นกั วทิ ยาศาสตร์เริ่มสงั เกตเห็นความสน่ั พอ้ งระหวา่ งสถานท่ีต่าง ๆ เช่น ภาวะฝนนอ้ ยในประเทศอินเดียเกิดข้ึนพร้อมกนั
กบั ความแห้งแลง้ ในประเทศออสเตรเลีย ปรากฏการณ์น้ีมีส่ิงท่ีเชื่อมต่อกนั ระหว่างประเทศอินเดีย ประเทศออสเตรเลีย
เกาะตาฮิตี และอาจรวมไปถึงประเทศเปรูและประเทศไทย นนั่ ก็คือ มหาสมทุ ร
ลานีญา เอลนีโญ
50/90
จากปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลให้บางช่วงเวลามหาสมุทรแปซิฟิ กดา้ นตะวนั ออกที่เคยแห้งแลง้ กลบั มีฝนตกมาก
ส่วนมหาสมุทรแปซิฟิ กดา้ นตะวนั ตกที่เคยมีฝนตกมากกลบั แหง้ แลง้
ในทางตรงกนั ขา้ ม ปรากฏการณ์ลานีญาส่งผลให้บางช่วงเวลามหาสมุทรแปซิฟิ กดา้ นตะวนั ออกแห้งแล้งกว่าปกติ
ส่วนมหาสมุทรแปซิฟิ กฝนตกหนกั กวา่ ปกติ
ปรากฏการณ์เอลนีโญและการสน่ั พอ้ งในซีกโลกใตน้ ้นั เก่ียวขอ้ งกบั สภาพภูมิอากาศ นกั อุตุนิยมวทิ ยาจึงนาอกั ษรตวั หนา้
ของ El Niño มารวมกบั Southern Oscillation เป็ นคาวา่ ENSO (เอนโซ) หมายถึง ปรากฏการณ์สนั่ พอ้ งระหวา่ งช้นั บรรยากาศ
และมหาสมุทร
51/90
การไหลเวยี นของนา้ ในมหาสมุทรแปซิฟิ ก
เอลนีโญและลานีญาเป็ นปรากฏการณ์ท่ีสมั พนั ธ์กบั การไหลเวยี นของกระแสน้าในมหาสมุทรแปซิฟิ ก ดงั น้นั จึงตอ้ งเขา้ ใจ
การไหลเวยี นของกระแสน้าหลกั คือ กระแสน้าเสน้ ศูนยส์ ูตร (equatorial current) โดยปกติ ลมมรสุมและลมสินคา้ จะพดั จาก
ทิศตะวนั ออกไปยงั ทิศตะวนั ตก แมจ้ ะมีการเปล่ียนแปลงไปตามฤดูกาล แต่ผลลพั ธ์โดยรวมของระบบลมมรสุมจะผลกั
น้าทะเลในมหาสมทุ รแปซิฟิ กบริเวณเสน้ ศูนยส์ ูตรใหไ้ หลจากทิศตะวนั ออกไปยงั ทิศตะวนั ตก
ทิศตะวนั ตกของมหาสมุทรแปซิฟิ ก คือ ทวีปเอเชีย หมู่เกาะอินโดนีเซีย และตอนเหนือของออสเตรเลีย กระแสน้าจาก
ทิศตะวนั ตกไหลมากองรวมกนั บริเวณชายฝ่ังตะวนั ตกของมหาสมุทรแปซิฟิ ก เนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมจะจากัด
อยเู่ ฉพาะบริเวณเส้นศูนยส์ ูตร แถบชายฝั่งหมู่เกาะอินโดนีเซียและเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตเ้ ท่าน้นั ที่ผิวน้าทะเลไหลมากอง
สูงข้ึนกวา่ ปกติจากบริเวณเสน้ ศูนยส์ ูตร แลว้ น้าในมหาสมทุ รจึงกระจายตวั ออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้
52/90
60ºN กระแสน้าดงั กลา่ วเป็ นกลไกหน่ึงในการพาความร้อน
