The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 5 พันธะเคมี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tramgang, 2022-09-13 21:48:01

พันธะเคมี

หน่วยที่ 5 พันธะเคมี

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 อะตอม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ตารางธาตุ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ธาตุกบั สารประกอบ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พนั ธะเคมี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ธาตกุ มั มนั ตรังสี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 พนั ธะไอออนิก
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ปฏิกิริยาเคมี
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 สารประกอบอินทรีย์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 พอลิเมอร์

ความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั พนั ธะเคมี (ว 2.1 ม.5/8) อะตอมของธาตุในโมเลกลุ ของแก๊สออกซิเจน (O2)
พนั ธะโคเวเลนซ์ (ว 2.1 ม.5/8) น้า (H2O) และทราย (SiO2) ยดึ เหน่ียวกนั ดว้ ยพนั ธะ

สมบตั ิของสารประกอบโคเวเลนซ์ โคเวเลนซ์เหมือนกนั แตแ่ ก๊สออกซิเจน
(ว 2.1 ม.5/9, 10 และ 11) น้า และทรายมีสถานะต่างกนั เพราะเหตใุ ด
ประโยชนข์ องสารประกอบโคเวเลนซ์
คาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 1/87

สารโคเวนซ์แตล่ ะชนิดมีแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งโมเลกุล
ต่างกนั ทาให้มีผลต่อจุดหลอมเหลวและจุดเดือดของ
สาร ซ่ึงส่งผลต่อสถานะของสารดว้ ย

พันธะเคมี (chemical bond) เกิดจากอะตอม

นาเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนมาใชร้ ่วมกนั เป็ นคู่ ๆ เพ่ือให้มี
อิเลก็ ตรอนวงนอกสุดครบ 8 หรืออาจเกิดจากอะตอม
ใหห้ รือรับอิเลก็ ตรอนระหวา่ งกนั เพื่อให้มีอิเล็กตรอน
วงนอกครบ 8 จึงเกิดแรงยึดเหนี่ยวระหว่างไอออน
บวกของอะตอมท่ีให้อิเล็กตรอนกับไอออนลบของ
อะตอมท่ีรับอิเลก็ ตรอน นอกจากน้ีอาจเกิดจากอะตอม
นาเวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนมาใชร้ ่วมกนั ทุกอะตอมในผลึก

2/87

(หนงั สือเรียนหนา้ 132)

กจิ กรรมท่ี 5.1 ความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกบั พนั ธะเคมี

สรุปผลการเรียนรู้

พันธะเคมีมี 3 ชนิด คือ พันธะโลหะเกิดจากการใช้เวเลนซ์
อิเลก็ ตรอนร่วมกนั ของธาตุโลหะ พนั ธะไอออนิกเกิดจากการใหแ้ ละรับ
อิเลก็ ตรอนของธาตุโลหะและธาตุอโลหะ และพนั ธะโคเวเลนซ์เกิดจาก
การใชเ้ วเลนซ์อิเลก็ ตรอนร่วมกนั เป็ นคู่ ๆ ของธาตอุ โลหะ

3/87

คาถามท้ายกจิ กรรม
1. พนั ธะเคมีมีก่ีชนิด อะไรบา้ ง

2. พนั ธะโลหะเกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไร และอะตอมอยรู่ วมกนั ในลกั ษณะใด

4/87

คาถามท้ายกจิ กรรม
3. พนั ธะไอออนิกเกิดจากธาตุโลหะหรืออโลหะ และไดธ้ าตุหรือสารประกอบท่ีอยใู่ นลกั ษณะใด

4. พนั ธะโคเวเลนซ์เกิดจากธาตโุ ลหะหรืออโลหะ และไดธ้ าตหุ รือสารประกอบที่อยใู่ นลกั ษณะใด

5/87

จากการทากิจกรรมท่ี 5.1 สรุปองคค์ วามรู้ไดด้ งั น้ี

การเกิดพนั ธะเคมีเนื่องจากโครงสร้างการจัดเรียง
อิเล็กตรอนของอะตอมของธาตุมีเวเลนซ์อิเล็กตรอน 1-7
ซ่ึงเป็ นโครงสร้างที่ไม่เสถียร อะตอมจึงนาเวเลนซ์
อิเลก็ ตรอนมาสร้างพนั ธะระหวา่ งอะตอมเพื่อใหม้ ีเวเลนซ์
อิเลก็ ตรอนเท่ากบั 8 ซ่ึงเป็ นโครงสร้างท่ีเสถียร พนั ธะเคมี
แบ่งออกเป็ น 3 ชนิด คือ พนั ธะโลหะ พนั ธะไอออนิก และ
พนั ธะโคเวเลนซ์

