ตารางที่ 1.6 แสดงหนว่ ยของความต้านทานไฟฟ้า
ชื่อ สญั ลกั ณ์ ค่าเปน็ โอห์ม ()
1 มลิ ลโิ อห์ม m
10-3 = 1 = 0.001
1,000
1 โอห์ม 100 = 1
1 กิโลโอห์ม
1 เมก โอห์ม k 103 = 1,000
1 ิก โอห์ม M
G 106 = 1,000,000
109 = 1,000,000,000
หนว่ ยที่ 1 สปั ดาห์ที่ 2 ลาดับที่ 51
4 แถบสี 5 แถบสี
ตวั ต้งั ตัวตงั้ ตัว % ตวั ต้งั ตวั ตั้ง ตวั ตั้ง ตัว % ความคลาด
ท1่ี ท2่ี คณู ความคลาด ท1่ี ท2่ี ท3ี่ คูณ เคลื่อน
เคลื่อน
ความคลาดเคล่อื น = 5 % ความคลาดเคล่อื น = 2 %
หรือมากกว่า หรอื น้อยกว่า
ทอง ± 5 %
เงนิ ± 10 % แดง ± 2 %
ไม่มสี ี ± 20 % นา้ ตาล ± 1 %
เขยี ว ± 0.5 %
น้าเงนิ ± 0.25 % 52
ม่วง ± 0.1 %
ตารางท่ี 1.7 แสดงคา่ ของ แถบสี ตัวต้ัง แล ตวั คณของคา่ แถบสขี องตัวต้านทาน
แถบสี ตวั ตง้ั ตวั คูณ จานวนเลขศนู ย์ หนว่ ยตัวคณู
1
ดา 0 1- 10
100
น้าตาล 1 10 1 1k
10 k
แดง 2 100 2
100 k
สม้ 3 1,000 3 1M
10 M
เหลือง 4 10,000 4
1/100
เขยี ว 5 100,000 5 1/10
นา้ เงิน 6 1,000,000 6
ม่วง 7 10,000,000 7
เทา 8 - -
ขาว 9 - -
เงิน - 10-2 หรอื 0.01 -
ทอง - 10-1 หรอื 0.1 -
หน่วยท่ี 1 สัปดาหท์ ่ี 2 ลาดับที่ 53
ตวั อยา่ งท่ี1.11 ากรป งแสดงวิ ีอ่านคา่ แถบสีของตวั ตา้ นทาน
ก)
แถบท่ี 1 เหลอื ง ตัวต้ัง
แถบที่ 2 ม่วง ตัวต้ัง
แถบที่ 3 ดา ตวั คณ
แถบที่ 4 ทอง
4 7 x1
= 47 ความคลาดเคล่อื น = ±5 %
หน่วยท่ี 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดบั ท่ี 54
ตวั อย่างท่ี1.11 ากรป งแสดงวิ ีอ่านคา่ แถบสีของตัวต้านทาน
ข)
แถบท่ี 1 แดง ตวั ต้งั
แถบที่ 2 แดง ตัวต้งั
แถบท่ี 3 น้าเงิน ตวั คณ
แถบที่ 4 เงิน
2 2 x 1,000,000 = 22,000,000
= 22 M ความคลาดเคล่อื น = ±10 %
หน่วยท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ที่ 55
ตวั อยา่ งท่ี1.11 ากรป งแสดงวิ ีอ่านคา่ แถบสีของตัวตา้ นทาน
ค)
แถบท่ี 1 นา้ ตาล ตวั ต้ัง
แถบที่ 2 เทา ตัวตง้ั
แถบที่ 3 ดา ตัวตั้ง
แถบที่ 4 ส้ม ตัวคณ
แถบที่ 5 แดง
1 8 0 x 1,000 = 180,000
= 180 k ความคลาดเคล่ือน = ±2 %
หน่วยที่ 1 สปั ดาห์ที่ 2 ลาดับที่ 56
ตวั อยา่ งท่ี1.11 ากรป งแสดงวิ อี ่านคา่ แถบสีของตัวตา้ นทาน
ง)
แถบที่ 1 ส้ม ตัวต้ัง
แถบที่ 2 เขยี ว ตวั ตง้ั
แถบท่ี 3 ดา ตัวตั้ง
แถบท่ี 4 เหลือง ตวั คณ
แถบท่ี 5 ม่วง
3 5 0 x 10,000 = 3,500,000
= 3.5 M ความคลาดเคลื่อน = ±0.1 %
หนว่ ยท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดับที่ 57
1.6.5.1 การอา่ นคา่ โดยตรง อา มีตวั อักษรตัว R, K แล
อ่านตัวเลข ตัวอักษรท่ีพิมพ์ติดไว้ได้เลย ซ่ึง มีค่า อย่ นกลมุ่ ตัวเลข ถ้ามีตัวอักษรน้ีอย่ค่า
ความตา้ นทานที่อ่านได้ มี ุดท นิยม
ความต้านทานไฟฟ้า ค่ากาลังไฟฟ้า แล ค่าความ เช่น
คลาดเคลื่อน นส่วนของค่าความคลาดเคล่ือน ้
