The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะที่ 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สนง.พมจ.ปทุมธานี, 2022-08-28 13:04:41

ร่างแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย จังหวัดปทุมธานี

เล่มแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะที่ 2

แผนการพัฒนาที่อยู่อาศัย
จังหวัดปทุมธานี
พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

คำนำ

ที่อยู่อาศัย เป็นปัจจัยพื้นฐานท่ีจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบ
ของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การให้โอกาสแก่ประชาชนเพื่อเข้าถึงที่อยูอ่ าศัยจึงเป็นประเดน็ สำคัญทีภ่ าครฐั ควร
ให้การสนับสนุน และส่งเสริมใหป้ ระชาชนสามารถเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีมาตรฐาน เมื่อพิจารณา
สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำด้านการถือครอง
ที่ดินมากที่สุด มีเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีอำนาจถือครองที่ดินประเภทโฉนดที่ดินและกลุ่มคนเหล่านี้ถือครอง
ที่ดินสูงถึงร้อยละ 79.9 ของพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ปัญหาการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินยังมีความเชื่อมโยงกับ
ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ซึ่งส่งผลต่อโอกาสในทางเศรษฐกิจ ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
กอ่ ให้เกดิ ปัญหาที่ดินที่ถูกท้ิงร้าง ปัญหาการบุกรุกท่ีดินสาธารณะ ปัญหาความขัดแยง้ ในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ของประชาชนและหน่วยงานของรัฐ รวมถึงเอกชน ในขณะที่ผู้ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่
เป็นผู้มีรายได้น้อยและอยู่อาศัยอย่างแออัดจนกลายเป็นชุมชนแออัดซึ่งสอดคล้องกับศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ
พบวา่ ปี 2562 จงั หวัดปทุมธานี มชี มุ ชนผูม้ ีรายได้นอ้ ย จำนวน 82 ชุมชน เปน็ ชุมชนแออดั จำนวน 79 ชุมชน 5,574
ครัวเรือน และชุมชนชานเมือง จำนวน 3 ชุมชน 75 ครัวเรือน บ้านผู้มีรายได้น้อย จำนวน 5,108 หลังคา
เรือน ครัวเรือนรายได้น้อย จำนวน 5,670 ครัวเรือน และมีประชากรผู้มีรายได้น้อย จำนวน 22,680 คน
จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนของการพัฒนาที่อยู่อาศัยของประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
และยกระดับคุณภาพชวี ติ ของประชาชนทุกระดบั รายได้

แผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยจังหวัดปทุมธานี (พ.ศ. 2566 – 2570) จึงมีเป้าหมายเพื่อ
จะมุ่งดำเนินการพัฒนาท่ีอยู่อาศัยให้แก่ประชาชนในจังหวดั ปทุมธานี ให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการมีที่อยูอ่ าศัยทีด่ ี
มีมาตรฐานโดยดำเนินการปรับปรุงและจัดหาพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้บทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานท่ี
เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านที่อยู่อาศัยจึงได้มีการดำเนินการรวบรวมข้อมูล ทบทวน วิเคราะห์และ
สังเคราะห์ ตลอดจนการประชุมเชิงปฏิบัติการ และร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 5 ปี
(พ.ศ. 2566 – 2570) เพอื่ ใช้เปน็ ทิศทางในการดำเนินงานให้บรรลเุ ป้าหมายตามกรอบระยะเวลาท่ีกำหนด
ภายใตว้ สิ ัยทศั น์ “คนไทยทกุ คนมีทีอ่ ยอู่ าศัยถ้วนท่ัวและมีคุณภาพชีวติ ทด่ี ี ในปี 2579”

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี ขอขอบคุณ สถาบันพัฒนา
องค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สำนักงานการเคหะจังหวัดปทุมธานี เครือข่ายภาคประชาชนด้านที่อยู่อาศยั
สภาองค์กรชุมชน และเครือข่ายสหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ ที่ได้ร่วมจัดทำแผนการ
พัฒนาที่อยู่อาศัยจังหวัดปทุมธานี (พ.ศ. 2566 – 2570) และแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย
จังหวดั ปทมุ ธานี ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) เพอ่ื ยกระดับคุณภาพชีวติ และการอยอู่ าศัยของประชาชน
ในจังหวัดปทมุ ธานี ให้สอดรับกบั แผนยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาท่ีอยู่อาศัย ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 – 2579
และนำไปขบั เคล่ือนการดำเนินงานอย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลตอ่ ไป

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาทอ่ี ยู่อาศยั จงั หวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570

สารบญั

หนา้

บทที่ 1 บทนำ

1.1 ความเปน็ มาและความสำคญั 1

1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 2

1.3 ขอบเขตและแนวทางการจดั ทำแผนการพัฒนาที่อยูอ่ าศัยจงั หวดั ปทมุ ธานี 2

1.4 นิยามศัพท์ 3

1.5 ข้อมลู ทว่ั ไปจังหวัดปทุมธานี 5

บทท่ี 2 กรอบแนวคดิ ในการจัดทำแผนการพัฒนาทอ่ี ยู่อาศยั จังหวดั ปทุมธานี

2.1 การพัฒนาทีย่ ั่งยนื (Sustainable Development Goals: SDGs) 10

2.2 กรอบยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) 10

2.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 – 2570) 11

2.4 ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาที่อยอู่ าศยั ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) 12

2.5 แผนพฒั นาจังหวัดปทุมธานี พ.ศ. 2566 - 2570 13

บทท่ี 3 สถานการณแ์ ละแนวโน้มทอี่ ยอู่ าศัยของจงั หวดั ปทมุ ธานี

3.1 สถานการณด์ า้ นประชากร 14

3.2 สถานการณ์ตลาดท่ีอยู่อาศยั 15

3.3 ลกั ษณะชมุ ชนในพ้ืนทจี่ งั หวัดปทุมธานี 15

3.4 การคาดการณ์ความต้องการท่อี ยู่อาศัย 16

3.5 ข้อมูลผ้เู ดือดร้อนด้านที่อยูอ่ าศยั 17

3.6 ขอ้ มลู ความจำเป็นพ้นื ฐาน ปี 2565 จากสำนักงานพัฒนาชมุ ชนจังหวดั ปทุมธานี 17

3.7 ข้อมลู จากการฐานระบบบริหารจัดการข้อมลู การพฒั นาคนแบบชเี้ ป้า 18

(Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP)

3.8 ข้อมูลการขบั เคล่อื นงานด้านท่อี ยู่อาศัย จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) 18

3.9 ขอ้ มลู ด้านที่อยู่อาศยั ของการเคหะแห่งชาติ 35

บทท่ี 4 การวเิ คราะห์ SWOT และแผนการพัฒนาที่อยอู่ าศยั จังหวดั ปทุมธานี

4.1 การวเิ คราะห์ปจั จยั สภาพแวดลอ้ มภายใน 38

และปจั จัยสภาพแวดลอ้ มภายนอก (SWOT Analysis)

4.2 การวิเคราะห์ภาพอนาคตและความต้องการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวติ 40

และการจดั การท่ีอยู่อาศัย

4.3 แผนการพฒั นาทีอ่ ยู่อาศัย จังหวัดปทุมธานี (พ.ศ. 2566 - 2570) 42

แผนยุทธศาสตร์การพฒั นาทีอ่ ยู่อาศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570

สารบญั (ต่อ)

หน้า

4.4 ความเชื่อมโยงระหวา่ งเปา้ ประสงค์ กลยุทธ์และตวั ช้ีวัด 43

4.5 กลไกและระบบบริหารจัดการ 47

4.6 แผนปฏิบัติการขบั เคลอื่ นการพฒั นาที่อยู่อาศัย ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) รายปี 48

บรรณานกุ รม 60

ภาคผนวก

ผนวก ก ข้อมูลผเู้ ดือดรอ้ นด้านทอ่ี ยู่อาศยั จงั หวดั ปทมุ ธานี 53

ผนวก ข คำสั่งทเี่ ก่ียวข้อง 65

ผนวก ค ภาพกจิ กรรม 75

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาทีอ่ ยู่อาศัยจงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570

บทที่ 1 บทนำ

1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ การเป็นประเทศที่พฒั นาแลว้ ให้มคี วามม่นั คง มัง่ คง่ั ย่ังยืน
ในระยะยาวได้นั้น ประเทศต้องเร่งพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน
การพัฒนาประเทศไทยในปัจจุบัน มีการกำหนด ที่ส่งผลตอ่ คุณภาพชีวติ ของประชาชนให้มคี ุณภาพชีวติ ท่ดี ี
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) เพื่อเป็น จากการสํารวจสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปี 2556
กรอบในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการ ของสํานักงานสถิติแห่งชาติพบว่าคนไทยประสบปัญหา
พัฒนาเศรษฐกิจ มีการดำเนินเศรษฐกิจแบบเสรีทุนนิยม เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยเป็นจํานวนมาก ทั้งปัญหาการขาด
เน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นหลัก แคลนที่อยู่อาศัยและการไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย
ส่งผลให้ประชากรอพยพย้ายถิ่นเข้ามาทำงานในเมืองมาก ดังนั้นปัญหาที่อยู่อาศัย จึงเป็นปัญหาสําคัญของประเทศ
ขึ้น เกิดปัญหาการกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ และปัญหา ไทยที่ต้องได้รับการแกไ้ ขอย่างเรง่ ด่วนต่อไป
อนื่ ๆ ตามมา เชน่ ปัญหาความยากจน ชมุ ชนแออดั แหล่ง
เสื่อมโทรม อาชญากรรม ขยะมูลฝอย น้ำเสีย มลภาวะ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น คุณภาพชีวิตของคนเมืองลดลง ส่งคำสั่งคณะอนุกรรมการด้านนโยบายและแผนงานการพัฒนา
จากการเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมา ภาครัฐจึงมีการ ที่อยู่อาศัยที่ 3/2561 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2561
กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ดา้ นการสร้างโอกาสและความ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการขับเคลื่อนนโยบาย
เสมอภาคทางสังคม ด้วยการให้ความสำคัญกับการ และแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับจังหวัดโดยมีผู้ว่า
ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม ราชการจังหวัด เปน็ ประธานคณะทำงาน หัวหน้าหน่วยงาน
โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้ดอ้ ยโอกาส อีกทง้ั การ และผ้แู ทนหน่วยงานในพ้ืนท่ีเปน็ คณะทำงาน พฒั นาสังคม
ส่งเสริมศักยภาพโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการ และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เป็นคณะทำงาน
พึ่งตนเองและจัดการตนเอง เน้นการรวมกลุ่มเพื่อสร้าง และเลขานุการ หัวหน้าสำนักงานเคหะชุมชนและ
ความเข้มแข็ง ตลอดจนปรับพฤติกรรมในการจัดการ เจ้าหน้าที่สำนักงานภาคสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
วางแผนชีวิต ครอบครัว การเงินและอาชีพเพื่อสร้างความ (องคก์ ารมหาชน) เปน็ คณะทำงานและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร โดยให้มี
รับผิดชอบ และยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ประชาชน อำนาจหน้าที่ดำเนินการจัดทำแผนและขับเคลื่อนการพัฒนาที่
ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable อย ู ่ อาศ ั ยระด ั บจ ั งหว ั ดให ้ บรรลุ เ ป ้ า ห ม า ย ต า ม ก ร อ บ
Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ระยะเวลาท่ีกำหนด โดยมลี ักษณะสำคญั ของแผนและการ
ที่ประชาคมโลกตกลงร่วมกันในการนำไปใช้เป็นกรอบการ เช่อื มโยงนโยบายของรัฐบาล ดงั นี้
ดำเนินงานด้านการพัฒนาประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพ
ชีวติ ท่ดี ีใหแ้ กป่ ระชาชนในประเทศ 1. เชื่อมโยงนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไข
ปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยของ ประชาชนผู้มี
“ที่อยู่อาศัย” เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจําเป็นตอ่ รายได้น้อยในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงเชื่อมโยงกับแนวคิดและ
การดํารงชีวิตของมนุษย์เป็นสถานที่ที่รวมความเป็น นโยบายระดับสากล แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย
ครอบครัวให้เป็นหนึ่งเดียว หล่อหลอมสมาชิกในสังคม มี ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มาเป็นกรอบหลักใน
การถ่ายทอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีปลูกฝัง การจดั ทำแผนการพัฒนาที่อย่อู าศยั จงั หวัดปทุมธานี
นิสัย เจตคติค่านิยมให้แก่ทุกคน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของ
ความมั่นคงของมนุษย์ที่มีความสําคัญที่สุดท่ามกลาง 2. เป็นแผนที่สอดคล้องกับศักยภาพ โอกาส
กระแสโลกในศตวรรษที่ 21 มีการเพิ่มขึ้นของจํานวน สภาพปัญหา ความต้องการ และความเหมาะสมในด้าน
ประชากร การเข้าสู่สังคมสูงอายุการอพยพย้ายถิ่น และ ต่าง ๆ ตามบรบิ ทพ้นื ทโ่ี ดยเฉพาะความตอ้ งการที่อยู่อาศัย
ปัญหาที่ท้าทายหลากหลาย การพัฒนาประเทศไทยไปสู่ ของกลุ่มเป้าหมาย สภาพ ขนาด และรูปแบบที่อยู่อาศัย
สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพพร้อม

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาทีอ่ ยอู่ าศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 1

ระบบสาธารณูปโภค สาธารณปู การทีจ่ ำเปน็ ในระดับราคา 1.3 ขอบเขตและแนวทางการจัดทำแผนการพัฒนา
ทีก่ ลมุ่ เป้าหมายสามารถรับภาระได้ ทอี่ ยูอ่ าศัยจงั หวดั ปทุมธานี

3. คำนึงถึงความคมุ้ คา่ ในการดำเนนิ การและการพฒั นา แผนการพฒั นาที่อยู่อาศยั จังหวดั ปทมุ ธานี เป็นแผน
ที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ กลุ่มเป้าหมายได้รับ ที่มุ่งพัฒนาเรื่องที่อยู่อาศัยในจังหวัดแบบองค์รวม
ประโยชน์อย่างแท้จริง และทั่วถึงจึงต้องให้ความสำคัญกับ ที่ครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย
การมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการรับฟังความคิดเห็น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยให้ประชาชน
จากกลุ่มเป้าหมายและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาปัญหา และสร้างโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม
และความตอ้ งการของคนในจงั หวัด สอดคล้องกับความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย
ในจงั หวัด โดยมแี นวทางการดำเนนิ งานดังน้ี
4. มุ่งเน้นการทำงานแบบเครือข่ายร่วมกันทุกภาคส่วน 1. มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนแม่บทการพัฒนา
โดยคำนึงถึงความพร้อมและกระบวนการทำงานที่สามารถ ที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) รวมทั้ง
บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและภาคี สอดคล้องกับศักยภาพ โอกาส สภาพปัญหา และความ
ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ต้องการของประชาชนในพื้นท่ี
ในพื้นที่ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถ 2. นำฐานข้อมูลทีผ่ ู้มรี ายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียน
ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่เพื่อ เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลังที่เป็นปัจจุบัน
วางแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับโอกาสและ มาพิจารณาประกอบการดำเนินการเป็นลำดับแรก
ศักยภาพของจังหวัด และความร่วมมือในการสนับสนุน โดยเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลแผนที่ทางสังคม (Social
การขบั เคลื่อนแผนการพฒั นาที่อยอู่ าศยั จงั หวดั ปทุมธานี Map) เพือ่ ใหส้ ามารถชว่ ยเหลือผมู้ รี ายได้นอ้ ย ในดา้ นท่ีอยู่
อาศัยได้อย่างทั่วถึง และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุก
1.2 วตั ถุประสงค์ กลุ่มเปา้ หมายอยา่ งแทจ้ ริง
1. เพื่อเสริมสร้างโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย 3. การกำหนดแผนงาน โครงการ แหลง่ เงินในการดำเนิน
โครงการ ต้องเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของ
ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ แตล่ ะกลมุ่ เปา้ หมาย ตามความจำเปน็ เร่งด่วน ความพร้อม
และสรา้ งความเป็นธรรมในสังคม และศักยภาพในการดำเนินงานของหน่วยงาน โดยคำนึง
ถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และประโยชน์
2. เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย และ ทปี่ ระชาชนจะไดร้ ับเป็นสำคัญ
พัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยการ
จัดเตรียมที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมท่ี 1.4 นยิ ามศัพท์
เหมาะสม พร้อมระบบสาธารณูปโภคสาธารณูปการท่ี แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับจังหวัด
จำเป็นในระดับราคาท่กี ลุ่มเป้าหมายสามารถรับภาระได้
หมายถึง แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนงานพัฒนาด้านที่อยู่
3. เพ่ือบรู ณาการความรว่ มมอื ระหว่างหนว่ ยงานและ
ภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชา อาศัยของประชาชนในจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้เกิดคุณภาพ
สังคมในการดำเนินงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับทุก
กลุ่มเป้าหมาย และส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเอง ชวี ติ ท่ดี ี มที ่ีอยูอ่ าศัยท่ีมน่ั คงอยา่ งยั่งยืน
ไดอ้ ยา่ งยงั่ ยืน
เครือข่ายการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับจังหวัด หมายถึง

เครือข่ายการหนุนเสริมและพัฒนาแก้ไขความเดือดร้อนของ

ประชาชนดา้ นทีอ่ ยู่อาศัยระดับจงั หวดั อาทิ สำนกั งานพัฒนา

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทีอ่ ยู่อาศยั จงั หวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 2

สังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี สถาบัน ที่ดิน พัฒนาระบบสาธารณปู โภค สิ่งแวดล้อมชุมชน และการ
พัฒนาองค์กรชมุ ชน (องค์การมหาชน) สหพันธ์พัฒนาองค์กร พัฒนาที่อยู่อาศยั ที่สอดคล้องกบั วิถีชีวิตและความสามารถใน
ชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ การเคหะแห่งชาติ สภาองค์กร การจัดการของชุมชน บ้านมั่นคงจึงเป็นบ้านที่มากกว่าบ้าน
ชุมชนตำบล ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดปทุมธานี และ เป็นการสร้าง/ฟื้นฟูการจัดการตนเองของชุมชนให้เป็นชุมชน
สถาบันการศกึ ษา ท่ีเขม้ แข็งจดั การปัญหาไดด้ ว้ ยตนเอง

พมจ. หมายถึง สำนักงานพัฒนาสังคมและความ สหกรณ์ หมายถึง สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคง
มั่นคงของมนุษยจ์ งั หวัดปทมุ ธานี ทชี่ ุมชนได้จัดต้ังขนึ้ เพอื่ รองรบั การแก้ไขปัญหาทีอ่ ยู่อาศัย

พอช. หมายถึง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน โครงการบ้านพอเพียงชนบท หมายถึง โครงการ
(องค์การมหาชน) จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดต้ัง ที่รัฐบาลมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การ
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 มหาชน) ดำเนินการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่
เป็นองค์กรของรัฐตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. อาศัย 10 ปี (พ.ศ. 2559 – 2568) โดยเป็นแผนพัฒนาที่
2542 กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยชนบทในระยะเวลา 5 ปี จำนวน
352,000 ครัวเรือน ซึ่งมีประชาชนประสบปัญหาความ
กคช. หมายถงึ การเคหะแหง่ ชาติ ซึง่ ในพนื้ ทจี่ ังหวัด เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยและที่ดิน ทั้งบ้านที่ก่อสร้างมานาน
ปทมุ ธานเี รียกวา่ “สำนกั งานเคหะชุมชน” แล้วมีสภาพชำรุดทรุดโทรม กอ่ สรา้ งดว้ ยวสั ดุทไี่ มม่ ่ันคง ไม่ได้
ปรับปรุงซ่อมแซม และครอบครัวขยายที่มีความจำเป็นต้อง
สอช. หมายถึง สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจน ก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ แต่ไม่สามารถดำเนินการไดเ้ นือ่ งจาก
เมืองแห่งชาติ ซึ่งเป็นเครือข่ายองคก์ รชมุ ชนท่ีขับเคลือ่ นเรื่อง มรี ายไดไ้ ม่เพยี งพอ
การพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งชุมชนเมืองและชุมชนชนบท ในเขต
พ้ืนท่ีจังหวดั ปทุมธานี โครงการปทุมธานีโมเดล เป็นโครงการแก้ไขปัญหา
ที่อยู่อาศัยเพื่อคนยากจนที่บุกรุกที่ดินที่สาธารณะจังหวัด
องค์กรชุมชน หมายถึง การรวมตัวของชุมชน ปทุมธานี โดยมีเปา้ หมายในพืน้ ท่ีคลองระบายน้ำที่ 1 เร่ิมตน้
ท้องถิ่น หรือชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ซึ่งจดแจ้งการจัดตั้งตาม ดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558 มีพื้นที่รองรับ
พระราชบัญญตั สิ ภาองคก์ รชมุ ชน พ.ศ. 2551 30 ไร่ ใช้ มาตรา 44 เพ่ือใหไ้ ด้มา เพอ่ื รองรบั ผู้ถกู ผลกระทบ
จากการบริหารจัดการน้ำ บริเวณคลองหนึ่ง อำเภอคลอง
ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดปทุมธานี หมายถึง หลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีการใช้กระบวนการ “รัฐราษฎร์
เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดปทุมธานี ที่รวมตัวกันโดย รว่ มใจ คนื คลองน้ำใสใหก้ บั แผน่ ดิน” พฒั นาทอี่ ยอู่ าศยั โดยมี
มีวัตถุประสงค์ขับเคลื่อนงานพัฒนาครอบคลุมทุกมิติใน ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสิ่งแวดล้อมที่ดี มี
จงั หวัดปทุมธานี รูปแบบสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความสามารถในการใช้จ่าย
ของคนในชุมชน เพอ่ื สรา้ งความม่นั คงในทอี่ ยู่อาศยั ของชุมชน
สภาองค์กรชุมชนตำบล หมายถึง องค์กรชุมชนท่ี
รวมตัวกันจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน ที่อยู่อาศัย (Housing) หมายถึง สถานที่ที่บุคคล
ตำบล พ.ศ. 2551 ในครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในลักษณะการเป็นเจ้าของ
กรรมสิทธ์ิในทอ่ี ย่อู าศยั หรือ มสี ิทธคิ รอบครองในท่ีอยู่อาศัย
โครงการบ้านมั่นคง หมายถึง โครงการที่รัฐบาล
มอบหมายให้สถาบันองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) โดย
สำนักงานบ้านมั่นคงรับผิดชอบดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2546
เป็นต้นมา มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชน
คนจนเมืองทั่วประเทศ สร้างความมั่นคงในการครอบครอง

แผนยุทธศาสตร์การพฒั นาท่ีอยอู่ าศยั จังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 3

