The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมชุดที่ 1 ความรู้ทั่วไปของโครงงานวิทยาศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chat_1525, 2021-11-09 04:40:26

ชุดกิจกรรมชุดที่ 1 สำหรับนักเรียน

ชุดกิจกรรมชุดที่ 1 ความรู้ทั่วไปของโครงงานวิทยาศาสตร์

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้

ด้วยกระบวนการ Active Learning รว่ มกับโครงงานเปน็ ฐาน
เพอ่ื พฒั นาความสามารถในการเรยี นรู้

รายวิชา โครงงานวทิ ยาศาสตร์
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

ชดุ ท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้ท่ัวไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์

โดย
นายฉัตร เจนชยั
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้

ด้วยกระบวนการ Active Learning รว่ มกับโครงงานเปน็ ฐาน
เพอ่ื พฒั นาความสามารถในการเรยี นรู้

รายวิชา โครงงานวทิ ยาศาสตร์
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

ชดุ ท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้ท่ัวไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์

โดย
นายฉัตร เจนชยั
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม

คำนำ

เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ ผู้สอนจัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อเสริมประกอบการเรียนการสอนใน
รายวชิ า โครงงานวทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ซงึ่ ประกอบด้วย
เอกสารประกอบการสอน จำนวน 3 ชดุ ดงั น้ี

ชุดที่ 1 เรือ่ ง ความรทู้ ว่ั ไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
ชดุ ที่ 2 เรอ่ื ง การเขยี นรายงานโครงงาน
ชดุ ที่ 3 เรอ่ื ง การจดั แสดงผลงาน
เพ่อื เปน็ คมู่ ือใหน้ กั เรียนได้ทำการศกึ ษาค้นคว้าแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองและฝกึ ทกั ษะเพอ่ื เพ่ิมความรู้
ทงั้ ในเวลาเรยี นและนอกเวลาเรยี น ทำใหน้ ักเรยี นได้เกดิ กระบวนการเรยี นรู้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และนำความรู้
มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้เป็นเล่มที่ 1 เรื่อง ความรู้ทั่วไปของโครงงาน
วิทยาศาสตร์ ซึ่งผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล ตลอดจนวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด
และนำมาเสนอในรูปแบบของเอกสารประกอบการสอน ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่ได้ให้ความรู้
คำปรึกษาและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งท า ให้ เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้สมบูรณ์ยิ่งข้ึน
ผู้จัดทำหวังเป็นอยา่ งยิ่งว่า เอกสารประกอบการสอนเลม่ นี้ จะเปน็ ประโยชน์ แก่ครู นกั เรียน และผทู้ ี่ สนใจ

สารบญั หนา้

เรอ่ื ง ข
คำนำ 1
สารบญั 2
คำช้ีแจงสำหรับนักเรยี น 3
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 6
กระดาษคำตอบ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 6
ความรทู้ ั่วไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 6
7
ความหมายของโครงงาน 8
ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ 10
ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 10
หลกั การสำคญั ท่ีจัดเปน็ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 11
ความสำคญั ของโครงงานวิทยาศาสตร์ 12
จดุ มงุ่ หมายของกิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 13
ประโยชนข์ องการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 15
แบบฝกึ หัด 16
แบบทดสอบหลงั เรยี น 17
กระดาษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรยี น 18
บรรณานกุ รม 19
ภาคผนวก 20
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น
เฉลยแบบฝึกหดั

1

คำชี้แจงสำหรับนกั เรียน

เอกสารประกอบการสอน รายวิชาพื้นฐานโครงงาน เล่มที่ 1 เรื่อง ความรู้ทั่วไปของโครงงาน
วิทยาศาสตร์จัดท าขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหาของโครงงาน วิทยาศาสตร์ประกอบไปด้วยเนื้อหา ความหมายของ
โครงงาน ความหมายของโครงงาน วิทยาศาสตร์ประเภทของโครงงาน หลักการสำคัญที่จัดเป็นโครงงาน
ความสำคัญของ โครงงาน จุดมุ่งหมายของกิจกรรมโครงงาน และประโยชน์ของการทำโครงงาน วิทยาศาสตร์
โดยเอกสารประกอบการสอนที่จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า และได้หาทางในการแก้ปัญหาด้วย
ตนเอง หรืออาจจะทำการศึกษาและแก้ไขปัญหาเป็น กลุ่ม 3-4 คนก็ได้ นักเรียนจะมีเวลาในการได้ศึกษา
ค้นคว้า ตลอดจนได้ให้คะแนนตัวเอง ตาม เกณฑ์ที่กำหนดของเอกสารประกอบการสอน เล่มที่ 1 นี้เวลา 2
ชว่ั โมง คำชแี้ จงสำหรบั นักเรยี นเพ่ือประโยชน์ ควรปฏิบัตติ ามข้นั ตอนตอ่ ไปน้ี

1. ก่อนการใช้เอกสารประกอบการสอนทุกครั้งให้นักเรียนศึกษาคำชี้แจงใน การใช้ทุกครั้งให้เข้าใจ
และควรศกึ ษาตวั ช้วี ดั และจุดประสงค์ในการจัดการเรยี นร้ใู ห้ เข้าใจ

2. การทำแบบทดสอบก่อนเรียน นักเรียนอ่านคำชี้แจงในการทำแบบทดสอบ ให้เข้าใจและการ
ตรวจสอบคำตอบควรทำพร้อมกัน หรือฟังคำชี้แจงจากครูผู้สอน ใน การตรวจคำตอบอาจให้นักเรียนทำการ
ตรวจสอบเอง หรอื เปลย่ี นกนั ระหวา่ งเพือ่ นก็ได้

