The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการ-รู้รักษ์ภาษาไทย-จริง-2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chattaporn3136, 2024-06-16 11:15:46

โครงการ-รู้รักษ์ภาษาไทย-จริง-2

โครงการ-รู้รักษ์ภาษาไทย-จริง-2

รายงานการสรุปผลการดำเนินโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ณ ห้องเรียน ๕๓๗ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร จัดทำโดย ๑. นางสาวฉัตรพร ไกยสิทธิ์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ๒. นายเสกสิทธิ์ แข็งแรง สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ๓. นางสาวเปรมฤดี สุพัน สาขาวิชาภาษาไทย ๔. นางสาวกัญญารัตน์ งามเลิศ สาขาวิชาภาษาไทย ๕. นายกฤษกร ไชยคราม สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ นักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ๑ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ตำบลนาราชควาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม


ก คำนำ รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการ คำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร จัดทำขึ้น เพื่อรายงานผลการดำเนินโครงการภายใต้แผนงานที่กำหนด ทั้งนี้รวบรวมข้อมูลและสร้างความเป็นระบบ ขั้นตอนในการดำเนินงาน การกำหนดภารกิจให้บรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ ในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป โครงการ คำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร จัดทำขึ้นในวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๔ ณ ห้องเรียน ๕๓๗ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความ เข้าใจการใช้คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีความเป็นเลิศทางด้านภาษาไทย อย่างเต็มศักยภาพ คำยืมภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และพัฒนาความสามารถด้านทักษะการใช้ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ หวังว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะนำองค์ความรู้ที่ได้รับมา พัฒนาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน และส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อโรงเรียน สังคม และท้องถิ่นต่อไป จากผลการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจ สามารถค้นคว้าข้อมูล นำผลการดำเนินงานของนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทยและนักศึกษา สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยนครพนม ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ เกิดเป็นแนวทาง และนำไปต่อยอดพัฒนาให้เกิดการบูรณาการในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต นักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ๒


ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ สารบัญ บทที่ ๑ บทนำ ๑ ชื่อโครงการ ๑ ผู้รับผิดชอบโครงการ ๑ ความสอดคล้องของโครงการกับยุทธศาสตร์ของคณะและการประกันคุณภาพการศึกษา ๑ หลักการและเหตุผล ๑ วัตถุประสงค์ของโครงการ ๒ เป้าหมาย ๒ พื้นที่ดำเนินการ ๓ วิธีดำเนินการ ๓ งบประมาณ ๓ การประเมินผลโครงการ ๓ ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๓ บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ๕ บทที่ ๓ วิธีดำเนินการ ๙ กลุ่มเป้าหมาย/ผู้เข้าร่วมโครงการ ๙ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล/การประเมินผลกิจกรรม ๙ วิธีการรวบรวมข้อมูล ๙ การวิเคราะห์ข้อมูล ๙ บทที่ ๔ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ๑๐ ลำดับขั้นของการวิเคราะห์ข้อมูล ๑๐ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ๑๐ บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ๑๔ อภิปรายผล ๑๔ ข้อเสนอแนะ ๑๔ ภาคผนวก ๑๕


๑ บทที่ ๑ บทนำ โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ๑. ชื่อโครงการ : คำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) หน่วยงานที่รับผิดชอบ นักศึกษาฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา สาขาวิชาภาษาไทย สาขาวิชาภาษาอังกฤษ และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ๒. ผู้รับผิดชอบโครงการ : นางสาวฉัตรพร ไกยสิทธิ์ หัวหน้าผู้จัดทำโครงการฯ ๓. ความสอดคล้องของโครงการกับยุทธศาสตร์ของคณะและการประกันคุณภาพการศึกษา ๓.๑ ความสอดคล้องของโครงการกับยุทธศาสตร์ของโรงเรียน ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การเพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนเข้าถึงบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทั่วถึง ครอบคลุมผู้เรียนให้ได้โอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ และมีคุณภาพ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ๓.๒ ความสอดคล้องของโครงการกับพันธกิจของโรงเรียน พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเกณฑ์การศึกษา โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ พัฒนาผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้มีทักษะด้านเทคโนโลยี พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม นำความรู้ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขบนพื้นฐาน ประเพณี วัฒนธรรมผู้ไทย พัฒนากระบวนการบริหารจัดการของสถานศึกษา โดยการมีส่วนร่วม ๔. หลักการและเหตุผล ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารความเข้าใจ และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การจัดการเรียนการสอนภาษาไทยที่ทำให้ผู้เรียนรักและตระหนักถึงคุณค่า ของภาษาไทย และสามารถนำไปใช้สื่อสารและใช้ในการดำรงชีวิต จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง ดังนั้น นักศึกษาวิชาชีพครูโรงเรียนมุกดาหาร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยที่เน้น ให้นักเรียนได้ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง รักและเห็นความสำคัญของภาษาไทย รวมทั้งปลูกฝังให้นักเรียน โรงเรียนมุกดาหาร สำนึกในความเป็นไทยและภาคภูมิใจในภาษาไทย ดังนั้น นักศึกษาวิชาชีพครูจึงได้จัดทำ โครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ซึ่งรูปแบบกิจกรรมมุ่งเน้นให้นักเรียนเกิด ความรู้ความเข้าใจในภาษาไทย การใช้คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทยของคนไทย เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษา สถานการณ์ในการใช้คำภาษาต่างประเทศของคนไทย ส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีความเป็นเลิศทาง ภาษาไทยอย่างเต็มศักยภาพ และพัฒนาความสามารถด้านทักษะทางภาษาไทย อย่างหลากหลาย


