The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ป3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kruningbsp12, 2022-04-12 10:32:05

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ป3

แผนการสอนวิทยาการคำนวณ ป3

Keywords: วิทยาการคำนวณ ป2

49

สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

โปรแกรมการเขยี นโปรแกรมแบบวนซา้ Bee:Loops oho.ipst.ac.th/im/3702
ใบงานเกบ็ ขนมแบบวนซา้
ใบงานเก็บขนมอะไรไดบ้ ้าง

แบบประเมนิ การเรียนรู้

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ
- ใบงานเกบ็ ขนมแบบวนซ้า
- ใบงานเกบ็ ขนมอะไรไดบ้ ้าง

ตัวชี้วัด ระดบั คะแนน

- ใบงานเกบ็ ขนมแบบวนซ้า 3 21
- ใบงานเกบ็ ขนมอะไรไดบ้ ้าง
จัดทาอย่างเปน็ ระบบ ชดั เจน จัดทาอย่างเป็นระบบ ชดั เจน จัดทาอย่างเปน็ ระบบ

ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ และมกี าร ถูกต้อง ครอบคลุม ชัดเจน ถูกต้อง แต่ยงั ไม่

เชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นเป็นภาพรวม สอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์ ครอบคลุม

สอดคล้องกับวัตถุประสงค์

50

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย

..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหนง่ ................................................
วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บันทึกหลงั สอน

ผลการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้

 การสงั เกต  การวดั  การใช้จานวน  การจาแนกประเภท

การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา

 การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล  การพยากรณ์

 การลงความเห็นจากขอ้ มูล  การต้งั สมมติฐาน  การกาหนดนิยามเชิงปฏิบัตกิ าร

 การกาหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ

 การสรา้ งแบบจาลอง

นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย  ในช่องว่างทีต่ รงกับทกั ษะทเี่ กิด

 การสร้างสรรค์  การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ  การแก้ปัญหา

 การสือ่ สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร

ปัญหาและอุปสรรค
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหน่ง ................................................

วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

51

บทท่ี 8 ตลาดโบราณ กับแก๊งจักรยานโบวแ์ ดง วิชาวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว13101

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 คน้ หาความรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

เวลา 2 ชว่ั โมง ผู้สอน ...............................................................................

มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ จรงิ อย่างเป็นข้ันตอนและเปน็
ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม
ตัวช้ีวดั
ว 4.2ป.3/3 ใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้

จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ่ตู วั ชี้วัด

1. สามารถใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ได้ (P)
2. มคี วามรเู้ กีย่ วกบั การใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้(K)
3. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ชา่ งคิด ช่างสงสยั และเป็นผู้ทมี่ ีความกระตือรอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)

สาระสาคัญ

โปรแกรมคน้ หา หรือเสริ ์ชเอนจนิ (search engine) เช่น กเู กิล ดกั๊ ด๊กั โก บิง ใชใ้ นการหาขอ้ มูลบน
อนิ เทอรเ์ น็ต

เมอ่ื ต้องการคน้ หาข้อมลู ใหพ้ มิ พ์คาคน้ ลงในชอ่ งค้นหา
สว่ นประกอบของผลการคน้ หา เชน่ เว็บไซตท์ ี่มีขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ผลการค้นหาเพม่ิ เตมิ คาค้นอ่ืนท่ี
เกย่ี วข้อง โฆษณา โดยโปรแกรมคน้ หาแต่ละโปรแกรมอาจจดั รูปแบบของการแสดงผลแตกตา่ งกัน
โปรแกรมคน้ หาจะจดจาประวัตกิ ารค้นหาของผใู้ ช้ เพ่ือให้การคน้ หาคร้งั ตอ่ ไปตรงตามความตอ้ งการ
ของผใู้ ช้มากข้ึน ซง่ึ หากเราใช้คอมพิวเตอร์รว่ มกับผู้อื่นอาจทาให้ผูอ้ ืน่ สามารถทราบขอ้ มูลการคน้ หาของเราได้