ตัวอักษรภาษาองั กฤษ แตล่ ตัวมคี วามหมายดังนี้ 56KJ = 56 k ± 5 %
3K5J = 3.5 k ± 5 %,
F มคี า่ ความคลาดเคล่อื น ± 1 % 39M = 3.9 ± 20 %
G มีค่าความคลาดเคลอ่ื น ± 2 % เปน็ ตน้
J มคี า่ ความคลาดเคล่ือน ± 5 %
K มีค่าความคลาดเคลอ่ื น ± 10 % หนว่ ยท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดับที่ 58
L มคี า่ ความคลาดเคลื่อน ± 15 %
M มีคา่ ความคลาดเคลือ่ น ± 20 %
ตวั อย่างท่ี 1.12 ากรป งอา่ นคา่ ความตา้ นทานไฟฟ้า ากตวั ต้านทานตอ่ ไปนี้
คา่ ความต้านทานได้ 20
ก) อัตราทนกาลงั ไฟฟ้า 10 W
ความคลาดเคล่ือน ± 5 %
คา่ ความตา้ นทานได้ 0.22
ข) อัตราทนกาลงั ไฟฟ้า 5 W
ความคลาดเคลือ่ น ± 10 %
ค่าความตา้ นทานได้ 2.2
ค) อตั ราทนกาลังไฟฟา้ 3 W
ความคลาดเคลอ่ื น ± 15 %
คา่ ความตา้ นทานได้ 4.7 k
ง) อตั ราทนกาลังไฟฟ้า 4 W
ความคลาดเคล่ือน ± 1 %
จ) คา่ ความตา้ นทานได้ 120
ความคลาดเคล่อื น ±5%
หน่วยที่ 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ที่ 59
1.6.5.2 การอ่านค่าจากรหสั ตวั เลข ตวั อกั ษร
พบมากทสี่ ดุ มี 2 แบบ คอื แบบตวั เลข 3 หลัก แล แบบตวั เลข 4 หลัก หลกั การอา่ น
ค่าเบ้อื งต้น
1. ตวั เลขหลักสดุ ท้าย จะบอกจานวนเลขศูนยท์ ี่ตอ่ ทา้ ย หรือ ตัวคณู 10 ยกกาลัง
2. ตวั เลขขา้ งหนา้ ท่เี หลอื 2 หรือ 3 ตวั เป็นตวั ตง้ั มีข้อยกเวน้ อย่ว่า แต่จะใช้ตัวอักษร
R เข้ามาปนด้วยและจะเปล่ียนวิธกี ารอา่ นใหมโ่ ดยอา่ นเรียงตวั เลขท้ังหมดตรงตัว R ให้แทนดว้ ย
จดุ หรอื อ่านวา่ จุด แทน นนั่ คือ ตวั เลขก่อนตัวอักษร R เปน็ เลขหน้าจดุ ทศนยิ ม ตัวเลขหลงั
ตัวอักษร R เปน็ ตัวเลขหลังจุดทศนยิ ม
หน่วยท่ี 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดับที่ 60
1.6.5.2 การอ่านค่าจากรหสั ตวั เลข ตวั อกั ษร
กกาารรออา่ ่านนแแบบบบเเลลขข33หหลลกั ัก การอา่ นแบบเลข 4 หลกั
123 J 4702 SMD Resistor
ตวั ต้งั ท่ี 1 ความคลาดเคล่ือน ตัวต้งั ที่ 1 ตัวคณ
ตวั ต้งั ที่ 2 ตัวตั้งท่ี 2 ( านวนของ นย์)
ตวั คณ ตัวตง้ั ที่ 3
( านวนของ นย์) หน่วยท่ี 1 สปั ดาห์ท่ี 2 ลาดับท่ี 61
รปที่ 1.31 การอ่านคา่ ความตา้ นทาน ากรหัสตวั เลข ตัวอกั ษร
ตวั อย่างท่ี 1.13 ากรป งอ่านค่าความตา้ นทานไฟฟ้า ากตวั ตา้ นทานตอ่ ไปนี้
68 เป็นตวั ต้งั , 0 บอกวา่ มีศูนย์ตอ่ ท้าย ศูนยต์ ัว ดังคือ
ก) 680 โอหม์ หรือ 68 x 100 = 68 โอห์ม
ความคลาดเคลื่อน ± 1 %
Trimpot Potentiometer 10 เปน็ ตวั ตงั้ , 3 บอกวา่ มศี นู ยต์ อ่ ท้าย 3 ตัว
SMD Resistor ข) คือ 10 000 โอหม์ หรอื 10 x 103 = 10,000 โอห์ม
ดังนัน้ คา่ คือ 10 กิโลโอหม์ (1 k)
10 เป็นตัวตั้ง, 2 บอกวา่ มีศูนย์ตอ่ ท้าย 2 ตัว
ค) คือ 10 00 โอหม์ หรือ 10 x 102 = 1,000 โอหม์
ดังนัน้ ค่าคอื 1 กิโลโอหม์ (1 k)
ง) R คือ จดุ กอ็ า่ นเรียงไปเปน็ 3 จุด 3
ดงั นน้ั ค่าคือ 3.3 โอหม์