6/87

◉ เกิดข้ึนระหวา่ งอะตอมของโลหะ
◉ ทุกอะตอมของโลหะใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน

เกิดแรงยึดเหนี่ ยวอย่างต่อเนื่ องระหว่างเวเลนซ์

อิเล็กตรอนกับนิ วเคลียสของทุกอะตอมเกิดเป็ น

ผลึกอะตอม

7/87

◉ เกิดข้ึนระหวา่ งอะตอมของโลหะและอโลหะ
◉ อะตอมของโลหะให้เวเลนซ์อิเล็กตรอนเกิดเป็ นไอออน

บวก ส่วนอะตอมของอโลหะรับเวเลนซ์อิเล็กตรอน
เกิดเป็ นไอออนลบ และยดึ เหน่ียวกนั ดว้ ยแรงดึงดูดระหวา่ ง
ประจุไฟฟ้าเกิดเป็ นโครงสร้างผลึกไอออน

8/87

◉ เกิดข้ึนระหวา่ งอะตอมของอโลหะ
◉ อะตอมของอโลหะนาเวเลนซ์อิเล็กตรอนมาใชร้ ่วมกัน

เป็ นคู่ ๆ เกิดเป็ นโมเลกุลหรือผลึกอะตอม ถา้ โมเลกุล
ถกู บีบอดั กนั แน่นจะพบในรูปผลึกโมเลกลุ

9/87

พันธะโคเวเลนซ์ (covalent bond) เกิดจากอะตอม

ของอโลหะซ่ึงมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากบั 4-7 รวมท้งั
อะตอมของธาตุไฮโดรเจน เบริลเลียม และโบรอน
นาเวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนมาใชร้ ่วมกนั เป็ นคู่ ๆ เพ่ือใหแ้ ตล่ ะ
อะตอมมีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนเท่ากบั 8 ซ่ึงเป็ นโครงสร้าง
ที่เสถียรตามกฎออกเตต (octet rule)

10/87

ตวั อย่าง
การสร้างพนั ธะโคเวเลนซ์ระหวา่ งอะตอมของธาตุไฮโดรเจน (11H)

H+H H2 อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 1 คู่
คือ พนั ธะเด่ียว

เขียนโครงสร้างลิวอิสของโมเลกลุ แกส๊ ไฮโดรเจน (H2) ไดด้ งั น้ี

H : H หรือ H–H ใช้ – แทนอิเลก็ ตรอนคูร่ ่วมพนั ธะ 1 คู่

11/87

ตวั อย่าง
การสร้างพนั ธะโคเวเลนซ์ระหวา่ งอะตอมของธาตุออกซิเจน (186O)

อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 2 คู่
คือ พนั ธะคู่

O+ O O2 อิเล็กตรอน
คูโ่ ดดเด่ียว

เขียนโครงสร้างลิวอิสของโมเลกลุ แก๊สออกซิเจน (O2) ไดด้ งั น้ี

O::O หรือ O = O ใช้ = แทนอิเลก็ ตรอนคูร่ ่วมพนั ธะ 2 คู่

12/87

ตวั อย่าง

การสร้างพนั ธะโคเวเลนซ์ระหวา่ งอะตอมของธาตุไฮโดรเจน (11H) คาร์บอน (126C) และไนโตรเจน (174N) ในโมเลกลุ
ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (HCN)

อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 1 คู่ อิเลก็ ตรอนคู่โดดเดี่ยว
คือ พนั ธะเดี่ยว

H + C +N HCN
อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 3 คู่

คือ พนั ธะสาม

เขียนโครงสร้างลิวอิสของโมเลกลุ ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (HCN) ไดด้ งั น้ี 13/87
H : C N : หรือ H – C  N ใช้  แทนอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 3 คู่
...

