ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๔๖
หารือแก่กัน คิดผันผ่อนปรน
จักไม่ให้พล มาคธข้ามมา
จึ่งให้ตีกลอง
ป่ าวร้องทันที
แจ้งข่าวไพรี รุ กเบียนบีฑา
เพื่อหมู่ภูมี วัชชีอาณา
ป้ องกันฉันใด
ชุ มนุ มบัญชา
ราชาลิจฉวี ไป่ มีสักองค์
เพื่อจักเสด็จไป
อันนึ กจำนง
ต่างองค์ดำรัส เรียกนั ดทำไม
ใครเป็ นใหญ่ใคร กล้าหาญเห็นดี
เชิญเทอญท่านต้อง
ขัดข้องข้อไหน
ปรึกษาปราศรัย ตามเรื่องตามที
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๔๗
ส่ วนเราเล่าใช่ เป็ นใหญ่ยังมี
ใจอย่างผู้ภี รุ กปราศอาจหาญ
ความแขงอำนาจ
ต่างทรงสำแดง แก่งแย่งโดยมาน
สามัคคีขาด วัชชีรัฐบาล
แม้แต่สั กองค์ฯ
ภูมิศลิจฉวี
บ่ชุ มนุ มสมาน
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๔๘
ถอดความได้ว่า
ข่าวศึ กแพร่ไปจนรู้ถึงชาวเมืองเวสาลี แทบทุกคนในเมืองต่างตกใจและหวาดกลัวกัน
ไปทั่ว หน้ าตาตื่น หน้ าซีดไม่มีสีเลือด ตัวสั่ น พากันหนี ตายวุ่นวาย พากันอพยพครอบครัวหนี
ภัย ทิ้งบ้านเรือนไปซุ่มซ่อนตัวเสียในป่ า ไม่สามารถห้ามปรามชาวบ้านได้ หัวหน้ าราษฎรและ
นายด่านตำบลต่าง ๆ ปรึกษากันคิดจะยับยั้งไม่ให้กองทัพมคธข้ามมาได้ จึงตีกลองป่ าวร้องแจ้ง
ข่าวข้าศึ กเข้ารุ กราน เพื่อให้เหล่ากษัตริย์แห่งวัชชีเสด็จมาประชุมหาหนทางป้ องกันประการใด
ไม่มีกษัตริย์ลิจฉวีแม้แต่พระองค์เดียวคิดจะเสด็จไป แต่ละพระองค์ทรงดำรัสว่าจะเรียกประชุม
ด้วยเหตุใด ผู้ใดเป็ นใหญ่ ผู้ใดกล้าหาญ เห็นดีประการใดก็เชิญเถิด จะปรึกษาหารืออย่างไร
ก็ตามแต่ใจตัวของเรานั้ นไม่ได้มีอำนาจยิ่งใหญ่ จิตใจก็ขี้ขลาด ไม่องอาจกล้าหาญ แต่ละ
พระองค์ต่างแสดงอาการเพิกเฉย ปราศจากความสามัคคีปรองดองในจิตใจ กษัตริย์ลิจฉวีแห่ง
วัชชี ไม่เสด็ จมาประชุ มกันแม้แต่พระองค์เดี ยว
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๔๙
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ติยรัชธำรง
นคเรศวิสาลี
พิเคราะห์เหตุณธานี
ปิ่ นเขตมคธขัต ขณะเศิ กประชิดแดน
ยั้งทัพประทับตรง และมินึ กจะเกรงแกลน
รณทัพระงับภัย
ภูธรธสั งเกต บ มิทำประการใด
แห่งราชวัชชี บุรว่างและร้างคน
สยคงกระทบกล
เฉยดูบรู้สึ ก ลุกระนี้ ถนั ดตา
ฤๅคิดจะตอบแทน
นิ่ งเงียบสงบงำ
ปรากฏประหนึ่ งใน
แน่ โดยมิพักสง
ท่านวัสสการจน
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๕๐
ภินท์พัทธสามัค คิยพรรคพระราชา
ชาวลิจฉวีวาร จะพ้องอนั ตถ์ภัย
ลูกข่างประดาทา รกกาลขว้างไป
ดุจกันฉะนั้ นหนอ
หมุนเล่นสนุกไฉน
กลแหย่ยุดีพอ