จากเขตศูนย์สู ตรออกไปยังซี กโลกเหนื อและใต้
ในซีกโลกเหนือ กระแสน้ าจะไหลออกจากชายฝ่ัง
ทวีปเอเชีย แลว้ กลบั คืนสู่มหาสมุทรแปซิฟิ กที่ประเทศ
ญี่ป่ ุน เกิดเป็ นกระแสน้าอุ่นคุโรชิโอ (Kuroshio) ดงั รูป
บริเวณน้ีชาวประมงสามารถจบั ปลาไดเ้ ป็ นจานวนมาก
30ºN ส่วนในมหาสมุทรแอตแลนติกจะเป็ นกระแสน้าอุ่นกลั ฟ์
(Gulf stream)
เสน้ ศนู ยส์ ูตร ทิศทางการไหลของกระแสน้ าอุ่นคุโรชิโอจากบริ เวณ
เส้นศนู ยส์ ูตรไปตามชายฝ่ังมหาสมุุทรแปซิฟิ กตะวนั ตก และกลบั
ออกสู่มหาสมุทรแถบประเทศญ่ีป่ นุ
53/90
กระแสลมสินคา้ เมื่อพิจารณาอุณหภูมิของน้ าทะเลตามความลึกจะแบ่ง
น้าทะเลออกเป็ น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ มวลน้าผิวมหาสมุทร
เป็ นส่วนที่สัมผัสแสงแดดโดยตรง ได้รับความร้อน
มวลน้าอุ่น จากดวงอาทิตย์มากกว่าส่วนอื่น จึงมีอุณหภูมิสูงและ
ความหนาแน่นต่า เปล่ียนแปลงไปตามแรงลมพดั ไดง้ ่าย
มีความลึกจากผิวน้าประมาณ 100 เมตร มวลน้าส่วนท่ีสอง
จะอยู่ลึกลงไปจึงไม่ได้รับแสงแดด มีอุณหภูมิต่าและ
มวลน้าเยน็ ความหนาแน่นสูง ไม่ได้รับอิทธิพลจากกระแสลมแต่
เปล่ียนแปลงไปตามความดันน้า ดงั รูป ในความเป็ นจริง
ภาคตดั ขวางของน้าในมหาสมุทร น้าส่วนบน (สีส้ม) มีอุณหภูมิสูงกว่า อุณหภูมิและความหนาแน่ นของน้ าทะเลจะค่อย ๆ
ความหนาแน่นน้อยกว่า และถูกลมสินคา้ ผลกั ไปในทิศตะวนั ตก และน้า เปล่ียนแปลงไปตามระดับความลึก ไม่ได้มีเส้นแบ่งเขต
ส่วนล่างซ่ึงมีอุณหภูมิต่ากว่า ความหนาแน่นสูงกว่า ดนั เขา้ มาแทนที่ในทิศ ที่ชดั เจน
54/90
ตะวนั ออก
ลมสินคา้ จะผลกั มวลน้าอุ่นที่มีความหนาแน่นต่า 55/90
ให้เอ่อล้นทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรบริ เวณ
ทวีปเอเชีย ขณะเดียวกันในฝั่งตะวนั ออกบริ เวณ
ทวีปอเมริ กา มวลน้ าเย็นจะลอยตัวข้ึนมาแทนท่ี
อุณหภูมิน้ าส่ งผลโดยตรงต่อสภาพภูมิอากาศ
กระแสน้าอุ่นหล่อเล้ียงมหาสมุทรแปซิฟิ กตะวนั ตก
ทาให้อากาศบริ เวณน้ี ร้อนช้ื นและมีฝนตกชุ ก
น้ าฝนท่ีตกสู่ ทะเลจะลดความเข้มข้นของเกลือ
ท า ใ ห้ ค ว าม ห น าแ น่ น ข อ ง น้ า ล ด ล ง ซ่ึ ง ส่ ง ผ ล
ต่อลมสินคา้
ชายฝ่ังประเทศอินโดนีเซีย (แปซิฟิ กตะวนั ตก)
ในทางกลบั กนั กระแสน้าเย็นในมหาสมุทรแปซิฟิ กตะวนั ออกส่งผลให้อากาศ
แถบน้ีแหง้ แลง้ ทะเลทรายของประเทศเปรูจึงเป็ นพ้ืนที่ที่อากาศแหง้ แลง้ ท่ีสุดในโลก
