฐานการศึกษาและคำอธิบาย ๑๒-๒๗ ตัวอย่าง เครื่องมือการติดตาม การขับเคลื่อนงานประกันคุณภาพภายใน ๒๘-42 ตัวอย่าง กำหนดค่าเป้าหมาย คำสั่ง ฯลฯ คู่มือการใช้งาน apps.ednan1.go.th/pragun ๔๓-๔๙ ภาคผนวก QR CODE


2 การดำเนินการขับเคลื่อนการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาของ สพป.น่าน เขต ๑ สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีนโยบายเร่งรัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 ข้อ 3 ให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงแผนระดับ 3 ในความรับผิดชอบตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยมีจุดเน้นการพัฒนาระบบประกัน คุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต ๑ ได้ดำเนินการอย่าง ต่อเนื่องมาโดยตลอดมีการขับเคลื่อนเป็นระบบและต่อเนื่องตามลำดับขั้นตอน ๑. กำหนดกรอบในการวางแผนและพัฒนาระบบ การประกันคุณภาพ ๒. สถานศึกษาดำเนินการสื่อสารและสร้างความ เข้าใจให้กับผู้เกี่ยวข้อง ๓. สถานศึกษาวิเคราะห์และทบทวนความสอดคล้อง และความเชื่อมโยงของมาตรฐานการศึกษา สถานศึกษาดำเนินการประชาพิจารณ์มาตรฐาน การศึกษา ๔. สถานศึกษาประกาศมาตรฐานและค่าเป้าหมาย ๕. สถานศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ของสถานศึกษาและดำเนินการตามแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษา ๖. สถานศึกษาประเมินคุณภาพภายในที่ต้อง ตรวจสอบและประเมินตนเอง ๗. สถานศึกษาประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา โดยให้มี คณะกรรมการ ประเมินคุณภาพภายในอย่างน้อย ๓ คน ๘. สถานศึกษาสรปุและจัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายในของ สถานศึกษา ๙. สถานศึกษาควรมีการสร้างเครือข่ายร่วมมือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาควรมีการจัดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดำเนินงานตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ข้อ 3 ได้กำหนดแนวดำเนินการประกัน คุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา เพื่อให้สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพ ของสถานศึกษาให้เข้มแข็ง ดังนั้นเพื่อให้สถานศึกษามีแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาให้ เป็นไป ตามกฎกระทรวงฯ ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และบรรลุเป้าประสงค์ของหน่วยงานต้น สังกัด หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต ๑ จึงได้ศึกษา และวิเคราะห์กฎกระทรวงฯ และกำหนดเป็นแนวดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาไว้ 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและการประกาศค่าเป้าหมาย ตอนที่ 2 การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ตอนที่ 3 การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ตอนที่ 4 การจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา


3 ตอนที่ 1 การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และการประกาศค่าเป้าหมาย การกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และการประกาศค่าเป้าหมาย หมายถึง การที่ สถานศึกษา โดยผู้บริหาร ครู บุคลากร คณะกรรมการ ฯลฯ ร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์มาตรฐานการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศ เพื่อนำมาใช้ในการเทียบเคียงกำหนดเป็นมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และกำหนดค่าเป้าหมายความสำเร็จของการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา มีแนว ดำเนินการ ดังนี้ ขั้นที่ 1 ศึกษามาตรฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด ขั้นที่ 2 พิจารณาสาระสำคัญที่อาจจะกำหนดเพิ่มเติมในรายละเอียด และคำอธิบาย ขั้นที่ 3 กำหนดค่าเป้าหมายความสำเร็จของมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ขั้นที่ 4 ประชาพิจารณ์มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และค่าเป้าหมายความสำเร็จ ขั้นที่ 5 นำมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาของสถานศึกษา และค่าเป้าหมายความสำเร็จ เสนอคณะกรรมการบริหารโรงเรียนให้ความเห็นชอบ ขั้นที่ 6 ประกาศมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และค่าเป้าหมายความสำเร็จ ให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งภายใน และภายนอกทราบ สถานศึกษานำมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และค่าเป้าหมายความสำเร็จของมาตรฐานที่ผ่าน ความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ประกาศให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบตาม ช่องทางต่างๆ เช่น ป้ายนิเทศ แผ่นพับ จุลสาร วารสาร เว็บไซด์ (Website)ของโรงเรียน หรือชี้แจงในการประชุม ครู การปฐมนิเทศผู้ปกครอง เป็นต้น ตอนที่ 2 การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา หมายถึง การวางแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา มีกรอบระยะเวลา 3 - 5 ปี โดยกำหนดวิธีการ โครงการ กิจกรรม ที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา 1. สาระสำคัญของการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เพื่อให้มีคุณภาพตามที่กำหนดใน กฎกระทรวงฯ ที่ให้สถานศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษา มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1) ศึกษามาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา สภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นของ สถานศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยใช้ข้อมูลตามสภาพจริง 2) กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายด้านต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นคุณภาพผู้เรียนและความสำเร็จของ การพัฒนาไว้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม 3) กำหนดวิธีดำเนินงาน กิจกรรม โครงการที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยใช้ผลการวิจัยหรือข้อมูลเชิงประจักษ์ที่อ้างอิงได้ ให้ครอบคลุมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาด้านการจัด ประสบการณ์ การเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ การส่งเสริมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการพัฒนาบุคลากร และการบริหารจัดการเพื่อให้บรรลุมาตรฐานการศึกษาที่กำหนดไว้ 4) กำหนดแหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่นจากภายนอกที่ให้การสนับสนุนทางวิชาการ 5) กำหนดบทบาทหน้าที่ให้บุคลากรของสถานศึกษาและผู้เรียนรับผิดชอบและดำเนินงานตาม ที่กำหนดไว้ในแผนอย่างมีประสิทธิภาพ


4 6) กำหนดบทบาทหน้าที่และแนวทางการมีส่วนร่วมของบิดา มารดา ผู้ปกครอง องค์กร หน่วยงาน ชุมชน และท้องถิ่น 7) กำหนดการใช้งบประมาณและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับกิจกรรม โครงการ 8) เสนอแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียน 2. ขั้นตอนการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษามี 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 แต่งตั้งคณะทำงาน คณะทำงานควรประกอบด้วยคณะบุคคลจากหลายฝ่ายทั้งในและนอกสถานศึกษา เช่น ผู้บริหาร หัวหน้างาน ผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชน เป็นต้น ตามความเหมาะสมเพื่อให้คณะทำงานดำเนินการรวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับสภาพภายในและภายนอกสถานศึกษา การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภายในด้านจุดแข็ง จุดอ่อน และสภาพภายนอกด้านโอกาส อุปสรรคในการจัดการศึกษา จัดเก็บหรือรวบรวมจากแหล่งข้อมูลด้านกฎหมาย นโยบาย มาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษา รวมทั้งความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ฯลฯ ขั้นที่ 3 วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภายในและภายนอกของสถานศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภายในด้านจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา และสภาพภายนอก ด้านโอกาสและอุปสรรคของสถานศึกษา ขั้นที่ 4 กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายของสถานศึกษา - การกำหนดวิสัยทัศน์โดยการนำผลการวิเคราะห์สภาพภายในและภายนอกสถานศึกษามา ประมวลเพื่อเป็นทิศทางการพัฒนาสถานศึกษาในอนาคต - การกำหนดพันธกิจ เป็นการนำวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาแต่ละข้อความแต่ละส่วน มากำหนด ภาระงาน - การกำหนดเป้าหมาย เป็นการกำหนดสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากดำเนินการตามพันธกิจ ขั้นที่ 5 กำหนดกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความสำเร็จ และชื่อโครงการ กิจกรรม การกำหนดกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความสำเร็จ และชื่อโครงการ กิจกรรม ให้นำข้อมูลวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายในขั้นที่ 4 เป็นฐานในการกำหนด ขั้นที่ 6 กำหนดแผนการดำเนินงาน การกำหนดแผนการดำเนินงานเป็นการนำตัวชี้วัดความสำเร็จ โครงการ กิจกรรม แต่ละกลยุทธ์ มากำหนดงบประมาณ แผนการดำเนินงาน แหล่งวิทยาการภายนอกที่ให้การสนับสนุนทางวิชาการ บทบาทหน้าที่ บุคลากรของโรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำหนดแผนการกำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน ขั้นที่ 7 กำหนดวิธีการนำแผนพัฒนาสู่การปฏิบัติ การกำหนดวิธีการนำแผนพัฒนาไปใช้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความเข้าใจและดำเนินงานตาม แผนให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ


5 3. แนวการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จากสาระสำคัญของการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในข้อที่ 1 ได้สรุป เป็นองค์ประกอบของแผนพัฒนาไว้ 8 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ภาพรวมของโรงเรียน ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ส่วนที่ 3 การกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ และโครงการ กิจกรรม ส่วนที่ 4 การกำหนดแผนการดำเนินงาน และงบประมาณ ส่วนที่ 5 แหล่งวิทยาการภายนอกที่ให้การสนับสนุนทางวิชาการ ส่วนที่ 6 การกำหนดบทบาทหน้าที่บุคลากรของโรงเรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนที่ 7 การกำกับติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน ส่วนที่ 8 การนำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาไปใช้แต่ละส่วนมีรายละเอียดใน การจัดทำ ตอนที่ 3 การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา การดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา หมายถึง การนำแผนพัฒนาที่ กำหนดไว้สู่การปฏิบัติ โดยจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพ การจัดการ ศึกษาของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ และบังเกิดผลดีต่อการบริหารจัดการของสถานศึกษา อาจจัดทำเป็น ปีงบประมาณ หรือปีการศึกษาเป็นไปตามความพร้อมของโรงเรียน และนโยบายของต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่ กำกับดูสถานศึกษาในการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีให้มีคุณภาพสอดคล้องกับแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ของสถานศึกษาควรดำเนินการ ดังนี้ 1. ศึกษาและวิเคราะห์แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและจัดทำแผนปฏิบัติการ ประจำปีให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา 2. กำหนดปฏิทินการนำแผนปฏิบัติการประจำปีไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน 3. เสนอแผนปฏิบัติการประจำปีต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียนให้ความเห็นชอบ ขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี ขั้นที่ 1 แต่งตั้งคณะทำงาน คณะทำงานควรประกอบด้วยคณะบุคคลจากหลายฝ่ายทั้งในและนอกสถานศึกษา เช่นผู้บริหาร หัวหน้างาน ผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง และชุมชนตามความเหมาะสม ขั้นที่ 2 ศึกษาและวิเคราะห์แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ทำความเข้าใจสาระสำคัญของแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาตามเป้าหมายแต่ละปี การศึกษาให้ชัดเจน เพื่อนำสู่การจัดทำโครงการ กิจกรรมในแผนปฏิบัติการประจำปี ขั้นที่ 3 วิเคราะห์และจัดทำรายละเอียดโครงการ กิจกรรม 3.1 ชื่อโครงการ ชื่อโครงการ ต้องมีความชัดเจนเหมาะสม เฉพาะเจาะจง น่าสนใจ เป็นที่เข้าใจง่าย ว่าจะทำอะไรกับกลุ่มเป้าหมายใด ภายใต้ชื่อโครงการ อาจมีหัวข้อดังนี้ - ชื่อกิจกรรม (ถ้ามี) - แผนงาน - ลักษณะของโครงการ : (ถ้าเป็นโครงการต่อเนื่องให้ระบุปีที่เริ่มต้นทำถึงปีที่สิ้นสุด โครงการ) - สนองกลยุทธ์โรงเรียน (ข้อใด)


6 - สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา (ข้อใด) - ผู้รับผิดชอบโครงการ กิจกรรม - ฝ่ายที่รับผิดชอบ 3.2 หลักการและเหตุผล หลักการ เป็นการนำเสนอที่มาของโครงการโดยคำนึงถึงนโยบายทางการศึกษาระดับ ต่าง ๆ จุดหมายในการจัดการศึกษา ปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษา วิสัยทัศน์ พันธกิจ ของสถานศึกษา หรือกระแสสังคมที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ส่วนเหตุผลนั้นเป็นการนำเสนอข้อความที่สนับสนุน หรือยืนยันที่ให้เห็นว่าโครงการ กิจกรรมมีความจำเป็นอย่างไร หากไม่ดำเนินการจะมีผลเสียหายต่อคุณภาพ การศึกษาอย่างไรและหากดำเนินการแล้วจะเป็นผลดีต่อคุณภาพการศึกษาอย่างไร ในส่วนนี้ควรนำเสนอข้อมูล สนับสนุนเชิงปริมาณและคุณภาพรวมทั้งข้อเสนอแนะจากการประเมินคุณภาพทั้งภายในและภายนอกไว้ก็จะเป็น หลักฐานแสดงถึงความตระหนักและความพยายามของสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยให้โครงการ กิจกรรมนั้นๆ มี ความสำคัญและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น 3.3 วัตถุประสงค์ เป็นส่วนที่บอกให้ทราบถึงผลที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการ กิจกรรม ประมาณ 1-3 ข้อ เป็นรูปธรรมสามารถปฏิบัติและวัดได้ 3.4 เป้าหมาย ควรประกอบด้วยเป้าหมายเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพที่สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ของโครงการ กิจกรรม ทั้งนี้ อาจเขียนทั้งเป้าหมายเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพอยู่ในข้อเดียวกันได้ 3.4.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ เป็นเป้าหมายที่แสดงผลเชิงตัวเลข 3.4.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ เป็นเป้าหมายที่ระบุคุณภาพที่รองรับหลักการและ เหตุผล หรือประโยชน์ของโครงการ การเขียนเป้าหมายเชิงคุณภาพนั้น อาจเขียนระบุความสำเร็จที่ปรากฏเป็น เชิงปริมาณว่ามีคุณภาพใดก็ได้ 3.5 วิธีดำเนินการ เป็นการนำเสนอขั้นตอนการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญเพื่อให้งานบรรลุ วัตถุประสงค์ กำหนดให้ชัดเจนว่าจะทำอะไร ใครเป็นผู้ทำ ทำที่ไหน ทำอย่างไร เริ่มต้นเมื่อใด เสร็จสิ้นเมื่อใด ได้ผลประการใด หรืออาจจะแสดงเป็นแผนการดำเนินงาน (Gantt Chart) 3.6 ระยะเวลาการดำเนินงานโครงการ กิจกรรมเป็นการระบุระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้น จนเสร็จสิ้นโครงการ 3.7 งบประมาณ เป็นการนำเสนอประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นของโครงการ กิจกรรม อาจจะเขียนงบประมาณรวมหรือจำแนกรายละเอียดค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม 3.8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการให้แนวทางแก่ผู้อนุมัติและผู้ปฏิบัติว่าในการดำเนิน โครงการ กิจกรรมนั้นควรจะประสานและขอความร่วมมือกับหน่วยงานใดบ้าง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ 3.9 สถานที่ดำเนินการ เป็นการระบุว่าใช้สถานที่ใดในการดำเนินงาน 3.10 การประเมินผลโครงการ เป็นการกำหนดให้ทราบว่า โครงการ กิจกรรมจะได้รับการ ประเมินส่วนใดบ้างด้วยวิธีการ และเครื่องมือประเมินประเภทใด ให้สอดคล้องครอบคลุมกับตัวชี้วัดความสำเร็จ ของโครงการ กิจกรรม 3.11 ผลที่คาดว่าจะได้รับ เป็นการระบุผลที่คาดว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว กลุ่มเป้าหมาย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้รับผลทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไรเมื่อสิ้นสุดโครงการ