ครู วัสสการแส่
ปั่ นป่ วนบเหลือหลอ จะมิร้าวมิรานกัน
ธุ ระจบธจึ่งบัญ
ครั้นทรงพระปรารภ
ท แกล้วทหารหาญ
ชานายนิ กายสรรพ
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๕๑
เร่งทำอุฬุ มป์ เว ฬุ คะเนกะเกณฑ์การ
เพื่อข้ามนทีธาร จรเข้านครบร
อดิศูรบดีศร
เขารับพระบัณฑูร ทิวรุ่งสฤษฎ์พลัน
พยุหาธิทัพขันธ์
ภาโรปกรณ์ตอน พลข้ามณคงคา
พิศเนื องขนั ดคลา
จอมนาถพระยาตรา ลิบุเรศสะดวกดายฯ
โดยแพและพ่วงปั น
จนหมดพหลเนื่ อง
ขึ้นฝั่ งลุเวสา
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๕๒
ถอดความได้ว่า
จอมกษัตริย์แห่งแคว้นมคธหยุดทัพตรงหน้ าเมืองเวสาลี พระองค์ทรงสังเกตวิเคราะห์
เหตุการณ์ทางเมืองวัชชีในขณะที่ข้าศึ กมาประชิดเมือง ดูนิ่ งเฉยไม่รู้สึกเกรงกลัว หรือคิดจะทำ
สิ่ งใดโต้ตอบระงับเหตุร้าย กลับอยู่อย่างสงบเงียบไม่ทำการสิ่ งใด มองดูราวกับเป็ นเมืองร้าง
ปราศจากผู้คน แน่ นอนไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงจะถูกกลอุบายของวัสสการพราหมณ์จนเป็ น
เช่นนี้ ความสามัคคีผูกพันแห่งกษัตริย์ลิจฉวีถูกทำลายลงและจะประสบกับภัยพิบัติ ลูกข่าง
ที่เด็กขว้างเล่นได้สนุกฉันใด วัสสการพราหมณ์ก็สามารถยุแหย่ให้เหล่ากษัตริย์ลิจฉวี
แตกความสามัคคีได้ตามใจชอบและคิดที่จะสนุกฉันนั้ น ครั้นทรงคิดได้ดังนั้ นจึงมี
พระราชบัญชาแก่เหล่าทหารหาญให้รีบสร้างแพไม้ไผ่เพื่อข้ามแม่น้ำจะเข้าเมืองของฝ่ ายศั ตรู
พวกทหารรับราชโองการแล้วก็ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับ ในตอนเช้างานนั้ นก็เสร็จทันที
จอมกษัตริย์เคลื่อนกองทัพอันมีกำลังพลมากมายลงในแพที่ติดกัน นำกำลังข้ามแม่น้ำจน
กองทัพหมดสิ้น มองดูแน่ นขนั ด ขึ้นฝั่ งเมืองเวสาลีอย่างสะดวกสบาย
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๕๓
จิตรปทาฉันท์ ๘ นาครธา นิ วิสาลี
พลมากมาย
เห็นริปุมี ก็ลุพ้นหมาย
พระนครตน
ข้ามติรชล มนอกเต้น
ตะละผู้คน
มุ่งจะทลาย มจลาจล
อลเวงไป
ต่างก็ตระหนก มุขมนตรี
ตื่นบมิเว้น รุ กเภทภัย
ทั่วบุรคา
เสี ยงอลวน
สรรพสกล
ตรอมมนภี
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๕๔
บางคณะอา ทรปราศรัย
ยังมิกระไร ขณะนี้ หนอ
พระทวารมั่น
ควรบริบาล
ต้านปะทะกัน อริก่อนพอ
ขัตติยราช สภารอ
ดำริจะขอ
วรโองการ
ทรงตริไฉน
โดยนยดำ ก็จะได้ทำ
รัสภูบาล
เสวกผอง
อาณัติปาน ก็เคาะกลองขาน
ดุจกลองพัง
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์ ๕๕
ศั พทอุโฆษ ประลุโสตท้าว
ลิจฉวีด้าว ขณะทรงฟั ง
และละเลยดัง