๒ 5. วัตถุประสงค์ของโครงการ 5.1 เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจการใช้คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 5.2 เพื่อส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีความเป็นเลิศทางด้านภาษาไทยอย่างเต็มศักยภาพ 5.3 เพื่อพัฒนาความสามารถด้านทักษะการใช้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ 6. เป้าหมาย กิจกรรมหลัก/กลุ่มเป้าหมาย ดัชนีชี้วัด ด้านผลผลิต (output) ด้านผลลัพธ์ (outcome) ด้านเวลา (วันที่จัดโครงการ) ด้านค่าใช้จ่าย กิจกรรมหลัก 1. วิทยากรบรรยายในหัวข้อ “สาเหตุการใช้คำภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทยของคนไทย” 2. วิทยากรบรรยายในหัวข้อ “คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษในภาษาไทย” 3. กระบวนการกลุ่มในหัวข้อ “สรุปองค์ความรู้” กลุ่มเป้าหมาย 1. เป้าหมายเชิงปริมาณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๑/๗ จำนวน ๔๐ คน 2. เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๑/๗ เกิดความรู้ความเข้าใจใน ภาษาไทย มีความเป็นเลิศทางด้าน ภาษาไทยอย่างเต็มศักยภาพ และมี ความสามารถด้านทักษะการใช้ภาษาไทย เพิ่มมากขึ้น นักเรียนชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ ๑/๗ จำนวน ๔๐ คน 1.เพื่อให้นักเรียน เกิดความรู้ความ เข้าใจการใช้คำ ภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย 2.เพื่อส่งเสริม และพัฒนา นักเรียนให้มี ความเป็นเลิศ ทางด้านภาษาไทย อย่างเต็มศักยภาพ 3.เพื่อพัฒนา ความสามารถ ด้านทักษะการ ใช้ภาษาไทยของ นักเรียนชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ ๑/๗ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ -ไม่มี- 7. พื้นที่ดำเนินการ ห้องเรียน ๕๓๗ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร 8. วิธีดำเนินการ ขั้นตอนการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไตรมาสที่ 4 ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ก.ค ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ มี.ค เม.ย พ.ค มิ.ย. 1. บันทึกข้อความขออนุมัติจัดทำ โครงการ 2. แต่งตั้งคำสั่งคณะทำงาน 3. ดำเนินโครงการ


๓ 4. ดำเนินโครงการ/กิจกรรม 5. สรุปผลโครงการ พร้อม รายงานโครงการต่อคณะ 9. งบประมาณ ไม่ใช้งบประมาณในการดำเนินการ 10. การประเมินผลโครงการ ตัวชี้วัดความสำเร็จ หน่วย ค่าเป้าหมาย วิธีการประเมิน เชิงปริมาณ 1. จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 2. ร้อยละของผู้เข้าร่วมโครงการ เชิงคุณภาพ ๑. ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม โครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) คน ร้อยละ ค่าคะแนน เฉลี่ย ๔๐ ๗๐ ๔.๗๙ จากคะแนน เต็ม 5 ตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ แบบสอบถามความพึงพอใจ 12. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 12.1 นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุการใช้ภาษาต่างประเทศแทนภาษาไทย 12.2 นักเรียนสามารถนำไปบูรณาการกับการเรียนการสอนในวิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทย 12.3 นักเรียนได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาไทยอย่างหลากหลายและได้แสดงออกตามความถนัด และเต็ม ศักยภาพของตนเอง ส่งผลให้นักเรียนมีทักษะการใช้ภาษาไทยที่ดีขึ้นและสามารถนำไปใช้ในการติดต่อสื่อสาร ในชีวิตประจำวันได้