สาระการเรยี นรู้

อนิ เทอร์เน็ตเป็นเครือขา่ ยขนาดใหญ่ชว่ ยให้ การติดต่อสื่อสารทาไดส้ ะดวกและรวดเร็ว และ เปน็
แหลง่ ขอ้ มลู ความร้ทู ี่ช่วยในการเรยี น และการดาเนินชวี ิต

เว็บเบราวเ์ ซอร์เป็นโปรแกรมสาหรับอ่านเอกสารบนเว็บเพจ
การสืบค้นขอ้ มลู บนอินเทอร์เน็ตทาไดโ้ ดยใช้เว็บไซต์สาหรับสืบค้น และตอ้ งกาหนดคาค้นท่ีเหมาะสม
จงึ จะได้ข้อมลู ตามตอ้ งการ
ข้อมลู ความรู้ เชน่ วธิ ที าอาหาร วธิ พี ับกระดาษ เป็นรูปตา่ ง ๆ ข้อมูลประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย (อาจเป็น
ความรูใ้ นวิชาอืน่ ๆ หรอื เร่ืองทีเ่ ปน็ ประเดน็ ทส่ี นใจ ในช่วงเวลาน้นั )
การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั ควรอย่ใู นการดูแลของครู หรอื ผ้ปู กครอง

52

ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21

1. การสรา้ งสรรค์
2. การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ
3. การแกป้ ญั หา
4. ความรว่ มมอื
5. การสื่อสาร
6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)

ใบงานโปรแกรมคน้ หา
ใบงานจบั คู่โปรแกรมค้นหา

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ชัว่ โมงท่ี 1
ข้ันท่ี 1 สร้างความสนใจ (engagement)

ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยการใหน้ ักเรียนดูภาพสญั ลักษณ์ตอ่ ไปน้ี

จากนัน้ สนทนากับนกั เรยี น เก่ยี วกับโปรแกรมค้นหา วา่ นักเรียนร้จู ักโปรแกรมใดบ้าง และมวี ธิ ีการ
ค้นหาขอ้ มลู อย่างไร

(นกั เรียนตอบตามประสบการณ์) และนาเขา้ สกู่ จิ กรรมตอ่ ไป

ขัน้ ที่ 2 สารวจและคน้ หา (exploration)
1. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 5 คน จากน้ันครใู ห้นักเรียนช่วยกันอ่านการต์ ูนตลาดโบราณ กับแก๊ง

จักรยานโบว์แดง ในหนงั สอื เรียน หน้า 176 ถึง หน้า 180 โดยครูฝกึ ทกั ษะการอ่านตามวธิ กี ารอ่านที่เหมาะสม
กบั ความสามารถของนักเรียน

2. ครูถามคาถามเพ่ือสารวจและค้นหา ผลการเรียนรู้จากการอา่ นการต์ นู กบั ประสบการณข์ อง
นกั เรียน

- จากการ์ตนู ตลาดโบราณ กับแกง๊ จกั รยานโบวแ์ ดง ที่นักเรยี นอ่าน นกั เรียนเคยไปเท่ยี วตลาด
โบราณหรือไม่ จากนนั้ ตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คาถามดังนี้

จากเรื่องเกิดเหตกุ ารณ์ใดเกดิ ขน้ึ
จากเรือ่ งมีการหาขอ้ มูลจากแหลง่ ใด

53

3. ครเู สริมความรวู้ ่าโปรแกรมคน้ หา หรือเสริ ์ชเอนจนิ (search engine) เช่น กเู กิล ดัก๊ ด๊ักโก บงิ ใช้
ในการหาขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ น็ต เมือ่ ตอ้ งการคน้ หาข้อมลู ใหพ้ ิมพค์ าค้น ลงในชอ่ งคน้ หา

ขัน้ ท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. ครใู ห้นักเรียนทดลองเปิดโปรแกรมคน้ หา หรือเสริ ช์ เอนจนิ (search engine) เชน่ กเู กิล ดั๊กด๊ักโก