R คอื จดุ กอ็ ่านเรียงไปเป็น จดุ 47
จ) ดังนั้นค่าคอื 0.47 โอหม์
ความคลาดเคลื่อน ± 1 % หนว่ ยที่ 1 สัปดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ที่ 62
ตวั อย่างท่ี 1.14 ากรป งอา่ นคา่ ความต้านทานไฟฟา้ ากตัวตา้ นทานตอ่ ไปนี้
4702 470 เป็นตัวต้งั , 2 บอกว่ามีศูนยต์ อ่ ท้าย 2 ตัว
SMD Resistor ก) คือ 47000 หรือ 470 x 102 = 47,000 โอหม์
0R10 ดังนน้ั คา่ คอื 47 กิโลโอหม์ (47 k)
SMD Resistor
R คือ จุด กอ็ ่านเรยี งไปเป็น 0 จดุ 10
ข) ดังนั้นคา่ คือ 0.1 โอห์ม
หนว่ ยที่ 1 สัปดาหท์ ี่ 2 ลาดับท่ี 63
แบตเตอรี่ สายไฟฟา้
(แหล่ง ่ายไฟฟา้ ) (ตวั นา)
วงจรไฟฟา้ ประกอบไปด้วย 3 สว่ นสาคัญ กร แสไฟฟ้า
❑ แหลง่ ่ายไฟฟา้
❑ ตวั นาไฟฟา้ หลอดไฟฟา้
❑ ภาร ทางไฟฟา้ หรือทเี่ รยี กกันวา่ “โหลด” (โหลด)
โหลด หมายถงึ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ใดๆ ทเี่ ปลยี่ นพลังงานไฟฟา้ ก) ตัวอยา่ งวงจรไฟฟ้า
เป็นพลังงานรูปแบบอื่น เ น่
• เตารดี เปล่ยี นพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานความร้อน I
• หลอดไฟฟ้าเปล่ียนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงสว่าง E+
เปน็ ตน้ วง รไฟฟ้า แสดงดังรปที่ 1.32 -
ข) วงจรไฟฟ้าแสดงโดยใช้สญั ลักณ์
รปู ที่ 1.32 วงจรไฟฟา้
หนว่ ยท่ี 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดบั ที่ 64
On Switch
แบตเตอรี่
(แหล่ง า่ ยไฟฟ้า)
กร แสไฟฟา้
ถา้ เปิ ดสวิตช์ (On Switch) หลอดไฟฟ้า
(โหลด)
กระแสไฟฟ้ าไหลในวงจรไดท้ าใหโ้ หลดทางานได้
ลกั ษณะนเ้ี รียกว่า “วงจรปิ ด” สวิต อ์ ย น
ตาแหน่งปดิ
(Closed Circuit)
E+
-
ก) วงจรเปดิ ไมม่ ีกระแสไฟฟา้ ไหลในวงจร
หนว่ ยท่ี 1 สปั ดาหท์ ี่ 2 ลาดบั ที่ 65
แบตเตอร่ี Off Switch
(แหล่ง า่ ยไฟฟ้า)
ถา้ ปิ ดสวิตช์ (Off Switch) กระแสไฟฟ้ าไม่ หลอดไฟฟา้
(โหลด)
สามารถไหลในวงจรไดท้ าใหโ้ หลดไมท่ างานได้
ลกั ษณะนเี้ รียกว่า “วงจรเปิ ด” สวติ ์อย น
ตาแหนง่ เปดิ
(Open Circuit)
E+
-
ก) วงจรปิด มกี ระแสไฟฟา้ ไหลในวงจร
หน่วยท่ี 1 สปั ดาหท์ ี่ 2 ลาดบั ที่ 66
มัลตมิ เิ ตอร์ (Multimeter) สามารถวัดค่า แรงดนั ไฟฟา้ ก) มลั ติมิเตอร์แบบแอนะลอก
กระแสไฟฟ้าและความตา้ นทานไฟฟา้ ได้
ข) มัลตมิ ิเตอร์แบบดจิ ิตอล
มัลตมิ ิเตอร์ท่ีใชอ้ ยู่ทั่วไปมี 2 แบบ รูปที่ 1.34 มัลตมิ ิเตอร์
➢ มลั ตมิ เิ ตอรแ์ บบแอนะลอก (Analog Multimeter)
เปน็ เคร่อื งวัดไฟฟา้ ท่แี สดง ลของการวัด ่านเขม ี้บน หนว่ ยที่ 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ที่ 67
สเกลหน้าปัดของเครอ่ื งวัดไฟฟ้า
➢ มัลติมเิ ตอรแ์ บบดจิ ิตอล (Digital Multimeter)
เปน็ เคร่อื งวดั ไฟฟา้ ที่แสดง ลของการวัดเปน็ ตัวเลข
แสดงตวั อยา่ งดงั รปที่ 1.34
……A
1.8.1 การวัดกระแสไฟฟ้า
