โครงงาน
เร่ือง ไวน์สบั ปะรด
จัดทำโดย เลขที่ 3
เด็กชายนติ ธิ ร ปิยะตระภูมิ เลขท่ี 24
เดก็ ชายนธิ ิพัฒน์ แดงรอ้ ย เลขท่ี 25
เด็กชายอภิมงคล ช่างทอง เลขที่ 26
เด็กชายนราธิป กนั ตชิ ากลุ เลขที่ 27
เดก็ ชายพลพล มาเปล่ียน เลขท่ี 29
เดก็ ชายสหชาติ นาสขุ เลขที่ 30
เดก็ ชายนันท์นภสั จันทรเ์ ฟ่ือง เลขที่ 35
เด็กหญิงชญาดา อาชานกุ ลู รตั น์ เลขท่ี 36
เด็กชายดนนุ นั ท์ ฮวบเอย่ี ม เลขท่ี 40
เดก็ ชายศตวรรษ เมฆลอย เลขท่ี 41
เด็กหญิงภาษติ า ศรีภิรมย์ เลขท่ี 42
เด็กชายสิรภทั ร วงษพ์ รม
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2/2
ครทู ีป่ รึกษา
ม. สานติ แสงสงั ข์
ม. บุญญานชุ บตุ รดี
โรงเรียนวรมงคล
สำนกั งำนคณะกรรมกำรส่งเสริมกำรศกึ ษำเอกชน
ปกี ำรศกึ ษำ 2564
สารบญั หนา้
บทคัดยอ่ ก
กิตตกิ รรมประกาศ ข
บทท่ี 1 บทนำ 1
- ที่มาและความสำคัญ 1
- วัตถุประสงค์ 1
- ขอบเขตการศกึ ษาค้นควา้ 1
- ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 1
- ตวั แปรทศ่ี กึ ษา 1
- สมมตฐิ านในการศกึ ษา 1
2
บทที่ 2 เอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ ง 2
- ความรูท้ ว่ั ไปของยีสต์ 2
- ข้อมลู สับปะรด 6
6
บทที่ 3 วิธีการดำเนนิ งาน
- ข้ันตอนการดำเนนิ งาน 6
- อปุ กรณ์และวสั ดุทีใ่ ชใ้ นการศึกษา 7
7
บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาค้นควา้ 8
- ผลการศกึ ษาค้นควา้ 8
8
บทที่ 5 สรปุ ผลอภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 8
- สรุปผลการศึกษาคา้ คว้า 8
- อภปิ รายผล 9
- ประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับ
- ข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ข
กติ ตกิ รรมประกาศ
โครงงานน้ีสาเร็จข้นึ ไดด้ ว้ ยสมาชิกในกลมุ่ โครงงานซ่ึงเป็นเพ่ือนนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2/2
ท่ีช่วยคดิ วางแผน และแกไ้ ขปัญหาในการทาโครงงานให้ดาเนินไปตาข้นั ตอนและสาเร็จอยา่ งสมบูรณ์
ขอบคุณไปถึง ม. สานิต แสงสงั ข์ และ ม. บุญญานุช บตุ รดี ที่ปรึกษาประจาโครงงาน ที่ใหค้ าปรึกษาและ
การตดั สินใจในการทาโครงงานในคร้ังน้ีดว้ ย
ทา้ ยสุดน้ีผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ โครงงานน้ีจะเป็นประโยชนต์ ่อการศึกษาของผสู้ นใจตอ่ ไป
คณะผู้จัดทำ
ก
บทคัดย่อ
ประเทศไทย เป็นประเทศร้อนขนึ้ การหาเคร่ืองดื่มทีม่ ีความเย็นและต้องอดุ มไปดว้ ยสรรพคณุ ซึ่ง
สับปะรดเปน็ ผลไม้ท่ีมสี ารต้านอนุมูลอสิ ระ ชว่ ยปอ้ งกนั เซลลเ์ สอื่ ม และป้องกันหวดั ได้