บิง ทีละโปรแกรมตามคุณครู และลองค้นหาขอ้ มูลท่สี นใจ
2. สุม่ ใหน้ ักเรียนบอกวธิ ีการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เนต็
3. ครูเป็นทป่ี รึกษาในกจิ กรรม

ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration)
1. ให้นกั เรียนทาใบงานโปรแกรมคน้ หา
2. ครเู ปน็ ทีป่ รึกษาในการดาเนนิ กจิ กรรม

ขั้นที่ 5 ประเมนิ (evaluation)
ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรยี น ดงั น้ี สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะทางานร่วมกนั

สังเกตการตอบคาถามของนกั เรียนในชน้ั เรยี น ประเมนิ ใบงานโปรแกรมค้นหาและประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษ
ที่ 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง

ชัว่ โมงที่ 2
ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement)

ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยทบทวนบทเรยี นจากชั่วโมงที่ผา่ นมา และการสนทนาพูดคยุ กับนกั เรยี น
เก่ียวกบั โปรแกรมค้นหา ว่ามีโปรแกรมใดบ้าง และใชง้ านอยา่ งไร

(นักเรียนตอบตามประสบการณแ์ ละความเข้าใจ)

ขน้ั ที่ 2 สารวจและค้นหา (exploration)
1. ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน จากน้นั ครูให้นกั เรียนชว่ ยกนั อ่านการต์ ูนตลาดโบราณ กบั แก๊ง

จกั รยานโบวแ์ ดง ตอ่ จากช่ัวโมงทแี่ ล้ว ในหนังสือเรียน หนา้ 181 ถึง หนา้ 189 โดยครฝู ึกทกั ษะการอา่ นตาม
วธิ ีการอา่ นท่เี หมาะสมกับความสามารถของนกั เรียน

2. ครถู ามคาถามเพ่อื สารวจ คน้ หา และตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่าน โดยใช้คาถามดงั น้ี
จากเรอื่ งการใช้โปรแกรค้นหา มีสว่ นประกอบใดบ้าง
จากเร่ืองใชโ้ ปรแกรมค้นหา คน้ หาอะไร

3. ครูใหน้ กั เรียนทดลองใชโ้ ปรแกรมคน้ หา เพ่อื ดูองคป์ ระกอบต่างๆ

ขั้นที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. ครูใหน้ กั เรียนเขา้ สู่โปรแกรมคน้ หาใดก็ได้ เพื่อค้นหาขอ้ มลู แหลง่ ทอ่ งเท่ียว สาคัญในจังหวัด

สมุทรปราการ กลมุ่ ละ 1 สถานท่ี

54

2. ครูให้ตัวแทนนกั เรยี นแต่ละกล่มุ นาเสนอผลการคน้ หาแหลง่ ทอ่ งเท่ียว พร้อมทงั้ บอกวา่ คน้ หาจาก
โปรแกรมคน้ หาใด

3. ครูแนะนาเพ่ิมเตมิ ว่าสว่ นประกอบของผลการค้นหา เชน่ เว็บไซตท์ ่มี ีข้อมลู ที่เกีย่ วข้อง ผลการคน้ หา
เพม่ิ เติม คาคน้ อ่ืนท่ีเกี่ยวขอ้ ง โฆษณา โดยโปรแกรมค้นหาแตล่ ะโปรแกรมอาจจัดรปู แบบของการแสดงผล

แตกต่างกนั
โปรแกรมคน้ หาจะจดจาประวัติการค้นหาของผใู้ ช้ เพอ่ื ให้การคน้ หาคร้งั ตอ่ ไปตรงตามความ

ต้องการของผใู้ ช้มากขน้ึ ซง่ึ หากเราใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับผอู้ ืน่ อาจทาให้ผ้อู ื่นสามารถทราบข้อมูลการค้นหา

ของเราได้

ข้ันที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration)
1. ใหน้ ักเรยี นทาใบงานจับค่โู ปรแกรมค้นหา
2. ครูเปน็ ทปี่ รกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม

ขั้นท่ี 5 ประเมนิ (evaluation)
ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรยี น ดังน้ี สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะทางานรว่ มกนั