๔ บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ทองสุก เกตุรุ่งโรจน์ (2551: 108) ได้ให้ความหมายการใช้ภาษาอังกฤษในภาษาไทยว่า ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาในตระกูลอินโด-ยุโรเปียน มีรูปลักษณะเป็นภาษามีวิภัตติปัจจัย เช่นเดียวกับภาษาบาลี- สันสกฤต แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เรียบง่ายขึ้นมีโครงสร้าง ประโยคคล้ายภาษาไทยมีระบบเสียงต่างกับ ภาษาไทยบ้าง ในขณะเดียวกันก็มีลักษณะบางประการเหมือนภาษาคําโดด ภาษาอังกฤษมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เรียบง่ายขึ้นภาษาอังกฤษจึงได้รับความนิยมเป็นใช้เป็นภาษาเพื่อการสื่อสาร คนไทยได้ศึกษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองมาเป็นเวลานานจนภาษาอังกฤษเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมากขึ้น ดังนั้น ภาษาอังกฤษจึงมีบทบาทต่อภาษาไทยมาก วัฒนธรรมต่างชาติโดยเฉพาะฝรั่งเข้ามาปะปน ในชีวิตประจำวัน ของคนไทยมากขึ้น จึงทำให้ค่านิยมสังคมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยภาษาไทย ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย คนไทยบางคนนิยมพูดคําอังกฤษปนในภาษาไทยในชีวิตประจำวัน จนไม่รู้สึกว่าใช้ภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย นงลักษณ์ บัณฑุวงศ (2560) ได้วิจัยเรื่อง “การใช้คําภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ” เป็นงานวิจัยที่ มุ่งศึกษาการใช้สาเหตุการใช้คําภาษาต่างประเทศในภาษาไทยโดยเฉพาะคําที่มีการบัญญัติแล้วหรือคําศัพท์ ต่างประเทศที่มีการใช้ภาษาไทยแทน รวมไปถึงสถานการณ์ต่างๆเกิดขึ้นว่าเมื่อผู้พูดในระดับภาษาต่างกันจะใช้ คำต่างประเทศที่มีคําไทยแทนหรือไม่ ผลการวิจัยพบว่า สาเหตุที่ใช้คําศัพท์ภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะ ภาษาอังกฤษมีสาเหตุตามลำดับ ดังนี้1. สะดวกในการออกเสียง 2. ไม่รู้ว่ามีคําภาษาไทยใช้แทนว่าอย่างอย่างไร 3.รู้จักคําภาษาไทยแต่ไม่ใช้ เพราะคําภาษาอังกฤษจำง่าย 4.เป็นคําศัพท์เฉพาะสายงาน การใช้คำศัพท์ภาษาต่างประเทศในภาษาไทยแทนคําภาษาไทยนั้นแม้จะมีการใช้ภาษาในระดับ ทางการแต่มีการใช้คําศัพท์ภาษาต่างประเทศที่เป็นคําที่นิยมใช้กันเข้าไปปะปนอยู่อย่างมากในทุกระดับภาษา เพื่อความสะดวก ความเข้าใจ และที่สำคัญคือเพื่อสามารถสื่อสารให้ได้บรรลุเป้าหมาย นูรีดา เจ๊ะสามอเจ๊ะ, วันไซหนับ สามะอาลี, นูรซอลีฮา นิระเฮง, นิชาภัทรชย์ รวิชาติ,วรเวทย์พิสิษ ยศศิริ(2561) งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ลักษณะการทับศัพท์ภาษาอังกฤษในวรรณกรรม สำหรับ เยาวชนที่ได้รับรางวัลซีไรต์ ซึ่งประกอบด้วยเรื่องเวลา, ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน, อมตะ และช่าง สำราญโดยผู้วิจัยมุ่งศึกษาลักษณะการใช้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษและหมวดหมู่ของคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ ใช้ในวรรณกรรมดังกล่าว โดยรวบรวมข้อมูลจากวรรณกรรมสำหรับเยาวชนที่ได้รับรางวัลซีไรต์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 – พ.ศ.2546 จำนวน 4 เรื่อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบบันทึกข้อมูลลักษณะการทับศัพท์ใน วรรณกรรมผลการวิจัยพบว่า มีการทับศัพท์ในรูปคำมากที่สุด รองลงมาเป็นการทับศัพท์ในรูปวลี และไม่พบ การทับศัพท์ในรูปประโยค ทั้งนี้หมวดหมู่ของค าทับศัพท์ภาษาอังกฤษที่พบในวรรณกรรมดังกล่าวสามารถแบ่ง ออกเป็น 8 หมวดหมู่ด้วยกัน (1) คน (2) สิ่งของ (3) สถานที่ (4) ยานพาหนะ (5) อากัปกริยา (6) อาวุธ (7) วิทยาศาสตร์และ (8) อื่นๆ อย่างไรก็ตามคำทับศัพท์ที่พบในวรรณกรรมสำหรับเยาวชนที่ได้รับรางวัลซีไรต์นี้ เป็นคำที่พบได้บ่อยในวรรณกรรมทั่วไปและเป็นที่คุ้นเคยกันดีของผู้อ่านวรรณกรรมภาษาไทยในวงกว้าง มีบาง คำที่เป็นคำใหม่ที่อาจไม่เป็นที่รู้จัก