ดงั น้นั ผู้วจิ ยั จึงไดจ้ ัดทาโครงงานนี้ขึ้นเพื่อเป็น เครื่องดม่ื ที่สามารถรับประทานได้ท้ังเด็กและผใู้ หญ่
1
บทท่ี 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
สบั ปะรดเป็นผลไมเ้ พ่ือสขุ ภาพอีกชนดิ ที่ให้สารอาหารและมีประโยชน์มาก อกี ท้ังยังสามารถชว่ ยลด
นำ้ หนักของร่างกายสว่ นเกินสำหรับผทู้ ี่รักสขุ ภาพและต้องการสารอาหารจากสับปะรด สารและวิตามนิ ท่ีอยู่ใน
สับปะรดมีมากมาย เช่น วติ ามินซี วนิ ตามินเอ เกลือแร่ เป็นต้น จงึ ทำให้สบั ปะรดสามารถนำไปแปรรปู เป็นป
ลติ ภัณฑต์ า่ งๆไดม้ ากมาย เช่นไวน์สับปะรด เป็นต้น
วตั ถปุ ระสงค์
1) เพ่ือให้คณะผู้จดั ทำไดศ้ ึกษาหาความรู้ และสรา้ งผลติ ภณั ฑ์ทางดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
2) เพอ่ื สง่ เสรมิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความคิด
ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ
1) สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์จากการทำไวน์สับปะรดได้
2) สามารถหารายไดเ้ สริมจากการทำไวนส์ ับปะรด จากสับปะรดได้
3) สามารถนำไปประกอบอาชพี เพื่อต่อยอดธุรกิจได้
4) สามารถนำไปดม่ื ในงานปาต้ี หรือในงาน โอกาสต่างๆได้
ตัวแปรท่ศี กึ ษา
1) ตวั แปรต้น สบั ปะรด
2) ตวั แปรตาม ไวน์สบั ปะรด
3) ตัวแปรควบคุม ความสุกของไวน์สับปะรด เวลา
สมมติฐานในการศกึ ษา
นำไวนส์ ับปะรดไปปัน่ ให้ละเอียด สามารถนำไปทำเครื่องด่ืมเพื่อสุขภาพ เป็นอาหารเสริมได้
2
บทที่ 2
เอกสารท่ีเก่ยี วข้อง
ในการจัดทำโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ คณะผู้จัดทำได้ศึกษาคุณสมบัติของ
สับปะรดดังตอ่ ไปน้ี
ความรทู้ ว่ั ไปของยีสต์
ยีสต์เป็นจลุ นิ ทรีย์ ชนดิ หน่ึงอยู่ในอาณาจกั รฟังไจ (fungi) ซง่ึ เปน็ อาณาจกั รเดยี วกนั รา (mold)
ยีสต์ มีเซลล์ชนิดยูคาริโอต (Eukariote) เป็นเซลล์เดี่ยวรูปร่างกลม รูปไข่ หรือเหมือนผลเลมอน มีขนาดใหญ่
กวา่ แบคทเี รีย (bacteria) มเี ส้นผ่านศนู ย์กลางเฉลี่ยประมาณ 5 ไมครอน
การขยายพนั ธ์ุของยีสต์
ยีสต์ส่วนมากขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศด้วยการแตกหน่อ (budding) แต่ยีสต์บางชนิดอาจขยาย
พนั ธ์แบบอาศัยเพศดว้ ยการสร้างสปอร์ ซงึ่ มีช่ือเรยี กว่า แอสโคสปอร์ (ascospore) หรอื เบสดิ โิ อสปอร์
( basidiospore)
ชนดิ ของยสี ต์
ยีสตท์ ่ีขยายพนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศอย่างเดยี วเรยี กว่า ดวิ เทอโรไมซสี หรอื ยีสต์เทียม ยีสต์ที่ขยายพันธ์ุ