ต่าง ธ ก็เฉย ธุ ระกับใคร
ไท้มิอินั ง
ณ สภาคา
ต่างก็บคลา บุรทั่วไป
แม้พระทวาร และทวารใด
สิจะปิ ดมีฯ
รอบทิศด้าน
เห็นนรไหน
๕๖
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
ถอดความได้ว่า
ฝ่ ายเมืองเวสาลีมองเห็นข้าศึ กจำนวนมากข้ามแม่น้ำมาเพื่อจะทำลายล้างบ้านเมืองของตน
ต่างก็ตระหนกตกใจกันถ้วนหน้ า ในเมืองเกิดจลาจลวุ่นวายไปทั่วเมือง ข้าราชการชั้น
ผู้ใหญ่ต่างหวาดกลัวภัย บางพวกก็พูดว่าขณะนี้ ยังไม่เป็ นไรหรอก ควรจะป้ องกันประตู
เมืองเอาไว้ให้มั่นคง ต้านทานข้าศึ กเอาไว้ก่อน รอให้ที่ประชุมเหล่ากษัตริย์มีความเห็น
ว่าจะทรงทำประการใด ก็จะได้ดำเนิ นการตามพระบัญชาของพระองค์ เหล่าข้าราชการ
ทั้งหลายก็ตีกลองสัญญาณขึ้นราวกับกลองจะพัง เสียงดังกึกก้องไปถึงพระกรรณกษัตริย์
ลิจฉวี ต่างองค์ทรงเพิกเฉยราวกับไม่เอาใจใส่ในเรื่องราวของผู้ใด ต่างองค์ไม่เสด็จไป
ที่ประชุม แม้แต่ประตูเมืองรอบทิศทุกบานก็ไม่มีผู้ใดปิ ด
๕๗
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
สัททุลวิกกีฬิ ตฉันท์ ๑๙ นคร
อะไร
มคธ
จอมทัพมาคธราษฎร์ธยาตรพยุหกรี และโดย
ธาสู่ วิสาลี
โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิ กร
ฤๅรอต่อรอน
เบื้องนั้ นท่านคุรุ วัสสการทิชก็ไป
นำทัพชเนนทร์ไท
เข้าปราบลิจฉวิขัตติย์รัฐชนบท
สู่ เงื้อมพระหั ตถ์หมด
๕๘
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
ไป่ พักต้องจะกะเกณฑ์นิ กาย พหลโรย
แรงเปลืองระดมโปรย ประยุทธ์
ราบคาบเสร็จธเสด็จลุราช คฤหอุต
คมเขตบุเรศดุจ ณเดิม
เรื่องต้นยุกติก็แต่จะต่อพจนเติม
ภาษิตลิขิตเสริม ประสงค์
ปรุ งโสตเป็ นคติสุนทราภรณจง
จับข้อประโยชน์ ตรง ตริดู
๕๙
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
ถอดความได้ว่า
จอมทัพแห่งแคว้นมคธกรีธาทัพเข้าเมืองเวสาลีทางประตูเมืองที่เปิ ดอยู่
โดยไม่มีผู้คนหรือทหารต่อสู้ประการใด ขณะนั้ นวัสสการพราหมณ์ผู้เป็ น
อาจารย์ก็ไปนำทัพของกษัตริย์แห่งมคธเข้ามาปราบกษัตริย์ลิจฉวี
อาณาจักรทั้งหมดก็ตกอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ โดยที่กองทัพไม่ต้องเปลือง
แรงในการต่อสู้ ปราบราบคาบแล้วเสด็จยังราชคฤห์เมืองยิ่งใหญ่ดังเดิม
เนื้ อเรื่องแต่เดิมจบลงเพียงนี้ แต่ประสงค์จะแต่งสุภาษิตเพิ่มเติมให้
ได้รับฟั งเพื่อเป็ นคติอันทรงคุณค่านำไปคิดไตร่ตรอง
๖๐
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๘ อชาตศั ตรู
ประเทศสะดวกดี
วรราชวัชชี
อันภูบดีราช อนั ตถ์พินาศหนา
ได้ลิจฉวีภูว คณะแตกและต่างมา