ทะเลทรายประเทศเปรู (แปซิฟิ กตะวนั ออก) 56/90
ความอดุ มสมบรู ณ์ของทอ้ งทะเลเกิดจากบริเวณท่ีมวลน้าอุ่นเจอกบั มวลน้าเยน็ น้ าทะเลท่ีอุดมสมบูรณ์ในทางชี วภาพ
คือ บริเวณท่ีน้าอุ่นและน้าเยน็ มาบรรจบกนั
น้ าทะเลจะเต็มไปด้วยแพลงก์ตอนและ
ส า ห ร่ า ย ซ่ึ ง เ ป็ น อ า ห า ร ข อ ง สั ต ว์น้ า
ในมหาสมุทรแปซิฟิ กตะวนั ออกบริเวณ
ดังกล่าวอยู่ไม่ลึกจากผิวน้ าเกินไปนัก
จึงได้รับความอบอุ่นจากแสงอาทิ ตย์
อย่างเต็มที่ บริ เวณทวีปอเมริ กากลาง
และอเมริ กาใต้จึงมีปลาชุกชุมมากกว่า
บริเวณอ่ืน ๆ
57/90
ผลกระทบจากเอลนีโญและลานญี า กระแสลมสินคา้
ในปี ท่ีเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ นักอุตุนิยมวิทยา มวลน้าอ่นุ
พบวา่ ความดนั อากาศเหนือคาบสมุทรอินโดจีนมีค่าสูงข้ึน
ส่วนความกดอากาศเหนือทวีปอเมริ กาใต้มีค่าต่าลง
ซ่ึงโดยปกติคาบสมุทรอินโดจีนมีค่าความกดอากาศต่า
และอเมริกาใตค้ วามกดอากาศสูง การเปลี่ยนแปลงน้ีส่งผล
ให้ความแตกต่างของความกดอากาศระหว่าง 2 บริเวณน้ี
ลดลง ลมสินคา้ จึงมีความแรงน้อยลงไปด้วย ในกรณีท่ี มวลน้าเยน็
ความกดอากาศ 2 บริเวณเท่ากนั พอดี ลมสินคา้ จะหยุดนิ่ง
และในบางปี ท่ีปรากฏการณ์เอลนีโญรุ นแรงผิดปกติ ภาคตัดขวางของน้าในมหาสมุทรในปี ที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ
การไหลเวียนอาจสวนทิศทาง โดยลมสิ นค้าพัดจาก กระแสลมสินคา้ อ่อนตวั ลง และไม่สามารถผลกั น้าอุ่นไปยงั ทิศตะวนั ตก
ไดม้ ากเช่นแตก่ ่อน ส่งผลใหอ้ ณุ หภมู ิผวิ น้าในมหาสมทุ รแปซิฟิ กลดลงในฝ่ัง
ทิศตะวนั ตกไปยงั ทิศตะวนั ออกแทน ตะวนั ตกและเพม่ิ ข้ึนในฝ่ังตะวนั ออก
58/90
เนื่องจากกระแสน้าเสน้ ศูนยส์ ูตรข้ึนกบั ทิศทาง 59/90
และขนาดของลมสินคา้ ในปี เอลนีโญ รูปแบบของ
กระแสน้าเปลี่ยนแปลงไป ลมสินคา้ ที่อ่อนแรงลง
ส่งผลให้ผิวน้ ามหาสมุทรแปซิฟิ กฝั่งตะวนั ออก
อุ่นกว่าปกติ บริเวณท่ีมวลน้ าบรรจบกันถูกผลัก
ลงไปอยใู่ ตม้ หาสมุทร ปลาที่เคยชุกชุมในทอ้ งทะเล
แถบน้ีจึงเสียชีวติ เป็ นจานวนมหาศาล ขณะเดียวกนั
น้าทะเลท่ีเย็นลงทางฝ่ังตะวนั ตกส่งผลให้อากาศ
เหนื อทวีปเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้แห้งแล้ง
อยา่ งหนกั ดงั รูป
ความแหง้ แลง้ ของประเทศไทยในปี ที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ
ส่วนปี ที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญา
ลมสินคา้ มีกาลงั แรงกวา่ ปกติ ส่งผลใหน้ ้าอุ่น
ถูกพดั มายงั มหาสมทุ รแปซิฟิ กฝ่ังตะวนั ตก
มากกวา่ ปกติ ทาใหอ้ ากาศเหนือทวปี เอเชีย
ตะวนั ออกเฉียงใตช้ ุ่มช้ืน เกิดปริมาณฝนมากข้ึน
และมีโอกาสเกิดพายเุ พิ่มข้ึนดว้ ย เช่น พ.ศ. 2554
ที่ผา่ นมา ประเทศไทยประสบอทุ กภยั
คร้ังรุนแรง
60/90
ปัจจุบนั นกั อตุ นุ ิยมวทิ ยายงั ไมท่ ราบ
ถึงสาเหตทุ ่ีแทจ้ ริงของการเกิดปรากฏการณ์
เอลนีโญและลานีญา เน่ืองจากภูมิอากาศ
และกระแสน้าเป็ นส่ิงท่ีสมั พนั ธ์กนั จึงไมส่ ามารถ
บอกถึงสาเหตุท่ีแทจ้ ริงได้ ดงั น้นั ปรากฏการณ์
ตา่ ง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกบั ช้นั บรรยากาศ
และมหาสมุทรจึงตอ้ งอาศยั
การศึกษาเพมิ่ เติมต่อไป
61/90
(หนงั สือเรียนหนา้ 180)
62/90
1. น้าในมหาสมุทรแบ่งออกเป็ นกี่ช้นั อะไรบา้ ง
2. ความเคม็ ของน้าทะเลมีความสมั พนั ธก์ บั การแบ่งช้นั น้าในมหาสมทุ รหรือไม่ อยา่ งไร
3. การหมุนเวยี นของน้าในมหาสมทุ รข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ใดบา้ ง
63/90
4. กระแสลมส่งผลใหก้ ารไหลของน้าในมหาสมทุ รทางซีกโลกเหนือและซีกโลกใตเ้ ป็ นอยา่ งไร
5. กระแสน้าอุ่นกลั ฟ์ สตรีมส่งผลต่อสภาพอากาศบริเวณชายฝ่ังทะเลทางดา้ นทิศตะวนั ออกของทวีปอเมริกาเหนือ
อยา่ งไร
6. ปัจจยั ที่ทาใหเ้ กิดการหมุนเวยี นของกระแสน้าลึกคืออะไร
64/90
7. เหตุใดการหมนุ เวยี นของกระแสน้าจึงทาใหร้ ะบบนิเวศใตท้ ะเลมีความอดุ มสมบูรณ์
8. ใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งปรากฏการณ์ธรรมชาติท่ีเกิดจากการหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทร 1 ตวั อยา่ ง พร้อมอธิบาย
การเกิดปรากฏการณ์น้นั มาพอสงั เขป
65/90
การพยากรณ์อากาศ (weather forecast) หมายถึง การคาดหมาย 66/90
สภาวะของลมฟ้าอากาศ รวมท้ังปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะเกิดข้ึน
ในอนาคต ข้อมูลท่ี นาเสนอในการพยากรณ์ อากาศจะแสดง
การคาดการณ์สภาวะอากาศที่ใกลต้ วั มนุษย์ เช่น ฝน อุณหภูมิ ลม เมฆ
หมอก คลื่นทะเล รวมถึงภยั ธรรมชาติที่อาจเกิดข้ึน เช่น น้าป่ าไหลหลาก
คลื่นซดั ฝ่ัง พายหุ มุน
แผนที่อากาศเป็ นอุปกรณ์ที่สาคญั อยา่ งหน่ึงในการพยากรณ์อากาศ
แสดงให้เห็นภาพรวมของอากาศในแต่ละบริ เวณได้อย่างชัดเจน
