เทียนหอมจากสมุนไพร
(Herbal scented candles)
จัดทาโดย
นางสาวสโรชา มอโท ช้นั ม.5/4 เลขท่ี 25
เสนอ
นางวนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์
คุณครูที่ปรึกษาการศึกษาคน้ ควา้
การศกึ ษาน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า การสื่อสารและการนาเสนอ (IS2) รหสั วชิ า I30202
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ
ภาคเรียนที่ 2 ปี การศกึ ษา 2564
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาอุดรธานี
ก
สารบญั
หนา้
บทคดั ยอ่ ..................................................................................................................................................ก
กิตติกรรมประกาศ...................................................................................................................................ข
บทท่ี 1 บทนา
ความเป็ นมาของปัญหา...............................................................................................................1
จุดมุ่งหมายของการศึกษา ...........................................................................................................2
สมมติฐาน..................................................................................................................................2
ขอบเขตของโครงงาน................................................................................................................2
ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ........................................................................................................3
นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ........................................................................................................................3
บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง
..............................................................................................................................................4-12
บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน
วธิ ีการดาเนินการ.................................................................................................................13-15
บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล
ผลการดาเนินงาน................................................................................................................16-17
บทท่ี 5 สรุปและอภปิ รายผลการศึกษา
สรุปและอภิปรายผลการศึกษา............................................................................................18-19
ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาคน้ ควา้ คร้ังต่อไป.............................................................................20
บรรณานุกรม.........................................................................................................................................21
ประวตั ิผศู้ ึกษา...................................................................................................................................22-26
ภาคผนวก.........................................................................................................................................27-37
ก
หัวข้อโครงงาน เทียนหอมจากสมุนไพร
ผู้จัดทำ นางสาวสโรชา มอโท ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4 เลขที่ 25
นางสาวญาณิศา แกว้ ภา ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4 เลขท่ี 27
นางสาวปิ ยธิดา กงั สกลุ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4 เลขที่ 28
นางสาวศิรินทรา อุตทะคะวาปี ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4 เลขที่ 29
นางสาวกมลพรรณ บวั อินทร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4 เลขท่ี 30
ระดบั ช้ัน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4
ช่ือครูทป่ี รึกษา คุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์
โรงเรียน สตรีราชินูทิศ
ปี พ.ศ. 2564
บทคดั ย่อ