ครอบครวั (Family) หมายถงึ กล่มุ คน ซ่ึงประกอบดว้ ย คนไร้ที่พึ่ง (Helpless Persons) หมายถึง บุคคลซึ่งไร้ที่
บุคคล 2 คน หรือมากกว่า 2 คนขึ้นไป มีความเกี่ยวข้อง อ ย ู ่ อ า ศ ั ย แ ล ะ ไ ม ่ ม ี ร า ย ไ ด ้ เ พ ี ย ง พ อ แ ก ่ ก า ร ย ั ง ชี พ
ผูกพันกันทางสายโลหิต การสมรสหรือการรับเอาไว้ และให้รวมถึงบุคคลที่อยู่ในภาวะยากลําบากและไม่อาจ
(เช่น บุตรบุญธรรม คนใช้คนสวน) และอาศัยอยู่ด้วยกัน พึ่งพาบุคคลอื่นได้ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายที่ให้บริการตาม
เป็นครัวเรือน ครอบครัวอาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองคนไรท้ ี่พ่ึงตามพระราชบัญญัติ
คอื ครอบครวั เด่ียว และครอบครัวขยาย การคุ้มครองคนไร้ท่พี ง่ึ พ.ศ. 2557 ประกอบดว้ ย
1) บุคคลที่ประสบความเดือดร้อน เนื่องจากหัวหน้า
ครัวเรือน (Household) หมายถึง บุคคลทุกคนท่ี ครอบครัวหรือบุคคลที่เป็นหลักในครอบครัวตาย ทอดทิ้ง
อาศัยอยู่ในบ้านหรือหน่วยที่อยู่อาศัยเดียวกัน เช่น เพื่อน สาบสูญหรือต้องโทษจําคุก หรือประสบอุบัติเหตุหรือ
ร่วมห้องที่อยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน คู่ที่ยังไม่แต่งงาน เจ็บป่วยร้ายแรงจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้หรือไม่
อยู่ด้วยกัน สามีหรือภรรยาที่ไปอาศัยอยู่กับลูกๆ สามี สามารถดแู ลครอบครัวไดด้ ว้ ยเหตุใด
ภรรยา ลูกๆ ปู่ ย่า อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน บุคคล 2 คู่ 2) คนเร่รอ่ น
เช่าบ้านอยู่ในบ้านเดียวกัน ซึ่งตามความหมายนี้ คําว่า 3) บุคคลที่ซึง่ อาศัยทสี่ าธารณะเปน็ ท่พี ักนอนชั่วคราว
“ครอบครัวเดี่ยว” ซึ่งมีพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกัน จึงเป็นท้ัง 4) บุคคลที่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรแต่ยังไร้สัญชาติ
ครอบครัว และ ครวั เรอื น 5) บุคคลไม่มสี ถานะทางทะเบยี นราษฎร

ชุมชน (Community) หมายถึง อาณาบริเวณ
หรืออาณาเขตทางภูมิศาสตร์ที่ค่อนข้างแนน่ อนหรือท้องที่
หรือในเมือง ซึ่งมีอาณาบริเวณมากพอสมควร และมีคน
จํานวนหนึ่ง กลุ่มคน กลุ่มชน ประชาชนจํานวนหนึ่งอาศัย
อยู่รวมกันหรือตั้งภูมิลําเนาอยู่ในท้องที่หรือในเมือง
เดียวกนั โดยอาศยั อย่รู ว่ มกัน

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาที่อย่อู าศัยจงั หวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 4

1.5 ข้อมลู ทวั่ ไปจังหวัดปทุมธานี ในปพี ุทธศักราช 2459 พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คำว่า “จังหวัด” แทน
ความเปน็ มาของจงั หวัดปทมุ ธานี “เมือง” และให้เปลี่ยนการเขียนชื่อ“ประทุมธานี” เป็น
“ปทุมธานี” ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2459 ต่อมาใน
จังหวัดปทุมธานี เป็นถิ่นฐานบ้านเมืองมาแล้วไม่ สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรด
นอ้ ยกว่า 300 ปี นับต้งั แต่รชั สมัยสมเด็จพระนารายณ์ เกล้าฯให้ยุบจังหวัดธัญบุรีมาขึ้นกับจังหวัดปทุมธานี
มหาราช แห่งกรงุ ศรอี ยธุ ยา คอื เม่อื พุทธศักราช 2202 เมื่อ พ.ศ. 2475 จังหวัดปทุมธานีจึงได้แบ่งการปกครอง
มังนันทมิตรได้กวาดต้อนครอบครัวมอญ เมืองเมาะตะมะ เป็น 7 อำเภอดงั ที่เป็นเชน่ ปัจจบุ นั น้ี
อพยพหนีภัยจากศึกพม่า เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา ซ่ึงสมเด็จ ทต่ี ัง้ และอาณาเขตของจงั หวัดปทมุ ธานี
พระนารายณ์มหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
ครอบครัวมอญเหล่านั้น ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสามโคก จังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ในภาคกลางประมาณ
จากนั้นมาชมุ ชนสามโคกไดพ้ ัฒนามากข้นึ เปน็ ลำดับ ต่อมา เส้นรุ้งที่ 14 องศาเหนือ และ เส้นแวงที่ 100 องศา
ในแผน่ ดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรงุ ธนบุรี ตะวนั ออกอยูเ่ หนือระดับนำ้ ทะเลปานกลาง 2.30 เมตร
ชาวมอญได้อพยพหนีพม่าเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร มีเนื้อที่ประมาณ 1,525.856 ตารางกิโลเมตร หรือ
เป็นครั้งที่ 2 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงพระ ประมาณ 953,660 ไร่ ห่างจากกรุงเทพมหานครไป
กรุณาโปรดเกล้าฯ อนุญาตให้ตั้งบ้านเรือนที่บ้านสาม ทางทิศเหนือ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนน
โคก และครั้งสุดท้ายในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธ พหลโยธิน) เป็นระยะทางประมาณ 27.8 กิโลเมตร มี
เลิศหล้านภาลัยได้มีการอพยพชาวมอญครั้งใหญ่จาก อาณาเขตติดต่อกบั จังหวดั ใกล้เคียง ดังนี้
เมืองเมาะตะมะเข้าสู่ประเทศไทย เรียกว่า “มอญใหญ่”
พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชาวมอญ ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอบางไทร อำเภอบางปะ
บางส่วนตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสามโคกอีกเช่นเดียวกัน อินและอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอ
ฉะนั้นจากชุมชนขนาดเล็ก “บ้านสามโคก” จึงกลายเป็น หนองแคและอำเภอวหิ ารแดง จังหวัดสระบุรี
“เมอื งสามโคก” ในกาลต่อมา
ทิศตะวันออก ติดต่อกบั อำเภอองครกั ษ์ จงั หวัด
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรง นครนายก และอำเภอบางน้ำเปรย้ี วจังหวัดฉะเชงิ เทรา
เอาพระทัยใส่ดูแล ทำนุบำรุงชาวมอญเมืองสามโคกมิได้
ขาด ครั้งเมื่อเดือน 11 พุทธศักราช 2358 ได้เสด็จ ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอลาดบัวหลวง
ประพาสออกเยี่ยมพสกนิกรที่เมืองสามโคก และประทับที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางเลน จังหวัด
พลับพลาริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งซ้ายเยื้องเมืองสามโคก ยัง นครปฐม และอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบรุ ี
ความปลาบปลื้มใจแก่ชาวมอญเป็นล้นพ้น จึงได้พากัน
หลั่งไหลนำดอกบัวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นราชสักการะอยู่ ทิศใต้ ติดต่อกับเขตหนองจอก เขตคลองสามวา
เป็นเนืองนิจยังความซาบซึ้งในพระราชหฤทัยเป็นที่ยิ่ง จึง เขตสายไหม เขตบางเขน เขตดอนเมอื งกรงุ เทพมหานคร
บันดาลพระราชหฤทัยให้พระราชทานนามเมืองสามโคก“เมือง และอำเภอปากเกรด็ อำเภอบางบวั ทอง จงั หวดั นนทบุรี
ประทุมธานี” ซึ่งวันนั้นตรงกับวันที่ ๑๖ ตุลาคม
พุทธศกั ราช 2358 ด้วยพระมหากรุณาธคิ ุณดงั กล่าวชื่อ
เมอื งปทุมธานี จึงไดก้ ำเนิดนับตงั้ แตบ่ ัดน้ัน เป็นตน้ มา

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาทอี่ ยอู่ าศัยจงั หวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 5

แผนท่ีแสดงขอบเขตจงั หวดั ปทุมธานี

ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเป็นที่ราบลุ่ม ริมสอง สำหรบั พ้ืนท่ฝี ง่ั ซา้ ยของแมน่ ้ำเจา้ พระยานั้น มีคลองซอย
ฝั่งแม่น้ำโดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านใจกลางจังหวัด เป็นคลองชลประทานจำนวนมาก สามารถควบคุม
ในเขตอำเภอเมืองปทุมธานีและอำเภอสามโคก จำนวนปริมาณน้ำได้ ทำให้ปญั หาเกี่ยวกับอุทกภัยมีน้อย
เป็นระยะทาง ๒๗ กิโลเมตร ทำให้พื้นที่ของจังหวัด กว่าลักษณะดิน มีลักษณะเป็นดินเหนียวจัด สภาพดิน
ปทุมธานี ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งตะวันตกของ เป็นกรดปานกลางถึงเป็นกรดจัด มีค่า pH ประมาณ 6
จังหวัดหรือบนฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ พื้นที่ – 4 ซึ่งเป็นลักษณะของดินเปรี้ยว แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
ในเขตอำเภอลาดหลุมแก้วกับพื้นที่บางส่วนของอำเภอ คือกลมุ่ ดินนาดมี ีพน้ื ทป่ี ระมาณร้อยละ 30 กลุ่มดินนาท่ี
เมือง และอำเภอสามโคก กับ ฝั่งตะวันออกของจังหวัด มีสภาพเป็นกรดจัดมีพื้นที่ประมาณร้อยละ 70
หรือบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ พื้นที่อำเภอเมือง เนื่องจากลักษณะดินเป็นดินเหนยี ว ทำให้การระบายน้ำ
บางส่วน อำเภอธัญบุรี อำเภอคลองหลวง อำเภอหนองเสือ ไม่ดีและการไหลบ่าของน้ำบนผิวดินช้า ส่งผลให้ไม่
อำเภอลำลูกกา และบางส่วนของอำเภอสามโคก โดยปกติ เหมาะสมกับการปลูกพืชไร่ และการปลูกข้าวได้ผลผลิต
ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในฤดูฝนจะเพิ่มสูงขึ้นเฉล่ีย ต่ำ ต้องมีการปรับปรุง โดยการใช้ปูนขาวหรือปูนมาร์
ประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมใน ลควบคู่กับการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อให้การเพาะปลูกได้ผลผลิต
บริเวณพื้นที่ราบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นบรเิ วณกว้าง ดขี ้นึ
และก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำ
เจ้าพระยา

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาท่อี ยอู่ าศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 6

การคมนาคม

เส้นทางคมนาคมทส่ี ำคัญ ไดแ้ ก่ ทางหลวงหมายเลข 306 เปน็ ทางหลวงสายหลัก
ในแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมโยงกับจังหวัดนนทบุรี ผ่าน
ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ย่านอุตสาหกรรม พาณิชยกรรมที่สำคัญของจังหวัด
เป็นทางหลวงสายหลักเชื่อมโยงกรุงเทพมหานคร มปี ริมาณการจราจรสงู และประสบปญั หาการจราจรมาก
และปริมณฑล กับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผ่านอำเภอลำลูกกา อำเภอธญั บรุ ี และอำเภอคลองหลวง ทางหลวงหมายเลข 307 เป็นทางหลวงสายหลกั
ในเขตผังเมืองรวมแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมโยงโครงข่าย
ทางหลวงหมายเลข 346 (ปทุมธานี - ลาดหลุมแก้ว) รอบนอกที่สำคญั ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 345, 346,306
เชื่อมโยงจังหวัดปทุมธานี กับจังหวัดนครปฐมและจังหวัด ผ่านย่านอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และสถานท่ี
สุพรรณบุรี ผ่านอำเภอเมืองปทมุ ธานี และอำเภอลาดหลุมแก้ว ราชการของจังหวัดมีการพัฒนาพื้นที่สองข้างทาง
เป็นอยา่ งมาก ทำใหใ้ นปัจจุบันประสบปัญหาการจราจร
ทางหลวงหมายเลข 347 (บางพนู - ศนู ย์ศลิ ปาชีพ
บางไทร) เป็นทางหลวงสายหลักด้านทิศเหนือ ที่เชื่อมโยง ทางด่วนแจ้งวัฒนะ – บางพูน การคมนาคม
กับจังหวดั พระนครศรีอยุธยา และภาคเหนือ ผ่านอำเภอ ทางรถไฟ มีเส้นทางรถไฟสายเหนือ และสายตะวันออก
เมอื งปทุมธานี และอำเภอสามโคก เฉียงเหนือผ่าน โดยมีจุดจอดรถที่สถานีรถไฟรังสิต
และสถานีเชียงราก อีกทั้งยังมีจุดจอดรับส่งผู้โดยสาร
ทางหลวงหมายเลข 345 เปน็ โครงขา่ ยทางหลวง ระยะสั้นเพือ่ เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร และจังหวดั
สายหลักด้านทิศใตท้ ี่สำคัญของทางหลวงวงแหวนรอบ ใกล้เคียง ที่หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ อีกทั้งขณะนี้
นอก ทำให้สามารถติดต่อกับภาคใต้ ภาคตะวนั ตก และ อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าในพื้นที่ปทุมธานี
ภาคเหนือ จำนวนสองเส้นทาง ได้แก่รถไฟฟ้าสายสีแดง
(บางซื่อ - รงั สิต) และสายสเี ขียวหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทีอ่ ยอู่ าศัยจังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 7

การปกครองและประชากร จากการทำสำมะโนประชากรซึ่งเป็นประชากรแฝง
ในระดับจงั หวัดแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ
จังหวัดปทุมธานีแบ่งการปกครองส่วนภูมิภาค
ออกเป็น 7 อำเภอ 60 ตำบล 345 หมู่บ้าน 65 อปท. 1. ประชากรแฝงกลางคืน หมายถึง ประชากร
ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาล ที่อาศัยอยูประจำในจังหวัดนั้นๆ โดยไม่มีชื่ออยูใน
นคร 1 แห่ง เทศบาลเมอื ง 10 แห่ง เทศบาลตำบล 17 แหง่ ทะเบียนบ้านในจงั หวดั ทีอ่ าศัยอยู่
องคก์ ารบริหารส่วนตำบล 35 แห่ง
2. ประชากรแฝงกลางวัน หมายถึง ประชากร
จังหวดั ปทุมธานี มจี ำนวนประชากร ณ วันที่ 31 ที่เข้ามาเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ผู้มาทำงานที่มี
ธันวาคม 2564 จำนวน 1,190,060 คน จำแนกเป็น อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หรือเข้ามาทั้งเรียนและทำงาน
ชาย 563,851 คน และหญิง 626,209 คน ความ ในจังหวดั ท่ีตนเองไมไ่ ดอ้ าศัยอยู่
หนาแน่นของประชากร 770.99 คนต่อตารางกิโลเมตร
จังหวัดปทุมธานี ประชากรแฝง รวมจำนวน
อำเภอที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุด ได้แก่ 296,250 คน สวนใหญ่เป็นประชากรแฝงกลางวัน
อำเภอลำลูกกา รองลงมาคือ อำเภอคลองหลวงอำเภอ ที่เข้ามาเรียนหนังสือ จำนวน 93,750 คน คิดเป็น
ธัญบรุ ี อำเภอเมอื งปทุมธานี อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอ รอยละ 7.5 และท่ีเขา้ มาทำงาน จำนวน 2.02 แสนคน
สามโคก และอำเภอหนองเสอื ตามลำดับ หรือคดิ เปน็ รอ้ ยละ 16.2

อำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรต่อตาราง การศึกษา
กิโลเมตร สูงสุด คือ ธัญบุรี 1,865.9 คน รองลงมา ได้แก่
อำเภอเมืองปทุมธานี ประมาณ 1,701.4 คนต่อตาราง ในปีการศึกษา 2565 จังหวัดปทุมธานี มี
กิโลเมตร อำเภอหนองเสือ จะมีความหนาแน่นของ จำนวนสถานศึกษา ทั้งหมด 325 แห่ง แบ่งเป็น สังกัด
ประชากรต่ำสุดที่ 129.9 คนต่อตารางกิโลเมตร เนื่องจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ)
ยังมีสภาพส่วนใหญเ่ ปน็ พน้ื ท่ีทำการเกษตร จำนวน 192 แห่ง โรงเรียนสำนักบริหารงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 87
ประชากรแฝง แห่ง สถาบันการอาชีวศึกษา 3 แห่ง สถาบันอุดมศึกษา
11 แหง่ สถานศึกษาสงั กัดองค์การปกครองสว่ นท้องถ่ิน
การเปลี่ยนแปลงสู่ภาคอุตสาหกรรมของประเทศ 34 แห่ง และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ
ไทย ส่งผลให้มีผู้อพยพเข้ามาทํางาน เรียนในจังหวัด และการศึกษาตามอัธยาศัย 67 แห่ง มีนักเรียน
ใหญ่ๆ มากขึ้น โดยไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาให้ถูกต้อง นักศึกษาในระบบ ทั้งหมด 318,707 คน จำแนกตาม
ตามกฎหมาย ประชากรเหล่านี้ เรียกว่า “ประชากรแฝง” ระดับการศกึ ษา ดังนี้ ระดับอนุบาล จำนวน 31,255 คน
ซึ่งเมื่อประชากรแฝงเหล่าน้ีเพิ่มมากขึ้น จะทำให้ ระดับประถมศึกษา จำนวน 77,754 คน ระดับ
ประชากรเดิมที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ เขาถึงการบริการ มัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 38,274 คน มัธยมศึกษา
จ า ก ภ า ค ร ั ฐ ไ ด ้ น ้ อ ย ล ง เ พ ร า ะ ม ี ป ร ะ ช า ก ร ท ี ่ อ า ศั ย ตอนปลาย จำนวน 23,603 คน ระดับประกาศนียบัตร
อยู่มากกว่าที่สามารถให้บริการได้ เช่น การบริการ วิชาชีพ จำนวน 7,209 คน ระดับประกาศนียบัตร
ด้านสาธารณูปโภคการรักษาพยาบาลอีกทั้งการมี วิชาชพี ชั้นสงู จำนวน 3,952 คน และระดับอุดมศึกษา
ประชากรแฝง อาศัยอยูในพื้นที่มากขึ้นนั้น ก่อให้เกิด จำนวน 136,667 คน
ความแออัด มลภาวะต่างๆ เพ่ิมมากข้นึ อีกด้วย การมีช่ือ
ในทะเบยี นบา้ นเทียบกับการอยจู่ ริง พบว่า จังหวัดทเ่ี ป็น ศาสนา
ศูนย์กลางทางสังคมและเศรษฐกิจ เป็นแหล่งท่องเที่ยว
มีประชากรที่เข้ามาเรียนมาทำงาน รวมทั้งเข้ามาอยู่ จังหวดั ปทมุ ธานี มีความหลากหลายทางศาสนา
อาศัยในจังหวัดนั้นๆ โดยไม่มีการย้ายทะเบียนบ้าน โดยข้อมูลจากสำมะโนประชากรและเคหะ สำนักงาน
เป็นจำนวนมากทำให้การบริการขั้นพื้นฐานของรัฐ สถิติแห่งชาติ ระบุว่า มีประชากร ร้อยละ 95.8 นับถือ
ไม่เพียงพอ ประชากรกลุ่มนี้นับเป็นประชากรแฝง ศาสนาพุทธ รองลงมา ร้อยละ 2.7 นับถือศาสนา

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาทีอ่ ยูอ่ าศยั จงั หวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 8

อิสลาม ร้อยละ 0.7 นับถือศาสนาศริสต์ (ร้อยละ 0.7) ข้อมูลเศรษฐกิจ
และ ร้อยละ 0.8 นับถือศาสนาอื่นๆ ซึ่งในปี 2564 จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการ
จังหวัดปทุมธานีมีจำนวนศาสนสถาน ประกอบด้วย
วัด 195 แห่ง สำนักสงฆ์ 2 แห่ง โบสถ์คริสต์ 39 แห่ง พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2559
มัสยิด ๓๐ แห่ง พระภิกษุ 3,163 รูป และสามเณร จังหวัดปทุมธานี มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด
382 รูป (Gross Province Product : GPP) 346,723 ล้านบาท
เป็นมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจนอกภาค
การสาธารณสุข เกษตรเป็นส่วนใหญ่ (ร้อยละ 98.3) มูลค่าเพิ่มในภาค
การเกษตร มีเพียงประมาณร้อยละ 1.7 ผลิตภัณฑ์
ในปี 2563 จังหวัดปทุมธานี มีโรงพยาบาล จังหวัดต่อคน (GPP Per Capita) ประมาณ 235,596 บาท
ของรัฐบาล 8 แห่งโรงพยาบาลเอกชน 12 แห่ง ต่อคน สงู อยลู่ ำดับท่ี 13 ของประเทศ และต่ำกว่าระดับ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 78 แห่ง และคลินิก ค่าเฉลี่ยของกลุ่มจังหวัดปริมณฑล โดยอยู่ในลำดับที่ 3
666 แห่ง สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็น รองจากจังหวัดสมุทรปราการ และจงั หวดั นครปฐม
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสังกัดรัฐบาล ดังนี้ แพทย์
162 คน ทันตแพทย์ 71 คน พยาบาล 961 คน มี ภาวะค่าครองชีพ
จำนวนเตียงทั้งหมด 3,047 เตียง โดยมีสัดส่วนแพทย์
1 คน ต่อประชากร 7,072 คน ทันตแพทย์ 1 คน ครัวเรือนของจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีขนาดครัวเรือน
ประชากร 16,136 คน และพยาบาล 1 คน เฉลี่ยประมาณ 2.9 คนต่อครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายเฉล่ีย
ตอ่ ประชากร 1,192 คน เดือนละ 33,604 บาท จำแนกเป็นค่าใช้จ่าย
เพื่อการอุปโภคบริโภค 28,641 บาท (ร้อยละ 85.2)
สภาพเศรษฐกจิ และสังคม และเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคเฉลี่ย
เดือนละ 4,963 บาท (ร้อยละ 14.8) ภาระค่าใช้จ่าย
สภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของจังหวัด ที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย
ปทุมธานี มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว รวมแล้วส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าอาหาร
ในปี พ.ศ. 2563 มีโรงงานทั้งสิ้น 3,264 สถาน และเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) (ร้อยละ 29.2)
ประกอบการ เงินทุน 311,466.21 ล้านบาท รองลงมาเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางและการ
จำนวนคนงาน 230,343 คน ขนาดของครัวเรือน สื่อสาร (ร้อยละ 25.2) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
โดยเฉลีย่ 2.9 ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน เครื่องแต่งบ้านและเครื่องใช้ต่าง ๆ (ร้อยละ 18.6)
ต่อครัวเรือน ประมาณ 46,978 บาท และค่าใช้จ่าย และอื่นๆ ในอัตราส่วนไม่ถึงร้อยละ 10 ของค่าใช้จ่าย
เฉลี่ยตอ่ เดือน ตัวครวั เรอื น ประมาณ 33,824 บาท ทั้งสิ้นต่อเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลของปีท่ี
ผ่านมา พบว่า ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในจังหวัดเพิ่มข้ึน
ในปี 2562 จังหวัดปทุมธานี มีมูลคา่ ผลิตภณั ฑ์ เฉล่ียรอ้ ยละ 6.3 ตอ่ ปี จากทีเ่ คยอยู่ทป่ี ระมาณเดือนละ
ภาคและจังหวัด ตามราคาประจำปี (GPP) 434,004 ล้านบาท 29,770 บาท เมื่อค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 246,897 บาท จัดอยู่ในลำดับ ความสามารถในการจดั ซ้ือทีอ่ ยอู่ าศยั ย่อมลดลง
ที่ 14 ของประเทศ และลำดับท่ี 5 ของภาค