ได้ทั้งแบบไม่อาศัยเพศก็ได้ และอาศัยเพศโดยการสร้างแอสโคสปอร์ เป็นยีสต์แท้ซ่ึงจัดอยู่ในกลุ่ม แอสโคไมซีส
(ascomycete) ได้แก่ Saccharomyces ยีสต์เจริญได้ทั้งในสภาวะที่มีออกซิเจน และไม่มีออกซิเจน ยีสต์ท่ี
เจริญได้ในภาวะที่มีออกซิเจนเรียกว่า ออกซิเดทีฟยีสต์ (oxidative yeast) โดยเกิดเป็นฟิมส์ที่ผิวหน้าของ
อาหารเหลว สว่ นยีสต์ทีเ่ จรญิ ได้ทั้งภาวะทม่ี ีออกซิเจนและไม่มอี อกซเิ จนเจริญไดท้ ุกสว่ นของอาหารจัดเป็นพวก
ยสี ตเ์ ฟอร์เมนเตทีฟ (fermentative yeast)
ความสำคัญของยสี ตต์ อ่ อาหาร
ยีสต์สายพันธ์ุที่ใช้มากในอาหาร คือ Saccharomyces cerevisae โดยยีสต์ใช้สารอินทรีย์เป็นแหล่ง
พลังงานและแหล่งคาร์บอนเจริญได้ดีในอาหารที่มีน้ำตาลมาก เช่น ผลไม้ ที่มีรสหวาน น้ำผึ้ ง แยม (jam)
สามารถเปลยี่ นนำ้ ตาลใหเ้ ป็น คารบ์ อนไดออกไซด์และเอทิลแอลกอฮอล์ในกระบวนการหมัก (fermentation)
ใช้ในอุตสาหกรรมเบเกอรี่ (bakery) เรียกว่า baker yeast โดยใช้ เป็นสารที่ทำให้ขึ้นฟู (leavening agent)
ในขนมปัง (bread) โดนัท (doughnut) ใชใ้ นรูป ยีสตส์ ด หรือ ยีสต์แห้ง (active dried yeast) ใชเ้ พอื่ การผลิต
เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล์ (alcoholic beverage) เช่น เบยี ร์ (beer) ไวน์ (wine) วิสกี้ (wiski) สาโท กระแช่
เซลล์ยีสต์มาผลิตเป็น ยีสต์สกัด (yeast extract หรือ yeast autolysate) การเสื่อมเสียของอาหารเนื่องจาก
ยีสต์ ยีสต์มีเอนไซม์ที่ย่อยสลายกรดอินทรีย์ต่างๆ ที่ใช้ในการถนอมอาหาร เช่น กรดแล็กทิก (lacatic acid)
กรดแอซีติก (acetic acid) ได้ ทำอาหารหมักที่ต้องการให้เกดิ กรดดังกล่าวมคี วามเปน็ กรดลดลง ทำให้อาหาร
มสี ภาวะเหมาะสมต่อการเจรญิ ของแบคทเี รยี และเน่าเสียได้ อาหารทีเ่ กดิ การเน่าเสียจากยีสต์มักเกิดกล่ินหมัก
เปน็ เมือก หรือฝ้าบริเวณผวิ หนา้ รวมท้งั เกิดความขุ่นและเกิดฟองแก๊สได้
3
ข้อมลู สบั ปะรด
สับปะรด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ananas comosus) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากบริเวณ
ทวีปอเมริกาใต้ ลำต้นมีขนาดสูงประมาณ 80–100 เซนติเมตร การปลูกสามารถปลูกได้ง่ายโดยการฝังกลบ
หน่อหรือสว่ นยอดของผลทีเ่ รยี กวา่ จุก เปลือกของผลสับปะรดภายนอกมลี กั ษณะคล้ายตาล้อมรอบผล
เป็นผลไม้เขตร้อนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับสามของโลก โดยรัฐฮาวายเป็นแหล่งเพาะปลูก