๕ กาญจนา คะตะวงศ์, ธัญพิชชา ธรรมวิฐาน(2563) งานวิจัยเรื่องการศึกษาคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ จากนิตยสารชีวจิต ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2563 (ฉบับที่ 520 - 523) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคำ ทับศัพท์ภาษาอังกฤษและเพื่อวิเคราะห์ชนิดของคำและจัดหมวดหมู่คำทับศัพท์ในนิตยสารชีวจิตตามหลัก ภาษาไทย ผู้วิจัยใช้นิตยสารชีวจิตทั้งหมด 4 เล่ม และใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบสุ่มคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษที่พบ ในนิตยสารชีวจิตทั้งหมด 40 คำ แนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงภาษาของ วิไลศักดิ์ กิ่งคํา (2550) ได้กล่าวถึงการใช้ภาษาอังกฤษใน ภาษาไทยใน 5 ลักษณะ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้1. ใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ คําที่ใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นคําเฉพาะ หรือชื่อ เฉพาะโดยเฉพาะทางวิทยาศาสตร์ ทางกีฬา การแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น เทคโนโลยีที่ไทยได้รับมา จากต่างชาติ เราจึง ใช้คําภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ แอลกอฮอล์ วอลเลย์บอล ออกซิเจน วิตามิน คลินิก เป็นต้น 2. ใช้คําไทยที่บัญญัติขึ้นมาแทนภาษาอังกฤษ เป็นคําที่บ่งบอกคุณลักษณะ หรือคำศัพท์เฉพาะทางสายงานต่าง ๆ โดยทั่วไปจะพบในคำศัพท์การเมือง ศัพท์ภูมิศาสตร์ และพบในคําบอก คุณสมบัติต่าง ๆ ในศัพท์วิทยาศาสตร์ เช่น สนธิสัญญา สหประชาชาติ เป็นต้น 3.ใช้คําภาษาอังกฤษทั้ง ๆ ที่มี คําไทยบัญญัติไว้ อาจเนื่องจากคำศัพท์ในภาษาอังกฤษ สามารถจำได้ง่ายกว่า เช่น แสตมป์ (ดวงตราไปรษณียากร) ฟอสซิล (ซากดึกดำบรรพ์) เป็นต้น 4.ใช้คําย่อในภาษาอังกฤษหรือตัดคํามาใช้เพราะ สะดวกในการออกเสียงและสั้นเข้าใจ ง่าย เช่น ทีวี(มาจาก Television และในภาษาไทย แปลว่า โทรทัศน์) เป็นต้น 5.ใช้คําที่เพี้ยนมาจากภาษาอังกฤษจนกลายเป็นคําไทย เช่น ทฤษฎี มาจาก theory เป็น ต้น วิไลศักดิ์ กิ่งคํา (2550: 227-230) กล่าวถึง อิทธิพลของการยืมคําจากภาษาต่างประเทศ สรุปได้ดังนี้ การยืมคําภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปนอยู่ในภาษาไทย มีอิทธิพลทำให้ลักษณะของ ภาษาไทย เปลี่ยนแปลง ไปจากลักษณะดั้งเดิม ดังนี้ 1. คํามีพยางค์มากขึ้น ภาษาไทยเป็นภาษาคําโดด เป็นคําพยางค์เดียวเป็นส่วนมาก เช่น เดิน ตาม หมา เมือง เดือน ดาว เป็นต้น เมื่อมีการยืมคําภาษาต่างประเทศมาใช้ทำให้ภาษาไทย เปลี่ยนไป ดังนี้1.1 มีคํา สองพยางค์ เช่น ถนน ราชา บิดา มารดา มาตรา สามารถ เป็นต้น 1.2 มีคําสามพยางค์ เช่น โทรเลข โทรศัพท์ พาหนะ จักรยาน กรณี โทรทัศน์ ปรารถนา เป็นต้น 1.3 มีคํามากพยางค์ เช่น พลานามัย สาธารณะ มหาวิทยาลัย เป็นต้น 2. มีคําควบกล้ำใช้มากขึ้น ภาษาไทยคําพยางค์เดียวส่วนใหญ่จะไม่มีคําที่มีพยัญชนะ ควบกล้ำ เมื่อยืม คําต่างประเทศมาใช้ ทำให้มีคควบกล้ำจำนวนมาก เช่น ฟรี ดรีม ปลูก โปรด เบรก เกรด เคลียร์ สปริง ดรอพ เครดิต คลินิก จันทรา ทฤษฎี ศาสตรา ปรารถนา แทรคเตอร์ เอ็นทรานซ์ดรัมเมเยอร์ 3. มีคําไวพจน์ใช้มากขึ้น ทำให้มีคำศัพท์มีความหมายเหมือนกันเพิ่มขึ้น ซึ่งสะดวกและ สามารถ เลือกใช้คําได้เหมาะสมกับความต้องการ เช่น นก (สกุณา สุโหนก วิหค ปักษา) ม้า (พาชีอาชา สินธพ) ผู้หญิง (สตรี นารี อิตถี กัญญา) ช้าง (หัตถี คชสาร กุญชร กรี) ดวงอาทิตย์ (สุริยา ตะวัน ไถง อุทัย) ดอกไม้ (สุมาลี ผกา บุษบา) เป็นต้น 4. ภาษาไทยมีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา ซึ่งแต่เดิมภาษาไทยมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งคือ มีการสะกดคํา ตามมาตราแม่สะกด เมื่อได้รับอิทธิพลจากภาษาต่างประเทศ คําส่วนใหญ่สะกดไม่ตรงตามมาตราเดิม เช่น เทนนิส กอล์ฟ ฟุตบอล ราษฎร รัฐบาล ผนวช ครุฑ เป็นต้น


