ภาคอีสาน secretary
เมนูน้ำ นู น้ำ ตกหมู เมนูน้ำ ตกหมู ส่วนผสม อาหารรสจัด มีเครื่องปรุงคล้ายกับลาบ และตับหวาน แต่ใช้เนื้อวัว หรือเนื้อหมูย่าง พอสุก หรือเรียกว่าพอน้ำ ในเนื้อหยดฉ่า เนื้อยังฉ่ำ ความอร่อยอยู่ที่ความสดของเนื้อ กับจังหวะการย่างที่สุกพอดี คลุกเคล้าด้วย น้ำ ปลา พริก มะนาว ข้าวคั่ว หอมซอย ใบ สะระแหน่ กินแกล้มกับผักสดกรอบ นับ เป็นอาหารจานเด็ดที่ปรุงง่าย และอร่อย ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 2 – 3 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมหั่นหยาบ 2 – 3 ต้น ใบสะระแหน่ ถ้วย น้ำ ปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ มะนาว 1 ½ – 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ สันคอหมูแล่เป็นชิ้นหนา ประมาณ 2 เซนติเมตร 300 กรัม ซีอิ๊วขาว 1 – 2 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา น้ำ ตาลทราย ½ ช้อนชา ส่วนผสมหมูย่าง
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน น้ำ ตกหมู 1. ทำ หมูย่าง โดยหมักส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วย กัน พักไว้ ประมาณ 15 - 20 นาที แล้วนำ ไป ย่างด้วย ไฟอ่อนจนเนื้อหมูสุกนุ่มดี ระวัง อย่าย่างจนแห้งเกิน จะได้หมูย่างประมาณ 200 กรัม 2. นำ หมูย่างหั่นเป็นชิ้นบาง ใส่ลงในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำ ปลาน้ำ มะนาว น้ำ ตาลทราย พริก ป่น และข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน 3. ใส่ผักชีฝรั่ง หอมเล็กซอย ต้นหอม และใบ สะระแหน่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน รับประทานกับ ผักสดต่าง ๆ เช่น โหระพา กะหล่ำ ปลี ถั่วฝักยาว เป็นต้น
ข้าวต้มหัวหงอก ข้าวต้มมัดที่เรารู้จักกันดี รู้มั้ยว่า แค่นำ มา คลุกกับมะพร้าวขูดก็กลายเป็นเมนูขนมหวานที่เก่าแก่ และโบราณ ของชาวล้านนาแล้วค่ะ ข้าวต้มมัดที่นำ มา คลุกกับพร้าวขูดจะเรียกว่า ข้าวต้มหัวหงอก จะได้ สัมผัสความอร่อยที่ไม่ใช่แค่ข้าวต้มมัด
ส่วนผสม 1. ข้าวเหนียวแช่น้ำ 300 กรัม (แช่น้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง) 2. กล้วยน้ำ ว้า (ห่าม) ตามชอบค่ะ 3. มะพร้าวขูด 250 กรัม 4. น้ำ ตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 5. เกลือ 1/2 ช้อนชา วิธีทำ 1. เตรียมใบตอง 2 ใบ ต่อ 1 ชิ้น ตัดให้เป็นขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ จากนั้นก็ตักข้าวเหนียวลงไป เกลี่ยให้กระจาย แล้ววางกล้วยลงไป แล้วตักข้าวเหนียวทับกล้วยอีกที 2. ห่อใบตองให้ทบกัน แล้วเอามามัดติดกันเป็นสองอัน 3. นำ ไปต้มโดยใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง 4. เตรียมมะพร้าวขูด ผสมน้ำ ตาลทรายและเกลือ จากนั้นก็ แกะข้าวต้มมัดออก แล้วนำ ไปคลุกกับมะพร้าว 5. ตักขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วจัดจานเสิร์ฟได้เลยค่ะ
การละเล่่นพื้นเมืือง ภาคอีีสาน ตีีนเลีียน ( จ.ศรีสีรี สี ะเกษ) ตีีนเลีียน ทํําจากไม้้กระดานรููปวงกลมซึึ่งมีีรัศมีประมาณ 8-12 นิิ้ว โดยจะเจาะรููตรง กลาง แล้้วใช้้ไม้้ไผ่่ยาวประมาณ 2 เมตรผ่่าครึ่งยาว 12 นิิ้ว เพืื่อเชืื่อมกัับรููกระดานด้้วยการ ตอกตะปูู หรือไม้้แข็็งเป็นเพลา อาจจะสลัักขััดไว้้ให้้แน่่นเพืื่อไม่่ให้้หลุุดออกมาก็็ได้้ ปกติิจะ นิิยมเล่่นตีีน เลีียนในช่่วงสงกรานต์์หรือประเพณีีอืื่นๆ เพืื่อเป็นการสร้างความ สนุุกสนาน ในการเล่่นนัั้น ผูู้้เล่่นจะยืืนเรียงกัันโดยใช้้ไม้้ไผ่่ด้้านปลาย วางทีี่บ่่า เมืื่อได้้ยิินสัญญาณ บอกให้้เริ่มวิิ่ง ผูู้้เล่่นจะต้้องดัันตีีนเลีียนให้้ วิิ่งออกไป เพืื่อให้้ถึึงเส้้นชััยก่่อนเป็นคนแรก โดยจะกํําหนดระยะทาง ไว้้ทีี่ 50-100 เมตร
