งานแกะสลัก
จฑุ ามาศ สวัสดี กลมุ่ ที่ 31 เลขท่ี 31
สชุ านาถ สุขขี กลุ่มที่ 31 เลขท่ี 42
รายงานนี้เปน็ ส่วนหนึง่ ของการศึกษาวชิ าค้นควา้ และการเขียนรายงานเชงิ วิชาการ
สาชาการจัดการการโรงแรม คณะศลิ ปศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
งานแกะสลัก
จฑุ ามาศ สวัสดี กลมุ่ ที่ 31 เลขท่ี 31
สชุ านาถ สุขขี กลุ่มที่ 31 เลขท่ี 42
รายงานนี้เปน็ ส่วนหนึง่ ของการศึกษาวชิ าค้นควา้ และการเขียนรายงานเชงิ วิชาการ
สาชาการจัดการการโรงแรม คณะศลิ ปศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
ก
คำนำ
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบ
อันเปน็ สว่ นหนึ่งของการศึกษารายวิชา 01-210-017 การคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ซึ่ง
จะนำไปใช้ในการทำรายงานค้นคว้าสำหรับรายวิชาอื่นได้อีกต่อไป การที่ผู้จัดทำเลือกทำเรื่อง “งาน
แกะสลัก” เนื่องด้วยปัจจุบันงานแกะสลักมีความสำคัญต่อนักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่ที่กำลังศึกษา
เกี่ยวกับด้าน คหกรรมศาสตร์ และ การโรงแรม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องนำเสนอ
ความรู้ความเขา้ ใจทีถ่ กู ตอ้ งเกีย่ วกับงานแกะสลกั
รายงานเล่มนี้กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับงานแกะสลัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับความรู้
ความเข้าใจเกี่ยวกับงานแกะสลักที่ถูกต้อง และรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ความหมาย ประโยชน์
และเลือกใช้มีดในงานแกะสลัก ตลอดจนการเลือกซื้อผักและผลไม้ที่ผู้ศึกษาได้นำไปปรับใช้ในงาน
แกะสลกั ได้
ขอบคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคำแนะนำโดย
ตลอดและขอขอบคุณบรรณารักษ์และเจ้าหน้าท่ีของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ ที่ให้
ความสะดวกในการค้นหาข้อมูล รวมไปถึงท่านเจ้าของหนังสือ บทความ งานวิจัย ที่ผู้เขียนใช้อ้างอิง
ทกุ ทา่ นหากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับไว้เพ่อื ปรับปรงุ ตอ่ ไป
จุฑามาศ สวสั ดี
สชุ านาถ สุขขี
11 ตลุ าคม 2564
สารบัญ ข
คำนำ หน้า
สารบญั ภาพประกอบ ก
บทที่ ง
1 บทนำ 1
1.1 ความหมายของงานแกะสลัก 1
1.2 ความเป็นมาของงานแกะสลกั 2
1.3 ความสำคญั ของงานแกะสลัก 4
1.4 วตั ถุประสงคข์ องงานแกะสลัก 5
7
2 อุปกรณ์การแกะสลกั 7
2.1. ประเภทมดี แกะสลัก 7
2.1.1 มีดแกะสลักทม่ี ีดา้ มกลม 7
2.1.2 มีดตดั และห่ัน 8
2.1.3 มีดควา้ น 8
2.1.4 มีดปอก 8
2.2 วิธกี ารจบั มีดแกะสลัก 8
2.2.1 การจับมดี แกะสลกั แบบหนั่ 9
2.2.2 การจบั มดี แกะสลกั แบบจบั ปากกา 9
2.2.3 การจับมีดแกะสลกั แบบปอกผลไม้ 10
2.3 ที่ตกั ผลไม้ทรงกลม 10
2.4 ท่ตี ดั แบบหยกั 11
2.5 พมิ พ์กดรปู ต่าง ๆ 11
2.6 กรรไกร 12
2.7 หินลบั มดี หรอื กระดาษทราย 12
2.8 เขียง 13
2.9 อา่ งน้ำ 13
2.10 ถาด 14
2.11 ผ้าเชด็ มือ
สารบญั (ต่อ) ค
2.12 พลาสตกิ ห่ออาหาร 14
2.13 ถุงมอื ยาง 15
3 การเลือกผกั และผลไม้แกะสลัก 17
3.1 การเลอื กรูปทรงผกั และผลไม้ 17
3.2 การเลอื กซ้ือผลไม้เพ่ือการแกะสลกั 17
3.3 หลักการดูแลรักษาผักและผลไม้แกะสลกั 18
18
3.3.1 หลักการดูแลผกั 26
3.3.2 หลักการดูแลผลไม้ 33
4 สรปุ 35
บรรณานกุ รม
สารบญั ภาพประกอบ ง
ภาพท่ี หน้า
1 มดี แกะสลักด้ามกลม 7
2 มีดตัดและหั่น 7
3 มีดควา้ น 8
4 มดี ปอก 8
5 ทีต่ ักผลไม้ทรงกลม 10
6 ที่ตดั แบบหยกั 10
7 พิมพก์ ดรปู ต่าง ๆ 11
8 กรรไกริ 11
9 หนิ ลบั มีดหรอื กระดาษทราย 12
10 เขียง 12
11 อา่ งนำ้ 13
12 ถาด 13
13 ผา้ เช็ดมอื 14
14 พลาสติกห่ออาหาร 14
15 ถุงมือยาง 15
16 แครอท 18
17 แตงกวา แตงรา้ น 19
18 มะเขือเทศ 20
19 หัวไชเท้า 20
20 พริก 21
21 มะเขือตา่ ง ๆ 22
22 แรดิช 22
23 เผอื ก 23
24 ฝกั ทอง 23
25 ขงิ 24
26 หอมใหญ่ 25
27 กระหล่ำปลี 25
สารบัญภาพประกอบ (ตอ่ ) จ
ภาพท่ี หน้า
28 บีทรูท 26
29 แอปเปิ้ล 26
30 ฝรัง่ 27
31 สปั ปะรด 27
32 แคนตาลูป 28
33 ละมุด 28
34 แตงโม 29
35 มนั แกว 30
36 มะมว่ ง 30
37 ชมพู่ 31
38 แก้วมังกร 31
39 พทุ รา 32
1
บทท่ี1
บทนำ
งานศิลปะดั้งเดิมของไทยนั้นมีอยู่มากมายหลายอย่างหลายแขนง การแกะสลักก็เป็นงาน
ศิลปะอย่าง หนึ่งที่ถือเป็นมรดกมีค่าที่สืบทอดกันมาช้านาน เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความถนัด สมาธิ
ความสามารถเฉพาะตัว และความละเอียดอ่อนมาก การแกะสลกั ผักและผลไม้ เป็นการแสดงออกทาง
วัฒนธรรมท่ีเป็นเอกลักษณ์ ประจำของชาติไทยเลยทีเดียว ซง่ึ ไมม่ ีชาติใดสามารถเทยี บเทียมได้ แต่ส่ิง
ที่น่าเป็นห่วงที่สุดในปัจจบุ ันน้ีคงจะ เป็นเรื่องของการอนุรักษ์ ศิลปะแขนงน้ีที่มแี นวโน้มจะสญู หายไป
และลดนอ้ ยลงไปเร่ือย ๆ
การแกะสลักผักและผลไม้เดมิ เป็นวิชาที่เรียนขั้นสงู ของ กุลสตรีในรั้วในวัง ที่ต้องมีการฝึกฝน
และ เรยี นรจู้ นเกิดความชำนาญ บรรพบรุ ษุ ของไทยเราได้มกี ารแกะสลักกัน มานานแลว้ แต่จะเร่ิมกัน
มาต้งั แต่สมยั ใดน้ัน ไมม่ ีใครรแู้ นช่ ดั เนอ่ื งจากไมม่ ีหลกั ฐานแน่ชดั จนถึงในสมัยสุโขทยั เปน็ ราชธานี ใน
สมัยของสมเด็จพระ ร่วงเจ้า ได้มีนางสนมคนหนึ่งชื่อ นางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้แต่ง
หนังสอื เล่มหน่ึงช่อื ว่า ตำรับท้าวศรี จุฬาลกั ษณข์ ้นึ และในหนังสือเล่มนี้ ไดพ้ ูดถงึ พธิ ีตา่ ง ๆ ไว้ และพิธี
หน่งึ เรยี กว่า พระราชพิธจี องเปรียงในวัน เพญ็ เดือนสบิ สอง เปน็ พิธีโคมลอย นางนพมาศไดค้ ิดตกแต่ง
โคมลอยท่งี ดงามประหลาดกวา่ โคมของพระสนม คนอ่ืนท้ังปวง และได้เลือกดอกไม้สีต่าง ๆ ประดับให้
เป็นลวดลายแล้วจึงนำเอาผลไม้ มาแกะสลักเป็นนกและ หงส์ให้เกาะเกสรดอกไม้อยู่ตามกลีบดอก
เป็นระเบียบสวยงามไปดว้ ยสสี ันสดสวย ชวนนา่ มองยิ่งนัก รวมทง้ั เสยี บธปู เทียน จงึ ได้มีหลักฐานการ
แกะสลกั มาตง้ั แตส่ มัยนัน้
1.1 ความหมายและงานแกะสลกั
ความหมายของการแกะสลัก
งานแกะ คือการสรา้ งให้เกดิ เปน็ ลวดลายหรอื รูปภาพดว้ ยวิธีการใชม้ ดี แกะ
งานสลกั คอื การสร้างให้เกดิ เป็นลวดลายหรือรูปภาพดว้ ยวธิ ีใชส้ วิ่ เจาะ
(การท่าอากาศยานแหง่ ประเทศไทย, 2540 หน้า 67 และ72 ช่างสบิ หมู.่ กรุงเทพฯ)
การแกะสลัก จัดเป็นศิลปะประเภทหนึ่งที่รวมอยู่ในสาขาประติมากกรรม แต่ที่แตกต่างก็คือ
กรรมวิธีของการแกะสลักคือการเฉือนออก และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะ
นอกจากจะทำรายได้ใหก้ ับผู้ผลิตแล้วยงั เป็นอุตสาหกรรมที่แสดงออกถึงความมีศิลปะอันประณีตของ
ชาตไิ ทยอกี ดว้ ย
2
การแกะสลัก (Carving) เป็นเทคนิคการสร้างสรรค์งานประติมากรรมมาแต่โบราณ ในการ
สร้างสรรคจ์ ะต้องวางแผนงานไว้ก่อน เพราะการแกะสลักออกไปแลว้ ไม่สามารถจะเพ่ิมเข้าไปใหม่อีก
ได้ เพราะวัสดุที่ใช้แกะสลักนั้นเป็นชนิดของแข็ง ได้แก่ หิน ไม้ ส่วนในการศึกษาของนักเรียนระดับน้ี
นัน้ อาจจะใชว้ ัสดุจำพวกไม้เน้ือออ่ น สบู่ ปูนปลาสเตอร์ ผกั ผลไม้ เชน่ มนั เผอื ก มะละกอ เปน็ ต้น
1.2 ความเปน็ มาของงานแกะสลัก
งานศลิ ปะด้ังเดิมของไทยนัน้ มีอยู่มากมายหลายอย่างหลายแขนง การแกะสลักก็เป็นงานศิลปะ
อย่างหน่ึงที่ถือเป็นมรดกมีค่าที่สืบทอดกันมาช้านาน เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความถนัด สมาธิ