การจัดทาแผนที่อากาศจะต้องรวบรวมผลการตรวจอากาศพ้ืนผิว
จากสถานีตรวจอากาศแต่ละสถานีในเวลาเดียวกนั จากน้นั นามาปรับ
ให้เป็ นตัวเลข รหัส และสัญลักษณ์มาตรฐานทางอุตุนิยมวิทย า
แลว้ กาหนดลงในตาแหน่งของแผนท่ี
แผนท่ีอากาศผิวพ้ืนแสดงขอ้ มูลการตรวจอากาศในรูปแบบสัญลักษณ์หรือตวั เลข เช่น บริเวณความกดอากาศสูง
พายหุ มุนเขตร้อน แนวปะทะอากาศ โดยแผนที่อากาศผิวพ้ืนมีลกั ษณะดงั รูป
ถ้าพิจารณาแผนท่ีอากาศผิวพ้ืน ซ่ึงมี
ขอ้ มูลท่ีมีความสาคญั เพ่ือช่วยในการพยากรณ์
อากาศจะพบว่า ในแผนท่ีอากาศจะแสดง
ขอ้ มูลสภาพอากาศของแต่ละสถานีไวใ้ นรูป
สัญลกั ษณ์มาตรฐานทางอุตุนิยมวิทยา ทาให้
สามารถวเิ คราะห์ขอ้ มูลในแต่ละพ้ืนท่ียอ่ ยได้
โดยสญั ลกั ษณ์ทางอตุ นุ ิยมวทิ ยาที่ควรรู้มีดงั น้ี
แผนที่อากาศผวิ พ้นื วนั ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 7.00 น. 67/90
**คลิกที่ 1 - 4 เพื่อใหข้ อ้ ความปรากฏหรือเปลี่ยนขอ้ ความ 1234
2314. แเศสนู น้ นวยยปไ์ก์ กอะลทลโาซะางอขงบาขอากรงอา์หศง(ยiห(s่อforยมbo่ อanrมt)
คเปว็ นาามเมสกเก้นสดด้นโออคาา้กงรกาท์คศี่าลหสศานู งกตา่เทา(ชHึบ่ื อ()สLมเีแ)ปตด็ ่นอง
มบเปีร็เนิเควบวณรรณ่ื ิอเทวท่ีมงณ่ีอีคหทาว่ีอมกาามากศกยาดเศวยอร็นง้อากนแายลศหกเม้ทงตแ่วาั คกลืนัอ้ง
แมฟทนีต้าใวั หสปเลเ้ ะไกขทมิดแ่มะเสมอีเมดฆาฆงกคาปศ่ากครค้อวลนาุมกดอากาศ
ซ่ึงมีหนเ่วสย้ นเป็อนาเฮรค์ คโทหปนาสา คทาึ บล
ส(hี Pนa้ า) กเ งาิกนบั มไีวล้ ่ิ ม ส า ม เ ห ลี่ ย ม
คื อ แ น ว ป ะ ท ะ อ า ก า ศ เ ย็ น
เ ม่ื อ แ น ว ป ะ ท ะ ท้ ั ง ส อ ง ช น กั น
จะทาใหเ้ กิดฝนตก
68/90
ประโยชน์ของแผนทอี่ ากาศผวิ พื้น
แผนท่ีอากาศผิวพ้ืนเป็ นแผนท่ีแสดงเส้นความกดอากาศเท่า
(isobar) และแสดงสัญลกั ษณ์มาตรฐานทางอุตุนิยมวิทยาบริเวณสถานี
ตรวจอากาศแต่ละสถานี เกิดจากการตรวจวดั สภาพอากาศบริเวณสถานี
ตรวจอากาศ แผนท่ีอากาศจะถูกผลิตทุก 6 ชว่ั โมง (7:00 13:00 19:00 และ
01:00 นาฬิกา) โดยกรมอุตุนิยมวิทยาใชแ้ ผนท่ีอากาศผิวพ้ืนมาวิเคราะห์
ขอ้ มูลตามทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา เพ่ือเป็ นเครื่องมือสาคญั ในการพยากรณ์
อากาศ สามารถสรุปประโยชน์ของแผนที่อากาศผิวพ้นื ได้ ดงั น้ี
1. ทราบสภาพอากาศเบ้ืองตน้ บริเวณสถานีน้ัน ๆ จากการแปล
ความหมายสัญลกั ษณ์มาตรฐานทางอุตุนิยมวทิ ยาในแผนที่อากาศผิวพ้ืน