เมนูแ นู กงเห็ด ห็ เมนูแกงเห็ด ส่วนผสม เห็ดเป็นอาหารที่ได้จัดได้ว่าเป็นของขวัญ จากผืนดิน ในภาคอีสานมีเห็ดขึ้นตามธรรมชาติ มากมาย หลายชนิด ซึ่งล้วนมีรสชาติอร่อย แต่ อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เช่น เห็ดไค เห็ดตับ เต่า เห็ดระโงก นิยมนำ มาแกงกับใบย่านาง ใบ แมงลัก น้ำ ปลาร้า เป็นน้ำ แกงซดร้อนๆ รสชาติ อร่อย ปัจจุบันเห็ดตามธรรมชาติเริ่มหายาก จึง นิยมใช้เห็ดจากตลาด ซึ่งเกิดจากการเพาะเลี้ยง ในฟาร์มเห็ด ซึ่งให้รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน เห็ดชนิดต่างๆ เช่น เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู 2 ถ้วยตวง ตะไคร้หั่นเป็นท่อน 2 ต้น พริกชี้ฟ้า 5 – 7 เม็ด หอมแดง 3 – 5 หัว ต้นหอมหั่นเป็นท่อน 2 ต้น น้ำ ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ ปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ คั้นใบย่านาง 1 ถ้วยตวง น้ำ เปล่า 2 ถ้วยตวง ชะอม ใบแมงลัก อย่างละ 4 – 5 ช่อ หรือ มากน้อยตามชอบ
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน แกงเห็ด ห็ 1. นำ น้ำ คั้นใบย่านางใส่หม้อ เติมน้ำ เปล่าลงไป ยกหม้อขึ้นตั้งไฟให้เดือด 2. พอเริ่มเดือด บุบตะไคร้ พริก หัวหอม พอ แหลก ใส่ลงไป 3. พอน้ำ เดือดจัด ใส่เห็ดลงใบ ต้มจนเห็ดสุกดี 4. ปรุงรสด้วยน้ำ ปลาและน้ำ ปลาร้า ใส่ชะอม ผัก หวาน ใบแมงลัก และต้นหอมหั่นท่อน แล้วก็ ปิดไฟ ตักใส่ชามรับประทานได้
ข้าวโป่ง ในสมัยก่อนมีเรื่องเล่าว่ากลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ที่ว่างจากการทำ ไร่ทำ นา ได้คิดทำ ขนมให้เด็กๆได้กินเล่นรวมทั้งได้เป็นเครื่องถวายทานด้วย นอกจากนี้ ชาว บ้านยังได้นำ ไปเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในพิธีบูชาข้าวในงานบุญเดือนสี่ บุญข้าวจี่ ชาวบ้านจะถวายข้าวจี่ ข้าวโป่ง แด่พระสงฆ์ เพื่อแสดงถึงความ เคารพ จากนั้นนำ บางส่วนใส่กระทงใบตอง แล้วนำ ไปวางที่หน้าธาตุบรรจุ กระดูกของญาติตนเอง เพื่อให้คนที่ล่วงลับไปแล้ว ได้รับประทานและจะมี การนำ ไปเป็นเครื่องถวายทานด้วยในบุญผะเหวด โดยจะย่างข้าวโป่งเพื่อใส่ ในกันหลอนและถวายเป็นคายเทศ
ส่วนผสม 1. ข้าวสารเหนียว 4 กิโลกรัม 2. น้ำ ตาลทรายไม่ฟอกสี 1 กิโลกรัม 3. งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำ ตูดหมูตูดหมา 5 ลิตร วิธีทำ 1.แช่ข้าวเหนียว ไว้ 6 ชั่วโมง 2.นำ รากตูดหมูตูดหมามาล้างให้สะอาด ฝานเป็นแผ่นบางแช่น้ำ ซาวข้าวไว้ 1 คืน 3. นึ่งข้าวเหนียวให้สุก นำ มาใส่ครกกระเดื่อง โขลกให้ละเอียด เติมน้ำ ตาลและงา แล้วโขลกเข้ากันให้ทั่ว 4 ขณะโขลก นำ น้ำ ตูดหมูตูดหมาที่เตรียมไว้พรมในข้าวที่โขลกเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ ข้าวที่โขลกติดมือ ติดครกและสาก ทำ การโขลกกลับจนละเอียดได้ที่แป้งจะเหนียว นุ่ม ใช้มือดึงจะยืดหยุ่นดีไม่หดตัว ไม่แข็งหรือเหลวจนเกินไป 5.นำ ส่วนผสมที่โขลกแล้ว บรรจุในถุงพลาสติก ใส่ถังไม่ให้ลมพัดจะแห้ง 6. นำ มาปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดตามต้องการ นำ มาวางบนพลาสติกและทับด้วย พลาสติกที่ทาด้วยไข่และน้ำ มันพืช และทับด้วยไม้แบน ให้เป็นแผ่นบาง กลม 7.นำ มาแกะพลาสติกออก ผึ่งลมบนที่ตากมุ้งเขียว หรือเสื่อกกที่ทอไว้ตากข้าวโป่งโดย เฉพาะ และไม่ย้อมสี 8.นำ ไปผึ่งลมในที่ร่ม 1 วัน เก็บบรรจุถุง ปิดฉลาก จำ หน่าย