ความสามารถเฉพาะตัว และความละเอยี ดอ่อนมาก การแกะสลกั ผกั และผลไม้ เปน็ การแสดงออกทาง
วฒั นธรรมท่ีเปน็ เอกลักษณ์ประจำของชาตไิ ทยเลยทีเดียว ซ่ึงไมม่ ีชาตใิ ดสามารถเทียบเทียมได้ แต่สิ่งท่ี
น่าเป็นห่วงที่สุดในปัจจุบันนี้คงจะเป็นเรื่องของการอนุรักษ์ ศิลปะแขนงนี้ที่มีแนวโน้มจะสูญหายไป
และลดนอ้ ยลงไปเรอ่ื ยๆ
การแกะสลักผักและผลไม้เดิมเป็นวิชาที่เรียนขั้นสูงของ กุลสตรีในรั้วในวัง ที่ต้องมีการฝึกฝน
และเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ บรรพบุรุษของไทยเราได้มีการแกะสลกั กัน มานานแล้ว แต่จะเริ่มกัน
มาตงั้ แตส่ มัยใดน้ัน ไม่มใี ครรู้แนช่ ัด เนื่องจากไม่มีหลักฐานแน่ชัด จนถึงในสมัยสโุ ขทัยเป็นราชธานี ใน
สมัยของสมเด็จพระร่วงเจ้า ได้มีนางสนมคนหนึ่งชื่อ นางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้แต่ง
หนังสือเลม่ หนึง่ ชื่อว่า ตำรับท้าวศรีจุฬาลกั ษณข์ ึน้ และในหนังสือเล่มนี้ ได้พูดถึงพิธีต่าง ๆ ไว้ และพิธี
หนึ่ง เรียกวา่ พระราชพิธจี องเปรียงในวันเพ็ญเดือนสบิ สอง เปน็ พธิ โี คมลอย นางนพมาศได้คิดตกแต่ง
โคมลอยทง่ี ดงามประหลาดกวา่ โคมของพระสนมคนอื่นท้ังปวง และไดเ้ ลือกดอกไม้สีต่าง ๆ ประดับให้
เป็นลวดลายแลว้ จงึ นำเอาผลไม้ มาแกะสลักเป็นนกและหงส์ใหเ้ กาะเกสรดอกไม้อยู่ตามกลีบดอก เป็น
ระเบียบสวยงามไปด้วยสีสันสดสวย ชวนน่ามองยิ่งนัก รวมทั้งเสียบธูปเทียน จึงได้มีหลักฐานการ
แกะสลกั มาต้งั แตส่ มัยนัน้
ในสมัยกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงโปรดการประพันธย์ ่ิงนัก
พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์กาพย์แห่ชมเครื่องคาวหวาน และแห่ชมผลไม้ได้พรรณนา ชมฝีมือการ
ทำอาหาร การปอกควา้ นผลไม้ และประดดิ ประดอยขนมสวยงาม และอร่อยทงั้ หลาย ว่าเป็นฝีมืองาม
เลิศของสตรีชาววงั สมัยนั้น และทรงพระราชนิพนธ์บทละครเร่ือง สังข์ทอง พระองค์ทรงบรรยายตอน
นางจนั ทร์เทวี แกะสลักชิน้ ฟกั เปน็ เร่ืองราวของนางกับพระสังข์ นอกจากนั้นยงั มีปรากฏในวรรณกรรม
ไทยแทบ ทุกเรื่อง เมื่อเอ่ยถึงตัวนางซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องว่า มีคุณสมบัติของกุลสตรี เพรียกพร้อม
ด้วยฝีมือการปรงุ แต่งประกอบอาหารประดิดประดอยให้สวยงามทั้งมี ฝีมือในการประดิษฐ์งานชา่ งทงั้
ปวง ทำให้ทราบวา่ กลุ สตรีสมัยน้ันได้รับการฝกึ ฝนให้พถิ พี ิถนั กบั การจัดตกแต่งผัก ผลไม้ และการปรุง
3
แตง่ อาหารเป็นพิเศษ จากขอ้ ความน้ีน่าจะเปน็ ท่ียืนยันไดว้ า่ การแกะสลกั ผัก ผลไม้ เปน็ ศิลปะของไทย
ทีก่ ลุ สตรีในสมยั ก่อนมีการฝกึ หัด เรยี นรู้ผใู้ ดฝึกหัดจนเกดิ ความชำนาญ กจ็ ะได้รบั การยกย่อง
งานแกะสลักใช้กับของอ่อน สลักออกมาเป็นลวดลายต่าง ๆ อย่างงดงาม มีสลักผัก สลักผลไม้
สลักหยวกกล้วยถือเป็นงานช่างฝีมือของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ งานสลักจึงอยู่ในงานช่าง 10 หมู่
เรยี กวา่ ช่างสลัก ในชา่ งสลกั แบง่ ออกย่อย คอื ชา่ งฉลุ ชา่ งกระดาษ ชา่ งหยวก ช่างเคร่อื งสด ส่วนช่าง
อีก 9 หมู่ที่เหลือได้แก่ ช่างแกะ ที่มีทั้งช่างแกะตรา ช่างแกะลาย ช่างแกะพระหรือภาพช่างหุ่น มีช่าง
ไม้ ช่างไม้สูง ช่างปากไม้ ช่างปั้น มีช่างขี้ผึ้ง ช่างปูน เป็นช่างขึ้นรูปปูน มีช่างป้ัน ช่างปูนก่อ ช่างปูน
ลอย ช่างป้ันปูน ชา่ งรัก มีช่างลงรกั มปี ดิ ทอง ช่างประดับกระจก ช่างมกุ ช่างบุ บุบาตรพระเพยี งอย่าง
เดียว ช่างกลึง มีช่างไม้ ช่างหล่อ มีช่างหุ่นดิน ช่างขี้ผึ้ง ช่างผสมโลหะ ช่างเขียน มีช่างเขียน ช่างปิด
ทอง
การสลักหรือจำหลัก จัดเป็นศิลปกรรมแขนงหนึ่งในจำพวกประติมากรรม เป็นการประดิษฐ์
วัตถุเนื้ออ่อนอย่างผัก ผลไม้ ที่ยังไม่เป็นรูปร่าง หรือมีรูปร่างอยู่แลว้ สร้างสรรค์ให้สวยงามและพิสดาร
ขึ้น โดยใช้เครื่องมือที่มีความแหลมคม โดยใช้วิธีตัด เกลา ปาด แกะ คว้าน ทำให้เกิดลวดลายตาม
ต้องการ ซึ่งงานสลักน้ีเป็นการฝึกทักษะสมั พันธ์ของมอื และสมอง เป็นการฝึกจิตให้นิง่ แน่วแน่ตอ่ งาน
ขา้ งหน้า อันเป็นการฝึกสมาธิได้อย่างดเี ลศิ
การสลักผักผลไม้นอกจากจะเป็นการฝึกสมาธิแล้วยังเป็นการฝึกฝีมือให้เกิดความชำนาญเป็น
พิเศษ และต้องมีความมานะ อดทน ใจเย็น และมีสมาธเิ ป็นที่ตั้ง ร้จู ักการตกแต่ง มีความคิดสรา้ งสรรค์
การทำงานจ้องใหจ้ ิตใจทำไปพรอ้ มกบั งานที่กำลงั สลักอยู่ จึงไดง้ านสลกั ทีส่ วยงามเพรศิ แพร้วอย่างเป็น
ธรรมชาติ ดัดแปลงเป็นลวดลายประดษิ ฐ์ต่างๆ ตามใจปรารถนา
ปัจจบุ ันวิชาการช่างฝีมือเหล่านี้ ถกู บรรจุอยใู่ นหลักสูตร ตง้ั แต่ช้นั ประถมศึกษา มัธยมศึกษามา
จนถึงอุดมศึกษาเป็นลำดับ ประกอบกับรัฐบาลและภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุน จึงมีการอนุรักษ์
ศิลปะต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการแกะสลักผลงานประเภทเครื่องจิ้ม จนกระทั่งงาน
แกะสลักได้กลายเป็นสิ่งที่ต้องประดิษฐ์ ตกแต่งบนโต๊ะอาหารในการจัดเลี้ยงแขกต่างประเทศ ตาม
โรงแรมใหญ่ ๆ ภตั ตาคาร ตลอดจนรา้ นอาหาร ก็จะใช้งานศลิ ปะการแกะสลักเข้าไปผสมผสานเพื่อให้
เกิดความสวยงาม หรูหรา และประทับใจแก่แขกในงาน หรือสถานที่นั้น ๆ งานแกะสลักผลไม้ จึงมี
ส่วนชว่ ยตกแตง่ อาหารได้มาก คงเป็นเชน่ นีต้ ลอดไป
4
1.3 ความสำคัญของงานแกะสลกั
งานศิลปะด้งั เดิมของไทยนั้นมีอยมู่ ากมายหลายอย่างหลายแขนง การแกะสลักผัก ผลไม้น้ันเป็น
งานทมี่ คี ณุ คา่ มคี วามสำคญั มากมายหลายประการ ซ่งึ สามารถพอจะแยกเปน็ หัวข้อไดด้ งั น้ี
1. นำมาใช้ได้ในชวี ติ ประจำวัน
- สามารถตัด แต่งผัก ผลไม้ เป็นชิ้นเป็นคำมีความสวยงามและ เพื่อความสะดวก
ในการรบั ประทาน
2. นำมาใชใ้ นโอกาสพิเศษ ตามงานเลย้ี งตา่ งๆ
- สามารถแกะสลักผัก ผลไม้ เพื่อนำไปจัดตกแต่งอาหารต่างๆ เช่น แกะสลักผัก
หรือผลไม้เป็นผอบเพื่อใส่อาหาร และใช้ในการตกแต่งสถานที่ให้ดูสวยงามน่าชมได้อีกด้วยเช่น การ
แกะสลักแตงโมหรอื แคนตาลปู ทง้ั ผลเพอ่ื ตกแต่งสถานที่ในงานให้สวยงาม
3. สร้างสมาธิใหก้ ับผู้ที่แกะสลัก
- การแกะสลักผัก ผลไม้จะต้องมีสมาธิ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุจากมีดที่ใช้ใน
การแกะสลักได้ และชน้ิ งานทไี่ ด้จะมีความประณตี สวยงามไม่มีรอยชำ้ ตามต้องการ
4. เสริมสร้างความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
- เมื่อผู้แกะสลักเรียนรู้วิธีการแกะสลักอย่างชำนาญแล้ว จะมีความเข้าใจและ
สามารถสร้างสรรคล์ วดลายใหม่ไดต้ ามความต้องการ
5. สรา้ งความภาคภูมใิ จแกต่ ัวเอง
- การแกะสลักถือเป็นงานที่มีความยากอย่างหนึ่ง แต่หากได้มีการเรียนรู้อย่างมี
ระบบ มขี ั้นตอน และใชร้ ะยะเวลาในการฝกึ ฝน จะสามารถทำไดอ้ ยา่ งงา่ ยดายและเกดิ ความภาคภูมิใจ
ในตนเอง
6. อนรุ ักษ์สืบสานศลิ ปะการแกะสลักของไทย
- ปัจจุบันมีผู้สนใจงานด้านแกะสลักผักและผลไม้อย่างจริงจังน้อยลง เนื่องจาก
ค่านิยมมกี ารเปลยี่ นแปลงไป แต่ยังมีผสู้ นใจท่จี ะเรียนรู้การแกะสลักผักและผลไม้ เพ่ือใช้เป็นส่วนหนึ่ง
ของการประกอบอาชีพในต่างประเทศ และการแกะสลักผักและผลไม้เป็นวิชาหนึ่งของการศึกษาใน
สาขาคหกรรมศาสตร์ จงึ เปน็ สง่ิ ทยี่ ังมีกลุม่ คนทมี่ กี ารอนรุ กั ษส์ ืบทอดใหค้ งอยตู่ อ่ ไป
5
1.4 วัตถุประสงคข์ องงานแกะสลกั
ในการแกะสลักผักและผลไม้น้ันมีวัตถปุ ระสงค์แตกต่างกันไปตามเจตนาของผู้แกะสลัก ซึ่งการ
