แบบประเมนิ เอกสารหลักสูตรสถานศกึ ษา
โรงเรยี นอนบุ าลละงู
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช 2560)
ปกี ารศึกษา 2562
โดย
นางมนิตย์ แชม่ ชอ้ ย
ตาแหนง่ ครู
กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี
โรงเรียนอนบุ าลละงู
สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสตูล
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน
แบบประเมนิ เอกสารหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลละงู
ประเดน็ รายการ ระดบั การประเมนิ
มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย
ทสี่ ดุ กลาง ท่สี ดุ
วสิ ยั ทัศน์ 1. วสิ ัยทัศน์ทีก่ ำหนดได้จำกข้อมูลสำรสนเทศของโรงเรยี นด้ำน
สภำพปญั หำ ชมุ ชน และภูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่ิน ศักยภำพของบุคลำกร
นักเรียนและครภุ ณั ฑ์
2. วสิ ยั ทัศน์สอดคลอ้ งกับสภำวะปัจจบุ นั
3. วิสยั ทศั น์ทกี่ ำหนดไดจ้ ำกกำรสำรวจควำมคิดเห็นของผทู้ ่ีเกยี่ วขอ้ ง
4. วิสยั ทัศน์มีเป้ำหมำยทชี่ ัดเจนรองรับ
5. วสิ ัยทศั น์มีจดุ เน้นของโรงเรียน
6. วิสัยทศั น์ของโรงเรยี นมีระยะเวลำที่แนน่ อน
ภารกจิ 1. แสดงถึงงำนทีส่ ถำนศึกษำตอ้ งปฏบิ ตั ิอย่ำงชดั เจน
2. สะทอ้ นถงึ วิธีดำเนินงำนทน่ี ำไปสคู่ วำมสำเรจ็ ตำมวิสัยทัศน์ทว่ี ำง
ไว้
3. กำรใหช้ ุมชนเข้ำมำมีสว่ นรว่ มในกำรดำเนนิ งำน
4. ตรงกับบทบำทหนำ้ ที่ของสถำนศึกษำ
เป้าหมาย 1. เป้ำหมำยมคี วำมชัดเจน
2. สอดคล้องกับวสิ ยั ทศั น์ของสถำนศกึ ษำ
3. สอดคล้องกับจุดหมำยของหลกั สตู รกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำน
4. มุ่งเน้นผูเ้ รยี นให้มีควำมรู้ ทกั ษะ กระบวนกำรและคุณลักษณะ
อนั พึงประสงคอ์ ยำ่ งชัดเจน
5. มกี ำรกำหนดผรู้ บั ผิดชอบกำรประเมินไวช้ ดั เจน
6. มกี ำรกำหนดวิธีกำรประเมนิ ทีช่ ัดเจน
โครงสร้าง 1. สอดคลอ้ งกับโครงสรำ้ งหลกั สูตรกำรศกึ ษำขั้นพื้นฐำน พทุ ธศักรำช
หลกั สตู ร 2544
สถานศึกษา 2. สอดคลอ้ งกับวสิ ยั ทศั น์ ภำรกจิ และเปำ้ หมำยของสถำนศกึ ษำ
3. มีกำรกำหนดสดั ส่วนเวลำระหว่ำงสำระกำรเรียนรู้กบั กจิ กรรม
พัฒนำผ้เู รียนอย่ำงเหมำะสม
4. มีกำรกำหนดสัดส่วนเวลำระหวำ่ งกลุม่ สำระกำรเรียนรู้ตำ่ ง ๆ
อยำ่ งเหมำะสม
5. มีหน่วยกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรระหว่ำงกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้
ประเดน็ รายการ ระดับการประเมนิ
6. มหี น่วยกำรเรียนร้แู บบบรู ณำกำรกับวิถีชีวติ ของผูเ้ รยี น
มำก มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย
ท่ีสุด กลำง ทส่ี ดุ