การละเล่่นพืื้นเมืือง ภาคอีีสาน วิิ่งขาโถกเถก (ชััยภููมิิ) จะใช้้ไม้้ไผ่่กิิ่ง 2 ลํํา ถ้้าไม่่มีีก็็จะใช้้วิิธีีเจาะรููแล้้วเอาไม้้อืื่น มา สอดไว้้เพืื่อเป็็นที่วางเท้้า โดยผูู้้เล่่นจะเลืือกไม้้ไผ่่ลํําตรง 2 ลํํา ทีี่มีีกิิ่งสํําหรับัรั บัวางเท้้าเสมอกััน 2 ข้้าง ผูู้้เล่่นจะขึึ้นไปยืืนบน แขนงไม้้ เวลาเดิินหากยกเท้้าข้้างไหนมืือทีี จัับลํําไม้้ไผ่่จะยก ข้้าง นัั้นตาม ส่่วนมากเด็็กๆ มัักจะเดิินแข่่งกััน ใครทีี่เดิินได้้ไว และ ไม่่ตกจากไม้้ถืือว่่าเป็็นผูู้้ชนะ
เมนูตั นู บตั หวาน เมนูตับหวาน ส่วนผสม ตับหวานเป็นอาหารที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างสูง เป็นเมนูหลักของร้านอาหาร อีสาน รู้จักกันทั่วทุกภาค เมนูจานนี้รสชาติ จัดจ้านด้วยเครื่องปรุงสดใหม่ ตับหมูรวน พอสุกให้รสหวานและนุ่มลิ้น ตัดกับรส เปรี้ยวเค็มเผ็ด ของเครื่องปรุง เพิ่มรส สัมผัสด้วยข้าวคั่วหอมอร่อย ตับวัวหรือตับหมู 300 กรัม พริกขี้หนูคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ มะนาว 3 ช้อนโต๊ะ หัวหอมแดงซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ ปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบๆ 4 ช่อ ผักเครื่องเคียง ได้แก่ ใบโหระพา กะหล่ำ ปลี ถั่วฝักยาว
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน ตับหวาน 1. แล่ตับเป็นชิ้นหนาประมาณ 1/2 ซม. นำ ไปลวก ในน้ำ เดือดให้สุกๆ แล้วพักใส่ชามผสมไว้ 2. บีบมะนาวใส่ตับ คลุกเคล้าให้ทั่ว ใส่น้ำ ปลา หั วหอมแดงซอย พริกขี้หนูคั่วป่น ข้าวคั่วป่น 3. ชิมให้รสชาติพอดี แล้วจึงใส่ใบสะระแหน่ คลุก เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานรับประทานกับผักดิบ เช่น ใบโหระพา ถั่วฝักยาว กะหล่ำ ปลี
ขนมกระยาสารท ขนมกระยาสารทในสมัยก่อนเป็นขนมทีทำ ขึ้นในช่วงทำ บุญวันสารทไทย ช่วงเดือนตุลาคม เป็นการทำ บุญอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และจะมีการตักบาตรด้วยกระยาสาทร มีความเชื่อว่า หากไม่ใส่บาตรด้วย กระยาสาทรผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็จะไม่ได้รับส่วนบุญกุศลที่ทำ ในวันนี้ เมื่อ ทำ บุญกันเสร็จแล้วก็จะมีการแบ่งกระยามสาทรที่ทำ เป็นการแลกเปลี่ยน กันเหมือนกับอวดฝีมือของกระยาสาทรแต่ละบ้าน กระยาสาทรจะกินคู่กับ กล้วยไข่ เคยได้ยินใช่ไหมค่ะ เหตุผลก็เพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วงทึ่กล้วยไข่ ออกผลนั่นเอง และรสชาติของกล้วยไข่จะช่วยทอนรสหวานของกระยา สาทรได้ดี เสริมให้กินอร่อยหวานมันกำ ลังดีค่ะ
ส่วนผสม 1. ข้าวตอก 1 ½ กิโลกรัม 2. ถั่วลิสง 6 กิโลกรัม 3. งาขาวคั่ว 5 กิโลกรัม 4. ข้าวเม่า 12 กิโลกรัม 5. แบะแซ 8 กิโลกรัม 6. น้ำ ตาลปี๊บ 15 กิโลกรัม 7. กะทิ 12 กิโลกรัม วิธีทำ 1. นำ ถั่วลิสง งา ข้าวเม่า มาคั่วให้สุกพอประมาณ แล้วพักไว้ 2. นำ กะทิมาเคี่ยวกับน้ำ ตาลปี๊บ จนน้ำ ตาลละลาย จากนั้นใส่แบะแซลง ไปผสม เคี่ยวให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน หรือจนเหนียวข้นเป็น ยางมะตูม 3. ใส่ถั่วลิสง ข้าวตอก ข้าวเม่า งาขาวที่คั่วเตรียมไว้ลงไปผสมในน้ำ กะทิ เคี่ยวไปเรื่อยๆ โดยใช้ไฟอ่อน ประมาณ 30 นาที 4. ตักใส่ถาดสี่เหลี่ยม พักไว้พออุ่น ตัดเป็นสี่เหลี่ยม พักไว้ให้เย็น