โครงงานเทียนหอมจากสมุนไพร จดั ทาโดยมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ศึกษาข้นั ตอนการทาเทียนหอม
จากสมุนไพรและสรรพคุณเทียนหอมจากสมุนไพรแตล่ ะชนิด เพอื่ ใหเ้ ยาวชนรุ่นใหมไ่ ดศ้ ึกษา ทาความ
เขา้ ใจและเลง็ เห็นถึงความสาคญั ของเทียนหอม
การใชเ้ ทียนหอมจากสมุนไพร ส่วนใหญ่จะใชเ้ พือ่ ตกแต่งหอ้ ง ผอ่ นคลายอารมณ์ เก็บรักษาง่าย
ประหยดั มีคุณคา่ จากการเอาสมุนไพรพ้นื บา้ นมาทา
ผลจากการทดลองพบวา่ เทียนหอมจากสมุนไพร สามารถจุดไดน้ าน ประมาณ 3-4 ชวั่ โมง ช่วย
ผอ่ นคลาย ทาใหห้ ลบั ง่ายข้ึน มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากตวั สมุนไพร
ขก
กติ ตกิ รรมประกาศ
โครงงานน้ีสาเร็จลุลวงไดด้ ว้ ยความกรุณาจากคุรครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์ คุณครูที่ปรึกษา
โครงงานท่ีไดใ้ หค้ าแนะนา แนวคิด ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่างๆมาโดยตลอด จนโครงงานเล่มน้ี
เสร็จสมบูรณ์ ผศู้ ึกษาจึงกราบขอบพระคุณอยา่ งสูง
ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ และผปู้ กครอง ท่ีใหค้ าศึกษาในเรื่องต่างๆรวมท้งั คอย
สนบั สนุนและเป็นกาลงั ใจท่ีดีเสมอมา
ทา้ ยน้ีขอขอบคุณเพอ่ื นๆท่ีใหค้ าแนะนาดีๆเก่ียวกบั การทาโครงงานชิ้นน้ี และสุดทา้ ย
ขอขอบคุณทุกทา่ นท่ีมีส่วนร่วมช่วยใหค้ าแนะนา จนทาใหโ้ ครงงานชิ้นน้ีสาเร็จลุล่วงไปไดด้ ี
คณะผจู้ ดั ทา
1
บทที่ 1
บทนา
ความเป็ นมาของปัญหา
ในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ มนุษยย์ งั ไม่มีไฟท่ีใชใ้ หค้ วามสวา่ งในยามค่าคืน คนในสมยั น้นั จึง
ไดน้ าเทียนมาใชส้ ร้างแสงสวา่ งโดยการตม้ รังผ้งึ เพือ่ ใหไ้ ดข้ ้ีผ้งึ มาใชใ้ นการทาเทียนสาหรับใหค้ วาม
สวา่ งสไว
เทียนนอกจากใชใ้ หแ้ สงสวา่ งแลว้ ยงั มีการนาเขา้ มาประกอบกบั พธิ ีกรรมทางศาสนาหรือ
ตามแต่ความเชื่อในแต่ละพ้ืนที่ และยงั มีการนาเทียนใชป้ ระดบั สถานที่ซ่ึงเป็นการแสดงถึงฐานะความมี
รสนิยม ท้งั ยงั เป็นสร้างบรรยากาศไดด้ ีอีกดว้ ยโดยปัจจุบนั นิยมใชเ้ ทียนที่มีความสวยงามในรูปแบบ
เทียน
เทียนคือ ผลิตภณั ฑท์ ่ีไดจ้ ากการนาพาราฟิ นมาผา่ นความร้อนให้หลอมละลายเป็นของเหลว
อาจเติมสี แลว้ ตกั ใส่ภาชนะรูปทรงตามตอ้ งการ เช่น แกว้ ใส เซรามิก ดินเผา ตกแตง่ เพ่มิ ใหเ้ กิดความ
สวยงาม เช่น การไล่สีเป็นระดบั การตดั สีของเทียน ทาเป็ นของประดบั ตกแต่งและของที่ระลึก
นอกจากน้ียงั สามารถช่วยคลายความเครียดโดยการบาบดั ดว้ ยการใชก้ ล่ินหอม
การใชก้ ล่ินหอมโดยการนากล่ินจากพชื มาใช้ บาบดั โดยสกดั เป็ นน้ามนั หอมระเหย หรือท่ีเรา
รู้จกั ในชื่อ อโรมาเธอราปี เพ่ือการผอ่ นคลาย และนามาบาบดั โรคตามแตค่ ุณสมบตั ิของกลิ่นแต่ละกล่ิน
เช่น กลิ่นตะไคร้ ลดความรู้สึกเหนื่อยลา้ เครียด เพิม่ ความรู้สึกมีชีวติ ชีวา มีสมาธิ บรรเทาอาการ ปัญหา
ระบบหมุนเวยี นเลือด และไล่แมลง
ทางคณะผจู้ ดั ทาโครงงาน จึงไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั ข้นั ตอนการทาเทียนหอมและสรรพคุณ
ของเทียนหอมในแตล่ ะกล่ิน เพ่ือใหค้ วามรู้เก่ียวกบั น้ามนั หอมระเหยแตล่ ะกล่ินวา่ มีประโยชน์ในดา้ น
ใดบา้ ง
2
จุดมุ่งหมายของการศึกษา
1. เพอื่ ศึกษาคน้ ควา้ และใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั ข้นั ตอนการทาเทียนหอมจากสมุนไพร
2. เพอ่ื นาสมุนไพรท่ีมีอยมู่ าแปรรูปใหม่
3. เพ่ือศึกษาสรรพคุณของเทียนหอมจากสมุนไพร
4. เพอ่ื สร้างปฏิสัมพนั ธ์ท่ีดีระหวา่ งคนในกลุ่ม
สมมุตติฐานของการศึกษา
ผจู้ ุดเทียนหอมสามารถผอ่ นคลายเม่ือไดก้ ล่ิน
ขอบเขตของโครงงาน
1. ขอบเขตด้านเนื้อหา
- ประโยชน์ของเทียนหอมจากสมุนไพร
- สรรพคุณของสมุนไพร
2. ขอบเขตด้านประชากร
ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี เป็ นนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4 โรงเรียนสตรี
ราชนูทิศ ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2564 เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 5 คน
3. ขอบเขตด้านเวลา
วนั ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564 – วนั ที่ 15 ธนั วาคม พ.ศ. 2564
3
ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ
1. ผทู้ ่ีใชส้ ามารถผอ่ นคลาย หลบั ง่าย
2. ส่งเสริมสมุนไพรพ้ืนบา้ น
3. ผอ่ ยคลายและสามารถไล่ยงุ ไปพร้อมๆกนั
นิยามศัพท์เฉพาะ
- เทียนหอม คือ เทียนท่ีคณะผจู้ ดั ทาไดน้ ามาตกแต่งกลิ่น ใส่น้ามนั หอมกลิ่นใบเตย ตะไคร้และ