7 ขั้นที่ 4 จัดทำรูปเล่มแผนปฏิบัติการประจำปี การจัดทำรูปเล่มแผนปฏิบัติการประจำปี ประกอบด้วย 4 ส่วน มีรายละเอียดในการจัดทำ ดังนี้ ส่วนที่ 1 ภาพรวมของโรงเรียน มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา นโยบายหรือเป้าหมายของโรงเรียน ข้อมูลครู บุคลากร ข้อมูล นักเรียน แผนที่ตั้งของโรงเรียน อาคารเรียน อาคารประกอบ ห้องเรียน ห้องประกอบ โครงสร้าง การบริหารงานของโรงเรียน สิ่งอำนวยความสะดวก เป้าหมาย อัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของสถานศึกษา ผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปี (รอบปีที่ผ่านมา) ผลการประเมินคุณภาพภายใน (รอบปีที่ผ่านมา) ประมาณการรายรับของโรงเรียนปีการศึกษาที่จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี(ใช้ข้อมูลนักเรียนปีปัจจุบันเป็นฐาน ในการประมาณการจำนวนนักเรียน และการคิดงบประมาณ) ส่วนที่ 2 ทิศทางการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา มีเนื้อหาเกี่ยวกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ สภาพความสำเร็จหรือตัวชี้วัดความสำเร็จ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อสิ้นปีการศึกษา ส่วนที่ 3 แผนการดำเนินโครงการ กิจกรรม ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) โครงการ กิจกรรม และงบประมาณ จำแนกตามโครงสร้าง การ บริหารงานของสถานศึกษา 2) รายละเอียดโครงการ กิจกรรม ส่วนที่ 4 การกำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปี กำหนดแผนการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานแต่ละโครงการ กิจกรรม โดยระบุวิธีการ เครื่องมือ ระยะเวลา และผู้ประเมินให้ชัดเจน ภาคผนวก - สำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน หรือคณะกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี - บันทึกการพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการประจำปีของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ตอนที่ ๔ การจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา การจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา เป็นผลที่เกิดจากการประเมินผลและ ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา และติดตามผลการดำเนินการตามมาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษาที่สถาน ศึกษาจัดทำขึ้น เพื่อให้ทราบว่าสถานศึกษามีผลการดำเนินงานในภาพรวมและ รายมาตรฐานอยู่ระดับคุณภาพใด มีหลักฐานข้อมูลใดที่สนับสนุนว่าสถานศึกษามีคุณภาพอยู่ระดับนั้น เพื่อให้ ผู้บริหารใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาตลอดทั้งปีเพื่อให้การจัด การศึกษามีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น 1. ความหมายของการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง การจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง หมายถึง การจัดทำรายงานผลที่เกิดจากการบริหาร จัดการ ศึกษา ของสถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาที่ครอบคลุมตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาและนำเสนอ ต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียน หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ต่อสาธารณชน 2. วัตถุประสงค์ของการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง 2.1 เพื่อนำเสนอผลการพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมาต่อ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ต่อสาธารณชน 2.2 เพื่อเป็นฐานข้อมูลของสถานศึกษาในการจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี และเป็นฐานข้อมูลสำหรับการประเมินคุณภาพภายนอก


8 3. ประโยชน์ของการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง 3.1 สถานศึกษามีฐานข้อมูลการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาทั้งในด้านจุดเด่น จุดควรพัฒนา โอกาส และข้อจำกัด เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาในปีถัดไป 3.2 สถานศึกษามีข้อมูลสารสนเทศเชิงประจักษ์ที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและ ผู้เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน 3.3 พ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับทราบผลการพัฒนาการจัด การศึกษาของสถานศึกษาทั้งในส่วนที่ดีและส่วนที่ควรพัฒนา เพื่อให้การช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเหมาะสม 3.4 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงาน การศึกษาเอกชนจังหวัด มีฐานข้อมูลในการกำหนดนโยบายการพัฒนาการจัดการศึกษา 3.5 สำนักงานรับรองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ใช้รายงาน ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก 4. ขั้นตอนการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง ขั้นที่ 1 แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะกรรมการควรประกอบด้วย คณะบุคคลจากหลายฝ่าย ได้แก่ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามความเหมาะสม ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลสารสนเทศ สถานศึกษารวบรวมข้อมูลสารสนเทศทั้งข้อมูลทั่วไป และ ข้อมูลผลการดำเนินงาน โครงการและกิจกรรมของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ขั้นตอนนี้ มีความสำคัญที่จะทำให้รายงานมีความสมบูรณ์ครบถ้วน ขั้นที่ 3 สรุปและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองสถานศึกษานำข้อมูลที่รวบรวมได้ มาสรุป และเขียนรายงานผลการประเมินตนเอง ขั้นที่ 4 นำเสนอคณะกรรมการบริหารโรงเรียนพิจารณาให้ความเห็นชอบ สถานศึกษานำรายงานที่เขียนเสร็จสมบูรณ์แล้วเสนอคณะกรรมการบริหารโรงเรียนพิจารณาให้ ความเห็นชอบเพื่อรับรองผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ขั้นที่ 5 เผยแพร่ต่อสาธารณชนหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สถานศึกษานำรายงานที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารโรงเรียนเผยแพร่ ต่อสาธารณชน ผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ครู ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ตามความเหมาะสมผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นพับ จุลสาร วารสาร เว็บไซต์ของโรงเรียน หรือชี้แจงในการประชุมครู การปฐมนิเทศผู้ปกครองเป็นต้น พร้อมทั้งนำส่ง หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษาเป็นประจำทุกปี 5. โครงสร้างหรือองค์ประกอบของรายงานผลการประเมินตนเอง รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ให้สถานศึกษาเป็นผู้กำหนดรูปแบบเองตามที่เห็น ว่าเหมาะสมสอดคล้อง และครอบคลุมผลการประเมินตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่มีหลักฐานข้อมูล ประกอบผลการดำเนินงานชัดเจน เพื่อนำไปใช้อ้างอิงในการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา และ เตรียมรับการประเมินคุณภาพภายนอก 6. การตัดสินและสรุปผลการประเมิน การตัดสินและสรุปผลการประเมินให้เน้นหลักการประเมินแบบองค์รวม (Holostic Assessment) ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence Based) ทั้งที่เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ และตัดสินในลักษณะองค์รวมไม่แยกส่วน ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 การตัดสินและสรุปผลการประเมินรายมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ส่วนที่ 2 การตัดสินและสรุปผลการประเมินในภาพรวม


9 แผนภาพการขับเคลื่อนตามวงจรเดลมิ่ง ชั้นเรียน มาตรฐานและตัวชี้วัดตามหลักสูตร แผนการจัดการเรียนรู้ บริหารจัดการชั้นเรียนและ สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้ ติดตามตรวจสอบการจัดการเรียนรู้ ประเมินผลการเรียนรู้ รายงานผลการจัดการเรียนรู้ พัฒนาการจัดการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่อง โรงเรียน มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาและแผนปฏิบัติการประจ าปี ระบบบริหารและสารสนเทศ ด าเนินงานตามแผนฯ ติดตามและตรวจสอบคุณภาพ การศึกษา ประเมินคุณภาพภายในตาม มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา เขียนรายงานประจ าปี พัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่าง ต่อเนื่อง การประกันคุณภาพการศึกษา PLAN DO CHECK ACT


10 มาตรฐานและประเด็นพิจารณาระดับปฐมวัย มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ๑.๑ มีการพัฒนาด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของ ตนเองได้ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กำลังพัฒนา ๑.๒ มีการพัฒนาด้านอารมณ์จิตใจ ควบคุม และแสดงงอออกทางอารมณ์ได้ ๑.๓ มีการพัฒนาการด้านสังคม ช่วยแหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหาความรู้ได้ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กำลังพัฒนา ๒.๑ มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น ๒.๒ จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ๒.๓ ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ ๒.๕ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ๒.๖ มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กำลังพัฒนา ๓.๑ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีการพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข ๓.๓ จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ๓.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงแลละนำผลประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการ จัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก มาตรฐานการศึกษา คำอธิบาย และระดับคุณภาพ การพัฒนามาตรฐานการศึกษา มีแนวคิดว่าต้องเป็นมาตรฐานที่สถานศึกษาปฏิบัติได้จริง ประเมินได้จริง กระซับ และจำนวนน้อย แต่สามารถสะท้อนบริบทของสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาได้จริง ข้อมูลที่ได้เกิด


11 ประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับหน่วยงาน ต้นสังกัด และระดับชาติ ดังนั้น การกำหนดมาตรฐานการศึกษาจึงเน้นที่คุณภาพผู้เรียน คุณภาพผู้บริหาร สถานศึกษา และคุณภาพครู มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาชาติ และข้อกำหนดใน กฎกระทรวงการ ประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรฐานการศึกษาในแต่ละระดับ กำหนดเกณฑ์การตัดสินคุณภาพของมาตรฐานมี ๕ ระดับ คือ ระดับกำลังพัฒนา ระดับปานกลาง ระดับดี ระดับดีเลิศ และระดับยอดเยี่ยม รายละเอียดของมาตรฐานการศึกษา แต่ละระดับ ประเด็นพิจารณาและระดับคุณภาพ ดังนี้ มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๑ มีจำนวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ รายละเอียดแต่ละมาตรฐาน มีดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ๑.๑ มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ ๑.๒ มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ ๑.๓ มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ คำอธิบาย มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ผลพัฒนาการเด็กในด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ๑.๑ มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ เด็กมีน้ำหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน เคลื่อนไหวร่างกายคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี ใช้มือ และ ตาประสานสัมพันธ์ได้ดี ดูแลรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตนและปฏิบัติจนเป็นนิสัย ปฏิบัติตนตามข้อตกลง เกี่ยวกับ ความปลอดภัย หลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค สิ่งเสพติด และระวังภัยจากบุคคล สิ่งแวดล้อม และ สถานการณ์ ที่เสี่ยงอันตราย ๑.๒ มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ เด็กร่าเริงแจ่มใส แสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่งใจ อดทนในการรอคอย ยอมรับและพอใจในความสามารถ และผลงานของตนเองและผู้อื่น มีจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี มีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ช่วยเหลือแบ่งปัน เคารพสิทธิ รู้หน้าที่รับผิดขอบ อดทนอดกลั้น ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรมตามที่สถานศึกษากำหนดขื่นซมและมีความสุขกับศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว ๑.๓ มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เด็กช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน มีวินัยในตนเอง ประหยัดและพอเพียง มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในและนอกห้องเรียน มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย เช่น การไหว้ การยิ้ม ทักทาย และมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ เป็นต้น ยอมรับหรือเคารพความแตกต่างระหว่างบุคคล เช่น ความคิด พฤติกรรม พื้นฐานครอบครัว เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เป็นต้น เล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ แก้ไขข้อ ขัดแย้ง โดยปราศจากการไข้ความรุนแรง ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ เด็กสนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ ตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัย และ พยายามค้นหาคำตอบ อ่านนิทานและเล่าเรื่องที่ตนเองอ่านได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการคิด รวบ