3. การทำแบบฝึกหัดนักเรียนควรตั้งใจทำ ไม่ควรกวนเพื่อนหรือส่งเสียงในการ รบกวนผู้อื่น ถ้าไม่
เขา้ ใจควรถามครผู ูส้ อน

4. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนอย่างตั้งใจและตรวจสอบคำตอบจาก ภาคผนวก อาจจะ
ตรวจสอบด้วยตนเองหรอื เปลีย่ นกนั ระหว่างเพือ่ นของตนและให้ คะแนนตามเกณฑ์ของแบบฝึกทักษะกำหนด

5. หากมขี น้ั ตอนในกิจกรรมใดที่นักเรียนอา่ นแลว้ ไม่เข้าใจ ควรกลบั มาถามครู ใหเ้ ขา้ ใจก่อนท่ีจะเรียน
ในเล่มตอ่ ไปของชดุ แบบฝึกทกั ษะ

6. นกั เรียนควรหมนั่ ฝึกฝนและทบทวน โดยใชเ้ วลาวา่ งทีม่ ใี หเ้ กดิ ประโยชน์ให้ มากท่ีสุด

2

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการ เปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ
พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีอย่าง
เหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และสง่ิ แวดล้อม
ตัวชี้วัด ว.4.1 ม.3/1 ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้ง ทรัพยากร ในการทำ
โครงงาน เพือ่ แกป้ ัญหาหรอื พัฒนางาน

จุดประสงค์การเรียนรู้
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์หรือผลงานวิจัยระดับ ง่าย ๆ ด้าน
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

3

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง ความรู้ทวั่ ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์

คำชีแ้ จง
1. แบบทดสอบฉบับนี้ เป็นทดสอบสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10

คะแนน ใหเ้ วลาทำให้ 20 นาที
2. ใหน้ ักเรยี นเลือกกากบาท (x) ตัวเลอื ก ก, ข, ค, และ ง ทเ่ี ห็นว่าถูกต้องท่ีสุด

************************************************

1. ข้อใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
ก. ครูใหค้ ำแนะนำ และกำหนดเรื่องและเน้อื หาให้นกั เรยี นศึกษาอย่างเป็นขน้ั ตอน
ข. นักเรยี นเปน็ ผรู้ ิเร่ิม และเลือกเรือ่ งทีจ่ ะศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง
ค. เน้นการคดิ เป็น ทำเป็น และการแกป้ ัญหา
ง. นกั เรยี นเป็นผวู้ างแผนในการศึกษาคน้ คว้า

2. ขอ้ ใดเปน็ ความหมายของโครงงาน
ก. การศึกษาเรือ่ งใดเร่อื งหนึ่ง ซ่ึงผูเ้ รยี นเป็นผปู้ ฏิบัตแิ ละค้นควา้ ดว้ ยตนเอง
ข. การศกึ ษาเร่ืองทีเ่ กิดขน้ึ ใหมแ่ ละลอกเลียนแบบจากผู้อนื่
ค. การดัดแปลงเรอ่ื งใดเร่ืองหน่ึงท่ีผู้เรยี นสนใจ
ง. การค้นหาปัญหา ระบปุ ัญหาด้วยกระบวนการกลมุ่

3. ข้อใดใหค้ วามหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
ก. การศกึ ษาเร่ืองใดก็ตามท่นี ักเรียนคิดเอง เปน็ การสรา้ งโอกาสให้นกั เรยี นได้รบั ระสบการณ์ตรง
ข. กจิ กรรมของนกั เรยี นในการศกึ ษาเรอ่ื งทสี่ นใจด้วยตนเองและสามารถนำออกเผยแพรไ่ ด้
ค. การศกึ ษาเร่อื งใดเรอ่ื งหนึ่งตามวธิ กี ารทางวิทยาศาสตรโ์ ดยมีการวางแผนอยา่ งมีขน้ั ตอน
ง. การน าผลงานทผ่ี า่ นการวจิ ยั ดแี ล้วจากนกั วิจัยมาศึกษาถงึ ความเปน็ ไปได้

4. องค์ประกอบหลักที่จัดวา่ เปน็ กจิ กรรมโครงงานวิทยาศาสตรม์ ลี ักษณะใด
ก. นักเรียนเปน็ ผรู้ เิ รมิ่ และเลอื กเรอ่ื งทจ่ี ะศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง
ข. เนน้ การคดิ เปน็ ทำเป็น และการแกป้ ญั หาเป็นดว้ ยตนเอง
ค. เป็นกิจกรรมทเี่ กี่ยวกับวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ง. ทกุ ขอ้ เปน็ องคป์ ระกอบทีจ่ ดั ว่าเป็นกจิ กรรม

5. ข้ันตอนใดจัดเป็นขั้นตอนทีส่ ำคัญและยากท่สี ุดของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์
ก. การสังเกตส่งิ รอบตัวแล้วคิดทำโครงงาน
ข. การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน
ค การศกึ ษาเอกสารท่เี ก่ียวข้อง
ง. การคิดและเลอื กหวั เรือ่ ง

6. ข้อใดจัดเป็นลักษณะของโครงงานประเภทสำรวจ
ก. เปน็ การหาคำตอบ ดว้ ยวิธกี ารออกแบบการทดลอง
ข. เปน็ การพฒั นาหรือประดษิ ฐ์ เครื่องมือเครือ่ งใช้เพอ่ื ประโยชน์ใชส้ อย
ค. เปน็ การศกึ ษารวบรวมปัญหาจากธรรมชาตใิ ชว้ ิธีสำรวจและรวบรวมข้อมลู
ง. เป็นการเสนอทฤษฎหี รือคำอธบิ ายสิง่ ตา่ ง ๆ ตามแนวคดิ ใหมๆ่ โดยมหี ลักการทางวิทยาศาสตร์