เครือ่ งมือที่ ้สาหรับวัดกร แสไฟฟ้าเรียกว่า
แอมมเิ ตอร์ (Ampere meter)
+ A -
I
E+
-
รูปท่ี 1.35 การวัดกระแสไฟฟา้
หน่วยที่ 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดบั ท่ี 68
……V
1.8.2 การวัดแรงดันไฟฟ้า
เครื่องมอื ที่ ้สาหรบั วัดแรงดนั ไฟฟ้า
เรียกวา่ โวลต์มิเตอร์ (Voltmeter)
I +
E+
V
-
-
รปู ท่ี 1.36 การวัดแรงดนั ไฟฟ้า
หนว่ ยท่ี 1 สัปดาหท์ ี่ 2 ลาดับท่ี 69
1.8.3 การวัดความต้านทานดนั ไฟฟา้ ……
เครือ่ งมอื ท่ี ้สาหรบั วดั ความตา้ นทาน E+
ไฟฟา้ เรยี กวา่ โอหม์ มิเตอร์ (Ohmmeter) -
รปู ที่ 1.37 การวดั ความต้านทานไฟฟ้า
หนว่ ยท่ี 1 สัปดาห์ท่ี 2 ลาดบั ที่ 70
วชิ า วงจรไฟฟา้ กระแสตรง รหัส 2104-2002 71
หน่วยท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ท่ี
1. สว่ นประกอบมลั ติมิเตอรแ์ บบดิจิตอล 1
1. จอแสดงผล (display)
2. สวิตซเ์ ปิด-ปดิ (ON-OFF) 2
3. สวิตช์เลือกปรมิ าณที่จะวัดและช่วงการวัด 8
9
(range selector switch)
7 6 54
4. ชอ่ งเสยี บสายวัดรว่ ม (COM 3 หนว่ ยท่ี 1 สัปดาหท์ ่ี 1 ลาดับที่ 72
5. ช่องเสยี บสายวัด V
สาหรบั วดั DCV และ ACV เสยี บสายวัดวัดความตา้ นทาน ( )
เสียบสายวดั สาหรบั ตรวจสอบไดโอด ( )
และตรวจสอบความตอ่ เนอ่ื ง ( )
6. ชอ่ งเสียบสายวัด mA สาหรบั วัด DCA และ ACA ท่มี ีขนาด
0-200 mA และเสียบสายวดั อุณหภมู ิ (ºC และ ºF)
7. ช่องเสียบสายวดั 10A สาหรบั วัด DCA และ ACA ท่มี ีขนาด
200 mA-10A ผลติ ภณั ฑ์ของ GW Instek GDM-357
8. ปุม่ HOLD ไวก้ ดล็อกคา่ การวัด ใหแ้ สดงผลค้างที่จอแสดงผล
9. เข็มวัด (Test lead) ไวเ้ สียบชอ่ งเสยี บเพ่ือวดั ค่าตา่ งๆ
39
7 6 54
หน่วยท่ี 1 สปั ดาห์ที่ 1 ลาดับท่ี 73
ผลิตภัณฑ์ของ GW Instek GDM-357
1 234
สวิตชเ์ ลือกปริมาณที่จะวดั และช่วงการวดั 5
(range selector switch)
9 6
1. Fcx วัดความจุไฟฟา้ มี 5 ช่วงการวัด 8 7 หน่วยที่ 1 สปั ดาห์ท่ี 1 ลาดบั ที่ 74
2. ºC วดั อุณหภมู ิ เป็นองศา เซลเซียส
3. ºF วดั อุณหภมู ิ เป็นองศา ฟาเรนไฮต์
4. ตรวจสอบไดโอด และความต่อเนอ่ื ง
(กาเนดิ สญั ญาณเสียง)
5. วัดความต้านทาน มี 6 ช่วงการวัด
6. DCV วัดความตา่ งศักย์ไฟฟ้ากระแสตรง มี 5
ช่วงการวัด
7. ACV วดั ความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ มี 4
ชว่ งการวดั
8. ACA วัดปริมาณกระแสสลับ มี 3 ชว่ งการวัด
9. DCA วดั ปริมาณกระแสตรง มี 4 ชว่ งการวดั
2. การใชง้ านดิจิตอลมลั ตมิ ิเตอร์
การวดั แรงดัน AC (AC Current)
1. หมุนสวิตชเ์ ลอื กปริมาณทจี่ ะวัดไปทีส่ ัญลกั ษณ์ V~
2. ต่อเขม็ วัด (Test lead) สดี า (ข้วั ลบ) ต่อกับ ่อง “COM” สี
แดง (ข้ัวบวก) ต่อที่ อ่ งเสียบท่ีมสี ญั ลกั ษณ์เขยี นวา่ (V )
3. ต่อเขม็ วัดเขา้ กับจุดท่ีต้องการวัดคา่
รปที่ 1.8 การ ้งานดิ ติ อลมลั ติมเิ ตอร์ การวดั แรงดันไฟฟ้า AC