หสโทษพิโรธจอง
แลสรรพบรรดา ทนสิ้ นบปรองดอง
ถึงซึ่ งพิบัติบีฑ ตริมลักประจักษ์เจือ
เหี้ยมนั้ นเพราะผันแผก
ถือทิฐิมานสา
แยกพรรคสมรรคภิน
ขาดญาณพิจารณ์ตรอง
๖๑
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
เชื่ออรรถยุบลเอา รสเล่าก็ง่ายเหลือ
เหตุหากธมากเมือ คติโมหเป็ นมูล
ยนภาวอาดูร
จึ่งดาลประการหา ยศศั กดิเสื่ อมนาม
เสี ยแดนไผทสู ญ คุรุ วัสสการพราหมณ์
กลงำกระทำมา
ควรชมนิ ยมจัด พิเคราะห์คิดพินิ จปรา
เป็ นเอกอุบายงาม ธุ สมัครภาพผล
สุ กภาวมาดล
พุทธาทิบัณฑิต บ นิ ราศนิ รันดร
รภสรรเสริญสา คยพรรคสโมสร
คุณไร้ไฉนดล
ว่าอาจจะอวยผา
ดี สู่ ณหมู่ตน
หมู่ใดผิสามัค
ไป่ ปราศนิ ราศรอน
๖๒
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
พร้อมเพรียงประเสริฐครัน เพราะฉะนั้ นแหละบุคคล
ธุ ระเกี่ยวกะหมู่เข
ผู้หวังเจริญตน
มุขเป็ นประธานเอา
พึงหมายสมัครเป็ น
ธู รทั่วณตัวเรา บ มิเห็นณฝ่ ายเดียว
นรอื่นก็แลเหลียว
ควรยกประโยชน์ ยื่น
มิตรภาพผดุงครอง
ดูบ้างและกลมเกลียว
ยั้งทิฐิมานหย่อน ทมผ่อนผจงจอง
มนเมื่อจะทำใด
อารีมิมีหมอง
ลุก็ปั นก็แบ่งไป
ลาภผลสกลบรร
สุจริตนิ ยมธรรม
ตามน้ อยและมากใจ
สุ ประพฤติสงวนพรร
พึงมรรยาทยึด
รื้อริษยาอัน อุปเฉทไมตรี
๖๓
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
ดั่งนั้ นณหมู่ใด ผิบไร้สมัครมี
รวิวาทระแวงกัน
พร้อมเพรียงนิ พัทธ์นี สยคงประสบพลัน
หิตะกอบทวิกา
หวังเทอญมิต้องสง มนอาจระรานหาญ
ซึ่ งสุ ขเกษมสั นต์ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรียงกัน
นรสู งประเสริฐครัน
ใครเล่าจะสามารถ เฉพาะมีชีวีครอง
ผิวใครจะใคร่ลอง
หักล้างบแหลกลาญ พลหักก็เต็ม
สละลี้ณหมู่ตน
ป่ วยกล่าวอะไรฝูง บ มิพร้อมมิเพรียงกัน
ฤๅสรรพสั ตว์อัน
แม้มากผิกิ่งไม้
มัดกำกระนั้ นปอง
เหล่าไหนผิไมตรี
กิจใดจะขวายขวน
๖๔
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
อย่าปรารถนาหวัง สุ ขทั้งเจริญอัน
มวลมาอุบัติบรร ลุไฉนบได้ม
พภยันตรายกลี
ปวงทุกข์พิบัติสรร ติประสงค์ก็คงสม
แม้ปราศนิ ยมปรี
คณะเป็ นสมา
ควรชนประชุ มเช่ น ภนิ พัทธรำพึง
ผิวมีก็คำนึ ง
สามัคคิปรารม จะประสบสุ ขาลัยฯ
ไป่ มีก็ให้มี
เนื่ องเพื่อภิยโยจึง
๖๕
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
ถอดความได้ว่า
พระเจ้าอชาตศั ตรู ได้แผ่นดินวัชชีอย่างสะดวก และกษัตริย์ลิจฉวีทั้งหลายก็ถึงซึ่งความพินาศล่มจม
เหตุเพราะความแตกแยกกัน ต่างก็มีความยึดมั่นในความคิดของตน ผูกโกรธซึ่งกันและกัน