มะกรูด
- พืชสมุนไพร หมายถึง ผลิตผลจากธรรมชาติท่ีคณะผจู้ ดั ทาเลือกมาใชเ้ พ่อื บาบดั บารุงร่างกาย
บรรเทาอาการต่างๆ
4
บทท่ี 2
เอกสารและงานวจิ ัยทเี่ กย่ี วข้อง
ในการศึกษาโครงงานเร่ือง เทียนหอมจากสมุนไพร คณะผจู้ ดั ทาไดศ้ ึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลจาก
เอกสารตา่ งๆที่เก่ียวขอ้ งกบั ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. ท่ีมาและความสาคญั ของเทียนหอม
2. วตั ถุประสงคข์ องเทียนหอมสมุนไพร
3. ข้นั ตอนการทาเทียนหอมจากสมุนไพร
4. สรรพคุณจากสมุนไพรต่างๆท่ีช่วยผอ่ นคลาย
5. สรรพคุณของเทียนหอม
6. เทียนหอมในรูปแบบต่างๆ
7. งานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง
1. ทมี่ าและความสาคญั ของเทยี นหอม
ในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ มนุษยย์ งั ไม่มีไฟที่ใชใ้ หค้ วามสวา่ งในยามค่าคืน คนในสมยั น้นั จึงไดน้ า
เทียนมาใชส้ ร้างแสงสวา่ งโดยการตม้ รังผ้งึ เพื่อใหไ้ ดข้ ้ีผ้งึ มาใชใ้ นการทาเทียนสาหรับใหค้ วามสวา่ งสไว
เทียนนอกจากใชใ้ หแ้ สงสวา่ งแลว้ ยงั มีการนาเขา้ มาประกอบกบั พธิ ีกรรมทางศาสนาหรือ
ตามแต่ความเช่ือในแตล่ ะพ้นื ที่ และยงั มีการนาเทียนใชป้ ระดบั สถานที่ซ่ึงเป็นการแสดงถึงฐานะความมี
รสนิยม ท้งั ยงั เป็นสร้างบรรยากาศไดด้ ีอีกดว้ ยโดยปัจจุบนั นิยมใชเ้ ทียนที่มีความสวยงามในรูปแบบ
เทียน
เทียนคือ ผลิตภณั ฑท์ ี่ไดจ้ ากการนาพาราฟิ นมาผา่ นความร้อนใหห้ ลอมละลายเป็นของเหลว
อาจเติมสี แลว้ ตกั ใส่ภาชนะรูปทรงตามตอ้ งการ เช่น แกว้ ใส เซรามิก ดินเผา ตกแตง่ เพิ่มใหเ้ กิดความ
5
สวยงาม เช่น การไล่สีเป็นระดบั การตดั สีของเทียน ทาเป็ นของประดบั ตกแต่งและของท่ีระลึก
นอกจากน้ียงั สามารถช่วยคลายความเครียดโดยการบาบดั ดว้ ยการใชก้ ล่ินหอม
เทียนหอม หมายถึง ผลิตภณั ฑท์ ่ีไดจ้ ากการนาพาราฟิ นและไขผ้งึ มาหลอมละลายรวมกนั อาจ
เติมสีและเติมน้ามนั หอมระเหย นาป้ันหรือหล่อแบบข้ึนรูป หรือกดจากพิมพใ์ หม้ ีรูปทรงตามตอ้ งการ
อาจะประกอบดว้ ยวสั ดุอื่นเพ่ือใหเ้ กิดความสวยงาม เช่น ดอกไมแ้ หง้ มีใส้เทียนสาหรับจุดไฟ และมี
กล่ินหอมของน้ามนั หอมระเหย ทาจากส่วนผสมไมก่ ่ีอยา่ ง ทาง่าย และตกแตง่ ง่าย โดยใชต้ น้ ทุนเพยี ง
ไม่ก่ีบาท ก็สามารถประดิษฐข์ ้ึนมาได้ เทียนท่ีถูกแต่งกลิ่นใหม้ ีกล่ินหอม เวลาจุดจะส่งผลใหก้ ล่ินหอม
อยทู่ ว่ั บริเวณหอ้ ง นอกจากจะใหแ้ สงสวา่ งแลว้ ตวั กล่ินยงั มีความสามารถในการสร้างความผอ่ นคลาย
ใหก้ บั ผสู้ ูดดม ตามชนิดของกลิ่นท่ีใช้ ช่วยสร้างบรรยากาศใหก้ บั หอ้ งไดอ้ ยา่ งมีเสน่ห์
เทียนหอมสมุนไพร หมายถึง สิ่งประดิษฐท์ ี่ออกแบบโดยการประยกุ ตจ์ ากของเดิมที่มีตาม
ทอ้ งตลาดท่ีมีสรรพคุณช่วยในการผอ่ นคลาย
การใชก้ ล่ินหอมโดยการนากลิ่นจากพชื มาใช้ บาบดั โดยสกดั เป็นน้ามนั หอมระเหย หรือที่เรา
รู้จกั ในช่ือ อโรมาเธอราปี เพื่อการผอ่ นคลาย และนามาบาบดั โรคตามแต่คุณสมบตั ิของกล่ินแตล่ ะกลิ่น
เช่น กลิ่นตะไคร้ ลดความรู้สึกเหนื่อยลา้ เครียด เพิม่ ความรู้สึกมีชีวติ ชีวา มีสมาธิ บรรเทาอาการ ปัญหา
ระบบหมุนเวยี นเลือด และไล่แมลง
2. วตั ถุประสงค์ของเทยี นหอมสมุนไพร
1. เพ่อื ศึกษาคน้ ควา้ และใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั ข้นั ตอนการทาเทียนหอมจากสมุนไพร
2. เพือ่ ศึกษาสรรพคุณของเทียนหอมจากสมุนไพรแต่ละชนิด
3. เพอื่ สร้างปฏิสัมพนั ธ์ที่ดีระหวา่ งคนในกลุ่ม
6
3. ข้นั ตอนการทาเทยี นหอมจากสมุนไพร
- วสั ดุอุปกรณ์ในการทาเทียนหอมสมุนไพร
1. พาราฟิ น
2. ไมโครแวกซ์ (MV ; Micro Wax)
3. กรดสเตรียริก (SA ; Stearic Acid)
4. โพลีเอทิลีน (PE ; Polythylene)
5. ไส้เทียน (เชือก)
6. น้าสมุนไพรแต่ละชนิด
7. หมอ้
8. แกว้ บรรจุหอมสมุนไพร
9. ผา้ กรอง
10. ครก สาก
- ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ
1. หน่ั และตาสมุนไพรท่ีเตรียมไว้ ใหเ้ ป็นชิ้นเล็กๆ (ใบเตย ตะไคร้ มะกรูด)
2. นาพาราฟิ นไปละลายในหมอ้ จากน้นั เติมสาร PE , MV,SA ลงไปผสม
3. แบง่ น้าผสมสารใหไ้ ดอ้ นั ตราส่วนเท่าๆกนั
4. นา ใบเตย ตะไคร้ และมะกรูด ไปตม้ รวมกบั น้าผสมสารที่แบ่งไวแ้ ลว้
7
5. เม่ือสมุนไพรเปล่ียนสีเป็นสีน้าตาลอ่อนๆและเริ่มส่งกลิ่น ใหใ้ ชผ้ า้ กรอง กรองเศษออก ให้
เหลือแต่น้าเทียนสมุนไพร
6. จบั ไส้เทียนใหอ้ ยตู่ รงก่ึงกลางแกว้