หนว่ ยที่ 1 สปั ดาหท์ ี่ 1 ลาดับท่ี 75
3. การใช้งานดิจิตอลมัลตมิ ิเตอร์ - - +
การวดั แรงดนั DC (DC Current) +
1. หมนุ สวติ ช์เลือกปรมิ าณทจี่ ะวดั ไปทสี่ ญั ลกั ษณ์ :::V
(หมายเลข “1
2. ตอ่ เข็มวดั (Test lead) : สีดา (ข้ัวลบ) ต่อกับ ่อง
“COM” แล สีแดง (ขว้ั บวก) (V ) (หมายเลข “2”)
3. ต่อเขม็ วัดกับจดุ ท่ตี อ้ งการวดั โดยใหเ้ ข็มวดั สีดาตอ่ ในดา้ น
ทเ่ี ปน็ ลบ และ สแี ดงต่อในด้านท่เี ป็นบวก
รปที่ 1.9 การ ง้ านดิ ติ อลมลั ติมิเตอร์ การวดั แรงดนั ไฟฟ้า DC
หน่วยที่ 1 สปั ดาห์ท่ี 1 ลาดับที่ 76
4 การใช้งานดจิ ติ อลมัลตมิ ิเตอร์ รปท่ี 1.10 การ ง้ านดิ ติ อลมัลติมเิ ตอร์ การวดั เ คความต่อเนื่อง
ฟังก์ชัน่ เชค็ ความตอ่ เนอ่ื ง (Checking Continuity)
หนว่ ยที่ 1 สปั ดาหท์ ่ี 1 ลาดับที่ 77
1. หมนุ สวติ ชเ์ ลือกปรมิ าณทจ่ี ะวดั ไปที่สญั ลักษณ์ ตาม
หมายเลข “1”
2. ตอ่ เข็มวดั (Test lead) : สดี า (ขัว้ ลบ) ตอ่ กบั อ่ งท่ี “COM”
แล สแี ดง (ข้ัวบวก) ต่อท่ี ่องท่ี (V ) (หมายเลข “2”
3. ตอ่ เขม็ วัดกบั จุดทต่ี ้องการวัด โดยตอ่ ร หว่างตน้ สายแล
ปลายสาย (ไม่ าเป็นต้องดเรือ่ งขั้ว)
ถ้ามีการเชอ่ื มต่อจรงิ มีการแสดงบนหน้า อ พร้อมมเี สียง
แ ง้
5. การใช้งานดิจติ อลมลั ตมิ ิเตอร์
ฟงั ก์ชั่นการวัดความต้านทาน (Resistance)
1. หมุนสวติ ชเ์ ลือกปริมาณท่จี ะวัดไปท่สี ญั ลักษณ์ (ตาม
หมายเลข “1”)
2. ต่อเขม็ วัด (Test lead) : สีดา (ข้วั ลบ) ต่อกับ อ่ งท่มี สี ัญลักษณ์
เขยี นวา่ “COM” แล สแี ดง (ข้วั บวก) (V ) (หมายเลข “2”)
3. นาเข็มวัดไปเชือ่ มต่อกบั ตัวตา้ นทาน (หมายเลข“3”
ไม่ าเป็นตอ้ งดเร่อื งขวั้ )
ข้อควรระวัง : ก่อน ลงมือตรว สอบความต้านทาน ต้อง รปที่ 1.11 การ ง้ านดิ ติ อลมลั ตมิ ิเตอร์ การวดั ความตา้ นทาน
ปิดแหลง่ ่ายไฟ หรอื ตัดแหล่ง ่ายไฟทไ่ี ปยงั ุดท่ี เ คทุกคร้งั
หนว่ ยที่ 1 สัปดาหท์ ี่ 1 ลาดับท่ี 78
6. การใช้งานดจิ ติ อลมลั ตมิ ิเตอร์ I
การวดั กระแส DC (0-200 mA DC current)
รปที่ 1.12 การ ้งานดิ ติ อลมลั ตมิ เิ ตอร์ วัดกร แส DC (0-200 mA)
1. หมุนสวิตชเ์ ลือกปรมิ าณท่ีจะวัดไปทส่ี ัญลักษณ์ A:::
(ตามหมายเลข “1”) หนว่ ยที่ 1 สัปดาห์ท่ี 1 ลาดับที่ 79
2. 2. ตอ่ เข็มวัด (Test lead) : สีดา (ขว้ั ลบ) ตอ่ กบั อ่ ง
“COM” แล สแี ดง (ข้ัวบวก) “mA ºC ºF” (หมายเลข
“2”)
3. เชอื่ มตอ่ เข็มวัดเข้ากบั วงจร โดย หส้ แี ดงตอ่ กับ ดุ ทก่ี ร แส
ไหลเขา้ ห้ แล เขมวัดสดี าตอ่ กบั ดุ ทก่ี ร แสไหลออก (หมายเลข
“3”)
7. การใช้งานดิจิตอลมลั ตมิ เิ ตอร์
การวดั กระแส DC (200 mA – 10 A DC current)
1. หมุนสวิตช์เลือกปรมิ าณท่ีจะวดั ไปท่ีสญั ลักษณ์ A::: (ตาม
หมายเลข “1
2. ตอ่ เขม็ วดั (Test lead) : สดี า (ข้วั ลบ) ตอ่ กับ ่องทม่ี ี