ต่างแยกพรรค แตกสามัคคีกัน ไม่ปรองดองกัน ขาดปั ญญาที่จะพิจารณาไตร่ตรอง เชื่อถ้อย
ความของบรรดาพระโอรสอย่างง่ายดาย เหตุที่เป็ นเช่นนั้ นเพราะกษัตริย์แต่ละพระองค์ทรง
มากไปด้วยความหลง จึงทำให้ถึงซึ่งความฉิบหาย มีภาวะความเป็ นอยู่อันทุกข์ระทม เสียทั้ง
แผ่นดิน เกียรติยศ และชื่อเสียงที่เคยมีอยู่ ส่วนวัสสการพราหมณ์นั้ นน่ าชื่นชมอย่างยิ่งเพราะ
เป็ นเลิศในการกระทำกลอุบาย ผู้รู้ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็ นต้น ได้ใคร่ครวญพิจารณากล่าว
สรรเสริญว่าชอบแล้วในเรื่องผลแห่งความพร้อมเพรียงกัน ความสามัคคีอาจอำนวยให้ถึงซึ่งสภาพ
แห่งความผาสุก ณ หมู่ของตนไม่เสื่ อมคลายตลอดไป หากหมู่ใดมีความสามัคคีร่วมชุมนุมกัน
ไม่ห่างเหินกัน สิ่ งที่ไร้ประโยชน์ จะมาสู่ได้อย่างไร ความพร้อมเพรียงนั้ นประเสริฐยิ่งนั ก
๖๖
ถอดความ สามัคคีเภทคำฉันท์
ถอดความได้ว่า
เพราะฉะนั้ นบุคคลใดหวังที่จะได้รับความเจริญแห่งตนและมีกิจธุ ระอันเป็ นส่วนรวม ก็พึงตั้งใจเป็ นหัวหน้ าเอาเป็ นธุ ระ
ด้วยตัวของเราเองโดยมิเห็นประโยชน์ ตนแต่ฝ่ ายเดียว ควรยกประโยชน์ ให้บุคคลอื่นบ้าง นึ กถึงผู้อื่นบ้าง ต้องกลมเกลียว
มีความเป็ นมิตรกันไว้ ต้องลดทิฐิมานะ รู้จักข่มใจ จะทำสิ่ งใดก็เอื้อเฟื้ อกันไม่มีความบาดหมางใจ ผลประโยชน์ ทั้งหลายที่
เกิดขึ้นก็แบ่งปั นกันไป มากบ้างน้ อยบ้างอย่างเป็ นธรรม ควรยึดมั่นในมารยาทและความประพฤติที่ดีงาม รักษาหมู่คณะ
โดยไม่มีความริษยากันอันจะตัดรอนไมตรี ดังนั้ นถ้าหมู่คณะใดไม่ขาดซึ่งความสามัคคี มีความพร้อมเพรียงกันอยู่เสมอ
ไม่มีการวิวาท และระแวงกัน ก็หวังได้โดยไม่ต้องสงสัยว่า คงจะพบซึ่งความสุข ความสงบ และประกอบด้วยประโยชน์
มากมาย ใครเล่าจะมีใจกล้าคิดทำสงครามด้วย หวังจะทำลายล้างก็ไม่ได้ ทั้งนี้ เพราะความพร้อมเพรียงกันนั่ นเอง กล่าวไป
ไยกับมนุษย์ผู้ประเสริฐหรือสรรพสัตว์ที่มีชีวิต แม้แต่กิ่งไม้หากใครจะใคร่ลองเอามามัดเป็ นกำ ตั้งใจใช้กำลังหักก็ยาก
เต็มทน หากหมู่ใดไม่มีความสามัคคีในหมู่คณะของตน และกิจการอันใดที่จะต้องขวนขวายทำก็มิพร้อมเพรียงกัน ก็อย่าได้
หวังเลยความสุขความเจริญจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ความทุกข์พิบัติอันตรายและความชั่วร้ายทั้งปวง ถึงแม้จะไม่ต้องการก็จะ
ต้องได้รับเป็ นแน่ แท้ ผู้ที่อยู่รวมกันเป็ นหมู่คณะหรือสมาคม ควรคำนึ งถึงความสามัคคีอยู่เป็ นนิ จ ถ้ายังไม่มีก็ควรจะมีขึ้น
ถ้ามีอยู่แล้วก็ควรให้ เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปจึงจะถึงซึ่ งความสุ ขความสบาย