การละเล่่นพืื้นเมืือง ภาคอีีสาน มโหรี (นครราชสีมา) เป็็นการเล่่นดนตรีพืีื้รี พืีื้นบ้้านของชาวโคราช โดยมีีเครื่องดนตรี คืือ ซอด้้วง ซออูู้้ ปีี่นอก กลองเทิิ่ง ฉิิ่ง ฉาบ ลัักษณะการเล่่นจะ เป็็น การบรรเลงด้้วยเครื่องดนตรีดัีัรี ดัีังทีี่กล่่าวมา จะมีีทัั้งเพลงไทยเดิิม เพลงสมััยใหม่่ ส่่วน เพลงทีี วงมโหรีนิีิรีนิีิยมบรรเลงคืือ เพลงพม่่าแห่่ กระจาด เพลงกัันตรึมรึเป็็นต้้น ส่่วนมากวงมโหรีจีรีจีะเล่่นในงานมงคล ต่่างๆ ไม่่ว่่าจะเป็็นงานโกนจุุก แห่่นาค ซึึ่งปััจจุุบัันเราจะเห็็นว่่ามีีการ นิิยมบรรเลงในงานบวชจํํานวนมาก
เมนูซุ นู ป ซุ หน่อ น่ ไม้ เมนูซุปหน่อไม้ ส่วนผสม หน่อไม้เป็นอาหารที่นิยมในทุกภาคของ ประเทศไทย นิยมนำ มาลวกหรือต้มให้สุก ก่อนที่จะนำ มารับประทานเพราะหน่อไม้ดิบมี รสขื่นขม และมีสารประกอบไซยาไนด์อยู่ การต้มนอกจากจะลดความขม ยังเป็นการ กำ จัดสารพิษออกไป ซึ่งนับเป็นภูมิปัญญาที่ ชาญฉลาดของคนโบราณ การทำ ซุบหน่อไม้คือ การปรุงหน่อไม้ต้มให้มีรสชาติอร่อยขึ้น หน่อไม้ต้ม 300 กรัม น้ำ คั้นใบย่านาง 1 ถ้วยตวง น้ำ ปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ สะระแหน่ 10 ใบ น้ำ ปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ มะนาว 3 ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งซอย 2 ต้น ต้นหอมซอย 2 ต้น พริกป่น 1 ช้อนชา
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน ซุปหน่อ น่ ไม้ 1. ใช้ส้อมขูดหน่อไม้ให้เป็นเส้น 2. เทน้ำ คั้นใบย่านางใส่หม้อ ผสมน้ำ เปล่าลงไป เล็กน้อย ตั้งไฟให้เดือด แล้วจึงใส่หน่อไม้ลงไป 3. ต้มหน่อไม้จนเหลือน้ำ ขลุกขลิก ปรุงรสด้วย น้ำ ปลาร้าและน้ำ ปลา ปิดไฟ ยกหม้อลงจากเตา 4. เติมน้ำ มะนาว ข้าวคั่ว ชิมให้รสพอดี แล้วจึง ใส่ใบสะระแหน่ ต้นหอมและผักชีฝรั่ง ตักใส่จาน เสิร์ฟ
ขนมมะพร้าวแก้ว มะพร้าวแก้ว เป็นขนมไทยอย่างหนึ่ง ทำ จากมะพร้าวทึนทึก นำ มาขูดเป็นเส้น ผัดกับน้ำ เชื่อมจนแห้ง แล้วผึ่งไว้จนกรอบ ทำ ให้ได้มะพร้าวเคลือบน้ำ ตาลที่มี รสชาติหวานมัน เป็นการแปรรูปมะพร้าวให้กลายเป็นขนมหวาน และ เป็นการ ถนอมอาหาร ให้เก็บมะพร้าวไว้ได้นานยิ่งขึ้นเนื้อมะพร้าวที่ใช้ทำ มะพร้าวแก้ว นั้น ควรใช้ มะพร้าวทึนทึก เป็นหลัก โดยการเลือกมะพร้าวทึนทึก ให้ดูจาก เปลือกมะพร้าว หากขูดแล้ว มีสีขาว แสดงว่าใช้ได้ อีกข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ จับเขย่าลูกมะพร้าวแล้ว จะต้องมีเสียงน้ำ มะพร้าวคลอนไปมา ถ้าไม่มีเสียง แสดงว่า มะพร้าวยังอ่อนอยู่ จะไม่เหมาะกับการนำ มาทำ มะพร้าวแก้
1. ตั้งหม้อ ใส่น้ำ ตาลทรายลงไป ตามด้วย เกลือ น้ำ ลอยดอกมะลิ จากนั้น เปิด ไฟอ่อน คนให้น้ำ ตาลละลายเข้ากัน 2. เคี่ยวน้ำ เชื่อมต่อไปเรื่อย ๆ ให้มีความข้นหนืด จนกลายเป็นน้ำ เชื่อมยาง มะตูม ตักน้ำ ขึ้นมาแล้ว หยอดเป็นเส้นได้ 3. ใส่มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นลงไป ผัดกับน้ำ เชื่อมให้เข้ากัน ด้วยไฟอ่อน จนกว่า จะแห้ง 4. หากจะใส่สีสันต่าง ๆ ให้ใส่น้ำ ใบเตย น้ำ อัญชัน ลงไป แล้วผัดจนกว่าจะมีสี เขียว สีม่วง ตามต้องการ แต่ถ้าต้องการมะพร้าวแก้วสีขาว ไม่ต้องใส่สี 5. ใช้ช้อนและส้อม ตักมะพร้าวขึ้นมา หยอดเป็นก้อนเล็ก ๆ ใส่ถาด หรือ จาน ตามชอบ แล้วผึ่งให้แห้ง หรือ จะนำ เข้า ตู้อบลมร้อน เครื่องอบแห้ง เพื่ออบให้ แห้งเร็วขึ้นก็ได้ เป็นอันเสร็จ ส่วนผสม 1. มะพร้าวทึนทึก (ขูดเส้น) 3 ถ้วย 2. น้ำ ตาลทราย 1 ถ้วย 3. น้ำ ลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย 4.เกลือป่น 1 หยิบมือ 5.น้ำ ใบเตยเข้มข้น น้ำ อัญชัน สำ หรับเพิ่มสีสัน 1 – 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ
การละเล่่นพืื้นเมืือง ภาคอีีสาน โค้้งตีีนเกวีียน หรือ รื ระวงตีีนเกวีียน (ยโสธร) ในการเล่่นจะมีีคนยืืนสลัับกัับคนนัั่งเป็็นวงกลมคล้้ายล้้อเกวีียน พวกทีี่นัั่งจะเอาเท้้ายัันกัันไว้้ตรงกลางคล้้ายดุุมเกวีียนและเอามืือจัับ คนทีี่ยืืน โดยจะเดิินไปรอบๆ เป็็นวงกลม กลุุ่่มนัั่งจะนัั่งให้้ก้้นลอย พ้้นพืื้นประมาณหนึึ่ง จากนัั้นจะหมุุนตามโดยใช้้เท้้าทีี่ยัันกัันไว้้เป็็น ศููนย์์กลาง หากกลุุ่่มทีี่นัั่งทํํามืือหลุุดก็็จะถืือว่่าเป็็นฝ่ายแพ้้ ต้้องเปลีี่ยน ให้้คนทีี่ยืืนมาเป็็นฝ่ายนัั่งแล้้วค่่อยเล่่นต่่อ การเล่่นโค้้งตีีนเกวีียนจะ นิิยมเล่่นกัันเกืือบทุุกโอกาสโดยเฉพาะในช่่วงทีี่มีีเทศกาลตรุุษ สงกรานต์์ บุุญข้้าวสาก เป็็นต้้น
เมนูตำ นู ตำ ซั่ว เมนูตำ ซั่ว ส่วนผสม ตำ ซั่ว คือ ส้มตำ อีกรูปแบบหนึ่งของชาว อีสาน เป็นอาหารที่เกิดจากภูมิปัญญาในการ ผสมผสานเครื่องปรุง ผักสด ที่มีอยู่ตามหัวไร่ ปลายนา ให้กลายเป็นอาหารจานอร่อย ตำ ซั่ว คือ การเรียกส้มตำ แบบอีสานที่ใส่เส้นขนมจีน ลงไป ซึ่งปกติใช้รับประทานคู่กับส้มตำ เช่น เดียวกับข้าวเหนียว เข้าไปด้วย ซึ่งทำ ให้ส้มตำ เป็นอาหารที่มีแป้ง ช่วยให้อิ่มและมีรสชาติเพิ่ม ขึ้น มะละกอดิบขูดเป็นเส้น 1 ถ้วย เส้นขนมจีน 1 ถ้วย กระเทียม 3 กลีบ พริกขี้หนูสดหรือแห้ง 5 – 6 เม็ด มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 2 ลูก ปูดอง 2 ตัว ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน 1 ฝัก น้ำ ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ ปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ มะนาว ถ้วย น้ำ ตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน ตำ ซั่วซั่ 1. นำ พริกขี้หนูหรือพริกแห้ง กระเทียมใส่ครก โขลกพอแหลก 2. หั่นมะเขือเทศใส่ลงไป ตามด้วยปูเค็ม น้ำ ปลาร้าต้มสุก 3. ใส่มะละกอ ปรุงรสด้วย มะนาว น้ำ ปลา เคล้าให้เข้ากันชิมรสตามชอบ (ถ้าชอบหวานเติมน้ำ ตาลปี๊บลงไปด้วย) ใส่เส้นขนมจีนลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน 4. ตักใส่จาน รับประทานพร้อมผักสด เช่น ยอดผักบุ้ง กะหล่ำ ปลี ถั่วฝักยาว
ข้าวทิพย์ เป็นพิธีกรรมของศาสนา พราหมณ์ที่มีสอดแทรกเข้ามาปะปนในพิธีกรรมทาง พุทธศาสนา เพื่อถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ และบูชาพระรัตนตรัยอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ผู้ตาย ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นพระราชพิธีที่กระทำ กันในเดือน ๑๐ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี และได้รับการฟื้นฟู ครั้งใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ และมาละเว้นเลิกรา ไปในสมัยรัชกาล ที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ แล้วมาได้รับการฟื้นฟู อีกครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นต้นมา แต่ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะจัดกันในเดือน ๑๒ บางแห่งก็เดือนหนึ่ง ซึ่งคงจะถือเอาระยะที่ ข้าวกล้า ในท้องนามีรวงขาวเป็นน้ำ นม ของแต่ละปี