แกะสลักน้นั สามารถจำแนกออกไดเ้ ปน็ ขอ้ ๆ ดังน้ี
1. เพือ่ ใชใ้ นชวี ิตประจำวันในการบริโภคกเ็ พ่ือทำให้สะดวกในการรับประทาน เช่น การปอก
คว้าน ริ้วต่าง ๆ ความสวยงาม เช่น แกะสลักเป็นดอก ใบ ใช้ประกอบอาหาร แกะสลักเป็นผักเครื่อง
จ้มิ จัดเป็นชดุ สลัดแบบต่าง ๆ
2. เพื่อใช้ในโอกาสพิเศษสำหรับจัดตกแต่งอาหาร จานอาหาร ประดับโต๊ะอาหารหรือ
สถานที่ เช่น แกะสลักภาชนะใส่อาหารการแกะสลักประดับหัวจาน แกะสลักเป็นแจกัน แกะสลักผัก
ผลไมเ้ ปน็ ชอ่ ดอกไม้ กระทงลอย
3. เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ สามารถประกอบเป็นอาชีพช่างแกะสลักผักผลไม้ตาม
โรงแรมใน ฝ่ายจัดเลี้ยงของห้องอาหารและโรงแรมต่าง ๆ ในร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือเปิดเป็น
โรงเรียนสอน หลกั สตู รการแกะสลกั ผกั และผลไมค้ วบคู่กบั การสอนอาหารไทย
4. เพอื่ เป็นแนวทางในการดำรงไวซ้ ึ่งเอกลักษณไ์ ทย ซงึ่ การแกะสลักผกั และผลไม้เป็นศิลปะ
และมรดกของชาติ ผลงานประณีตศิลป์ เป็นศิลปะมรดกแขนงหนึ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยเพระมี
เอกลักษณ์ เฉพาะตัว มีความละเอียด ประณีต อ่อนโยน มีความงามแบบวิจิตรพิสดาร ซึ่งไม่มีชาติใด
เหมือน
5. เพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทย สาขาวิชาการบริหารธุรกิจคหกรรมศาสตร์ ได้
ดำเนินการจัดแสดงงานศิลปะวัฒนธรรมไทยด้านการแกะสลักผักและผลไม้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบ
สานพัฒนา เผยแพร่ เอกลักษณ์ศลิ ปวัฒนธรรมการแกะสลกั ผกั และผลไม้
7
บทที่2
อุปกรณ์การแกะสลกั
2.1 ประเภทมดี แกะสลัก
การแกะสลักแบ่งออกตามลักษณะของเน้ือวัสดุเป็น 2 ประเภท ดังน้ี
1) การแกะสลักวสั ดุเนอื้ อ่อน เช่น ผัก ผลไม้ วุ้น สบู่ เทียนไข ฯลฯ
2) การแกะสลักวสั ดุเนื้อแข็ง เช่น ไม้ หินอ่อน น้ำแขง็ ฯลฯ
2.1.1 มีดแกะสลกั ท่ีมดี ้ามกลม มลี กั ษณะใบมีดเรียวแหลมยาวประมาณ 1.5 – 2.5 น้ิว ใบมดี มี
ทั้งเน้ือสแตนเลส และเนือ้ เหล็ก จงึ ควรเลอื ก ใหเ้ หมาะสมกับการใช้งาน มีดด้ามกลมเหมาะสำหรบั ผู้ท่ี
แกะสลกั ไดแ้ ลว้ เพราะสามารถควบคมุ มีดให้ไปตาม ทิศทางตา่ ง ๆ
ภาพท1่ี มดี แกะสลกั ด้ามกลม
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
2.1.2 มีดตัดและหนั่ มีดตัดและหั่น ใชส้ ำหรับ ตดั หัน่ และเกลาผกั และผลไม้ - ควรมีความคม
และมดี หัน่ ควรมีความยาวของใบมดี 5-7 นวิ้
ภาพท2่ี มดี ตัดและหน่ั
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
8
2.1.3 มดี คว้าน มีดควา้ น ใชค้ วา้ นเมลด็ ผลไมอ้ อก - ควรมคี วามคม ควรเลอื กท่ที าจากสแตนเลส
ภาพท3ี่ มีดควา้ น
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
2.1.4 มดี ปอก ควรเลอื กขนาดให้เหมาะสมกบั ผักและผลไม้ที่จะใช้
ภาพท4่ี มดี ปอก
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
2.2 การจับมีดแกะสลัก
วิธกี ารจบั มดี แกะสลัก ทีถ่ กู ต้องจะทำให้นำไปไปปฏบิ ัติได้อย่างเหมาะสมและการความรวดเร็ว
ในการ ทำงาน รวมทั้งผลงานที่จะมีความสวยงาม ปลอดภัยจากอุบัติเหตุได้อีกด้วย การจับมีด
แกะสลกั มีวิธีการจับอยู่ 3 แบบ คือ
2.2.1 การจบั มดี แกะสลักแบบหั่นผัก เหมาะสำหรบั การแกะสลักวัสดุที่มีขนาดใหญ่ เช่นแตงโม
ลักษณะลวดลาย การแกะสลักจะเป็นลวดลายท่มี ีขนาดใหญ่ วธิ กี ารจบั มดี แบบหนั่ ผกั ลักษณะด้ามมีด
จะอยใู่ ต้อุง้ มือ มวี ิธกี ารจับ ดงั น้ี
- นวิ้ หวั แม่มอื จะอยูด่ า้ นข้างมดี ตรงระหวา่ งดา้ มมีดและใบมีด
- นว้ิ ชีจ้ ับตรงสันมีด ตรงก่ึงกลางของใบมดี
- น้วิ กลาง นิว้ นาง น้วิ ก้อยกำดา้ มมีด
9
วิธกี ารแกะสลกั โดยการจับมีดแบบหนั่ ผกั
- มือซ้ายจับวัสดทุ จี่ ะแกะสลกั
- มอื ขวาจบั มีดแบบหน่ั ผัก และต้องให้นิ้วนางสัมผัสวัสดุที่แกะสลักเพ่ือช่วยควบคุม
นำ้ หนกั มอื และจะ ทำ ให้ชว่ ยลดอบุ ตั ิเหตุทเ่ี กดขึ้น
2.2.2 การจับมีดแกะสลักแบบจับปากกา เหมาะสำหรับการแกะสลักลวดลายได้อย่างอิสระ
นิยมใช้แกะสลัก โดยทั่วไป วิธีการจับมีดแบบจับปากกา ลักษณะด้ามมีดจะอยู่เหนือฝ่ามือมีอิสระใน
การแกะสลกั ลวดลาย มี วิธกี ารจบั ดังนี้
- นิ้วหัวแม่มือจะอยู่ดา้ นขา้ งมดี ตรงระหว่างด้ามมีดและใบมีด
- นว้ิ ชจ้ี ับตรงสันมดี ตรงก่งึ กลางของใบมีด
- นิ้วกลางจะอยู่ด้านข้างมีด ตรงระหว่างด้ามมีดและใบมีด และตรงข้ามกับ
นว้ิ หวั แม่มอื
- นิ้วนาง น้ิวกอ้ ยไมส่ ัมผัสมีด วธิ ีการแกะสลกั โดยการจับมีดแบบหนั่ ผัก
- มอื ซา้ ยจบั วสั ดทุ ่จี ะแกะสลัก
- มือขวาจบั มีดแบบหัน่ ผัก และตอ้ งให้นิ้วนางสัมผัสวสั ดุที่แกะสลักเพื่อช่วยควบคุม
นำ้ หนักมือและจะทำให้ชว่ ยลดอบุ ัติเหตทุ ่เี กดขึน้
2.2.3 การจบั มีดแกะสลกั แบบปอกผลไม้ เหมาะสำหรับการปอก การเกลารูปร่าง รูปทรงตา่ ง ๆ
วิธีการจับมีด แบบปอกผลไม้ ลักษณะด้ามมีดจะอยู่ใต้อุ้งมือ นิ้วชี้จะเป็นตัวกำหนดทิศ ทางของการ
เคลือ่ นมีด มวี ธิ กี ารจบั ดงั น้ี
- น้วิ หวั แมม่ อื จะอยู่ดา้ นข้างมีด ตรงระหว่างด้ามมดี ใบมีดและสนั มดี
- นว้ิ ชจี้ ับดา้ นขา้ งมีด ตรงระหวา่ งใบมีดและด้ามมดี
- นว้ิ กลาง นิว้ นาง นว้ิ ก้อยกำดา้ มมดี วิธกี ารแกะสลักโดยการจับมดี แบบปอกผลไม้
- มือซ้ายจบั วัสดุที่จะแกะสลกั
- มือขวาจับมีดแบบปอกผลไม้ และให้นิ้วชี้ช่วยควบคุมการเคลื่อนของมีดและช่วย
ควบคุมน้ำหนักมือ จะทำให้ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงาน
ประณีตจากสวน
การแกะสลักลวดลายต่าง ๆ โดยทั่วไปมักจะจับมีดแบบการจับดินสอ หรือปากกา อาจจะ
กล่าวได้วา่ การแกะสลกั นั้นเหมือนกับการเขียนหนังสือ ที่สามารถลากดนิ สอ หรอื ปากกาไปในทิศทาง
ต่าง ๆได้ตามท่ตี ้องการ
การปอก คว้านและการแกะสลักผักและผลไม้ มีอุปกรณ์ที่ใช้ในแกะสลักสามารถหาได้ไม่
ย่งุ ยากนัก มี คุณสมบัติ หนา้ ที่และลกั ษณะทเ่ี หมาะสม
10
2.3 ทตี่ กั ผลไม้ทรงกลม
ที่ตักผลไม้ทรงกลม ใช้สำหรับตักผักหรือผลไม้ให้เป็นทรงกลม ช้อนกลมใช้สำหรับควักไส้ผัก
และผลไม้ ควรเลอื กทท่ี ำจากสแตนเลส
ภาพท5่ี ทต่ี ักผลไม้ทรงกลม
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
2.4 ทต่ี ัดแบบหยกั
ท่ตี ดั แบบหยัก ใชต้ ักและห่ันผัก ผลไมใ้ ห้เปน็ ลวดลายสวยงาม ควรเลอื กให้เหมาะกับผักและ
ผลไม้ มคี วามคมและควรเลอื กท่ที ำจากสแตนเลส
ภาพท6ี่ ทตี่ ัดแบบหยัก
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
11
2.5 พิมพ์กดรูปต่าง ๆ
พิมพก์ ดรปู ต่าง ๆ ใชก้ ดผกั ผลไม้ใหม้ ีรูปแบบตามตอ้ งการ ควรเลอื กใหม้ คี วามคมและควรเลือก
ท่ที ำจากสแตนเลส
ภาพท7่ี พิมพ์กดรูปตา่ ง ๆ
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
2.6 กรรไกร
กรรไกร ใช้ตัดและตกแต่งผักผลไม้ที่สลัก -ควรเลือกให้เหมาะกับผักและผลไม้ มีความคมและ
ควรเลอื กทีท่ ำจากสแตนเลส
ภาพท8่ี กรรไกร
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
12
2.7 หินลับมีดหรอื กระดาษทราย
หนิ ลับมีดหรอื กระดาษทราย ใชส้ ำหรับลบั มีดใหม้ ีความคม ควรเลือกเน้อื ละเอยี ดๆ เพือ่ จะได้
ไม่ทำใหม้ ดี สกึ กรอ่ นเร็ว
ภาพท9ี่ หินลับมดี หรือกระดาษทราย
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
2.8 เขียง
เขียง ใชส้ ำหรับรอง เวลาหั่น ตัดผกั และผลไม้ ควรเลือกเขียงไม้หรือเขียงพลาสติก ท่มี ขี นาด
เหมาะสมในการใชง้ านและมนี ำ้ หนกั เบา
ภาพท1ี่ 0 เขยี ง