สงั เกตการตอบคาถามของนักเรียนในช้ันเรยี น ประเมนิ ใบงานจบั คู่โปรแกรมค้นหา และประเมินทักษะแห่ง
ศตวรรษที่ 21 โดยใชแ้ บบประเมินตามสภาพจรงิ

สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

ภาพสัญลักษณ์โปรแกรมค้นหา
ใบงานโปรแกรมค้นหา
ใบงานจบั คู่โปรแกรมคน้ หา

แบบประเมินการเรียนรู้

เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมิน

- ใบงานโปรแกรมคน้ หา

- ใบงานจับคู่โปรแกรมค้นหา

ตวั ชี้วัด ระดับคะแนน 1

32

- ใบงานโปรแกรมค้นหา จดั ทาอย่างเป็นระบบ ชัดเจน จดั ทาอยา่ งเปน็ ระบบ ชดั เจน จัดทาอย่างเป็นระบบ

- ใบงานจบั คู่โปรแกรมค้นหา ถูกต้อง ครอบคลมุ และมกี าร ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ชดั เจน ถกู ต้อง แตย่ ังไม่

เชือ่ มโยงให้เหน็ เป็นภาพรวม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ครอบคลุม

สอดคล้องกบั วัตถุประสงค์

55

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย

..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหนง่ ................................................
วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. ..........

บันทึกหลงั สอน

ผลการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้

 การสงั เกต  การวดั  การใช้จานวน  การจาแนกประเภท

การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา

 การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล  การพยากรณ์

 การลงความเห็นจากขอ้ มูล  การต้งั สมมติฐาน  การกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร

 การกาหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ

 การสรา้ งแบบจาลอง

นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย  ในช่องวา่ งที่ตรงกบั ทกั ษะทเี่ กิด

 การสร้างสรรค์  การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ  การแก้ปัญหา

 การสือ่ สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร

ปัญหาและอุปสรรค
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหน่ง ................................................

วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

56

บทที่ 8 ตลาดโบราณ กับแกง๊ จักรยานโบวแ์ ดง วชิ าวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว13101

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งมีมารยาท ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3

เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน ...............................................................................

มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่พี บในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นข้ันตอนและเป็น
ระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ
รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม
ตวั ชี้วดั
ว 4.2ป.3/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เนต็

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวช้ีวัด

1. สามารถเทคโนโลยีสารสนเทศได้อยา่ งปลอดภยั (P)
2. มคี วามรูเ้ กีย่ วกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้
อินเทอรเ์ น็ต (K)
3. เป็นคนชา่ งสังเกต ชา่ งคดิ ช่างสงสัย และเป็นผู้ท่ีมีความกระตือรือรน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)

สาระสาคญั

การใชค้ อมพิวเตอร์สร้างชิน้ งานจะสามารถแก้ไข ตกแตง่ ไฟล์ เคลอ่ื นย้ายขอ้ ความหรอื ภาพไดส้ ะดวก
แต่หากไมบ่ ันทึกไฟลแ์ ละไฟฟ้าดบั จะทาให้ช้ินงานสูญหาย

การสรา้ งชนิ้ งานโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ จะทาใหไ้ ด้หยิบจับอปุ กรณ์ของจริง และลงมอื ทาพรอ้ มกนั
หลายคน

ควรสือ่ สารและแสดงความคิดเหน็ บนอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใชค้ าสภุ าพ เขา้ ใจความรู้สกึ ของผอู้ นื่ ประเดน็ ท่ี
ไม่ควรนามาพดู เชน่ การล้อเลียนผอู้ ื่นเก่ียวกบั รูปร่าง หนา้ ตา สีผิว