สญั ลักษณ์เขยี นว่า “COM” แล สแี ดง (ขั้วบวก) ต่อท่ี “10 A
MAX” (หมายเลข “2”)
3. เชื่อมตอ่ เข็มวดั เข้ากับวงจร โดย หส้ ีแดงต่อกบั ดุ ทก่ี ร แส
ไหลเขา้ ห้ แล เขมวดั สดี าต่อกับ ุดท่ีกร แสไหลออก (หมายเลข
“3”)
รปที่ 1.13 การ ้งานดิ ิตอลมลั ตมิ เิ ตอร์ วัดกร แส DC (200 mA – 10 A)
หน่วยที่ 1 สัปดาหท์ ี่ 1 ลาดบั ที่ 80
1.การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนกุ รม E1 E2
คือ การนาเซลลไ์ ฟฟ้ ามาตอ่ เรียงกนั
1.1 การต่อเซลล์ไฟฟา้ ทแี่ รงดนั มที ิศทางเดียวกนั
ET = E1 + E2 รปที่ 1.1 แสดงการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รมท่ีแรงดันมที ิ ทางเดียวกัน
=IT กร แของเซลลไ์ ฟฟ้าที่มคี ่าน้อยท่สี ุด หน่วยที่ 1 สปั ดาหท์ ี่ 2 ลาดบั ท่ี 81
ตวั อยา่ งที่ 1 เซลล์ไฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 1 A านวน 4 เซลล์ตอ่ อนกุ รมกัน โดยทิ ทางของแรงดนั ไฟฟา้ ไป น
ทิ ทางเดียวกัน งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟา้ รวม
ข. กร แสไฟฟ้ารวม E1 E2 E3 E4
วิ ที า
ก. แรงดนั ไฟฟา้ รวม
าก ET = E1 + E2 + E3 + E4
เมอ่ื E1 = E2 = E3 = E4 = 1.5 V
แทนคา่ ET = 1.5 V + 1.5 V + 1.5 V + 1.5 V
= 6V
แรงดนั ไฟฟ้ารวม = 6 โวลต์ ตอบ
หน่วยท่ี 1 สปั ดาห์ที่ 2 ลาดับที่ 82
ตัวอย่างท่ี 1 เซลล์ไฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 1 A านวน 4 เซลลต์ อ่ อนุกรมกัน โดยทิ ทางของแรงดันไฟฟา้ ไป น
ทิ ทางเดยี วกนั งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟ้ารวม
ข. กร แสไฟฟ้ารวม
วิ ีทา
ข. กร แสไฟฟ้ารวม
าก IT =
เม่ือ I แต่ล เซลลไ์ ฟฟา้ = 1A
แทนค่า IT = 1A
แรงดนั ไฟฟา้ รวม = 1 แอมแปร์ ตอบ
หนว่ ยที่ 1 สัปดาห์ท่ี 2 ลาดบั ท่ี 83
E1 E2
1.การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนกุ รม
คอื การนาเซลลไ์ ฟฟ้ ามาตอ่ เรียงกนั
1.2 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าทแี่ รงดนั มที ศิ ทางตรงข้ามกนั
ET = E1 − E2 (กรณที ี่ E1 E2 ) รปที่ 1.2 แสดงการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รมทแี่ รงดันมที ิ ทางตรงข้ามกนั
ET = E2 − E1 (กรณที ี่ E2 E1)
หนว่ ยท่ี 1 สัปดาห์ท่ี 2 ลาดบั ที่ 84
ตวั อยา่ งที่ 2 เซลล์ไฟฟ้าขนาด 1.5 V, 1 A านวน 4 เซลล์ ต่ออนุกรมกัน โดยสามเซลล์แรกมีทิ ทางของ
แรงดนั ไฟฟา้ ไป นทิ ทางเดยี วกนั เซลล์ที่สมี่ ที ิ ทางตรงขา้ มกนั กบั สองเซลล์แรก งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟ้ารวม
ข. กร แสไฟฟา้ รวม E1 E2 E3 E4
วิ ีทา
ก. แรงดนั ไฟฟ้ารวม
าก ET = E1 + E2 + E3 − E4
เมอื่ E1 = E2 = E3 = E4 = 1.5 V
แทนคา่ ET = 1.5 V + 1.5 V + 1.5 V − 1.5 V
= 3V
แรงดันไฟฟา้ รวม = 3 โวลต์ ตอบหนว่ ยที่ 1 สัปดาหท์ ี่ 2 ลาดบั ท่ี 85