12 ยอด การคิดเซิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ การคิดแก้ปัญหาและสามารถตัดสินใจในเรื่องง่ายๆ ได้ สร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและจินตนาการ เช่น งานศิลปะ การเคลื่อนไหวท่าทาง การเล่นอิสระ เป็นต้น และใช้สื่อเทคโนโลยี เช่น แว่นขยาย แม่เหล็ก กล้องดิจิตอล เป็นต้น เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหา ความรู้ได้ การให้ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา กำลังพัฒนา- มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ยังไม่บรรลุตาม เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ปานกลาง - มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ยังไม่บรรลุตาม เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริม ในการพัฒนาเด็กที่ยังไม่บรรลุตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดี - มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา บรรลุตามเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนด ดีเลิศ - มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา บรรลุตามเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนด - มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริม ในการพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ยอดเยี่ยม - มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา บรรลุตามเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนด มีความพร้อมในการศึกษาระดับประถมศึกษา - มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรและมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมเสริม ในการพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง - มีส่วนร่วมของพ่อแม่ครอบครัว ชุมซน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็ก มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ๒.๑ มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น ๒.๒ จัดครูให้เพียงพอกับขั้นเรียน ๒.๓ ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ ๒.๕ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ๒.๖ มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม คำอธิบาย มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ สถานศึกษาดำเนินการบริหารและจัดการสถานศึกษาที่ครอบคลุมด้านวิชาการ ด้านครูและบุคลากร ด้านข้อมูลสารสนเทศ ด้านสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ และด้านระบบประกันคุณภาพภายใน โดย


13 เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มีการกำกับติดตามการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจต่อคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ๒.๑ มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น สถานศึกษา มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย โดยสถานศึกษาออกแบบการจัด ประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อมและไม่เร่งรัดวิชาการ เน้นการเรียนรู้ ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการและความแตกต่างของเด็กปกติและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของ ครอบครัว ขุมซนและท้องถิ่น ๒.๒ จัดครูให้เพียงพอกับขั้นเรียน สถานศึกษาจัดครูให้เหมาะสมกับภารกิจการเรียนการสอนหรือจัดครูที่จบการศึกษาปฐมวัย หรือผ่านการอบรมการศึกษาปฐมวัยอย่างพอเพียงกับขั้นเรียน ๒.๓ ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษา มีทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็ก ใช้ประสบการณ์สำคัญในการออกแบบ การจัดกิจกรรม มีการสังเกตและประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก และครอบครัว ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ สถานศึกษา จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่คำนึงถึงความปลอดภัย ส่งเสริมให้เกิด การเรียนรู้เป็น รายบุคคลและกลุ่ม เล่นแบบร่วมมือร่วมใจ มีมุมประสบการณ์หลากหลาย มีสื่อการเรียนรู้ เซ่น ของเล่น หนังสือ นิทาน สื่อจากธรรมชาติ สื่อสำหรับเด็กมุด ลอด ปีนป่าย สื่อเทคโนโลยี สื่อเพื่อการสืบเสาะหา ความรู้ ๒.๕ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ สำหรับครู สถานศึกษาอำนวยความสะดวก และให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศวัสดุ และอุปกรณ์ เพื่อ สนับสนุนการจัดประสบการณ์และพัฒนาครู ๒.๖ มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม สถานศึกษากำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย และรัตลักษณ์ที่สถานศึกษากำหนดจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดรับกับมาตรฐาน ที่สถานศึกษากำหนดและดำเนินการตามแผน มีการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี น่าผลการประเมินไปปรับปรุง และ พัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและจัดส่งรายงานผลการ ประเมิน ตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัด การให้ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา


14 กำลังพัฒนา - มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ไม่ยืดหยุ่นไม่สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและบริบทของ ท้องถิ่น -มีระบบบริหารคุณภาพ แต่ไม่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัย ปานกลาง -มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและบริบทของ ท้องถิ่น -มีระบบบริหารคุณภาพ แต่ไม่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัย ดี -มีหลักสูตรสถานศึกษาที่ยืดหยุ่น สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและบริบทของ ท้องถิ่น -จัดครูให้เพียงพอและเหมาะสมกับขั้นเรียน -มีการส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็น รายบุคคล -จัดสภาพแวดล้อมอย่างปลอดภัย และมีสื่อเพื่อการเรียนรู้อย่างเพียงพอและหลากหลาย -ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา -มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานของ สถานศึกษาและเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ดีเลิศ -มีการประเมินและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและ บริบทของท้องถิ่น -จัดครูให้เพียงพอและเหมาะสมกับขั้นเรียน -มีการส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็น รายบุคคล ตรงความต้องการของครูและสถานศึกษา -จัดสภาพแวดล้อมอย่างปลอดภัย และมีสื่อเพื่อการเรียนรู้อย่างเพียงพอและหลากหลาย - ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา


15 - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา การขี้แนะระหว่างการปฏิบัติงานที่ส่งผล ต่อคุณภาพตามมาตรฐานของสถานศึกษา บูรณาการการปฏิบัติงานและเปิดโอกาสให้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ยอดเยี่ยม - มีการประเมินและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และบริบทของห้องถิ่น - จัดครูให้เพียงพอและเหมาะสมกับขั้นเรียน - มีการส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ที่ส่งผลต่อคุณภาพเด็กเป็น รายบุคคล ตรงความต้องการของครูและสถานศึกษา และจัดให้มีชุมซนการเรียนรู้ทาง วิชาชีพ จัดสภาพแวดล้อมอย่างปลอดภัย และมีสื่อเพื่อการเรียนรู้อย่างเพียงพอและ หลากหลาย - ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ที่เหมาะสมและต่อเนื่อง มีการขี้แนะ ระหว่างการปฏิบัติงานส่งผลต่อคุณภาพตามาตรฐานของสถานศึกษา บูรณาการ การปฏิบัติงานและ เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมจนเป็นแบบอย่างที่ดีและ ได้รับการยอมรับจาก ซมซนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ๓.๑. จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข ๓.๓ จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ๓.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและน่าผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง การจัด ประสบการณ์และพัฒนาเด็ก คำอธิบาย มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ครูจัดประสบการณ์ให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุล เต็มศักยภาพ รู้จักเด็กเป็น รายบุคคลและสร้างโอกาสให้เด็กทุกคนได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและลงมือกระทำผ่านประสาทสัมผัส จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย มีการติดตามและประเมินผล พัฒนาการเด็กอย่างเป็นระบบ ๓.๑ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ครูวิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ จากการวิเคราะห์ มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็กครบทุก ด้าน ทั้งด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา ไม่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านใดด้านหนึ่ง เพียงด้านเดียว ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่น และปฏิบัติอย่างมีความสุข ครูจัดประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม ให้เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรม อย่างอิสระ ตามความต้องการ ความสนใจ ความสามารถ ตอบสนองต่อวิธีการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล หลากหลายรูปแบบ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เด็กได้เลือกเล่น เรียนรู้ ลงมือ กระทำ และสร้างองค์ ความรู้ด้วยตนเอง ๓.๓ จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ครูจัดห้องเรียนให้สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีพื้นที่แสดงผลงานเด็ก พื้นที่สำหรับ