๖๗
คำศั พท์ยาก
คำศั
พท์ ความห
มาย คำศั
พท์ ความห
มาย คำศั
พท์ ความห
มาย
กถ
า ถ้อย
คำ ชเนน
ทร์ ผู้เป็ นให
ญ่ในชน นย,
นั ย ควเคา้มาคหว
มาามย,
กลห์เ
หตุ ท
ม (ชน+อินทร) นยน
าม
เหตุแห
่งการ ใจค
วาม
กลิ
ก ทะเลาะ ทลิท
ภาว การข่
มใจ
ไกว
ล ทั่วบุร
คาม
ขัตต
ิย์ ชาว
นา ยาก
จน นรน
ิ กร ฝูงช
น
คด
ี ทั่วไ
ป ทิ
ช
คม
กษัต
ริย์ ทิ
น ทั่วบ้านท
ั่วเมือง นฤพัทธ
,นิ พัทธ เนื อง ๆ
,เนื่ อง
เรื่อ
ง นคร
บร กัน
ผู้เกิดสอ
งครั้งคือ นฤส
าร
ไป
พราหมณ์ นั
ต ไม่มีส
าระ
วัน
กลั
บ
เมืองขอ
งข้าศึ ก นี ร
ผล ไม่เป็
นผล
๖๘
คำศั พท์ยาก
คำศั
พท์ ความห
มาย คำศั
พท์ ความห
มาย คำศั
พท์ ความห
มาย
ประ
เด มอบให
้หมด พิเฉ
ท ตัดขาด,
ทำลาย ภีร
ุ ก ขลาด,
กลัว
ประศ
าสน์ ภูม
ิศ
ปราก
รม การสั่ ง
สอน พิชา
การ วิชาคว
ามรู้ ม
น กษัต
ริย์
ปรุ งโ
สต ใ
จ
ความเ
พียร พุทธาทิ
บัณฑิต ผู้รู้ ผู้มเีปพ็ นร
อะพาุททิ ธเจ้า มนาร
มณ์
ปลา
ต สมดังท
ี่ตั้งใจ
ปวัต
น์ ในที่นี้ ห
มายถึง ภัต
ข้า
ว มา
น
พฤ
ฒิ แต่งให้ไพเราะน่ าฟั ง ภาโรปกรณ์
ในที่นี้ หมาย
ถึง ทำสิ่งที่ ยุก
ติ ความถ
ือตัว
รหุฐ
าน
หาย
ไป ได้รับมอบหมาย ยุติ ,จ
บสิ้น
ความเป็
นไป ภินท์พัทธ
สามัคคิย การแตก
สามัคคี ที่ลับ,
ที่สงัด
“ปวัตติ์” ก็ใช้
ภิย
โย ยิ่ง ๆ
ขึ้น
ผู้เฒ
่า
๗๖๙๑
คำศั พท์ยาก
คำศั
พท์ ความห
มาย คำศั
พท์ ความห
มาย คำศั
พท์ ความห
มาย
หมู่เ
หล่า
ลักษณ
สาสน ในทจี่ดนี้หหม
มาายยถึง สหก
รณ หิต
ะ ประโ
ยชน์
ส่
ำ หมู่,
พวก เหี้ยม
นั้ น
เล
า เค้
า เหตุ
นั้ น
วัญจโน
บาย อุบายหล
อกลวง สิ กข
สภา ห้องเ
รียน อนั
ตถ์ ไม่เป็ นป
ระโยชน์
สุ ขา
ลัย
วัลลภ
ชน คนส
นิ ท เสา
วน สถานที่ที่มี อนุก
รม ตามล
ำดับ
ความ
สุข
วิรุ
ธ ผิดป
กติ อภิเ
ผ้า ผู้เป็ น
ใหญ่
ฟั
ง
สมรรค
ภินทน การแตก
สามัคคี เสาว
ภาพ สุ ภ
าพ อาค
ม มา ม
าถึง
สมัคร
ภาพ ความส
ามัคคี หายน์ ,
หายน ความ
เสื่อม อุปเฉท
ไมตรี ตัดไ
มตรี
คุณค่าทางวรรณคดี ๗๐
๑.คุณค่าด้านเนื้ อหา
ความสามัคคี เป็ นข้อคิดหรือคติธรรมหลักที่ปรากฏในเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ โดยมุ่งแสดง
ให้เห็นโทษของการแตกความสามัคคี หรือ "สามัคคีเภท" อันเนื่ องมาจากการไม่ยึดมั่นใน
"อปริหา นิ ยธรรม" ของชาวแคว้นวัชชี ทำให้พระเจ้าอชาตศั ตรู สามารถเข้ายึดเมืองได้อย่างง่ายดาย
อปริหา นิ ยธรรม คือธรรมอันไม่เป็ นที่ตั้งแห่งความเสื่ อมหรือความหายนะ
คุณค่าทางวรรณคดี ๑.คุณค่าด้านเนื้ อหา ๗๑