ด้านการเกษตร

พื้นที่การเกษตรมีอยู่ในทุกอำเภอ และมีมากที่สุด
ในเขตอำเภอลำลูกกา อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอ
หนองเสือ และอำเภอคลองหลวง โดยมีข้าวเป็นพืช
เศรษฐกิจที่สำคัญ พื้นที่เพาะปลูกข้าว 310,678 ไร่
ผลผลิต 22,399 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยต่อ ไร่ 716.44
กิโลกรัมต่อไร่

แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทอ่ี ยอู่ าศัยจงั หวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 9

บทท่ี 2 กรอบแนวคิดในการจัดทำแผนการพัฒนาท่อี ยอู่ าศยั จังหวดั ปทุมธานี

นโยบายและยุทธศาสตร์
2.1 การพฒั นาท่ียง่ั ยืน (Sustainable Development Goals: SDGs)

เป็นเ ค รื่ อ ง กำหนดทิศทางการพั ฒ น า ของโลกในระยะเวลา 15 ปี (พ.ศ. 2559 - 2573) โดยมี
เป้าหมายสูงสุดเพื่อขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ไม่ทำลายแหล่ง
ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม รวมทงั้ ใหค้ วามสำคญั มากย่ิงขึ้นต่อการมีสว่ นรว่ มของทุกภาคสว่ น ประกอบด้วย
17 เปา้ หมาย (Goal) โดยในเป้าหมายท่ี 11 ทำให้เมอื งและการต้ังถน่ิ ฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มี
ภูมิต้านทาน และยั่งยืน (Make cities and human settlements inclusive, safe, resilient and sustainable)
มีเป้าประสงค์ครอบคลุมในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเมืองและชุมชน ประกอบด้วย การเข้าถึงที่อยู่อาศัยและ
บริการพื้นฐานการยกระดับชุมชนแออัด การเข้าถึงคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืน ปลอดภัย ในราคาที่จ่ายได้ และคำนึงถึง
กลมุ่ คนท่ีอยู่ในสถานการณ์ท่เี ปราะบาง ผหู้ ญงิ เด็ก ผู้มคี วามบกพร่องทางร่างกาย และผูส้ งู อายุ ยกระดับการพัฒนา
เมืองและขีดความสามารถให้ครอบคลุมและยั่งยืน เพื่อการวางแผนและการบริหารจัดการการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
อย่างมีส่วนร่วมและบูรณาการ ลดผลกระทบทางลบของเมืองต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาและเข้าถึงพื้นที่สีเขียว การ
สนบั สนุนให้มคี วามเชือ่ มโยงทางเศรษฐกจิ สังคมและส่ิงแวดลอ้ มในพื้นท่ีเมอื ง รอบเมือง และชนบท

2.2 กรอบยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579)

เป็นกรอบการพัฒนาประเทศระยะยาว พร้อมกับการปฏิรูปและการพัฒนาระบบและกลไกการบริหาร
ราชการแผ่นดินในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับคุณภาพ
ของประเทศไทยและบรรเทาความรุนแรงของปัญหา ทั้งด้านเศรษฐกิจความเหลื่อมล้ำ ทุจริตคอรัปชั่นและความ
ขัดแย้งในสังคม รวมถึงความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามและบริหารจัดการกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นใน
อนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถดำรงรกั ษาความเป็นชาติทีม่ ีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
และคนไทยในประเทศมีความอยู่ดีมีสุขอย่างถ้วนหน้า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” สำหรับ “ความมั่นคง” เป็นความ
ปลอดภัยในทุกระดับและทุกมิติทั้งในระดับประเทศ และระดับชุมชน โดยเน้นชุมชนเข้มแข็ง ครอบครัวอบอุ่น มี
รายได้ มีทอ่ี ยอู่ าศยั และความปลอดภัยในชวี ิตและทรัพยส์ นิ ซ่งึ สอดคล้องกบั กรอบแนวทางการพัฒนาในยทุ ธศาสตร์
ท่ี 4 ด้านการสร้างโอกาส ความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม เพื่อให้เกิดการเร่งกระจายโอกาสการพัฒนา
และสร้างความมนั่ คงให้ทั่วถึง ลดความเหล่ือมลำ้ ไปสสู่ ังคมทีเ่ สมอภาคและเป็นธรรม

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทอ่ี ยอู่ าศัยจังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 10

2.3 แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2566 - 2570)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ได้กำหนดทิศทางและเป้าหมาย

การพัฒนาบนพื้นฐานของแนวคิดที่สำคัญ 4 ประการ ประกอบด้วย หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดบริหาร
จัดการองค์กรที่มุ่งเน้นความยืดหยุ่น (Resilience) เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติและโมเดล
เศรษฐกิจ BCG โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอยา่ งยัง่ ยืน โดยมี
แนวทางการพฒั นาในประเด็นทส่ี ำคัญ ดังนี้

หมดุ หมายท่ี 9 ไทยมีความยากจนข้ามรนุ่ ลดลงและคนไทยทกุ คนมีความค้มุ ครองทางสังคมทเ่ี พียงพอเหมาะสม
โดยยกระดับความคุ้มครองทางสงั คมเพ่ือพัฒนาคนทุกชว่ งวยั เพ่ือพฒั นาคุณภาพชวี ติ มุ่งสนับสนนุ ระบบสวัสดกิ ารทาง
สงั คมที่จดั โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคีการพฒั นาต่างๆควบคู่ไปกับการบูรณาการด้านสวัสดิการและเงิน
ช่วยเหลือในกลุ่มผู้สูงอายุ ให้เข้าถึงบริการดูแลระยะยาว ด้านสาธารณสุข และสนับสนุนการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้
เหมาะสม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ยากจนตลอดจน สนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีทางเลือกของที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย มี
บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และที่อยู่อาศัยที่ออกแบบเพื่อผู้สูงอายุอย่างเพียงพอต่อความ
ตอ้ งการ

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาทอี่ ยู่อาศัยจังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 11

2.4 ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาท่อี ยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579)

มุ่งเนน้ สง่ เสรมิ และพัฒนาท่ีอยู่อาศัยสำหรับประชาชน สนบั สนนุ ให้มีทอี่ ยู่อาศยั ที่ได้มาตรฐาน ภาพแวดล้อมท่ีดี
สร้างโอกาสในการเข้าถึงระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในทุกระดับเพ่ือ
นำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบของยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็น
ยทุ ธศาสตร์ และเป้าประสงค์ ดังนี้
วสิ ยั ทัศน์ (Vision) : “คนไทยทกุ คนมีที่อยู่อาศยั ถ้วนทั่วและมคี ุณภาพชวี ิตทด่ี ี ในปี 2579”
พันธกิจ (Missions) : 1. สง่ เสริมและพฒั นาท่อี ยู่อาศัยสำหรับประชาชน

2. ส่งเสรมิ มาตรการทางการเงินเพอ่ื ทีอ่ ยู่อาศยั
3. บูรณาการความร่วมมือดา้ นที่อยู่อาศยั ทุกภาคส่วน
4. ส่งเสริมและพัฒนาชมุ ชนให้เขม้ แข็งดา้ นทอ่ี ยู่อาศัย
5. พัฒนาเมืองให้มสี ภาพแวดลอ้ มท่ีดี
ประเด็นยทุ ธศาสตร์ : 1. การพัฒนาและสนบั สนนุ ให้มีท่อี ยู่อาศยั ท่ีได้มาตรฐาน
2. การเสริมสรา้ งระบบการเงนิ และสนิ เช่ือเพ่ือการอยู่อาศัย
3. การยกระดับการบูรณาการด้านบริหารจัดการท่ีอยู่อาศัย
4. การส่งเสริมให้ชมุ ชนเขม้ แข็งได้อยา่ งย่ังยืน
5. การจัดการส่งิ แวดล้อมเพ่อื คุณภาพชีวติ ทดี่ ี
เป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ : เป้าประสงค์ เป็นผลสัมฤทธิ์ตามประเด็นยุทธศาสตร์ ที่เกิดจากการดำเนินงานตาม
ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาทีอ่ ยูอ่ าศัยในระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) โดยมี 5 เปา้ ประสงค์ ดงั นี้
เป้าประสงค์ท่ี 1 สนับสนุนให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานส่งเสริมปริมาณที่อยู่อาศัยที่กลุ่มเป้าหมาย
รับภาระได้ อย่างเพียงพอ ทุกคนมีที่อยู่อาศัยอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามความต้องการขั้นพื้นฐาน
และความสามารถในการรับภาระ รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
ประชาชนมีความมั่นคงในการอยู่อาศัยและได้รับความคุ้มครองสิทธสิ ่วนบุคคลอย่างเท่าเทียม และเสมอภาค และไม่
สง่ ผลกระทบต่อบุคคลอน่ื
เป้าประสงค์ท่ี 2 ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงระบบการเงินและระบบสินเชื่อประชาชนสามารถจัดซ้อื ท่ี
อยู่อาศัยในอนาคต สร้างโอกาสผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้อย่างเสมอภาค และส่งเสริมรูปแบบที่อยู่อาศัยที่
เหมาะสมกับผู้ทีม่ ีรายไดน้ ้อย ท้งั ระบบเช่า เชา่ ซอื้ และขาย
เป้าประสงค์ท่ี 3 ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานด้านที่อยู่อาศัยส่งเสริมกระบวนการบริหาร
จัดการการอยู่อาศัยทีม่ ีประสิทธิภาพ ภายใตก้ ระบวนการมสี ่วนรว่ มของทุกภาคส่วน ลดชอ่ งวา่ งการผลิตท่ีอยู่อาศัยที่
ไม่สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของประชาชน มีการบรหิ ารจัดการการอยู่อาศัยที่มปี ระสทิ ธิภาพและต่อเนอื่ ง
เป้าประสงค์ท่ี 4 ชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้มีการบริหารจัดการชุมชน สนับสนุนการใช้ภูมิ
ปัญญาและแรงงานของท้องถิ่นในการสรา้ งที่อยู่อาศัยและส่งเสรมิ การรวมกลุ่ม การสร้างอาชีพในชุมชนท่ีสอดคล้อง
กบั การดำรงชีวิต และวฒั นธรรมท่ีเก้อื กูลความเป็นอย่ขู องครัวเรือนอยา่ งมคี วามสุข
เป้าประสงค์ท่ี 5 การจัดการระบบสาธารณูปโภค ระบบสาธารณูปการ จัดการที่ดินและผังเมืองที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่มี
สภาพแวดล้อมท่ีดี มีที่อยู่อาศัยที่มีคณุ ภาพ ได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ เหมาะสมแก่การอยู่อาศัย และใช้ทรัพยากร
อย่างคุ้มค่า ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และตั้งอยู่ในชุมชนที่มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่เหมาะสม
เพียงพอตอ่ การอยอู่ าศยั และไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาที่อย่อู าศยั จงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 12

2.5. แผนพัฒนาจังหวัดปทุมธานี (พ.ศ. 2566-2570)
วิสัยทัศน์ : ปทุมธานี เมอื งน่าอยู่ ศูนยก์ ลางธรุ กิจบรกิ ารและฐานการผลติ สินคา้ และบริการท่ีมีมูลคา่ สูง
พันธกจิ : 1. อนรุ ักษ์และรักษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมและวฒั นธรรมใหค้ นรนุ่ ต่อไปได้ใชอ้ ย่างยั่งยนื
2. เพิ่มขีดความสามารถและยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการด้าน
เกษตรอตุ สาหกรรม และการทอ่ งเทีย่ ว
3. ยกระดับคุณภาพชวี ิตของประชาชน ใหอ้ ยดู่ มี ีสขุ ท้งั สขุ ทางกาย จิตใจ มคี วามม่ันคง ด้านอาชีพ
และรายได้ และมีสภาพความเป็นอยทู่ ดี่ ี

เป้าประสงคร์ วม : 1. ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมได้รับการอนรุ กั ษ์ฟืน้ ฟู และใชป้ ระโยชน์อย่างสมดลุ และย่งั ยนื
2. ผลติ ภัณฑ์เกษตร อาหารและอุสาหกรรมมคี ุณภาพ ไดม้ าตรฐานและมีศักยภาพเชงิ ธุรกิจ
3. แหล่งทอ่ งเทยี่ วไดร้ บั การพัฒนาและเชื่อมโยงธรุ กจิ และบริการดา้ นการท่องเท่ียวอย่างมีคุณภาพได้มาตรฐาน
4. ประชาชนมีสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง แหล่งที่อยู่ อาศัย
สะอาดสวยงาม ปลอดภัย ภายใต้สงั คมประชาธิปไตยที่มธี รรมาภบิ าล

ประเด็นยทุ ธศาสตร์

ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 : พฒั นาสภาพแวดล้อมเมืองใหน้ ่าอยู่ เอ้ือต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและสังคม

กลยทุ ธ์ : 1. สร้างระบบและกลไกในการควบคมุ เฝา้ ระวงั คุณภาพสง่ิ แวดล้อมตงั้ แตร่ ะดับชมุ ชน

2. สง่ เสริมการบริหารจดั การสิ่งแวดลอ้ มและการมีส่วนรว่ มอย่างเปน็ ระบบและมี

ประสิทธิภาพ

3. ส่งเสรมิ การพัฒนาเมืองอสุ าหกรรมเชงิ นเิ วศ

4. พฒั นาโครงข่ายการคมนาคมและระบบโลจสิ ตกิ ส์ รองรับการขยายตวั ของเศรษฐกิจและสังคม

ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 : ยกระดับการผลิต ภาคการเกษตร อตุ สาหกรรม และบริการใหม้ ีมลู ค่าสูง ได้มาตรฐานสู่ตลาดโลก

กลยุทธ์ : 1. พัฒนาอตุ สาหกรรมและมาตรฐานการผลิตสนิ ค้าเกษตรและอตุ สาหกรรม

2. เพ่มิ ขีดความสามารถเชงิ ธุรกจิ ของผู้ประกอบการและธุรกิจบรกิ าร

3. พัฒนาตลาดสนิ คา้ เกษตร อตุ สาหกรรม และธรุ กิจบรกิ าร เชอ่ื มโยงตลาดโลก

ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 : พัฒนาและยกระดับการท่องเท่ียวเชอ่ื โยงธุรกิจ และมาตรฐานบริการ

กลยทุ ธ์ : 1. สง่ เสรมิ พัฒนา และยกระดับแหลง่ ท่องเท่ยี วให้มีศักยภาพและได้มาตรฐาน

2. สง่ เสริมการสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมในแหล่งทอ่ งเท่ยี วและธุรกิจบริการทเี่ กย่ี วข้อง

3. สง่ เสรมิ กิจกรรมและรูปแบบการท่องเท่ยี วเชงิ สรางสรรค์เพือ่ สร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่มิ การทอ่ งเท่ยี ว

ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 : พัฒนาและสง่ เสรมิ ศักยภาพคนและชมุ ชนใหม้ ีคุณภาพรองรบั การเปลีย่ นแปลงโครงสรา้ ง

ประชากรและสงั คม

กลยุทธ์ : 1. พฒั นาคุณภาพชีวติ และโอกาสในการประกอยอาชพี กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม

2. สร้างสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพคนและชุมชนทกุ มติ ิ

(เศรษฐกจิ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ความมั่นคง และความปลอดภัย)

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาท่อี ยูอ่ าศัยจังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 13

บทที่ 3 สถานการณแ์ ละแนวโน้มทอี่ ย่อู าศัยของจงั หวัดปทุมธานี

3.1 สถานการณด์ า้ นประชากร

จากสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครองจังหวัดปทุมธานี พบว่า
จำนวนประชากรในจังหวัดปทุมธานี มีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อทำการคำนวณอัตราการเจริญเติบโตของ
ประชากรเพื่อประมาณการจำนวนประชากรในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า โดยใช้ปีพ.ศ. 2560 เป็นปีฐาน พบว่า
ประชากรในจังหวัดปทุมธานี มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 2.19 ซึ่งมีผลทำให้ในอีก 20 ปีข้างหน้า (พ.ศ.
2580) จำนวนประชากรจะเพิม่ ขึน้ เปน็ 1,741,254 คน จากการเกิด การย้ายถิน่ เข้ามาแสวงหารายได้ ประชากร
แฝงในรูปแบบต่าง เนื่องจากพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางความเจริญ (กรุงเทพมหานคร) พร้อมทั้ง
ในพื้นที่เองยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวน 2 แห่ง ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัย ต้องมีจำนวนมากขึ้นให้
เพยี งพอเพ่ือรองรบั การเพ่ิมข้นึ ของประชากร ทงั้ น้ี กล่มุ ประชากร จำนวนมากทเี่ ข้ามาอยู่อาศัยมีรายได้ที่แตกต่างกัน
ส่งผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่แตกต่างกัน ประกอบกับ ข้อมูลการสำรวจประชากรของประเทศ
ไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แสดงให้เห็นถึง โครงสร้างทางอายุของ
ประชากรในจังหวัดปทุมธานี ในปี พ.ศ. 2565 พบว่า มีจำนวนผู้สงู อายุ 60 ปีขึน้ ไป จำนวน 186,628 คน คิดเปน็
ร้อยละ 15.68 ของประชากรทั้งหมด ถือได้ว่าจังหวัดปทุมธานี กำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ (Aged Society) ซึ่งคาดวา่
จังหวัดปทุมธานี อีก 5 ปี ในปี พ.ศ. 2570 จะได้เขา้ สสู่ ังคมสูงวัยอย่างสมบรู ณ์ (Completed Aged Society) และ
ในปี พ.ศ. 2583 ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ความต้องการที่อยู่
อาศัยจึงต้อง ตอบสนองความต้องการหรือความจำเป็นในด้านการใช้ประโยชน์ที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตและช่วยอำนวย
ความสะดวกรวมถึงการสร้างความปลอดภัยให้แกป่ ระชากรสงู วัย

นอกจากนน้ั กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ไดว้ เิ คราะห์สถานการณ์ความยากจนและความ
เหลือ่ มลำ้ ดา้ นการถอื ครองที่ดินและที่อย่อู าศยั พบว่า โอกาสในการเป็นเจา้ ของกรรมสิทธ์ทิ ่ีอยู่อาศัยของประชาชนใน
จังหวัดปทุมธานี มีสัดส่วน ลดลง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งใน
รูปแบบของท่ดี ินและที่อยู่อาศยั ซึง่ แสดงใหเ้ ห็นถึงความเหล่ือมล้ำของการได้รับโอกาสในการเข้าถึง ความม่ันคงด้าน
ทอี่ ยู่อาศยั ของประชากรในจงั หวดั ปทุมธานี เน่ืองจากทดี่ นิ มีจำกดั ในขณะท่จี ำนวนประชากรเพมิ่ ขึ้น มเี พียงประชากร
กลุ่มเล็กๆ ที่ได้ถือครองที่ดินสูงถึงร้อยละ 79.9 ของพื้นที่ทั้งหมด ส่งผลต่อโอกาสในทางเศรษฐกิจ ปัญหาในการใช้
ประโยชน์ที่ดินก่อให้เกิดปัญหาที่ดินที่ถูกทิ้งร้างปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณะ และปัญหาความขัดแย้งในการใช้
ประโยชน์ทดี่ ิน

จังหวัดปทุมธานี มีประชากรหนาแน่น เป็นลำดับที่ 5 ของประเทศ ความหนาแน่นประชากร ปี 2565 คือ
จำนวน 735.6 คนต่อตารางกิโลเมตร อำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรต่อตารางกิโลเมตร สูงสุด คือ อำเภอ
ธัญบุรี จำนวน 1,865.9 คนต่อตารางกิโลเมตร รองลงมาได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี จำนวน 1,701.4 คนต่อ
ตารางกิโลเมตร อำเภอหนองเสือมีความหนาแน่นของประชากรต่ำสุด จำนวน 129.9 คนต่อตารางกิโลเมตร
เนื่องจากยังมีสภาพสว่ นใหญ่เป็นพืน้ ที่ทำการเกษตร ซง่ึ การกระจายตัวของประชากรในแตล่ ะเขตพื้นที่ ส่งผลต่อการ
กำหนดรูปแบบในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นท่ี ตลอดจนมีการย้ายถิ่นของประชากรใน จังหวัด
ปทุมธานี เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยมีการโยกย้ายทั้งเข้าและออก แต่มี
จำนวนผู้ย้ายถิ่นเข้ามากกว่าจำนวนผู้ย้ายถิ่นออก แสดงให้เห็นว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นทั้งแหล่งสร้างอาชีพ สร้าง
รายได้ สำหรับประชากรทวั่ ทกุ ภาค และยังเปน็ แหลง่ ที่อยู่อาศัย ในระหวา่ งทำงานจะอยบู่ ริเวณเขตกรุงเทพมหานคร
และจังหวัดปริมณฑลใกล้เคียง เพราะลักษณะการอยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อวิถีความเป็นอยู่และระบบ
ขนสง่ สาธารณะทหี่ ลากหลาย ประชาชนสามารถเข้าถึงไดท้ ุกชนชั้น

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาทอี่ ยู่อาศัยจงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 14

3.2 สถานการณต์ ลาดทีอ่ ยูอ่ าศัย

จังหวัดปทุมธานี เป็นเมืองอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยรอยต่อปริมณฑล ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับ
สถานการณ์ที่อยู่อาศัยของจังหวดั ปทมุ ธานี แม้จะมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์ตลาดทีอ่ ยูอ่ าศยั
ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์โลกและสถานการณ์ โดยรวมของประเทศทีส่ ง่ ผล
ตอ่ สถานการณต์ ลาดทอ่ี ยอู่ าศยั จากขอ้ มูลสำรวจสถานการณต์ ลาดทอี่ ยูอ่ าศัยของสำนักงานการเคหะแห่งชาติ พบว่า

1) ความสามารถในการซือ้ ของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศยั มีน้อย ซึ่งจะเห็นได้จากผู้ประกอบการ ชะลอการสร้างทีอ่ ยู่
อาศัยลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และเกิดปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา 2019