16 มุมประสบการณ์และการจัดกิจกรรม เด็กมีส่วนร่วม ในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน เช่น ป้ายนิเทศ การดูแลต้นไม้ เป็นต้น ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับช่วงอายุ ระยะความสนใจ และวิถีการเรียนรู้ ของเด็ก เซ่น กล้องดิจิตอล คอมพิวเตอร์สำหรับการเรียนรู้กลุ่มย่อย สื่อของเล่นที่กระตุ้นให้คิดและหาคำตอบ เป็นต้น ๓.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง และนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง การจัด ประสบการณ์และพัฒนาเด็ก ครูประเมินพัฒนาการเด็กจากกิจกรรมและกิจวัตรประจำจันด้วยเครื่องมือและวิธีการ ที่ หลากหลาย ไม่ใช้แบบทดสอบ วิเคราะห์ผล การประเมินพัฒนาการเด็ก โดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วม และนำผลการประเมินที่ได้ไปพัฒนาคุณภาพเด็กและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดประสบการณ์ที่มี ประสิทธิภาพ การให้ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา กำลังพัฒนา -จัดประสบการณ์ที่ล่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ไม่สมดุล - ไม่สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติกิจกรรมอย่างอิสระตามความต้องการ ความสนใจและความสามารถของเด็ก ปานกลาง -จัดประสบการณ์ที่ล่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุล -สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติกิจกรรมอย่างอิสระตามความ ต้องการ ความสนใจและความสามารถของเด็ก ดี -จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุล เต็มศักยภาพของเด็กเป็นรายบุคคล -สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ลงมือทำและสร้างองค์ ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข -จัดบรรยากาศและสภาพ แวดล้อมในห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสม กับวัย - ครูประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วม นำผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก ดีเลิศ -จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุล เต็มศักยภาพโดยความร่วมมือของพ่อแม่และครอบครัว ชุมชนและผู้เกี่ยวข้อง -สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ลงมือทำและสร้าง องค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข - - - ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา


17 • -จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้โดยเด็กมีส่วนร่วมใช้สื่อและ เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย -ครูประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยผู้ปกครองและ ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม นำผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก ยอดเยียม - -จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุล เต็มศักยภาพโดยความร่วมมือของพ่อแม่และครอบครัว ชุมชนและผู้เกี่ยวข้อง และ เป็นแบบอย่างที่ดี - สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ลงมือทำและ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข - - จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้โดยเด็กมีส่วนร่วมใช้สื่อและ เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย - - ครูประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลายโดยผู้ปกครองและ ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม นำผลการประเมินที่ได้ไปปรับปรงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก แบบติดตามมาตรฐานและประเด็นการการพิจารณา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน


18 มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กำลังพัฒนา ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ ๒) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแก้ปัญหา ๓) มีความสามารในการสร้างนวัตกรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ๔) สุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคม มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ๒.๑ การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กำลังพัฒนา ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสุตรสถานศึกษาและ ทุกกลุ่มเป้าหมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคูณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต ได้ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ ดี ปานกลาง กำลังพัฒนา ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ๔.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรียนรู้ สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา


19 มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีจำนวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รายละเอียดแต่ละมาตรฐาน มีดังนี้ มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑.๑.๑ มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ ๑.๑.๒ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแก้ปัญหา ๑.๑.๓ มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ๑.๑.๔ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๑.๑.๕ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ๑.๑.๖ มีความรู้ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑.๑.๑ การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ๑.๑.๒ ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ๑.๑.๓ การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ๑.๑.๔ สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม คำอธิบาย มาตรฐานที่ ๑ ด้านคุณภาพผู้เรียน ผลการเรียนรู้ที่เป็นคุณภาพของผู้เรียนทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ประกอบด้วยความสามารถใน การอ่าน การเขียน การสื่อสาร การคิดคำนวณ การคิดประเภทต่างๆ การสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตร การมีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่อ วิชาชีพ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่เป็นค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ความภูมิใจในท้องถิ่นและ ความเป็นไทยการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย รวมทั้งสุขภาวะทางร่างกายและ จิตสังคม ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณผู้เรียนมีทักษะในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนดในแต่ละระดับขั้น ๒) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ คิดเห็น และแก้ปัญหา ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดจำแนกแยกแยะ ใคร่ครวญไตร่ตรอง พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล


20 ๓) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ผู้เรียนมีความสามารถในการรวบรวมความรู้ได้ทั้งด้วยตัวเองและการทำงานเป็นทีม เชื่อมโยง องค์ความรู้ และประสบการณ์มาใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อาจเป็นแนวความคิด โครงการ โครงงาน ชิ้นงาน ผลผลิต ๔) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้เรียนมีความสามารถในใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาตนเองและ สังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน อย่างสร้างสรรค์ และมีคุณธรรม ๔) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ผู้เรียนบรรลุและมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษาจากพื้นฐานเดิมใน ด้านความรู้ ความเช้าใจ ทักษะ กระบวนการต่างๆ รวมทั้งมีความก้าวหน้าในผลการทดสอบระดับชาติ หรือผล การทดสอบอื่นๆ ๖) มีความรู้ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐานในการจัดการ เจตคติที่ดีพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับซั้นที่ สูงขึ้น การทำงานหรืองานอาชีพ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) มีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ผู้เรียนมีพฤติกรรมเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม เคารพในกฎกติกา มีค่านิยมและ จิตสำนึกตามที่สถานศึกษากำหนดโดยไม่ขัดกับกฎหมายและวัฒนธรรมอันดีของสังคม ๒) มีความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ผู้เรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ วัฒนธรรม และประเพณีไทย รวมทั้งภูมิปัญญาไทย ๓) ยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ผู้เรียนยอมรับและอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างระหว่างบุคคลในด้าน เพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา ภาษาวัฒนธรรม ประเพณี ๔) มีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม ผู้เรียนมีการรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต อารมณ์ และสังคม และแสดงออกอย่างเหมาะสม ในแต่ละช่วงวัยสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข เข้าใจผู้อื่น ไม่มีความขัดแย้งกับผู้อื่น ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา


21 กำลังพัฒนา ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน -ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ ต่ำกว่า เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด -ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาต่ำกว่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด ๑.๒ คุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ของผู้เรียน - ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีต่ำกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคมต่ำกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ปานกลาง ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิซาการของผู้เรียน - ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ เป็นไป ตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาเป็นไปตามเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด ๑.๒ คุณลักษณะที่พิงประสงค์ของผู้เรียน - ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคมเป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดี ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน - ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ เป็นไป ตาม เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาเป็นไปตามเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแก้ปัญหาได้ - ผู้เรียนมีความรู้ และทักษะพื้นฐานในการสร้างนวัตกรรม - ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาตนเอง ได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย - ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พิงประสงค์ของผู้เรียน - ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ดีเลิศ ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิซาการของผู้เรียน - ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ สูงกว่า เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาสูงกว่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา


22 - ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น โดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้ - ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม - ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาตนเอง และสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน - ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับซั้นที่สูงขึ้น และการทำงานหรืองานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ของผู้เรียน - ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีสงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ยอดเยี่ยม ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน - ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ สูงกว่า เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาสูงกว่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด - ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น โดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้ - ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น โดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้ - ผู้เรียนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม มีการนำไปใช้และเผยแพร่ - ผู้เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาตนเอง และสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน อย่างสร้างสรรค์ และมีคุณธรรม - ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับซั้นที่สูงขึ้น และการทำงานหรืองานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พิงประสงค์ของผู้เรียน -ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดเป็น แบบอย่างได้ -ผู้เรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณีและภูมิปัญญาไทย - ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย - ผู้เรียนมีสุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคมสงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ


23 ๒.๑ มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดซัดเจน ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ คำอธิบาย มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ เป็นการจัดระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา มีการกำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์และ พันธกิจ อย่างซัดเจน สามารถดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา ในทุกกลุ่มเป้าหมาย จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ดำเนินการพัฒนาครูและบุคลากรให้มี ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการเรียนรู้ รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ ๒.๑ มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน สถานศึกษากำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ไว้อย่างซัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศึกษา ความต้องการของขุมซน ท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาล และ ของต้นสังกัดรวมทั้งทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบทั้งในส่วนการวางแผน พัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษา การนำแผนไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีการติดตามตรวจสอบ ประเมินผล และปรับปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง มีการบริหารอัตรากำลัง ทรัพยากรทางการศึกษา และระบบ ดูแลช่วยเหลือ นักเรียน มีระบบการนิเทศภายใน การน้าข้อมูลมาใช่ในการพัฒนา บุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม การวางแผน ปรับปรุง และพัฒนา และร่วมรับผิดขอบต่อผลการจัดการศึกษา ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและ ทุกกลุ่มเป้าหมาย สถานศึกษาบริหารจัดการเกี่ยวกับงานวิชาการ ทั้งด้านการพัฒนาหลักสูตร กิจกรรมเสริมหลักสูตร ที่ เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน เชื่อมโยงวิถีชีวิตจริง และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย หมายรวมถึงการจัด การเรียน การสอนของกลุ่มที่เรียนแบบควบรวมหรือกลุ่มที่เรียนร่วมด้วย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ สถานศึกษาส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาครู บุคลากร ให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และจัดให้มีขุมซน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ มาใช่ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของผู้เรียน ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน และสภาพแวดล้อมทาง สังคม ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ และมีความปลอดภัย ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ สถานศึกษาจัดระบบการจัดหา การพัฒนาและการบริการ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการ บริหาร จัดการและการจัดการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา


24 กำลังพัฒนา -เป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดไม่ซัดเจน - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาแต่ไม่ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา ปานกลาง - เป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดซัดเจน เป็นไปได้ในการปฏิบัติ - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษา ดี - เป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดซัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศึกษา เป็นไปได้ในการปฏิบัติ - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ซัดเจน ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา - ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย - พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ - จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ - จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ ดีเลิศ - มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดซัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศึกษา ความต้องการขุมซน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นไปได้ใน การปฏิบัติ - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ซัดเจน มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย - ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และ ทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงกับชีวิตจริง - พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพตรงตามความต้องการของครู และ สถานศึกษา - จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และ มีความปลอดภัย - จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา


25 ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา ยอดเยี่ยม - มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดซัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศึกษา ความต้องการขุมซน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นไปได้ ในการปฏิบัติ ทันต่อการเปลี่ยนแปลง - มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ซัดเจน มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของผู้เกี่ยวช้องทุกฝ่าย มีการนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุง พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบอย่างได้ - ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงกับชีวิตจริง และเป็นแบบอย่างได้ - พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพตรงตามความต้องการของครูและ สถานศึกษา และจัดให้มีขุมซนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนางาน - จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและลังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และ มีความปลอดภัย -จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่ เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกติใช้ในชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเซิงบวก ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนา /ปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ คำอธิบาย มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา สร้างโอกาส ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงมีการบริหารจัดการชั้นเรียน เซิงบวกสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี ครูรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล ดำเนินการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็น ระบบและ นำผลมาพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำผลที่ได้มาให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อ พัฒนาและ ปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ๓.๑ จัดการเรียนเผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนิน ชีวิต จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ โดยผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง มีรูปแบบ การจัดการเรียนรู้เฉพาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ผู้เรียนได้รับการ'ฝึก ทักษะ แสดงออกแสดงความคิดเห็น สรุปองค์ความรู้ นำเสนอผลงานและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งภูมิปัญญาห้องถิ่นมาใช้ในการจัดการ เรียนรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากสื่อที่หลากหลาย


26 ๓.๓. มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ครูผู้สอนมีการบริหารจัดการชั้นเรียน โดยเน้นการการมีปฏิสัมพันธ์เซิงบวก ให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก และเด็กรักเด็ก เด็กรักที่จะเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน มีการตรวจสอบและ ประเมินคุณภาพการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีชั้นตอนโดยใช้เครื่องมือและ วิธีการจัดและประเมินผลที่ เหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ และให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนเพื่อ นำไปใช้พัฒนาการเรียนรู้ ๓. ๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวช้องร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์รวมทั้งให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อ นำไปใช้ใน การปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา กำลังพัฒนา • - จัดการเรียนรู้ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดและปฏิบัติจริง • - ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ • - ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างไม่เป็นระบบ ปานกลาง - จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของ หลักสูตรสถานศึกษา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต - ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ - ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ดี - จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของ หลักสูตรสถานศึกษา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต - ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ - ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน - มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเซิงบวก - มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรียนรู้ - ดีเลิศ - จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวซีวัดของ หลักสูตรสถานศึกษา มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง และ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ - ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งภูมิปัญญาห้องถิ่นที่เอื้อต่อการเรียนรู้ - ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนโดยใช้เครื่องมือและวิธีการวัดและ ประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียน และ นำผลมาพัฒนาผู้เรียน


27 ระดับคุณภาพ ประเด็นพิจารณา • - มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเซิงบวก เด็กรักที่จะเรียนรู้ และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข • - มีชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพระหว่างครูเพื่อพัฒนาและปรับปรงการจัดการเรียนรู้ • ยอดเยี่ยม - จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของ หลักสูตรสถานศึกษา มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถน่าไปจัดกิจกรรมได้จริง และ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ มีนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้และมีการเผยแพร่ - ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง - - ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ มีชั้นตอนโดยใช้เครื่องมือและวิธีการวัดและ - ประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียน และ - นำผลมาพัฒนาผู้เรียน - - มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเซิงบวก เด็กรักที่จะเรียนรู้ และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข - มีชุมซนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพระหว่างครูและผู้เกี่ยวช้องเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการ จัดการเรียนรู้ ครู และผู้เกี่ยวช้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อ พัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินตนเอง รายมาตรฐาน


28 แบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต ๑ คำชี้แจง: ระดับคุณภาพ (๕) ยอดเยี่ยม (๔) ดีเลิศ (๓) ดี (๒) ปานกลาง (๑) กำลังพัฒนา มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ 5 4 3 2 1 มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ ๒) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ปัญหา ๓) มีความสามารในการสร้างนวัตกรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ๔) สุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคม มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ๒.๑ การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสุตรสถาน ศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี คุณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและ การจัดการเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก 3.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรียนรู้ สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา แบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย


29 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต ๑ …………………………………………. คำชี้แจง: ระดับคุณภาพ (๕) ยอดเยี่ยม (๔) ดีเลิศ (๓) ดี (๒) ปานกลาง (๑) กำลังพัฒนา มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ระดับคุณภาพ 5 4 3 2 1 มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ๑.๑ มีการพัฒนาด้านร่างกายแข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของ ตนเองได้ ๑.๒ มีการพัฒนาด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ ๑.๓ มีการพัฒนาการด้านสังคม ช่วยแหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ๑.๔ มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหา ความรู้ได้ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ๒.๑ มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น ๒.๒ จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน ๒.๓ ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ ๒.๕ ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัด ประสบการณ์ ๒.๖ มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีการพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็ม ศักยภาพ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงเล่น และปฏิบัติอย่างมีความสุข ๓.๓ จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย ๓.๔ ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง และนำผลประเมินพัฒนาการเด็กไป ปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา


30 รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report) ระดับการศึกษาขั้นปฐมวัยและขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา ........... โรงเรียน ........................................ อำเภอ...................จังหวัด............ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา……………………. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ คำนำ รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาเป็นการสรุปผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่สะท้อนผล การพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการบริหารจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับ ปฐมวัยและระดับขั้นพื้นฐาน เพื่อเป็นการประกันคุณภาพภายในระดับปฐมวัย ๓ มาตรฐาน และระดับขั้น พื้นฐาน ๓ มาตรฐาน ผลการวิเคราะห์จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา และระบุแนวทางการพัฒนาสถานศึกษาใน อนาคต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรายงานผลการจัดการศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อมใน การรับการประเมินคุณภาพภายนอกต่อไป โรงเรียน...................... สารบัญ


31 เรื่อง หน้า บทสรุปของผู้บริหาร ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 1.1 ข้อมูลทั่วไป 1.2 ข้อมูลครูและบุคลากร 1.3 ข้อมูลนักเรียน 1.4 สรุปข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา 1.5 ผลการทดสอบระดับชาติของผู้เรียน 1.6 สรุปการใช้แหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกสถานศึกษา 1.7 งบประมาณ ส่วนที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา 2.1 ผลการดำเนินงานตามมาตรฐานการศึกษา เพื่อการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย ( ๓ มาตรฐาน ) 2.2 ผลการดำเนินงานตามมาตรฐานการศึกษา เพื่อการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( ๓ มาตรฐาน ) ส่วนที่ 3 สรุปผล แนวทางการพัฒนาและความต้องการการช่วยเหลือ 3.1 จุดเด่นของสถานศึกษา 3.2 จุดที่ควรพัฒนาของสถานศึกษา 3.3 แนวทางการพัฒนาในอนาคต 3.4 ความต้องการการช่วยเหลือ ส่วนที่ 4 ภาคผนวก 4.1 คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา 4.2 ประกาศโรงเรียน เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา 4.3 ประกาศโรงเรียน เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายใน ตัวอย่าง