เขียนสญั ลกั ษณ์ของธาตุท่ีมีความเป็ นอโลหะ ตวั อย่าง
ก า ร เ ขี ย น สู ต ร โ ม เ ล กุ ล ที่ เ กิ ด จ า ก ธ า ตุ
1 น้อย (มีค่าสภาพไฟฟ้าลบต่า) ก่อน ส่วน H
คาร์บอนกบั คลอรีน
ใหเ้ ขียนไวห้ ลงั ธาตุ Be B Si C P และ N
ธาตุ C มีความเป็ นอโลหะนอ้ ยกวา่ ธาตุ Cl
เขียน C นาหนา้ Cl จึงเขียนไดเ้ ป็ น CCl

14/87

เขียนจานวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนท่ีใช้สร้าง วิเคราะห์หาตวั เลขท่ีเหมาะสมมาใส่ท่ีมุมขวา

2 พนั ธะเพือ่ ทาใหม้ ีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนเท่ากบั 8 3 ล่างของสัญลกั ษณ์ของแต่ละธาตุ เพื่อทาให้

ไวบ้ นสญั ลกั ษณ์ของธาตุแตล่ ะชนิด จานวนอิเลก็ ตรอนท่ีใชส้ ร้างพนั ธะเท่ากนั

6C : 2 4 ขาด 4 อิเลก็ ตรอนจะครบ 8 จึงใช้ 4 จาก C4 C1 l จะไดส้ ูตรโมเลกลุ คือ CCl4 15/87
อิเลก็ ตรอนสร้างพนั ธะ หมายความวา่ ตอ้ งใช้ Cl 4 อะตอม จึงจะ
รวมพอดีกบั C 1 อะตอม จึงจะทาใหท้ ุก
17Cl : 2 8 7 ขาด 1 อิเลก็ ตรอนจะครบ 8 จึงใช้
1 อิเลก็ ตรอนสร้างพนั ธะ อะตอมในโมเลกุลมีเวเลนซ์อิเล็กตรอน
เท่ากบั 8 ดงั น้ี
จึงเขียนไดเ้ ป็ น C4C1l

(หนงั สือเรียนหนา้ 137)

16/87

เขียนสูตรโมเลกลุ ของสารทกี่ าหนดให้ 3. ธาตุซิลิคอน (1248Si) ทาปฏิกิริยากบั ธาตุออกซิเจน
1. ธาตุคาร์บอน (162C) ทาปฏิกิริยากบั ธาตุไฮโดรเจน (186O)

(11H)

2. ธาตุไนโตรเจน (174N) ทาปฏิกิริยากบั ธาตุฟลูออรีน
(199F)

17/87

ศึกษาหลกั การเขียน
สูตรโครงสร้างลิวอิส
ไดจ้ ากกิจกรรมที่ 5.2

18/87

(หนงั สือเรียนหนา้ 138)

กจิ กรรมท่ี 5.2 สูตรโครงสร้างลิวอิสของสารประกอบโคเวเลนซ์ ผลการทากจิ กรรม

สูตรโมเลกลุ สูตรโครงสร้างลวิ อสิ ชนดิ ของพนั ธะระหว่าง จานวนอเิ ลก็ ตรอน
อะตอมและจานวนพนั ธะ คู่โดดเดย่ี ว

Cl2 :Cl : Cl: :Cl – Cl: พนั ธะเดี่ยว 1 พนั ธะ 19/87
. . .. . พนั ธะเดี่ยว 1 พนั ธะ
. ..

..
.
HCl H : Cl: H – Cl:
.

C2H4 HH C :: C H H C = C H พนั ธะเด่ียว 1 พนั ธะ และ
H H H พนั ธะเด่ียว 4 พนั ธะ

N2 :N N: :N  N: พนั ธะเดี่ยว 1 พนั ธะ
...
พนั ธะเดี่ยว 1 พนั ธะ และ
CH2O H : OC.. : H O= พนั ธะเด่ียว 2 พนั ธะ
H–C–H

กจิ กรรมท่ี 5.2 สูตรโครงสร้างลิวอิสของสารประกอบโคเวเลนซ์

สรุปผลการเรียนรู้

หลักการเขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส คือ ใช้จุดหรือเส้นแสดง
อิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะ และใช้จุดแสดงอิเล็กตรอนคู่โดดเด่ียวของ
แต่ละอะตอมในโมเลกุล การใชเ้ ส้นแสดงจานวนอิเล็กตรอนคู่ร่วม
พนั ธะระหวา่ งอะตอมใหใ้ ช้ 1 เสน้ (–) แทนอิเลก็ ตรอนคูร่ ่วมพนั ธะ 1 คู่
2 เส้น (=) แทนอิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 2 คู่ และ 3 เส้น () แทน
อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 3 คู่

20/87

คาถามท้ายกจิ กรรม
1. หลกั การเขียนสูตรโมเลกลุ และสูตรโครงสร้างลิวอิสเป็ นอยา่ งไร