การเสื่ อมถอยจากอปริหานิ ยธรรมของชาวแคว้นวัชชีนี้ เกิดขึ้นจากการหลงเชื่อกลอุบาย
ของวัสสการพราหมณ์ ซึ่งทำอุบายให้เกิดความแตกแยกในหมู่กษัตริย์ลิจฉวีผู้ปกครองแคว้นวัชชี
โดยเริ่มจากการสร้างความเคลือบแคลงใจให้เกิดขึ้นในหมู่พระกุมารด้วยการทำให้พระกุมารแต่ละ
พระองค์เข้าใจผิดว่าพระกุมารพระองค์อื่นนำข้อเสียหรือข้อด้อยของตนไปเล่าให้ผู้อื่นฟั ง
ดังบทป
ระพันธ์ที่ว่า
ต่างทรงสำแดง ความแขงอำนาจ
สามัคคีขาด แก่งแย่งโดยมาน
ภูมิศลิจฉวี วัชชีรัฐบาล
บ่ ชุมนุมสมาน แม้แต่สั กองค์
อันแสดงให้เห็นถึงการขาดสติปั ญ
ญาพิจารณาสิ่ งต่างๆ อย่างถี่ถ้วนของบรรดา
กษัตริย์ลิจฉวี จนทำให้คนและส่วนรวมถึงแก่ความพินาศ
คุณค่าทางวรรณคดี ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๗๒
๑. การเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ
ทิชงค์ชาติฉลาดยล คะเนกลคะนึ ง
กษัตริย์ลิจฉวีวาร การระวังเหือดระแวงหาย
คำที่ สั มผัสพยัญชนะ (ชงค์-ชาติ,
(ฉ)วี-วาร,วัง-แวง,เหือด-หาย)
เน-นึ ง,
๒. การเล่นเสียงสัมผัสวรรณยุกต์
ผิวใครจะใคร่ลอง
แม้มากผิกิ่งไม้ พลหักก็เต็มทน
มัดกำกระนั้ นปอง
คำที่สัมผัสวรรณยุกต์ (ใคร-ใคร่)
คุณค่าทางวรรณคดี ๒. คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์ ๗๓
๓. การเล่นเสียงสัมผัสสระ
ธ คิดอ่านกะท่านเป็ น
ชะรอยว่าทิชาจารย์
รหัสเหตุประเภทเห็น ละแน่ ชัดถนั ดความ
คำที่สัมผัสสระ (ว่า-ชา, อ่า
น-ท่าน, เหตุ-เภท, ชัด-(ถ)นั ด)
๔. การใช้วรรณศิ ลป์ สร้างสุน
ทรียภาพด้านความหมาย
ใช้ความเปรียบเพื่อให้เข้าใจความคิด เช่น
เรื่องการปลุกปั่ นยุยง ดังบทประพันธ์ที่ว่า
ลูกข่างประดาทา รกกาลขว้างไป
หมุนเล่นสนุกไฉน ดุจกันฉะนั้ นหนอ
คุณค่าทางวรรณคดี ๗๔
๓.๒ การศึ กษา
๓. คุณค่าด้านสังคม ในอดีตกษัตริย์หรือราชกุมารจะได้รับการศึ กษาจาก
อาจารย์ผู้ชำนาญในวิทยาการแขนงต่างๆ ๆ เพราะถือ
เป็ นผู้ที่มีบทบาทในการปกครองบ้านเมือง เช่นเดียวกับ
กษัตริย์ลิจฉวีที่เห็นว่าพระราชโอรสควรได้ร่ำเรียนวิชา
๓.๑ การเมืองการปกครอง จากผู้ที่มีความรอบรู้และมีสติปั ญญา และต่างเห็นว่าวัส
สการพราหมณ์เป็ นพราหมณ์อาวุโสที่มีสติปั ญญาดี
กษั ตริย์แห่ งแคว้นวัชชี ทั้งหลายปกครองโดยยึดมั
่นตาม
มีความรอบรู้ในหลักวิชา
หลักอปริหานิ ยธรรมซึ่งเป็ นธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัส
แสดงไว้ มีเนื้ อหาเนั นความสามัคคีเป็ นหลัก เป็ นธรรมอัน ๓.๓ การขยายอาณาเขต
ไม่เป็ นที่ตั้งแห่งความเสื่ อมเป็ นไปเพื่อความเจริญฝ่ าย
พระมหากษัตริย์ที่ปกครองแคว้นต่าง ๆ จะขยายอาณาเขต