ส่วนผสม 1. ข้าว ใช้แป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้า 2. ถั่วลิสง 3. งาดํา งาขาว 4. น้ำ ผึ้ง 5. น้ำ ตาลทราย 6. นมข้นหวาน 7. มะพร้าว คั้นเอาแต่กะทิ 8. เนย วิธีทำ ๑.นําเครื่องปรุงเตรียมไว้ทุกอย่างเทใส่กระทะใบบัวคนให้เข้ากัน ไม่มีสูตรในการกําหนดอัตราส่วนของเครื่องที่แน่นอน จํานวนข้าวทิพย์จะมากน้อยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มี ดังนั้น รสชาติในแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน1. นําเครื่องปรุงเตรียมไว้ทุกอย่างเทใส่กระทะใบบัวคนให้เข้ากัน ไม่มีสูตรในการกําหนด อัตราส่วนของเครื่องที่แน่นอน จํานวนข้าวทิพย์จะมากน้อยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มี ดังนั้น รสชาติ ในแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน 2. ก่อนเริ่มกวนข้าวทิพย์พระสงฆ์จะประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยพระสงฆ์จะ เป็นผู้ทําพิธีบูชาพระรัตนตรัยจากนั้นสวดเจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร 3. สาวพรหมจรรย์ จำ นวน ๔ - ๕ คนนุ่งขาวห่มขาว เริ่มกวนข้าวทิพย์ เมื่อพระ สงฆ์ เจริญพระพุทธมนตร์จบนักเรียนก็จะเปลี่ยนให้ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมเป็นผู้กวนต่อ ไปจนกว่าจะเสร็จ ใช้เวลากวนประมาณ ๓ ชั่วโมงเมื่อเสร็จแล้ว ก็จะแบ่งปันข้าวทิพย์หรือข้าว มธุปายาส ไปรับประทาน ถือว่าเป็นของดี ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตน และนําไปฝาก บุคคลในครอบครัว หรือผู้ที่ตนเคารพนับถือ ก่อนกลับบ้านทุกคนช่วยกันเก็บอุปกรณ์ ล้างทํา ความสะอาด จัดเก็บสถานที่ให้เรียบร้อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความรัก ความสามัคคีในหมู่คณะ ชาวบ้าน ซึ่งน่าจะต้องร่วมกันอนุรักษ์ สืบทอดประเพณีอันทรงคุณค่าอยู่คู่กับชาวลานกระบือ สืบไป
ประเพณีี ภาคอีีสาน บุุญบัั้งไฟ ประเพณีีบุุญบัั้งไฟ เป็็นประเพณีีทีี่ จััดขึึ้นทุุกปีีในจัังหวััดต่่างๆ ในภาคอีีสาน ทีี่มีีการปลููกข้้าวเป็็นอาชีีพหลััก ในช่่วง ก่่อนการเริ่มทํํานา เพืื่อบููชาพระยา แถน ทีี่เชืื่อว่่าเป็็นเทพเจ้้าทีี ดููแลให้้ ฝนตกต้้อง ตามฤดููกาล โดยจะมีีการ ประดัับตกแต่่ง บัั้งไฟ (ซึึ่งเป็็นดอกไม้้ ไฟชนิิดหนึึ่ง ด้้าน นอกทํําจากลํําไม้้ไผ่่) อย่่างสวยงาม และ แห่่ไปทัั่วเมืือง ก่่อนทีี่จะจุุดขึึ้นฟ้าเพืื่อบููชา พระยาแถน จัังหวััดยโสธรและร้อร้ยเอ็็ด เป็็นจัังหวััดทีี่่ มีีชืื่อเสียงทีี่สุุดในการเฉลิิมฉลอง เทศกาลบุุญบัั้งไฟ มีีการแข่่งขััน ประกวดบัั้งไฟ และการจััดกิิจกรรมพืื้น บ้้านต่่างๆ ทีี่สนุุกและไม่่ควรพลาดเลยทีี เดีียว
เมนูส้ นู ม ส้ ตำ เมนูส้มตำ ส่วนผสม ส้มตำ เป็นภูมิปัญญาในการกินผักดิบให้มี รสชาติอร่อย และเป็นอาหารที่ปรุงได้แต่ตามหัว ไร่ปลายนา ไม่ต้องมีครัว หรือเตาไฟ เพียงมีต้น มะละกอกับพริกสดพริกแห้งก้นตะกร้า น้ำ ปลาร้า ที่มีติดครัว เก็บผักตามข้างรั้วมาแนม เป็นเครื่อง เคียง เป็นอาหารทำ ง่าย อร่อย ได้คุณค่า มะละกอดิบขูดเป็นเส้น 2 ถ้วย กระเทียม 3 กลีบ พริกขี้หนู 5 – 6 เม็ด มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 2 ลูก ปูดอง 2 ตัว ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อน 1 ฝัก น้ำ ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ ปลา 1 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ มะนาว ถ้วย น้ำ ตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน ส้ม ส้ ตำ 1. ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก ตำ ให้พอแตก ตามด้วยถั่วฝักยาวตำ ให้แหลก 2. ใส่มะเขือเทศ น้ำ มะนาว น้ำ ตาลปี๊บ น้ำ ปลา น้ำ ปลา ร้า แล้วตำ ให้เข้ากัน 3. ใส่มะละกอ แล้วตามด้วยปูดอง แล้วตำ เบาๆ คลุก เคล้าให้เข้ากัน 4. ชิมแล้วปรุงจนชอบ ตักใส่จาน รับประทานพร้อม ผักสด ยอดผักบุ้ง ถั่วฝักยาว กะหล่ำ ปลี