21/87

คาถามท้ายกจิ กรรม 5. โมเลกลุ ใดไมม่ ีอิเลก็ ตรอนคู่โดดเดี่ยว
2. พนั ธะโคเวเลนซ์มีก่ีชนิด อะไรบา้ ง 6. สารประกอบโค เวเลนซ์จัดเป็ นธาตุหรื อ

3. อิเลก็ ตรอนคูโ่ ดดเด่ียวหมายถึงอะไร สารประกอบ เพราะเหตุใด

4. โมเลกลุ ใดมีอิเลก็ ตรอนคู่โดดเด่ียวมากท่ีสุด 22/87

จากการทากิจกรรมที่ 5.2 สรุปเกี่ยวกบั การเขียนสูตรโครงสร้างลิวอิสไดด้ งั น้ี

1 หลักการเขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส (Lewis structure) ใชจ้ ุดหรือ

เสน้ แสดงอิเลก็ ตรอนคูร่ ่วมพนั ธะ และใชจ้ ุดแสดงอิเลก็ ตรอนคู่โดดเดี่ยว
ของแต่ละอะตอมในโมเลกุล การใชเ้ สน้ แสดงจานวนอิเลก็ ตรอนคู่ร่วม
พนั ธะระหวา่ งอะตอมใหใ้ ช้ 1 เส้น (–) แทนอิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 1 คู่
2 เส้น (=) แทนอิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 2 คู่ และ 3 เส้น () แทน
อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ 3 คู่

23/87

2 ชนดิ ของพนั ธะโคเวเลนซ์ มี 3 ชนิด ดงั น้ี

พนั ธะเดยี่ ว (single bond) อะตอมนาเวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนมาใชร้ ่วมกนั 1 คู่ เช่น
พนั ธะคู่ (double bond) H – H Cl – Cl H – Cl

ชนิดของ อะตอมนาเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนมาใชร้ ่วมกนั 2 คู่ เช่น
พนั ธะ H H
โคเวเลนซ์ O=O O=C=O H C = C H

พนั ธะสาม (triple bond) อะตอมนาเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนมาใชร้ ่วมกนั 3 คู่ เช่น
NN H–CN H–CC–H

24/87

3 อเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเดยี่ ว (lone pair electron) หมายถึง อิเลก็ ตรอนคู่ที่อะตอมไม่ไดใ้ ชส้ ร้างพนั ธะ

4 สารประกอบโคเวเลนซ์ (covalent compound) อาจเป็ นธาตหุ รือสารประกอบ

สารประกอบโคเวเลนซ์

ธาตุ สารประกอบ 25/87

เกิดจากอะตอมของธาตชุ นิดเดียวกนั เกิดจากอะตอมของธาตตุ ่างชนิด
สร้างพนั ธะโคเวเลนซร์ ่วมกนั สร้างพนั ธะโคเวเลนซร์ ่วมกนั

เช่น H2 O2 N2 Cl2 S8 P4 เช่น HCl C2H4 HCN

โมเลกลุ โคเวเลนซ์ทกี่ ารรวมตวั ไม่เป็ นไปตามกฎออกเตต

อะตอมกลางมจี านวนอเิ ลก็ ตรอนไม่ครบออกเตต อะตอมกลางมจี านวนอเิ ลก็ ตรอนเกนิ ออกเตต

Cl :Be: Cl: F Cl Cl Cl F F F
Be เป็ นBอeะCตlอ2มกลาง FBF Cl P Cl F S F
มีเวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอน 4 B เป็ นอBะตF3อมกลาง F
มีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอน 6 P เป็ นอPะCตlอ5มกลาง
มีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอน 10 SF6
S เป็ นอะตอมกลาง
มีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอน 12

26/87

(หนงั สือเรียนหนา้ 141)

27/87

1. จานวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนของธาตุอโลหะท่ีเป็ นอะตอมกลาง
มีจานวนเท่าไรจึงไม่เป็ นไปตามกฎออกเตต

2. ธาตุท่ีเกิดเป็ นสารประกอบโคเวเลนซ์แล้วมีจานวนเวเลนซ์
อิเล็กตรอนไม่เป็ นไปตามกฎออกเตตน้นั ส่วนใหญ่เป็ นธาตุใน
คาบท่ีเท่าไรของตารางธาตุ