4

7. ขอ้ ใดไม่ใช่จดุ มุ่งหมายและความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์

ก. ใหเ้ กดิ ความรู้และประสบการณ์

ข. ให้ค้นควา้ หาข้อมูลจากแหล่งตา่ งๆ

ค. เพอื่ เกดิ ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ในการด าเนนิ การ

ง. ให้แขง่ ขันกนั เพ่ือหาโครงงานวิทยาศาสตร์ทีส่ มบูรณ์ถูกตอ้ งท่สี ุด

8. โครงงานในขอ้ ใดจำเปน็ ตอ้ งมีตวั แปรควบคมุ

ก. การศึกษาพฤติกรรมการใชว้ ัสดทุ ำรงั ของนกปากหา่ ง

ข. การศึกษาอิทธพิ ลของฮอร์โมนเพศชายในสัตวต์ ัวเมีย

ค. การศึกษาการเจริญเติบโตของตวั อ่อนของสัตวบ์ างชนดิ

ง. เครือ่ งกวนน้ำยาล้างจาน

9. โครงงานเร่ือง “ทฤษฎกี ารกำเนดิ โลก” จดั เป็นโครงงานประเภทใด

ก. ทดลอง ข. สำรวจ

ค. ประดษิ ฐ์ ง. ทฤษฎี

10. ขอ้ ใดคอื ลักษณะของตัวแปรอสิ ระในการท าโครงงานวทิ ยาศาสตร์

ก. ส่ิงท่เี ปน็ ผลทเ่ี ป็นสาเหตเุ ปลี่ยนไปหรอื ผลเปล่ยี นไป

ข. ปจั จยั ท่เี ป็นสาเหตทุ ที่ ำใหเ้ กิดผลตา่ ง ๆ ที่ต้องการศึกษา

ค. สิ่งหรอื ปจั จยั ท่จี ะสง่ ผลตอ่ การทดลอง

ง. ส่งิ มผี ลต่อตัวแปรตาม

5

กระดาษคำตอบ
เรอื่ ง ความรู้ท่ัวไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์

ช่อื ....................................................นามสกุล.....................................เลขท.ี่ ......ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ......

แบบทดสอบก่อนเรียน ง
ขอ้ ก ข ค
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ประเมินผลการเรียน

ประเมนิ ผล
เต็ม 10
ได้

6

ความรทู้ ั่วไปของโครงงานวทิ ยาศาสตร์

ความหมายของโครงงาน
โครงงานเป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลาย ๆ สิ่งที่อยากรู้คำตอบให้ลึกซึ้งหรือ
เรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆ ให้มากขึ้นโดยใช้กระบวนการวิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอนมีการวางแผนใน
การศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้น ๆ
โครงงานจัดเปน็ การเรียนรรู้ ปู แบบหน่งึ ทำใหผ้ ู้เรียนเรียนรู้ดว้ ยตนเองโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่าง
เป็นขั้นตอน และใช้ความรู้ทต่ี นเองได้มาบรู ณาการ นกั การศึกษาหลายทา่ นได้ให้ความหมายของโครงงาน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ให้ความหมายว่า“โครงงานเป็นการศึกษา
ค้นคว้าตามความสามารถของผู้เรียนเองภายใต้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบหรือ
ผลงานซึ่งมีความสมบูรณ์ในตัวโดยนักเรียนเป็นผู้วางแผนการศึกษาค้นคว้าดำเนินการด้วยตนเอง เพื่อให้
นักเรยี นเกดิ การเรียนร้มู ีเจตคติทดี่ ีตอ่ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ครูเป็นเพยี งผูใ้ ห้คำปรึกษาเท่านน้ั ”
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ใหค้ วามหมายวา่ “โครงงานเป็นการทำกิจกรรมทเ่ี ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้ศึกษา
ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ภายใต้การดูแลและให้คำปรึกษาของครูตั้งแต่การคิดสร้างโครงงานการ
วางแผนดำเนนิ การ การออกแบบลงมอื ปฏบิ ตั ริ วมท้งั ร่วมกำหนดแนวทางในการวดั และประเมนิ ผล”
สุวิทย์ มูลคำ ได้ให้ความหมายของโครงงานวา่ เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เปิดโอกาส ให้ผู้เรียนได้ศึกษา
ค้นคว้า และลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจความสามารถและความถนัดของตนเอง โดยอาศัย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นที่เป็นระบบภายใต้คำแนะนำ ความช่วยเหลือจากผู้สอน
หรือผู้เชี่ยวชาญเร่ิมตั้งแต่เลือกเรื่องที่จะศึกษาการวางแผน การดำเนินงาน ตามขั้นตอนตลอดจนการนำเสนอ
ผลงาน ซึ่งในการจัดทำโครงงานนั้นสามารถทำได้ทุกระดับชั้นอาจเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มจะในเวลาเรียน
หรือนอกเวลาเรยี นก็ได้
จากความหมายของการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานที่นักการศึกษาหลายท่าน ได้กล่าวน้ัน
สามารถ สรุปได้ว่า “โครงงานเป็นวิธีการเรียนรู้ที่เกิดจากความสนใจใคร่รู้ของผู้เรียน ที่อยากจะศึกษาค้นคว้า
และลงมือปฏิบัติเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลาย ๆ โดยใช้ทักษะกระบวนการศึกษาอย่างเป็นระบบและมี
ขั้นตอนต่อเนื่อง มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียดแล้วลงมือปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ จนได้ข้อสรุป
หรือผลการศึกษาหรอื คำตอบเกยี่ วกับเร่อื งนน้ั ๆ ซง่ึ สามารถเรยี นรไู้ ด้เปน็ รายบุคคลหรือเป็นกลุม่ กไ็ ด้

ความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์หมายถึง การศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพื่อตอบคำถาม หรือปัญหาที่สงสัยของผู้

คิดทำโครงงาน โดยมกี ารวางแผนอย่างมขี นั้ ตอนตามวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลงานท่ีมคี วามสมบูรณ์
โดยผู้ศึกษาหรือผู้เรียนเป็นผู้ที่ลงมือศึกษาด้วยตนเอง ครูหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำ หรือให้
แนวทางการศึกษาโดยในการศึกษานั้นต้องคำนึงถึงขอบเขต ระยะเวลาในการศึกษา ความพร้อมเรื่องวัสดุ
อปุ กรณ์ สถานท่ี และระดบั ความรูค้ วามสามารถของผูเ้ รียนหรือผทู้ ี่ศกึ ษา

อาจกล่าวได้ว่า โครงงานวิทยาศาสตร์ คอื งานวจิ ัยทางวิทยาศาสตร์นั่นเองแตเ่ ปน็ ลักษณะของงานวิจัย
ขั้นพนื้ ฐานมีการฝกึ ปฏิบตั ิการอยา่ งงา่ ย ๆ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนได้รู้จักการใช้วิธกี ารทางวิทยาศาสตร์นัน่ เองโดยจัดให้มี
การศึกษาค้นคว้า ทดลอง เพื่อตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐานหนึ่งที่กำหนดไว้โดยอาศัยวิธีการทาง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

7

ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
ในการแบง่ ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ สามารถแบ่งไดด้ ังนี้

1. แบง่ ตามลักษณะของกจิ กรรม การแบง่ ประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์
ตามลกั ษณะของกจิ กรรมแบ่งได้ 4 ประเภทคอื

1. โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภทการสำรวจ
2. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทการทดลอง
3. โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภทสิง่ ประดิษฐ์
4. โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภททฤษฎี
2. แบ่งตามแหล่งท่มี า การแบ่งประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตามแหลง่ ท่ีมาแบง่ ได้ 2
ประเภท คือ
1. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามสาระการเรียนรู้ เชน่ โครงงานทางเคมี ชวี วิทยา ฟิสิกส์
คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
2. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามความสนใจ เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ การเกษตร โดย
ลักษณะของโครงงานจะเกี่ยวกบั เกษตรทั้งส้ิน
3. แบง่ โดยใชแ้ บบแผนของโครงงานเป็นเกณฑ์ การใชแ้ บบแผน หรอื รูปแบบของโครงงาน
เป็นเกณฑ์ในการกำหนด แบ่งได้2 รปู แบบ คือ
1. โครงงานทไ่ี ม่เป็นแบบแผน เป็นโครงงานทีไ่ ม่จำเป็นต้องเขียนโครงงานเพียงแต่
ดำเนนิ การตามท่ีกำหนดไว้ อาจเป็นใบงาน หรือชนิ้ งานกไ็ ด้
2. โครงงานตามแบบแผน เปน็ โครงงานท่จี ดั ทำเป็นลายลกั ษณอ์ ักษร มรี ะเบยี บวธิ ี
จดั ทำเป็นขน้ั ตอนอยา่ งชดั เจน

8

หลกั การสำคญั ทีจ่ ัดเป็นโครงงานวทิ ยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นการสร้างโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้วิธีการทาง

วทิ ยาศาสตรแ์ ก้ปญั หาประดษิ ฐ์คิดค้น หรือคน้ ควา้ หาความรู้ใหม่ ๆ และแสดงผลงานของตนใหผ้ ู้อื่นได้เห็นและ
ทราบถงึ ความสามารถทางการใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของตนเอง

ลัดดา ภู่เกียรติ ได้กล่าวถึงหลักการสำคัญของกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ไว้ว่า โครงงาน
วิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมที่ต้องการเน้นให้นักเรยี นคิดเองท าเองและแก้ปัญหาด้วยตนเองเริ่มตั้งแต่การคิดหา
ปัญหาที่นักเรียนสนใจจะศึกษาทำการวางแผนแก้ปัญหาศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ลงมือปฏิบัติรวบรวมข้อมูลท่ี
ศึกษา ทดลอง บันทึกผลการศึกษา แปลผล และน าเสนอผลการศึกษาค้นคว้าของตนเองหรอื กลุ่มเผยแพร่แก่
ผู้อื่นต่อไป ซึ่งจะครอบคลุมกระบวนการเรียนรู้ที่มรี ะบบชัดเจน จากหลักการสำคัญของโครงงานวทิ ยาศาสตร์
พอสรปุ ไดว้ ่าโครงงานวิทยาศาสตร์มีหลกั การสำคญั 3 ประการดังนี้

1. นักเรยี นเป็นผวู้ างแผนในการศกึ ษาคน้ ควา้ ดำเนินการเกบ็ รวบรวมข้อมูล แปลผล
สรปุ ผลและ นำเสนอผลด้วย