(โควดิ -19) โดยผู้ประกอบการเร่งขายท่ีอยู่อาศยั ท่ีสร้างเสรจ็ ในโครงการเดิม ให้หมดกอ่ น สว่ นใหญ่อยู่ในช่วงระหว่าง

การขาย ซึ่งมีจำนวนและมลู ค่ามากกวา่ การขายที่อย่อู าศัยใหม่

2) แนวโน้มการลงทุนของผู้ประกอบการเริ่มหนั มาลงทุนโครงการแนวราบมากกว่าโครงการอาคารชุด เนื่องจาก
ภาพรวมในการโอนกรรมสิทธ์ิทีอ่ ยู่อาศัยในแนวราบของประชาชนมีมากกว่าอาคารชดุ

3) การเข้าถึงที่อยู่อาศัยในตลาด แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรยังมีอยู่ เพียงแต่มีความผันแปรไป
ตามสภาวการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนที่เข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ เป็นประชากรที่ฐานะทางเศรษฐกิจตั้งแต่
ชนชั้นกลางขึ้นไป หรือกลุ่มที่ประกอบอาชีพในระบบ หรือผู้ที่มีแหล่งรายได้ประจำที่ใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืม
เงินธนาคารเพื่อซื้อหรือเช่าซื้อที่อยู่อาศัย สามารถเข้าถึงแหล่งที่อยู่อาศัยที่ภาคเอกชนมีอยู่ได้ แต่กลุ่มประชากรที่มี
ฐานะทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าชนชั้นกลาง หรือเป็นกลุ่มผู้ด้อยโอกาสหรือเปราะบาง หรือกลุ่มแรงงานนอกระบบนั้น
การเข้าถึงที่อยู่อาศัยในตลาดนั้นเปน็ ไปได้ยาก เนื่องจากติดปัญหาดา้ นขอ้ จำกัดตา่ ง ๆ ที่เป็นเงือ่ นไขในการจะเขา้ ถงึ
บริการด้านสินเช่ือจากสถาบันการเงิน ประกอบกับผู้ประกอบการอสงั หาริมทรัพยไ์ ม่ได้สนใจลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศยั
ในตลาดระดบั กลางลา่ ง และตลาดลา่ ง เพราะไมใ่ ชต่ ลาดทท่ี ำกำไรและมคี วามเส่ียงสงู

3.3 ลักษณะชมุ ชนในพ้ืนท่ีจังหวดั ปทุมธานี

จากการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมลู ภาพรวมสถานการณด์ ้านท่ีอยู่อาศัยของประเทศไทย ของสำนักงานการเคหะ
แหง่ ชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ พบว่า พน้ื ทีจ่ ังหวดั ปทุมธานีมสี ภาพปัญหาและปัจจัย
หลากหลายทีส่ ง่ ผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพชวี ิตความเปน็ อยู่ในท่ดี ินและที่อยอู่ าศยั ดังนี้

1) ความแตกต่างเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของกลุ่มประชากรในจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากจังหวัดปทุมธานี เป็นแหล่ง
อุตสาหกรรม และเปน็ พืน้ ทีท่ ำการเกษตร ส่งผลให้มคี วามเหลื่อมล้ำของประชาชน คือ มีทงั้ กลมุ่ ประชากรท่ีรวยที่สุด
และกลุม่ ประชากรที่จนทส่ี ุดอยู่ในเมืองเดยี วกัน ทำให้ลักษณะชุมชนมลี ักษณะแตกต่างกัน ไดแ้ ก่ ชุมชนดั้งเดิม เคหะ
ชุมชน ชุมชนชานเมือง ชุมชนเมือง ชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ชุมชนอาคารสูง ชุมชนแออัด ชุมชนบุกรุก รุกล้ำพื้นที่
สาธารณะโดยชุมชนแตล่ ะประเภทมีการกระจายตัว ท่แี ตกต่างกนั ในแต่ละพ้นื ที่อำเภอ

2) ลักษณะของชุมชน จำนวนชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี มีชุมชนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 82
ชุมชน เป็นชุมชนแออัด จำนวน 79 ชุมชน 5,574 ครัวเรือน และชุมชนชานเมือง จำนวน 3 ชุมชน 75 ครัวเรือน
บ้านผู้มีรายได้น้อย จำนวน 5,108 หลังคาเรือน ครัวเรือนรายได้น้อย จำนวน 5,670 ครัวเรือน และมีประชากร
ผู้มีรายไดน้ อ้ ย จำนวน 22,680 คน

3) การบุกรุกที่ดินของรัฐในพื้นท่ีจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากการขาดโอกาสในการเข้าถึง ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
ของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ก่อให้เกิดชุมชนบุกรุกพื้นที่สาธารณะเพื่ออยู่อาศัย โดยพื้นที่สาธารณะที่ถูกบุกรุก ได้แก่
1) ที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ
2) คลองสาธารณะ 3) คลองชลประทานที่ใช้เพื่อการ ส่ง ระบาย กัก หรือกั้นน้ำเพื่อการชลประทาน การเพาะปลูก

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาทีอ่ ยูอ่ าศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 15

4) ลำรางสาธารณะหรือทางน้ำเล็กๆ ที่ขุดไว้ เพื่อชักน้ำจากคลองเข้าสู่พื้นที่หรือระบายน้ำออกจากพื้นที่ ไม่รวมถึง
การบุกรุกที่ดินส่วนบุคคลหรือ พื้นที่ที่เอกชนเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ พื้นที่ที่ถูกบุกรุกมีทั้งพื้นที่ทางบกและพื้นที่ทางน้ำ
สำหรับพนื้ ท่ีสาธารณะท่ี ถกู บุกรกุ มากทีส่ ดุ ได้แก่ พน้ื ทีท่ างน้ำ หรือริมน้ำ

4) ภาวะความยากจนของประชากร โดยภาวะความยากจน หมายถึง ผู้ที่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชพี หรืออุปโภค
บริโภคต่ำกว่าเส้นความยากจน ผู้ที่มีภาวะยากจนมักจะอยู่ในวัยเด็ก หรือสูงอายุ ผู้ที่มีภาวะความยากจนส่วนมากมี
การศึกษาระดบั ประถมศึกษาหรอื ตำ่ กว่า และทำงานเปน็ แมบ่ า้ น หรอื ไมไ่ ดท้ ำงาน เนอ่ื งจากไมส่ ามารถทำงานได้จาก
ภาวะการเจบ็ ป่วย รวมถึงผู้สงู อายแุ ละผู้พิการ ในขณะที่ความต้องการท่ีอยู่อาศัยสว่ นใหญ่มาจากกลุม่ ผู้มีรายไดน้ อ้ ย
ซง่ึ ไมม่ ีกำลงั ซอื้ ที่อยู่อาศัย เน่อื งจากมรี ายได้ไมเ่ พียงพอ และราคาทีอ่ ยู่อาศัยท่ีมีราคาสูง นอกจากน้ปี ระชากรท่ีเข้ามา
ทำงานจังหวัดปทุมธานี ไม่ต้องการที่อยูอ่ าศัยแบบถาวร จึงใช้วิธีการเช่าทีอ่ ยูอ่ าศัย ทำให้ที่อยู่อาศัยประเภทเชา่ เปน็
ทางเลอื กหนึ่ง ของผูม้ รี ายไดน้ ้อยและปานกลาง

5) ความเหลื่อมล้ำด้านสัดสว่ นในการถือครองที่ดิน การถือครองที่ดินที่มีเอกสารสิทธิป์ ระเภท โฉนดที่ดินกระจกุ
ตัวอยู่ในคนกลุ่มเล็ก กลุ่มผู้ถือครองที่ดนิ มากท่ีสุดมีสัดส่วนพื้นที่ถือครองที่ดินร้อยละ 79.9 ของพื้นที่ทั้งหมด ส่งผล
ต่อการใชป้ ระโยชน์ท่ีดิน เชน่ ปญั หาทดี่ นิ รกรา้ งวา่ งเปล่า หรือใชป้ ระโยชนไ์ ม่เต็มท่ี ในขณะทกี่ ลุ่มผูถ้ ือครองที่ดินน้อย
ที่สุดมีสัดส่วนพื้นที่ถือครองที่ดินเพียงร้อยละ 0.3 ของพื้นที่ทั้งหมด ทำให้เกิดปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ปัญหา
ความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ที่ดินระหว่างประชาชนกับรัฐ และเอกชน ปัญหาประชาชนขาดความรู้และความ
เขา้ ใจบทบัญญัตขิ องกฎหมายและสิทธิเสรีภาพท่ีพึงมพี งึ ได้

6) สถานภาพการครอบครองที่อยู่อาศยั สัดส่วนของกลุม่ ผู้ทมี่ ภี าวะยากจนท่ีเป็นเจ้าของ บ้านและที่ดินมีจำนวน
น้อยมาก ในขณะที่สัดส่วนของผู้ที่เช่าและอยู่อาศัยโดยไม่เสียค่าเช่ามีเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งเป็นผู้ที่ไม่เสียค่าเช่า
เนื่องจากอาศัยอยู่กับญาติ และอีกส่วนหน่ึงเป็นผู้ท่ีเป็นเจา้ ของบ้านบนท่ีสาธารณะซึ่งมีจำนวนมาก ดังนั้น จึงเป็นไป
ไดว้ า่ ในส่วนน้ี เจา้ ของบา้ นบนทสี่ าธารณะอาจมาจากการเป็นผ้บู ุกรุกทส่ี าธารณะดว้ ย เน่ืองจากโอกาสในการซื้อหรือ
มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของผู้มีภาวะยากจนมีความเป็นไปได้นอ้ ยมาก ความสามารถในการจ่ายค่าเช่าบ้านก็มนี ้อย
มาตรฐานที่อยู่อาศัยจึงต่ำกว่ามาตรฐานไปด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่อยู่ในภาวะยากจนนั้นมักจะประสบ
ปัญหาจากการมีที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ
เพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินปกติได้ เนื่องจากรายได้และเงินฝากไม่เพียงพอ และอุปทานที่อยู่อาศัยสำหรับ
ผู้ยากจนหรอื ที่อยูอ่ าศัยท่อี ยใู่ นระดบั ราคาที่ผ้ยู ากจนสามารถรบั ภาระไดย้ ังมจี ำนวนไม่เพียงพอ

3.4 การคาดการณ์ความตอ้ งการที่อยอู่ าศยั

ความต้องการที่อยู่อาศัยของประชากรจังหวัดปทุมธานี พบว่า มีความสัมพันธ์กับความจำเป็นพื้นฐาน เช่น
จำนวนและสัดส่วนของครัวเรือน จำนวนสมาชิก รายได้ภายในครัวเรือน ลักษณะของที่อยู่อาศัยที่กรรมสิทธิ์ในที่อยู่
อาศัย ประเภทที่อยู่อาศัย และราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งประชาชนที่มีรายได้น้อยมีความยากลำบากท่ีจะหาที่อยู่อาศัยใน
พื้นท่ีเมือง ส่งผลให้ชุมชนที่มีผู้มีรายได้น้อยต้องย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย ส่งผลต่อการบุกรุกพื้นที่ทั้งที่ตั้งใจ
และไม่ได้ตั้งใจ กลุ่มพื้นที่ชานเมืองแม้จะยังมีพื้นที่แต่การขยายตัวของเมืองและเส้นทางคมนาคมส่งผลให้เกิดการ
ปรบั เปลยี่ นจากพื้นท่ีเกษตรกรรมเปน็ พ้นื ที่บา้ นจดั สรร ผู้ทเี่ คยเช่าอยจู่ งึ ตอ้ งย้ายออก

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาท่ีอยู่อาศยั จังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 16

3.5 ขอ้ มูลผู้เดือดร้อนดา้ นที่อยู่อาศยั
จากการสำรวจข้อมูลผู้เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยของจังหวัดปทุมธานี พบว่า มีจำนวน 10,042 ครัวเรือน

9,909 หลังคาเรือน จำแนกเป็นประเภทความเดือดร้อน คือ เป็นชุมชนบุกรุก จำนวน 3490 หลังคาเรือน กลุ่มบุกรุก
จำนวน 2,002 เชา่ ที่ปลูกบา้ นจำนวน 2,185 หลงั คาเรือนบ้านเช่า จำนวน 278 หลงั คาเรอื นหอ้ งเช่า 867 หลงั คาเรอื น

3.6 ขอ้ มูลความจำเปน็ พน้ื ฐาน ปี 2565 จากสำนักงานพฒั นาชุมชนจงั หวดั ปทมุ ธานี
จากข้อมูลความจำเป็นพืน้ ฐาน ปี 2565 ของ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดปทุมธานี ตัวชี้วัดท่ี 8 ครัวเรือน

มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและบ้านมีสภาพคงทนถาวร จังหวัดปทุมธานี สำรวจจากจำนวนครัวเรือนคนจนใน จปฐ.
ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 กระทรวงการคลัง จำนวนทั้งหมด 7,860 ครัวเรือน ไม่ผ่านเกณฑ์
46 ครัวเรือน แบ่งเป็น อำเภอเมืองปทุมธานี 8 ครัวเรือน อำเภอคลองหลวง 17 ครัวเรือน อำเภอหนองเสือ
2 ครัวเรือน อำเภอลาดหลุมแก้ว 4 ครัวเรือน อำเภอลำลูกกา 15 ครัวเรือน อำเภอสามโคกและอำเภอธัญบุรี
ไมม่ คี รัวเรือนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาท่อี ยู่อาศัยจงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 17

3.7 ข้อมูลจากการฐานระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and
Analytics Platform : TPMAP)

จากข้อมูลในระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics
Platform : TPMAP) ครัวเรือนที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัยในระบบ TPMAP ปี 2565 พบว่า มีครัวเรือนท่ี
ประสบปัญหาด้านความเป็นอยู่ จำนวน 1,797 ครัวเรือน แบ่งเป็น อำเภอเมอื งปทมุ ธานี 57 ครวั เรอื น อำเภอคลองหลวง
386 ครัวเรือน อำเภอหนองเสือ 385 ครัวเรือน อำเภอลาดหลุมแก้ว 51 ครัวเรือน อำเภอลำลูกกา 606 ครัวเรือน อำเภอ
สามโคก 4 ครัวเรือน และอำเภอธัญบรุ ี 308 ครวั เรือน

3.8 ขอ้ มลู การขบั เคล่ือนงานดา้ นทอ่ี ยอู่ าศัย จากสถาบนั พัฒนาองคก์ รชุมชน (องค์การมหาชน)
3.8.1. โครงการพัฒนาทอ่ี ยู่อาศัยรมิ คลองเปรมประชากร ตำบลหลกั หก อำเภอเมือง จังหวดั ปทมุ ธานี
โครงการบ้านม่ันคงคลองเปรมประชากรเป็นสว่ นหน่ึงของการพัฒนาตามแผนแม่บทโครงสร้างพ้ืนฐาน

ระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน
2562 โดยกรอบการดำเนนิ งาน 4 ด้าน ดงั น้ี

1. ด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิง่ แวดล้อม
2. ดา้ นการพัฒนาคุณภาพชีวิต
3. ด้านการสร้างการรับร้แู ละความเขา้ ใจ
4. ด้านกฎหมายและการขบั เคล่อื น
คลองเปรมประชากรเขตจังหวัดปทุมธานี มีความยาว 4 กิโลเมตร มีบ้านเรือนก่อสร้างบุกรุกพื้นที่ตลอด
แนวคลอง ในตำบลหลักหกมีชุมชนที่มาอยู่อาศัยในริมคลองเปรมประชากร มีทั้งหมด 6 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณ

แผนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาทอี่ ยูอ่ าศยั จงั หวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 18

ริมคลองเปรม ไดแ้ ก่ หมทู่ ี่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 6 หมู่ 7 และหมู่ 5 จำนวน 929 ครัวเรอื น เข้ารว่ มโครงการ 818 ครัวเรือน
ได้จดจดั ตั้งสหกรณเ์ พอ่ื รองรบั สมาชิกท่ีเข้ารว่ มโครงการในการพัฒนาที่อยู่อาศยั จำนวน 2 สหกรณ์ ไดแ้ ก่

1. สหกรณ์เคหสถานบ้านม่นั คงชมุ ชนวัดรงั สติ จำกดั
2. สหกรณเ์ คหสถานบ้านม่ันคงชมุ ชนหลักหก จำกดั
ปจั จบุ นั มีความคบื หนา้ การดำเนนิ โครงการดังน้ี

สหกรณเ์ คหสถานบ้านมัน่ คงชุมชนวดั รงั สติ จำกดั

สภาพชุมชนอยู่ริมคลองเปรมประชากร สภาพชมุ ชนในปจั จุบนั

ในส่วนพื้นที่ ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี อยู่ติด

ถนนเอกทักษิณ บริเวณทางเข้าเมืองเอกรังสิต

มีสมาชิกชุมชนที่ผ่านการรับรองสิทธิในที่อยู่อาศัย

ตามกระบวนการโครงการบ้านมั่นคง จำนวน 485

ครัวเรือน โดยในการพัฒนาโครงการชุมชนหมู่ 7

ร่วมกับชุมชนหมู่ 5 ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์

ในนาม “สหกรณ์เคหสถานบ้านมัน่ คงชุมชนวดั รังสติ

จำกัด” เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและบริหาร

โครงการ โดยปัจจุบันมีสมาชิกชุมชนสมัครเป็น

สมาชิกสหกรณ์ฯ แล้วจำนวน 377 ครัวเรือ (มาจากชุมชนหมู่ 7 จำนวน 253 ครัวเรือน และชุมชนหมู่ 5 จำนวน 124

ครัวเรอื น)

แผนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาท่อี ยอู่ าศยั จังหวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 19

ภาพจำลองทัศนียภาพหลงั การพฒั นา การดำเนินงานที่ผ่านมาสหกรณ์ฯ ได้เช่าที่ดินราช
พัสดุกรมธนารักษเ์ รียบรอ้ ยแลว้ ขนาดเนื้อที่ 22 ไร่ 3 งาน 36
ตารางวา อัตราค่าเช่าตารางวาละ 2.25 บาทต่อเดือน ระยะเวลา
การเช่า 30 ปี ปัจจบุ นั ดำเนนิ การปรับพืน้ ทแี่ ละถมดนิ บริเวณ
ทีจ่ ะดำเนนิ การกอ่ สร้างแลว้ บางส่วน

รูปแบบบา้ น 2 แบบ

แบบบา้ น บา้ นแถว 1 ชัน้ บา้ นแถว 2 ช้ัน
(4x7 ม.) (4x7 ม.)
ราคาค่ากอ่ สรา้ ง 289,948 465,312
ชุมชนสมทบ 14,497 38,312
*งบอดุ หนนุ 25,000 25,000
*งบช่วยเหลือ 42,000 42,000
ขอใชส้ ินเชื่อ 208,451 360,000
ภาระ/เดือน (20 ป)ี 1,493 2,579

*งบอดุ หนุน + งบชว่ ยเหลือรวม 97,000 บาท/ครัวเรอื นหักค่าเชา่ บ้าน 30,000 บาท คงเหลอื 67,000 บาท

แผนการรื้อย้ายบา้ นเดมิ และกอ่ สรา้ งบ้านใหม่
การรื้อย้ายเฟสแรกของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด ในช่วงเดือนกันยายน -ตุลาคม

2563 จะดำเนินการรื้อย้ายบ้านเดิม 98 หลัง ระยะทางรื้อย้ายตามแนวคลองประมาณ 628 เมตร ซึ่งจะสามารถ
กอ่ สรา้ งบา้ นใหมใ่ ห้กับสมาชิกได้ 218 หลัง (บ้านแถวสองชน้ั จำนวน 207 หลงั และบา้ นแถวชนั้ เดยี ว จำนวน 11
หลัง) โดยเริ่มปลูกสร้างบ้านใหม่ได้ภายในเดือนธันวาคม 2564 พร้อมไปกับการก่อสร้างเขื่อนของกรมโยธาธิการ
และผงั เมือง กระทรวงมหาดไทย คาดวา่ จะดำเนินการสรา้ งบา้ นแล้วเสรจ็ ในเดอื นกรกฎาคม 2565

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทอี่ ย่อู าศัยจังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 20

ปญั หา/อปุ สรรคในการดำเนนิ โครงการ
1. มีผู้ไมเ่ ขา้ ร่วมในพนื้ ท่ีจำนวน 33 หลงั คาเรอื น ทำให้ต้องมีการปรบั เปลย่ี นผัง
2. สถานการณโ์ ควิด 19 ท่ีผา่ นมาทำใหจ้ งั หวดั ออกมาตรการการควบคมุ การก่อสรา้ ง ทำให้ตอ้ งหยดุ การก่อสรา้ ง
3. แผนงานของกรมโยธาธิการและผังเมืองในการสร้างเขื่อนริมคลองเปรมประชากรไม่สอดคล้องกันทำให้

มีการใช้พ้นื ที่ทำงานร่วมกนั เกดิ ความลา่ ชา้ ในการคืนพื้นที่ในการสรา้ งบ้าน
4. แผนงานสร้างถนนสาธรณะในโครงการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ไม่สอดคล้องกับการสร้างบ้าน

ทำใหช้ าวบา้ นไมส่ ะดวกต่อการเขา้ อย่อู าศยั

ความคบื หน้าการดำเนนิ การ

แผนงานโครงการ กจิ กรรม ระยะเวลา
เน้อื งาน

การร้อื ย้ายบา้ นเดิม 1. เร่ิมรอื้ ยา้ ยบา้ นเดมิ ในหม่.ู 7 ต.หลกั หก จำนวน 24 ภายในเดอื นสิงหาคม
หลังคาเรือน ระยะทางประมาณ 150 เมตร 2565

1. Clearing ปรบั พืน้ ทถ่ี มดิน ภายในเดือนกันยายน
2565
การก่อสร้างบา้ นใหม่ 2. เร่ิมก่อสร้างบ้านใหม่ จำนวน 160 หลงั คาเรือน
พร้อมกบั การตอกเขื่อนคอนกรีตเสริมเหลก็ รมิ คลองเปรม ภายในเดือนตุลาคม 2565
ประชากร – กนั ยายน 2566

แผนยุทธศาสตร์การพฒั นาท่ีอยอู่ าศัยจังหวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 21

สหกรณเ์ คหสถานบา้ นม่ันคงชุมชนหลักหก จำกดั
ชุมชนตงั้ อยบู่ ริเวณคลองเปรมประชาการมีถนนเลียบคลองเปรมขัน้ กลาง ซงึ่ ชุมชนทม่ี าอยู่อาศัยในริมคลอง

เปรมประชากร มีทั้งหมด 6 หมู่บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองเปรมประชากร ได้จดจัดตั้งขึ้นเป็นหมู่ที่ 1 หมู่ 2
หมู่ 3 และหมู่ 6 ของตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี โดยปัจจุบันมีสมาชิกชุมชนสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ แล้ว
จำนวน 441 ครัวเรอื น