เน่ืองจากเป็ นผลจากการตรวจวดั สภาพอากาศในปัจจุบนั เช่น ชนิดและ
ปริมาณเมฆ ความกดอากาศ ปริมาณฝน อณุ หภูมิ ความเร็วและทิศทางลม
69/77
2. ทราบทิศทางการเคลื่อนท่ีของอากาศในแนวระนาบได้ตามหลกั การเคล่ือนที่ของอากาศ โดยทว่ั ไปจะเคล่ือนท่ี
จากบริ เวณความกดอากาศสูง (สัญลักษณ์ H) ไปยงั บริ เวณที่มีความกดอากาศต่า (สัญลักษณ์ L) และบริ เวณร่อง
ความกดอากาศต่า (inter tropical convergence zone : ITCZ) จะเป็ นอากาศเคลื่อนที่เขา้ มาบรรจบกนั ดงั รูป
ก. ร่องความกดอากาศต่าในช่วงเดือนมกราคม ข. ร่องความกดอากาศต่าในช่วงเดือนกรกฎาคม
70/90
3. เม่ือพิจารณาแผนที่อากาศผิวพ้ืนร่วมกับข้อมูลอ่ืน ๆ เช่น เรดาร์ตรวจอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา
สามารถใชป้ ระกอบการพยากรณ์อากาศระยะส้นั และระยะปานกลางได้ ดงั น้ี
3.1 การพยากรณ์อากาศระยะส้นั ใชข้ อ้ มูลแผนที่อากาศร่วมกบั เรดาร์ตรวจอากาศ คาดการณ์การเคล่ือนท่ีของกลุ่มฝน
ปริมาณฝน การเกิดหมอก และคล่ืนทะเล ช่วยในการวางแผนการเดินทาง การประกอบอาชีพ การเฝ้าระวงั ภยั การเดินเรือ
การวางแผนการบินสาหรับหน่วยงานวทิ ยกุ ารบิน
3.2 การพยากรณ์อากาศระยะปานกลาง ใช้ข้อมูลแผนท่ีอากาศ สถิติภูมิอากาศ และทฤษฎีทางอุตุนิยมวิทย า
พิจารณาร่วมกับช่วงฤดูกาล เพื่อคาดการณ์โอกาสเกิดฝน คลื่นลม และการเปล่ียนแปลงอุณหภูมิ ใช้เตรียมตัวสาหรับ
การเดินทางท่องเท่ียวไปต่างจังหวดั หรือต่างประเทศ ใช้วางแผนเพาะปลูกและเก็บเก่ียวผลผลิต เฝ้าระวงั โรคพืช
การเฝ้าระวงั ภยั พบิ ตั ิ
71/90
(หนงั สือเรียนหนา้ 185)
72/90
1. จากแผนที่อากาศประจาวนั ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562
เวลา 07:00 น. ของประเทศไทยจะพยากรณ์อากาศ
ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
ที่มา : กรมอุตนุ ิยมวิทยา, (18 มกราคม 2562 เวลา 07:00 น.)
73/90
2. เหตใุ ดในการพยากรณ์อากาศจึงตอ้ งระบุวนั ท่ีและเวลา
3. ยกตวั อยา่ งสัญลกั ษณ์บนแผนที่อากาศ 10 สญั ลกั ษณ์
พร้อมอธิบายความหมาย
ที่มา : กรมอุตนุ ิยมวิทยา, (18 มกราคม 2562 เวลา 07:00 น.)
74/90
4. หมายเลข 1014 หมายความวา่ อยา่ งไร
5. เส้นสี น้ าเงินและเส้นสีแดงที่พาดผ่านประเทศไทย
แทนสญั ลกั ษณ์ใด และหมายความวา่ อยา่ งไร
ที่มา : กรมอุตนุ ิยมวิทยา, (18 มกราคม 2562 เวลา 07:00 น.)