7. นาน้าเทียนสมุนไพรแตล่ ะชนิด เทใส่แกว้ ภาชนะที่เตรียมไว้ (เทใส่เกือบเตม็ )
แลว้ พกั ไวใ้ หเ้ ยน็
8. เมื่อเยน็ แลว้ เทียนจะบุบ ใหเ้ ราเอาน้าเทียนที่เหลือไปตม้ ใหเ้ ดือดแลว้ นามาเทใส่จนเตม็ แลว้
พกั ไวใ้ หเ้ ยน็
9. เม่ือเยน็ จนสมารถใชง้ านไดแ้ ลว้ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม และเสร็จเรียบร้อย
4. สรรพคุณจากสมุนไพรต่างๆทช่ี ่วยผ่อนคลาย
1. ตะไคร้
ตะไคร้หอม เป็นไมล้ ม้ ลุกทรงพุม่ ขนาดเล็ก สามารถแตกหน่อและเหงา้ เพ่อื การขยายพนั ธุ์ได้
ง่ายมาก ตะไคร้หอมนอกจากจะนามาทายาแผนโบราณไดส้ ารพดั แลว้ ยงั สามารถนามาเป็นสมุนไพรไล่
ยงุ คุณภาพดีไดอ้ ีกดว้ ย โดยสามารถใชไ้ ดท้ ้งั น้ามนั สกดั และลาตน้ กล่าวคือ สามารถนาน้ามนั หอมระเหย
ท่ีไดจ้ ากการสกดั ตะไคร้หอมมาทาผวิ หรือฉีดรอบๆบริเวณที่ตอ้ งการก็สามารถไล่ยงุ และแมลงอ่ืนไดด้
ผลดีมาก
2. มะกรูด
มะกรูดจดั เป็นพชื ตระกลู เดียวกบั มะนาวและเลมอน ดงั น้นั กล่ินน้ามนั หอมระเหยจากผวิ
เปลือก มะกรูดกม็ ีส่วนช่วยกล่อมประสาทและสมองใหเ้ กิดความผอ่ นคลาย ส่งผลใหเ้ รานอนหลบั ได้
ง่ายข้ึน
8
3. ใบเตย
เป็นพชื ใบเล้ียงเดี่ยวลกั ษณะแตกกอเป็ นพมุ่ ขนาดเล็ก ลาตน้ เป็นขอ้ ใบออกเป็นพมุ่ บริเวณปลาย
ยอดใชใ้ บตม้ เป็นน้าใบเตย ช่วยบารุงหวั ใจ ช่วยลดความดนั โลหิต ประโยชนส์ ารพดั และยงั นามาสกดั
เป็นน้ามนั หอมระเหย ช่วยทาใหผ้ อ่ นคลาย
4. กลนิ่ มะลิ
มะลิ หรือ Jasminum น้ามนั หอมระเหย กลิ่นมะลิ จะข้ึนจมูกเม่ือสูดดม สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการ
ซึมเศร้า ผอ่ นคลายความตึงเครียด วติ กกงั วล และอาการทางจิตใจต่างๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
5. กลนิ่ สะระแหน่
สะระแหน่ หรือ Melissa officinalis กล่ินท่ีหอมเยน็ สรรพคุณช่วยกระตุน้ ร่างกายช่วยใหม้ ีความรู้สึก
ตื่นตวั และเยน็ สดช่ืน ระงบั ความรู้สึกปวดหวั ไมเกรน ดว้ ยการสูดดมหรือนวดน้ามนั เจือจางบริเวณขมบั
และหลงั คอ ช่วยคลายความออ่ นลา้ กระตุน้ การไหลเวยี นของโลหิตป้องกนั การอาการไซนสั ไขห้ วดั คร่ัน
เน้ือคร่ันตวั บรรเทาอาการคลื่นไส้และวงิ เวยี นเมารถเมาเรือ เสียดทอ้ ง และทอ้ งเสีย
6. กลนิ่ กระดังงา
กระดงั งา หรือ Cananga odorara กล่ินดอกไมห้ อมในเขตร้อน สรรพคุณช่วยใหใ้ จเยน็ ผอ่ นคลาย ลด
ความกระวนกระวาย นอนไม่หลบั กล่ินหอมเขม้ ขน้ ของกระดงั งา ยงั ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความรัก
รัญจวนใจ กลิ่นช่วยใหใ้ จสงบ ช่วยบารุงประสาทและช่วยใหจ้ ิตใจสงบ แกอ้ าการซึมเศร้า กระวน
กระวายใจ ลดความดนั โลหิต แกห้ อบหืดได้ ขบั ลม ใชเ้ ป็นยาฆ่าเช้ือโรค
9
5. สรรพคุณของเทยี นหอมสมุนไพร
1. เทียนหอมน้นั ทาใหม้ ีความสวยงามภายในบรรยากาศตา่ งๆและสามารถสร้างแสงสวา่ งใหแ้ ก่
เราดว้ ยการจุดไฟ
2. สามารถใชแ้ ละประดบั ตกแตง่ ในสถานท่ีต่างๆซ่ึงใชใ้ นโอกาสต่างๆท่ีสวยงามเป็นพิธีมงคล
และสถานที่ปกติเพอื่ ตอ้ งความสวยงาม
3. ทาเป็นเทียนวนั เกิดไดโ้ ดยเทียนเหล่าน้ีเป็นเทียนสวยงามรู้สึกดีกวา่ การใชเ้ ทียนแบบเดิมๆที่
เป็ นเทียนปกติ
4. สามารถดบั กล่ินท่ีไมพ่ งึ ประสงคไ์ ดน้ น่ั เป็ นเพราะวา่ เทียนหอมน้นั มีกล่ินท่ีหอม
5. สามารถใชเ้ ป็นของชาร่วยในงานเช่น งานแตง่ งาน และงานบวชตา่ งๆ
6. สามารถจุดไล่ยงุ ไดซ้ ่ึงการจุดไล่ยงุ น้นั จะเป็นเทียนหอมกลิ่นตะไคร้หอม
7. การนาเทียนหอมสมุนไพรทาใหผ้ อุ้ ื่นสามารถนาไปใชเ้ พื่อยงุ ได้
8. เทียนหอมสมุนไพรสามารถใชย้ งุ แลไม่ทาใหผ้ ใู้ ชเ้ กิดอาการแพไ้ ดง้ ่าย
6. เทยี นหอมในรูปแบบต่างๆ
1. เทยี นแบบแท่ง ( Taper Candle )
เทียนชนิดแท่ง เป็นเทียนหอมท่ีมีรูปทรงเรียบง่าย และคุน้ หนา้ คุน้ ตากนั เป็นอยา่ งดี ลกั ษณะ
ของเทียนประเภทน้ี จะเป็นทรงสูงเรียวยาว ประมาณ 6 – 18 นิ้ว นนั่ จึงทาใหก้ ารใชเ้ ทียนประเภทน้ี ตอ้ ง
มีเชิงเทียนเป็ นตวั ช่วยเสริม เพือ่ ใหส้ ามารถต้งั บนได้ โดยส่วนมากกจ็ ะเห็นเทียนสไตล์น้ีบนโตะ๊ อาหาร
มากเป็นพิเศษ เพราะฉะน้นั ถา้ หากตอ้ งการจดั โตะ๊ สาหรับดินเนอร์ม้ือพิเศษวนั ไหน ก็สามารถเลือกใช้
เทียนแทง่ สไตลน์ ้ีเพื่อเพม่ิ บรรยากาศสุดหรูไดเ้ ลย
10
2 . เทยี นก้อนกลม ( Pillar Candle )
แมจ้ ะไดช้ ื่อวา่ เทียนกอ้ นกลม แตเ่ ทียนประเภทน้ีก็ ไมไ่ ดม้ ีแคท่ รงกลมเสมอไป แมโ้ ดย
ส่วนมาก Pillar candle จะเป็ นเทียนทรงกระบอก ท่ีสูงไมเ่ กิน 8 นิ้ว และจะมีความกวา้ งอยทู่ ่ีประมาณ 3