การจัด 1. สถำนศกึ ษำได้มีกำรจดั ทำหน่วยกำรเรยี นรู้บูรณำกำรระหวำ่ ง
การเรียนรู้ 8 กลมุ่ สำระ
และสง่ เสรมิ 2. สถำนศึกษำไดว้ ำงแผนกำหนดใหผ้ เู้ รียนไดท้ ำโครงงำน
การเรียนรู้ 3. สถำนศึกษำได้มีกำรจดั โครงงำนท่ีมกี ำรบูรณำกำรระหว่ำงกลมุ่
สำระ
4. สถำนศกึ ษำได้กำหนดแนวทำงกำรให้กำรบำ้ นในแต่ละช้นั ปี
5. สถำนศึกษำไดส้ ง่ เสรมิ กำรใช้ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ในกำรจดั กำรเรียน
กำรสอน
6. สถำนศกึ ษำได้สง่ เสรมิ ผสู้ อนใหจ้ ัดทำสื่อกำรเรียนกำรสอนท่ี
สอดคลอ้ งเหมำะสมกับผู้เรยี น
7. สถำนศกึ ษำได้สง่ เสรมิ ให้มกี ำรใช้ห้องสมดุ เปน็ แหล่งเรยี นรู้
8. กำรจัดกำรเรียนรู้ของสถำนศึกษำมีควำมยืดหยุ่นสอดคลอ้ ง
เหมำะสมกับผเู้ รียน
9. สถำนศกึ ษำได้สง่ เสริมใหม้ ีกำรใชห้ อ้ งคอมพวิ เตอร/์ โรงฝกึ งำน/
หอ้ งปฏบิ ตั ิกำร
10. สถำนศกึ ษำไดจ้ ัดสภำพแวดล้อมทเี่ อ้ือต่อกำรเรียนรทู้ งั้ ในและ
นอกห้องเรยี น
สาระ 1. สำระกำรเรยี นรแู้ ต่ละกลมุ่ สำระตอบสนองต่อสำระและมำตรฐำน
การเรยี นรู้ กำรเรียนรูช้ ว่ งชน้ั
8 กล่มุ สาระ 2. สำระกำรเรียนร้แู ตล่ ะกลุม่ สำระครอบคลุมผลกำรเรียนรูท้ ่คี ำดหวัง
รำยปหี รอื รำยภำคและสำระกำรเรียนรูร้ ำยปหี รือรำยภำค
3. สำระกำรเรียนรูแ้ ตล่ ะกลุ่มสำระสอดคลอ้ งและครอบคลมุ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของโรงเรยี น
4. สำระกำรเรียนรแู้ ตล่ ะกลุม่ สำระ มีควำมชัดเจน สะดวกตอ่ กำร
นำไปปฏบิ ัติ
5. สำระกำรเรยี นรู้แตล่ ะกลุ่มสำระมีกำรสอดแทรกสภำพควำมเป็น
ท้องถ่นิ /เรอ่ื งใกล้ตัวให้ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรู้
6. สำระกำรเรียนรูแ้ ตล่ ะกลุ่มสำระมีควำมสอดคลอ้ งกับวถิ ีชีวติ ของ
ผเู้ รยี น
7. สำระกำรเรยี นรู้แตล่ ะกลุ่มสำระมีกำรบรู ณำกำรสอนในกลมุ่ สำระ
กำรเรยี นรู้เดียวกนั
ประเดน็ รายการ ระดบั การประเมิน
8. สำระกำรเรียนรูแ้ ต่ละกลมุ่ สำระมีกำรบรู ณำกำรสอนระหวำ่ งกลมุ่ มำก มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย
สำระกำรเรียนรู้ ท่ีสุด กลำง ท่สี ดุ
9. สำระกำรเรยี นรูแ้ ต่ละกล่มุ สำระส่งเสริมดำ้ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
ของผู้เรยี น
10. สำระกำรเรยี นรแู้ ต่ละกล่มุ สำระส่งเสรมิ ผูเ้ รียนดำ้ นกำรมี
จิตสำธำรณะ
กิจกรรม 1. กจิ กรรมพัฒนำผ้เู รียนมุ่งปลกู ฝังและสรำ้ งจิตสำนกึ ของกำรทำ
พัฒนาผเู้ รียน ประโยชนเ์ พอ่ื สงั คม
2. กิจกรรมพัฒนำผเู้ รียนในแต่ละระดบั ชนั้ เรยี นเหมำะสมกับวยั และ
วฒุ ภิ ำวะของผู้เรยี น
3. กจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี นเออื้ ต่อกำรส่งเสริมกำรเรยี นร้กู ลุม่ สำระกำร