2. เปน็ เรอื่ งเก่ียวกับวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยหี รอื ความจรงิ และการนำไปใชป้ ระโยชน์
3. เปน็ การเสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองและใชว้ ิธกี ารทางวิทยาศาสตร์
สรปุ หลักการสำคัญของกจิ กรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์
1. เป็นเรอ่ื งทนี่ ักเรียนสนใจ สงสัย ต้องการหาคำตอบ
2. เปน็ การเรยี นรู้ทก่ี ระบวนการ มรี ะบบครบกระบวนการเป็นการบรู ณาการเรยี นรู้
3. นักเรียนไดใ้ ชค้ วามสามารถหลายด้าน
4. มคี วามสอดคล้องกบั ชีวติ จรงิ
5. มีการศึกษาด้วยวธิ กี ารและแหล่งขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย
6. เปน็ การแสวงหาความรู้และสรุปความรู้ดว้ ยตนเอง
7. มีการนำเสนอโครงงานท่ีเหมาะสม
8. สง่ิ ท่คี ้นพบสามารถนำไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน

9

กิจกรรมบางกจิ กรรม หากไมไ่ ด้นำเอาวิธกี ารทางวิทยาศาสตรม์ าใช้หรือมใี ช้บา้ ง แต่น้อยมาก
น้นั ไม่จดั วา่ เปน็ โครงงานวทิ ยาศาสตร์

ตวั อย่าง กรณที ่ีนักเรยี นสนใจ ที่จะทำนำ้ ยาล้างจานด้วยตนเอง
กรณีท่ี 1 นักเรยี นไปหาซอื้ ชดุ น้ำยาลา้ งจานทมี่ ีขายโดยทัว่ ไปตามร้านเคมีภัณฑ์หรือธนาคาร
เพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์แลว้ นักเรยี นทำการปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในใบแทรกจนได้น้ำยาล้างจานกลิ่น
มะนาวทมี่ ีคุณลักษณะเหมอื นทม่ี ีอยใู่ นท้องตลาด

ภาพที่ 1 อุปกรณ์ สารเคมีในการทำนำ้ ยาลา้ งจานตามท้องตลาด
กรณีที่ 2 นักเรียนไปศึกษาสูตรการทำน้ำยาล้างจานจากหนังสือ ตำรา หรือทางอินเตอร์เน็ต จากนั้น
เมื่อนักเรียนได้สูตรแล้วมีแนวความคิดท่จี ะผลิตน้ ายาลา้ งจานที่มีส่วนผสมของพชื บางชนิดท่ีสามารถขจัดกล่ิน
คาวของอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพนักเรียนจึงไปศึกษาเอกสารเกี่ยวกบั พืชท่ีมีอยู่ในท้องถิน่ เพื่อสะดวกต่อ
การจัดหาพืชชนิดนั้น นักเรียนพบว่ามีผู้ทำโครงงานเกี่ยวกับใบฝรั่ง สามารถกำจัดกลิ่นคาวปลาได้ นักเรียนจงึ
ท าการทดลองนำนำ้ จากใบฝร่ังมาเป็นสว่ นผสมของน้ำยาล้างจาน ในสัดส่วนต่าง ๆ เพ่อื เปน็ การหาสูตรการทำ
น้ำยาลา้ งจานท่ีมีประสิทธิภาพในการกำจัดกลน่ิ คาวของอาหารท่ดี ีทส่ี ดุ

ภาพท่ี 2 การทำโครงงานวทิ ยาศาสตรน์ ้ำยาลา้ งจานจากใบฝรั่ง

10

จากทั้งสองกรณีนั้น จะเห็นได้ว่า กรณีที่ 1 นักเรียนทำการลอกเลียนวิธีการ ไม่มีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ถึงแม้จะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งได้แก่การวัด ชั่ง ตวง การผสมใด ๆ ก็ตามไม่จัดเป็นโครงงาน
วิทยาศาสตร์กรณีที่ 2 นักเรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำการทดลองในสิ่งที่ไม่มี
ผ้ใู ดศึกษามากอ่ น ลกั ษณะแบบน้จี ึงจดั ไดว้ า่ เปน็ โครงงานวิทยาศาสตร์

ความสำคญั ของโครงงานวิทยาศาสตร์
การศึกษาค้นคว้าด้วยโครงงานวิทยาศาสตร์ช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้มีประสบการณ์จากการ
ปฏิบัตจิ ริง ฝึกแก้ปัญหาดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตรซ์ ึง่ จะตดิ ตัวผู้เรยี นไปตลอด เมื่อมีข้อสงสยั หรือปญั หา
เกดิ ขน้ึ จะแก้ปญั หาโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ซ่ึงเป็นทย่ี อมรับกันทว่ั ไปวา่ เปน็ สิง่ ทสี่ ำคัญกว่าความรู้ที่
ขาดการปฏบิ ัติ ท้ังนี้กระบวนการดงั กล่าวจะทำให้เกดิ ความเชอื่ ม่ันในตนเองและกลา้ แสดงออก
การให้นักเรียนกระทำกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์จะช่วยส่งเสริมให้จุดมุ่งหมายของหลักสูตร
สัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณย์ ิ่งขึ้นเพราะในการท าโครงงาน นักเรียนจะได้มีโอกาสดำเนินการศึกษา ศึกษาเอง การ
วางแผนการศึกษาเพื่อตอบปัญหานั้น ๆ ด้วยตนเอง ออกแบบ การทดลอง หรือวิธีการศึกษาด้วยตนเองลงมือ
ทดลอง เพื่อตรวจสอบสมมุติฐาน ตลอดจนสรุปผลของการศึกษาด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษา
และชี้แนะ สรปุ ได้ว่านกั เรยี นจะมีโอกาสได้รบั ประสบการณต์ รงในกระบวนการเสาะแสวงหาความรู้ทุกข้ันตอน
มีโอกาสไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ และจะชว่ ยพฒั นาคณุ สมบัติอ่นื ๆ ใหแ้ ก่นักเรียนด้วย
เช่น ความเป็นคนช่างสังเกต มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีวินัย และซื่อสัตย์ในการ
ทำงาน มีความละเอียดรอบคอบ มีความรับผิดชอบ ยอมรังฟังคำติชมและความคิดเห็นของผู้อื่น มีเจตคติที่ดี
ต่อวทิ ยาศาสตร์รูจ้ กั แบง่ เวลาในการทำงานและการกระทำกิจกรรมอืน่ ๆ และทำงานรว่ มกับผูอ้ น่ื ได้ เป็นต้น
กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์คือกิจกรรมสำหรับนกเรียนในการศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ด้วยตนเอง
โดยอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ภายใต้คำแนะนำปรึกษาของครูหรือผู้เชี่ยวชาญ กิจกรรมนี้อาจทำเป็นกลุ่ม
หรือรายบุคคลก็ได้และจะกระทำ ในเวลาเรียนหรือ นอกเวลาเรียนก็ได้โดยไม่จำกัดสถานที่ เช่น อาจทำนอก
หอ้ งเรยี น ในห้องปฏิบตั ิการ หรือนอกโรงเรียน แม้กระท่งั ท่บี ้านของนักเรยี นก็ได้