ขนมหมก วันนี้เสนอเมนูอาหารอีสานหวาน ของหวานของว่าง “ขนมหมก” ปรุงรสชาติผสมกันหอม หวาน มัน ลงตัวสุด ๆ ใครชอบทานของหวานกันบ้างคะ ต้องมาลองเมนูนี้กัน เลยค่ะ ทำ ได้เองง่าย ๆ อร่อย ทานเป็นอาหารมื้อเช้าแทน กับข้าวหรือเป็นของหวานทานเล่นก็เข้ากันนะจ๊ะ อร่อยอยู่ ท้องด้วย ใครไม่เคยทำ ต้องลองแล้วแหละอร่อยเด็ด
ส่วนผสม 1. แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม 2. น้ำ ตาลทราย 1/2 กิโลกรัม 3. น้ำ เปล่า 1 -2 ถ้วยตวง 4. มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 5. งา 2 ขีด 6. ใบตองสำ หรับห่อ วิธีทำ 1. นำ แป้งข้าวเหนียว นวดโดยเติมน้ำ ทีละน้อย นวดจนแป้งเนียน ปั้นเป็นก้อนได้ 2. แบ่งแป้งปั้นเป็นก้อนพอดีห่อใส่ไส้ตรงกลางแล้วปั้นเป็นก้อนกลม 3. นำ ก้อนแป้งไปห่อใส่ใบตองเป็นรูปสามเหลี่ยม 4. นำ ลังถึงเติมน้ำ ต้มไฟแรง 5. ใส่ห่อขนมลงนึ่งจนสุก
ประเพณีี ภาคอีีสาน งานประเพณีีบุุญหลวงและ การละเล่่นผีีตาโขน งานประเพณีีบุุญหลวงและการละเล่่น ผีีตาโขน เป็็นงานประเพณีีประจํําปีี ของ จัังหวััดเลย จััดขึึ้นเฉพาะทีี่อํําเภอ ด่่านซ้้าย เป็็นเวลา 3 วัันในช่่วงเดืือน 7 เป็็นงานทีี่รวมประเพณีีงานบุุญทีี วััดโพน ชััยเข้้ากัับการละเล่่นผีีตาโขน โดยชาว บ้้านจํํานวนมากจะใส่่หน้้ากากผีี ซึึ่งทํําจาก หวดนึึ่งข้้าวเหนีียวไม้้ไผ่่ทีี่นํํามาเขีียนลาย พร้อร้มแต่่งตััวด้้วยเสื้อผ้้าหลากสีทํําจากผ้้า สีต่่างๆ เย็็บติิดกััน และแขวนเครื่อง กระทบทํําให้้เกิิดเสียงเมืื่อขยัับตััว ขบวน ผีีตาโขนเหล่่านีี จะกระโดดและเต้้นไป รอบๆเมืือง เป็็นทีี่สนใจของนัักท่่องเทีี่ยว ทัั้งไทยและต่่างชาติิอย่่างมาก การละเล่่น ผีีตาโขนนีี้ แท้้จริงริแล้้วเป็็นการบููชาผีีเจ้้า นายและบรรพบุุรุุษทีี่คอยปกปัักษ์์รักรัษา คุุ้้มครองประชาชนในเมืือง นอกจากนีี้ยััง เป็็นการขอให้้ผีีปูู่ย่่าตายายดลบัันดาลให้้ พืืชผลมีีความอุุดมสมบููรณ์์อีีกด้้วย
เมนูต้ นู ม ต้ แซ่บ ซ่ หมู เมนูต้มแซ่บหมู ส่วนผสม ต้มแซ่บหมู เป็นอาหารประเภทต้มยำ อร่อย ด้วยหมูที่เคี่ยวจนนุ่ม กับน้ำ แกงรสจัดจ้าน หอม เครื่องเทศ เหมาะสำ หรับการซดร้อนๆ คล่องคอ สามารถเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นซี่โครง หรือขา หมู ซึ่งควรนำ มาเคี่ยว ให้เปื่อยก่อนนำ มาปรุง เป็น ต้มแซ่บ เนื้อหมูติดเอ็น 200 กรัม ตะไคร้ 2 ต้น ใบมะกรูด 5 ใบ ข่าอ่อน 5 แว่น ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 2 ต้น พริกขี้หนู 20 เม็ด ข้าวคั่วโขลก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำ ปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ ซุป 3 ถ้วย
Menu วิธีทำ เมนูอาหารอีสาน ต้มแซ่บ ซ่ หมู 1. ล้างเนื้อหมู หั่นชิ้นพอคำ 2. ล้างตะไคร้ ใบมะกรูด ข่าอ่อน แล้วทุบตะไคร้หั่นเป็น ท่อน ข่าหั่นเป็นแว่น 3. ใส่น้ำ ซุปลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ใส่ตะไคร้ ข่าอ่อน ฉีกใบมะกรูดใส่ เดือดอีกครั้งลดไฟอ่อน 4. ใส่เนื้อหมู เคี่ยวพอน้ำ เริ่มงวด ปรุงรสด้วยน้ำ ปลา น้ำ มะนาว ใส่พริกขี้หนู ข้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง เดือด อีกครั้งยกลง เสิร์ฟร้อนๆ