สับปะรดทีส่ ำคัญของสหรัฐอเมรกิ า และในปี ค.ศ. 2016 คอสตารกิ า, บราซิล และฟลิ ิปปินส์มีสัดส่วนการผลิต
สบั ปะรดเกือบ 1 ใน 3 ของโลก แตล่ ะทอ้ งถิ่นในประเทศไทยเรียกสับปะรดแตกตา่ งกนั ออกไป
เชน่
ภาคกลาง เรยี กว่า "สับปะรด"
ภาคอสี าน เรยี กว่า "บักนัด, หมากนดั "
ภาคเหนอื เรียกวา่ "บักนดั , บกั ขนัด, บ่อนัด"
ภาคใต้ เรียกว่า "ย่านดั , หยา่ นัด, ย่านนัด, ขนนุ ทอง, มะล"ิ (โดย ยา่ นัด หรอื หยา่ นดั มีที่มาจากภาษา
โปรตเุ กส:
ลกั ษณะของสับปะรด
ผลของสบั ปะรดระยะแรกรูปลักษณะ ไมล้ ้มลุกอายุหลายปี สูง 90–100 ซม. มลี ำต้นอยู่ใต้ดนิ ใบเดี่ยว
เรยี งสลบั ซ้อนกนั ถ่ีมากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวไดถ้ งึ 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกชอ่ ออกจากกลางต้น มีดอก
ยอ่ ยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รปู ทรงกระบอก มใี บเปน็ กระจุกท่ปี ลายสับปะรดเป็นพืชใบเลี้ยงเด่ยี ว สามารถ
ทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อเจริญเป็นผลแล้วจะเจริญต่อไปโดยตาที่ลำต้น
จะเตบิ โตเปน็ ต้นใหมไ่ ดอ้ ีก และสามารถดัดแปลงเปน็ ไมป้ ระดบั ไดอ้ ีกดว้ ย
สบั ปะรดแบง่ ออกตามลกั ษณะความเป็นอยู่ได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คอื พวกที่มรี ะบบรากหาอาหารอยู่ใน
ดิน หรือเรียกวา่ ไมด้ นิ , พวกอาศัยอย่ตู ามคาคบไม้หรือลำต้นไมใ้ หญ่ ได้แก่ ไม้อากาศต่าง ๆ ทไ่ี มแ่ ยง่ อาหารจาก
ตน้ ไม้ทีม่ ันเกาะอาศยั อยู่ พวกน้ีสว่ นใหญ่จะเป็นไมป้ ระดับ, และพวกทเ่ี จรญิ เติบโตบนผาหินหรือโขดหิน
ส่วนสับปะรดที่เราใช้บริโภคจัดเป็นไม้ดิน แต่ยังมีลักษณะบางประการของไม้อากาศเอาไว้ คือ
สามารถเก็บน้ำไวต้ ามซอกใบได้เลก็ นอ้ ยมเี ซลลพ์ ิเศษสำหรบั เก็บน้ำเอาไวใ้ นใบ ทำใหท้ นทานในชว่ งแล้งไดด้ ้วย
สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม
สับปะรดต้องการอากาศค่อนขา้ งร้อนอณุ หภูมิทเี่ หมาะสมอยรู่ ะหว่าง 23.9–29.4 ℃ ปริมาณน้ำฝนที่
ต้องการอยใู่ นชว่ ง 1,000–1,500 มิลลิเมตรตอ่ ปี แตต่ อ้ งตกกระจายสมำ่ เสมอตลอดปี และมีความช้ืนในอากาศ
สูง สับปะรดชอบขึ้นในดินร่วน, ดินร่วนปนทราย, ดินปนลูกรัง, ดินทรายชายทะเล และชอบที่ลาดเท เช่น ท่ี
ลาดเชงิ เขา สภาพความเป็นกรดดา่ ง (pH) ของดนิ ควรเปน็ กรดเลก็ น้อย คอื ตั้งแต่ 4.5–5.5 แตไ่ ม่เกิน 6.0
4
ฤดูกาลของสบั ปะรด
ช่วงเก็บเกี่ยวในฤดู ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มกราคม และกลางเดือนเมษายน – กรกฎาคม