สภาพชมุ ชนในปัจจบุ ัน

ความคืบหนา้ การดำเนนิ การ
1. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) อนุมัติงบประมาณเพื่อให้สหกรณ์เตรียมพร้อมในการดำเนิน
โครงการพัฒนาท่อี ยู่อาศยั
2. สหกรณเ์ คหสถานบา้ นม่นั คงชุมชนหลักหก เตรียมพร้อมออมเงินเช่าที่ดินราชพสั ดุ
3. หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งได้ตรวจสอบและพิจารณาสทิ ธิข์ องสมาชิก

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาท่อี ยู่อาศัยจังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 22

ปญั หา/อุปสรรคในการดำเนนิ โครงการ
1. มแี กนนำและผู้ไม่เข้าร่วมในพืน้ ท่จี ำนวนมาก
2. สถานการณโ์ ควิด - 19 ทผี่ ่านมาทำใหแ้ ผนการออกแบบวางผงั และการกำหนดขอบเขตลา่ ชา้
3. องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานียังไม่มีแผนงานการสร้างถนนใหม่เนื่องจากต้องสร้างบ้านใหม่ทับถนนเดิม

และสร้างถนนใหม่ใหส้ อดคล้องกนั

แผนงานโครงการ

เน้ืองาน กจิ กรรม ระยะเวลา

การเตรียมการพัฒนา 1. กำหนดขอบเขตท่ดี ินราชพสั ดุทจี่ ะขอเชา่ ภายในเดอื นกรกฎาคม
ทีอ่ ยู่อาศัย 2565
2. จัดสิทธิ์ลงผัง หมู่ 3
การรื้อยา้ ยบา้ นเดิม ภายในเดอื นกรกฎาคม
3. เช่าที่ดนิ ราชพัสดแุ ละวางแผนรือ้ ยา้ ย 2565
การก่อสร้างบ้านใหม่ 1. เร่ิมร้ือยา้ ยบ้านเดิม ในหม่.ู 3 ต.หลกั หก
จำนวน 130 หลงั คาเรือน ระยะทางประมาณ 400 เมตร ภายในเดอื นสิงหาคม
1. Clearing ปรับพน้ื ทถ่ี มดิน 2565
2. เรม่ิ ก่อสรา้ งบา้ นใหม่ จำนวน 220 หลงั คาเรอื นเพร้อม
ภายในเดือนธนั วาคม
กบั การตอกเขื่อนคอนกรตี เสริมเหลก็ รมิ คลองเปรม 2565
ประชากร
ภายในเดือนมกราคม
2566

ภายในเดือนกุมภาพันธ์
2566 – มกราคม
2567

3.8.2. โครงการบา้ นมัน่ คง
การขับเคลื่อนงานด้านที่อยู่อาศัย “โครงการบ้านมั่นคง” เป็นโครงการที่รัฐบาลมอบหมายให้สถาบัน

พัฒนาองค์กรชุมชน (องคก์ ารมหาชน) โดยสำนกั งานบ้านม่ันคง รับผิดชอบการดำเนินงานตง้ั แต่ ปี 2546 เป็นตน้ มา
มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชนคนจนเมืองทั่วประเทศ สร้างความมั่นคงในการครอบครองที่ดิน
พัฒนาระบบสาธารณูปโภค สิ่งแวดล้อมชุมชน และการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต และความสามารถ
ในการจัดการของชุมชนการดำเนินงานในโครงการบ้านมั่นคง มีแนวทางสำคัญให้คนในชุมชนเจ้าของโครงการ
เป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาและจัดการตนเอง โดยมีภาครัฐและหน่วยงานท้องถิ่นให้การสนับสนุนเพื่อแก้ไข
ปัญหาจัดการตนเองด้านที่อยู่อาศัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตร่วมกันของคนในชุมชน เกิดการแก้ไขปัญหาของชุมชน
อย่างเป็นระบบในเมือง ทำให้คนจนมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย เกิดรูปธรรมและมีรูปแบบการแก้ไขปัญหาท่ี
หลากหลาย ตลอดจนเกดิ การพฒั นาที่มสี ว่ นร่วมจากทุกฝ่าย ดงั น้ี

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาท่อี ย่อู าศยั จงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 23

สถานการณ์การขบั เคลอ่ื นงานโครงการบ้านมั่นคง จังหวัดปทมุ ธานี จำนวนครัวเรือน

ดำเนนิ การแล้ว 14๐
199
ช่อื ชุมชน 82
50
1. สหกรณเ์ คหสถานเมืองรังสิต จำกดั 150
2. สหกรณ์เคหะสถานสร้างสรรคน์ ครรงั สิต จำกดั 100
3. สหกรณเ์ คหสถานรัตนปทุม จำกัด 127
4. สหกรณ์เคหสถานมัน่ คงนครรังสติ จำกัด 99
5. สหกรณเ์ คหสถานร่วมมิตรรว่ มใจ จำกัด 88
6. สหกรณ์บรกิ ารบ้านมนั่ คงสานฝนั นครรังสติ จำกัด 50
7. สหกรณ์บ้านมั่นคงมติ รสัมพนั ธ์ จำกัด 50
8. สหกรณ์บา้ นม่ันคงเมืองคลองหลวง จำกดั 44
9. สหกรณเ์ คหสถานบัวหลวงพัฒนา จำกดั 92
10. สหกรณ์เคหสถานฟ้าใหมร่ ่วมใจ จำกดั 80
11. สหกรณเ์ คหสถานเทพมงคลบงกช 42 จำกัด 137
12. สหกรณเ์ คหสถานสามัคคธี รรมคลองสาม จำกดั 56
13. สหกรณ์เคหสถานเจริญพฒั นา จำกดั 18
14. สหกรณ์เคหสถานเอกมงคล จำกดั
15. สหกรณเ์ คหสถานเมืองบางพนู จำกดั
16. สหกรณ์เคหสถานเก้ามงคลพัฒนา จำกดั
17. สหกรณ์เคหสถานหน้าวัดเวฬวุ นาราม จำกดั

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาท่อี ยู่อาศยั จงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 24

ดำเนนิ การแล้ว จำนวนครวั เรอื น

ชอื่ ชุมชน 115
464
18. สหกรณ์เคหสถานสร้างตนเองเมืองหลักหก จำกัด 2,14๑
19. สหกรณเ์ คหสถานเมอื งลำลกู กา จำกดั

รวมครวั เรือนทีด่ ำเนนิ การแล้ว

เป้าหมายดำเนนิ การตอ่ จำนวนครวั เรือน

ช่อื ชุมชน 480
1,207
อำเภอธญั บุรี
เทศบาลเมอื งสนั่นรกั ษ์ 480 คร. 700
- บกุ รกุ รมิ คลอง 9 - 13 ทกี่ รมชลประทาน /เอกชน 200
2,587
อำเภอเมือง
เทศบาลตำบลหลกั หก 757 คร.
1. คลองรงั สติ ประยรู ศกั ด์ิ หมู่ท่ี 4 และ หมู่ท่ี 5 บุกรกุ ทีก่ รมชลประทาน
2. ริมทางรถไฟ บกุ รกุ รถไฟ (สถานเี มืองเอก สายสแี ดง)
3. คลองกวางตงุ้ บกุ รกุ กรมชลประทาน
4. นครไท บุกรกุ ทเี่ อกชน
5. ตรอกวดั รังสติ บกุ รุกท่ดี นิ วัด
เทศบาลเมอื งบางพนู 450 คร.
1. คลองรงั สติ หมู่ 5 บกุ รกุ ทกี่ รมชลประทาน
2. หมทู่ ี่ 4 และ หมทู่ ่ี 6 บกุ รกุ ทกี่ รมเจา้ ทา่

อำเภอคลองหลวง
เทศบาลเมืองคลองหลวง 700 คร.
๑. ชมุ ชน ๘ ไร่ งามฉวี บกุ รุกทเี่ อกชน
2. ชมุ ชนท่าใหญ่ ม.๗

อำเภอลำลูกกา
เทศบาลเมืองลำไทร 200 คร.
- บกุ รกุ ทดี่ ินกรมชล

รวมเปา้ หมายทดี่ ำเนินการตอ่

เป้าหมายการดำเนนิ การ ปี 2566 - 2567

ปี 2566 ปี 2567

อำเภอธญั บุรี 54 คร. อำเภอเมือง 150 คร.
เมืองสน่ันรักษ์
- ชุมชนคลองตนั ม.3 ม.5 เมอื งบางพนู

- หมู่ที่ 4 และ หมู่ท่ี 6 บุกรกุ ที่กรมเจา้ ท่า

อำเภอลำลกู กา 200 คร.

เมืองลำไทร

- บุกรุกที่ดินกรมชลประทาน

รวมเปา้ หมาย ปี 2566 – 2567 404 คร.

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทีอ่ ยู่อาศยั จังหวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 25

3.8.3. การขบั เคลอื่ นโครงการแก้ไขปญั หาท่อี ยู่อาศัยเพ่ือคนยากจนทบี่ ุกรกุ ทีด่ นิ สาธารณะจังหวัดปทุมธานี
“โครงการปทุมธานีโมเดล ”

1. ความเปน็ มาโครงการ

สืบเนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดนโยบายการจัดระเบียบการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการสร้าง
ที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ จังหวัดปทุมธานีจึงมีการสนองนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะแก้ไข
ปัญหาการบุกรุกริมคลองที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ตลอดจนคืนคลองให้แก่สาธารณะ ซึ่งจะสามารถใชป้ ระโยชน์ในการ
ระบายน้ำพัฒนาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น โดยประชาชนผู้เคยบุกรุกจะมีพื้นที่รองรับในการอยู่อาศัยใหม่ ทำให้มี
คุณภาพชีวติ ที่ดมี คี วามมัน่ คงในที่อยอู่ าศยั ผวู้ ่าราชการจงั หวัดปทมุ ธานีได้เขา้ พบทา่ นรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ (พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว) เพื่อหารือแนวทางการบรู ณาการทำงานร่วมกนั
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในจังหวัด โดยมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
ปทมุ ธานี และสถาบันพัฒนาองคก์ รชมุ ชน (องค์การมหาชน) ประสานการทำงานกบั หนว่ ยงานท่เี กีย่ วขอ้ ง พรอ้ มกันนี้
สำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ กรมชลประทาน มีแผนพัฒนาพื้นที่ริมคลอง เพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการระบายน้ำด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (นายพงศธร สัจจชลพันธ์) จึงมีคำสั่งแต่งต้ัง
คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเพื่อคนยากจนที่บุกรุกที่ดินสาธารณะจังหวัดปทุมธานี (คำสั่งจังหวัดปทุมธานี
ที่ 131/2558 ลงวันที่ 16 มกราคม 2558) เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และมีคำสั่งแต่งตั้ง
คณะทำงานตรวจสอบการเปลี่ยนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินใช้ในการแก้ไขปัญหาคนยากจน
ที่บุกรุกที่สาธารณะ (คำสั่งจังหวัดปทุมธานีที่ 361/2558 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558) เพื่อสำรวจ ตรวจสอบ
ที่ดินเสื่อมสภาพ ขนาด 42-1-36.8 ไร่ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายเดิม จากกลุ่มชาวบ้านริมคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง
พืน้ ทีเ่ ทศบาลเมืองท่าโขลงและเทศบาลเมืองคลองหลวง จำนวน 10 ชมุ ชน 1,060 ครัวเรือน

ต่อมาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่ง ที่ 26/2559 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2559
เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ
ในการถอนสภาพที่ดินเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ให้เป็นที่ดิน
สาธารณะ ให้กรมธนารักษจ์ ดั ให้สหกรณภ์ ายใต้โครงการปทุมธานีโมเดล ใช้ประโยชน์ตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุและบันทึกความร่วมมือโครงการบ้านมั่นคงในที่ราชพัสดุ ระหว่าง กรมธนารักษ์
กระทรวงการคลังและสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ โดยหลังจากมีการบังคับใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพที่ดิน จึงพบว่ามีประชาชน
ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบริเวณที่ดินดังกล่าว จำนวน 3 ชุมชน 221 ครัวเรือน (ชุมชนศิริภาพ, ชุมชนคุ้งผ้าพับ
และชุมชนคลองมะดัน) รวมถึงมีการสำรวจข้อมูลกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาในพื้นที่เมืองคลอง
หลวงจึงพบว่ามีประชากรตกสำรวจจำนวน 152 ครัวเรือน ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการปทุมธานีโมเดล
เพิ่มขึ้นเป็น 16 ชุมชน 1,433 ครัวเรือน และต่อมากรมชลประทานได้มีการกำหนดแนวเขตคลองหนึ่งบริเวณที่จะ
ดำเนินการพัฒนาริมคลอง จึงพบว่ากลุ่มเป้าหมายเดมิ บางส่วนไม่ได้อยู่ในแนวเขตการพัฒนา จึงไม่สามารถจัดอยู่ใน
กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการปทุมธานีโมเดล จึงได้มีการสรุปข้อมูลกลุ่มเป้าหมายร่วมกันอีกครั้ง โดยสามารถ
สรุปจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง คือ กลุ่มชาวบ้านจากพื้นที่เทศบาลเมืองท่าโขลง 7 ชุมชน 361 ครัวเรือนและ
กลุม่ ชาวบ้านจากพืน้ ท่ีเทศบาลเมอื งคลองหลวง 9 ชมุ ชน 723 ครวั เรอื น รวม 16 ชมุ ชน 1,084 ครัวเรือน

ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีข้อสั่งการให้เร่งรัดการดำเนิน
“โครงการปทุมธานีโมเดล” เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกชุมชนริมคลองหนึ่งให้มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยแห่งใหม่
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่อาศัยปทุมธานีโมเดล (ศปก.ทปม.)

แผนยุทธศาสตร์การพฒั นาทอ่ี ยู่อาศยั จงั หวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 26

เพื่อรองรับการปฏิบัติงานระดับพื้นที่ของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในจังหวัด ได้แก่ สำนักงานธนารักษ์พื้นท่ี สำนักงาน
ที่ดินจังหวัด โครงการชลประทาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด อำเภอคลองหลวง
สหกรณจ์ งั หวัด เทศบาลเมืองท่าโขลง เทศบาลเมอื งคลองหลวง และสหพันธพ์ ัฒนาองคก์ รชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ

2. กลมุ่ เปา้ หมาย จำนวน 61 ครัวเรอื น
ชุมชนในพนื้ ทเ่ี ทศบาลเมืองท่าโขลง จำนวน 132 ครวั เรือน
1. ชมุ ชนหมู่ 8 บางขนั จำนวน 62 ครัวเรอื น
2. ชุมชนบัวหลวง จำนวน 24 ครัวเรือน
3. ชมุ ชนหมู่ 10 จำนวน 43 ครวั เรอื น
4. ชมุ ชนวนั ครู จำนวน 23 ครวั เรอื น
5. ชมุ ชนหม่ืนดำ จำนวน 16 ครวั เรือน
6. ชมุ ชนทบั ทมิ ศรสี ะพานเอ้ืออาทร
7. ชมุ ชนวัดคุณหญิงส้มจนี จำนวน 69 ครัวเรอื น
ชุมชนในพ้นื ที่เทศบาลเมืองคลองหลวง จำนวน 13 ครวั เรอื น
8. ชุมชนหมู่ 1 ทองแท้ จำนวน 90 ครวั เรือน
9 ชุมชนหมู่ 2 มติ รแท้ จำนวน 234 ครัวเรือน
10. ชุมชนหมู่ 3 คลองหน่งึ จำนวน 137 ครวั เรอื น
11. ชมุ ชนแกว้ นิมติ ร จำนวน 12 ครวั เรือน
12. ชุมชนหมู่ 6 เจรญิ สขุ จำนวน 6 ครวั เรอื น
13. ชุมชนหมู่ 7 พัฒนา จำนวน 115 ครวั เรอื น
14. ชุมชนคลองมะดนั จำนวน 47 ครัวเรอื น
15. ชุมชนศิรภิ าพ จำนวน 1,084 ครัวเรือน
16. ชุมชนคงุ้ ผา้ พับ
รวมจำนวนทงั้ สิ้น

3. ผลการดำเนินงาน

ชุมชน ท่ีดนิ 30 ไร่ ซอ้ื กลบั รอื้ ยา้ ย ยงั ไม่เขา้ รว่ ม
ครวั เรือน ทด่ี ิน ภูมิลำเนา โครงการ
1. ม.1 ทองแท้
2. ม.2 มติ รแท้ อาคารสงู ทด่ี ินเดมิ ต้องทำความ
3. ม.3 คลองหน่ึง เขา้ ใจเพ่ิม
4. แก้วนมิ ิตร
5. ม.6 เจรญิ สุข 69 31 - - -5 33
6. ม.7 พัฒนา
7. ม.8 บางขัน 13 - - - 8 - 5
8. ม.9 บัวหลวง
9. ม.10 พัฒนา 90 9 - - - - 81
10. วนั ครู
234 12 - 100 37 4 81

137 3 - - - - 134

12 4 - - - - 8

61 2 - - - - 59

132 31 - - 1 20 81

62 11 - - -6 45

24 3 - - - - 21

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาท่อี ยอู่ าศยั จงั หวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 27

ชมุ ชน ทีด่ ิน 30 ไร่ ซอ้ื กลบั รื้อยา้ ย ยังไม่เข้าร่วม
ครวั เรือน ทีด่ นิ ภมู ิลำเนา โครงการ

อาคารสูง ท่ีดินเดิม ตอ้ งทำความ
เข้าใจเพ่มิ

11. หมืน่ ดำ 43 3 - - - - 40

12. ทบั ทิมศรี 23 5 - - - - 18

13. วดั คณุ หญงิ สม้ จีน 16 - -- - - 16

14. คลองมะดนั 66 -- - - -

15. ศริ ภิ าพ 115 11 39 - - - 64

16. คงุ้ ผา้ พับ 47 13 - - - - 34

รวม 1,084 144 39 100 46 35 719

หมายเหตุ : ผลการดำเนนิ การโครงการปทุมธานีโมเดล ดงั นี้
1. ดำเนนิ การเสรจ็ แลว้ โดยสหกรณบ์ ้านมนั่ คงไทยมสุ ลมิ สามคั คี จำกดั จำนวน 100 ครวั เรือน โดย จดั ตง้ั เป็นสหกรณ์เพอื่ รับงบสาธารฯ/งบอดุ หนุน/งบ
สนิ เชือ่ และซื้อท่ดี ินสรา้ งทีอ่ ยู่อาศยั จำนวน 5 ไร่ 42 ตร.ว สหกรณ์เป็นผ้รู ับผดิ ชอบ
2. สร้างทีอ่ ยู่อาศัยในพนื้ ท่ี 30 ไร่ โดยสหกรณ์เคหสถานปทุมธานโี มเดล เฟสที่ 1 แนวสงู มี 4 อาคาร อาคารที่ 1 จำนวน 23 ครัวเรือน

อาคารท่ี 2 จำนวน 43 ครัวเรือน อาคารที่ 3 จำนวน 32 ครัวเรือน อาคารที่ 4 จำนวน 44 ครวั เรือน รวม 142 ครัวเรือน ได้ดำเนินการเสร็จแลว้ ( เฟสท่ี
1)
3. ซอยศิรภิ าพ (บา้ นราบ คลองหลวง 35 ) จำนวน 115 ครัวเรือน ปรบั ปรุงในทีด่ นิ เดิมแนวราบ จำนวน 34 ครัวเรือน เชา่ ท่ดี นิ 5 ครวั เรอื น ข้นึ อาคารสูง 12 ครวั เรอื น

คงเหลือ 64 ครวั เรือน ( เฟสท่ี 2 )
4. มบี ้านผู้ดอ้ ยโอกาส จำนวน 3 ห้อง เขา้ อยู่แล้ว 1 ครวั เรอื น
5. อยรู่ ะหวา่ งทำความเข้าใจร่วมกับหลายฝ่าย เพ่ือแก้ไขอกี จำนวน 719 ครวั เรอื น

4. แผนการดำเนินงานตอ่
1. อยรู่ ะหวา่ งเสนองบสาธารฯ ประมาณ 32 ลา้ นบาท เพอ่ื ดำเนนิ การสร้างถนนคอนกรีต/ทางระบบ

ระบายน้ำ/ท่อระบายน้ำเสีย/กำแพงกั้นขอบเขต/สถานีสูบน้ำ ภายในโครงการฯ และอื่นๆ ได้นำเสนอแผนงานกับ
ท่านเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศบาลเมอื งคลองหลวง พรอ้ มยน่ื แบบผงั ใหก้ ับกองชา่ ง เป็นท่เี รยี บรอ้ ยแล้ว

2. แก้ไขปัญหาและฟื้นฟูผู้เดือดร้อนริมคลองหนึ่ง อีกจำนวน 719 ครัวเรือน ให้มาเข้ารว่ มโครงการ
ในพ้นื ที่ 30 ไร่ ทยี่ ังสามารถรองรบั ได้อีก 228 ครัวเรือน (เฟสที่ 3)

3. ตดิ ตามการประปาส่วนภูมิภาค เร่ือง การประปาช่ัวคราวเปน็ ประปาถาวร คา่ นำ้ ประปาราคาสูง
4. การพัฒนาคุณภาพชีวติ ทกุ มติ ิ (ร่าง) ขอ้ กำหนดการอยู่อาศยั รว่ มกัน
5. การปรับภมู ทิ ัศนท์ ้ังโครงการ ตามแผนทเี่ สนอ พอช. เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2565 ได้รับอนุมัติให้ทำ
ตามแผน (ตลาดชุมชน, ลานกิจกรรม, อื่นๆ)
5. ปัญหา
1. สหกรณ์ ไดเ้ ช่าท่ีดนิ ธนารกั ษ์ จำนวน 30 ไร่ สัญญา 30 ปี ปัจจุบันได้ดำเนินการใช้พน้ื ท่ีสร้างที่อยู่
อาศยั ไปแลว้ ประมาณ 17 ไร่ สว่ นทเ่ี หลอื อกี 13 ไร่ สหกรณจ์ งึ ตอ้ งแบกรบั ภาระคา่ เช่าท่ดี นิ เพราะสมาชกิ ไม่พอกับ
ค่าเชา่ ท่ีดิน ซง่ึ สัญญาคา่ เช่าทีด่ ินจะขึ้น 15% ทกุ 5 ปี
2. กรมชลประทานไมด่ ำเนนิ การรื้อถอนบา้ นทรี่ กุ ล้ำริมคลองหน่งึ จึงทำใหเ้ กดิ การขดั แยง้ ระหว่าง คน
ทเี่ ขา้ ร่วมโครงการและคนทไี่ ม่เข้ารว่ มโครงการ เพราะว่าชลประทานไม่ทำตามนโยบาย ทเ่ี คยทำร่วมกนั ไว้
3. ตอนนี้สมาชิกได้เข้าอยู่กันแล้ว แต่ความสะดวกและความปลอดภัยยังไม่เอื้ออำนวยให้กับสมาชิก
เช่น ถนนยงั เปน็ ลกู รงั เปน็ หลมุ เปน็ บ่อ เข้า-ออก ลำบากมาก น้ำทว่ ม มีขโมยลกั ทรัพย์ จากบุคคลภายนอก ทำให้อยู่
กันอย่างหวาดระแวง