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
13
2.9 อา่ งน้ำ
อ่างนา้ ใชส้ าหรบั ใส่นา้ เพ่ือแช่ผกั และผลไมท้ ่ีแกะสลกั แลว้ ใหส้ ดขึน้ ควรเลือกใหเ้ หมาะกบั
ปรมิ าณผกั และผลไมท้ ่จี ะแช่
ภาพท1่ี 1 อา่ งน้ำ
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
2.10 ถาด
ถาด ใช้สำหรับรองเศษผักและผลไม้เวลาแกะสลัก ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของผักหรือ
ผลไม้ที่แกะสลกั
ภาพท1่ี 2 ถาด
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
14
2.11 ผา้ เช็ดมอื
ผ้าเช็ดมือ ใช้สำหรับเช็ดมือและอุปกรณ์ต่างๆในการแกะสลัก -ควรเลือกที่ซับน้ำได้ดี อาจเป็น
ผา้ ขาวบางหรือผา้ ขนหนูผนื เล็ก
ภาพท1ี่ 3 ผา้ เชด็ มือ
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
2.12 พลาสตกิ ห่ออาหาร
พลาสติกห่ออาหาร ใช้สำหรับห่อผักและผลไม้ เพื่อไม่ให้ผักและผลไม้เหี่ยวเฉาเมื่อแกะสลัก
เสร็จ ควรเลือกขนาดให้เหมาะสมกบั ผกั และผลไม้ทแ่ี กะสลกั
ภาพท1่ี 4 พลาสตกิ ห่ออาหาร
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
15
2.13 ถุงมือยาง
ถุงมือยาง ใช้สำหรบั สวมมือเพ่ือเพ่ิมความสะอาดเวลาหยบิ จับผกั และผลไม้ในการแกะสลัก
ควรเลือกแบบทีก่ ระชบั แนบเนือ้
ภาพท1ี่ 5 ถุงมือยาง
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
17
บทท่ี 3
การเลอื กผกั และผลไมแ้ กะสลัก
ผักและผลไม้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ในการเลือกเพื่อนำมาใช้แกะสลักนั้นต้อง
จำแนกไดว้ า่ ผกั และผลไมล้ ักษณะอย่างไรเหมาะกับการแกะสลกั
1. เลือกตามฤดูกาลทมี่ ี จะไดผ้ ักและผลไมท้ ี่มีปริมาณใหเ้ ลอื กมาก มคี วามสดและราคาถกู
2. เลอื กให้ตรงกับความต้องการหรือวัตถุประสงคใ์ นงานแกะสลกั เช่น เพื่อการปอก ควา้ น
เพ่ือการรับประทาน เพือ่ การตกแตง่ หรอื เพอ่ื เป็นภาชนะ
3. เลอื กผักและผลไมท้ ่ีสด และสวยตามลกั ษณะของผกั และผลไม้ท่แี กะสลกั
4. เลอื กให้มีขนาดและรปู ทรงเหมาะสมกับผลงานทีจ่ ะแกะสลัก
3.1 การเลือกรูปทรงผกั และผลไม้
ผักและผลไม้ในประเทศไทยมีมากมายหลายชนิดโดยทั่วไปจะมีรูปทรงกลมและรูป
ทรงกระบอก ซึ่งเป็นรูปทรงพื้นฐานในการแกะสลักได้ทุกลวดลาย ผักและผลไม้สามารถแบ่งออกเป็น
2 ประเภทคือ
1. ผลไม้ที่มีเนื้อบาง จะสามารถแกะสลักได้ไม่มากนัก และเหมาะกับการปอกคว้าน
เพอ่ื การ รับประทาน เชน่ ชมพู่ พทุ รา ละมดุ มะปราง เงาะ
2. ผลไม้เนื้อหนา จะสามารถปอก คว้าน ตัดแต่งให้เป็นชิ้นที่มีรูปร่างตามต้องการ
เพือ่ การรบั ประทาน และแกะสลกั ได้ตามความต้องการ ของผู้แกะสลัก เช่นแตงโม แคนตาลปู มันแกว
มะมว่ ง มะละกอ
3.2 การเลอื กซ้ือผลไมเ้ พื่อการแกะสลกั
1. การเลือกซอื้ ผกั และผลไม้ ควรเลือกชนดิ ทีม่ คี วามสดใหม่ เพ่อื จะชว่ ยใหผ้ ลงานทีแ่ กะสลัก
มอี ายุ การใชง้ านไดน้ านข้ึน
2. กอ่ นนำผักและผลไมไ้ ปแกะสลกั ควรล้างนำ้ ให้สะอาด
3. การเลอื กมีดแกะสลัก ควรเป็นมีดสแตนเลส หรอื มีดทองเหลือง ซึ่งมีดต้องคมมาก เพราะ
จะทำให้ ผักและผลไมไ้ มช่ ำ้ และไม่ดำ
4. การเลอื กชนดิ ของผกั และผลไมแ้ กะสลกั ควรเลือกให้เหมาะกบั ประโยชนก์ ารนำไปใช้
5. การเลอื กรปู แบบหรอื ลวดลายทจ่ี ะแกะควรเลือกให้เหมาะกบั การนำไปใช้ประโยชน์
18
6. การเลือกผัก ผลไม้ตกแต่งอาหารควรเลือกชนิดที่มีสีสวยงาม หลากหลาย เพื่อจะทำให้
อาหารนา่ รับประทานขึ้น
7. การแกะสลกั ต้องพยายามรกั ษาคุณค่าอาหาร โดยไม่ควรแช่น้ำนานเกนิ ไป
3.3 หลักการดแู ลรกั ษาผกั และผลไมแ้ กะสลัก
ผักที่ใช้ในงานแกะสลักมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป จึงควรได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ตั้งแต่
ขั้นตอนก่อนแกะสลัก ในระหว่างการแกะสลักและหลังการแกะสลัก เพื่อให้มีสภาพที่น่ารับประทาน
ตลอดจน สงวนคณุ ค่าทางโภชนาการไวไ้ ด้
3.3.1. หลกั การดูแลผัก ผักหวั สีสม้ สด เน้ือแน่น ฉ่ำน้ำ เลอื กหัวตรงผวิ เปลอื ก ไมเ่ ห่ียวหัวสดข้ัว
เขียว เนื้อละเอียด แน่นและเนียน ไม่เป็นเสี้ยน จะทำให้สลักเป็นลวดลายต่าง ๆ ได้ง่าย ลวดลายที่
สลักมีความคมชัดและสวยงาม ดังนั้นคนที่จะสลักต้องมีความชำนาญพอสมควร นอกจากนี้แล้วมีดท่ี
ใช้สลักต้องคม จะทำให้ ลวดลายที่ได้คมบางพลิ้ว ได้งานสลักที่มีความงดงามสามารถเก็บได้นาน
เพยี งแต่นำงานทสี่ ลกั เสรจ็ แลว้ แชน่ ้ำเย็นสกั ครู่เก็บใส่กล่องพลาสติกปดิ ฝาแชต่ ู้เย็นช่องธรรมดา
3.3.1.1 แครอททีส่ ลกั เพื่อใชร้ ับประทานและประดับจานอาหารไปในตัวน้นั นิยมจัดใน
จานสลัด อาหารจานเดียว เช่น จานข้าวผัด ตลอดจนจานอาหาร ฝรั่งแบบจานหลกั จะเลือกสลักเปน็
ลวดลายง่าย ๆ เช่น สลักเป็นดอกไม้ต่าง ๆ ใบไม้แบบง่าย ๆ เป็นริ้วลายสวยแล้วนำมาจัดเป็นผักหัว
จานจัดคูก่ บั ผักสีเขียวอย่างแตงกวา แตงรา้ น กะหล่ำปลที ง้ั สีเขยี ว สมี ่วง เป็นตน้ แครอทท่ีสลักเจตนา
ใช้ประดับหัวจานให้ดูสวยงามเท่านั้น นิยมสลักเป็นลวดลายดอกไม้ดอกใหญ่ ลวดลายสลับซับซ้อน
สวยงาม มีฐานดอกวางที่หัวจานได้ แต่งด้วยกลีบใบแตงกวา เมื่อใช้เสร็จสามารถล้างน้ำ เย็นใส่กล่อง
เก็บไว้ใชค้ ราวหน้าได้อีก เกบ็ ได้นาน 2-3 วันในตู้เย็น
ภาพท1่ี 6 แครอท
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
19
3.3.1.2 แตงกวา แตงร้าน ผักเนื้ออ่อนมีน้ำมากเลือกที่เปลือกสดลายสีเขียวอ่อนสลับ
ขาว ลูกอวบอ้วนจะมีเนื้อหนา ไส้น้อย แตงกวา แตงร้าน ที่จะนำมาสลักให้เลือกซื้อแตงที่ยังสดขั้วยัง
เขยี วอยู่ ลา้ งนำ้ ให้สะอาดซับน้ำใหแ้ ห้งแลว้ สลักทันที จึงจะได้ชิน้ งานทีส่ วย กลีบใบแข็งสดฉ่ำน้ำถ้ายัง
ไม่สลักให้เก็บ แตงในตู้เย็นโดยไม่ต้องล้างแตงจะยังคงสภาพสดและไม่แก่เปลือก แตงยังคงเขียวไม่
เหลืองเมื่อได้ชิ้นงานแล้วให้เก็บใส่กล่องหรือถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาเก็บได้นาน 24
ชัว่ โมง เกนิ กว่านนั้ ชิ้นงานจะเฉาไม่สวย สลักแตงกวา แตงรา้ น เพื่อรบั ประทานจะสลักลวดลายง่าย ๆ
เช่น ลายใบไม้แบบต่าง ๆ อย่างใบไม้แบบฉลุด้านทีเ่ ปน็ เปลือกหรือสลกั แบบให้เส้นลายใบละเอียดด้าน
ที่เป็นเนื้อ นำมาตกแต่งในอาหารจานเดียวรวมกับผักสีแดง สีเหลือง สีส้ม ที่สลักเป็นดอกไม้ เช่น
อาหารจานข้าวผัดต่าง ๆ หรืออาหารจานกับข้าว แตงกวา แตงร้านสลักสามารถรับประทานได้
นอกจากนี้ยังจัดในจานน้ำพริกชนิดต่าง ๆ เป็นผักสดรับประทานด้วย สลักแตงกวาแตงร้านจัดแสดง
ฝีมือ เน้นความสวยงาม นิยมใช้แตงกวาหรือแตงร้านลูกอวบอ้วน เพราะมีเนื้อมากและลูกใหญ่ สลัก
เป็นดอกบัว รูปสัตว์ นำมาตกแต่งแซมในถาดน้ำพริกหรือผักสลักชนิดอื่น ๆ ให้เกิดความหลากหลาย
ของลวดลายในถาดผักสลัก
ภาพท1ี่ 7 แตงกวา แตงรา้ น
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.1.3 มะเขือเทศมีหลายพันธุ์หลายสีสันหลายขนาดและหลายชนิด นิยมมะเขือเทศ
ลูกใหญ่ผิวเปลอื กสดสีแดงเข้าสม่ำเสมอทั้งลูก เนื้อหนา เมื่อสลักจะได้ ชิ้นงานที่มีสีแดงสด มีดที่ใช้ใน
การสลักต้องคมเพราะเปลือกของมะเขือเทศมีความเหนียวถ้ามีดไม่คมจะทำให้เนือ้ มะเขอื เทศช้ำ เมื่อ
สลกั ไดช้ นิ้ งานแลว้ ตอ้ งไมใ่ หถ้ ูกนำ้ อีกเลยใส่ในกล่องหรือถุงพลาสตกิ เก็บไวใ้ นตเู้ ยน็ ชอ่ งธรรมดาก่อนนำ
ออกมาใช้ซงึ่ จะเก็บได้นานถึง 24 ชว่ั โมง สลกั มะเขอื เทศเพื่อรับประทานน้ันถา้ นำไปเสิร์ฟกับผักสะบัด