สับปะรดจะใหผ้ ลผลิตมาก ในตลาดมีราคาถูก ช่วงเก็บเก่ยี วนอกฤดู ต้งั แต่เดือนกมุ ภาพนั ธ์ – ตน้ เดือนเมษายน
และเดือนสงิ หาคม – ตลุ าคม สบั ปะรดจะให้ผลผลิตนอ้ ยจึงราคาแพง
แหลง่ ที่ปลกู สบั ปะรดในไทย
ไร่สับปะรด
เนื่องจากความทนทาน ทำให้ปลูกได้ในดนิ แทบทกุ แห่งในประเทศไทย แหล่งปลูกสับปะรดทีส่ ำคัญของไทยอยู่
ในพ้นื ทใ่ี กลท้ ะเล ได้แก่
จงั หวัดอุตรดติ ถ์,จงั หวัดลำปาง,จังหวดั พิษณุโลก,จังหวัดประจวบคีรีขันธ์,จงั หวดั เพชรบรุ ี,จังหวัดชลบุรี
,จังหวัดระยอง,จังหวัดฉะเชิงเทรา,จังหวดั จันทบุรี,จังหวัดตราด และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต พังงา
ชมุ พร
พันธ์สุ ับปะรดทน่ี ิยมปลูกในประเทศไทย
พันธุ์ปัตตาเวีย (Smooth Cayenne) หรือเรียกว่า สับปะรดศรีราชา นิยมปลูกทั่วไป ผลใหญ่ ฉ่ำน้ำ
เน้ือสเี หลืองออ่ น
พันธุ์อินทรชิต (Singapore Spanish) เป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดใน
ประเทศไทย
พันธุ์ขาว (Selangor Green) ลักษณะคือด้านบนมีหลายจุก ใบส้ันแคบและชิดกันมีสีเขียวอ่อนอม
เหลอื ง เนือ้ สับปะรดมีรสชาติหวานไมม่ าก
พันธุ์ภูเก็ต หรือ พันธุ์สวี (Mauritius Pine, Ceylon, Malacca Queen) นิยมปลูกทางภาคใต้ ใบมี
แถบสแี ดงทีต่ อนกลางใบ กลบี ดอกสมี ว่ งออ่ น ผลเลก็ เปลอื กหนาเน้อื สเี หลอื งเข้ม หวานกรอบ
พนั ธนุ์ างแล หรือ พันธ์ุน้ำผึ้ง นยิ มปลูกในจังหวัดเชียงราย ผลกลม ตานูน เปลือกบาง เน้ือสีเหลืองเข้ม
รสหวานจดั
พนั ธตุ์ ราดสที อง จุดสังเกตของพันธนุ์ ้ีคือลักษณะของผลท่ีมีสีเหลืองคล้ายสีทองสวยงามน่ากิน รสชาติ
มีความหวานกรอบตลอดทง้ั ผล
พนั ธ์ภุ ูแล ลกั ษณะเด่นคอื ผลมีขนาดเล็กและสามารถทานได้ทั้งผล
พันธห์ุ ้วยมนุ่
พันธุ์เพชรบุรี ผลย่อยติดกันไม่แน่น แกะออกมารับประทานได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก แกนผล
รบั ประทานได้ รสหวานอมเปรีย้ ว
สรรพคุณทางสารเคมี
มีเอนไซม์ย่อยโปรตีนชื่อบรอมีเลน (bromelain) ช่วยการย่อยในระบบทางเดินอาหาร มีเกลือแร่,
วิตามินซีจำนวนมาก และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์เพื่อรักษาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อ และนำไปใช้
ในการผลิตเบียร์เพ่ือป้องกนั การตกตะกอนทำใหเ้ บียร์ไมข่ นุ่
5
สรรพคณุ ทางสมุนไพร
- ชว่ ยบรรเทาอาการแผลเปน็ หนอง
- ช่วยขบั ปัสสาวะ
- แกร้ อ้ นกระสับกระสา่ ย กระหายนำ้
- แกอ้ าการบวมน้ำ ปัสสาวะไมอ่ อก
- บรรเทาอาการโรคบิด
- ชว่ ยย่อยอาหารพวกโปรตนี