75/90
การหมุนเวยี นของอากาศบนโลก
● ลมเกิดจากการแทนที่ของอากาศ 2 บริเวณที่มี
อุณหภูมิแตกต่างกนั โดยบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง
อากาศร้อนจะมีความหนาแน่นน้อยจึงลอยตัว
สูงข้ึน ทาให้อากาศเย็นท่ีมีความหนาแน่น
มากกวา่ ไหลเขา้ มาแทนที่
76/90
● การหมนุ เวยี นของอากาศบนโลกเกิดจากแรง 2 ชนิด ไดแ้ ก่
1. แรงคอริออลิส เป็ นแรงบิดท่ีเกิดจากการหมุนรอบตวั เองของโลก ทาให้เกิดการเบ่ียงเบนทิศทางของกระแสลม
ท้งั ในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้
2. แรงเสียดทาน เป็ นแรงท่ีเกิดจากความขรุขระของผวิ โลก ทาใหเ้ กิดความตา้ นทานในการเคล่ือนท่ีของกลุ่มอากาศ
77/90
● การหมุนเวยี นของอากาศบนโลก โพลาร์เซลล์ ข้วั โลก
ทาให้บริ เวณต่าง ๆ ของโลก เฟอร์เรลเซลล์
มี ภู มิ อ า ก า ศ แ ต ก ต่ า ง กั น แฮดลียเ์ ซลล์
โดยแบบจาลองการหมุนเวียน แฮดลียเ์ ซลล์
ของอากาศจะแบ่งออกเป็ น
3 ส่วนย่อย ได้แก่ แฮดลียเ์ ซลล์
เฟอร์เรลเซลล์ และโพลาร์เซลล์
เฟอร์เรลเซลล์
78/90
การหมุนเวยี นของนา้ ในมหาสมทุ ร
● การหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทรมีลกั ษณะคลา้ ยการหมุนเวยี น
ของอากาศในบรรยากาศ เพราะน้าและอากาศจัดเป็ นของไหล
เช่นเดียวกนั
● ปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ การหมุนเวยี นท่ีเห็นไดช้ ดั เจน คือ ลมที่พดั อยเู่ หนือ
ผิวน้าทะเลและค่าความเค็มของน้าทะเล โดยน้าทะเลที่เค็มมาก
จะมีความหนาแน่นสูง จึงสามารถเคลื่อนไปแทนที่น้าทะเลท่ีมี
ความหนาแน่นต่าได้
● การหมนุ เวยี นของน้าในมหาสมุทรแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ไดแ้ ก่
การหมุนเวียนของกระแสน้าบริเวณผิวหนา้ น้าและการหมุนเวยี น
ของกระแสน้าลึก
79/90
● การหมุนเวียนของกระแสน้าบริเวณผิวหนา้ น้า 80/90
มีสาเหตุจากการขยายตัวของน้ าเน่ืองจาก
อุณหภมู ิและความเสียดทานจากลม
- ลมสินคา้ ตะวนั ออกบริเวณใกลเ้ ส้นศูนย์สูตร
มีอิทธิพลพัดให้น้ าในมหาสมุทรเคล่ือนตัว
ไปทางทิศตะวนั ตก การไหลของน้าเคล่ือนที่
เป็ นรูปวงเวียนในทิศทางตามเข็มนาฬิกาใน
ซีกโลกเหนือ
- ลมตะวนั ตกในบริเวณใกลข้ ้วั โลกมีอิทธิพล
พดั ให้น้ าในมหาสมุทรเคล่ือนตัวไปทางทิศ
ตะวันออก การไหลของน้ าเคล่ือนท่ีเป็ นรูป
วงเวยี นในทิศทางทวนเขม็ นาฬิกาในซีกโลกใต้
● การหมุนเวียนของกระแสน้าลึก มีสาเหตุมาจากน้าทะเลในแต่ละส่วนของโลกมีความเคม็ ไม่เท่ากนั จึงมีความหนาแน่น
ไม่เท่ากนั อาจเรียกวา่ แถบสายพานยกั ษ์
- น้าทะเลที่มีความหนาแน่นสูง มีอุณหภูมิต่า จะจมตวั ลงสู่ทอ้ งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ไหลลึกลงทางใต้ แลว้ เล้ียว
ไปทางตะวนั ออก