นิยมสลักเป็นถ้วย โดยสลักปากถ้วยเป็นลายฟันปลาใส่น้ำสลัด เสิร์ฟ พร้อมกับจานผักสลัด หรือนำ
มะเขือเทศสีดามาสลักเป็นกลีบดอก กรีด แยกออกจากไส้คงรักษาไว้ให้เปน็ เกสรใชต้ กแต่งอาหารจาน
เดยี ว เชน่ ข้าวผัด มแี ตกกวาหรือตน้ หอมแซมมาดว้ ยสลกั มะเขอื เทศเปน็ ดอกไม้ ต้องใชม้ ะเขือเทศ
20
ห่ามเท่านั้นจึงจะทำได้ นิยมแต่งหัวจานกับข้าวให้ดูสวยงามน่ารับประทาน ดอกกุหลาบมะเขือเทศ
นิยมทำกันมากทำง่าย ๆ เพียงใช้มีดคมกริบค่อย ๆ ปอกเปลือก มะเขือเทศบาง ๆ เป็นวงรอบมะเขือ
เทศอย่าให้เปลือกขาดจากนั้นนำเปลือกมะเขือเทศมาขดเป็นวงซ้อน ๆ กันจะได้ดอกกุหลาบสีแดงสด
สวยทีเดียวเนือ้ ในมะเขือเทศก็นำไปใช้เปน็ เคร่ืองปรงุ อาหารอ่นื ๆ ได้
ภาพท1ี่ 8 มะเขือเทศ
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.1.4 หวั ไชเทา้ เป็นผักหัวสีขาวแทง่ ยาวตรงปลายรี เนอ้ื สขี าวใสเน้ือกรอบเพราฉ่ำน้ำ
นำมาสลักได้หลากหลายลวดลายเลือกหัวไขเท้าที่มีผิวสด ไม่เหี่ยวเปลือกขาวสะอาด ผิวเรียบ
สม่ำเสมอทั้งหัวรูปทรงกระบอกแนวตรงหัวใหญ่ เนื้อไม่ฟ่ามหรอื เหี่ยวจึงสามารถสลักได้ลวดลายแบบ
และหลายขนาดชิ้นงานจะออกมาขาวสะอาด สลักหัวไชเท้าไว้รับประทานนิยมปรุงสุกที่รับประทาน
กับอาหารฝรั่งจะเกลาเป็นหัวไชเท้าลูกเล็กทำเป็นรูปใบไม้อย่างหนาหรือสลักเป็นลวดลายกลม ๆ
อยา่ งงา่ ยถ้านำไปทำแกงจืดจะตดั เปน็ ท่อนตามขวางกอ่ นสลักเปน็ ดอกเลก็ ๆ หลาย ๆ แบบอยา่ ง สลัก
หัวไชเทา้ ดิบนิยมสลกั เพอื่ นำมาประดับหรอื ตกแต่งหัวจานให้ดสู วยงามเท่านนั้ สลักเป็นรปู ดอกไม้แบบ
ต่าง ๆ นำไปย้อมสีผสมอาหารให้ไดส้ สี นั หลากหลายตามต้องการลวดลายท่ีสลัก เช่น ลายดอกกุหลาบ
ลายดอกดาวเรือง สลักหัวไชเท้าดิบเพ่อื นำไปแต่งเคร่ืองสดกเ็ ชน่ เดยี วกันนิยมสลกั เปน็ ดอกไม้ ลวดลาย
สวยงามละเอียด สลักเปน็ นก รูปผเี สอ้ื เปน็ ต้น
ภาพท1ี่ 9 หัวไชเทา้
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
21
3.3.1.5 พริก มหี ลายสายพันธุ์ท่นี ิยมนำมาสลกั คือพริกช้ีฟ้า พรกิ หวาน เพราะมเี นื้อมาก
สีสดสวย มีทั้งสีแดง สีเขียว สีเหลือง ส่วนพริกขี้หนูนิยมนำมาตกแต่งทั้งเม็ดโดยเฉพาะพริกขี้หนูสวน
ถ้าเม็ดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะสลักเป็นดอกไม้ดอกเล็กสำหรับตะแต่งถ้วนน้ำพริกเล็ก ๆ พริกที่สลักต้อง
เลือกผิวเปลือกที่สดไม่เหี่ยวข้ัวมีสีเขยี วสดไม่เน่าและดำคล้ำถ้าเป็นพริกชี้ฟ้าความยาวประมาณ 2 นว้ิ
สลกั พรกิ เพื่อรับประทานพริกขน้ึ ชอื่ ว่าเผ็ดถ้าสลักพริกเป็นดอกเป็นดวงจะไม่นยิ มนำไปรับประทาน จึง
หัน่ เป็นชิ้นเฉยี งบา้ น แฉลบบ้างใสเ่ ป็นส่วนประกอบในอาหารหรือซอยเป็นเสน้ ๆ เทา่ นนั้ สลักพริกเพ่ือ
นำไปตกแต่งจะนิยมตกแต่งในอาหารไทยจำพวกแกง ผัด และทอด นิยมใช้พริกชี้ฟ้าทั้งสีแดงและสี
เขยี ว นำมาสลกั เป็นดอกเป็นดวง เชน่ ดอกพริกทีส่ ลกั มตี ้ังแต่ 4 กลบี ไปจนถงึ 8 กลีบ แชน่ ำ้ ให้ดอกบาน
ตกแต่งหัวจานกบั ต้นหอม ผกั กาดหอม
ภาพท2ี่ 0 พรกิ
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.1.6 มะเขือต่างๆ ท่ีนำมารับประทานกับน้ำพริกก็มีมากมายหลายพันธุ์ ที่นิยมและ
รู้จักกันแพร่หลายได้แก่ มะเขือเหลือง มะเขือไข่เต่า มะเขือเสวย มะเขือม่วง มะเขือเปราะ ซึ่งแต่ละ
พันธ์ุกม็ สี สี ันทแ่ี ตกต่างกนั ไปเม่ือนำมาจัดรวมกันกจ็ ะได้สีท่ีมคี วามหลากหลายในถาดนำ้ พริกต้องเลือก
มะเขือที่แก่ จัด ข้ัวสีเขียวสด ผิว เปลือกไม่เหีย่ ว ไม่มีรอยช้ำหรือแมลงกัด มะเขือเมื่อถูกอากาศจะทำ
ให้ดำ จึงต้องนำมะเขือที่สลักเสร็จแล้ว แช่ในน้ำที่ผสมน้ำมะนาวสักครู่ เอาขึ้นจากน้ำใส่กล่องจัดเก็บ
ในตู้เย็นช่องธรรมดาเน้ือมะเขือจะยังขาวและน่ารับประทาน สลักมะเขือเพื่อรับประทานนิยมสลักจัด
ในถาดน้ำพริกนานาชนิด เช่น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกมะขาม น้ำพริกอ่อง หลน เป็นต้น หรือหั่นเป็นชน้ิ
สลักด้วยลายง่ายๆ สลักด้านข้างให้เหมือนใบไม้ ใส่ในแกงต่าง ๆ หรือ ผัดเพื่อเพิ่มความสวยงาม การ
สลักมะเขือทั้งลูกเป็นดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกดาวกระจาย ให้ใช้มะเขือเสวยมา สลัก ดอกประดิษฐ์สี
เหลืองใช้มะเขือเหลืองมาสลักและเพือ่ สะดวกในการรบั ประทานยังนำมะเขือเหลืองมา สลักเป็นใบไม้
ลายฉลุ ตกแต่งในจานน้ำพริกด้วย สลักมะเขือเพื่อตกแต่งและให้รับประทานได้ด้วยจะสลักเป็นใบไม้
งา่ ย ๆ แบบต่าง ๆ ทัง่ ลายฉลุ ลายใบ ไมล่ ะเอยี ดนกั ถ้าจดั หวั จานเพยี งอย่างเดียว เชน่ อาหารจาน
22
เดยี วและกับข้าว จะเลือกใช้มะเขือมว่ ง และมะเขือ เหลอื ง เพราะมขี นาดใหญ่กว่ามะเขอื ชนดิ อื่น
ภาพท2่ี 1 มะเขือต่าง ๆ
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.1.7 แรดิช เป็นรากสะสมอาหารอยู่ใต้ดินเรียกว่าหัว หัวมีขนาดเล็กมีลักษณะกลม
รูปไข่หรือยาวเรียวเนื้อในขาว กรอบชุ่มน้ำ สลักเป็นดอกไม้แต่งจานอาหารให้เลอื กหัวกลมขนาดตาม
ต้องการผิวสีสดสม่ำเสมอไม่มีรอยช้ำ ขั้วสด เนื้อแน่น เมื่อสลักได้ชิ้นงานแล้วให้แช่น้ำในกล่องนำเข้า
ตู้เย็นก่อนนำออกมาใช้งานแต่ถ้าต้องแช่นานให้เอาขึ้นจากน้ำห่อกระดาษทิชชู่สีขาวเก็บใส่กล่องไว้ใน
ตเู้ ย็นจะทำให้กลีบดอกแข็งสดและอ่ิมตัว
ภาพท2่ี 2 แรดิช
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.1.8 เผอื ก เป็นผักหัวทมี่ ีเนอื้ แน่นและละเอียด เน้อื มลี ักษณะคล้ายหินออ่ นเมื่อนำมา
แกะสลักจะได้ลวดลายเฉพาะของเนื้อเผือกและลวดลายที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยมีทั่งหัวใหญ่และหัวเล็ก
เลือกหัวที่มีน้ำหนัก ส่วนที่เป็นลำต้นมีสีเขียวและสั้น สลักได้ทั้งดอกไม้และใบไม้แบบง่ายๆ สลักเป็น
ภาชนะใส่อาหารเมื่อสลักได้ชิ้นงานแล้วอย่านำชิ้นงานไปแช่น้ำนานเพราะจะทำให้แป้งที่อยู่ในเน้ือ
เผือกออกมามากทำใหล้ วดลายที่สลกั ไม่สดสวยให้จมุ่ น้ำเยน็ เก็บใส่กล่องพลาสติกปดิ ฝาหรือใส่
23
ถุงพลาสติกเก็บในตูเ้ ย็นได้นาน 2 วัน สลักเผือกเพ่ือรับประทานไม่นิยมรบั ประทานดิบเพราะมียางจะ
ทำให้คันจึงนิยมทำให้สุกก่อนรับประทานโดยใส่เป็นส่วนประกอบในอาหาร ทั้งอาหารคาว เช่น แกง
เลียงเผือกและอาหารหวาน เช่นนำไปเชื่อมและสลักเป็นภาชนะใส่สังขยาเป็นสังขยาเผือก เลือกลาย
สลักแบบง่ายๆไม่สลับซับซ้อนหรอื ละเอียดจนเกินไปเพราะเผอื กเมื่อสุกเนือ้ จะมีลักษณะฟู สลักเผือก
เพื่อตกแต่งหัวจานเพียงอย่างเดียวนิยมใช้เผือกดิบมาสลักเป็นดอกไม้ทั้งลายดอกกุหลาบลายดอก
รกั เร่ เป็นตน้ สลกั ทัง้ ดอกเลก็ ดอกใหญ่ นำมาตกแตง่ หัวจานอาหารกบั แตงกวาสลกั เปน็ ใบไม้
ภาพท2ี่ 3 เผือก
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.1.9 ฝักทอง มีหลายหลายพันธุ์หลายสีแต่ที่นิยมนำมาสลักเป็นฟักทองเนื้อสีเหลือง
และสีเหลืองออกส้มเพราะหาได้ง่าย เนื้อละเอียดแน่นและหนาผลใหญ่เนื้อเยอะเมล็ดน้อย สลัก
ฟักทองเพื่อนำมาใช้รับประทาน นิยมสลักลวดลายเรียบง่ายเพื่อรักษาเนื้อฟักทองให้เป็นชิ้นเป็นอัน
เชน่ สลักฟักทองเพอ่ื เปน็ ผักจิม้ น้ำพรกิ นิยมสลักลายลงข้างฟักทองบา้ งต้องเป็นลายง่ายๆ สลักฟกั ทอง
เพื่อใช้เป็นผอบนิยมสลักทั้งลูกโดยปอกเปลือกออกให้หมด เกลาฟักทองให้เป็นรูปโถคว้านเมล็ดให้
เรียบร้อย แล้วจึงลงมือสลักให้เป็นดอกเป็นดวงที่งดงามวิจิตร เช่นลายดอกข่า ลายดอกกูหลาบ เป็น
ต้น จากนั้นก็นำไปใช้เป็นภาชนะใส่น้ำพริกหรือหลน เป็นต้น สลักฟักทองเพื่อนำไปเชื่อม นิยมสลัก