นิ้ว แต่บางคร้ังกอ็ าจมีรูปทรงอ่ืน ๆ ดว้ ยเหมือนกนั โดยภาพรวมของเทียนสไตลน์ ้ี จะเป็ นเทียนขนาด
กะทดั รัด ที่สามารถวางต้งั ไดโ้ ดยไม่จาเป็ นตอ้ งใชเ้ ชิงเทียนหรือภาชนะอ่ืน ๆ มาเป็นตวั ช่วยเสริม แต่ก็
อาจจะมีเรื่องของน้าตาเทียนที่ตอ้ งคอยจดั การ Pillar candle จึงอาจเหมาะกบั การวางประจาที่ในมุมหอ้ ง
มากกวา่ การเคล่ือนยา้ ยบอ่ ย ๆ และสามารถจุดใชง้ านไดน้ านหลายชวั่ โมง
3 . เทยี นในถ้วย ( Glass Candle , Container Candle , Jar Candle )
เทียนหอมในถว้ ยแกว้ น้นั เป็ นเทียนยอดนิยมอีกรูปแบบเลยคะ่ เพราะดว้ ยขนาดที่สามารถใช้
งานใหห้ มดไดใ้ นเวลาท่ีไม่นานจนเกินไป มีภาชนะรองรับน้าตาเทียนในตวั แถมยงั เคล่ือนยา้ ยง่าย จุด
ไดส้ ะดวกในทุกมุม สามารถใชง้ านไดอ้ ยา่ งปลอดภยั และไม่ตอ้ งห่วงเรื่องน้าตาเทียนหยดเลอะเทอะดว้ ย
คะ่ ซ่ึงส่วนใหญ่ เทียนชนิดน้ีกจ็ ะอยใู่ นกระปุกท่ีทาจากแกว้ เซรามิค หรือ อลูมิเนียม ซ่ึงเป็นวสั ดุท่ีทน
ความร้อนได้ บางชิ้นกม็ าพร้อมฝาปิ ด ที่ช่วยใหเ้ กบ็ เขา้ ท่ีไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเจอฝ่ ุน และ แสง ที่เป็นตน้ เหตุให้
เทียนหอม มีประสิทธิภาพท่ีลดลง
4 . เทยี นเจล ( Gel Candle )
เทียนเจลน้นั จะเป็นเทียนท่ีมีส่วนผสมท่ีตา่ งออกไปจากเทียนหอมแบบปกติ ท่ีมกั จะใชไ้ ขผ้งึ
หรือ ถว่ั เหลือง เป็นส่วนประกอบหลกั แต่เทียนเจลน้นั ทามาจากน้ามนั สงั เคราะห์ หรือ สารท่ีไดจ้ าก
ไฮโดรคาร์บอน จึงทาใหเ้ น้ือเทียนประเภทน้ี มีลกั ษณะที่โปร่ง ใส เหมาะกบั การนาของตกแตง่ หรือ ไอ
เทมตา่ ง ๆ ลงไปวางตกแต่งเพื่อเพมิ่ ความสวยงาม ท่ีเห็นกนั ไดม้ ากท่ีสุดเลย ก็จะเป็นวสั ดุประเภทเปลือก
หอย ดอกไมแ้ หง้ หรือ โมเดลอนั จ๋ิว ๆ นน่ั เองคะ่ ในเม่ือมีรายละเอียดดา้ นในเยอะขนาดน้ี การใชภ้ าชนะ
11
ที่เป็นแกว้ ใสจึงเหมาะกบั เทียนเจลมากที่สุด เพราะทนความร้อนไดด้ ีและสามารถอวดความสวยที่อยใู่ น
เน้ือเทียนไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ีดว้ ย
5 . เทยี นทไี ลท์ ( Tealight Candle )
เทียนทีไลทเ์ ป็นเทียนท่ีมีขนาดเลก็ ที่สุด มกั จะอยใู่ นถว้ ยอลูมิเนียมกลม ๆ ท่ีมีความสูงเพียงคร่ึง
นิ้วเทา่ น้นั แต่ถึงแมจ้ ะมีขนาดเลก็ แต่ก็สามารถนาไปใชไ้ ดค้ อ่ นขา้ งหลากหลาย ต้งั แต่การนาไปจดั ลงใน
โหลแกว้ หรือตะเกียงสวย ๆ วางบนพชื และสมุนไพรต่าง ๆ อยา่ งมะนาวหรือกากกาแฟเพอ่ื กระจายกล่ิน
หอมฟุ้งใหท้ ว่ั ห้อง หรือถา้ จะนาไปจดั ในบริเวณกวา้ ง ๆ ที่ตอ้ งใชเ้ ทียนจานวนมากก็ตอ้ งยกใหเ้ ทียนที
ไลทเ์ ลยค่ะ ที่สาคญั ยงั ใชง้ านในช่วงส้นั ๆ ไดด้ ี เพราะหนา้ เทียนจะสามารถละลายไดท้ วั่ เสมอกนั โดย
ไมต่ อ้ งรอเป็ นชวั่ โมงเหมือนเทียนรูปแบบอื่นที่มีขนาดใหญด่ ว้ ย
6. เทยี นลอยนา้ ( Floating Candle)
เทียนลอยน้าน้นั จะมีขนาดและรูปร่างแบน ๆ คลา้ ยกบั เทียนทีไลทเ์ ลยคะ่ เพยี งแต่เทียนสาหรับ
ลอยน้าจะมีดีไซน์ที่หลากหลายและสีสันสวยกวา่ ไม่ไดเ้ ป็นเพียงกอ้ นกลม ๆ เท่าน้นั ส่วนใหญ่มกั จะ
เป็นรูปดอกไม้ ใบไม้ เพอื่ ใหเ้ หมาะต่อการนาไปลอยน้า ซ่ึงกส็ ามาถนาไปใชไ้ ดต้ ้งั แต่การจดั โหลแกว้ ใน
หอ้ งไปจนถึงตกแต่งบ่อน้าในสวนหยอ่ มเลย
12
7. งานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วข้อง
งานวจิ ัยในประเทศ
ในสมยั ก่อนเทียนไขส่วนใหญท่ ามาจากวตั ถุดิบตามธรรมชาติ เช่น ข้ีผงึ ซ่ึงปลอดภยั ต่อสุขภาพ
ของคนเรา แต่ในปัจจุบนั น้ีเราจะเห็นเทียนท่ีขายมีรูปร่างและสีตา่ งๆกนั เช่น เขียว เหลือง แดง ม่วง น้า
เงิน และสีอ่ืน ๆ อีก พร้อมกบั รูปร่างของเทียนกม็ ีหลากหลายรูปแบบ และมีกล่ินที่หลากหลาย บางคร้ัง
เรียกเทียนเหล่าน้ีวา่ เทียนแฟนซี หรือ เทียนพิษ ท่ีสาคญั คือการผลิตเทียนในปัจจุบนั น้ีเปล่ียนแปลงไป
จากเดิมมาก เทียนสีสวยมีกล่ินตา่ งๆน้นั ซ่ึงปัจจุบนั มีขายทว่ั ประเทศรวมท้งั มีขายในต่างประเทศ
เช่นเดียวกนั อาจกลายเป็นตวั ปล่อยสารพษิ สู่อากาศทาใหอ้ ากาศเป็นพษิ ได้
งานวจิ ัยต่างประเทศ
ทีมวจิ ยั จากมหาวทิ ยาลยั เซาทแ์ คโรไลน่า สหรัฐอเมริกา (South Carolina State University) ได้
ทาการศึกษาเทียนท่ีผลิตจาก พาราฟิ น (Pataffin wax candle) มีส่วนผสมของ ปิ โตรเลียม และ เทียน ท่ีมี
ส่วนผสมของ พชื และถวั่ เหลือง เพ่อื เปรียบเทียบการปล่อยสารพษิ โดยผลิตมาจากตา่ งโรงงาน เป็ น
เวลา 8 ชว่ั โมง ในกล่องทดลอง นกั วจิ ยั ไดเ้ ก็บตวั อยา่ งเทียนพร้อมสารเคมีในอากาศไปวเิ คราะห์ ผล