สาระการเรยี นรู้

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เชน่ ปกปอ้ งขอ้ มลู สว่ นตวั
ขอความช่วยเหลอื จากครู หรอื ผู้ปกครองเมือ่ เกดิ ปัญหาจากการใชง้ าน เม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลท่ที า
ใหไ้ ม่สบายใจ
การปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใช้อินเทอรเ์ น็ต จะทาให้ไมเ่ กดิ ความเสยี หายต่อตนเองและผู้อ่ืน เช่น ไม่
ใช้คาหยาบ ล้อเลยี น ดา่ ทอ ทาใหผ้ ู้อ่นื เสียหาย หรือเสยี ใจ

57

ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21

1. การสร้างสรรค์
2. การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ
3. การแก้ปญั หา
4. ความร่วมมือ
5. การสอื่ สาร
6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร

ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู

ใบงานแสดงความคิดเหน็

การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั ที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement)
ครนู าเขา้ สู่บทเรียนโดยการสนทนากบั นกั เรียน เก่ียวกบั การแสดงความคิดเหน็ บนส่ือออนไลน์ โดย

ถามคาถามดงั นี้
- นักเรียนเคยโพสตแ์ สดงความคิดเหน็ บนสอ่ื อนไลนห์ รอื ไม่
- นกั เรยี นเคยโพสตข์ อ้ ความไม่เหมาะสมหรือไม่
- ขอ้ ความไม่เหมาะสมเปน็ อยา่ งไร

(นักเรียนตอบตามประสบการณ์และความคดิ ) และนาเขา้ สู่กจิ กรรมตอ่ ไป

ขัน้ ท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration)
1. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกันอ่านการต์ นู ตลาดโบราณ กบั แก๊ง

จกั รยานโบว์แดง ตอ่ จากชัว่ โมงทแ่ี ลว้ ในหนงั สือเรยี น หน้า 185 ถงึ หนา้ 195 โดยครูฝกึ ทกั ษะการอา่ นตาม
วิธกี ารอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน

2. ครถู ามคาถามเพ่ือสารวจและค้นหา ผลการเรียนรู้จากการอ่านการ์ตนู กับประสบการณ์ของ
นักเรียน

- จากการต์ นู ตลาดโบราณ กับแกง๊ จักรยานโบวแ์ ดง ท่นี กั เรยี นอ่าน นักเรยี นเคยไปแสดงความ
คดิ เหน็ ทีไ่ ม่เหมะสมหรอื ไม่ จากนนั้ ตรวจสอบความเขา้ ใจจากการอา่ น โดยใช้คาถามดังน้ี

จากเร่ืองเกิดเหตุการณ์ใดเกดิ ขนึ้
จากเร่ืองมกี ารหาแสดงความคิดเหน็ ไม่เหมาะสมอย่างไร
3. ครูเสริมความร้วู า่ ควรสอื่ สารและแสดงความคิดเห็นบนอนิ เทอร์เน็ตโดยใช้คาสภุ าพ เขา้ ใจ
ความรู้สกึ ของผู้อนื่ ประเด็นที่ไมค่ วรนามาพดู เชน่ การลอ้ เลียนผูอ้ ่นื เกย่ี วกบั รูปรา่ ง หน้าตา สีผิว

ขั้นที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. ครูแจกกิจกรรมภาพการโพสต์บน facebook ให้แตล่ ะกล่มุ จากนั้นใหน้ กั เรยี นทกุ คนแสดงความ

คิดเห็นกับภาพท่ีไดร้ บั

58

2. ตัวแทนนักเรยี นนาเสนอการแสดงความคดิ เห็นของกลมุ่ ตนเอง จากน้ันครแู ละเพือ่ นๆช่วยกนั
ประเมินความเหมาะสมของการแสดงความคดิ เห็น

3. ครูเป็นทป่ี รึกษาในกจิ กรรม
ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration)

1. ให้นกั เรียนทาใบงานแสดงความคดิ เหน็
2. ครูเป็นทปี่ รึกษาในการดาเนนิ กจิ กรรม
ข้ันที่ 5 ประเมนิ (evaluation)
ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดังนี้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะทางานร่วมกัน
สังเกตการตอบคาถามของนกั เรียนในชั้นเรยี น ประเมนิ ใบงานแสดงความคดิ เห็น และประเมนิ ทกั ษะแหง่
ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง

59

ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้

ภาพการโพสต์บน facebook
ใบงานแสดงความคิดเห็น

แบบประเมนิ การเรียนรู้

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมิน

- ใบงานแสดงความคิดเห็น

ตัวชีว้ ัด ระดับคะแนน 1

32

- ใบงานแสดงความคดิ เหน็ จัดทาอย่างเปน็ ระบบ ชดั เจน จัดทาอย่างเปน็ ระบบ ชัดเจน จดั ทาอยา่ งเปน็ ระบบ

ถูกตอ้ ง ครอบคลุมและมีการ ถูกต้อง ครอบคลุม ชัดเจน ถูกต้อง แต่ยังไม่

เช่อื มโยงใหเ้ หน็ เปน็ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ ครอบคลมุ

สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์

60

ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย

..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหน่ง ................................................
วนั ท่ี.......เดือน........................พ.ศ. ..........

บันทึกหลงั สอน

ผลการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะใดบา้ ง ทาเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับสง่ิ ทที่ าได้

 การสงั เกต  การวดั  การใช้จานวน  การจาแนกประเภท

การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา

 การจดั กระทาและการสอ่ื ความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์

 การลงความเหน็ จากขอ้ มูล  การตง้ั สมมตฐิ าน  การกาหนดนิยามเชงิ ปฏิบัตกิ าร

 การกาหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ

 การสร้างแบบจาลอง

นักเรยี นเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบ้าง ทาเครอื่ งหมาย  ในช่องว่างทตี่ รงกับทกั ษะทีเ่ กิด

 การสรา้ งสรรค์  การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ  การแก้ปญั หา

 การสอ่ื สาร  ความรว่ มมอื  การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร

ปัญหาและอุปสรรค
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหนง่ ................................................

วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........

61

บทที่ 9 เอ...อาร์ไรนะ วิชาวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ว13101

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 11 ประโยชนข์ องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจาวนั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

เวลา 2 ชวั่ โมง ผู้สอน ...............................................................................

มาตรฐาน
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาทพี่ บในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น
ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
รูเ้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม
ตวั ชี้วัด
ว 4.2ป.3/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ต

จุดประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ วั ช้ีวัด

1. สามารถเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภัย (P)
2. มคี วามรเู้ กี่ยวกบั การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงในการใช้
อนิ เทอร์เนต็ (K)
3. เปน็ คนชา่ งสงั เกต ช่างคดิ ช่างสงสยั และเป็นผู้ทม่ี ีความกระตือรอื รน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)

สาระสาคญั

ระบบตรวจจับและรจู้ าใบหนา้ เป็นปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) แบบหน่งึ โดย
คอมพิวเตอร์เรยี นรจู้ ากภาพตวั อยา่ งหลายๆภาพ จนสามารถตรวจจบั ลักษณะทส่ี าคญั บนใบหน้า และระบุ
ตวั ตนได้

ความเป็นจรงิ เสรมิ หรือ เออาร์ (Augmented Reality : AR) เป็นการแต่งเติมภาพจากโลกจริง ด้วย
ภาพทส่ี ร้างจากคอมพิวเตอร์ เราจะเหน็ ภาพได้ตอ้ งมองผ่านอุปกรณ์ เชน่ แว่นเออาร์ แทบ็ เลต็ หรือสมาร์ตโฟน
โดยมองหรอื สอ่ งไปท่ี เออาร์แทก็ (AR tag) ประโยชนข์ องเออาร์ เช่น ใช้ในการศึกษา เกม งานตกแตง่ ภายใน

สาระการเรยี นรู้

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น ปกป้องขอ้ มลู สว่ นตัว
ขอความชว่ ยเหลือจากครู หรือผ้ปู กครองเม่ือเกิดปญั หาจากการใชง้ าน เมือ่ พบขอ้ มลู หรอื บุคคลทที่ า
ให้ไมส่ บายใจ
การปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ จะทาให้ไม่เกิดความเสยี หายต่อตนเองและผู้อ่ืน เชน่ ไม่
ใช้คาหยาบ ล้อเลยี น ดา่ ทอ ทาใหผ้ ู้อ่ืนเสยี หาย หรอื เสียใจ

ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

1. การสร้างสรรค์
2. การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ

62

3. การแกป้ ัญหา
4. ความรว่ มมือ
5. การส่ือสาร
6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร

ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)

ใบงานAR คอื อะไร
ใบงานเทคโนโลยใี นฝนั

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ชวั่ โมงท่ี 1
ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement)

1. ครูนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยการให้นักเรยี นสังเกตแผนภาพเทคโนโลยรี อบตวั ตอ่ ไปนี้

จากน้นั ให้วงกลมส่ิงที่เปน็ เทคโนโลยี
2. สุ่มนกั เรียนมาแสดงผลการสังเกตเทคโนโลยี พร้อมทงั้ เฉลย

63

ขนั้ ที่ 2 สารวจและค้นหา (exploration)
1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน จากนัน้ ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันอ่านการ์ตูนเอ...อารไ์ รนะ ใน

หนังสือเรียน หน้า 204 ถึง หน้า 212 โดยครูฝกึ ทักษะการอ่านตามวธิ ีการอา่ นทเี่ หมาะสมกบั ความสามารถของ
นกั เรียน

2. ครูถามคาถามเพอ่ื สารวจและค้นหา ผลการเรยี นร้จู ากการอ่านการ์ตูน กบั ประสบการณ์ของ
นักเรยี น

- จากการต์ นู เอ...อารไ์ รนะ ทน่ี ักเรียนอา่ น นกั เรยี นเคยเรียนรู้ผา่ น AR หรอื ไม่ จากน้นั ตรวจสอบ
ความเขา้ ใจจากการอา่ น โดยใช้คาถามดังนี้

จากเร่ืองเกิดเหตุการณ์ใดเกดิ ข้ึน
จากเรอ่ื งเก่ยี วขอ้ งกับเทคโนโลยใี ด
AR คอื อะไร
3. ครูให้นกั เรยี นดูคลิปวีดีโอ AR กบั VR ต่างกนั อย่างไร oho.ipst.ac.th/im/3903
4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกบั สรุปความแตกตา่ งของ AR กับ VR จากคลปิ วีดีโอ

ขนั้ ท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (explanation)
1. นกั เรียนตัวแทนกล่มุ แต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการสรุปความแตกต่างของ AR กบั VR
2. ครูเชื่อมโยงความรเู้ ก่ยี วกบั การใชง้ าน AR กบั หนงั สอื เรียน
3. ครเู ปน็ ท่ปี รึกษาในกิจกรรม

ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration)
1. ใหน้ ักเรียนทาใบงานAR คอื อะไร
2. ครเู ปน็ ทป่ี รกึ ษาในการดาเนนิ กิจกรรม

ขนั้ ที่ 5 ประเมนิ (evaluation)
ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียน ดังนี้ สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะทางานรว่ มกัน

สงั เกตการตอบคาถามของนักเรยี นในชั้นเรียน ประเมนิ ใบงานAR คืออะไร และประเมินทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี
21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ

ช่ัวโมงที่ 2
ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement)

ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยทบทวนบทเรียนจากชว่ั โมงทผ่ี า่ นมา และการสนทนาพูดคุยกบั นักเรยี น
เกยี่ วกบั เทคโนโลยี โดยใหน้ ักเรียนช่วยกนั ยกตวั อย่างเทคโนโลยตี า่ งๆ ท่ีชว่ ยอานวยความสะดวกในปัจจบุ นั

(นักเรยี นตอบตามประสบการณ์และความเข้าใจ)

64

ขัน้ ที่ 2 สารวจและคน้ หา (exploration)
1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ 5 คน จากนัน้ ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันอา่ นการต์ นู เอ...อารไ์ รนะ ต่อจาก

ชว่ั โมงทแ่ี ลว้ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 213 ถึง หน้า 225 โดยครูฝึกทกั ษะการอา่ นตามวิธกี ารอา่ นท่ีเหมาะสมกบั
ความสามารถของนักเรยี น

