cdn.fbsbx.com

เครอื งมอื ทาง
ภมู ศิ าสตร์

จดั ทําโดย เด็กหญงิ ธนฏั ฐา สอนเสนาะ ม.3/10 เลขที12

เคร่ืองมือทางภูมิศาสตรหมาย
ถึงวสั ดุ อปุ กรณ ในรปู แบบ

ตางๆ ท่นี ํามาใชเป็นส่อื เพ่ือการ
ศกึ ษาการสาํ รวจ การเก็บ
รวบรวม การบันทกึ การ

วิเคราะหขอมูล ตลอดจนใชเป็น
ส่ือในการเผยแพรขอมูลทาง
ภมู ศิ าสตร

แผนที่

ความหมายของแผนท่ี แผนท่ี (Map) เป็นสิง่ ท่ี
มนษุ ยสรางข้นึ เพ่ือแสดงลกั ษณะและท่ตี งั้ ของส่งิ
ตางๆทีป่ รากฏอยบู นผิวโลก โดยการยอสวนกับใช
สญั ลกั ษณแทนสิง่ ตางๆ นัน้ ลงในวัสดุพ้นื แบนราบ

ประเภทของแผนที่

1.แผนทเ่ี ฉพาะเร่ือง(Thematic Map) เป็นแผนทที่ ่ีแสดง
ลักษณะใดลักษณะหน่ึงโดยเฉพาะไดแก แผนท่รี ัฐกิจแสดง
เขตการปกครองหรืออาณาเขต แผนที่แสดงอณุ หภมู ิของ

อากาศ แผนท่ีแสดงปรมิ าณน้ําฝน แผนที่ประวัตสิ าสตร
เป็ นตน

2.แผนทีแ่ สดงขอมลู ดวยจุด (Dot map) เป็นแผนทท่ี ีเ่ รียบ
งาย แตเป็นแผนที่ที่มปี ระสิทธภิ าพสงู ในการแสดงความ
แตกตางในความหนาแนนของการกระจายทางภมู ศิ าสตร

ในภูมปิ ระเทศ มสี องประเภทพ้นื ฐานคือหน่ึงตอหน่ึงแผนท่ี
ความหนาแนนของจดุ (จดุ หน่ึงจดุ เป็นหน่ึงวตั ถุหรือ

จํานวนนับ) และความหนาแนนของจดุ หน่ึงไปยงั หลายจุด
แผนที่ซ่งึ เป็นหน่ึงในจุดที่แสดงจํานวนของสิ่งของหรือมูลคา

3.แผนทีแ่ สดงเกี่ยวกบั สญั ลกั ษณสดั สวน โดยใชเทคนิคการ
ใชสัดสวนซ่งึ หาคาจากความแตกตางจากขนาดซ่ึงทาํ หนาท่ี

แทนขอมลู โดยการเช่อื มโยงความแตกตางพ้นื ทีก่ บั
ตําแหนงท่ีตัง้ ในแผนท่ี ตวั อยางเชน แผนบนั ทึกขอมูลโดย
แสดงตาํ แหนงท่ตี ัง้ ของเมืองตางๆทป่ี รากฎณอยใู นแผนท่ี กับ
พ้ืนทท่ี แ่ี บงเป็นสดั สวนของจาํ นวนประชากรในเมอื งตางๆ

4.แผนทีแ่ สดงดวยเสนเทา (Isoline map)เป็นแผนท่ที ีม่ เี สน
อยางตอเน่ืองเช่อื มจดุ มีมูลคาเทากัน ตัวอยางเชนเป็นระดับ

ความสูงเทากนั (เสน) อณุ หภูมิ (isotherms) ความดนั
(Isobar) ความเรว็ ลม (isotachs), ทศิ ทางลม (isogon)
เป็นตนการทําแผนที่ Isoline จะใชในการแปลความหมาย

ขอมูล ในบางแผนที่เฉพาะเร่ือง