28/87

สารประกอบโค เวเลนซ์ประเภทธาตุคู่

2 ให้เ รี ยกช่ื อธาตุตามลาดับ ที่ ใ น สู ตร โมเ ลกุล
โดยระบุจานวนอะตอมของธาตุด้วยคาใน
สารประกอบโคเวเลนซ์ที่ประกอบด้วยธาตุ
ภาษากรีก (ยกเวน้ เมื่ออะตอมแรกมี 1 อะตอม)
1 ชนิดเดียว เรียกช่ือตามช่ือธาตุน้ัน และนิยม
แลว้ เปลี่ยนพยางคท์ า้ ยเป็ น ไ-ด์ (-ide)
เรียกช่ือโดยระบุสถานะท่ีอณุ หภูมิห้อง

H2 = แกส๊ ไฮโดรเจน (hydrogen gas) BF3 = โบรอนไตรฟลูออไรด์ (boron trifluoride)
N2O3 = ไดไนโตรเจนไตรออกไซด์ (dinitrogen trioxide)
GeH4 = เจอร์เมเนียมเตตระไฮไดรด์ (germanium tetrahydride)

29/87

สารประกอบโคเวเลนซ์ที่เป็ นสารประกอบ

3 ออกไซด์บางชนิ ดนิ ยมเรี ยกชื่ อโดยตัด 4 สารบางชนิดยงั มีชื่อเรียกที่ไม่เป็ นไปตาม
ตัว อัก ษ ร ตัว สุ ด ท้า ย ข อ ง ค า ท่ี ร ะ บุ จ า น ว น หลกั การขา้ งตน้ ครบทุกประการ

อะตอมออก

CO = คาร์บอนมอนอกไซด์ NH3 = แอมโมเนีย (ammonia)
(carbon monoxide) HCl = ไฮโดรเจนคลอไรด์ (hydrogen chloride)

N2O4 = ไดไนโตรเจนเตตรอกไซด์ 30/87
(dinitrogen tetroxide)

คาระบุจานวนอะตอมในภาษากรีก

จานวนอะตอม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

คาระบุจานวน มอนอ ได ไตร เตตระ เพนตะ เฮกซะ เฮปตะ ออกตะ โนนะ เดคะ
(mono) (di) (tri) (tetra) (penta) (hexa) (hepta) (octa) (nona) (deca)

31/87

(หนงั สือเรียนหนา้ 142)

32/87

ให้นักเรียนเรียกช่ือสารประกอบโคเวเลนซ์ทก่ี าหนดให้ 4. SiO2
1. CS2 5. PCl5

2. SiCl4

3. NF3

33/87

หลกั การทานายรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนซ์ มีดงั น้ี
1. ตอ้ งรู้สูตรโมเลกุลโคเวเลนซ์ แลว้ วเิ คราะห์หาอะตอมกลาง (อะตอมท่ีสร้าง
พนั ธะมากที่สุด)
2. อิเล็กตรอนคู่ร่วมพนั ธะแต่ละพนั ธะจะผลกั กนั เพื่อให้อยู่ห่างกันมากที่สุด

ซ่ึงจะทาใหเ้ สถียร
3. อิเลก็ ตรอนคู่โดดเด่ียวมีแรงผลกั มากกวา่ อิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะ
4. เมื่อลากเส้นเชื่อมต่อระหว่างอะตอมคู่ที่สร้างพนั ธะร่วมกนั จะทราบรูปร่าง

โมเลกลุ

34/87

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ ตวั อย่าง
1. เส้นตรง (linear) ธาตทุ เี่ ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดยี่ วของอะตอมกลาง H2
180° O2
-1 N2
180° - 1 ไมม่ ีอะตอมกลาง CO2
-1
มุมระหวา่ งพนั ธะ 180° A2 35/87
1 โมเลกลุ มี 2 หรือ 3 อะตอม

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ (ตอ่ ) ตวั อย่าง
2. มุมงอ (bent)
ธาตทุ เ่ี ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดยี่ วของอะตอมกลาง

< 120° A 2 1 SO2
A 2 2 H2O
< 109.5°
36/87
มมุ ระหวา่ งพนั ธะ < 120°
1 โมเลกลุ มี 3 อะตอม

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ (ตอ่ ) ตวั อย่าง

3. สามเหลยี่ มแบนราบ ธาตุทเ่ี ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
(trigonal planar) อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดย่ี วของอะตอมกลาง

120° A 3 - BF6

มุมระหวา่ งพนั ธะ 120° 37/87
1 โมเลกลุ มี 4 อะตอม

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ (ตอ่ ) ตวั อย่าง

4. พรี ะมดิ ฐานสามเหลยี่ ม ธาตทุ เ่ี ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
(trigonal pyramidal) อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดย่ี วของอะตอมกลาง