ปรากฏวา่ เทียนมีส่วนผสมของ พาราฟิ น ซ่ึงเป็ นผลิตภณั ฑป์ ิ โตรเลียม ปล่อยสาร โทลูอีน (Toluene)
และสาร เบนซีน (Benzene) ออกมาซ่ึงเป็นสารพิษ เป็นสารก่อมะเร็ง ส่วนเทียนที่มีส่วนผสมของพืช
หรือถวั่ เหลืองกลบั ไม่พบสารพิษดงั กล่าวเลย นกั วจิ ยั จึงไดก้ ล่าววา่ การจุดเทียนท่ีมีส่วนผสมของ
พาราฟิ นบอ่ ยคร้ังภายในห้องที่อากาศไมถ่ ่ายเท อาจทาใหเ้ กิดอาการหอบหืด ก่อใหเ้ กิดภูมิแพต้ ามมา
และทาใหเ้ กิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้
13
บทท่ี 3
วธิ ีดาเนินการ
ในการศึกษาคร้ังน้ีผศู้ ึกษาไดท้ าการศึกษา โครงงาน เรื่อง เทียนหอมจากสมุนไพร ซ่ึงมีวธิ ีการ
ดงั น้ี
ระเบียบวธิ ีทใี่ ช้ในการศึกษา
ในการศึกษาใชร้ ูปแบบการสืบคน้ ขอ้ มูล จาก อินเตอร์เน็ต และจากการสอบถามผรู้ ู้
1. ประชากรทใ่ี ช้ในการศึกษา
ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี เป็ นนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4 โรงเรียนสตรีราชนูทิศ
ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2564 เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 5 คน
2. กลุ่มตวั อย่าง
กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีไดแ้ ก่นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ภาคเรียนที่2 ปี การศึกษา 2564 เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 43 คน ไดม้ าโดยเลือก เพอื่
ตอบแบบสอบถามท่ีสร้างข้ึน
ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการศึกษา
ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษา วนั ท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564 – วนั ที่ 15 ธนั วาคม พ.ศ. 2564
วธิ ีการศึกษา
1. กาหนดเรื่องท่ีจะศึกษา โดยสมาชิกท้งั 5 คน ประชุมร่วมกนั และร่วมกนั คิดและวางแผน วา่
จะศึกษาเรื่องใด
2. เลือกเรื่องท่ีจะศึกษา โดยเลือกเร่ืองที่สมาชิกมีความสนใจมากท่ีสุด เพอื่ เป็นแรงจูงใจในการ
คน้ หาคาตอบ
3. ศึกษาแนวคิดในการแกป้ ัญหา
4. ต้งั ชื่อเร่ือง
5. เขียนความสาคญั ความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขตการศึกษา
โครงงาน และประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ โดยศึกษาขอ้ มูลจากหนงั สือ วทิ ยานิพนธ์และสืบคน้ ขอ้ มูล
จากอินเตอร์เน็ต และจดบนั ทึกในโครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ ( ตามใบงาน)
14
6. รวบรวมขอ้ มูล
7. ผศู้ ึกษาลงมือปฏิบตั ิงานตามข้นั ตอนและขอบเขตท่ีกาหนดในการทาโครงงาน
8. ผศู้ ึกษาลงมือทาเทียนหอมจากสมุนไพร
9. สมาชิกท้งั 5 คนของกลุ่ม พบครูผสู้ อนเพอื่ ปรึกษา วางแผนและรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุง
แกไ้ ข
10. นาเครื่องมือท่ีปรับปรุงแลว้ ไปใชก้ บั กลุ่มตวั อยา่ ง
11. วเิ คราะห์ขอ้ มูล
12. สรุปผลการศึกษา
13. ผศู้ ึกษาเขียนโครงงาน จดั ทา E-book วดิ ีโอและนาเสนอโครงงาน
เครื่องมือทใี่ ช้ในการศึกษา
เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี คือ แบบสอบถาม ( หรือแบบประเมินความพึงพอใจ) 1 ฉบบั
ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี
1. ออกแบบสอบถาม เร่ือง ความพึงพอใจในการใชเ้ ทียนหอมจาสมุนไพรโดยขอ
คาแนะนาจากคุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์ โดยเตรียมร่างขอ้ คาถาม มีลกั ษณะเป็ นขอ้ คาถามจานวน 5 ขอ้
เป็นแบบมาตราส่วนประมาณ 5 ระดบั คือ
5 หมายถึง เห็นดว้ ยมากที่สุด
4 หมายถึง เห็นดว้ ยมาก
3 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง
2 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย
1 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ยที่สุด
15
การพจิ ารณาคา่ เฉล่ีย จะใชเ้ กณฑด์ งั น้ี เห็นดว้ ยมากที่สุด
ค่าเฉล่ีย 4.51 – 5.00 หมายถึง เห็นดว้ ยมาก
ค่าเฉล่ีย 3.51 – 4.50 หมายถึง เห็นดว้ ยปานกลาง
ค่าเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ย
ค่าเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง เห็นดว้ ยนอ้ ยที่สุด
ค่าเฉลี่ย 1.00– 1.50 หมายถึง
2. สร้างแบบสอบถาม เรื่อง ความพงึ พอใจในการใชเ้ ทียนหอมจาสมุนไพรโดยขอ
คาแนะนาจากคุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์ จากน้นั นามาปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ นาไปตรวจสอบความ
เหมาะสม
3. นาแบบสอบถามเรื่อง ความพงึ พอใจในการใชเ้ ทียนหอมจาสมุนไพร ที่แกไ้ ข ปรับปรุงแลว้