เป็นรูปดอกไม้แบบต่าง ๆ หลายรูปแบบ ลายต้องไม่ละเอียดหรือพลิ้วจนเกินไปจะทำให้กลีบดอกหัก
เมื่อเชื่อมเสร็จจะได้ชิ้นงานสวยเปน็ เงางาม งานฟักทองที่แกะสลักแล้ว ให้จุ่มน้ำ ไม่ควรแช่น้ำ เพราะ
ทำให้กลบี ชำ้ ได้
ภาพท2ี่ 4 ฟักทอง
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
24
3.3.1.10 ขงิ เป็นพชื ทม่ี หี วั อยูใ่ ต้ดิน เรยี กว่า “เหงา้ ” มรี ปู รา่ งต่าง ๆ สวยงามนิยมใช้ขิง
อ่อนมาสลักเพราะเนื้อละเอียดสีเหลืองนวล สลักได้ทั้งแง่งใหญ่และแง่งเล็กสังเกตตรงลำต้นที่ติดกับ
แงง่ ขงิ มสี ีชมพู ผิวเปลอื กสดไม่มรี อยช้ำเลือกขิงทีส่ ดผวิ เปลือกยังใสเป็นสีชมพู นำมาลา้ งใหส้ ะอาด ทิ้ง
ให้สะเด็ดน้ำก่อนนำมาสลัก เมื่อสลักได้ชิ้นงานแล้วให้คลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำทยอยทำนำไปเก็บไว้
ในตเู้ ย็นก่อน มิฉะน้ันเนอื้ ขงิ จะเปล่ียนเป็นสีคล้ำไมส่ วยงาม สลกั ขิงน้นั นิยมสลักเพื่อไวด้ องรับประทาน
เปน็ สว่ นใหญ่ ลวดลายที่ เลอื กนำมาสลักมีทง้ั เป็นลูกสบั ปะรดเลก็ ๆ เป็นรูปดอกขา่ กลีบซ้อน สลักเป็น
ขิงยืดหยุ่นได้สลักเป็นลายดอกไม้และใบไม้ตามแง่งขิงได้สวยงามสลักเป็นสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยแล้วจึง
นำไปดองในขวดโหลแจกเป็นของขวัญที่รบั ประทานได้สวยงามใหด้ ้วยฝมี ือและทำมาจากใจสลักขิงกิน
เป็นผักแนมแกมกับอาหารต่าง ๆ เช่น นำ้ พรกิ ขนมจนี ชาวน้ำ ห่นั เป็นแผน่ บาง สลักลายเล็กน้อยให้ดู
สวยงามขาวสะอาดชวนน่ารับประทานมีทั้งลวดลายใบไม้ดอกประดิษฐ์ เป็นต้น สลักขิงเป็นดอกไม้
ตกแต่งหัวจานนิยมสลักเป็นดอกเป็นดวง ดอกเล็ก จัดในจานอาหารที่มีขิงเป็นเครื่องปรุง เช่น ต้มส้ม
ปลาทู ไก่ผัดขงิ ยำขิงออ่ น เมี่ยงต่าง ๆ เป็นตน้
ภาพท2่ี 5 ขิง
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.1.11 หอมใหญ่ เป็นผักหัวทีม่ ีหลายขนาดเนือ้ เป็นวงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ในการเลือก
หอมใหญ่มาสลักนั้น ให้เลือกหัวแน่นมีน้ำหนักเมื่อบีบดูจะไม่ยุบ หวมีลักษณะแห้ง สลักลวดลายได้
ง่ายๆ อยา่ งสวยงาม การสลกั หอมใหญ่น้นั สลกั ไดท้ ั้งหัวและสลกั ไดเ้ ปน็ กลบี ดอกไมต้ ่าง ๆ โดยลอกเน้ือ
หอมออกเป็นชั้น ๆ เสียก่อนจากนั้นก็สลักลวดลายกลีบตามที่ต้องการ เมื่อได้กลีบดอกไม้แล้วเก็บใส่
ถุงพลาสติกปิดฝาเข้าตู้เย็นเมื่อจะใช้ก็นำมาประกอบเป็นดอกไม้ สลักหอมใหญ่เพื่อนำมารับประทาน
เช่น ใสใ่ นแกงมสั มนั่ นยิ มสลกั หอมใหญ่เป็นรปู ฟันปลาซ่ึงจะเลือกใช้หอมใหญห่ วั ขนาดเล็กถ้านำมาใส่
กบั ผักสลดั นยิ มลอกเน้ือออกมาเป็นชน้ั ๆ แล้วสลักเป็นรูปใบไม้แบบ งา่ ย ๆ ถา้ นำไปผัดกจ็ ะห่นั ออกมา
เป็นชิ้น จกั รมิ รอบกลบี หอมใหญ่ เป็นตน้ สลกั หอมใหญ่เพอื่ นำไปตกแต่งหัวจาน ทง่ั อาหารจานเดียว
25
และกับข้าวนิยมสลักหอมใหญ่เป็นกลีบดอกไม้ เช่น กลีบดอกปลายแหลม กลีบดอกปลายมน จัดให้
เปน็ รปู ดอกไมท้ ห่ี วั จานแต่งใหด้ อกไม้หอมใหญส่ วยด้วยผักสเี ขียวอยา่ งใบไม้แตงกวาและตน้ หอม
ภาพท2ี่ 6 หอมใหญ่
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.1.12 กระหล่ำปลี ทั้งสีเขียวและสีม่วงในเกาะกันแน่นหุ้มซ้อนกันหลายชั้นใบหนา
และกรอบกรบุ ผวิ ใบหยิกเปน็ คล่นื เลือกหัวไม่แน่นเพ่ือจะได้แยกออกเป็นใบๆได้งา่ ยโดยไม่ฉีกขาดและ
ไม่โค้งงอเลือกหัวสดดูที่ก้านและสีผิวตึง ถ้าไม่สดให้แก้ด้วยการแช่น้ำเย็นจัดทั้งหัวสักครู่ก็จะช่วยให้
กะหล่ำปลีสดขึ้นเม่ือสลักได้ชิ้นงานแล้วให้แช่ น้ำใส่กล่องปิดฝาเข้าตู้เย็นช่องธรรมดาเก็บไว้ได้ 1 วัน
ถา้ เกนิ กว่าน้ตี ้องเอาข้นึ จากน้ำมาห่อกระดาษทชิ ชูไว้ เก็บเข้ากล่องแช่ ตเู้ ย็นชอ่ งธรรมดา จะเก็บไว้ได้
หลายวัน
ภาพท2่ี 7 กระหล่ำปลี
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
26
3.3.2.2 บีทรูท มีรูปร่างค่อนข้างกลม ผิวสีม่วงแดงเนื้อสีแดงเข้ม ชุ่มน้ำก้านใบสีแดง
นำมาสลักเป็นรูปดอกไม้เพื่อประดับจานอาหารเลือกหัวกลมๆขนาดเท่า ๆ กัน เนื้อแน่นแข็งไม่ฟ่าม
ผิวตงึ เรียบสมำ่ เสมอ สีมว่ งสด มีนำ้ หนกั ล้างใหส้ ะอาดก่อนนำไปสลักงานใหเ้ ก็บชิ้นงานดว้ ยการนำไป
หอ่ ด้วยกระดาษทิชชูชบุ น้ำใส่กล่องปิดฝาแช่ตเู้ ย็นเพ่ือชว่ ยถนอมผลงานจะเก็บช้ินงานได้หลายวัน เม่ือ
จะใชใ้ หฉ้ ีดน้ำใหช้ ุม่ เพื่อใหส้ ดใสข้นึ
ภาพท2่ี 8 บีทรูท
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.2.3 แอปเปลิ้ มีหลายพันธ์ทุ ้ังสีแดงสเี ขยี วและสีเหลือง นอกจากนี้ยังมีทั้งลูกเล็กและ
ลูกใหญ่เปลือกสีแดงอมเหลืองสามารถนำมาสลักได้ทั้งนั้น เลือกที่ผิวเปลือกสดไม่เหี่ยวได้รูปทรงถ้า
เป็นแอปเปิลพันธุ์สีแดงสีเขียวและสีเหลืองสีต้องสม่ำเสมอ การสลักเป็นรูปใบไม้จัดในถาดผลไม้
สำหรับเสิร์ฟ หรือหั่นเป็นชิ้นสามเหลี่ยมซ้อนกันเรียกช้างแอปเปิลสำหรับตกแต่งหัวจานและสามารถ
รับประทานได้ด้วย โดยเฉพาะอาหารแบบฝรั่งโดยทั่วไปสลักแอปเปิลเพื่อตกแต่งและจัดแสดงนิยม
สลกั ทง้ั ผลปอกเปลือกแลว้ สลกั กับสลักทั้งเปลือกการสลักท้ังเปลือกช่วยทำให้สีของเปลือกสลับกับเน้ือ
สีเหลืองนวลของแอปเปิลได้อย่างสวยงามโดยเฉพาะแอปเปิลสีแดงนำมาจัดในถาดผลไม้ และสลัก
แอปเปิลสีเขียวเปน็ ลายใบไม้นำมาแซมใหส้ วยงาม และยังสามารถ รับประทานไดด้ ว้ ย
ภาพท2ี่ 9 แอปเป้ลิ
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
27
3.3.2.4 ฝรั่ง เป็นผลไม้เปลือกบางผลทรงกลมป้อมมีหลายพันธุ์เลือกใช้ฝรั่งพันธุ์สาลี่
หรือฝร่ังลกู ใหญท่ รงกลมป้อมเลือกเปลือกสเี ขยี วอ่อน ผิวเปลอื กเรยี บสดไม่เหีย่ วไม่มรี อยช้ำ ตรงขั้วไม่
มสี นั เนื้อนนู ขนึ้ มา สลกั ได้ท้ังผลและหน่ั ชิ้นออกมาสลักเน้ือฝรั่งมลี ักษณะเป็นเหมือนเมด็ ทราย มีดที่ใช้
สลักต้องคม ลวดลายจะคมชัด เมื่อสลักได้ชิ้นงานแล้ว ชุบน้ำเย็นสักครู่เก็บใส่กล่องพลาสติกหรือใส่
ถุงพลาสติกปิดให้สนิทแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาจนกว่าจะใช้งานสลัก เช่นหั่นเป็นชิ้นตกแต่งให้มีลักษณะ
เหมือนใบไม้ลักลายเส้นเป็นลานฉลุ หรือหั่นชิ้นขนาดพอคำสลักเป็นดอกไม้ดอกเล็ก ๆ เช่น ดอก
กุหลาบ ดอกพุดตาน จัดกับถาดผลไม้รวมเสิร์ฟพร้อมพริกกับเกลือ สลักฝรั่งเพื่อตกแต่งหรือจัดแสดง
เลอื กใช้ฝรัง่ ห่าม เนอ้ื จะแน่นและแขง็ สลักดว้ ยลวดลายท่ี สลับซับซอ้ นทงั้ ผล
ภาพท3่ี 0 ฝรง่ั
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.2.5 สัปปะรด มีหลายพันธ์ุ การเลือกสับปะรดแก่จัดตาใหญเ่ ปลือกสเี ขียวอมเหลือง
เนื้อไม่ ฉ่ำมาก เมื่อสลักได้ชิ้นงานจะเห็นลวดลายชัดเจน มีดที่ใช้ในการสลักต้องคมมาก เมื่อสลักเน้ือ
จะไม่เป็นเสี้ยนและช้ำน้ำในสับปะรดไม่ไหลออกมามาก สลักสับปะรดเพื่อรับประทาน นิยมสลัก
ลวดลาย แบบง่ายๆ เช่น สลักเป็นผีเสือ้ แลว้ หั่นเป็นชิน้ หรอื ทำเป็นสับปะรดลูกจิ๋วหรือหั่นเปน็ ชิน้ ก่อน
แล้วสลักให้เป็นรูปพัด จัดในถาดผลไม้รวมสำหรับเสิร์ฟแบบบุฟเฟ่ต์หรือจัดในจานอาหาร สับปะรด
ตอ้ งเลอื กผลขนาดเลก็ เปลือกสเี ขยี วสลักลวดลายเฉพาะตรงปากของภาชนะเปน็ ฟนั ผลา
ภาพท3ี่ 1 สัปปะรด
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
28
3.3.2.6 แคนตาลูป มีหลากหลายพนั ธแุ์ ละหลากหลายขนาดมที ั้งผลกลมรแี ละกลมป้อม
พันธุ์ของไทยเปลือกจะมีสีเหลืองอ่อนเนื้อสีเหลืองทอง แคนตาลูปญี่ปุ่นเปลือกเป็นริ้วลูกกลม เนื้อสี
