รายงานศิลปะ อารยธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
เรื่องความเชื่อการรมควันสมุนไพรแมงกินฟันออกหู
จัดทําโดย
1.นางสาวกัญญาณัฐ วิชยาคุณาสิน เลขที่ 3
2.นางสาวธนพร เชื้อสะอาด เลขที่ 18
เลขที่ 27
3.นายพงศกร ชาวนา เลขที่ 32
เลขที่ 45
4.นางสาวพิยดา ศรีชัยภูมิ เลขที่ 75
5.นางสาว ศศิวิมล แก้วจันทร์
6.นางสาวอนามิกา โปธิตา
เสนอ
อาจารย์ไพลิน ทองธรรมชาติ
รายงานวิชาศิลปะ อารยธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
พยาบาลศาสตร์บัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2564
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม
คํานํา
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาศิลปะ อารยธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1 โดย วัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่น
เกี่ยวกับการปกครอง ลักษณะสังคม และวัฒนธรรมรวมถึงรูปแบบ และลักษณะ
สำคัญของงานศิลปกรรม เพื่อเป็นโยชน์ในการเรียนมากขึ้น
ผู้จัดทําหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย ผู้จัดทํา
ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์ ไพลิน ทองธรรมชาติที่เป็นผู้ให้ความรู้ และแนะนํา
แนวทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมา โดยตลอด หากมี
ข้อแนะนําหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทําขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้
ด้วย
คณะผู้จัดทํา
ก
สารบัญ หน้า
เรื่อง ก
ข
คํานํา 1
สารบัญ
การศึกษาค้นคว้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย 2
ที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาด้านสุขภาพ 3
การสืบทอดภูมิปัญญาและที่มา 4
การปรับตัวของภูมิปัญญาให้สามารถดำรงสืบต่อในปัจจุบัน 5
การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและวิชาชีพในอนาคต
อ้างอิง
ข
ศึกษาค้นคว้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยที่เกี่ยวข้องกับ
ภูมิปัญญาด้านสุขภาพ
ความเชื่อการรมควันแมงออกหูเรื่องเริ่มจาก มีผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุทธิศักดิ์
จำปาดี ชาวบ้าน ต.ดอนคา อ.อู่ทอง ว่า มีแม่เฒ่าใช้ยาสมุนไพรรมควันดูดแมงกินฟัน
ออกทางหูรักษาอาการปวดฟัน ที่หมู่บ้านดอนคา จึงไปตรวจสอบพบบ้านดังกล่าวตั้ง
อยู่เลขที่ 247 หมู่ 1 ต.ดอนคา เป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีนางอินทร์ พิมพ์พันธุ์ดี อายุ 65ปี
เป็นเจ้าของกำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมอุปกรณ์ ในการรักษาอาการปวดฟันให้กับ
ลูกค้าที่มารอรับบริการจากการสอบถามนางอินทร์ เล่าว่าตนประกอบอาชีพนี้มานาน
กว่า 30 ปีโดยการจำวิธีการรักษามาจากหมอสมุนไพรคนหนึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตโดย
จดจำวิธีการและขั้นตอนทุกอย่างด้วยความสนใจ เนื่องจากตนเห็นเป็นเรื่องแปลกและ
ไม่อยากเชื่อเท่าไหร่แต่เมื่อศึกษาแล้วจึงเชื่อว่าสิ่งที่หมอสมุนไพร รักษานั้นเป็นเรื่องจริง
และเห็นผลจึงพยายามทำดูบ้างก็ได้ผลตอนใหม่ๆก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ประกอบกับไม่
ค่อยมีคนเชื่อถือ กระทั่งคนที่มารักษาบอกต่อๆกันว่ารักษาด้วยวิธีการนี้ได้ผลหลังจากที่
ก่อนจะมาให้ตนรักษาด้วยวิธีรมควันนั้นคนที่มาจะมีอาการปวดฟันไปหาหมอแผน
ปัจจุบันมาแล้วแต่ไม่หายจึงลองมาให้ตนรักษาดูเมื่อตนรักษาให้เขาก็หายดีเป็นปกติ
กระทั่งปัจจุบันนี้นางอินทร์ กล่าวว่าสำหรับอุปกรณ์และวิธีการรักษาก็ไม่มีอะไรมากใช้