- กระแสน้าไหลผา่ นมหาสมุทรอินเดียจะมีอณุ หภมู ิสูงข้ึนและลอยตวั ข้ึนทางตอนเหนือของมหาสมทุ รแปซิฟิ ก
81/90
แผนทอ่ี ากาศ
● แผนที่อากาศเป็ นอุปกรณ์ที่สาคญั อย่างหน่ึง
ในการพยากรณ์อากาศ แสดงใหเ้ ห็นภาพรวม
ของอากาศในแตล่ ะบริเวณ
● แ ผ น ที่ อ า ก า ศ ผิ ว พ้ื น จ ะ แ ส ด ง ข้อ มู ล
การตรวจอากาศในรู ปแบบสัญลักษณ์
หรือตัวเลข เช่น บริเวณความกดอากาศสูง
หย่อมความกดอากาศต่า พายุหมุนเขตร้อน
ร่องความกดอากาศต่า แนวปะทะอากาศ
82/90
● การใชแ้ ผนท่ีอากาศในการพยากรณ์อากาศระยะส้ัน
จะคาดการณ์การเคลื่อนท่ีของกลุ่มฝน ปริ มาณฝน
การเกิดหมอก และคลื่นทะเล จึงสามารถนาไปวางแผน
การเดินทาง การประกอบอาชีพ รวมถึงเฝ้าระวังภัย
เช่น การเดินเรือท่องเที่ยว การออกเรือในทะเลได้
● การใช้แผนที่อากาศในการพยากรณ์อากาศระยะ
ปานกลาง จะคาดการณ์โอกาสเกิดฝน คล่ืนลม และการ
เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ทาให้สามารถเตรียมตัวสาหรับ
การเดินทางได้ รวมถึงการวางแผนเพาะปลูก เก็บเก่ียว
ผลผลิต เฝ้าระวังโรคพืช การเฝ้าระวงั ภัยพิบัติ เ ช่น
น้าป่ าหลาก ดินถลม่
83/90
1. อณุ หภมู ิและความกดอากาศมีความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร
2. บริเวณที่สูงจากพ้นื โลกตา่ งกนั จะส่งผลตอ่ แรงเสียดทานของอากาศหรือไม่ อยา่ งไร
84/90
3. ใหน้ กั เรียนอธิบายการหมนุ เวยี นของอากาศตามแบบจาลองแฮดลียเ์ ซลล์
4. ความกดอากาศบริเวณเสน้ ศูนยส์ ูตรมีลกั ษณะเป็ นอยา่ งไร
85/90
5. ลมคา้ มีลกั ษณะอยา่ งไร
6. แนวปะทะข้วั โลกทาใหเ้ กิดการเคล่ือนที่ของอากาศอยา่ งไร
86/90
7. ทะเลที่เกิดปรากฏการณ์น้าผดุ เป็ นอยา่ งไร ส่งผลต่อระบบนิเวศในทะเลอยา่ งไร
8. การหมนุ เวยี นของน้าในมหาสมุทรมีอิทธิพลต่อสภาพอากาศของโลกอยา่ งไร
87/90
9. นักเรียนคิดว่า การละลายของน้าแข็งข้วั โลกส่งผล
ต่อการหมุนเวยี นของน้าในมหาสมทุ รหรือไม่ อยา่ งไร
88/90
10. จากรู ปแผนที่ อากาศ ให้นักเรี ยนพิจารณาว่า ก. แผนที่อากาศ ในวนั ท่ี 17 เมษายน 2561
สภาพอากาศบริ เวณประเทศไทย (อาจแบ่งเป็ น 89/90
รายภาค) มีลกั ษณะเป็ นอยา่ งไร โดยให้เปรียบเทียบ
กับช่วงเวลาหรือฤดูกาล พิจารณาภาพรวมและใช้
การแปลความหมายจากสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศ
เ ม่ื อ พิ จ า ร ณ า แ ล้ว จึ ง น า ม า เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ
ผลการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิ ยมวิทยา
อีกคร้ัง (อาจใชแ้ ผนท่ีอากาศในช่วงเวลาอ่ืน ๆ ที่มี
ลักษณะอากาศน่าสนใจ โดยค้นหาจากเว็บไซต์
www.tmd.go.th)
ข. แผนที่อากาศ ในวนั ที่ 17 สิงหาคม 2561 ค. แผนที่อากาศ ในวนั ท่ี 17 ธนั วาคม 2561
90/90