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาท่ีอยอู่ าศัยจังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 28

6. ขอ้ เสนอ
1. ขอความอนุเคราะห์ธนารักษ์ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้มีรายได้น้อย ปรับลดอัตราค่าเช่าที่ดินตลอด

ระยะสัญญาเชา่ 30 ปี เพอ่ื แบ่งเบาภาระใหก้ ับสมาชกิ
2. กรมชลประทานให้เร่งดำเนินการชาวบ้านที่รุกล้ำริมคลองหนึ่ง ว่าจะเข้าร่วมโครงการปทุมธานี

หรือไม่เพราะโครงการปทุมธานีโมเดล เป็นโครงการนโยบายของรัฐ ซึ่งหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วน ได้บันทึกความ
ร่วมมือลงนามไว้ใน MOU ว่าด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อยที่รุกลำ้ ริมคลองหนึง่ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลอง
หลวง จังหวัดปทุมธานี ในโครงการฯ เนื้อที่ 30 ไร่ รองรับเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังไม่มีการขับเคลื่อนเรื่องนี้ จึงทำให้
เกิดผลกระทบกับสหกรณ์ที่ต้องแบกรับภาระค่าเช่าที่ดนิ จำนวน 13 ไร่ เพราะไม่สามารถรับผู้เดือดร้อนที่อื่นๆ เข้า
ร่วมโครงการได้ แต่ถ้าผู้รุกล้ำริมคลองหนึ่ง ไม่ยอมเข้าร่วมโครงการปทุมธานีโมเดล ขอให้แก้ไขใน MOU ด้วยว่า
สามารถรับผู้เดือดร้อนที่มีรายได้น้อยในจังหวัดปทุมธานีเข้าร่วมโครงการได้ แต่ต้องถูกรับรองมาจากหน่วยงาน
ท้องถ่นิ น้นั ๆ วา่ เป็นผูเ้ ดือดรอ้ นจรงิ สหกรณจ์ ึงจะสามารถรบั ได้

3. ขอให้พิจารณาเรื่องงบประมาณสาธารณูปโภค อย่างเร่งด่วน เพื่อมาดำเนินงานสร้างถนนคอนกรีต
ท่อบำบดั นำ้ เสยี ทางระบายนำ้ กำแพงกน้ั ขอบเขต และอน่ื ๆในโครงการ เพื่อให้ชาวบ้านสะดวกในการสญั จร

3.8.4 การขบั เคล่อื นโครงการบา้ นพอเพยี ง

ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเป็นปัญหาพื้นฐานของชุมชนทั้งในเมืองและชนบท จากการสำรวจข้อมูล
ภาวะเศรษฐกิจและสังคมครัวเรือนในจังหวัดปทุมธานี มีผู้เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดิน ทั้งบ้านที่ก่อสร้างมา
นานแล้วมีสภาพทรุดโทรม ก่อสร้างด้วยวัสดุที่ไม่มั่นคง ไม่ได้ปรับปรุงซ่อมแซม และครอบครัวขยายที่มีความ
จำเป็นต้องก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอ การแก้ไขปัญหาที่อยู่
อาศัยในรูปแบบการซ่อมแซม /ปรับปรุงบ้าน ทางขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตั้งแต่
พ.ศ. 2560 - 2565 แก้ไขไปแล้ว 31 ตำบล โดยได้รับงบประมาณในการสนบั สนนุ จากสถาบันพฒั นาองค์กรชุมชน
(องค์การมหาชน) หรือพอช. และมีการแก้ไขโดยชุมชนท้องถิ่นเป็นแกนหลัก ได้รับการสนับสนุนแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย
ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ทั้ง 7 อำเภอ 31 ตำบล ผู้รับผลประโยชน์ 1,890 ครัวเรือน โดยมีการซ่อมแซม
บ้าน/ปรบั ปรงุ บา้ น

ปี พ.ศ. 2560 ปี พ.ศ. 2561 ปี พ.ศ. 2562 ปี พ.ศ. 2563 ปี พ.ศ. 2564 ปี พ.ศ. 2565

ต. บึงบอน 56 คร. ต.บงึ กาสาม ๕๔ คร. ต.บึงบอน ๒๖ คร. ทม.ท่าโขลง ๑๗ คร. ทม.ทา่ โขลง ๔๕ คร. ทม.ทา่ โขลง ๓๕ คร.
ต. นพรตั น์ 56 คร. ทต.หนองเสอื ๑๓ คร. ต.บงึ กาสาม ๓๐ คร. ต.คลองสาม ๑๖ คร. ต.คลองสาม ๔๒ คร. ต.คลองสาม ๒๕ คร.
ต. ศาลาครุ 55 คร. ต.นพรัตน์ ๘ คร. ต.คลองห้า ๒๔ คร. ต.คลองสี่ ๒๐ คร. ต.คลองหก ๔๐ คร. ต.คลองหา้ ๑๒ คร.
ต. บึงทองหลาง 54 คร. ต.คลองห้า ๘๓ คร. ทม.ลาดสวาย ๕๔ คร. ต.คลองหา้ ๒๐ คร. ทต.ธญั บรุ ี ๒๕ คร. ต.นพรตั น์ ๑๒ คร.
ต.บึงทองหลาง ๕๐ คร. ทต.บางเตย ๕๐ คร. ต.คลองหก ๒๒ คร. ต.ลำลกู กา ๕๐ คร. ต.บึงบา ๒๐ คร.
ทม.ลาดสวาย ๒๔ คร. ต.บ้านกระแชง ๒๐ คร. ต.คลองเจด็ ๑๐ คร. ต.บงึ ทองหลาง ๕๐ คร. ทต.ธญั บรุ ี ๕๐ คร.
ทต.สามโคก ๓๗ คร. ต.คบู างหลวง ๓ คร. ต.บึงกาสาม ๓๖ คร. ต.ลำไทร ๒๐ คร. ต.พืชอดุ ม ๑๕ คร.
ทต.บางเตย ๒๘ คร. ต.คลองหก ๕ คร. ต.บึงชำอ้อ ๕๐ คร. ทม.บางควู ัด ๘ คร. ต.ลำไทร ๑๐ คร.
ต.บ้านกระแชง ๒๗ คร. ต.บึงบอน ๔ คร. ต.นพรัตน์ ๑๑ คร. ทม.บางควู ดั ๕๐ คร.
ต.บึงบา ๕ คร. ทต.ระแหง ๑๐ คร.
ต.ศาลาครุ ๒๕ คร. ทต.บางเตย ๔๔ คร.
ต.หนองสามวัง ๑๓ คร. ต.ท้ายเกาะ ๓๖ คร.
ทต.ลำไทร ๑๘ คร. ต.บางกระบอื ๕๐ คร.
ทม.ลาดสวาย ๑๒ คร.
ต.บึงทองหลาง ๕๐ คร.
ทต.บางเตย ๔๔ คร.

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทอ่ี ย่อู าศัยจังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 29

รวม 332 คร. รวม 324 คร. รวม 212 คร. รวม 362 คร รวม 291 คร. รวม 369 คร.
ปี พ.ศ. 2570
แผนการขบั เคล่ือนโครงการบา้ นพอเพยี งปี ๒๕๖๖ – ปี ๒๕70

ปี พ.ศ. 2566 ปี พ.ศ. 2567 ปี พ.ศ. 2568 ปี พ.ศ. 2569

๑. ทม.ทา่ โขลง ๒๐ คร. ๑. ทม.ท่าโขลง ๒๐ คร. ๑.ทม.ท่าโขลง ๒๐ คร. ต.บงึ ทองหลาง ๓๐ คร. ต.บึงทองหลาง ๒๐ คร.
๒. ต.คลองสาม ๓๐ คร. รวม 30 คร รวม 20 คร.
๓. ต.คลองหา้ ๑๐ คร. ๒. ต.คลองสาม ๓๐ คร. ๒. ต.คลองสาม ๓๐ คร.
๔. ต.นพรตั น์ ๑๕ คร.
๕. ต.บงึ บา ๒๐ คร. ๓. ต.คลองห้า ๑๐ คร. ๓. ต.คลองห้า ๑๐ คร.
๖. ต.ธัญบรุ ี ๕๐ คร.
๗. ต.พืชอดุ ม ๑๕ คร. ๔. ต.นพรตั น์ ๑๕ คร. ๔. ต.นพรตั น์ ๑๕ คร.
๘. ต.ลำไทร ๒๐ คร.
๙. ทม.บางคูวัด ๓๐ คร. ๕. ต.บึงบา ๒๐ คร. ๕. ต.บึงบา ๒๐ คร.
๑๐. ทต.ระแหง ๑๐ คร.
๑๑. ทต.บางเตย ๑๐ คร. ๖. ต.ธญั บรุ ี ๒๕ คร. ๖. ต.ธญั บรุ ี ๕๐ คร.
๑๒. ต.ทา้ ยเกาะ ๒๔ คร.
๑๓. ต.บางกระบือ ๕๐ คร. ๗. ต.พืชอุดม ๑๕ คร. ๗. ต.พืชอุดม ๑๕ คร.
๑๔. ต.บึงกาสาม ๒๕ คร.
๑๕. ต.หนองสามวัง ๑๖ คร. ๘. ต.ลำไทร ๒๐ คร. ๘. ต.ลำไท ๒๐ คร.
๑๖. ต.คลองเจด็ ๑๐ คร.
๑๗. ทต.สามโคก ๑๐ คร. ๙. ทม.บางคูวัด ๓๐ คร. ๙. ทม.บางควู ดั ๒๐ คร.
๑๘. ต.คลองหก ๒๐ คร.
๑๐. ทต.ระแหง ๑๐ คร. ๑๐. ทต.ระแหง ๑๐ คร.
รวม ๓๘๕ คร.
๑๑. ทต.บางเตย ๒๐ คร. ๑๑. ทต.บางเตย ๒๐ คร.

๑๒. ต.ท้ายเกาะ ๒๐ คร. ๑๒. ต.ทา้ ยเกาะ ๑๕ คร.

๑๓. ต.บางกระบือ ๓๐ คร. ๑๓. ต.บางกระบือ ๒๐ คร.

๑๔. ต.บงึ กาสาม ๙ คร. ๑๔. ต.บึงกาสาม -

๑๕. ต.บงึ ทองหลาง ๕๐ คร. ๑๕. ต.บึงทองหลาง ๕๐ คร.

๑๖.ต.หนองสามวัง ๑๖คร. ๑๖. หนองสามวัง ๑๖ คร.

๑๗. ต.คลองเจด็ ๑๐ คร. ๑๗. ต.คลองเจด็ ๑๐ คร.

๑๘. ทต.สามโคก ๑๐ คร. ๑๘. ทต.สามโคก ๑๐ คร.

๑๙. ต.คลองหก ๑๕ คร. ๑๙. ต.คลองหก ๑๕ คร.

รวม ๓๗๕ คร. รวม ๓๖๖ คร.

หมายเหตุ: ลำดบั ท่ี ๑-๑๕ เป็นพ้นื ท่ตี ำบลจดั ทำแผนทอี่ ยอู่ าศยั ปี ๒๕๖๕ และลำดบั ที่ ๑๖ - ๑๙ เป็นพืน้ ทเี่ ปา้ หมายท่จี ะดำเนินการตอ่

3.8.5 การขับเคล่อื นโครงการบ้านมน่ั คงชนบท (ทดี่ นิ ทำกินและทีอ่ ยอู่ าศัย)

จังหวัดปทุมธานี เป็นพื้นที่ขยายตัวของกรุงเทพมหานครทางด้านแกนเหนือ ซึ่งต้องเผชิญกับความ
เปลี่ยนแปลงหลายมิติ จากอดีตที่เป็นจังหวัดพื้นที่สำคัญทางด้านการเกษตร ต้องปรับตัวมาเป็น จังหวัดที่มีพื้นท่ี
เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมการผลิต ทั้งนี้เพราะผลกระทบจากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ของกรุงเทพมหานครและเมืองปริมณฑล ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการคมนาคม ในช่วงเวลาปี พ.ศ.2532 - 2550
มีการเปลี่ยนแปลงของจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้น กล่าวคือ จากปี พ.ศ. 2532 มีจำนวน 706 โรงงาน และเพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ ทุกปี จวบจนปี พ.ศ. 2550 มีจำนวน 2,558 โรงงาน เฉลี่ยร้อยละ 15.02 ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มข้ึน
อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่เกษตรกรรมลดลง ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของจังหวดั
ปทุมธานี จากการรวมตัวกันเป็นขบวนการเคลื่อนไหวจากภาคประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ประสบปัญหาขาด
แคลนที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินผู้สูญเสียกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่นายทุน ได้พยายามรวมตัวกันต่อรองเรียกร้องให้
รัฐบาลแก้ไข ปัญหานี้อย่างจริงจัง เป็นรูปธรรมมากขึ้น บางกลุ่มเมื่อรวมตัวกันแล้วยังพัฒนาขีดความสามารถของ
กลุ่มไปสู่การบริหารจัดการปัญหาด้วยตนเอง โดยไม่รั้งรอกระบวนการช่วยเหลือจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ปัญหา
ต่างๆยังไม่สามารถแก้ไขให้สำเร็จลุล่วงไปได้จากปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยนี้ ก่อให้เกิดการ
รวมตัวพนื้ ทเ่ี พอ่ื ใหเ้ กดิ การแกไ้ ขปญั หาทอ่ี ยู่อาศัยใหม้ ีที่ดินเป็นของตนเอง

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาท่ีอย่อู าศัยจงั หวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 30

ตำบล พน้ื ที่ดำเนินการ ดำเนินการแล้ว ดำเนินการต่อ

ตำบลพชื อุดม สถานการณ์ผู้เดือดร้อนตำบลพืชอุดม สหกรณ์บริการที่อยู่อาศัยที่ดิน จำนวน ๖๑๓ คร.
ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย (เช่าท่ี ทำกินพืชอุดมจำกัด ดำเนินการ
ทำกิน/ทอี่ ยอู่ าศยั ) จำนวน ๘๖๕ คร. แล้วเฟสท่ี ๑ จำนวน ๑๐๐

ครัวเรือนเฟสที่ ๒ จำนวน ๑๕๒
ครวั เรือน

ตำบลบึงกาสาม สถานการณ์ผู้เดือดร้อนเป็นข้อมลู ท่ี ๑. มกี ารสำรวจขอ้ มูลซึ่งยังไม่ ๑.ขอ้ มูลกล่มุ ผู้

สภาองค์กรชุมชนตำบลบึงกาสาม ครอบคลุมทงั้ ตำบล เดอื ดรอ้ นทัง้ ตำบล

ลงสำรวจกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าสู่ ๒. มีรายชื่อผเู้ ดอื ดรอ้ น เบื้องต้น และทำตาม
โครงการบ้านพอเพียงชนบท ซึ่งมี ๒๐ ครัวเรอื น หลกั เกณฑโ์ ครงการ
กลุ่มเป้าหมายที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ บา้ นมนั่ คง

บ้านพอเพียงเนื่องจากไม่มีท่ีดินเป็น ๓. มที มี ทำงานในการพฒั นา ๒.หาทด่ี ินรองรบั ผู้
ของตนเอง จำนวน ๒๐ ครวั เรอื น พืน้ ท่ีต่อไป เดอื ดร้อน

๓.สร้างกองทุนเพอื่
พัฒนาที่อย่อู าศยั

๔.เชอื่ มโยง
หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้อง

เทศบาลตำบล สถานการณ์ผู้เดือดร้อนเป็นข้อมูล 1. ทำความเข้าใจกบั หน่วยงาน ๑. จัดทำขอ้ มูลผู้
ลำไทร เดือดร้อนทั้งตำบล
ที่สภาองค์กรชุมชนเทศบาลตำบล ทอ้ งถิน่ และใหเ้ ปน็ ปจั จุบนั
ลำไทรลงสำรวจกลุ่มเป้าหมาย 2. มีการจดั กระบวนการทำผัง
ชมุ ชน ๒. จดั เวทีทำความ
ที่จะเข้าสู่โครงการบ้านพอเพียง 3. มกี ารทำแบบฟอร์มสำรวจ เขา้ ใจ และ
ชนบท ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เข้า ความตอ้ งการทุกมติ ผิ า่ นระบบ ประชาคมพจิ ารณา
สิทธิ ผู้เดอื ดรอ้ น
หลักเกณฑ์บ้านพอเพียง เนื่องจาก GOOGLE FORM ร่วมกับหน่วยงานท่ี
เป็นชุมชนหนาแน่น รุกล้ำริมคลอง 4. มกี ารพัฒนาทีมทำงานโดย เกยี่ วขอ้ ง

ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง จำนวน ๔ การอบรมใหก้ บั พนื้ ที่ใกลเ้ คยี ง

ชุมชน

๓. ขอใชท้ ด่ี ินการ
เคหะแหง่ ชาติ

๔. ตงั้ กล่มุ ออม
ทรพั ย์ หรือสหกรณ์

แผนยุทธศาสตร์การพฒั นาทอ่ี ยอู่ าศัยจังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 31

ตำบล พ้ืนท่ีดำเนนิ การ ดำเนินการแลว้ ดำเนินการตอ่

เพอื่ สร้างทนุ ในการ
พัฒนาท่ีอย่อู าศยั

๓.๘.๖ การขับเคลือ่ นการฟ้นื ฟแู ละพัฒนาศกั ยภาพคนไร้บา้ น จงั หวดั ปทุมธานี (บา้ นพูนสุข)

1. ความเปน็ มา
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต

กลุ่มคนไร้บ้าน 2 ปี (พ.ศ. 2559 - 2560) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้มีการสำรวจคนไร้บ้าน
ในปี พ.ศ.2553 งบประมาณรวมทั้งสิ้น 118.60 ล้านบาท และมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
(องคก์ ารมหาชน) ดำเนนิ การโดยมีหลกั การสำคัญ ไดแ้ ก่

1) จดั ต้งั “คณะกรรมการพฒั นากล่มุ คนไรบ้ ้านแบบบูรณาการและมสี ว่ นร่วมจากภาคที ุกภาคส่วน”
ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม
นักวิชาการ และเครือข่ายคนไร้บ้าน โดยมีบทบาทกำหนดแนวทางการดำเนินงานพัฒนากลุ่มคนไร้บ้าน ตั้งแต่การ
สำรวจข้อมูล การสรุปบทเรียนแนวทางการพัฒนาคนไร้บ้าน และพัฒนาทิศทาง แนวนโยบาย มาตรการ แผนงานต่าง ๆ
ในการพฒั นากล่มุ คนไรบ้ า้ น

2) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
มัน่ คงของมนษุ ยใ์ นการสนบั สนนุ การดำเนินโครงการร่วมกัน ไดแ้ ก่

2.1) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สนับสนุนด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ เช่น ด้านการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มคนไร้บ้าน การส่งเสริม
อาชพี รายได้ สขุ ภาวะ

2.2) กรงุ เทพมหานคร/จังหวัด สนบั สนนุ ดา้ นการจัดทำฐานขอ้ มลู และการรบั รองกลุม่ คนไร้บ้าน
ท่ีมีปญั หาสถานะทางทะเบยี นราษฎร์ ด้านสุขภาพอนามัย การศึกษา

3) สร้างศูนย์คนไร้บ้าน รวมถึงพัฒนาขยายศูนย์เพื่อให้สามารถรองรับให้บริการได้เพิ่มขึ้น
จำนวน 3 แห่ง ใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น โดยร่วมมือกับ
ท้องถนิ่ และภาคีพัฒนาตา่ ง ๆ

4) การรับรองกลุ่มคนไร้บ้านที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร์ ที่ผ่านการรับรองของเครือข่าย
คนไร้บ้าน (ไม่ใช่การรับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร์) เพื่อให้บุคคลดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือดูแลด้านสุขภาพ
อนามยั การศึกษา และอื่นๆ เปน็ ตน้

5) สนับสนุนการพัฒนาเสริมศักยภาพและระบบการดำเนนิ งานของเครือข่ายคนไร้บ้าน เพื่อให้คน
ไร้บ้านมอี งค์กรเครือข่ายที่มคี วามเข้มแข็ง และสามารถดำเนินการไดด้ ้วยตนเอง

6) การสำรวจขอ้ มูลคนไร้บา้ นทั่วประเทศให้เป็นฐานข้อมูลเดียวที่ใช้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายคนไร้
บ้าน หนว่ ยงานภาครัฐ และภาคประชาสงั คม และเปน็ ข้อมูลตง้ั ต้นสำหรับการพัฒนาแกไ้ ขปญั หาคนไรบ้ า้ นและจัดทำ
แผนปฏิบัติการพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนไร้บา้ นเชิงโครงสร้างในมติ ติ า่ งๆ

7) เชื่อมโยงและสร้างความร่วมมือระหว่างคนไร้บ้านกับหน่วยงาน องค์กร (Matching) ท้ัง
หนว่ ยงานภาครัฐ ทอ้ งถ่ิน ภาคธรุ กจิ เอกชน และประชาสังคม ครอบคลมุ มติ ิด้านสาธารณสุข สังคม การพฒั นาอาชีพ
และการพัฒนาชุมชน เป็นต้น เพื่อให้บริการหรือช่วยเหลือสนับสนุนการพัฒนาทักษะความสามารถคนไร้บ้านอย่าง
เปน็ ระบบเชน่ การจดั หนว่ ยเคลือ่ นทใี่ หบ้ รกิ ารดา้ นสุขภาพอนามยั แก่ผสู้ ูงอายุทศ่ี นู ย์คนไรบ้ า้ น เปน็ ต้น

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาท่ีอยู่อาศัยจังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 32

8) นำร่องการพัฒนา “ที่อยู่อาศัยของคนไร้บ้าน” เป็นการช่วยเหลือกลุ่มคนไร้บ้านที่ยั่งยืน
ใหม้ คี วามมัน่ คงในการอย่อู าศัย

2. ผลการดำเนินงานท่ีผา่ นมา
การสนบั สนนุ การสรา้ งศนู ย์พัฒนาคณุ ภาพชวี ิตคนไรบ้ ้าน 3 แหง่
1) ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน จังหวัดเชียงใหม่ “บ้านเตื่อมฝัน” เปิดดำเนินการ เมื่อวันที่ 28

มิถุนายน 2561 โดยดำเนินการติดตามการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพคนไร้บ้านอย่างต่อเนื่อง โดย
บูรณาการแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน ร่วมกับสมาคมคนไร้บ้าน เครือข่ายสลัมสี่ภาค มูลนิธิพัฒนาที่อยู่
อาศยั และหนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ งในจังหวดั เชยี งใหม่เพอื่ ใหค้ นไรบ้ ้านมตี ัวตนในพ้ืนทอ่ี ย่างมีคุณค่า

2) ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านจังหวัดขอนแก่น “บ้านโฮมแสนสุข” เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 17
มกราคม 2563 มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพคนไร้บ้านอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดระบบความ
มั่นคงทางด้านอาหารโดยการปลูกผักสวนครวั ในพื้นทศี่ ูนย์คนไร้บ้าน เพื่อลดภาระคา่ ใช้จา่ ย