จดุ มุ่งหมายของกจิ กรรมโครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์เป็นการสร้างโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้วิธีการทาง

วิทยาศาสตร์แกป้ ัญหา ประดิษฐค์ ิดคน้ หรือค้นคว้าหาความรใู้ หม่ๆ และแสดงผลงานของตนให้ผู้อืน่ ไดเ้ หน็ และ
ทราบถึงความสามารถทางการใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข์ องตนเอง

สถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) ได้กำหนดจุดมุ่งหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์
ไว้ 5 ประการ ดงั นี้

1. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นใช้ความรแู้ ละประสบการณเ์ ลอื กทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามความสนใจ
2. เพ่ือให้นกั เรยี นได้ศึกษาหาความรู้หาข้อมลู จากแหล่งความรตู้ ่าง ๆ ด้วยตนเอง
3. เพอื่ ใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงออก ซง่ึ ความคิดสร้างสรรค์
4. เพ่ือให้นักเรยี นมีเจตคตทิ ีด่ ตี อ่ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์เห็นคณุ ค่าการใช้กระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรใ์ นการแก้ปญั หาต่าง ๆ
4. เพ่ือใหน้ ักเรียนไดแ้ นวทางในการประยกุ ต์ใช้วธิ ีการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นแต่
ละท้องถ่นิ

11

จากขอ้ มลู ดงั กล่าวสามารถสรปุ จดุ มงุ่ หมายของกจิ กรรมการทำงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ดังนี้
1. เป็นการสนับสนุนให้นักเรียนค้นหาคำตอบที่สงสัย ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่นักเรียนสนใจ มีการใช้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งนักเรียนจะต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาทำ
หน้าทใ่ี หค้ ำแนะนำปรึกษาดแู ล
2. เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ตามความเหมาะสมกับการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน
และเป็นพื้นฐานสำหรับนักเรียนจำนวนหนึ่งในการจะพัฒนาเพื่อรับการศึกษาระดับสูงเป็นกำลังสำคัญของ
บา้ นเมอื งในดา้ นการใชว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3. เป็นการสนับสนุนให้นักเรียนเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สามารถทำสิ่งนั้นได้ด้วยตนเอง และ
รจู้ กั แกป้ ญั หาอุปสรรคตา่ ง ๆ ได้ดว้ ยตนเองโดยใชว้ ธิ ที างวทิ ยาศาสตร์อย่างถกู ตอ้ ง
4. ฝึกให้นักเรยี นรจู้ ักการทำงานเป็นกลุ่ม เปน็ คณะร้จู กั ร่วมกนั คิด ร่วมกนั หารือและร่วมกันวินิจฉัยใน
การแก้ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆเป็นการสร้างความสามัคคี ความมีระบบระเบียบในหมู่คณะ อันเกิดจากทักษะ
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

ประโยชนข์ องการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์
สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ด้กลา่ วถงึ คุณประโยชนข์ องโครงงานวทิ ยาศาสตร์

ไว้ดงั นี้
1. สร้างจติ สำนกึ และความรบั ผดิ ชอบในการศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ต่าง ๆ ดว้ ยตนเอง
2. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาและแสวงหาความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
3. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนได้ศึกษาคน้ คว้าและเรยี นรู้ในเรือ่ งทตี่ นเองสนใจได้ลึกซึ้งกวา่ การ

เรียนใน หลักสตู รปกติ
4. ทำให้นกั เรียนมคี วามสามารถพิเศษโดยมีโอกาสแสดงความสามารถของตน
5. ช่วยกระตุน้ ให้นักเรยี นมีความสนใจในการเรียนวทิ ยาศาสตร์และมีความสนใจ ทีจ่ ะ

ประกอบอาชพี ทางวทิ ยาศาสตร์
6. ช่วยให้นกั เรยี นไดใ้ ช้เวลาวา่ งใหป้ ระโยชน์ในการสร้างสรรค์
7. ช่วยสร้างความสัมพนั ธร์ ะหว่างครูกับนกั เรยี นและระหวา่ งนกั เรยี นด้วยกนั ใหม้ โี อกาสทำ

งานใกลช้ ิด กันมากข้นึ
8. ชว่ ยสร้างความสมั พันธ์ระหวา่ งชุมชนกับโรงเรยี นให้ดขี น้ึ โรงเรียนไดม้ ีโอกาสเผยแพร่