เขียว แคนตาลูปที่จะนำมาสลักต้องเลือกแคนตาลูปที่ไม่สุกมากผิวเปลือกสดเมื่อสลักได้ชิ้นงานแล้ว
สลักแคนตาลูปเพื่อรับประทานเลือกแคนตาลูปสุกสลักลายจะมีกลิ่นหอมรสหวานนิยมสลักลวดลาย
แบบงา่ ย ๆ เพราะแคนตาลูปใหม้ ลี ักษณะเหมือนใบไม้แล้วสลักลายเสน้ หรือสลักเป็นดอกเล็กขนาดพอ
คำอย่างดอกแพงพวยดอกกุหลาบสลกั แคนตาลูปเพือ่ ตกแต่งนิยมสลักทั้งผลเพื่อจัดแสดงในถาดผลไม้
รวมชนิดอื่นต้องเลือกแคนตาลูปที่ยังไม่สุกเนื้อแคนตาลูปยังแข็งอยู่นำมาสลักเป็นลวดลายท่ี
สลบั ซับซอ้ น
ภาพท3่ี 2 แคนตาลปู
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.2.11 ละมดุ มีผลลกั ษณะกลมรปู ไข่หรือยาวรีขนาดเลก็ หรอื ใหญ่แลว้ แต่พันธ์ุเปลือก
บางผงิ เปลอื กสนี ้ำตาล ผวิ เรยี น เนอื้ น่มิ เน้อื ละมดุ มสี นี ำ้ ตามอมแดงน้ำตาลอมเหลืองไส้กลางผลเป็นสี
ขาวนวลเมล็ดสีดำเป็นมันแบนเรียว 2-5 เมล็ดอยู่กลางผลให้เลือกผลที่ขั้วยังติดอยู่เนื้อแน่น ไม่มีรอย
ช้ำลา้ งกอ่ นนำไปสลกั เมอื สลกั แล้วเก็บผลงานใสก่ ลอ่ งแช่ตู้เยน็ ชอ่ งธรรมดาทันที
ภาพท3ี่ 3 ละมุด
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
29
3.3.2.7 แตงโม ผลไม้ที่มีน้ำหนักมากมีหลายพันธุ์หลายขนาดหลายสีผิวทั่งทรงกลมและ
ทรงรี เลือกผิวเปลือกสดสสี วยท้ังลูกเนื้อแตงโมมีน้ำมากและแน่น มีดที่ใช้สลักต้องคม ลวดลายทีส่ ลัก
จะคมชัดสวยงามแตงโมที่สลักเสร็จแล้วทั้งผลต้องฉีดน้ำแล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางหรือคลุมด้วย
ถุงพลาสติกแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาจนกว่าจะใช้งานและถ้าหั่นเป็นชิ้นเอาแต่เนื้อสีแดงมาสลักให้เก็บใส่
กล่องปิดฝาให้สนิทแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเช่นกัน สลักแตงโมเพื่อรับประทานให้เลือกแตงโมลูกใหญ่ได้
เนื้อมากไส้ไม่ล้มสุกกำลังดีเนื้อจะฉ่ำหั่นเป็นชิ้นยาว สลักลวดลายที่เนื้อแตงโมเล็กน้อย เช่ น ทำ
ลวดลายหยักด้านข้างของชิ้นแตงโแล้วหั่นเป็นชิน้ หนาพอประมาณ หรือสลักเป็นลายดอกกุหลาบเล็ก
ๆ ขนาดพอคำก็ได้จัดในถาดผลไม้รวมสำหรับเสิร์ฟแบบบุฟเฟ่ต์ สลักแตงโมเพื่อตกแต่งหรือจัดแสดง
เลือกใช้แตงโมให้มขี นาดพอเหมาะกบั ภาชนะที่จะใชจ้ ัด นอยม สลักทั้งผลด้วยลวดลายท่ีสลับซับซ้อน
สวยงาม จัดเป็นหัวถาดในถาดอาหารประเภทอาหารว่าง อาหารเรียกน้ำย่อย จัดในถาดผลไม้รวม
พร้อมรับประทานหรือหั่นช้นิ สลกั เป็นดอกไมส้ ีแดงจัดรวมกันในถาดผลไม้ชนดิ อ่ืนก็ได้
ภาพท3ี่ 4 แตงโม
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.2.8 มันแกว มีหลายขนาดทั้งหัวขนาดใหญ่และหัวขนาดเล็กการสลักมันแกวให้
เลือกหัวขนาดเล็กเท่ากำมือเนื้อมันแกวจะละเอียดใสไม่ขุ่น เนื้อไม่เป็นเสี้ยนทำให้สลักได้งานและ
ลวดลายคมชดั ก่อนนำมันแกวมาสลกั ต้องลา้ งเปลือกให้สะอาด ปอก เปลือกออกให้หมด เนื้อมันแกว
จะขาวใส เมอื่ สลักไดช้ น้ิ งานแลว้ ต้องชุบน้ำเย็นสักครู่อย่าแช่น้ำนาน จะทำให้เน้ือมันแกวเปล่ียนเป็นสี
เหลืองได้ สลักมันแกวเพื่อรับประทานให้เลือกหัวขนาดใหญ่เพรามะเนื้อมากหั่นเป็นชิ้นพอคำ เช่น
ดอกรักเรต่ ูม ดอกผกา กาญจน์ ดอกบว๊ ย ตกแตง่ เกสรด้วยดอกเข้มสีแดง จัดรวมกับผลไม้อ่ืน ๆ เสิร์ฟ
พร้อมพริกกับเกลือ สลักมันแกวเพือ่ ตกแต่งหรอื จัดแสดง อย่างอาหารจานบุฟเฟ่ต์จานใหญ่ต้องให้มนั
แกวหัวขนาดใหญ่สลักเป็นดอกไม้ เช่นดอกไม้ลายดอกกุหลาบจัดหัวจานพร้อมกับผักสีเขียว หรือนำ
มันแกวไปยอ้ มสตี ามต้องการหรือสลักทั้งหวั ให้มีลวดลายที่สลบั ซับซอ้ นนำไปจดั รวมกับผลไม้ชนิดอ่ืนท่ี
มสี สี ันตา่ ง ๆ กช็ ว่ ยใหผ้ ลไมน้ ้ันดสู วยงามน่ารบั ประทานนอกจากนี้ยงั นยิ มนำสผี สมอาหารมาย้อมให้
30
ลวดลายสีขาวใสของมันแกวเปลี่ยนเป็น สีสันต่าง ๆ เช่น สลักเป็นสัตว์ตัวน้อยแต่งแต้มสีใหส้ วยน่ารัก
ได้
ภาพท3่ี 5 มันแกว
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
3.3.2.9 มะม่วง มีมากหลายพันธุ์ นำมาสลักได้ทั้งนั้น เลือกที่ผิวเปลือกสดสีเขียวไม่มี
รอยช้ำ ได้รูปทรงถ้ายังมีขั้วต้องเลือกที่มีสีเขียวสดไม่เหีย่ วและดำคล้ำชิ้นงานที่สลกั จากมะม่วงพันธุ์ท่ี
ไม่ใช่ น้ำดอกไม้ต้องปอกเปลือกออกให้หมด แช่ในน้ำผสมน้ำมะนาวสักครู่จึงน้ำมาสลักตามต้องการ
เมื่อสลักเสร็จแล้วกแ็ ช่น้ำผสมนำ้ มะนาวอีกครั้ง ชิ้นงานสลักนัน้ ก็จะไม่ดำถ้าใช้มะม่วงพันธุ์ น้ำดอกไม้
มาสลัก ใหล้ า้ งด้วยนำ้ เย็นเก็บใส่ตเู้ ย็นไวจ้ นกวา่ จะใช้งานเนื่องจากมะมว่ งพนั ธนุ์ ้ำดอกไม้มีรสเปรี้ยวใน
เนื้อมากเมื่อถูกอากาศจึงไม่ดำ สลักมะม่วงเพื่อรับประทานเลือกใช้มะม่วงพันธุ์ไหนก็ได้แต่ต้องปอก
เปลือกเขียวออกให้หมดจนเห็นแต่เนื้อขาวแล้วแช่ในน้ำผสมน้ำมะนาวสักครู่ หันเป็นชิ้นขนาดพอคำ
สลักเป็นลวดลายใบไม้แบบต่าง ๆ เช่น ใบไม้ฉลุ หรือสลักเป็นดอกไม้เล็ก ๆ เช่น ดอกบุหลันนำมาจัด
เสิร์ฟพร้อมกับเกลือหรือน้ำปลาหวาน สลักมะม่วงเพื่อตกแต่งหรือจัดแสดงใช้มะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้
เพราะจะอยู่ได้นานไม่ดำเลือกท่ีขั้วสดสีเขียว นิยมสลักทั้งผลโดยสลักทั้งเปลือกและปอกเปลือกแล้ว
สลกั ตรงเน้อื สีขาวดว้ ยลวดลายวจิ ิตรสวยงาม นำมาจัดในถาดผลไมร้ วมชนดิ อ่ืนประดับบนโตะ๊ อาหาร
ภาพท3่ี 6 มะมว่ ง
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
31
3.3.2.10 ชมพู่ มีหลายพันธุ์ เปน็ ผลไม้เปลือกบางมเี นื้อเป็นฟองน้ำผิวเปลือกสดมันเรียบ
ไม่เหยี่ ว ไมม่ ีรอยช้ำถา้ ยังมีข้วั ติดอย่เู ลือกทีส่ ดสเี ขยี ว เมอื่ สลักได้ชนิ้ งานแล้วอยา่ นำไปแช่น้ำเพราะเนื้อ
ที่เป็นฟองน้ำจะทำให้ชมพู่อบน้ำมากขึ้นและทำให้เสียเร็ว สลักชมพู่เพื่อรับประทานจะสลักเป็นชิ้น
ลวดลายใบไม้แบบตา่ ง ๆ หรอื หัน่ เป็นชิน้ แลว้ ตกแตง่ ช้ินชมพูใ่ หม้ ีลักษณะเหมือนรูปหัวใจใช้ได้ทั้งชมพู่
สีเขียว ชมพู่สีแดงเพื่อให้เกิดสีสันหลากหลายเมื่อจัดเสิร์ฟรวมกับผลไม้ชนิดอื่นจะดูน่ารับประทาน
สลักชมพู่เพื่อตกแต่ง นิยมสลักทั้งผล เพื่ออวดงานฝีมือหรือประดับในถาดผลไม้ชนิดต่าง ๆ ให้งดงาม
นำไปประดบั โตะ๊ อาหาร ลวดลายที่สลัก เช่นดอกประดษิ ฐ์ถา้ สลักท้ังผลเลือกใชช้ มพมู ่าเหมี่ยวเพราะมี
เนือ้ หนา เลอื กที่แก่จัดแตย่ ังไม่สกุ ดี เนือ้ จะแน่น แข็ง มีรสเปรย้ี ว
ภาพท3่ี 7 ชมพู่
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมีดงานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน์)
3.3.2.13 แก้วมังกร ผลรูปสีชมพูจัดแต่กลีบเลี้ยงยังเป็นสีเขียวอยู่คล้ายเปลวไฟของ
มังกรเม่ือผ่าผลจะเห็นเปลือกสชี มพู สดหนาราว ๆ 2-3 มิลลิเมตร ถัดจากเปลือกเข้าไปเป็นเนื้อสีขาว
มเี มล็ดคล้ายเมลด็ แมงลักฝงั ตวั อยู่ในเน้ือเป็นจำนวนมากดงั น้นั จงึ นำมาสลักไดง้ านชน้ิ สวน สสี ันงามตา
ให้เลือกผลแก้วมังกร ขนาดเหมาะมือผิวสดใสขั้วยังเขียวอยูเ่ นื้อแน่นผวิ ไม่มีรอยช้ำลา้ งให้สะอาดก่อน
นำไปสลักนำช้ินงานใสก่ ล่องเกบ็ ไวใ้ นตู้เยน็ ช่องธรรมดา
ภาพท3ี่ 8 แก้วมงั กร
(“ฐานการการเรยี นรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
32
3.3.2.12 พุทรา มีมากมายหลายพันธุ์ทั้งพุทราไทยลูกกลมเล็ก พุทราแอปเปิลลูกกลม
ใหญ่และพุทราลูกรีปลายแหลมนิยมนำพุทราแอปเปิลและพุทราลูกยาวรีมาสลักเลือกลูกใหญ่ผิว
เปลือกสดไม่มีรอยช้ำหรือแมลงกัด แก่กำลังดี เนื้อจะไม่แข็งสลักได้ง่ายชิ้นงานที่สลักเสร็จแลว้ ไม่ควร