A 3 1 NH3

< 109.5° 38/87

มุมระหวา่ งพนั ธะ < 109.5°
1 โมเลกลุ มี 4 อะตอม

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ (ต่อ) ตวั อย่าง
5. ทรงส่ีหน้า (tetrahedral)
ธาตุทเ่ี ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดย่ี วของอะตอมกลาง

109.5° A 4 - CH4
SiCl4
มมุ ระหวา่ งพนั ธะ 109.5°
1 โมเลกลุ มี 5 อะตอม 39/87

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ (ตอ่ ) ตวั อย่าง

6. พรี ะมดิ คู่ฐานสามเหลยี่ ม ธาตทุ เี่ ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
(trigonal bipyramidal) อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดยี่ วของอะตอมกลาง

90° A 5 - PCl5

120° 40/87

มมุ ระหวา่ งพนั ธะ 90° และ 120°
1 โมเลกลุ มี 6 อะตอม

รูปร่างโมเลกลุ ตวั อย่างรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ (ต่อ) ตวั อย่าง

7. ทรงแปดหน้า (octahedral) ธาตทุ เี่ ป็ น จานวนพนั ธะ จานวนอเิ ลก็ ตรอน
อะตอมกลาง ในโมเลกลุ คู่โดดเดยี่ วของอะตอมกลาง
90°

90° 6 - SF6

A

มุมระหวา่ งพนั ธะ 90°
1 โมเลกลุ มี 7 อะตอม

41/87

(หนงั สือเรียนหนา้ 145)

42/87

1. ให้นกั เรียนระบุจานวนอะตอมใน 1 โมเลกุล จานวนพนั ธะรอบอะตอมกลาง จานวนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวของ
อะตอมกลาง และรูปร่างโมเลกลุ ของสารประกอบโคเวเลนซ์ท่ีกาหนดให้
1.1 F2

1.2 Cl2O

1.3 H2S

43/87

1.4 PH3
1.5 SiF4
1.6 BCl3

44/87

2. ธาตุ X มีเลขอะตอม 8 สร้างพนั ธะกบั อะตอม Y ซ่ึงมีเลขอะตอม 9 จะไดโ้ มเลกุลท่ีมีรูปร่างโมเลกุลอยา่ งไร เพราะ
เหตุใด

3. สารประกอบ AX3 อะตอมกลางมีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว 1 คู่ สารประกอบ YX3 อะตอมกลางไม่มีอิเล็กตรอน
คู่โดดเด่ียว สารประกอบ AX3 และ YX3 มีรูปร่างเหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร

45/87

โมเลกลุ มขี ้ัว (polar molecule)

เกิดจากอะตอมของธาตุต่างชนิด 2 ชนิด เกิดจากอะตอมของธาตุมากกว่า 2 ชนิ ด
ทิศทางของข้วั จะไปทางดา้ นของอะตอมที่มี พิจารณาท่ีการรวมสภาพข้ัวของพนั ธะแบบ
ความเป็ นอโลหะมากกวา่ เวกเตอร์แลว้ เวกเตอร์หกั ลา้ งกนั ไมห่ มด

สารประกอบไฮโดรเจนคลอไรด์ (HCl) สารประก–อบไดไฮโดรเจนมอนอกไซด์ (H2O)
+– O O
H – Cl หรือ H – Cl + + หรือ H H

H H

46/87

โมเลกลุ ไม่มขี ้ัว (non-polar molecule)

เกิดจากอะตอมของธาตุชนิ ดเดียวกัน เกิดจากอะตอมของธาตุมากกว่า 2 ชนิ ด
มาสร้างพนั ธะร่วมกนั ทาให้ความสามารถ พิจารณาท่ีการรวมสภาพข้วั ของพันธะแบบ
ในการดึงดูดอิเลก็ ตรอนเท่ากนั เวกเตอร์แลว้ เวกเตอร์หกั ลา้ งกนั หมด

แก๊สคลอรีน (Cl2) สารประกอบคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
Cl – Cl
– +–
O = C = O หรือ O = C = O

47/87

(หนงั สือเรียนหนา้ 147)

48/87

1. ระบุวา่ สารที่กาหนดใหเ้ ป็ นโมเลกลุ มีข้วั หรือโมเลกลุ ไม่มีข้วั พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผล
1.1 P4 1.4 CO

1.2 F2
1.5 HBr

1.3 I2

49/87


Click to View FlipBook Version