เดียว สำหรับหมู่ชนหรือผู้บริหารบ้านเมือง มี ๘ ประการ
ให้กว้างขวางขึ้นเรื่อย ๆโดยการสู้รบเพื่อยึดครองดินแดนที่
อ่อนแอกว่ามาเป็ นของตนเอง และหากดินแดนที่ยึดครอง
ได้นั้ นมีความรุ่งเรืองมาก ก็ยิ่งจะแสดงถึงชัยชนะและความ
ยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ผู้ที่ได้ครอบครองมากเท่านั้ น
คุณค่าทางวรรณคดี ๗๕
๔. คุณค่าด้านการนำไปใช้
๔.๑ ความสามัคคี เป็ นสิ่ งสำคัญที่ส
ุดทำ
ให้หมู่คณะยืนหยัดอยู่ได้อย่างสงบสุข
๔.๒ เชื่อคนโดยไม่พิจารณาไตร่
ตรองจะทำให้เกิดผลเสียหาย
๔.๓ การกระทำทุกสิ่ งทุกอย่างต้องวางแผนอย่างรอบคอบ
จึงจะประสบผลสำเร็จ
บรรณานุกรม ๗๖
กนกวรรณ เกตุเหลือ. (๒๕๖๔). ลักษณะคำประพันธ์ของสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://pubhtml5.com/rwwr/mamt/basic
กัลยาณี ถนอมแก้ว. (๒๕๕๒). ประวัติผู้แต่งสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://www.gotoknow.org/posts
กัลยาณี ถนอมแก้ว. (๒๕๕๖). เรื่องย่อก่อนบทเรียนของสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://www.gotoknow.org/posts/329717
กัลยาณี ถนอมแก้ว. (๒๕๕๖). ถอดคำประพันธ์สามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://www.gotoknow.org/posts/33082
กัลยารัตน์ . (๒๕๖๒). ที่มาของเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://campus.campusstar.com/variety/113938.html
ณัฐชยา เพ็ชรรัตน์ . (๒๕๖๕). ลักษณะคำประพันธ์ของสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://sites.google.com/a/watpa.ac.th/
ทิพวัลย์ ขาวคง. (๒๕๕๖). จุดประสงค์ของสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://nidkawkong.wordpress.com/%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0
ปี ติรักไทย. (๒๕๖๒). ลักษณะคำประพันธ์ของสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://slideplayer.in.th/slide/13990036/
สารานุกรมเสรี สามัคคีเภทคำฉันท์. (๒๕๖๑). ลักษณะคำประพันธ์ของสามัคคีเภทคำฉันท์. สืบค้น ๒๔ พฤษภาคม๒๕๖๕, สืบค้นจาก https://pimsupa.com/01_infoon/A4
หนั งสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึ กษาปี ที่ ๖. (พิมพ์ครั้งที่ ๑). (๒๕๖๔). กรุ งเทพฯ: สำนั กพิมพ์ บริษัทคุรุ มีเดีย จำกัด
Articles. (๒๕๖๒). ประวัติของชินบุรทัต. สืบค้น ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕, สืบค้นจากhttps://www.cicisozler.com/