๖ 5. ทำให้โครงสร้างของภาษาไทยเปลี่ยนไป จากข้อสังเกต ดังนี้5.1 ไม่ใช้ลักษณนามซึ่งตามปกติแล้ว ลักษณนามจะเกิดหลังจำนวนนับ เช่น นักศึกษา 2 คน พระภิกษุ 2 รูป เป็นต้น แต่เนื่องจากภาษาต่างประเทศ ที่ไทยยืมคํามาใช้ไม่มีลักษณนาม เช่น ภาษาอังกฤษ เป็นต้น จึงทำให้ภาษาไทยใช้ลักษณนามผิดไปด้วย เช่น สองนักกีฬาได้รับ ชัยชนะ ประกาศปิด ห้าสิบสาม ไฟแนนซ์ เป็นต้น 5.2 ใช้คําและสํานวนภาษาต่างประเทศ ส่วนมากจะเป็นคําและสํานวนจาก ภาษาอังกฤษ เช่น นวนิยายเรื่องนี้เขียนโดยทมยันตี เขาได้รับการต้อนรับ อย่างอบอุ่น เขาบินไป ต่างประเทศเพื่อทำธุรกิจ เป็นต้น 5.3 ใช้คําภาษาต่างประเทศปนกับภาษาไทย ทั้ง ๆ ที่ บางคํามีคําในภาษาไทยใช้ บาง คนมีรสนิยมพูดภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาอังกฤษปนกับภาษาไทย เช่น ผมไม่แคร์ (care) เรื่องนี้ดิฉันไม่มายด์ (mind) หรอกค่ะ เขาไม่เคลียร์ (clear) ในเรื่องนี้ฉันมีโปรเจค (project) ในการ พัฒนามหาวิทยาลัย เป็นต้น การรับภาษาต่างประเทศมา ใช้สื่อสารในภาษาไทย มีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย คนไทยทุกคนพึงควรระมัดระวัง ในการนําภาษาต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทย ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติ ที่คนไทยใช้ติดต่อสื่อสารมา เป็นเวลาอันยาวนาน การยืมคํา ภาษาต่างประเทศ เข้ามาใช้ โดยวิธีการทับศัพท์ ควรใช้เฉพาะคําที่จําเป็นเท่านั้น คําใดมีคําไทยใช้หรือมีศัพท์บัญญัติใช้แล้ว ก็ไม่ควรนํา ภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้อีก และควรเรียงเรียงถ้อยคําเข้า ประโยคเพื่อใช้ในการสื่อสารตามรูปแบบของ ภาษาไทย ผลการวิจัยพบว่า เรื่องการศึกษาคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษต้องเปรียบเทียบคำศัพท์ทั้งภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษตามหลักภาษา ซึ่งจะประกอบไปด้วยพยัญชนะต้น สระ และพยัญชนะท้าย เพื่อให้เห็นถึงความ โครงสร้างที่ชัดเจนของคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ส่วนผลการวิเคราะห์ชนิดของคำและจัดหมวดหมู่คำทับศัพท์ พบว่า คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษมีทั้งคำ ที่ทำหน้าที่เป็นคำนามและทำหน้าที่เป็นคำกริยา โดยคำทับศัพท์แต่ละ คำผู้วิจัยจะค้นคว้าหาความหมายของคำเพื่อนำคำทับศัพท์มาวิเคราะห์จัดเป็นหมวดหมู่ โดยจะประกอบไปด้วย หมวดวิทยาศาสตร์และสุขภาพ หมวดคณิตศาสตร์ หมวดเทคโนโลยี หมวดสถานที่หมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดผัก ผลไม้ และดอกไม้ หมวดกีฬา หมวดความบันเทิง และหมวดทั่วไปหรืออื่นๆ


๗ บทที่ ๓ วิธีการดำเนินการ ๑. กลุ่มเป้าหมาย/ผู้เข้าร่วมโครงการ ๑. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร จำนวน ๔๐ คน ๒. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล/การประเมินผลกิจกรรม เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Seal) ๕ ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด มีทั้งหมด ๗ ข้อ ๓. วิธีการรวบรวมข้อมูล นำแบบสอบถามแจกให้ผู้เข้าร่วมโครงการ คำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร จำนวน ๔๐ คน ผ่านทาง Google form และเก็บ แบบสอบถามความพึงพอใจ คืนให้ครบทั้ง ๔๐ ฉบับ ซึ่งมีข้อมูลครบสมบูรณ์ทั้งหมดทุกฉบับ ๔. การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลที่ได้จากแบบประเมินฯ มาทำการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามความพึง พอใจเกี่ยวกับโครงการ คำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) มาตรวจหาค่าความถี่ของการ ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจแต่ละข้อทั้งฉบับ โดยมีระดับความคิดเห็น ดังนี้ มากที่สุด ตรวจให้ ๕ คะแนน มาก ตรวจให้ ๔ คะแนน ปานกลาง ตรวจให้๓ คะแนน น้อย ตรวจให้๒ คะแนน น้อยที่สุด ตรวจให้๑ คะแนน