ข้าวยาคู ข้าวยาคู เป็นขนมพื้นบ้านทำ กินกันหลายพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกข้าว แต่เดิมทำ กินกัน ปีละครั้งในช่วงที่ต้นข้าวออกรวงหรือเรียกว่าระยะตั้งท้อง เต็มไปด้วยเมล็ดข้าวอ่อน หรือเรียกว่าข้าวระยะให้น้ำ นม โดยเกี่ยวข้าวมาตำ นวดทั้งรวง แล้วคั้นเอาน้ำ นมข้าวมา เคี่ยวในกระทะ ใส่น้ำ ตาล จนได้เนื้อข้นเหนียวสีเขียวอ่อนถึงเข้ม เวลาจะกินก็ตัก ราดด้วยกะทิโรยงาขาวหรือธัญพืชตามชอบ ตัวขนมนั้นให้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากข้าว รสนุ่มนวลไม่หวานมากตัดเค็มนิดหน่อยจากกะทิ เพื่อให้ขนมข้าวยาคูยังคงอยู่ ไม่สูญหายไปกับความหากินยาก ภายหลังจึงมีการปรับ เปลี่ยนให้ทำ กินได้ตลอดทั้งปีโดยใช้เมล็ดข้าวกับต้นอ่อนข้าวสับละเอียดมาคั้นเอาน้ำ และนำ มาเคี่ยวกับน้ำ ใบเตย แป้งข้าวเจ้า ได้สัมผัสไม่แตกต่างและยังคงความ หอมอ่อนๆ จากข้าวกับต้นข้าวเอาไว้
ส่วนผสม 1. แป้งข้าวเจ้า110 กรัมแป้ง 2. เท้ายายม่อม10 กรัม 3. น้ำ ตาลทราย185 กรัม 4. น้ำ ปูนใส300 มิลลิลิตร 5. น้ำ ใบเตยคั้นข้น225 มิลลิลิตร 6. น้ำ นมข้าว450 มิลลิลิตร 7. เนื้อมะพร้าวอ่อน1 ลูก 8. เผือกนึ่งสุก100 กรัม วิธีทำ ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม น้ำ ตาลทราย และน้ำ ปูนใสในกระทะทอง คนให้เข้ากัน ใส่น้ำ ใบเตยคั้นข้น และน้ำ นมข้าวตามลงไป 1. 2. นำ ขึ้นตั้งไฟกลาง กวนจนข้น สุก ใส เป็นเวลา 8-9 นาที 3. ตักขนมข้าวกระยาคูใส่ถ้วย รับประทานกับเนื้อมะพร้าวอ่อน และเผือกนึ่งสุก
ประเพณีี ภาคอีีสาน งานเทศกาลบัั้งไฟพญานาค งานเทศกาลบัั้งไฟพญานาคจะมีีขึึ้นใน ช่่วงวััน ออกพรรษาของทุุกปีี ในจัังหวััดทีี่ติิด แม่่น้ำ โขง โดยเฉพาะจัังหวััดหนองคาย โดย ในช่่วงกลางดึึกถึึงรุุ่งรุุ่เช้้าของวัันดัังกล่่าวจะมีีด วงไฟ หรือรื “บัั้งไฟ” โผล่่ขึึ้นมาจากกลาง แม่่น้ำ โขงในบริเริวณต่่างๆ เป็็นทีี่ตืื่นตาตืื่นใจ ของผูู้้ทีี่พบเห็็น ชาวบ้้านเชืื่อว่่าดวงไฟดัังกล่่าว เกิิดจาก พญานาคทีี่อาศััยอยูู่่ใต้้แม่่น้ำ โขงพ่่น ดวงไฟ เพืื่อถวายเป็็นพุุทธบููชา ส่่วนบางคนก็็ กล่่าวว่่า ดวงไฟเป็็นสิ่งทีี่ชาวบ้้านทํําขึึ้นเพืื่อ ดึึงดููดนัักท่่องเทีี่ยว บ้้างก็็ว่่าเกิิดจากปฏิิกิิริยริา เคมีีของดิินใต้้แม่่น้ำ แต่่ไม่่ว่่าจะเกิิดจากอะไร “บัั้งไฟ” ก็็ยัังเป็็นสิ่งมหััศจรรย์์ทีี่ควรจะได้้ไป เห็็นสักครั้ง นอกจากนีี้งานเทศกาลทีี่ จััดขึึ้น ใน แต่่ละบริเริวณทีี่มัักมีีดวงไฟขึึ้นจากน้ำ โขง ก็็ยััง เป็็นสิ่งทีี่พลาดไม่่ได้้ เพราะมัักจะมีี งานวััด การออกร้าร้นแสดงสินค้้าพืื้นเมืือง และ การแสดงพืื้นเมืืองให้้นัักท่่องเทีี่ยวได้้ตืื่นตา ตืื่นใจ ทัั้งวัันทัั้งคืืน
ทักทาย พูดคุย สวัสดีค่ะทุกคน ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกว่าอาหารและขนมของ ประเทศไทยมีมากมายหลายชนิด แต่วันนี้พวกเราขอนำ เสนออาหารและขนมประจำ ภาคอีสาน ให้ทุกคนได้รู้จัก ไม่ว่าจะเป็น อาหารขึ้นชื่อประจำ จังหวัด หรืออาหารประจำ ถิ่น พวกเราก็ได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้ศึกษา พร้อมทั้งบอกวัตถุดิบ ขั้นตอนและวิธีการทำ ให้ทุกคนได้ลองทำ อาหารและขนมที่พวกเราได้นำ เสนอมาให้ สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของพวกเรา และมีความสุขกับอาหารและขนมแสนอร่อยนะคะ การทำ อาหาร หรือ ขนมไม่ได้ยากอย่าง ที่คุณคิด ขอให้คุณอ่านวารสารของพวกเราแล้วทำ ไปพร้อมกัน คุณทำ ได้แน่นอน ช่องทางการติดต่อ reviewxn_ nisarat_29299 to_mang1004