- แกท้ อ้ งผูก
- เป็นยาแกโ้ รคนิ่ว
- แก้สน้ เท้าแตก
- ส่วนของรากสับปะรด นำมาใช้เปน็ ยาแก้กระษัย บำรุงไตได้ ช่วยในการฆา่ ตวั อ่อนของหนอนแมลงวนั
ได้
6
บทที่ 3
วิธกี ารดำเนินงาน
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1) คณะผจู้ ดั ทำรว่ มกนั ประชุมวางแผนตามหวั ข้อวตั ถุประสงค์ของโครงงาน
2) คณะผจู้ ัดทำเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นข้นั ตอนของการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ทีเ่ กยี่ วข้องกับโครงงานเพื่อมา
วเิ คราะหแ์ ละสรุปเน้ือหาท่ีสำคญั ที่จะนำมาจดั ทำโครงงาน
3) นำเสนอร่างโครงงานต่อคณุ ครูทีป่ รกึ ษา เพ่อื ตรวจสอบรายงานผลการดำเนินงาน
4) จัดทำรปู เล่มเอกสาร เพ่ือใช้สำหรบั ศกึ ษาและรายงานต่อคุณครูทีป่ รึกษา
อุปกรณ์และวัสดุทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
1) อนิ เตอร์เน็ต
2) ปากกา
3) กระดาษ
4) ยางลบ
5) ดินสอ
6) คอมพิวเตอร์
7) เคร่ืองปร้ินเตอร์
7
บทท่ี 4
ผลการศกึ ษาค้นควา้
ผลการศึกษาค้นคว้า
จากการทำโครงงานเร่ืองไวน์สบั ปะรด มีเน้อื หาเกย่ี วกับขั้นตอนการทำไวน์ มีวตั ถุประสงค์เพื่อเผยแพร่
ความรเู้ ก่ียวกับวธิ กี ารทำไวน์ ซ่งึ มผี ลการดำเนนิ งานโครงการดงั นี้
ผลการพัฒนาโครงงาน
การพฒั นาโครงงานเรอ่ื งไวน์สับปะรด เพ่ือเผยแพร่ความร้เู กี่ยวกับความร้ทู ั่วไปของไวนส์ ับปะรด และ
วิธกี ารทำไวน์สับปะรด คณะผู้จดั ทำไดด้ ำเนนิ ตามขั้นตอนการดำเนนิ งานท่ีได้วางแผนไว้ ที่สามารถเข้าถึง และ
เปน็ แหลง่ เรียนรู้ในการศึกษาข้อมลู
8
บทที่ 5
สรุปผลอภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผล
การนำสับปะรดมาแปรรูป โดยการนำไปสับปะรดนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ และสามารถเก็บใบหมอ่ นไว้ได้
เป็นระยะเวลานาน
อภิปรายผล
จากการทำโครงงานน้ี เมื่อนำสับปะรดที่มีอย่ใู นท้องถ่ินมาใชป้ ระโยชน์ ทำให้สะดวกต่อการนำมาใช้
ประโยชน์ตา่ งๆ และงา่ ยต่อการเกบ็ รักษา
ประโยชน์ของทไี่ ดร้ บั
1) สามารถใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์จากการทำไวน์สับปะรดได้
2) สามารถหารายไดเ้ สรมิ จากการทำไวนส์ บั ปะรด จากสับปะรดได้
3) สามารถนำไปประกอบอาชีพเพอ่ื ต่อยอดธุรกิจได้
4) สามารถนำไปด่มื ในงานปาตี้ หรือในงาน โอกาสตา่ งๆได้
ข้อเสนอแนะ
-
บรรณานกุ รม
ข้อมูลไวน์สับปะรด https://www.dlogger.com
ขอ้ มูลสับปะรด https://th.wikipedia.org/wiki
ขอ้ มูลยสี ต์ http://www.foodnetworksolution.com