แช่น้ำเพราะในเนื้อของพุทรามีเมือกอยู่แล้วจะทำให้เกิดเมือกมากขึ้นและเสียเร็ว สลักพุทราเพ่ือ
รับประทานเลือกพุทราที่แก่จัดแต่ไม่ถึงกับสุกผิวเปลือกสดไม่ดำนิยมสลักลวดลายใบไม้ เช่น ใบไม้
ลายฉลุใบไมส้ ลักรมิ จัดใส่ถาดบุฟเฟต่ ์รวมกับผลไม้อืน่ ๆ เสิร์ฟพรอ้ มพรกิ เกลือในงานเลยี้ งหรือในจาน
ท่ีจัดเสิร์ฟ สลักพุทราเพื่อตกแต่งหรอื จัดแสดงเลือกผลขนาดเท่า ๆ กันหรือจะคละผลเลก็ ผลใหญ่ก็ได้
พทุ ราตอ้ งแก่จดั นยิ มสลกั ท้ังผลสลักด้วยลายกลีบดอกรักเร่ลายคชกรชิ ขวางหรือสลักเป็นดอกบัวจัดใส่
ถาดผลไม้รวมทม่ี ีผลไมช้ นิดอื่นเพื่อประดับบนโต๊ะอาหารพุทราลูกเล็กงานท่ีสลักทั้งผลก็สามารถนำมา
รบั ประทานไดส้ ะดวก เช่นกัน
ภาพท3ี่ 9 พุทรา
(“ฐานการการเรียนรู้ ลวดลายจากปลายมดี งานประณีตจากสวน”, 2563 : ออนไลน)์
33
บทท่ี 4
สรุป
งานแกะสลักใช้กับของอ่อนสลักออกมาเป็นลวดลายต่าง ๆ อย่างงดงาม มีสลักผัก สลักผลไม้
สลัก หยวกกล้วยถือเป็นงานช่างฝีมือของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ งานสลักจึงอยู่ในงานช่าง 10 หมู่
เรียกว่า ช่างสลักในช่างสลักแบ่งออกย่อย คือ ช่างฉลุ ช่างกระดาษ ช่างหยวก ช่างเครื่องสด ส่วนช่าง
อีก 9 หมู่ที่เหลือได้แก่ ช่าง แกะที่มีทั้งช่างแกะตรา ช่างแกะลาย ช่างแกะพระหรือภาพช่างหุ่น มีช่าง
ไม้ ช่างไม้สูง ช่างปากไม้ ช่างปั้น มีช่างขี้ผึ้ง ช่างปูน เป็นช่างขึ้นรูปปูน มีช่างปั้น ช่างปูนก่อ ช่างปูน
ลอย ช่างปัน้ ปูน ชา่ งรัก มีช่างลงรัก มีปดิ ทอง ช่างประดับกระจก ชา่ งมุก ชา่ งบุ บบุ าตรพระเพียงอย่าง
เดียว ช่างกลึง มีช่างไม้ ช่างหล่อ มีช่างหุ่นดิน ช่างขี้ผึ้ง ช่างผสมโลหะ ช่างเขียน มีช่างเขียน ช่างปิด
ทอง การ
สลักหรือจำหลัก จัดเป็นศิลปกรรมแขนงหนึ่งในจำพวกประติมากรรม เป็นการประดิษฐ์วัตถุ
เนื้ออ่อนอย่างผัก ผลไม้ ท่ียังไม่เป็นรูปร่าง หรือมีรูปร่างอยู่แล้วสร้างสรรค์ให้สวยงามและพิสดารขึ้น
โดยใช้ เครอื่ งมอื ท่มี คี วามแหลมคม โดยใชว้ ิธีตดั เกลา ปาด แกะ ควา้ น ทำใหเ้ กดิ ลวดลายตามต้องการ
ซ่งึ งานสลักนี้ เป็นการฝกึ ทักษะสัมพันธข์ องมือและสมอง เป็นการฝกึ จิตให้นิ่ง แน่วแน่ต่องานข้างหน้า
อันเปน็ การฝกึ สมาธไิ ด้ อย่างดเี ลศิ
การสลักผักผลไม้นอกจากจะเป็นการฝึกสมาธิแล้วยังเป็นการฝึกฝีมือให้เกิดความชำนาญเป็น
พิเศษ และต้องมคี วามมานะ อดทน ใจเย็น และมสี มาธเิ ปน็ ท่ีตงั้ รจู้ กั การตกแต่ง มีความคดิ สร้างสรรค์
การทำงาน จ้องให้จิตใจทำไปพร้อมกับงานที่กำลังสลักอยู่ จึงได้งานสลักที่สวยงามเพริศแพร้วอย่าง
เป็นธรรมชาติ ดดั แปลง เป็นลวดลายประดษิ ฐต์ ่าง ๆ ตามใจปรารถนา
ปัจจบุ นั วชิ าการชา่ งฝีมือเหลา่ นี้ ถกู บรรจุอย่ใู นหลักสูตร ต้ังแตช่ นั้ ประถมศึกษา มัธยมศึกษามา
จนถึง อุดมศึกษาเป็นลำดับ ประกอบกับรัฐบาลและภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุน จึงมีการอนุรักษ์
ศิลปะต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการแกะสลักผลงานประเภทเครื่องจิ้ม จนกระทั่งงาน
แกะสลักได้กลายเป็นสิ่งที่ต้อง ประดิษฐ์ ตกแต่งบนโต๊ะอาหารในการจัดเลี้ยงแขกต่างประเทศ ตาม
โรงแรมใหญ่ ๆ ภตั ตาคาร ตลอดจน รา้ นอาหาร ก็จะใช้งานศลิ ปะการแกะสลักเขา้ ไปผสมผสานเพ่ือให้
เกิดความสวยงาม หรูหรา และประทับใจแก่ แขกในงาน หรือสถานที่นั้น ๆ งานแกะสลักผลไม้ จึงมี
ส่วนชว่ ยตกแต่งอาหารไดม้ าก คงเปน็ เช่นน้ีตลอดไป
35
บรรณานุกรม
“อุปกรณ์ทีใ่ ช้แกะสลัก” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
https://sites.google.com/site/kwancream, 2544. [สบื คน้ เมื่อ 6 สงิ หาคม 2564].
“ความหมายของงานแกะสลัก” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก :
https://sites.google.com/site/kaeaslak, 2558. [สืบคน้ เมอื่ 6 สงิ หาคม 2564].
“ประโยชนข์ องงานแกะสลัก” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก :
https://sites.google.com/site/beemkanyalak, 2560. [สบื ค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2564].
“วธิ ีการแกะสลัก” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก :
https://sites.google.com/site/nongaenfruitcarving, 2554.
[สบื คน้ เม่อื 7 สิงหาคม 2564]
“งานแกะสลักผกั และผลไม้” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
https://uniquecraftsthailand.wordpress.com, 2556. [สืบคน้ เมื่อ 7 สิงหาคม 2564].
“การเลือกซื้อผักและผลไม้” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก :
https://sites.google.com/site/karkaeaslakphakphlmi607, 2553.
[สบื คน้ เมอ่ื 7 สิงหาคม 2564].
“ประวัติและความเป็นมา” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
https://sites.google.com/site/nuwilaiwonmk, 2562. [สืบคน้ เม่ือ 7 สงิ หาคม 2564].
“ขัน้ ตอนการแกะสลกั ” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก :
https://sites.google.com/site/nuwilaiwonmk/khan-txn-kar-kaea, 2563.
[สบื คน้ เม่ือ 8 สิงหาคม 2564].
“ประเภทของการแกะสลัก” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
https://sites.google.com/site/kwancream254466, 2557. [สืบคน้ เมอ่ื 8 สงิ หาคม 2564]
“ความสำคญั ของการแกะสลกั ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก :
https://sites.google.com/site/suwannalak2540, 2559. [สบื คน้ เม่ือ 8 สงิ หาคม 2564]
“การเลอื กซื้อตามชนดิ และการดูแล” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
https://tanawan5651.wordpress.com/, 2560. [สืบคน้ เมื่อ 9 สิงหาคม 2564]
“ศลิ ปะการแกะสลกั ผักและผลไม้” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
https://5600772com226.blogspot.com/, 2558. [สืบคน้ เมือ่ 9 สงิ หาคม 2564]
36
“ขอ้ ควรระวงั ในทางเทคนคิ บางประการของการแกะสลกั ” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก :
https://www.saranukromthai.or.th/, 2561. [สบื ค้นเมื่อ 9 สงิ หาคม 2564]
“วธิ กี ารเกบ็ ผลไม้แกะสลกั ให้อย่ไู ด้นาน” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก :
http://kruaklaibaan.com/, 2551. [สืบคน้ เมื่อ 9 สงิ หาคม 2564]
“รูปลกั ษณะของงานแกะสลักผักและผลไม้” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก :
http://www.trueplookpanya.com/, 2558. [สบื ค้นเม่อื 9 สิงหาคม 2564]
“หลกั การแกะสลัก” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก :
https://sites.google.com/site/kwancream25446, 2557. [สืบค้นเมื่อ 9 สงิ หาคม 2564]
“การจดั มีดแกะสลัก” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก :
https://thaifood1996.wordpress.com/, 2554. [สืบคน้ เม่ือ 10 สิงหาคม 2564]
“วัตถุประสงค์ของการแกะสลัก” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://tarfruit.page.tl/, 2559.
[สืบคน้ เมื่อ 10 สิงหาคม 2564]
“การเลือกรปู ทรงผักและผลไม้” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : https://poope34.blogspot.com/,
2559. [สบื ค้นเมื่อ 10 สงิ หาคม 2564]
“การเลอื กมดี ” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : https://tarfruit.page.tl/, 2564.
[สืบคน้ เม่ือ 10 สิงหาคม 2564]