32 ภาคผนวก ประกาศโรงเรียน...................... เรื่อง การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ประกาศโรงเรียน................... เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา ปีการศึกษา 2561 แบบสรุปผลที่เกิดจากการปฏิบัติงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน


33 ประกาศโรงเรียน......................... เรื่อง การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๑ .................................................. โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕61 ที่ปรับปรุงใหม่ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา ประกาศคณะกรรมการการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง กำหนด หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายการปฏิรูปการศึกษา ในทศวรรษที่ 21 ที่กำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์อย่างชัดเจนในการพัฒนาคุณภาพคนไทยและการศึกษาไทย ในอนาคต รวมทั้งอัตลักษณ์และจุดเน้นของสถานศึกษา โรงเรียน........................ กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา และการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทั้งบุคลากรทุกคนในโรงเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในชุมชนให้เหมาะสมและสอดคล้องกันเพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา การประเมินคุณภาพภายในและเพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอก โรงเรียน................................ จึงประกาศการใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เพื่อสอดคล้องกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ดังมีรายละเอียดแนบท้ายประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐานของโรงเรียนแล้ว ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ( ) ผู้อำนวยการโรงรียน...................... ( ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา แนบท้ายประกาศโรงเรียน........................ เรื่อง การใช้มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2561 มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน


34 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ 2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ปัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา 6) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 1) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด 2) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย 3) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 4) สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 2.1 มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย 2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ 3.2 ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 3.3 มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก 3.4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน 3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ****************************************** ประกาศโรงเรียน.........................


35 เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2561 .................................................. โดยที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐาน การศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อให้ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน.......................... มีคุณภาพและ ได้มาตรฐาน จึงกำหนดค่า เป้าหมาตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในปีการศึกษา 2561 ตาม เอกสารแนบท้าย ประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ( ) ผู้อำนวยการโรงเรียน...................................... ค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แนบท้ายประกาศโรงเรียน....................... เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2561 มาตรฐาน / ประเด็นการพิจารณา ค่าเป้าหมายมาตรฐาน/


36 ประเด็นการพิจารณา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ดีเลิศ ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ดีเลิศ ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ ดีเลิศ ๒) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและแก้ปัญหา ดีเลิศ ๓) มีความสามารในการสร้างนวัตกรรม ดี ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ดี ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ดีเลิศ ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ดีเลิศ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ดีเลิศ ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด ดีเลิศ ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย ยอดเยี่ยม ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ดีเลิศ ๔) สุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคม ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ดีเลิศ ๒.๑ การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน ดีเลิศ ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา ดีเลิศ ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสุตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย ดีเลิศ ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ดี ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคูณภาพ ดี ๒.๖ จัดระบบเทคโนโบยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ ดีเลิศ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดีเลิศ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ดีเลิศ ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ดีเลิศ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ดีเลิศ ๔.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ดี ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรียนรู้ ดี สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศึกษา ดีเลิศ การกำหนดค่าเป้าหมาย ๑. ศึกษาข้อมูลเดิม ผลการประเมินต่าง ๆ ที่ผ่านมาเพื่อเป็นข้อมูลฐานในการกำหนดค่าเป้าหมาย


37 ๒. การกำหนดค่าเป้าหมายแต่ละมาตรฐาน ควรกำหนดเป็นระดับคุณภาพ ๕ ระดับ เพื่อให้สอดคล้องกับ การประเมิน ดังนี้ ระดับ ยอดเยี่ยม ร้อยละ 80 - 100 ระดับ ดีเลิศ ร้อยละ 70 - 79 ระดับ ดี ร้อยละ 60 - 69 ระดับ ปานกลาง ร้อยละ 50 - 59 ระดับ กำลังพัฒนา ร้อยละ < 50 ๓. การกำหนดค่าเป้าหมายในแต่ละประเด็นพิจารณาจะกำหนดเป็น ระดับคุณภาพ หรือ เป็นร้อยละ ตามความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา ตัวอย่าง แบบสรุปผลที่เกิดจากการปฏิบัติงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา


38 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน .............................................. มาตรฐาน เอกสาร/หลักฐาน/ร่องรอย ผลที่เกิดจากการปฏิบัติงาน/ สิ่งที่สะท้อน มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ๑) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ - แบบสรุปผลการอ่าน การเขียน - แบบสรุปรายงานการประเมิน ความสามารถในการอ่านการเขียน - เอกสารการวัดผลและประเมินผล ทุกระดับชั้นเรียน - บันทึกการอ่าน - ชิ้นงาน ผลงานนักเรียน - ร้อยละนักเรียนที่มีผลการ ประเมินความสามารถในการ สื่อสาร คิดคำนวณ และคิดใน ระดับดีเยี่ยม - ผลการทดสอบระดับชาติ RT NT และ O-NET อยู่ในระดับดี และสูงกว่าทุกระดับ ๒) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิด อย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและแก้ปัญหา - แผนการสอน - แบบสรุปรายงานการประเมิน ความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน - รายงานโครงการเปิดบ้าน วิชาการ คุณธรรมและ IS - รายงานกิจกรรมลดเวลาเรียน - รายงานโครงการส่งเสริม ศักยภาพห้องเรียนวิทย์-คณิต - ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนในกลุ่มสาระ การ เรียนรู้ต่าง ๆ - ร้อยละของนักเรียนที่มี ความสามารถในการวิเคราะห์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณใน ระดับดีเยี่ยม ๓) มีความสามารในการสร้างนวัตกรรม - นวัตกรรมนักเรียน - ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน - ผลการแข่งขันโครงงาน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ระดับเขตพื้นที่และระดับภาค - ร้อยละของนักเรียนที่สร้าง นวัตกรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร - ชิ้นงานของนักเรียน - สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนเช่น ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ การใช้อินเทอร์เน็ต และ เทคโนโลยีสารสนเทศ - ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน - ร้อยละของนักเรียนที่มี ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยีการสารสนเทศและ การสื่อสารในระดับ ดีเยี่ยม มาตรฐาน เอกสาร/หลักฐาน/ร่องรอย ผลที่เกิดจากการปฏิบัติงาน/ สิ่งที่สะท้อน


39 ๕) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตร สถานศึกษา -แบบสรุปรายงานการประเมิน ความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน -เอกสารการวัดผลและ ประเมินผลทุกระดับชั้นเรียน -ชิ้นงาน ผลงานนักเรียน - ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน - ร้อยละชองนักเรียนที่มีผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนตาม หลักสูตรสถานศึกษาในระดับดี เยี่ยม ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่อ งานอาชีพ - รายงานกิจกรรมลดเวลาเรียน - รายงานโครงการแนะแนว การศึกษาต่อและอาชีพ - ร้อยละของนักเรียนที่เข้าร่วม กิจกรรมลดเวลาเรียน ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ๑) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่ สถานศึกษากำหนด - กิจกรรมเข้าแถวเคารพธงชาติ - การแสดงความเคารพ - รายงานระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน - นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมของผู้เรียนตาม สถานศึกษากำหนด - ร้อยละของนักเรียนที่มี คุณลักษณะและค่านิยมที่ดี ตามที่สถานศึกษากำหนด ในระดับดีเยี่ยม ๒) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย - การแสดงความเคารพ - การพูดจา กิริยามารยาท การไหว้ - รายงานโครงการระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียน - นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมของผู้เรียนตาม สถานศึกษากำหนด - ร้อยละของนักเรียนที่มี กิริยามารยาทดีอยู่ในระดับ ดีเยี่ยม ๓) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง และหลากหลาย - รายงานโครงการส่งเสริม ประชาธิปไตยในโรงเรียน - สรุปกิจกรรมลูกเสือ-ยุวกาชาด - สรุปกิจกรรมกีฬาสี - สรุปกิจกรรมศึกษาแหล่งเรียนรู้ - นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมของผู้เรียนตาม สถานศึกษากำหนด - ร้อยละของนักเรียนที่เข้าร่วม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๔) สุขภาวะทางร่างกายและลักษณะจิตสังคม - แบบบันทึกน้ำหนัก ส่วนสูง - กิจกรรมวิ่งเพื่อโรงเรียนของพ่อ - สรุปกิจกรรมลูกเสือ-ยุวกาชาด - นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมของผู้เรียนตาม สถานศึกษากำหนด - ร้อยละของนักเรียนที่เข้าร่วม กิจกรรม มาตรฐาน เอกสาร/หลักฐาน/ร่องรอย ผลที่เกิดจากการปฏิบัติงาน/ สิ่งที่สะท้อน