3) ศนู ย์พฒั นาคุณภาพชวี ิตคนไร้บ้านจังหวดั ปทมุ ธานี (ตำบลบางพูน อำเภอเมอื ง จังหวัดปทมุ ธานี)
ดำเนินการก่อสรา้ งแล้วเสร็จ และรองรับคนไรบ้ ้านเข้ามาใชบ้ ริการแลว้

3. คณะทำงานท่ีเก่ยี วข้อง/กลไก
คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป้นธรรม (ขปส.) ประธาน โดยรอง

นายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่างๆ
คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับคนไร้บ้าน ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ
ประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาท่ี
อยู่อาศัยและสนิ เชื่อ ได้แต่งตั้งคณะทำงานชว่ ยเหลือ กรณีคนไร้บ้าน ได้แก่ คณะทำงานเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไข
ปัญหาการส่งต่อคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ให้กับศูนย์คนไร้บ้าน (ทีมสหวิชาชีพเพื่อคนไร้บ้าน) ประธาน
คณะทำงาน นางสาวแรมรุ้ง วรวธั รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์

4. ปัญหาอปุ สรรค/ข้อเสนอแนะ
หน่วยงานในพน้ื ทีค่ วรให้ความชว่ ยเหลอื สนบั สนุน และบรู ณาการทำงานรว่ มกับเครือข่ายคนไร้บ้านในพ้ืนที่

แผนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาทีอ่ ยู่อาศัยจงั หวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 33

3.9 ข้อมูลด้านท่ีอยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ
การเคหะแห่งชาติ มีชื่อเรียกโดยยอ่ ว่า กคช. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี มีหน่วยงานสังกัดการเคหะแห่งชาติ จำนวน

4 สาขา ซงึ่ มหี น้าทใี่ นการดำเนนิ งาน คอื
1. จัดให้มีเคหะเพื่อใหป้ ระชาชนได้มที อี่ ยูอ่ าศัย
2. ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประชาชนผู้ประสงค์จะมีเคหะของตนเอง หรือแก่บุคคลผู้ประสงค์ จะร่วม

ดำเนินกจิ การกบั กคช.ในการจดั ใหม้ ีเคหะขนึ้ เพอ่ื ให้ประชาชนเช่า เชา่ ซือ้ หรอื ซอ้ื
3. ประกอบธุรกจิ เก่ียวกับการก่อสร้างอาคารหรอื จดั หาที่ดิน
4. ปรับปรงุ รอ้ื หรือยา้ ยแหลง่ เสอ่ื มโทรมเพอ่ื ให้มีสภาพการอยู่อาศยั สงิ่ แวดล้อม เศรษฐกจิ และสังคมดีขึ้น
5. ประกอบธรุ กิจการอน่ื ทีส่ นับสนนุ หรอื เก่ยี วเนอื่ งกบั วตั ถุประสงคด์ ังกล่าวข้างต้น
โดยเคหะจังหวดั ปทมุ ธานีสาขา 1 – 4 ไดด้ ำเนนิ งานพัฒนาและจัดสรา้ งทอ่ี ยู่อาศัยสำหรับประชาชนทุกระดับรายได้

โดยเฉพาะผมู้ รี ายไดน้ อ้ ย ซึง่ มโี ครงการตา่ งๆ ในพืน้ ท่จี ังหวัดปทมุ ธานี ดังน้ี

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาทอ่ี ยู่อาศยั จงั หวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 34

แบบเสนอแผนงาน/โครงการยกระดับคา่ ดัชนีความมนั่ คงของมนุษย์ประเทศไทย ปีงบประมาณ 2565
ระดบั จังหวดั ปทุมธานี ระดบั กลมุ่ จังหวัดปทุมธานี

มิติ/ตัวชวี้ ดั ชอ่ื แผนงาน/ วตั ถปุ ระสงค์ วิธีการดำเนนิ งาน กลุ่มเปา้ หมาย ระยะเวลา ผลผลติ / งบประมาณ หนว่ ยท่ี
โครงการ ดำเนนิ งาน ผลลพั ธ์/ รบั ผิดชอบ
ตัวชว้ี ดั

มิตทิ ่ี ที่อยู่อาศัย โครงการบา้ น จัดสร้าง โครงการ 1. เปดิ ใหป้ ระชาชน ประชาชน/ ปีงบประมาณ ส่งมอบบา้ นให้ อยู่ระหวา่ ง กคช.
เคหะสุขประชา ทส่ี นใจ ราชการ ผูม้ ี 2565 - 2568 ผู้เช่าเข้าอยู่ ออกแบบ
ตัวช้ีวดั ในพน้ื ทีจ่ งั หวดั บา้ นเช่าพรอ้ ม ลงทะเบียนจอง รายไดน้ ้อย ใน อาศยั จัดการ และ
ปทุมธานี สิทธิการเชา่ พน้ื ท่จี งั หวัด (กคช. เปิดให้ สง่ เสริมอาชพี ประมาณ
1. ความหนาแนน่ อาชีพ สำหรบั ผู้มี กคช. ขออนมุ ัติฯ ปทุมธานแี ละ ประชาชนผูส้ นใจ ตามลักษณะ ราคา
ของประชากรต่อ 1. รังสิต (คลอง4) ดำเนินการ ใกลเ้ คียง ลงทะเบยี นจอง ภูมิสงั คมของ
พ้ืนท่ี 1 ตร.กม. นำร่อง (รปู แบบ รายไดน้ อ้ ย โดย 2. ก่อสรา้ งโครงการ สทิ ธกิ ารเช่าแลว้ พนื้ ทีน่ ้นั ๆ
เศษฐกิจตลาดสด) การจดั สร้าง ตามรปู แบบที่ มีผู้สนใจเต็ม
2. อตั ราการถอื ไดร้ ับอนุมตั ิ จำนวนท้งั สอง
ครองทอ่ี ยูอ่ าศยั 728 หนว่ ย โครงการบา้ น 3. เมอ่ื แลว้ เสร็จ ส่ง โครงการ)
เคหะสขุ ประชา มอบบ้านใหผ้ ู้เช่า
3. รอ้ ยละของที่ 2. ลำลูกกา เขา้ อยู่อาศัย
อยอู่ าศยั ที่มีสภาพ (คลอง 12) นำ จะมีการจัดพ้นื ที่ พรอ้ มจัดการ
คงทนถาวร ร่อง (รปู แบบ เศษฐกจิ สุขประชา 4. สง่ เสรมิ อาชพี
เศษฐกิจปศสุ ตั ว์
เล้ยี งปลาดุก) เพอ่ื สร้างรายได้

372 หน่วย สร้างอาชพี แกผ่ ู้

เช่า ตามลกั ษณะ

ภมู ิสงั คมของพ้ืนที่

นัน้ ๆ

แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาท่อี ย่อู าศัยจังหวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 35

จากข้อมลู ขา้ งตน้ สามารถสรุปประเดน็ ปญั หาด้านทอ่ี ยู่อาศัย จงั หวดั ปทมุ ธานี แบ่งตามกล่มุ เป้าหมาย ได้ดังนี้
1. กลมุ่ ผู้มีรายได้นอ้ ยทัว่ ไป

1. เขา้ ถงึ การมีทีอ่ ยู่อาศัยทีม่ ่ันคง
2. ให้เกดิ การพัฒนาสภาพแวดลอ้ ม ฟนื้ ฟูและบาํ รงุ รกั ษาพ้ืนที่เสื่อมโทรม
3. ใหเ้ กิดการพัฒนาเมืองอย่างเป็นระบบ ได้แก่

- มีการใชป้ ระโยชนท์ ด่ี ินอย่างเหมาะสม/มีทีด่ ินสําหรับการจดั ท่อี ยู่อาศัยผูม้ รี ายได้น้อย
- มกี ารรกั ษาพืน้ ที่ทางการเกษตรและพื้นทค่ี วรอนุรักษ์
- มกี ารพฒั นาสาธารณปู โภคอย่างเปน็ ระบบ
- ไมเ่ กิดปญั หาการรุกล้ำทด่ี นิ สาธารณะ
2. กลมุ่ ผู้สูงอายุ
1. ตอ้ งการอยู่กับครอบครัวและสภาพแวดลอ้ มเดมิ เพียงแตม่ กี ารปรบั ปรุงทีอ่ ยู่อาศัยและสภาพแวดลอ้ ม
ทีเ่ หมาะสม
2. ผทู้ ไ่ี มม่ ีครอบครวั หรือไม่สามารถอยูก่ บั ครอบครัวได้ต้องการทอ่ี ยู่อาศยั ทมี่ ่ันคงปลอดภัย
3. กลมุ่ ผพู้ กิ าร
1. ตอ้ งการอยู่กับครอบครัวและสภาพแวดล้อมเดิม เพยี งแตม่ ีการปรบั ปรุงที่อยูอ่ าศยั และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
กับสภาพความพกิ าร
2. ส่งิ อาํ นวยความสะดวกในการดาํ รงชวี ติ
4. กล่มุ คนไร้ทีพ่ ึ่ง
ตอ้ งการที่อยู่อาศยั เปน็ สดั สว่ นของตนเอง มสี ิทธแิ ละเข้าถงึ บรกิ ารของรัฐมีงานทาํ มีรายได้

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาทอ่ี ยอู่ าศัยจังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 36

บทที่ 4 กระบวนการวเิ คราะห์และจดั ทำแผนการพัฒนาท่อี ยูอ่ าศยั จังหวดั ปทมุ ธานี

การจัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยจังหวัดปทุมธานี และแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยจังหวัด
ปทมุ ธานี (พ.ศ. 2566 - 2570) มกี ระบวนการวิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้กระบวนการวิเคราะหจ์ ุดแข็ง จุดออ่ น โอกาส
และอุปสรรคเพื่อจัดทำแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย (SWOT Analysis) การวิเคราะห์และกำหนดภาพอนาคตการพัฒนาท่ี
อย่อู าศยั (Scenario Analysis) เพ่อื ใชใ้ นการกำหนดแผนการพัฒนาท่อี ยอู่ าศยั จังหวดั ปทมุ ธานี

การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน (จุดแข็งและจุดอ่อน) ได้นำหลัก 4 M (Man, Money, Management
and Material) และการวิเคราะห์ภายนอก (โอกาสและอุปสรรค) ได้นำหลักการ A + PESTEL (Area Political,
Economic, Social, Technology, Environment and Legal) มาใชใ้ นการวเิ คราะห์

4.1 การวเิ คราะหป์ ัจจยั สภาพแวดลอ้ มภายในและปจั จยั สภาพแวดล้อมภายนอก

1) การวเิ คราะห์ปจั จยั ภายใน

การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน ได้พิจารณาวิเคราะห์ในประเด็น ด้านบุคลากร (Man) ด้านบริหาร
จัดการ (Management) งบประมาณ (Money) และวสั ดุอุปกรณ์ (Material)

จุดแขง็ Strengths จุดอ่อน Weaknesses

1. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ 1. การบูรณาการ ระหว่างหนว่ ยงานมคี วามล่าชา้ สง่ ผล

มนุษย์ มหี น่วยงานในระดับพืน้ ท่ีและเจ้าหน้าท่ีที่มีความ ใหก้ ารดำเนินงานไมม่ ปี ระสิทธิภาพ

ชำนาญและเช่ียวชาญด้านการพฒั นาท่อี ยู่อาศัย 2. การเปลี่ยนแปลงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นไปด้วย

2. ผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด ความรวดเร็ว บุคลากรไม่สามารถปรับทักษะและ

ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเข้าใจ ความสามารถไดท้ นั

ปัญหาดา้ นทีอ่ ยู่อาศัย 3. ประเด็นข้อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ส่งผลให้

3. จังหวัดปทุมธานี มีเป้าหมายในการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัย ไม่สามารถพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานของผู้มีรายได้

เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตของ น้อยได้ดีเท่าทค่ี วร

ประชาชนผ้มู รี ายได้นอ้ ย 4. ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและเงินทุนภายนอก

4. มีเครือข่ายภาคประชาชน ในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ในการจัดหาที่ดินภาครัฐ เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย ส่งผล

ทั้งในระดับประเทศ ระดับกลุ่มจังหวัด และระดับ ให้ทด่ี ินไมเ่ หมาะสม และสาธารณปู โภคไมพ่ ร้อม

จังหวัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ได้แก่

สภาองค์กรชุมชน ขบวนองค์กรชุมชน และเครือข่าย

สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแหง่ ชาติ (สอช.)

5. เจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน เข้าไปมีส่วนร่วมในการ
สำรวจสภาพปัญหาความต้องการ ของชุมชนและการ
ช่วยเหลือดูแลประชาชนจัดหาแหล่งที่อยู่อาศัย แก่
ประชาชนท่ปี ระสบปัญหาด้านท่อี ยอู่ าศยั

6. หน่วยงานมีงบประมาณอุดหนุนให้ดำเนินการแก้ไข
ปัญหาดา้ นที่อยอู่ าศยั สำหรับผมู้ ีรายได้น้อย

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาทอ่ี ยูอ่ าศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 38

จดุ แขง็ Strengths จดุ ออ่ น Weaknesses
7. เครือข่ายภาคประชาชน มีกองทุนเป็นของตนเอง
สำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัย ผู้มีรายได้น้อย/
ผูด้ อ้ ยโอกาส

๘. มีพื้นท่ีที่เป็นรูปธรรมในการดำเนินงานด้านการ
พัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและ
ผดู้ ้อยโอกาส

๙. จงั หวัดปทมุ ธานี มกี ารจดั ตง้ั สภาองคก์ รชุมชน เพื่อเป็น
ตัวกลางในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและ
การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ในชุมชน

๑๐. มีการจัดตั้งคณะทำงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่
อาศัยในทุกระดับ รวมถึงมีโครงการบ้านมั่นคง โครงการ
บ้านพอเพยี ง โครงการบา้ นม่นั คงชนบท (ทด่ี ินทำกินและท่ี
อยู่อาศัย) ศูนย์ฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพคนไร้บ้าน
โครงการบา้ นเคหะสขุ ประชา สำหรบั ยกระดบั คณุ ภาพชีวิต
ของประชาชนให้มีท่อี ยูอ่ าศยั ทถ่ี ูกสุขลกั ษณะ มีระบบ

2) การวิเคราะหป์ ัจจัยภายนอก

การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก ได้พิจารณาวิเคราะห์ ด้านพื้นที่ (Area) ด้านนโยบาย (Policy) ด้าน
เศรษฐกิจ (Economic) ด้านสังคมและวัฒธรรม (Social) ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology &
Innovation) ด้านสงิ่ แวดล้อม (Environment) และดา้ นกฎหมาย (Legal)

โอกาส opportunity อปุ สรรค Treat

1. จังหวัดปทุมธานี มีการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจอย่าง 1. พื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนในการ

ตอ่ เนื่อง พัฒนาที่อยู่อาศัย ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตเดิม และต้องใช้

2. มีระบบการขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพและ งบประมาณสงู ในการพัฒนาพนื้ ท่ี

ครอบคลุมในทุกพน้ื ที่ 2. การบุกรุกที่ดินรัฐและเอกชน ของประชาชนผู้มีรายได้

3. การพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยริมคลอง ทำให้ชุมชนมี น้อย ยังคงปรากฎใหเ้ ห็นในลักษณะชุมชนแออัด ชุมชนรมิ
ความเป็นระเบียบ สภาพแวดล้อมริมคลองได้รับการฟื้นฟู คลอง ท่มี ีสภาพไมม่ นั่ คงและไม่มีมาตรฐาน

ทดี่ นิ มมี ลู ค่ามากข้นึ 3. ประชาชนบางส่วนเช่าที่ดินปลูกสร้างที่อยู่อาศัยระยะ

4. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ยาว และไม่มีการปรบั ปรุง ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้สวยงาม
ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยและลดความ ปลอดภัยต่อการดำรงชีวิต

เหล่อื มลำ้

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาที่อย่อู าศัยจังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 39

โอกาส opportunity อุปสรรค Treat

5. นโยบายของภาครัฐ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่ 4. การเป็นจังหวัดใกล้เคียง กรุงเทพมหานคร ต้องรองรับ

อาศยั สำหรบั กลุ่มผู้มีรายไดน้ ้อย และกลมุ่ เปราะบาง จำนวนประชากรแฝง ก่อใหเ้ กิดความแออัดและบุกรุกพ้ืนที่

๖. เครอื ข่ายภาคธรุ กจิ เอกชน ใหก้ ารสนับสนุน สง่ เสริม อยา่ งตอ่ เนอื่ ง

การขับเคลือ่ นงานด้านพัฒนาทีอ่ ยู่อาศยั และการพัฒนา 5. พื้นที่ว่างของหน่วยงานภาครัฐ ที่มีอยู่ในจังหวัด

คณุ ภาพชีวติ ปทุมธานี ไม่ได้รับการพัฒนาให้เกดิ ประโยชน์ต่อผู้มรี ายได้

๗. สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดความต้องการที่อยู่ นอ้ ย ถกู ปลอ่ ยใหเ้ สอื่ มโทรม

อาศัยในรูปแบบทห่ี ลากหลายมากขนึ้ 6. บทบาท ภารกิจของหนว่ ยงานภาครัฐ ในเรือ่ งทอ่ี ยูอ่ าศยั

๘. มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable ยงั ทำงานแบบแยกส่วน ขาดการบูรณาการ

Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 1 ยุติ 7. ขาดการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลด้านที่อยู่อาศัย

ความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ และเป้าหมายที่ 11 ให้เป็นฐานเดียว ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้ ส่งผล

ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความ ตอ่ การพฒั นาทีอ่ ยู่อาศยั ของจงั หวดั ปทมุ ธานี

ครอบคลุมปลอดภัยมภี ูมติ ้านทานและย่งั ยนื 8. ราคาที่ดิน และที่อยู่อาศัยไม่สอดคล้องกับรายได้ของ

ประชาชน ทำให้โอกาสและความสามารถในการเข้าถึงมี

นอ้ ย

๙. การขยายตัวของเมือง สังคมมีการเปลี่ยนแปลง วิถีชีวิต
มีการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับสังคมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
มีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งไม่ได้รับการดูแล อาศัยอยู่เพียง
ลำพัง ทีอ่ ยอู่ าศยั ไมเ่ หมาะสม

4.2 การวเิ คราะห์ภาพอนาคตและความตอ้ งการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวติ และการจดั การท่อี ยู่อาศยั
1) ภาพอนาคตด้านการพฒั นาคุณภาพชีวติ และการจัดการที่อยู่อาศยั
จากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมของการจัดการที่อยู่อาศัยจังหวัดปทุมธานี ทำใหเ้ ห็นศกั ยภาพและข้อจำกัด

ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและจัดการที่อยู่อาศยั เพื่อคนจงั หวัดปทุมธานี พบว่า ข้อมูลพื้นฐานท่ีนำไปสู่การกำหนด
กลยุทธ์การพัฒนาให้เกิดภาพที่ต้องการได้ดี ซึ่งการวิเคราะห์นี้เป็นมุมมอง ในภาพปัจจุบันที่สะท้อนจุดอ่อนและจุด
แข็งทีม่ อี ยู่ในเวลานี้ ซ่งึ เปน็ ผลมาจากการพัฒนาในอดีต การพัฒนาทอี่ ยู่อาศยั สำหรับผู้มรี ายไดน้ ้อย ชุมชนบุกรุกและ
ชุมชนแออัดกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่น ๆ มีหลักการที่สำคัญ คือ “หลักการมีส่วนร่วมพัฒนาของชุมชน”
ดังนั้น ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคง ต้องคำนึงถึงมิติของสิทธิความเป็นธรรม โดยกำหนภาพอนาคตด้าน
การพฒั นาทอ่ี ยู่อาศัยและคณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนจงั หวดั ปทุมธานี ดังน้ี

1. ด้านรปู แบบทอี่ ยู่อาศยั
ขนาดที่อยู่อาศัยสำหรับครัวเรือนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยควรที่จะเป็นไปตามมาตรฐานที่อยู่อาศัย

ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดสิทธิมนุษยชนด้านที่อยู่อาศัย นโยบาย รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ด้านที่อยู่อาศัย ที่ได้กล่าวถึง
ประเด็นการกำหนดมาตรฐานที่อยู่อาศัยและมาตรฐานชุมชนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้อาศัยและชุมชน
เพ่อื ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานดา้ นท่ีอยู่อาศัย โดยจะตอ้ งพิจารณาปจั จัยอ่ืนประกอบ เช่น ปจั จัยด้านราคาที่ดิน ซ่ึงหาก
ในพื้นที่นัน้ ๆ มีราคาที่ดินสูง อาจจำเป็นจะตอ้ งก่อสร้างในแนวดิง่ แต่หากราคาที่ดนิ ไม่สูงมากนัก และมีความเป็นไป
ได้ (feasibility) ที่จะก่อสร้างในแนวราบ ก็อาจพิจารณาก่อสร้างในรูปแบบบ้านเดี่ยว เพื่อให้มีความสอดคล้องกับ
ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายตามทีเ่ สนอข้อมูลความต้องการไปแล้วข้างต้น ทั้งนี้ ประเด็นของผู้รบั ผิดชอบในการ
ก่อสร้างไม่ควรที่จะให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งรบั ผิดชอบเพียงองค์กรเดียว หากแต่ควรมีการดึงความร่วมมือจาก

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาท่ีอยู่อาศัยจังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 40

หลายหน่วยงานหลายส่วน ทั้งภาครัฐ โดยมีการเคหะแห่งชาติเป็นหลัก และควรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน
ทอ้ งถิน่ เช่น อปท. ตลอดจนองคก์ รภาคเอกชนเข้ามามสี ่วนร่วมในการดำเนินการ

2. ดา้ นราคาทอี่ ยู่อาศยั
การกำหนดราคาที่อยู่อาศัยจะต้องมีความสัมพันธ์กับจำนวนสมาชิกในครัวเรือน โดยมีฐานคิดมองใน

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างขนาดพื้นที่ใช้สอยกับจำนวนผู้อยู่อาศัยที่ระบุไว้ในมาตรฐานที่อยู่อาศัย โดยหากมีจำนวน
สมาชิกในครัวเรือนในสัดส่วนที่สูง ก็ย่อมต้องการพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น มีต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น ส่งผลให้
การกำหนดราคาที่อยู่อาศัยมีอัตราที่สูงตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่มีจำนวนสมาชิกครัวเรือนเฉลี่ย 4 - 5 คน
ต่อครัวเรือน ทั้งนี้ปัจจัยในการกำหนดราคาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์
กับรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ผู้ไม่มีกรรมสิทธิ์ต้องการ (บ้านเดี่ยว) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้นอ้ ย นอกจากจำนวนสมาชกิ
ครวั เรือนแลว้ ควรคำนงึ ถงึ บริบทราคาทีด่ นิ ในพน้ื ท่เี ปน็ หลกั