๘ บทที่ ๔ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากผลการทำแบบสอบถามของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร นำเสนอได้ดังนี้ ๑. ลำดับขั้นของการวิเคราะห์ข้อมูล ๑.๑ วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร ๑.๒ วิเคราะห์ข้อมูลของผู้เข้าร่วมโครงการ ๑.๓ วิเคราะห์ข้อมูลระดับความพึงพอใจ ๒. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ๒.๑ ข้อมูลทั่วไป ตารางที่ ๑ แสดงสถานภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร โครงการคำทับ ศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ได้ตามตาราง ดังนี้ สถานภาพ จำนวน (คน) ร้อยละ เพศชาย ๑๗ ๑๗ เพศหญิง ๒๒ ๒๒ รวม ๓๙ ๑๐๐ จากตาราง พบว่า ผู้ทำแบบสอบถาม โครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) แยกเป็นนักเรียนชาย จำนวน ๑๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗ นักเรียนหญิงจำนวน ๒๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๒ รวมเป็น ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ๒.๒ ข้อมูลผู้เข้าร่วมโครงการ ตารางที่ ๒ แสดงสถานภาพของผู้เข้าร่วมโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร สถานภาพ จำนวน (คน) ร้อยละ เพศชาย ๑๗ ๔๒.๕ เพศหญิง ๒๒ ๕๕.๐ รวม ๓๙ ๙๗.๕ จากตาราง พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) แยกเป็น นักเรียนชายจำนวน ๑๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕ นักเรียนหญิงจำนวน ๒๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๕ รวมเป็น ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๕ ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ๒.๓ ความพึงพอใจ ตารางที่ ๓ การประเมินความพึงพอใจโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร เกณฑ์การประเมิน ระดับความพึงพอใจ หมายเหตุ 5 4 3 2 1 ด้านบรรยากาศ 1. บรรยากาศในการดำเนินโครงการ 2. ระยะเวลาในการจัดทำกิจกรรม


๙ การแปลความหมายของแบบสอบถามความพึงพอใจ ๔.๕๑ – ๕.๐๐ หมายถึง พึงพอใจมากที่สุด ๓.๗๖ – ๔.๕๐ หมายถึง พึงพอใจมาก ๒.๒๖ – ๓.๗๕ หมายถึง พึงพอใจน้อยหรือค่อนข้างไม่พอใจ ๑.๕๑ – ๒.๒๕ หมายถึง พึงพอใจน้อยหรือค่อนข้างไม่พอใจ ๑.๐๐ – ๑.๕๐ หมายถึง พึงพอใจน้อยที่สุดหรือไม่พอใจค่อนข้างมาก ตารางที่ ๔ ผลการประเมินความพึงพอใจโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร รายการประเมิน ผลการประเมิน ค่าเฉลี่ย S.D. ระดับความพึงพอใจ ด้านบรรยากาศ 1. บรรยากาศในการดำเนินโครงการ มัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ ๔.๗๑ ๐.๖๑ มากที่สุด 2. ระยะเวลาในการจัดทำกิจกรรม ๔.๖๐ ๐.๕๔ มากที่สุด 3. สื่อมีความเหมาะสมกับกิจกรรม ๔.๘๖ ๐.๔๑ มากที่สุด 4. สถานที่มีความเหมาะสมต่อการ จัดการเรียนรู้ ๔.๗๓ ๐.๖๔ มากที่สุด 5. น้ำเสียงของผู้บรรยาย ๔.๘๔ ๐.๓๖ มากที่สุด รวมค่าเฉลี่ย ๔.๗๕ ๐.๕๓ มากที่สุด ด้านเนื้อหา 3. สื่อมีความเหมาะสมกับกิจกรรม 4. สถานที่มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ 5. น้ำเสียของผู้บรรยาย ด้านเนื้อหา 6. ความเหมาะสมของเนื้อหา สามารถเข้าใจชัดเจน 7. ความน่าสนใจของเนื้อหาที่โครงการจัดทำขึ้น 8. เนื้อหามีความครอบคลุม และตรงกับจุดประสงค์ของโครงการ 9. เนื้อหามีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ 10. นักเรียนสามารถนำเนื้อหาไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ด้านประโยชนที่ได้รับ 11. ผู้ร่วมโครงการสามารถนำเอาเนื้อไปใช้ประโยชน์ต่อได้ 12. องค์ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปบูรณาการใช้กับวิชาอื่น ๆ ได้ 13. ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับองค์ความรู้ใหม่ หรือเพิ่มเติมส่วนที่ไม่เข้าใจ 14. ผู้เรียนสามารถเข้าใจหลักการ และที่มาของคำยืมต่าง ๆ 15. ผู้เข้าร่วมโครงการได้ประโยชน์จากโครงการนี้มากน้อยเพียงใด