40 มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและจัดการ ๒.๑ การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่ สถานศึกษากำหนดชัดเจน - แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา - แผนปฏิบัติการประจำปี - โรงเรียนมีการปฏิบัติงานตาม แผนพัฒนาคุณภาพการ ศึกษา ตามระยะ ร้อยละ 85 - โรงเรียนดำเนินงานตาม แผนปฏิบัติการประจำปี ร้อย ละ 100 ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของ สถานศึกษา - แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา - แผนปฏิบัติการประจำปี - โรงเรียนดำเนินงานตาม แผนปฏิบัติการประจำปี ร้อย ละ 100 ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพ ผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย - แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา - แผนปฏิบัติการประจำปี - หลักสูตรสถานศึกษา - บันทึกการนิเทศ ติดตามและ ประเมินผล - ร้อยละของกิจกรรมทาง วิชาการที่มีผลการดำเนินงาน ในระดับดีเยี่ยม ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความเชี่ยวชาญ ทางวิชาชีพ - แผนพัฒนาบุคลากร - รางวัลและหลักฐานอื่นๆ - รายงานโครงการพัฒนาบุคลากร - ร้อยละของครูและบุคลากรที่ ได้รับการพัฒนาให้มีความ เชี่ยวชาญและได้รับรางวัล ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่ เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ - รายงานโครงการพัฒนาอาคาร สถานที่และแหล่งเรียนรู้ - โรงเรียนมีการจัดสภาพ แวดล้อมในระดับดีเยี่ยม ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุน การบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ - แผนบริหารจัดการระบบ สารสนเทศของโรงเรียน - แผ่นพับประชาสัมพันธ์ วารสารโรงเรียน เฟสบุ๊คโรงเรียน ไลน์กลุ่มห้องเรียน - ร้อยละของผู้รับบริการได้รับ การบริการทางเทคโนโลยี สารสนเทศในระดับดีเยี่ยม มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและ ปฏิบัติจริงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตได้ - สรุปผลการตรวจแผนการจัด การเรียนรู้ - สรุปผลการตรวจแผนการจัด การเรียนรูสําหรับนักเรียนที่มี ความตองการพิเศษ - ผลงานนักเรียน - ร้อยละของครูที่จัดทำแผน การเรียนรู้และนำไปใช้จริง - นักเรียนมีผลงานหรือภาระ งานตามแผนที่ครูกำหนดไว้ มาตรฐาน เอกสาร/หลักฐาน/ร่องรอย ผลที่เกิดจากการปฏิบัติงาน/ สิ่งที่สะท้อน


41 ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่ง เรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ - สรุปผลการตรวจแผนการจัด การเรียนรู - สรุปผลงานนักเรียนที่ไดจาก การใชเทคโนโลยีในการแสวงหา ความรู - รายงานการดําเนินงานกิจกรรม ศึกษาแหลงเรียนรูนอกสถานที่ - สถิติการศึกษาเรียนรูจากภูมิ ปญญาทองถิ่น - แบบบันทึกการสัมภาษณ์ - ร้อยละของครูที่ใช้ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และ แหล่งเรียนรู้ในการจัดการ เรียนรู้ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก - แบบบันทึกการนิเทศการสอน - สรุปแบบสอบถามความพึงพอใจ การจัดการเรียนการสอนของ สถานศึกษา - ร้อยละของครูที่จัดกิจกรรม การเรียนรู้และบริหารจัดการ ชั้นเรียนเชิงบวก ๔.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็น ระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน - สรุปผลการตรวจแผนจัดการ เรียนรู - แบบบันทึกการสัมภาษณ - แบบบันทึกการนิเทศการสอน - เครื่องมือการวัด ประเมินผล ผูเรียน - ชิ้นงาน ผลงานนักเรียน - ครูมีการวัดผลประเมินผล อย่างหลากหลาย - ครูมีการวัดผลประเมินผลตาม สภาพจริง ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูล สะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุง การจัดการเรียนรู้ - แผนการจัดการเรียนรู้ของครู - แบบบันทึกการปฏิบัติกิจกรรม “การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการสร้างชุมชนแห่ง การเรียนรู้ทางวิชาชีพครู” (PLC) - สรุปการนิเทศการสอน - บันทึกการประชุมกลุมสาระฯ - ครูมีการพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเนื่อง - ครูเป็นผู้นำทางวิชาการและ มีผลงานเชิงประจักษ์จนได้รับ รางวัลเกียรติยศ คู่มือการใช้งาน apps.ednan1.go.th/pragun (ระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัด สพป.น่าน เขต 1)


42 1. โรงเรียนเข้าใช้งานที่ https://apps.ednan1.go.th/pragun 2. เข้าสู่ระบบของโรงเรียน 3. พิมพ์รหัส SMIS 8 หลักของโรงเรียน ( 55010XXX ) แล้วเข้าสู่ระบบ 4. โรงเรียนทำการประเมินดังนี้ - แบบประเมินผลการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ตามกฎกระทรวงฯ - แบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน - แบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย (โรงเรียนใดไม่เปิดทำการสอนระดับ ปฐมวัย ไม่ต้องกรอก) 1 2 3


43 แบบประเมินผลการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ตามกฎกระทรวงฯ 5. แบบประเมินผลการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ตามกฎ กระทรวงฯ มีประเด็นการติดตามตรวจสอบ 6 ประเด็น ซึ่งมีผลการประเมิน จำนวน 5 ระดับคุณภาพ ได้แก่ 1 = ปรับปรุง , 2 = พอใช้ , 3 = ดี , 4 = ดีมาก , 5 = ยอดเยี่ยม ในการทำแบบประเมิน โดยการใช้เม้าส์กดแถบสี เขียวเลื่อนตามระดับคุณภาพที่โรงเรียนประเมิน ดังภาพ 4 5


44 6. หลังจากทำแบบประเมินครบทุกประเด็นและตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ทำการยืนยันผลการประเมินและ บันทึกข้อมูล 7. โรงเรียนสามารถพิมพ์กราฟหรือตาราง หรือบันทึกข้อมูลผลการประเมินเก็บไว้ได้ 7 6


45 แบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน 8. แบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน มีประเด็นการประเมิน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ และมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งมีผลการประเมิน จำนวน 5 ระดับคุณภาพ ได้แก่ 1 = กำลังพัฒนา , 2 = ปานกลาง , 3 = ดี , 4 = ดีเลิศ , 5 = ยอดเยี่ยม ในการทำแบบประเมิน โดยการใช้เม้าส์ กดแถบสีเขียวเลื่อนตามระดับคุณภาพที่โรงเรียนประเมิน ดังภาพ 9. หลังจากทำแบบประเมินครบทุกประเด็นและตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ทำการยืนยันผลการประเมินและ บันทึกข้อมูล 9 8


46 10. โรงเรียนสามารถพิมพ์กราฟหรือตาราง หรือบันทึกข้อมูลผลการประเมินเก็บไว้ได้ แบบประเมินแบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย 11. แบบประเมินแบบประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย มีประเด็นการประเมิน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ และมาตรฐาน ที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ซึ่งมีผลการประเมิน จำนวน 5 ระดับคุณภาพ ได้แก่ 1 = กำลัง พัฒนา , 2 = ปานกลาง , 3 = ดี , 4 = ดีเลิศ , 5 = ยอดเยี่ยม ในการทำแบบประเมิน โดยการใช้เม้าส์กดแถบสี เขียวเลื่อนตามระดับคุณภาพที่โรงเรียนประเมิน ดังภาพ 10 11


47 12. หลังจากทำแบบประเมินครบทุกประเด็นและตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ทำการยืนยันผลการประเมินและ บันทึกข้อมูล 13. โรงเรียนสามารถพิมพ์กราฟหรือตาราง หรือบันทึกข้อมูลผลการประเมินเก็บไว้ได้ 12 13


48 https://me-qr.com/BieUXFcp https://me-qr.com/OK3kY7aa https://me-qr.com/DgYPtEZB https://me-qr.com/Pi8WxGWi https://shorturl.asia/5QvjJ แนวทางการประเมินตนเองมาตรฐาน แบบประเมินตรวจสอบประเมินตนเอง ตามกฎกระทรวงฯ 2561 แบบประเมินตนเอง ระดบั ปฐมวยัและระดบัข้นัพ้ืนฐาน แบบฟอร์มรายงานประเมินตนเอง คู่มือการใช้งาน ( e-SAR) ส าหรับสถานศึกษา


Click to View FlipBook Version