3. ดา้ นพื้นท่ีของท่ีอยู่อาศัย
รัฐต้องกำหนดการวางตำแหน่งใกล้กับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ซึ่งอย่างน้อยควรใกล้กับระบบ

ขนส่งสาธารณะ เพื่อเอือ้ ให้การเดนิ ทางสะดวก
4. ดา้ นกฎหมายที่อยู่อาศยั
รัฐควรให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่อยู่อาศัยแก่ทั้งประชาชน โดยเฉพาะครัวเรือนที่ไม่มีกรรมสิทธ์ิ

ในการครอบครองท่ีอยู่อาศัย ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ท่คี าดว่าจะเป็นหน่วยงานทจี่ ะมีบทบาท ด้านการ
จัดการทอ่ี ยอู่ าศัยในพ้นื ที่ ไมว่ า่ จะเป็น กฎหมายท้องถ่นิ พรบ.ควบคมุ อาคาร หรือกฎหมายท่ดี นิ พบว่า โอกาสในการ
มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยยังมีน้อย โดยอาจจะอยู่ในลักษณะกรรมสิทธิ์เฉพาะที่อยู่อาศัย แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ซงึ่ ส่งผลในประเดน็ การกำหนดราคาทีอ่ ยอู่ าศยั

2) ความต้องการของประชาชนผมู้ ีส่วนได้ - เสยี (Stakeholders)
1. การให้ความช่วยเหลือของภาครัฐแก่ผู้มีรายได้น้อยควรให้ผู้ที่มีส่วนได้ - เสีย (ผู้มีรายได้น้อย และ ท้องถิ่น)

มีส่วนร่วมในกระบวนการ กลไก การให้ความช่วยเหลือด้วย (ร่วมกันสำรวจข้อมูล ร่วมรับรู้ปัญหา และร่วมแก้ไข
ปัญหา)

2. ข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์ เช่น ข้อมูลผู้มีรายได้น้อย ข้อมูลผู้บุกรุกที่สาธารณะ ข้อมูลผู้ไร้ที่อยู่อาศัย เป็น
ต้น ควรเปน็ ขอ้ มลู ชุดเดยี วกัน เปน็ ฐานขอ้ มลู เดยี วกนั

3. ภาครัฐควรมีงบประมาณสนับสนนุ การสร้างอาชีพให้กบั ผู้มีรายได้น้อย หลงั จากท่ไี ด้อบรม หรือ ฝึกอาชีพ
ในเบอื้ งตน้ แล้ว

4. ตอ้ งทำแผนพัฒนาแต่ละคลองในพื้นท่ี มีการประกาศประชาสัมพันธ์ สร้างความเขา้ ใจให้ ทราบโดยท่ัวถึง
เพอื่ ใหช้ ุมชน/ผู้รกุ ล้ำ ได้รบั ทราบและเตรียมตวั โยกย้าย และมีมาตรการดา้ นการเยียวยาจิตใจแก่กลมุ่ คนดังกล่าว

5. การจัดทำแผนในระดับตา่ ง ๆ ต้องใหโ้ อกาสภาคประชาชนเข้าไปมสี ว่ นรว่ มใน กระบวนการจดั ทำแผนใหม้ ากกว่า
ที่เป็นอยู่ ทั้งแผนระดับนโยบาย แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนาของหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วน
ภมู ิภาค และทอ้ งถ่นิ ในพ้ืนท่ี

6. กรมชลประทาน และ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ในพ้ืนทที่ มี่ ีการรกุ ลำ้ ลำคลอง หรือทด่ี นิ สาธารณะ ต้องมมี าตรการ
เด็ดขาดปอ้ งกันไมใ่ ห้มกี ารบกุ รุกเพิม่ ขึน้ อีก

7. การขบั เคล่ือนและผลกั ดนั เชิงนโยบาย การอนญุ าตนำท่ีดินธนารักษ์มาแบ่งปันใหค้ นจน ผู้มีรายได้น้อย
อยอู่ าศยั ทำกิน ภาครัฐควรสนับสนุนงบประมาณร้อยละ 50 แกผ่ ู้ไรท้ ่อี ยู่อาศยั ได้มีโอกาสซื้อที่ดินอยู่อาศัยตามความ
เหมาะสม การทำบนั ทกึ ขอ้ ตกลงร่วมกันระหวา่ งภาครัฐกับคนจนในเร่ืองการจดั การที่อยู่อาศยั ทด่ี ินทำกนิ

8. ควรสนับสนุนงบประมาณค่าแรงในการก่อสร้าง หรือจัดหาแรงงานในการก่อสร้าง เพิ่มเติม จากงบประมาณ
ที่สนบั สนุนให้กบั ประชาชนในส่วนของบา้ นพอเพยี ง สนับสนุนการตดิ ต้ังระบบสาธารณปู โภค ได้แก่ น้ำประปา ไฟฟา้

แผนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาทีอ่ ยู่อาศยั จังหวดั ปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 41

9. ในการขับเคลื่อนเรื่องที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ขอให้ขับเคลื่อนเรื่องที่ดินทำกินด้านการเกษตร แก่ผู้ที่
ประสบปัญหาดังกลา่ วด้วย

10. ควรมีการพิจารณาข้อกฎหมาย/กฎกระทรวง ระเบียบวิธีปฏิบัติอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชน
ตอ้ งการปลกู สง่ิ ก่อสร้างที่ติดลำรางสาธารณะไดป้ ลกู สร้างสงิ่ กอ่ สร้างอาศยั ได้

11. นำรูปแบบการจัดการคลองลาดพร้าวในกรุงเทพมหานคร ไปปรับใช้เพื่อการจัดการคลองในพื้นที่จังหวัด
ปทุมธานี

4.3 แผนการพฒั นาทอ่ี ยู่อาศัยระดับจังหวดั จังหวดั ปทุมธานี (พ.ศ. 2566 - 2570)

วิสัยทัศน์

“ ประชาชนจังหวัดปทุมธานีมีที่อยู่อาศัยอย่างเสมอภาคและทั่วถึง มีระบบการพัฒนาเมืองอย่างมีส่วนร่วม

ทันสมัย และเปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดล้อม ”

พันธกิจ

1. ส่งเสริมระบบและกลไกของขบวนองค์กรชุมชน เพื่อการจัดการที่อยู่อาศัย การบริหารจัดการกองทุนและ

พัฒนาคณุ ภาพชีวติ อย่างเสมอภาคและทวั่ ถงึ

2. สนับสนุนให้ขบวนองคก์ รชมุ ชนและภาคเี ครอื ขา่ ยมสี ว่ นร่วมในการระบปุ ญั หาดา้ นทอ่ี ยู่อาศยั ของชุมชน

3. ขบวนองค์กรชุมชนและภาคีเครือข่ายดำเนินการแก้ไขปัญหา ติดตาม ประเมินผล และรับผิดชอบด้านการพัฒนาที่อยู่

อาศัยและยกระดับคุณภาพชวี ติ ของชมุ ชน

4. สง่ เสริมการพฒั นาเศรษฐกจิ ฐานราก สรา้ งรายได้ สรา้ งอาชพี สรา้ งความเข้มแขง็ ของชุมชน

ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์

ยุทธศาสตรท์ ี่ 1 การพฒั นาและสนบั สนนุ ให้มีท่อี ยู่อาศยั ทีไ่ ด้มาตรฐาน

เป้าประสงค์ : 1. พฒั นาที่อยูอ่ าศยั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมมีความปลอดภยั มีความมัน่ คง

2. สนบั สนุนใหท้ กุ คนมที ี่อยอู่ าศัยทมี่ ั่นคง ปลอดภยั ย่งั ยนื อย่างมีศักดิ์ศรี

3.สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนหรอื ผเู้ ดอื ดรอ้ นสามารถเขา้ ถึงแหลง่ ทนุ ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล

4. เครือข่ายภาคประชาชนสามารถพฒั นาระบบฐานข้อมูลให้เปน็ ปัจจุบันและทันต่อสถานการณ์

กลยุทธ์ : 1. เตรียมความพร้อมในการพัฒนาทอ่ี ยู่อาศัยที่เหมาะสม ให้กับผมู้ รี ายได้ทห่ี ลากหลาย

2. เสริมสรา้ งโอกาสใหผ้ มู้ รี ายได้นอ้ ยเขา้ ถึงแหลง่ ทุนเพอ่ื การพฒั นาท่ีอยอู่ าศัยอยา่ งเสมอ

ภาคและท่ัวถงึ

3. สร้างและพฒั นาระบบข้อมูลสารสนเทศดา้ นท่ีอยูอ่ าศยั อย่างเปน็ ระบบ

ยุทธศาสตรท์ ี่ 2 การยกระดบั การบรู ณาการด้านบริหารจดั การที่อยู่อาศยั และที่ดนิ ทำกิน

เปา้ ประสงค์ : 1. ประสานความรว่ มมอื ทุกภาคสว่ น ในการบรหิ ารจัดการทีอ่ ยู่อาศยั อย่างมีประสิทธภิ าพ

2. เปน็ หนุ้ สว่ นในการร่วมคิด รว่ มทำ รว่ มตดั สินใจ เพ่ือการบริหารจัดการทอี่ ยู่อาศัยที่ดมี ีคุณภาพ

กลยทุ ธ์ : 1.สง่ เสรมิ การมสี ่วนร่วมของภาคเอกชนและท้องถน่ิ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาท่ีอยูอ่ าศัยและท่ดี ินทำกนิ

2. สรา้ งขีดความสามารถด้านการบริหารจดั การดา้ นทอ่ี ยู่อาศยั และที่ดนิ ทำกิน

ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 การสง่ เสริมให้ชุมชนเข้มแข็งได้อยา่ งย่งั ยนื

เป้าประสงค์ : การพฒั นาเศรฐกิจฐานรากดว้ ยทนุ ภายในของชุมชนและเชือ่ มโยงทนุ ชุมชน เพอื่ สรา้ งอาชพี

สรา้ งรายไดส้ ู่การจัดสวสั ดกิ ารให้แกส่ มาชกิ

กลยทุ ธ์ : 1. ส่งเสริมการพฒั นากล่มุ อาชีพของสมาชิกด้านทีอ่ ยู่อาศยั และทด่ี ินทำกนิ

2. ส่งเสรมิ การรวมกลุ่มสมาชกิ ดา้ นท่ีอยอู่ าศัยและท่ดี ินทำกินให้สามารถพ่งึ ตนเองได้

3. ส่งเสริมการจัดสวัสดิการใหแ้ กส่ มาชกิ ด้านทีอ่ ยู่อาศยั และท่ดี ินทำกิน

แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาทอี่ ยู่อาศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 42

ยุทธศาสตรท์ ี่ 4 การจดั การสงิ่ แวดลอ้ มเพ่อื คุณภาพชวี ติ ทดี่ ี
เป้าประสงค์ : 1.ประชาชนสามารถเขา้ ถึงข้อมลู ข่าวสารด้านการพฒั นาที่อยูอ่ าศัยได้อย่างทว่ั ถึง
2. การพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ทด่ี ีและเปน็ มิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม
กลยุทธ์ : 1. สง่ เสรมิ การพัฒนาที่อยู่อาศยั ทเ่ี หมาะสมสำหรบั ผมู้ รี ายได้นอ้ ยในเมืองและชนบท
2. สง่ เสริมการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตทีด่ แี ละเป็นมิตรต่อสง่ิ แวดลอ้ ม

4.4 ความเชือ่ มโยงระหวา่ งเปา้ ประสงค์ กลยุทธ์และตัวช้ีวดั

ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๑ การพัฒนาและสนับสนนุ ใหม้ ีที่อย่อู าศยั ทไ่ี ด้มาตรฐาน

เป้าประสงค์ กลยทุ ธ์ ตัวช้ีวัด ค่าเปา้ หมาย (Target)
ค่าเป้าหมาย ๕ ปี / ระยะเวลาดำเนินการ
(Goal) (Tactic) (Key
Performance ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐

Indicator)

๑. พฒั นาท่อี ยู่ ๑. เตรยี ม 1. จำนวน รวม ๑,๑๒๙ คร. รวม 650 คร. รวม๑,207คร. - -

อาศัยไดอ้ ยา่ ง ความพร้อม ครัวเรอื นได้รับ พื้นท่ี พนื้ ที่ พ้ืนที่

เหมาะสมมี ในการพัฒนา การปรบั ปรงุ มี - ทม.สน่ันรกั ษ์ - ทม.บางพูน - ทต.หลกั หก

ความปลอดภัย ทอ่ี ยอู่ าศยั ท่ี มาตราฐาน มี - ทต.หลักหก - ทต.ลำไทร

มีความมน่ั คง เหมาะสม ความปลอดภยั

ใหก้ ับผมู้ ี

รายได้ที่

หลากหลาย

๒. สนบั สนนุ 2. จำนวนคน

ใหท้ ุกคนมที อ่ี ยู่ ไร้ท่อี ย่อู าศัย

อาศยั ทมี่ ่ันคง ลดน้อยลง

ปลอดภยั ยัง่ ยืน

อยา่ งมีศักดศ์ิ รี

3. สง่ เสรมิ 2. เสริมสร้าง 1. จำนวน รวม 402 คร. รวม 510 คร. รวม 422 คร. รวม 690 คร. รวม 962 คร.

ให้ประชาชน โอกาสให้ผมู้ ี ครัวเรือนที่ พนื้ ที่ พ้ืนที่ พื้นที่ พ้ืนที่ พ้นื ที่

หรอื ผู้เดือดร้อน รายได้นอ้ ย ไดร้ บั การ ทม.สน่ันรกั ษ์ - ทม.สน่นั รกั ษ์ - ทต.หลกั หก - ทต.หลักหก - ทต.หลกั หก

สามารถเขา้ ถงึ เข้าถงึ แหล่ง สนบั สนนุ ทต.หลักหก - ทต.หลกั หก - ทต.ลำไทร - ทม.บางพนู

แหล่งทุนได้ ทนุ เพอ่ื การ แหลง่ ทนุ ใน - ทม.บางพูน

อยา่ งมี พัฒนาทอ่ี ยู่ การแกไ้ ข

ประสิทธภิ าพ อาศยั อยา่ ง ปญั หาดา้ นที่

และประสทิ ธผิ ล เสมอภาค อยอู่ าศยั และ

และทว่ั ถึง พัฒนาคณุ ภาพ

ชีวติ เพ่ิมข้ึน

4. เครอื ขา่ ย ๓. สร้าง 1. จำนวน 20 พ้ืนท่ี 16 พนื้ ที่ 10 พน้ื ที่ 11 พ้ืนท่ี 11 พนื้ ที่

ภาคประชาชน และพัฒนา พืน้ ท/่ี ท้องถิน่

สามารถพฒั นา ระบบข้อมูล จดั ทำข้อมลู

ระบบฐานขอ้ มลู สารสนเทศ ของผเู้ ดอื ดรอ้ น

ให้เป็นปจั จุบนั ดา้ นทีอ่ ย่อู าศยั ด้านทอี่ ยอู่ าศยั

และทันตอ่ อยา่ งเปน็ ระบบ เป็นปจั จุบนั

สถานการณ์

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาที่อย่อู าศยั จังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 43

ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ ๒ การยกระดบั การบรู ณาการดา้ นบริหารจัดการท่อี ยอู่ าศัย และที่ดนิ ทำกิน

เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตวั ช้ีวัด ค่าเป้าหมาย (Target)
ค่าเปา้ หมาย ๕ ปี / ระยะเวลาดำเนนิ การ
(Goal) (Tactic) (Key Performance ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐
Indicator)
๑. ประสานความ
รว่ มมือทุกภาค ๑. สง่ เสริมการมสี ่วน 1. จำนวนหนว่ ยงาน 20 23 23 23 23
ส่วนในการบริหาร รว่ มของภาคเอกชน และภาคีความรว่ มมือ หน่วยงาน หนว่ ยงาน หน่วยงาน หน่วยงาน หนว่ ยงาน
จัดการท่ีอยู่อาศยั
อย่าง และท้องถ่นิ ในการ ทมี่ บี ทบาท ในการ
มีประสทิ ธิภาพ
ขับเคลื่อนการ พัฒนาท่ีอยู่อาศยั และ

พฒั นาท่ีอยู่อาศยั พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตที่

และทดี่ ินทำกิน เข้าร่วมประชมุ เวที

ขบั เคล่ือนนโยบาย

และการจัดต้ัง

ศูนย์บริการจัดการ

ดา้ นที่อยู่อาศัย ที่ดิน

ทำกิน

๒. เปน็ ห้นุ ส่วน ๒. สร้างขีด 2. รอ้ ยละของ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
ในการรว่ มคดิ ความสามารถ ความสำเรจ็ ในการ 60 70 80 90 100
ร่วมทำร่วม ด้านการบรหิ าร พฒั นาท่ีอยู่อาศัย
ตัดสินใจ เพอื่ จัดการดา้ นท่ีอยู่ “คนไรบ้ า้ น” ให้
การบรหิ าร อาศยั และท่ดี ินทำ ความมน่ั คง
จดั การที่อยู่ กิน
อาศยั ที่ดีมี
คุณภาพ

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาท่อี ยู่อาศยั จังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 44

ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี ๓ การสง่ เสรมิ ให้ชุมชนเขม้ แข็งได้อย่างยงั่ ยนื

เปา้ ประสงค์ กลยทุ ธ์ ตัวชีว้ ัด คา่ เป้าหมาย (Target)
คา่ เป้าหมาย ๕ ปี / ระยะเวลาดำเนินการ
(Goal) (Tactic) (Key Performance ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐
Indicator)

1. การพฒั นาเศรษฐกจิ 1. ส่งเสริมการ 1. จำนวนช ุ มชนท่ี 16 17 14 13 9
ฐ า น ร า ก ด ้ ว ย ทุ น พัฒนากลุ่มอาชีพ ขับเคลื่อนการรวมกลุ่ม ชุมชน ชมุ ชน ชุมชน ชมุ ชน ชมุ ชน

ภายในของชุมชนและ ของสมาชิกด้านที่ ด้านที่อยู่อาศัยและที่ดนิ

เชื่อมโยงทุนชุมชนเพื่อ อยู่อาศัยและที่ดิน ทำกินตามโครงการบ้าน

สร้างอาชพี สร้างรายได้สู่ ทำกนิ มั่นคง

การจัดวัสดิการให้แก่

สมาชิก

๒. ส่งเสริมการ

รวมกล ุ ่ มส ม า ชิ ก

ด้านท่ีอยู่อาศัยและ

ท ี ่ ด ิ นทำก ิ นให้

สามารถพึ่งตนเองได้

๓. ส่งเสริมการจัด

สว ั สด ิ การให ้ แก่

สมาชิกด้านที่อยู่

อาศัยและที่ดินทำ

กนิ

2. จำนวนครัวเรือนที่ 385 375 366 30 20
ได้รับการพัฒนาและ คร. คร. คร. คร. คร.

การจัดสวัสดิการด้านที่

อยู่อาศยั

3. จำนวนครัวเรือน 425 363 100 100 100
เปราะบางที่ได้รับการ คร. คร. คร. คร. คร.

ปรับปรุงที่อย่อู าศยั

4. จำนวนหลังคาเรือนท่ี

การเคหะแห ่ งช าติ

ส่งเสริมรูปแบบ จำนวน 1,100 หลงั คาเรือน

เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อ ในพนื้ ที่ ต.ลำไทร อำเภอลำลูกกา จังหวดั ปทุมธานี

พัฒนาคุณภาพชีวิตของ

ชุมชน

แผนยุทธศาสตร์การพฒั นาท่ีอย่อู าศยั จังหวัดปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 45

ประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๔ การจดั การส่งิ แวดลอ้ มเพ่ือคุณภาพชีวติ ที่ดี

เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวช้วี ดั คา่ เปา้ หมาย (Target)
ค่าเป้าหมาย ๕ ปี / ระยะเวลาดำเนนิ การ
(Goal) (Tactic) (Key Performance ๒๕๖๖ ๒๕๖๗ ๒๕๖๘ ๒๕๖๙ ๒๕๗๐
Indicator)
๑.ประชาชนสามารถ ๑. สง่ เสรมิ การ 1 1 11 1
เข้าถงึ ข้อมูลขา่ วสาร พัฒนาท่ีอยู่อาศยั ท่ี 1. มีเวทีเผยแพรข่ ้อมลู คร้ัง ครง้ั ครัง้ คร้ัง ครั้ง
ดา้ นการพัฒนาที่อยู่ เหมาะสมสำหรับผู้ ข่าวสารทีเ่ กีย่ วข้องกับ
อาศยั ได้อย่างทั่วถงึ มีรายไดน้ ้อยใน การพัฒนาที่อยู่อาศัย 5 3 557
เมอื งและชนบท ไมน่ อ้ ยกว่าปลี ะ ๑ ครง้ั ชมุ ชน ชุมชน ชมุ ชน ชุมชน ชมุ ชน
๒. การพฒั นาคณุ ภาพ 2. ส่งเสริมการ
ชีวิต ทเ่ี ป็นมติ รต่อ พฒั นาคณุ ภาพชีวิต 2. จำนวนชมุ ชนที่มี
สิ่งแวดล้อม ท่ดี ีและเป็นมิตรต่อ ระบบการพฒั นา
ส่ิงแวดล้อม คณุ ภาพชีวิตทดี่ ีในการ
ดแู ลสมาชกิ กลุ่ม
ผูด้ ้อยโอกาส

แผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาที่อยูอ่ าศยั จงั หวัดปทุมธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 46

4.5 กลไกและระบบบรหิ ารจดั การ
1. คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ ๑๑๐๐/๒๕๕๙ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดภายใต้คณะอนุกรรมการ

ขบั เคลื่อนท่อี ยอู่ าศยั สำหรบั ผมู้ ีรายได้นอ้ ย ลงวันท่ี ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙
2. คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ ๑๒๒๓/๒๕๖0 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเพื่อคนยากจน

ที่บกุ รกุ ทีด่ นิ สาธารณะจังหวัดปทมุ ธานี ลงวนั ท่ี ๒0 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐
3. คำสั่งคณะอนุกรรมการด้านนโยบายและแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ 3/2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการ

ขับเคลื่อนนโยบายและแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระดับจังหวดั ลงวันท่ี 6 กรกฎาคม 2561
4. คำสั่งจงั หวัดปทมุ ธานี ท่ี 9697/๒๕๖๑ เร่ือง แต่งตัง้ คณะทำงานการขบั เคล่ือนนโยบายและแผนการพัฒนา

ทีอ่ ย่อู าศัย ระดับจังหวดั ลงวนั ท่ี ๑๓ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖๑
5. คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ ๔๙๑/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการขับเคลื่อนนโยบายและแผนการพัฒนา

ท่ีอยอู่ าศยั ระดบั จงั หวดั เพิ่มเตมิ ลงวนั ที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒
6. คณะทำงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวดั ปทุมธานี

แผนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาที่อย่อู าศัยจังหวดั ปทมุ ธานี ปี พ.ศ. 2566 - 2570 47


Click to View FlipBook Version