ใหก้ ลุ่มตวั อยา่ งประเมิน หลงั จากน้นั นาผลท่ีไดม้ าหาคา่ เฉลี่ย
การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
การศึกษาคร้ังน้ีไดด้ าเนินการโดยนาแบบสอบถามท่ีสร้างข้ึนใหน้ กั เรียนกลุ่มตวั อยา่ งตอบ
จานวน 20 คน และเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากนกั เรียน ท่ีเป็ นกลุ่มตวั อยา่ ง โดยผศู้ ึกษาท้งั 5 คน ดาเนินการ
เก็บรวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง
การวเิ คราะห์ข้อมูล
ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ผศู้ ึกษาไดว้ เิ คราะห์ขอ้ มูลดงั น้ี
1. นาแบบสอบถามท้งั หมดที่ตอบโดยนกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง มาหาคา่ คะแนนรวม
2. นาผลรวมมาคิดคา่ ร้อยละ
สถิติทใี่ ช้ในการศึกษา
สถิติที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี คือ การหาค่าเฉล่ียคิดเป็น
16
บทที่ 4
ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล
การวเิ คราะห์ขอ้ มูล โครงงาน เทียนหอมจากสมุนไพร ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ไดผ้ ลดงั น้ี
ตารางท่ี 1 แสดงผลระดบั คะแนนการประเมิน โครงงานเทียนหอมจากสมุนไพร ระดบั ช้นั
มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ จานวน 20 คน
รายการประเมิน ระดบั ความพอใจ
มากท่ีสุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด
1. กล่ินของเทียนหอมจากสมุนไพร 40% 45% 15% --
2. ราคาของเทียนหอมจากสมุนไพร 65% 30% 5% --
(20 บาท)
3. สีสนั ของเทียนหอมจากสมุนไพร 45% 35% 20% --
4. ภาชนะที่ใส่เทียนหอม 70% 30% - --
5. ความพึงพอใจในการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ 70% 20% 5% 5% -
จากตารางที่ 1 พบวา่ นกั เรียนที่ชื่นชอบภาชนะท่ีใชใ้ ส่เทียนหอมและพึงพอใจในผลิตภณั ฑ์ อยู่
ในระดบั ที่ 5 คิดเป็นร้อยละ 70%
17
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมิน โครงงานเทียนหอมจากสมุนไพร
รายการประเมิน คา่ เฉล่ีย ระดบั คุณภาพ
5
1. กลิ่นของเทียนหอมจากสมุนไพร 40% 5
5
2. ราคาของเทียนหอมจากสมุนไพร (20 บาท) 65% 5
5
3. สีสนั ของเทียนหอมจากสมุนไพร 45%
4. ภาชนะท่ีใส่เทียนหอม 70%
5. ความพงึ พอใจในการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ 70%
รวม 25
รวมท้งั ฉบบั 5%
จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั ม.5 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ มีความพึงพอใจในการใช้
เทียนหอมจาสมุนไพร อยใู่ นระดบั คุณภาพ มากท่ีสุด ค่าเฉลี่ย 5 %
18
บทท่ี 5
สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาโครงงาน เรื่อง เทียนหอมจากสมุนไพร เพื่อจดั ทาโครงงานและหลงั จาก
การศึกษาแลว้ ซ่ึงสามรถสรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะได้ ดงั น้ี
1. วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา
2. สมมุตติฐานของการศึกษา
3. ขอบเขตของการศึกษา
4. เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการศึกษา
5. วเิ คราะห์ขอ้ มูล
6. สรุปผลการศึกษา
7. ขอ้ เสนอแนะ
วตั ถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อศึกษาคน้ ควา้ และใหค้ วามรู้เก่ียวกบั ข้นั ตอนการทาเทียนหอมจากสมุนไพร
2. เพอื่ ศึกษาสรรพคุณของเทียนหอมจากสมุนไพร
สมมุตติฐานของการศึกษา
ผจู้ ุดเทียนหอมสามารถผอ่ นคลายเมื่อไดก้ ล่ิน
ขอบเขตของการศึกษา
1. ประชากรทใ่ี ช้ในการศึกษา
ประชากรที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี เป็ นนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4 โรงเรียนสตรีราชนูทิศ
ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2564 เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 5 คน
19
2. กล่มุ ตัวอย่าง
กลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีไดแ้ ก่นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ภาคเรียนท่ี2 ปี การศึกษา 2564 เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 43 คน ไดม้ าโดยเลือก เพ่อื
ตอบแบบสอบถามท่ีสร้างข้ึน
เครื่องมือทใี่ ช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี ประกอบดว้ ยแบบสอบถาม จานวน 1 ฉบบั เร่ือง ความพงึ
พอใจในการใชเ้ ทียนหอมจาสมุนไพรโรงเรียนสตรีราชินูทิศ จานวน 5ขอ้
การวเิ คราะห์ข้อมูล
ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ผศู้ ึกษาไดว้ เิ คราะห์ขอ้ มูลของนกั เรียนที่มีตอ่ โครงงานเทียนหอมจาก
สมุนไพร โดยการคิดคะแนนเฉล่ีย เป็นค่าร้อยละ 5
สรุปผลการศึกษา
ผลการศึกษาที่มีต่อการศึกษาเร่ือง เทียนหอมจากสมุนไพร อยใู่ นระดบั คุณภาพ มากที่สุด
การอภปิ รายผล
จากการศึกษาโครงงานเทียนหอมจากสมุนไพร ของนกั เรียนระดบั ช้นั 5/4 โรงเรียนสตรีราชินู
ทิศ พบวา่ นกั เรียนทุกคนมี ความช่วยเหลือต่อกกนั ดีมาก มีความคิดในทางที่บวก อยใู่ นระดบั 4
คิดเป็นร้อยละ 80
20
ข้อเสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาคร้ังน้ี
1. สามารถนาไปศึกษาปัญหาตา่ งๆที่พบในโรงเรียนได้ แต่ควรมีตวั แปรร่วมดว้ ย เพ่อื ให้
การศึกษามีคุณภาพ
2. สามารถนาไปศึกษากบั กลุม่ ตวั อยา่ งอ่ืน
3. ควรสกดั น้าสมุนไพรใหม้ ากกวา่ น้ี เพื่อใหไ้ ดร้ ับกลิ่นที่ดี
4.ควรมีเวลาศึกษามากข้ึน
21
บรรณานุกรม
พชั รา รอดนุช. 2556 . เทียนหอมเพ่ือสุขภาพ.สืบคน้ เมื่อ 11 ตุลาคม 2564.
จากhttps://tianhompeuasukapap.wordpress.com/
ณฐั วตั ร บุญญาพงศ.์ 2559 . โครงการเทยี นหอมสมุนไพร.สืบคน้ เม่ือ 20 พฤศจิกายน 2564.
จากhttps://sites.google.com/
โรงพยาบาลวชิ ยั ยทุ ธ. 2019 . บาบดั เครียดด้วยเทยี นหอมรอบบ้านคุณ.สืบคน้ เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564.
จาก https://www.vichaiyut.com/
ศุภกร ลีวฒั นาถาวรชยั . 2557 . เทยี นหอมสมุนไพรไล่ยงุ .สืบคน้ เม่ือ 25 พฤศจิกายน 2564.
จาก https://sites.google.com/
บา้ นและสวน. 2021 . ทาความรู้จักประเภทของเทยี นหอมทน่ี ิยมใช้แต่งบ้าน.
สืบคน้ เม่ือ 27 ธนั วาคม 2564.จาก https://www.baanlaesuan.com/
22
ประวตั ผิ ้ศู ึกษา
ช่ือ - นามสกลุ นางสาวสโรชา มอโท
วนั เดือน ปี สถานทเี่ กดิ 15 พฤศจิกายน 2547
เกิดท่ี ตาบลเชียงพณิ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
ประวตั ิการศึกษา ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กาลงั ศึกษาอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
23
ประวตั ิผ้ศู ึกษา
ชื่อ - นามสกลุ นางสาวญาณิศา แกว้ ภา
วนั เดือน ปี สถานทเ่ี กดิ 1 มิถุนายน 2547
เกิดที่ ตาบลวงั สามหมอ อาเภอวงั สามหมอ จงั หวดั อุดรธานี
ประวตั กิ ารศึกษา ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนวรรณรสนุสรณ์ ตาบลวงั สามหมอ
อาเภอวงั สามหมอ จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กาลงั ศึกษาอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
24
ประวตั ผิ ้ศู ึกษา
ช่ือ - นามสกุล นางสาวปิ ยธิดา กงั สกลุ
วนั เดือน ปี สถานทเี่ กดิ 20 กรกฎาคม 2547
เกิดท่ี ตาบลบา้ นธาตุ อาเภอเพญ็ จงั หวดั อุดรธานี
ประวตั กิ ารศึกษา ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนบา้ นถ่ินสุขาวทิ า ตาบลบา้ นธาตุ อาเภอเพญ็
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กาลงั ศึกษาอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
25
ประวตั ผิ ้ศู ึกษา
ช่ือ - นามสกลุ นางสาวศิรินทรา อุตทะคะวาปี
วนั เดือน ปี สถานทเี่ กดิ 12 กุมภาพนั ธ์ 2548
เกิดที่ ตาบลบา้ นขาว อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
ประวตั ิการศึกษา ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนอุดรคริสเตียน (ป.1-4)
โรงเรียนเทศบาลมุขมนตรี (ป.5-6)
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กาลงั ศึกษาอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/4
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
26
ประวตั ผิ ้ศู ึกษา
ช่ือ - นามสกุล นางสาวกมลพรรณ บวั อินทร์
วนั เดือน ปี สถานทเี่ กดิ 5 กรกฎาคม 2547
เกิดท่ี ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
ประวตั กิ ารศึกษา ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง
จงั หวดั อุดรธานี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กาลงั ศึกษาอยชู่ ้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/4 โรงเรียน
สตรีราชินูทิศ ตาบลหมากแขง้ อาเภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
27
ภาคผนวก
28
นางสาวสโรชา มอโท ม.5/4 เลขที่ 25
นางสาวญาณิศา แกว้ ภา ม.5/4 เลขที่ 27
29
นางสาวปิ ยธิดา กงั สกลุ ม.5/4 เลขที่ 28
นางสาวศิรินทรา อุตทะคะวาปี ม.5/4 เลขที่ 29
30
นางสาวกมลพรรณ บวั อินทร์ ม.5/4 เลขท่ี 30
31
32
33
34
35
36
37
38
39