ความรูท้ าง วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแกช่ มุ ชนซ่งึ จะช่วยกระตุ้นให้ชุมชนได้สนใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มากขึ้น สรุปได้ว่า โครงงานวิทยาศาสตร์มีความสำคัญ และก่อประโยชน์แก่นักเรียนโดยตรง เป็นการฝึกให้
นักเรียนรู้จักศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง สร้างความสัมพันธอ์ ันดีกับเพือ่ นร่วมงาน รู้จักทำงานอยา่ งเป็นระบบ ใช้
วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ในการแกป้ ัญหาและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์

12

แบบฝึกหดั

ตอ่ ไปเปน็ แบบฝึกหดั
นักเรียนลองตอบคำถาม
กันดูนะครับนักเรียน สู้ๆ

คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นสรุปความสำคญั ต่อไปน้ี

1. จงอธิบายความหมาย ของ ตอบ.........................................................................
โครงงานวทิ ยาศาสตร์ .................................................................................
.................................................................................
2. จงอธบิ ายหลักการสำคัญ ของ .................................................................................
โครงงานวทิ ยาศาสตร์
ตอบ.........................................................................
.................................................................................
.................................................................................
.................................................................................

3. ลิซ่าต้องการทำโครงงาน วิทยาศาสตร์ ตอบ.........................................................................
การทำน้ำยาล้างจานจึง ปรึกษาผู้ปกครอง .................................................................................
และไปซื้อผลิตภัณฑ์ สารเคมีจาก ศึกษา .................................................................................
ภัณฑ์และทำตามวิธีที่มีในใบ แสดงวิธีทำ .................................................................................
การกระทำของลิซ่าจัดเป็น โครงงาน .................................................................................
วทิ ยาศาสตร์หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด .................................................................................
.................................................................................

13

แบบทดสอบหลังเรียน
เรอื่ ง ความรู้ทัว่ ไปของโครงงำนวทิ ยาศาสตร์
คำชีแ้ จง
1. แบบทดสอบฉบับนี้ เป็นทดสอบสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10
คะแนน ให้เวลาทำให้ 20 นาที
2. ใหน้ ักเรยี นเลอื กกากบาท (x) ตวั เลือก ก, ข, ค, และ ง ที่เห็นวา่ ถกู ตอ้ งท่สี ุด
*****************************************************************
1. ข้อใดกลา่ วถึงลักษณะของโครงงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง
ก. การศกึ ษาคน้ ควา้ การประดษิ ฐ์ส่ิงต่าง ๆ เพ่ือน ามาประยุกตใ์ ช้ในทางอุตสาหกรรม
ข. การศึกษาสิ่งที่อยู่รอบตัวอย่างเป็นระบบ ตามแบบแผน และถูกต้องตามกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์
ค.เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ และเราน ามาจัดท าการศึกษาให้ถูกต้องตามขั้นตอนการทำ
โครงงาน
ง.เป็นการจัดการเรียนโดยให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็น
ระบบ
2. ข้อใดคือ ความหมายของโครงงานวิทยาศาสตร์ ตามความหมายของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
และ เทคโนโลยี
ก. การศึกษาเร่อื งราวดา้ นวิทยาศาสตรใ์ นหัวขอ้ ทน่ี ักเรียนสนใจโดยมกี ารวางแผนท่จี ะศึกษา
ข. การทงานวจิ ัยเล็ก ๆ โดยนกั เรียนเป็นผู้ศกึ ษารวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยตนเองและนำเสนอเปน็ ผลงาน
ค. การศึกษาวิธกี ารแกป้ ัญหาดา้ นวิทยาศาสตร์โดยเขยี นเป็นโครงงานเพ่อื เปน็ แนวทางการศึกษาต่อ
ง. การศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพื่อตอบปัญหาที่สงสัยปัญหาที่ศึกษาเกิดจากความสนใจของผู้ทำ
โครงงาน
3.ข้อใด จัดว่าเปน็ ลกั ษณะของกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์
ก. นกั เรยี นเป็นผวู้ างแผนในการศกึ ษาคน้ ควา้
ข.กิจกรรมทีส่ ่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นมีโอกาสเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์ทมี่ ชี ือ่ เสยี ง
ค. เป็นกจิ กรรมท่มี ีวตั ถปุ ระสงค์เพือ่ ใหน้ ักเรียนรู้จักการทดลองวิทยาศาสตร์
ง. นักเรียนกับครรู ่วมกันออกแบบการทดลองเพอื่ หาค าตอบทีถ่ กู ต้องเช่อื ถอื ได้
4. ข้อใดไมใ่ ช่จดุ มงุ่ หมายและความสำคัญของโครงงานวิทยาศาสตร์
ก. ให้เกดิ ความร้แู ละประสบการณ์
ข. ใหค้ ้นควา้ หาขอ้ มลู จากแหล่งตา่ งๆ
ค. เพือ่ เกิดความคิดริเรมิ่ สร้างสรรคใ์ นการดำเนินการ
ง. ประกวดแขง่ ขนั กนั เพื่อหาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ทส่ี มบรู ณ์ถกู ต้องทส่ี ดุ
5. ข้อใด คือ ประโยชน์ของโครงงานวิทยาศาสตร์ตามความคิดเห็นของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
และ เทคโนโลยี
ก. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ คว้าและเรยี นรใู้ นเรอื่ งที่ตนเองสนใจ
ข. ปลกู ฝังเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นวิทยาศาสตร์เนน้ ทักษะการทำงาน
ค. นกั เรียนสามารถทำงานเปน็ ทีมได้อย่างมีความสขุ
ง. นกั เรยี นมีความสุขกบั การเรยี นวทิ ยาศาสตร์