เรยี นรู้
4. กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี นตอบสนองตอ่ ควำมตอ้ งกำร ควำมสนใจ
ควำมถนดั ของผ้เู รียน
5. กำรจดั กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รยี นแต่ละครั้งมีกำรกำหนดจดุ มุ่งหมำยท่ี
แนน่ อน
6. กำรจดั กิจกรรมพฒั นำผู้เรียนส่งเสริมผเู้ รียนดำ้ นคุณลกั ษณะท่ี
พงึ ประสงค์
7. กำรจดั กิจกรรมพฒั นำผู้เรียนสง่ เสริมกำรพัฒนำศักยภำพผเู้ รยี น
แตล่ ะคน
8. กำรจดั กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียนสง่ เสรมิ ทกั ษะกำรอย่รู ่วมกนั ในสงั คม
อย่ำงมคี วำมสุข
9. กำรจดั กจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี นมกี ำรกำหนดระยะเวลำที่แนน่ อน
10. กำรจดั กิจกรรมพัฒนำผเู้ รียนแต่ละครง้ั มกี ำรกำหนดวิธกี ำร
วดั ผลและประเมินผลที่ชดั เจน
การวัดผล 1. รูปแบบ วิธกี ำรและเกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผลในระดบั ชน้ั
และ เรียนและระดบั สถำนศึกษำสอดคลอ้ งกับแนวกำรวดั ผลและ
ประเมนิ ผล ประเมินผลตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน
2. รูปแบบ วิธีกำรและเกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผลในระบบ
โรงเรียนเป็นแนวทำงเดียวกนั
3. รำยละเอียดเกณฑ์กำรจบกำรผำ่ นช่วงชนั้ และเกณฑก์ ำรจบ
กำรศึกษำเหมำะสมกบั ผเู้ รียน สภำพชุมชน/ทอ้ งถ่ิน
ประเดน็ รายการ ระดับการประเมนิ
การวดั ผล 4. วิธกี ำรประเมินผลของสถำนศึกษำได้เนน้ กำรประเมินผล มำก มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย
และ ตำมสภำพจริง ที่สดุ กลำง ท่สี ุด
5. สถำนศึกษำมวี ิธกี ำรวัดผลและประเมินผลดว้ ยวธิ ีกำรทห่ี ลำกหลำย
ประเมนิ ผล วธิ ี -
6. รูปแบบวิธีกำรวัดผลและประเมินผลของโรงเรยี นมคี วำมชดั เจน
งำ่ ย และสะดวกต่อกำรนำไปใช้ -
รวม
คะแนนเฉลี่ย
95 108 33 2
สรปุ ผล
32.76 37.24 11.38 0.69
( ) มำกทสี่ ุด
( ) มำก
( ) ปำนกลำง
( ) น้อย
( ) นอ้ ยทีส่ ดุ
ขอ้ สังเกตและขอ้ เสนอแนะ
.................-..............................................................................................................................................................................................
................................................................................................................ ................................................................................................
.
ลงช่อื ..........................................................ผู้ประเมนิ
(นำยปริญญำ ดำต๊ะ)
ผู้อำนวยกำรโรงเรียนอนบุ ำลละงู