2. ครูถามคาถามเพือ่ สารวจ ค้นหา และตรวจสอบความเข้าใจจากการอา่ น โดยใชค้ าถามดังนี้
จากเรื่องคุณพอ่ จา่ ยเงินอย่างไร
จากเรอ่ื งคณุ พ่อใช้เทคโนโลยอี ะไรบ้าง
จากเรื่องคุณพ่อแนะนาบทเรียนออนไลนใ์ ดบ้าง

3. ครใู ห้นกั เรยี นลองเปิดบทเรยี นออนไลนท์ ่ีสนใจ เช่น พอ็ ดคาสต์ ของ สสวท. เว็บไซด์การศกึ ษา
code.org หรือ YouTube เป็นตน้

ข้ันที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. ครใู หส้ ุ่มนกั เรยี นเพอ่ื บอกวธิ กี ารเข้าสู่นักเรยี นเข้าสู่บทเรียนออนไลน์ที่สนใจ พร้อมทัง้ แนะนา

บทเรียนออนไลนท์ ช่ี ืน่ ชอบ ประมาณ 4-5 คน
2. ครูแนะนาการใชง้ านบทเรียนออนไลน์เพ่ิมเติม

ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration)
1. ใหน้ ักเรียนทาใบงานเทคโนโลยใี นฝัน
2. ครูเป็นทป่ี รกึ ษาในการดาเนินกิจกรรม

ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation)
ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดังน้ี สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะทางานรว่ มกนั

สังเกตการตอบคาถามของนกั เรยี นในช้นั เรยี น ประเมนิ ใบงานเทคโนโลยใี นฝัน และประเมินทักษะแหง่
ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจริง

สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

แผนภาพเทคโนโลยีรอบตัว
คลปิ วดี ีโอ AR กบั VR ตา่ งกนั อย่างไร oho.ipst.ac.th/im/3903
ใบงานAR คืออะไร
ใบงานเทคโนโลยีในฝัน

65

แบบประเมนิ การเรียนรู้

เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ

- ใบงานAR คอื อะไร

- ใบงานเทคโนโลยใี นฝัน

ตัวช้ีวัด ระดบั คะแนน 1

32

- ใบงานAR คืออะไร จดั ทาอย่างเปน็ ระบบ ชัดเจน จดั ทาอยา่ งเปน็ ระบบ ชัดเจน จัดทาอยา่ งเปน็ ระบบ

- ใบงานเทคโนโลยีในฝัน ถูกต้อง ครอบคลมุ และมกี าร ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ชดั เจน ถกู ต้อง แตย่ งั ไม่

เช่อื มโยงให้เห็นเปน็ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ ครอบคลุม

สอดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงค์

66

ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย

..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหนง่ ................................................
วนั ท่ี.......เดือน........................พ.ศ. ..........

บันทกึ หลังสอน

ผลการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเครอ่ื งหมาย  ในช่องวา่ งทต่ี รงกับส่ิงท่ีทาได้

 การสงั เกต  การวดั  การใช้จานวน  การจาแนกประเภท

การหาความสมั พนั ธร์ ะหว่าง  สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา

 การจัดกระทาและการส่ือความหมายขอ้ มูล  การพยากรณ์

 การลงความเห็นจากข้อมูล  การต้ังสมมติฐาน  การกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร

 การกาหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตีความหมายและลงขอ้ สรปุ

 การสร้างแบบจาลอง

นักเรียนเกดิ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบ้าง ทาเคร่อื งหมาย  ในช่องว่างท่ีตรงกับทักษะทเ่ี กิด

 การสรา้ งสรรค์  การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ  การแกป้ ัญหา

 การสอ่ื สาร  ความรว่ มมือ  การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร

ปญั หาและอปุ สรรค
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..................................................................
(.................................................................)
ตาแหนง่ ................................................

วันที่.......เดอื น........................พ.ศ. ..........


Click to View FlipBook Version