๑๐ 6. ความเหมาะสมของเนื้อหา สามารถ เข้าใจชัดเจน ๔.๘๔ ๐.๔๓ มากที่สุด 7. ความน่าสนใจของเนื้อหาที่โครงการ จัดทำขึ้น ๔.๗๘ ๐.๔๗ มากที่สุด 8. เนื้อหามีความครอบคลุม และตรงกับ จุดประสงค์ของโครงการ ๔.๗๘ ๐.๕๒ มากที่สุด 9. เนื้อหามีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ ๔.๘๖ ๐.๓๔ มากที่สุด 10. นักเรียนสามารถนำเนื้อหาไปปรับ ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ๔.๘๔ ๐.๔๓ มากที่สุด รวมค่าเฉลี่ย ๔.๘๒ ๐.๔๔ มากที่สุด ด้านประโยชนที่ได้รับ 11. ผู้ร่วมโครงการสามารถนำเอาเนื้อไป ใช้ประโยชน์ต่อได้ ๔.๘๑ ๐.๕๑ มากที่สุด 12. องค์ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไป บูรณาการใช้กับวิชาอื่น ๆ ได้ ๔.๗๑ ๐.๖๑ มากที่สุด 13. ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับองค์ความรู้ ใหม่ หรือเพิ่มเติมส่วนที่ไม่เข้าใจ ๔.๗๘ ๐.๕๒ มากที่สุด 14. ผู้เรียนสามารถเข้าใจหลักการ และ ที่มาของคำยืมต่าง ๆ ๔.๘๑ ๐.๔๕ มากที่สุด 15. ผู้เข้าร่วมโครงการได้ประโยชน์จาก โครงการนี้มากน้อยเพียงใด ๔.๘๖ ๐.๓๔ มากที่สุด รวมค่าเฉลี่ย ๔.๘๐ ๐.๔๙ มากที่สุด รวมค่าเฉลี่ยทั้งหมด ๔.๗๙ ๐.๔๙ มากที่สุด จากตารางแสดงผลของผู้เข้าร่วมโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการ ดังนี้ ๑. นักเรียนชาย เข้าร่วมจำนวน ๑๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕๐ ๒. นักเรียนหญิง เข้าร่วมจำนวน ๒๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๕.๐๐ รวมทั้งหมด ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๕๐ ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด จากตารางแสดงผลการประเมินความพึงพอใจโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนโรงเรียนมุกดาหาร มีความพึงพอใจดังนี้ ๑. ด้านบรรยากาศ มีความพึงพอใจในอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๕) บรรยากาศในการดำเนินโครงการมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๑) ระยะเวลาใน การจัดทำกิจกรรม คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๖๐) สื่อมีความเหมาะสมกับกิจกรรม คือพึงพอใจมาก ที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๖) สถานที่มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๓) น้ำเสียงของผู้บรรยาย คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๔) ๒. ด้านเนื้อหา มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๒) ความเหมาะสมของเนื้อหา สามารถเข้าใจชัดเจน คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๔) ความน่าสนใจของ เนื้อหาที่โครงการจัดทำขึ้น คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๘) เนื้อหามีความครอบคลุม และตรงกับ


๑๑ จุดประสงค์ของโครงการ คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๘) เนื้อหามีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้คือพึงพอใจ มากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๖) นักเรียนสามารถนำเนื้อหาไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๔) ๓. ด้านประโยชนที่ได้รับมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๐) ผู้ร่วมโครงการสามารถนำเอาเนื้อไปใช้ประโยชน์ต่อได้คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๑) องค์ความรู้ที่ ได้รับสามารถนำไปบูรณาการใช้กับวิชาอื่น ๆ ได้คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๑) ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับองค์ความรู้ใหม่ หรือเพิ่มเติมส่วนที่ไม่เข้าใจ คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๘) ผู้เรียนสามารถเข้าใจ หลักการ และที่มาของคำยืมต่าง ๆ คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๑) ผู้เข้าร่วมโครงการได้ประโยชน์จาก โครงการนี้มากน้อยเพียงใด คือพึงพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๖)


๑๒ บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ โครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะทางภาษาไทยคำ ยืมภาษาอังกฤษ และเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความเป็นเลิศทางด้านภาษาไทยอย่างเต็มศักยภาพอีกทั้งเพื่อให้ นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม การประเมินการดำเนินงานโครงการดังกล่าว โดยใช้แบบประเมินโครงการ จากความความคิดของผู้ร่วมโครงการ จำนวน ๓๙ คน พบว่านักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำ ความรู้ที่ได้ใช้ประโยชน์ในการเรียนได้ ผลการเข้าร่วมโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร มีนักเรียนเข้าร่วม ดังนี้ ๑. นักเรียนชาย เข้าร่วมจำนวน ๑๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕๐ ๒. นักเรียนหญิง เข้าร่วมจำนวน ๒๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๕.๐๐ รวมทั้งหมด ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๕๐ ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ผลของการประเมินความพึงพอใจ โครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๗ โรงเรียนมุกดาหาร มีความพึงพอใจ ดังนี้ ๑. ด้านบรรยากาศ มีความพึงพอใจในอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๕) ๒. ด้านเนื้อหา มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๒) ๓. ด้านประโยชน์ที่ได้รับมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๘๐) สรุปผลการประเมินผู้เข้าร่วมโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) มีความ พึงพอใจเกี่ยวกับโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) ในภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด (ค่าเฉลี่ย ๔.๗๙) ๑. อภิปรายผล จากผลการดำเนินโครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) พบว่า นักเรียนส่วน ใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นส่วนมาก นักเรียนให้ความร่วมมือ มีความตั้งใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รู้จักใช้ความรู้ให้เกิด ประโยชน์ในการทำแบบสอบถาม ๒. ข้อเสนอแนะ ๓.๑ ควรใช้เวลาในการจัดกิจกรรมให้มากกว่านี้ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้มีเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมและเกิดกระบวนการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ ๓.๒ ควรจัดหากิจกรรมที่หลากหลายและทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ในหลาย ๆ ด้าน