ตวั อย่างท่ี 2 เซลลไ์ ฟฟ้าขนาด 1.5 V, 1 A านวน 4 เซลล์ ตอ่ อนุกรมกนั โดยสามเซลล์แรกมีทิ ทางของ
แรงดันไฟฟ้าไป นทิ ทางเดียวกนั เซลลท์ ่สี ี่มีทิ ทางตรงข้ามกนั กับสองเซลลแ์ รก งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟ้ารวม
ข. กร แสไฟฟา้ รวม
วิ ีทา
ขก. กแรงดแสันไฟฟา้ รรววมม
ากาก ET = IET1 +=E2 + E3 − E4
เมเอื่ มื่อ I แต่ล เEซ1ลล=ไ์ ฟEฟ2า้ ==E31=A E4 = 1.5 V
แทแนทคนา่ ค่า ET = I1T.5 V=+11A.5 V + 1.5 V − 1.5 V
= 3 V กร แสไฟฟา้ รวม = 1 แอมแปร์ ตอบ
แรงดนั ไฟฟา้ รวม = 3 โวลต์ หน่วยท่ี 1 สัปดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ท่ี 86
2. การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน I1 E1
I2 E2
แรงดันไฟฟ้ารวมเทา่ เดิม แต่กระแสไฟฟ้า
ในวงจรจะมากขน้ึ รปท่ี 1.3 แสดงการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบขนาน
หาแรงดนั ไฟฟ้ารวม ได้ าก หนว่ ยที่ 1 สปั ดาหท์ ่ี 2 ลาดบั ท่ี 87
ET = E1 = E2
หากร แสไฟฟ้ารวม ได้ าก
IT = I1 + I2
ตวั อยา่ งท่ี 3 เซลล์ไฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 0.5 A านวน 4 เซลล์ ต่อขนานกัน งคานวณหา
ก. แรงดันไฟฟ้ารวม
ข. กร แสไฟฟา้ รวม E1
E2
วิ ีทา E3
ก. แรงดันไฟฟ้ารวม E4
าก ET = E1 = E2 = E3 = E4 ตอบ
เม่ือ E1 = E2 = E3 = E4 = 1.5 V
แทนคา่ ET = 1.5 V
แรงดนั ไฟฟ้ารวม = 1.5 โวลต์
หนว่ ยท่ี 1 สัปดาหท์ ี่ 2 ลาดบั ท่ี 88
ตัวอย่างที่ 3 เซลล์ไฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 0.5 A านวน 4 เซลล์ ต่อขนานกนั งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟา้ รวม
ข. กร แสไฟฟ้ารวม
วิ ที า
ขก.. กแรรงแดสนั ไไฟฟฟฟา้ ้ารรววมม
เมแทาอ่ื กนIคแา่แเมาตทกื่อล่ นคเซา่ ลลไ์ ฟฟIIEETTา้ TTE1======= E00I1..12E55+.15=AA=VI2+EE+302.=5I3=AE+E4+3I=40=.51.EA54V+ 0.5 A
2A
กร แสไฟแฟรา้ งรดวนัมไฟ=ฟ้า1รแวอมม=แป1ร์.5 โวลต์
ตอบ
หน่วยท่ี 1 สปั ดาห์ที่ 2 ลาดบั ท่ี 89
3.การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบผสม I1 E1 E2
3.1 การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม-ขนาน I2 E3 E4
หาแรงดนั ไฟฟา้ รวม รปท่ี 1.4 แสดงการต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม-ขนาน
ET = E1 + E2 หน่วยท่ี 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดับท่ี 90
หรือ ET = E3 + E4
กร แสไฟฟา้ รวมท่สี ามารถ ่ายออกมาได้
I1 = IE1 = IE2
I2 = IE3 = IE4
IT = I1 + I2
ตวั อย่างที่ 4 เซลล์ไฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 500 mA านวน 4 เซลล์ ห้ เซลล์ไฟฟา้ แต่ล เซลล์ต้องมคี ่า
แรงดันไฟฟา้ แล ความต้านทานภาย นเซลลไ์ ฟฟ้าแตล่ เซลลเ์ ทา่ กัน ต่อแบบอนุกรม-ขนาน งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟา้ รวม E1 E2