14

6.ขอ้ ใดจัดเปน็ โครงงานประเภทสำรวจ

ก. การศึกษาพฤตกิ รรมการใชว้ สั ดทุ ำรังของนกปากห่าง

ข. การศกึ ษาประสิทธิภาพอฐิ บล็อกจากเศษโฟม

ค. หญา้ ปลอ้ งมหัศจรรย์พชิ ติ คราบน้ำมนั

ง. เครอื่ งดดู ควันและไอตะกวั่

7. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์มลี ักษณะสำคญั อย่างไร

ก. การพฒั นาหรือประดิษฐก์ ารสร้างอปุ กรณ์ เครือ่ งมอื เครอ่ื งใช้เพอ่ื ประโยชน์ใชส้ อย

ข. เป็นการหาคำตอบด้วยวิธีการออกแบบการทดลองเพอื่ ศึกษาผลของตวั แปร

ค. การเก็บรวบรวมวสั ดตุ วั อยา่ งมาวเิ คราะห์ในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

ง. ศึกษาหาความรู้โดยใชว้ ธิ ีสำรวจและรวบรวมข้อมลู

8. โครงงานประเภททดลองจำเปน็ ตอ้ งกำหนดตวั แปรที่เกีย่ วขอ้ ง เพราะเหตุใด

ก. ทำใหเ้ กิดผลตา่ ง ๆ ทเ่ี ราตอ้ งการศึกษา

ข. ครบถ้วนตามหลักรูปแบบการทำโครงงาน

ค. ใหเ้ กิดความคลาดเคลือ่ นนอ้ ยทสี่ ดุ หรอื ให้เกิดความน่าเช่ือถือ

ง. เพื่อเป็นแนวความคดิ ท่ีแตกตา่ งไปจากแนวความคิดเดิมท่ีเคยมีผเู้ สนอไว

9. ขอ้ ใด คือตัวแปรต้นของโครงงานหญ้าปล้องมหัศจรรยพ์ ชิ ติ คราบน้ำมนั

ก. ขนาดของตน้ หญ้าปลอ้ ง ข. คราบน้ ามนั แตล่ ะชนิด

ค. ภาชนะใสน่ ้ำมนั ง. ต้นหญา้ ปลอ้ ง

10. โครงงานท่ีเสนอทฤษฎีหรือคำ อธิบายสง่ิ ตา่ ง ๆ ซ่ึงเป็นแนวคิดใหม่ๆ โดยมหี ลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือ

อาจเป็นการอธิบายปรากฏการณเ์ ก่าในแนวใหมอ่ าจเสนอในรูปของคำอธิบาย สูตร หรือสมการจดั เปน็ โครงงาน

ประเภทใด

ก. ทดลอง ข. ทฤษฎี

ค. สำรวจ ง. ประดษิ ฐ์

15

กระดาษคำตอบ
เร่ือง ความรู้ท่วั ไปของโครงงานวิทยาศาสตร์

ช่ือ....................................................นามสกลุ .....................................เลขท.่ี ......ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ......

แบบทดสอบก่อนเรยี น ง
ข้อ ก ข ค
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ประเมนิ ผลการเรียน

ประเมนิ ผล
เตม็ 10
ได้

16

บรรณานุกรม

งานวิจยั .วิเทศสมั พนั ธ์สำนกั งาน,มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ : [ ออนไลน์ ].
สืบคน้ จาก http://www.en.psu.ac.th/degree-and-admission/programs-of-

study/Pattani-pus.html สบื ค้นขอ้ มูล (1 พ.ค. 2561)
ธรี ะชยั ปูรณโชต.ิ การสอนกจิ กรรมโครงงานวิทยาศาสตร์: คมู่ ือสำหรับครู. กรงุ เทพมหานคร :โรงพิมพ์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2531.: [ ออนไลน]์ .
สบื คน้ จาก http://www.eduzones.com/knowledge-2-5-2120.html ( 1 พ.ค. 2561 )
บา้ นสำราญ โปรดกั ส์.หัวเชื้อน้ำยาล้างจาน พรอ้ มสูตรน้ำยาล้างจาน. [ ออนไลน์ ].
สืบค้นจาก http://bansamrand.tarad.com/?lang=th สบื ค้นขอ้ มูล ( 1 พ.ค. 2561 )
พศิ มัย ปุย๋ พานโฮม.การจดั การเรียนรแู้ บบโครงงานวิทยาศาสตร์: [ ออนไลน์ ].
สบื คน้ จาก https://www.gotoknow.org/posts/164916
สืบค้นขอ้ มลู ( 1 พ.ค. 2561 )
รุ้งเพช็ ร สลี ้ินจ.่ี ความรู้เกยี่ วกบั โครงงานวิทยาศาสตร์: [ ออนไลน์ ].
สืบค้นจาก https://www.gotoknow.org/posts/532906 ( 1 พ.ค. 2561 )
สงบ ดษุ ฎีธัญกุล. ความร้เู ก่ยี วกบั โครงงานวิทยาศาสตร.์ [ ออนไลน์ ].
สืบค้นจาก http://sababankong.blogspot.com/2011/07/blog-post.html ( 1 พ.ค. 2561 )
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2533) : [ ออนไลน์ ].
สบื คน้ จาก http://sababankong.blogspot.com/2011/07/blog-post.html ( 1 พ.ค. 2561 )
http://www.ssobooks.com/e_book/sci/unit1_5.htm
สบื ค้นขอ้ มลู ( 1 พ.ค. 2561 )

17

โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์
1 หมู่ 20 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธานี


Click to View FlipBook Version