๑๓ ภาคผนวก


๑๔ บันทึกข้อความขออนุมัติโครงการ


๑๕


๑๖ แบบเสนอโครงการ


๑๗


๑๘


๑๙ แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงการคำทับศัพท์หรรษารู้รักษ์ภาษาไทย (Borrowing Words) วันที่ 12ธันวาคม โรงเรียนมุกดาหาร คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด ดังนี้ 5 = มากที่สุด 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 หมายถึง น้อย 1 = น้อยที่สุด ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. เกณฑ์การประเมิน ระดับความพึงพอใจ หมายเหตุ 5 4 3 2 1 1. บรรยากาศในการดำเนินโครงการ 2. ระยะเวลาในการจัดทำกิจกรรม 3. สื่อมีความเหมาะสมกับกิจกรรม 4. สถานที่มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ 5. น้ำเสียของผู้บรรยาย ด้านเนื้อหา 6. ความเหมาะสมของเนื้อหา สามารถเข้าใจชัดเจน 7. ความน่าสนใจของเนื้อหาที่โครงการจัดทำขึ้น 8. เนื้อหามีความครอบคลุม และตรงกับจุดประสงค์ของโครงการ 9. เนื้อหามีแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ 10. นักเรียนสามารถนำเนื้อหาไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ด้านประโยชนที่ได้รับ 11. ผู้ร่วมโครงการสามารถนำเอาเนื้อไปใช้ประโยชน์ต่อได้ 12. องค์ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปบูรณาการใช้กับวิชาอื่น ๆ ได้ 13. ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับองค์ความรู้ใหม่ หรือเพิ่มเติมส่วนที่ไม่เข้าใจ 14. ผู้เรียนสามารถเข้าใจหลักการ และที่มาของคำยืมต่าง ๆ 15. ผู้เข้าร่วมโครงการได้ประโยชน์จากโครงการนี้มากน้อยเพียงใด


๒๐ รายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/7 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ที่เข้าร่วมโครงการ เลขที่ ชื่อ-สกุล 1 ด.ช กฤตภาส คนคล่อง 2 ด.ช คณพศส โภคสวัสดิ์ 3 ด.ช จิตติพัฒน์ บางทราย 4 ด.ช ฐปนวัฒน์ เฉลิมแสน 5 ด.ช ณภัทร นาโสก 6 ด.ช ณัฐพงษ์ รุ่งโรจน์ 7 ด.ช ณัฐวรรธน์ ศรีสง่า 8 ด.ช ธนพัทธ์ เมืองโคตร 9 ด.ช ธนภูมิมุกดาเลิศโอฬาร 10 ด.ช ธีรเมศ โคตะบิน 11 ด.ช นิพิฐพนธ์ สาศิริ 12 ด.ช ปวีณ์กร สืบสำราญ 13 ด.ช พลวรรธน์ ทองมาก 14 ด.ช เมตตา ภาวิชัยโชค 15 ด.ช วชิรวิทย์ บุญชู 16 ด.ช ศรัญญพงษ์ วงค์สาลี 17 ด.ช สิงห์หา เมืองโคตร 18 ด.ช อานนท์ธิติโยธิน 19 ด.ญ กนกนันท์ แสงคำพระ 20 ด.ญ กานต์ธิดา เคนตรี 21 ด.ญ ขวัญฤทัย พานอนันต์ 22 ด.ญ ชนัญธิดา ทวีจิตต์ 23 ด.ญ ชัญญาภัค ศรีจำลอง 24 ด.ญ ณัฐธิตา ราชนาแพง 25 ด.ญ ตีรณา โทนแก้ว 26 ด.ญ ธนัญชนก วงค์พุทธา 27 ด.ญ ธิดารัตน์ คำเทพ 28 ด.ญ นิชนันศ์ ทิพม่อม 29 ด.ญ เนตรนภา ไชยสุระ 30 ด.ญ ปวริศา ถูกจิตร 31 ด.ญ เปมิกา จัทรเสนา 32 ด.ญ พลอยใส เสียงล้ำ 33 ด.ญ พาณิภัคร ขันทวี 34 ด.ญ ภัครภร วรากูลคงภัทร์ 35 ด.ญ ภาสินีชมพู่ 36 ด.ญ วชิรญาณ์ บุญประสิทธิ์ 37 ด.ญ ศิริกัลยา สิเนหะวัฒนะ 38 ด.ญ สุทธิดา พละราช 39 ด.ญ สุพัตรา กุลสุทธิ์ 40 ด.ญ อริศราพร แสวงวงศ์


๒๑ รูปภาพการจัดโครงการรู้รักษ์ภาษาไทย


๒๒


๒๓


๒๔


๒๕


๒๖


๒๗


๒๘


๒๙


Click to View FlipBook Version