ข. กร แสไฟฟา้ รวม E4
วิ ที า หรือ E3
ก. หาแรงดันไฟฟา้ รวม าก ET = E3 + E4
าก ET = E1 + E2
เมอื่ E1 = E2 = 1.5V เมอ่ื E3 = E4 = 1.5V
แทนคา่ แทนคา่
ET = 1.5V + 1.5V ET = 1.5V + 1.5V
= 3V = 3V
แรงดันไฟฟา้ รวม = 3 โวลต์ ตอบ
หนว่ ยที่ 1 สปั ดาห์ท่ี 2 ลาดบั ท่ี 91
ตวั อยา่ งที่ 4 เซลล์ไฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 500 mA านวน 4 เซลล์ ห้ เซลล์ไฟฟา้ แต่ล เซลล์ตอ้ งมีค่า
แรงดนั ไฟฟ้าแล ความตา้ นทานภาย นเซลล์ไฟฟา้ แต่ล เซลลเ์ ทา่ กนั ตอ่ แบบอนุกรม-ขนาน งคานวณหา
ก. แรงดันไฟฟา้ รวม
ข. กร แสไฟฟ้ารวม
วิ ที า
กข.. หการแรแงสดไันฟไฟ้าฟรา้วรมวม
าก าก EETTEIIIT211 ======1EE.25I1IIE1VE=3+1++1E.==I5122.V5
เมอื่ เม่ือ IE2 = 500 mA
IVE4 = 500 mA
แทนคา่
== 35V00 mA + 500 mA
แทนคา่
= 1,000 mA หรอื 1A
กร แสไฟฟา้ รวม = 1 แอมแปร์ ตอบ
หนว่ ยที่ 1 สปั ดาห์ท่ี 2 ลาดบั ที่ 92
3.การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบผสม I1 E1 I3 E3
I2 E2 I4 E4
3.2 การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบขนาน-อนุกรม
รปที่ 1.5 แสดงการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบขนาน-อนุกรม
หาแรงดนั ไฟฟา้ รวม
หนว่ ยที่ 1 สปั ดาหท์ ี่ 2 ลาดบั ที่ 93
ET1 = E1 = E2
ET2 = E3 = E4
ET = ET1 + ET2
กร แสไฟฟา้ รวมท่สี ามารถ า่ ยออกมาได้
IT1 = I1 + I2
IT2 = I3 + I4
IT = IT1 = IT2
ตวั อยา่ งท่ี 5 เซลล์ไฟฟ้าขนาด 1.5 V, 500 mA านวน 4 เซลล์ ห้ เซลล์ไฟฟา้ แตล่ เซลลต์ อ้ งมคี ่า
แรงดันไฟฟ้าแล ความตา้ นทานภาย นเซลลไ์ ฟฟ้าแต่ล เซลล์เท่ากนั ต่อแบบขนาน-อนกุ รม งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟ้ารวม
ข. กร แสไฟฟ้ารวม E1 E3
วิ ีทา
ก. หาแรงดนั ไฟฟา้ รวม E2 E4
าก ET = ET1 + ET2
เม่ือ ET1 = E1 = E2 = 1.5 V
ET2 = E3 = E4 = 1.5 V
แทนคา่ ET = 1.5V + 1.5V
= 3V
แรงดันไฟฟ้ารวม = 3 โวลต์ ตอบ
หนว่ ยที่ 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดับท่ี 94
ตัวอย่างที่ 5 เซลลไ์ ฟฟา้ ขนาด 1.5 V, 500 mA านวน 4 เซลล์ ห้ เซลลไ์ ฟฟา้ แต่ล เซลล์ต้องมีคา่
แรงดนั ไฟฟ้าแล ความตา้ นทานภาย นเซลล์ไฟฟ้าแตล่ เซลลเ์ ท่ากนั ต่อแบบขนาน-อนุกรม งคานวณหา
ก. แรงดนั ไฟฟ้ารวม
ข. กร แสไฟฟา้ รวม
วิ ที า
ข. กร แแเมทสาอ่ืไกนกฟค.ฟา่ า้หราวแมรเแงมดาทIIื่อนักTTน11Iไ1คฟ====า่ฟา้ Iร215Iว1,0=ม0E+E0EE0TT5TT0m21I02mA0=====A+mA5ห13EEE0.ร1T35V01ือV==m++1AEEEA241T2.=5=V11..55แVVล าก IT2 = I3 + I4
เม่ือ I2 = I4 = 500 mA
แทนคา่
IT2 = 500 mA + 500 mA
= 1,000 mA หรือ 1 A
ดงั นัน้ แรงดนั ไฟฟ้ารวม I=T 3 =โวลตIT์ 1 = IT2 = 1A
กร แสไฟฟา้ รวม = 1 แอมแปร์ ตอบ หนว่ ยท่ี 1 สัปดาห์ที่ 2 ลาดบั ท่ี 95