จานตะเกียงแก๊สทองเหลืองสมัยเก่า ใช้สายยางยาวประมาณ 50 ซม.ต่อช่องตรงกลาง
ฝา พร้อมถาดและจาน สังกะสี สมุนไพร ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดพิเศษที่ใช้สำหรับการรม
ตัวแมงกินฟันโดยเฉพาะเป็นสมุนไพร สั่งมาจากประเทศจีนจะมีราคาแพงมาก โดยซื้อ
มาจากร้านขายยาสมุนไพร ที่ อ.อู่ทอง วิธีการก็คือใช้เตาถ่านก่อไฟแล้วนำกระเบื้องลง
ไปเผาให้ร้อนจนแดง แล้วนำออกมาวางในจานซึ่งอยู่ในถาดอีกชั้น
1
ให้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับภูมิปัญญานั้นๆว่ามีที่มา
ที่ไปอย่างไร เหตุใดจึงมีภูมิปัญญาลักษณะดังกล่าวดัง
กล่าว และมีการสืบทอดภูมิปัญญานั้นๆ อย่างไร
ที่มา : เกิดจากการที่เล่าปากต่อปาก หมอสมุนไพรคนหนึ่ง
ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้ว
เหตุใดจึงเกิดภูมปัญญาดังกล่าว : นางอินทร์ไปจำวิธีการ
รักษามาจากหมอสมุนไพรคนหนึ่ง ซึ่งคนที่มีอาการปวดฟันไป
หาหมอแผนปัจจุบันมาแล้วแต่ไม่หายจึงลองมาให้นางอินทร์
รักษาดู เมื่อนางอินทร์รักษาให้เขาก็หายดีเป็นปกติ
กระทั่งปัจจุบันนี้
2
ให้วิเคราะห์ภูมิปัญญานั้น ๆ ว่ามีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทกับ
ปัจจุบันหรือไม่ อย่างไร ตลอดจนการปรับตัวของภูมิปัญญาให้สามารถ
ดำรงสืบต่อในปัจจุบัน เป็นอย่างไร
ไม่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน เพราะ ไม่มีผลการ
ยืนยันทางการแพทย์ว่าสามารถรักษาอาการปวดฟันให้หายได้จริงเป็นเพียงความ
เชื่อและภูมิปัญญาของชาวบ้านเท่านั้นหากมีอาการปวดฟันควรพบทันตแพทย์เพื่อ
รักษาให้ถูกวิธีลดความเสี่ยงหรือปัญหาต่างๆที่มาจากการรมควัน การปรับตัวของ
ภูมิปัญญาให้สามารถดำรงสืบต่อในปัจจุบันเป็นการเริ่มจากคนในท้องถิ่น ที่เป็น
ลูกหลานชาวอีสานที่มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียล เช่น เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ทวิ
ตเตอร์ ฯลฯ เพื่อให้เกิดการแผ่หลายผ่านกระแสโซเชียล อาจมีการทำท่องเที่ยวเชิง
วัฒนธรรมของท้องถิ่นที่สอนการรมควัน มีการเปิดให้บริการชาวไทย และชาวต่าง
ชาติที่อาการเจ็บฟัน เข้ามาโดยมาการเชิญชวนผ่านทางอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้บริการมี
การให้เช็คอิน รีวิว เพียงเท่านี้ก็สามารถให้ผู้คนที่เล่นโซเชียลต่าง ๆ เข้ามาเห็นแล้ว
เกิดความสนใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยว รับความรู้ รักษาอาการเจ็บปวดของตัวเองได้
ถ้าได้การรักษาอาการดีขึ้นก็จะเกิดการบอกต่อคนใกล้ชิด และมีการบอกต่อเรื่อย ๆ
ต่อไป
3
นักศึกษาสามารถนำเอาภูมิปัญญานั้นๆมาประยุกต์ใช้ชีวิต
ประจำวัน และวิชาชีพในอนาคตได้อย่างไร
ภูมิปัญญาชาวบ้านช่วยให้ความรู้ด้านสมุนไพรที่หายากให้กับคนในชุมชน
เพิ่มขึ้น การใช้สมุนไพรในการรักษาโรคของคนในชุมชนยังมีความรู้อยู่ในวง
จำกัดว่าอันไหนควรใช้ไม่ควรใช้ และเอาไว้ศึกษาเพิ่มเติมนอกจากหลักการ
ทางวิชาชีพ ว่ามีความแตกต่างอย่างไรในการรักษาหรือมีตัวยาหรือสมุนไพร
อะไรบ้างเอาไว้ศึกษาและประเมินว่าสามารถนำมาใช้ในสถานการณ์แบบใด
สถานการณ์ใดที่ไม่ควรใช้เพราะเป็นความเชื่อที่ไม่มีการอ้างอิง ทางวิจัยทาง
วิทยาศาสตร์
4
อ้างอิง
1. นายชูชาติผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์(2561). รมควันเอาแมงออกจากอาหารปวด
ฟัน, สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2565.
จาก. https://www.tnews.co.th/region/447683
2. เดลินิวส์(2556). ใช้ ภูมิปัญญาชาวบ้านรมสมุนไพรแมงกินฟันออกหู,
สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2565.
จาก. http://www.dailynews.co.th/thailand/183902
5